เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    กราบขอขมากรรมหลวงพ่อ

    วิลาวัณย์ ตัณฑเจริญรัตน์


    ต้นปี ๒๕๒๔ ลูกไปนั่งฟังการสัมมนาในอำเภอโพธารามโดยบังเอิญ มีพัฒนากรสาวจากจังหวัดอุทัยธานี สังกัดองค์กรเอกชนคนหนึ่ง พูดให้ที่ประชุมฟังเกี่ยวกับวัดท่าซุงว่า เขาไม่ศรัทธาเลย... ลูกเองยังสงสัยว่าทำไมวัดนี้ชื่อเสียงโด่งดัง คนหลั่งไหลกันไปทำบุญ

    ตอนนั้นลูกเพิ่งได้ยินชื่อหลวงพ่อฤาษีและวัดท่าซุงเป็นครั้งแรก ยังรู้สึกไม่ศรัทธาด้วยเหมือนกันกลางปี ๒๕๒๙ ลูกได้อ่านธัมมวิโมกข์เล่มหนึ่ง เปิดดูผ่านๆ อย่างไม่สนใจ แต่เผอิญตาเหลือบไปเห็นอำเภอบ้านโป่ง ในเรื่องพระองค์ที่ ๑๐ ซึ่งเขียนโดยหลวงพ่อ ก็เลยสนใจอ่านแต่เรื่องนั้น


    ต้นปี ๒๕๓๐ ลูกได้ฟังเทปเสียงหลวงพ่อพูดเรื่องพระองค์ที่ ๑๐ ต่อมาไม่นานลูกได้ไปฟังธรรมจากหลวงปู่ท่านหนึ่งที่ราชบุรี มีแม่ชีที่นั่งฟังอยู่ด้วย ๔ – ๕ ท่านพูดกับหลวงปู่ว่า ใช่ท่านแน่เป็นพระองค์ที่ ๑๐ ซึ่งเคยเห็นที่วัดท่าซุง พอปลายปีนั้นลูกได้อ่านหนังสือรวมคำสอนของหลวงปู่ท่านนี้อีก

    ลูกชอบธรรมที่ท่านสอนมาก แต่ยังสงสัยว่า ทำไมหลวงปู่ท่านเกี่ยวข้องกับวัดท่าซุง แต่มีอะไรบางอย่างที่ขัดแย้งกันอยู่ กลางปี ๒๕๓๑ ลูกได้ไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ได้เห็นพิธีกรรมบางอย่าง และได้นั่งสมาธิโดยเขาให้สวมหน้ากากกระดาษแล้วภาวนาว่า นะมะพะธะ

    ลูกรู้สึกไม่ค่อยศรัทธา สงสัยว่านะมะพะธะแปลว่าอะไร ทำไมเขาเห็นอะไรกันง่ายๆ จนแทบไม่น่าเชื่อ พระจุฬามณีคืออะไรเป็นอย่างไร ปี ๒๕๓๓ ลูกเริ่มรู้สึกผิดปกติหลายอย่างทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อยากกินแต่ของร้อนๆ ทั้งข้าวและน้ำ กินข้าวยังไม่ทันอิ่มก็อยากนอน


    แรกๆ ก็นึกตำหนิตัวเองว่า ขี้เกียจล่ะซี แต่พอหลายๆ ครั้งเข้ามันไม่ใช่แล้ว ปีนั้นทั้งปีกลายเป็นคนเกียจคร้านเอาแต่กินกับนอน ละทิ้งงานในหน้าที่อยู่บ่อยๆ ยืนนานๆ ก็ไม่ค่อยไหว เดินช้าลงอย่างชนิดบังคับตัวเองไม่ได้ ทำงานไปเหมือนหุ่นยนต์ อ่านหนังสือให้เด็กฟังเพียง ๒ – ๓ บรรทัดก็เหนื่อย

    เสียงก็แทบไม่มีสอน ไม่อยากพูดคุยกับใคร ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยกหนังสือพิมพ์อ่าน อารมณ์มันเฉยๆ เห็นหรือได้ยินอะไรก็สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน ประสาททางกายกับทางจิตไม่สัมพันธ์กัน เกิดความรู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ใช่ตัวของลูกเอง เวลาปกติดีก็ชอบนั่งนับลูกประคำและเดินจงกรม


    แล้วเช้าวันหนึ่งอยู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกหน้าผากย่นเป็นริ้วๆ คล้ายคนแก่เหมือนมีอะไรจะมาเข้า พอส่องกระจกดูก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร เล่าให้หลวงน้าซึ่งเคยสอนวิปัสสนาฟัง ท่านก็พูดว่าสิ่งลี้ลับ เขามาสร้างบารมี


    วันเสาร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๓๓ ลูกเกิดอาการใกล้ตาย วันนั้นเดินแข็งทื่อช้าๆ พอจะเหลียวดูอะไรทีต้องค่อยๆ หมุนตัวกลับ พี่สาวซึ่งมีอาการผิดปกติชอบหัวสั่นหัวคลอนเหมือนคนมีองค์มาก่อนรวม ๒ ปี มาชวนให้ไปดูเจ้าเข้าทรงที่นครปฐม ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ชอบเรื่องการทรงเจ้าเหมือนกัน

    ลูกสั่นหน้าปฏิเสธแล้วพูดอยู่ในใจว่า ที่ไม่ไปไม่ใช่เพราะว่าไม่เชื่อ แต่มันผิดปกติจนไม่อยากออกไปไหน ไว้ดีๆ แล้วค่อยไป พอตกกลางคืนนอนอยู่คนเดียวในห้อง เกิดอาการไม่สบายขึ้นมากะทันหัน ไม่มีแรงจะลุกออกไปเรียกให้ใครช่วย คลานไปอาเจียนลงในกระโถนสำหรับใช้ถ่ายปัสสาวะ

    ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว คิดว่าคงจะเป็นแบบที่โบราณเขาเรียกว่าลมป่วง ซึ่งเคยเป็นสมัยเด็กๆ มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไมครั้งนี้ใจมันหวิวๆ ลงเหลือเล็กนิดเดียว คล้ายๆ จะหลุดลอยออกไปจากร่าง คิดถึงความตายขึ้นมาทันที ร้องอยู่ในใจว่า โอ๊ย นี่จะเอากันถึงตายเชียวหรือ


    เชื่อแล้ว กลัวแล้ว จิตใจมันกระสับกระส่ายทุรนทุรายคิดถึงแม่ แล้วก็พลันนึกได้ว่า ถ้าก่อนตายจิตเศร้าหมองจะพาไปสู่ที่ทุคติ จึงคลานกลับไปนอนภาวนาพุทโธเตรียมตัวตาย เกิดอาการปวดท้องเหมือนอุจจาระจะไหลออกมา คิดถึงคำโบราณที่ว่าคนจะตายธาตุไฟจะแตก

    เพราะทั้งร้อนและหนาวในเวลาเดียวกัน เหงื่อออกเต็มไปหมดทั้งหน้าและลำตัว ขนลุกขนพอง คลานกลับไปนั่งถ่ายในกระโถนรวมกับอาเจียน แล้วกลับมานอนภาวนาต่อ เพิ่งประจักษ์แจ้งในคืนนั้นเองว่า ร่างกายคือที่ประชุมรวมของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ

    นอนหลับๆ ตื่นๆ ไปกับคำภาวนาตลอดคืน พอรุ่งเช้ารอดตายมาได้เดินอ่อนระโหยโรยแรงลงไปสะกิดแม่ แทบไม่มีเสียงหลุดออกจากปาก บอกแม่ว่าพาไปหาหมอที วันต่อมาลูกนั่งสมาธิอยู่หน้าหิ้งพระ เห็นอักษรคำว่า สวรรค์ ตัวโตๆ ปรากฏอยู่ข้างหน้า

    จึงคิดได้ว่าคงเป็นนิมิตบอกให้รู้ว่า ยังไปนิพพานไม่ได้ เพราะยังมีจิตกังวงห่วงแม่อยู่ โชคดีเหมือนสอบผ่านสนามสอบโดยที่ยังไม่ทันได้ตายไปในคืนนั้น เตือนตนเองว่าถ้าใกล้ตายแบบนี้อีก ต้องวางภาระให้หมด ตัดทุกห่วงที่จะทำให้จิตไม่ผ่องใส ต่อมาไม่นานเพื่อนได้นำธัมมวิโมกข์มาให้อ่าน ๔ – ๕ เล่ม

    ลูกยังไม่สนใจเลยให้แม่อ่านก่อน เมื่อลูกได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต ไปนิพพานตอนสิ้นชีพิตักษัย ซึ่งเขียนโดยหลวงพ่อ ยังไม่ค่อยเชื่อเลย ต้นสิงหาคม ๒๕๓๔ ลูกฝันว่านั่งรถกระบะกันไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ข้างหลังคนนั่งกันแน่นไปหมดเหมือนรถรับคนงานไปตัดอ้อย

    ถนนที่รถแล่นอยู่ปูด้วยอิฐบล็อกรูปตัวไอ ด้านขวามือเป็นต้นไผ่ขึ้นเขียวชอุ่มเบียดเสียดกันแน่นหนา รถแล่นผ่านอาคารไม้เก่าๆ ทรุดโทรมมากแล้ว ซึ่งทาสีเขียวอ่อนๆ สลับกับสีฟ้า ด้านหลังอาคารเป็นแม่น้ำ รถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาแล้วก็จอด มองไปรอบๆ เหมือนสภาพร้างๆ ที่เป็นป่ายังไม่ค่อยเจริญ

    พอเช้าตื่นขึ้นมานึกสงสัยว่า เอ๊ะ สถานที่ฝันถึงนี่วัดท่าซุงหรือเปล่านะ รีบไปค้นหนังสือ “ธรรมชาติแห่งพุทธอิสระ” ซึ่งรวบรวมคำสอนของหลวงปู่พระองค์ที่ ๑๐ มาดู เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับวัดท่าซุง จึงรู้ว่าวัดท่าซุงอยู่ติดริมแม่น้ำ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าความฝันนั้นคือวัดท่าซุง เพราะยังไม่เคยไปเห็น

    ต่อมาลูกศิษย์หลวงพ่อให้หนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๒ มาอ่าน ลูกเห็นมันหนามากและไม่นึกอยากอ่าน จึงให้แม่อ่านก่อน หลังจากแม่อ่านแล้วก็บ่นว่าอยากไปวัดท่าซุง ลูกยังนึกอยู่ในใจว่าไกลจะตาย ไม่ใช่แถวบ้านเรา เคยได้ยินพวกลูกศิษย์หลวงพ่อเล่าว่า บริเวณวัดกว้างใหญ่มาก

    แต่เวลามีงานทีคนเบียดเสียดกันแน่นมาก ถ้าพลัดหลงกันล่ะก็ตามหาตัวกันยาก นึกถึงภาพแล้วก็ไม่รู้สึกอยากไปด้วยเลย แม่อ่านแล้วก็เอากระดาษคั่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ไว้ให้ลูกอ่าน ลูกก็เลยต้องอ่าน เพราะแม่ถามว่าอ่านหรือยัง พออ่านแล้วก็รู้สึกชอบมาก สนุกดี มีอะไรแปลกๆ น่าเรียนรู้อีกมากมาย

    อ่านเรื่องหลวงพ่อของเราที่เขียนโดยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา นุตาลัย เกี่ยวกับหลวงพ่อเก็บลูกศิษย์ อ่านข้อที่ ๑ ... ไปจนถึงข้อที่ ๔ ก็คิดว่าไม่ใช่ ไม่ตรงกับของลูก พออ่านถึงข้อ ๖ ที่ว่าท่านไปตามเก็บเอง จิตก็เกิดแว้บขึ้นมาว่า ลูกคงต้องเป็นอย่างนั้นมั้ง

    แต่พออ่านหน้าต่อไปกรณีตัวอย่างของคุณอ้วน จึงรีบบอกกับตัวเองว่า โอ้โฮ ไม่ใช่แล้ว ลูกไม่ใช่คนสำคัญถึงขนาดนั้น จะบ้าหลงตัวเองไปแล้วมั้ง ลูกคงเป็นแบบพี่ชายอาจารย์ปริญญามากกว่า คือคนที่ไม่เชื่อกันยังนึกอยู่ว่าลูกอยู่สายครูบาศรีวิชัยด้วยหรือเปล่า เพราะลูกก็ชอบนับลูกประคำ

    คิดถึงคำพูดของเพื่อนเขาเคยบอกว่า พวกคอมมิวนิสต์เขาแบ่งเป็นสายจีน สายโซเวียต พวกผู้ปฏิบัติธรรมก็แบ่งเป็นสายเหมือนกัน พี่สาวเขาเป็นลูกศิษย์อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ หลวงพ่อที่ลูกเคยไปบวชอยู่กับท่านก็เคยพูดว่า พวกเราสายแม่กลอง ลูกยังนึกขำและแย้งอยู่ในใจว่า

    ก็พวกโยมอุปัฏฐากของหลวงพ่อมาจากสมุทรสงครามเสียเป็นส่วนมากเลยกลายเป็นสายแม่กลองไป แต่ตอนหลังหลวงพ่อท่านนั้นก็อธิบายว่าของท่านสายพระอาจารย์มั่น ลูกเคยไปศึกษาธรรมที่จิตตภาวันและสวนโมกข์ในสมัยที่เรียนอยู่ในจุฬาฯ เกือบ ๒๐ ปีมาแล้ว รู้สึกชอบสวนโมกข์มาก

    แต่ยังไม่อยากจำกัดตัวเองอยู่เฉพาะสายสวนโมกข์เท่านั้น ลูกชอบเรียนรู้ไปหลายๆ แห่ง เคยได้ยินกิตติศัพท์เขาแบ่งเป็นสายธรรมกายบ้าง สายสันติอโศกบ้าง ฯลฯ พอไปเห็นที่ตู้รับบริจาคในศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนั้นมีวงเล็บไว้ด้วยว่า (สายหลวงพ่อฤาษี) ตอนนั้นลูกยังไม่ค่อยศรัทธาจะทำบุญด้วยเลย

    คิดอยู่ในใจว่า ทำไมต้องแบ่งเป็นพวกเป็นสายด้วยนะ ถ้ามีพระธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว สายไหนหรือศาสนาอะไรก็ได้ ไม่น่าขัดแย้งกันเพราะต่างสำนักต่างนิกายหรือต่างศาสนากันเลย ต้นกันยายน ๒๕๓๔ ลูกไปหาคนทรงเจ้ารายหนึ่ง เขาบูชารูป ร.๕ เต็มไปหมด

    เวลาทรงร่ายกลอนยาว... กดที่กระหม่อมคร่อมที่พระศอ กดด้วยนะมะพะธะ ดินน้ำลมไฟ ธาตุทั้ง ๔... ลูกคิดในใจว่า มาอีกแล้ว นะมะพะธะ อย่างกับสายหลวงพ่อฤาษี ที่น่าแปลกที่สุดก็คือ เวลาลูกมีอาการต่างๆ ที่ผิดปกติไปทั้งทางร่างกายและจิตใจ พอไปหาเขาแล้ว หายอย่างชนิดแทบไม่น่าเชื่อ

    เหมือนลูกกลับมาเป็นตัวของลูกเองอย่างเก่า ลูกไม่ชอบการทรงเจ้าและเขาก็เรียกเงินค่าองค์ครูเกือบ ๒,๐๐๐ บาท แบบมัดมือชกลูกข้างเดียว ลูกยังไม่ค่อยเชื่อเลยไม่ยอมไปเสียเงินตามที่เขานัดไว้ ต้นตุลาคมขณะที่ลูกนั่งคุมเด็กสอบอยู่ เกิดอาการสั่นๆ ขึ้นมา ลูกจึงอธิษฐานถึงหลวงพ่อว่า

    ขอให้ลูกหายเถอะ อย่าให้ลูกต้องไปรับองค์ครูกับเขาเลย ถึงจะเสียเงินมากกว่า ๒,๐๐๐ ก็ยอม ถ้าเสียเงินทำบุญถวายสังฆทานกับพระ แล้วก็หายทันที ลูกยังแปลกใจอยู่เลย วันที่ ๕ ตุลาคม ลูกไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อที่ซอยสายลมเป็นครั้งแรก

    พอเห็นรูป ร.๕ ในบ้านยังนึกอยู่ว่า เจอรูป ร.๕ อีกแล้ว ก็เจ้าของบ้านเป็น ม.ร.ว. แต่ขณะที่ยืนร่วมถวายสังฆทานกับหมู่คณะที่ไปด้วยนั้น อาการต่างๆ ที่ลูกเคยเป็นก็เกิดขึ้นทันที ปวดสันหลังร้าวๆ ร้องไห้ยืนแล้วขาสั่นๆ จะทรงตัวไม่อยู่จนต้องทรุดลงนั่ง ในใจก็พูดกับหลวงพ่อว่า

    ลูกเชื่อแล้ว ลูกเป็นเด็กดื้อ ลูกจะไปเสียเงินรับองค์ครูกับเขา ระหว่างนั่งรอกลับบ้านลูกได้ยินพวกลูกศิษย์หลวงพ่อคุยกัน ลูกก็สงสัยว่าทำไมลูกต้องเกี่ยวข้องอะไรกับหลวงพ่อด้วย ระยะนั้นลูกได้ขอยืม ธัมมวิโมกข์ จากเพื่อนครูมาอ่านบ้าง แต่ก็สนใจแค่หลวงพ่อตอบปัญหา


    มีอยู่หลายครั้งที่ลูกรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่ไรๆ อยู่ตามหน้า คิดว่ามดไร พอส่องกระจกดูก็ไม่เห็นมีอะไร ทั้งๆ ที่กำลังรู้สึกอยู่ ต่อมาก็คัน พอคันก็เกา เกาจนรู้สึกเป็นตุ่มเหมือนมดหรือยุงกัด ลูกเลยหยิบพระมาทดลองดู ตอนนั้นยังไม่ทราบว่านี่คือ "พระคำข้าว"

    ใช้ด้านหลังที่เป็นรูปหลวงพ่อถูไถไปมาตรงที่คันหลายๆ ที แล้วก็อธิษฐานขอให้หาย แปลกที่สุดเพราะหายได้จริงๆ ครั้งที่ ๑ ก็คิดว่าคงเป็นอุปาทานของจิตลูกเองมั้ง ครั้งที่ ๒ ทดลองใหม่ ก็หายอีก แต่ยังไม่ยอมเชื่อก็ทดลองอีก กี่ครั้งๆ ก็หายเพราะพระองค์นี้ เลยสรุปว่า ปาฏิหาริย์จริงๆ

    ครั้งหนึ่งบังเอิญลูกหยิบพระองค์นี้มาดมเล่น ได้กลิ่นหอมเหมือนข้าว ก็เลยคิดว่า อ๋อ นี่ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่าพระคำข้าว เลยไปบอกแม่ให้ทดลองดมดู เคยอ่านเจอในลูกศิษย์บันทึก เล่ม ๒ เกี่ยวกับอานุภาพพระคำข้าว ยังสงสัยว่า เป็นยังไงนะ ทำไมเรียก"พระคำข้าว"


    ต่อมาพอไปเห็นที่วัดท่าซุง มีป้ายติดไว้ว่าพระคำข้าว เลยหายสงสัย ต้นปี ๒๕๓๕ ลูกตั้งใจว่าจะไม่ไปงานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่จะไปงานหล่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมกลางเดือนมีนาคม พอถึงเวลาเข้าจริงๆ กลับตาลปัตรหมด

    ไปวัดท่าซุงเป็นครั้งแรกในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ทั้งๆ ที่กำลังไม่ปกติอยู่ ไปถึงก็ร่วมทำวัตรเย็นที่วิหาร ๑๐๐ เมตร ขณะที่นั่งสมาธิเหมือนได้ยินเสียงหลวงพ่อสอนธรรมดังแว่วมาไกลๆ พอรู้สึกตัวก็สงสัยว่า เอ๊ะ นี่ลูกเผลอหลับแล้วฝันไปหรือว่าไม่ได้หลับ แต่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เขาเรียกกันว่านิมิต

    คืนแรกนอนฝันเห็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่มากขนาดเท่าที่พุทธมณฑล สีดำทั้งองค์ แต่เป็นปางประจำวันจันทร์ แล้วก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาปลุกถึงในห้องนอนบอกว่า วันนี้หลวงพ่อลงรับแขกตอนเช้า เลยยิ้มดีใจมาก พอตอนเช้าน้องขับรถพาไปเที่ยวรอบๆ วัด

    เห็นพระยืนองค์ใหญ่หน้าหอพระไตรปิฎก ก็นึกถึงความฝันเมื่อคืน เหมือนนิมิตบอกว่าจะได้เห็นพระยืนองค์ใหญ่ก็เป็นจริง แต่คนละปางและคนละสีกัน ยังคิดอยู่ว่าหลวงพ่อคงเกิดวันพุธมั้ง เขาถึงสร้างพระปางอุ้มบาตรเอาไว้

    พอไปเที่ยวดูท่าน้ำ เห็นอาคารเรือนไม้หลังเก่าๆ แล้ว จิตเกิดความรู้สึกผูกพัน ทำให้นึกถึงความฝันเมื่อต้นสิงหาคม ๒๕๓๔ คิดว่าคงเป็นนิมิตนำทางมาก่อนจะได้เห็นของจริง หลังจากไปนั่งดูปลาที่ท่าน้ำสักพักหนึ่งก็เดินมาตึกรับแขกใหม่ ยังไม่ทันถึงได้ยินเสียงรถหลวงพ่อแล่นมาข้างหลัง


    พอเห็นหลวงพ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่พวกลูกศิษย์ช่วยกันแบกขึ้นตึก ก็เกิดอาการเหมือนที่บ้านซอยสายลมอีก เลยต้องนั่งพักใต้ต้นไม้ข้างทาง ปล่อยให้แม่เดินไปก่อน แม่ได้ถวายสังฆทานกับหลวงพ่อด้วยพระประจำวันเกิดคือวันจันทร์ ขณะที่ลูกได้ร่วมถวายด้วยก็เกิดอาการจะร้องไห้อีก

    ทั้งๆ ที่ก็นั่งพิงเสาสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ก่อนเข้าไปใกล้หลวงพ่อ วันแรกยังไม่กล้าเรียนขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ พอวันที่ ๒ วันจันทร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ หลังจากถวายสังฆทานกับหลวงพ่อแล้วก็รวบรวมความกล้าเข้าไปหาหลวงพ่อ

    บอกว่าลูกเหมือนคนใกล้ตายหลายครั้งแล้ว คล้ายๆ คนมีองค์

    หลวงพ่อพูดว่า เรื่องแบบนี้ไม่รับเขา เขาเอาถึงตายเหมือนกันนะ

    อยู่วัดท่าซุงได้ ๓ วัน ๓ คืนก็กลับบ้าน ตอนกลับนั่งรถเมล์กลับ เกิดความรู้สึกขัดแย้งในใจ

    จิตหนึ่งมันยิ้มย่องผ่องใสที่ได้มาทำบุญกับหลวงพ่อถึงวัดท่าซุง แต่อีกจิตหนึ่งก็ค้านว่า นี่ถ้าลูกดีๆ อยู่ก็คงไม่มาหรอก จะมาทำไมให้เดือดร้อนทั้งแม่และน้อง เปลืองเงินทั้งค่ารถค่ากิน ระยะทางก็ไกล อากาศก็ร้อน คนก็เยอะ ซึ่งไม่ชอบสักอย่าง สู้อยู่กับบ้านแล้วส่งเงินมาร่วมทำบุญดีกว่า

    หรือถึงแม้ถ้าไม่ปกติ ก็เลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่าออกไปข้างนอก แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นจู่ๆ ก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าจะขึ้นรถเมล์มาวัดท่าซุงคนเดียว ทั้งๆ ที่ขาสั่นๆ จะทรงตัวยังไม่ค่อยอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะต่อรถเมล์ถูกหรือเปล่า แม่เลยต้องบอกน้องชายให้ขับรถไปส่ง


    เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ก็ตัดสินใจไปเสียเงินรับองค์ครู เพราะประมวลเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลาร่วม ๒ ปี ที่เริ่มผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นประการแรก ประการที่ ๒ ต้องการจะทดลองพิสูจน์ดูด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง

    และประการที่ ๓ เคยตัดสินใจยอมสละเงิน ๒,๐๐๐ บาทมาตั้งครึ่งค่อนปี คิดเสียว่าลูกเคยเป็นหนี้เขามาก่อนในอดีตชาติ ชาตินี้ก็ชดใช้เสียมันเป็นวิบากกรรมกันมา เช้าวันหนึ่งต้นเดือนมีนาคม หลังจากไปเสียเงินรับองค์ครูแล้ว ประมาณตี ๔ – ตี ๕

    ลูกรู้สึกตัวตื่นแล้วแต่ยังไม่ลุกจากที่นอน ได้ยินเสียงหลวงพ่อพูดด้วยความอ่อนโยนว่า “ตื่นเถอะลูก”
    ลูกยังแปลกใจว่า เอ๊ะ นี่ลูกก็ตื่นแล้ว ไม่ใช่หลับแล้วฝันไปแน่ๆ ได้ยินเสียงหลวงพ่อจริงๆ ทำไมหลวงพ่อยังมาปลุกอีกล่ะ หรือจะให้ลุกจากที่นอนมาบำเพ็ญภาวนา

    ทุกวันนี้ลูกไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมลูกต้องเกี่ยวข้องอะไรกับหลวงพ่อด้วย เพราะเมื่อคิดทบทวนย้อนหลังไปแล้ว ระลึกถึงความฝันต่างๆ ที่คล้ายๆ เป็นนิมิตหลายๆ เรื่อง และประสบการณ์ต่างๆ ที่ลูกสัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง ๖ บ้าง จึงคิดอย่างเข้าข้างตนเองว่า

    ลูกคงเคยเกี่ยวข้องเป็นลูกหลานของหลวงพ่อมาในอดีตชาติ มาในชาตินี้จึงมีบุญพอทำให้ได้ไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ และเกิดเปลี่ยนใจกลับมาศรัทธาหลวงพ่อยิ่งนัก หลังจากมีอคติกับหลวงพ่อและวัดท่าซุงมาตลอดเกือบ ๑๐ ปี

    เพิ่งเข้าใจหลวงพ่อเมื่อได้อ่านประวัติการสร้างองค์ปฐมและเจดีย์พุดตานหลังวันมาฆบูชา ๒๕๓๕ นี่เอง ถึงแม้จะได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อประเภทยืนอยู่ปลายแถวจนเกือบตกขอบสนาม แต่ลูกรู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อเสมอ เพราะยามใดที่คิดถึงหลวงพ่อก็ย้อนกลับไปอ่านธัมมวิโมกข์ บ้าง


    อ่านลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๒ และหนังสือต่างๆ ของหลวงพ่อเท่าที่มีอยู่ในบ้านบ้าง ฟังเทปทำวัตรเช้า – ทำวัตรเย็นและเทปสมาทานพระกรรมฐานจากวัดท่าซุงบ้าง นับว่าผลบุญช่วยส่งไม่ให้ตายไปเสียก่อนโดยหลงเข้าใจหลวงพ่อแบบผิดๆ อย่างที่เคยคิดเอาไว้ มิฉะนั้นจะเป็นบาปติดตัวไปอย่างมหันต์ ที่ผ่านมาก็รู้สึกผิดต่อหลวงพ่อไปมากแล้ว

    ลูกจึงขอกราบแทบเท้า กราบขอขมากรรมหลวงพ่อฤาษีมาในโอกาสนี้


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม 4 หน้า 306 -311)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1272#46

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2016
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2020
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,845
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,038
    .........................................
    การกราบแบบนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรคะ? สงสัยๆ
     
  4. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน


    [​IMG]
     
  5. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ พี่นอร์ พี่น็อตและพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่านครับ


    [​IMG]
     
  6. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    การกราบแบบนี้เรียกว่าการกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ครับ เป็นการทำให้แปดส่วนของร่างกายสัมผัสกับพื้น เป็นการกราบที่แสดงออกถึงความเคารพนับถืออย่างสูง พบในพุทธศาสนามหายานในทิเบต เนปาล และภูฎานครับ ส่วนภาพนี้เป็นภาพจากภาพยนตร์เรื่องซัมบาลาครับ :cool:
     
  7. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    น้อมกราบหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    -----------------------
    สวัสดียามเช้าครับพี่นอร์ :cool:
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/00_2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/00_2.jpg" border="0" alt=" photo 00_2.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/181938.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/181938.jpg" border="0" alt=" photo 181938.jpg"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2020
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2020
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2020
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    สมเด็จองค์ปฐมรุ่นครบรอบ 1 ปีหลวงพ่อมรณภาพเนื้อนวโลหะ เป็นของคุณที ช่วยส่งภาพมาให้ชมกันครับ มีสององค์ที่พระธาตุเสด็จมาบนต้นพระหาหุขวา และอีกองค์เสด็จมาบนบริเวณข้อพระหัตถ์ขวาตามรูปครับ

    [​IMG]

    สององค์ด้านล่างนี้มีพระบรมธาตุเสด็จมาจับบนพระพาหุขวาครับ
    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    องค์ด้านล่างพระบรมธาตุเสด็จมาบนบริเวณพระหัตถ์ขวาครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859587.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859587.jpg" border="0" alt=" photo S__1859587.jpg"/></a>

    3 ภาพด้านล่างนี้ถ่ายจากองค์เดียวกันครับ

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859588.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859588.jpg" border="0" alt=" photo S__1859588.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859589.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859589.jpg" border="0" alt=" photo S__1859589.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859590.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859590.jpg" border="0" alt=" photo S__1859590.jpg"/></a>

    องค์ด้านล่างนี้พระบรมธาตุเสด็จมาจับบนจีวรหลวงพ่อ

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859591.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859591.jpg" border="0" alt=" photo S__1859591.jpg"/></a>

    อีกองค์พระบรมธาตุเสด็จใต้ฐานพระเหนืออักษร จ

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859592.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859592.jpg" border="0" alt=" photo S__1859592.jpg"/></a>

    องค์นี้ท่านเสด็จมาจับด้านในอักษร อ

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__1859593.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__1859593.jpg" border="0" alt=" photo S__1859593.jpg"/></a>

    ภาพจากคุณทีช่วยส่งภาพมาให้ชมกันค
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2020
  13. เช่นนี้เอง

    เช่นนี้เอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ได้ทราบที่มารุ่นปืนครกแตกจากคลิปชุดนี้เอง ขอบคุณมากครับ
     
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326




    เมื่อตอนปลายปี ๒๕๕๗ ผมได้ไปกราบครูบาวงศ์ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นความโชคดีที่ได้เจอกับศิษย์ครูบาซึ่งเป็นหนึ่งในคณะที่ไปอัญเชิญผงพระธาตุ ๕๐๐พระอรหันต์จากในถ้ำ ได้คุยกันพอสมควรแก่เวลาหนึ่งในเรื่องที่พี่ท่านนั้นเล่าให้ฟังก็คือ ท่านว่าสมัยที่มาวัดแรกๆ เห็นชาวกระเหรี่ยงมีความเคารพครูบามากเดินกราบแบบที่น้องอุทยัพว่าตั้งแต่หน้าประตูวัดไปจนถึงกุฏิท่านแดดก็ร้อนเปรี้ยงเลย รองเท้าก็ถอดไว้ที่ประตูวัด ยอมเลยจริงๆครับ
     
  15. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326



    สาธุครับพี่วรรณ วัตถุมงคลรุ่นหลวงพ่ออนันต์สร้างก็มีประสบการณ์กันมากมายทั้งมีพระธาตุเสด็จมายืนยัน สร้างศรัทธาปสาทะความเชื่อมั่นยิ่งๆขึ้นไป แม้รุ่นนี้ที่วัดจะหมดไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกหลายรุ่นให้เลือกบูชา ได้ทั้งของดีและร่วมบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาศาสนวัตถุและศาสนสถานที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ ทางวัดมิได้ปล่อยปะทิ้งร้างแต่คอยทำนุบำรุงให้สวยสดงดงามเป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้มากราบไหว้ทำบุญอยู่เสมอๆครับ
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2020
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อผู้มีพระคุณของลูก

    เอื้อมจิตร์ กลั่นจัตุรัส


    ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ข้าพเจ้า พี่สาวและน้องสาวสนใจธรรมะ ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อในหนังสือขวัญเรือน และฟังประวัติหลวงปู่ปานที่หลวงพ่อเขียนจากสถานีวิทยุทหารอากาศ ๐๑ บางซื่อทุกวัน พากันชอบในปฏิปทาองค์หลวงพ่อ อยากที่จะไปกราบองค์ท่าน

    พี่สาวของข้าพเจ้าเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งขณะนั้นเรียกว่าวิทยาลัยกรุงเทพ ได้รู้จักลูกศิษย์หลวงพ่อที่ศึกษาที่เดียวกันและเป็นเพื่อนกัน ได้เขียนแผนที่บ้านท่านเจ้ากรม พล อ.ท. ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ ให้ และบอกว่าหลวงพ่อมาบ้านท่านเจ้ากรมฯ ทุกต้นเดือน

    ข้าพเจ้า พี่สาว น้องสาวพากันไปบ้านสายลม แต่ไปในช่วงที่หลวงพ่อท่านยังไม่ลงมากรุงเทพฯ เจอครูฝึกบอกพวกเราให้หัดฝึกอานาปานุสสติกรรมฐานควบคำภาวนา นะมะ พะธะ ตลอดไม่ว่าจะทำอะไร นึกได้เมื่อไรภาวนาเมื่อนั้น และข้าพเจ้าซื้อเทปการฝึกมโนมยิทธิมาฟังด้วย


    เมื่อหลวงพ่อท่านมาบ้านสายลม พวกเราดีใจที่จะได้กราบหลวงพ่อและฝึกมโนมยิทธิ หลวงพ่อแนะนำก่อนฝึกมโนมยิทธิ เมื่อแนะนำเสร็จพวกเราก็ขึ้นไปฝึกชั้นบน การฝึกก็เริ่มขึ้น ข้าพเจ้าภาวนา นะมะ พะธะ จิตรวมกันดี เห็นพระพุทธรูปเป็นองค์แก้วมรกตลอยมา แล้วมาอยู่บนศีรษะของข้าพเจ้าก่อนที่ครูฝึกจะเข้ามาแนะนำ

    เมื่อครูฝึกเข้ามาแนะนำบอกกับข้าพเจ้าเลยว่า มีพระพุทธรูปอยู่บนศีรษะของข้าพเจ้า แล้วแนะนำให้ข้าพเจ้าตัดขันธ์ ๕ ขอบารมีองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พรหม เทวดาทั้งหมด ตลอดจนหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อเป็นที่สุด

    ไปพระจุฬามณีและไปวิมานของตัวเองในแดนพระนิพพาน เข้าไปกราบองค์สมเด็จในวิมาน ซึ่งเห็นเป็นพระพุทธรูปปางพระพุทธชินราช ในวันนั้นข้าพเจ้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงห่มสไบสีน้ำเงิน เมื่อครูฝึกสอนเสร็จ ข้าพเจ้าลองขอบารมีไปวิมานน้องสาวข้าพเจ้า และเห็นพี่สาวเข้ามาที่วิมานน้องสาวแล้วพวกเราสนทนากัน


    ปี พ.ศ.๒๕๒๔ ข้าพเจ้าได้สอบบรรจุรับราชการที่วิทยาลัยเกษตรกรรมชัยภูมิ ด้วยความบังเอิญ ได้รู้จักเพื่อนครูที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ วันหนึ่งพากันไปเที่ยวน้ำตกผาเอียง จ.ชัยภูมิ เล่นน้ำกันพอสมควรพากันกลับ เมื่อกลับมาถึงที่พัก ข้าพเจ้าตกใจมาก เมื่อคลำดูที่คอปรากฏว่า "ลูกแก้ว" หายไป

    ต่อมาข้าพเจ้าเห็นอาจารย์ที่ไปเที่ยวน้ำตกด้วยกันใส่ลูกแก้ว ข้าพเจ้าจึงปรารภว่าเคยมีลูกแก้วแบบนี้ แต่ตกหายขณะที่เล่นน้ำตก อาจารย์ท่านนั้นบอกว่าตอนกลับไปบ้านพบลูกแก้วของใครไม่ทราบอยู่ในกระเป๋ากางเกง คงจะเป็นลูกแก้วของข้าพเจ้า

    ปี พ.ศ.๒๕๒๔ – ๒๕๒๕ อาจารย์ที่ไปเล่นน้ำตกด้วยกันไปเล่าเรื่องลูกแก้วของข้าพเจ้าหล่นหายให้คุณพึงพิศ คิดบรรจง ฟัง คุณพึงพิศสั่งให้ข้าพเจ้าไปหา ซึ่งขณะนั้นคุณพึงพิศทำงานให้หลวงพ่อ คืองานสงเคราะห์ผู้ยากจนในแดนทุรกันดาร และต้องการคนช่วยงาน ด้วยอานุภาพของลูกแก้วทำให้ข้าพเจ้าได้ทำงานนี้และเพื่อตอบแทนพระคุณหลวงพ่อ


    เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๒๕ หลวงพ่อท่านได้เดินทางมาเปิดธนาคารข้าว ที่วัดดอนคนทา อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะถวายภัตตาหารซึ่งข้าพเจ้าทำเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต

    ก่อนทำอาหาร ข้าพเจ้าเข้าห้องพระขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทวดา บารมีหลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านปู่ ท่านย่า ท่านแม่ศรี โดยเฉพาะท่านแม่ศรีคุมข้าพเจ้าในการทำอาหารครั้งนี้ถวายหลวงพ่อ

    ก่อนที่ข้าพเจ้าจะออกเดินทางไปวัดดอนคนทา จิตข้าพเจ้าสะดุดเหมือนมีคนบอกว่าให้เอาช้อนส้อมไปด้วย ๑ คู่ แต่ข้าพเจ้าไม่สนใจจึงไม่นำไป เมื่อถวายอาหารหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านตักข้าวที่ข้าพเจ้าหุงไปถวายเพียงปิ่นโตเดียว นำความปลื้มใจให้แก่ข้าพเจ้ามาก

    แต่ก่อนที่จะฉัน เจ้าหน้าที่หาช้อนส้อมคุณภาพดีมาถวายหลวงพ่อ แต่ปรากฏว่าช้อนและส้อมที่ได้มาคุณภาพพอใช้ได้ ทำให้ข้าพเจ้าถึงบางอ้อ เพราะตอนออกเดินทางจิตสะดุดเรื่องช้อนกับส้อม ปี พ.ศ.๒๕๒๔ เจอหลวงปู่ฝั้น ขณะที่ข้าพเจ้าทำงานได้เปิดเทปของหลวงพ่อฟังไปด้วย


    จิตคล้อยตามอารมณ์เป็นหนึ่ง จิตสะดุด ข้าพเจ้ามองตาเนื้อ ปลายหางตาข้างขวาเห็นหลวงปู่ฝั้นท่านยืนอยู่ ก็ส่งจิตกราบท่าน จิตกังวลไม่รู้จะทำอย่างไรดีท่านเลยหายไป นี่เพราะขาดปัญญาแท้ๆ แต่ไม่เป็นไรพยายามใหม่

    ปี พ.ศ.๒๕๒๖ เจอผี ข้าพเจ้าพักบ้านพักครูตรงข้างประปา จ.ชัยภูมิ มีช่วงหนึ่งสร้อยคอข้าพเจ้าขาด ข้าพเจ้าพก "เหรียญแหนบ" ของหลวงพ่อ ตอนกลางคืนขณะที่ข้าพเจ้านอนหลับเหมือนมีคนขึ้นบ้าน มีผีตัวสีดำตัวหนึ่งมันนั่งข้างๆ หัวนอนข้าพเจ้า และผีตัวอื่นๆ กำลังเข้ามาในบ้านประมาณ ๓๐ ตัว

    แต่ผีที่อยู่ที่ข้างแหนบหัวนอน กำลังเอื้อมมือมาบีบคอของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องไห้หลวงพ่อช่วย พอมันเจอเหรียญแหนบที่ข้าพเจ้าแนบกับเสื้อไว้ มันก็ผละออกไป ข้าพเจ้ารีบลุกขึ้นกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ และสวดมนต์ไหว้พระ ฟังเทปของหลวงพ่อทันที


    ปี ๒๕๒๗ ขอบารมีหลวงพ่อตั้งชื่อให้น้องสาว น้องสาวของข้าพเจ้าจบมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี ๒๕๒๕ หางานไม่ได้ ก็เรียนเนติบัณฑิตต่อ ขณะเดียวกันหางานไปด้วย และมีลูกศิษย์หลวงพ่อบอกว่า ที่น้องข้าพเจ้าได้งานยากเพราะกรรมเก่าชอบเอาคนออกจากงาน พี่สาวพาน้องสาวไปหาพระที่วัดมหาธาตุ (ขออภัยจำชื่อไม่ได้ ท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ)

    เพื่อดูชื่อน้องสาวว่าเป็นศิริมงคลหรือไม่ ท่านบอกให้เปลี่ยนชื่อใหม่ พอสิ้นเดือนข้าพเจ้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อกราบหลวงพ่อ เจอพี่สาวและน้องสาวเล่าเรื่องเปลี่ยนชื่อให้ฟัง ด้วยความเป็นห่วงน้องจึงพาไปกราบหลวงพ่อเพื่อขอเปลี่ยนชื่อ

    แต่ก่อนเข้าไปกราบ ข้าพเจ้าขอบารมีพระพุทธเจ้า บารมีหลวงปู่ บารมีท่านปู่ ท่านย่า โดยเฉพาะท่านแม่ศรี ถ้าการเข้าไปครั้งนี้ หลวงพ่อท่านเมตตาเปลี่ยนชื่อให้ก็ขอให้ท่านพูดด้วย ถ้าไม่สมควรประการใดก็ขอให้ท่านอย่าพูดด้วย แต่หลวงพ่อท่านเมตตา

    ข้าพเจ้า “ลูกขอประทานหลวงพ่อช่วยเมตตาตั้งชื่อน้องสาวด้วยเจ้าค่ะ”

    หลวงพ่อ “เอาชื่อเก่าข้างบนก็แล้วกัน ชื่อว่า สุมนา”

    ข้าพเจ้า “แปลว่าอะไรเจ้าคะ”

    หลวงพ่อ “ใจงาม บอกน้องสาวอย่าไปทะเลาะกับใครนะ”


    ข้าพเจ้าและน้องสาวก้มกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างซาบซึ้งใจ และต่อมาน้องสาวก็ได้ทำงาน
    ปี พ.ศ.๒๕๒๗ – ๒๕๒๘ ช่วงนี้กลุ่มลูกศิษย์หลวงพ่อใน จ.ชัยภูมิ พากันฝึกเข้มรักษาศีล ๘ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่บ้านคุณพึงพิศเปิดการฝึกมโนมยิทธิ โดยคุณพึงพิศเป็นครูฝึก สภาวะที่ข้าพเจ้ารับได้เมื่อคุณพึงพิศถาม ข้าพเจ้าเห็นแสงสว่างจ้าอยู่บนศีรษะของคุณพึงพิศ และในวันนั้นท่านแม่ศรีก็มาด้วย

    ในช่วงนี้ข้าพเจ้าพักที่บ้านลูกศิษย์หลวงพ่อ พวกเราสวดมนต์เย็น วันหนึ่งข้าพเจ้าอยากลองเป็นครูฝึก (ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อที่ศาลาพระวิสุทธิเทพแล้ว) ข้าพเจ้าเข้าห้องพระกราบขอบารมีองค์สมเด็จ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อเป็นที่สุด

    ตลอดจนบารมีท่านปู่ ท่านย่า ท่านแม่ศรี ช่วยคุมลูกในการสอนมโนมยิทธิครั้งนี้ด้วยเถิด ขณะที่ทำจิตให้ตั้งมั่นในพรหมวิหาร ๔ ข้าพเจ้าเห็นแสงสว่างพุ่งจากพระพุทธรูปมายังตัวข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจว่าการสอนครั้งนี้มีทุกๆ พระองค์คุม ข้าพเจ้าพาผู้ได้รับการฝึกไปถึงพระจุฬามณีเท่านั้น เพราะผู้ได้รับการฝึกเข้าสมาธิลึก


    ปี พ.ศ.๒๕๓๑ เริ่มชีวิตครอบครัว ข้าพเจ้าเห็นสัจธรรม และยอมรับในคำสอนขององค์สมเด็จและหลวงพ่อที่ท่านสอนทั้งทางโลกและทางธรรมได้ดีจริงๆ แต่ความผูกพันในองค์หลวงพ่อกับข้าพเจ้าหรือลูกทุกๆ คนมีมากมาย จะตอบแทนพระคุณอันมหาศาลของท่านนั้นไม่หมด แม้ข้าพเจ้าจะมีบุตรชายทั้ง ๒ คน ก่อนตั้งครรภ์ก็ฝันเห็นองค์ท่าน

    บุตรชายคนแรก ฝันว่าหลวงพ่อมอบกล่องสีขาวให้
    บุตรชายตนที่ ๒ ฝันว่าหลวงพ่อให้ดูสิ่งมหัศจรรย์ แล้วเห็นเป็นลูกแก้วใส

    ข้าพเจ้าเขียนมาทั้งหมดนี้ คุณความดีถ้ามีพอ ลูกขอถวายหลวงพ่อ ขณะนี้หลวงพ่อท่านมรณภาพไปแล้ว แต่ในจิตสำนึกของข้าพเจ้ายังมีองค์หลวงพ่อในดวงใจตลอดไป เพราะหลวงพ่อเป็นผู้มีพระคุณที่สอนลูกหลานให้เห็นทางอันวิเศษ นั่นคือพระนิพพาน


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม 4 หน้า 265 -267)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1272#36

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2016
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2021
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,845
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,038
    ..................................
    ขอบพระคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sadhu2.jpg
      sadhu2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.9 KB
      เปิดดู:
      345
  20. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน



    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...