ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ปูตินกล่าวว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเรียกผมว่าอย่างไร สิ่งเดียวที่ผมทำก็คือเพื่อประเทศของผม" (Putin: ‘Not important how I’m called, only what I do for my country’), สหรัฐฯเริ่มเปลี่ยนท่าทีหันมาสนับสนุนรัสเซียกรณีซีเรีย, รัสเซีย อิหร่าน และซีเรียตั้งศูนย์ประสานงานความร่วมมือทางกองทัพในกรุงแบกแดด

    [​IMG]

    ------------
    1.) วันนี้ (25 ก.ย.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียกับรายงานโทรทัศน์ CBS ของอเมริกาเป็นเวลาถึง 60 นาทีว่า "สิ่งที่คุณทำให้กับประเทศของคุณนั่นแหละคือสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ชื่อที่คุณกำลังถูกเรียก" และกล่าวว่าคำว่า "พระเจ้าซาร์" (tsar) ไม่เหมาะกับตัวเขา
    Charlie Rose (นักข่าวของ CBS) นั่งลงข้างๆปูตินเพื่อสนทนาในหลายเรื่อง เกี่ยวกับมุมมองของชาวโลกที่มีต่อรัสเซีย ซึ่ง CBS ได้เผยแพร่ preview ของการสัมภาษณ์
    Charlie Rose ได้ชี้ไปที่ประเด็นที่ว่า บางคนกำลังกล่าวขานถึงท่านประธานาธิบดีปูตินในฐานะ "Tsar" และปูตินก็ได้ตอบโต้ว่า ประชาชนเรียกผมหลายชื่อมาก แต่ปูตินก็กล่าวเพิ่มว่า คำเรียกนั้น "ไม่เหมาะกับตัวผม" (does not fit me)
    ปูตินกล่าวว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะถูกเรียกว่าอย่างไร ไม่ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้ที่ปรารถนาดี เพื่อน หรือนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม (แต่) สิ่งที่สำคัญก็คือสิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับตัวคุณ (It’s important what you think about you) สิ่งที่คุณจะต้องกระทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งของผู้นำของประเทศรัสเซีย (ต่างหากหละ)"
    เมื่อถามถึงสิ่งที่เขาชื่นชมเกี่ยวกับอเมริกา ปูตินบอกว่าสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดก็คือ "ความคิดสร้างสรรค์" (Creativity) (อูยยยส์ คำนี้เจ็บมาก! มันช่างเป็นคำชมที่แสนจะเจ็บปวดเมื่อเทียบกับพฤติกรรมและการกระทำของรัฐบาลอเมริกาในสมัยปัจจุบันนี้ ช่างสร้าสงสรรค์จริงๆใช่ไหมครับท่านโอบาม่า? เงยหน้าฟังปูตินพูดครับท่าน)
    ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "ความคิดสร้างสรรค์ เมื่อมันมาสู่การแก้ไขปัญหาของคุณ การเปิดกว้างของพวกเขา (หมายถึงใครนะ? คริๆ) - เปิดกว้าง และเปิดใจกว้าง (openness and open-mindedness) - เพราะว่ามันจะช่วยให้พวกเขาปลดปล่อยศักยภาพภายในของประชาชนของพวกเขาออกมา และขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น อเมริกาได้บรรลุผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ในการพัฒนาประเทศของพวกเขา อเมริกาแสดงอิทธิพลมากต่อสถานการณ์ทั่วโลก" (America exerts enormous influence on the situation in the world as a whole. โอบาม่าอย่าเข้าใจว่าประโยคนี้ปูตินชมรัฐบาลสหรัฐฯนะครับ วางกัญชาลงก่อนแล้วคิดไตร่ตรองให้ดีว่าปูตินหมายถึงอะไร)
    แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียหละ? ปูตินว่าอย่างไรบ้าง? ปูตินเน้นย้ำว่า "ในส่วนลึกแล้วผมเชื่อว่า การดำเนินการใดๆที่ขัดกันเพื่อทำลายรัฐบาลที่มีความชอบธรรม (the legitimate government) [ของซีเรีย] จะสร้างสถานการณ์ที่คุณสามารถประจักษ์พยานในตอนนี้ในประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ หรือในภูมิภาคอื่น ยกตัวอย่างเช่น ลิเบีย ที่ซึ่งสถาบันต่างๆของรัฐถูกทำให้ล่มสลายทรุทโทรม พวกเราได้เห็นสถานการณ์ที่คล้ายกันนี้ในอิรัคมาแล้ว" (แต่จักรวรรดิเฮเกและอียูก็ยังต้องการที่จะเดินหน้าถล่มซีเรียเพื่อให้ซีเรียเป็นเหมือนลิเบียและอิรัคต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน)
    ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "ไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาอื่นต่อวิกฤตซีเรียมากไปกว่าการเสริมสร้างโครงสร้างของรัฐบาลมีความเข้มแข็งอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความช่วยเหลือพวกเขาในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีการเรียกร้องให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเจรจาที่เป็นบวก ร่วมกับฝ่ายตรงข้ามที่มีเหตุผล (rational opposition) และดำเนินการปฏิรูป"
    ผู้นำของรัสเซียเน้นย้ำว่า หุ้นส่วนกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ จะต้องเข้าใจว่ามีแต่ประชาชนชาวซีเรียเท่านั้นที่จะ "ตัดสินใจว่าใครควรจะปกครองประเทศของเขาและปกครองอย่างไร" (ชัดไหมครับสหรัฐฯและอียู มันเป็นเรื่องภายในของประชาชนแต่ละประเทศ ไม่ใช่กงการอะไรของสหรัฐฯหรืออียูจะมาชี้นิ้วสั่งว่าจะเอาคนนั้นคนนี้ขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศนั้นๆ หรือกำหนดว่าประเทศไหนควรจะปกครองแบบไหน ไม่ใช่ว่าฝรั่งกินขนมปังเป็นอาหารหลักแล้วคนไทยจะต้องเลิกทานข้าวสวยหรือข้าวเหนียวแล้วหันไปทานแฮมเบอร์เกอร์หรือขนมปังเป็นอาหารหลักอย่างตะวันตก หรือบอกให้จีนหรือญี่ปุ่นเลิกใช้ตะเกียบให้หันไปใช้ช้อนกับช้อนซ่อมแบบตะวันตกแทน ถ้าคุณเรียกร้องและต้องการจนถึงบังคับกดดันด้วยวิธีกการต่างๆเพื่อให้ทุกคนและทุกประเทศทำเหมือนกันหมดตามที่คุณต้องการแล้วคุณจะเรียกร้องคำว่า "รับฟังความเห็นต่าง" หรือ "เสรีภาพ" ได้อย่างไร?)
    สำนักข่าว Sputnik news ก็ลงข่าวนี้เช่นกัน แต่มีเพิ่มเติมนิดหน่อยดังนี้.... ปัจจุบันนี้สหรัฐฯได้เป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรต่อต้านไอซิสนานาชาติ แต่ไม่ได้ขยายการเชื้อเชิญให้รัสเซียเข้าร่วมปฏบัติการดังกล่าวด้วย (เพราะอะไร?) สื่อรัสเซียกล่าวต่อว่า... ก็เพราะว่ารัสเซียสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้าย (นะสิ อ้าวก็มีเป้าหมายเดียวกันนี่ แล้วทำไมสหรัฐฯถึงไม่ยอมเชิญรัสเซียเข้าร่วมปราบปรามขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียด้วยหละ? นั่นนะสิ คำตอบง่ายๆ สหรัฐฯและอียูไม่ชอบรัฐบาลอัสซาดแม้จะมาจากการเลือกตั้งก็ตาม ในขณะเดียวกันพวกกลุ่มกบฏและไอซิสก็กล่าวหาอัสซาดว่าเป็นเผด็จการ ขี้แมวนี่!)
    รัสเซียได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ (US-led coalition) ในการโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย (ว่า) ไม่ได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) หรือกรุงดามัสกัสเลย (เป็นไงครับประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบสหรัฐฯกับอียู? มีสิทธิ์ที่จะส่งเครื่องบินรบเข้าไปรุกล้ำน่านฟ้า รุกรานและย่ำยีอธิปไตยของประเทศอื่นได้ตามใจชอบอย่างนี้หรือครับ? สหรัฐฯและพันธมิตรเอาความชอบธรรมมาจากไหนไปรุกรานซีเรียหรือครับ? สหรัฐฯถามประชาชนชาวซีเรียแล้วหรือว่าเขาเห็นด้วยและอนุมัติให้สหรัฐฯรุกรานประเทศเขา เข่นฆ่าประชาชนพลเมืองของเขาเสียชีวิตไปต้องเกือบ 250,000 รายหรือไม่? โปรตะวันตกและโปรอเมริกาอาจจะบอกว่าจิ๊บๆ ไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย เพราะอเมริกาและตะวันตกทำอะไรย่อมถูกต้องเสมอ ใช่ไหมครับ?)
    2.) มาฟังอีกเสียงหนึ่งบ้างนะครับ คราวนี้จากเสียงของชาวอเมริกันเลยนะ นาย Chuck Hagel อดีตบิ๊กบอสเพนตากอนของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า "กรุงวอชิงตันและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรจะพิจารณาข้อเสนอของรัสเซียเพื่อสร้างพันธมิตรตามแนวทางของยูเอ็นให้กว้างออกไปในการต่อต้านขบวนการก่อการ้ายไอซิส"
    อ้อ… มีอีกคนหนึ่ง นาย Gwenyth Todd อดีตที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว (White House National Security Council) ออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมากับสื่อฯรัสเซียว่า "การมีส่วนร่วมของรัสเซียในซีเรียเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ที่น่ายินดี (a welcome relief) ต่อสหรัฐฯอเมริกา เพราะว่ามันจะช่วยให้สหรัฐฯถอยห่างออกไปจากจุดยืนในการต่อต้านอัสซาด ซึ่งก็เป็นการสมเหตุสมผลเนื่องจากมันเสี่ยงเกินไป เพราะว่าไม่มีใครต้องการที่จะมีความขัดแย้งกับรัสเซีย" (justifying it as being too risky because no one wants conflict with Russia) ฮ่าๆๆ... เป็นไงครับลูกกะล่อนทองของสหรัฐฯ พอเจอคนจริงเข้าให้ พี่แกก็จะออกอาการหงอเป็นลูกแมวเชื่องๆแบบนี้แหละ นี่เป็นการส่งสัญญาณให้รัสเซียรู้ว่าสหรัฐฯพร้อมที่ถอย หากรัสเซียเอาจริง แต่ก็พร้อมที่จะตระบัดสัตย์ได้ทุกเมื่อเช่นกันเมื่อมีโอกาส
    3.) ข่าวดี สำหรับแฟนคลับปูติน แต่ข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯและพันธมิตรอียูจอมเขมือบ วันที่ 25 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รายงานข่าวบอกว่า รัสเซีย อิหร่าน ซีเรีย กำลังตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในกรุงแบกแดดเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส" (Russia, Iran, Syria Reportedly Set Up Joint Center in Baghdad to Fight ISIL)
    อัยย๊ะ! ทำเป็นเล่นไป นี่ลุงหมีปูติน สื่อฯรัสเซียเอาข่าวนี้มาจากสำนักข่าว Fox News ของอเมริกาซึ่งรายงานว่ากองทัพของรัสเซีย ซีเรีย และอิหร่านได้ติดตั้งศูนย์ประสานงานขึ้นในกรุงแบกแดดเมืองหลวงของอิรัค เพื่อทำงานร่วมกับกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนที่ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส สื่อฯของสหรัฐฯอ้างแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองของตะวันตก
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Hossein Amir-Abdollahian รมช.ต่างประเทศของอิหร่านด้านกิจการอาหรับและแอฟริกากล่าวว่า รัสเซียและอิหร่านอาจจะขยายความร่วมมือกับรัฐบาลซีเรียตามแผนของกรุงเตหะรานในการยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในสงครามกลางเมืองในซีเรีย
    สื่อฯของสหรัฐฯรายนี้รายงานว่า กองทัพของรัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบออกจากสนามบิน Bassel al-Assad ในจังหวัด Latakia ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของซีเรีย โดยบินวนฐานทัพอยู่หลายรอบแต่ไม่มีการโจมตีใดๆ (อ้าว… ก็เขาบินสังเกตการณ์อ่ะ เพื่อตรวจดูความปลอดภัยรอบๆฐานทัพของเขา จะให้โจมตีฐานทัพตัวเองหรือไง? ส่วนการโจมตีทางอากาศในฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและพวกกบฏนั้น เครื่องบินรบของซีเรียจัดการเอง ชี้เป้าโดยดาวเทียมและโดรนของรัสเซีย แม่นยำผุดๆ เราจึงได้เห็นสหรัฐฯส่งพวกอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมาส่งสัญญาณของเจรจาและจับมือกับรัสเซียอย่างไรเล่า ซึ่งแตกต่างจากท่าทีของสหรัฐฯก่อนหน้านี้ยังกะฟ้ากับเหวเลย)
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานข่าวจากสื่อฯของรัสเซียพึ่งจะบอกไปว่าอิรัคบอกไม่ต้อนรับกองทัพของต่างประเทศ หมายถึงสหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้มั๊ง? บอกว่าไม่ให้แหย่บู๊ตเข้าไปในดินแดนของอิรัคโดยเด็ดขาด แต่วันนี้รายงานข่าวบอกประมาณว่าอิรัคเวลคัมทหารรัสเซียและอิหร่านนะครับผม อุ๊ย! มุกนี้อิรัคก็ยืมมาจากสหรัฐฯนั่นแหละ (มุก double standard หนะโอบาม่าคงจะเข้าใจดีนะครับ) อิรัคบอกว่าร่วมมือกับสหรัฐฯและยุโรปปราบไอซิสมาหลายปีแล้ว ปราบเท่าไรก็ไม่หมด มีแต่เพิ่มจำนวนมากขึ้น แถมวันดีคืนดีสหรัฐฯก็บอกว่าอาวุธต่างๆที่สหรัฐฯเก็บไว้ในอิรัคนั้นถูกไอซิสปล้นไปแล้วซะงั้น (จ๊ะ! จะเรียกว่าปล้นหรือจะเรียกว่าของสมนาคุณจากอเมริกาก็แล้วแต่พี่จะเรียกเถอะครับ อาวุธของพี่ พี่ให้ส่งมอบให้ใครด้วยวิธีไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของพี่อยู่แล้ว)
    คิดหรือว่าอิรัค อิหร่าน และรัสเซียจะไม่รู้ทันเล่ห์ตื้นๆแบบนี้ งั้นงานนี้อิรัคบอกว่าเปลี่ยนให้รัสเซียช่วยปราบไอซิสบ้างดีกว่า เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าผลงานของรัสเซียที่ขนาดยังไม่ออกตัวเต็มที่ยังสร้างความประทับให้กับอิรัคได้ขนาดนี้ อิรัคจึงทุบโท๊ะทันทีเลยว่า ขอเชิญทั้งรัสเซีย อิหร่านและซีเรียมาตั้งศูนย์บัญชาการแทนนาโต้ในกรุงแบกแดดได้เลย งานนี้อิหร่านยิ้มเลยครับ เพราะมีกองทัพของรัสเซียและอิรัคช่วยป้องกันอิหร่านจากจากซาอุดิฯและอิสราเอลให้ด้วย แหล่มผุดๆ
    ป.ล. เห็นภาพล้อเลียนการเมืองจากเกรียนรัสเซียในโซเชียลมีเดียจึงเก็บมาฝาย ตอนที่บีบี้ไปคุยกับปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยบีบี้พูดกับปูตินว่า "สัญญานะว่าจะไม่ส่ง S-300 ไปให้ซีเรีย" ปูตินก็ตอบกลับไปว่า "(ด้วยสัตย์ของลูกผู้ชายอดีต KGB ที่ชื่อปูตินคนนี้) ขอสัญญาว่า รัสเซียจะไม่ส่งระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศรุ่น S-300 ให้ซีเรีย (แน่นอน)" หลังจากที่นายกฯบีบี้ของอิสราเอลเดินทางกลับไปแล้ว ปูตินก็ยกหูโทรศัพท์ถึง Sergey Shoygu รมว.กลาโหมของรัสเซีย โดยพูดว่า "เฮโหล Shoigu ส่ง S-400 รุ่นใหม่ล่าสุดไปให้ซีเรียได้เลย" ฮี่ๆๆ สะใจวุ่ยยยย!
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช

    ภาพจาก © Sputnik/ Evgeny Biyatov

    -----------
    Putin: Syrian Crisis Can be Solved Only Through Support of Assad Gov't
    Putin: ‘Not important how I’m called, only what I do for my country’ — RT News
    Chuck Hagel: US Should Consider Engaging Russia in Anti-ISIL Fight
    Russia, Iran, Syria Reportedly Set Up Joint Center in Baghdad to Fight ISIL
    Russians, Syrians and Iranians setting up military coordination cell in Baghdad | Fox News
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    ~~~> ว้าวสิ่งนี้เป็นที่เรื่องที่น่าสนใจ Gaia (แม่พระธรณี) จะทำสิ่งที่เธอ <~~~
    ~~~> wOw guys, this is fascinating, Gaia is doing Her thing <~~~

    ภาพทางอากาศแสดงที่น่าทึ่งแสดงว่าแผ่นเปลือกโลกของสหรัฐและยุโรปในไอซ์แลนด์แยกออกจากกันอย่างมากอย่างรวดเร็ว 200 ฟุต รอยแยกที่เต็มไปด้วยน้ำที่นักดำน้ำสามารถสำรวจ
    Incredible aerial pictures show US and European tectonic plates in Iceland pulling apart leaving dramatic 200 ft water-filled crevices that divers can explore.

    ภูมิประเทศที่น่าทึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่สามารถสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติบนบกและใต้น้ำ
    The dramatic terrain is popular with tourists who can explore the natural wonder on land and underwater.


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Aerial pictures show US and European tectonic plates in Iceland pulling apart | Daily Mail Online
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหตุการณ์ในวันที่ 23 กย 58 ที่ผ่านมาซึ่งคุณ Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc บอกว่าจะมีพลังคลื่นจากจักรวาลเข้ามาในโลก ซึ่งวันนั้นผมอยู่ดีๆ ก็แน่นท้อง และการพยายามขับของเสียออกจากร่างกาย อึดอัดมาก ๆ แต่สิ่งที่เขาบอกว่าจะมีอาการตึงที่หน้าผาก และท้ายทอย ผมเป็นมาหลายปีแล้ว ตรงกลางหน้าจากไม่ใช่แค่ตึงเมื่อหลายปีก่อนมีอาการเจ็บเหมือยมีอะไรไปเจาะเข้ากลางหน้าผากเลยครับ แต่ผมก็ยังไม่พบความแตกต่างในตัวเองนอกจากวันนั้นแน่นช่วงท้องแค่นั้นครับ

    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    FYI ~~~ >>> พวกเช้า
    fyi ~~~>>> morning guys,

    ผ่านมา 3 วันแล้ว อาจจะเป็นวันที่สำคัญที่สุดของชีวิตของคุณและการตื่นขึ้นของคุณ .............
    these next 3 days will probably be the most Important days of yOur liFe and yOur aWakening.............

    บรรดาผู้ที่จะตื่นขึ้นมามีโอกาสที่จะปรับร่างกาย 3 มิติของคุณพร้อมสำหรับ 5d ............. อีโมติคอนพริบอีโมติคอนหัวใจ
    hose of yOu who are waking up have an opportunity to upgrade your 3d bodies readying them for 5d............. อีโมติคอน wink อีโมติคอน heart

    เพื่อให้คุณที่จะทำเช่นนี้ คุณจะต้องออกไปข้างนอกและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ........ และระหว่างที่คุณอยู่ที่นั่น คณยังจะต้องเชื่อมต่อกับตัวเองสูงกว่าของคุณ .......
    in order for yOu to do this you will have to go outside and CONNECT with Mother Nature........ and while you are there yOu will also have to CONNECT with your higher self.......


    คนเหล่านี้พลังงานที่มีมนต์ขลังอยู่ที่นี่ สำหรับมนุษย์ทุกคนเพื่อสนุกและเชื่อมต่อกับทุกสิ่งที่คุณต้องทำคือการให้เวลาที่จะทำให้เป็นไปได้ทั้งหมดที่
    โชคดีมีความสนุกสนานพบว่าตัวเองหา LO อีโมติคอนหัวใจ E
    guys, these maGical enerGies are here for all Humans to enJoy and CONNECT to, all that you have to do is MAKE THE TIME to make this all possible,
    good luck, have fUn, find yourself, find LO อีโมติคอน heart E
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    ### >>บันทึกไว้ <<< ###
    ทะเลสาบวอล์คเกอร์แห้งในชั่วข้ามคืนในสหรัฐอเมริกา ........
    ###>> TAKE NOTE guys <<<###
    Walker Lake DRIES UP overnight in USA........

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/Er-eaOXxJvk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    https://youtu.be/Er-eaOXxJvk

    คำอธิบาย
    เรื่องราวของภาวะภัยแล้งในรัฐแคลิฟอร์เนียได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รื่องราวดังกล่าวได้มีการกล่าวถึงตลอดปีที่ผ่านมา แต่ก็เห็นได้ชัดว่า มันเลวร้ายยิ่งกว่าที่เราคิด ทะเลสาบวอล์คเกอร์ใกล้กับแคลิฟอร์เนีย / ชายแดนเนวาดาได้แห้งเหือดไปในชั่วข้ามคืน ปลาจำนวนหลายพันตัวได้ตายลง, จากการไม่มีน้ำ ผู้อาศัยได้บอกว่ามีผู้คนได้เข้ามาตกปลาในทะเลสาบเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทะเลสาบทั้งหมดหายไปแล้ว
    Description
    Stories of drought conditions in California have been steadily making their way into the national conversation over the last year, but it's apparently worse than we thought. Walker Lake, near the California/Nevada border, vanished overnight leaving thousands of dead fish, but no water. Residents report people fishing in the lake as recently as last weekend, but the entire lake is now gone.

    Eddie Bauer, ชาวบ้านท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบวอล์คเกอร์ตลอดชีวิตของเขา กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรก ซึ่งเขาเคยพบว่าทะเลสาบกำลังแห้ง บริษัท แปซิฟิกก๊าซ และไฟฟ้า ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิในทะเลสาบ ใช้ในการสร้างและขายไฟฟ้าพลังน้ำไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ PG และ E กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เปิดเขื่อน หรือระบายน้ำออกจากทะเลสาบ แต่น้ำได้ไหลออกไปในชั่วข้ามคืน Paul Moreno ซึ่งเป็นโฆษก PG และ E ได้บอกว่า: "มันเป็นสถานการณ์ ที่เราทำงานอย่างหนัก เพื่อหลีกเลี่ยง แต่ในความเป็นจริงเรากำลังอยู่ในฤดูแล้งที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อเนื่องสำหรับปลา
    Eddie Bauer, a local resident who has lived on Walker Lake his entire life, says that this is the first time he can remember the lake running dry. Pacific Gas and Electric Company owns the rights to the lake, which it uses to create and sell hydroelectric power to neighboring areas. PG and E officials said that they didn't open the dam or drain the lake, but rather, that the water simply ran out overnight. Paul Moreno, a PG and E spokesperson had this to say: "It's the situation we worked hard to avoid but the reality is we're in a very serious drought, there's also concerns for the fish downstream.


    " Bauer เชื่อว่าแม้ไม่มีน้ำฝนมากขึ้น หรือน้ำไหลบ่ามาถึงทะเลสาบที่ว่า ที่นั่นควรมีน้ำที่เหลืออีกหลายสัปดาห์. - ปล่อยให้เขาและคนอื่น ๆ ตั้งคำถามว่า การเรียกร้องของ PG และ E ได่สรางความประหลาดใจที่ทะเลสาบทั้งหมดหายไปในชั่วข้ามคืน" นี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขา ไม่ต้องการที่จะทำช่วยชีวิตปลา และมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเปิดเครื่องดูดน้ำขึ้นในคืนวันเสาร์. "
    " Bauer believes that even with no more rainwater or runoff reaching the lake that there should have been weeks of water left - leaving him and others to question PG and E's claims of surprise that an entire lake vanished overnight. "This makes me feel like they didn't want to do a fish rescue and that it was easier to open that sucker up Saturday night."

    ในขณะที่ผู้ที่อาศัยอยู่ได้ดิ้นรนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่น้ำหายไปกรมทรัพยากรน้ำแคลิฟอร์เนียออกจะมองในแง่ดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าน้ำจะถูกแทนที่ "อ่างเก็บน้ำทั้งหมดยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ. เราจะพึ่งพาปริมาณน้ำฝนที่จะเติมทะเลสาบเหล่านั้น แน่นอน และจนกว่าเราจะได้รับฝนมากขึ้นเราไม่ได้มีโอกาสที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นใด ๆ ในระดับที่เห็นได้ของอ่างเก็บน้ำ" Doug Carlson ได้กล่าวไว้ กรมทรัพยากรน้ำ
    While residents wrestle with discovering what happened to the missing water, the California Department of Water resources is leaving little optimism that the water will be replaced. "The reservoirs are all continuing to be far below normal. We are reliant upon rainfall to fill those lakes of course and until we get more rain, we're not likely to see any appreciable increase in the reservoir levels," said Doug Carlson with the Department of Water Resources.

    วอล์คเกอร์เลค 2015
    Walker Lake 2015

    และนี่คืด วอล์คเกอร์เลค เมื่อ 5 เดือนที่ ผ่านมา

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/XFLHjEZJ9YE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    https://youtu.be/XFLHjEZJ9YE

    โดย Walker Lake Crusaders เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    ### >>บันทึกไว้ <<< ###
    ทะเลสาบวอล์คเกอร์แห้งในชั่วข้ามคืนในสหรัฐอเมริกา ........
    ###>> TAKE NOTE guys <<<###
    Walker Lake DRIES UP overnight in USA........

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/Er-eaOXxJvk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    https://youtu.be/Er-eaOXxJvk

    คำอธิบาย
    เรื่องราวของภาวะภัยแล้งในรัฐแคลิฟอร์เนียได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รื่องราวดังกล่าวได้มีการกล่าวถึงตลอดปีที่ผ่านมา แต่ก็เห็นได้ชัดว่า มันเลวร้ายยิ่งกว่าที่เราคิด ทะเลสาบวอล์คเกอร์ใกล้กับแคลิฟอร์เนีย / ชายแดนเนวาดาได้แห้งเหือดไปในชั่วข้ามคืน ปลาจำนวนหลายพันตัวได้ตายลง, จากการไม่มีน้ำ ผู้อาศัยได้บอกว่ามีผู้คนได้เข้ามาตกปลาในทะเลสาบเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทะเลสาบทั้งหมดหายไปแล้ว
    Description
    Stories of drought conditions in California have been steadily making their way into the national conversation over the last year, but it's apparently worse than we thought. Walker Lake, near the California/Nevada border, vanished overnight leaving thousands of dead fish, but no water. Residents report people fishing in the lake as recently as last weekend, but the entire lake is now gone.

    Eddie Bauer, ชาวบ้านท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบวอล์คเกอร์ตลอดชีวิตของเขา กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรก ซึ่งเขาเคยพบว่าทะเลสาบกำลังแห้ง บริษัท แปซิฟิกก๊าซ และไฟฟ้า ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิในทะเลสาบ ใช้ในการสร้างและขายไฟฟ้าพลังน้ำไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ PG และ E กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เปิดเขื่อน หรือระบายน้ำออกจากทะเลสาบ แต่น้ำได้ไหลออกไปในชั่วข้ามคืน Paul Moreno ซึ่งเป็นโฆษก PG และ E ได้บอกว่า: "มันเป็นสถานการณ์ ที่เราทำงานอย่างหนัก เพื่อหลีกเลี่ยง แต่ในความเป็นจริงเรากำลังอยู่ในฤดูแล้งที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อเนื่องสำหรับปลา
    Eddie Bauer, a local resident who has lived on Walker Lake his entire life, says that this is the first time he can remember the lake running dry. Pacific Gas and Electric Company owns the rights to the lake, which it uses to create and sell hydroelectric power to neighboring areas. PG and E officials said that they didn't open the dam or drain the lake, but rather, that the water simply ran out overnight. Paul Moreno, a PG and E spokesperson had this to say: "It's the situation we worked hard to avoid but the reality is we're in a very serious drought, there's also concerns for the fish downstream.


    " Bauer เชื่อว่าแม้ไม่มีน้ำฝนมากขึ้น หรือน้ำไหลบ่ามาถึงทะเลสาบที่ว่า ที่นั่นควรมีน้ำที่เหลืออีกหลายสัปดาห์. - ปล่อยให้เขาและคนอื่น ๆ ตั้งคำถามว่า การเรียกร้องของ PG และ E ได่สรางความประหลาดใจที่ทะเลสาบทั้งหมดหายไปในชั่วข้ามคืน" นี่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนพวกเขา ไม่ต้องการที่จะทำช่วยชีวิตปลา และมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเปิดเครื่องดูดน้ำขึ้นในคืนวันเสาร์. "
    " Bauer believes that even with no more rainwater or runoff reaching the lake that there should have been weeks of water left - leaving him and others to question PG and E's claims of surprise that an entire lake vanished overnight. "This makes me feel like they didn't want to do a fish rescue and that it was easier to open that sucker up Saturday night."

    ในขณะที่ผู้ที่อาศัยอยู่ได้ดิ้นรนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่น้ำหายไปกรมทรัพยากรน้ำแคลิฟอร์เนียออกจะมองในแง่ดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าน้ำจะถูกแทนที่ "อ่างเก็บน้ำทั้งหมดยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ. เราจะพึ่งพาปริมาณน้ำฝนที่จะเติมทะเลสาบเหล่านั้น แน่นอน และจนกว่าเราจะได้รับฝนมากขึ้นเราไม่ได้มีโอกาสที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นใด ๆ ในระดับที่เห็นได้ของอ่างเก็บน้ำ" Doug Carlson ได้กล่าวไว้ กรมทรัพยากรน้ำ
    While residents wrestle with discovering what happened to the missing water, the California Department of Water resources is leaving little optimism that the water will be replaced. "The reservoirs are all continuing to be far below normal. We are reliant upon rainfall to fill those lakes of course and until we get more rain, we're not likely to see any appreciable increase in the reservoir levels," said Doug Carlson with the Department of Water Resources.

    วอล์คเกอร์เลค 2015
    Walker Lake 2015

    และนี่คืด วอล์คเกอร์เลค เมื่อ 5 เดือนที่ ผ่านมา

    <iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/XFLHjEZJ9YE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://youtu.be/XFLHjEZJ9YE

    โดย Walker Lake Crusaders เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    เมื่อไวรัสคอมพิวเตอร์ค่ายอิสราเอลเจอกับแอนติไวรัสค่ายรัสเซีย!

    [​IMG]

    -----------
    วันที่ 24 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "หน่วยงานสายลับของอิสราเอลถูกกล่าวหาว่าแอบดักฟังการเจรจายุติปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านในโรงแรมต่างๆ" (Israeli Secret Service Accused of Bugging Hotels Hosting Iran Nuke Talks) อุ๊แม่เจ้า! มีเรื่องอย่างนี้ด้วยรึบีบี้?
    เดี๋ยวขอท้าวความย้อนหลังให้ซักนิดนะครับ วันที่ 22 ก.ย.58 นายกรัฐมนตรีเบญจามิน บีบี้ เนทันยาฮู ผู้นำของอิสราเอลบินตรงจากอิสราเอลเข้าพบปูตินนอกกรุงมอสโคว์ เพื่อขอเคลียร์ปัญหาเกี่ยวกับวิกฤตซีเรียด่วน (สงครามกลางเมืองและการปราบปราบกลุ่มก่อการร้ายในซีเรียมันเกี่ยวอะไรกับอิสราเอลด้วยหละ? นั่นสิ!) บีบี้บอกว่าอิหร่านกำลังสร้างแนวรบชุดที่สองขึ้นมา ปูตินบอกว่าไม่มีแนวรบชุดสองของอิหร่านอย่างที่นายกฯบีบี้เพื่อนของเรากังวลใจหรอก บีบี้บอกว่าถ้าอิหร่านสนับสนุนด้านอาวุธให้กับซีเรียเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มกบฏซีเรีย งั้นอิสราเอลก็จะกระทำทุกวิถีทางเพื่อสะกัดกั้นไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกไปถึงมือของกองทัพซีเรียที่นำโดยอัสซาด
    ปูตินนึกใจว่า ไม่ต้องอ้างอิหร่านหรอก ก็ข้าพเจ้าพึ่งประกาศให้โลกรับรู้ไปอย่างเปิดเผยเลยว่ารัสเซียนี่แหละที่สนับสนุนทั้งด้านอาวุธและอุปกรณ์ทางเทคนิคต่างๆให้กับกองทัพของซีเรียมาโดยตลอด และก็จะสนับสนุนอัสซาดต่อไปด้วย บีบี้พูดอย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่าอิสราเอลจะขัดขวางรัสเซียด้วยอย่างนั้นรึ? แต่ปูตินก็ไม่ได้พูดออกมา เพราะเป็นการรักษามรรยาททางการทูต แต่ปูตินบอกว่าจะสนับสนุนอัสซาดในการปราบปราบขบวนการก่อการร้ายในซีเรียต่อไป แล้วรัสเซียก็เคลื่อนทัพเรือเข้าประชิดชายฝั่งของซีเรียจำนวนหลายลำ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อซ้อมรบ
    ก็เมื่ออิสราเอลกล้ามาข่มขู่รัสเซียถึงที่โดยไม่ดูสถานะของตัวเอง เพราะว่าแม้กระทั่งสหรัฐฯ ฝรั่งเศสและอังกฤษพอเห็นรัสเซียเอาจริงขึ้นมาก็ยังหงอยหางตกหูหลูบเลย บีบี้ช่างไม่เจียมสังขารเหลือเกิน เพื่อเป็นการสั่งสอนอิสราเอลซะหน่อยว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า ตอนนี้รัสเซียกับพันธมิตรกำลังร่วมมือกันขจัดภัยก่อการร้ายให้กับโลกนี้ ดังนั้นหลังจากที่บีบี้เดินทางกลับไปแล้ว สื่อรัสเซียก็เลยพาดหัวข่าวตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นนั้นซะเลย เพื่อส่งสัญญาณให้ทางอิสราเอลรู้ว่า อย่าคิดนะว่าพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ค่อยจะชอบมาพากลของคุณจะเล็ดลอดสายตาของรัสเซียไปได้ เพียงแต่ก่อนหน้ายังไม่ออกมาพูดเท่านั้นเอง วันนี้ประจวบโอกาสเหมาะแล้วจึงลองปล่อยของออกมาเล่นซักยกก่อน อยากรู้อ่ะดิ คริๆ....
    สื่อฯสวิสรายงานว่า อิสราเอลต้องสงสัยว่าแอบดักฟังการเจรจาต่อรองเรื่องปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านกับมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่จัดขึ้นตามโรงแรมต่างๆทั่วยุโรปเมื่อช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมานี้ (เป็นเรื่องจนได้ งานนี้รัสเซียเล่นเป็นนะครับ ไม่แฉเอง แต่เอาข่าวมาจากสื่อฯสวิสของฝั่งตะวันตกอีกทีหนึ่ง อิสราเอลจะมาโวยวายว่ารัสเซียแบล็กเมล์ไม่ได้นะ คริๆ แต่ใครส่งข่าวไปให้สวิสนั้นก็ไปสืบเอาเองนะ อิสราเอลและสหรัฐฯเก่งเรื่องนี้อยู่แล้วนิ รู้แล้วจะทำไม? (ปูตินไม่ได้พูด คริๆ))
    หนังสือพิมพ์ Der Tagesanzeiger ของสวิสรายงานว่าพวกแฮ็กเกอร์ได้แอบสอดแนม (snooped) การเจรจาทั้งหมดระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางนิวเคลียร์ P5+1 กับอิหร่าน (แฮ็กเกอร์ฝั่งไหนรึ?)
    หนังสือพิมพ์กล่าวว่าฝ่ายตรวจสอบของสวิสได้พบว่า พวกนักโจมตีในโลกไซเบอร์ (cyber attackers) ได้แทรกซึมเข้าไปในระบบกล้องวงจรปิดตามโรงแรมต่างๆที่ใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมร่วมกับอิหร่าน พวกแฮ็กเกอร์ได้ใช้โปรแกรมโทรจันที่มีมูลค่าถึง 50 ล้านเหรียญซึ่งมีความซับซ้อนสูงมาก (ประมาณ 1.77 พันล้านบาท) ซึ่งเกือบจะแน่นอนเลยว่าพัฒนาโดยหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล (นั่นไงเจอปูตินสั่งสอนกลับบ้างแล้ว คริๆ)
    อิสราเอลนั้นคัดค้านข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งได้มุ่งเป้าไปที่การยกเลิกแซงชั่นอิหร่านเพื่อแลกเปลี่ยนกับการเหนี่ยวรั้งโครงการนิวเคลียร์ของกรุงเตหะราน
    อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีการจะมีการบรรลุข้อตกลงกันในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของสวิสได้บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเจนีวา (Geneva) ที่กำลังมีการจัดประชุมกัน และได้พบหลักฐานซึ่งสงสัยว่าเป็นสายลับไซเบอร์ของอิสราเอล (หลั่นล้าาาา! โชคดีนะบีบี้ เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้เสมอไปหรอกนะครับ)
    ฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้บอกใบ้เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาหลังจากบริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์ต่อต้านไวรัส (anti-virus software) ยี่ห้อ Kaspersky Lab ซึ่งมีฐานใหญ่อยู่ที่กรุงมอสโคว์ได้ตรวจพบว่ามีการแฮ็กเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในโรงแรมหรูทั่วยุโรป อัยการสูงสุดของสวิทเซอร์แลนด์ได้เปิดการสืบสวนอย่างเป็นทางการในการโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 6 พฤษาคมที่ผ่านมา
    "หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เจ้าหน้าที่ด้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้บุกเข้าไปในโรงแรม President Wilson การเตรียมการบุกจู่โจมในครั้งนี้กระทำได้ยาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางคนของโรงแรมดังกล่าวได้เคยทำงานให้กับหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลมาก่อน" หนังสือพิมพ์ Der Tagesanzeiger รายงาน
    ทางการของสวิทเซอร์แลนด์ได้ริบซอฟท์แวร์ที่แสดงว่ามีการใช้งานโปรแกรมสอดแนมที่ซับซ้อนซึ่งเรียกว่าชื่อโดยทั่วไปว่า "Duqu 2" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโปรแกรม Duqu Trojan ซึ่งรู้กันดีว่าถูกใช้งานโดยหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล
    รางานบอกว่าผู้ทำการโจมตีทางไซเบอร์ได้ใช้โปรแกรมประเภทม้าโทรจัน (ทำงานเหมือนกับม้าไม้เมืองทรอยนั่นแหละ) เพื่อให้เข้าถึงกล้องวงจรปิดและระบบไมโครโฟนต่างๆ (กรรม!) นอกจากนี้แล้วยังมีการใช้โปรแกรมโทรจันนี้แทรกซึม (/เจาะ infiltrate) เข้าไปในระบบเดียวกันที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่งในประเทศสวิทเซอร์แลนด์ที่มีการจัดประชุมเจรจาปัญหานิวเคลียร์ด้วย
    แม้ว่าตำรวจปราบปรามอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ของสวิสจะยังคงสงสัยว่าอิสราเอลได้ทำการดักฟัง (spying) อย่างกว้าสงขวางในการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องของอิหร่าน (แต่) รายงานบอกว่าอัยการกลาง (federal prosecutors) ของสวิสมีช่วงเวลาที่ยากที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหาดังกล่าว (ว้าาาา! คงไม่ต้องบอกตอนจบหรอกมั๊งว่าคดีจะมีผลออกมาอย่างไร ดูกรณีของคดีการดักฟังโทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรีเยอรมันนีโดยสหรัฐฯก็พอจะคาดเดาได้) อิสราเอลเก่งเรื่องสร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ งั้นรัสเซียก็จะปราบไวรัสของอิสราเอลเอง ฮี่ๆๆ (ปูตินไม่ได้กล่าว)
    ก่อนหน้านี้และปัจจุบันนี้สหรัฐฯชอบออกมาโวยวายว่าจีนและเกาหลีเหนือทำการโจมตีทางไซเบอร์และแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ มาโดยตลอด แต่พอคดีนี้เกิดขึ้นทั้งสหรัฐฯและอียูส่วนมากพากันเป่าสากซะงั้น ตกลงว่าประชาธิปไตยแบบอิสราเอลและสหรัฐฯนี่ทำอะไรก็ถูกต้องหมดทุกอย่างเลยใช่ไหม? แอบดักฟัง แอบถ้ำมองชาวบ้านได้ตามใจชอบเพราะถือว่าตัวเองมาจากการเลือกตั้งใช่ไหม? อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องประชาธิปไตยหรอกนะ แต่พักนี้เห็นพวกแก๊งค้านสุดสอยออกมาซ่าบ่อยเหลือเกิน ก็เลยเอาข่าวนี้มาเล่าให้ฟัง จริงๆแล้วมีข่าวเกี่ยววีรกรรมในลักษณะนี้ของทั้งอังกฤษและสหรัฐฯเยอะมาก แต่พวกที่กำลังเล่นเรื่องไซเบอร์ของในประเทศไทยอยู่ในตอนนี้ไม่กล้าที่พูดถึงกรณีเหล่านั้นเลย เขาคงไม่ว่ากัน งั้นก็ช่วยจัดให้คงไม่ว่ากันนะ คริๆ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    26/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Brendan Smialowski/Pool

    ----------
    Israeli Secret Service Accused of Bugging Hotels Hosting Iran Nuke Talks
    ​Swiss authorities seize computer data after possible cyber-attack on Iran nuclear talks — RT News
    Russia, Israel Agree to Boost Information Sharing Amid Syria Conflict
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้อยู่ในเหตุการณ์พิธีฮัจย์ เล่านาทีสุดระทึก ชี้ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุโศกนาฏกรรม โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 25, 2015

    [​IMG]

    ขณะที่ทางการซาอุฯพยายามที่จะโยนความผิดให้กับบรรดาผู้แสวงบุญต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันบรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวบางคน เผยว่า ต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เนื่องจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ

    Presstv – คอลิด อัลฟาและห์ รัฐมนตรีกระทรงสาธารณสุขของซาอุดิอาระเบีย ประกาศว่า โศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากความไร้ระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเรา ซึ่งหาก “บรรดาผู้แสวงบุญปฏิบัติตามคำแนะนำของเราแล้ว เหตุการณ์อันเศร้าสลดครั้งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”

    แต่ทว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกลักษณะหนึ่ง ที่ต่างจากคำกล่าวอ้างของทางการซาอุดิอาระเบีย
    ผู้รอดชีวิตบางคนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เล่าว่า ความแออัดชุลมุนของผู้แสวงบุญเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุดิอาระเบีย ได้พยายามสกัดเคลื่อนขบวนของผู้แสวงบุญยังถนนแคบๆ ซึ่งไม่มีทางออก

    อับดุลลอฮ์ ลุตฟี วัย 44 ปี ผู้แสวงบุญชาวอียิปต์ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ว่า ผมเห็นชายคนหนึ่งมีอาการอ่อนเพลีย ขาสั่น ล้มลงทับชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็นคันหนึ่ง ถัดจากนั้นก็ได้มีชายจำนวนหนึ่งได้ล้มทับบนเรือนร่างของชายดังกล่าว (หลังจากนั้น) ประชาชนผู้แสวงบุญต่างตกตระหนกพากันวิ่งหนีอลมาน เพื่อสูดอากาศหายใจ ….. มันเหมือนดังคลื่นมหาชน…. จากนั้นผมก็ได้เดินก้าวไปข้างหน้าและแล้วก็หันกลับ

    ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง ดร. อับดุลรอฮ์มาน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว เอเอพพี ว่า “ ผมเห็นผู้แสวงบุญจำนวนหนึ่งล้มลงกับพื้น ซึ่งล้มทับใส่เรือนร่างอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้ยินเสียงร้องของผู้แสวงบุญที่เป็นสตรีและผู้สูงวัย ร้องขอความช่วยเหลือ……. ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาตัวเองให้หลุดออกจากผู้คนที่แออัดจำนวนดังกล่าว เสื้อผ้าของผมหลุดออกมาและขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ แต่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ และในที่สุดก็สามารถหลุดออกมาได้”


    กองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุดิอาระเบีย สร้างวิกฤติของเหตุการณ์ให้รุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก

    ดร อับดุลเราะฮ์มาน ยังเปิดเผยถึงบทบาทของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุฯ ที่พยายามสร้างวิกฤติให้รุนแรงมากขึ้นว่า “จากนั้นผมพยายามที่จะเข้าไปในแคมป์ที่อยู่ข้างๆ แต่ทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยปิดกั้นและไม่อนุญาตให้เข้าไป ไม่ยอมให้ใครเข้าไปในแคมป์ ซึ่งทำให้วิกฤติเหตุการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น”

    “ผมตระหนักว่า ปัญหาหลักคือ ขาดทางออกฉุกเฉิน ซึ่งควรที่จะมีการสร้างทางออกฉุกเฉินตลอดเส้นทางไว้ ในทุกๆระยะทาง 50 เมตร”

    เขาได้ตำหนิบทบาทของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ในการควบคุมวิกฤติ ว่า เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบีย มีความเฉื่อยชาในการเข้าไปช่วยเหลือต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้

    ผมเห็นเจ้าหน้าที่ของกองกำลังกรมป้องกันภัยพลเรือน แต่พวกเขามาถึงที่เกิดเหตุช้ามาก

    อะห์มัด อบูบักร์ ผู้แสวงบุญชาวลิเบีย วัย 45 ปี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ฝรั่งเศส ต่อความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ว่า “คลื่นขบวนเริ่มหลั่งไหลจำนวนมาก ตำรวจได้ปิดเส้นทางออกทั้งหมดที่จะเข้าถึงยังแคมป์ของผู้แสวงบุญ โดยเปิดเส้นทางเพียงแค่หนึ่งทางเท่านั้น….. พวกเขาเหล่านี้ไม่เป็นอะไรสักอย่าง และไม่รู้อะไรแม้แต่สัญลักษณ์เส้นทาง และแคมป์รอบๆ ดังกล่าว”

    อิรฟาน อัลอาลาวี ประธานมูลนิธิมรดกอิสลาม ได้เห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เล่าว่า “ตำรวจที่เข้ามาทำหน้าที่ ไม่เป็นอะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับผู้แสวงบุญอย่างไร พวกเขาไม่สามารถที่จะควบคุมผู้แสวงบุญ”

    หมิ่นผู้แสวงบุญ

    ผู้แสวงบุญชาวอียิปต์คนหนึ่ง ได้ตำหนิการทำงานของตำรวจซาอุดิอาระเบีย ว่า ตำรวจซาอุดิอาระเบีย ได้ดูหมิ่นผู้แสวงบุญชาวแอฟริกา

    “กองกำลังจำนวนมากที่รวมตัวกัน ณ สถานที่ดังกล่าว แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย และได้พูดกับผมว่า “ช่วยมาตรวจสอบดูศพนี่หน่อย ว่าเป็นผู้เสียชีวิตชาวอียิปต์หรือไม่”


    การทุจริตของรัฐบาล และไม่มีกฎระเบียบ ของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุหลักในโศกนาฏกรรมที่ มินา

    นักการเมืองคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม เพราะเกรงว่าทางการซาอุดิอาระเบียจะปราบปราม ได้เปิดเผยว่า การทุจริตของรัฐบาล และไม่มีกฎระเบียบของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุหลักในโศกนาฏกรรมที่ มินา

    นักการเมืองอีกคนหนึ่งในเมืองมักกะห์ เปิดเผยกับ หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ว่า “เราไม่ได้แปลกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพราะเรากำลังรอดูเหตุการณ์ที่มีความเลวร้ายกว่านี้อีกที่จะเกิดขึ้นในช่วงพิธีฮัจญ์ ”

    “ทว่า บางครั้งประเด็นนี้อาจไม่ใช่เป็นเรื่องปรกติสำหรับประเทศอื่นๆ แต่หากพิจารณาในประเด็นเรื่องการทุจริตอย่างแพร่หลายในประเทศนี้นั้น เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นมันจะเปลี่ยนให้เป็นโศกนาฏกรรมขึ้นมาสำหรับเรา ซึ่งเราต้องรอดูโศกนาฏกรรมที่อาจจะเลวร้ายกว่านี้เสียอีก”

    เขาได้ชี้ถึงแผนการขยายบริเวณรอบเมืองมักกะฮ์ ในระยะเวลายี่สิบปี ว่า ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้สร้างโรงพยาบาลแห่งเดียวเท่านั้นสำหรับการให้บริการแก่บรรดาผู้แสวงบุญ และไม่ได้ติดตั้งระบอบการป้องกันภัยดับเพลิงเลยในบริเวณมัสยิดอัลฮะรอม

    ในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญจากทั่วทุกโลกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประมาณ สอง ล้านกว่าคน ซึ่งในปีนี้ ตามการประกาศของซาอุดิอาระเบีย มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครนยักษ์ถล่มและเหตุการณ์เหยียบกันตาย ที่มินา จำนวน 1000 กว่าคน และเหตุการณ์ที่มินา ทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างจริงจังขึ้นมา ถึงการไร้ความสามารถของทางการซาอุดิอาระเบียในการบริหารจัดการดูแลความปลอดภัยของผู้แสวงบุญที่มาจากทั่วทุกมุมโลก

    PressTV-روایت شاهدان عینی از فاجعه منا+ ویدئو

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ผู้อยู่ในเหตุการณ์พิธีฮัจย์ เล่านาทีสุดระทึก ชี้ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทางการซาอุดีอาระเบียแถลงยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายนอกเมืองเมกกะ ล่าสุดในวันเสาร์ ( 26 ก.ย.) ระบุ ได้เพิ่มจำนวนเป็นอย่างน้อย 769 ศพ และยังระบุว่า จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บล่าสุดจากเหตุผู้แสวงบุญเหยียบกันตายครั้งนี้อยู่ที่ 934 ราย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000108689
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page https://www.facebook.com/NARITpage?fref=ts

    [​IMG]

    ดวงจันทร์ที่แดงอิฐ ที่โตสุดๆ ‪#‎เสียดายไทยไม่เห็น‬
    28 กันยายนนี้ เกิด “จันทรุปราคาเต็มดวง” ในคืน “ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี”
    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผย 28 กันยายน 2558 เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ในคืนดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี เป็นปรากฏการณ์หาชมยาก ไทยพลาดเห็นเพียงดวงจันทร์เต็มดวงสุกสว่างใหญ่กว่าปกติ 2-3 % เท่านั้น
    ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 28 กันยายน 2558 ที่จะถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ขึ้น แต่น่าเสียดายประเทศไทยไม่สามารถสังเกตเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เนื่องจากตรงกับเวลากลางวัน ดวงจันทร์ยังอยู่ใต้ขอบฟ้า ปรากฏการณ์ครั้งนี้ สังเกตเห็นได้ในแถบอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มหาสมุทรแอตแลนติก ยุโรป แอฟริกา และด้านตะวันตกของเอเชีย นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงโคจรมาเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบปีที่ระยะห่าง 356,876 กิโลเมตร จะมองเห็นดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ประมาณ 2-3% หรือที่เรียกกันว่า “ซูปเปอร์มูน” ดังนั้น พื้นที่ดังกล่าวข้างต้นจะสามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงสีแดงอิฐที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติอีกด้วย ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่เกิดขึ้นในวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก นับเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเพียง 5 ครั้ง ได้แก่ ปีพ.ศ.2453, 2471, 2489, 2507, 2525 ครั้งที่ 6 ในวันที่ 28 กันยายน 2558 นี้และจะเกิดครั้งต่อไปในปีพ.ศ.2576 ถึงแม้คนไทยจะพลาดชมจันทรุปราคาเต็มดวง แต่ในคืนดังกล่าวจะยังได้เห็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี เชิญชวนรอชมและเก็บภาพความสวยงามของ “ซูปเปอร์มูน” ได้ทั่วประเทศ
    ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 28 กันยายน 2558 นี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาในประเทศไทย ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลาประมาณ 07.11 น. และจากนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 08.07 น. หลังจากนั้นดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ตั้งแต่เวลา 09.11 – 10.23 น. ช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง หลังจากนั้นดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกเข้าสู่การเป็นช่วงจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกทั้งดวงในเวลา 11.27 น. แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งสังเกตได้ยากเนื่องจากดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงความสว่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงท้ายสุดดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 12.28 น. ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงโดยสมบูรณ์
    จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน โลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลก ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปทีละน้อยจนดวงจันทร์เข้าไปอยู่เงามืดทั้งดวง และเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก ช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกบางส่วนจะเรียกว่า “จันทรุปราคาบางส่วน” และช่วงที่ดวงจันทร์โคจรเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง เรียกว่า “จันทรุปราคาเต็มดวง” จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐ เนื่องจากแสงสีแดงมีความยาวคลื่นมากที่สุดที่ตามองเห็นได้ ซึ่งจะเกิดการหักเหผ่านบรรยากาศโลกไปกระทบกับดวงจันทร์
    ตามปกติแล้วดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรีจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก โดย 1 รอบ ใช้ระยะเวลา 1 เดือน แต่ละเดือน จะมีทั้งวันที่ดวงจันทร์ไกลโลกและดวงจันทร์ใกล้โลก จุดที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะห่างประมาณ 363,700 กิโลเมตร ส่วนจุดที่ดวงจันทร์ห่างจากโลกมากที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะห่างประมาณ 406,000 กิโลเมตร การที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกและโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์กระทำต่อผิวโลก ส่งผลให้ให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ และการที่ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงในคืนที่มีวงโคจรใกล้โลกนับว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในวันที่ 28 กันยายน 2558 นี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าตามเวลาในประเทศไทย ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลกตั้งแต่เวลาประมาณ 07.11 น. และจากนั้นค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 08.07 น. หลังจากนั้นดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ตั้งแต่เวลา 09.11 – 10.23 น. ช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกเต็มดวง จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐทั้งดวง หลังจากนั้นดวงจันทร์จะเริ่มออกจากเงามืดของโลกเข้าสู่การเป็นช่วงจันทรุปราคาบางส่วนอีกครั้ง จนกระทั่งออกจากเงามืดของโลกทั้งดวงในเวลา 11.27 น. แล้วเปลี่ยนเป็นจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งสังเกตได้ยากเนื่องจากดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงความสว่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่วงท้ายสุดดวงจันทร์จะพ้นจากเงามัวของโลกเวลา 12.28 น. ถือว่าเป็นการสิ้นสุดของปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงโดยสมบูรณ์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    นาซ่ายืนยันโลกจะได้สัมผัสกับ 15 วันแห่งความมืดในพฤศจิกายน 2015
    โพสต์โดย: admin 15 กันยายน 2015 NASA Confirms Earth Will Experience 15 Days Of Darkness In November 2015
    Posted by: admin September 15, 2015

    ภาพที่มา: NewsWatch33
    Image Source: NewsWatch33

    นาซ่าได้ยืนยันว่าโลกจะได้สัมผัสกับวันที่ 15 ของที่ความมืดจะเข้าปกคลุมเกือบทั้งหมดระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายนและวันที่ 29 พฤศจิกายน 2015 เหตุการณ์ตามที่นาซ่ากล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นมากว่า 1 ล้านปีแล้ว
    ที่นี่ทวีตของ NewsWatch33 ที่:
    NASA has confirmed that the Earth will experience 15 days of total darkness between November 15 and November 29, 2015. The event, according to NASA, hasn’t occurred in over 1 Million years.
    Here’s the Tweet of NewsWatch33:

    ตามที่เจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ "พฤศจิกายน ที่มืดมิดลงด" จะเกิดเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์อื่นๆๆ ระหว่างดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดี ตามรายงานเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2015 ดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีจะมีเชื่มต่อ่ใกล้ชิดขนาบ่ั้กันโดย 1 องศา ดาวศุกร์จะผ่านไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งก่อให้เกิดดาวศุกร์จะส่องแสง 10 เท่าสว่างกว่าดาวพฤหัสบดี แสงที่มาจากดาวศุกร์จะร้อนขึ้นก๊าซบนดาวพฤหัสบดีเป็นเหตุให้เกิดปฏิกิริยา
    According to Officials, the “November Black Out” event will be caused by another astronomical event between Venus and Jupiter.
    According to the report, on October 26, 2015, Venus and Jupiter will engage in a close parallelism, only being separated by 1 degree. Venus will pass to the southwest of Jupiter, causing Venus to shine 10 times brighter than Jupiter. The light from Venus will heat up the gases on Jupiter causing a reaction.

    ปฏิกิริยาก๊าซจะปล่อยจำนวนไฮโดรเจนลงไปในพื้นที่ ก๊าซไฮโดรเจนจะทำให้การติดต่อกับอาทิตย์เวลาประมาณ 02:50 ปริมาณมวลของไฮโดรเจนการติดต่อกับดวงอาทิตย์จะทำให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่บนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ระเบิดจะทำให้อุณหภูมิพื้นผิวของดวงอาทิตย์จะลดลง 9,000 องศาเคลวินในทันที
    Screenshot_10

    ดวงอาทิตย์ก็จะพยายามที่จะหยุดระเบิดด้วยความร้อนเปล่งจากหลักของมัน ความร้อนจะทำให้ดวงอาทิตย์จะมืดไปเป็นสีฟ้า เมื่อดวงอาทิตย์ถึงสีฟ้าก็จะใช้เวลาประมาณ 14 วันในการเรียกคืนอุณหภูมิพื้นผิวของมันตามปกติกลับสีปกติกับยักษ์สีแดง
    Screenshot_9
    The gaseous reaction will release an unprecedented amount of Hydrogen into Space. The Hydrogen gas will make contact with SUN at approximately 2:50 AM. The mass amount of Hydrogen making contact with the sun will cause a massive explosion on the Sun’s surface. The explosions will cause the Sun’s surface temperature to decrease to 9,000 degrees Kelvin in an instant.
    Screenshot_10
    The sun will then attempt to cease the explosions by emitting heat from its core. The heat will cause the Sun to dim to a bluish color. Once the sun reaches the bluish color, it will take approximately 14 days to restore its normal surface temperature, returning its normal color to the Red Giant.
    Screenshot_9

    ในขณะที่ดวงอาทิตย์จะระบายความร้อนพื้นผิวที่แสงจากดวงอาทิตย์จะมีมากหรี่ เพราะมันใช้เวลาทุกที่ 7-8 และครึ่งนาทีขึ้นอยู่กับการหมุนของโลกแสงจากดวงอาทิตย์ที่จะตีโลกที่ผู้คนจะไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนกระทั่ง 02:58 เมื่อพฤศจิกายน 15
    บางพื้นที่ของโลกที่อาจพบในช่วงเวลาสั้น ๆ ของแสงสำหรับ 7-8 นาที แต่โลกแล้วจะกลับไปดำเนินการความมืดจนอุณหภูมิพื้นผิวของดวงอาทิตย์ได้รับการบูรณะ
    While the sun is cooling the surface, the light from the sun will be much dimmer. Because it takes anywhere from 7 to 8 and a half minutes depending on the Earth’s rotation for light from the sun to hit Earth, people will not know the event has happened until 2:58 a.m. on November 15th.
    Some areas of the world may experience brief moments of light for 7 to 8 minutes, but the Earth will then go back to complete darkness until the Sun’s surface temperature has been restored.

    News Source: NewsWatch33

    NASA Confirms Earth Will Experience 15 Days Of Darkness In November 2015 | Times of Education
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เริ่มแล้วครับท่าน... สุดยอดเกมชิงไหวชิงพริบระหว่างมหาอำนาจ จากศึกซีเรียยาวไปถึงศึกธุรกิจ ขู่กันด้วยนิวเคลียร์แล้ว (1/2)

    [​IMG]

    ------------
    สุดยอดแห่งความมันส์แบบหฤโหดมาแล้วครับท่าน... ตะวันตกเริ่มงัดข้อกับอันธพาลอเมริกาแล้ว เยอรมันกับญี่ปุ่นแท็กทีมเอียงรัสเซียค้านสหรัฐฯฝากระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่ในเยอรมัน ญี่ปุ่นหันมากระชับมิตรกับรัสเซีย เยอรมันแง้มว่าอยากจะส่งทหารเข้าไปในซีเรียด้วย แถมโยนหินถามทางว่าอาจจะยกเลิกแซงชั่นรัสเซีย ส่วนอังกฤษเห็นท่าไม่ดี เริ่มกลับคำทันทีว่าอังกฤษพร้อมจะให้ความร่วมมือกับรัสเซียในการต่อสู้กับไอซิส ฝรั่งเศสเดินหน้าโจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อเอาใจสหรัฐฯไม่งั้นจะหอไอเฟลอาจจะหายวับไปก็ได้ กลุ่ม G4 เรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สหรัฐฯขู่รัสเซียอีกว่าจะสร้างคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ในยุโปรตะวันออก รัสเซียบอกว่ากลัวซะที่ไหนหละ งั้นรัสเซียก็จะปล่อยขบวนรถไฟล่องหนเที่ยวมรณะออกเดินทางเช่นกัน เอาป๊ะ? มันส์… พะยะค่ะ
    1.) เกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ เยอรมันออกมาเรียกร้องให้สหรัฐฯรับผู้อพยพเพิ่มขึ้น เพราะว่าสหรัฐฯเป็นผู้ไปสร้างปัญหาไว้ในตะวันออกกลางและในซีเรียจะเกิดวิกฤตผู้อพยพในยุโรป ทางสหรัฐฯที่ตอนแรกบอกว่าไม่รับวุ้ย! ต่อถูกตะวันตกบีบหนักก็บอกว่างั้นจะรับซัก 1,500 คน ตะวันตกบอกว่าตลกหละเยอรมันรับเป็นแสน สหรัฐรับแค่พันกว่านี่นะ ต่อมาสหรัฐฯถูกสังคมกดดันอย่างหนักจึงออกมาบอกว่างั้นจะรับซัก 10,000 คนก็พอ แต่ไม่ใช่ในปีนี้นี้ โน่นปี 2017 โน่น สื่อฯยุโรปที่ไม่อยู่ในอำนาจของสหรัฐฯก็ออกมาเหน็บแนมพฤติกรรมของสหรัฐฯในเรื่องนี้ ทนไม่ได้ก็ออกมาบอกว่างั้นจะรับเพิ่มเป็น 100,000 คนละกัน แต่ไม่ใช่ในปีนี้ ต้องทะยอยรับหลายๆปี ฮ่าๆๆ เอากะอเมริกาสิ
    หลังจากที่ถูกทางเยอรมันกดดันหนักเรื่องนี้ สหรัฐฯจึงหาทางตอบโต้เพื่อเป็นการสั่งสอนเยอรมันอีกซักครั้งบ้าง ก็เลยยกเรื่องการวัดค่ามลภาวะจากรถยนต์ยี่ห้อโฟคสวาเกนของเยอรมันขึ้นมาเล่นซะ ถือซะว่าเป็นการกดดันทางเศรษฐกิจ ลูกไม้นี้พึ่งจะใช้มากรณีของบอร์ดฟีฟ่าเมื่อเร็วๆนี้นี่เอง เล่นพวกเดียวกันเองซะแล้วไหมหละ
    2.) วันที่ 22 ก.ย.58 Sputnik news รายงานว่าสหรัฐฯมีแผนจะส่งอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ไปไว้ในเยอรมัน โทษฐานที่ขัดใจจักรวรรดิเฮเกหลายเรื่อง และเพื่อเป็นการข่มขู่รัสเซียไปในตัว ถ้ารัสเซียยังไม่ถอยออกจากซีเรีย งั้นสหรัฐฯก็จะเดินเกมหนักกดดันรัสเซียด้วยการเอานู๊กมาขู่ แต่ไม่บอกว่าจะยิงนู๊กสหรัฐฯหรือเรือดำน้ำของสหรัฐฯใส่รัสเซียหรอกนะ แต่จะเอาไปไว้ในยุโรปแทน ถ้าเกิดอยู่ๆแล้วมันเกิดทำงานเองด้วยความผิดพลาดทางเทคนิคบางอย่างโดยตั้งใจขึ้นมา อันนั้นก็ให้ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ของชาวยุโรปและรัสเซียก็แล้วกัน นี่เล่นที 2 เด้งเลยเล่นทั้งเรื่องรถโฟคส์และเรื่องนิวเคลียร์ เรื่องนิวเคลียร์นี่ก็ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวคือ กะตัดกำลังรัสเซีย และสร้างความบาดหมางระหว่างรัสเซียกับยุโรป และทำลายเศรษฐกิจของทั้งรัสเซียและยุโรปไปในตัว ไม่ว่ามันจะระเบิดจริงหรือไม่ ย่อมทำให้สถานการระหว่างรัสเซียกับยุโรปมีความตึงเครียดได้
    3.) วันที่ 24 ก.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เยอรมันสามารถส่งทหารไปปฏิบัติการในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาฯ" (กรรมหละสิครับคราวนี้) รายงานข่าวบอกว่าศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันวินิจฉัยว่า ในกรณีเร่งด่วน (urgent cases) รัฐบาลเยอรมันสามารถที่จะดำเนินการใช้กองทัพในต่างประเทศโดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภา Bundestag ของเยอรมันก่อน
    นี่เป็นการส่งสัญญาณให้ทั้งทางสหรัฐฯและรัสเซียรู้ว่าเยอรมันก็อาจจะส่งกองทัพเข้าไปในซีเรียได้เช่นกันนะ ความคิดการส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรียนี้เป็นของฝั่งรัสเซียกับพันธมิตรอย่างอิหร่าน ไม่ใช่ของฝั่งสหรัฐฯที่เน้นการโจมตีทางอากาศ นั่นก็หมายความว่าเยอรมันอาจจะส่งกองทัพของตัวเองเข้าไปร่วมกับรัสเซียและรัฐบาลซีเรียเพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายได้ซิสก็ได้ หรือสมัยนี้เราจะได้เห็นอดีตทางลูกหลานนาซีจับมือร่วมรบด้วยกันกับลูกหลานอดีตทหารโซเวียตในสนามรบซีเรียซะแล้ว?
    4.) วันที่ 25 ก.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ตะวันตกไม่สามารถขอให้รัสเซียเข้าเป็นหุ้นส่วนได้ ในขณะที่ยังมีการแซงชั่นกันอยู่ - กรุงเบอร์ลินกล่าว" (อัยย๊ะ! แมร์เกิลกำลังคิดอะไรอยู่หรือครับ?) รายงานข่าวบอกว่า พวกนักการเมืองชาวเยอรมันเริ่มคุยกันเกี่ยวกับการยกเลิกแซงชั่นต่อต้านรัสเซีย เนื่องจากความร่วมมือกับกรุงมอสโคว์ในซีเรียไม่อาจจะเริ่มต้นได้ในขณะที่ยังมีการแซงชั่นกันอยู่ Sigmar Gabriel รองนายกรัฐมนตรีของเยอรมันกกล่าวว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนการแซงชั่นและขอให้รัสเซียร่วมมือด้วยในเวลาเดียวกัน" (ฮ่าๆๆ เอากะลูกเล่นป้าแมร์เกิลดิ งานนี้โอบาม่าหัวปั่นแน่ เป็นไปได้ไงอดีตนาซีกับอดีตคอมมิวนิสต์โซเวียตจะมาร่วมมือกันรบนี่นะ? ฝัน (ร้ายของนาย) กำลังจะเป็นจริงแล้วนะโอบาม่าเอ๋ย งานนี้สหรัฐฯเอาจรวดแพทริอ็อตมาฉุดไว้ก็ไม่อยู่แล้วครับ เพราะป้าแมร์เกิลเธอบอกว่าอยากไปขี่ยานอวกาศของรัสเซียหนะ คริๆ)
    Sigmar Gabriel บอกใบ้ให้กับหนังสือพิมพ์ Die Zeit ของเยอรมันว่า "มีความเป็นไปได้ในการยกเลิกแซงชั่นทางเศรษฐกิจเพื่อความสำเร็จในการร่วมมือกับรัสเซียในซีเรีย พวกเราจะต้องเปลี่ยนแปลงท่าทีของพวกเรา (ที่มีต่อ) รัสเซีย" (ยู้ฮู! สหรัฐฯได้ยินหรือเปล่า? พอรัสเซียเริ่มใช้ไม้แข็งขึ้นมานี่ ใครๆก็อ่อนระทวยกันทั้งนั้นเลยอ่ะ จากเดิมที่ต่อต้านรัสเซียอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ปูตินก็ไม่ล้มซักที ทำไงได้? พอปูตินได้พิสูจน์เห็นแล้วว่าไม่เกรงกลัวอิทธิพลของอันธพาลโลกอย่างจักรวรรดิเฮเกโมนี่เลย เดินหน้าปราบปรามผู้ก่อการร้ายในซีเรียต่อไป ทั่วโลกต่างก็ได้เห็นกับตาแล้วว่างานนี้ปูตินเอาจริงและทำเพื่อส่วนรวมด้วย ใครก็ไม่กล้าขวางยกเว้นจักรวรรดิเฮเกโมนี่เท่านั้น มีหรือที่เยอรมันจะไม่รีบฉวยโอกาสนี้เอาไว้)
    นักวิเคราะห์มองว่าการที่แมร์เกิลหันมาให้มีการเจรจา (สนับสนุน) อัสซาดนี้ก็เพราะว่านายกรัฐมนตรีของเยอรมันยอมรับในตัวปธน.บาซาร์ อัสซาด ที่เป็นปธน.ของซีเรียโดยชอบธรรม เพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยซึ่งเกิดจากวิกฤตในซีเรีย (การรับผู้ลี้ภัยจากซีเรียไว้ในเยอรมันนั้นเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทั้งอัสซาดและปูติน และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ ปัญหานี้ก็จะยังคงมีอยู่ร่ำไป และจะกลายเป็นภาระหนักของเยอรมันในโอกาสต่อไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เยอรมันจะต้องหาทางเข้าไปแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุซึ่งก็คือซีเรีย และเมื่อทำให้ซีเรียสงบได้แล้ว ก็จะส่งผู้อพยพชาวซีเรียกลับไปยังประเทศของพวกเขา และสร้างงานในบ้านของพวกเขาด้วย)
    และในวันเดียวกันนี้ (วันที่ 25 ก.ย.58) Sputnik news รายงานว่า ปธน.ปูตินจะเข้าร่วมประชุมระดับทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี Angela Merkel และปธนน. Francois Hollande ผู้นำของฝรั่งเศสนอกรอบเกี่ยวกับปัญหาของยูเครน (และอาจจะรวมถึงปัญหาของซีเรียด้วย) ในวันที่ 2 ตุลามคมนี้
    5.) วันที่ 24 ก.ย.58 Sputnik news รายงานว่า กรุงมอสโคว์และกรุงโตเกียวรู้สึกเป็นกังวลใจเกี่ยวกับแผนของกรุงวอชิงตันที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์ไปติดตั้งไว้ในต่างประเทศซึ่งทั้งยุโรปด้วย รายงานข่าวบอกว่า นาย Evgeny Anoshin โฆษกเลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียและญี่ปุ่นรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐฯที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์ไปไว้ในต่างประเทศ ทางนาย Syotaro Yati เลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่นก็ได้กล่าวในลักษณะเดียวกันนี้
    นั่นไง... ทำไมจู่ๆอาเบะหวดซามูไลเข้ากลางหลังโอบาม่าซะอย่างนั้นหละนี่? อาเบะบอกว่าซามูไลต้องคู่กับ AK-47 นะ งานนี้ขอทิ้ง M-16 ละกัน คริๆ เอ้ยยยย ทั้งๆที่สหรัฐฯพึ่งจะปลดปล่อยให้ญี่ปุ่นสามารถส่งทหารออกไปปฏิบัติการในต่างประเทศได้นี่นะ? อาเบะบอกว่านี่กำลังคิดอยู่นี่ว่าจะเอาทหารญี่ปุ่นไปช่วยปูตินปราบไอซิสที่ซีเรียดีหรือเปล่านะ คริๆ อูยส์... ถ้าเป็นแบบนี้หละก็ มันช่างเจ็บจิ๊ดดดด เลยนะนี่
    ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายให้สามารถส่งทหารออกไปปฏิบัติการนอกประเทศได้อย่างเป็นทางการแล้ว สหรัฐฯบอกเกาหลีใต้ว่าให้เปิดทางให้ญี่ปุ่นส่งทหารเข้าไปในคาบสมุทรเกาหลีสิ หมายความว่าให้ส่งเข้าไปในเกาหลีใต้หนะ กรรมหละสิฮ่าๆๆ เฮียสีกระแอมใส่ผู้นำเกาหลีใต้ว่า อ่ะแฮ่ม! คิดให้ดีๆนะน้องสาว น้องยังจำวันวานสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้หรือเปล่า? จำได้ไหมว่าใครรุกรานพวกเรา แค่นั้นแหละ เกาหลีใต้รีบออกมาโวยวายทันทีเลยว่า ไม่ได้เด็ดขาดงานนี้จะญี่ปุ่นส่งทหารเข้ามาในคาบสมุทรเกาหลีไม่ได้ เรื่องเกาก็ยังไม่ได้เคลม และงานนี้เฮียสีเอาตายแน่ จึงปฏิเสธข้อเสนอแบบหวังดีประสงค์ร้ายของสหรัฐฯนี้ไป เห็นมะแผนการของจอมเสี้ยม เรื่องเสี้ยมให้เพื่อนทะเลาะกันนี่งานถนัดเขาเลยหละ (สร้างความร้าวฉาน คืองานของจักรวรรดิเฮเกโมนี่ ใช่ปะโอบาม่า? เงินหน้าขึ้นตอบสิครับ คริๆ)
    6.) แล้วสหรัฐฯว่าอย่างไรบ้างหละคราวนี้? ยังครับ ยังไม่ยึด จอมอันธพาลเกเรยังคงเดินหน้าสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ต่อไป แม้จะถึงหลายฝ่ายออกมาคัดค้านและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุดวันที่ 26 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า "สหรัฐฯเตรียมสร้างสถานีเก็บอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศเอสโตเนีย" รายงานข่าวบอกว่า ในการดำเนินการยั่วยุที่มีความเป็นไปได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีภาคพื้นดิน A-10 ซึ่งมีความสามารถในทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ไปยังประเทศเอสโตเนีย (หนึ่งในสามประเทศในกลุ่มประเทศบอลติก ซึ่งประกอบด้วย เอสโตเนีย ลิธัวเนีย และลัตเวีย) ในบริเวณใกล้เคียงกับชายแดนของรัสเซียโดยตรง รายงานข่าวบอกว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด A-10 ฉายา tank busters (จอมทำลายรถถัง) ได้เดินทางไปถึงฐานทัพอากาศ Ämari Air Base ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการฝึกบินเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาแอ็ตแลนติกของนาโต้ (แก้ไขปัญหาแอ็ตแลนติกก็ไปซ้อมที่แอ็ดแลนติกสิ จะมาซ้อมอะไรที่บอลติกหละนี่?) นั่นแหละแผนยั่วยุรัสเซียจากฝั่งสหรัฐฯและนาโต้เขาหละ
    7.) เรื่องไหนอีก... ติ๊กต๊อกๆๆ... อ้อ… รถไฟล่องหนของรัสเซียไง ฮี่ๆๆ อันนี้ชอบ เมื่อสหรัฐฯคิดจะใช้แผนกดดันรัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปากก็บอกว่าพร้อมจะเจรจากับรัสเซียกรณีซีเรียแต่มืออีกด้านหนึ่งกลับงัดนิวเคลียร์ขึ้นมาขัดสีฉวีวรรณเล่นนี่นะ เรื่องอะไรรัสเซียจะถอยหละครับ รัสเซียก็มีข้าวหลามยักษ์เคลื่อนที่เหมือนนี่นา วันเดียวนี้ (26 ก.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ถะด้าาาา... รถไฟผี: รัสเซียกำลังพัฒนารถไฟมรณะล่องหนติดตั้งนู๊ก" (Rail Phantom: Russia Developing Invisible 'Death Trains' With Nukes) นั่นไง... เอากะเฮียปูตินดิ คริๆ เขาจะเล่นระเบิดนิวเคลียร์กันแล้วนะ ท่านแอ็ดมินยังจะมา "ฮี่ๆ คริๆ" อยู่อีกรึ? จะทำอะไรได้หละครับ? ขนาดโป๊ป และเลขายูเอ็นไปพูดในที่ประชุมใหญ่ของสหประชาชาติในสหรัฐฯเรื่องให้ลดและกำจัดอาวุธนิวเคลียร์แท้ๆ นายโอบาม่ากับรัฐบาลของพวกเขาฟังที่ไหนหละ?
    รายงานข่าวบอกว่านับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005 รัสเซียได้กลับมาพัฒนา "รถไฟมรณะ" (death trains) ขึ้นมา มีการอำพรางเส้นทางรถไฟที่ซับซ้อนและติดตั้งด้วยขีปนาวุธบอลลิสติก (ballistic missiles ติดหัวรบนิวเคลียร์) แต่ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงปัจจุบันนี้ทำให้ขบวนรถไฟเหล่านี้ไม่สามารถถูกตรวจจับได้
    สหภาพโซเวียตได้สร้างขบวนรถไฟบรรทุกขีปนาวุธนิวเคลียร์ (BZhRKs) ขึ้นในปี 1969 เพื่อเป็นการตอบโต้ระบบนิวเคลียร์ในเรือดำน้ำที่ทรงพลังของสหรัฐฯ สหภาพโซเวียตได้เปิดปฏิบัติการรถไฟ BZhRKs จำนวน 12 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนสามารถยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ถึง 3 ลูกซึ่งมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการข่มขู่ได้ดี ขบวนรถไฟเหล่านี้ออกเดินทางไปตามระบบเส้นทางรถไฟต่างๆทั่วประเทศ และมีลักษณะใกล้เคียงกับขบวนรถไฟขนส่งสินค้าทั่วไป ไม่มีทางที่ดาวเทียมสอดแนมจะตรวจจับได้
    และเนื่องจากมันไม่สามารถที่จะระบุตำแหน่งที่จะยิงจรวดนิวเคลียร์ได้อย่างแม่นยำนี่เองจึงมีการขนานนามให้ว่าขบวนรถไฟ "แห่งความตาย" (death trains) หรือ "ขบวนรถไฟผี" (phantom trains) ในปี 2005 รัสเซียได้ปลดประจำการขบวนรถไฟเหล่านั้น แต่ 10 ปีต่อมา (ก็ปีนี้นะสิ ฮ่าๆๆ) กรุงมอสโคว์ได้ตัดสินใจนำแนวคิดนั้นมาดำเนินการอีกครั้ง โครงการใหม่นี้มีรหัสเรียกว่า "Barguzin" สามารถบรรทุกขีปนาวุธข้ามทวีป ICBMs RS-24 Yars ได้ถึง 6 ลูก (ต่อหนึ่งขบวน) ซึ่งเทียบเท่ากับเรือดำน้ำรุ่น Bulava ขบวนรถไฟผีเหล่านี้สามารถออกเดินทางได้นานเป็นเดือน วิ่งได้วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 กม. ที่ความเร็ว 100 กม.ต่อชั่วโมง (เมื่อจักรวรรดิเฮเกโมนี่อยากจะงัดนิวเคลียร์แบบสงครามเย็นมาเล่นอีกรอบ งั้นปูตินก็จะไม่ขัดศัทธาหละนะครับ มีข้าวหลามยักษ์มาฝากจ้าาาา!)
    The Eyes
    28/09/2558

    ภาพจาก © AP Photo/ Stringer

    -----------
    US Plans to Modernize Nukes in Germany Cause Concern to Russia
    US Nukes in Germany Will Upset Balance of Power in Europe – German MP
    Putin's Bilateral Meetings With Merkel, Hollande on October 2 Confirmed
    West Cannot Ask Russia for Partnership While Sanctions in Place - Berlin
    Germany Can Deploy Armed Forces Abroad Without Parliament’s Approval
    UK Ready to Cooperate With Russia in Fight Against ISIL
    UK Drops Agenda to Immediately Remove Syrian President Assad From Power
    France Conducts First Airstrikes on ISIL Positions in Syria
    German Government Unlikely to Remove Anti-Russia Sanctions
    Russia, Japan Concerned Over US Plans to Deploy Nuclear Arms Abroad
    Farsnews
    Evacuation of Two Shiite Towns Begins in Northwestern Syria
    Syrian Army, Rebels Agree on Six-Month Truce for Three Towns
    Abe, Putin to Discuss Territorial Issues - Japan's Foreign Ministry
    Germany, Brazil, India, Japan Leaders to Push for UNSC Reform at UNGA
    Rail Phantom: Russia Developing Invisible 'Death Trains' With Nukes
    US Poised to Station Nukes in Estonia?
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เริ่มแล้วครับท่าน... สุดยอดเกมชิงไหวชิงพริบระหว่างมหาอำนาจ จากศึกซีเรียยาวไปถึงศึกธุรกิจ ขู่กันด้วยนิวเคลียร์แล้ว (2/2)

    [​IMG]

    ------------
    8.) ไปเยี่ยมออสเตรเลียบ้าง วันที่ 26 ก.ย.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า Julie Bishop รมว.ต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า "การแก้ไขปัญหาใดๆด้วยวิธีการใดๆในซีเรียควรจะมีอัสซาดเป็นส่วนร่วมด้วย" (อ่ะเฮ้ยยย! เป็นไปได้ไง? ออสเตรเลียพูดเป็นเสียงเดียวกันกับเยอรมันและรัสเซียด้วย แล้วอย่างนี้พี่เบิ้มที่ทำเนียบขาวจะไม่เคืองเอาหรือ? ออสเตรเลียบอกว่า ตอนนี้มีพี่สีคอยคุ้มกันภัยให้ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น คริๆ)
    Julie Bishop ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Australian เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "มีความเห็นพ้องต้องกัน (ฉันทามติ) ว่ารัฐบาลของกรุงดามัสกัสที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันนี้ควรจะมีบทบาทที่สำคัญในการเสริมสร้างประเทศซีเรีย และหยุดกลุ่มก่อการร้าย ISIL Takfiri จากการรุกรานแผ่นดิน" รายงานโดย Press TV
    รมว.ต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า "มีหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าจะต้องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งทางการเมืองและทางกองทัพต่อความขัดแย้งในซีเรีย กรุงแคนเบอร์ร่า (Canberra) อาจจะมีส่วนร่วมในบทบาทของตนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ มีมุมมองที่เกิดขึ้นมาใหม่ในบางไตรมาส ซึ่งตัวเลือกที่พอจะเป็นไปได้ก็คือการมีรัฐบาลแห่งชาติที่เป็นเอกภาพซึ่งรวมทั้งประธานาธิบดีอัสซาดด้วย" (นั่นไง... แนวความคิดเรื่อง "รัฐบาลแห่งชาติ" ถูกพันธมิตรของตะวันตกหยิบยกขึ้นมาจนได้ ไม่มีฝ่ายค้าน มีแต่รัฐบาลเท่านั้น ไม่แน่ใจว่าแนวคิดนี้จะตรงกับของรัสเซียที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้หรือเปล่านะ เพราะเท่าที่จำได้ก็คือปูตินเสนอว่าให้รัฐบาลอัสซาดร่วมมือกับฝ่ายค้านที่มีกำลังที่เข้มแข็ง และจัดการเลือกตั้งเร่งด่วนขึ้นมา อาจจะหลังปราบปรามไอซิสได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆอัสซาดจะต้องอยู่ต่อไป มิเช่นนั้นก็จะเข้าทางของสหรัฐฯและตะวันตกบางประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อต้องการโค่นล้มอัสซาดอยู่แต่แรกแล้ว ถ้ารัสเซียและอิหร่านบอกว่าอัสซาดหลบไปอยู่เบื้องหลังก่อน แล้วให้ส่งนอมินีขึ้นมาแทน อันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกันเลย และอาจจะถูกเสี้ยมต่อไปว่ารัสเซียหักหลังอัสซาดและทำให้อัสซาดอ่อนแอ คราวนี้แหละความไว้วางใจต่อรัสเซียก็จะไม่มีอีกต่อไป คนที่จะเสียหายมากที่สุดก็คือปูติน)
    9.) วันที่ 27 ก.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "รัฐบาลเยอรมันไม่น่าจะอนุมัติให้ยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย" (German Government Unlikely to Remove Anti-Russia Sanction) Peter Altmaier เสนาธิการของนายกรัฐมนตรีของเยอรมันกล่าวว่า "รัฐบาลเยอรมันนีไม่ได้ต้องการที่จะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย"
    Peter Altmaier ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Der Tagesspiegel ของเยอรมันซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของ Sigmar Gabriel รองนายกรัฐมนตรีของเยอรมันก่อนหน้านี้ว่า "นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะต้องเปลี่ยนจุดยืนของพวกเราต่อปัญหายูเครน เราจะไม่ยอมให้มีการแบล็กเมล์ (หมายถึงใครแบล็กเมล์ใครหรือครับท่าน? กระทบชิ่งไปถึงทำเนียบขาวหรือเปล่า?) บทบาทของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเป็นสิ่งสำคัญในการแสวงหาหนทางแก้ไขวิกฤตในซีเรีย"
    พูดแค่นี้?... เขาก็ไม่ได้พูดถึงว่าเยอรมันจะส่งทหารเข้าไปช่วยปูตินรบกับพวกไอซิสในซีเรียหรือไม่ แต่ตัวอย่างพึ่งมีให้เห็นเมื่อเร็วๆนี้ ป้าแมร์เกิลเธอเด้งรมต.ที่ดูแลด้านกิจการผู้ลี้ภัยออกไปแล้วเพราะว่าผลงานไม่เข้าตากรรมการ ท่าน Peter Altmaier ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีนะครับ ท่านเป็นทีมเสธ.เป็นที่ปรึกษานะ ท่านจะขัดคำสั่งนายกฯได้หรือ? แต่บางครั้งก็เหมือนกับว่าเยอรมันกำลังเล่นเกมปั่นหัวสหรัฐฯอยู่นะ ให้งงเล่นๆว่าเอ๊ะ ตกลงเยอรมันนีจะเอายังไงกันแน่ จะยกเลิกหรือว่าไม่ยกเลิกแซงชั่นรัสเซียกันแน่? ให้เดาทางไม่ถูก ต้องรอหลังวันที่ 2 ตุลาคมนะครับ
    10.) เรื่องอะไรอีก? ติ๊กต๊อกๆๆ... G4 อ่ะฮ้า! วันที่ 26 ก.ย.58 Sputnik news รายงานว่ากลุ่มประเทศ G4 ซึ่งประกอบด้วย บราซิล อินเดีย (สองประเทศนี้อยู่ในกลุ่ม BRICS เป็นพันธมิตรของรัสเซีย คริๆ) เยอรมัน (ตอนนี้หันมาปิ๊งรัสเซีย เพราะพึ่งเข้าไปตั้งโรงงานโฟคส์ในรัสเซีย) และญี่ปุ่น ยืนยันเรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) (ตายหละว่า... ดูเหมือนว่ามนต์ดำของจักวรรดิเฮเกโมนี่จะเสื่อมลงเรื่อยๆแล้วนะครับ)
    UNSC ประกอบด้วยประเทศสมาชิกถาวร (permanent members) 5 ประเทศคือ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย อังกฤษ และสหัฐฯ และสมาชิกไม่ถาวร (non-permanent members) อีก 10 ประเทศซึ่งจะมีอายุเพียง 2 ปีและมีการเลือกตั้งสมาชิกใหม่ทุก 1 ปี ปัจจุบันนี้ประกอบด้วย Angola, Chad, Nigeria (3 ประเทศนี้อยู่ในกลุ่มแอฟริกา), Chile, Venezuela (กลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน), Jordan, Malaysia (กลุ่มเอเซียแปซิฟิก), New Zealand, Spain (กลุ่มยุโรปตะวันตกและอื่นๆ), Lithuania (กลุ่มยุโรปตะวันออก) 3 ประเทศหลังนี้เป็นกลุ่มยุโรป เอเซียมีแค่ 2 ในอดีตเฉพาะในเอเซียนี้มีญี่ปุ่น อินเดีย ปากีสถาน และมาเลเซียได้เป็นสมาชิกประเภทไม่ถาวรของ UNSC บ่อยครั้งที่สุด ส่วนประเทศไทยเคยเป็นครั้งเดียวตั้งแต่ปี 1985-1986 (2528-2529) น่าเสียดายที่เรามัวแต่วุ่นวายอยู่เรื่องประชาธิปไตยกับเลือกตั้งและปัญหาอื่นๆภายในประเทศของเรา ทำให้เราสูญเสียโอกาสต่างๆในเวทีโลกไปไม่น้อย แต่ยุคนี้ของไทยไม่ใช่ยุคประชาธิปไตย เป็นยุคกำลังเข้าสู่ประชาธิปไตย ดังนั้นก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลลุงตู่กำลังนำประเทศของเราไปสู่เวทีโลกอีกครั้งหนึ่งด้วยตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 เท่ห์อ่ะ ห้อ… พี่ไทยเรานี่ก็ไม่ธรรมดานะ เป็นไงครับ วิชั่นมันต่างกันใช่ป๊ะ? คริๆ
    ยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากเกี่ยวกับกลุ่มประเทศ G4 ที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูป UNSC ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพและความมั่นคงปลอดภัยของโลก แต่ดูเหมือนว่ามีหลายประเทศซึ่งก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯนั่นแหละรู้สึกไม่ค่อยปลื้มกับบทบาทการวางก้ามเบ่งอำนาจประชาธิปไตยเหนือผู้อื่นของคุณพี่เบิ้มอเมริกาสักเท่าไร จึงได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวดังกล่าว บอกว่าต้องการปฏิรูป UNSC ด่วน เพราะว่าตอนนี้เห็นประเทศไทยกำลังปฏิรูปจึงอยากจะปฏิรูปอย่างไทยบ้าง กลัวจะตกเทรนว่างั้นเถอะ คริๆ
    11.) เรื่องที่ 11 วันที่ 27 ก.ย.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อังกฤษพร้อมให้ความร่วมมือกรับรัสเซียในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส" (อ่ะช้าาาา! นั่นไง นั่นไง... กลัวจะตกขบวนรถไฟรัสเซียอ่ะดิ คริๆ เอ๊ยยยย! แล้วโอบาม่าจะว่าอย่างไรหละนี่? ว้าววว งานนี้ปูตินเล่นเอาคาเมร่อน กลายเป็นคาเมหลอนไปซะแล้ว ถึงกลับต้องกลับหลังหัน 180 องศาทันทีให้เสี้ยววินาทีชี้เป็นชี้ตายว่าจะเลือกอยู่ฝั่งไหน คริๆ)
    รายงานข่าวบอกว่าโฆษกของนายกรัฐมนตรี David Cameron ของอังกฤษกล่าวว่า "กลุ่มก่อการร้าย jihadist ไอซิส เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย (ฮั่นแน่มีลูกเล่นชิ่งด้วย) เป็นอย่างมากซึ่งก็เป็นภัยคุกคามต่อยุโรปด้วย และกรุงลอนดอนก็ควรจะหาหนทางที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกันกับรัสเซียเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ลอนดอนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกรุงมอสโคว์ในการต่อสู้กับองค์กรก่อการร้ายไอซิส"
    โฆษกของนายกฯคาเมหลอนกล่าวว่า "พวกเรามีความชัดเจนว่าไอซิสเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียมากพอๆกับที่เป็นภัยคุกคามต่อยุโรป และประเทศอื่นๆทั่วโลก และดังนั้นพวกเราก็ควรจะสามารถหาหนทางที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อทำงานร่วมกัน" (ฮิ้ววว! คนอังกฤษเป็นอย่างนี้เหมือนกันหมดทุกคนหรือเปล่าครับท่านโฆษก? อ้อ… โบราณว่า รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นอังกฤษ คริๆ)
    ในวันเดียวกันนี้สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวอีกว่า "อังกฤษทิ้งวาระขับประธานาธิบดีอัสซาดออกจากตำแหน่งทันที" (UK Drops Agenda to Immediately Remove Syrian President Assad From Power) (ฮ่าๆๆ... สุดจะฮาครับท่าน คาเมรอนคงจะนึกในใจว่า พอแล้วครับ Sputnik จะย้ำหัวตะปูกันไปถึงไหน เค้าอายเป็นเหมือนกันนะตะเอง... คริๆ)
    สื่อฯรัสเซียอ้างรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษเองนั่นแหละโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลอังกฤษซึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ว่า "นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้ปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญในการแก้ไขวกฤตปัญหาในซีเรียจากการกำจัดประธานาธบดีบาชาร์ อัสซาดออกจากอำนาจทันที ไปเป็นมุ่งเป้าไปที่ความพยายามของนานาชาติในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงไอซิสในประเทศซีเรียแทน"
    แหล่งข่าวกล่าวว่า "มักจะมีแนวความคิดที่ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอยู่เสมอ" ซึ่งเป็นการตอบคำถามที่ว่าอัสซาดควรจะอยู่ในอำนาจในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่าน (ทางการเมือง) หรือไม่? โดยอธิบายว่า คาเมรอนอาจจะไม่เรียกร้องให้อัสซาดลาออกจากตำแหน่งในทันที (อ้าว! แล้วก่อนหน้านี้เรียกร้องและกดดันเขาทำแป๊ะอะไรหละครับท่าน?)
    ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ทั่วโลกเขารู้กันหมดแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังและสนับสนุนหรือเป็นลูกพี่ใหญ่ของไอซิสหละกลุ่มอัลเคด้ากันแน่ พวกนี้นกรู้ ขืนเดินตามก้นสหรัฐฯอีกต่อไปเงาหัวจะหลุดจากบ่าในไม่ใช่ จึงต้องรีบแปรพักตร์เข้าทางรัสเซีย ไม่งั้นรัสเซียก็จะเล่นคิดบัญชีย้อนหลังแบบทบต้นทบดอกประจานให้โลกรู้ไปเลย ส่วนซาอุดิอาระเบีย อิสราเอล กาตาร์ และตุรกีถ้าไม่อยากโดนสหรัฐฯหักหลังเอาตัวรอดก็ให้รีบวางมือจากากรสนับสนุนพวกผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นซะ เพราะว่าตอนนี้พวกนักการเมืองสหรัฐฯพากันดาหน้าออกมาชี้ไปที่ประเทศเหล่านี้กันหมดแล้วว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของกลุ่มก่อการร้าย ฮึ่ม! การเมืองโลกมันก็เป็นเช่นนี้แล
    The Eyes
    28/09/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Michael Klimentyev

    -----------
    US Plans to Modernize Nukes in Germany Cause Concern to Russia
    US Nukes in Germany Will Upset Balance of Power in Europe – German MP
    Putin's Bilateral Meetings With Merkel, Hollande on October 2 Confirmed
    West Cannot Ask Russia for Partnership While Sanctions in Place - Berlin
    Germany Can Deploy Armed Forces Abroad Without Parliament’s Approval
    UK Ready to Cooperate With Russia in Fight Against ISIL
    UK Drops Agenda to Immediately Remove Syrian President Assad From Power
    France Conducts First Airstrikes on ISIL Positions in Syria
    German Government Unlikely to Remove Anti-Russia Sanctions
    Russia, Japan Concerned Over US Plans to Deploy Nuclear Arms Abroad
    Farsnews
    Evacuation of Two Shiite Towns Begins in Northwestern Syria
    Syrian Army, Rebels Agree on Six-Month Truce for Three Towns
    Abe, Putin to Discuss Territorial Issues - Japan's Foreign Ministry
    Germany, Brazil, India, Japan Leaders to Push for UNSC Reform at UNGA
    Rail Phantom: Russia Developing Invisible 'Death Trains' With Nukes
    US Poised to Station Nukes in Estonia?
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    "หากพวกเราหยุดฝึกและหยุดติดอาวุธให้พวก jihadists สงครามก็จะจบ" วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯกล่าว (ชัดมะ?)

    [​IMG]

    -----------
    วันที่ 26 ก.ย.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "‘If we stop training, arming jihadists, the war will end’ – Virginia state senator to RT" พูดแค่นี้ก็คงจะพอเข้าใจกันได้แล้วนะว่าใครสนับสนุนผู้ก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียกันหนะ ใครหรือครับแอ็ดมิน? ก็ประเทศที่เขาบอกว่าเป็นประชาธิปไตยเบอร์หนึ่งของโลกนั่นแหละครับ จะใครซะอีกหละ
    วุฒิสมาชิก Dick Black จากมลรัฐเวอร์จิเนีย (Virginia) ประเทศสหรัฐอเมริกา จากพรรครีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT ของรัสเซียเกี่ยวกับวิกฤตในซีเรียโดยเชื่อมโยงไปยังการดำเนินการของประเทศต่างๆเช่น ซาอุดิอาระเบีย และตุรกี ซึ่งเขากล่าวว่าได้ติดอาวุธให้กับกลุ่มหัวรุนแรงอย่างกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่กำลังต่อสู้อยู่กับรัฐบาลซีเรียอยู่ในขณะนี้ และตำหนิการแทรกแซงของสหรัฐฯในตะวันออกกลางซึ่งทำให้เกิดกลุ่มก่อการร้ายอย่างพวกไอซิสขึ้นมาว่า "มันเป็นความหวังและการสวดมนต์อ้อนวอนของผมว่า สหรัฐฯจงตื่นขึ้นมา และบอกว่าถึงเวลาที่จะหยุดการเข่นฆ่าครั้งนี้ได้แล้ว ถึงเวลาที่จะหยุดความพยายามในการโค่นล้มระบอบต่างๆได้แล้ว จงนำระเบียบกลับไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง [และ] จงหยุดการหลั่งเลือดซะ หากพวกเราหยุดฝึกพวก jihadists และ (หยุด) การติดอาวุธให้กับพวก jihadists สงครามก็จะสิ้นสุด (ทันที)" (If we stop training jihadists and arming jihadists, the war will end)
    แม้จะฟังดูว่าวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯพยายามเรียกร้องให้สหรัฐฯยุติสงครามในซีเรียและตะวันออกกลาง แต่ก็ด้วยความที่เป็นชาวอเมริกัน ก็ยังไม่วายที่จะโยนอึไปให้ซาอุดิอาระเบียและตุรกีรับไปเต็มๆ ทั้งๆที่ก็สหรัฐฯนั่นและร่วมกับประเทศเหล่านั้นก่อกรรมทำชั่วเข่นฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมากมาด้วยกัน อันนี้ก็พอจะเข้าใจได้ วันหนึ่งสหรัฐฯก็อาจจะออกมาบอกว่า ซาอุดิฯและตุรกีเป็นผู้สนับสนุนขบวนการก่อการร้ายและกลุ่มติดอาวุธต่างๆในตะวันออกกลาง พอถึงเวลานั้นก็จะได้หาโอกาสถล่มทั้งสองประเทศนี้ซะเลย หากไม่ยอมก้มหัวปฏิบัติตามคำสั่งทุกประการจากสหรัฐฯ
    สหรัฐฯได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์สำหรับความพยายามของสหรัฐฯที่ (อ้างว่า) เพื่อขัดขวางไอซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับแผนการในการติดอาวุธและฝึกกบฏสายกลางซีเรียเพื่อเข้าต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐฯได้กล่าวว่า สหรัฐฯได้เรียนรู้ว่าผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏซีเรียที่ฝึกขึ้นมาโดยสหรัฐฯเพื่อต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิสได้ยอมจำนน (surrendered) โดยส่งอาวุธหนึ่งในสี่ของหน่วยของตนไปให้กับกลุ่มหัวรุนแรง Al-Nusra Front ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลเคด้า (โดยอ้างว่า) เพื่อแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยในการผ่านทาง
    ก็ไหนตอนแรกสหัฐฯและพันธมิตรออกตัวซะเลิศหรูว่ามีอากาศยานเครื่องบินรบคอยคุ้มกันขบวนรถคอนวอยให้กับเด็กของตนตลอดการเดินทางอย่างไรเล่า ไหงมันถึงกลายเป็นว่าเด็กของสหรัฐฯเอาอาวุธไปประเคนให้สาขาของพวกอัลเคด้าในซีเรียอย่างหน้าตาเฉยเลยหละ?
    วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯกล่าวต่ออีกว่า "จริงๆแล้ว ผมรู้สึกยินดีจริงๆที่รัสเซียส่งบางคนเข้าไปในที่นั่น ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องการจะต่อสู้อย่างแท้จริง เพราะว่าผมไม่มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าสหรัฐฯอยู่ข้างไหนกันแน่ (because I am not entirely certain which side the United States is on) บางครั้งผมก็คิดว่า พวกเราเราเล่นด้านหนึ่ง บางครั้งก็ (คิดว่าเล่น) อีกด้านหนึ่ง" (ฮ่าๆๆ... นี่ขนาดนักการเมืองของสหรัฐฯด้วยกันเองก็ยังสับสนกับบทบาทและท่าทีของรัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯเลย)
    วุฒิสมาชิก Black กล่าวว่า ถ้ารัสเซียใช้ปฏิบัติการทางกองทัพ เขาไม่เชื่อว่ามันจะช่วยอะไรให้กับเมือง Raqqah ได้ และยังได้เสนอคำแนะนำให้กับปูตินว่า ให้ร่วมมือกับชาวเคิร์ดและชนเผาต่างๆที่เป็นซุนนีที่ต่อต้านไอซิสเพื่อถล่มเมือง แต่ต้องไม่กระทำก่อนเปิดโอกาสให้ประชาชนจำนวนมากมีเวลาเดินทางออกมาจากพื้นที่ซะก่อน (อ้อ… ท่านวุฒิสมาชิกไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้หรอก ปูตินส่งการไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อย่างน้อยก็มี 3 เมืองยอมพักรบ 6 เดือนเปิดโอกาสให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กหลายหมื่นคนที่อาศัยอยู่เมืองเหล่านั้นเดินทางออกไปอาศัยอยู่ที่อื่นซึ่งทางรัฐบาลซีเรียได้สำรองไว้ให้ และเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้ขนคนเจ็บของตนออกไปจากพื้นที่ได้ด้วย ปูตินกับอัสซาดเป็นงานกว่าอเมริกันก็แล้วกัน)
    Black กล่าวว่า "จงถล่มเมืองให้ราบคาบ ให้กลายเป็นจุลไปเลย (ให้เหมือนกับที่สหรัฐฯและพันธมิตรทำกับเมือง Kobani นะหรือ? เพื่อให้สหรัฐฯและตะวันตกใช้เป็นข้ออ้างในการกล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้ทำลายบ้านเรือนในซีเรียในโอกาสต่อไปหละสิ?) เพราะว่านั่นคือเมืองหลวงของพวกไอซิส ซึ่งมีแต่ความชั่วร้ายและมีกองกำลังปีศาจมากที่สุดที่โลกใบนี้ได้เผชิญมา (ใครสร้างขึ้นมาหละ? หันไปถามซีไอเอ เพนตากอน และโอบาม่าดูสิ) พวกเราจำเป็นต้องโค่นมันลงมาให้ได้ และพวกเราต้องขจัดพวกเขาออกไปจากเมืองหลวง"
    Black พูดถึงบทบาทของ Hillary Clinton ในตะวันออกกลางว่า "หล่อนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้งด้านการเงินและอื่นๆ กับซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ คูเวต และกับพวกทรราชบางส่วนในโลกอาหรับ" (ว้าวววว รีพับลิกันกับดิโมแครทสาวไส้กันเองซะหละ ดี… ชาวโลกจะได้รู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงของรัฐบาลสหรัฐฯนั้นเป็นเช่นไร)
    Black แฉต่อไปอีกว่า สหรัฐฯได้พยายามที่จะโค่นอียิปต์มาแล้ว แต่ประชาชน (ชาวอียิปต์) ประมาณ 30 ล้านคนได้ลุกฮือขึ้นนำประเทศของพวกเขากลับออกไปจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิก Black ของสหรัฐฯกล่าว แต่สหรัฐฯก็ประสบความสำเร็จในการทำลายล้างประเทศลิเบียว่า "ลิเบียไม่มีรัฐบาลอีกต่อไป - มันเป็นเพียงดินแดนของความวุ่นวายและไร้กฎระเบียบ" (Libya no longer has a government – it’s simply a land of chaos and disorder)
    ดีไหม? ดีสิ! แบบนี้สหรัฐฯกับตะวันตกชอบ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าจะได้มีน้ำมันดิบเถื่อนไหลออกจากลิเบียไปได้มากขึ้นอย่างไรเล่า และที่สำคัญก็สามารถบ่อนทำลายอิทธิพลและความแข็งแกร่งของกลุ่ม OPEC ได้ด้วย เพราะว่าลิเบียเป็นหนึ่งในสมาชิกของโอเปก ตอนนี้สหรัฐฯก็พึ่งจะแก้ไขกฎหมายให้ตัวเองสามารถส่งออน้ำมันดิบไปทั่วโลกได้อย่างเสรีไร้ข้อจำกัดเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แถมพึ่งจะตกลงกับซาอุดิฯให้ขายน้ำมันราคาถูกให้สหรัฐฯเมื่อเร็วนี้ด้วย และกับอาวุธไปถล่มเยเมนต่อไปโดยสหรัฐฯและตะวันตกจะไม่ออกมาโวยวายเรื่องมนุษยธรรมของซาอุดิฯ ยิ่งกว่านั้นสหรัฐฯยังยกตำแหน่งประธาน UNHCR ให้ซาอุดิอาระเบียไปครองหน้าตาเฉยเลย ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    27/09/2558

    ภาพจาก © Ammar Abdullah / Reuters

    ----------
    ‘If we stop training, arming jihadists, the war will end’ – Virginia state senator to RT — RT USA
    US-trained Syrian rebels ‘gave 6 trucks, ammo’ to Al-Qaeda affiliate – CENTCOM — RT USA
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ผู้ก่อการร้ายในซีเรียขอบคุณสหรัฐฯที่จัดส่งอาวุธชั้นดีไปให้
    https://www.youtube.com/watch?v=JgjFSM7DOrs

    สื่อฯรัสเซียรายงานจากแนวหน้าในสนามรบเขตสู้กันระหว่างกลุ่มก่อการร้ายไอซิสกับกองกำลังของฝ่ายรัฐบาล ห่างจากกรุงดามัสกัส 5 กม.ฐานใหญ่ของไอซิสในเมืองหลวง (26 ก.ย.58)
    --------------
    https://www.youtube.com/watch?v=KyMzI6Q9JWI

    คลิป RT สัมภาษณ์วุฒิสมาชิก Dick Black (ไม่ต้องแปลชื่อของเขา และไม่อย่าไปสลับตำแหน่งกันระหว่างชื่อกับนามสกุลของเขาหละนะครับ คริๆ) ของสหรัฐฯ
    https://www.youtube.com/watch?v=nXe4gy_ABf8
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    ด้วยการเปิดมหาวิหารมัสยิดมอสโคว์ (Moscow Cathedral Mosque) ปูตินได้แสดงให้ชาวมุสลิมได้เห็นว่าเขาไม่ใช่ "นักทำสงครามศาสนาอย่างพวกตะวันตก" (Western crusader)

    [​IMG]

    -----------
    วันที่ 23 ก.ย.58 ที่ผ่านซึ่งเป็นวันที่โลกมโนโซเชียลในตะวันตกพากันกุข่าวขึ้นมาว่าอาจจะมีเหตุการณ์ประมาณว่าหายนะครั้งใหญ่เกิดขึ้นในโลกนี้ เล่นเอาหลายคนวิตกกังวลไปไม่น้อย แต่ที่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซีย ปูตินและบุคคลสำคัญต่างๆเช่นผู้นำตุรกี ผู้นำปาเลสไตน์ได้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองการเปิดมหาวิหารมัสยิดมอสโคว์ ร่วมกับชาวมุสลิมประมาณ 140,000 คน และอีก 80,000 ที่รวมกันอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่น
    วันที่ 26 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "By Opening Mosque in Moscow, Putin Shows Muslims He is Not a ‘Crusader’" และได้นำบทความหนังสือพิมพ์ Boulevard Voltaire ของฝรั่งเศสที่วิเคราะห์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของปูตินที่มีต่อชาวมุสลิมทั่วโลกได้อย่างน่าสนใจดังนี้
    Boulevard Voltaire รายงานว่า ด้วยการเปิดมหาวิหารมัสยิดมอสโคว์ (Moscow Cathedral Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (อีกแห่งหนึ่ง) ถือว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ขยับก้าวย่างที่ชาญฉลาดมากต่อปฏิบัติการทางกองทัพต่อต้านขบวนการก่อการร้ายไอซิสที่อาจจะเป็นไปได้ในซีเรีย ปูตินได้แสดงให้ชาวมุสลิมทั่วโลกได้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็น "นักก่อสงครามศาสนาอย่างตะวันตก" อีกคนหนึ่ง
    Nicolas Gauthier นักข่าวจากสำนักข่าว Boulevard Voltaire ของฝรั่งเศสตั้งคำถามว่า "ทำไมถึงได้มีการเผยแพร่เหตุการณ์นี้ในสื่อฯต่างๆอย่างกว้างขวาง?" Nicolas Gauthier ตั้งข้อสังเกตว่า "ปูตินไม่ได้ต้องการทำผิดพลาดซ้ำอย่างที่สหรัฐฯได้กระทำไปแล้วในอิรัคและอัฟกานิสถาน เมื่อหลายคนคิดว่ากองทัพสหรัฐฯได้ปฏิบัติตนคล้ายกับว่าเป็นผู้ก่อสงครามศาสนาในยุคกลาง (medieval crusaders) ซึ่งได้เข้าครอบครองพื้นที่และมีอำนาจเหนือประชาชนท้องถิ่น แต่ปูตินกลับต้องการแสดงให้ชาวมุสลิมเห็นว่า เขาไม่ได้เป็น Western crusader แทน"
    นอกจากนี้แล้วผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองยังได้กล่าวอีกว่า "ปูตินรู้ว่าเขาต้องการแรงสนับสนุนจากชาวมุสลิมในรัสเซียเป็นอย่างมาก ก่อนที่เขาจะลงไปผจญภัยในซีเรีย"
    ป.ล. Moscow Cathedral Mosque สร้างขึ้นในปี 1904 บางครั้งเรียกว่า "Tatar Mosque" (มัสยิดทาทาร์) เนื่องจากเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวทาทาร์เป็นส่วนมาก ในทางสังคมแล้วมองว่ามหาวิหารมัสยิดคอสโคว์เป็นมัสยิดกลางในรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่แห่งในกรุงมอสโคว์ ได้ไม่การรื้อมัสยิดหลังเก่าออกในวันที่ 11 ก.ย.2011 เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรมมาก จากนั้นก็ได้ก่อสร้างขึ้นมาใหม่บนพื้นที่เดิมอย่างสวยงาม
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    27/09/2558

    ภาพจาก © REUTERS/ Maxim Zmeyev

    ----------
    By Opening Mosque in Moscow, Putin Shows Muslims He is Not a ‘Crusader’
    TASS: Society & Culture - Grand Mosque’s opening in Moscow
    Almost 150,000 Muslims celebrate ‘Feast of Sacrifice’ in Moscow (PHOTOS) — RT News
    One of Europe’s largest mosques opens in Moscow (PHOTOS, VIDEO) — RT News
    Moscow Unveils Biggest Mosque in Europe
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกมชิงบัลลังก์ในกลุ่มประเทศอ่าว : ราชวงศ์ซาอุดี้ฯ จะเรียกสมาชิกราชวงศ์เพื่อเปลี่ยนตัวกษัตริย์ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 28, 2015

    [​IMG]
    (ภาพ) กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ แห่งซาอุดี้ฯ (Gary Cameron)
    RT – มีการส่งจดหมายเวียนฉบับหนึ่งถึงบรรดาสมาชิกของราชวงศ์ซาอุดี้ฯ โดยมีเนื้อหาเตือนว่าราชวงศ์ซาอุด อาจจะกำลังสูญเสียการครอบครองอำนาจ จดหมายฉบับนี้มีข้อกล่าวหาทางการเมืองหลายเรื่องที่กล่าวกันว่าถูกลงนามโดยเชื้อพระวงศ์ที่ไม่ระบุชื่อองค์หนึ่งเอง

    “เราใกล้จะถึงกาลล่มสลายของรัฐและการสูญเสียอำนาจเข้าไปทุกที” สำนักข่าวออนไลน์ Middle East Eye รายงานเนื้อหาของจดหมายฉบับดังกล่าวเมื่อวันอังคาร ซึ่งลงนามโดย “ทายาทคนหนึ่งของกษัตริย์อับดุลลอฮ์แห่งราชวงศ์ซาอูด” กล่าวกันว่าจดหมายฉบับนี้เขียนขึ้นโดยหลานชายของกษัตริย์ผู้ล่วงลับ ที่ยืนยันกับ MEE ว่า เขาเป็นผู้เขียน แต่ขออย่าได้เปิดเผยชื่อ “เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลสะท้อนกลับในทางลบ”

    https://youtu.be/JenKeuoWqcw

    “เราขอเรียกร้องไปยังพระราชโอรสทุกคนของกษัตริย์อับดุลอาซิซ… เพื่อเรียกประชุมด่วนกับทุกคนในตระกูลเพื่อหารือถึงสถานการณ์และทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อรักษาประเทศนี้ไว้” มีรายงานว่าเอกสารที่มีสี่หน้าดังกล่าวนี้มีเนื้อหาว่า เจ้าชายระดับอาวุโสองค์หนึ่งของซาอุดี้ฯ ได้เรียกร้องให้หาผู้อื่นมาแทนที่กษัตริย์ซัลมานของซาอุดี้ฯ “ที่ไร้ความสามารถ” และรองมกุฏราชกุมาร เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน พระราชโอรสของพระองค์

    กษัตริย์ซาอุดี้ฯ วัย 79 พรรษา ผู้ถูกเพ่งเล็งในอุบายสกปรกนี้ ได้ปกครองประเทศนี้มาตั้งแต่กษัตริย์อับดุลลอฮ์ พระเชษฐาสวรรคต นอกเหนือจากตัวกษัตริย์และพระราชโอรสแล้ว จดหมายฉบับนี้ยังระบุถึงมุฮัมมัด บิน อัล-นาเยฟ หลานชายของพระองค์อีกด้วย โดยเรียกเขาว่า “ฟุ่มเฟือยและไร้สาระ” เชื้อพระวงศ์หนุ่มทั้งสองคนนี้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลซาอุดี้ฯ และเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจที่ทำให้ราคาน้ำมันตกฮวบลงมา รวมทั้งสงครามในเยเมนด้วย

    จดหมายฉบับนี้อ้างว่า การตัดสินใจทางการทหารเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งปฏิบัติการในเยเมน ซีเรีย และอิรักเป็น “การคำนวณที่ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง” โดยได้ทำให้ “ความไว้วางใจของประชาชนของเราลดน้อยลง และทำให้ประชาชนชาติอื่นๆ ต่อต้านเรา”

    เอกสารดังกล่าว ซึ่งว่ากันว่าได้ถูกส่งเวียนไปยังบรรดาเจ้าชายผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารเคลื่อนที่ที่ปลอดภัย และยังมีรายงานว่าได้กล่าวถึงความท้าทายทางการเงินที่ราชอาณาจักรแห่งอ่าวนี้เผชิญอยู่ ขณะที่รายรับจากน้ำมันเป็นรายได้ในส่วนที่ท่วมท้นของรัฐ แต่ปัจจุบันกลับพบว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันตกดิ่งลงมากกว่าครึ่งในรอบปีนี้
    แต่ถึงกระนั้น ราชวงศ์ซาอุดี้ฯ ยังคงทำให้โลกอ้าปากค้างด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่หรูหรา กษัตริย์ซัลมานปิดชายหาดริเวียร่าของฝรั่งเศสทั้งหมดเพื่อใช้เป็นการพิเศษ หรือการจองโรงแรมหรูแห่งหนึ่งทั้งโรงแรมขณะพำนักอยู่ในวอชิงตัน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของราชวงศ์นี้อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลล่าร์ แต่ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้คาดว่าสมาชิกราชวงศ์บางองค์ “กำลังล้างผลาญประเทศอยู่” ผู้เขียนจดหมายถึงขนาดเรียกรองมกุฏราชกุมาร เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมานว่า “หัวขโมยเน่าๆ”


    “เราจะไม่สามรถหยุดการผลาญเงิน ความอ่อนเยาว์ทางการเมือง และความเสี่ยงทางทหารนี้ได้ นอกเสียจากว่าเราจะเปลี่ยนวิธีการในการตัดสินใจ แม้ว่ามันจะหมายถึงการเปลี่ยนตัวกษัตริย์ก็ตาม” MEE อ้างอิงถึงเนื้อความในจดหมายดังกล่าว

    รัฐซาอุดิอารเบียปัจจุบันสถาปนาขึ้นในปี 1932 โดยกษัตริย์อับดุลอาซิซ บิน ซาอูด ตั้งแต่พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปในปี 1953 ประเทศนี้ก็ถูกปกครองโดยพระราชโอรสของพระองค์ รวมถึงกษัตริย์ซัลมานในปัจจุบัน พระราชโอรสของอิบนฺ ซาอูด ยังคงมีชีวิตอยู่มากกว่าสิบองค์ แต่กล่าวกันว่าซัลมานอาจจะมอบการครองราชสมบัติต่อไปให้แก่พระราชโอรสของพระองค์ ซึ่งเป็นหลานของอิบนิซาอูด แทนที่จะเป็นหนึ่งในบรรดาพระราชโอรสที่ยังมีชีวิตอยู่ของผู้สถาปนา การกระทำเช่นนั้นย่อมไม่เป็นที่พอใจของสมาชิกคนอื่นๆ ของราชวงศ์ และอาจจะเป็นเหตุให้เกิดรอยร้าวภายในขึ้นในราชวงศ์ซาอูด

    ผู้ปกครองในซาอุดิอารเบียจะถูกเปลี่ยนหรือไม่ “ขึ้นอยู่กับผู้มีบุญคุณนอกประเทศของพวกเขา ซึ่งก็คือสหรัฐฯ และสหรัฐฯ จะต้องการให้กษัตริย์ซัลมาน และรัฐมนตรีกลาโหมที่พระองค์เลือก ฯลฯ ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่” โคลิน คาเวลล์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การเมืองบอกกับ RT โดยกล่าวต่อไปว่า ยังคงมี “ปัญหาที่แท้จริงภายในประเทศ ยังมีความกังวลอย่างมากในหมู่เชื้อพระวงศ์ซาอุดี้ฯ เกี่ยวกับจำนวนเงิน”

    “สิ่งที่เรามีคือ ความเห็นแก่ได้ ความโลภมากมาย และสิ่งนี้บั่นทอนราชวงศ์ซาอูดทั้งหมด” คาเวลล์กล่าว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจดหมายนั้น

    อย่างไรก็ตาม บางคนเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวอาจะเป็นเรื่องหลอกลวงก็ได้ ด้วยความสงสัยในน่าเชื่อถือของจดหมาย นักข่าวซาอุดี้ฯ ผู้มีชื่อเสียง ซึ่งได้รายงานเรื่องนี้ บอกกับ MEE ว่าเขารู้จัก “เจ้าชายองค์หนึ่งที่แลกเปลี่ยนเอกสารและบทความกับผมเสมอ” “จดหมายฉบับนี้ไม่ได้ถูกส่งเวียน” จามาล คาชอกกี ผู้จัดการทั่วไปของโทรทัศน์ Al Arab กล่าว

    Source Game of Thrones a-la-Gulf: Saudi royal said to be calling to family members to replace king — RT News


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    เกมชิงบัลลังก์ในกลุ่มประเทศอ่าว : ราชวงศ์ซาอุดี้ฯ จะเรียกสมาชิกราชวงศ์เพื่อเปลี่ยนตัวก
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจาะเส้นทางต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดที่ มินา โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 28, 2015

    [​IMG]

    [​IMG]

    irinn – การปักหลักขงกองกำลังรักษาความปลอดพิเศษของซาอุดิอาระเบีย ในเส้นทางของผู้แสวงบุญ และการปิดกั้นทาง เป็นสาเหตุหลักของความแออัดและเบียดเสียด ทำให้ผู้แสวงบุญนับร้อยคนเสียชีวิต

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน ซึ่งตรงกับวันอีด อัฏฮา ได้มีผู้แสวงบุญจำนวนนับร้อยคนเสียชีวิตในช่วงเทศการประกอบพิธีทางศาสนา

    [​IMG]

    เหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นในเวลา 9:00 น ตามเวลาท้องถิ่น บรรดาผู้แสวงบุญจำนวนมากที่อยู่ในมินาหลั่งไหลสู่ ญามารอต เพื่อประกอบพิธีขว้างป่าหินตามหลักการศาสนา โดยบรรดาผู้แสวงบุญเหล่านี้ มาบรรจบกันที่ถนนเส้นสาย 204 และ 223 และจากความแออัดและเบียดเสียดของผู้แสวงบุญ ทำให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตเกือบพันคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

    محل حادثه مکهทางการซาอุดิอาระเบีย ได้ลงจำนวนโควตาของผู้แสวงบุญเนื่องจากกำลังดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายบริเวณมัสยิด อัลฮะรอม โดยรับผู้แสวงบุญในปีนี้เพียงแค่ 1.5 ล้านกว่าคน

    หากพิจารณาจากจำนวนผู้แสวงบุญแล้ว ในปีนี้ยอดผู้แสวงบุญน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมา แต่ทว่า ผู้แสวงบุญนับพันคนกลับต้องเบียดกันเนื่องจากความแออัดและเบียดเสียด ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้

    مسیر حجاج در مناข่าวและภาพของสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าซาอุฯ ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกเหนือจากกองกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่พิเศษของกรมกิจกรรมฮัจญ์ แล้ว ยังมีกองกำลังพิเศษจากกองทัพ ที่ถูกส่งไปประจำการ ตามคำสั่งของ มุฮัมมัด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย

    مسیر منا 3ผู้ปกครอง(มกุฎราชกุมาร) คนใหม่ของราชวงศ์ซาอุฯ หลังจากที่รอคอยวันเวลานับปี เพื่อได้มาซึ่งอำนาจและบัลลังก์ ตามการยืนยันของบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองโลก ผู้ปกครองคนใหม่นี้ขาดประสบการณ์และมีความเต้นตื่น มีความทะยอทะยานอย่างสูงที่จะแสดงอำนาจให้เห็น และอีกด้านหนึ่งเนื่องจากรู้จักกลุ่มก่อการร้ายซึ่งเป็นกลุ่มที่ตนเองให้การสนับสนุนขึ้นมาเป็นอย่างดีนั้น จึงมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพิธีฮัจญ์ปีนี้

    شاهزاده ولیعهد سعودیการปรากฏตัวของกองกำลังพิเศษ และทหารตามจุดต่างๆของเมืองมักกะฮ์ โดยเฉพาะตามเส้นทางต่างๆนั้น เห็นได้อย่างชัดเจน นอกเหนือจากสร้างความลำบากให้กับผู้แสวงบุญแล้ว ยังสร้างความลำบากให้กับพลเมืองมักกะฮ์อีกด้วย โดยที่พลเมืองเหล่านี้แสดงความไม่พอใจและโพสตภาพต่างๆเหล่านี้กันอย่างแพร่หลายในสื่อโลกออนไลน์

    ในวันอีดกุรอาน มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นตามเส้นทางหลักต่างๆของบรรดาผู้แสวงบุญ อีกทั้งเส้นทางย่อยก็ถูกปิด ขณะที่กองกำลังติดอาวุธ ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบนถนนเส้นทางทั้งสองฝั่ง ทำให้การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญช้าลงและถูกจำกัดพื้นที่มากขึ้น

    سربازان سعودیการตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ทำให้เกิดความแออัดของผู้แสวงบุญในเส้นทางสาย 204 เพิ่มสูงขึ้น และจากจุดนั้น การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญ ในช่วงระยะทางอีกหนึ่งร้อยเมตร ก่อนถึงสะพานฟะฮัด เริ่มช้าลง และไม่มีเส้นทางอื่นที่ใกล้กับเส้นทางนี้ ในช่วงนี้เอง ในเวลารุ่งเช้าของวันพฤหัสบดี บนเส้นทาง 204 ก็เต็มและแออัดไปด้วยผู้แสวงบุญตลอดสาย และยิ่งเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆๆ

    และอีกด้านหนึ่ง ยังมีผู้แสวงบุญที่กำลังเดินบนเส้นทางสาย 223 ก็ได้มาบรรจบที่ถนนเส้นสาย 204 ทำให้ผู้แสวงบุญเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว

    ในสภาวะเช่นนี้ กองกำลังรักษาความปลอดภัยซาอุดิอาระเบีย ยังปิดเส้นทางย่อยอีก และเส้นทางหลัก เส้นสาย 215 ของบรรดาผู้แสวงบุญ ก็ถูกปิดด้วย เพื่อรักษาความปลอดภัย ตึกอาคารความมั่นคง และทหาร จากภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น โดยที่ เส้นสาย 215 จะไปออกที่ถนน เซากุล อาหรับ ซึ่งบนถนนดังกล่าวมี สองสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งกองกำลังความมั่นคงไม่ต้องการให้ผู้คนและผู้แสวงบุญจำนวนมากเดินผ่านไปมาผ่านเส้นทางนี้

    หลังจากวางมาตรการดังกล่าวแล้ว การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญก็เริ่มช้าลง และแล้วต้องมาหยุดชะงัก ใกล้กับสะพานฟะฮัด ขณะเดียวกันคลื่นของผู้แสวงบุญก็หลั่งไหลและทยอยเดินข้างหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดความชุลมุนแออัดและเบียดเสียดขึ้น …. แหละแล้วเหตุโศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดก็ได้เกิดขึ้น

    نقشه مکهบรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในเขตเมือง เผยว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้

    ประเด็นที่น่าสนใจในที่นี้ คือ เหตุใดทางการซาอุดิอาระเบีย ต้องปิดเส้นทางสาย 223 204 และ 215 ….. ?????

    Error Page


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    เจาะเส้นทางต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดที่ มินา | abnewstoday
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไปกันใหญ่! นักการศาสนาซาอุ ชี้ ผู้แสวงบุญเจตนาฆ่าตัวตาย และถือเป็นกำหนดจากพระเจ้า “อยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์” โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ย. 27, 2015

    [​IMG]

    นักการศาสนาระดับมุฟตีซาอุฯ ไม่ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอันเศร้าสลด ที่มินา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหนึ่งพันกว่าคน พร้อมกับพยายามปกป้องและปกปิดความผิดของเจ้าหน้าที่ซาอุในการดูแลรักษาความปลอดภัยผู้แสวงบุญ โดยโยนความผิดว่า บรรดาผู้แสวงบุญเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้

    tasnimnews – ชัยค์ อับดุลอาซิส อาลี ชัยค์ นักการศาสนา (มุฟตี) ใหญ่ของราชสำนักซาอุดิอาระเบีย ได้ใช้สำนวน “ฆ่าตัวตาย” สำหรับผู้แสวงบุญต่อเหตุการณ์อันเศร้าสลดที่มินา พร้อมกับย้ำว่า การเจตนาฆ่าตัวตายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ นั้น คือการฆ่าตัวตาย

    ชัยค์ อับดุลอาซิส อาลี ชัยค์ มุฟตีย์ใหญ่ของราชสำนักซาอุดิอาระเบีย เลี่ยงการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันกลับถือว่า บรรดาผู้แสวงบุญต่างหากที่เป็นคนผิดอันเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเช่นนี้
    มุฟตีย์ ซาอุฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือ “อักกาซ” ซาอุดิอาระเบีย ว่า บรรดาผู้แสวงบุญและหน่วยงานฮัจญ์ต่างๆ ควรเคารพกฎระเบียบที่ซาอุได้กำหนดวาง

    เขากล่าวเสริมว่า การไม่เคารพในกฎระเบียบดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่เลวร้าย และก่อให้เกิดภัยอันตรายออันใหญ่หลวง
    มุฟตีย์ ซาอุฯ พยายามจะปกป้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฮัจญ์ซาอุ ว่า ผู้แสวงบุญบางคนเจตนาที่จะฆ่าตายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีความเชื่อว่า การตายในสถานที่ดังกล่าวจะมีผลบุญมหาศาล บุคคลที่คิดเช่นนี้ ถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะการตายเช่นนี้ คือการฆ่าตัวตาย และผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการตายอย่างเจตนาครั้งนี้นั้น ถือว่าเขาฆ่าตัวเขาเอง

    มุฟตีย์แห่งราชสำนัก ได้แสดงปฏิกิริยา ต่อกระแสข่าวโลกที่มีการตำหนิการบริหารจัดการที่ไม่ดีของซาอุดิอาระเบีย ที่เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่า พวกเขาเหล่านี้ (บรรดาผู้ตำหนิ) มีความอิจฉาริษยาและอคติ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น คือกฎกำหนดสภาวะ (กอดอ กอดัร) ของพระองค์ และไม่ใช่เกิดจากความแออัดของผู้แสวงบุญ

    เขากล่าวเสริมว่า บรรดาเจ้าหน้าที่มีความพยายามอย่างสุดคามสามารถเพื่อสกัดไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่พวก (ตำหนิ) คือพวกที่มีโรค ซึ่งมันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบีย และความพยายามของเขา


    خبرگزاری بین المللی تسنیم - مفتی دربار سعودی: حجاج عمداً مُردند؛ منتقدان حسود و کینه‌توزند!


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ไปกันใหญ่! นักการศาสนาซาอุ ชี้ ผู้แสวงบุญเจตนาฆ่าตัวตาย และถือเป็นกำหนดจากพระเจ้า “อยู่
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc ได้แชร์รูปภาพของ Euro-Med Seismological Centre (EMSC)

    [​IMG]

    อย่าพลาด จันทคราสคืนนี้! ครั้งหน้าปี 2033!
    Don't miss the lunar eclipse tonight ! The next one will be in 2033 !
     

แชร์หน้านี้

Loading...