ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ธรรม 3 ประการ

    ปัญหา ธรรม 3 ประการ เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้ เป็นไปทั้งเพื่อเบียดเบียนตนเอง
    เป็นไปทั้งเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น เป็นไปทั้งเพื่อเบียดเบียนตนและคนอื่นทั้งสองฝ่าย ธรรม
    ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายทุจริต ๑ วจีทุจริต ๑ มโนทุจริต ๑ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้แล เป็นไปทั้งเพื่อเบียดเบียนตนเอง เป็นไปทั้ง
    เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น เป็นไปทั้งเพื่อเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้ ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเอง ไม่เป็นไป
    เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนและคนอื่นทั้งสองฝ่ายธรรม ๓ ประการ
    เป็นไฉน คือ กายสุจริต ๑ วจีสุจริต ๑ มโนสุจริต ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้แล ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเอง ไม่เป็น
    ไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนและคนอื่นทั้งสองฝ่าย ฯ"

    อัตตสูตร ติก. อํ. (๔๕๖)
    ตบ. ๒๐ : ๑๔๔ ตท. ๒๐ : ๑๓๐
    ตอ. G.S. ๑ : ๙๙

    ขอขอบคุณ =>[​IMG]<!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    อินทรีย์ ๕ อย่างไหนสำคัญที่สุด

    ปัญหา ในบรรดาอินทรีย์ ๕ คือ สัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา อย่างไหนสำคัญที่สุด ?

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเรือนยอดเมื่อขายังไม่ได้ยกยอดขึ้น
    กลอนเรือนก็ยังถือว่ามั่นคงไม่ได้ เมื่อใดเขายกยอดขึ้นแล้ว เมื่อนั้นกลอนเรือนจึงถือได้ว่ามั่นคงฉันใด
    อริยญาณยังไม่เกิดขึ้นแก่อริยสาวกเพียงใด อินทรีย์ ๔ คือ สัทธินทรีย์ ๑ วิริยินทรีย์ ๑ สตินทรีย์ ๑ สมาธินทรีย์ ๑
    ก็ยังไม่ตั้งมั่นคงลงเพียงนั้น เมื่อใดอริยญาณเกิดขึ้นแล้วแก่อริยสาวกเมื่อนั้นอินทรีย์ก็ตั้งมั่นลงฉันนั้นเหมือนกัน

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัทธา วิริยะ สติ สมาธิ อันไปตามปัญญาของอริยสาวกผู้มีปัญญาย่อมตั้งมั่น
    มัลลกสูตร มหา. สํ. (๑๐๒๙ )
    ตบ. ๑๙ : ๓๐๒ ตท. ๑๙ : ๒๘๕
    ตอ. K.S. ๕ : ๒๐๓-๒๐๔

    ขอขอบคุณ =>[​IMG]
     
  3. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    รายงานความคืบหน้าอาการพี่พันวฤทธิ์ เมื่อวันจันทร์พี่นายสติ ได้ไปเยี่ยมพี่พันวฤทธิ์ที่โรงพยาบาลจุฬา อาการดีขึ้นมาก ที่ยังไม่กลับบ้านเพราะว่าต้องการพักฟื้น ในห้องที่ปลอดเชื้อโรค ในช่วงแรกหลังผ่าตัด ได้รับรู้มาว่าพี่พันวฤทธิ์ช่วงนี้ใช้ ตัวทุกขเวทนาของธาตุขันธ์ เป็นตัวช่วยให้การภาวนาได้ดีมาก มีจิตใจแจ่มใสดียิ่ง กลับบ้านเมื่อไรคงได้เจอกันในกระทู้ครับ


     
  4. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
     
  5. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 ก.พ.51) ได้ฝากเงินกับคุณสติ ร่วมทำบุญกับทางทุนนิธิ จำนวน 500 บาทค่ะ
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  6. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]บูชาพระธาตุ[/FONT]​
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]พระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นปูชนียวัตถุที่ทรงด้วยคุณค่า ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และศาสนา ทั้งยังเป็นสิ่งที่สูงค่า ควรแก่การเคารพบูชาอย่างสูงสุด หากท่านผู้ใดมี หรือเก็บรักษาไว้ ขอให้ท่านจงเก็บรักษาและบูชาด้วยความเคารพ เนื่องจากพระบรมสารีริกธาตุนั้นหาได้ยาก และยังเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดในไตรภพที่มนุษย์และเทวดาพึงสักการะ[/FONT]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="30%">[FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC][​IMG][/FONT]</TD><TD vAlign=top width="70%">[FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]วิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]การจะบูชาพระบรมสารีริกธาตุนั้นก่อนอื่นต้องชำระล้างร่างกาย ทำจิตใจ ให้สะอาดผ่องใส จัดหาดอกมะลิใส่ภาชนะบูชา ตั้งสักการะ ณ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ[/FONT] [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]แล้วจุดธูปและเทียน ตั้งใจให้เป็นสมาธิ กราบ 3 ครั้ง แล้วจึงตั้งนะโม 3 จบ กล่าวคำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]คำกล่าวบูชาพระบรมสารีริกธาตุ มีอยู่มากมายทั้งภาษาบาลี และภาษาไทย แต่ที่พบเห็นกันอยู่โดยทั่วไป และกระทำได้โดยง่ายนั้นคือ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]คำกล่าวพรรณนาพระบรมสารีริกธาตุ [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]" อะหัง วันทามิ ทูระโต [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]อะหัง วันทามิ ธาตุโย[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]อะหัง วันทามิ สัพพะโส "[/FONT]​
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]*คำกล่าวอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ก็สามารถนำมาใช้กล่าวบูชาได้เช่นกัน*[/FONT]​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]การบูชาพระธาตุนั้น นอกเหนือจากการบูชาด้วย "อามิสบูชา" เช่น การบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน และ เครื่องหอมต่างๆแล้ว การบูชาด้วยการ "ปฏิบัติบูชา" ซึ่งเป็นวิธีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ เป็นอีกวิธีการหนึ่ง ที่นิยมปฏิบัติควบคู่ไปด้วย ในการบูชาซึ่งพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุทั้งหลาย โดยทั่วไปนิยมปฏิบัติตามแนวอริยมรรค 8 ประการ สรุปโดยย่อได้แก่[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]1. การบูชาด้วยศีล[/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC] ซึ่งศีลเป็นพื้นฐานและเป็นที่ตั้งมั่นแห่งการทำความดี เป็นเกราะป้องกันความชั่วทั้งปวง ไม่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ทำให้เกิดความพร้อมต่อการปฏิบัติสมาธิ (สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ) [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]2. การบูชาด้วยสมาธิ ซึ่งการสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิ ดูลมหายใจเข้า-ออก เป็นการฝึกความเข้มแข็งของจิต ให้มีกำลังในการพิจารณาหลักธรรมต่างๆได้ตามความเป็นจริง (สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]3. การบูชาด้วยปัญญา[/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC] คือการใช้ปัญญาพิจารณาหลักความเป็นจริง ตามหลักไตรลักษณ์ (สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ) [/FONT]




    <TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=1 cellPadding=10 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD borderColor=#ffffff bgColor=#f2f2f2>[FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]นอกจากนี้ การบูชาพระธาตุยังได้ประโยชน์ ในด้านเป็นอนุสติ 10 อีกด้วย ดังนี้คือ[/FONT]

    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]พุทธานุสติ คือ การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า (พระบรมสารีริกธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]ธัมมานุสสติ คือ การระลึกถึงคุณของพระธรรม (ธรรมที่ทำให้อัฐิกลายเป็นพระธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]สังฆานุสสติ คือ การระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ (พระสงฆ์สาวกธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]สีลานุสสติ คือ การระลึกถึงศีลของตน (ผลของศีลที่ทำให้อัฐิกลายเป็นพระธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]จาคานุสติ คือ การระลึกถึงทานของตน (ผลของทานที่ทำให้อัฐิกลายเป็นพระธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เทวตานุสสติ คือ การระลึกถึงคุณที่ทำบุคคลให้เป็นเทวดา [/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC](เทวดารักษาพระธาตุ)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]มรณานุสสติ คือ การระลึกถึงความตายที่จะมาถึงตน [/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC](แม้พระอริยเจ้าก็ต้องตาย)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]กายคตาสติ คือ ระลึกทั่วไปในกาย ให้เห็นว่าไม่งาม น่าเกลียด [/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC](เมื่อตายแล้วก็เหลือเพียงกระดูก)[/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]อานาปานสติ คือ การระลึกถึงสติกำหนดลมหายใจเข้าออก (ผลของสมาธิ[/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC]ที่ทำให้อัฐิกลายเป็นพระธาต[/FONT]ุ[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]) [/FONT]
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]อุปสมานุสสติ คือ การระลึกถึงคุณพระนิพพาน [/FONT][FONT=MS Sans Serif, BrowalliaUPC](แดนพระนิพพานที่พระอริยเจ้าได้ก้าวล่วง)[/FONT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE><HR width="35%" noShade>ขอขอบคุณ ที่มา => [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2008
  7. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    สัตตมหาสถาน อันดับที่4 รัตนฆรเจดีย์

    เป็นสถานที่พระพุทธองค์เสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่4 เทวดาทั้งหลายเนรมิต เรือนแก้ว ทางทิศพายัพจากศรีมหาโพธิ์ถวายพระพุทธองค์ ทรงนั่งขัดสมาธิเพ็ชร พิจารณาพระอภิธรรมปิฎก และ สมันตปัฏฐานอนันตนัย ซึ่งมีนัยไม่สิ้นสุดในพระอภิธรรมนั้น โดยพิสดาร ทรงปฏิบัติเช่นนี้ตลอด 7 วัน ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ณ สถานที่นี้ตลอด 7 วัน จึงได้ชื่อว่า รัตนฆรเจดีย์

    สัตตมหาสถาน อันดับที่5 ต้นอชปาลนิโครธ

    ในสัปดาห์ที่ 5 พระพุทธองค์ประทับ ณ ควงต้นไทร มีชื่อว่า อชปาลนิโครธ ทรงตรึกถึงบุคคลผู้สมควรฟังธรรมคำสอน ณ ที่แห่งนี้เกิดคำอุปมาแห่งบุคคล เหมือนบัว 4 เหล่า และท้าวสหัมบดีพรหมกราบทูลอาราธนาแสดงธรรม และต้นไทรนี้เป็นที่เดียวกับที่ นางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาสก่อนตรัสรู้
     
  8. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    สัตตมหาสถาน อันดับที่ 6 สระมุจลินทร์

    ทรงประทับเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ 6 ทรงประทับใต้โคนไม้มุจลินทร์ เกิดพายุเมฆฝน ตกพรำตลอด7วัน พระยามุจลินทนาคราช ได้แผ่พังพาน และขดรอบพระพุทธองค์ 7 รอบ เพื่อป้องกันความหนาวเย็นและฝนไม่ให้ตกต้องพระองค์ เมื่อฝนหยุดแล้ว พระยามุจลินทนาคราช แปลงเป็นมานพหนุ่ม ถวายนมัสการ ณ เบื้องพระพักตร์ พระองค์ทรงเปล่งพระวาจาว่า ความสงัดเป็นสุขของบุคคลผู้สันโดษ ผู้มีธรรมปรากฏแล้ว ผู้เห็นอยู่ ความไม่เบียดเบียน คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก
    [​IMG]

    ภาพสระมุจลินทร์จำลองที่อยู่บริเวณ เจดีย์มหาโพธิ์ สระจริงอยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร จากศรีมหาโพธิ์ เห็นธงติดโดยรอบเป็นของชาวธิเบต ติดบูชาพระพุทธองค์ ภายในธงมีภาพเทพฝ่ายมหายานและคาถา ยันต์ เห็นแล้วนึกถึง พิธีเสกจตุคามของบ้านเรา
     
  9. คุณแดง

    คุณแดง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอให้พันวฤทธิ์ หายวันหายคืนนะคะ
     
  10. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    พระภายในใจ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย

    [​IMG]

    อธิษฐานจิต สัจจะบารมี
    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย
    วัดถ้ำผาจม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
    ณ ศาลากาญจนาภิเษก ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓
    โพสท์ในลานธรรมเสวนาโดยคุณ : deedi [ 24 ก.ค. 2543]
    ฟังเทศน์ คือ ฟังเก็บ ห้ามฟังกลับ คือกายฟังแต่ใจกลับไปบ้านก็ไม่ได้อะไรนัก
    ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา พระคุณเจ้าทั้งหลายอธิษฐานเข้าพรรษา๓ เดือน ไม่ไปพักแรมที่อื่นเกิน ๗ วัน ต้องมีกิจนิมนต์จึงจะไปได้เป็นฤดูกาลที่พระพุทธองค์ให้พระภิกษุทั้งหลายได้มีเวลาบำเพ็ญบุญบารมีให้ยิ่งขึ้น
    เราทุกคนก็แก่ไปอีก ๑ ปีแล้วจากวันเข้าพรรษาปีที่แล้ว ต้องขอบคุณมัจจุมาร (มารคือความตาย - deedi) ยังเปิดเวลาให้เราได้บำเพ็ญบุญบารมีต่อ ความดีก็ควรเข้มข้นขึ้นทุกเวลา เพราะความแก่ชรากินเราอยู่ทุกเวลา เนื้อหนัง หูตา ผมเผ้า
    จึงควรเร่งอธิษฐานจิต สร้างอธิษฐานบารมี สัจจะบารมีให้ยิ่งๆอธิษฐานสร้างความดี เช่น อธิษฐานตอนตื่นว่า วันนี้จะขอทำดีคิดดี พูดดี ให้มีความดี ๓ อย่างอยู่ในใจ ก่อนนอนก็อธิษฐานว่าจะนอนไปกับความดี นอนกับสติ นอนกับศีลธรรม จรรยา ไม่นอนกับกิเลสตัณหา นอนกับพุทโธ หลับกับบุญ ความดีของเรา หลับกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    การที่ กลางคืนฝัน กลางวันคิด นั้น เป็นเจตสิกตัวเดียวกัน เป็นเหตุแห่งความเกิดในพระพุทธศาสนา
    ดังนั้น ให้เอาปัจจุบันเป็นเครื่องดู หลับก็หลับกับความดี ตื่นมาก็สร้างอธิษฐานบารมี ใส่บาตรทุกวัน ใส่แล้วอย่าไปห่วงว่าพระจริงหรือพระปลอม ให้แล้วก็คือการให้ = ทำแล้วก็ให้สบายใจ ถ้าไม่สบายใจ ก็ยังไม่ใช่ความดี ไม่นั่งเพ่งคนนั้นคนนี้ ควบคุมกาย วาจา ใจ ของเราให้อยู่ นั่นคือผู้ปฏิบัติธรรม
    พุทโธ คือ ผู้มีสติอย่างสมบูรณ์ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน"สวดมนต์เหมือนยาทา ภาวนาเหมือนยากิน" ให้จิตติดธรรมไว้ก่อน ประเภทถ้าไม่ได้ทำแล้วจะนอนไม่หลับ อยู่ในรถ ขายของอยู่ ก็สวดมนต์ได้ทั้งสิ้น บางคนก็อาจอธิษฐานใจรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ตลอด ๓ เดือนเข้าพรรษา
    ครูทั้ง ๖ อยู่กับเราตลอดเวลา คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ สุขทุกข์จริงๆ ก็อยู่ตรงอาจารย์ทั้งหกนี้เอง และที่สุดก็อยู่ที่ใจ
    ถ้าจิตอยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็เป็น จิตสูงถ้าจิตอยู่กับกิเลส ก็เป็น จิตต่ำ
    ถ้าอยู่สูง ไฟอะไรมาเผาก็ไม่ได้ ใครจะมาจองกรรมจองเวรอะไรก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรให้เผา เช่นฟืนคิดจะเผาท้องฟ้า ฟืนนั้นก็ย่อมเผาตัวเองแทน ในทางตรงกันข้าม เราไปทำใครที่จิตนิ่งจิตสูง ทั้งหมดนั้นก็มาโดนเราเอาหมดเหมือนกัน
    ดังนั้น ใครอยากจะรักษาความดี หากใครมาว่าอะไร ก็เงียบโปร่งๆ ว่างๆ เฉยๆ เสีย
    ทุกอย่างเป็นครูเรา คนรอบตัวก็ครูเรา และขันธ์ห้า คือครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา
    ความแก่เป็นทุกข์ ไม่มีใครอยากแก่ ถ้าเป็นของเราจริง(กายนี้ - deedi) จะไม่มีใครอยากแก่ แก่ๆ นี่แม้นั่งเฉยๆ ก็เจ็บ
    ดังนั้น อธิษฐานให้จิตอยู่กับกายตลอดพรรษา ตั้งอธิษฐานบารมีสัจจะบารมี ว่าสิ่งใดที่เราละไม่ได้ เราจะละให้ได้ ใครที่วิ่งตามโลกคนนั้นจะมีแต่ความทุกข์ ให้ดูจริตของเราเอง เราจริตแบบไหนก็พยายามละแบบนั้น
    "ความชั่วคนชั่วทำง่าย ความดีคนชั่วทำยากความดีคนดีทำง่าย ความชั่วคนดีทำยาก"
    โมหะ เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะความหลงในตัวของเราเอง ที่แท้ทุกอย่างคือสมบัติของโลก ที่จะไปกับเราจริงๆ นั้นก็มีแต่ความดีความชั่วเท่านั้น ชีวิตไม่ใช่ของเล่น จึงจำเป็นต้องพยายามประคับประคองให้ไปได้ดี
    ตั้งใจที่จะเกิดมาเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เวลาปัจจุบันสำคัญที่สุด สร้างพระในใจ พระทางกายไม่สำคัญเท่าไหร่ เราทั้งหลายเป็นพระได้ ใจไม่มีหญิงชาย
    คนมีบุญ ใจเย็น พระใจเย็น คนมีบาปใจร้อน
    ถ้าเราไปศรีธัญญา เราจะเป็นอย่างเค้ามั้ย ก็ไม่เป็น ดังนั้น เราดูเฉยๆ ทำใจให้อยู่เหนือโลก เหนือทุกอย่าง เรียกว่าดูอย่างผู้มีปัญญา ไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าอีกแล้ว ยกจิตยกใจให้เหนือซะ สงสารตัวเองบ้าง อย่ามัวแต่ไปสงสารคนอื่น
    ทุกข์อยู่ที่อุปาทาน นั่นเอง เพราะจิตไปยึดมั่นถือมั่นจึงเป็นทุกข์
    พระคุณเจ้าขอบิณฑบาต ขอจงปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นอย่าถือเขาถือเรา ลดมานะ ลดทิฏฐิ
    อย่ายึด อธิษฐานจิตว่า ปล่อยวางๆๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กุมภาพันธ์ 2008
  11. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้มีผู้ใจบุญ นำน้ำนมถั่วเหลืองจำนวน 2 ลังใหญ่ มามอบให้ผมที่บ้านไว้สำหรับถวายพระสงฆ์อาพาธในวันที่17 กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลสงฆ์ ไว้ได้ชื่อจริงท่านนี้ จะมาบอกให้โมทนากันครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  12. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    ผู้ใจบุญท่านนี้คือเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ อมรชัย ตั้งอยู่แถวรังสิต ได้รับรู้ข่าวบุญกับสงฆ์อาพาธ ไม่รีรอให้ลูกน้องที่ร้านนำน้ำนมถั่วเหลือง จำนวน 72 กล่อง มาฝากถวายพระในวันที่ 17กุมภาพันธ์นี้ครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  13. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้ผมได้จัดส่งพระที่ค้างไว้ ให้กับท่านที่แจ้งความประสงค์ดังนี้ครับ
    คุณ พศิกาตาลจักร
    คุณ เทพารักษ์
    คุณ แดง
    คุณ นายเหมี่ยวๆ
    คุณ natta_pea
    คุณ nathaphat
    คุณ khunsa
    คุณ choke_mu7
    คุณ kittipongc
    คุณ cococo
    คุณ submit
    คุณ littlelucky
    คุณ active
    คุณ 16

    รายชื่อท่านใดตกหล่นแจ้งมาที่pmโสระได้ครับ ท่านใดได้รับพระแล้วชำรุดแจ้งมาได้เช่นกัน พระชุดนี้ใกล้หมดเต็มที่ คงไม่สามารถแจกได้อีก

    วันนี้สบายใจครับ เสร็จเรื่องแจกพระไปอีกหนึ่งงาน ที่ตั้งใจทำเป็น พุทธบูชา และ พุทธานุสติ ให้กับทุกท่านที่ได้รับพระไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กุมภาพันธ์ 2008
  14. natta_pea

    natta_pea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,515
    วันนี้ได้โอนทาง ATM
     
  15. natta_pea

    natta_pea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,515
    วันนี้ได้โอนเงินทาง ATM ร่วมทำบุญ จำนวน 200 บาท ครับ
    เข้าบัญชีเลขที่ 3481232459 เวลา 13.11 น.
     
  16. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +4,291
    กราบขอบพระคุณและโมทนาในบุญที่ทุกท่านได้บริจาคและเสียสละทรัพย์ของทุกๆท่านมาให้กับทุนนิธิฯนี้
    สาธุ สาธุ สาธุ และต้องขอประทานโทษด้วยนะครับที่โมทนาบุญช้าไปหน่อยเพราะช่วงนี้ติดภาระกิจค่อนข้างมาก ผมของแจกแจงเงินที่มีผู้บริจาคมาทั้งโอนผ่านธนาคารและฝากเงินมาทำบุญกับผมดังนี้

    4 ก.พ. 2551 คุณ MEA 300 บาท
    คุณ ดิเรก ศรีเจริญ 500 บาท
    คุณ จุฬาภรณ์ วิสุทธิ์ 100 บาท

    5 ก.พ. 2551 คุณ อนุพงษ์ สงวนทรัพยากร 1000 บาท
    คุณ Kratium 500 บาท
    คุณ สุรีย์ วจโนภาสแครอบครัว 500 บาท
    คุณ เยาวภา แซ่ฉิ้น 100 บาท

    6 ก.พ. 2551 ไม่ทราบนาม 500 บาท

    7 ก.พ. 2551 คุณ อิทธิพัทธ์ + คุณ โชติรส 1000 บาท
    คุณ สุรีย์ วจโนภาสแครอบครัว 500 บาท


    สรุปยอดเงินบริจากตอนนี้ 44,291.32 บาท

    ขอให้ทุกท่านได้ร่วมกันโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยนะครับ

    โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2008
  17. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +4,291

    กราบขอบพระคุณและโมทนาในบุญด้วยครับ
    คุณ natta_pea ถ้ามีเวลาว่างก็ขอเรียนเชิญ
    ไปร่วมงานบุญกันในวันที่ 17 ก.พ. 2551 นี้
    ด้วยกันนะครับ
    โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อเช้ามีโอกาสได้พูดคุยกัน รู้สึกยินดีด้วยครับที่ได้รับชีวิตใหม่อีกครั้ง ผู้ให้"ไตคู่นี้" น่าจะได้รับอานิสงค์มากเพราะหากทราบว่าได้มอบอวัยวะของเขาให้กับผู้มีศีลมีธรรม อย่างน้อยก็ได้รับการแผ่อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลจากคุณพันวฤทธิ์ทุกครั้งที่ทำบุญทั้งทาน ศีล ภาวนาครับ..

    ขอโมทนาสาธุ
     
  19. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    สัตตมหาสถาน อันดับที่ 7 ต้นราชายตนะ

    ในสัปดาห์ที่7 ของการเสวยวิมุตติสุข ณ ควงไม้ราชายตนะ ได้มีพ่อค้า 2 คนชื่อ ตปุสสะ และ ภัลลิกะ นำเกวียนบรรทุกสินค้าเดินทางมาถึงที่ประทับ เกิดความเลื่อมใส พากันเข้าเฝ้าถวายข้าว สัตตุ ชนิดก้อน และ ผง

    พระพุทธองค์ดำริว่า พระตถาคตทั้งหลายย่อมไม่รับด้วยมือ ท้าวเทวราชทั้ง4ทรงนำบาตรศิลา4ใบ อธิษฐานให้เป็นใบเดียว รับข้าวสัตตุก้อนและผง จากนั้นพ่อค้าทั้งสอง ประกาศตนเป็นอุบาสก ขอถึงซึ่งพระพุทธ และ พระธรรม เป็นสรณะตลอดชีวิต พระพุทธองค์ทรงลูบพระเศียร พระเกสาติดที่พระหัตถ์ ประทานให้วานิชทั้งสอง

    เมื่อสิ้นสุด 49 วันพระองค์ทรงเสด็จกลับไปประทับ ณ ต้นอชปาลนิโครธอีกครั้ง
     
  20. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886

    สรุปยอดเงินบริจากตอนนี้ 44,291.32 บาท

    โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

    นับจากวันที่ทำบุญครั้งล่าสุด 27 มกราคม จนถึงวันนี้7กุมภาพันธ์เพียง 11วัน ยอดเงินทำบุญกลับขึ้นมามากกว่าเดิมถึง หมื่นกว่าบาท

    นับว่าเป็นกระแสของบุญ ของกุศล ที่ไหลมาแบบสายฝน ตกลงทีละเม็ดๆ รวมกันเป็นแม่น้ำ ยังประโยชน์ให้ มหาชนใช้ได้จริง
    เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางคณะทุนนิธิ สงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ที่หวังผลแห่งบุญอันบริสุทธิ์เพื่อบำรุงรักษาสงฆ์อาพาธ อันเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐสุด ดังพุทธโอวาท
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กุมภาพันธ์ 2008

แชร์หน้านี้

Loading...