ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

..........
..................ครบตามกติกา.......
...
...ต่อตามที่ขอ(ผู้ขอ...เด็กบ่อผุด..หลานเขม..STONE1..เฉียวฟงหลานรัก..และ..น้องพรหมณี..)
.....
...............อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า...ปรอทที่มีมาในโลกนี้..ที่เราพบกันในธรรมชาติ
เกือบทั้งหมด..มาจาก..หินซินนาบาร์...ในยุคก่อน..จะมีการปฎิวัติอุตสาหกรรมเมื่อเกือบ
๒๐๐ ปี..มาแล้ว...เราจะพบ..ที่มันอยู่ที่อื่น..ในดิน..ในอากาศ..ในทะเล..ในแหล่งน้ำนั้น
มันก็เพราะ..มันถูกบังคับให้แยกตัวออกมา..ไม่ใช่มันหนีออกไปเอง....
.....หินซินนาบาร์..นั้นเกิดมา..ได้หลายร้อยล้านปี..จากใต้เปลือกโลก..ด้วยอุณหภูมิ..
ความกดดันที่สูง..และ..สภาพพอเหมาะ..ทำให้..โมเลกุลของปรอท..จับตัวกับ..โมเลกุล
ของกำมะถัน...แล้วก็เกิดเป็นสภาพผลึกเล็กๆแต่..ในบางที่..ก็เกิดสภาพที่เหมาะสมกว่า
เกิดผลึก..ของมันเดี่ยวๆ..เป็นขนาดใหญ่กว่า...ผลึกเล็กๆนั้นถูกสภาวะอัดตัวกัน..กลาย
เป็น..ก้อนหิน...
...........โดยเนื้อแท้แล้ว..ถ้าอยู่ในสภาพปกติ..ไม่มีใครไปยุ่งกับมัน..ไม่ได้มีความร้อนสูงๆ
..ไปให้มัน..มันก็จะคงสภาพอยู่อย่างนั้น..ไม่เปลี่ยนแปลง..ปรอท..ก็จะไม่แยกตัวจาก
กำมะถัน..เพราะจริงๆแล้วรูปแบบโครงสร้างที่มันเกาะกัน..เป็นรูปผลึกนั้นแน่นมาก..
.....แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก..และ..เปลือกโลก..ตั้งแต่ยุคโบราณเป็น
หลายๆล้านปีที่ผ่านมา..ไม่ว่า..เปลือกโลกยกขึ้น..ชั้นหินแยกจากกัน..แผ่นดินไหว
..แผ่นดินถล่ม..น้ำกัดเซาะ...อะไรก็ตาม...
.....มันง่ายมากที่..ทำให้..หินซินนาบาร์..แตก..ผลึกเล็กๆกระจัดกระจาย..และทำไห้
ปรอท..ในส่วนที่ผลึกแตกออกมานั้น..แยกจาก..กำมะถัน..และ..เพราะมันสามารถ
เปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอได้..ด้วย..มันเลยกระจัดกระจายไป...
.........เนื่องจากค่าความแข็งของซินนาบาร์นั้น..ต่ำมาก..และ..เปราะ...มีค่าแค่..
...๒-๒.๕...เรียกว่า..แค่เอาเล็บ..กดลงไป..หรือ..ขูดแรงๆมันก็แตก..ได้...
....ดังนั้นในบางส่วนของโลกนี้..มันก็โดนทำลายได้ตลอดเวลา...เช่นแตกลงมา
ตามชั้นหิน..ผิวโผล่สำผัสอากาศ..แค่โดนพายุที่หอบเอาทรายมาด้วย..ทรายนั้น..
ค่าความแข็ง..เป็น ๖-๗(..เพราะส่วนใหญ่เป็นแร่ควอร์ท)..มันก็ขัดผิว..ออกไปได้
..หินส่วนที่หล่นลงไปในน้ำ..ทั้ง..กรวดหรือทราย..ในท้องลำน้ำ..ก็ขัดมันให้มัน
แยกออกไปได้...เรียกว่า..อ่อนแอมาก....
......ในโลกนี้..แหล่งที่พบ..หินซินนาบาร์เป็นล่ำเป็นสันจริงๆ..ถือว่ามีน้อยมาก..
...อาจเป็นเพราะ..ที่อื่นๆมันอาจสลายไปหมด..หรือ..เหลืออยู่น้อย..แบบกระจัดกระจาย
...ที่เมืองจีนนั้น..เป็นแหล่งใหญ่สำคัญ..แหล่งนึง..จนสามารถผลิต..ชาดจอแส..
ไปขาย..เป็นเรื่องเป็นราว...เช่นกันนักธรณีวิทยาก็เข้าใจอยู่แล้วว่า..นี่คือส่วนที่เหลือ
จาก..การที่ถูกธรรมชาติทำลาย..จนป่นไป....ใครไปโง่ดูในตำรา..นึกว่า..ในธรรมชาติ
นั้น..ในเอเซียมีแต่จีน..ก็ผิดถนัด..ในไทยก็มี..หลายประเทศก้มีแต่..มันไม่เป็น..ซินนาบาร์
แล้ว..มันแยกร่าง..เป็น..ปรอท..และ..กำมะถัน..แล้วก็..แทรกไปอยู่ในธรรมชาติ
.......พี่น้อง..๒ คนถูกทำให้แยกจากกัน..แต่พี่ใหญ่ซึ่ง..ผมยกให้เป็น..กำมะถันนั้น..
มีพรรคพวก..อยู่ทั่วโลก..แล้ว..เข้ากับใครก็ได้เกือบหมด..ตั้งแต่เมื่อเริ่มแยก...
..โมเลกุลของมันก็ไปสันดาบ..หรือ..ฟิเจอริ่ง(FEATURING)(..ใช้ภาษาสมัยนี้หน่อย
จะได้เข้าใจง่าย)..กับ..อ็อกซิเจนในอากาศ..หรือ..จะเรียกว่าเกิด..ขบวนการอ้อกซิเดชั่น
..กลายเป็น..SO2..หรือ..แก๊สชัลเฟอร์ไดอ้อกไซด์...หรือ..ไปจู๋จี๋กับ..ความชื้นในอากาศ
..ซึ่ง..มีไฮโดรเจนอยู่..กลายเป็น..ไฮโดรเจนซัลไฟต์..H2S..เป็นต้น....ได้อย่างง่ายๆ
.....ขณะที่น้องชาย..การจะไปรวมอยู่กับใคร..นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย..ต้องมีสภาวะที่เหมาะสม
ทั้งอุณหภูมิ..ความดัน..และอีกหลายอย่างประกอบ..บางทีไปอยู่กับเขาได้..ก็ไม่เสถียร..
..และ..พร้อมจะเด้งชิ่ง..ออกมา..เรียกว่าธาตุสัมพันธุ์ไม่ค่อยดี..ชอบแต่มุด....

........ต่อเมื่อขอมา.......

 

สวัดดีครับคุณลุง บรรยายได้เห็นภาพมาก มีโอกาศเข้ามาอ่านย้อนหลัง ทำให้รู้ว่า

ปรอทที่แท้มาจากแร่ชนิดนี้เอง เห็นพวกที่ขายของส่วนใหญ่มักจะบอกว่าดักปรอทมาจากศพ

บ้าง ในป่าช้าบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครบอกซักทีว่า ต้นทางของปรอทมาจากไหน

 

ปรอทธาตุมหัศจรรย์ทราบแต่เพียงว่าเป็นอมัลกัมอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ และอีกอย่างก็คือปรอทวัดไข้....มีในเวบพลังจิตที่เขาบอกว่าดักปรอทมาจากฝั่งลาวเป็นปรอทพรหม...ปรอทหมอกที่อยู่ในอากาศก็สามารถดักออกมาได้....แท้จริงแล้วปรอทมันอยู่แถวไหนกันแน่คะ

 

....................................
...ถ้าน้องณีอยากอ่านเรื่องของพี่ต่อ..ก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องแบบนี้...เพราะ.."ปรอท"..ในความหมายของพี่..
..มันคือ..ธาตุปรอท..mercury..สัญญลักษณ์ Hg..
...ไม่ว่า..จะได้จาก..ธรรมชาติ..หรือ..จากร้านขายเคมีภัณฑ์...มันเหมือนกัน..หมด..เพราะเป็นธาตุเดียวกัน...จบ...

 

มาราอ่านความรู้ดี ๆ ทั้ง 2 เรื่องครับพี่

 

ได้เข้ามาตามอ่านอีกครั้งสุดยอดเหมือนเดิมเลยครับ.......ครั้งนี้ขอให้อยู่ให้ความรู้พวกเรานานๆตรอดไปนะครับ

 

นั่นดิอ้าย
ต้นตอที่มา น่าจะมาจากที่เดียวกัน
แต่ว่าเรียกกันหลายชื่อซะเหลือเกิน
ตามต่อทั้งสองเรื่องครับผม

 

รับทราบค่ะพี่มด

 

ตามทั้ง 2 เรื่องครับ............ขอบคุณพี่ modpong และทุกท่านครับ...........

 

รับทราบครับครู ที่มาที่ไปมีหลายแหล่ง แต่แก่นแท้ทางวิทยาศาสตร์ชื่อธาตุในภาษาละตินคือ hydragyrum หมายถึง liquid silver หรือ เงินเหลว ขอบคุณครับสำหรับหลักการแนวทางในการพิจารณาที่มีการพิสูจน์และอธิบายอิงหลักการทางวิทยาศาสตร์ครับ
ขอรอติดตามตอนต่อไปครับครู

 

ได้ความรู้มากเลยครับ รอติดตามตอนต่อไปครับ

 

.........
..........ครบตามกติกา.........
.........
..ต่อตามที่ขอ(..ผู้ขอ..กำธรน้องรัก..เด็กบ่อผุด..STone1..พลศิริน้องรัก..และ..หลานเขม..)
..........
.....................................จริงๆแล้ว..เมื่อเจงกิสข่านตีเมืองหน้าด่าน(ออทราร์)เสร็จแล้ว
...เขาให้..ลูกชายคนรอง..กับ..คนรองต่อมา..(โอโกไต..และ..ชากาไต)..อยู่จัดการที่โน่น
ก่อน..โดยเขาจะได้ไม่เสียเวลา....
เจงกิสข่าน..และ..ทูลุย(ลูกชายคนสุดท้อง)เดินหน้าต่อไป..เขาส่งกำลังขนาด ห้าหมื่น..คน
ไปทำการล้อมเมืองหลวง..ก็คือ..เมืองสมารคันต์..ไว้ก่อนเลย..ล้อมไว้..ไม่ให้มีการติดต่อ
..และ..มีใครหลบหนีไปได้..ขณะที่..ชีเป..และ..สุโบไต..ก็ทำการเก็บเด็ก..ทางด้านทิศใต้
ของเมือง..โดยเป็นแบบเคลื่อนที่เร็ว..เรียกว่า..หน่วยลาดตระเวณ..ระยะไกลที่วางไว้..
ตลอดแนว..พบว่า..มีหน่วยกำลังเสริม..จากเมืองทางด้านใต้..ส่งกำลังมาช่วยเมื่อไหร่..
..ก็เคลื่อนพลไปขยี้..ฆ่าทิ้งทั้งหมด..ไม่มีการตั้งฐานเป็นการถาวร..กระโดดไปทางโน้นที
กระโดดไปทางนี้ที...ไม่จับเชลย..เพราะเปลืองเสบียง....
.....โจชิ..ก็วางแนวด้านตะวันตกและ..ใต้..ไว้อย่างแข็งแรง..ทำให้กำลังต่างชาติมุสลิม
ด้วยกัน..ก็ขยาดไม่กล้า..เข้ามาช่วย..ควาเรสม์.....
.............เมื่อเป็นเช่นนี้..ก็นึกถึง..สภาพในเมืองสมารคันต์..ว่าจะโกลาหล..ขนาดไหน..
..อลาอุดดิน..ไม่สามารถหา..ใครมาช่วยได้เลย..โดนล็อคตายอยู่ในเมือง..เรียกว่า..
ประสาทแดก..กันทั้งทหารที่ป้องกันเมือง..ชาวบ้าน..และ..แม้แต่พวกราชวงศ์....
.....ผมว่า..จอมข่านฉลาดมาก...นอกจากจะบั่นทอนเสบียงกรังในเมืองไปด้วยในตัวแล้ว..
..สงครามจิตวิทยาถือว่า..สำคัญยิ่ง...คนเรานั้นการรอคอยแบบไม่มีกำหนด..นั้นมันทรมาน
..คนที่รอขนาดไหน...ถ้ารอแฟน..ระหว่างรอยังนึกถึงหน้าแฟน..นึกถึงเวลาที่จู๋จี๋กัน....
..มันก็ยังพอลดความทรมาน..ได้มั่ง...แต่นี่..สิ่งที่รอ..มันไม่ใช่ความหอมหวาน..ที่จะมาถึง
.....................แต่มันเป็น..ความตาย...ควาพินาศ..การพัดพราก................
.....ถ้าลองเป็น..ผู้อ่านดู..ว่า....จะมีความรู้สึกยังไง...........
....เพราะเรื่องชื่อเสียง...ความโหด..ของ..มองโกล..นำหน้ามาก่อน..นานแล้ว....
........ผู้หญิงทั้งค่อนข้างสาว..และ..สาว..ก็รอได้เลยว่า....โดนแน่.....
......ไอ้พวกหนุ่มๆ..และ..ยังไม่ถึงกับแก่มาก..มึงก็เตรียมตัว..ลาพระอัลเลาะห์ล่วงหน้าได้..
..............................
.....เอ้า..แล้วจอมข่าน..ช่วงนี้ทำอะไรละ..ไม่ได้ตั้งค่ายอยู่ที่นี่...อ๋อ..ไม่ต้องสงสัยเลย..
..อีไม่ยอมนั่งเกาไข่..แก้เซ็งแน่..เพราะอี..เดินทัพส่วนที่เหลือ..ไปเมืองรองอีกเมือง..
คือ..บัคคาราห์....ซึ่งงมีความสำคัญมากเช่นกัน..
.........ความจริง..การเคลื่อนทัพส่วนที่ปิดล้อม..เมืองสมารคันต์..นั้นก็คือการแยกส่วน
กองทัพ..โดยจอมข่านเคลื่อนทัพมาทางทิศตะวันตก..เพื่อตรงมาที่เมือง..บัคคาราห์เลย
..เมืองนี้..มีสภาพเป็นทะเลทราย..อยู่ด้วย.....
............ที่นี่แม้เป็นเมืองใหญ่..หอรบ..การป้องกัน..ไม่แข็งแรงเท่าไหร่...ซึ่งสายสืบ..
ของจอมข่าน..ก็..ไปสำรวจข้อมูลมาแล้ว..เรียกว่า..ถ้าโดนล้อม..ไม่นาน..ก็เรียบร้อย
โรงเรียนแขกแน่...เรียกว่า..อ่อนที่สุดภายในสามเมือง...จอมข่านเองอาจจะหวังเอา
ฤกษ์เอาชัย..เลือกเอาที่ง่ายก่อน..
.....แต่ขณะเดียวกัน..เจ้าเมืองเมื่อทราบเรื่อง..ที่มองโกลยกทัพจะมาตี..ควาเรสม์
ก็เสียวสันหลังวาบ..เพราะรู้ว่า..เมืองตัวเอง..ไม่แข็งแรง..แต่กระนั้น..ก็คงคิดอีกทาง
ว่า..การจะเสริม..สร้างแก้ไขจุดบกพร่อง..ต้องใช้เวลาเยอะ...สู้ให้คนอื่นมาป้องกัน
แทนดีกว่า...ก็เลยเลือกตัวแสบ..แห่งภูมิภาค..เพราะด้วยสันดานชอบรบพุ่ง..และ..
รังแก..และ..ปล้น..ชาวบ้านเป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว..และเขตปกครองของพวกนี้..
อยู่ติดกับควาเรสม์.......
..........ไอ้จอมแสบที่ว่าคือ....จอมรุกรานแห่งยุค....พวกเตอร์ก..หรือ..เตอร์กิช..
..(บรรพบุรุษ..ของ..ตุรกี..ในปัจจุบัน)..ที่ผมเคยเล่าถึง..ความแสบของพวกนี้มาแล้ว
........โดยเจ้าเมือง..ได้ไปจ้างกองทัพเตอร์ก..มา..ป้องกันทางเข้ามาสู่เมือง...
...ไม่ได้..จ้างเข้ามาอยู่ในกำแพงเมืองนะครับ..เพราะรู้ถึงความแสบสันต์...ถ้าเอา
ไอ้พวกเวรนี้..เข้ามาเสริมในเมือง..ก็คือ..ยกพานถวายเมืองให้มันไปเลย..เพราะโดน
แน่นอน..โดยที่ไอ้พวกเตอร์ก..ไม่ต้องออกแรงมากมาย......
..........เจ้าเมืองบัคคาราห์...ยึดหลักคือ..ให้กองทัพเตอร์ก(ประมาณ สองหมื่นคน)..
เข้าไปยัน..กองทัพมองโกล..ไม่ให้เข้ามาล้อมเมืองได้..เพราะถ้าเข้ามาถึงให้ล้อมเมือง
ได้..นั้นเสร็จแน่นอน...โดยกะว่า..อาจทำให้..มองโกลเบื่อหน่าย..ไปเอง...

...ต่อเมื่อขอมา..

 

ติดตามตอนต่อไปอยู่ครับทั้ง 2 เรื่อง........และเช่นเคยต้องขอบคุณพี่ modpong และทุกๆท่านครับ..................

 

มาตามต่อครับผม
ทั้งมองโกล และของขลังครับอ้าย
ทำงานไปด้วยครับวันนี้ อิอิ

 

กำลังสนุกเลยครับคุณอา มาติดตามอ่านตอนต่อไปครับผม

 

...........
....................ครบตามกติกา..............
..ต่อตามที่ขอ..(ผู้ขอ...STONE1..พลศิริน้องรัก..และ..เฉียวฟงหลานรัก )
..............
........................ความที่ตัวของมันเอง..มีความถ่วงจำเพาะสูง..และ..ยังเป็น..ของเหลว
ไหลได้..ดังนั้น..ไม่ว่า..รูเล็ก..รูจิ๋วยังไง..มันก็แทรกตัวลงไปได้..เช่น..รูขุมขน..รูเหงื่อบน
ฝ่ามือ..เป็นต้น..ผมจึงจอเตือนพวกที่ชอบเอาปรอท..มากลิ้งอยู่บนมือ..(น้องณี..ระวังให้ดี)
...ปรอทมันแทรกลง..ตามรูเหงื่อที่ฝ่ามือ..ได้ทันที..และ..ถ้าทำบ่อยๆ..ปริมาณสะสมที่มัน
ไหลไปตามเส้นเลือด..จะแพร่ไปทั่ว..แต่ที่น่ากลัวสุดคือ..ส่วนที่ไหลไปกับเลือด..ไปเลี้ยง
สมองนั่นแหละ..เพราะส่งผลได้ร้ายแรง..และ..ไว..
...........................โมเลกุลปรอท..ที่ถูกแตกตัวออกไป..เพราะพี่ใหญ่..หนีไปเกาะกับ..
อ๊อกซิเน..อย่างที่เล่าไปแล้ว..ส่วนนึง..ก็ลงดินไป..ส่วนหนึ่งลอยไปตามลม..และ..บางที
ก็ลงน้ำไปเลย...ตัวมันเองอาจจะไปจับ..กับธาตุอื่นได้บ้าง..แต่ไม่คงสถานะ..ถ้าตัวอื่น..
เขาไปเจอธาตุอื่น..ที่เข้ามาสัมผัส..แล้วมีแรงดึงดูดกันมากกว่า....
.....ปรอทที่แทรกอยู่ในดิน..ก็มีการเคลื่อนที่ได้อีก..จากน้ำใต้ดิน..ทั้งที่เป็นแบบใต้ผิวดิน
ชั่วขณะ..อย่างเวลาฝนตก..หรือ..บางส่วนลงไปลึก..ก็ไปกับ..น้ำใต้ดินจริงๆ..แล้วมัน..ก็
จะไปสู่แหล่งน้ำ..ทั้งที่เป็น..ลำธาร..หนอง..บึง.....
.....แต่บางส่วนก็อาจไปไหนไม่ได้ไกล..อย่างบริเวณที่เป็นพื้นที่ๆมีหินปูน..อยู่..ตามผิวดิน
หรือใต้ดิน..ศัพทืทางธรณีวิทยาเขาเรียกว่า KARST...เพราะอย่างที่บอก..หินปูนมันจะมีรอย
แตก..หลุม..และ..รู..มากมาย(..เพราะน้ำกัดเซาะ)...ปรอท..ก็จะติดค้างอยู่นี่..และถ้ามีดิน
กดทับหรือปืดอยู่..ไม่ได้สัมผัสอากาศ..รวมถึง..เป็นที่ๆเย็นชื้น..อยู่ตลอดเวลา...
...อย่างตามพื้นถ้ำ..หรือ..พื้นลำธาร..ที่ลอดใต้ถ้ำ..เป็นต้น....
.....ตลอดจน..เขาหินปูน..ที่มีรอยแตก..และ..รูเยอะ...แต่ถ้าเกิดเจอพายุใหญ่..ที่มีทั้งฝน
และ..ลมแรงๆ..ปรอท..มันก็จะถูกผลักดัน..ให้ลงพื้นอีกครั้ง...แล้วถ้าไม่ถูกกักซะ..มันก็มี
สิทธิ..ที่จะไหลไปสู่น้ำ..หรือ..บางส่วนก็ยังคงปลิวไปกับลมอยู่.....
........ผมบอกไปแล้วว่า..คนโบราณนั้น..เป็นคนช่างสังเกต..และ..เป็นคนช่างคิด..เพราะ
ชีวิตมันไม่สบายแบบ..ยุคนี้..และ..ไม่มีตัวช่วยอะไร..ต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก...
..............เมื่อเขาเริ่มพบ..ปรอท..ตามใต้ท้องน้ำ(อย่างที่ผมเล่าไปตอนต้นๆ)...มันก็
อัศจรรย์..แน่นอนเพราะ..อะไรก็ไม่รู้มันวาวเหมือนโลหะ..แต่เหลว...ก็คงเก็บเอาไปดูกัน
..เมื่อเก็บไปแล้ว..ก็ไปเจอคุณสมบัติอย่างที่ว่า..ยิ่งทำให้น่าสนใจ..แต่การที่เจอตามธรรม
ชาติแบบพื้นที่ทั่วๆไป..มันมีปริมาณ..น้อย..เมื่อDEMANDมา..ก็ต้องเสาะหา..แหล่งกัน..
....แล้วเขา..ก็ไปพบว่า...ถ้าแหล่งน้ำ..หรือ..บึง..ใดที่มันมีเศษไม้เศษหญ้าสะสมกันจน..
..เน่า..เรียกว่าคุณภาพน้ำไม่ดี..ส่งกลิ่น...กลับเป็นว่า..จะพบ..ปริมาณปรอท..อยู่มากกว่า
แหล่งอื่นๆ....
..............แล้วทำไมมันเป็นเช่นนั้นละ..คนโบราณก็เข้าใจเอาเองว่า..อ๋อมันชอบไปกินของ
เสีย..ของเน่า...ทำนองว่า..เหมือนแบบจะไปช่วยกำจัด..หรือ..ปราบไอ้พวกของไม่ดี..
..เหล่านี้..แถม..โรคผิวหนัง..อย่างพวกหูด..หรือ..อะไรที่งอกๆออกมารักษาไม่หาย..เอา
ไอ้นี่ไปป้าย..(บอกแล้วครับ..สมัยก่อนเขาลองทุกรูปแบบ)..ไอ้หูด..หรือ..ไอ้อะไรต่างๆ
นี่มันหลุด..และ..หายไปได้..(แต่จริงแล้ว..เนื้อตรงนั้นจะไหม้ไปด้วย..ยังไงก็ตามเขาถึงว่า
ไอ้แค่นี้มันธรรมดา..แต่..มันทำให้หายได้ละ..)..ดังนั้น..มันจึงเหมือน..มือปราบ..ของไม่ดี
ต่างๆ...หลังจากนั้น..มันจึงเป็นตัวแทนของการแก้ไข..การปราบสิ่งไม่ดี..
................แล้ว..ผู้คิดค้นวิชา..จึงเลือกมัน..ที่มีคุณสมบัติอย่างว่า..มาลง..เบี้ยซะ....
....อ้าว..แล้วทำไม..มันถึงชอบไปกินของเน่าละ...ไว้คราวหน้าจะบอกให้...

....ต่อเมื่อขอมา....

 

รอติดตามทั้ง สองเรื่องเลยครับ

 

ขอบคุณครับครูสำหรับความรู้วันนี้. ขอรอติดตามตอนต่อไปครับครู

 

แหะๆพี่มด หนูเลิกหุงหรือสัมผัสปรอทไปนานแล้วค่ะหุงครั้งสุดท้ายเมื่อปึที่แล้ว

อยากฟังตำนานเรื่ปรอทค่ะพี่มด ได้ความรู้มากมายค่ะจากความรู้เดิมแทบจะไม่มี ขอปูเสื่อรอฟังพี่มดเล่าต่อค่ะ

 

ขอบคุณที่ให้ความรู้ดีๆ รอติดตามครับ