คนเล่านิทานอัพเดท "แผนจัญไร"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Apinya17, 23 กันยายน 2014.

  1. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    พักเบรคโฆษณษา ดูข่าวชาวบ้านชาวเมืองเขาทำอะไรกันบ้าง

    เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยแถลงว่า ฯพณฯ เคซุส มีเกล ซันซ์ เอสโกรีอวยลา เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้เข้าพบกับ ฯพณฯ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหภาพยุโรปและไทย

    สหภาพยุโรปและประเทศไทยมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยมีมิติในความสัมพันธ์ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน วัฒนธรรม และความสัมพันธ์กันในระดับประชาชน

    ในโอกาสนี้ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตซันซ์ได้แสดงถึงความหวังของสหภาพยุโรป ที่จะให้ประเทศไทยมีอนาคตที่มีความสงบสุข มีความมั่นคง และมีความมั่งคั่ง สหภาพยุโรปมีความมั่นใจว่าอนาคตดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้จากความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของหน่วยงานภาครัฐไทย ผ่านกระบวนการปฏิรูปที่เปิดให้ประชาชนในวงกว้างได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2558 ที่จะถึงนี้

    สหภาพยุโรปพร้อมที่จะสานต่อในการมีส่วนร่วมกับประเทศไทยในช่วงที่มีการปฏิรูปนี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยสร้างความมั่นใจในการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนนานาชาติ.


    งง จังประเทศไทยไม่มีใครรบกันตายตอนนี้ มาสนใจสิทธิมนุษยชนทำไม ทำไมไม่ไปสนใจโน้น ชาวอพยพปาเลสติน่า หรือ พวกชาวเคริต ซีเรียอพยพเป็นแสนๆ ไปชายแดนตุรกี

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการาประเทศตุรกี เมื่อวันที่24ก.ย.อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ตุรกีที่บอกว่าทางการจะไม่อนุญาตให้สหรัฐและพันธมิตรใช้น่านฟ้าหรือฐานทัพอากาศของตุรกีเป็นฐานปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายที่เป็นกลุ่มนักรบไอเอสในซีเรีย ซึ่งถือเป็นคำตอบที่ชัดเจน แม้ว่ากองทัพตุรกีและกองกำลังสหรัฐได้ใช้ร่วมกันที่ฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิคทางใต้ของตุรกี ขณะที่ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิบเออร์โดกัน แห่งตุรกีกล่าวแสดงความยินดีต่อปฏิบัติการโจมตีไอเอสของสหรัฐและพันธมิตร แต่ตุรกีจะให้การสนับสนุน

    วันเดียวกัน กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนซีเรียอ็อพเซิร์พเวทอรี ฟอร์ ฮิวแมนไรท์ส รายงานว่า เครื่องบินรบได้ปฏิบัติการโจมตีที่มั่นของกลุ่มไอเอสไม่ต่ำกว่า10 ครั้งในเมืองบูคามัลทางตะวันออกของซีเรียที่อยู่ใกล้พรมแดนอิรัก แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเครื่องบินรบของฝ่ายใดที่ลงมือโจมตีครั้งนี้
    ---------------------------------------------------------------
    จุดยืนชัดเจนจังคราวนี้น่ะพี่ไก่งวง
    --------------------------------------------------------------------

    มาดูข่าวข้างบ้านเรามั่ง

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่24 ก.ย.ว่า สหรัฐกำลังเดินหน้าใกล้ยกเลิกการคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อเวียดนามอดีตศัตรูหลังจากเฮลิคอปเตอร์สหรัฐถอนกำลังทหารชุดสุดท้ายออกจากเวียดนามเมื่อเดือบ40 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวยอมรับว่าอเมริกาต้องการสนับสนุนเวียดนามให้มีความแข็งแกร่งในการสอดส่องตามแนวชายแดนและเครื่องบินตรวจการณ์พี-3อาจเป็นการขายอาวุธครั้งแรกต่อเวียดนาม ซึ่งการขายอาวุธน่าจะเป็นการช่วยรัฐบาลเวียดนามรับมือกับแสนยานุภาพทางทหารของจีน

    โดยเครื่องบินตรวจการณ์พี-3จะช่วยเวียดนามเฝ้าติดตามการทำกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ เขตพิพาทดินแดนทางทะเลที่หลายประเทศอ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะและแนวปะการัง เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐบอกว่าการหารือเพื่อผ่อนคลายการคว่ำบาตรได้มีขึ้นแล้วในกรุงวอชิงตัน และผลของการตัดสินใจจะมีขึ้นในปลายปีนี้ การเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกคว่ำบาตรอาวุธเวียดนามมีขึ้น หลังจากสหรัฐและเวียดนามหันมาผูกสัมพันธ์กันอีกครั้งในรอบ20 ปี
    ----------------------------------------------------------------
    โกรธกันมาตั้งนาน เพิ่งมาจิจ๊ะ ดีกันตอนนี้หรือจ๊ะ หรือพวกทุนค้าอาวุธจะหิวเงิน
    หรือเราอาจจะได้เห็นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกันอีกก็ได้ เพราะแถวนั้นก็ แอ่งน้ำมันทั้งนั้นเลยละ

    ----------------------------------------------------------------

    แล้วประเทศสมันน้อยละ อ่านเจอบทความนี้แล้วเจ็บจิ๊ดๆๆในหัวใจยังไงไม่รู้

    บทสรุปของคุณ Kamphi Wattanaphikowit มาลงให้เพื่อนนิทานฯ อ่านค่ะ

    ""หลังจากฟังท่านเจ้าบ้านแห่งบ้านพระอาทิตย์ ที่พูดถึงหลวงปู่จนจบ
    แล้ว ก็ต้องยิ่งกลับมาทบทวนในสิ่งที่ได้เคยเขียนไปเกี่ยวกับหลวงปู่ เมื่อแปะลิ้มแห่งบ้านพระอาทิตย์ได้กล่าวว่า ให้เป็นไปตามอัธยาศัยของหลวงปู่
    และหลวงปู่ไม่ผิด เป็นแต่เพียงหลงไปเท่านั้น แล้วท่านจะรู้ตัวเองในภายหลัง การที่ท่านจะช่วยนายกฯที่เป็นลูกศิษย์ด้วยความเมตตาและหวังดีต่อบ้านเมืองจึงไม่ควรไปตำหนิท่าน ทำให้เราพอจะย้อนเหตุการณ์ก่อนวันที่ ๒๒ พ.ค.๕๗ และหลังจากนั้นได้ว่า
    ๑. มีเหตุที่ต้องให้หลวงปู่ออกมาสู้ ซึ่งมิใช่เรื่องบังเอิญ
    ๒. นักรบป๊อปคอร์น ที่มาช่วยสกัดฝ่ายตรงข้ามด้วยอาวุธ ไม่ใช่เรื่องบังเอืญ
    ๓. การที่ท่านนายกฯประยุทธ์ เข้ามาดำรงค์ตำแหน่งนายกฯ ก็มิใช่เรื่อง บังเอิญอีกเช่นกัน
    ๔. การแต่งตั้งนายปิยะสวัสดิ์ มาเป็นประธานบอร์ด ปตท. ก็มิใช่เรื่องบังเอิญ
    ๕. การตั้งนายณรงค์ชัย เป็น รมต.พลังงาน นี่ก็มิใช่เรื่องบังเอิญ
    ๖. การแต่งตั้งให้เหล่าเนติบริกร สามสหายบรรลัยจักร (วิษณุ บวรศักดิ์ มีชัย)เป็นตัวหลักในการทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว นี่ก็ไม่บังเอิญอีก
    ๗. การแต่งตั้งพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์มาเป็น รมต.กลาโหม โยกอดุลย์ ไปเป็น รมต.สำนักนายก แต่งตั้งสมยศ เป็น ผบตร.นี่ก็มิใช่เรื่องบังเอืญ
    ๘. โครงการคืนความสุขชาวนา โดยจ่ายเงินค่าจำนำข้าวที่คาราคาซังจากรัฐบาลปูเน่า โดยให้หลวงปู่เป็นฝ่ายนำร่องที่เวทีแจ้งวัฒนะ โดยการตั้งโรงสีข้าว หลังจาก คสช.ยึดอำนาจได้แล้ว จึงเอาเรื่องเงินค้างจ่ายชาวนาเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็มิใช่เรื่องบังเอิญ
    เท่าที่นึกได้ในตอนนี้ก็มีเพียง ๘ ข้อนี้ แต่ขอให้สังเกตุว่า ทุกเรื่องทำโดยอำนาจ คสช.ทั้งสิ้น แต่ คสช.ก็เลือกที่จะไม่ใช้กับนักกินเมืองที่ทำความเสียหายในโครงการจำนำข้าว ไม่อายัดทรัพย์นักกินเมือง ไม่ใช้อำนาจนี้กับบักแม้วในเรื่องถอดยศ ทวงคืนเครื่องราชฯ หรือนำตัวมาติดคุกในไทย และดำเนินคดีที่ยังค้างอยู่ในศาล เนื่องจากจำเลยไม่มาปรากฏตัวในศาล ทำให้ในขณะนี้อดสงสัยไม่ได้ว่า หรือทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงบางอย่างได้แล้ว เพราะตอนนี้ฝั่งบักแม้วเหมือนชลอการเคลื่อนไหว ผมไม่เชื่อว่าฝ่ายบักแม้วจะกลัวกฏอัยการศึก
    ส่วนเรื่องน้ำมัน เรื่องนี้หนักหนาสาหัสสำหรับภาคประชาชนครับ เพราะจากการที่ฑูตคริสตี้จอมแจ๋นไปเยี่ยมเยียนและร่วมพูดคุยกับคนคุมเวบประชาไท เวบที่หมิ่นเจ้าและเป็นกระบอกเสียงเสื้อแดง โดยระบุว่า “เอกอัครราชทูตคริสตี เคนนีย์ พูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของสื่อเสรีระหว่างเยี่ยมชมสำนักงานหนังสือพิมพ์ประชาไท เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ซึ่งเอกอัครราชทูตเคนนี่ย์ยังได้กล่าวถึงบทบาทของการรายงานข่าวเชิงสืบสวนและความสำคัญของการสานเสวนาอย่างเปิดเผยและครอบคลุมทุกภาคส่วนเพื่อการปฏิรูปที่มีความหมาย"
    นี่คือสารแจ้งเตือนถึง คสช.และ ครม.ของนายกฯประยุทธ์ ว่าควรทำอย่างไรกับนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ของสหรัฐ เพราะฉนั้นผลประโยชน์ของคนไทยต้องมาทีหลัง เมื่องมองโดยรอบด้านแล้วงานนี้พวกเรากำลังถูกโดดเดี่ยวครับภายใต้คำขวัญ คนไทยต้องปรองดอง
    ห้ามวิจารณ์ ห้ามเอ่ยถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา บลา บลา..."


    เฮ่อ ชาวสมันน้อยจะทำยังไงกันต่อไป กินหญ้ากันต่อไปไหม เพลินดี
     
  2. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    คุณอภิญญา เรื่องราวต่อจากการมีรัฐบาลแห่งชาติของท่านประยุทธ์ มีหหลายสิ่งหลายอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในสาทเดือนข้างหน้านี้ ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่รูปหนึ่ง แล้วเราจะเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นท่านประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์เช่นนี้ ท่านประยุทธ์เป็นนายกยาวสามปีแน่นอน รอดูเหตุภัยธรรมชาติที่จะเกิดนับจากนี้ไปสามเดือนแล้วค่อยคุยกันใหม่ หากไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นก็ถือว่าสิ่งที่หลวงปู่บอกไว้ก็เลื่อนไปอีก ก็โชคดีเพราะผมก็ไม่อยากมให้เกิดเหมือนที่หลวงปู่บอกไว้ตั้แต่ปี 2545 ผมไม่อยากให้ไปมองใครต่อใครในลบซะหมด
     
  3. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ทุกอย่างมีความหวังในยุคทุนนิยมประชาธิปไตยแบ่งบาน ถ้าประชาชานได้รับข่าวสารที่แท้จริง แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่รู้ว่าทหารสมัยนี้จะเหมือนทหารสมัยพระนเรศวร หรือ ทหารอาสาแบบชาวบ้านบางระจันไหมละ ....ที่ยอมรบจนตัวตายเพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ น่าคิด..
     
  4. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 10 ไทยแลนดแบรนด์ อเมริกา

    ตอนที่ 10/1

    พอมองออกบ้างหรือยัง เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 บ้านเรามันเกิดขึ้นมาเอง โดยขบวนการกดดันตามธรรมชาติหรือมันมีคนแจกใบสั่ง
    แล้วลองกลับไปนึกถึงจอมพลคนแปลกดูอีกทีมีอํานาจมา 10 ปีอยู่ดีๆ ก็ถูรัฐประหาร มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติของการแย่งชิงอำานาจของนักการเมือง หรือมันเกิดจากความกดดันที่ไม่ใช่ตามธรรมชาติไทยแลนด์แดนเนรมิต ที่คนไทยอยู่มาในช่วงปีพ.ศ. 2490 จนถงึ 14 ตุลา 2516 คนไทยรู้เรื่องและเข้าใจไหม ว่ามันของจริงๆมันเป็นอย่างไรหรือมันเป็นโลกมายา ถูกสร้าง ถูกกํากบมา โดยใครกันบ้าง
    เราอยู่กับสิ่งที่เขายัดเยียดมาให้ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย
    เรามองเห็นแต่ความเป็นมิตรที่เขาฉาบ หน้ามาให้ความนึกคิด ความฉลาด ความเก่ง แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบทุนนิยมเสรีการศึกษา และวัฒนธรรมให้กับเรา จนเราเกือบลืม หรือลืมไปแล้วว่า ความเป็นไทย วิถีไทยเป็นอย่างไร
    คนไทยคนไหนบ้างไม่รู้จักกางเกงยีน เชื่อว่าถึงไม่มีไม่เคยใส่ก็ต้องรู้จักทุกคน
    ทุกชาติทุกภาษาในโลกก็เรียก jean ยีน ยีน ยีน
    ใครไม่เคยดื่มโค้ก (Coke, coca-cola) อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่จําเป็นต้องเขียนถึง อย่างน้อยในชีวิตต้องเคยดื่มสักขวดน่า
    ปากกาลูกลื่นจําได้ไหม bic ด้ามเหลืองมาจากไหน
    ที่สําคัญวัฒนธรรมอเมริกนผ่านมากับหนังฮอลลีวู๊ดทุกเรื่อง !

    ตอนที่ 10/2

    บอกแล้วว่าอเมริกาเป็นนักวางแผน ตัวพ่อ เมื่อจะใช้ไทยเป็นฐานทางเศรษฐกิจ ผลิตอุตสาหกรรมเผยแพร่ระบบทุนนิยมและใช้เป็นฐานทัพในกรณีจาเป็น
    เพื่อไม่ให้ไทยแลนด์แปลกหน้ากับอเมริกันชน เขาจึงต้องส่งวัฒนธรรมอเมริกันมาให้เรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นกับดัก สมันน้อยที่สมบูรณ์ที่สุดของนักล่า
    ศัพท์พวกซีไอเอ เขาเรียกว่า soft power ถ้า hard power ก็ตัวใครตัวมันเน้อ
    ทางตรง อเมริกาส่งวัฒนธรรมของตน ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสํานักข่าวUSIS
    ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ทําหน้าที่คล้ายกับหอยม่วงบ้านเราน่ะ แต่USIS เขามีประสิทธิภาพมากกว่าหอยม่วง หลายเท่า
    ข่าวที่ส่งออกมา ก็มีแต่ข่าวกี่ยว กับอเมริกา อเมริกา อเมริกา ให้ชาวเรารู้จัก
    มีการแจกเอกสาร ใบปลิว สาระพัดที่สําคัญ อเมริกา ปลูกต้นไม้การศึกษาแบบ ฝั่งรากลึกให้กับชาวเรา โดยการให้ทุนฟูลไบรท์ถึงระดับปริญญาโท
    ส่วนวัยรุ่น อเมริกาก็ปลูกฝัง ผ่านโครงการ AFS (เด็กไทยก่อนจบม.ปลาย อายุประมาณ 18 ปีให้ไปเรียนต่ออเมริกา 1 ปีกินฟรีอยู่ฟรีกับครอบครัวคนอเมริกัน จะได้กลับมาทําท่าเป็นเด็กอเมริกัน คิดเป็นเด็กอเมริกัน จะเอารายชื่อไหม ใครที่ผ่านทุนนี้และตอนนี้อยู่ในขบวนรถ good boy good girl ของคุณพ่ออเมริกา)
    สมัยอเมริกาประกาศให้ทนุ AFS ใหมๆ่ ชาวเราเห่อกันเหมือน พี่น้องเห่อโปรแกรม อเคเดมีแฟนตาเซียอะไรทํานองนั้น ลูกผู้ลากมากดีเศรษฐีเก่า เศรษฐีใหม่แห่กันไปสอบเพียบ เฮ้อ ... นอกจากนี้อเมริกายังตั้งมูลนิธี Asia Foundation มูลนิธินี้ให้ทนุ อาจารย์นักศึกษา สื่อ ฯลฯ ไปทําปริญญาโท เอก ที่อเมริกา แบบไม่มีข้อผูกพันธ์อาจารย์มหาวิทยาลัยดัง ๆ ศิษย ์เก่าทุนนี้ทั้งนั้น ที่น่าสนใจหลายคน ไม่เอาสถาบัน!
    ทางอ้อม อเมริกา นําวัฒนธรรม ความคุ้นเคย มาคลุก กับชาวบ้าน ผ่านหน่วยงาน Peace Corp. พวกนี้หน้าฉากก็เข้าไปคลุกกับชาวบ้าน ช่วยสอนหนังสือ บางคนถึงกับลงทุนอยู่กับชาวไร่ชาวนา แต่ของจริง ทุกคนมีหน้าที่ทําความรู้จกคนไทย ั ความคิดไทย และใส่ผงชูรสยี่ห้ออเมริกันเข้าไปให้คนไทย ส่วนใหญพวกนี้สังกัด CIA !
    เดี๋ยวนี้อดีต Peace Corp. หลายคนก็ยังอยู่ในไทย ฉากหน้าเปิดร้านอาหารบ้าง นักวิเคราะห์หุ้นบ้าง นักธุระกิจบ้าง อยากรู้จัก โน่น เดินเข้าไปใน Sports Club ถามหาพี่เจฟ หรือลุงคลอสเนอร์แล้วกัน ฮ่า ฮ่า ! ที่สาคัญ วิถีอเมริกันที่ไทยเราคุ้น ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่เราเสพติด เขาสร้างให้เรารู้จัก
    เรื่องราวของชนชาวอเมรกิันและดารา แล้วเราติดตามข่าวพวกเขายิ่งกว่าข่าวญาติของเราอย่าเข้าใจผิด นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เกลียดอเมริกา แต่อยากให้รู้จักเขาจริง ๆ คนเราจะคบ จะรัก จะชอบ ต้องรู้จักเขาก่อน ว่าจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร และที่สําคัญเขามองเราอย่างไรต้องการอะไรจากเรา จริงใจกับเราแค่ไหน จะได้ไม่เพ้อเจ้อเข้าใจผิด รู้ว่าควรจะคบเขาแค่ไหน และอย่างไร

    วันนี้ตอนแรกผมว่าจะส่งของแถมให้ท่านผู้อ่านนิทานก่อน
    แต่นึกได้ว่า เมื่อวานนี้ส่งของแถม เป็นเอกสารข้างล่างนี้ไปให้ท่านผู้อ่าน แล้วถามว่า ท่านอ่านแล้วรู้สึก
    อย่างไรกันบ้าง
    ปรากฏวา่ ยังไม่มีใครบอกมา ผมก็คอยนะครับ เพราะอยากรู้จริงๆ
    เพราะตัวผมเองอ่านแล้ว มันเศร้า ว่าบ้านเมืองของเรา อยในม ู่ ือนักการเมืองจริงๆ
    แล้วแต่ว่า พวกเขาจะดูแลจดการกันอย่างไร ซึ่งเราก็เห็นตัวอย่างจากเอกสาร ชิ้นนี้แล้วว่า เขาปล่อยให้
    ต่างชาติมันใช้บ้านเรา ยังกะเราเป็นเมืองขึ้นเขา โดยชาวเราไม่รู้เรื่องกันเลย นั่นมันสมัยเมื่อ 40, 50 ปี
    มาแล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ นะครับ เอาที่เกี่ยว
    กับนิทานเรื่องนี้อย่างเดียว
    แล้วตอนนี้ล่ะครับ ผ่านมาตั้งครึ่งศตวรรษ (นานนะครับ !) เราอุตส่าห์ต่อสู้
    พยายามใส่สิทธิของเรา ในเรื่องที่สําคัญทํานองนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน
    แล้วไงครับ ตอนนี้ไอ้พวกเสียงข้างมาก มันก็จะตัดสิทธิเรา โดยจะแก้ม 68, ม 190 ปิดหูปิดตาปิดปาก
    เราอีก! มันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดหรือยังไง?!?
    คนเล่านิทาน ขออนุญาตบ่นหน่อยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ของแถมวันนี้มาดึกหน่อยครับ
    เป็น เอกสาร Memorandum ที่ นาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา
    มีไปถึง ประธานาธิบดี Nixon เมื่อ October 15, 1973
    รายงานสถานะการณ์หลังเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา
    ในรายงานตอนหนึ่ง ระบุว่านายสัญญา ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก พระเจ้าอยู่หัวให้เป็นนายกฯ จะต้องจัดการให้ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ซึ่งยังเป็นผู้มีอํานาจที่แท้จริง และยังอยู่ในกํามือของถนอม และรัฐบาลที่ถูกล้มไปและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องภายในประเทศ ประเด็นเรื่อง ฐานทัพอเมริกาในประเทศไทย ไม่ได้เป็นประเด็นหลัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 11 ฝากลูกน้องคุมซอย

    ตอนที่ 11/1

    ท่านผู้อ่านนิทาน อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว คงพอจะรู้จักจิกโก๋นักล่ารุ่นใหม่ หมายเลข 1 กันบ้างแล้ว และคิดว่าจิกโก๋เขาจะจบแค่เวียตนาม หรือ เปล่าหรอก หมดธุระเรื่องเวียตนาม เขาได้อย่างที่ต้องการตามใบสั่งของนายทุนผู้ค้าอาวุธ ซึ่งกุมคอหอยจิกโก๋อีกทีแล้วเขาก็เปลี่ยนเข็มทิศ มองไปทางไหนหนอ อ้อ ทางไหนก็ได้ที่มีทรัพยากรของคนอื่น ที่เขาอยากได้ไง น้ํามัน น้ํามันไง มาถึงแล้ว จิกโก๋มันแสนรู้
    เมื่อทุนนิยมเข้าไปที่ไหน อุตสาหกรรมก็เกิด เมื่อมีอุตสาหกรรม ก็ต้องอาศัยพลังงาน
    ทั้งไฟฟ้า และ น้ํามัน แหม! แล้วใครละ่ ที่มีน้ํามันมีมาก ก็พวกคุณอาทั้งหลาย แถวทะเลทรายไงล่ะ ดังนั้นแผนของนักล่า ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเวียตนาม จึงเพ่นพ่าน ถือไม้สามง่ามเล็งหาน้ำามัน นู่นไปนู่นเลย ไปหาประวัติศาสตร์อิหร่านแตก พระเจ้าชาห์หนีซาอุดิอารเบียจับมือกับอเมริกา สงคราม Gulf War ระหว่างคูเวต อิรัก อเมริกา จนถึงสงครามอิรัก ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะวันนี้จะเขียนที่
    เกี่ยวกับไทยแลนด์จัง ๆ ก่อนนะ แต่ถ้าไม่บอกเดี๋ยวท่านผู้อ่านนิยายก็จะงงว่าแล้วไง มันหายไปจากบ้านเรา แล้วมันไปไหน ไปทําอะไร
    กอย่างว่า จิกโก๋เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ไปทํามาหากิน ขดเผือกขุดมันขุดน้ํามันของคนอื่นเขาละซิเราก็นึกว่าเขาไม่ยุ่งกะเราแล้ว เปล่าหร๊อก มันแค่เปลี่ยนแนว เหมือนหนังฮอลลีวู้ดเปลี่ยนฉากน่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น บทเขาเขียนไว้ต่อเนื่อง ตั้งกะปีมะโว้อีกร้อยปีก็เล่นไม่จบ เว้นแต่มันจะจบกันไปคนละข้างก่อน
    ระหว่างที่จิกโก๋ย้ายซอยไปขุดเผือกขุดน้ํามันท่อีื่น บ้านเราก็อ้างว่าเป็นช่วงเวลาพัฒนาประชาธิปไตย ที่จิกโก๋หว่านเมล็ดพันธ์ไว้ทุกคนก็ร่ําร้องหาแต่ประชาธิปไตย (ตอนนี้ยังหาอยู่เลย ลูกพระยาพหล อยู่ไหมจ๊ะ ป่านนี้แก่หง่อมหรือลาขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไม่รู้) บ้านเมืองเราก็ล้มลุก หกขะเมนตีลังกาตั้งแต่ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 จนถึง 6 ตุลา พ.ศ. 2519 จิกโก๋จะไปขุดน้ํามัน เขาก็ใช่ว่าจะลืมสมันน้อยนะ จิกโก๋ชอบทหาร ก็ของมันคุ้น ของมันเคย รัฐบาลพลเรือน เจอแต่ละคน จิ๊กโก๋ก็มันเหมือนกัน อย่างอาจารย์สัญญาน่ะเหมือนเป็นพ่อพระ จะสั่งให้พระไปทิ้งระเบิดใคร มันง่ายนักเหรอ แล้วอาจารยคึกฤทธิ์ล่ะ อีด่า Ugly American ใส่แถม ยืนคําขาด กําหนดวันที่พี่เบิ้มต้องถอนทหารอเมริกันให้หมดจากบ้านเราดวย้ ส่วนคุณหอยธานินทร์นั้น เกินกว่าจะบรรยาย ว่าแล้วการเมืองไทยก็กลับมาอยู่ใน ความครอบงําของทหารเหมือนเดิม แปลกดีไหมคิดสิเป็นไปตามธรรมชาติหรือมีใบสั่ง อย่าให้ต้องเขียนรายละเอียด เหมือนสมัยคุณป๋าสฤษดิ์คุณน้าหนอมเลยนะ เอาย่อๆว่าไม่มีอะไรลอดสายตาพญาอินทรีย์หรอก เพียงแต่เขาจะกางกรงเล็บขยุมเราโดยตรง หรือใช ้"วิธีอื่น" เท่านั้นเองหลังจากเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เราก็เลยได้ทหารกลับมาบริหารประเทศอีก
    พล.อ. เกรียงศักดิ์ทําแกงเนื้อใส่บรั่นดีตั้งแต่ปี 2520-2523
    พล.อ. ป๋า เจ้าของวลีเด็ด เราเป็น Jocky ไม่ใช่เจ้าของคอก ทําหน้าที่ Jocky ตั้งแต่ปี 2523-2531 พล.อ. น้าชาติขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ปี 2531-2534


    ตอนที่ 11/2

    ช่วงทหารมีอำนาจบริหารบ้านเมือง ยุคหลัง 14 ตุลา 2516 ต่างกับ ช่วงก่อน 14 ตุลา 2516 อย่างน่าสนใจ อย่างที่เล่ามาตอนแรก ก่อน 14 ตุลา 2516 เรามีจอมพลคนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ คุณป๋ารักชาติและเหล่านักวิ่งผลัด การพัฒนาประเทศช่วงนั้น ถูกกํากับโดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติมาดเข้ม เดินประกบหน้าประกบหลังไทยแลนด์เอาผ้าห่มวัฒนธรรมอเมริกนั ห่อไทยแลนด์เสียมิดชิด
    จนไทยแลนด์ลืมไปเลย ว่าไทยแท้เป็นยังไง จําได้แต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกัน
    แต่รัฐบาลคุณทหารช่วงหลัง 14 ตุลา 2516 ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติถูกอัญเชิญออกไปแยะ จากปัจจัยภายในประเทศเราและประเทศเขา แต่พี่เบิ้มเขาก็ไม่ปล่อยเกียรว์ ่าง เขาควบคุมด้วยวธิีแยบยล ให้เราใช้เหล่าข้าราชการที่เรียกว่า technocrat มาช่วยคุณทหาร บริหารประเทศ
    Technocrat เหล่านี้เป็นใคร ก็เป็นต้นกล้าที่คุณพ่อหว่านเอาไว ้เขาเหล่านั้นเป็นนักเรียนนอก เติบโตมาภายใต้ระบบการศึกษาและแนวคิดของฝรั่ง เรียนแบบถ่ายสําเนาอัดก๊อปบี้ออกมาเลย คุณพ่อฝรั่งว่าขาวก็ขาวด้วย คุณพ่อว่าดําก็ดําด้วย นี่สี่เหลี่ยม นี่กลม โอ้ย! ท่องจํากันได้หมด แล้วก็กลับเอาคําท่องจํามาใช้สอนต่อ หรือมาใช้ทํางานในบ้านเราดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ สมันน้อยไม่ไปไหน คุณพ่อฝรั่งไม่อยู่คุณพ่อก็ให้พวก good boy technocrat เด็กในคาถา มาทําหน้าทดี่ ูแลแทน นี่ยังไง นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อ ฯลฯ ที่ถูกฟอกย้อมเอาไว้เรียบร้อยไม่รู้ไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่มันก็เป็นของย้อมน่ะ แล้วจะมีอะไรเหลือ ไทยพันธ์แท้หายไปไหนหมด เหลือแต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกา!
    แต่เรื่องทุกเรื่องมันก็มีหักมุมนะ คุณน้าชาตินี้แกใชย่อยที่ไหน ถึงจะเป็นทหาร แกก็ไม่ได้ฟังเทคโนแครตมากนัก แกตั้งที่ปรึกษาบ้านพิษขึ้นมาเอง พวกนี้ก็มีพิษไปอีแบบ
    ไทยแลนด์ก็เลยเหมือนหนีเสือปะจรเข้หนีชะนีไปเจอค่าง อะไรอย่างนั้นแหละ
    รัฐบาลคุณน้าชาติเป็นตัวแปรที่สําคัญ ต้องศึกษากันให้ดีๆ
    คุณน้า แกมนโยบายล้ำาเลิศ จะเปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามค้า แกคิดโครงการ
    แต่ละอัน เด็ดสะระตีทั้งนั้น จะค้าขาย มันก็ต้องมีท่าเรือมารองรบการขนส่ง นั่นมาแล้ว Eastern Sea Board จะติดต่อค้าขายกัน การสื่อสารมันก็ต้องทันสมัย จะใช้นกพิราบไปเรื่อย ๆ ไม่ไหวมั้ง คุณน้าก็ให้คิดโครงการ 3 ล้านเลขหมาย คิดเรื่องดาวเทียม! คิดโครงการขนส่ง Hopewell ระบบทางด่วน ฯลฯ คุณน้าแกช่างคิดหาตังค์จริง ๆ ต้องยอมรับ ไม่งั้นจะได้สมญารัฐบาลฟาสต์ฟูตเหรอ
    โครงการต่าง ๆ เหล่านี้มันมูลค่ามหึมา ไอ้ 3 เกลอหัวแข็งที่มัวแต่ไปวุ่น ๆ อยู่ทางอื่น ของโลก ก็หันขวับจนคอเคล็ดมาดูเออ! เฮ้ย! มันกําลังจะทําอะไร สมันน้อยทําไมไม่บอกไอ นี่มันเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น
    ไอ้พวก good boy tecnocrat เด็ก ๆ ของเราหายไปไหนหมด ทําไม่มันไม่เตือน เขากําลังจะเข้าฮ๊อสกันหมดแล้ว
     
  7. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ของแถมมาแล้วครับ
    เป็นเอกสาร การประชุม เมื่อ April 2, 1976 (ต้นปีก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่บ้านเราจะ
    เกิดขึ้น)
    มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา เป็นประธานที่ประชุม
    นาย Habib รายงานว่า สถานการณ์ทางเมืองไทย ไม่ค่อยดีรัฐบาลตามประชาธิปไตย ทําท่าจะไปไม่
    รอด มีข่าวว่า ทหารจะปฏวิัติ (อ่านดีๆนะครับ นี่เป็น
    เอกสาร สมัย คศ 1976 ไม่ใช่ปัจจุบนั เพียงแต่ เหตุการณ์มันคล้ายกันจัง!?)
    อ่านดูนะครับ ว่าเขาคิดเกี่ยวกับบ้านเราอย่างไร แล้วมันเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลาไหม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 12 ลองดีจิกโก๋

    ตอน 12/1

    พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกําลังไปขุดเผือกขุดน้ํามันไง
    ตั้งแต่ช่วงปี 1973 (2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแถวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เขาก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า
    พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์อิสราเอล และ ซาอุ
    หนุนคูเวต สาระพัดละ ก็แถวนั้นมันบ่อน้ํามันทั้งนั้น บอกแล้ว จําง่าย ๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มัน
    งง แล้วในที่สุดก็เละ เขาจะได้เข้าไปได้สะดวก โดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว
    ก็สูตรธรรมดา จะไปขะโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้องกันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดํา นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้าของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย
    เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้นเรื่องทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทํา มันสูตรทํานองนี้ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทําฉากให้ใหญ่โต
    ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดูถามมันวันละ 3 ครั้งให่เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังงัย มันจะแย่ไหม เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร ์ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยั งไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊สิว ไฝ ฝ้า หูด แผลมีตรงไหนเห็นหมด
    แล้วไอ้การกาหนดองศา ํ slot ของดาวเทียมนี้มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กําหนดตําแหน่งดาวเทียม ที่ตั้งละประเทศก็มีสิทธิจองกัน
    นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
    ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต้อะ
    แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติคทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้า ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด
    แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทําลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับเวียตนามนะ ไทยแลนด์ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้เข้าใจไหมสมันน้อยแล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทําหน้าฉลาดตอบให้หรอก แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ
    คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอํานาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่ง
    ไทยแลด์แดนสวรรค์ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจําลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ํา แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์เหี่ยวรออยู่กบบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน tecnocrat แห่งซิบวีนัสขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีพี่น้องคิด ๆ ดูแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ้ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊งจริง

    ตอนที่ 12/2

    คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ !
    สมัย สงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทําสัญญาจริง ๆ จัง ๆ กับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจํา UN
    คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา ( สมัยนั้นอาจารย์คึกฤทธิ์เป็น นายกฯ) เสร็จการเจรจา รายงานฝายอเมริกาบอก Mr. A นี่เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ําดําเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี 2531 ถึง 2535 เขาว่างานแรกที่คณุน้านันมาจัดการ ก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม! ) เป็นที่เรียบร้อย ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไร ยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ
    สมใจนึกบางลําภูทําท่าหงอย ๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win!
    แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยม นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปีต่อมาขายให้สิงคโปร์กําไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทํางานเป็นเสมียน เงินเดือน ๆ ละ 20,000
    ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผาก รําพึง มันทําได้ไงวะพูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก

    ตอนที่ 12/3

    ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ
    ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้าง
    ดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ
    อ๋อ! ก็กู้เงินจาก Exim Bank (Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้ง อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซีซิ จ๊ะ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้พี่น้องฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่พอจะปะติดปะต่อกันได้อิ! อิ!
    มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจาก Exim Bank แล้ว ยังมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้ค้ำประกัน เอ! แล้ว ธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทําคลอดให้ตอนจบก็ช่วยแต่งศพใหเอะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง
    ก็คืองี้ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ําประกันให้
    ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให ้เสร็จแล้วคนจะซื้อเพื่อไม่ให้ผิดพรบ. คนต่างด้าว ก็ต้องสร้าง nominee (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม บรษิทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ลูกมิสเตอร์พีแห่งน้ําดําจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่าประธานธนาคารชื่อคุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ เอ! แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมมีนอกันแน่คิดมากแล้วปวดหัวนิ
    เรื่องบ้านเมืองนี้มันมีแยะ ตั้งกะ พี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆจะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • download.jpg
      download.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.6 KB
      เปิดดู:
      123
  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 13 สันดานจิกโก๋

    ตอนที่ 13/1

    มีคนมากระตุกแขนนิด ๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทําไมเปี้ยนไป
    จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง
    ก็บอกแล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิกโก๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้ว ก็ขยายไปดูซอยอื่น
    เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้น
    แถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี
    อย่างแรก ขะโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิกโก๋ขี้ขะโมย)
    อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิกโก๋ชวนตี)
    และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกันขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องใหคนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอก
    เช่น กรณี Soviet ใช้วิธปิดล้อม Soviet ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกําแพง Berlin ทะลายในปี 1989
    สหภาพ Soviet ล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจําชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบ้ิมผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทันสําหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มกยุแยง ทําให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะพี่เบิ้มคิดจะขะโมยน้ํามันเขา เลยใช้วธิกล่าวหาว่าบานโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สาระพัดจะโกหก แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเสสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตรุกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์
    กลับมาทะเลาะกันเองอีก ฯลฯ เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหน ฉ ห ที่นั่น
    ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมากประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทําให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆชั่วได้ใจจริง ๆ
    ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาด ๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร ์พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทําข่าวรายงานการตรวจ
    ทุกวัน แต่ผลปรากฎวาไม่ ่เจออะไรในก่อไผ่ พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปีอิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน)
    ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน
    เด็ก 5 ล้านคน เป็นกําพรา้ (35% ของประชาชน)
    เพียงเพราะจิกโก๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ผู้นําแบบซัดดัมข่มเหง ประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ํามัน! แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วพี่น้องอย่าลืม
    ไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะ เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงแล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เขามาเดินกร่างอยู่ในซอย!

    ตอนที่ 13/2

    ขอพูด ถึงอาฟกานิสถานต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอา
    ประเทศเป็นสนามรบมาเกิอบ 20 ปีจนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง
    เริ่มตั้งกะรัสเซียก่อน ไอ้หมอนี่ก็จมูกไว อาฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของ Pentagon ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุด
    ที่ยังหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้กเพราะสภาพ ภูมิศาสตร์ของประเทศ) รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่ เบี่ ิ้มอเมริกาแบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิกโก๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องอยู่เอง จากการคุกคาม ของรัสเซีย บทนี้คุ้น ๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อกแล้วพี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัลแต่ได้ยินเสียงตีนตบ เป๊าะ แป๊ะ มือดีก็คือพี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทําเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน
    พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุมิตรรกของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ําปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิกโก๋หมด กจ็ิกโก๋ฝึกให้เขาเองนะ อาวธกุ ็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร คงจํากันได้ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มที่บ้านลับ น่าขํามาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเพี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเหยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน โน่น เล่าไป เล่ามา จนเกือบลืมประเด็นสําคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และ
    ทองคํา 2 อย่างแรก เหมาะสําหรับทําอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดูก็ร ู้
    มันเหมาะสําหรับทําทุกอย่าง เป็นสารนําในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สําคัญเหมาะสําหรับทําระเบิดครับผม แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิด ระเบิดขาย จนรวยล้น


    ปล. มองรูปไปมองรูปมา เอ??? บินลา ดิน ไหงหน้าคล้าย โอบาม่าจัง ญาติฝ่ายไหนกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0y630.jpg
      0y630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      116
  10. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 14 เด็กในคาถา (Good Boy!)

    ตอนที่ 14/1

    เล่าเรื่องชาวบ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านที่เคารพจะงง มันจะเล่าเรื่อง
    อะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพ
    กว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้างจิกโก๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี 1978 ก็จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่
    เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้จนมาถึงคุณน้าชาติขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์บานเราจึงแบ่ง
    กันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิกโก๋ต่างถิ่นมาขัดคอมาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟต์บ่อยไปหน่อย แถม
    อาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิกโก๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์
    แดนสยาม จึงมีนายกชื่อคุณน้านัน จําได้ใช่ไหมพอคุณน้านันเป็นนายกนอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยัง เป็น รัฐบาลที่ออกกฏหมาย เกี่ยวกับการทําธรกุิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมท้ังการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่านโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอ ๆ ท่านผู้อ่านจะนึกวากำลังอ่าน Doctrine ต่าง ๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแพ๊ลบ ๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม
    แล้วไง จิกโก๋ก็ยังไปวุ่นอยซอยอื่น เพราะคิดว่าสมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว
    สมันแดนอื่นมันน่าหม่ํากว่าแยะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2014
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เป็นการรื้อฟื้นประวัติศาสตร์การเมืองไทย
    และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่ได้
    เซฟทรัพยากร หรือผลประโยชน์ต่างๆไว้

    แชร์ให้คนไทยเลย ออกแนวชายสมบัติชาติ
    กอบโกย ในวงการของผู้มีอำนาจและบริวาร
    เอาเปรียบคนชั้นล่างกันมามาตลอด

    มันน่าโมโห!!?
    แต่ย่าเพิ่งโมโหเดี๋ยวช๊อคตายไปแล้ว
    จะเสียดายที่ไม่ได้ดูชอตต่อไปที่อาจจะ
    เข้มข้นกว่าเดิมและต้องเนียนกว่าเดิม
    ประชาชนไม่ตามรู้ ดูไม่ทัน ก็หมดกัน
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    สื่อมวลชนคือหูตาของมวลชนในฐานะฐานันดรที่ 4
    มีสื่อใดบ้างที่ไม่เป็นกระบอกเสียงรัฐ นสพ.ส่วนใหญ่
    เอาเงินมากกว่าทุ่มเทให้มวลชน เอาเงินมากกว่าเอาชาติ
    เมื่อสถาบันฐานันดรที่ 4 ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน
    เเต่ขายตัวเพื่อความมั่นคงขิงครอบครัวและความอยู่รอด
    ของตัวเอง
    บ้านเมืองเดินเข้าสู่วิกฤติมีเพราะแต่สื่อรับเงินกับสื่อเสี้ยม
    ให้ทะเลาะกัน มีสื่อไว้แค่เป็นอาชีพหากินด้วยกัน
    ขายข่าว ขายโฆษณาให้คนเสพ
    เพลินๆมันๆ ไปวันวัน

    วิธีแก้:ออกกฏหมายคุ้มครองคนในอาชีพสื่อ ให้มีเกณฑ์รายได้
    ขั้นต่ำที่คุ้มครองโดยรัฐให้มีการดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการให้
    ครอบครัวของสื่อ (ครู-อาจารย์ด้วยครับ)
    ตาย-พิการ มีกองทุนเลี้ยงดูครอบครัวให้กินอิ่ม นอนอุ่น
    ให้บุตรมีดารศึกษาขั้นต่ำ ป.โท ทุกคน
    แล้วดูกันอีกทีว่าสื่อจะเอาชาติเอามวลชนหรือจะเอาเงินเหมือนเคย
    ถ้าเป็นยังงั้นก็เอวัง....ตัวใครตัวitแล้วกัน
     
  13. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023

    นั่นสิลุงแมว พวกเราดันเกิดมาผิดยุคผิดสมัยไง หรือไม่น่าจะมาเกิดเลยจะดีกว่า ฮาาา คำนวณเวลาผิดแท้ๆ ถ้ามาเกิดในสมัยพระร่วงสุโขทัย ที่ใครดันสันญาว่า ถ้าไม่ได้ทำผิดจริงขอให้ฟ้าผ่าตายโหง ตายห่า ไปเลย ฟ้าก็ผ่ามาบัดดลไง จึงไม่ค่อยมีคน โกหก ตอแหล กันเยอะเหมือนปัจจุบันนี้
     
  14. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 14/2

    เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สําคัญเกิดปรากฎการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจ คุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)
    เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพังอสังหาริมทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนวิชดีกว่า อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริง ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เขียนเหมือนสนกุ แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริง ๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส นะ
    ภาระกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้าง ว่ามันวางไลน์กันอย่างไรต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี 2505-2515
    สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเปนเรื่องเป็นราว การปฎิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
    แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปีพ.ศ. 2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเสียอธิปไตยทางธุรกิจและการเงิน ให้แก่ต่างชาติ จากการปฎิเสธความชวยเหลือไทยของประธานาธบดิ คลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน! ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติครอบงําธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ธรกิจอุตสาหกรรม ที่สําคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงํา จนทุกวันนี้มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่างชาติกี่ธนาคาร คําตอบคือเกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่ง
    ประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับย้อมผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ
    แต่วิกฤติการณ์ต้มยํากุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทําให้สมันน้อยรู้ตัว ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน
    พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ํานี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงห์โตตะปบ มากี่ฤดูก็ทํามันซํา้ซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ คนไทยเคยเป็นนักสู้บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้มาสมัยนี้เรามีแต่สมันน้อยกล้วภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงห์โตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอเขาว่าโชคร้ายมักมาซ้ําสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิกโก๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดอัศวินควายดําโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดําหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์และขนมหลายพันล้านห่อจัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวัน ๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดํา จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน
    แล้วอัศวินควายดํานี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติรู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทาน
    เรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหมจ๊ะ

    ตอนที่ 15 สันดานจิ๊กโก๋

    ทบทวนสันดานจิ๊กโก๋กันหน่อย สันดานจิ๋กโก๋รุ่นใหม่คือต้องการคุมไปให้สุดซอย (สํานวนใครนะ คุ้นจัง) คุมมันให้อยู่หมัด จึงมีคําว่า "ระเบียบโลก" โผล่ขึ้นมา
    ระเบียบโลก หรือ ทฤษฏี New World Order คืออะไร มีนักวิชาการ เขียนกันยาวเหยียด หลายแบบหลายคําแปล
    แต่สรุปสั้นๆ New World Order คือทฤษฏีสมคบคิด( Conspiracy Theory) ที่พยายามจะให้โลกนี้มีระบบเดียว คือ ระบบทุนนิยม และมีรัฐบาลเดียว หรือมีผู้มีอํานาจควบคุมอยู่กลุ่มเดียว สั้นๆ แบบนี้แต่ความหมายมนกว้าง และลึก
    ท่านที่ตามอ่านนิทานมาถึงตอนนี้คงพอนึกออกคุมให้สุดซอย หมายความว่า ต้องไม่มีอะไรมาปิดกั้น แม้แต่พรมแดน และกฏ กติกา ต้องออกแบบมา
    เพื่อรองรับให้ทุนนิยม ขยายได้อย่างไม่มีขอบเขต ขจัดอุปสรรคทั้งปวง พูดง่ายๆ เหมือนกําหนดให้แต่ซอยวันเวย์รถสวนไม่ได้จอดไม่ได้ไม่มีไม้กั้น ไม่มีกรวยวาง ไม่แม่ค้ามาขายของข้างถนน ถ้ามีต้องขายเฉพาะ สินค้าที่จิ๊กโก๋ผลิต หรือได้ค่าหัวคิวเท่านั้น ที่สําคัญ ใครอย่าสะเอาะมาเป็นจราจรเด็ดขาด
    ถ้ามีของแท้ต้องติดตรา UN เท่านั้น เพราะจิ๊กโก๋คุมจราจรอีกต่อ ฮา
    ทุนนิยม ไม่ต้องการชาตินิยม ทุนนิยมไม่สนใจความเป็นชาติไม่ต้องการขนบธรรมเนียม ประเพณีไม่ต้องการประมุขรัฐที่เข้มแข็ง
    ทุนนิยมเห็นว่า การเป็นชาตินิยม การภักดีต่อประเทศตนเอง ต่างๆเหล่านี้จะสร้างให้เกิดความหวงแหน และ ความสามัคค ( ทําให้ขะโมย ยาก ฮา )
    เอ๊ะ นี่ข้าพเจ้ากําลังเขียนเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยหัวทองตาฟ้านะคร้าบ แหม แต่สันดานมันคล้ายกับใครคนหนึ่งจังเลยนะ ก็มันเรื่องทุน เหมือนกันนี่นะ ทุนนิยม ทุนนิยมเสรีทุนสามานย์มันก็เรื่องเดียวกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่า จะเรียกชื่ออยางไร

    ปีคศ 1990 วันที่ 1 ตุลาคม ประธานาธิบดี George Bush คนพ่อ เสนอนโยบายจัดระเบียบโลกใหม่ ( New World Order) ในที่ประชุมสหประชาชาติซึ่งทําให้เห็นธาตุแท้ของนักล่าอาณานิคม หรือจิ๊กโก๋ปากซอย อย่างชัดเจนที่สุด และนโยบายนี้ก็ใช้มาตลอดในทุกรัฐบาลจิ๊กโก๋ไม่ว่าจะเป็นพรรค Liberal หรือ Democrat
    แล้วงั้นใครละที่คุมทั่ง จิ๊กโก๋น้ําเงิน จิ๊กโก๋แดง ก็เหล่าบรรษัทข้ามชาติที่มีทุน สร้างทุน อาศัยทุน เป็นตัวนํา ไงล่ะ เมื่อทุนหนา ก็กําหนด กติกา เพื่อให้ทนเดินไปทางไหนก็ได้ผ่านประเทศไหน ผ่านรัฐบาลไหน ผ่านองค์กรไหน หรือผ่านบุคคลใดก็ได้ทั้งหมดทั้งปวง ก็เพื่อให้แน่ใจว่า ทรัพยากร ดินแดน แรงงาน ตลาดทุน ตลาดโลก ฯลฯ ได้อยู่ในการครอบครอง หรืออยู่ในอํานาจควบคุม ของพวกเขา ทั้งหมด หรือเกือบหมดจําได้ไหม คาถา ของคนเล่านิทาน ทุน คือ อํานาจ และ อํานาจ คือ ทุน
    คาถานี้ใช้ได้ทุกแห่ง ทุกสมัย โปรดจํา
     
  15. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 16 Return of จิกโก๋

    ตอนที่ 16/1

    จิกโก๋ประกบติดไทยแลนด์สยามเมืองยิ้ม ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
    จนถึงสงครามเวียตนามเลิก (1950-1976)
    เพราะแผนของจิกโก๋ฉากหน้า ฉันเป็นจิกโก๋ใหญ่ ปกป้องชาวซอย ที่ถูกจิกโก๋ตาตี่หน้าเหลือง คือระบอบคอมมิวนิสต์แผ่ขยายมากลืนกินประชาชาติแถบนี้
    แต่ฉากของจริง คือจิกโก๋กลัวว่าไอ้ตาตี่มันจะมาชิงลูกค้าเราไป เราจะยอมมันได้ไง
    หมดสงครามเวียตนาม ความต้องการใช้ไทยแลนด์แดนสยามก็หยุดลงชั่วคราว
    จิ๊กโก๋จําเป็นต้องไปหากินซอยอื่น เพราะว่าการใช้น้ำามันทั่วโลกกาลังพุ่งแรงจากการขยายตวของอุตสาหกรรม หรือพูดให้ชัด จากทุนนิยมที่เร่งขยายตัว
    จิกโก๋ก็ต้องหาทางเอาน้ํามนั มาเป็นของตนเองให้มากที่สุด ก็เลยไปขุดเผือกขุดน้ํามันแถวบ้านคุณอาที่มีน้ํามัน จําได้ไหม แล้วก็เผ่นไปยุ่งถึงอเมริกาใต้เกิดเรื่องอิหร่าน คอนทร้า (Iran Contra) จนวุ่นไปหมดมันไปหมดทุกแห่งที่จะล้วงกระเป๋าเขาได้มาจนถึงปีค.ศ. 1997 จิกโก๋เองขนาดล้วงกระเป๋าเขามา 50
    ปีก็จนเป็นเหมือนกัน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด การเพ่นพานของ ่
    จิ๊กโก๋ก็สงบลงเล็กน้อย เพราะมัวแต่จัดระเบียบบ้านตัวเอง
    ขณะเดียวกันประเทศที่ได้เอกราชใหม่ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น อินเดีย หรือประเทศที่เปลี่ยนแปลงวิธีบริหารประเทศของตัวเอง เช่น ประเทศจีน ก็ก้มหน้าก้มตาพัฒนาประเทศตัวเองอย่างเร่งรีบ แต่ เงียบเชียบ
    สหรัฐไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จับมืออยู่กันแต่ในกลุ่มหัว 3 เกลอหัวแข็งเท่านั้น บวกเอาญาติโยมและพวกฝ่ายผมทองเข้าไปด้วยเฉพาะที่ เห็นว่าพอจะคุยกันรู้เรื่อง ถึงได้เกิด EU สหภาพยโรป ุ G7, G8 อะไรนู่น เอาญี่ปุ่นตาตี่ไปรวมด้วย (เพราะเป็นภาระของสหรัฐโดยตรง ก็ทะลึ่งไปบอมบ์เขานี่นะ ก็เลยต้องพ่วงเป็นลูกบุญธรรมไปด้วยตลอดเวลา) ที่เหลือ มันเหยื่อนักล่านักล้วงทั้งนั้นแหละ
    สหรัฐเมินภูมิภาคแถบนี้ไปนาน เพราะคิดว่าเหลือแต่ซากหลังสงครามเวียตนาม
    เหมือนแถบยุโรปตะวันออกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
    หันมาอีกทีต๊กกะใจ ว้าย ตาเถร ไอ้ตาตี่ทําไมมันโตเร็วกลายเป็น อาเฮียพุงพลุ้ยเดินโปรยเงินไปทั่ว จีนโตเร็วและทําท่าจะโตไปเรื่อย ๆ บวกกับอินเดียและที่รวมตัวกันเรียกว่ากลุ่มประเทศที่เกิดใหม่ทาง
    เศรษฐกิจ คือกลุ่ม BRICS บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน อาฟริกาใต้
    คิดง่าย ๆ แค่จีนกับอินเดียรวมกันมีประชากร 3 พันกว่าล้านคน ท้งโลกนี้มีประชากร 7 พันกว่าล้านคนแค่ 2 ประเทศ ก็เกือบครึ่งโลกแล้ว กําลังซื้อมันจะขนาดไหน แค่นัดกระทืบเท้าพร้อมกัน โลกก็เอียงแล้ว(น่าลองดูนะ ซ่ามาก ๆ ก็ถล่มมันชะเลย)
    จิกโก๋คิดแล้วก็หัวหมุนกลับ หันมาไทยแลนด์แดนสยามอีกครั้ง ในปีพ.ศ. 2542 /ค.ศ. 1999 ตรงกับปีที่เศรษฐกิจจีนเริ่มโตอย่างชัดเจน แล้วทําไงดีล่ะ ตัวทิ้งเค้าไปตั้งนาน อยู่ๆ จะกลับมา จ้ะ ๆ จ๋า ๆ เหมือนเดิมกันง่าย ๆ แบบนั้น เค้าไม่ใช่
    หญิงคนชั่วเร่ขายชาตินะยะ แล้วตัวจําได้มั้ย ตอนเค้าตูดขาดเหลือแต่คลัง เงินไม่มีให้คงไว้น่ะ เพราะรัฐบาลน้าจิ๋ว กะรัฐบาลปี๋ชวนทําซะบักโกรกน่ะ เขาส่ง
    อ้ายน้อยไปหาตัว ตัวทําอะไรกับเขา เขาจําได้นะ ให้ไอ้ IMF มันโหดกะเค้ายังไง ไปถามพวกเจ้าของธนาคาร หวั่งหลีล่ําซํา หรือคุณป๋าประชัยแห่ง TPI หรือเฮียหวัดเจ้าของวลีไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ดูก็แล้วกันว่าหายช้ําหรือยัง
    สหรัฐจะกลับมาภูมิภาคนี้ใหม่ก็ต้องกลับมาแบบไม่ให้เสียเชิง ไม่เสียฟอร์มนักทฤษฎีนักสร้างฉาก ลองทายดูซิจิกโก๋จะกลับมาแบบไหน กลับมาแบบเท่ห์ๆ น่ะ ฮา

    ตอนที่ 16/2

    ช่วงสงครามเวียตนาม สหรัฐคบกับทหารไทย นักวิ่งผลัดจนรู้เช่นเห็นชาติว่าชอบกินอาหารจานด่วนแบบไหน หลอกล่อ ต่อรอง เห่กล่อม อย่างไร ถึงจะไม่งอแง
    พอเลิกใช้บริการนักวิ่งผลัด พี่เบิ้มก็ไปใช้พวก เด็กในคาถา good boy technocrat
    ดังนั้นเวลาจะกลับ มันก็ไม่พ้นประตู 2 ช่องนี่แหละ จะพูดกับใครรู้เรื่อง ไปกว่าพวก
    ที่เคยมือ รู้ใจกันว่าแล้วจิกโกก๋ ็เรียก good boy มาสัมภาษณ์ทีละคน โดยทําเป็นเชิญมาทานข้าว บ้าง ดื่มน้ําชาบ้าง ไล่ไปตั้งกะใหญ่โต ระดับ องคมนตรีข้าราชการ นักวิชาการ นักการเมืองทุกค่ายนักธุรกิจ จนถึงสื่อถาม ทุกเรื่องลับ แบบเจาะลึก ท่านต่างๆ ก็ช่างตอบกันดีนัก อย่างกะขึ้นสังกัดกับเขา บางเรื่องเป๊นเรื่อง
    ในบ้านเราแท้ๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับคนนอกเลย ก็ตอบเขาเอา ตอบเอา
    นอกจากนี้ก็ให้พวกซีในคราบเจ้าหน้าที่สถานทูต เดินไปตามงานเลี้ยงไฮโซต่าง ๆ เก็บข่าวทุกวัน ใครกําลังขึ้น ใครกําลังลง พระราชวงศ์จะเป็นอย่างไร ใบไม้ใบไหนกําลังออกใหม่ ใบไหนกําลงจะร่วง ถามมันไปหมดทุกเรื่องนะแหละ
    เขาเล่ากันว่าสถานทูตสหรัฐในไทยนะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 อยู่ที่อียิปต์ที่ประเทศไทยนี้มีพนักงานประจําการอยู่กว่า 2 พันคน และที่ไม่ประจําอีกกว่า 2 พันคน โว้ย! มนเอามาทำาไรแยะขนาด
    นี้กะจะนับใบไม้ทุกใบหรือไงวะ ก็คงตกค้างตั้งกะสมัยรบสงครามเวียตนามนะ ตอนนั้นใช้ประเทศไทยเป็นศูนยกลางบัญชาการรบ ก็จะใหพวกพีเขาไปอยู่ท่ไหนล่ะ แถบนี้ใครมันจะเจริญ แถมแสงสีเสียงครบแบบไทยแลนด์ล่ะ
    หลังจาก ทั้งซัก ทั้งฟอก เด็กในคาถา เดินสํารวจตามงานหรูไม่วาของราชการ ่ ไฮโซ สปอร์ตคลับ ฯลฯหลายรอบ พี่เบิ้มก็ถอนใจ อู้ย จากไปไม่เท่าไหร่ ไม่คุมเอง ทําไม ไทยแลนด์มันไม่ใช่แดนสยามเมืองยิ้ม อย่างเมื่อก่อนนะ นี่มันดัน
    กลายเป็นสนามประลองกีฬาสีนี่นา แต่กีฬาสีนี้มันหนักน่ะ ใครจะอยู่ใครจะไป ไอยังไม่แน่ใจ อย่ากระนั้นเลย เอาที่แน่ๆ กลับไปที่นักกีฬาวิ่งผลัดดีกว่า เออ! เพิ่งนึกออก บ้านเรานี่มันนักกีฬาแยะนะ ไม่วิ่งผลัดก็กีฬาสี 5 5 5
    สหรัฐส่งแม่ทัพเรือภาคที่ 7 ที่ประจําอยู่ที่โอกินาวาของลูกกะเป๋ง มาเยี่ยมไทยแลนด์ทบทวนความสัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 50 ปีเรียกว่าเป็นมิตรรักระดับเดียวกับ พวก NATO ร่วมซ้อมรบด้วยกันทุกปีในนามของ Cobra Gold ขึ้นบกทีไร น้องหนูแถวพัทยาภูเก็ตก็แฮปปี้กระดี้กระด้า นอกจากนั้นในช่วงเกิดเหตุการณ์ซึนามิไทยแลนด์ก็ใจดีให้ใช้อู่ตะเภาเป็นสนามบินที่ใช้ในการช่วยบรรเทาทุก แต่ข่าวที่ไม่เปิดเผยคือช่วงรัฐบาลทักษิณ ไทยเราอนุญาตให้เครื่องบินอเมริกัน บินขึ้นลงจากอู่ตะเภาเพื่อไป
    ปฎิบัติการรบในอิรักและอาฟกานิสถานด้วยนะ (สมันน้อยไม่เข็ด!)
    แล้วสหรัฐทําไมถึงอยากกลับมายุ่งในภมูิภาคนี้ใหม่ โดยเฉพาะเข้ามาเดินกร่างใน
    ไทยแลนด์เหมือนเดิม แค่เรื่องอาเฮีย จากนั่งแทะเม็ดกวยจี๋กลายเป็นเจ้าสัวกระเป๋าหนัก มันเกี่ยวอะไรกะสมันน้อยด้วยล่ะ

    ตอนที่ 17 จากอาตี๋เป็นอาเฮีย

    ตอนที่ 17/1

    ปลายปีพศ 2552/คศ 2009 มีรายงานของทูตอเมริกันในไทย ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่จิ๊กโก๋เสียตําแหน่ง Thailand 's top export ให้แก่จีน ซึ่งเป็นตําแหน่งที่จิ๊กโก๋ครองมาอยู่หลายสิบปีและเป็นไปได้ว่า ปีหน้าอาเฮียกจะได้ตําแหน่งนี้ต่อไป
    หน้าแตกละซิตัวเลขส่งออกของไทย กับอาเฮีย ในปนีั้น เป็น จํานวน 1.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 115% ตัวเลขส่งออกของไทย กับสหรัฐ ในปีนั้น เป็น จํานวน 1.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% และมีที่ท่าว่า ตัวเลขการเพิ่มขึ้น ระหว่างจัน กับ สหรัฐ จะห่างกัน มากขึ้น มากขึ้น ทุกปีที่ปวดกระดองจิกโก๋หนักเข้าไปอีก คือ รมว คลัง และ ผู้ว่า ธปท ของไทยสมัยนั้น ต่างก็ชื่นชมยินดีกับการค้าขายกับจีน ว่าเป็นไปด้วยสันถวไมตรีอันดียิ่งนอกเหนือจากเรื่องค้าขาย (ทุน) แล้ว เรื่องอํานาจ ก็ทำาท่าจะแผ่วช่วงที่เกิดรัฐประหาร ในไทยปีพศ 2549 /คศ2006 สหรัฐก็ทําโทษไทย ยกเลิก การเงินทุนสนับสนุนทางทหารทุกรายการ เป็นจํานวน 24 ล้านเหรียญสหรัฐพอเห็นสมันน้อย คอตกเพราะถูกพี่เบิ้มทําโทษ อาเฮียก็ถลามาปลอบใจ ให้สินเชื่อช่วยเหลือแก่กองทัพไทย จํานวน 49 ล้านเหรียญสหรัฐ
    การเอาใจสมนน้อยของจีน เป็นที่ฮือฮากัน ถึงขนาดได้ยินไปถึงหูพี่เบิ้มว่า ทหารใหญ่ท่านหนึ่งของไทย(อย่าให้เอ่ยชอเลยนะ ตอนนี้รู้สึก คนอยากชวนไปเที่ยวหลายคนแล้ว!) บอกว่าคุยกับจีนสบายใจกว่าสหรัฐ ที่เอาแต่พูดเรื่องที่ตัวสนใจ เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมประชาธิปไตยนี่ยังไม่นับ เรื่องการซื้ออาวุธที่สมันน้อย ทําเป็นลืมสัญญา ไปจับมือกับเจ้าอื่นแทน ช่วงที่พี่เบิ้มตัดทุนสนับสนุน แหม เรื่องมัน เดิมๆ ซ้ําซาก แล้วยังงี๊จิ๊กโก๋จะทนทําเฉย ไหวหรือ
     
  16. พลายวาต

    พลายวาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +369
    ตามความเข้าใจของผม(ซึ่งอาจจะมีไม่มากนัก) การวางเฉยในศาสนาพุทธมีอยู่ 2 ลักษณะ อย่างแรกเป็นอุเบกขาแบบเนกขัมมะ เฉยโดยผ่านกระบวนการธรรมวิจัยแล้วโดยไม่มีกิเลสมาปรุงแต่งแต่ยังคงมีการกระทำตามเหตุปัจจัยอย่างเป็นปุญญาภิสังขารเรียกว่ามีกรรมกริยาเพื่อช่วยสงเคราะห์โลกแต่ไม่ยึดติดมีเจตจำนงค์ลงมือกระทำในสิ่งอันควรโดยใจเป็นอิสระ อย่างที่สองเป็นอุเบกขาแบบเคหสิตะ หรือการวางเฉยแบบชาวโลกปุถุชนที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการธรรมวิจัย มีกิเลสและความไม่รู้เข้าร่วมปรุงแต่ง ตัวอย่างเช่นเห็นเพื่อนสองคนขัดแย้งกันแต่ไม่เกี่ยวกับเราอย่าไปยุ่งอย่าไปรับรู้ดีกว่าก็เฉยซะ

    ทั้งนี้ผมเข้าใจว่าการปฏิบัติตัวตามหลักธรรมของศาสนาพุทธจะเป็นไปใน 3 ลักษณะคือ 1.ปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเองสู่ความเป็นโลกุตระ(โลกของอาริยชนผู้ห่างจากกิเลส) 2.มีความรู้ความเข้าใจต่อโลกรอบตัว หรือ โลกะวิทู แล้วก่อให้เกิด 3. โลกานุกัมปายะ หรือ การสงเคราะห์โลก

    ดังนั้นการเรียนรู้ปรากฏการณ์ทางสังคมต่างๆจึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำเพื่อให้เกิดการเรียนรู้เข้าใจโลกรอบตัวเพื่อจะนำไปสู่การกำหนดท่าทีของตัวเราและการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนอื่นและสังคมที่เราอาศัยอยู่เท่าที่เราจะมีกำลังสติปัญญาและความสามารถ

    แต่ทั้งนี้ก็ควรอยู่บนพื้นฐานของการไม่แบกโลกเอาไว้ (เข้าไปรับรู้แบบใช้อารมณ์ชอบชังเป็นส่วนตัวจนเครียด) ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมการฝึกฝนตนเองของแต่ละคน
    อุปมาอุปมัยเหมือนกับทหารที่ต้องออกไปรบตามหน้าที่เพื่อปกป้องมาตุภูมิ แม้จำเป็นต้องสังหารศัตรูแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำเพราะความเกลียดชังหรือสะใจ

    ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยครับ เพียงแต่ผมเชื่อว่าอนาคตก็คือส่วนผสมของกรรมเก่าในอดีตบวกกับการกระทำหรือกรรมในปัจจุบัน ไม่ควรนอนรอวิบากจากกรรมเก่าโดยไม่กระทำกรรมปัจจุบันให้ดีที่สุดตามกำลังของสติปัญญาที่มี

    ที่พูดมาไม่รู้ว่านอกเรื่องหรือเปล่า สรุปว่าแค่อยากฟังนิทานต่อไปเรื่อยๆครับ สนุกดี
     
  17. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ปล่อยวางในเรื่องจิตใจ แต่อย่านิ่งเฉยเสียจนเกินไป อย่าเก็บอดีตเอามาเป็นเรื่องทุกข์ ทำวันนี้ให้ดี พรุ่งนี้ก็จะเจอแต่เรื่องดีๆ

    ชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ ประเทศไทยจะยังไม่สิ้นชาติถ้ายังมีสามสถาบันนี้อยู่

    เมื่อยังมีชิวิตกันอยู่ก็โปรดนึกถึงลูกหลานไทยในวันข้างหน้าด้วย

    มาอ่านนิทานกันต่อ
     
  18. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ยังไม่เล่านิทาน มีประวัติบุคคลที่น่าสนใจ ใครยังจำผู้นำคนนี้ได้บ้าง
    ที่สื่อฝรั่งย้อมฟอกว่าเป็นผู้นำเผด็จการ โหดร้าย สังหารผู้คน บลาๆ บลาๆ ....


    ชื่อ-นามสกุล : ประธานาธิบดี โมอัมมาร์กัดดาฟี
    ชื่อเล่น : กัดดาฟี
    นามแฝง/ฉายา : มูอัมมาร์ กัดดาฟี
    วันที่เกิด : 7 มิถุนายน 2485
    ถิ่นกำเนิด : ในกระโจมบริเวณทะเลทรายใกล้ๆ เมืองเซอร์ตี ประเทศลิเบีย
    ประวัติครอบครัว :
    พ.อ.โม อัมมาร์ กัดดาฟี มีตระกูลของเขานับแต่ปู่ลงมา เคยต่อสู้กับทหารอิตาเลียน ที่เข้ามายึดครองประเทศลิเบียอย่างกล้าหาญ ถือได้ว่าเขาสืบสายเลือดชาตินิยมอาหรับมา มีบิดาเป็นชาวอาหรับที่เรียกกันว่า เบดูอิน ซึ่งร่อนเร่พเนจรในทะเลทราย เป็นชนเผ่าเบอร์เบอร์ มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ขาย ในวัยเด็กเขาชื่นชอบอดีตประธานาธิบดีกามาล อับเดล นัสเซอร์ และชื่นชอบแนวความคิดสังคมนิยมรูปแบบอาหรับของนัสเซอร์ เคยไปชุมนุมต่อต้านอิสราเอล เมื่อปี 2491
    สมรสกับนางซาเฟีย ฟาร์กาช มีบุตร 8 คน โดย 7 คนเป็นผู้ชาย มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อนายเซอิฟ อัล อิสลาม (ทายาทการเมืองของโมอัมมาร์ กัดดาฟี) ซึ่งบุตรชายได้ประกาศต่อหน้ากลุ่มยุวชนผู้ สนับสนุนในเมืองเซบาว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวการเมืองและงานของรัฐ พร้อมเรียกร้องให้สร้างสมาคม พลเรือนที่เข็มแข็งในประเทศลิเบีย) มีบุตรบุญธรรม 2 คน มีบุตรสาวบุญธรรมคนหนึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิด เมื่อปี 2529
    การศึกษา และดูงาน :
    - เข้ารับการศึกษาขั้นต้นในโรงเรียนสอนศาสนา
    - จบจากโรงเรียนนายร้อยเบงกาซี (เมื่ออายุ19 ปี)
    - ปี 2509 ศึกษาวิชาสื่อสารที่ประเทศอังกฤษ 6 เดือน
    ตำแหน่งปัจจุบัน
    - ประธานาธิบดีประเทศลิเบีย
    การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่
    - เข้ารับราชการเป็นทหารสื่อสารในกองทัพบก ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่ง นายทหารคนสนิทของผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารสื่อสาร
    - ทำงานใต้ดินติดต่อกับเพื่อนๆนายทหาร
    - 2 กันยายน 2512
    ผู้ ร่วมกับคณะนายทหารของเขา ทำการปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลระบบกษัตริย์ ไอดริสแห่งลิเบีย ได้สำเร็จ ทำระบบการปกครองแบบใหม่ของประเทศลิเบียว่า เป็นสังคมนิยมแบบอิสลาม ซึ่งเขาจำกัดความว่าคือ ชาตินิยมแบบอาหรับ และรัฐสวัสดิการประชาชน มีคำขวัญประจำชาติว่า สังคมนิยมเพื่อความสามัคคีและเสรีภาพ แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็น ประธานสภาการปฏิวัติ และเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ได้เลื่อนยศพันเอก)
    - ประธานาธิบดีประเทศลิเบีย

    กัดดาฟีสุนัขบ้าแห่งตะวันออกกลาง
    พันเอกกัดดาฟี่ขึ้นสู่อำนาจในปี พ.ศ 2512 เมื่ออายุเพียง 27 ปีหลังรัฐประหารระบอบกษัตริย์ของลิเบีย เขาเริ่มเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากความแปลกประหลาดแตกต่างจากผู้นำคนอื่นๆ เช่นสวมชุดคลุมยาวสีน้ำตาลหรือสวมหนังสัตว์ และมักล้อมรอบด้วยองครักษ์ที่ล้วนเป็นสตรี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โรแนลด์ เรแกน เคยเรียกพันเอกกัดดาฟี่ว่าเป็น “สุนัขบ้าแห่งตะวันออกกลาง”

    คุณ Jerrold Post ผู้อำนายการสาขาจิตวิทยาการเมืองแห่งมหาวิทยาลัย George Washington ชี้ว่าผู้คนมักให้ความสนใจกับความแปลกประหลาดของพันเอกกัดดาฟี่ จนอาจลืมไปว่าพันเอกกัดดาฟี่ประสบความสำเร็จไม่น้อยบนเวทีการเมืองโลก

    พันเอกกัดดาฟี่จัดตั้งระบบสังคม เศรษฐกิจและการเมืองขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ “Jamahiriya” ซึ่งหมายความว่ารัฐแห่งมวลชนในภาษาอาราบิก เขาสรุปรวมปรัชญาการปกครองของเขาเองลงในหนังสือ Green Book ที่มีชื่อเสียง เขาปฏิเสธรัฐธรรมนูญแต่เชื่อในระบอบที่ประชาชนคือผู้บริหารประเทศและตนคือผู้นำ

    คุณ Daniel Serwer แห่งสถาบันตะวันออกกลาง ชี้ว่าแม้พันเอกกัดดาฟี่คือผู้ที่สอนให้ประชาชนจัดตั้งสภาปกครองตนเองขึ้นมาบริหารประเทศ แต่เขากลับปฏิเสธที่จะมอบอำนาจบริหารให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง คุณ Serwer ระบุว่าพันเอกกัดดาฟี่รวมศูนย์อำนาจไว้แต่ผู้เดียว และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพแห่งลิเบียผู้รวบรวมส่วนต่างๆที่กระจัดกระจายของลิเบียเข้าด้วยกัน

    อย่างไรก็ตาม ภาพพจน์ของพันเอกกัดดาฟี่บนเวทีโลกมัวหมองลงเนื่องจากความสัมพันธ์กับผู้ก่อการร้าย สหรัฐกล่าวหาว่าพันเอกกัดดาฟี่มีส่วนในเหตุการณ์ระเบิดที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในเยอรมนีเมื่อปี พ.ศ 2529 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิต 2 คน รวมทั้งเหตุการณ์ระเบิดเครื่องบินของสายการบิน Pan Am ที่เมืองล็อคเคอร์บี้ สก็อตแลนด์เมื่อปี พ.ศ 2531 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 270 คน

    พันเอกกัดดาฟี่แสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ดังกล่าวในอีก 15 ปีต่อมาพร้อมกล่าวประณามการก่อการร้ายและปฏิเสธอาวุธทำลายล้างมวลชน มีผลให้สหรัฐยกเลิกมาตรการลงโทษลิเบียและยอมรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับลิเบียใหม่อีกครั้ง

    จนมาถึงช่วงต้นปีนี้ ประชาชนลิเบียหลายแสนคนลุกฮือต่อต้านระบอบการปกครองของพันเอกกัดดาฟี่ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง พันเอกกัดดาฟี่ตอบโต้ด้วยการปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง ทำให้สหประชาชาติมีมติให้ใช้ปฏิบัติการทางอากาศต่อลิเบีย นำไปสู่การล่มสลายของระบอบการปกครองยาวนาน 42 ปีในลิเบีย

    ถึงกระนั้นพันเอกกัดดาฟี่ยังยืนยันกับผู้สนับสนุนตนว่าจะต่อสู้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ และนั่นคือคำประกาศสุดท้ายก่อนที่เขาถูกโค่นอำนาจ ต้องหลบซ่อนตัวอย่างยากเข็ญ และสุดท้ายถูกสังหารในประเทศที่ตนเคยได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพและความเป็นหนึ่งเดียว

    [​IMG]

    ผลงานของกัดดาฟี

    ลิเบีย เป็นประเทศที่ปกครองอยู่ในรูปแบบของอัตตาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ มีความเด็ดขาดทางการเมืองและมีกัดดาฟี่เป็นผู้นำลิเบีย

    กัดดาฟีมีความสนใจทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เขาเคยเดินขบวนนัดหยุดเรียนจนถูกไล่ออกจากโรงเรียน และต้องจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน และเมื่ออายุ 19 ปีก็สามารถที่จะสอบเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยที่เบงกาซีเมื่อเป็นนักเรียนนายร้อยความคิดเรื่องชาตินิยมอาหรับของเขาก็ถูกเผยแพร่แก่เพื่อนนายทหารด้วยกัน เริ่มมีการจัดตั้งขบวนการนายทหารเสรีในวัยหนุ่มเพื่อปฏิวัติโค่นราชบัลลังก์ฟารุคที่ปกครองลิเบียในขณะนั้นหลังจากได้เป็นนายทหารในกองทัพบก เขาก็เริ่มปฏิบัติการลับใต้ดิน โดยการติดต่อกับเพื่อนนายทหารวัยหนุ่ม เพื่อร่วมวางแผนปฏิวัติ โดยเพื่อนนายทหารและตัวกัดดาฟีเองล้วนใช้ชีวิตมัธยัสถ์อดออม เคร่งศาสนาเยี่ยงมุสลิมที่ดี ความจริงลิเบียเป็นขุมทรัพย์ที่ถูกโลกตะวันตกค้นพบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกลายแหล่งดึงดูดชาติตะวันตก ได้มีการค้นพบบ่อน้ำมัน ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ที่ทำให้ชั้นปกครองของลิเบียร่ำรวยมหาศาล บริษัทต่างประเทศเข้ามาขอสัมปทานน้ำมันกอบโกยผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่ ความมั่งคั่งของชนชั้นปกครองกลับตรงกันข้ามกับความอดอยาก
    ยากจนของพลเมืองลิเบีย ทั้งหมดเป็นแรงดลใจให้กัดดาฟีและคณะนายทหารของเขาไม่อาจจะทนรอได้อีกต่อไป

    วันที่ 1 กันยายน ปี ค.ศ.1969 ขณะที่กษัตริย์ไอดริสเสด็จออกไปนอกประเทศ นายทหารผู้ใหญ่ของกองทัพบก
    ได้เชิญนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มากินเลี้ยงกันเป็นการใหญ่ ดึกคืนนั้นคณะปฏิวัติเคลื่อนกำลังเข้าจู่โจมจับกุมตัวนายทหาร
    และนายตำรวจเหล่านั้น จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้ายึดเมืองตริโปลีและเบงกาซี โดยใช้รถถังและรถเกาะเข้ายึดสถานีวิทยุ
    ที่ทำการไปรษณีย์ และสถานที่สำคัญ ตลอดจนค่ายทหารที่อาเซียและพระราชวังด้วย
    นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากองทัพบกและตำรวจก็อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาการของกัดดาฟี เพื่อสะดวกแก่การ
    บังคับบัญชาของเขา จึงได้เลื่อนยศตนเองเป็นนายพันเอก และดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดของสาธารณรัฐสังคมนิยม
    ประชาชนอาหรับลิเบีย และเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งตำแหน่งประธานสภาปฏิวัติด้วย
    สิ่งแรกที่คณะปฏิวัติดำเนินการก็คือไม่ยินยอมให้สหรัฐฯ และอังกฤษตั้งฐานทัพในลิเบียอีกต่อไป มหาอำนาจทั้งสองจึงต้องถอนกำลังออกทั้งหมด และภายหลังการถอนทหารของมหาอำนากัดดาฟีก็ได้ดำเนินนโยบายขึ้นราคาค่าการจัดเก็บน้ำมันขึ้นมาอีก 120% จากนั้นก็ให้โอนมาเป็นของรัฐทั้งหมด ยังผลให้ลิเบียเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง
    เป็นประเทศที่ถือได้ว่าร่ำรวยที่สุดบนพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างแอฟริกาตอนเหนือกับตะวันออกกลาง มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดและมีทรัพยากรธรรมชาติมากมายทั้ง น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และแร่ยิปซั่ม ที่สามารถส่งออกไป
    ขายได้อีกหลายสิบปี ประเทศเพื่อนบ้านของลิเบีย เช่น อียิปต์ ตูนีเซีย และโมร็อกโก ได้ส่งคนไปทำงานในลิเบียเป็นจำนวนหลายแสนคน
    แต่ด้วยความเด็ดขาดของนโยบาย ลิเบียได้ถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรในฐานะที่มีส่วนร่วมกับขบวนการก่อการร้าย เป็นอุปสรรคต่อการค้าและความร่วมมือกับต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ทางการลิเบียยินยอมมอบตัวผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดเครื่องบิน Pan Am เหนือเมือง Lockerbie ในสกอตแลนด์ ลิเบียก็
    เริ่มได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ
    ว่ากันว่าในสายตาของชาวลิเบียและชาวอาหรับ กัดดาฟีเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สืบทอดอุดมการณ์ชาตินิยมอาหรับจากนัสเซอร์ผู้นำของชาวอียิปต์ แต่ในสายตาของโลกตะวันตกโดยเฉพาะรัฐบาลอเมริกา เขาคือปีศาจร้ายที่ต้องทำลายให้สิ้น ว่ากันว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังพวกก่อการร้ายชาวอาหรับจำนวนมาก
    ปัจจุบันลิเบียมีรูปแบบทางการปกครองที่ประกอบไปด้วยสถาบันที่สำคัญทางการเมือง คือสภาประชาชนทั่วไป ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและออกกฎหมาย ซึ่งได้ปรับโครงสร้างใหม่โดยการยุบ General People’s Committee ซึ่งเป็น
    องค์กรส่วนกลางมีบทบาททำนองเดียวกับกระทรวงที่รับผิดชอบงานต่างๆ และมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารให้มี
    การกระจายอำนาจออกไปในระดับท้องถิ่น
    อย่างไรก็ตามกิจการที่สำคัญ เช่นกิจการน้ำมัน ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกัดดาฟี
    จนถึงวันนี้เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีทางที่จะโค่นกัดดาฟีลงได้ มหาอำนาจชาติตะวันตกจึงเปลี่ยนนโยบายหันมาพยายาม
    ฟื้นฟูความสัมพันธ์ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามของโลกตะวันตกที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกัดดาฟี ลิเบียก็ยังคงเป็นลิเบีย
    ความแข็งกร้าวและ เด็ดขาดก็ยังคงอยู่
    เมื่อรัฐบาลลิเบียได้จับกุมแพทย์และพยาบาลต่างชาติ 6 คน ส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาทำให้เด็กหลายร้อยคน
    ติดเชื้อเอชไอวี โดยที่ศาลสูงของลิเบียได้ตัดสินประหารชีวิตทั้งหมด ได้สร้างความไม่พอใจให้กับสหภาพยุโรป (อียู)
    และสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นความเด็ดขาดที่ท้าทายประชาคมโลกอีกครั้งของลิเบีย
    [​IMG]


    เกิดการขัดแย้งภายใน กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลของกัดดาฟี่ (มาจากไหนละ กลุ่มแบบนี้คุ้นๆ กันไหม รู้สึกมันจะมีแต่กลุ่มแบบนี้ เกิดขึ้นหลายประเทศจังเลย ) ประท้วง ขัดแย้ง ต่อต้าน แล้ว ชาติมือที่สามหรือสี่ก็เข้ามาจัดการ พล๊อตเรื่องเดียวกันเลย

    กอง กำลังสหประชาชาติเริ่มปฏิบัติการโจมตีลิเบียแล้ว หลังจาก กัดดาฟี ผู้นำลิเบียจัดการกลุ่มต่อต้านอย่างไม่ปราณี ทำให้กองกำลังสหประชาชาติ รุกโจมตีทั้งทางอากาศและทางเรือ ในชื่อปฏิบัติการว่า Odyssey Dawn ซึ่งหมายถึง การปฏิเสธที่ลิเบียใช้กองกำลังจัดการกับประชาชนของตัวเอง
    ที่ ผ่านมากัดดาฟี ได้ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามฝ่ายต่อต้านอย่างไม่ลดราวาศอก จนสหประชาชาติต้องประกาศเขตห้ามบิน เหนือน่านฟ้าลิเบีย และนำมาซึ่งปฏิบัติการยิงถล่มจากเครื่องบินรบฝรั่งเศส และการยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร

    แต่ลิเบียหลังจากผู้นำกัดดาฟี่เสียชีวิต บ้านเมือง ไร้สิ้นซึ่งขื่อแป จากประเทศที่ร่ำรวยสุดๆ เหลือแต่ซากปลักหักพัง ประชาชนก็รับกรรมที่ก่อขึ้นมาเองไป เพราะการโค่นผู้นำรายนี้เกิดจากการยั่วยุ แตกแยก ขัดแย้งกันภายใน โดยการเสี้ยมของ กลุ่มประเทศมือที่สามที่อาจจะมีหลายมือ


    อ่านเรื่องนี้คงเห็นประโยชน์บ้าง ว่าคนไทยถ้าไร้ซึ่งการขัดแย้งภายใน ก็ยังคงอยู่ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตร์ ประชาชนคนไทยก็ยังอยู่ตามวิถีไทยๆ กันต่อไป

    เครดิตร ยำข่าวจากหลายๆสื่อ

    http://www.oknation.net/blog/nfedlion/2013/08/04/entry-1
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2014
  19. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนที่ 17/2

    มารู้จักภูมิศาสตร์ของจีนก่อน เอานักฟังนิทานทุกคน จะ ฟังนิทานตอนนี้ให้ภาพชัด ต้องไปหาแผนที่มาดูประกอบจีนตั้งอยู่บนเอเซียตะวันออก ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ดินประมาณ 9.6 ล้านตาราง
    กิโลเมตร เป็นพื้นที่บนบกใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (ใครเป็นอันดับ 1 ไปเปิดกูเกิลหาเอาเอง) มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่น ๆ 14 ประเทศ ได้แก่ เวียตนาม ลาว พม่า อินเดีย ภูฐาน เนปาลปากีสถาน อัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน ศิร์กิสถาน คาซัคสถาน รัสเซีย มองโกเลีย และเกาหลีเหนือ
    เอ แล้วไม่เห็นมันติดกับไทยแลนด์ตรงไหนเลยนี่แล้วพวกจิกโก๋จะเข้าไปล่วงตับจีนผ่านไทยได้ยังไงหว่าน่าสงสัยนะก็น่าสงสัยอยู่หรอก ถ้ามัวแต่ดูข่าวจากช่องที่ถนัดแต่เอา ละคร เรื่องคุณชาย เรยา ลํายอง มาเล่น ฯลฯ มันจะไปรู้ได้ยังไง ต้องอ่านนิทานของเรานี่แหละ ถึงจะได้เห็นโลกกว้าง ทางลึกกันบ้าง
    กลับมาดูประเทศไทย อาณาเขตติดกับประเทศอะไรบ้าง อันนี้ถ้าไม่รู้เลิกเล่านิทานจริง ๆ นะ ลองถามตัวเองดูหลังจากเห็นภูมิศาสตร์อาณาเขตประเทศจีน และประเทศไทยดูแล้ว ทําไมสหรัฐถึงจําเป็นต้องมานั่งประทับทรงอยู่ในไทยแลนด์
    ย้อนดูจีนอีกทีไอ้14 ประเทศที่ติดกบจีนน่ะ มีส่วนที่ติดกับ พวกแก๊ง BRICS
    คือ อินเดีย รสเซีย และจิกโก๋ที่ตัวเล็ก แต่พูดกันไม่รู้เรื่องคือเกาหลีเหนือ อยู่ด้วย
    เพราะฉะนั้น ไปยุ่งกับประเทศแถวนั้นเขาได้ไหม หาเรื่องใส่ตัว เอาพวกที่ที่เหลือ
    ที่ปั่นหัวง่ายไม่ดีหรือ ก็คือ เวียตนาม ลาว พม่า
    ลาวนั้นอเมริกาครอบงำ ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนามแล้วไม่เคยปล่อยฝาครอบอีกเลย แทรกแซงตะแบงอุ้มสาระพัด จนทุกวันนี้ยังตามเรื่องลาวอพยพ หรือม้งที่อเมริกามาฝากไทยดูแลไว้ตั้งแต่หลังสงครามเวียตนาม ก็ยังไม่จบสิ้น ขณะนี้พวกม้งอพยพนี้ขึ้นกับใครเป็นภาระของใคร ต้องไปถาม กอ รมน ส่วนเวียตนามนั้น มันก็เหลือเชื่อ จากที่รบกันจะเป็นจะตาย ฉิบหายกระเป๋าฉีกบ้านช่องวินาศสันตะโรกันไปค่อนโลกกว่า 15 ปีตอนนี้หันมาจูบปากค้าขายกันเรียบร้อย แล้วพวกเราไม่สงสัยกันบ้างหรือจ้ะ ว่ามันอะไรกัน รบจริง รักจริง แบบนี้พวกสมันน้อยไม่ทันเขาหร๊อก! หมดห่วงเรื่องลาวกับเวียตนาม ก็เหลือพม่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่อเมริกาเริ่มจะกลับมาภูมิภาคนี้เพื่อมาเฝ้าระวังจีน หนทางที่จะเข้าพม่าไม่มีเลยคุณน้าอองซานได้แต่เอาดอกไม้แซมผม นั่งเอี้ยมเพี้ยมถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน แล้วจิกโก๋จะไปคุยกับใคร อ้า! มาแล้ว งั้นก็ต้องคุยกับไทยแลนด์ที่มีดินแดนติดทั้ง เขมร ลาว และพม่าไง เข้าใจหรือยัง ย้อนไป
    อ่านตอนต้น ที่เล่าสมัยเหตุการณ์ร.ศ. 112 ก็เหมือนกันเป๊ะ
    ไอ้จิกโก๋รุ่นเก๋า อังกฤษ ฝรั่งเศส คิดยังไง ทํายังไง จิกโก๋รุ่นใหม่ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ ก็บอกแล้ว มัน3 เกลอหัวแข็ง ผลัดกันเล่น ผลัดกันตีลืมไปแล้วหรือไร ไม่มีอะไรแปลกใหม่ถ้าอเมริกามาประทับทรง คุมทุกอย่างในไทยแลนด์ได้เหมือนเดิม การจะจับตามอง ส่องกล้องดูอาเฮีย ขยับแข้งรํามวยจีน มันก็ไม่น่ามีปัญหา อาเฮียก็ต้องคิดหนักนะ อย่าลมเรื่องมณฑลยูนาน ดอยตุง ดาวเทียมไทยคม อู่ตะเภา 4 เรื่องนี่มันเกี่ยวกันนะ เล่ามากกว่านี้เดี๋ยวถูกจับ

    เมื่อปีค.ศ. 1999 สมัยรัฐบาล Bush ตัวพ่อ อเมริกาเห็นจีนเริ่มโต ชักไม่พอใจ แต่ตัวเองกําลังกระเป๋าแฟบ เศรษฐกิจไม่ดีก็ยังอยากต้มให้จนมาลงทุน ใช้เป็นตลาด เพราะฉะนั้น นโยบายสหรฐกับจีน ช่วงนั้นก็ยังเป็นคบ ๆ ค้า ๆ อะไรทํานองนั้น แต่ภาษาการทูตของเขาก็บอกเฝ้าระวัง แหม! ช่างเขียนดีนะผ่านไป 10 ปีอาเฮีย รัศมีเงินจับ มีพลเมืองเป็นเศรษฐีเพิ่มขึ้น จนพวกหัวทองชักอิจฉาเปลี่ยนจากตาสีฟ้าเป็นตาสีเขียว อาเฮียเริ่มสร้างบ้าน แปลงเมือง ปรับปรุงกองทัพ พัฒนาการกว้างไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ แล้วจิกโก๋จะทนได้ไง แบบนี้ไอ้คบ ๆ ค้า ๆ มันก็ตองเปลี่ยนเป็น ค้า ๆ คุม ๆ ยิ่งวันก็ยิ่งหนักไปทางคุมเข้ม นโยบายสูตร containment ก็เริ่มเข้มขึ้นเพราะฉะนั้น แค่เอาพวกมาฝึก Cobra Gold กับไทยแลนด์เฉย ๆ น่ะ มันถ้าจะไม่พอแล้วมั้ง

    ตอนที่ 18 จิ๊กโก๋จัดระเบียบซอยใหม่

    ตอนที่ 18/1

    อเมริกาคิดจะทําอะไร ต้องแน่ใจว่าคุมสถานการณ์คุมเกมได้เบ็ดเสร๊จ
    เมื่อได้เลือกไทยแลนด์แดนสวรรค์เป็นแหล่งประทับทรง เพื่อเอาไว้จับจ้อง เตรียมต่อกรกับจีน ถึงจะไม่เป็นงานช้างแบบสู้กับคอมมี่ตรงไปตรงมา แต่สู้กับอาเฮียตาตี่ที่กําลังเนื้อหอม แถมจิกโก๋ก็ทิ้งสาวไทยไปนาน จะกลับเข้ามาก็ต้องดูดีๆ เสียเชิงอาเฮียนี่มันรับไม่ได้จริง ๆ นะโปรดอย่าลืมสันดานเดิมของจิกโก๋นักเลงนักล้วง อเมริกาไม่เคยตีตั๋วใบเดียว ไม่เคยเล่นไพ่หน้าเดียวจากรายงานของซีไอเอ ที่เดินสายกันให้ควักไขว้มันก็น่ากลุ้มใจ จะเลือกใครเป็นร่างทรงดี สมัยสู้คอมมี่ จอมพลคนแปลกเป็นนายก อเมริกาก็สนับสนุน 2 นายพล เอาไว้เป็นตัวเลือก คือ นายพลเผ่า กับ นายพลสฤษดิ์ทั้งฟูมทั้งฟัก ทั้ง 2 นายพล อยากได้อะไรกประเคนให้ทั้งคู่
    รอดูจนแน่ใจแล้วก็เคาะโป๊ก หวยออกที่นายพลสฤษดิ์ให้เป็นผู้นําคนต่อไปของประเทศไทยแลนด์ภายใต้การชกใยของสหรัฐ
    คราวนี้กเหมือนกัน อเมริกามีตัวเลือกแยะขึ้น แต่ยากขึ้น มองด้านความแน่นอน สัมพันธ์เก่ามีมาต่อเนื่องกว่า 50 ปีก็มีกลุ่มนักวิ่งผลัด แต่สมัยนี้จะไปชักใย ให้ขยับขาซ้ายย้ายขาขวา อย่างเมื่อก่อนมันไม่ได้แล้วนะ ก็ดันไปตั้ง Doctrine ของตัวเองสนับสนุนประชาธิปไตยให้บานแฉ่ง แล้วถ้าเอาพี่ทหารนัก
    วิ่งผลัดมา ป.ว. เป็นร่างทรงน่ะ ชาวบ้านเขามินินทาเอาหรือจ้ะ ว่าปากว่าตาขยิบ
    จะเป็นตัวเลือกหรือเปล่ายังไม่รู้แต่เพื่อให่แน่ใจว่านักวิ่งพลัดไม่นอกใจ ปลายปีพศ 2555/คศ2012 พี่เบิ้มก็ส่งนาย Leon Pennetta รมว กลาโหม มานั่งจับเข่า คุณพี่สุกําพล รมว กลาโหม ของไทยตอนนั้น อย่าลืมนะ สมันน้อย เราอุ้มเจ้าลงเปลเห่กล่อม มากว่า 50 ปีแล้ว สมันน้อยจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าเราได้
    ยังไง ว่าแล้วจากจับเข่า ก็เปลี่ยนเป็นจับมือสมันน้อย แปะโป้งทําสัญญา ซึ่งแปลงเขียนเป็นแถลงการณ์
    วิสัยทัศน์รวม่ (แหม! อีลูกช่างตะแบง กลัวจะเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตราม190 ของรัฐธรรมนญไง ู )
    ว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนร่วมด้านความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ฮั่นแน่ โจ้งครึ้มจริงๆ
    ไอ้นี่มันเป็นการส่งสารข้าม(หัว) ไปถึงอาเฮียนี่หว่า ว่านี่เด็กของข้า ลื้ออย่ามาแหยม!

    ตอนที่ 18/2

    หลังจากกําชับนักวิ่งพลัดไม่ให้แตก แถวแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูนักการเมืองที่จะใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ ระหว่างพรรคแมลงสาบ กับพรรคของเหลี่ยมร้าย เอาไงดีล่ะ จิ๊กโก๋คิดหนักพรรคแมลงสาบนี่ จิกโก๋รู้จักดีตั้งกะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่เสนีย์เป็นหัวหน้าเสรีไทยฝ่ายสหรัฐพรรคนี้เคยคิดอย่างไร ทําอย่างไร ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เดี๋ยวนกี้ ็ยังเป็นอย่างนั้น สมเป็นพรรคแมลงสาปจริง ๆ หัวสมองอยู่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม แก้ไม่หาย อุตส่าห์ปัดตะนา เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมา จน
    เดี๋ยวนี้ได้ good boy หน้าหล่อสายอังกฤษ
    แต่มันก็คิดเป็น ทําเป็น แบบจวนสอบได้ซะเกือบทุกเรื่อง ขนาดแม่ยกยังลุ้นซะจนจะล.ด หลายตลบแล้วจิกโก๋จะรับไหวเหร๊อ แต่มันก็ว่าง่ายดีนะ ดูตอนกู้เงิน IMF
    แล้วกัน 5 5 5 พวกไอรวยมาแยะนะ อ้ายน้อยไม่เอาแมลงสาบแล้วจะเอาใคร
    ก็พรรคของเหลี่ยมร้ายไง เหลี่ยมร้ายไม่สนใจอาณาเขต เหลี่ยมร้ายไม่สนใจพรมแดน เหลี่ยมร้ายไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณีเหลี่ยมร้ายไม่รู้จักความดีงาม เหลี่ยมร้ายไมร่ จู้ักคุณค่าของสถาบันเหลี่ยมร้ายรู้จักแต่อํานาจ การโกหก การโกงทุกรูปแบบ และทุน ทุน ทุน ไม่ว่าจะเป็น ทุนนิยมเสรีทุน
    ในชาติทุนข้ามชาติประชานิยม ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่เหลี่ยมรัก เหลี่ยมโปรดทั้งนั้น อืม! น่าสนใจความคิดคล้าย ๆ กับผู้ใดหนอแถมเหลี่ยมก็เคยปลาบปลื้ม จนลืมตน วิ่งไปเชิญ วิ่งไปซบคุณพ่อจิกโก๋มาหลายหน คุณจิกโก๋ตัวลูก
    จอมกร่าง ยิ่งแล้วใหญ่เหลี่ยมนับเป็นเพื่อนเลยนะ ลองไปหา cable ทูตอเมริกาที่ไอ้ตัวดี wikileaks ทําหลุดมาซิมันรายงานออกมาจ้อยๆ ว่าเหลี่ยมร้ายปลื้มจิกโก๋ขนาดไหน โดนดุโดนเตือนก็ไปฟ้องคุณพ่ออเมริกันทุกครั้ง แหม ตัวอยู่ไทย แต่ใจเป็นของคุณพ่อจิกโก๋หมดแล้ว แบบนี้ไม่เลือกเป็นร่างทรงก็ใจจืดไปหน่อยนะ
    แต่จิ๊กโก๋ไม่โง่ จะใช้คนอย่างเหลี่ยมร้าย มันต้องป้อนด้วย อํานาจและเงินไปตลอด แล้วมันเกิดทําใหญ่คบเกินฟ้า ชาวประชารับไม่ได้ (ก็กําลังชุมนุมขับไล่โค่นล้มอยู่นี่ไง) จิ๊กโก๋จะควบคุมไหวหรือ เอะ หรือจะเข้าทาง !
    ดูประธานาธิบดีมากอส ซาห์แห่งอิหร่าน มูบารักของอียิปต์ฯลฯ เป็นตัวอย่างแล้วกัน เด็กสร้างของจิกโก๋ทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่งหมดประโยชน์หรอคุมไม่ได้จิกโก๋ก็จัดการเก็บฉาก ให้กลับบ้านเก่ากันแทบไม่ทันบางคนแทบไม่มีเวลาแต่งศพให้สวย
    ถ้าเหลี่ยมบังเอิญโชคดีได้อ่านนิทานเรื่องนี้ก็อ่านตอนนี้หลาย ๆ เที่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน ยังไงก็คนเคยเห็นหน้า (ทางจอทีวีฮา) มาหลายหน
    แต่หนหลัง ๆ นี้บอกกันไม่อ้อมค้อมนะ ดูทุเรศ จริง ๆ

    ตอนที่ 18/3

    บอกได้เลยว่า การประทบทรงไทยแลนด์ของจิกโก๋ครั้งนี้ไม่ง่ายสะดวกเหมือนสมัยสงคราเวียตนาม คราวนั้นบ้านเรายังไม่มีกีฬาสีและสถานการณ์ก็สร้างไว้ชัดเจน ถูกเขาขู่ว่า ถ้าไม่สู้คอมมี่พวกยูก็อาจไม่มีแผ่นดินเหลือให้นั่งชนไก่แต่ตอนนี้กะตอนนู้น มันไม่เหมือนกันนะ คราวนถ้าขู่ว่จะให้เลือก ระหว่างจิกโก๋ผมทอง กับอาเฮียตาตี่มันก็ไม่ง่ายนะพี่เบิ้ม ระวังมันจะพลิกล๊อกคนไทยน่ะ นับดีๆ เผลอๆ มีกว่าครึ่งประเทศ ที่มีเชื้อสายจีนปนอยู่ถึงแม้เขาจะไปฟอกผิวขาวทําตาโตแต่เชื้อไขข้างใน มันก็ยังเชื้อสายจี ีนปน ถึงเวลาตรุษจีน ก็เอาเป็ดเอาไก่ไปไหว้เจ้าปดถนนฉลองกัน แล้ว
    ใจคอยูจะให้เขาตัดขาดจากอาม้า อาก๋ง เขาง่าย ๆ หรือ จิกโก๋คิดให้ดีๆ
    คราวนี้ถ้าจิกโก๋คิดว่า ซอยนี้ต้องเป็นของกรูคนเดียว ไม่ใหใครเข้ามายุ่งด้วย บอกได้คําเดียวว่าเหนื่อย เหนื่อยทั้งจิกโก๋และเหนื่อยทั้งสมันน้อยอเมริกาเหนื่อยอย่างไร สมัยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์มันขู่ให้เรากลัวว่า ระบอบคอมมิวนิสต์เป็นภัย
    ต่อประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างตกเป็นของรัฐ แค่นี้นายทุนเศรษฐีบ้านเราก็หน้าตกหูตูบกันหมดแล้ว ทุกคนต้องทํางานให้คอมมูน เพื่อความเทาเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คนไทยเคยอยู่สบาย ๆ เช้าอยากลุกก็ลุก ไม่อยาก ก็นอนจนตะวันตรงท้ายทอย แล้วค่อยขยับก้นย้ายออกมา ก็ไม่มีใครว่า แล้วถ้าเป็นคอมมูนี่ มันจะมาทําท่านอนบิดขี้เกียจอย่างนี้ได้เหรอ
    ขู่แบบนี้เข้าไปทุกวัน พออเมริกาบอกว่า ไอจะกําจดระบอบนี้ให้ออกไปจากภูมิภาคนี้ชาวเราก็มองเขาเหมือนเทวดามาโปรด เฮ้อ ! เหนื่อยใจว่ะ
    แต่ตอนนี้ไม่มีผีคอมมี่ให้สร้างแล้ว ของจริงที่ไทยแลนด์ควรมองคืออาเฮียตาตี่ ไม่ได้เดินย้ายพุงมาคนเดียว แต่เกี่ยวแขนมากับเพื่อนอีกหลายพันล้านคน ในนามของ BRICS จําได้ไหม Brazil Russia India China South Africa รวมทั้งหมด เกือบ สามพันล้านคน ตลาดใหญ่นะแถมตอนนี้อาเฮียฟิตจัด ตั้งกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooperation Organization หรือ SCO กับ
    พี่ใหญ่รัสเซียและประเทศแถบรัสเซีย ที่จีนมีอาณาเขตติดต่อกันอยู่แปลว่าถ้าอเมริกาจะมองว่าจีนเป็นศัตรูต้องรวมเพื่อนของศัตรูเข้าไปด้วย เข้าใจไหม
    ตอนนี้อเมริกาเลยแปลงเป็นภาษาการทูต เรียกจีนว่า “คู่แข่ง” แหะๆ เรายังไม่ได้เป็นศัตรูกันนะเฮีย แต่ของจริง อเมริกา มองจีนอย่างไร มีระบุไว้ในเอกสาร The National Strategy Forum Review ปี2011 ว่า สัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 นับว่าเป็นสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สําคัญ
    ที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการเสื่อมถอยจากการเป็นผู้นําสุดยอด ของสหรัฐในต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีน กําลังพยายามขยายบทบาทในเอเชีย
    แปซิฟิค โดยใช่ว่าจะเห็นพ้องกับนโยบายของสหรัฐเสมอไป ที่สําคัญดูเหมือนว่ากระแสความไม่ไว้ใจและไม่เข้าใจระหว่างประเทศทั้ง 2 จะสูงขึ้นเป็นลําดับ
    อ่านแล้วเป็นงง พูดภาษ่าจิ๊กโก๋ให้เข้าใจง่ายๆดีกว่า สรุปว่า มันกําลงแย่งกระดูกกัน !
     
  20. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ตอนสุดท้าย " เอาซอยของเราคืนมา"

    อ่านนิทานกันมาแล้ว 18 ตอน คนเล่านิทาน ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่มีความ อุตสาห อดทนติดตามอ่าน และให้กําลังใจ รวมทั้ง ห่วงใยสวัสดิภาพคนเล่านิทาน
    แต่ที่สําคัญสําหรับคนเล่านิทาน รวมทั้งท่านผู่อ่านทั้งหลาย คือ ท่านที่ส่งความคิดเห็น
    comment มา ถึงคนเล่านิทาน และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็น ระหว่างผู้อ่านนิทานด้วยกันเอง ทําให้นิทานน่าติดตามมากขึ้น และวงกว้างขี้น
    จิ๊กโก๋จะเลือกประทับทรงใคร จะใชว้ิธีตรงไปตรงมา ตะบิดตะแบงไป กลบไปฝังมา
    หรือใช้ " วิธีการอื่น" อย่างที่นาย คิสซิงเจอร์คุยกับ นาย ลีกวนยูเมื่อก่อนเหตุการณ์
    14 ตุลา 2516 เชื่อว่า ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอมองออก ตามทัน สันดานจิ๊กโก๋กันแล้าว ดังนั้นโปรดถามตัวเอง เราจําเป็นต้องมีจิ๊กโก๋คุมซอยไหม หากทุกบ้านในซอย รู้จักดแลตัวเอง เริ่มด้วยการหัดศึกษา หน้าตา เล่ห์เหลี่ยม วิธีคิด วิธีต้มตุ๋นของจิ๊กโก๋
    ว่าจะมาไม้ไหน แล้วถ้าทุกบ้านในซอย รู้จกสามัคคีกัน ช่วยเหลือเจอจุนกัน ร่วมแรงร่วมใจกันไม่ใช่บ้านใครบ้านมัน เอาเปรียบกัน เอาแต่ทะเลาะกัน
    ถ้าเราอยู่อย่างมีสติใช้ปัญญา จิ๊กโก๋หน้าไหน ไม่ว่าผมทอง ผมดํา อาเฮียกระเป๋าหนัก หรือ ไอ้พวกเลียนแบบจิ๊กโก๋หรือขี้ข้าพันธ์ไทยพันธ์ทางของจิ๊กโก๋ก็จะมาเบ่งกล้ามใส่เราไม่ได้ง่ายที่สําคัญ อย่าติดนิสัยอ่อนแอ ถนัดแต่แบมือขอ หรือรออัศวินขี่ม้าขาว เดี๋ยวก็ได้อัศวินควายดํามาอีกตัวหรอก นิสัยคนไทยใจดีมีอัธยาศัย ไม่ขี้เกียจ ไม่ขี้โกง ไม่โง่และกล้าสู้แบบบรรพบุรุษเราน่ะ เอากลับมาใช้กันบ้าง
    แล้วอย่าลืม ต้องมีความอดทน มีความเพียร พระมหาชนกท่านสอนอะไรเราไว้บ้าง จํามาใช้กันด้วยแบบนี้ก็ไม่น่ามีจิ๊กโก๋หน้าไหนมายึดซอยของเรา ไปเป็นซอยของมัน

    ซอยของเรา เราอยากอยู่แบบไหนก็เรื่องของเรา เราคุยกันเอง กาหนดกันเองได้ไม่ใช่ให้จิ๊กโก๋มันมากําหนด ใครมาทํากร่าง ไม่ว่าหัวซอย กลางซอย ท้ายซอย ถ้าเราทุกบ้านพรัอมใจกันถือมีดถือไม้ออกไปสู้กับมันพร้อมๆกัน
    ถามหน่อยเถอะ จิ๊กโก๋หน้าไหนจะกล้าแหยม ?!?
    สวัสดีครับ
    https://www.facebook.com/pages/นิทานเรื่องจริง-ตํานานการลวง-หลอกล่อ-ลงหม้อตุ๋น/688258957869254

    ใครจะปริ้นนิทานเรื่องนี้ไว้ เชิญตามสะดวก
    https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf




    นิทานยังมีให้อ่านกันอีกหลายเรื่องค่ะ ถ้าผู้อ่านยังไม่เบื่อสะก่อน
    ผู้โพส ก็จะพยายามทะยอยเอามาโพสให้อ่านกันค่ะ อ่านนิทานประเทืองปัญญาดีกว่าดูละครน้ำเหล่าของช่องหลายสีและเคเบิลทีวีต่างๆ (kiss)(kiss)
     

แชร์หน้านี้

Loading...