มีเซ็กซ์กับเพื่อนชาย ผิดศีลไหมครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย darkphoenix, 18 มกราคม 2008.

  1. darkphoenix

    darkphoenix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +608
    ผมกำลังมองว่า

    การมีความรัก ต่อผู้อื่น
    เป็นเรื่องผิดศีล และ บาป กระนั้นหรือ?



    เราไม่ได้ชวนให้เค้าสำส่อน มั่วซั่วสักหน่อย
    มันแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆทุกๆอย่างนะครับ ทั้งความรู้สึก การแบ่งปัน ทุกๆด้าน ไม่ใช่จำเพาะเจาะจงแค่อย่างว่า

    อย่างว่ามันเป็นองค์ประกอบเท่านั้น
     
  2. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    คุณคนมีกิเลส ทรมารคนแก่ ระวังรถล้มนะ
    คุณยายขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปทำบุญที่วัด แทนที่จะไปส่ง สงสัย แม่ยายเลยแกล้งทรมานท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  3. darkphoenix

    darkphoenix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +608
    อะไรเนี่ยะ-*- งงเลย
     
  4. xanxus

    xanxus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +175
  5. darkphoenix

    darkphoenix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +608
    เข้าไปดูแล้วครับ

    ว่าแต่มันเกีย่วกับคำถามยังไงหงะ-*-
     
  6. ป่าวอันถัง

    ป่าวอันถัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +114
    สรุปคือ ต้องแต่งงานหรือเข้าเหตุใดในนี้เท่านั้นจึงมีเพศสัมพันธ์ได้ถ้ามีโดยเราไม่เข้าเหตุเหล่านี้ แต่คนอื่นเข้าเหตุอยู่ เราก็ละเมิดสินะครับ
     
  7. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ----------

    พระท่านสอนว่า<O:p
    "บุคคลใดรักษาศีลได้บริสุทธิ์เกิดมาชาติหน้าจักได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีวรรณะงดงามผ่องใส เจริญทั้งลาภยศฐานะและชาติตระกูล"<O:p
    <O:p
    การเกิดเป็นมนุษย์จะต้องรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ถ้าไม่อยากเกิดอยู่ในสุคติภูมิแล้วหล่ะก็โยนศีลทิ้งไปเลยได้จ๊ะ ทุกท่านก็พยายามแนะนำชี้แจงอย่างละเอียดรอบคอบ ให้ได้คิดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทิ้ง สันดานเดิมได้ (สันดอนมันขุดง่ายแต่สันดานมันขุดยาก)ขนาดพระอรหันต์ในบ้านยังโกหกได้ยังไม่เห็นความดีที่ท่านห้ามปราม ห่วงใยเท่าชีวิต<O:p
    <O:p
    ก็ขออวยพรให้ตายแล้วไปที่ชอบที่ชอบนะจ๊ะ
     
  8. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    เอายังงี้ครับแบบวัยรุ่น วัยรุ่น ว่าด้วยเรื่องของศีลถ้ายังไม่เป็นพระโสดาบันก็ยากจะรักษาศีลให้มั่นคง เรื่องควมรักเป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม คนเรามักเอาความรักกับเซ็กมาอยู่คู่กัน ผมว่าควรแยกออกจากกัน ความรักนะไม่ผิดหรอก แต่ถ้ามีอะไรกันนะผิด เพราะไปเพราะละะเมิดเค้า
    ส่วนเรื่องของศีลนะค่อยเป็นค่อยไปยังไม่ถึงพระโสดาบัน ศีลเป็นเครื่องกันนรก ที่จะว่าจะโยนศีลทิ้งแล้วหนีไปอยู่นรก เหอไม่ใช่ หนีไปมีความรัก
    ศีลควรจะรักษาเผื่อท่านพยายมท่านถามจะได้ตอบท่านได้ หุหุหุหุ
    ควรเริ่มจากง่ายให้ชิน จากการรักษาศีลก่อนนอน ถึงตื่นตอนเช้า ช่วงนี้เป็นช่วงทีเรารักษาศีลได้ดีที่สุด เพราะเราหลับอยู่ หุหุหุ หลวงพ่อท่านบอกมา

    ส่วนเรื่องคู่รักนั้นควรจะแยกนะเอาสักอย่างจะหญิงก็หญิง จะชายก็ชาย
    เราไม่ควรไปหลอกเค้าเพราะมันจะเป็นกรรมติดตัวเราทุกชาติไป
    ระงับไว้ดีกว่า

    ความรักนะมีได้พระโสดาบันท่านยังแต่งงาน แต่การมีเซ็กให้ถึงวัยที่ควรมี
    ศีลก็ให้รักษาเพราะ ความรักเดี่ยวอาจก็เลิก เดี่ยวเค้าก็ตาย
    สิ่งที่จะติดตัวเราไปก็คือศีลเป็นความดี จะส่งเราไปอยู่ภพภูมิที่ดีนะ ทำให้เรามีความสุข อย่าลืม แยกความรักกับเซ็กออกจากกันนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  9. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    จขกท จั่วหัวเรื่องมีเซ็กซ์กับฯฯฯฯฯ ดังนั้นจึ่งเข้าข่ายความรักแบบ กามคุณ

    ธรรมกถา พระพิสาลพัฒนาทร ( ถาวร จิตฺตถาวโร )<!--colorc--><!--/colorc-->
    <!--coloro:#0000FF-->
    <!--/coloro-->๙๙๙ วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ถนนพระราม ๑
    แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๓๐<!--colorc-->
    <!--/colorc-->


    คุณและโทษของกาม
    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->
    โก จ ภิกฺขเว กามานํ อสฺสาโทฯ
    ภิกษุทั้งหลาย อะไรคือความพอใจของกามทั้งหลาย<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->กาม แปลว่า ความใคร่, ความอยาก, ความปรารถนา, สิ่งที่น่าปรารถนาน่าใคร่<!--colorc--><!--/colorc-->

    กาม ได้แก่
    ๑) วัตถุกาม คือกามคุณ ๕

    ๒) กิเลสกาม คือกิเลสเป็นเหตุใคร่ เช่น ฉันทะความพอใจ ราคะความกำหนัดยินดี และ

    ๓) กามภพ คือความมีความเป็นที่เนื่องด้วยกาม,
    ที่เกิดของผู้ที่ยังเกี่ยวข้องอยู่ในกามหรือโลกเป็นที่อยู่อาศัยของผุ้เสพกาม ได้แก่
    อบายภูมิ ๔ มนุษยโลกและสวรรค์ ๖ ชั้น
    ตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกาถึงชั้นปรนิมมิตวสวัตตีรวม ๑๑ ชั้น

    คุณ คือ ความดีที่ประจำอยู่ในสิ่งนั้นๆ หรือความเกื้อกูล

    <!--coloro:#9932CC--><!--/coloro-->โทษ คือความชั่ว, ความไม่ดี, ความผิด, ความประทุษร้าย, บาป, ผลร้าย<!--colorc--><!--/colorc-->

    จะได้กล่าวถึงคุณของกามว่ามีอะไร อย่างใดบ้างต่อไป
    ในมหาทุกขักขันธสูตร สีหนาทวรรค มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย อะไรเล่าเป็นคุณแห่งกามทั้งหลาย คือ กามคุณ ๕ ประการนี้
    กามคุณ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ

    ๑. รูป ที่จะพึงรู้แจ้งทางตา ที่น่าปรารถนาน่าใคร่ น่าพอใจ เป็นรูปที่ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด

    ๒. เสียง ที่จะพึงรู้แจ้งทางหู ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด

    ๓. กลิ่น ที่จะพึงรู้แจ้งทางจมูก ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด

    ๔. รส ที่จะพึงรู้แจ้งทางลิ้น ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด

    ๕. โผฏฐัพพะ ที่จะพึงรู้แจ้งทางกาย ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด

    กามคุณมี ๕ ประการนี้แล

    <!--coloro:#A0522D--><!--/coloro-->การที่มีความสุขและความโสมนัสเกิดขึ้น เพราะอาศัยกามคุณ ๕ ประการนี้
    ชื่อว่าเป็นคุณแห่งกามคุณทั้งหลาย (กามคุณ) (ม.มู.๑๒/๑๙๗/๑๖๘)<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    อธิบายความว่า กามทั้งหลายหมายถึง
    กาม ๕ ประการ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัส) ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ

    <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->กามคุณ ๕ ประการนี้เป็นเหตุให้เกิดสุขและโสมนัสได้
    จึงเรียกว่ากามคุณ ๕ หรือคุณของกาม ๕ อย่าง<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->“ดูก่อนอานนท์! กามคุณ ๕ เหล่านี้ กามคุณ ๕ เป็นไฉน?
    กามคุณ ๕ คือ รูปที่พึงรู้แจ้งทางตา อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เป็นสิ่งที่ชวนให้รัก ชักให้ใคร่
    พาใจให้เกิดความกำหนัด; เสียง, กลิ่น, รส, โผฏฐัพพะ (สิ่งที่พึงถูกต้องสัมผัสได้)
    ที่พึงได้รู้ทางหู, จมูก, ลิ้น, และกาย อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
    เป็นสิ่งที่ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->ดูก่อนอานนท์! นี้แลคือกามคุณ ๕
    ดูก่อนอานนท์! ความสุขทางกาย สุขทางใจ อันใดที่พึงเกิดขึ้นเพราะอาศัยกามคุณ ๕ เหล่านี้
    ความสุขกาย สุขใจนี้นั้นเรียกว่า กามสุข (ความสุขที่เกิดจากกาม)” <!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#A0522D--><!--/coloro-->(สํ. ฉฬา.๑๘/๔๑๓/๒๗๘)<!--colorc--><!--/colorc-->

    - ความงดงาม ความเปล่งปลั่งแห่งรูปทั้งหลาย เป็นคุณแห่งรูป
    - เสียงดี ไพเราะ สุภาพ ไม่กระด้าง และกักขฬะ เสียงมีกังวาล เป็นคุณของเสียง
    - กลิ่น ที่แต่ละคนชอบและพอใจ เป็นคุณของกลิ่น
    - รส คือสิ่งที่รู้ได้ด้วยลิ้นโดยเฉพาะเช่น เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม รสชาติ รสตัณหา
    รสนิยม รสสวาท รสสัญญา (ความหมายรู้รส) เป็นคุณของรส
    - โผฏฐัพพะ คือสิ่งที่มาถูกต้องกาย ได้แก่สิ่งที่รู้สึกได้ด้วยกาย สิ่งที่สัมผัสได้ด้วยกาย
    แล้วเกิดความรู้สึกเย็น ร้อน อบอุ่น หรือเฉยๆ เป็นคุณของโผฏฐัพพะ

    ต่อไปจะได้กล่าวถึงโทษของกาม (กามาทีนพ)
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    <!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->“ภิกษุทั้งหลาย อะไรเล่าเป็นโทษแห่งกามทั้งหลาย” <!--colorc--><!--/colorc-->

    คือ พระพุทธองค์ทรงแสดงการต้องประกอบอาชีพต่างๆ เช่น
    การพานิชยกรรม การกสิกรรม การรับราชการ ต้องลำบากตรากตรำ
    อดทนต่อความหนาว ร้อน หิว กระหาย เป็นต้น

    การที่เพียรพยายาม แต่เมื่อไม่ได้ผลต้องโศกเศร้า เสียใจ
    เมื่อได้ผลแล้วก็ต้องทุกข์กาย ทุกข์ใจ เนื่องด้วยการอารักขาสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นเพื่อมิให้เป็นอันตราย

    เมื่อมีอันตรายเกิดขึ้นก็โศกเศร้าเสียใจ ทะเลาะวิวาทกับคนทั้งหลาย
    แล้วทำร้ายร่างกายกัน ใช้อาวุธทำสงครามฆ่าฟันกัน ก่อสร้างป้อม ถูกลงโทษทรมานต่างๆ
    เพราะทำความผิด เช่น ตัดช่องย่องเบา ปล้นสะดม เป็นต้น

    <!--coloro:#8B0000--><!--/coloro-->ที่มีกามเป็นเหตุว่าแต่ละอย่างเหล่านี้เป็นโทษของกาม เป็นกองทุกข์ที่เห็นทันตา
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเหตุ มีกามเป็นเหตุเกิด เกิดเพราะเหตุแห่งกามทั้งหลายนั่นแล<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    ผู้ได้รับผลก็เป็นทุกข์ เนื่องจากเหตุแห่งการรักษาคุ้มครอง
    ผู้ทำงานแต่ไม่ได้รับผลก็เป็นทุกข์ กลัวภัยต่างๆ จะเกิด เช่น
    โจรภัย ราชภัย อุทกภัย วาตภัย เป็นต้น

    นอกจากนี้ กามทั้งหลายยังเป็นเหตุให้เกิดโทษต่างๆ เช่น
    เกิดการยื้อแย่งแข่งกันในการต้องการคนที่มีรูปสวย นักร้องเสียงดี
    เกิดการทะเลาะวิวาทถึงกับฆ่ากันก็มี

    <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->ผู้ดีทะเลาะกับผู้ดี นักปกครองทะเลาะกับนักปกครอง
    พราหมณ์ทะเลาะกับพราหมณ์ พ่อค้าทะเลาะกับพ่อค้า
    แย่งความเป็นเจ้าของในคนงาม คนสวย เห็นกันอยู่ในสังคมทั่วๆ ไป <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    ตลอดจนการทะเลาะกันภายในครอบครัว สามีไปมีเมียน้อย ภรรยาเล่นชู้ เป็นเหตุให้ประหัตประหารฆ่าฟันกัน ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและถึงแก่ชีวิตก็มี ทั้งหมดนี้ก็เพราะกามเป็นเหตุ

    <!--coloro:#0000FF--><!--/coloro-->ชนทั้งหลายประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต ก็เพราะกามเป็นเหตุ
    เห็นผิดเป็นถูก ครั้นประพฤติทุจริตต่างๆ ดังกล่าวแล้ว
    หลังจากตายแล้วย่อมไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
    นี้ก็ชื่อว่าเป็นโทษของกาม เป็นกองทุกข์ในสัมปรายภพ <!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#A0522D--><!--/coloro-->(ม.มู.๑๒/๑๖๙)<!--colorc--><!--/colorc-->

    <!--coloro:#FF00FF--><!--/coloro-->คุณของกามหรือกามคุณเป็นสิ่งดีสำหรับปุถุชน <!--colorc--><!--/colorc-->
    <!--coloro:#FF8C00--><!--/coloro-->แต่เป็นโทษสำหรับผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผล <!--colorc--><!--/colorc-->

    เพราะฉะนั้นบัณฑิตพึงกำจัดฉันทราคะในกามคุณทั้งหลายเสีย
     
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เด็กวัยเรียน แต่มามีเพศสัมพันธ์
    แค่คิดก็ผิดแล้ว ศีล 5 เรื่องง่ายๆครับ แต่ทำยาก

    จะเลือกทางไหนก็แล้วแต่น้องละกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2010
  11. kilola2

    kilola2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +9
    ปัญหาวัยร่นทั้งเรื่องการศึกษา เพศสัมพันธ์ ยาเสพติด เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ แสดงถึงความล้มเหลวของครอบครัวและสังคม วัตถุนิยมเข้าครอบงำขณะที่วัยรุ่นไม่มีใครให้คำปรึกษา เป็นวัยคึกคนอง ยึดความรักเป็นใหญ่ ชอบลอง จึงอยากให้พี่ๆในเวบนี้ใครก็ได้ที่มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาวัยรุ่น เข้าใจความคิดของเขา ช่วยวัยรุ่นเหล่านี้ด้วย เขาเข้ามาในเวบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วนะคับ ผมว่านะ ดีกว่าให้พวกเขาไปปรึกษากันเอง ใจเย็นๆ เราก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน
     
  12. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    พุทธ คือผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน

    เซ็กซ์ เปรียบดังราคะ

    ถามว่า "ผิดศีลไหม"

    ตอบว่า "ก้นบึ้ง แห่งจิตท่านมีคำตอบอยู่แล้ว ไยต้องถาม"
     
  13. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +939
    เมื่อก่อนเราตอนเราวัยรุ่น (ประมาณ 5 -6 ปีที่แล้ว)ก็มองความรัก และเซ็กซ์ เหมือนน้องเจ้าของกระทู้ คิดว่าไม่ได้สำส่อนนี่ คิดว่าไม่ผิดศีล มีแฟนคนเดียว แต่ตอนนั้นยังเรียนอยู่ เป็นความเข้าใจศีล 5 อย่างไม่ถ่องแท้ คือคิดว่า ถือศีลข้อ สามคือการไม่สำส่อนอย่างเดียว หารู้ไม่.....ตอนนี้มาศึกษาจึงเข้าใจ
    ศีลข้อ 3 คือการไม่ละเมิด(ไปมีอะไรกับเค้าถึงขั้นเกินเลย)ซึ่งบุคคลที่มีผู้คุ้มครองรักษาอยู่ ถามว่า ตอนนี้ น้องใช้เงินใครกินใครใช้ ใครเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้ดูแลน้อง รักษาน้องยามน้องเจ็บป่วย ส่งเสีย ให้การศึกษา(ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง เครือ ญาติ หมายรวมเป็นผู้ดูแลรักษาทั้งนั้น)
    ถือว่าน้องเป็นคนของเค้า หากน้องแต่งงาน มีคู่ โดยที่พวกเค้ายินยอมรับรู้ น้องก็จะกลายเป็นคนในคุ้มครองดูแลของคู่ชีวิตน้องแทน )
    ทีนี้ ถ้ายึดถือเอาตามความคิดวัยรุ่น คนนี้เป็นแฟนฉัน เป็นคนของฉัน เมื่อมีคนมาแย่งเอาแฟนไป น้องเจ็บช้ำน้ำใจไหม เสียใจไหม
    โอ้.... คนนี้เป็นแฟนเรา มันมาแย่งไป เสียใจ เจ็บใจ เป็นอย่างนั้น
    ความรู้สึกของผู้ปกครองก็เช่นกัน....เสียใจเจ็บใจเช่นกัน
    แต่มันหนักกว่า ตรงที่ เค้ารักเรามาก เลี้ยงเรามาแต่เล็กจนโต ดูแลยามป่วยไข้ ส่งเสียให้การศึกษา โตมายังไม่ทันได้พึ่งมันเลย มันก็ไปเป็นของคนอื่นเสียแล้ว

    เปรียบประดุษดั่งการลักขโมยของ...แต่นี่เป็นการขโมยคน ที่เจ้าของเค้ายังไม่เต็มใจให้นั่นเอง ทีนี้เข้าใจยัง...

    อันว่าพ่อแม่ย่อมมีความปราถนาดีต่อบุตร ถ้าน้องยังไม่เคยเป็นพ่อแม่คน ย่อมยังไม่เข้าใจหรอก แต่หากเลือกทางเดินที่จะรักเพศเดียวกันแล้ว ลองนึกถึง น้อง ถึงพี่ที่รักมากๆดู (ไม่รู้จะเข้าใจไหม)

    นี่ที่พูดได้เพราะเคยพลาดมาก่อน คนเราเมื่อพลาดแล้ว แก้ไขได้ หากยังหวังเป็นคนดี รู้ว่าผิดก็ปฏิญาณตนไปเลยว่าจะไม่ผิดอีก ย่อมมีผู้ให้อภัย

    การรักอย่างหลบซ่อนนั้น คิดว่าจะมีความสุขตลอดไปหรือ เคยเป็นมาก่อนรู้ดี
    ไม่มีความสุขเลย หากคิดว่าทั้งสองคนรักกันชอบกันอย่างบริสุทธิ์ใจ และจะไม่มีใครอื่นอีกแล้วนั้น ควรบอกพ่อแม่ดีกว่า ยังไงท่านก็เป็นพ่อแม่ ดีกว่าให้มารู้ทีหลีง ท่านจะเจ็บใจเสียใจแค่ไหน ทุกปัญหาย่อมมีทางออก คบกันพามาเที่ยวบ้าน อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ (หากคิดกลับใจเป็นคนดี ควรทำอย่างนั้น) แล้วผลความสุขที่ตามมา จะคุ้มค่ากว่าการหลบซ่อน ที่มองไม่เห็นอนาคตเลย
     
  14. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ถ้าคุณมีลูกแล้วไปทำอย่างงั้น คุณยอมไหม ถ้าไม่ยอม ลูกย่อมบาป
     
  15. จิตการุณ

    จิตการุณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +31
    เรื่องนี้ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง...หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สำคัญน่าจะมาจาก การที่คุณไปทำให้ใครเดือดร้อนหรือเปล่าจากการคบกันของ คนสองคน....เช่นไปบิดเบือนให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจว่าคุณคบกับเค้า(ใช้อีกฝ่ายให้เป็นเครื่องมือในการหล่อลื่นสภาวะทางสังคม เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่ครหา และคุณก็ไม่ได้ให้ความสุขแก่เขาตามสมควร ) นั่นผมว่าน่าจะเป็นที่มาของคำว่าบาปมากกว่านะครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  16. kingdomha

    kingdomha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +26
    ฮือฮือ ผมอายุ18แย้วอาเคยมีแฟนคนเดียวเองแต่เลิกไปแล้ว
    ผมยังไม่เคยมีเพศสัมพันเลยเศร้ามากครับสำหรับผู้ชายอย่างผมที่ต้องอยู่บ้านเล่นเน็ต เกมส์ออนไลน์ ไป รร.ติด มส.ทุกวิชา รอซัมเมอปิดภาคเรียน
    ชีวิตผมแคบมาก แทบจะไม่ได้เที่ยวใหน แถมหน้าตาไม่ดี ผมฝึกนั่งสมาธิทุกวันๆคับ อิอิ ชีวิตอ่า เศร้าปะ
     
  17. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    ถ้าหากเขาอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ แล้วมีเพศสัมพันธ์ จะบาปหรือปล่าว โดยไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน
     
  18. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,199
    ค่าพลัง:
    +3,381
    ความเกิดเป็นทุกข์ .. ชีวิตคนเรามักทำอะไรลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ตลอด
     
  19. magnagiled

    magnagiled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    596
    ค่าพลัง:
    +1,444
    สรุปก็คือ ถ้าจะมีความรักแบบ ชาย-ชาย ให้ไม่ผิด
    ก็ต้อง มีให้กันด้วยความรัก อย่าเลยไปถึง sex แล้วก็ต้องรักเดียวใจเดียว
    ต้องรอให้พ้นบรรลุนิติภาวะ มีการมีงาน เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้
    แล้วก็ต้องเปิดเผยความจริงให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรู้
    ถ้าท่านสามารถยอมรับแล้วก็ดีไป

    ส่วนเรื่อง sex จากที่อ่านๆมาหลายๆกระทู้
    ถึงยังไงถ้ามีก็ผิดอยู่ดี ไม่ผิดทางศีลก็ผิดในทางธรรม
    จะทำให้จิตเศร้าหมอง เพราะเสพกามแบบวิปริต
    ยังไงก็ต้องชดใช้กรรมต่อไปอยู่ดีไม่สิ้นสุด

    มันก็เป็นเวรกรรมของเพศแบบนี้แหละครับ คงต้องยอมรับ
    เพราะไปก่อเหตุไว้ก็ต้องได้รับผล
    ปล.ผมก็เป็นนะครับไม่ได้เป็นเพศปกติ
     
  20. Konbarb

    Konbarb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +206
    จะอะไรกันนักหนาครับกับการกระทำของเด็กคนหนึ่งที่ยังคิดถึงเรื่องนี้ได้และนำมาขอความคิดเห็น มันผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรือครับ ท่านทั้งหลายไม่เคยทำผิดอะไรเลยหรือไง ใช่ครับที่ว่าศีลข้อกาเมนั้นครอบคลุมข้อปลีกย่อยมากมาย ที่ถ้าไปทำแล้วต้องผิดศีลแน่นอน แต่เด็กที่กำลังโต ต้องเรียนถูกเรียนผิดอีกมาก ประสบการณ์ต้องมาจากการเรียนรู้ของตนเองเป็นหลัก ใครจะบอกจะเล่ายังไงก็ได้แต่รับรู้แต่ไม่มีวันซึ้งกับมันได้หรอก ความรักในทางโลกจะรักก็รักไปเถอะครับ ไม่ต้องไปสนใจหรือกังวลกับอะไรมากเกินไป ถ้าเราไม่ได้ทำผิดคิดร้ายใครไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เปิดได้ก็เปิด บอกใครได้ก็บอก ถ้าทำไม่ได้ปิดเอาไว้ก็ไม่เป็นไรนี่ รักแล้วมีความสุข รักแล้วไม่เหลวไหลไร้สาระ ไม่นำพากันไปติดยาเที่ยวเตร่เสียคน การเรียนดีทำงานได้ดีเป็นคนดีของสังคม ก็ทำไปเถอะครับ เรื่องทางศาสนาถึงจะผิด แต่ต้องไม่ลืมว่าไม่ได้มีศีลกาเมข้อเดียว ยังมีศีลอีกสี่ข้อให้เรารักษา ถ้าเรารักษาได้คงไม่ตกนรกหรอกครับ ทำความดีอย่างอื่นๆรักษาศีลภาวนา ปฏิบัติธรรมตามกาล มีจิตใจดี เมตากรุณาต่อผู้อื่นและสัตว์ทั้งหลาย มีมุทิตาจิตและรู้จักวางเฉยเสียบ้าง สิ่งไหนดีก็ว่าดีสิ่งไหนชั่วก็ว่าชั่ว เกิดมาเป็นคนได้ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่มีร่างกายปกติทุกอย่าง เท่ากับเราทำดีมามากแล้ว ถึงจะมีจิตใจชอบผู้ชายด้วยกันก็ไม่ต้องไปกังวลกับมันหรอกครับ ในห้องพุทธภูมิผมเคยอ่านเจอ ผู้ที่จะเป็นพุทธเจ้าได้ต้องผ่านมาทุกอย่าง แม้แต่ต้องผ่านการเป็นคนที่ชอบเพศเดียวกันก็ต้องผ่านมาครับ ไม่เช่นนั้นท่านจะมาสอนเราได้อย่างไร ไงลองไปศึกษาดูนะครับ ถูกผิดอย่างไรผู้รู้ทั้งหลายตอบด้วยแล้วกัน เรายังเป็นคนธรรมดาครับไม่ใช่พระอริยะ ย่อมมีถูกบ้างผิดบ้าง ยังต้องกิน ขี้ ปี้ นอน กังวลมากเครียดมาก ปวดหัวแย่ ใครที่เขาทำดีแล้วก็อนุโมทนากับเขาเหล่านั้น ใครที่ไม่ดีก็อย่าไปเอาเป็นแบบอย่าง วันนี้เรายังมีกิเลสแต่วันหน้าขอให้มุ่งหาการหลุดพ้นเถอะครับ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับการหลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...