สะดุ้ง !! สั่งระงับสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ สอบเงินบริจาค 3.2 แสนล้านบาท - ยังไงล่ะเหนี่ย??

สั่งระงับสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ สอบเงินบริจาค 3.2 แสนล้านบาท


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ, พุทธอลังการ แกลลอรี่ - Phrayaichaiyaphum

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ สั่งระงับการก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ตั้งคณะกรรมการลุยสอบเงินบริจาค 3.2 แสนล้านบาท อ้างระดมทุนมาจากหน่วยงานในต่างประเทศ หวั่นหลอกลวงประชาชน

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ ได้ประชุมร่วมคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ หลังจากปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาฝาย อำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ร้องทุกข์กล่าวโทษว่า การก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมายควบคุมอาคาร เนื่องจากถือเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ องค์พระรวมฐานมีความสูงถึง 232 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยถึง 3 แสนตารางเมตร จุคนได้ถึง 5,000 คน จึงขอให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อน

นอกจากนี้ ยังมีผู้ร้องเรียนด้วยว่า ทางมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิอ้างว่าโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณถึง 3.2 แสนล้านบาท โดยระดมทุนมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ในต่างประเทศ ทำให้เกิดข้อกังขาว่าระดมทุนจำนวนมากขนาดนี้มาได้อย่างไร ภายหลัง ทางคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็พบว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเงินของมูลนิธิ การดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับของมูลนิธิ การดำเนินการอันอาจขัดต่อหลักการศาสนา ด้านการขอใช้พื้นที่ประโยชน์ในที่ดิน และด้านการออกแบบก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน และจะสรุปผลเข้าที่ประชุมใหญ่อีกครั้งภายใน 15 วัน

อย่างไรก็ตาม นายพรศักดิ์ ระบุว่า ถ้าการสร้างพระใหญ่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ถือเป็นเรื่องมงคล แต่ช่วงที่ผ่านมาพบกรณีการหลอกลวงโฆษณาให้คนมาบริจาคเงินสร้างพระระบาดหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตนจึงต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งหากพบว่าไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงก็ดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้

ขณะที่รายการคลุกวงข่าว ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมินั้นก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552 และมีแผนจะสร้างพระใหญ่บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ มาตั้งแต่ปี 2553 แต่มูลนิธินี้ไม่เคยรายงานรายรับรายจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเลย กระทั่งมีข่าวว่าจะก่อสร้างพระใหญ่โดยใช้งบประมาณ 3.2 แสนล้านบาทจากการรับบริจาค จึงต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดว่าเป็นการหลอกลวงแอบแฝงหรือไม่

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=n_G7WI2Y3Mk]สั่งตรวจสอบเงินบริจาคสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ 320,000 ล้านบาท - YouTube[/ame]

 

โปรเจคมหึมาขนาดนี้ผู้ว่าไปเบรก ไปขุดคุ้ยมีโอกาสเจอตอ
แล้วจะหงายท้องตึง!!มูลนิธิจานบินแถวประทุมใครอวดเก่งไป
ขุดคุ้ยหงายท้องทุกคน!!

 

สื่อทำหน้าที่นำเสนอ แต่ไม่ควรเติมความเห็นหรือใส่อคติลงไป
ในการนำเสนอ ทำตามบทบาทที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก็พอ

ขณะเดียวกันไม่ควรมองข่าวเป็นอาหารอันโอชะ ที่จะสวาปาม
ต่อหน่าสาธารณะชนทั่วประเทศ ตรงกันข้ามควรพิจารณาถึง
เนื้อสาระของข่าวว่าจะผลบวกหรือผลร้ายต่อสังคมในทุกมิติ
ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่กระทบจิตใจสังคมก็นำเสนอไปตรงๆ
ไม่ต้องวิจารณ์ และถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีงามก็นำเสนอให้มากๆ
บ่อยๆ ครั้ง เสมอๆ

กรณีข่าวนี้ เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าเสทือนใจสังคมแน่นอน
หรือไม่อีกกรณีหนึ่งอาจทำให้ผู้ว่าที่เป็นราชการ ต้องหน้าแตกภายหลัง
เมื่อพิจารณาแล้ว สรุปว่าข่าวกระทบสังคมเป็นวงกว้างแน่นอน
แล้วเอามาละเลงในสังคม เพื่อให้สังคมมันอ่อนแอลงไปทำไม??
สื่อหนอสื่อ

 

นี่แหละซากเดนของการปฏิบัติราชการตามระบอบแม้ว
โครงการนี้ไม่ใช่การเจาะรูมด ข้าราชการเจ้าหน้ารัฐปล่อย
ให้เกิดความเสียหายต่อสังคมขนาดนี้มันชี้ให้เห็นอะไรที่เกิด
ขึ้นก่อนการปฏิวัติ ข้าราชการระดับสูงเอี่ยวหรือเปล่า??

เอาเหอะปล่อยให้เสียหานขนาดนี้ไม่พอ อาการเดินชนตอต้อง
เกิดขึ้นแน่ๆ สงสารประชาชนที่อยู่ภายใต้ระบอบฉ้อฉล จ่ายเงิน
ทำบุญกันไปคนละเท่าไรต่อเท่าไร???

 

แหล่งข่าวที่อยู่วงในที่พอจะมาอธิบายเรื่องราวได้ตรง
ประเด็น มากกว่าสื่อโทรทัศน์ 100 เท่าคือ ลุงมหา๑
ครับ อดใจรอฟังความจริงสักนิด สังคมต้องทราบความจริง
ที่ไม่ได้ขายเรตติ้ง

 

แต่ไม่รู้ลุงแกจะมีเวลาหรือเปล่าซิครับท่าน

http://palungjit.org/threads/คำทำนา...งค์-จากปัจจุบัน-ไปจนหลังสิ้นปี-2561-a.371128/

ก็ลองอ่านกันเล่นๆดูเผื่อท่านใดไม่ทัน
เวลาเท่านั้นที่จะอธิบายอะไรต่อมิอะไรได้ดีที่สุด

 

แต่คงไม่มีอะไรหรอกครับ
เพราะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ รู้เห็นหยั่งรู้อดีตและอนาคตถ้วนถี่ จะบอกว่าไม่รู้ปัจจุบันก็คงแปลกๆน่ะครับ

 

ท่าน ◎สุริunร์ เคยให้ความเห็นไว้น่าคิด

 

จะสร้างพระใหญ่ก็ดีอยู่ ..

แต่ 3.2 แสนล้าน มันเกินไป .. ใครๆ ก็รู้ว่ามันสมควรหรือไม่

และอะไรก็ตามที่มันไม่เหมาะสม ไม่สมเหตุสมผล .. มันจะเรียกว่าเป็น ธรรม ได้เหรอ?

 

อีกไม่นาน ไม่กี่ปี มวลหมู่ทั้งโลก จักได้พิสูจน์ถึง พิบัติภัย

วันที่ 29 พ.ค. 2557 ที่่ผ่านมา wmt ได้นั่งอยู่กับท่านพระอาจารย์ 2 ท่าน

ิบนเครื่อง แอร์เอเซีย ขณะเครื่องกำลังลงแลนดิ้ง ดอนเมือง ท่านหนึ่งนั่งริมเครื่อง

เอ่ยว่า บ้านเรือนเยอะมากขึ้น ต่อไปปีที่เกิดน้ำท่วม จะทำยังไง

อีกท่านนึงตอบว่า น้ำตานองหน้า

ครับ ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่จะแก้ต่างกรรมได้

การสร้างบารมี คือการต่อเติมบุญให้สำเร็จ

เพื่อให้ชีวิตทางโลกและทางธรรม สำเร็จกาล

กาลสุดท้ายแห่งความยิ่งใหญ่ของพุทธศาสนาในไทย

กำลังเดินแบบก้าวกระโดด เป็นบางถิ่น บางจังหวัด เดินแบบ

ถอยหลัง ถดถอย เหมือนเหตุต้นถิ่นพุทธเคยเกิดขึ้น

สูงสุดลงสู่สามัญ ก่อนย้ายฐานไปเจริญแถบตะวันตกแทน

แต่เจริญแบบไม่ใช่พุทธแท้ๆ เราคนไทยยุคนี้ กาลนี้ โชคๆๆดีๆๆ

ที่ไหนในโลก ก็ไม่เท่าไทยอีกแล้วในวงศ์พุทธ

ไสยศาสตร์จะกลับมา วัดป่าจะเป็นวัดบ้าน วัดบ้านจะเป็นชาวบ้าน ชาวบ้านจะเป็นผีบ้า

ภัยพิบัติ คือภัยพิบัติ การสร้างบารมี คือสร้างบารมี

โปรดอย่ากล่าวเลย ว่า........ด

 

อยากฟังรายละเอียดข้อความสนทนาของพระอาจารย์ 2 ท่านที่ได้กล่าวถึงนี้ ชัดๆ ได้มั้ยครับ

 

ถึงคุณ wmt

อันนี้ขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เห็นด้วยว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่หรือไม่

แต่เรื่องที่ท่านกล่าวมาใช่ เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมใหญ่ระดับตึกหลายชั้นหรือป่าวครับ

ถ้าเรื่องนี้ผมสงสัยว่าน้ำมันมาจากไหนครับ ถ้ามาจริงก็ไม่น่าอยู่ได้นาน คือ
น่าจะมาแล้วผ่านไป ยกเว้นกรณีเดียวคือเรื่อง น้ำแข็งขั้วโลกละลาย
เพิ่มระดับน้ำทะเล

ส่วนการป้องกันทรัพย์สิ้น สำหรับน้ำท่วม 10 ชั้นกับ 3 ชั้น ไม่ต่างกันมากเท่าไรแล้วคับ

ผมว่าพอมีวิธีอยู่นะ เพราะว่าฝนตกเราหยุดฝนไม่ได้ แต่เราทำให้ตัวไม่เปียกได้
เพราะฉะนั้น หากน้ำจะท่วมเราคงหยุดหรือห้ามไม่ให้ท่วมคงยาก
แต่เราทำให้ทรัพย์สินไม่เปียกนั้น(รวมถึงแรงกระแทก) เป็นไปได้นะ

และถ้าเรามีแผนรองรับ เราก็สามารถดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปได้
โดยไม่ต้องทิ้งงานทิ้งถิ่นฐานไป

 

เป็นผมสร้างพระใหญ่ขนาดนั้นผมจะทำเองเลย.......แต่ถ้าใครร่วมบริจาคก็ทำรายรับรายจ่ายไว้ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เงินมาจากไหนตรวจได้....แต่จะทำพระใหญ่ขนาดนี้ได้ คงต้องเกิดมารวยนิดหนึ่ง หรือไม่ก็มีเจ้าภาพ มาบริจาคทำบุญในจำนวนเงินที่มากพอ.....แต่ชาตินี้คงทำไม่ได้นะผม...นอกเรื่องนิดหนึ่ง....แต่ผมคงไม่ใช้ปูนสร้าง คงต้องเอาภูเขาทั้งลูกมาทำ สกัดภูเขาทั้งลูกเลย ไม่ใช้เงินอะไรมาก แต่อาจใช้เวลานิดหน่อย.

 

ถ้าว่ากันเรื่องต้นทุน เอากันถูกสุดๆ ก็ทำเป็นภาพเขียนหรือวาด
แต่ปัญหาคือจะไม่อยู่ถาวร

ดังนั้น แกะสลักหน้าผา อย่าง chatyman ว่า ก็น่าสนใจ
การแกะสลักก็มีระดับมิติความลึกละเอียดให้เลือกได้อีก

แต่ซื้อภูเขาลูกใหญ่ อาจจะแพงก็ได้นะ อิอิ
เพราะทุกวันนี้คนเค้าก็เอาภูเขาไปบดเป็นหินกรวดขายกันเยอะไป

 

"องค์พระแกะสลักภูเขา"เขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ
ขนาดใหญ่เท่าลูกเขาหิน
แกะสลักด้วยเลเซอร์(ดูรายละเอียดจากกูเอิ้นครับ)
ความงดงาม พิจารณาเอาเองครับ

 

ที่ประเทศจีน เขาแกะพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั่งอยู่ริมแม่น้ำ ....ผมดูแล้ว อดคิดไม่ได้ เป็นผมก็อยากทำแบบนี้ พอดีคิดไว้ แล้วได้เห็นในทีวี....คนทำต้องเพียรพยายามอย่างยิ่งยวด..อดทน...เพราะใช้เวลานาน....ผู้ที่ทำต้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าแน่ ๆเลย....

 

+++ ถือว่า "เล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน" โดยปกติ ทุกครั้งที่ผมฝันในระดับที่ "ตัวตนอยู่ในความฝัน" ความฝัน นั้น ๆ จะปรากฏเป็นจริงเสมอ แม้ว่า ไม่รู้ได้ว่า "เมื่อไร" แต่ที่แน่ ๆ คือ "ผมต้องได้เห็น ด้วยตาเนื้อ" ตรงนี้ แน่นอนทุกครั้ง

+++ เมื่อหลายปีมาแล้ว ได้ฝันเห็น "ซูนามิ" ระดับสูงกว่า "ยอดเขาสูงสุดของ เกาะ ในทะเล" การฝันเห็นตรงนี้ ไม่ได้ฝันครั้งเดียว แต่ 2-3 ครั้งขึ้นไป แต่ทุกครั้งที่ "เห็น" ผมเองก็ "ไม่เชื่อ" ทุกครั้งที่เห็น ว่ามันจะเป็น ภัยพิบัติ ระดับล่มจมอะไรเลย

+++ แต่ในช่วงนี้ หลังจากที่ "เห็นรูปของเมฆกันชน" แล้ว ทำให้ผมถึง "บางอ้อ" ขึ้นมาทันที "ใช่ มัน ใช่อย่างที่เคยเห็นมาก่อน" ดังนั้น ขอให้ช่วยกัน "ยับยั้งชั่งใจในเรื่องภัยพิบัติ" นี้ให้ดี "เพราะหลาย ๆ ครั้ง เรื่องมันจะถึง บางอ้อ ได้อย่างไม่มีภัยพิบัติอะไรเลย"

+++ เรื่อง "เครื่องบิน จอดแช่น้ำ" ก็เกิดขึ้นจริงมาแล้ว ที่ดอนเมือง (ตรงนี้เป็น ภัยพิบัติจริง จากการเมือง เพราะ นักการเมือง "จงใจทำ ด้วยความเห็นแก่ตัว และ ความโง่เขลา") และตอนนี้ "ซูนามิ ที่สูงกว่า ยอดเขา" ผมก็เห็น และ ผ่านพ้นมาแล้ว เพียงแต่มันออกมาเป็น "เมฆกันชน" นั่นเอง

+++ ถือว่าผมมา "เฉลยภัยพิบัติตรงนี้" ให้ฟังกันเล่น ๆ ก็แล้วกัน ดังนั้นถ้าเจอเรื่อง "ซูนามิ" ในประเทศไทยอีก ก็ให้ทำความเข้าใจว่ามันเป็น "เมฆกันชน" และมันผ่านพ้นไปแล้ว ก็แล้วกัน นะครับ

 

ซึนามิกะเมฆกันชน มันเป็นเหตุธรรมชาติที่ ชดเชยกันได้ด้วยหรือ?
มีเหตุผลอะไรมาอธิบายรองรับการทดแทนกันระหว่าง
เหตุการณ์ธรรมชาติ 2 อย่างนี้บ้างคับ??

 

เค้าพูดถึงสิ่งที่เห็นในนิมิตของเขาครับ .. แต่อันที่จริง น่าจะต้องเห็นบริบทอื่น เช่น มีภาพหายนะ คนอลม่าน คนตาย อะไรแบบนี้ ด้วยถึงจะชัด ... ไม่เช่นนั้น

จะโดนนิมิตหลอก

 

+++ คำทำนายภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดจาก "การเห็น"
+++ ผมเองก็เคยเห็น "แต่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ว่า มันจะเป็นภัยพิบัติ"

ซึนามิกะเมฆกันชน มันเป็นเหตุธรรมชาติที่ ชดเชยกันได้ด้วยหรือ?

+++ ไม่มีอะไร ขดเชย อะไรได้ กับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทั้งหมด เฉลยที่ "การเห็น" และมันขดเชยกันที่ "การเห็น"

มีเหตุผลอะไรมาอธิบายรองรับการทดแทนกันระหว่าง
เหตุการณ์ธรรมชาติ 2 อย่างนี้บ้างคับ??

+++ ไม่มีหรอกครับ เพียงแต่ "การเห็น" นั้นได้รับ "การเฉลย" มันก็จบลงเท่านั้นเอง

+++ และมันก็ตรงกับที่คุณ TheVisionMind พูดคือ "น่าจะต้องเห็นบริบทอื่น เช่น มีภาพหายนะ คนอลม่าน คนตาย อะไรแบบนี้ ด้วยถึงจะชัด ... ไม่เช่นนั้นจะโดนนิมิตหลอก"

+++ และ "บริบทดังที่กล่าวมา" "ไม่ปรากฏ" ดังนั้นผมจึงไม่เชื่อว่า มันจะเป็นภัยพิบัติ

+++ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็เพื่อ เตือน ๆ กันไว้ว่า "สิ่งที่เห็นนั้น เห็นได้ แต่ สิ่งที่เข้าใจว่าถูกต้องนั้น อาจผิดก็ได้ เมื่อมีปรากฏการณ์ของ การเฉลย ปรากฏตัวออกมา" เท่านั้นเอง

ดูรูปใน 2 clips นี้ ก็พอจะเข้าใจเจตนาในการโพสท์ที่ 17 ของผมได้ไม่ยาก นะครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=P5vOLNMr_64"]เรื่องเล่าเช้านี้ ฮือฮา เมฆประหลาดคล้ายคลื่่นยักษ์โผล่ท้องฟ้าเมืองตรัง 16 มิถุนายน 2557 - YouTube[/ame]
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=bW0C3bqDV8c"]ตรัง ปรากฏการณ์เมฆคล้ายมวลน้ำขนาดใหญ่เหนือท้องฟ้าบ้านทุ่งยาว ข่าวอากาศ สิ่งแวดล้อม ครอ[/ame]