ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ครายออนตอบคำถาม-ทำไมวิญญาณเบื้องบนไม่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างให้มนุษย์รู้ซะเลยหละ?

    ที่มา: kryon-Q&A 2nd Quarter2004


    คำถาม: ครายออนที่รัก ถ้าพวกเรามีทางเลือกอิสระจริงๆ (free will)
    และถ้างานที่พวกเราทำอยู่นี้ ก็มีความจำเป็นที่พวกเราจะต้องมีความปลอดภัย
    ในการอยู่ ณ.ฟากฝั่งนี้ของม่านพราง ซึ่งห่างไกลจากคุณและครอบครัวของเราเองด้วย
    แล้วทำไมคุณถึงไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับพวกเรา และบอกความจริงเรื่องต่างๆกับพวกเราไปซะเลยหละ ?

    ฉันไม่ได้กำลังบ่นอยู่หรอกนะ! เพราะว่าฉันชอบที่จะฟังจากคุณ!
    และฉันก็ขอขอบคุณคุณสำหรับงานที่คุณทำอยู่นี้ และสำหรับความหวังและการปลอบประโลม
    ที่มีอยู่ในข้อความของคุณ และรวมถึงสำหรับความรักที่คุณมีต่อพวกเราด้วย

    คำตอบ: ถ้าคุณรู้จักสังเกต คุณก็จะพบว่า ฉันไม่เคยเปิดเผยความลับใดๆ
    ที่เป็นความลับที่พวกคุณจะต้องเป็นผู้เปิดเผยมันเอง ให้พวกคุณได้ทราบเลย
    เพราะว่าฉันคือ “ผู้นำทาง” รูปธรรมหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ฉันจึงจะไม่ทำอะไรไปมากกว่า
    ขอบเขตที่ฉันได้รับอนุญาติให้ทำได้มาตั้งแต่ต้น ซึ่งก็คือการให้ข้อมูลข่าวสารที่จะชี้ทางให้พวกคุณ
    ได้ไปพบกับคำตอบถัดๆไปนั่นเอง

    ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเหล่าทวยเทพทั้งหลายที่พวกคุณรู้จักกันแล้วนั่นแหละ
    เพราะว่าพวกเราทั้งหมดใช้ระเบียบปฏิบัติสำหรับมนุษยชาติเล่มเดียวกันอยู่
    มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือ ภายใต้การเร่งให้เร็วขึ้นของระดับพลังงานของดาวเคราะห์โลกนี้
    ข้อความของฉันสามารถที่จะถูกมอบให้กับพวกคุณได้ ในสถานที่ๆมีความเด่นชัดมากกว่าเท่านั้นเอง
    (ครายออนสามารถที่จะสื่อสารในสถานที่ๆเปิดเผยและสะดุดตาได้มากกว่าเหล่าทวยเทพทั้งหลาย – ผู้แปล)

    ซึ่งการเร่งให้เร็วขึ้นของระดับพลังงานของโลกที่ว่านี้ ก็คือผลงานของพวกคุณเอง
    และพวกคุณก็อาจจะพูดได้ว่า รหัส 11:11 ในปี 1987 นั้น
    คือจุดเปลี่ยนชะตากรรมของพวกคุณเองก็ได้ เพราะว่ามันได้เปิดประตูมิติบานหนึ่งขึ้นมา
    ที่เอื้ออำนวยให้การชี้บอกทางขั้นต่อๆไป เพื่อมุ่งไปสู่การเรียนรู้ที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก สามารถเกิดขึ้นได้

    มันจะเหมือนกับว่า ฉันกำลังช่วยพวกคุณเขียนบทใหม่ของความเป็นพระเจ้าในตัวเองขึ้นมาอยู่
    และมันจะเหมือนกับว่าฉันกำลังผลักดันพวกคุณให้ก้าวไปข้างหน้าต่อไป
    เพื่อไปพบกับสิ่งต่างๆอีกมากมาย ที่เคยอยู่ตรงนั้นเสมออยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในตอนนี้
    สิ่งเหล่านั้น มันมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิมแล้วเท่านั้นเอง

    จำได้ไหมว่าฉันเคยบอกพวกคุณไปแล้วว่า “เมื่อใดที่แสงสว่างถูกเปิดขึ้นมาแล้ว
    มันก็มักจะไปเปิดเผยสิ่งต่างๆให้พวกคุณได้เห็น และได้ลงมือกระทำอะไรบางอย่างกับมันต่อไป
    แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันไม่เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน ก่อนที่แสงสว่างจะถูกเปิดขึ้นมาหรอกนะ”

    …………………
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ครายออนตอบคำถาม - เรื่องควรจะสวดมนต์อธิษฐานถึงใครดี?

    ที่มา: kryon-Q&A 1rst Quarter2004
    Who to pray to

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    คำถาม: ฉันมีปัญหาว่า ไม่รู้ว่าควรจะสอดมนต์อธิษฐานถึงใครดี ซึ่งตลอดระยะหลายปีมานี้
    ฉันค่อยๆมีความเชื่อว่า พวกเราทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า

    และมนุษย์แต่ละคนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ก็เป็นแค่หนึ่งใน “กลุ่ม” กลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง
    และคุณก็ได้บอกพวกเรามาโดยตลอดว่าคุณก็เป็นหนึ่งในกลุ่มๆหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน
    แล้วยังมีทวยเทพทั้งหลาย เช่น มหาเทพมิคาเอล, มหาเทพ Gabriel
    และเหล่าคุรุผู้รู้แจ้งแล้วทั้งหลายอยู่อีกด้วย เช่น พระเยซูคริสต์ และพระพุทธเจ้าเป็นต้น
    และฉันก็คาดว่าพวกท่านเหล่านั้นก็อยู่กันแบบเป็น “กลุ่ม” ด้วยเช่นเดียวกัน

    ฉันรู้ว่าพวกเราสามารถที่จะพูดคุยกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกเราเองได้
    และพูดคุยกับเหล่าผู้นำทางของพวกเราได้ด้วย แต่ว่ามีกลุ่มไหนไหม๊ หรือมีรูปธรรมชีวิตไหนไหม๊
    ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้หนะ? มี “พระบิดา” อยู่จริงๆไหม๊?
    แล้วจักรวาลแห่งนี้เป็นประชาธิปไตยขนาดใหญ่จริงๆหรือเปล่า?


    คำตอบ: คำถามของคุณไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงการหยั่งรู้และภูมิปัญญาของคุณเองเท่านั้น
    แต่มันยังแสดงให้เห็นถึงการมีข้อจำกัดของสิ่งที่คุณได้นำเอามาใส่ไว้ให้กับตัวเอง
    ที่เรียกว่าความเป็นทวิภาวะ (duality) อีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคำอธิบายมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม
    มนุษย์ก็มักจะชอบไปจัดแจง และสร้างแผนผังองค์กรขึ้นมาให้กับทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ
    นี่คือกระบวนการที่เป็นแบบเส้นตรงแท้ๆกระบวนการหนึ่ง และมันก็ไม่ได้สอดคล้องกับความเป็นจริง
    ที่มันเป็นจริงๆ ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพรางแต่อย่างใดเลย

    ลองนึกถึงน้ำซุปซักถ้วยใหญ่ๆถ้วยหนึ่งดูสิ มันก็จะมีการจัดองค์กร, มีรสชาติ, มีสสาร, มีสารอาหาร
    และมีรูปร่างของมันอยู่ใช่ไหม แต่ว่าก็ไม่มีใครเป็นผู้สั่งการในน้ำซุปถ้วยนี้หรอก

    พอพูดมาถึงตรงนี้คุณอาจจะพูดว่า “ก็แน่อยู่แล้วหละ เพราะว่ามันไม่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    อยู่ในน้ำซุปนี่นา ดังนั้นมันก็เลยไม่จำเป็นจะต้องไปคิดอะไร หรือไปตัดสินใจอะไร
    และมันก็ไม่รู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของตัวมันเองซะด้วยซ้ำไป”

    คุณคิดว่ามันไม่รู้เหรอ? คุณคิดว่าทุกๆโมเลกุลเหล่านั้น พวกมันแค่บังเกิดขึ้นมา
    เพื่อสร้างและจัดเรียงตัวกันขึ้นมา จนกลายมาเป็นโครงสร้างที่ละเอียดประณีต
    ที่เกาะเกี่ยวกันอยู่อย่างสลับซับซ้อน ที่ซับซ้อนและเข้าใจยากซะจน
    แม้กระทั่งวงการวิทยาศาสตร์ของพวกคุณก็ยังไม่เข้าใจพวกมันเลยด้วยซ้ำไป ยังงั้นเหรอ?

    คุณเคยรู้มาก่อนไหมว่า แม้แต่ในสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดอย่างน้ำซุปถ้วยนี้เป็นต้น
    มันก็ยังมีแผนงาน, มีระบบ และมีการประสานงานกันอยู่เลย?

    และถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ แล้วใครคือผู้ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบกันหละ?
    แล้วประชาธิปไตยอยู่ที่ไหนหละ? ใครเป็นคนสั่งการ?

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแทนที่จะมีการสั่งการแบบเป็นเส้นตรง
    แต่ทุกๆชิ้นส่วนของมัน กลับมีความรู้อย่างเต็มพิกัด
    เกี่ยวกับแผนงานที่วางเอาไว้แล้วแทน
    และโดยไม่ต้องมีใครหรืออะไรมาทำหน้าที่
    เป็นผู้ประสานงานให้กับพวกมันเลย
    พวกมันก็ยังสามารถที่จะอยู่และทำหน้าที่ของตัวเอง
    ที่ต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว ได้อย่างพอเหมาะพอดีเลย?

    ซึ่งไม่เพียงแต่น้ำซุปเท่านั้นนะที่เป็นแบบนี้
    แต่จักรวาล และสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “พระเจ้า”
    ก็เป็นแบบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

    ใช่แล้ว..พวกคุณทุกๆคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของส่วนรวมด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    แต่ทว่า..ทวยเทพทั้งหลาย และรูปธรรมชีวิตอื่นๆทุกๆรูปธรรม ที่ได้มาแสดงตัวตนให้พวกคุณได้รู้จักแล้ว
    ตลอดหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมานั้น พวกเขาล้วนเป็นแบบเดียวกันนี้เหมือนกันหมดทั้งสิ้น
    และพวกเขาต่างก็กำลังอ่านบทจากเอกสารต้นฉบับ (script) เดียวกันอยู่ทั้งสิ้น
    ซึ่งเป็นสคริปท์ที่สอดคล้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์ และก็จะ update ตัวมันเองไปพร้อมๆกันทั้งหมดด้วย

    ซึ่งเรื่องนี้มันไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆที่พวกคุณเคยรู้จักมาแล้วหรอกนะ
    ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถที่จะจินตนาการได้จริงๆหรอก

    พวกคุณยังเคยสร้างนิยายปรำปะราเกี่ยวกับ “สงครามบนสวรรค์” ขึ้นมาแล้วด้วยซ้ำไป
    เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถเทียบเคียงได้ว่าทำไมสิ่งต่างๆมันถึงได้มาเป็น
    อย่างที่พวกมันกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ได้ พวกคุณคิดว่ามันน่าจะมีพลังงานอะไรซักอย่าง
    ที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ของมนุษย์นั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้
    ก็เพื่อที่จะพยายามทำให้พระเจ้ากลายเป็นมาแบบเส้นตรงให้ได้นั่นเอง

    DNA ของพวกคุณบรรจุรหัสอันศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบนเอาไว้อยู่
    ซึ่งมีข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นพร้อมหมดแล้ว พวกคุณคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    และพวกคุณก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้ “แผนที่” นี้ด้วย

    ยิ่งพวกคุณเข้าไปใกล้ความเป็นพระเจ้าของตัวเองได้มากเท่าไหร่
    พวกคุณก็จะยิ่งเห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้นด้วย
    และคุณก็จะยิ่งมีภูมิปัญญาสูงขึ้นเท่านั้นด้วย

    ดังนั้น พวกเราถึงได้สนับสนุนให้พวกคุณเข้าไปค้นหาพระศาสดา,
    คัมภีร์กฎ (rule book) และเข็มทิศที่บอกว่าพวกคุณเป็นใคร
    และทำไมพวกคุณถึงได้มาอยู่ที่นี่ บนโลกใบนี้
    จากภายในตัวของพวกคุณเองมาโดยตลอดยังไงหละ

    แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือนักวิจารณ์ทั้งหลายก็จะออกมาพูดว่า
    นั่นแหละคือสิ่งที่อาชญากรฆ่าต่อเนื่องทำกันหละ
    พวกเขาจะออกมาเยาะเย้ยกระบวนการนั้นว่าเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่เต็มเต็ง
    และแม้กระทั่งชั่วร้ายด้วยซ้ำไป พวกเขาจะพูดว่า

    “ก็ลองคิดดูสิ ถ้าทุกๆคนมีคัมภีร์กฎเป็นของตัวเองทั้งหมด
    มันก็จะต้องเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นเป็นแน่!”

    ดังนั้น พวกเขาก็เลยต้องมอบคัมภีร์กฎของพวกเขาให้แก่พวกคุณแทน
    ซึ่งปกติแล้วก็จะให้มาทั้งดุ้นเลย ซึ่งเนื้อหาในนั้นก็จะคือ “สิ่งที่พวกเขาบอกว่า”
    พระเจ้าต้องการที่จะให้พวกคุณทำอะไรนั่นเอง

    แต่ความจริงก็คือ “คัมภีร์กฎ” เล่มนี้ มันเป็นของใครของมัน
    แต่ก็เหมือนกับน้ำซุปนั่นแหละ คือมันจะเป็นอะไรที่เหมือนๆกันทั้งหมด
    ในทุกๆโมเลกุลของน้ำซุปนี้

    ดังนั้น มันจึงหมายความว่า ทุกๆคนก็จะมีสคริปท์ชุดเดียวกันนี้อยู่!
    และมันก็จะต้องเป็นแบบนั้นเท่านั้น เพราะว่าไม่เช่นนั้นแล้ว
    สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ธรรมชาติ” มันก็ไม่อาจที่จะทำงานได้

    มันคือคัมภีร์ที่บอกว่า “กลุ่ม” ที่ว่านั้น คือครอบครัวเดียวกัน
    และส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดองค์กร
    (อธิบายในแบบของโลกแห่งความเป็นจริงแบบที่เป็นเส้นตรงของพวกคุณ)
    ก็คือส่วนที่เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง

    บางส่วนของสมาชิกในครอบครัวของพวกคุณ ก็อุทิศตัวเองมาเพื่อทำงานเป็นส่วนเชื่อมประสาน
    อยู่ในมิติที่ 4 ระหว่างพวกคุณกับพวกเรา (ผู้นำทางทั้งหลาย)
    ส่วนสมาชิกอีกบางส่วนของครอบครัวของพวกคุณก็อุทิศตนเองมาเพื่อเป็นทวยเทพให้กับพวกคุณ
    และอีกบางส่วน เช่น ฉันเองเป็นต้น ก็อยู่ในส่วนของวิชาฟิสิกส์ของพวกคุณ เป็นต้น
    (วิชาฟิสิกส์ คือวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสาร, พลังงาน, การเคลื่อนไหวและแรง – ผู้แปล)

    แต่พวกเราทั้งหมดนี้ ก็พัวพันกันอยู่ในความรักของพระเจ้าด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    คือเป็นส่วนที่มาให้ความช่วยเหลือแก่มนุษยชาติ
    และพวกเราทั้งหมดก็อยู่ด้วยกันแบบเป็นกลุ่มๆเดียวด้วย
    ซึ่งก็คือกลุ่มๆเดียวกับของพวกคุณนั่นแหละ
    ซึ่งกลุ่มของครอบครัวที่ว่านี้ ก็เรียกว่าพระเจ้า (God) นั่นเอง

    แล้วใครหละที่คุณควรจะสอดมนต์อธิษฐานถึง?

    จงเริ่มต้นด้วยการกลับเข้าไปสู่ข้างในตัวเอง
    และแทนที่จะไปสอดมนต์อธิษฐานถึงใครที่ไหนอื่น
    ก็ให้เริ่มต้นเข้าใจภูมิปัญญาอันหนึ่งซะก่อนว่า..
    แท้ที่จริงแล้วพลังอำนาจสถิตย์อยู่ที่นี่
    แล้วจากนั้นก็สร้างสรรค์สิ่งที่คุณต้องการออกมาจากที่ตรงนั้น

    อย่าเอาแต่คิดว่า จะนั่งอยู่ที่นั่นแล้วหวังให้พระเจ้าประทานอะไรซักอย่างลงมาให้
    เหมือนสุนัขที่นั่งอยู่ใต้โต๊ะอาหารเย็นอย่างอดทน
    เพื่อรอคอยเผื่อว่าใครจะทิ้งเศษอาหารลงมาให้ เพราะมันไม่ใช่แบบนั้นเลย!

    สรุปว่า..ผู้ที่คุณควรจะสวดมนต์อธิษฐานถึง
    ก็คือความสง่างามของตัวตนของพวกคุณเอง
    ซึ่งเป็นแก่นแท้ของพระเจ้าที่มาอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    และคือผู้ที่ขับเคลื่อนทุกสรรพสิ่ง

    พวกคุณคือคุรุของตัวพวกคุณเอง
    นี่คือความจริงที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด
    ภายใต้ใบหน้าของความเป็นทวิภาวะของพวกคุณเอง

    จงเข้าร่วมกลุ่มที่ชื่อว่าพระเจ้านั้น และจงสวดมนต์ แต่ไม่ใช่เพื่ออ้อนวอนรูปธรรมชีวิตที่มีฤทธานุภาพสูงกว่าใดๆทั้งสิ้น
    แต่จงสอดมนต์อธิษฐานในฐานะที่พวกคุณเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว
    ที่กำลังเขียนจดหมายถึงบ้านอยู่ ในระหว่างที่ไปสู้รบอยู่ในแนวหน้าของสนามรบแห่งหนึ่ง

    พวกคุณคือส่วนหนึ่งของพระเจ้า และก็เป็นสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งด้วย
    และพวกคุณก็ยังเป็นมนุษย์โลกคนหนึ่งด้วย ซึ่งมนุษย์โลกคือ
    หนึ่งในรูปธรรมชีวิตจำนวนน้อยนิดในจักรวาลแห่งนี้
    ที่มาอาศัยอยู่และมาทำงานอยู่ในสถานที่ๆพวกคุณไม่อาจรับรู้ความจริงได้แบบนี้
    เพราะว่าไม่เช่นนั้นแล้วมันก็จะทำให้ความถูกต้องตรงไปตรงมาของการทดสอบเสียหายได้

    และคุณสงสัยอีกไหมว่าทำไมพวกเราถึงมาให้ความช่วยเหลือพวกคุณและรักพวกคุณมากเหลือเกิน?

    ………………..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2014
  3. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    [​IMG]

    Stay In Steady Harmony,
    Acepting All Expiriences Without Judgement.
    Pleiadian Degate : The Queen Of Light


    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014

    June 01-08, 2014
    HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
    วันที่โพสท์ _Tue ,03/6/2014

    ผู้แปล: อจิตตะ

    คุณคุณที่รัก...
    หลายเดือนที่ผ่านมาคุณได้ก้าวผ่านประตู(มิติ)มามากมาย
    ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาของกระบวนการของการดูดซึมพลังงาน
    และเลื่อนระดับสู่ทัศนมิติใหม่ในความเป็นตัวคุณเอง
    และเป็นการเดินทางร่วมกัน...
    ซึ่งก็มีหลายคนที่กำลังเข้าถึงการบรรลุและรับรู้ ได้
    ถึงแม้จะเห็นราง ๆ ในระยะแรก แต่นั่นก็เป็นรากฐานของศักยภาพ
    เหมือนดั่งเมล็ดพันธุ์ที่วิเศษซึ่งเพาะอยู่ภายในสวนของชีวิตคุณ
    และคุณก็รู้ดีว่า... ก็เป็น “คุณ”นั่นแหละ
    ที่เป็นผู้สร้างสรรค์ทิศทางเดินของชีวิตที่คุณควรจะไป
    และอะไรบ้างที่คุณต้องเข้าไปเกี่ยวข้องโยงใยอย่างต่อเนื่อง
    เพื่อนำมาใช้ในการโฟกัสความคิดของคุณ
    และเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องจดจำไว้ว่า
    ในเวลานี้ ความคิดของคุณเป็นความคิดที่มีศักยภาพและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านๆมา
    ด้วยพลังงานที่ได้รับการชะล้างต่ออุปสรรคมากมายที่ขวางทางข้างหน้าของคุณ
    ซึ่งบัดนี้...คุณก็ได้ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว...
    และหากคุณได้มีการทำงานร่วมกันกับพลังงานใหม่นี้แล้วละก็
    เส้นทางเดินข้างหน้าของคุณก็จะกลายเป็นเรื่องน่าพิศวงและ มหัศจรรย์ทันที...
    และหากที่ผ่าน ๆ มา....อะไรก็ตามที่ดูเหมือนยากต่อการเข้าถึง
    มันจะปรากฏขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องไปตั้งจิตจดจ่อ (focus)ให้มากมายเหมือนก่อนอีกต่อไป...


    ศักยภาพเหล่านี้จะมาพร้อมกับความรับผิดชอบ
    ต่อทุกๆความคิด คำพูด และการกระทำของคุณ
    เพื่อให้เกิดการขยายตัวขึ้นเป็นทวีคูณกับพลังที่คุณได้สร้างสรรค์ขึ้นมา...
    คุณต้องมีวินัยต่อตนเองและรอบรู้ในการรับรู้ความคิดที่คุณได้ครองไว้ทุกๆขณะ
    เพื่อที่เวลามันเข้ามาพร้อมกันกับความรู้สึกที่ต้องเกี่ยวข้องกับมัน...
    ดังนั้น...คุณควรเรียนรู้ในการปรับเปลียนความคิด
    และความรู้สึกทั้งหมดจากวิสัยทัศน์เก่า ๆ
    ที่คอยกักคุณให้กลายเป็นผู้ที่ด้อยต่อการรับรู้ในความสามารถ
    ในการจัดการไว้ด้วย เผื่อว่าต้องการใช้มัน...

    จริงอยู่ที่พวกคุณอยู่อีกไม่นานกับสถานที่นั้น พื้นที่นั้นและ ณ.ปัจจุบันขณะนั้น
    แต่“คุณก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างได้เมื่อคุณปรารถนาที่จะเป็น”
    และที่ทุกวันนี้คุณมีชีวิตที่ดี ก็เป็นความปรารถนาและเป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับ...

    งานที่คุณทำได้สำเร็จแล้ว...บัดนี้คุณได้เตรียมการในการสร้างสรรค์ชีวิตใหม่ที่สวยงาม
    และเฉลิมฉลองได้ในทุกๆขณะ ด้วยรางวัลที่คุณได้รับอยู่เสมอ ๆ...
    คุณจงปล่อยให้ความงดงามของธรรมชาติได้โอบตัวคุณบ่อยๆเท่าที่จะทำได้
    เพื่อให้เกิดการปฏิรูปพลังงานและฟื้นฟูในระบบปฏิบัติการของมนุษย์
    ทั้งให้ได้รับความปลอดภัยและนำไปสู่เส้นทางที่แท้จริง...

    จงมีความคิดที่จะให้ความเมตตาต่อตัวเอง
    และต่อความรู้สึกที่คุณโอบไว้ภายในตัวของคุณเอง
    และจงปรับเปลี่ยนอย่างทันทีทันใด
    กับความคิดที่เป็นบ่อนทำลายพลังอำนาจ
    ในการเลื่อนระดับขึ้นไปของคุณ...

    ...นี่อาจจะเป็นความท้าทายด่านแรกของคุณ
    เพราะคุณยังคงต้องเดินหน้าต่อต้านหลักการเก่าๆ ที่ทำให้พลังงานลดลง
    แต่ด้วยความตั้งมั่นที่จะทำอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการนี้
    คุณก็จะได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น
    ในเรื่องความเชื่อมั่นและในการให้ความเคารพต่อตนเอง

    ...ภาพของคุณที่อยู่ในตำแหน่งของ ครู หมอ หรือ คุรุ
    ที่ได้ให้ความช่วยเหลือให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ในเรื่องความสมดุลย์
    และทำให้เกิดดุลยภาพด้วยระบบพลังงานของพวกเขาเอง
    ทั้งการให้กำลังใจของคุณที่มีต่อการยกระดับของคนรอบข้าง
    และฝึกพวกเขาให้ปฏิบัติในเรื่องของความเมตตา
    โดยที่คุณไม่ได้หวังผลตอบแทนในสิ่งใด นอกจากความสนุกสนาน
    และความเอื้ออาทรที่มีต่อผู้อื่นโดยการยกระดับจิตตัวคุณเอง
    ...นี่เป็นการฝึกปฏิบัติและเป็นวิธีที่ดีเยี่ยม
    ของการเริ่มต้นในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น
    โดยปราศจากความต้องการในการยอมรับ
    ที่มีต่อความพยายามของคุณแต่อย่างใด...

    พลังงานแห่งสตรีเพศอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เคลื่อนสู่ชั้นบรรยากาศของโลก
    ซึ่งผู้คนรู้สึกได้ในการเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน
    และเต็มใจเสี่ยงในการเปิดหัวใจ
    เพื่อลดเกราะป้องกันในรูปแบบทางความคิดของพวกเขาลง
    อีกทั้งพฤติกรรมต่าง ๆที่นำมาใช้ไม่ได้อีกต่อไปกับอนาคตที่สวยงาม
    ซึ่งตั้งอยู่ก่อนหน้าที่พวกเขาจะจับต้องได้นั้น...
    และถึงแม้ขณะนี้มีหลายคนบนโลก
    ที่กำลังได้รับความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นภายในของตัวเอง
    กับการรับรู้ว่า...ความตื่นรู้ของพวกเขาไม่ได้ทำสิ่งใดให้เกิดความแตกต่าง
    ต่อสถานะการณ์ที่ต้องการการใส่ใจจากพวกเขาเลย...
    ...นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนต้องตระหนักให้ดีว่า
    พวกเขาไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่เหมือนๆกันในเวลาที่อยู่ร่วมกันของเหตุการณ์นั้นๆ
    และจงให้อภัยต่อตัวเองในความบกพร่องของการรับรู้ที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้น...
    แต่นี่ก็เป็นการบ่งบอกว่าคุณได้เดินมาไกลแล้วนะ...
    จึงควรให้รางวัลด้วยวิธีการที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง
    และเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จนี้ซะด้วย...

    สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้คือการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง
    ซึ่งก็เพียงแค่ถือหางเสือให้เรือลอยอยู่ได้อย่างปลอดภัย
    ด้วยการเรียนรู้ในการปรับตัวให้อยู่ร่วมกับปัจจุบันขณะ
    ที่คอยโยกคลอนพวกเขาในขณะที่เรือแล่นอยู่
    เพื่อให้ผ่านชีวิตการเดินทางของพวกเขาไป
    ซึ่งทั้งชีวิตก็ล้วนเป็นเรื่องของประสบการณ์ทั้งนั้น
    และนี่คือหนึ่งในความก้าวหน้าเพื่อการเดินหน้าต่อไป...

    จะไม่มีการคำตัดสินใด ๆ จากอาณาจักรของพระเจ้า
    จะมีก็เพียงการเรียนรู้และการเติบโตขึ้นภายในของแต่ละบุคคล...
    ซึ่งแต่ละคนต่างก็ได้เลือกทางเดินให้แก่จิตวิญญาณ
    เพื่อให้ได้รับการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น
    กับพลังที่เป็นคุณลักษณะของพระเจ้า
    ซึ่งคุณก็กำลังได้ประสบการณ์ตรงกับเส้นทางในปัจจุบันขณะของคุณอยู่...
    หรืออีกนัยหนึ่งคือ...คุณกำลังมีส่วนร่วมอย่างเต็มตัว
    บนการเดินทางของชีวิตที่คุณได้เลือกไว้แล้ว ซึ่งย่อมมีทั้งขึ้นและลง...
    และนี่เป็นวิธีที่จิตวิญญาณของคุณได้เลือกที่จะนำไปสู่การเกี่ยวพันกับผู้คนทั้งหลาย
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเหตุการณ์หรือเงื่อนไขที่มีอยู่ก่อนหน้าที่คุณมาอยู่ ณ ปัจจุบันนี้...


    ...ทัศนคติของคุณสามารถสร้างทั้งความสุข
    และสร้างประสบการณ์ในพลังอำนาจเพื่อนำมาใช้ขัดขวางใครบางคน
    ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกัน แต่นั่นไม่ใช่เป็นการสนับสนุนของจักรวาล
    ...พลังของทัศนคติที่คุณได้เลือกใช้อยู่นี้
    จะสามารถช่วยให้คุณก้าวกระโดดไปสู่สิ่งใหม่ๆกับวิถีขีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข
    ...และเมื่อคุณได้เลือกที่จะมีแรงต้านน้อยที่สุด
    ชีวิตก็จะเริ่มปรากฏภาพที่ละลานตาไปด้วยความบริบูรณ์
    และจะสัมผัสได้ถึงการแสดงออกของความรัก...

    “ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น”


    Until next week…
    I AM Hilarion
     
  4. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    Thank You :cool:

    [​IMG]
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    mee too:cool:
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ครายออนตอบคำถาม – เรื่องวิธีการพูดคุยกับเซลในร่างกายของเรา

    ที่มา:
    kryon-Q&A 2nd Quarter2005

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    คำถาม: ครายออนที่รัก ฉันพยายามที่จะพูดคุยกับเซลในร่างกายของฉันเอง
    แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกพวกมันว่าอย่างไรดี! ถ้าจะพูดว่า
    “จงขจัดสารพิษออกไป แล้วฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่” มันจะเป็นการเพียงพอไหม๊?

    หรือว่าพวกเราจะต้องพูดอะไรที่เฉพาะเจาะจงลงไปกว่านั้นอีก
    และอาจจะต้องพูดจาอย่างสุภาพด้วยหรือเปล่า
    เช่น “กระดูกอ่อนเอ๋ย ได้โปรดเจริญเติบโตขึ้นมาเถิด” อะไรแบบนั้น

    หรือว่าอาจจะถึงกับต้องพูดถึงกรดอะมิโน, วิตามิน และอื่นๆด้วยหรือเปล่า?
    หรือว่าเพียงแค่ความตั้งใจอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว
    หรือว่าคำพูดและสำนวนก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกันแน่?

    แล้วเราควรจะใช้เวลาพูดคุยกับพวกมันนานสักแค่ไหน สำหรับแต่ละจุดประสงค์
    ถึงจะเป็นการเพียงพอ? เพราะว่าฉันมีปัญหาเรื่องอาการคันที่เกิดจากภูมิแพ้
    ที่รุนแรงมาก ซึ่งเป็นมานานร่วม 10 ปีแล้ว ดังนั้น ฉันควรจะพูดกับผิวหนังของฉัน
    หรือว่าควรจะพูดกับระบบภูมิคุ้มกันของฉัน หรือว่าควรจะพูดกับอย่างอื่นกันแน่ ถึงจะดีที่สุด?



    คำตอบ: อันดับแรก..คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือว่า
    ส่วนต่างๆของ DNA ของคุณ
    ที่คุณกำลังพูดถึงอยู่นั้นหนะ มันเป็นของหลากมิติ?

    พวกเราได้สอนพวกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว
    และก็สอนมาโดยตลอดด้วย จนกระทั่งถึงบัดนี้ ว่า..

    ระบบประเภทนี้หนะ มันไม่ได้เป็นแบบเส้นตรง!
    มันไม่เข้าใจภาษาของคุณหรอก!
    และมันก็จะไม่แม้แต่จะเริ่มตอบสนอง
    ต่อกระบวนการที่เป็นตรรกะแบบนั้นของคุณด้วย

    ดังนั้น วิธีการพูดคุยกับเซลในร่างกายของคุณ
    จึงเป็น “กระบวนการทางพลังงาน” อย่างหนึ่งด้วย
    เพราะว่าพลังงานเท่านั้นที่มันต้องการ ไม่ใช่ด้วยวิธีการใช้คำพูด

    ดังนั้นการพูดซ้ำไปซ้ำมาจึงจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย
    มีแต่จะทำให้เมื่อยปากเปล่าๆเท่านั้นเอง

    คุณจะต้องใช้จินตนาการ หรือภาพนิมิตร ไม่ใช่ใช้คำพูด
    โดยการใช้เวลาเพื่ออธิบายให้เซลในร่างกายของคุณเข้าใจ
    ในสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยการใช้จินตนาการหรือภาพนิมิตร

    โดยการจินตนาการให้เห็นว่าตัวเองไม่มีอาการคันอีกต่อไปแล้ว
    โดยการจินตนาการให้เห็นว่าตัวเองมี DNA ของคนหนุ่มสาวแล้ว
    เพราะอย่าลืมว่า ร่างกายเนื้อของคุณ
    เคยผ่านการมี DNA ของคนหนุ่มสาวมาแล้ว
    และดังนั้น เซลในร่างกายของคุณ จึงยังมีความทรงจำ
    ของ DNA ของช่วงที่คุณเป็นหนุ่มสาวอยู่

    ดังนั้น ในทุกๆวัน จงเริ่มต้นด้วยการแบ่งเวลามาซักช่วงระยะเวลาหนึ่ง
    เพื่อติดต่อสื่อสารกับเซลในร่างกายของคุณเอง
    ซึ่งก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
    แล้วจากนั้นก็ให้สร้างภาพนิมิตรที่คมชัดของเป้าหมาย
    ที่คุณต้องการให้ร่างกายของคุณเป็นขึ้นมา

    เช่น ภาพนิมิตรของการมีผิวหนังที่อ่อนเยาว์,
    มีสุขภาพแบบของคนหนุ่มสาว
    และมีกิริยาท่าทางแบบของคนหนุ่มสาว เป็นต้น

    แล้วจากนั้น ร่างกายของคุณก็จะเริ่มเข้าใจความหมายของคุณ
    และก็จะเริ่มทำตามคำสั่งของ “เจ้านาย” ของมันต่อไป

    นี่แหละคือสิ่งที่คุรุทั้งหลายทำกันหละ และมันก็ได้ผลซะด้วย
    แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็จะต้องเรียนรู้ที่จะขจัดความอยาก
    ที่จะใช้คำพูดเพื่อติดต่อสื่อสารกับพวกมันออกไปเสีย
    เพราะว่ามันเป็นกระบวนทัศน์แบบสามมิติ
    และ “การพูดคุยกับเซลในร่างกายของคุณ”
    ก็จะต้องใช้พลังงานแห่งจินตนาการเท่านั้น

    …………………
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2014
  7. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    ขอบคุณ คุณชยุตอีกครั้งสำหรับงานแปลดีๆ

    อยากจะบอกว่า เมื่อมอง งานของคุณเหมือน มองลูกแอปเปิ้ล หล่นจากต้น ซึ่งถ้าคนทั่วๆ ไปมอง ก็ ไม่เห็นว่ามันจะมีสาระตรงใหน แต่
    ถ้าคนนั้น อยู่ในสภาวะแบบ ไอแซก นิวตัน มองลูกแอปเปิ้ล มันจะมีประโยชน์มากมายใน ความธรรมดา และ โดยมากแล้วความรู้วิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ก็ไม่ได้มาจากความเลอเลิศ ของเครื่องมือใดๆ แต่มาจาก ความคิดที่ไม่ธรรมดา พิจารณาสิ่ง ที่มันเหมือนไร้สาระ สำหรับคน ทั่วๆไป นี้แหละ
     
  8. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    ข้อความของคุณ Hilarion ในสัปดาห์นี้...รอคุณชยุตแปลนะ...
    เพราะดูสำนวนแล้ว...ต้องคุณชยุตเขาล่ะ...
    และถ้าต่อ ๆ ไปยังคงเป็นสำนวนนี้อีกละก็ คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันซะแล้ว...

    โดยส่วนตัวยังคงสนใจเรื่องความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างมิติ Quantum และ DNA อยู่...
    แต่ก็ยังไม่พบบทความที่กระชับพอที่จะแปลมาให้อ่านกันได้เลย...
    เพราะมีแต่บทความที่ยาวมาก ๆ ซะส่วนใหญ่...


    อจิตตะ...
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    The Hilarion Message - June 9-16- 2014

    http://www.therainbowscribe.com/hilarion2014.htm


    ที่รักทั้งหลาย

    การดาวน์โหลดด้านพลังงาน กำลังเป็นไปอย่างเข้มข้นและทรงพลังอำนาจอยู่
    ซึ่งมันก็จะนำพาบรรดาผู้ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับมันได้แล้ว
    ให้เข้าไปสู่ภาระกิจและโชคชะตาของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมอีก

    แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากมาย ที่กำลังพบว่ากระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกเขา
    เป็นกระบวนการที่ยากลำบากมาก ดังนั้น มันจึงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
    ที่จะใช้เวลาเพื่อพักผ่อนและเพื่อทะนุถนอมตัวเองซะบ้าง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว

    ดาวเคราะห์โลกกำลังมุ่งหน้าต่อไป เพื่อไปสู่ระดับที่มีความหนาแน่นทึบตันน้อยลงเรื่อยๆ
    ซึ่งนี่ก็จะทำให้สิ่งมีชีวิตทุกๆชีวิต ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งตามไปด้วย
    มันจะทำให้ความตึงเครียดภายในระบบร่างกายของมนุษย์มีน้อยลง
    และก็จะทำให้มีความรู้สึกเป็นสุข, มีความเบิกบาน, และมีความสงบมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
    และเมื่อพวกคุณสามารถประคับประคองแสงสว่างของตัวเองเอาไว้ให้ได้อย่างมั่นคงแบบนี้แล้ว
    ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังช่วยประคับประคองสนามพลังงานที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
    ให้สามารถรองรับแสงสว่าง ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาจากเบื้องบนอยู่ในขณะนี้ ให้ได้อยู่

    จงทำใจให้สบายๆ และจงรู้ว่า ไม่ว่าช่วงเวลานี้
    มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยกลำบากซักเพียงใดก็ตาม
    พวกคุณก็จะไปถึงเส้นชัยอย่างแน่นอน

    และยิ่งพวกคุณสามารถดูดซับและซึมซับเอาแสงสว่าง
    ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาอยู่นี้ได้มากเท่าไหร่
    พวกคุณก็จะยิ่งรู้สึกว่า กระบวนการนี้
    มันง่ายดายสำหรับพวกคุณมากเท่านั้นด้วย

    อาณาจักรแห่งคริสตัลไลน์ กำลังถูกตั้งโปรแกรมใหม่อยู่ เพื่อให้มันมีระดับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม
    ซึ่งมันก็จะไปส่งผลกระทบ ในลักษณะเร่งให้เร็วขึ้น ต่อโลกทั้งโลก
    และต่อสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ด้วย

    ดังนั้น การปรับจูนตัวเองให้เข้ากับโครงข่ายคริสตัลไลน์นี้ให้ได้ จึงมีความจำเป็นอย่างมาก
    เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถรับเอารหัสต่างๆที่มีอยู่ในนั้น มาใช้กระตุ้น DNA/RNA
    ของระบบร่างกายมนุษย์ของตัวเองได้

    ชีวิตของพวกคุณกำลังคลี่ขยายเข้าไปสู่ระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอยู่
    และมนุษยชาติก็กำลังได้รับการสนับสนุนจากจักรวาลในแบบที่มองไม่เห็นอยู่

    จงอธิษฐานจิตเป็นประจำทุกวัน เพื่อย้ำเตือนถึงเจตจำนงในอันที่จะคล้อยตาม
    และเชื่อมต่อกับแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเอง ซึ่งการกระทำเช่นนี้
    ก็จะช่วยให้กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของพวกคุณเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
    เพราะว่าตัวตนส่วนที่เรียกว่า I AM Present ของมนุษย์โลกทุกๆคน
    บนดาวเคราะห์โลกแห่งนี้นั้น กำลังพยายามนำเอาแสงสว่าง
    เข้าไปใส่ในจิตวิญญาณของมนุษย์โลกแต่ละคน ให้มากขึ้นกว่าเดิมอยู่

    ช่วงวันเวลานี้ เป็นช่วงวันเวลาแห่งการแน่วแน่ในวิสัยทัศน์
    ที่มุ่งมั่นจะยกระดับคลื่นความถี่ของสนามพลังงาน
    ให้ขึ้นไปอยู่ในระดับใหม่ ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอีก
    ซึ่งเจตจำนงและมโนภาพอันเข้มข้นและรุนแรงของพวกคุณนี้
    จะสามารถสร้างให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้

    จงเชื่อมั่นในพลังอำนาจของตัวเอง
    ว่าจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริงๆ
    ด้วยความรัก และโดยปราศจากการใช้ความรุนแรง
    และจงรักษามโนภาพนี้เอาไว้ให้ได้ในทุกๆวัน

    พวกคุณอาจจะกำลังรู้สึกถึงผลกระทบของระบบเก่าๆทั้งหลาย
    ที่กำลังถูก reset และกำลังถูกเริ่มต้นใหม่อยู่ ซึ่งหลายๆอย่างในนี้
    ก็กำลังจะนำพาความเจริญก้าวหน้ามาสู่ทุกผู้ทุกนามบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่

    ดังนั้น ความอดทนของพวกคุณ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
    เพราะว่าพวกคุณจะต้องได้พบกับการต่อต้านของบรรดานักคิดและนักปฏิบัติทั้งหลาย
    ที่ยังติดอยู่ในกระบวนทัศน์เก่าๆอยู่ เป็นระลอกๆ

    ดังนั้น ถ้าพวกคุณมั่นคงอยู่ในแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าให้ได้ตลอดเวลา
    มันก็จะทำให้พวกคุณรู้สึกว่าปัญหานี้มันง่ายดายกว่าที่เคยเป็นมา

    พลังงานของเทพธิดากำลังเพิ่มพลังอำนาจ และความเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆอยู่
    ซึ่งความสมดุลระหว่างพลังงานแห่งบุรุษเพศ และพลังงานแห่งสตรีเพศ
    ที่อยู่ภายในตัวของชาวโลกแต่ละคน คือสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก
    ที่จะทำให้กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ เพื่อไปสู่แสงสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าของชาวโลกแต่ละคน
    สามารถเป็นไปอย่างราบรื่นได้

    จงเชื่อมั่นและศรัทธาในกระบวนการที่พวกคุณกำลังก้าวผ่านเข้าไปอยู่นี้
    และจงเชื่อมั่นเถิดว่า พวกคุณกำลังได้รับความช่วยเหลืออยู่
    ในทุกๆประสบการณ์ที่พวกคุณกำลังประสบอยู่นี้
    ซึ่งความช่วยเหลือดังกล่าวนี้ ก็อาจจะมาในรูปแบบของความบังเอิญที่เหลือเชื่อ
    และการยืนยันรับรองต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการฯของพวกคุณแต่ละคนก็ได้

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงใส่ใจรับฟังเสียงกระซิบจากทวยเทพทั้งหลายให้ดี
    และจงเฝ้ามองหาสัญลักษณ์ต่างๆที่ถูกส่งมาจากดินแดนที่มองไม่เห็นเหล่านี้ให้ดี
    เพราะว่าในตอนนี้ พวกมันจะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายดายกว่าเมื่อก่อนแล้ว

    จงติดต่อสัมพันธ์ด้วยความเบิกบาน กับรูปธรรมชีวิตทั้งหลายที่อยู่รอบๆตัวของพวกคุณเหล่านี้
    จงเฝ้าสังเกตดูว่าชีวิตของพวกคุณกำลังจะเปิดออกไปสู่ทัศนมิติ (perspective) ใหม่ๆอย่างไรบ้าง
    และกำลังจะเชื่อมต่อกับ the All That Is ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างไรบ้าง

    จงมองหาความน่าพิศวงและความมหัศจรรย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติทั้งหลาย
    และจงรู้ไว้เถิดว่าพวกคุณทุกๆคนล้วนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ซึ่งจะขาดเสียมิได้
    ของทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังคลี่ขยายออกมาอยู่ในขณะนี้

    จงสร้างปาฏิหาริย์ของพวกคุณขึ้นมาเถิด ที่รักทั้งหลาย
    และจงเผื่อแผ่ความรัก และความปราถนาดี ไปให้กับทุกๆคน
    และไปให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางชีวิตของพวกคุณเถิด
    เพราะว่าท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนว่า เป็นความยุ่งเหยิง
    อันเนื่องมาจากการล่มสลายของกระบวนทัศน์เก่าๆทั้งหลาย
    ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั้น มันก็ยังมีสิ่งอื่นๆอีกมากมาย
    ที่น่าชื่มชมยินดีอยู่ด้วย

    ดังนั้น จงจดจ่ออยู่กับสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีเหล่านี้แทน
    เพราะว่ามันคือความรู้สึกขอบคุณ (gratitude)
    ซึ่งมันจะไปนำพาเอาสิ่งที่พวกคุณกำลังชื่นชมยินดีอยู่นั้น
    ให้เข้ามาสู่ชีวิตของพวกคุณมากขึ้นไปอีก

    พวกคุณสามารถทำได้ และพวกคุณก็กำลังทำกันอยู่แล้ว
    ..เอาเลยสิ!

    (ปล.ความรู้สึกขอบคุณ หรือ ความรู้สึกซาบซึ้งใจนี่ รูปธรรมชีวิตจากต่างมิติทั้งหลาย
    พูดเอาไว้ตรงกันเลยนะครับ ว่ามันคือแม่เหล็กที่จะไปดึงดูดเอาสิ่งที่เรากำลังชื่นชมยินดีอยู่นั้น
    ให้เข้ามาหาเรามากขึ้นไปอีก มันเป็นกฎอย่างหนึ่งของจักรวาล
    และมันก็เป็นวิธีการหนึ่งของเราที่จะใช้สื่อสารกับจักรวาลว่าเราต้องการอะไร – ผู้แปล)


    Until next week…

    I AM Hilarion

    ……………..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2014
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีข้อความใหม่จากครายออนมาอีกแล้วครับ
    กำลังตั้งท่าว่าจะแปลและโพสต์ให้อ่านอยู่ครับ
    เพราะว่าเป็นข้อความที่สำคัญมาก
    และเป็นข้อมูลรากฐานอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

    Auckland, New Zealand - March 22, 2014
    .................................
     
  11. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +433

    ข้อความตอนนี้ผมว่าพ้องกันกับ

    ขยายความธรรมชาติของชาติภพ ของ อ.โนวา อนาลัย มาก

    รู้สึกแล้วละว่าข้อความต่างมิติจากแหล่งต่าง ๆ เข้ากันได้ เหมือนกัน ปะติดปะต่อ กันได้ดีจริง ๆ เหมาะสำหรับผู้กระหายอยากรู้ความจริงดีนักแล


    catt8
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารจากท่าน Hilarion
    ประจำวันที่ 15 – 22 มิถุนายน 2014


    ที่มา:
    HILARION 2014 - The Rainbow Scribe

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ที่รักทั้งหลาย

    ตอนนี้ชาวโลกจำนวนมากมายกำลังรู้สึกว่า ในบางช่วงเวลา
    พวกเขาก็จะรู้สึกเบิกบานกระปรี้กระเปร่า และมีแรงบันดาลใจอย่างมาก
    แต่ในบางช่วงเวลา พวกเขากลับรู้สึกหมดแรง, เหน็ดเหนื่อย, ง่วงนอน,
    หงุดหงิด หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างมากแทน

    ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ แม้ว่าพวกคุณจะมีความตั้งใจอย่างเต็มที่
    ที่จะคงอยู่ในความสมดุล และคงอยู่ในสภาวะที่จิตใจสงบให้ได้มากที่สุดแล้วก็ตาม

    ดังนั้น ในช่วงเวลาที่เกิดอาการเหล่านี้ขึ้น มันจึงจะเป็นการดีที่สุด
    ที่จะให้อภัยตัวเองเสียในทันที แล้วนำเอาอารมณ์ความรู้สึกและความคิดอื่นๆ
    ที่จะทำให้พวกคุณรู้สึกเบิกบาน และมีกำลังใจขึ้นมาได้
    มาแทนที่อารมณ์ความรู้สึกและความคิดที่ทำให้พวกคุณไร้พลังอำนาจเหล่านี้เสีย

    และจงย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า พวกคุณกำลังอยู่ในระหว่าง
    กระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่
    ซึ่งเป็นกระบวนการที่มวลหมู่มนุษยชาติ, ดาวเคราะห์โลก
    และสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิดที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ไม่เคยประสบมาก่อนเลย
    และมันก็เป็นกระบวนการที่พวกคุณทุกๆคนได้เลือกมาแล้ว
    ว่าจะมาเป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย

    นี่คือช่วงเวลาที่พวกคุณจะต้องนำเอาความสามารถในการปรับตัว
    และความยืดหยุ่นของตัวเองออกมาใช้แล้วหละ
    แต่สิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดก็คือ จงสุภาพอ่อนโยนกับตัวเองให้มากกว่านี้
    และจงคอยเฝ้าดูความคิดของตัวเองให้ดี ถ้ามันมีความคิดไหน
    ที่คอยแต่จะตัดสินชี้ถูกผิดให้กับตัวเองอย่างร้ายกาจอยู่หละก็
    ก็จงเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงมันเสีย

    โดยปกติแล้ว พวกคุณทุกๆคน มักจะใจดีกับผู้อื่นมากกว่าที่จะใจดีกับตัวเอง
    ดังนั้น จงเริ่มหันมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเองได้แล้ว
    เป็นเพื่อนผู้คอยสนับสนุนและเกื้อกูลตัวพวกคุณเองอยู่เสมอ
    และก็เป็นเพื่อนที่จะรักตัวพวกคุณเองอย่างไม่มีเงื่อนไขเสมอด้วย

    ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่พวกคุณมักจะมอบให้กับคนอื่นๆไป
    แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่ยอมมอบให้กับตัวเองบ้างหละ?

    การที่ใครซักคนจะมีความเคารพในตัวเองและให้เกีรยติตัวเองนั้น
    มันไม่ใช่การเห็นแก่ตัวแต่อย่างใดเลย
    เพราะว่าถ้าปราศจากความรักและการยอมรับตัวเองอย่างสมบูรณ์แล้ว
    พวกคุณก็ไม่อาจที่จะไปรักคนอื่นๆได้อย่างจริงใจ

    เพราะว่าในเวลาที่พวกคุณกำลังมีความสุขและกำลังมีความรู้สึกดีๆ
    กับสิ่งดีๆทั้งหลายมีกำลังส่องแสงสว่างออกมาจากตัวเองอยู่นั้น
    มันก็จะเป็นการง่ายกว่าที่พวกคุณจะสามารถมองเห็นสิ่งดีๆเหล่านั้นได้ในตัวผู้อื่นด้วย

    ช่วงเวลาใดก็ตาม ที่เหตุการณ์และความเป็นไปต่างๆในชีวิตของพวกคุณ
    ดูเหมือนว่าจะหนักหนาสาหัส และอยากเกินกว่าที่จะรับมือไหว
    ด้วยวิธีการที่ถูกต้องดีงามแล้ว นั่นแหละคือช่วงเวลา
    ที่พวกคุณควรจะต้องหยุดซะก่อน แล้วพักสักครู่หนึ่ง
    เพื่อไปทำอะไรอย่างอื่นที่จะนำพารอยยิ้มมาสู่ใบหน้า
    และนำพาเสียงหัวเราะมาสู่จิตวิญญาณของพวกคุณเองได้

    จงอย่าไปจริงจังกับตัวเองหรือจริงจังกับสถานการณ์ต่างๆให้มากจนเกินไปนัก
    เพราะว่าถ้าพวกคุณหยุดคิดสักครู่ พวกคุณเองก็จะรู้ว่า พวกคุณคือคนๆหนึ่ง
    ที่กำลังพยายามทำให้ดีที่สุดเสมออยู่แล้ว ในทุกๆสถานการณ์

    จงหลีกเลี่ยงการตำหนิหรือกล่าวโทษตัวเอง
    เพราะว่านิสัยเหล่านี้ จะไปฉุดรั้งพวกคุณเอาไว้
    ให้อยู่แต่ในเส้นทางที่ไร้พลังอำนาจเท่านั้น
    ซึ่งเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่จะมีแต่พวกคุณเองเท่านั้น
    ที่จะสามารถทำเพื่อตัวพวกคุณเองได้
    และมันก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
    ที่จะต้องระลึกเอาไว้ในใจเสมอด้วย

    และการใช้เวลาเพื่อเชื่อมต่อกับตัวตนแก่นแท้ของตัวพวกคุณเอง
    ให้ได้อย่างมีคุณภาพอยู่บ่อยๆ ก็จะสามารถช่วยชาร์จพลังงาน
    และช่วยทำให้สนามพลังออร่าของพวกคุณทั้งระบบ
    มีพลังงานกลับคืนมาเหมือนเดิมได้
    ด้วยวิธีการที่เป็นบวกและเป็นประโยชน์ต่อตัวพวกคุณเอง

    มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องปลูกฝังนิสัยใหม่ๆและวิถีทางใหม่ๆ
    ในอันที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นให้เกิดขึ้น
    โดยการหันมาจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งดีงามทั้งหลาย
    ที่มีอยู่แล้วภายในตัวของพวกคุณเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละคือแก่นแท้
    และก็คือตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองหละ!

    จงให้โอกาสตัวเอง เพื่อส่องแสงสว่างอันสวยสดงดงามของตัวเองออกมา
    สู่สถานการณ์ต่างๆที่เคยฉกฉวยพลังอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเองไป
    โดยการที่มีนิสัยชอบด่าว่าตัวเอง ที่ได้ทำในสิ่งที่พวกคุณเข้าใจกันไปว่า
    มันคือสิ่งที่ผิดไป ซึ่งโดยความน่าจะเป็นจริงๆแล้ว สิ่งเหล่านั้น
    มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกคุณคิดเอาไว้เสมอไปก็ได้

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงรักตัวเอง..ทั้งตัวตนที่เป็นมนุษย์นี้ของตัวเอง
    และตัวตนที่เป็นพระเจ้าของตัวเองด้วย
    เพราะว่าพวกคุณคือส่วนผสมอันยอดเยี่ยมของทั้งสองสิ่งนี้

    และที่พวกคุณลงมาเกิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    ก็เพราะด้วยเหตุผลนี้นั่นเอง

    และเมื่อใดที่พวกคุณสามารถทำเช่นนี้ได้แล้ว
    มันก็จะกลายไปเป็นแรงพลังที่จะเกื้อหนุนให้คนอื่นๆ
    สามารถที่จะยอมรับและผสานรวมเอาทุกๆแง่มุม
    ของความเป็นตัวตนของพวกเขาเอง เข้ามาได้ด้วยเช่นเดียวกัน

    แต่ถ้าเมื่อใดที่พวกคุณรู้สึกสะดุดและรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้แล้วหละก็
    ก็จงเริ่มมองหาโปรเจ็กท์ใหม่ๆทำเสีย เช่น ไปเรียนอะไรบางอย่าง
    ที่พวกคุณเคยคิดว่าอยากจะเรียนมานานแล้ว เป็นต้น

    หรือแม้แต่ด้วยวิธีการจัดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในห้องต่างๆในบ้านซะใหม่ก็ยังได้เลย
    เพราะว่าบางครั้ง ด้วยวิธีการทำเช่นนี้ มันก็จะไปทำให้พวกคุณ
    รู้สึกถึงพลังงานใหม่ๆอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
    และพวกคุณก็อาจจะได้พบว่าแรงพลังในการสร้างสรรค์ของตัวเอง
    กำลังหลั่งไหลไปตามแรงบันดาลใจและการเนรมิตอยู่ก็เป็นได้

    จงมีศรัทธาและมีความเชื่อมั่นต่อวิญญาณเบื้องบน
    และจงทำตามการชี้นำทางและการกระตุ้นของพวกเขา ที่พวกคุณได้รับมา
    เพราะว่าพวกคุณกำลังได้รับการชี้นำทางอยู่
    เพื่อให้พวกคุณสามารถไปถึงจุดๆที่พวกคุณได้เลือกเอาไว้แล้ว
    บนเส้นทางชีวิตของตัวเองได้อย่างพอเหมาะพอดี

    จงมีศรัทธาต่อความสามารถของตนเอง และจงมีศรัทธาต่อทางเลือกต่างๆ
    ที่พวกคุณกำลังเลือกอยู่ โดยใช้หัวใจเป็นผู้นำทาง
    และจงมีศรัทธาในตัวเองด้วย เพราะว่าพลังงานใดก็ตาม
    ที่พวกคุณกำลังใช้อยู่เพื่อการนี้ ล้วนเป็นพลังงานที่จะถูกใช้ไป
    เพื่อทำให้เป็นผลสำเร็จทั้งสิ้น เพราะว่าพวกคุณคู่ควรกับมัน!

    พวกเราอยากจะขอย้ำเตือนพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า
    พวกเราทั้งหลายที่อยู่ในโลกอันสว่างไสวเรืองรองนี้
    กำลังอยู่กับพวกคุณตลอดเวลา และก็จะอยู่ข้างๆพวกคุณเสมอด้วย
    เพราะว่าพวกคุณคือผู้ที่พวกเรารักและห่วงใย

    และก็..ความรักและความห่วงใยของพวกคุณ
    ก็คือสิ่งที่โลกนี้กำลังต้องการอย่างมากอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
    เพราะว่าความรักของพวกคุณ จะมีพลังอำนาจในการเยียวยารักษาอยู่ในนั้นด้วย
    ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีพลังอำนาจในการเยียวยารักษาตัวพวกคุณเองเท่านั้นนะ
    แต่มันยังจะมีพลังอำนาจในการเยียวยารักษาคนอื่นๆอีกจำนวนมากมาย
    ที่อยู่ภายในรัศมีแห่งการส่งผลกระทบของพวกคุณด้วย

    จงยอมรับเป็นเจ้าของพลังอำนาจของตัวเองเสีย แล้วจงยืนหยัดขึ้น
    และจงยอมรับเป็นเจ้าของชีวิตที่สวยสดงดงามและยิ่งใหญ่ที่พวกคุณมาที่นี่
    เพื่อที่จะมามีมันเสีย

    พวกคุณแต่ละคนคือจิตวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจ
    และอลังการ และเหลือเชื่อดวงหนึ่ง
    มันถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องยินยอมให้ความเป็นจริงในข้อนั้น
    เข้ามาสู่ขอบเขตแห่งการส่งผลกระทบของพวกคุณเองเสียที


    Until next week…

    I AM Hilarion

    ………………….
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    นี่เลยครับ..เมื่อเร็วๆนี้ ผมก็มีความรู้สึกอยากจะทำ
    ในสิ่งที่อยากทำมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำ ขึ้นมาเหมือนกัน

    อาทิตย์ที่แล้ว ก็เลยแวะไปดูเด็กฝึกเต้นฮิปฮอปกัน 555
    แล้วก็เลยไปถามเขาว่า คิดตังค์เท่าไหร่ ถ้าจะขอมาเรียนเต้นด้วย

    ไอ้น้องที่มันเป็นหัวหน้ากลุ่มเต้นฮิปฮอปอยู่ ซึ่งมันก็รู้จักผมด้วย
    เพราะว่าเมืองนี้เล็กนิดเดียว มันก็มองหน้าผมตั้งแต่หัวจดเท้า
    แล้วมันก็บอกว่า เอ่อ..พี่อายุเยอะแล้ว ผมกลัวว่าพี่จะไม่ไหวหนะครับ

    เราก็คิดในใจว่า ป๊าดโท๊ะ !! น้องไม่รู้จักพี่ซะแล้ว!!

    แต่สรุปว่าสุดท้าย เพราะความที่เห็นหน้าน้องเขาคงลำบากใจน่าดู
    ก็เลย ยังไม่ได้ไปเรียนจนถึงเดี๋ยวนี้เลยครับ
    แต่จะแอบเรียนเองที่บ้าน จากคลิ๊ปวีดีโอในอินเตอร์เน็ตหนะครับ
    555

    แล้วรายการต่อไปที่อยากจะทำอีกก็คือ
    ไปฝึกร้องเพลงแบบให้เป็นกิจจะลักษณะซะที
    เพราะปกติก็ร้องเพราะอยู่แล้ว แค่ยังไม่เก่งเท่านั้นเอง
    คราวนี้หละ..จะไปเรียนร้องเพลงจริงๆแล้วหละ 555

    ชีวิตสนุกดีครับ ในช่วงที่ไม่คิดอะไรมาก
    บางทีผมก็เล่นสนุกกับชีวิต ยังกะเล่นเกมก็ไม่ปาน

    (deejai)(deejai)(deejai)
    ...........................................
     
  14. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ข้อความของท่าน Hilarion นี่นะ ตรงแปะทุกทีเลย อิอิอิ
     
  15. talkjoss

    talkjoss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +2,252
    [​IMG]

    Have a good day, Thank you... :cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ครายออนตอบคำถาม – เรื่องการสวดมนต์

    ที่มา:
    kryon-Q&A 3rd Quarter2005


    คำถาม: ครายออนที่รัก ในเวลาที่ฉันสวดมนต์ ฉันรู้ว่ามันสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของฉันได้
    แต่ว่า..มันจะสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของม้า, สุนัข และ แมวของฉันด้วยได้หรือเปล่า?
    ฉันเปิดบทสวดมนต์ต่างๆ ในฟาร์มเลี้ยงม้าของพวกเรา เป็นประจำทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงเลย
    (บทสวดมนต์ที่ว่านี่ก็เช่น Lumen De Lumine, Om Mane Padme Hung
    และ Om Nama Shivaya เป็นต้น) และฉันก็ยังสงสัยอีกว่า บทสวดมนต์พวกนี้
    มันจะสามารถช่วยยกระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ให้สูงขึ้นได้ด้วยหรือเปล่า?
    แน่นอนว่าฉันหวังอยากจะให้เป็นอย่างนั้น เพราะว่ามันเป็นความตั้งใจลึกๆของฉันเองด้วย
    แม้ว่าเหตุผลหลักจริงๆที่ฉันเปิดบทสวดมนต์พวกนี้ก็คือ เพราะว่ามันทำให้ฉันรู้สึกดีก็ตาม

    https://www.youtube.com/watch?v=77UCWq5DpC4


    คำตอบ:

    คลื่นความสั่นสะเทือนของโทนเสียง และ ของเสียงทุกๆชนิด ล้วนมีพลังงานอยู่ในตัวทั้งสิ้น
    และเมื่อใดที่คุณใช้มันร่วมกับ “เจตจำนง” (intent) จาก “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมนุษย์” แล้ว
    (Human Consciousness) มันก็จะมีพลังอำนาจอย่างมาก

    แต่จงอย่าไปเสียเวลากับรายละเอียดของความถูกต้องของตัวโน้ต
    หรือของบทสวดมนต์ที่คุณจะใช้ให้มากจนเกินไปนัก เพราะว่ารายละเอียดเหล่านี้
    ก็เป็นแค่สิ่งที่จะช่วยทำให้พวกคุณรู้สึกอภิรมย์เท่านั้นเอง
    ที่ได้ทำให้ระบบมันสมบูรณ์แบบขึ้นมา เพราะว่ามนุษย์ชอบระบบ
    และมนุษย์ก็ตอบสนองต่อพวกมันได้ดีซะด้วย
    แต่ว่าการทำตามระบบก็ไม่ใช่สิ่งที่มีความจำเป็นแต่อย่างใดเลย
    ในสายตาของวิญญาณเบื้องบน

    มันเป็นความจริงที่ว่า เกือบจะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
    ซึ่งรวมถึงร่างกายเนื้อของพวกคุณเองด้วย จะมีลักษณะโทนเสียงเฉพาะตัวเป็นของตัวมันเองอยู่
    แต่อย่างไรก็ตาม ทุกสรรพชีวิตที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณก็จะตอบสนองต่อพวกคุณอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
    แม้ว่าพวกคุณจะไม่ได้พูด หรือร้องขับขานตามคลื่นความถี่ที่เฉพาะเจาะจงของมันออกมาเลยก็ตาม
    ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า “เจตจำนง” ของพวกคุณ ที่แฝงอยู่ในการกระทำต่างๆของพวกคุณนั้น
    จะถูกมองเห็นได้ ในฐานะที่เป็น “พาหะ” ชนิดหนึ่ง ที่จะนำพาโทนเสียงทุกๆชนิดไปด้วย

    ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเล่นตัวโน้ตผิดไป ไม่ว่าจะด้วยความไม่รู้
    หรือเป็นเพราะว่าพวกคุณไร้สามารถด้านการเปล่งเสียงก็ตาม
    แต่ในระดับหลากมิติแล้ว เจตจำนงของคุณก็จะยังคงนำพาตัวโน้ตที่ถูกต้องไปด้วยอยู่ดี

    เรื่องนี้เป็นความจริงสำหรับบทสวดมนต์ต่างๆที่คุณกล่าวมานั้นด้วย
    เพราะว่าพวกมันจะสามารถมีพลังอำนาจขึ้นมาได้
    ก็ต่อเมื่อคุณได้ใส่ “เจตจำนง” ลงไปให้กับมันด้วยเท่านั้น
    และมันจะสามารถมีพลังอำนาจขึ้นมาได้ ก็เพราะว่า
    คุณรู้สึกว่าถ้อยคำเหล่านั้นมีความหมายต่อคุณเท่านั้นเอง

    สัตว์ต่างๆก็เหมือนกัน ก็จะตอบสนองต่อพลังงานชนิดเดียวกันนี้ด้วย
    พวกมันจะรู้สึกถึง “เจตจำนง” ที่อยู่ในนั้น
    และพวกมันก็จะชื่นชอบเสียงที่คุณสวดออกมานั้นด้วย
    แต่ว่าพวกมันก็จะไม่สนใจหรอกว่าคุณจะสวดเป็นภาษาอะไร
    หรือว่าจะสวดมนต์บทไหน

    พวกคุณเห็นหรือยังว่า จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมนุษย์
    มีอิทธิพลต่อธรรมชาติและทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวพวกคุณมากแค่ไหน?


    ……………………
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    บางส่วนของข้อความสื่อสารจากครายออน เรื่อง: The 7 Cosmic Laws
    ที่มา: KRYON - 7 Cosmic Laws



    หมายเลข 7 หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    มันคือหมายเลขที่เป็นตัวแทนของความศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
    ฉันจะบอกข้อมูลพวกคุณเดี๋ยวนี้หละว่า: กฎข้อที่ 7 ของเอกภพกล่าวไว้ว่า

    “พวกคุณทุกๆคน ล้วนสามารถส่งผลกระทบ
    ต่อเครือข่ายของโลกแห่งความเป็นจริง
    ที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ได้ด้วยกันหมดทั้งสิ้น
    เมื่อพวกคุณส่งแสงสว่างออกไป”

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    พวกคุณอาจจะนึกสงสัยอยู่ในใจว่า การที่พวกคุณนั่งอยู่ตามลำพัง
    หรือนั่งอยู่ 2-3 คนก็ตาม แล้วตั้งเจตจำนงส่งแสงสว่างออกไป
    ยังสถานที่ต่างๆบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ที่กำลังต้องการมันอยู่นั้น
    โดยใช้จินตนาการของตัวเอง และโดยปราศจากการไปยังสถานที่นั้นๆจริงๆ
    ในแบบ 3 มิติใดๆทั้งสิ้นนั้น เมื่อพวกคุณทำกระบวนการทางจิตวิญญาณ
    อันลึกซึ้งอันนี้แล้ว มันช่วยอะไรได้จริงๆหรือเปล่า?
    มันจะช่วยได้จริงๆเหรอ?

    เมื่อใดที่พวกคุณส่งแสงสว่างออกไปให้กับชาวซูดาน
    เพื่อปลอบประโลมพวกเขาจากความโศกเศร้าอันเหลือล้นของพวกเขา
    หรือเมื่อใดที่พวกคุณส่งแสงสว่างออกไป
    ให้แก่ครอบครัวชาวอิรักที่กำลังระทมทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นอยู่
    หรือเมื่อใดที่พวกคุณส่งแสงสว่างออกไป
    ให้กับผู้ที่กำลังสู้รบอยู่ในแนวหน้าของสมรภูมิต่างๆบนโลกใบนี้
    และก็กำลังหวาดกลัวอยู่นั้น มันช่วยอะไรได้จริงๆเหรอ?

    แม้ว่าบางที พวกคุณก็อาจจะส่งแสงสว่างออกไปแบบนี้
    เป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม แต่ว่าด้วยความเป็นมนุษย์
    และด้วยความเป็นทวิภาวะนี้ของพวกคุณ จึงทำให้พวกคุณยังคงสงสัยอยู่ว่า

    “เอ่อ..มันจะช่วยอะไรได้จริงๆหนะเหรอ? แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันช่วยได้จริงๆ?
    เพราะว่ามันดูเหมือนว่าจะเป็นการกระทำที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย”

    มันคือกฎข้อที่ 7 ของเอกภพ ที่ครายออนบอกพวกคุณว่า

    “ทุกๆครั้งที่พวกคุณนั่งลง แล้วส่งแสงสว่างออกไปนั้น
    มันสามารถที่จะเคลื่อนภูเขาทั้งลูกได้เลยทีเดียว..
    เคลื่อนภูเขาทั้งลูกเลยนะ!
    และมันก็สามารถทำให้อนาคตของโลกเปลี่ยนไปได้ด้วย!”...

    ...โอ..พวกคุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมพวกคุณถึงได้มาอยู่ที่นี่กัน?
    พวกคุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า พวกคุณมาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะมาทำอะไรกัน?

    คืนนี้พวกคุณสามารถที่จะสละเวลาซัก 30 วินาทีให้กับประเทศซูดานได้ไหม๊?
    Light worker ทั้งหลาย ก่อนนอนคืนนี้พวกคุณสามารถที่จะทำสิ่งนี้ได้ไหม๊?

    พวกคุณมีพลังอำนาจอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว พวกคุณก็รู้ใช่ไหม๊?
    พวกคุณมีพลังงานอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ซะด้วย
    และถึงแม้ว่าพวกคุณจะไม่สามารถพิสูจน์อะไรมันได้ในแบบ 3 มิติก็ตาม
    แต่พวกคุณก็จะยังคงส่งพลังงานเอกภพอันนั้น
    ที่ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาดแล้วนั้น ไปให้กับชาวซูดานอยู่ต่อไปได้ไหม๊?
    แล้วก็จะยังมีความเชื่อมั่นอยู่ว่า สิ่งที่พวกคุณได้ทำไปแล้วนั้น
    จะไปทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างแน่นอน..ได้ไหม๊?

    ซึ่งถ้าพวกคุณสามารถทำเช่นนี้ได้หละก็ พวกคุณก็คือ Light workers
    ที่กำลังทำให้ระดับการสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกเปลี่ยนแปลงไปอยู่

    มันจำเป็นจะต้องมีผู้ที่มีส่วนร่วมในการนี้เพี่ยงไม่ถึง 0.5%
    ของประชากรโลกเท่านั้นเอง (ราวๆ 35 ล้านคน – ผู้แปล)
    ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ได้จริงๆหละก็ พวกคุณก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง
    ที่จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นกันหละ และพวกคุณก็จะได้เห็นว่า
    มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างถึงรากถึงโคนกันเลยทีเดียวหละ

    เช่น ตำแหน่งผู้นำทั้งหลายก็จะเปลี่ยนไป แนวความคิดที่สดใหม่ทั้งหลาย
    ก็จะผุดขึ้นมาภายในรัฐบาลต่างๆ ซึ่งมันจะเป็นแนวความคิด
    ที่ไม่เคยมีใครนึกถึงมันมาก่อนหน้านั้นเลย

    แล้วพวกคุณอาจจะพูดว่า “แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่คิดได้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นหละ?”
    แล้วฉันก็จะตอบพวกคุณว่า ที่รักทั้งหลาย ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่า
    “แสงสว่าง” ของพวกคุณนั่นแหละ ที่ทำให้พวกเขา
    สามารถมองเห็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่แต่ในความมืดได้

    จงคอยจับตาดูให้ดี เพราะว่าภูมิปัญญาของเอกภพ
    กำลังถูกแสงสว่างของพวกคุณนำพามาอยู่
    ซึ่งมันก็จะไปส่องสว่างให้กับความไม่รู้
    แล้วก็จะไปเปลี่ยนความไม่รู้นี้ให้กลายไปเป็นทางเลือกที่ฉลาดแทน

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงเฉลิมฉลองให้กับมัน และจงรับรู้ไว้ว่า
    เป็นเพราะว่าพลังงานของพวกคุณเองนั่นแหละ ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้...

    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    "มนุษย์อาจไม่เท่าเทียมกันที่กายเนื้อ แต่เท่าเทียมกันที่จิตวิญญาณ "

    อจิตตะ...
     
  19. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ทุกๆวันของการใช้ชีวิต ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่เจอเลข7 77 777
    ปล.ทุกๆวัน ไม่เคยมีวันไหนจริงๆนะครับบ:p
     
  20. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    [​IMG]

    ~*~ Angelic Guides ~ "Spread your wings and fly" ~*~

    11 June 2014
    Channeler: Taryn Crimi

    Angelic Guides | Channeled insights from the Angelic Realm


    วันนี้เราจะมุ่งความสนใจไปกับเรื่องของพลังงานที่เป็นอยู่ณ.ขณะนี้
    ซึ่งมีพวกคุณมากมายที่กำลังถูกกระตุ้น
    ให้ต้องคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการสร้างสรรค์ ณ จุดนี้
    และอยากได้ความชัดเจนไปเลยว่า...
    สิ่งไหนที่ต้องการและไม่ต้องการที่จะสร้างสรรค์
    ซึ่งการทำเช่นนี้ จะทำให้คุณมีความรู้สึกสุขใจ
    และมีความเชื่อมั่นในความสามารถของการสร้างฝันให้เป็นจริงได้...
    ด้วยความกล้าหาญในการประจันหน้ากับ “ความกลัว”
    ที่มันได้รบกวนใจคุณมานานนับปี และคอยตอกย้ำว่า "คุณทำไม่ได้"...

    แล้วทำไมจึงได้มีคำถามจากคุณว่า “ฉันทำอะไรผิดหรือ?
    ซึ่งเราก็คงตอบคุณได้ว่า...คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ
    "มันก็เป็นแค่ความทรงจำธรรมดา ๆ ของวิธีการหลบหนีเท่านั้น..."
    คุณเห็นไม๊...ว่าเมื่อคุณกำลังผสมผสานเข้ากับความเชื่อใหม่
    ด้วยการพูดว่า “คุณเป็นผู้มีความสามารถในการสร้างสรรค์
    และทำความปรารถนานั้นให้ปรากฏได้ “
    ซึ่งก็เท่ากับคุณกำลังพยายามที่จะปลดปล่อย “ความกลัว” ทั้งหลาย
    กับคำว่า “คุณทำไม่ได้” ออกไปและในขณะที่คุณกำลังอยู่ ณ. จุดนั้น
    ความรู้สึก”ไม่ปลอดภัย”ที่เกาะอยู่
    มันก็พร้อมที่จะขึ้นเที่ยวบินไปกับ”ความกลัว”ของคุณด้วยอย่างแน่นอน...

    ตอนนี้เป็นเวลาของการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่ได้มาถึงคุณ
    ในการสร้างสรรค์ชีวิตของคุณให้เป็นไปตามที่คุณได้ฝันอยู่บ่อยๆ
    และคอยดูนะ...มันจะมีทั้งสิ่งที่คุณคิดและคุณต้องการสร้างสรรค์
    และก็อาจมีสิ่งที่คุณไม่ต้องการจะสร้างสรรค์อยู่ด้วยนะ...

    และนี่คือเรื่องที่เราต้องการจะอธิบายต่อไปให้ละเอียดยิ่งขึ้น
    เพื่อที่จะช่วยเหลือในการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่นี้ของพวกคุณ
    และทำให้ความสงสัยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกคุณหายไปซะที...
    ...สิ่งแรกที่สำคัญที่สุด
    ก็คงต้องเริ่มต้นด้วยการบอกคุณว่า “คุณไม่เคยทำผิด”
    ทุกๆทางเลือกที่คุณทำลงไปนั้น ล้วนแต่ทำให้คุณได้เรียนรู้กับประสบการณ์นั้น ๆ
    และจะเป็นตัวช่วยให้คุณได้ตรวจสอบกับบางสิ่งที่คุณต้องการสร้างสรรค์ต่อไปอีก
    หรือเกิดความลังเลในการที่จะตัดสินใจใหม่...
    ...มีหลายคนกลัวการตัดสินใจผิด จึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะไม่ตัดสินใจ
    โดยไม่รู้ว่า...การลังเลนั้นก็ยังคงเป็นการตัดสินใจ
    เพราะนั่นก็คือ “ได้ตัดสินใจที่จะไม่เลือกมัน”...

    เรามักจะพูดเสมอว่า คุณจะไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้
    หากคุณไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน...
    ...คุณกำลังถูกกระตุ้นให้มีการปรับตัวใหม่ ทดสอบใหม่
    และโฟกัสกับความคิดและความต้องการของคุณใหม่
    แล้วอะไรที่คุณตัดสินใจและกระทำลงไป
    มันจะดึงดูดประสบการณ์ของความสุขสนุกสนานที่สุดมาสู่ชีวิตคุณ...
    และวันเวลาต่อจากนี้ไป ชีวิตจะเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมาย
    ซึ่ง ณ.ขณะนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณกำลังทำตามบทบาทของการเปลี่ยนแปลง
    ด้วยการเผชิญหน้าโดยปราศจากความสงสัยแต่อย่างใด...

    บางคนกำลังใคร่ครวญที่จะเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนงาน
    เปลี่ยนวิถีทางการดำเนินชีวิต หรือ ปรับสัมพันธภาพให้เหลือแค่ไม่กี่คน...
    แล้วอะไรก็ตามจากที่ผ่าน ๆ มาซึ่งดูเหมือนคู่ควรกับคุณ
    ที่เป็นผลสะท้อนของกิเลสตัณหานั้น ต่อไปนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป...
    ดังนั้น...ด่วนที่สุดในตอนนี้คือ “ต้องวาดฝันให้กับความฝันใหม่...”

    คุณกำลังอยู่ในกระบวนการกำจัดกับการที่ถูกบังคับให้เชื่อ
    ด้วยการเติม”ความกลัว”ทั้งหมดให้แก่คุณ
    ในขณะที่คุณก็มีความพยายามที่จะผสมผสานกับระบบความเชื่อใหม่
    ที่จะช่วยให้คุณทะยานไปสู่ศักยภาพสูงสุดของคุณ
    เพราะคุณกำลังสะท้อนถึงภายในของมิติที่ต่ำกว่า
    ในการรับรู้เรื่องของเวลากับเรื่องพื้นที่ที่ว่างเปล่านั้น...(time & space)
    และในการส่งผ่านนี้ มันจะเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างจะเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด
    กับการแทนที่ความเชื่อหนึ่งๆด้วยสิ่งอื่น
    มันจึงทำให้เกิดความรู้สึกขึ้น ๆลง ๆ ในขณะที่คุณกำลังเอาชนะ”ความกลัว”อยู่นั้น...

    หัวใจของคุณกำลังค้นหาความสุข ความสงบของจิตใจ
    และความสนุกสนานที่แท้จริงอย่างต่อเนื่อง
    เรากำลังเป็นพยานให้แก่ผู้ที่ได้ตื่นรู้ ว่าสิ่งใดที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริง
    ซึ่งในขณะที่คุณกำลังเรียนรู้อยู่นี้
    คุณจะไม่สามารถพบเป้าหมายที่เป็นข้อมูลใหม่ล่าสุด หรือแนวทางล่าสุด
    หรือแม้กระทั่งวิถีแห่งสุขจากภายในของผู้อื่นที่คุณได้ไปตั้งหวังไว้ได้เลย...
    เพราะคุณกำลังถูกกระตุ้นให้ลดระดับในความสลับซับซ้อนของชีวิต
    ด้วยการปลดปล่อยพันธะต่าง ๆ ที่มันไม่ได้ช่วยอะไรคุณได้อีกต่อไปนั้นออกไปเสีย...

    คุณจะได้สัมผัสกับการกระตุ้นที่แข็งแกร่งเพื่อการปลดปล่อย...
    ...จงปล่อยมันไปเสียเถอะ และเริ่มโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริงดีกว่า...
    เพราะนี่เป็นเวลาของการปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่มันยังคงนำคุณย้อนกลับไปในอดีต...
    ...คุณคือผู้ที่ได้รับโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้
    ด้วยการสร้างทางเลือกใหม่ และ สร้างสรรค์ชีวิตใหม่...
    ซึ่งในขณะที่คุณรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นจากหัวใจ
    เพื่อติดตามการผจญภัยและกับประสบการณ์ต่าง ๆ นั้น...
    ความรู้สึกนั้นจะนำคุณไปสู่ที่สุดแห่งความสงบสุขภายในจิตใจ
    และนำไปสู่คำถามในด้านตรรกะที่เกิดขึ้นภายในจิตนั้นด้วย
    แต่นี่หมายถึง...ถ้าทำได้สำเร็จนะ...
    เพราะจิตไม่ใช่เครื่องมือในการทำความเข้าใจในวิธีการที่จะทำฝันให้เป็นจริง
    จิตเป็นเพียงเครื่องมือในการตัดสินใจว่าสิ่งใดที่คุณต้องการสร้าง...
    และในขณะที่หัวใจกับจิตเกิดการต่อสู้กันต่อสิ่งที่คุณกำลังให้ความสนใจอยู่
    นั่นก็เท่ากับคุณกำลังอยู่ท่ามกลางความทรงจำของวิธีในการไว้วางใจตัวเองแล้วละ...


    ยังมีผู้คนอีกมากมายที่กลัวการเปลี่ยนแปลง
    มันไม่ใช่เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงความแตกต่างหรอกนะ
    แต่เพราะพวกเขา “กลัว” กับประสบการณ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น
    ว่ามันจะเลวร้ายกว่าสถานะการณ์ที่เป็นอยู่ ณ.ขณะนี้ต่างหากเล่า...
    ...เราจึงขอย้ำอีกครั้งว่า ปีนี้จะเป็นปีที่มุ่งเน้นโดยตรง
    ในการที่จะช่วยเหลือให้เกิด “ความไว้วางใจในตัวคุณเอง”...
    และ”ไว้วางใจ”ในความสามารถทั้งหมดที่คุณได้แสดงออกมาตามที่คุณต้องการ
    ไม่ว่ามัน “อาจจะ” เกิดอะไรขึ้นก็ตาม...
    แน่นอน....เหตุเพราะคุณไม่ได้อยู่ลำพังคนเดียว
    กับการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวในการเปลี่ยนแปลงนี้.
    และนั่นแหละ...คือการเริ่มต้นของ “การตื่นรู้”...

    ...วงจรและความเป็นรูปแบบที่ได้ครอบงำความสนใจของคุณมานานแสนนาน
    บัดนี้....มันกำลังจะจบลงแล้ว และก็อย่างที่เราบอกนั่นแหละว่า...

    “ เมื่อเส้นทางเดินของคุณได้นำคุณไปสู่ที่สุดของหน้าผา...
    คุณจะมีทางเลือกอยู่สองทางคือ ถอยหลัง หรือ เรียนรู้ที่จะบิน..."

    และเราหวังว่า... คุณเลือกที่จะกางปีกออกมาบินนะ...


    In love and light,

    we are your Angelic Guides
     

แชร์หน้านี้

Loading...