เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย สวนพลู, 18 สิงหาคม 2010.

  1. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    หุหุ กระทู้นี้คลายร้อนซะแล้ว
     
  2. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ยังไม่มีเวลามาเปิดเผยความจริงต่อครับ ขอปั่นงานก่อน
     
  3. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    ตามอ่านครับผม เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับผม แฉเป็นภูมิคุ้มกันครับผม
     
  4. จำปาแมน

    จำปาแมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +2,166
    ขอบคุณที่นำความจริงมาเผยแพร่ให้รับทราบนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
  5. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480

    เข้ามารออ่านตามต่อครับผม ^__^
     
  6. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เดี๋ยวเรื่องกุมารจะมานะครับ มาร่วมรับความรู้กัน
     
  7. จำปาแมน

    จำปาแมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +2,166
    เสียดายครับพี่สวนพลู โทรไปที่วัด
    สอบถามปู่ชูชกวัดหลวงพ่อพิเชษฐ์หมดแล้ว แบบบูชานะครับ

    ที่ติดตัวมีเชือกคาดเอวพร้อมตะกรุดครับ
     
  8. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    มีประสบการณ์อะไรเล่าสู่กันฟังมั้ยครับ
     
  9. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    รออีกหน่อยครับ ถ้าหลวงพ่ออนุญาติ จะได้มีรูปหล่อโบราณ ของหลวงพ่อไว้ใช้กัน จะจัดสร้างเนื้อนวะแบบโบราณ เทดินไทย โดยรวบรวมทุนการสร้างจากลูกศิษย์ทั้งหลายครับ ถ้าไฟเขียว น่าจะได้ช่วงกฐิน เสก 1 ไตรมาส และก็ยังสามารถ เป็น 1 ในผู้ร่วมสร้างครั้งนี้ได้ครับ
     
  10. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    ตอนนี้ก็มีศูนย์พระที่สำนึกดี หลังจากได้ทราบข้อมูลได้แจ้งให้กับผู้ที่สั่งจองพระหลวงพ่อคูณรุ่นใหม่ทุกรุ่นว่า ทางศูนย์พระสำนึกดียกเลิกการให้จองพระหลวงพ่อคูณรุ่นใหม่ทุกรุ่น ถือเป็นเรื่องที่ดีครับที่ยังมีศูนย์พระดีๆ แบบนี้ ส่วนผู้สร้างก็ยังสร้าง ยังใช้งานหลวงพ่อคูณกันต่อไปเพราะทำของมาแล้วจะขายกันอยู่แล้วจะให้ขาดทุนได้อย่างไร เราก็ช่วยกันแชร์ข่าว และไม่สนับสนุนการกระทำที่ไม่ดีแบบนี้ครับ

    ว่ากันถึงการใช้งานพระอาพาธ พระสูงอายุ พระนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย นั่งบนรถเข็น เดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเองไม่ได้ต้องมีคนอุปฐากดูแล และมีความเมตตาต่อลูกศิษย์หรือศูนย์พระต่างๆ ถูกนำมาอ้างด้วยคำว่า ขออนุญาติแล้ว ใช้งานครูบาอาจารย์กันอย่างเต็มที่เต็มความภาคภูมิใจว่าท่านอนุญาติแล้วจนกระทั่งครูบาอาจารย์ท่านมรณภาพ แต่วัตถุมงคลยังไม่ได้ปลุกเสกและวัตถุมงคลโฆษณากันไปแล้วจะทำยังไง ลงทุนแล้ว โฆษณาแล้ว จะให้ขาดทุนได้อย่างไร ออกสื่อจ้างโฆษณาโกหกหลอกลวงข้อมูล ว่าปลุกเสกแล้ววันนั้นวันนี้ แล้วออกให้บูชาเพื่อถอนทุนคืนก็ยังมีให้เห็นในปัจจุบันครับ
     
  11. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    เป็นปกติของคนที่สร้างวัตถุมงคลแล้วคิดถึงกำไรขาดทุน ไม่สนใจหรือเป็นห่วงขันธ์ธาตุครูบาอาจารย์แบบนี้ ก็คงไม่กลัวตกนรก ก็ต้องปล่อยให้ไปชดใช้กรรมเอาเองครับ
     
  12. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ขอปรบมือ ให้ศูนย์พระ ที่ยกเลิกการจองพระของหลวงพ่อคูณครับ ถ้าจำไม่ผิดศูนย์นี้น่าจะอยู่ที่ระยอง หรือชลบุรี น่ารักที่สู้ดดดดด อย่างนี้ถือว่า เป็นตัวอย่างที่ดีครับ แม้จะเสียรายได้ตรงนี้ไป แต่ผมว่า ก็ถือว่าไม่ได้ร่วมเป็นปลิงสูบเลือดหลวงพ่อคูณท่าน หนีนรกได้บางส่วนครับ
     
  13. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ใช่ครับ จะยอมให้ขาดทุนทำไม อย่างไรก็ต้องพยายามยื้อชีวิตให้ท่านอยู่ถึงตอนปลุกเสก ถ้าไม่ทันจริง ๆ เอาท่านออกมาจากโรงพยาบาล ให้มานั่งเอามือจับสายสิญจน์ หรือเอามือแตะที่กองวัตถุมงคล แล้วถ่ายรูปไว้เพื่อการค้าต่อไป ในนครปฐมเมื่อก่อนก็เคยมีแต่ไม่บอกว่าวัดไหน พอผมไปที่กุฏิหลวงพี่ต้อย เจอไอ้พวกงมงายบอกว่า "หลวงพ่อ.....แค่เอามือแตะวัตถุมงคลก็พอแล้ว จิตถึง ก็ใช้ได้ 555+" เชิญพวกคุณมรึงตามสบายเถอะ กรูไม่เอาด้วยหรอก แค่นั่งหลวงพ่อยังนั่งไม่ไหวเลย และอีกไม่กี่วัน หลวงพ่อ.....ท่านก็ละสังขารครับ
     
  14. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    อันนี้บทความใน คม ชัด ลึก ซึ่ง ผมวิเคราะห์ไปนานแล้ว (ขอโม้หน่อย อิอิ)

    เผยธุรกิจพระเครื่องในตลาดปัจจุบัน มูลค่ากว่า4หมื่นล้าน แข่งขันกันเดือด หาความแตกต่าง สร้างจุดขาย ตั้งแต่การออกแบบ มวลสารที่ใช้สร้าง ดึงพระชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ ค่าปลุกเสกระดับเกจิสูงถึงวันละ5หมื่นบาท ต้นทุน60-70เปอร์เซ็นต์เป็นค่าโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ เผยปล่อยพระใหม่ลงตลาด หวังให้มีราคาต้อง รู้วิธีการสร้างกระแส จับมือหน่วยกู้ภัย-เซียนพระ ปั่นราคา
    มีการกล่าวเปรียบเปรยอยู่ในทีว่า ที่ดินที่แพงที่สุดในโลกอยู่ในเมืองไทย แพงถึงขนาดที่ว่า ไม่กี่ตารางเซ็นติเมตร อาจมีราคาสูงถึงหลักล้าน เป็นไปได้? เป็นไปได้ เมื่อดินที่ว่าอยู่ในรูปของ ‘พระเครื่อง’
    เคยมีการประเมินมูลค่าของธุรกิจพระเครื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่า ปี 2550 ธุรกิจที่มีฐานบนความศรัทธานี้มีมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านบาท มีความเป็นไปได้สูงว่า ปัจจุบันมูลค่าน่าจะถีบตัวสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งยังมีธุรกิจต่อเนื่องอื่น ๆ เช่น ธุรกิจการสร้างพระ นิตยสารพระเครื่อง ธุรกิจโฆษณา เป็นต้น ซึ่งน่าจะทำให้เงินสะพัดในธุรกิจพระเครื่องทั้งวงจรสะพัดมากกว่า 40,000 ล้านบาท
    วงการธุรกิจพระเครื่องรุดหน้าไปมากนับตั้งแต่ปี 2496 ที่เริ่มมีการเปิดให้เช่าพระเครื่องใต้ต้นมะขามรอบท้องสนามหลวง ก่อนจะย้ายมายังใต้ถุนศาลอาญา ราว ๆ ปี 2500 แน่นอนว่าเส้นทางการก่อเกิดและเฟื่องฟูของพระเครื่องพาดผ่านกับประวัติศาสตร์ สงคราม เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการต่อสู้เชิงอุดมการณ์อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
    เช่นเดียวกับกลวิธีทางการตลาดของนักธุรกิจสมองใส ที่เสาะหาหนทางผลักพระเครื่องให้มีราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเป็นธุรกิจ พระเครื่องจึงไม่ต่างจากสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป ที่ต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการทำการตลาด ซึ่งสำหรับคนนอกวงการ การทำการตลาดพระเครื่องก็มีเหลี่ยมคูแบบทั่ว ๆ ไป จนถึงแบบที่หมิ่นเหม่

    วงการพระเครื่อง พระใหม่-พระเก่า
    วงการพระเครื่องแบ่งเป็นพระเก่ากับพระใหม่ ซึ่งมีวิธีการเล่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน อนุชา ทรงศิริ ประธานกรรมการ บริษัท พระใหม่ดอทคอม จำกัด เปิดเผยศูนย์ข่าว TCIJ ว่า สำหรับพระเก่าที่กลุ่มเซียนเล่นกันมักเป็นพระเครื่องที่มีอายุตั้งแต่ปี 2500 ย้อนหลังลงไป กลุ่มคนที่เล่นจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ นายทหาร-ตำรวจ เนื่องจากเป็นพระมีราคาสูงและหายาก การซื้อ-ขายจะวนเวียนจำกัดอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ หากหลุดออกมานอกกลุ่มเมื่อใดก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นของปลอม
    “พระเก่าจะอยู่ในกลุ่มเซียนเล่นกัน ถ้าเป็นนักสะสมจริง ๆ ต้องมีปัจจัยค่อนข้างสูง เพราะพระเก่าสามารถคืนได้ แต่ต้องหัก คือ 500,000 บาท อาจจะเหลือ 400,000 กว่าบาท เขาจึงซื้อกันในกลุ่มเซียน ถ้าเมื่อไหร่ผมเอาเงิน 500,000 บาทไปใช้ แล้วหายตัวไป ไม่คืน เขาก็ไม่ซื้อกับผม มันมีการการันตีระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย ทำไมเซียนถึงขายพระได้แพง เพราะเขาการันตีพระของเขา คุณจะไปอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ รุ่นลูกรุ่นหลานคุณอามาคืน เขาก็จะให้ ราคาของเขาจะมีเป็นมาตรฐาน แต่ปัจจุบันมีเซียนไม่ได้มาตรฐานเยอะ พอเข้ามาก็จะมีการโกงกัน วงการพระเก่าจึงแยกออกไป”
    พระเก่าจึงไม่ค่อยมี หรือไม่จำเป็นต้องมีการทำการตลาด แต่เน้นที่ความน่าเชื่อถือของเซียนพระ ที่คนในวงการให้การยอมรับ ดังนั้นการทำการตลาดพระเครื่องที่ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จึงอยู่ในแวดวงพระใหม่เป็นหลัก

    บริษัทรับผลิตพระแบ่งสายรับงาน-มุ่งหาความแตกต่าง สร้างจุดขาย
    ด้าน ณัฐพล อยู่รุ่งเรืองศักดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และผู้เขียนหนังสือ ‘ประวัติศาสตร์ผ่านพระเครื่อง คติความเชื่อและพุทธพาณิชย์’ กล่าวว่า เท่าที่ทำการเก็บข้อมูลในประเทศไทย พบว่า มีบริษัทที่รับผลิตพระเครื่องอยู่ประมาณ 15-20 บริษัท แต่ละบริษัทก็จะมีความสัมพันธ์กับหน่วยงานราชการแต่ละแห่ง เช่น ถ้าเป็นการผลิตพระเครื่องของกองทัพบก ก็จะเป็นบริษัทหนึ่ง ถ้าเป็นของตำรวจก็จะเป็นอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่บริษัทรับผลิตพระเครื่องจะมีการแบ่งสายและรายได้ เป็นที่รู้กันในวงการ หรือบางรายก็ใช้วิธีติดต่อไปยังวัดต่าง ๆ เอง
    ส่วนกระบวนการผลิตพระเครื่องกล่าวได้ว่า ไม่แตกต่างจากการผลิตสินค้าทั่วไป นั่นคือ ต้องเริ่มจากการออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่าง แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ ยกตัวอย่างเช่น การผลิตพระเครื่องหลวงพ่อโสธร การออกแบบย่อมไม่สามารถฉีกแนวรูปลักษณ์ขององค์หลวงพ่อโสธรจนเกินไปได้ เพราะอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของพระเครื่องรุ่นที่จะผลิตออกมา ทำให้บางเจ้านำงานอัญมณีเข้ามาประกอบเพื่อให้เกิดความสวยงามและสร้างจุดขาย
    อีกจุดหนึ่งที่นำมาสู้กัน เพื่อสร้างความแตกต่างคือ มวลสาร เช่น ทรายทอง แร่ทรายเงิน เส้นผมของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หรือที่มีการโฆษณาออกสื่อ เช่น ดินจากสังเวชนียสถาน เป็นต้น อนุชากล่าวว่า เพราะความต้องการสร้างความแตกต่างด้านมวลสาร โลหะจากปีกเครื่องบิน ก็มีการนำมาใช้เป็นมวลสาร ซึ่งจะเป็นภาระของผู้สร้างที่ต้องหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลให้ได้ว่า เหตุใดจึงเลือกวัตถุนั้น ๆ เป็นมวลสาร ซึ่งในแง่ต้นทุนแล้ว มวลสารถือเป็นต้นทุนในสัดส่วนที่ไม่มาก เพราะใช้จริงเพียงเล็กน้อย เรียกว่านำมาเป็นเชื้อเท่านั้น ไม่ได้ใช้จำนวนมาก แต่ก็ถือเป็นตัวสร้างจุดขายที่ดีจุดหนึ่ง อนุชาเปิดเผยว่า บางรายก็เพียงแต่โฆษณา ไม่ได้มีมวลสารที่ว่าจริงก็มี
    ส่วนตัวบล็อกสำหรับเป็นแบบพิมพ์พระ หากเป็นพระผงตกราว 4,000-6,000 บาท เนื้อโลหะประมาณ 5,000-7,000 บาท ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับฝีไม้ลายมือของช่างแกะพิมพ์ด้วย

    ค่าปลุกเสกระดับเกจิอาจารย์ 50,000 บาทต่อวัน
    การปลุกเสกนับเป็นอีกหนึ่งกลวิธีสร้างความแตกต่างให้แก่พระเครื่องแต่ละรุ่น โฆษณาพิธีพุทธาภิเษกหรือปลุกเสกความศักดิ์สิทธิ์แก่พระเครื่อง มีให้เห็นเป็นประจำ ซึ่งมักขับเน้นด้วยจำนวนพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และมีชื่อเสียงด้านต่างๆ ความอลังการของตัวพิธี หรือการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ณัฐพลกล่าวว่า
    “ต้นทุนส่วนนี้ บางครั้งก็ขึ้นกับว่าเป็นการประกอบพิธีพุทธาภิเษกตามรูปแบบโบราณหรือเปล่า เพราะต้องนิมนต์พระค่อนข้างมาก เช่น ต้องสวดชัยมงคลคาถาต้องนิมนต์พระมาสวด 108 รูป ต้องมีพระอันดับทั้ง 32 รูป รวมถึงพระเกจิชื่อดังที่เป็นที่ยอมรับปรกอีก 4 ทิศ คือ ค่านิมนต์พระเกจิ ณ ตอนนี้ เท่าที่ผมได้ยินก็ประมาณ 30,000-50,000 บาท ต่อรูปต่อวัน ซึ่งโดยปกติจะเสร็จในวันเดียว นอกจากว่านิมนต์ปลุกเสกเดี่ยวในช่วงไตรมาส ช่วงเข้าพรรษา อันนั้นก็แยกออกไป ส่วนพระโดยทั่วไปจะได้ประมาณ 300-1,000 บาท แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดได้ขนาดไหน นอกจากนี้ยังมีค่าบวงสรวงก่อนทำพิธี เช่น ค่าบวงสรวงเตาไฟ ค่าบวงสรวงปรัมพิธี โดยประมาณก็ 10,000-20,000 บาทต่อพิธี ส่วนนี้เป็นการเก็บข้อมูลมาเมื่อสักประมาณปี-2 ปีที่แล้ว”
    อย่างไรก็ตาม อนุชากล่าวว่า ใช่ว่าพิธีปลุกเสกใหญ่โตและจำนวนพระเกจิจำนวนมาก จะช่วยให้พระเครื่องรุ่นนั้น ๆ เป็นที่นิยมในตลาดเสมอไป พระเครื่องบางรุ่นที่ผ่านพิธีการปลุกเสกเอิกเกริก ก็ไม่ช่วยให้เป็นที่นิยมหรือมีราคาสูงมากขึ้น ขณะที่พระเครื่องบางรุ่นได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิชื่อดังเพียงรูปเดียวอาจเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า กรณีที่ชัดเจนคือ พระเครื่องของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

    สายส่งพระเครื่องวัดแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้
    ด้านการกระจายตัวสินค้า ปัจจุบันมีความแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ศูนย์กลางจะอยู่ที่วัด แต่ยุคนี้ วัดต่างๆ เปิดศูนย์พระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นของตัวเอง อนุชาขยายความว่า
    “คนไปขอเปิดตามวัดต่าง ๆ แต่ละวัดก็จะมีศูนย์พระ จะไปเอาพระมาขายแล้วก็แบ่งเปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นทุกวันนี้ ศูนย์พระต่างๆ ได้ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์ คนวางได้สิบห้าหรือห้าเปอร์เซ็นต์ สมมติว่าผมเป็นคนเดินพระ ผมเหมือนสายส่งหนังสือพิมพ์ไปรับพระมาจากวัด แล้วก็เดินไปตามศูนย์พระต่าง ๆ แล้วผมก็มาเก็บเงินทีหลัง เอาไปให้วัดแล้วหักเปอร์เซ็นต์ ผมก็ได้เปอร์เซ็นต์ตรงนั้น นี่คือการกระจายพระเครื่อง ซึ่งเป็นพระใหม่ ดังนั้นถ้ามีศูนย์พระเป็นจำนวนมากการกระจายมันก็โอเค”
    ส่วนจะได้กี่เปอร์เซ็นต์ก็ขึ้นกับทางวัดแต่ละแห่ง ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นสายส่งต้องบริหารจัดการเอง ว่าจะเหลือเข้ากระเป๋าเท่าใด เมื่อหักต้นทุนส่วนอื่น ๆ แล้ว

    งบโฆษณาสูงสุด-ปั่นกระแส สร้างราคา
    แต่ต้นทุนทั้งหมดข้างต้น-การออกแบบผลิตภัณฑ์ พิธีปลุกเสก หรือค่ากระจายสินค้า ยังไม่ใช่ต้นทุนส่วนที่สูงที่สุด เพราะต้นทุนหลักในการผลิตพระเครื่องให้ติดตลาดและราคาดีคือต้นทุนส่วนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ณัฐพล กล่าวว่า อาจสูงถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนทั้งหมด
    ทว่า ยังมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกกันว่า ปั่นกระแส ซึ่งมักมาคู่กับการปั่นราคา ณัฐพลเปิดเผยว่า
    “การสร้างพุทธคุณออกมาให้ปรากฎ เช่น การสร้างเรื่องอภินิหาริย์ว่า ถูกรถชนแล้วไม่เป็นอะไร ก็จะไปดูว่าแขวนพระอะไร แต่พวกนี้ก็จะมีนอกมีในกับพวกมูลนิธิหน่วยกู้ภัยเหมือนกัน ผมเคยได้ข้อมูลมา หรืออีกวิธีการหนึ่งคือการร่วมมือกับพวกเซียนพระ เมื่อไหร่ก็ตามที่คนกลุ่มนี้บอกว่า รับซื้อพระรุ่นนี้ ในราคาเท่านี้ ตลาดก็จะไปตีเอาว่ากระแสเริ่มหันมาทางนี้แล้ว ราคาพระก็จะขึ้น ซึ่งมีบ่อยครั้งที่ผู้ผลิตพระและเซียนจะจับมือกันเพื่อสร้างกระแส”
    ณัฐพลอธิบายว่า การปั่นราคาพระเริ่มจากการแอบเก็บพระไว้ ขณะเดียวกันก็มีการเสนอราคาพระให้สูงขึ้น แล้วรับซื้อในช่วงแรก ตัวอย่างเช่น วัดแห่งหนึ่ง จำหน่ายพระใหม่ในราคา 100 บาท เมื่อจำหน่ายหมด วัดจะได้ส่วนแบ่งประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งเป็นของผู้ผลิต แต่ภายหลังผู้ผลิตจะกลับไปกว้านซื้ออย่างเงียบ ๆ ในราคา 110-120 บาท เมื่อเก็บไว้ได้ระดับหนึ่งจะประกาศออกว่า ต้องการพระองค์นี้ ให้ราคาที่ 150-200 บาท ผู้ที่มีพระดังกล่าวในครอบครองก็จะนำมาปล่อยให้ ระยะแรกที่ปล่อยขายได้ผู้คนจะเห็นว่าพระองค์นี้ราคาดี ขายได้ ก็จะเริ่มมีการปั่นราคาพระขึ้นไปอีก เริ่มมีการให้ 250-300 บาท พอถึงจุดอิ่มตัว พระที่ผู้ผลิตซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ในราคา 120 บาทจะถูกปล่อยออกมาในราคา 250-280 บาท ให้ถูกกว่าเจ้าอื่น คนอื่น ๆ จะเริ่มซื้อกักตุนพระเครื่องของที่พึ่งปล่อยออกมา การปั่นราคาจะสิ้นสุด เมื่อผู้ผลิตปล่อยพระได้หมด ซึ่งวิธีการเช่นนี้คล้ายคลึงกับคำบอกเล่าของอนุชาที่ระบุว่า
    “ที่เขาทำกันสมัยก่อนคือไปเดินซื้อ จนเกิดการบอกต่อว่าพระเครื่องรุ่นนี้ขายได้ แบบนี้เรียกปั่น คือตามเก็บเลย พระรุ่นนี้ข้ามีอยู่แล้ว ข้าทำเยอะหรือเช่าไว้เยอะ ก็ใช้วิธีกว้านซื้อให้รู้ว่ามีคนต้องการ ปล่อยออกไป แล้วก็กว้านซื้อกลับมา ปัจจุบันก็ยังมี ปั่นง่าย เพราะการซื้อขายเดี๋ยวนี้ง่ายที่สุดคือการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต เขาปั่นกันทางเน็ต สร้างกระแสให้พระรุ่นนี้ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ก็เข้าไปซื้อกัน ให้ราคาสูง ๆ ปั่นจนพระเริ่มไม่มีหรือมีน้อย ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปเลย คือถ้าคนมีเงินทำได้ ถ้าคุณอยากจะปั่น เพียงแต่ว่าคุณจะกล้าปั่นหรือไม่เท่านั้นเอง”
    แล้วใครคือคนที่กล้าปั่น? อนุชาตอบว่า คนที่กล้าปั่นคือ คนที่รู้จำนวนพระที่แท้จริง นั่นย่อมหมายถึงคนสร้างหรือคนในแวดวงผู้สร้างพระเครื่องว่า พระเครื่องรุ่นไหนสามารถปั่นราคาได้ รู้ว่าพระรุ่นนี้อยู่ที่ใคร แล้วพยายามกว้านซื้อกลับมา
    “พอลงในอินเตอร์เน็ตก็ประมูลราคาสูงทันที ให้ราคาสูงเป็นแสน เป็นล้านบาท สู้กัน ปั่นกันไป คือถ้าปั่นของมันต้องน้อย ถ้ากระจายอยู่ในท้องตลาดมากคุณปั่นไม่ขึ้น ไม่มีโอกาสไปปั่น เพราะการปั่นรารานั่นคือของไม่มีถึงจะปั่นได้ คนต้องการมากแล้วของไม่มี แต่การปั่นกระแส บางทีกระแสก็ช่วยปั่นอะไรไม่ได้ คุณไปรถคว่ำไม่ตาย คุณบอกห้อยองค์นี้ แต่ว่าถ้าของยังมีจำนวนมากอยู่คุณจะปั่นยังไง”
    เมื่อพระเครื่องกลายเป็นธุรกิจ เป็นการออม และมีการเก็งราคาไม่ต่างจากการซื้อ-ขายหุ้น จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะมีหนังสือเกี่ยวกับการเล่นพระให้รวย อนุชากล่าวว่า สำหรับพระเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ดี ๆ สามารถอยู่ในกระแสได้นานประมาณ 6 เดือน แต่ก็ยังเป็นภาระของผู้เล่นที่จะต้องมองตลาดเป็น หรืออ่านให้ขาดว่า พระเครื่องรุ่นไหนจะเป็นที่ต้องการของตลาดในช่วง 6 เดือนจากนี้ และต้องแบกรับความเสี่ยงจากการลงทุนเอง
    นี่น่าจะเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการสร้างมูลค่าพระเครื่อง ขณะที่เทคโนโลยีรุดหน้า ช่องทางการสื่อสารผุดขึ้นมากมาย ทั้งอินเตอร์เน็ต ทีวีดาวเทียม เคเบิ้ลทีวี กลวิธีการทำการตลาดและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แห่งศรัทธาคงจะมีการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นตามมาอีกมาก ตราบเท่าที่ผู้คนยังต้องการสิ่งยึดเกาะทางจิตใจ
     
  15. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    ที่จริงหลวงปู่หลวงพ่อองค์อื่นๆ ที่ท่านชราภาพมากๆ ก็น่าจะยกเลิก
    ผมเห็นรูปแล้วพูดไม่ออก ไม่อยากจะนำรูปครูบาอาจรย์มาลง
    นอนกับรถเข็น กับเตียง ก็ยังยกไปให้ท่านจับสายสิญจน์
     
  16. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    เดี๋ยวว่างๆ ผมจะมาเล่าบ้าง เรื่องเก่ามาเล่าใหม่
    กับความอยากดังของสมี จนอกตัญญูครูอาจารย์
     
  17. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    ผมเคยเล่าไว้ครั้งหนึ่งแต่นานมากแล้ว ไม่รู้กระทู้ไหน ขอเล่นอีกครั้งละกันนะครับ

    เรื่องของพระรูปหนึ่ง ถ้าย้อนไปหลายยปีก่อน ถ้าพูดถึงวัตถุมงคลของท่าน
    เป็นที่เรื่องลือกันมาก พูดไปไม่มีใครไม่รู้จัก ปัจจุบันเงียบแล้ว แต่ยังมีคนเข้าเรื่อยๆ

    ท่านมีอาจารย์ของท่านที่เคารพนับถือ อาจารย์ท่านเก่งมาก ไม่ว่าพระเครื่อง เครื่องราง
    ทุกอย่างเข้มขลัง แต่ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และเพราะอาจารย์ท่าน ถึงได้ดิบได้ดี
    เพราะวัตถุมงคลของท่านได้ขอจากครูอาจารย์ของท่าน มาให้ญาติโยมบูชา
    เพราะท่านไม่สามารถทำได้อย่างครูอาจารย์ ตามปกติท่านก็ไปมาหาสู่อาจารย์ดี
    หลังๆ พอเริ่มดังเข้าก็ไม่ไปหาอาจารย์เลย ผู้เป็นอาจารย์ถึงกับเอ่ยปากว่า ศิษย์องค์นี้เป็นยังไงบ้างหนอไม่มา
    หาบ้างเลย

    และไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรืออย่างไร พระรูปนั้นเลยจัดการทำเสียเอง เรื่องมันก็มาสนุกตรงนี้
    ปรากฎว่าเจ้าวัตถุมงคลเจ้ากรรมดันไม่ขลังแบบอย่างเก่า ลูกศิษย์พระรูปนั้นดันเอาไปลอง
    งานเข้าสิครับ เลือดอาบเกือบตาย ไม่รู้ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร แต่เห็นว่าปีก่อน ก็ยังมีคนเข้าไปขออยู่เรื่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,011
    ค่าพลัง:
    +146,284
    พระเครื่องรุ่น ICU นี่ ไม่ว่าหลวงพ่อไหน ให้ผมฟรีผมก็ไม่เอาครับ...แหะๆ ทั้งๆที่ชอบของฟรี จิตกับร่างกายคนมันเชื่อมกัน ถึงคนขับเก่งแต่ รถมัน เก่า ก็วิ่งให้ดียากครับ ยกเว่้นจะเหยียบมิด ทิ้งทวนกันไปลเย วิ่งกันแบบรถฟังไปเลย
     
  19. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    กระซิบซักนิดนะครับว่าวัดไหน.อยากรู้ครับ
     
  20. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,075
    ค่าพลัง:
    +52,176
    ชัดเจนครับพี่ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...