ข่าวสารจากจิตจักรวาล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 12 มกราคม 2007.

  1. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ถอดเสียงการบรรยายธรรม ของ จิตจักรวาล โดย อ.ปริญญา ครั้งที่ 133
    ช่วงที่เป็นข่าวสารในกาลข้างหน้า....
    ===============================================
    มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ดาวดวงอื่น เขาโชคดีกว่าเราเนาะ เขามีเซลสมองก้อนเดียว ไม่แบ่ง
    เป็น 2 ซีกแบบเรา พวกเขาเลยเจอปัญญาปาฏิหาริย์ได้มากกว่ามนุษย์โลก แต่จริงๆ แล้ว ถ้า
    มนุษย์โลกอย่างเราคิดเป็นนะ พวกเรานี้อัจฉริย กว่าพวกเขาหลายเท่า เพราะเราจะใช้สมอง
    ซีกไหนได้ ใช้ได้ทั้ง 2 ซีกเลย ทั้งซ้ายทั้งขวา

    ทุกวันนี้เห็นม๊ะ ขยะเทคโนโลยีรกโลกไปทั้งโลก เห็นม๊ะ ขยะเทคโนโลยีรกโลกไปทั้ง
    โลกเพราะอะไร เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ มันใช้สมองซีกไหนสร้าง ซีกซ้าย สมองซีกซ้ายมัน
    เป็นเรื่องหยาบๆ จะสร้างอะไร ต่อให้มันบอกว่า creative thinking มันใช้สมองซีกซ้ายสร้าง
    สร้างอย่างหนึ่งก็ไปทำลายอย่างหนึ่ง แต่มันสร้างหลายอย่างนะ ทำลายก็ตั้งหลายอย่าง

    สร้างมั่งทำลายมั่ง ด้วยสมองซีกซ้าย สิ่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาบนโลกใบนี้ พระบิดากล่าวว่า
    พระองค์ไม่รู้จะไปหาที่กลบฝัง ที่ไหนได้บนโลกใบนี้ได้เลย มันเป็นขยะที่รกโลกมากมาย โลก
    จึงต้องพลิกแผ่นดิน พลิกแผ่นดินเพื่อที่จะกลบฝังไว้ วัตถุเทคโนโลยี ที่มนุษย์ ใช้สมองซีกซ้าย
    ช่วยกันสร้าง ไม่ได้สร้างจิตวิญญาณแต่ดันสร้างกายภาพ สร้างสิ่งที่เป็นวัตถุเทคโนโลยีขึ้นมา

    งั้นต่อไปนี้ เทคโนโลยีอะไรดีๆ ก็จะเอาไว้ให้ใช้ฟรี เอ้า..ดาวเทียม เพราะสร้างแล้วลงทุน
    แพง นะจะเอาไว้ให้ใช้ ใช้ฟรี ต่อไปนี้ไม่ต้องใช้ตังแล้ว มือถือซื้อไว้หลายๆ เครื่องหลายยี่ห้อ
    หน่อย เพราะต่อไปเจ้าของมันไม่เหลือ แต่ดาวเทียม เหลือมั๊ย เหลือ

    สถานีส่งเหลือ เดี้ยวเราได้ใช้ฟรีไม่มีใครเก็บตัง ไฟฟ้า ปะปา ใช้ฟรีหมด ไม่มีใครเก็บตัง
    เพราะไม่รู้จะเอาตังไปทำอะไร แต่ก่อนจะได้ใช้ฟรี มันต้องหายนะก่อนนะ หายนะก่อนแล้วได้
    ใช้ฟรีแน่นอน ทุกอย่างฟรีหมด

    ใครบอกของฟรีไม่มีในโลกเนี่ยะ ต่อไปมันจะพูดใหม่ มันจะพูดผิด มันต้องวงเล็บ ในโลก
    ทุกวันนี้ของฟรีไม่มี แต่ในโลกยุคต่อไปของฟรีมี ของฟรีนะ พอใจเอาไปเลย.. ชอบใจเอาไปเลย..
    แบบนั้น ดีมั๊ย ดีมั๊ย เออ..ดีมาก โลกของพระบิดาต้องดี นั้นพวกเราเริ่มเข้าใจ รักษาเนื้อรักษาตัว
    เอาไว้ให้ดีเน้อ..แน้..เชื่อในสิ่งที่กล่าว...
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ชักแหม่งๆ นะ มาจุดประการใช้สาธารณูประโภคฟรี!!!

    อะไรแบบนี้ถ้ามันจริงก็ดีนะ เกิดขึ้นจริงแน่ๆไม่ต้องประกาศดีกว่า

    เพราะถ้าเน้นส่วนนี้บ่อยก็ระวังไว้หน่อยครับ

    ผิดหลักการ!
     
  3. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ทุกอย่างฟรีก็ดี แต่ใครจะเป็นคนทำให้มันมีไว้ใช้ล่ะครับ น้ำไฟ ทุกอย่างต้องมีคน OPERATE แล้วคนพวกนั้นจะเอาอะไรกินล่ะครับ อีกต้องใช้ทรัพยากร การจัดการอีกมาก หรือจะมีหุ่นยนต์มาทำแทนก็จะดี หรือใช้ฟรีแค่ช่วงแรก จนหมดแล้วก็ไม่มีให้ใช้ : )
     
  4. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    พระโอวาทขององค์จิตจักวาลดวงใหญ่ กล่าวตอนท้าย ของการบรรยายธรรมครั้งที่ 135
    ( 4 พ.ย. 2550)
    ในหัวข้อเรื่อง " บวชนานทำไมนิพพานไม่ได้ "
    บวชในที่นี้ หมายถึง ผู้มีปณิธานว่าเป็นผู้ประพฤติธรรม

    " การเดินทางกลับบ้านนั้นต้องใช้ปัญญา แต่ที่ผ่านมาลูกๆ ไม่หาปัญญาบ้าแต่วิชชากับอวิชชา จึงหาทางกลับบ้านไม่พบ 60,800 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นยุคที่น่าวังเวง เป็นยุคที่น่าห่วงใยเป็นที่สุดและขณะนี้ความวังเวงและน่าห่วงใย มันจะกลายเป็นความวุ่นวาย มันกำลังจะกลายเป็นความโกลาหลกันไปหมด บนดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งั้น บุตรรักของบิดาทุกๆ คนที่ได้มีโอกาสฟังธรรมะข้อใหญ่ คือ บวชนานแล้วใยนิพพานไม่ได้ ให้สร้างสติ ทางจิตวิญญาณให้กับตัวเองไว้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบไปตามครรลองของอริยะมรรคที่ฝากไว้แล้ว ก็ให้เคร่งครัดต่อตนเองกันมากขึ้นกว่าเดิม อย่ามารับรู้ธรรมะโอวาทของพระบิดา แลัวก็ยังไปแสวงหาอะไรที่เป็นอวิชชาในสิ่งอื่น หาความรู้เพิ่มเติมแต่ต้องใช้ปัญญา เพราะปัญญานั้นจะหยิบฉวยมานิพพานในสิ่งใดเรื่องใดก็ได้อย่างง่ายดาย ขอให้เข้าถึงสิ่งนั้นอย่างแท้จริง

    ทุกวันนี้ ถ้าเราสังเกตุให้ดี จะเห็นความถี่ของการสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกทางกายภาพ ที่มันจะส่งผลออกมาในเรื่องลบๆ เรื่องร้ายๆ นั้น มันเริ่มกระหน่ำเขย่ารุนแรงขึ้นพายุก็เกิดถี่ขึ้นบ่อยขึ้น แผ่นดินไหวก็เกิดถี่ขึ้นบ่อยขึ้น ภูเขาไฟก็ครุกรุ่นและกำลังจะเท ลาว่า ให้ไหลออกมาล้วนเป็นมายาที่แสดงให้มนุษย์โลกทั้งหลายได้เรียนรู้ ว่านอกจากจะไม่หยิบปัญญามานิพพานได้แล้ว เพียงแค่ สัจจะ ที่ให้ไว้กับพระบิดา ข้อ 1 ข้อเดียวลูกๆ ก็พากันสอบตกกันหมดแล้ว

    ถามว่า..แล้วจะปล่อยให้ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ เสียสมดุลย์ต่อไปได้อีกอย่างไร เมื่อ
    เครื่องยนต์กลไก ทีเรียกว่าเครื่องยนต์แห่งกรรม ที่มีจิตใจ โดยมีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้ซึ่งมาทำหน้าที่ช่วยกันขับเคลื่อนบนดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ มันเสื่อมสภาพ เสื่อมสมรรถภาพ และเสื่อมประสิทธิภาพเสียจนหมดสิ้นแล้ว ถ้าหากว่าจะมีกลุ่มของลูกๆ ของพ่อที่เข้าใจในการถ่ายทอดพระโอวาทในครั้งนี้ จะมีสติทางวิญญาณตื่นตา ตื่นตัว และตื่นใจแทนที่จะตื่นตูมไปกับข่าวใหม่ๆ ที่เป็นเรื่องร้ายๆ ว่าเชื้อโรคร้ายเกิดขึ้นที่นั้นที่นี่ ภัยพิบัติรุนแรงเกิดขึ้นที่นั้นที่นี่ ที่นี้ยังจิตสำนึกของมนุษย์ด้วยกันอีกต่างหาก ที่จะสร้างปัญหาให้กับลูกๆ ที่ดำรงตนอยู่ในสังคมกัน แห่งนี้ หรือในสังคมใดในประเทศต่างๆ ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่จะต้องวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น

    บุตรรักของพระบิดา ที่มีสภาวะจิตที่สุขสงบ คือ ความสุขที่เกิดจากความสงบเท่านั้น หรือผู้ที่สามารถตั้งมั่นอยู่ในครรลองครองธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถข้ามผ่านกลียุคทั้งหลาย วิกฤตทั้งหลายไปได้ อย่างมั่นคงและมั่นใจ ถึงแม้จะมีเรื่องร้ายๆ เข้ามาใกล้ตัว จิตทีว่างไปจากทุกสรรพสิ่งนั้นคือ จิตที่เป็นสุญญตา เมื่อจิตใดที่เป็นสุญญตา จิตนั้นย่อมหนักแน่นไม่หวั่นไหว ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก็ตาม จงเรียนรู้ที่จะค่อยๆ สอบผ่านบททดสอบจิตสำนึก ในการเป็นสามี บททดสอบจิตสำนึกในการเป็นภรรยา บททดสอบจิตสำนึกในการเป็นเจ้านาย บททดสอบจิตสำนึกในการเป็นลูกน้อง บททดสอบจิตสำนึกในการเป็นประชาชนเดินดินกินข้าวแกงบททดสอบจิตสำนึกตามบทบาทหน้าที่ ที่ตัวเองต้องแสดง ต้องเล่น ต้องสอบให้ผ่านให้ได้
     
  5. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    (ต่อ)
    นั้น คือสิ่งที่ จะติงเตือนพี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายเอาไว้ ถ้าเราดีแต่เหลวไหล เอาแต่ทำผิดเอาแต่คิด
    ชั่วมั่วๆกันไป และเข้าใจผิดคิดว่า ตักบาตรทุกวัน นั่งสมาธิทุกคืน แล้วก็มั่นทำบุญสุนทานเยอะๆ แต่ขณะที่ลืมจะชำระจิตของตนเอง ให้มันว่างไปจากสรรพสิ่งที่มันไม่ควรจะมีเราก็เป็นคนนึงเหมือนกันที่จะหลงทางไปนิพพาน และโอกาสที่จะข้ามผ่านภัยวิกฤตทั้งหลายในวันชำระโลกที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของการสิ้นยุค

    ตรงนั้น เราก็จะเป็นคนนึง ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่หนักหนาสาหัส แล้วเป็นการเผชิญที่
    เรียกว่า เรื่องที่หนักหนาที่เป็นเคราะห์กรรมที่ตัวเองไม่น่าให้อภัยตัวเองด้วยซ้ำไป ถ้าวันนี้ยังมีสติ
    ยังมีปัญญา ยังมีแข้งขาที่แข็งแกร่ง ยังมีแรงที่สมบรูณ์ ยังมีสมองทีบรรเจิด ยังมีสมองที่เฉียบคม ก็ต้องรู้จักใช้สิ่งเหล่านี้ที่มีอยู่ เพื่อประโยชน์ให้เครื่องยนต์แห่งกรรมและจิตวิญญาณของตัวเอง รวมกระทั่งถึงพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนร่วมสังคมกับเราด้วย นั่นก็คือสิ่งที่ลูกๆ ของพ่อทุกๆ คน จะต้องมีสำนึกที่จะประพฤติและปฎิบัติตน อย่างเข้มแข็ง อย่าให้อุปสรรคใดๆ หรือแม้แต่สิ่งเล็กน้อยมาทำให้ปณิธานของการเป็นผู้ฝักใฝ่ประพฤติธรรม ปณิธานที่จะปฎิบัติตามพันธะสัญญาทั้ง 6 ข้อ ที่เคยให้ไว้กับพระบิดา ต้องเป็นอันเหลวไหล หรือเป็นอันต้องล้มเลิกไปโดยเด็ดขาด

    ขอให้มีการสำนึกการเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนต้องรักกัน ไม่เบียดเบียนกัน มีสำนึกที่จะช่วยกันค้ำจุนโลกใบนี้ไว้ หลายคนกล่าวว่า เกิดเป็นมนุษย์แล้วทุกคนต้องมีสำนึกรู้หน้าที่ และหน้าที่ของฉันรู้อย่างเดียวว่ามาเป็นสามี ฉันก็ต้องเป็นสามีที่ดีเป็นพ่อที่ดีเป็นผัวที่ดี หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นเมียที่ดี เป็นน้องที่ดี อะไรทำนองนั้น และก็ยังมีการกล่าวแถมเอาไว้ บางคนว่า หน้าที่ในการพิทักษ์โลกนั้นไม่ใช่หน้าที่ของฉัน มันเป็นหน้าที่ ที่บังอาจเกินไป คนที่กล่าวแบบนี้มีอยู่หลายคนในสังคม ก็ฝากบุตรรักของบิดาทั้งหลายว่า นั้นคือ ตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะมนุษย์คนนั้น เสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์ และเสียทีที่เป็นบุตรของพระบิดา มองโลกแต่ทางกายภาพ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ลืมมิติของจิตวิญญาณของตนเองไปเสียสิ้น

    หน้าที่ของมนุษย์เรา จำไว้อย่างนึงว่ามีอยู่ 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือหน้าที่ทางโลก ซึ่งลูกๆ สร้างกันขึ้นมาเอง หลังจากที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว และหน้าทีอย่างที่ 2 เป็นหน้าที่หลักที่แท้จริง คือ หน้าที่ทางจิตวิญญาณ คือ แก่นแท้ของเรา โลกทางกายภาพนั้นคือ มายา ถามว่า ถ้าจะให้ชั่งน้ำหนักแล้วน้ำหนักมันจะเอียงไปข้างไหนมากกว่า ระหว่างทางแก่นแท้และหน้าที่ทางโลกมายา ลูกๆ ของพระบิดาก็ต้องตอบว่า หน้าที่ในมิติของแก่นแท้นั้นต่างหาก
     
  6. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    (ต่อ)

    หน้าที่ของเรา คือ รักโลกและต้องพิทักษ์โลกใบนี้ เอาไว้ให้สมดุลย์ ถ้าโลกใบนี้ย้ายพิกัด เป็น
    เพราะเสียสมดุย์ เอกภพของเรา ก็จะเสียสมดุลย์ไปทั้งระบบ ทุกอย่างก็จะเกิดการเสียหาย กันอย่างขนานใหญ่ จะมีปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่ลูกๆ จะคิดกันไม่ถึง คาดไม่ได้ พระบิดาจึงยอมให้ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ เสียสมดุลย์ไม่ได้โดยเด็ดขาด

    เมื่อลูกๆ ทำ ไม่สำเร็จ เมื่อลูกๆ ล้มเหลว หรือเมื่อลูกๆ ถึงคราวที่เหลวไหลกันจนสุดๆ แล้ว
    การคืนความสมดุลย์ย้อนคืนให้กับดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ จึงเป็นภาระกิจที่จักรวาลมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เมื่อต้องสร้างความสมดุลย์ การเสียหาย หรือการสิ้นสูนย์ ต้องเกิดขึ้น โลกต้องบอบช้ำอย่างมาก และดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ จึงมีโอกาสใช้งานได้อีกแค่ 20,000 กับอีก 700 ปี แค่นั้นถ้าชำระโลกใบนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว

    ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการชำระโลก ชำระตั้งแต่ในใจกลางโลกขึ้นออกมาเป็นลาว่า
    ออกมาเป็นภูเขาไฟ ชำระแผ่นเปลือกโลกจาก 3 แผ่นให้เป็น 7 จาก 7 ให้เป็น 9 เผลอๆ จาก 7 อาจเป็น 12 ก็ไม่แน่ ถ้าหากว่าลูกๆ แย่เร็วกว่าที่คิด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บุตรเอกแห่งบิดามิได้กล่าวเพ้อเจ้อ ไม่ได้กล่าว อย่างละเมอเพ้อพบ เพราะคำกล่าวทุกคำล้วนเป็น สัจจะ ที่ได้ยินกันทั่วทั้งไตรภพ คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรก นอกจากนั้นแดนสุญญตา ที่องค์พระบิดาสถิตย์อยู่ ก็มีเสียงนี้สั่นสะเทือนอยู่ ก้องไปทั้งจักรวาลที่เป็นสากล

    พี่ๆ น้องๆ ของพวกเจ้าทั้งหลายที่ได้ผ่านการเกิดเป็นมนุษย์มาแล้วกันหลายครั้ง หลายรูปธรรมก็ร่วมรับฟังการกล่าวโอวาท ของพระบิดา บนดาวเคราะห์โลกเสรี ในวันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นบุตรรักแห่งบิดาทั้งหลายก็ขอให้จดจำในสิ่งที่สวยทั้งหลายว่าโลกเสรีดวงนี้ จะต้องมีสวรรค์บนดินคืนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ให้ได้ ขอให้ลูกๆทั้งหลายที่ฟังโอวาทในวันนี้ ขอจงให้ทุกคนมีส่วนร่วมที่จะใช้ 1 สมอง 2 มือและหัวใจ 1 ดวงช่วยกันมีส่วนร่วมในการที่จะคืนสวรรค์บนดินให้กับดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ให้ได้ ถึงแม้เวลาที่เหลือจะน้อยนิดก็ตามนะ ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่ภักดี ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่มีสัจจะ สิ่งที่ดาวเคราะห์โลกเสรีถูกกล่าวหามากที่สุด ในจักรวาลอันไพศาลนี้ ก็คือมนุษย์แห่งโลกเสรีเป็นคนที่ไม่มีสัจจะ นั่นคือ คำกล่าวที่น่าอนาถใจ เป็นคำที่น่าอับอายเป็นที่ยิ่ง
     
  7. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    (ต่อ..จบ)

    พวกเราทั้งหลายที่ฟังโอวาทของพระบิดาจงระลึกไว้เสมอว่า สัจจะ นั้นต้องเป็น สัจจะตลอด
    สัจจะ จะต้องศักดิ์สิทธิ์โดยตลอด ถ้าไม่ต้องการเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องไม่ผลิตสัจจะ ถ้าผลิต
    สัจจะ สร้างสัจจะขึ้นมา สัจจะที่ผลิตที่สร้างนั้นต้องศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะให้ศักดิ์สิทธิ์นั้น หมายความว่า
    มันต้องเป็นอย่างที่คิด มันต้องเป็นอย่างที่พูด และมันต้องเป็นอย่างที่กล่าวว่าจะกระทำ หรือให้
    สัญญาไว้ว่าจะทำ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่มนุษย์ทั้งหลายบนดาวเคราะห์โลกเสรีนี้ เสื่อมคลายไปจากคุณสมบัติแต่เดิม และถ้าทุกคนมีสัจจะ รู้สำนึกที่จะปฎิบัติหน้าที่ตามจิตวิญญาณในขณะที่โอกาสที่เหลือยังมีอยู่พอสมควรในขณะนี้ ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ก็จะเป็น สวรรค์บนดินได้ง่ายขึ้นความบอบช้ำของดาวเคราะห์โลกเสรี ก็จะน้อยลง จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าโลกแตก

    แต่เราอาจจะเห็นพี่ๆ น้องๆ ของเราบางคนถึงขั้นสติแตกกันไปบ้าง ก็ปลงเสียว่า มันต้องเป็นของมันเช่นนั้นเอง เพราะนั้นคือ โลกียะธรรมแล้ว มิใช่โลกุตระธรรม ก็ขอให้ทุกคน จงรับเอาคำกล่าวโอวาท และความรู้ใหม่ทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้ เอาไปปฎิบัติใช้เพื่อที่จะไม่มีคำบ่นหรือคำกร่นด่าตัวเอง บวชตั้งน้าน..นานแล้วใยนิพพานไม่ได้ เราจะสามารถนิพพานได้แม้ในชาตินี้

    เชื่อเถอะว่าพลังอำนาจของปัญญาที่เรียกว่า จิตปัญญา ที่พระบิดาติดตั้งไว้ให้ และพลังแห่ง
    ความรัก ที่อยู่ในจิตวิญญาณอันลึกเร้น ที่เดี๋ยวนี้ทุกคน กำลังค้นหา ควานหากันไม่ค่อยจะเจอ
    จนจะต้องให้ธรรมชาติ ที่เป็นภัยพิบัติที่รุนแรง มาเป็นเงื่อนไข บททดสอบความรักเพื่อจะให้สั่น
    สะเทือนเอาความรัก คือ รักตัวกลัวตาย ออกมาให้ได้ เพื่อจะให้เจ่ทั้งหลายเกิดการเรียนรู้กันบ้างแล้ว และก็สุดท้ายสิ่งที่จะต้องอาศัย ก็คือ เครื่องยนต์ของตนเอง ดูแลให้ดี ใช้ให้เป็น บำรุงรักษาให้ดีอย่าอดมื้อกินมื้อ อย่าขี้เหนียวแล้วกินให้ถูกต้อง แล้วอย่ากินสิ่งที่ผิดบาป เครื่องยนต์แห่งกรรม เจ้าทั้งหลายก็จะแข็งแกร่ง แข็งแรง มีสุขภาวะที่สมบรูณ์ทั้งกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

    รวมทั้งสติปัญญาทั้งหลาย โอกาสที่จะเข้าถึงการเห็นแจ้ง คือ ภูมิธรรม โอกาสที่จะเข้าถึงการเป็นผู้มีภูมิปัญญา คือ เฉลียวฉลาดเป็นอัจฉริยะ กะเขาคนนึงด้วย โอกาสที่จะเป็นผู้รอบรู้เป็นพหูสูตรคือ มีภูมิรู้มากๆ เป็นสิ่งที่จะไม่ยากเย็น สำหรับพวกเราทุกคน เพราะถ้ากายไม่แข็งแรงแล้ว สมองไม่โปร่ง จิตใจก็คงไม่แจ่มใส ถ้าจิตใจไม่อิ่มเอิบเบิกบานแล้ว กายก็คงจะมีความสุขความสมบรูณ์ไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น มันก็เกี่ยวพันกันอยู่อย่างนี้ "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pinyar.jpg
      pinyar.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.1 KB
      เปิดดู:
      116
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ทุกอย่างรอดพ้น จบลง สิ้นสุด ด้วยสัจจะ ****

    .......อย่ามารับรู้ธรรมะโอวาทของพระบิดา แลัวก็ยังไปแสวงหาอะไรที่เป็นอวิชชาในสิ่งอื่น หาความรู้เพิ่มเติมแต่ต้องใช้ปัญญา เพราะปัญญานั้นจะหยิบฉวยมานิพพานในสิ่งใดเรื่องใดก็ได้อย่างง่ายดาย ขอให้เข้าถึงสิ่งนั้นอย่างแท้จริง.......

    .......นั้น คือสิ่งที่ จะติงเตือนพี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายเอาไว้ ถ้าเราดีแต่เหลวไหล เอาแต่ทำผิดเอาแต่คิดชั่วมั่วๆกันไป และเข้าใจผิดคิดว่า ตักบาตรทุกวัน นั่งสมาธิทุกคืน แล้วก็มั่นทำบุญสุนทานเยอะๆ แต่ขณะที่ลืมจะชำระจิตของตนเอง .......

    .......ทุกๆ คน จะต้องมีสำนึกที่จะประพฤติและปฎิบัติตน อย่างเข้มแข็ง .......

    .......หน้าที่ของเรา คือ รักโลกและต้องพิทักษ์โลกใบนี้ เอาไว้ให้สมดุลย์ .......

    .......สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บุตรเอกแห่งบิดามิได้กล่าวเพ้อเจ้อ ไม่ได้กล่าว อย่างละเมอเพ้อพบ เพราะคำกล่าวทุกคำล้วนเป็น สัจจะ ที่ได้ยินกันทั่วทั้งไตรภพ คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรก นอกจากนั้นแดนสุญญตา ที่องค์พระบิดาสถิตย์อยู่ ก็มีเสียงนี้สั่นสะเทือนอยู่ ก้องไปทั้งจักรวาลที่เป็นสากล.......

    .......ถึงแม้เวลาที่เหลือจะน้อยนิดก็ตามนะ ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่ภักดี ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่มีสัจจะ สิ่งที่ดาวเคราะห์โลกเสรีถูกกล่าวหามากที่สุด ในจักรวาลอันไพศาลนี้ ก็คือมนุษย์แห่งโลกเสรีเป็นคนที่ไม่มีสัจจะ นั่นคือ คำกล่าวที่น่าอนาถใจ เป็นคำที่น่าอับอายเป็นที่ยิ่ง.......

    .......จงระลึกไว้เสมอว่า สัจจะ นั้นต้องเป็น สัจจะตลอดสัจจะ จะต้องศักดิ์สิทธิ์โดยตลอด ถ้าไม่ต้องการเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องไม่ผลิตสัจจะ ถ้าผลิตสัจจะ สร้างสัจจะขึ้นมา สัจจะที่ผลิตที่สร้างนั้นต้องศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะให้ศักดิ์สิทธิ์นั้น หมายความว่ามันต้องเป็นอย่างที่คิด มันต้องเป็นอย่างที่พูด และมันต้องเป็นอย่างที่กล่าวว่าจะกระทำ หรือให้สัญญาไว้ว่าจะทำ .......

    .......ถ้าทุกคนมีสัจจะ รู้สำนึกที่จะปฎิบัติหน้าที่ตามจิตวิญญาณในขณะที่โอกาสที่เหลือยังมีอยู่พอสมควรในขณะนี้ ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ก็จะเป็น สวรรค์บนดินได้ง่ายขึ้นความบอบช้ำของดาวเคราะห์โลกเสรี ก็จะน้อยลง จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าโลกแตก.......

    ................................
    ถึง ทุกท่านที่เชื่อ พระโอวาทขององค์จิตจักวาล

    ถึงเวลาที่พวกท่านควรจะออกค้นหา สัจจะธรรม โลกุตตระธรรม ได้แล้ว
    ท่านต้องหากันเอง
    ................................

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    จิตจักรวาล....คือ โลกุตตระ คือ พระไตรปิฎก
    ค้นหา โลกุตตระ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    สงสัยว่าคุณหนุมานฯเคยไปเห็นภาพแบบนี้มาแล้วแน่ๆ
    หน้าแท่นประทับ มีพระศาสดาของมนุษย์นั่งอยู่บนแท่นรอบๆ มีสัตว์ปีก 4 ตัวหน้าเหมือนโค หน้าเหมือนคน สิงห์โต และพญาอินทรีย์ มีกระถางคบเพลิงตั้งอยู่ 7 ชุด ที่มีความหมายแฝงอยู่
    รูปนี้เคยออกแบบทำปกหนังสือให้อาจารย์ปริญญา แต่ไม่ได้ใช้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2007
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ภาพวาดนี้ ไม่เคยเห็น...

    แต่....รู้ความหมายของภาพ
    รู้ว่า ... ภาพนี้ สื่อบอกถึง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง

    ตรงกลาง รูปคนผู้หนึ่ง...หมายถึง "โลกุตตระ" คือ "พระไตรปิฎก" ที่อุบัติขึ้นเป็นมนุษย์เหนือโลก
    เพื่อมาสานต่อพุทธศาสนาที่หักกลาง
    แต่ สถานที่จริงนั้น คือ หลักโลกุตตระ และ ธรรมจักร
    ที่บันทึก สัมมะโนของผู้มีสัญญาทำ กับ โลกุตตระธรรม

    รูปวาดสัตว์ทั้ง ๔ ... หมายถึง สัญญาลักษณ์ แทนมนตรีพระของโลกุตตระ ๔ พระองค์
    สถานที่จริง.... อยู่ด้านข้างหลักโลกุตตระ หันหน้าออกทั้ง ๔ ทิศ
    มีพระเปิดโลก...อยู่ด้านหน้า หันหน้าทิศตะวันออก
    พระปิดโลก .... หันหน้าทิศตะวันตก
    พระหันหน้าทิศเหนือ ๑ และพระหันทิศใต้ ๑

    ผู้ชายในรูปวาด ที่นั่งอยู่โดยรอบ...หมายถึง พระพุทธเจ้า
    สถานที่จริง....มีพระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์ นั่งอยู่โดยรอบ หลักโลกุตตระ

    คบเพลิง ทั้ง ๗....หมายถึง สถานที่บูชากราบไหว้ โลกุตตระธรรม
    เลข ๗...เป็นสัญญลักษณ์ของ โลกุตตระ
    คบเพลิง....หมายถึงการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    สายฟ้า สีฟ้าฉากหลัง
    หมายถึง...คลื่นพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบคอบจักรวาล
    จะมารวมกัน ณ สถานที่แห่งนี้
    เป็นคลื่นพลังจาก "หลักสัจจะธรรม" และ "สัจจะ" ที่มนุษย์เคยทำมาจากอดีตไม่อาจประมาณได้
    เหมือนเป็นศูนย์กลางของโลกและจักรวาล

    ขอให้เชื่อใน "สัจจะ" และ จดจำภาพนี้ให้ดี
    ท่านต้องค้นหาเอง จึงจะเจอ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ชื่อ...คัมภีร์นิพพาน

    หมายถึง หนทางหลุดพ้น
    หมายถึง พึ่ง "โลกุตตระธรรม"
    จึงต้องพึ่ง "สัจจะ"
    จึงปรากฏเป็นภาพในใจ ...ให้ท่านวาดออกมาก
    เพื่อนำมา...ส่งต่อ เพื่อรอการเปิดเผย ต่อไป

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    รูปนี้เป็นภาพมายาที่ปรากฎขึ้นในนิมิตรของอาจารย์ปริญญา แต่น่าทึ่งครับที่คล้ายกัน
    อาจารย์บรรยายไว้ว่าที่หน้าแท่นประทับของพระบิดา มีเก้าอี้นั่งล้อมรอบพระบิดาที่อยู่เบื้องหน้า 24 ที่นั่ง (คือองค์พระศาสดาที่ขันอาสาลงมาช่วยมนุษย์ผู้หลงมิติ)แต่ขณะนี้มี 23 พระองค์ที่ประทับนั่งบนเก้าอี้ อีกหนึ่งที่นั้นยังว่างยังเสด็จมากำลังจะถึงดาวเคราะห์โลกอยู่แล้ว ทันทีที่การชำระโลกเสร็จสิ้นเก้าอี้ตัวที่ 24 นั้นจะเป็นของพระศรีอารยะเมตตรัย ที่จะถือกำเนิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเป็นภพชาติที่สาม หนึ่งในภพชาติที่เรารู้จักคือองค์พระจี้กงนั่นเอง เก้าอี้ตัวที่ 24 จึงว่างอยู่ และหนึ่งในนั้นที่อยู่หน้าที่ประทับไม่มีเก้าอี้นั่ง (ท่านที่ 25) เป็นพระศาสดาเช่นกัน แต่ไม่ใช่ผู้อาวุโสทั้ง 24 เป็นพระเชษฐาหมายถึงองค์พระเยซูคริสต์นั้นเป็นน้องที่มีความอ่อนอาวุโสกว่า..และท่านยังไม่ได้กลับคืนไปกราบพระบาทพระบิดา เพราะยังต้องทำหน้าที่ของพระองค์อยู่ หน้าที่ที่อาสามายังไม่เสร็จ..
    เรื่องนี้จริงๆไม่ค่อยอยากเล่า เดี๋ยวกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องน่าศึกษาค้นคว้าคงไม่เป็นไรครับ ส่วนรูปสัตว์นั้นเป็นความหมายของสมองมนุษย์ทั้ง 4 ส่วน..ไว้มาเล่าต่อครับถ้าสนใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2007
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ค้นหาเอง !!!
    คุณ Mead
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เคยพบมา ****

    24 พุทธพยากรณ์ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    ๑.ยุคพระปัจฉิมทีปังกรพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นดาบส ชื่อ สุเมธ ได้สละทรัพย์ที่มีอยู่หลายโกฏิเป็นทาน แล้วออกบวชเป็นฤาษี วันหนึ่งขณะชาวบ้านกำลังทำถนน สุเมธดาบสได้ลงมาช่วยพร้อมทั้งนอนคว่ำลงบนดินโคลนเพื่อเป็นสะพาน ให้ พระทีปังกรพุทธเจ้าได้เดินเหยียยบข้ามไปและ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงพระนามว่า โคดม

    ๒.ยุคพระโกณฑัญญพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระนามว่า วิชิตาวี ได้ถวายทานพระภิกษุสงฆ์แสนโกฏิองค์ โดยมีพระโกณฑัญญพุทธเจ้าเป็นประทาน ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม

    ๓.ยุคพระมงคลพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ สุรุจิ ได้ถวายทานทานพระภิกษุสงฆ์แสนโกฏิองค์ โดยมีพระมงคลพุทธเจ้าเป็นประทาน ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๔.ยุคพระสุมนพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญานาค ชื่อ อตุละ ได้กระทำการสักการะใหญ่แก่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระสุมนพุทธเจ้า เป็นประทาน ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๕.ยุคพระเรวตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ อติเทวะ ได้สรรเสริญพระคุณของ พระเรวตพุทธเจ้า แล้วถวายจีวรห่ม ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าองค์ทรงพระนามว่า โคดม

    ๖.ยุคพระโสภิตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ สุชาต ได้ถวายมหาทานแก่พระสงฆ์ โดยมีพระโสภิตพุทธเจ้าเป็นประมุข ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๗.ยุคพระอโนมทัสสีตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็น ยักษ์ ได้เนรมิตมณฑป ถวายพร้อมกับมหาทานแก่พระสงฆ์โดยมีพระอโนมทัสสีตพุทธเจ้า เป็นประมุขทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๘.ยุคพระปทุมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็น พญาเนื้อ คือ ราชสีห์ ได้เห็นพระปทุมพุทธเจ้า เข้านิโรธสมาบัติอยู่ ๗ วัน จึงทำประทักษิณแล้วบันลือเสียงขึ้น ๓ ครั้ง นั่งเฝ้าพระองค์อยู่ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๙.ยุคพระนารทพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์บวชเป็น ฤาษี ได้ถวายทานและ บูชาด้วยดอกไม้จันทร์แดงแด่พระนารทพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๐.ยุคพระปทุมุตตรพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นชฎิล ชื่อว่า รัฏฐิกะ ได้ถวายจีวรพร้อมภัตตาหารแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๑. ยุคพระสุเมธพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นมานพ ชื่อว่า อุตตระ ได้บริจาคทรัพย์ ๘๐ โกฏแก่พระภิกษุสงฆ์โดยมี พระสุเมธพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๒.ยุคพระสุชาตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ได้ถวายราชสมบัติทั้ง ๔ ทวีป และ รัตนะทั้ง ๗ ประการ ในสำนักของพระสุชาตพุทธเจ้า แล้วก็ออกบวชในสำนักของพระสุชาตพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๓.ยุคพระปิยทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพราหมณ์ ชื่อ กัลสป ได้สร้างสังฆารามใช้เงินไปแสนโกฏฺ แล้วมอบถวายแด่พระปิยทัสสีพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๔. ยุคพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นชฎิลชื่อว่า สุสิมะ ได้นำดอกไม้ทิพย์ มาจากสวรรค์มีดอกมณฑารพ ดอก ปทุม และดอกปาริจฉัตตกะ มาบูชาแด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๕.ยุคพระธัมมทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็น พระอินทร์ บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระธัมมทัสสีพุทธเจ้าด้วยเครื่องสักการะทิพย์ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๖.ยุคพระสิทธัตถพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นดาบส นามว่า มงคล ได้นำผลหง้ามาถวายพระสิทธัตถพุทธเจ้าทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๗.ยุคพระติสสพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า สุชาต ได้ สละราชสมบัติออกบวชเป็น ฤาษี ได้นำดอกไม้ทิพย์มาบูชาแด่พระติสสพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๘.ยุคพระปุสสพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า วิชิตาวี ได้ สละราชสมบัติออกบรรพชา ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๑๙ ยุคพระวิปัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพญานาคนามว่า อตุละ ได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดนตรีทิพย์ ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๒๐.ยุคพระสิขีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า อรินทมะ ได้ถวายผ้าเนื้อดีจำนวนมากพร้อใท้งพาหนะช้างทรง แก่พระภิกษุสงฆ์โดยมีพระสิขีพุทธเจ้า เป็นประมุข ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๒๑.ยุคพระเวสสภูพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า สุทัสสนะ ได้ถวายมหาทานแด่พระเวสสภูพระพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๒๒.ยุคพระกุกกุสันธพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า เขมะ ได้ถวายมหาทานแด่พระกุกกุสันธพุทธเจ้า ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๒๓.ยุคพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นกษัตริย์พระนามว่า ปัพพตะ ได้ถวายผ้าแพร ผ้าสักหลาด เป็นต้น แก่พระสงฆ์ โดยมี พระโกนาคมนพุทธเจ้า เป็นประมุข ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม

    ๒๔.ยุคพระกัสสปพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็น มานพชื่อว่า โชติปาล ได้ออกบวชและสรางคุณงามความดีแก่พระพุทธศาสนามากมาย ทรงได้รับพยาการณ์ว่าจะเป็น พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โลกุตตระกล่าว ****

    รอบนี้ มี ๒๕ พระองค์
    องค์สุดท้าย....พระโคดม
    ต่อไป ก็เริ่มต้นยุคใหม่...พระศรีอารย์

    โลกกำลังเข้ายุค พระศรีอารย์
    พระศรีอารย์ ไม่มีตัวตน
    มาเพื่อต่อเติม เสริมแต่ง แก่นสารสำคัญที่ขาดหายไปในศาสนา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เมื่อคืนฝันถึงคุณหนุมานฯด้วย..
    ไปถามหาคุณหนุมานฯในสถานแห่งหนึ่งกลางตึกใหญ่ แต่พอเดินเข้าไปกลับมีแท่งศิลาสูงใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างโบสถ์สองหลัง ปรากฎว่ามีหญิงผู้หนึ่งปรากฎตัวขึ้นก็พูดคุยกัน ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าคุณหนุมานนั่งอยู่ในห้องลับใต้ศิลาอยู่ตรงนั้น (เค้าบอกชื่อเป็นภาษาจีน..สองพยางค์จำไม่ได้) เห็นคุณหนุมานฯ ใส่เสื้อกราวสีขาวใส่แว่นนั่งหันหลัง กำลังทำอะไรอย่างตั้งใจสักอย่างเกี่ยวกับตัวหนังสือเตรียมส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารที่เป็นหลอดแก้วไร้สายน่าจะ 7อัน พอเดินเข้าไปดูคุณหนุมานฯก็ยิ้มให้..แล้วส่งหลอดแก้วมาให้ดู..ก็มีแสงสว่างเรืองขึ้นมาที่ละอันๆ..

    แล้วอีกช่วงนึงที่จำได้ ก็มาฝันเห็นหนังสือเล่มใหญ่ๆ หนาๆ มีภาษาคล้ายอักขระคาถา พออ่านอยู่สิ่งรอบๆข้างก็เปลื่ยนแปลงสถานที่ไปเรื่อยๆ (เหมือนเปลื่ยนฉาก) เอามาเล่าให้ฟังครับ..สงสัยว่าคุณหนุมานฯส่งกระแสจิตมาหารึเปล่า?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2007
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ไปถามหาคุณหนุมานฯในสถานแห่งหนึ่งกลางตึกใหญ่
    ผ่านพุทธฉายส่องที่หน้าผา
    มุ่งทางไปลงกาเมืองหนุมาน
    ผ่านภูผาทลายสองฝากลานพระ สักพักใหญ่
    เมื่อสันแนวภูหินใหญ่ตัดขอบฟ้า จรดถึงข้างทาง
    พญาคชสารสี่งาจะยืนรอ
    รอดใต้โลกตามทางสู่ลับแล
    เหวี่ยงมาลัยซ้ายหนึ่ง ขวาหนึ่งตามทาง ซ้ายอีกหนึ่ง

    แต่พอเดินเข้าไปกลับมีแท่งศิลาสูงใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างโบสถ์สองหลัง
    สองธรรมะขามข้างขนาน
    เบื้องขวาวิมานปิดตายหลายชั้น
    มุดอุโมงค์รอดใต้วิมานนั้น


    พ้นวิมานพบหลักโลกุตตระ
    คือแท่งหินสูงเสียดฟ้าพระพุทธเจ้านั่งรอบ
    ก้มลงกราบพระเปิดโลกตามสัญญาจึงได้พบ
    ตรงต่อ หลังหลัก พักคลายสังขาร


    เดินตรงไป คือบันไดขวางถ้ำศักดิ์สิทธิ์
    ก่อนบันไดคือกายธรรมเที่ยงแท้ที่ตามหา
    พุทธองค์เฝ้าสังขารศักดิ์สิทธิ์ปีสิบสามมา
    รอเวลาเปิดเผยธรรมเหนือโลก

    กำลังทำอะไรอย่างตั้งใจสักอย่างเกี่ยวกับตัวหนังสือเตรียมส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารที่เป็นหลอดแก้วไร้สายน่าจะ 7อัน
    ธูปเจ็ดดอกบอกถวายสัจจะโลกุตตระ
    คารวะครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ตัวตน สัจจธรรม

    [​IMG]
     
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625

    มีเงื่อนงำ ^^
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ใช่ๆมีเงื่อนงำ..[ต้องตามหาร่องรอยซะแล้ว..]
    หลักฐานปรากฎของสถานที่นั้น ถึงมีอยู่จริงก็ไม่พบ
    ต้องตามหาด้วยจิตของเราล้วนๆ..สัมผัสด้วยใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...