ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

อ่านทุกวัน ได้ความรู้ทุกวันครับ

 

บางครั้งสวดตามภาษาบาลีดีกว่า อย่าไปรู้คำเเปลมันเลย ความขลังจะลดลง คุณว่าจริงไหม บางครั้งบทสั้นที่เราพยายามท่องจนจำได้ พอจำได้ ไปดูคำเเปล เเปลง่ายขนาดนี้เลยหรอ สรุปงง จะท่องคำเเปล หรือบาลี สับสนไปหมด ฮ่าๆๆๆๆๆ คือผมสื่อว่า พอเรารู้คำเเปล ความคิดเรา มักคิดว่าอานุภาพคาถามันลดลง คือหากสวดตามภาษาบาลีมันยังดู ขลัง ดูสักดิ์ศิทธิ์กว่า

 

ผมเองช่วงแรกๆที่เข้ามาอ่านก้ติดงอมแงมเลยคับพี่55 ขอบอกว่าที่นี่มีคุณภาพคับแก้วทีเดียวเชียว(หากแต่หลังๆมาไม่ค่อยมีคนเข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติมเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้นเอง...บ้านเลยดูเงียบเหงา55)..คนรุ่นหลังเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยให้ความสนใจในศาตร์แบบนี้ซักเท่าไหร่กันแล้ว ทั้งๆที่เป้นมรดกที่ควรค่าแก่การเก้บรักษาและสืบสาน..ไสยะไม่แปลว่าจะต้องต่ำช้าและน่ากลัว หากแต่ขึ้นอยู่กับคนที่นำไปใช้ต่างหากว่าจะนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในทางใด..ประพฤติชั่วก้ไสยดำ...ประพฤติดีก้ไสยขาว...อยู่ที่เราจะเลือกนำไปใช้ในรูปแบบไหน...ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ..สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว..*-*

 

ผมเองก้เคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกไว้เหมือนกันว่า บางครั้งคาถาไม่จำเป้นจะต้องรู้คำแปลหรอกเดี๋ยวมันจะไม่ขลัง55 จิงเท็จผมเองก้ไม่รู้...
หากแต่บางคาถา..เมื่อถอดคำแปลออกมาแล้วก้ไพเราะน่าฟังชวนให้เพิ่มอรรถรสในการสวดไปอีกแบบหนึ่ง..ทั้งนี้ผมว่าคงขึ้นอยู่กับอัธยาศัยและจริตของแต่ละคนละมั้งคับว่าจะชอบสวดแบบบาลีล้วนที่ชวนให้รู้สึกว่าเข้มขลัง! และหรือชอบสวดแบบคำแปลที่ทำให้รู้สึกอิ่มใจเพราะมักจะมีมโนนึกน้อมไปตามคำแปลที่ตนเองสามารถจินตนาการสิ่งนั้นขึ้นมาได้ตามความรู้สึกที่เข้าใจในคำแปล...ที่สุดแล้วผมว่าจะแปลและหรือไม่แปลก้ไม่สำคัญเท่ากับจิตที่ตั้งมั่น มีสมาธิจดจ่อแน่วแน่ในการสวดในบทนั้นๆ...บาลีก้ดูเข้มขลัง..บทแปลก้ไพเราะไปอีกแบบ 55 สุดท้ายแล้วลงที่จิตตัวเดียวล้วนๆพี่ว่าจริงมั้ยคับ...*-*

 

คาถานะโมตาบอด "ของหลวงพ่อกวย"

ซึ่งเป็นคาถาแคล้วคลาด กำบัง ป้องกันภัย หลวงพ่อกวยท่านเขียนฝากไว้ให้ สื่อถึงท่านโดยตรง เพราะท่านเขียนไว้ให้ก่อนที่ท่านจะมรณะภาพ

" นะ ตัน โต นะ โม ตัน ติ ตัน ติ ตัน โต นะ โม ตัน ตัน"

ปล..ผมได้รับรู้และได้พักลักจำมาจากกระทู้ดีดี ของหลวงพ่อกวยนะครับ....*-*

 

ขอบคุณที่หลายๆท่านยังมาทักทายบนกระทู้กันเรื่อยๆครับ ..ก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับ อยากให้กระทู้เป็นของทุกๆท่านที่สนใจด้านนี้..ส่วนท่านใด มีความเห็นต่าง ก็ไม่ว่ากัน ขออย่างเดียวว่า ควร พูดคุยในเชิงสร้างสรรค์...

ยุคปัจจุบัน วิชาไสยศาสตร์ดูจะถูกบิดเบือนไปหลายด้าน อาจจะเป็นเพราะ มีสื่อที่รวดเร็ว ทำให้ มีทั้งข้อดี และข้อเสีย..ข้อดี คือ ได้มีโอกาสเผยแพร่ความรู้ได้กว้างขวาง แต่ข้อเสีย ถ้า ผิดเพี้ยนไปก็เร็วจนแก้ไม่ได้ และ ที่สำคัญถึงขั้นนำวิชานี้ไปทำมาหากิน แบบ หลอกลวงกันไปเสีย..

วิชาไสยฯ ส่วนใหญ่ ต้องใช้ ปสก. และ มีความเชื่อ เป็นพื้นฐาน เพราะความสำเร็จ พิสูจน์เป็นรูปธรรมยาก เว้นเสียแต่ เจอเฉพาะตน...โดยเฉพาะเรื่องความเป็น ตาย เมื่อใครเผชิญ ความอัศจรรย์ ยิ่งทำให้ เชื่อมั่นมากขึ้นไปอีก ใจเราก็ไม่เกิดความ ลังเล สงสัย เพราะ มีข้อพิสูจน์ในตัวเราเองแล้วนั่นเอง...แต่ก็ต้องไม่ประมาท ไม่ละเลย คำสั่งสอนครูอาจารย์...สมัยก่อน หลายท่าน แม้กระทั่งแก่ชรา แล้ว ยังคงไม่คลายความขลัง..ในสมัยเด็ก ผมจึงเห็นบ่อยครั้งที่เวลาเผาศพ สัปเหร่อ ต้องทำน้ำมนต์จากน้ำมะขามป้อม พรมศพที่เผาไม่ไหม้ เพราะ สัก ยันต์ไว้...เคยถามลุงสัปเหร่อ ก็บอกว่า มะขามป้อม มันคือวิชาถอน วิชาแก้

บ่อยครั้ง ผมก็เคยไปแลกเปลี่ยน ปสก.พูดคุย กับ นักรบรุ่นเก่า สมัยที่ รบกับ ผกค. มาหลายสมรภูมิ แต่รอดมาได้ทุกครั้ง เพราะ สัก และได้คาถาจาก ลพ.วัดหนึ่ง จ.น่าน มาไม่กี่ตัว...เท่านั้นเอง.(แต่ถ่ายทอดไม่ได้เพราะ ลพ.บอกว่าให้แค่ใช้).แก บอกว่า เจอทั้ง ปืน ยาว ระเบิด กระทั่ง อาร์พีจี ยิงเฉี่ยวหัว จนหมวกหลุด เลย..สมรภูมิที่นักรบไทย ต้องพลีชีพกันหลายชีวิต นักรบที่เก๋าๆ ยุค รบกับ ผกค.มาก็พลีชีพไปหลายคน คือ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า ท่านบอก เข้าตี ทหารลาว เกือบถึง ประชิดตัว โดนมันโยนระเบิดใส่ราวห่าฝน ร่วงกัน ระเนระนาด ตัวท่านเอง ภาวนา อย่างเดียว เอาเท้า เขี่ยระเบิดมือ ที่หล่นมา จนคิดว่าไม่รอดแน่ ..ท่านบอกยังกะในหนัง แต่ก็แปลก คือ ตกใกล้ มันไม่ระเบิด แต่พอลูกไหน เตะออกไป ก็ตูม ทันที..ท่านบอกว่า ไสยศาสตร์ นี่ มีจริงๆ ..แต่ อย่าไปสงสัยนะ..เพื่อนกัน ก็ไปสัก แต่ไม่ค่อยเชื่อ ไม่ค่อยถือ(ไม่ทำตามข้อห้าม)..สุดท้าย ขาขาด เพราะกับระเบิด..

เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง...เพื่อให้ ครึกครื้น กันบ้าง..ส่วนวิชาทางด้านอื่น ถ้าไม่ใช่วิชาป้องกันตัวนั้น ดูจะต้อง ใช้เวลาในการพิสูจน์ พอควร ..

 

โล่งใจแกมดีใจที่เจ้าบ้านท่านกลับมาเล่าประสบการณ์สิ่งดีๆให้ได้ศึกษากันอีก..โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องเวทย์คาถามาตั้งแต่เด้กชีวิตผูกพันกับเรื่องราวเหล่านี้มาเนิ่นนาน..เลยไม่อยากให้กระทู้นี้เลือนหายไปกับกาลเวลา..หากท่านใดได้มีโอกาสเรียนรู้ไสย์เวทย์อย่างจิงจังจะรู้ว่าศาสตร์แขนงนี้มีเสน่ห์น่าหลงไหล..หากจิตถึงทำเองได้จะสนุกกับมันเป้นอย่างมาก..หากยังใช้ป้องกันตนเองยามทุกข์ยากและหรือยามคับขันได้อีกด้วย...ดีกว่าที่เราห้อยพระร้อยองค์เสียอีก แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับตนเองว่าเราจะถือของได้ขึ้นและดีแค่ไหน..ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบที่ครูอาจารย์ท่านได้วางไว้หรือไม่..แต่ทั้งนี้ก้ไม่ได้หมายความว่าพระเครื่องไม่ดีนะคับ(ที่สำคัญเราจะหาพระเครื่องแท้ๆแบบเจ๋งๆมั่นใจในอิทธิฤทธิ์และพุทธคุณได้จากไหน)ของเก้ก้ทำปลอมขึ้นมาแบบปราบเซียนก้มากมาย... หากแต่เราลองนึกดูว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบไม่คาดคิดขึ้นมาแบบว่าพระเครื่องหลุดหายและหรือลืมท่านเอาไว้ที่ไหนซักแห่งท่านจะทำอย่างไร..(งานนี้คงมีแต่เจ้งกับเจ๊าหากบุญยังเกื้อหนุนดวงชะตายังไม่ขาดก้อาจแค่คางเหลือง) มีพระเวทย์คาถาอาคมติดตัวอย่างไรเสียก้เป็นของอยู่กับตัว ถึงยามคับขันก้สามารถนำมาใช้ได้ในทันทีทันใด...(หากแต่จริงอยู่ทุกอย่างในโลกล้วนต้องไม่เกินกฏแห่งกรรม!) แต่ก้ยังดีกว่าที่เราไม่ได้มีอะไรไว้ป้องกันตัวเลยจริงไหม!
ปล..ผมเองก้ยังงูงูปลาปลา..แค่พอเอาตัวรอดได้เท่านั้น..แต่ยังไม่ถึงขั้นเก่งกล้าสามารถถึงขั้นนำไปใช้แบบเอกอุได้เหมือนครูอาจารย์ที่ท่านฝึกฝนจิตมาอย่างดีพร้อมแล้ว..หากอยากรู้อะไรดีๆก้ลองถามท่านเจ้าบ้านดูนะคับ..ท่านเก่งและรู้อะไรดีๆเยอะ(ผมเดาเอานะ*-*)

 

ท่านเจ้าบ้านยังมีเรื่องราวของครูบาบุญชุ่มมาเล่าให้ฟังอีกมั้ยคับ..อยากฟังเรื่องราวของท่านอีก..เพราะได้แง่คิดเตือนใจหลากหลายอย่าง..อีกทั้งปฏิปทาของท่านก้ชวนให้น่าเลื่อมใสศรัทธา...ผมอยากฟังคำสอนของท่านอีกคับ*-* ที่สำคัญผมว่าเรื่องเล่าของท่านยังน่าจะมีอะไรที่มหัศจรรย์ให้เราๆท่านๆได้เปิดหูเปิดตาอยู่อีกมากมาย อาทิเช่น ลี้ลับ ลักลับ เรื่องราวต่างๆที่เหนือวิสัยปุถุชนคนเดินดินทั่วๆไปจะเข้าถึง.. *-*

ปล..จีวรของครูบาท่านที่ทอด้วยใยบัว ที่ท่านเจ้าบ้านกรุณามอบให้เพื่อบูชาและระลึกถึงพระคุณท่านนั้นตอนนี้ผมได้นำไปรวมกับผ้ายันต์พิชัยสงครามของหลวงพ่อฤาษีพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ม้วนกับตะกรุดแผ่นทองที่เขียน วันเดือนปีเกิดของตัวผมเอง ทำเป็นสายประคตรัดเอวเรียบร้อยแล้วนะคับ...ขอบพระคุณคับ

 

โมทนาสาธุครับ...ได้อ่านแล้วชอบจังรู้สึกเย็นดี...ขอนำไปสวดนะครับขอผลบุญที่เคยทำมาทั้งปวงจงมีแด่ผู้บอกกล่าวพระคาถานี้ทุกๆท่าน...ขอบพระคุณครับ..โมทนาสาธุ

 

เรื่องครูบาบุญชุ่มฯ นั้นคง ปัจจัตตังครับ บางเรื่องก็เล่าได้ บางเรื่องก็เล่าไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นบาปในมุมกลับหากท่านที่ไม่เชื่อ แล้วมาอ่าน ปรามาสท่านเพราะเราไป...แต่ที่แน่ๆ ท่านนั้น มีเมตตาบารมีเหลือหลายต่อ ทุกผู้คนที่ไปกราบท่าน...หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจ ในบางครั้งที่ว่า ทำไมมีแต่ เจ้าขุนมูลนาย ผู้มีอันจะกิน ได้ใกล้ชิด เรื่องนี้ คงไม่จริง เพราะหลายครั้งที่ได้กราบท่าน ก็มีหลายท่าน ที่ออกจะยากจน มาไกลแสนไกลมากราบท่าน ท่านก็เมตตา ให้ อะไรต่อมิอะไร ไปก็เยอะ..แต่ท่านก็จะพูด จะสนทนา ต่อคนที่ไปกราบท่าน แล้วแต่ สภาวะจิต...คนทั่วไป ไม่ได้ไปขอ ข้ออรรถข้อธรรม ท่านก็จะไม่พูด เล่นพูดเพลิน ท่านจะพูดเฉพาะ สาระสำคัญ...ส่วนท่านใด มีกุศลจิตคิดใฝ่ธรรม ท่านก็ตอบได้จะแจ้งไปตามปัญหาที่อยากรู้ เป็นคนๆไป...

ในโอกาสอันใกล้นี้ผมก็คงจะข้ามไปกราบท่านบ้าง เพราะได้ใกล้ครูบาอาจารย์ ทำให้จิตปิติขึ้นครับ
แต่ใครจะไปขอให้เช็คก่อนนะครับ เพราะท่านเข้ากรรม บ่อยเหมือนกัน ครั้งละ ๗ วัน โน่นแหละ..้

 

ด้วยความเต็มใจและยินดีเป้นอย่างมากเลยคับ..*-* ลองดูนะครับผมเองก้รู้สึกเหมือนกับคุณนะที่บอกว่า..รู้สึกเย้น..อาจเพราะถ้อยความเนื้อหาและคำแปลสื่ออกมาในแนวทางที่กล่าวถึงคุณของ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า เป็นที่พึ่งกระมังคับความรู้สึกแรกที่สัมผัสถึงจึงรับรู้ได้ว่า"เย็นใจ" *-*

และยังมีอีกหนึ่งคาถาที่ผมสวดมานานแล้วเหมือนกันแรกๆก้ใช้วิธีเปิดอ่านเอา พอชำนาญและคล่องปากแล้วก้ไม่ต้องเปิดหนังสืออีกแล้ว.."คาถาธารณปริต"
พระคาถานี้มีคุณอนันต์มากมายนัก..หากจำไม่ผิดท่านเจ้าบ้านก้เคยกล่าวถึงอยู่เหมือนกัน..ลองดูนะคับ..บางทีคุณอาจจะสัมผัสได้ถึงพลานุภาพแห่งพระคาถา..*-* เนื้อถ้อยกระทงความของพระคาถานี้เมื่อแปลออกมาแล้วก้ไพเราะดีไปอีกแบบ..สามารถสร้างความอุ่นใจเราได้เลยทีเดียวเมื่อรู้คำแปลของพระคาถา..จะสวดแบบบาลีล้วนและหรือบาลีด้วยแปลด้วยก้ไม่ผิดกติกาคับ..เอาตามที่เราชอบ..ผมเองวันไหนจิตตกหรือไม่รู้สึกสบายใจก้จะสวดแบบบาลีพร้อมแปลไปด้วย...หากวันไหนจิตฮึกเหิมสมาธิจิตดีก้จะอาศัยสวดแบบบาลีล้วนๆ ลองดูคับ...ของดีแบบนี้เทคนิคไม่ต้อง*-*

 

ขอบคุณคับอาจารย์หากจะนำมาเล่าบ้างเพื่อเป้นวิทยาทาน..จะแนวธรรมะล้วนๆหรือแนวเหนือโลกก้ไม่ว่ากัน..ตามเหตุตามปัจจัยคับ *-*
ติฉินนินทา ปรามาส ก้าวล่วง คงจะไม่พ้นวิสัยปุถุชนคนเดินดินทั่วไปเพราะใจคนหยั่งยาก ร้อยพ่อพันแม่ นิสัยที่บ่มเพาะก้แตกต่างกัน อริยะเจ้าบางองค์ที่ปฏิปทาท่านดีงามขนาดไหนก้ยังไม่พ้นโดนปรามาสและหรือนินทา..โบราณถึงมีคำกล่าวที่ว่า "ปฏิมายังราคิน" สากะรัยกับคนเดินดินจะไม่โดนนินทา" *-*

 

อาจารย์คับ..อาจารย์พอมีประสบการณ์เกี่ยวกับการสวดพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์"พระคาถาพระปัจเจกพุทะเจ้า"ของหลวงปู่ปานบ้างมั้ยคับ...ผมเคบสวดอยู่พักนึงแต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากเพราะไม่ได้หวังผลทางโชคลาภ..หากแต่สวดเพราะครูผึ้งและหรือหลวงปู่ปานผมไม่แน่ใจ ท่านบอกว่าหากบริกรรมพระคาถานี้ย่อมยังผลให้เกิดสมาธิจิตที่ดีและต่อยอดไปจนถึงฌานสมาบัติด้วย...ขอบคุณคับ *-*

 

ไม่เคยครับ..เคยสวดอยุ่ แต่ไม่สม่ำเสมอ อาจจะเพราะ ไม่มีโอกาส ตักบาตร ได้ทุกวัน
แต่ก็ ศรัทธาท่านมากครับ

 

กราบครูบาบุญชุ่มครับ

 

สวัสดีครับพี่เสธ.............ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ ไม่ได้มาเยือนกระทู้นานเลยครับ

 

ขอบใจ หลายๆ น้องนัน..
พี่ก็ไม่ได้เข้าบ่อยเหมือนกัน..เพราะช่วงนี้ ไปพักผ่อนอยู่ฝั่งพม่า เนต แย่มากมายเลย...

..ขอให้ เจริญในธรรม ละกัน..

 

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านในเว็ปพลังจิตแห่งนี้..และสวัสดีปีใหม่พี่ๆเพื่อนทุกคนในบ้านหลังนี้..
ขอให้มีความสุข...สุขทั้งกาย..สุขทั้งใจ...สมหวังในสิ่งทั้งปวงที่ปราถนา...เฮงเฮง..รวยรวย...ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีงามตลอดทั้งปีนี้ทุกท่านทุกคนนะคราฟ..*-*

 

ศุภฤกษ์..ดิถี..ขึ้นปีใหม่
ขอชาวไทย..ทั่วประเทศ..ทั่วเขตขันต์
ทั้งหญิงชาย..นายน้า..ถ้วนหน้ากัน
มีความสุข..ทุกวี่วัน..กันทุกคน
ขอคุณพระ..ช่วยปกปักษ์..รักษาท่าน
ช่วยคุ้มกัน..อันตราย..ภัยอย่าเห็น
มีโชคลาภ..วาสนา..มาเช้าเย็น
บุญส่งเป็น..เจ้านายคน..จนไม่มี​

 

สวัสดีปีใหม่ครับ วันนี้นำคาถาเก่า ๆ มาให้อ่าน มาให้ท่องกันครับ
เป็นคาถาทีุ่คุณ tang_2536 โพสไว้ และคุณ ศนิวาร มาโพสตอบครับ
ขอขอบคุณทั้งสองท่านด้วยครับ และขออนุญาตมาโพสเผยแพร่นะครับ


คาถาหัวใจทศกัณฝากแม่ธรณี

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A.353536/