ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย tang_2536, 24 ตุลาคม 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    แก้วที่ผมเก็บไว้ไม่ได้เป็นหินครับ เป็นเหมือนแก้วที่ผ่านความร้อนสูงๆ แล้วหลอมเหลวเป็นรูปร่างขึ้นมาครับ ผมเคยสอบถามจากแม่หลายรอบถึงสถานที่ที่แม่เก็บได้ แม่ยืนยันว่าในร่องดินที่นกเขี่ยไว้เป็นที่นอน แก้วนั้นอาจเกิดจากการที่นกสำรอกอาหารออกมาก็เป็นได้นะครับซึ่งก็แปลกดี แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นของในยุคปัจจุบันนี้ครับ เพราะสมัยนั้นผมยังไม่เกิดเลยครับ ทีวียังไม่มีดูกัน ถ้ายังไงเดี๋ยวจะให้คนที่บ้านถ่ายรูปแล้วส่งให้วิเคราะห์กันดูครับ
     
  2. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    พระคาถาพระเจ้าเก้าตื้อ

    เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ไปกราบสักการะ พระเจ้าเก้าตื้อที่วัดสวนดอก และก็ได้ไปเจอบทความแจกฟรี จึงลองอ่านดู ซึ่งกล่าวถึงที่มาของพระคาถาพระเจ้าเก้าตื้อ ถ้าใครได้สวดภาวนาประจำจะทำให้ชีวิตผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้และชีวิตก็จะมีความเจริญขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ (จากที่อ่านมานะครับ) เนื้อหาพระคาถาที่ว่านี้คือ

    จุติ ปาปัง วิสัมภะเว เสติตัม เมตตัมปิ


    หากท่านใดอยากทราบเรื่องราวที่มาของพระคาถาก็อ่านได้จากไฟล์แนบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    รำลึกพระคุณหลวงปู่ดู่
    โดย ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร

    จากหนังสือกายสิทธิ์
    อาตมา พระบุญชุ่ม ญาณสังวโร จำพรรษาอยู่ที่พระธาตุดอนเรือง เมืองพงษ์ เขตพม่า ในพรรษาที่ ๒อาตมาได้นิมิตเห็นหลวงปู่แก่เฒ่าองค์หนึ่ง อายุประมาณ ๘๐ ถึง ๙๐ ปี มาเทศน์ให้ฟังตอนที่อาตมาเข้ากรรมปฎิบัติไม่พูด ๗ วัน ท่านเทศน์สอนเรื่องการปฎิบัติให้มีสติและให้อยู่สันโดษ มีขันติ มีเมตตา และความเพียร ให้ถึงความพ้นทุกข์ ให้ดับเสียสิ้นชาติ ชรา พยาธิ มรณะ ให้ถึงซึ่งพระนิพพานเป็นที่สิ้นสุด

    ท่านเทศน์เป็นภาษาบาลี และแปลเป็นไทยให้ฟังอย่างชัดเจน แล้วท่านก็เทศน์สอนเรื่องปฎิจจสมุปบาทและเทศน์ให้ฟังอีกหลายอย่าง อาตมารู้สึกปิติและอิ่มเอิบในรสพระธรรมของท่าน อาตมาจึงนึกถึงหลวงปู่องค์นั้นเสมอว่าท่านนั้นเป็นใคร และยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ได้แต่กราบขอพรท่านทุกวันต่อมาไม่นาน หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ท่านเป็นอาจารย์องค์สุดท้ายของอาตมา ที่ท่านได้ส่งตัวอาตมาไปทำความเพียรที่ภูเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล แล้วท่านก็ไปรับกลับมาบวชพระที่เชียงใหม่และอาตมาก็จำพรรษาที่พม่า พอดีอาตมาทำบุญคล้ายวันเกิด วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๓๑ อาตมาได้นิมนต์ หลวงปู่โง่น ได้โปรดเมตตารับเครื่องไทยทานใน วันที่ ๔ มกราคม หลวงปู่โง่น ค้างคืนที่วัดพระธาตุดอนเรือง ท่านได้เอ่ยถึง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าเป็นพระที่มีเมตตาองค์หนึ่งในอยุธยาและเป็นพระอริยบุคคลองค์หนึ่ง อาตมาได้ยินก็อิ่มเอิบ ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง อยากจะไปกราบไหว้บูชาพระองค์นั้นพอดีอาตมาได้ไปทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงปู่โง่น พอเสร็จก็ขออนุญาติหลวงปู่โง่นไปกราบหลวงปู่ดู่ ซึ่งหลวงปู่โง่นก็อนุญาติและเขียนจดหมายกำกับไปด้วย พอไปถึงวัดสะแกก็เข้าไปกราบหลวงปู่ดู่ ท่านกำลังนั่งรับแขกอยู่ที่กุฎิไม้ พอได้เห็นหลวงปู่ดู่ก็นึกขึ้นได้ เหมือนในนิมิตตอนเข้ากรรม (หลวงปู่เฒ่าองค์นั้นก็คือ หลวงปู่ดู่ นั่นเอง !!!) จึงก้มกราบขอพรท่าน ท่านก็ให้พรแล้วยังถวายผ้าไตรจีวรกับพระพุทธรูป ๒ องค์ รูปเหมือนหลวงปู่ทวดอีก ๑ องค์แก่อาตมา และอาตมาก็ถวายน้ำผึ้งและยา ท่านยิ้มแย้มมีเมตตาที่สุด อาตมาเอา พระบรมสารีริกธาตุ น้อมถวายแก่หลวงปู่ ท่านพูดว่า

    "เราพึ่งพูดเรื่องพระธาตุเมื่อตะกี้ บัดนี้ท่านเอาพระธาตุมาถวายเป็นนิมิตหมายมงคลยิ่ง"

    หลวงปู่ก็ให้พรด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ อาตมาได้เอาพระธาตุส่วนหนึ่ง และลูกประคำให้หลวงปู่อธิษฐานจิต ท่านมีลูกศิษย์หนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณสัก ๒๖ หลวงปู่ถามลูกศิษย์ว่า

    "สว่างไหม เห็นชัดไหม มองไปให้ลึกๆ"

    ลูกศิษย์ก็ตอบว่า

    "เห็นแล้ว สว่างแล้ว"

    หลวงปู่จึงปลุกเสกหลับตาอธิษฐานพระธาตุ และลูกประคำ แล้วท่านก็บอกว่า

    "พระธาตุนี้ไปมาหลายที่แล้ว เคยอยู่ที่พระธาตุนครปฐม และพระธาตุนครพนม"

    หลวงปู่ท่านก็สั่งให้เก็บรักษาบูชาไว้ให้ดี อาตมาจึงกราบนมัสการลาหลวงปู่กลับวัดพระธาตุดอนเรือง อาตมาระลึกถึงบูชาพระคุณของหลวงปู่อยู่มิได้ขาด

    ต่อมาไม่นาน อาตมาก็ได้ไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง หลวงปู่ท่านก็แนะนำสั่งสอนให้เร่งความเพียรหลวงปู่คงอยู่ไม่นาน อาตมาก็กลับวัดมาปฎิบัติธรรมตามคำสอนของหลวงปู่ด้วยความอุตสาหะ ยังนึกอยู่ในใจว่าถ้ามีโอกาศจะไปอุปัฎฐากหลวงปู่

    อยู่อีกไม่นาน อาตมาก็ได้ยินข่าวว่าหลวงปู่ละสังขารเสียแล้ว เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง อาตมารู้สึกสังเวช และเสียดายหลวงปู่อย่างมาก ที่ท่านมีเมตตาอบรมสั่งสอนอาตมาซึ่งชีวิตนี้หาไม่ได้อีกแล้ว จึงนึกถึงมรณสติกรรมฐานเป็นอารมณ์ปลงเข้าไปในไตรลักษณ์เป็นกฎธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อาตมาจึงอธิษฐานตั้งใจปฎิบัติธรรมตามคำสอนของหลวงปู่ทุกอย่าง ให้ถึงความพ้นทุกข์ มีพระนิพพานเป็นที่สุด

    หลวงปู่ท่านมรณภาพสิ้นไป เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่ให้ความสว่างส่องแจ้งในโลกและดับไป อุปมาเหมือนดั่งดวงประทีปที่ให้ความส่องสว่างแก่ลูกศิษย์ได้ดับไป ถึงแม้พระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่ได้มรณะไปแล้ว แต่บุญบารมีที่ท่านเมตตา รอยยิ้มอันอิ่มเอิบยังปรากฎฝังอยู่ในดวงใจของอาตมามิอาจลืมได้ ถ้าหลวงปู่มีญาณรับรู้และแผ่เมตตาถึงลูกศิษย์ทุกคน ขอให้พระเดชพระคุณหลวงปู่ เข้าสู่พระนิพพานเป็นอมตะแด่ท่านเทอญ

    อาตมาขอกราบคารวะพระเดชพระคุณ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ด้วยความเคารพบูชาสูงสุด

    พระบุญชุ่ม ญาณสังวโร
    วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพงษ์ เขตพม่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a1286.jpg
      a1286.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      231
    • imagesCASHVCZK.jpg
      imagesCASHVCZK.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.5 KB
      เปิดดู:
      151
  4. teeeeen

    teeeeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +105
    ตามอ่านตั้งแต่หน้าแรก ได้ความรู้มาก ขอติดตามครับ
     
  5. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    [​IMG]พลอยที่ร้านช่วยเจียเป็นหลังเบี้ยให้เผื่อจะเปรียบเทียบลักษณะ
    [​IMG]หินดักแด้ บางก้อนอาจจะใช้เป็นหมอนนกต้อยตีวิตได้(เพื่อการศึกษา)
     
  6. teeeeen

    teeeeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +105
    ขอคาถาวัวธนูและ โองการ วัวธนูหน่อยครับ
     
  7. วีระชัยมณี

    วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,128
    ค่าพลัง:
    +2,548
    เข้ามารอติดตามอ่าน ข้อมูลดีๆครับ
     
  8. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    งานนี้คงต้องรอท่านเจ้าบ้านซะแว้ว!! เกินความสามารถจิง55
    ว่าแต่ก้น่าสนเนาะ..แล้วพี่มีวัวธนูแล้วเหรอคับ..ว่างๆนำภาพมาลงให้ชมเป็นขวัญตาบ้างนะคราบผม..เคยแต่ได้ยินคำล่ำลือกันว่าฤทธิ์เดชสุดยอด บางอาจารย์ที่ท่านมีแบบขลังๆว่ากันว่าทุกวันพระสิบห้าค่ำ ต้องร่ายมนต์ปล่อยวัวธนูของตนเองออกไปกินหญ้าหรือยอดไม้ ส่วนตัวอาจารย์เองนั้นต้องนั่งบริกรรมคาถาไปตลอดย่ำรุ่งรอจนกว่าวัวธนูจะกลับมา..วัวธนู!! ชั้นเยี่ยมว่ากันว่าคือวัวทองแดงสร้างจากโลหะอาถรรพ์หลากหลายชนิด..ฟังๆแล้วเจ๋งสุดยอด แต่เดี๋ยวนี้หาอาจารย์ที่ทำได้เก่งแบบนี้หาได้น้อยเท่าน้อย..และหากมีคนที่นำไปเลี้ยงก้ต้องเก่งกล้าอาคมขลังพอตัวเลยทีเดียวถึงจะเอาวัวธนูแบบนี้อยู่หมัด..อีกตำราหนึ่งว่ากันว่าให้หาเขาวัว หรือเขาควายฟ้าผ่าตายมาคู่หนึ่ง นำสวนปลายเขามาแกะเป็นรูป วัว หรือควาย แล้วเจาะรูไว้ใต้ท้องหากระดูกผีตายโหง หรือผมผีตายโหงเผาไฟบดละเอียดมาใส่ที่ท้องวัวที่เจาะไว้เอาชันโรงใต้ดินปิดทับ นำมาปลุกเสกเรียกจิต เรียกนาม ปลุกเป็นตัววัว แล้วทุกวันพระสิบห้าค่ำ ก็ปล่อยวัว ออกไปเที่ยว หากจะให้ทำอย่างอื่นก็ให้ใช้คาถาปลุก และบังคับให้วัว หรือควายธนูไปตามที่เราสั่ง โดยใช้ไปตัวเดียว อีกตัวเอาไว้เฝ้าป้องกันตัวเรา หากมีคนดีมีวิชา สามารถสยบวัวที่เราส่งไปได้เขาอาจจะบังคับให้วัว กลับมาหาเจ้าของเดิมได้เช่นกัน เมื่อมาวัวที่เราให้รักษาเราก็จะออกไปต่อสู้จนหมดฤทธิ์ไป เราก็นำวัวทั้งสองที่หมดฤทธิ์มาปลุกเสกใหม่ให้มีฤทธิ์เหมือนเดิม..ว่าแล้วก้อยากมีไว้บ้างซักตัวเนาะ เผื่อว่าเอาไว้ป้องกันตัวในยามคับขัน..เข้าป่าเข้าไพรสบายแฮเลยงานนี้..ใครขืนซ่าเข้ามาจะปล่อยให้น้องวัวออกไปขวิดซะใส้แตกเลย55
     
  9. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,071
    วัวธนู ควายธนู

    แหมเล่นของแรงเลยนะ ๕๕๕
    วัวธนู หรือ ควายธนู เป็น วิชาเฉพาะ สำนักครับ มี ตั้งแต่ ระดับชั้น ต่ำ กลาง สูง

    ต่ำ หมายถึง ใช้งานทั่วๆไป เน้น รับ ไม่เน้น ด้านรุก หรือ ทำร้ายกลับคืน ด้านป้องกัน ก็อาจจะ ป้องกันในระดับ ทั่วๆไป สามารถ แก้ ถอน ได้ ประเภทนี้ ไม่ค่อย มีพิธีรีตรองเลี้ยงดู ควบคุม เท่าไหร่ และ บางที คนทำ ก็ใ้ห้คาถาปลุก บ้างไม่ให้บ้าง..

    กลาง ก็สูงขึ้นมาหน่อย เริ่มมี พิธีรีตรอง เช่น ต้องเลี้ยงดุ พอควร เช่น น้ำ หญ้า วางแบบไหน ในกลางวัน กลางคืน ชนิดนี้ ต้องใช้ คาถาปลุก เพื่อให้ เข้มขลัง แต่ก็ยังใช้ไปทำร้าย ไปทำงานไม่ได้ ยัง เน้น เชิงรับ อยู่ ระดับการป้องกัน ต้านทาน อาจจะสูงขึ้น

    ระดับสูง ...ชนิดนี้ ต้อง มีพิธีรีตรอง ในการครอบครอง เลี้ยงดู อย่างถูกต้อง เพราะ เหมือนมีชีวิต (จริงๆจะมีวิญญานสถิตย์นั่นเอง) ต้องพลาดไม่ได้ ไม่งั้น จะทำให้ ผิดครู ถูกเล่นงานกลับ แต่ ชนิดนี้ ใช้ทั้งรุก รับ สามารถใช้งานไปทำร้าย ศัตรูได้ ผมก็ยังไม่เห็นกับตา แต่ เมื่อประมาณปี๓๐ ..ครูท่าน นำมาให้ดู เป็นโลหะสีทอง สวยงาม ตัวเท่านิ้วก้อย..ท่านหวงแหน มาก บอกว่า ใครจะรับต่อ ต้อง ปฏิญาณ ไม่ผิดครู เพราะ ทุกขึ้น ๑๕ ค่ำ ต้องปล่อยออกไปกินยอดไม้ทิพย์..ถามท่านว่า มันไปยังไง ท่านว่า นำมาวางไว้ ในจาน จุดเทียนสีผึ้งหนัก ๑ บาท ว่าบริกรรม คาถา ขับ มันจะหายไปเอง ชั่วเทียนใกล้ดับมันจะกลับมา หากไม่ทำ มันจะหิว พลังจะอ่อนลง และ ที่สำคัญ จะดุร้ายใส่คนในบ้าน ..มีบ่อยครั้ง คนแถวนั้น เห็นวัวตัวใหญ่ นอนขวาง บันได..จึงเท็จ นี่คือคำบอกเล่า จากครูท่าน...สุดท้าย ก่อนครูท่านเสีย มีพระรูปหนึ่ง มาขอสืบทอดไป โดยสัญญาว่าจะไม่สึก สุดท้าย ผมไปตามเพื่อสืบหา พระรูปนั้น มรณะภาพแล้ว ญาติอยู่ทาง ศรีษะเกษ นำศพท่านไป ที่บ้าน...ญาติไม่ทราบรายละเอียดเรื่อง วัวธนู ตัวนั้น ..เลยไม่มีโอกาส ได้ นำมา ครอบครอง..

    นี่คือ สิ่งที่เรียกว่า วัวธนู หรือ ควายธนู โดยสังเขป แต่เรื่องการสร้าง ผมไม่ทราบว่า สำนักใด เก่งกว่าสำนักใด ทราบแต่ว่า ถ้าไล่ ลำดับความยากในการสร้าง จะลำดับจาก ไม้(จักตอกจากไม้ไผ่คานหามผี เศษตอกห้ามทิ้ง เพราะทิ้งไว้แล้ว ผู้หญิงท้องไปข้าม แท้ง ทันที ถือว่า มีบาปมาก) ,ดิน(จากสถานที่ต่างๆ นิยม ใช้ ๗ ป่าช้า) และ โลหะ (ขลังที่สุด สร้างยากที่สุด)

    เรื่อง คาถา ปลุก ขับ กำกับ เป็นเฉพาะสำนักครับ...ผมเอง ยังมีแค่ ชนิดกลาง ได้มาจาก สายครูบาทางเหนือ ใช้คาถากำกับตามท่านให้มา เน้น ป้องกัน ครับ....
     
  10. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,071
    แบบนี้ ครับ ที่ผมมีไว้..แต่ แค่ ขั้น กลาง ใช้ป้องกัน คุณไสยฯ และฝูงผีปีศาจ ได้ ดี ครับ

    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2013
  11. ฅนโคกว่าน

    ฅนโคกว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    795
    ค่าพลัง:
    +2,767
    ของสำนักไหนหรือพระอาจารย์ท่านใดครับ
     
  12. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,071
    เป็นของ ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล อ.สันกำแพง เชียงใหม่ ครับ ...ท่านที่นับถือกัน นำมามอบให้ เป็นรุ่นสุดท้ายของท่านที่สร้าง ครับ ผมก็เห็นว่า ท่านสร้างได้ถูกวิธีดีครับ และ ทางภาคเหนือ ถือว่า ท่านเป็นผู้ทรงความรู้ สุดยอดด้านวัวธนูรูปหนึ่ง ในสาย ลานนา ...

    ปัจจุบัน ก็ ใช้ตาม ที่ท่านกำกับไว้ตามคู่มือ ข้างต้น ครับ

    อ้อ ผมตั้งชื่อ ให้ วัวผมว่า นิลกาฬ...เคยปะทะ กับ ผีมูเซอ มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้น ไปเจอหมอผีมูเซอ กำลัง ทำพิธีปลุกผี ทำไว้เพื่อจะ ทำอะไรไม่ดีซั้กอย่างนี่แหละ ระหว่างเส้นทาง เราจะผ่าน พอดี ผ่านไปเจอก่อน ผมก็ อาราธนา แล้วบอกว่า นิลกาฬ เอ้ย ถ้าผีป่า ฝูงไหน คิดร้าย จะทำร้ายคนอื่นในแถวนี้ ไล่มันไปซะ...ไม่เกิน ๕ นาที หมอผีที่กำลังทำพิธี อยู่ สั่นผั่บๆๆ หันมามอง ซ้าย ขวา วิ่งกลับไปในหมู่บ้าน...ให้คนไปสืบข่าว บอกว่า ผีที่หมอผีเลี้ยง มันร้องโหยหวน ไม่รู้เปนไร ต้องไปเซ่นไก่ดำ อยู่ ตั้ง ๗ วัน...ก็เลย คิดว่า นี่แหละ ธรรมะ ชนะ อธรรม..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2013
  13. ฅนโคกว่าน

    ฅนโคกว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    795
    ค่าพลัง:
    +2,767
    ประสบการณ์สุดยอดมากเลยครับอาจารย์
    ตามที่เล่ามานี่อาจารย์พกติดตัวไปด้วยหรือตั้งบูชาไว้ที่บ้าน แล้วเรียกไปครับ

    ผมเองก็มีวัวธนูของครูบาคำแสน อยู่หนึ่งตน (ที่ออกวัดโขงขาว ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานร่วมเสก)
    เพียงแต่ว่าไม่ค่อยได้จุดธูปและเซ่นหญ้าตามใบฝอยเท่าไร ตั้งไว้แต่น้ำ
    บทปลุกก็บทเดียวกันนี้เลยครับ 7 วันก็ปลุกที หรือไม่ก็นานๆกว่านั้น
    แต่ว่าจะชวนสวดมนต์เกือบทุกวัน อุทิศบุญให้พร้อม นึกถึงเขาอยู่เสมอ

    ผมบูชากะพร่องกะแพร่งแบบนี้ ประสิทธิภาพการใช้งาน (ขอเรียกแบบนี้นะ) ยังจะดีอยู่ไหมหนอ
     
  14. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    มั้ยหละ!! ท่านเจ้าสำนักมาเองงานนี้เลยมีของดีมาโชว์55 ว่าแต่วัวธนูตัวน้อยน้อยนี่น่ารักเน๊อะอาจารย์..งานนี้คงจะมีการส่งสายลับไปลักพาตัวมาซะแว้วโอม! นิลกาฬเอ๊ยจงมาๆๆ คิคิ....วัวของอาจารย์กับวัวของพี่โคกว่านมาจากสำนักเดียวกันมั้ยคับ..เพราะเท่าที่รู้มาวัวธนูรุ่นนี้ได้รวมเหล่าพระอริยะเจ้าร่วมปลุกเสกอย่างล้นหลาม...เฮ้อ!! มีกันหมดเลยเหลือแต่เราไม่มีกับเค้า..งานนี้คงต้องไปหาวัวชะโบโบ๋น่ารักซักตัวมาเลี้ยงมั้งดีกว่า555 ว่าแต่ตอนนี้เลี้ยงชิสุตัวน้อยๆไปพลางๆก่อนแล้วกันเรา...เศร้าจัย *-*!pig_cryy2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  15. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    วัวธนูของพี่ฅนโคกว่าน...จัดสร้างเมื่อปี 2518 รึเปล่าคับ ว่ากันว่ารุ่นนี้มีเหล่าอริยะคุณาจารย์ระดับบิ๊กๆทั้งนั้น เช่นครูบาชุ่มโพธิโก(วังมุ่ย) หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่พรหมชัย หลวงปู่พรหมจักร หลวงปู่อินทรจักร หลวงปู่บุญทึม หลวงปู่เส่ง อธิษฐานจิต...
    เนื้อวัวธนูที่จัดสร้างเป็นเนื้อทองแดงกว่า80เปอร์เซนเลยทีเดียวเชียว และยังมีปรอทเจ้าน้ำเงินและวัตถุธาตุอื่นๆอีกหลายอย่าง..ว้าว! แค่นี้ก็แซ่บเว่อร์แล้ว อิอิ..ถ้าพี่ไม่อยากเลี้ยงน้องวัวตัวน้อยๆ ส่งมาให้ผมเลี้ยงได้นะขอรับกะบ๋ม...อย่าให้ถึงกับต้องใช้กำลังและพระเวทย์ช่วงชิงกันเลยนะ55 (น้องล้อเล่นนะคับ)...(*__*)
     
  16. tang_2536

    tang_2536 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +12,071
    เรื่อง รุ่นต่างๆที่ท่าน ครูบาคำแสน สร้างนี่ ผมไม่ค่อยสันทัดครับ แต่รู้ว่าสร้างถูกต้องตามพิธีดีทุกรุ่น ที่สำคัญ ท่าน เน้น เรื่อง วิชาอาคม ด้าน วัวธนู โดยเฉพาะ เคยถามท่านผู้รู้ทางเหนือ ก็ทราบว่า ท่านคงเห็นว่า ทางเหนือคงยังมี วิชาไสยฯดำ หรือ เรื่องการทำคุณไสยฯ (โดยเฉพาะการใช้ภูติผี)ใส่กันยังมีอยู่ ดังนั้นถ้าใครมีวัวธนูไว้ครอบครอง ย่อมได้รับการคุ้มครอง เพราะ คุณไสยฯ หรือ ผีร้าย จะกลัว วิชาวัวธนู มาก

    ส่วนที่บอกว่า บูชา แบบ ครึ่งๆกลางๆ นั้น ไม่น่าจะเป็นปัญหานะ เพราะ ท่านเสกให้ใช้งานได้ แบบกลางๆ คือ ขาดตกบกพร่องบ้างก็ไม่เสื่อม แต่อาจจะ มีพลังไม่เต็มที่เท่านั้น เหมือน แบตเตอรี่ชาตไฟไม่เต็ม แต่ยังคงมีแสงสว่างพอใช้ได้ แต่ถ้า บูชาถูกต้องเมื่อไหร่ ก็ กลับมามีพลังดังเดิม ครับ..

    ผมเองจะเน้นพกติดตัวในเวลา เดินทาง ครับ แต่ถ้าอยู่บ้าน ก็ ตั้งไว้ด้านล่างหน้าโต้ะหมู่ ...บูชา หรือ เลี้ยงไว้แบบ เสมือนมีชีวิต คือ มีหญ้า น้ำ และสวดมนต์ก็ แผ่เมตตาให้ ..อย่างน้อยก็พึ่งพาได้ครับ เพราะ พระอริยะท่านอุตส่าห์สร้างไว้ให้แล้ว..ผมเชื่อเช่นนั้นครับ
     
  17. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    คาถาพระอรหันต์

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา.
    ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง นามรูป (กาย-ใจ) ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน.

    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา.
    ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง นามรูป (กาย-ใจ) ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน.

    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา.
    ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง นามรูป (กาย-ใจ) ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน.

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ. ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง.

    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ. ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง.

    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ. ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง.

    นามะรูปัง อะนิจจัง ทุกขัง อะนัตตา. นามรูป (กาย-ใจ) ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
    ไม่ใช่ตัวตน.

    อะนันตัง พะละวัง พุทธัง. พระพุทธเจ้ามีพระกำลังหาที่สุดมิได้.

    อะนันตัง โคจะรัง ธัมมัง. พระธรรมคำสอนเป็นอารมณ์หาที่สุดมิได้.

    อะนันตัง อะริยัง สังฆัง. พระสงฆ์สาวกมีจำนวนหาที่สุดมิได้.

    อะนันตัง โพธิมุตตะมัง. พระโพธิญาณอันสูงสุดก็หาที่สุดมิได้.

    (ภาวนาสวดมนต์ประจำวัน ๆละ ๓-๕-๗ จบ ภาวนาประจำจะดีมาก จะทำให้ทำมาค้าขายคล่อง มีโภคทรัพย์ ปราศจากโรค มีอายุยืน ไม่แก่ง่าย มีสุขภาพแข็งแรง.)

    ตำนานคาถาพระอรหันต์
    ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพระท่านเข้าไปธุดงค์ในรัฐกะเหรี่ยง ท่านได้ไปปักกลดอยู่ที่ชายป่า ไกลจากหมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่หนึ่ง รุ่งเช้าได้มีอุบาสิกาคนหนึ่งจากหมู่บ้านนั้น ได้มาถวายอาหารบิณฑบาต ท่านได้พักอยู่ที่นั้นสอสามวัน
    วันที่ท่านจะเดินทางต่อ หลังได้รับอาหารบิณฑบาตจากโยมอุบาสิกาคนนั้น อีกครั้งหนึ่ง ท่านจึงได้กล่าวปฏิสันถารพูดคุยกับอุบาสิกาคนนั้น ว่าอยู่สบายดีหรือ อายุเท่าไหร่แล้ว ทำมาหากินอะไร เป็นต้น.
    อุบาสิกาคนนั้นก็ตอบว่า “อยู่สบายดีแล้วเจ้าข้า” ที่หมู่บ้านนี้ก็อยู่กันอย่างสงบ ๆ ตามประสาคนบ้านนอก ช่วยเหลือเจือจานกันตามฐานะ ส่วนอายุนั้นดิฉันไม่ได้นับมานานแล้วเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้อายุเท่าไรแล้วเจ้าค่ะ สามีดิฉันอายุร้อยกว่า เสียไปนานแล้ว
    คำพูดของอุบาสิกาซึ่งดูแล้วอายุประมาณสัก ๔๐-๕๐ ปีเท่านั้น กลับบอกว่าอายุเท่าไรจำไม่ได้แล้ว ทำให้พระสนใจ จึงถามว่า “คุณโยมมีของดีอะไรหรือ จึงมีอายุยืน” โยมบอก “มีเจ้าค่ะ” อุบาสิกาบอก “ดิฉันเองก็อยากถวายท่าน เพื่อท่านจะได้ไปบอกคนอื่น ๆ เป็นธรรมทาน หากเข้ามีศรัทธานำไปปฏิบัติ ก็อาจจะได้รับผลอย่างที่ดิฉันได้รับอยู่ก็ได้.
    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนตอนที่ดิฉันเป็นสาวในวันแต่งงานได้นิมนต์พระมาในงานพิธี พระองค์ที่เป็นประธานสงฆ์ ซึ่งชาวบ้านส่วนมากเลื่อมใสศรัทธาท่านว่าเป็นพระอรหันต์ ท่านได้เมตตาให้พระคาถามาสวดมนต์ภาวนา จึงขอเรียกพระคาถานี้ว่า “คาถาพระอรหันต์” ( โดยให้สวดจำนวนจบเท่าอายุทุกวัน ดิฉันมีความเลื่อมใสจึงได้ท่องบ่นภาวนาทุก ๆ วัน เรียกว่ามีเวลาเมื่อไหร่ก็สวดอยู่เสมอเป็นประจำมิได้ขาด) อานิสงส์ที่ได้ก็เท่าที่เท่าเห็นนี้แหละเจ้าค่ะ ดิฉันมีสุขภาพดี อายุมากแล้วก็ยังแข็งแรง สามีของดิฉันเขาไม่ค่อยเชื่อ สวดบ้าง ไม่สวดบ้าง ต้อนนี้เสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนที่เสียชีวิตอายุร้อยเศษ ๆ.
    “แล้วคุณโยมทำมาหากินอะไรเล่า”
    “ขายข้าวสารเจ้าค่ะ” อุบาสิกาตอบ “ที่บ้านขายข้าวสาร โอ่งข้าวสารของดิฉันพอตักขาย มันก็กลับเต็มขึ้นมาทุกครั้ง ดิฉันก็ได้อาศัยรายได้จากการขายข้าวสารนี่แหละเจ้าค่ะ กินบ้าง ใช้ทำบุญบ้าง นี่ก็เป็นอานิสงส์จากการที่ดิฉันได้สวดมนต์ภาวนาคาถาพระอรหันต์นี้เป็นประจำ จึงขอถวายพระคาถานี้แด่พระคุณเจ้า เพื่อที่จะได้นำไปกล่าวแก่ผู้ที่สนใจ มีศรัทธาในการที่จะสวดมนต์ภาวนาต่อไป”.
    หมายเหตุ. อาตมาได้พระคาถานี้มาจากประเทศพม่า เมื่อคราวไปอยู่ที่นั้นระหว่างปีพ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๐๖ เห็นว่าพระคาถานี้มีประวัติดี และตัวพระคาถาก็มีความหมายดี รู้คำแปลแล้วสวดเสมอ ก็เป็นการเจริญกรรมฐานไปในตัวเดียว จึงได้นำมาเผยแพร่ ให้ญาติโยมหลายท่านนำไปใช้ ก็บอกว่าได้ผลดี หากท่านมีศรัทธาก็จงนำไปท่องบ่นภาวนาสวดพระคาถานี้เป็นประจำเถิด. (พระเมธีวราภรณ์)

    ปล..ลองนำไปสวดดูนะคับ ผมเองก้สวดอยู่ทุกวันรู้สึกกับตัวเองได้ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินมักมีมาให้ได้ทานอย่างบ่อยครั้ง เงินทองที่ได้มาจ่ายไปแบบง่ายๆบางทีไม่รู้ว่าหมดไปกับอะไรบ้างก็กลับมาเป็นระบบระเบียบ ไม่มีเรื่องให้ต้องใช่จ่ายอะไรจุกจิกๆเหมือนเมื่อก่อนอีก...เรื่องของสุขภาพ(อันนี้ไม่รู้ว่าจะอุปทานไปเองรึเปล่า) แต่หน้าตาดูสดใสขึ้นมาก ไม่ค่อยเจ้บป่วยแบบออดๆแอดๆ ภูมิแพ้ที่เป้นก้ทุเลาลงมาก...ประสบการณ์เล้กๆที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเอง ลองสวดดูกันนะคับเพื่อว่าจะเกิดอะไรดีขึ้นในชีวิตของท่านกันบ้าง..."อนาคินทร์"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  18. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    ก่อนท่องคาถาความรัก
    ให้ตั้งนะโม 3จบ

    ปุพเพวะ สันนิวา เสนะ
    ปัจจะบันนะ หิเตนะ วา
    เอวันตัง ชะยะเต เปมัง
    อุปะลัง วะ ยะโส ธะเก ฯ

    ให้สวดพระคาถา คาถาความรัก เท่าอายุ กลางคืนจะฝันถึงเนื้อคู่คนรัก เมื่อเรามีสมาธิและตั้งใจดี

    ................................................................................
    มหามนต์รัก

    โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ พุทธัง สะระติ จิตตัง
    สมาคะมา ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา

    คาถาความรัก ให้ภาวนากับดอกไม้ก่อนที่จะส่งให้กับคนที่เรารัก เมื่อเขาหรือเธอสูดดมดอกไม้ก็จะรักเราตอบ..

    ปล..คาถาเหล่านี้ผมเองอ่านเจอจากหนังสือพระ..โดยส่วนตัวยังไม่เคยสวดเลยคับ แฮ่ๆ
    แต่เห้นว่าเป็นคาถาที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมีความรักและหรือทุกข์ใจเรื่องความรัก...เผื่อว่าจะได้ช่วยไม่มากก้น้อย..คิดเสียว่าเป็นกำลังใจในการต่อสู้ต่อไปเพื่อความรักกันเนาะๆ สิ่งสำคัญคือจิตที่ตั้งมั่นในการภาวนาคาถา อย่าลืมข้อนี้กันนะคับ...อยากมากเกินไปก้ไม่ได้ ไม่อยากเลยก้ไม่ได้... ทำจิตให้กลางๆเข้าไว้ พลิกจิตให้มีแต่กระแสเมตตาให้มากๆ เพราะใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกระแสแห่งความเมตตา "ความความชุ่มเย็น" ใครเห้นหรือใครอยู่ใกล้ก้มักจะอยากพูด อยากคุย อยากอยู่ใกล้กับเราไปนานๆ เพราะรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย...สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ชวนให้หลงไหลได้อย่างที่เราไม่ต้องลงทุนเสกสรรปั้นแต่งให้มากความ...เหมือน"น้ำซึมบ่อทราย" ช้าๆแต่แน่นอนและยั่งยืน...ท้ายสุด คิดดี ทำดี พูดดีวาจาไพเราะอ่อนหวาน สิ่งเหล่านี้โบราณท่านว่าเป้นราศรีแก่ตัว...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  19. พระสารทะ

    พระสารทะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,402
    ค่าพลัง:
    +4,697
    ขออนุโมทนากับท่านอนาคินร์ แต่ขออนุญาตแก้ไขคาถาที่เป็นพุทธภาษิต ที่มาในพระธรรมบท บางตอนที่เห็นว่ายังผิดเพี้ยนอยู่ (เจตนาคือไม่อยากให้คำพูดที่เป็นพุทธพจน์บทบาลีหรือคาถาต้องผิดเพี้ยนไป หวังว่าคงเข้าใจในเจตนา) บทแรกที่ต้องขออนุญาตแก้ไข มีอยู่สองคำ คือ ปัจจะ บันนะ ขอแก้ไขเป็น ปัจจุปันนะ ความหมายคือแปลว่า ปัจจุบัน นั่นเอง ส่วนที่สอง คือ ยะโส ธะเก ขออนุญาตแก้เป็น ยะโถทะเก ถ้าแยกออก จะได้แก่คำว่า ยถา+อุทเก ความหมายคือ เหมือนดอกบัวที่เกิดจากในน้ำและในตม ถ้าแปลความหมายของคาถาโดยรวมก็คือว่า ความรักนั้นมีเหตุที่จะเกิดขึ้นได้สองกรณี คือ 1. เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในชาติปางก่อน ที่เรียกว่าคู่บุพเพสันนิวาส 2. ความรักเกิดขึ้นได้ด้วยการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เห็นอกเห็นใจกันในชาติปัจจุบันนี้ ท่านจึงเปรียบความรักนั้นจะเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุสองประการ เหมือนกับดอกบัวที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุสองประการเหมือนกันคือ ดอกบัวเกิดจากเปือกตมและในน้ำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  20. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    สาธุ! คับพี่...ด้วยความเต็มใจเป็นที่สุดคราบผม...*-*
    ความหมายของคาถาเมื่อแปลออกมาแล้ว..รู้สึกดีจังเลยนะคับ..เหมือนดั่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จริงๆ สาธุคราบผม...*-*
     

แชร์หน้านี้

Loading...