พระเนื้อขาว กระทู้เปิดตำนานหลวงปู่ทิม ฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย น้าต๋อย เซมเบ้, 26 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "บุคคลผู้มีจิตผ่องใส เป็นผู้มีศรัทธา ให้ทานด้วยโภคทรัพย์ทั้งหลาย ที่ได้มาโดยชอบธรรม แม้จะอยู่ครองเรือน ย่อมเป็นผู้ยึดถือชัยชนะไว้ได้ในโลกทั้งสอง คือ ประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน และความสุขในสัมปรายภพ การบริจาคดังกล่าวมานั้น ย่อมเป็นเหตุให้บุญกุศลพอกพูนขึ้น... "

    [​IMG]
     
  2. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


    เครื่องรางของขลังต่างๆนั้นหลวงปู่ทิมท่านเล่าว่าอำนาจจิตในการปลุกเสกนั้นเป็นสิ่ง ที่สำคัญมาก ในการที่จะปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆหรือเครื่องรางของขลังเพื่อให้มีพุทธคุณที่ ดีขึ้นมาได้ ในยุคแรกๆนั้นวัตถุมงคลที่ได้สร้างกันมาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ก็เพื่อที่จะประสบผลสำเร็จตามปรารถนาในทุกๆด้านไม่ว่า จะเรื่องป้องกันอันตรายหรือจะเรื่องเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดในทุกๆด้าน เมื่อมีผู้ที่ประสงค์ต้องการอยากได้ไว้ใช้ติดตัวกัน ซึ่งในสมัยนั้นวัดละหารไร่ยังเป็นพื้นที่ๆเป็นป่าดงประกอบกับมีไม้พรรณต่างๆ กันมากมาย ซึ่งหลวงปู่ท่านก็จิตประสงค์ที่จะให้ทุกคนนั้นปลอดภัยจากอันตรายต่างๆนาๆที่ จะเกิดขึ้นได้เสมอทุกเวลา หลวงปู่ท่านจึงได้ให้ลูกศิษย์ของท่านประยุกข์ใช้ของที่เกิดขึ้นตามเอง ธรรมชาตินำมาเป็นเครื่องรางของขลังโดยที่บางอย่างก็จะอิงตามตำราโบราณที่มัน เป็นเคล็ดวิชาที่ได้ศึกษาและร่ำเรียนมา ในยุคสมัยนั้นยังไม่มีเรื่องของการเช่าหาเพื่อการพุทธพาณิชย์หรือการบูชา เพื่อสร้างคุณประโยชน์ในวัด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวัตถุประสงค์การสร้างเพื่อให้มีพุทธคุณที่เชื่อถือกันได้ ซึ่งมันเป็นการปลุกเสกให้อานุภาพของวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมานั้นให้เกิด ความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อที่จะได้สามารถมีพลังแห่งฤทธานุภาพในการคุ้มครอง ผู้ที่ได้มีจิตศรัทธาได้นำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะพลังของฤทธานุภาพที่ดีนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างเครื่องราง ซึ่งเครื่องรางของขลังที่จะขอกล่าวนี้ก็คือ เสือซึ่งเป็นสัตว์อาถรรพ์ชนิดหนึ่งที่ได้ถูกนำมาสร้างตามตำราโบราณที่หลายคน อยากได้ไว้ใช้ติดตัวเพื่อหวังผลทางมหาอำนาจและป้องกันอันตรายจากภัยหรือ สัตว์ร้ายต่างๆที่จะมาทำอันตรายได้ แต่การที่จะหาเขี้ยวเสือกลวงมาปลุกเสกนั้นคงหาจะกันได้ยากยิ่งนัก หลวงปู่ทิมท่านจึงได้ให้ลูกศิษย์ของท่านให้ใช้ไม้มาแกะเป็นรูปลักษณ์ของเสือ ซึ่งก็ได้นำมาประยุกข์ใช้ แทนที่จะใช้เขี้ยวเสือ ซึ่งการแกะให้เป็นรูปลักษณ์ของมันนั้นก็สามารถที่จะสื่อใช้แทนกันได้ ซึ่งหลวงปู่ท่านกล่าวว่าจะมีพุทธคุณที่สามารถเทียบเท่ากันได้ ซึ่งมันอยู่ที่การได้ยึดมั่นถือมั่น ซึ่งสิ่งสำคัญนั้นมันอยู่ที่การเสกให้มีอำนาจดวงจิตของเสือที่เข้าไปอยู่ใน วัตถุที่ได้นำมาแกะให้เป็นรูปลักษณ์นั้นแล้วนำมาเสกให้มีพุทธคุณดั่งที่ต้องการได้

    นายสาย แก้วสว่าง ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิมและอดีตไวยาวัจกรซึ่งมีฝีมือในงานช่างไม้ก็ได้มีแนว คิดตามที่หลวงปู่ทิมท่านมีเจตนาที่ดีที่จะต้องการแกะให้เป็นรูปลักษณ์ของ เสือเพื่อต้องการอำนาจพุทธคุณที่ได้กล่าวไว้เพื่อที่จะได้ไว้ใช้แจกแก่ผู้ ที่มาขอของดีไว้ใช้ติดตัวกัน ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีการลงทุนเพื่อนำมาเป็นค่าบูชากัน แต่เป็นการนำมาบูชาเพื่อสื่อใช้พุทธคุณที่เชื่อถือกัน จากนั้นนายสายท่านก็ได้หาไม้ในป่ารอบๆบริเวณวัดแล้วจากนั้นก็ได้นำมาแกะให้ เป็นรูปลักษณ์ของเสือ ซึ่งไม้ต่างๆนั้นก็ตามแต่จะหาได้ซึ่งสมัยนั้นก็มีไม้ต่างๆมากมายที่ยังหากัน ได้ง่าย แต่การที่จะแกะให้เป็นรูปเสือนั้นในยุคสมัยก่อนเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ แกะก็เอาตามเครื่องมือที่มีใช้กันอยู่ ส่วนใหญ่จะใช้มีดขอหรือมีดพกต่างๆแกะกันให้เป็นรูปร่างนั้นขึ้นมา ซึ่งมันคงจะหาความสวยงามไม่ได้ หรือแกะกันให้พอเป็นรูปเป็นร่างที่พอจะสวยงามกันได้ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ไม่ได้บ่งเน้นถึงรูปลักษณ์อันสวยงาม แต่จะถืออำนาจของพุทธคุณในการปลุกเสกนั้นเป็นหลักสำคัญยิ่ง หลังจากที่นายสายได้หาไม้ตามที่ต้องการจากนั้นก็ได้ใช้มีดขอถากเหลาให้เป็น ทรงจากนั้นก็ค่อยๆแกะให้เป็นรูปเสือขึ้นมา ซึ่งนายสายก็ได้แกะเสือตามที่ได้จินตนาตามที่ได้มโนภาพขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ในการแกะก็มีแต่เพียงมีดพับเล็กๆและก็มีดขอเท่านั้นที่นำมาใช้ใน การทำกัน ไม้ต่างๆที่นายสายได้นำมาแกะให้เป็นรูปเสือนั้นซึ่งก็มีหลายอย่างซึ่งตามแต่ จะหาได้ ส่วนใหญ่จะเป็นรากไม้ที่เอามาทำยา หรือจะเป็นแก่นไม้ที่หามาได้ หรือตามแต่จะหาได้กัน จากนั้นนายสายท่านก็ได้แกะเป็นรูปเสือได้มาจำนวนหนึ่งจากนั้นก็ได้นำใส่ใน กระบุงเล็กๆแล้วก็ได้นำมาให้หลวงปู่ทิมท่านปลุกเสกในห้องของท่าน ซึ่งหลวงปู่ท่านจะปลุกเสกของท่านไปจนสำเร็จเป็นผลซึ่งท่านก็ได้ใช้อำนาจจิต อันกล้าแกร่งบวกกับพลังอำนาจแห่งพุทธคุณปลุกเสกจนเสือนั้นสามารถกระโดดออกมา จากในกระบุงก็เป็นอันว่าใช้ได้ ซึ่งเสือนั้นกล่าวกันว่ามีพุทธคุณทางมหาอำนาจและคงกระพันแต่เสือของหลวงปู่ ทิมนั้นสามารถนำไปใช้ได้ทุกทิศทางหรือตามแต่จะใช้ซึ่งหลวงปู่ท่านได้ใช้ อำนาจจิตคาถาอันแน่วแน่ในการปลุกเสกเพื่อให้เสือนั้นมีอิทธิฤทธิ์และ ประสิทธิภาพให้ครบในทุกๆด้าน

    ซึ่งเราจะเห็นว่าหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลให้มีพุทธคุณที่ครอบคลุม ทุกด้านหรือตามแต่จะใช้กันและสามารถนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ดีก็จะสามารถ คุ้มครองป้องกันได้ในทุกๆเรื่อง เสือที่หลวงปู่ทิมท่านได้เสกไว้ในยุคแรกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่ได้แกะเหลา กันมาซึ่งก็จะหย่อนความสวยความงามกัน และหลวงปู่ท่านก็มีจิตประสงค์จะไว้ใช้แจกแก่ผู้ที่มาขอของดีหรือจะนำติดตัว ในการเดินทางหรือพวกที่เสี่ยงภัยอันตรายใดๆ ซึ่งเสือนั้นสามารถคุ้มครองป้องกันภัยอย่างดี นายพลซึ่งเป็นคนทางบ้านตาสิทธิ์ ได้เล่าว่าตนนั้นมีอาชีพหาของในป่าวันหนึ่งได้มาหาหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่ เพื่อมาขอของดีไว้สำหรับใช้ติดตัวเพื่อป้องกันอันตราย ซึ่งทีแรกตนนั้นอยากได้ตะกรุดไว้ใช้ติดตัวและก็ได้เอ่ยกล่าวขอตะกรุดจากหลวง ปู่ซึ่งพอหลวงปู่ท่านได้ยินดังนั้นท่านก็ได้เดินเข้าในห้องของท่านแต่ ท่านกลับหยิบเอาเสือไม้แกะมาให้ตัวหนึ่ง ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ไม่ได้บอกล่าวอะไรมากท่านบอกเพียงว่าให้นำไปติดตัวไว้ให้ ดีๆ ซึ่งจากนั้นตนก็ได้รับไว้และก็ไม่กล้าที่จะทวงถามเรื่องตะกรุด ซึ่งพอหลวงปู่ท่านมอบให้จากนั้นท่านก็เดินออกไปนอกชานทันที จากนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรก็ได้นำเสือที่หลวงปู่ให้มาถักกับเชือกแล้วห้อยใช้ ติดตัวในทุกๆครั้งที่ออกเดินหาของตามป่าในชีวิตประจำวันโดยปกติ และมีอยู่มาวันหนึ่งขณะที่ตนกำลังเดินหาของตามป่าอยู่นั้นตนก็ได้เผอิญเดิน ไปเหยียบงูเห่าตัวขนาดใหญ่พอสมควรซึ่งกำลังนอนขดอยู่ซึ่งตนก็ไม่ได้ระมัด ระวังเพราะมันเป็นป่ารก ซึ่งหลังจากที่ตนได้เดินไปเหยียบงูมันเข้า ซึ่งงูนั้นถ้าเดินไปเหยียบตัวมันด้วยสัญชาตญาณของมันจะแว้งฉกกัดทันที แต่งูเห่าที่นายพลเดินไปเหยียบนั้นมันกลับผงกหัวไม่ขึ้น ซึ่งเวลานั้นหลังจากรู้ว่าตนได้เดินเหยียบงูเห่าเข้าก็เห็นว่างูนั้นผงกหัว ไม่ขึ้น ซึ่งตนก็อาศัยจังหวะนั้นรีบกระโดดออกทันที ส่วนงูนั้นดูเหมือนกับมันโดนมนต์สะกดทำให้แลดูมันเชื่องช้า ซึ่งพอเวลาสักพักตนก็ตั้งสติได้ก็รีบโกยอ้าวออกจากที่บริเวณนั้นไป ซึ่งเวลานั้นตนก็ได้อกสั่นขวัญแขวนไปเหมือนกัน ซึ่งตนก็นึกในใจว่าถ้าโดนมันฉกกัดไปคงต้องตายอยู่ในป่าเป็นแน่ จากนั้นตนก็ได้ยกมือท่วมหัวระลึกถึงหลวงปู่ทิมที่รอดตายมาได้ในครั้งนี้ ซึ่งหลวงปู่ท่านคงรู้ว่าตนจะต้องมาเจอเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นแน่ จึงได้มอบเครื่องรางชิ้นนี้ให้และรอดตายมาได้อย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นตนก็ได้มากราบหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่และได้เล่าเรื่องราวที่ ได้ประสบมาให้หลวงปู่ท่านฟัง ซึ่งหลวงปู่ท่านได้ฟังจากเหตุการณ์ที่เล่า แล้วหลวงปู่ท่านก็ได้บอกแต่เพียงว่า ทำอะไรก็อย่าประมาท ซึ่งเราจะเห็นว่าหลวงปู่ทิมท่านคงมีจิตที่สามารถรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่บาง ครั้งมันอาจจะเกิดขึ้นมาได้โดยที่เราไม่ได้คาดคิดว่ามันจะสามารถเกิดขึ้นมา ได้แต่ที่หลวงปู่ท่านได้เพียงเอ่ยว่าอย่าประมาทนั้น มันเป็นสิ่งที่เป็นอุทาหรณ์อย่างหนึ่งที่จะสอนให้ทุกคนนั้นให้มีสติที่ระลึก อยู่เสมอ การทำความดีและการศรัทธาและยึดมั่นนั้นมันเป็นจิตสำนึกที่หลวงปู่ทิมท่านได้ บอกกล่าวแก่ลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอเพื่อให้เกิดอานุภาพแห่งคุณความดีของตัว เราที่ได้กระทำหรือได้ยึดปฏิบัติตามหลักสัจธรรมของชีวิตและหลักธรรมในพระ พุทธศาสนาอันมั่นคงที่ดี

    การที่เกจิอาจารย์หรือผู้ที่เรืองอาคมต่างๆได้มีความต้องการที่จะสื่อใช้อำนาจ บารมีของเสือมาเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อให้มีฤทธิ์อำนาจขึ้นมาเพื่อที่จะ ได้นำอานุภาพของฤทธิ์อำนาจนั้นมาใช้เป็นหลักในการคุ้มครองและปกป้องผองภัย อันตรายใดๆเพื่อให้มนุษย์ทุกชีวิตนั้นอยู่อย่างรอดปลอดภัยได้ ยิ่งในยุคสมัยโบราณก่อนนั้นเขาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญอันดีที่ได้เห็นคุณ ค่าถึงจุดมุ่งหมายหลักสำคัญของการที่ได้สร้างวัตถุมงคลต่างๆนั้นโดยเฉพาะ อย่างยิ่งเครื่องรางของขลังที่ได้ขึ้นชื่อว่า เสือนั้นเกจิอาจารย์และผู้ทรงอาคมจะต้องสื่อได้ถึงอำนาจบารมีของเสือจึง สามารถวิเคราะห์เจาะจงถึงหัวใจหลักสำคัญอันดีที่จะได้รับรู้และได้เห็นถึง อานุภาพความอาถรรพ์ในตัวของเสือ จึงสามารถที่จะพยายามสื่อใช้อำนาจบารมีของเสือที่มันสามารถสร้างบารมีตัวเอง มานั้นจนเกิดฤทธิ์อำนาจที่จะนำไปใช้ในการป้องกันดูแลและเป็นที่พึ่งพิงแก่ มนุษย์นั้นได้ ซึ่งการที่จะทำให้เกิดฤทธิ์อำนาจที่ดีนั้นก็อยู่ที่การสร้างจิตวิญญาณให้ถูก ต้องและถูกหลักเพื่อที่จะสามารถนำไปใช้อย่างมั่นอกมั่นใจหรือใช้ได้อย่างมี คุณภาพที่เห็นได้ และอำนาจพุทธคุณของเสือที่ดีนั้นผู้ปลุกเสกจะต้องสามารถใช้พลังอำนาจจิตของ ตัวเองให้สถิตลงไปในหัวใจหลักของเสือที่ได้ถูกปลุกเสกขึ้นนั้น ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วผู้ที่จะทำได้จะต้องมีการศึกษาเรียนรู้ถึงธรรมชาติ ชีวิตของเสือและเข้าใจในความรู้สึกการสื่อสายสัมพันธ์กันได้ดีจึงจะสามารถ ใช้จิตของตัวเองนั้นสื่อเข้าไปสู่ยังจิตวิญญาณของเสือได้อย่างถูกต้อง อำนาจสมาธิของเกจิอาจารย์หรือฆราวาสผู้ทรงอาคมในการสร้างจิตอำนาจของตัวเอง นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะสามารถแผ่พลังอำนาจจิตอันมีฤทธิ์หรือการภาวนาจิต อันมั่นคงเพื่อเป็นกระแสอำนาจจิตให้ลงเข้าไปสู่หัวใจหลักสำคัญของเสือเพื่อ ให้เกิดอานุภาพที่ดีได้อย่างถูกหลักจึงสามารถที่จะนำพุทธคุณที่ดีที่ได้ปลุก เสกขึ้นนั้นนำไปใช้ให้บังเกิดผลที่ต้องการและเป็นประโยชน์ที่ดีต่อผู้ที่ได้ นำไปใช้ ซึ่งอำนาจพุทธคุณของเสือที่ดีที่ได้ปลุกเสกจนเกิดฤทธิ์อำนาจหรือเกิดอานุภาพ ที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นนั้นจึงทำให้มีความเชื่อกันว่าพลังอำนาจของเสือนั้น สามารถพิชิตอำนาจอื่นใดได้หรืออาจเหนือกว่าอำนาจอื่นใด แต่พลังอำนาจของทุกสิ่งทุกอย่างนั้นก็ไม่มีอำนาจใดๆที่จะนอกเหนือไปกว่า อำนาจของแรงกรรมซึ่งเป็นแรงที่เกิดจากผลกรรมหรือผลการกระทำของตนเองในสิ่ง ที่เป็นอกุศลหรือจะเรียกกันว่าการสร้างบาปกรรมหรือการก่อเวรก่อกรรมซึ่งเป็น การกระทำที่ก่อให้เกิดผลของกรรมที่ได้กระทำหรือล่วงเกินกันนั้นขึ้นมา ซึ่งก็จะเรียกกันว่าผลกรรมหรือแรงกรรมก็ได้ และในพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้บัญญัติไว้ว่าอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ หรืออำนาจของผลบุญที่ได้กระทำจะมาลบล้างอำนาจของแรงกรรมลงไปได้ ซึ่งสิ่งเดียวที่จะมาลบล้างอำนาจของแรงกรรมได้คือการได้ชดใช้ในสิ่งที่เคย ได้กระทำหรือล่วงเกินกันมาซึ่งการจะหมดสิ้นจากแรงกรรมนั้นคือการให้ได้รับ การอโหสิกรรมหรือการอนุโมทนาจากเจ้ากรรมนายเวรที่ได้ชดใช้จนหมดสิ้นและได้ รับผลบุญนั้นเติมเต็มขึ้นมาเพื่อให้เป็นอานิสงส์ผลบุญที่ดีต่อไป ซึ่งบางครั้งผลของกรรมที่เจ้ากรรมนายเวรนั้นเกิดการอาฆาตหรือสาปแช่งไปให้ เกิดขึ้นในหลายชั่วภพหรือจองจำจองเวรไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับการอนุโมทนา หรือการให้อภัยกันซึ่งเราจะเห็นว่าผลกรรมนั้นก็ไม่มีใครที่จะสามารถล่วงรู้ ได้ว่าได้ก่อกรรมหรือกระทำอะไรไว้บ้างเมื่อชาติที่แล้วๆมา และเราจะเห็นได้ดั่งคำกล่าวที่หลวงปู่ทิมท่านจะสอนให้ทุกคนนั้นทำแต่คุณความ ดีหรือประกอบแต่คุณงามความดี ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงผลที่ได้กระทำความดีเพื่อเป็นทุนรอนสะสมไว้ต่อไปในภาย ภาคหน้าเพื่อชีวิตที่ดีและมีความสุขได้ และบางครั้งเราอาจจะคาดคิดได้ว่าแรงอานิสงฆ์ผลบุญที่เราได้ทำแต่ความดีบาง ครั้งเจ้ากรรมนายเวรที่อาฆาตและจองจำไปในทุกๆชาติอาจจะได้รับอานิสงฆ์และผล บุญที่ดีและส่งผลให้ลดแรงอาฆาตพยาบาทลงได้บ้างแต่จะมากหรือน้อยนั้นก็อยู่ ที่แรงอำนาจจิตศรัทธาที่มีอยู่กันอย่างเช่น การกรวดน้ำเพื่ออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรซึ่งเราจะทำกันในทุกครั้งที่เราทำ บุญเพื่อที่จะส่งผลบุญนั้นไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ได้ล่วงเกินกันมาซึ่ง ไม่ว่ากี่ภพหรือกี่ชาติก็ต้องอุทิศกันไปเพื่อลดแรงของอำนาจกรรมซึ่งบางครั้ง มันจะหนักก็ให้เป็นเบาได้แต่ต้องให้มีจิตศรัทธายึดมั่นที่แน่นอนถึงจะส่งผล นั้นได้ เราจะเห็นแม้ว่าบางครั้งถ้ากรรมนั้นหนักมากก็อาจจะต้องบวชให้หรือถือศีลกิน เจให้เพื่อลดแรงกรรมที่บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรนั้นยอมไม่ได้ แต่ถ้าให้ปฎิบัติตามหรือขอร้องให้ปฏิบัติก็อาจจะช่วยลดแรงของกรรมนั้นได้ บ้างเมื่อเจ้ากรรมนายเวรนั้นได้รับผลบุญที่ดีได้ เพื่อที่เกิดมาในชาติต่อไปก็จะสามารถที่จะลดแรงอาฆาตกันหรือให้มันเบาบางลง ไปกันได้ แต่ทั้งนี้ธรรมชาตินั้นอาจเป็นตัวกำหนดผลบุญและผลกรรมหรือชะตาชีวิตขึ้นมาก็ ได้เพื่อที่จะให้มนุษย์ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์อันประเสริฐที่ได้ถือปฏิบัติกัน มาโดยยึดเข้าตามหลักทำนองครองธรรมหรือแนวทางการดำเนินชีวิตที่ธรรมชาตินั้น กำหนดขึ้นมาโดยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้แนะนำและสั่งสอนการ ดำเนินชีวิตที่ดีเพื่อให้เกิดความเป็นไปในชีวิตความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งเราจะเห็นแล้วว่าอำนาจใดๆที่จะมานอกเหนือกว่าอำนาจของแรงกรรมนั้นไม่มี แต่การสร้างอำนาจของผลบุญหรือเราอาจจะเรียกว่าการสร้างบารมีหรือการสั่งสม บุญเพื่อนำพาไปสู่หนทางแห่งอริยะมรรค ซึ่งบางครั้งเราอาจจะมีอุปสรรคต่างๆนาๆในการสั่งสมเพื่อสร้างบารมีซึ่งบาง ครั้งมันอาจจะเป็นอิทธิพลของแรงกรรมที่มีอยู่ก็เป็นไปได้ ซึ่งเราก็จะต้องผ่านในอุปสรรคนั้นให้ได้หรือเราอาจจะต้องยอมรับในสิ่งที่ เกิดขึ้นและวัตถุมงคลต่างๆที่มีจุดประสงค์ที่ดีที่ได้สร้างกันมาเพื่อให้ เป็นแรงแห่งความยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจหรือเป็นกำลังใจไม่ให้เกิดความย่อท้อ ต่อกับชีวิตและโชคชะตาหรือเพื่อช่วยหนุนนำให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆนาๆที่ได้ ประสบกันนั้นเพื่อเป็นหนทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดีโดยเฉพาะจิตที่ยึดมั่นและ ศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกันมาก และวัตถุมงคลที่ได้สร้างกันมาเพื่อจุดมุ่งหมายอันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญใน การดำเนินกิจที่แท้จริงของชีวิตได้ ซึ่งเราจะเห็นว่าหลวงปู่ทิมท่านได้มีจิตวิเคราะห์ที่ดีที่ได้ปลุกเสกเสือ ซึ่งฤทธิ์อำนาจของเสือนั้นซึ่งโดยตามความเป็นจริงของธรรมชาตินั้นสามารถที่ จะเปรียบได้ดั่งฤทธิ์อานุภาพของเทพเจ้าที่ลงมาสถิตบนโลกมนุษย์ ซึ่งเราอาจที่จะเปรียบเปรยได้ว่า เสือนั้นก็มีฤทธิ์อำนาจที่เหมือนดั่งองค์เทพเทวาหรือองค์เทพเจ้า ที่ยังต้องสถิตลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อมาช่วยมนุษย์ปุถุชนทั้งหลายนั้นมาร่วม สร้างบารมีกันเพื่อให้โลกมนุษย์เรานั้นมีความเป็นอยู่ที่ดี จึงทำให้เสือนั้นสามารถมีฤทธานุภาพที่เสมือนกันกับองค์เทพเจ้าที่มี อิทธิฤทธิ์ที่เชื่อมั่นได้ ซึ่งบางครั้งเราจะเห็นว่าองค์เทพเจ้ายังต้องอาศัยรูปลักษณ์ของเสือมาช่วย สร้างบารมีเพื่อให้เกิดความสมดุลกัน และจุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ก็จะได้เป็นปกติสุข โดยได้ยึดถือเป็นหลักแห่งที่พึ่งที่เชื่อมั่นกันได้ แต่การสร้างบารมีนั้นธรรมชาติก็ได้ถือเป็นไปในหลักของความเป็นจริงและความ เป็นไปของชีวิตหรือการปรุงแต่งสีสันของมนุษย์เพื่อให้เกิดไปในหลักของความ เป็นไปในสังคมของมนุษย์นั้นก็จะต้องมีการพินิจพิจารณาวิเคราะห์กันไป ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้วการสร้างบารมีนั้นก็คือหนทางอย่างหนึ่งเพื่อให้เกิด ผลห่งอริยะมรรคได้ แต่โดยทางแห่งนิพพานแล้วนั้นมนุษย์เราจะต้องศึกษาเรียนรู้เข้าใจสังคมและ หลักของความเป็นจริงของธรรมชาติสามารถเข้าใจในสิ่งที่เป็นกิเลสมูลทั้งหลาย เพื่อความถูกต้องตามหลักวิธี และการสร้างบารมีมันก็เป็นรากฐานอย่างหนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้ มั่นคงได้เพื่อความเป็นไปในสังคมอันโดยสงบหรือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่ดีเพื่อให้เป็นไปในทางที่สังคมยอมรับนับถือกันได้

    การ ที่ได้เข้าถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของเสือซึ่งเป็นการเรียนรู้จาก ประสบการณ์และการเข้าใจในสัญชาตญาณอันดีของมันเพื่อนำมาสื่อใช้เป็นแนวทาง สืบสายสัมพันธ์ที่จะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือเพื่อใช้อำนาจจิตในการ เรียนรู้เพื่อให้มีความเชื่อมั่นที่จะสามารถเข้าใจให้ได้อย่างลึกซึ้งถึง อำนาจจิตสัมพันธ์อันดีของเสือที่จะสามารถเชื่อมโยงหรือสื่อสารสัมพันธ์ให้ สื่อเข้าถึงกันได้ หลวงปู่ทิม อิสริโกแห่งวัดละหารไร่ ท่านมีสภาวะจิตที่วิเคราะห์ได้ถึงหลักของความเป็นจริง ซึ่งมันเป็นผลของการที่ได้เรียนรู้และการสื่อสัมพันธ์จากประสบการณ์ที่ว่า เสือนั้นสามารถมีอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาได้ถ้าสามารถนำมาสื่อใช้ให้ถูกหลักวิธี หรือถูกหลักความจริงโดยมีการเชื่อมั่นกันอย่างที่เข้าใจกันได้และการที่เสือ ได้ถูกบันทึกมาเป็นตำนานเล่าขานที่สืบต่อกันมาหรือในตำราโบราณ ซึ่งเกจิอาจารย์จะต้องเชื่อมั่นว่าอำนาจของเสือนั้นสามารถที่จะก่อให้เกิด อำนาจได้ดั่งที่ปรารถนา จึงจะสามารถนำมาใช้ให้เกิดอิทธิปาฏิหารย์หรืออานุภาพที่ดีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้นำเสือมาปลุกเสกอย่างถูกหลักการหรือให้มีอำนาจ จิตที่ถูกต้องซึ่งก็เปรียบได้ดุจดั่งให้เสือนั้นสามารถมีจิตวิญญาณที่ดี เหมือนดั่งกับให้เสือนั้นมีชีวิตพร้อมที่จะเกิดขึ้นมาได้ และเสือที่ได้ปลุกเสกขึ้นมาจนมีจิตและวิญญาณขึ้นมาได้นั้นก็เปรียบได้ดั่ง กับเสือนั้นสามารถมีพลังอำนาจในตัวของมันเอง และการแผ่อำนาจจิตเพื่อเพิ่มอานุภาพอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาจากพลังพุทธานุภาพจาก เกจิอาจารย์หรือผู้ทรงอาคมเพื่อให้มีอิทธิฤทธิ์เหมือนดังที่ต้องการได้ การที่ได้เรียนรู้และประสบการณ์จากครูบาอาจารย์ที่เชื่อมั่นมันย่อมแสดงให้ เห็นผลถึงหลักของความเป็นจริงซึ่งเป็นสิ่งที่ได้เห็นประจักษ์ตากันจึงทำให้ เกิดความเชื่อมั่นได้ถึงหลักของวิชาอาคมที่ได้ขึ้นชื่อว่าไสยศาสตร์นั้นมี จริง เป็นสิ่งที่ไม่งมงายสามารถพิสูจน์ได้ แต่ในพุทธศาสนานั้นสอนไม่ให้ยึดติดกับไสยศาสตร์เพียงแต่กล่าวให้ยึดถือและ เชื่อมั่นเท่านั้นเพื่อความสะดวกของสังคมบนโลกมนุษย์ โดยยึดถือในหลักของความเป็นจริงในชีวิตได้เท่านั้น

    เรา จะเห็นว่าแม้จะเป็นเขี้ยวเสือ หนังหน้าผากเสือหรือจะเป็นเสือที่แกะจากไม้ที่ลูกศิษย์ลูกหาได้นำมาให้หลวง ปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกหรือการภาวนาจิตเพื่อให้เกิดอานุภาพที่ดีอย่างที่เชื่อ มั่นได้นั้น หลวงปู่ท่านมีจิตวิเคราะห์ที่ดีที่ต้องการนำวิชาอาคมต่างๆที่ได้ร่ำเรียนรู้ มา ซึ่งเมื่อลูกศิษย์ลูกหาต่างมีจิตประสงค์หรือความต้องการที่ดีที่จะต้องการนำ ไปใช้ติดตัวเพื่อประโยชน์อันดีกัน หลวงปู่ท่านก็มีจิตที่เมตตาตอบสนองผลที่ดีที่ต้องการให้ชาวบ้านนั้นมีความ ปลอดภัยจึงได้มีจิตภาวนาที่มั่นคงเพื่อให้วัตถุมงคลต่างๆนั้นมีอานุภาพที่ ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ เสือที่หลวงปู่ทิมท่านมีจิตประสงค์ที่จะปลุกเสกในยุคแรกๆนั้น เมื่อมีชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือก็ได้นำมาให้หลวงปู่ท่านปลุกเสก ซึ่งเป็นการปลุกเสกให้เฉพาะกิจหรือเฉพาะเจาะจงกันไปซึ่งอาจจะมีจำพวกที่เป็น เขี้ยวเสือที่หาได้กันมา ซึ่งพอในยุคต่อมาด้วยเขี้ยวเสือนั้นหายาก นายสาย แก้วสว่างซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านก็ได้นำไม้มาแกะให้เป็นรูปเสือขึ้นมา โดยที่หลวงปู่ท่านมีจิตประสงค์เพื่อตั้งใจสื่ออำนาจความรู้และวิชาอาคมที่มี อยู่เพื่อให้อำนาจของพุทธคุณในวัตถุมงคลที่หลายคนเชื่อกันว่าเสือนั้นมี อำนาจพุทธคุณที่เหนือกว่าอำนาจของอวิชาทั้งหลายหรืออำนาจปรากฏการณ์ที่ไม่ พึงประสงค์หรือที่คาดการณ์ได้ เสือเป็นสัตว์ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความดุร้ายและโหดร้ายซึ่งต่างก็กลัวใน อำนาจของมัน ซึ่งอำนาจของเสือนั้นก็สามารถนำมาสื่อใช้ให้เป็นอำนาจของพุทธคุณที่เชื่อ มั่นได้

    เรา จะเห็นว่าอำนาจของพุทธคุณที่ได้อธิษฐานจิตและปลุกเสกไปเพื่อให้เกิดอานุภาพ ที่ดีและถูกต้องได้นั้น หลวงปู่ทิมท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์อยู่อย่างเสมอว่าการที่ได้ยึดมั่นและถือ มั่นนั้นถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในการที่จะใช้ให้สอดคล้องกับวัตถุมงคลเพื่อ ให้บังเกิดผลของอานุภาพพุทธคุณที่ดีและสามารถสื่อใช้วัตถุมงคลนั้นได้อย่าง มั่นใจได้ เราจะเห็นว่าทำไมหลวงปู่ทิมท่านจะสอนกล่าวให้ทุกคนนั้นยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมทั้งคุณบิดามารดาและคุณครูบาอาจารย์ ที่เคารพนับถือต่างๆซึ่งถือว่าเป็นคุณที่ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมมีอานุภาพที่บังเกิดผลได้ดีเมื่อนำมาใช้อย่างถูกหลักและเชื่อมั่น เราจะเห็นว่าคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์นั้นซึ่งรวมกันเรียกว่าคุณพระรัตนตรัยหรือพระไตรรัตน์อันหมายถึง แก้วสามดวงหรือแก้วสามประการซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดสามอย่างซึ่งประกอบ ด้วย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว พระพุทธเจ้านั้นทรงพระคุณอันประเสริฐ 3ประการด้วยกัน คือ พระปัญญาธิคุณ หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ทรงผ่านการปฏิบัติและพัฒนาจนสามารถขจัดสรรพกิเลสได้โดยสิ้นเชิง และทรงช่วยชี้ทางให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ได้จริง พระบริสุทธิคุณ คือพระพุทธคุณความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าซึ่งสืบเนื่องจากพระปัญญาธิคุณที่ทำหน้าที่ขจัดอวิชชา ทำให้ตื่นจากความหลง ความเขลา และความหลับใหลเพราะอำนาจของกิเลส พระกรุณาธิคุณ คือ พระพุทธคุณของพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อสรรพสัตย์ที่ทรงช่วยเหลือด้วยการชี้แนะแนวทางในการดับทุกข์และมุ่งไปสู่ความสุขอันแท้จริงคือ นิพพาน และความมีอยู่ของพระนิพพานนั้นมิใช่สภาวะที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของจิต แต่มีอยู่โดยตัวของตัวเอง คือเป็นความจริงในโลกแห่งปรากฏการณ์ มีสภาวะที่เที่ยง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดดับสลับกันไปแบบสิ่งต่างๆ ในโลก ที่ พ้นไปจากปัจจัยในการปรุงแต่ง ในสภาวะของนิพพานทั้งรูปและนามนั้นย่อมดับไม่เหลือซึ่งก็เปรียบเหมือนกับ ความว่างเปล่า แต่ในพุทธศาสนานั้นกล่าวว่าพระนิพพาน.เป็นธรรมที่ต้องเห็นด้วยอริยะจักษุ เป็นธรรมอันบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วยมรรคเท่านั้นจะพึงถึงได้ซึ่งพระนิพพานจึง มิใช่เรื่องของการเข้าใจ แต่อยู่ที่การเข้าถึงผลจากการปฏิบัติธรรมของตนเอง ซึ่งเราจะเห็นว่าการที่ได้ยึดในหลักการยึดมั่นของตนเองนั้นสามารถนำมาเป็น แรงของอานุภาพที่ดีได้จากการที่ได้ยึดมั่นและศรัทธาของตนเองเป็นส่วนประกอบ หลักด้วยและเราจะเห็นว่าอำนาจของคุณพระรัตนตรัยถือเป็นหลักของอำนาจของ พุทธคุณที่ทุกคนนั้นได้ยึดถือและเชื่อมั่นกันแต่จะศรัทธากันมากน้อยเพียงใด แค่ไหนนั้นก็อยู่ที่จิตศรัทธากันของแต่ละคน แต่ถึงอย่างไรคุณของพระรัตนตรัยหรือคุณแก้วสามประการนี้ก็ยังถือเป็นอำนาจ ที่สูงสุดที่ยังยึดมั่นได้เสมอดังตัวอย่างที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา เช่นเวลาที่เกิดเรื่อราวไม่ดีหรือเกิดอุบัติเหตุที่ใกล้ตัวเราจะนึกถึงคำว่า “ พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วยหรือ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างที ” ซึ่งบางครั้งเราก็จะได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ ซึ่งเราก็จะได้ยินหรือได้ประสบกับอานุภาพของพ่อแก้วและแม่แก้วซึ่งก็หมายถึง แก้วสามดวงก็คือคุณของพระรัตนตรัยส่วนคำว่าพ่อและแม่นั้นอาจจะมาจากคุณของ บิดามารดาซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดจึงสามารถรวมกันเป็นพลังแห่งอานุภาพที่เกิดมี ความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้นั่นเอง แต่ก็ไม่มีอำนาจใดๆที่จะเกินไปกว่าแรงกรรมหรือกฎแห่งกรรมลงไปได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็คือสัจธรรมของชีวิตซึ่งบางครั้งอำนาจของแรงบุญและแรง กรรมก็อาจที่จะสามารถลิขิตชีวิตได้ถ้าจิตศรัทธาของแต่ละคนนั้นได้แตกต่างกัน ไป หลวงปู่ทิมท่านสอนให้ลูกศิษย์นั้นยึดมั่นแต่คุณความดี ซึ่งเราเห็นว่าคนเราเกิดมานั้นมีทั้งผลบุญและผลกรรมที่ได้สร้างกันมาเมื่อ ครั้งก่อนซึ่งหมายรวมถึงการสร้างทั้งสิ่งที่ดีที่เป็นกุศลและการกระทำในสิ่ง ที่ไม่ดีหรือเป็นอกุศล ที่ไม่พึงปรารถนานั้น หลวงปู่ทิมท่านได้สอนศิษย์ไม่ให้ยึดติดหรือหลงใหลในสิ่งที่เป็นวัตถุต่างๆ เพื่อให้เกิดกิเลสมูลขึ้นมาซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เกิดผลความปรารถนาเพื่อให้ เกิดหนทางแห่งมรรคได้ และไม่ให้เชื่อหรือยึดติดในเรื่องของผลบุญและผลกรรมที่ต่างกัน แต่หลวงปู่ท่านจะสอนให้ประกอบแต่คุณความดีเท่านั้น ซึ่งผลของคุณความดีนั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดอานิสงส์ผลบุญที่ดีที่จะ ส่งผลให้เกิดความปรารถนาดีในภายภาคหน้า ซึ่งผลของการประกอบคุณความดีนั้น จะสามารถที่เป็นแรงพลังหนุนนำที่ดีที่จะสามารถสื่อได้จากอำนาจของคุณพระรัตน ตรัยและคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลายที่ได้กระทำตามสัตย์ที่ได้เกิด การศรัทธาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลายและได้ยึดมั่นในคุณความดีนั้น อยู่เสมอ

    เราจะเห็นได้ดังตัวอย่างที่มีผู้นำไปใช้กันนั้นได้เห็นประจักษ์กับอานุภาพที่ได้ประสบกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตนเองจึงทำให้มีความเชื่อมั่นได้ถึง ประสิทธิ์ภาพของอำนาจแรงแห่งพุทธานุภาพที่ตนนั้นได้หมั่นปฎิบัติอยู่เป็น ประจำอยู่เสมอ ซึ่งจากเหตุการณ์นั้นมาทำให้คนเรานั้นมีความรู้สึกที่เห็นว่าการที่จะเกิด พลังอำนาจใดๆนั้นก็ต้องเกิดการร่วมแรงร่วมใจด้วยจิตที่ยึดมั่นถือมั่นและแรง ศรัทธาที่ดีจึงจะประสบผลแห่งความสำเร็จที่พึงปรารถนาได้ซึ่งเราอาจจะเรียก ว่าพลังแรงแห่งศรัทธาก็ว่าได้ และเราจะพึงเห็นได้ถึงหลักความสำคัญต่างๆในพระพุทธศาสนานั้นที่หลวงปู่ทิม ท่านได้กล่าวเพียงว่า ให้ยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เราได้นับถือและศรัทธากันโดยแท้จริง จึงสามารถที่จะเกิดพลังอำนาจแห่งอานุภาพของอำนาจคุณต่างๆได้อย่างมหัศจรรย์มาก ถึงแม้มันจะเนิ่นนานมาแล้วก็ตามที แต่สิ่งที่ได้ยังศรัทธาอยู่เสมอคือการได้บูชาถึงคุณของพระรัตนตรัยและคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อประสบผลแห่งความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิตที่ดีต่อไป

    เมื่อคราวก่อนผมได้นำเอาเสือไม้แกะในยุคแรกๆมาให้ทุกท่านได้บูชากันไป ไม้แกะในรูปลักษณ์แต่ละอย่างในยุคนั้นยังไม่มีความสวยงามหรือความเรียบร้อย แต่ถือศักดิ์ศรีว่าหลวงปู่ทิมท่านดำเนินเสกขึ้นมาก่อนและวัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกชิ้นนั้นเมื่อเสกได้เสร็จสิ้นแล้วหลวงปู่ท่านจึงได้นำมาแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหา จะเห็นว่าสมาชิกแต่ละท่านนั้นล้วนเจอประสบการณ์ในลักษณะต่างๆกันมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาและความเชื่อมั่นของแต่ละท่านด้วยถึงจะประสบกันได้

    เสือแกะในยุคต่อมานายสายท่านเล่าว่า ในยุคแต่ก่อนไม่แกะต่างๆนั้นไม่ค่อยมีความสวยงามถ้าภาษาชาวบ้านเขาจะเรียกกันว่า”ขี้เหร่” ให้ใครก็ไม่ค่อยมีใครอยากได้กัน ต่อมาเริ่มมีการร่วมทำบุญบูชาตามแต่หรือการช่วยงานวัด นายสายท่านจึงได้แกะขึ้นมาอีกครั้งในยุคต่อมาพร้อมกับการแกะในรูปลักษณ์อื่นๆยุคนี้ถือว่าเริ่มมีความชัดเจนเรียบร้อย เสือทุกตัวที่นายสายท่านแกะไว้จะไม่มีการลงเหล็กจารทั้งนั้นหรือการตอกโค๊ตใดๆก็ไม่มีทั้งสิ้น และฝีมือการแกะเสือก็จะมีแต่เพียงนายสาย แก้วสว่างคนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้แกะขึ้น เราลองมาชมเสือแกะในยุคต่อมานะครับ


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  3. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,520
    ค่าพลัง:
    +9,408
    ขอบคุณครับ โมทนาบุญร่วมกันครับ
    ตอนแรกคิดว่าไม่ถูก ไปดูโพยตอนหลังยังแอบถูก 60 ไป 50บาทครับน้า..แต่ถูกงวดนี้ไม่ได้รับเงินครับเพราะฝากแฟนซื้อเลยโดนยึดไปตามระเบียบ..55
     
  4. hmg

    hmg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,504
    ค่าพลัง:
    +4,322
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง และพี่ๆ เพื่อนๆ ลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกๆท่านครับ
     
  5. prabangkam

    prabangkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +7,098
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม และสวัสดีทุกๆท่านครับ
     
  6. นาคเสโน

    นาคเสโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +351
    ทำไมพิมนี้ไม่มีใครแย่งกันจองเลยครับ ผมสงสัยจัง ขนาดผมพิมพ์ผิดตั้งสามรอบ ก็ยังจองทันเลย ผมว่าเนื้อนี้มีผสมกระเบื้องโบสถ์ด้วยเป็นสถานที่ ที่องค์หลวงปู่ทิมกับพระลูกวัดเจริญพุทธมนต์กันทุกวันและยังเข้าปาฏโมกข์ในวันพระใหญ่ด้วย อำนาจพุทธคุณเต็มเปี่ยม แถมยังได้องค์หลวงปู่ท่านเมตตาจิตอีก ผมชอบมากเลยครับ อิอิ

    ปล.แต่ผมไม่ได้หมายความว่าองค์อื่นเนื้ออื่นจะไม่ดีนะครับ ผมแค่มาแสดงความคิดเห็น เพราะตัวผมเองบอกได้แค่ว่า ศรัทธาผมมีเกินร้อยครับ เพราะเคยเจอมาแล้วครับ ครูบาอาจารย์แถบภาคกลาง พวกเซียนพระบอกว่าปลอม เพื่อนรุ่นน้องพ่อผม เอาปืนยิงเลยครับ ใบ้กินเลยครับ พูดไม่ออกปืนนั้นยิงไม่ออกครับ หันขึันฟ้า ลั่นปั้งๆๆๆ พอหันใส่เหรียญที่เซียนบอกปลอม แชะๆๆๆ จะปลอมได้ไงครับ ถ้าเราศรัทธาอย่างแน่วแน่ หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ท่านอยู่กับเราแน่นอนครับ ผมเอาคอเป็นประกัน ถ้าใครมีศรัทธาและมีของหลวงปู่ทิมติดตัวไว้ ทุกท่านไม่ตกต่ำแน่ครับ แต่ต้องปฏิบัติตน อยู่บนพื้นฐานแห่งความดี คือ ศีล 5 นะครับ ขอบคุณครับ
     
  7. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    พระชุดนี้เป็นพระเนื้อดินผสมกับกระเบื้องโบสถ์ ซึ่งเป็นดำหริของหลวงปู่ทิมโดยท่านใช้ให้ลูกศิษย์ในยุคแรกไปนำมาสร้างพระ หลวงปู่ท่านบอกเพียงว่าเป็นของสูง โดยเฉพาะกระเบื้องโบสถ์เก่าที่หลวงปู่ทิมและพระภิกษุในวัดใช้สวดทำสังฆกรรมมานานแรมปี ส่วนดินหลวงปู่ท่านก็ให้ลูกศิษย์นำมาจากวังสามพญาที่เล่าขานเป็นตำนานมา จะเห็นว่าขนาดพระประธานเนื้อดินดิบในโบสถ์เก่าหลวงปู่ท่านยังดำหริเอามาสร้างขึ้นมา ซึ่งแสดงว่าวัสดุที่นำมาสร้างนั้นหลวงปู่ท่านคงทราบอย่างดีว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ดีอยู่ในตัวอย่างยิ่ง...
     
  8. นาคเสโน

    นาคเสโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +351
    ชัดเจนครับ ขอบคุณครับ อ.แก้วสว่าง
     
  9. นาคเสโน

    นาคเสโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +351
    วังสามพญา อยู่ทางด้านทิศใต้ของวัดละหารไร่ ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย เป็นห้วงน้ำลึก (วัง) ของช่วงหนึ่งของต้นแม่น้ำระยองเดิม จะเป็นวังน้ำลึกใสและเย็น เพราะมีเถาวัลย์ขึ้นปกคลุมและมีปลาชุกชุม
    มีเรื่องเล่าว่าเมื่อปลายปี พ.ศ.๒๓๐๙ สมัยอยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกรีฑาทัพตีฝ่าวงล้อมของกองทัพพม่า ออกจากกรุงศรีอยุธยา แล้วเดินทัพผ่านมาทางทุ่งละหารใหญ่ (รวมถึงบริเวณที่ตั้งวัดละหารใหญ่ปัจจุบัน) และได้หยุดพักไพร่พล ณ บริเวณนี้ และได้ทรงนำช้างศึกสามเชือก ลงอาบน้ำบริเวณบึงใหญ่ ซึ่งจะมีน้ำใต้ดินไหลซึมตลอดเวลา ชาวบ้านจึงเรียกบึงนี้ว่า วังสามพญา อันหมายถึง ช้างศึกของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลงอาบน้ำ ณ บึงแห่งนี้
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ จังหวัดระยองได้ประกอบพิธีกรรมตักน้ำ พร้อมกับทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เพื่อนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายเป็นน้ำอภิเษก เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ทางราชการจังหวัดระยองได้ไปประกอบพิธีกรรมตักน้ำจากวังสามพญา นำไปทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ อุโบสถวัดลุ่ม (มหาชัยชุมพล)
    วังสามพญา เป็นที่รวมของลำคลองห้าสาย ที่ไหลมาบรรจบกันก่อนที่จะเป็นแม่น้ำระยอง

    เป็นสถานที่ที่ทำให้มีแผ่นดินไทยมาจนถึงทุกวันนี้ แบบนี้นี่เองผมถึงชอบเนื้อดินของหลวงปู่ทิมมาก ผมพึ่งรู้ตำนานของวังสามพญานี่แหละครับ ถ้าจะเอาไปใช้ในทางบู๊ มีเนื้อดินของหลวงปู่ทิมติดตัวไม่มีพ่ายแพ้ 555+ พอรู้ตำนานของวังสามพญาแล้วยิ่งหวงเนื้อดินเข้าไปเป็นเท่าตัว หุหุ
     
  10. Majirojung

    Majirojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +1,230
    กราบหลวงปูทิม คุณตาสาย แก้วสว่าง ครับ สวัสดีพี่ๆทุกท่านด้วยนะครับ นานๆจะได้เข้ามาดู ทุกคนคงสบายดีนะครับ
     
  11. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    ครับพระชุดนี้ศิษย์ยุคเก่าที่ยังมีชีวิตอยู่อีกหลายคนเขาจะทราบกันดี ยกเว้นศิษย์ยุคหลังที่เข้ามาไม่ทันหรือไม่ได้มาคลุกคลีจะไม่ทราบเลย เพราะพระชุดนี้เขาสร้างมาแจกกันครับและไม่ได้นำออกมาให้เห็น เพราะตอนหลังเิริ่มมาสร้างพระเหรียญหรือพระผงในพิมพ์ต่างๆ พระชุดนี้จึงไม่ได้กล่าวขานกัน จะทราบกันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านที่เขาอยู่วัดกันจริงๆครับ
     
  12. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG][​IMG]

    เอาเสือกับลิงในยุคต่อมาให้ชมกัน เจอกันเร็วๆนี้นะครับ
     
  13. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    พระพุทธเจ้าผู้ทรงไม่หวั่นไหวทั้งพระกายพระจิตทุกเวลา ทุกสถานการณ์ที่ทรงเผชิญ ได้ทรงแสดงธรรมเหตุแห่งความไม่หวั่นไหว ปรากฏในพุทธภาษิตที่แปลความว่า “สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ใดอบรมบริบูรณ์ดีแล้ว ทั้งกายทั้งจิตของผู้นั้นก็ไม่หวั่นไหว” จิตนั้นเป็นความสำคัญ การปฏิบัติธรรมทั้งสิ้นต้องปฏิบัติให้ถึงจิต จึงจะเป็นผลสำเร็จ ศีลสมาธิปัญญา ก็ต้องปฏิบัติให้ถึงจิต จึงจะเป็นศีลสมาธิปัญญา แม้จะเรียกเป็นอย่างอื่น เช่น สติ สัมปชัญญะ ขันติ โสรัจจะ ก็ต้องปฏิบัติให้ถึงจิต จึงจะเป็นสติสัมปชัญญะ

    [​IMG]
     
  14. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    จะเห็นว่าหลวงปู่ทิมท่านไม่ยึดติดหรือการลุ่มหลงในสิ่งที่ไม่อันควรหรือความไม่ชอบธรรมใดๆยึดมั่นในหลักธรรมอย่างแน่วแน่โดยเฉพาะแก่นแท้ของศาสนาพุทธคือการหลุดพ้นและความไม่ประมาท การศึกษาทางด้านวิชาอาคมใดๆนั้นเราจะประจักษ์เห็นว่าในยุคแต่ก่อนเกจิอาจารย์ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องตอบสนองสังคมเพื่อการปัดเป่าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่มีความทุกข์ร้อนต่างๆโดยเฉพาะเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยใดๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องสัจธรรมแห่งชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย โดยในสิ่งที่แน่นอนกับชีวิตนั้นก็คือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และสิ่งที่ติดตัวเมื่อตายไปแล้วก็คือบุญและบาปที่ได้สร้างกันไว้เมื่อตอนที่มีชีวิตอยู่กันเท่านั้นข้อคิดสำคัญนี้ล้วนเป็นคติธรรมทางบ่อเกิดแห่งปัญญาของมนุษย์ทุกชีวิตที่จะต้องเผชิญกันต่อไป

    การเสกสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิมดังทุกประการนั้นจิตของท่านจะอธิษฐานมุ่งเน้นตามหลักของไตรลักษณ์ที่ต้องน้อมนำมาใช้ดำเนินตามหลักทางของชีวิตอันได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง ล้วนเป็นอนัตตาไม่มีตัวตนอย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ต้องยึดตามหลักของกฎแห่งกรรมด้วยใครทำดีย่อมได้ดีใครก่อกรรมทำชั่วก็ย่อมได้รับผลกรรมกันไป วัตถุมงคลทุกชนิดหรือที่มีอานุภาพที่วิเศษปานใดก็ตามทีก็ไม่สามารถแก้กรรมหรือเหนือกว่ากรรมไปได้เลย หลวงปู่ทิมท่านสอนให้ทุกคนยึดมั่นในคุณความดี คิดดี พูดดี ทำดี แล้วสิ่งที่ดีก็จะเข้ามาในชีวิต

    ถ้าเราจะกล่าวในบทเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญใดๆตามหลักพระพุทธศาสนา แต่เรื่องราว อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มีอยู่มากมายที่ยังหาคำตอบไม่ ได้ จึงไม่แปลกครับที่คนยุคใหม่และนักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อ เรื่องของ”อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์” แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถที่จะหาเหตุผลมาหักล้างได้ เพราะเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องของความเชื่อ ที่อยู่เหนือธรรมชาติและมีผลต่อจิตใจของมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่ากันว่าความเชื่อเหล่านี้จะสามารถลดความหวาดกลัวของมนุษย์ลงไปได้ตลอดจนเป็นการสร้างเกราะกำบังความกลัวและก่อให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาร่วมกันได้ ถ้าเรามีความเชื่อมั่นและความศรัทธาที่ดีอย่างแน่วแน่อานุภาพดังกล่าวก็จะส่งผลให้มนุษย์เรามีความมั่นคงทางจิตใจ และมีความปลอดภัยในชีวิต ขอเพียงแต่ให้ใช้สติปัญญาพิจารณาเรื่องต่างๆอย่างถ่องแท้และไม่งมงาย...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 14hd6.jpg
      14hd6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.3 KB
      เปิดดู:
      28
  15. hmg

    hmg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,504
    ค่าพลัง:
    +4,322
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง และลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกๆท่านครับ
     
  16. เมืองโบราณ

    เมืองโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +4,649
    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

    [​IMG]

    พระชุดนี้มีคนมาสอบถามว่าแล้วที่เห็นๆออกมาจากบางกลุ่มมันของจริงไหม ซึ่งผมในฐานะลูกศิษย์หลวงพ่อสาคร โดยหลวงพ่อท่านบอกว่าสร้างครั้งเดียวไม่มีครั้งสองครั้งสามและต้องเป็นเนื้อนี้เท่านั้นครับ สมัยที่หลวงพ่อท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็บอกหลายๆคนให้ไปดูของจริงในตู้ ซึ่งก็คงได้คำตอบที่ดีกัน ถึงแม้หลวงพ่อท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ หลังจากที่หลวงพ่อเกลี้ยงเจ้าอาวาสองค์เก่ามรณภาพไป ท่านก็มาเยี่ยมเยียนหลวงปู่ทิมเสมอ เพราะท่านก็ได้เคยบวชพำนักที่วัดละหารไร่มานาน มีหลายคนได้เรียนสอบถามกับหลวงพ่อสาครว่าหลวงปู่ทิมท่านเล่นจำพวกผงผีหรือขี้ผึ้งผีไหม หลวงพ่อท่านก็ได้ตอบว่า "อาตมาไม่เคยเห็นเลย และหลวงปู่ท่านก็ไม่เคยใช้ใครด้วย หลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีจิตเข็มขลัง จำพวกผงผีผงกระดูกนั้น ฆราวาสเขาเล่นกัน สมัยที่ท่านอยู่วัดละหารไร่ท่านเคยเห็นโยมพูน ซึ่งท่านเป็นสัปเหร่ออยู่ทางวัดแม่น้ำคู้เก่า ท่านไปเอามาเล่นเวลาเขาเล่นต้องมีเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เท่านั้นและฆราวาสเขาจะเล่นกัน ถ้าเล่นของจำพวกนี้ถ้าทำไม่ดีมันจะเข้าตัวเอา " เคยมีชาวบ้านคนหนึ่งหลวงพ่อสาครท่านจำชื่อไม่ได้เอาผงผีมาเล่นแล้วทีนี้เกิดอาการเอาไม่อยู่ต้องเดือดร้อนถึงหลวงปู่ หลวงปู่ทิมท่านได้ทำน้ำมนต์แก้ให้จนหายปกติ จากนั้นหลวงปุ่ท่านก็เตือนว่า อย่าไปเล่นของแบบนี้อีกนะมันเป็นของอวิชชา ถ้าจิตไม่แข็งอาคมไม่ถึงมันอันตรายได้ หลวงพ่อสาครท่านพูดอยู่เสมอกับลูกศิษย์ลูกหาของท่านครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  17. smoy

    smoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +3,881
    วันนี้ได้รับพระ 3 รายการแล้วครับ
    ขอบคุณมาก
     
  18. prabangkam

    prabangkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +7,098
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม และสวัสดีทุกๆท่านครับ
     
  19. hmg

    hmg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,504
    ค่าพลัง:
    +4,322
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง และเพื่อนๆ พี่ๆ ลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกๆท่านครับ
     
  20. suntornpoo

    suntornpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +916
    กราบหลวงปู่ทิม ลุงสาย และสวัสดีทุกท่านครับ
    งานยุ่งสุดยอดมาก เมื่อวานนี้ได้ซื้อครอบแก้ว นิมนต์หลวงปู่ครับเรียบร้อยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0417.jpg
      DSC_0417.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      48

แชร์หน้านี้

Loading...