ตอบข้อสงสัยทุกเรื่องเกี่ยวกับพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย สุดทั่รัก, 9 ตุลาคม 2013.

  1. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ขออนุโมทนา สาธุ ครับ

    ธรรมที่ว่านี้ คือ ธรรมอะไร ??
    ศีล สมาธิ ปัญญา อันเป็นทางแห่งการหลุดพ้นอย่างนั้นหรือ ??
    แล้วท่านปฏิบัติมาทางไหนครับ ??
     
  2. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781

    ...... ท่านว่ามาน่าสนใจ แต่มันเหมือนจะยกตนเสมอองค์สมเด็จพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมศาสดาไปหน่อยมั้ยครับ กับคำว่า

    ... " แต่เราได้แจ้งในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้แล้ว และหมดสงสัยในธรรมทั้งปวงนั้นแล้ว "

    ... ส่วนมากผู้ที่ว่าอย่างนี้มักเป็นคนที่มั่นใจว่าตัวเองเก่ง แต่ท้ายสุดก็ไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้เพราะ สมเด็จพระพุทธเจ้าหนึ่งไม่มีสอง ไม่มีใครเทียบ ไม่มีใครเสมอได้ด้วยพระญาณ ด้วยบุญญาบารมี และพระนวหรคุณ ๙

    ... อีกอย่างจะว่าเป็นพระอรหันต์ก็ไม่ใช่ เพราะเป็นพระอรหันต์ตอนเป็นโยมถ้าไม่บวชต้องตายใน ๒๔ ชั่วโมง ท่านสุดที่รัก2 มาแปลกนะครับ สังวรสำรวมหน่อยก็น่าจะดีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  3. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559

    สาธุ ขอโมทนาครับ

    1. พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์สร้างสะสมบารมีมาเหมือนกันทุกพระองค์ใช่หรือไม่ (ไม่นับบารมี 30 ทัศ แต่หมายถึงบารมีปลีกย่อยที่มีความพิเศษแตกต่างกันออกไป)

    2. บารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ มีผลต่อโลกธาตุ ที่พระองค์จะเสด็จอุบัติตรัสรู้หรือไม่ เช่น โลกธาตุของพระพุทธเจ้าองค์นึ่ง มีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ มีสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การดำรงชีวิต อายุขัย เป็นอย่างหนึ่ง และโลกธาตุของพระพุทธเจ้าอีกองค์นึ่ง มีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ มีสังคม การเมือง เศรษฐกิจ การดำรงชีวิต อายุขัย เป็นอีกอย่างหนึ่ง

    3. จากข้อ 1 และ ข้อ 2 ถ้าพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มีบารมีไม่เท่ากัน ดังนั้น เมื่อยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ก็หมายความว่า พระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ มีบารมีไม่เท่ากันใช่หรือไม่

    4. จากข้อ 3 เมื่อพระโพธิสัตว์แต่ละพระองค์ มีบารมีไม่เท่ากัน พระโพธิสัตว์องค์ที่มีบารมี(พิเศษ)มาก สามารถแบ่งภาคลงมาเกิดได้หรือไม่
     
  4. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    - ธรรมใดที่ประกอบด้วยเหตุและปัจจัย

    เราแจ้งในธรรมอันนั้น ตามเหตุและปัจจัย

    - ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางแห่งการหลุดพ้นอย่างแท้จริง

    - มหาสติปัฏฐาน กาย เวทนา จิต ธรรม
     
  5. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    เคยบอกแล้วใน คำตอบก่อนๆ ว่า ให้ใช้ปัญญาประกอบ

    และคำถาม จะเป็นตัวบอกระดับของผู้ถามเอง

    สำหรับผู้ถาม เราจะถามกลับว่า

    เคยเป็นอรหันต์หรือ? ถึงได้ไปรู้วิสัยของพระอรหันต์

    และตนเองปฏิบัติจนถึงภูมิของอรหันต์หรือยัง?

    ถ้าบอกว่า ในพระไตรปิฎกบันทึกไว้ ถามต่อว่า แล้วตัวเองรู้หรือยังว่า

    ที่เขาบันทึกกันไว้ เป็นจริงไปตามนั้น

    สิ่งใดถ้าตนยังไม่แจ้งไม่ประจักษ์ พึงสงบเสงี่ยม

    เจียมตนไว้ดีกว่า กลับไปพิจารณาตนเองดีกว่า

    ว่า คุณธรรมข้อใดที่เรายังบกพร่อง

    หวังว่าคงจะคิดได้

    สิ่งที่สงสัยจะค่อยๆได้คำตอบเอง เมื่อเหตุและปัจจัยของตนเองพร้อม

    จงอย่าปิดกั้นตัวเอง สังวรสำรวมหน่อยก็น่าจะดี
     
  6. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    1. ไม่ อยู่ที่แต่ละพระองค์ท่านจะตั้งใจปรารถนา

    2. มี ตามบุญบารมีของแต่ละพระองค์

    3. ใช่ ตามนั้น

    4. ไม่ได้
     
  7. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    เหตุใดนิตยโพธิสัตว์ผู้ไดรับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าจึงลาจากพุทธภูมิได้
    เหตุปัจจัยมาจากสิ่งใดทั้งที่ตอนเป็นอนิตยโพธิสัตว์สู้พากเพียรสั่งสมบารมีมาเนิ่นนาน
    กว่าจะได้รับพุทธพยากรณ์
    แน่นอนว่าท่านมีธรรมสโมธานสามารถเข้าสู่อรหัตผลได้หากต้องการ แต่เพราะเหตุปัจจัยใด
    ทำให้ท่านละปณิธานเดิมทั้งที่ความสำเร็จรออยู่ตรงหน้าแล้ว
     
  8. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    มีได้หลายสาเหตุที่เป็นไปได้ ที่เปลี่ยนใจ

    - ย่อท้อ ต่ออุปสรรค แรงเสียดทาน ที่เกิดขึึ้น กำลังเมตตาเลย

    อ่อน

    - ตกอยู่ในความประมาท เลยกระทำกรรม ที่ส่งผลให้

    ปิดกั้นต่อพระโพธิญาณ

    ทำให้ต้องไปชดใช้กรรมตรงนั้นจนกว่าจะหมดกรรมหรือเบาบาง

    เมื่อระลึกได้ถึงกรรมนั้นและรู้สึกย่อท้อ จึงเปลี่ยนใจ กลับมาที่ สาวกภูมิ

    หรือ ปัจจเกภูมิ ตามบุญญาภิสมภารที่บำเพ็ญมา

    - บำเพ็ญผิดแนวทาง ทำให้บารมีธรรม ไม่อาจมาเกื้อหนุน

    หรือเกื้อกูลในยามคับขันได้ อย่างท่านสมณโคดม ท่านเกาะกลุ่ม

    จึงเป็นเหตุให้ได้ตรัสรู้ เป็นองค์ที่ ๔ ในกัปป์นี้

    นี้คือสาเหตุที่เป็นไปได้ ส่วนพระโพธิสัตว์ท่านใด จะเป็นอย่างไร

    ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง
     
  9. Kosit`

    Kosit` Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +48
    ในจักรวาลนี้ที่แท้แล้วมีสิ่งที่น่ากลัวหรือเปล่าครับ คุณสุดที่รัก
     
  10. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    มีอยู่ กลัวทุกข์ภัย ใน สงสารทั้งหลาย ตราบใด ถ้ายังอยู่ในโลก

    ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ในขณะนั้น

    ทำใจยอมรับได้หรือไม่ เท่านั้นเอง นี้คือ ความจริงที่ทุกคนต้องเผชิญ

    เช่น การพลัดพราก การตาย การสูญเสีย ความทุกข์โศก

    กลัวผลที่เกิดจากการทำบวปทำกรรม

    หรือ อื่นๆ

    แล้ว ผู้ถามรู้สึกกลัวบ้างไหม?
     
  11. Saksurat

    Saksurat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +529
    ขอความรู้หน่อยครับ
    1. เงียบนี้ คือ เงียบที่จะบอกใครๆ ว่าตัวเองเป็นโพธิสัตว์
    หรือ ว่าเงียบที่จะแสดงภูมิธรรมที่ตนมี
    หรือ ว่าเงียบทั้งสองแบบ
    หรือ ว่ามีเงียบแบบนอกเหนือจากนี้อีกครับ
    ทำไมถึงเงียบครับ

    2. จิตที่จะได้เข้าถึงความเป็นพุทธะ คือ สัมมาสัมพุทธะ ๑ ปัจเจกพุทธะ ๑ อนุพุทธะ(อรหันตสาวก) ๑ หรือได้เข้าถึงความเป็นพุทธะแบบใดนั้นแล้ว
    ธาตุแห่งจิตเป็นตัวกำหนดจิตดวงนั้นๆ ว่าต้องเป็นพุทธะแบบใดแต่แรกเริ่มของดวงจิต
    หรือว่ามีอะไรกำหนดในการเข้าถึงความเป็นพุทธะในแบบนั้นๆ หากมีคืออะไรบ้าง ขอคำอธิบายครับ

    3. นิยตโพธิสัตว์ เบื่อหน่ายในการเกิดไหมครับ หากเบื่อเกิดนี้ มากขนาดไหน


    ขอบคุณครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  12. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102

    1. คนที่เขาทำความดี ไม่จำเป็นต้องไปป่าวประกาศให้ใครเขารู้

    ปิดทองหลังพระไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลา คุณความดีมันก็จะปรากฏเอง

    ฟ้าเห็น ดินเห็น ใจของตนเองเท่านั้นที่รู้ อย่างนี้ เขาเรียกว่า

    เงียบ และก็จะนับเป็นแต้ม ในการสั่งสมบุญบารมี

    ของพระโพธิสัตว์ท่านนั้น ผลงานมันจะปรากฏมาเอง

    2. การที่จิตเข้าถึงพุทธะ หรือเป็นพุทธะ นั้น จะเป็นไปตามลำดับขั้น

    สำหรับ พระโพธิสัตว์ หรือ พุทธภูมิ นั่นคือ ระดับสภาวะธรรม

    ของจิตพระโพธิสัตว์ ท่านนั้น ต้อง ผ่านในภูมิ ของ

    อรหันตสาวก ไป ปัจเจกพุทธะ และไป สัมมาสัมพุทธะ

    เป็นไปตามลำดับ และ ตาม บุญญาภิสมภาร ของพระโพธิสัตว์

    พระองค์นั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ จะข้ามลำดับของสภาวะแห่งภูมิจิตได้

    เปรียบดัง คนจะเป็น ครูใหญ่ ก็ต้องผ่าน ครูฝึกหัด หรือ

    ครูน้อยมาก่อน

    ระดับของสภาวะธรรม ในแต่ละภูมิ จะเป็นตัวกำหนดเอง

    3. ต้องถามท่านเอง หรือ พอคุณ จิต หยั่งถึง

    อรหันตภูมิในระดับ สาวก จะรู้คำตอบเอง

    แต่ด้วยมีจิตที่เมตตาหล่อเลี้ยง จึงต้องทนบากบั่น สร้างบารมี แม้ว่าจะ

    ทนทุกข์อย่างไร เพื่อ เข้าถึงพุทธภูมิธรรมให้ได้

    อย่างท่านสมณโคดม ท่าน ปัญญายิ่งยวด แต่ บริษัทของท่าน

    ตามท่านไม่ทัน จึงเป็นอย่างทุกวันนี้

    บริษัทของท่าน กกุสันโธ ๔ ส่วน จาก ๕
    บริษัทของท่าน โกนาคม ๓ ส่วน
    บริษัทของท่าน กัสสปะ ๒ ส่วน
    บริษัทของท่าน สมณโคดม ๑ ส่วน
     
  13. สุดทั่รัก

    สุดทั่รัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2013
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +102
    เปลี่ยนอักษรเป็นตัวใหญ่ มองเห็นง่ายดีจัง
     
  14. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    พุทธภูมิก็แบบนี้แหละครับ ศึกษามามาก ประสบการณ์มาก แต่กำลังใจมันยังไม่ถึงจุดที่ปัญญาเป็นผล ดังนั้นก็อยากจะเอาออก ให้คนอื่นได้รู้และเข้าใจอย่างตน อาการแบบนี้เรื่องปกติ เดี๋ยวรู้มากเข้า พูดอธิบายมากเข้า ถ้ายังไม่หลงทิศหลงทางเดี๋ยวก็จะเหลือสั้นลงเรื่อยๆ จนในที่สุดไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ถึงตรงจุดนั้นแหละถ้าลองได้พูดให้คำตอบคำปรึกษาใครประโยชน์มันจะมีสูงกว่าตอนเป็นแบบนี้

    เล่าให้ฟังน่ะครับ จากประสบการณ์ แต่ก่อนตอนได้ญานรู้โน่นนี่เยอะแยะไปหมด แถมถูกด้วย แหมอยากจะเล่าโน่นนี่เยอะไปหมด ใครเจอผมช่วงนั้น เรื่องเล่า 3 วัน 3 คืนก็ไม่หมด ไม่มีซ้ำ โดนไปซะหลายคน มาตอนนี้เพิ่งจะรู้อาการแบบนั้นเรายังโง่อยู่เยอะเลย

    ก็แนะนำว่าอย่าประมาทเป็นที่ตั้งก็พอครับ คนรับได้ดี แต่คนพูดนี่มีแต่เท่าทุนกับเจ๊ง ต้องระวังตรงจุดนี้น่ะครับ
     
  15. RYO

    RYO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +456

    ขอให้คุณแนะนำตัวอย่างละเอียดก่อนดีไหมครับ คิดอยากจะให้พวกผมยกย่องสรรเสริญ ลองพรีเซ้นให้ผมฟังหน่อยสิ อะไรก็ได้ แนะนำตัวเองด้วยละเอียดๆ ชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใคร เอาให้ละเอียดอ่ะ
     
  16. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ... ขอติงคุณ สุดที่รัก2 นิดนึงครับ ที่ท่านเรียกองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า " ท่าน " ครูบาอาจารย์ของผมเคยบอกว่า เป็นการเรียกโดยไม่เคารพต่อสมเด็จพระโลกนาถบรมครู ยังไงก็ช่วยทบทวนหน่อยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2013
  17. RYO

    RYO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +456
    ใช่ครับ พูดมากเสียมาก พูดน้อยเสียน้อย ไม่พูดไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์
     
  18. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ความแตกต่างมันเกิดและมีอยู่ในส่วนนี้แหละครับ รู้เพื่อรู้ว่ารู้ ว่ามี ว่าได้เป็นเจ้าของผู้ครอบครอง มีความภูมิใจ ตื่นเต้น ดีใจ ภาคภูมิ ปีติ ยินดี รื่นรมย์ ปราโมท เอิบอิ่ม เบิกบาน รื่นเริงบันเทิงธรรม มองผิวเผินมันเป็นความรู้ ความแปลกใหม่ ความจริง มีอยู่เป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ได้เข้าไปสัมผัสลิ้มรส ก็มีความสำคัญว่าต้องบอกให้ผู้อื่นรู้เห็นตาม เป็นการสมควรแก่กาล ณ.เวลาหนึ่ง เพื่อเป็นการบอกกล่าวในส่วนว่ามีเป็นอยู่จริงตามนั้น แม้ได้ลิ้มรสนานวันบ่อยเข้าเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด มองเห็นสิ่งที่มีอยู่รื่นเริง เบิกบาน มีความภูมิใจ ตื่นเต้น ดีใจ ภาคภูมิ ปีติ ยินดี รื่นรมย์ ปราโมท เอิบอิ่ม ความเหล่านี้จะหายไป เมื่อจิตเข้าใจธรรมชาติได้อย่างแจ่มแจ้งแล้ว ย่อมปล่อยวาง เห็นเป็นอนิจจัง เกิดเบื่อหน่าย คลายความยึดติด จะเลิกในส่วนนี้ตัดทิ้งเสีย นิ่งเงียบ ปฏิบัติเข้าสู่ทางแห่งสาวกภูมิในทางเดินแห่งอริยมรรคบุคคลต่อไป
    แต่ยังมีบุคคลอีกประเภทหนึ่ง ที่จะเดินไปในความรับผิดชอบที่ตนเองได้ตั้งสัจจะปณิธานไว้ว่าตัวเองจะต้องกระทำหน้าที่ของตน จนเกิดมีความรู้มีความภูมิใจ ตื่นเต้น ดีใจ ภาคภูมิ ปีติ ยินดี รื่นรมย์ ปราโมท เอิบอิ่ม เบิกบาน รื่นเริงบันเทิงธรรม มองผิวเผินมันเป็นความรู้ ความแปลกใหม่ ความจริง มีอยู่เป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ได้เข้าไปสัมผัสลิ้มรส ก็มีความสำคัญว่าสิ่งนี้แหละที่ต้องบอกให้ผู้อื่นรู้เห็นตาม เป็นการสมควรแก่กาลเวลา บอกกล่าวในส่วนว่ามีเป็นอยู่จริงตามนั้นชี้ลงไปอย่างแจ่มแจ้ง ให้เห็นคุณและโทษประโยชน์ที่จะต้องได้รับ ไม่มีความสำคัญว่าสิ่งเหล่านี้ไม่คลายความเบื่อหน่าย ไม่คลายความยึดติด จะต้องไม่ตัดทิ้งเสีย ไม่นิ่งเงียบ แม้ในส่วนลึกภายในจิตใจยังมองเห็นคุณโทษ เห็นผลของมันว่ามีความไม่มีประโยชน์ ไม่น่าภูมิใจ ไม่น่าตื่นเต้น ไม่ดีใจ ไม่น่าภาคภูมิ ไม่น่าปีติ ไม่น่ายินดี ไม่น่ารื่นรมย์ ไม่น่าปราโมท ไม่น่าเอิบอิ่ม ไม่น่าเบิกบาน เพราะความคิดแบบนี้ผลของการกระทำนี้ได้เข้าไปไกล้สู่หัวใจจุดสูงสุดแห่งธรรมชาติ ตามหลักของธรรมที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราได้ตรัสรู้เผยแพร่ด้วยความเมตตากรุณาอย่างเปี่ยมล้นได้กระทำตามทางแห่งบรมโพธิสัตว์ที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานมาแล้วในอสงไขยกัป
    ความคิดทางเดินไปในทางแห่งจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่กำลังแห่งการกระทำเวลาหน้าที่แตกต่างกัน การกระทำในวันนี้ยังไม่ใช่ตัวชี้วัดผลของการกระทำในครั้งนี้ ต้องดูเวลาและกำลังเป็นสำคัญ เปรียบเสมือนพ่อ-แม่-ลูก หรือลูกศิษย์กับอาจารย์ มีหน้าที่วุฒิภาวะ ที่ต้องกระทำต่างกัน อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างบ้างดื้อรั้น เกเร ไม่ใสใจ ไม่สนใจ ไม่ให้ความยำเกรงเคารพ ไม่เลื่อมใส
    ไม่ศรัทธา ย่อมนำมาซึ่งความไม่เจริญย่อมเป็นธรรมดา แต่วันใดประสบการณ์ที่ผ่านมา ได้รู้ ได้เห็น รู้สึกสำนึกผิด ย่อมปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้นมาได้ ได้แชร์บอกกล่าว ให้ความรู้แก่บุคคลอื่น และบุคคลเหล่นั้นยอมรับ ก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าอาจารย์ก็เป็นได้ นั่นเป็นเรื่องของเวลาและกาล บุคคลใดเชื่อฟังไม่ดื้อรั้น ไม่เกเร ใสใจ สนใจ บุคคลนั้นก็ไปและเจริญได้เร็วโดยง่าย
     
  19. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    1. กรรมอะไรที่ทำให้พระโพธิสัตว์ต้องไปเกิดนอกเขตบุญพระพุทธศาสนา และไปนับถือบูชาลัทธิศาสนาอื่น ในขณะที่พระพุทธศาสนายังตั้งมั่นไม่อันตรธานหายไปจากโลก
    (ผมขอใช้คำว่า "พระโพธิสัตว์" เพราะให้เกียรติ แม้ว่าผู้นั้นจะเริ่มปรารถนาพุทธภูมิเป็นวันแรก ผมก็ให้เกียรติถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์)

    2. กรรมอะไรที่ทำให้พระโพธิสัตว์ ต้องเกิดมาเป็นนักรบ แผ่ขยายอิทธิพล เข่นฆ่า ล้างเผ่าพันธ์ (เป็นการสมมุติ ไม่สามารถอ้างอิงยกตัวอย่างบุคคล)

    3. พระโพธิสัตว์ เลือกที่จะไม่มาเกิดเป็นนักรบ แผ่ขยายอิทธิพล เข่นฆ่า ล้างเผ่าพันธ์ ได้หรือไม่
     
  20. Saksurat

    Saksurat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +529
    ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ขอถามอีกหน่อย

    1.พระโพธิสัตว์ที่เข้าเขตพุทธพยากรณ์ มีภูมิอยู่ในระดับ สาวกภูมิ หรือ ปัจเจกภูมิ หรือ พุทธภูมิ และในชาติที่ถูกพยากรณ์ มีภูมิธรรมระดับ สาวกภูมิ หรือ ปัจเจกภูมิ หรือ พุทธภูมิ ครับ

    2.พระพุทธเจ้า ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยะธิกะ ความปรารถนาเป็นตัวกำหนดหรือครับ

    3.คำตอบทั้งหลายท่านเป็นคนตอบเองหรือครับ

    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...