(ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร) เลขเด่นงวดประจำวันที่ 16 ก.ค. 58 หน้าที่ 261 ...แชร์ความฝัน ^__^

อาจจะมีโชคตามที่คุณบู๊บอกกะได้ครับ ต้องรอดู

ส่วนสวดมนต์ไหว้พระ ทำทุกวันเรื่อยๆๆดีแล้วครบ ขออนุโมทนาสาธุด้วย

 

ไม่เคยค่ะ มดเหม็นไม่อยากไปยุ่งค่ะ -*-

 

ก็อาจจมีโชคหน่ะครับ เพราะฝันเช้าตู่มักจะแม่น

 

คุณหลาน ป้าเพิ่งจะนึกได้ เมื่อคืนป้าฝันว่าเดินข้ามสะพานแต่ไม่รู้ที่ไหน มิงลงไปข้างล่างเห็นปลาตัวประมาณปลาคราฟ หลายตัวแต่หน้าตาไม่ใช่ปลาคราฟ หน้าตาแปลกๆ แต่สีสวย แล้วป้าก็ลงไปเดินลุยในน้ำ แล้วก็เห็นปลาดาวแล้วก็ได้แตะตัวเค้าด้วย แต่ว่าป้าแปลไม่เป็นน่ะ แต่ฝีนแบบนี้พอตื่นมามีความสุขมาก

 

บริวารพญานาคราชป่ะครับ

ป้าไปเที่ยวบ้าเก่ามาเปล่าเนี่ย อิอิ

 

Kwanzy

ชื่อไรครับ กวางหรือขวัญเอ่ย

 

DATE : 10-09-2013

วันที่ 4 สัปดาห์ที่สองในการสอนน้องเบลล์ วันนี้สีหน้าเธอดูยิ้มแย้มแจ่มใสมาก เพราะเธอมีความสุขที่ได้กลับไปที่ทำงานเก่า ไปพบหัวหน้างานที่ใจดี.....
อาทิตย์ที่ผ่านมาน้องเบลล์ได้กลับไปที่ ที่ทำงานเก่า หรือร้านอาหารนั้นเอง ช่วงนี้ลุงแกจะปลอ่ยๆๆหลาน เพราะอยากให้รีแล๊กซ์ และลุงแกก็งานเยอะด้วย ผมลองถามน้องเบลล์ว่าลุงแกถือศีล 8 ไหม เพราะคนวาจาศักดิ์สิทธิ์ต้องรักษาศีล 8 น้องเบลล์บอกว่าไม่รู้เหมือกันจารย์

ศีล 8 ประกอบด้วย
ศีล 8 มีความหมายคือสำหรับฝึกตนให้ยิ่งขึ้นไปโดยรักษาในบางโอกาส หรือมีศรัทธาจะรักษาประจำก็ได้ เช่น แม่ชีมักรักษาประจำ หัวข้อเหมือนศีล 5 แต่เปลี่ยนข้อ 3 และเติมข้อ 6 - 7 - 8 คือ

1. เว้นจากทำลายชีวิต
2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
3. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
4. เว้นจากพูดเท็จ
5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
8. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย

5 ข้อน่าลุงพอจะทำได้ ก็เลยถามน้องเบลล์ว่าลุงนอนยังไง น้องเบลล์บอกว่าลุงมีเตียงนอน แต่แปลกคนที่ชอบเอาเสื่อมาปูแล้วนอน ซึ่งตรงกับ ศีลข้อที่ 8
และก็ถามต่อว่าลุงดูอะไรไหมก่อนนอน น้องเบลล์บอกว่าลุงดูข่าว แล้วก็นอน ไม่เคยดูละครเลย ซึ่งตรงกับข้อ 7 ส่วนข้อ 6 ผมลืมถาม แต่ว่าลุงแก่น่าจะทำได้น้องเบลล์บอกว่าจารย์ถามหนูทำไม ผมก็บอกว่าจะดูว่าลุงถือศีล 8 จริงไหม น้องก็บอกว่าค่ะ หนูว่าก็่น่าจะถือศีล 8 วันนี้้ลุงไม่ค่อยโทรมาหาหลานสงสัยจะยุ่งจริงๆๆ วันนี้ผมก็ได้นำ MP3 บทสวดมนต์ไปให้น้องเบลล์ได้ฟังได้หัดสวด และที่ผมสงสัยคือ ลุงแกซื้อรองเท้าคอนเวิร์ตมาให้น้องเบลล์ แถมน้องเขากำลังเก็บเงินซื้อและ ลุงแกเลือกไซส์ สี และขนาดเท่าไหร่แม่นยำ ใส่ได้พอดีได้อย่างไร แปลกใจมากที่น้องบอกว่าน้องไม่เคยบอกใครอยากว่าได้รองเท้าคู่นี้ ยี่ห้อนี้ ลุงแกรู้ได้อย่างไร และวันนี้ผมก็ได้ให้รูปสมเด็จพุฒาจารย์โตกับแกไป เพราะว่าจะได้เป็นกำลังใจในการสวดคาถาชินบัญชร คงปลื้มน่าดูชม
วันที่ผมถามน้องว่าฝันร้ายไหม น้องบอกไม่เลยเพราะว่าสวดคาถาพาหุงที่อ.บอกตลอด และมีวันนึงลืมสวด สะดุ้งตื่นกลางดึก เลยต้องลุกมาสวดมนต์และก็นอนต่อได้ ที่สำคัญน้องเป็นคนกลัวผีมากๆๆ ก่อนมาเรียนลุงแกบอกว่าตั้งใจเรียนนะ ผมลืมบอกไปว่าในอาทิตย์ก่อนที่แกพาไปกิน MK แกบอกให้น้องไปหยิบขนมเปี๊ยะ และก็ได้รับรองเท้าเป็นของขวัญ น้องดีใจมากๆๆ ลุงแกบอกว่าอาทิตย์นี้อยากกินกล้วย ถ้าเจอกล้วยซื้อมาฝากหน่อยนะ อยากกิน ผมกับน้องก็งงว่าทำไมอยากกินกล้วยอีก ก็ช่วยกันคิดว่าลุงจะสื่ออะไร แต่สุดท้ายก็จนปัญญาและคิดว่าคงอยากกินเฉยๆๆ แต่ผมคิดว่า หรือแกอยากให้ไปทำบุญให้ลิง เพราะน้องทำบุญให้อาหารลิงก็นานมาแล้ว ช่วงเดือนมกราคม ตอนนี้ก็น่าจะทำได้อีกหนนึง ก็คงไม่เสียหาย และแกก็พูดว่าอยากไปหัวหินจัง อาทิตย์นี้ไปกันไหม ผมนึกในใจอันนี้พอรู้แหละ ลุงเทพมากๆๆจริงๆ เพราะว่าคอร์ดนี้ จะมีป้าที่มาจากหัวหินมาเรียนด้วย แต่ตอนนี้ผมกับหัวหน้าได้สรุปแล้วให้น้องเบลล์มาเรียนเช้าแทน ส่วนป้ามาเรียนบ่าย แล้วป้าคนที่นี้ก็แปลก ที่เรียนก็เยอะแยะ จงเจาะมาเรียนที่ผมอีก แต่ก็ดีใจนะที่รร.จะได้มีรายได้ แต่ป้าสุดยอดคือป้าแกนั่งรถไฟมาเรียน ไม่ยอมเช่าหออยู่แก่บอกว่าแกไม่อยากนอนที่อื่น อยากกลับไปนอนบ้าน ก็ตามใจแก คงเหนื่อยน่าดู เรียนนี้คือแกจะไปปรับวุฒิให้เงินเดือนสูงๆๆทุกทีก็ให้ลูกน้องทำงานให้ตลอด คราวนี้จะปรับวุฒิต้องใช้ใบรับรอง เวรกรรมเลยต้องหอบสังขารมาเรียน ที่สำคัญแกมาจากหัวหิน เอ๊ะ ลุงแกก็เกิดอยากจะไปเที่ยวหัวหินขึ้นมาซะงั้นแหละนะ 555
ก็บอกอยู่ว่างานเพียบมันยังไงกัน ก็คุยกับน้องเบลล์ว่าสงสัยลุงแกสื่ออีกแหละ น้องเบลล์เล่าว่าช่วงที่กลับไป ลูกชายเจ้าของร้านอาหารที่น้องเบลล์ทำอยู่ เหมอืนจะแอบชอบน้องเบลล์ แต่ลูกชายคนนี้ก็ไม่มีแฟนด้วย และเป็นเด็กดี สาวๆๆก็เข้ามาคุยเยอะ แต่แม่จะสแกนเพราะว่าสาวๆๆสมัยนี้ร้ายน่าดู แม่ของหนุ่มน้อยผู้นี้ก็คือนายจ้างของน้องเบลล์เก่าที่ใจดีและถือศีล 5 แกกล้วสาวจะมาหลอกลูกแกเลยคอยสแกน แต่แกก็ชอบน้องเบลล์เพราะเป็นเด็กขยันทำงาน และไม่เฟค ดูห้าวๆๆ แกมักจะเล่าให้ลูกชายแกฟังบ่อยๆๆ ลูกชายแกคงจะปลื้ม ลูกศิษย์ผมแน่ๆๆเลย 555 เวลาน้องเบลล์ไปเก็บผัก หรือจับปลา ลูกชายเจ้าของร้านก็ตาม พอน้องเบลล์เห็นก็เดินหนี เพราะมันแปลกๆๆ ถามว่าหนุ่มน้อยคนนี้ดีไหม ลูกศิษย์ผมบอกว่าก็ดีนะน่ารักดี 555 แถมลุงเคยบอกว่า เอ็งโตแล้ว น่าจะมีแฟนได้แล้ว และต้องเป็นคนดี ลุงจะได้ไม่ห่วงมาก แหมประจวบเหมาะทุกงานเลยลุงน้องเบลล์ และที่ร้านนี้มีต้นตะเคียนชื่อเจ้าแม่ทับทิม ถามประวัติได้ความว่า ก่อนทำร้านอาหาร ก็มีการถมที่แล้วเจอตอไม้ คนเจอเป็นผู้ชาย 3 คนเลยจะพูดว่าจะเอาไปทิ้ง ทันใดนั้นดินก็ยุบลงไปข้างล่าง ก็บาดเจ็บเล็กน้อย เลยพูดว่าจะเอาพระกับพราหมณ์มาทำพิธีเอาขึ้นให้ ทั้ง 3 ก็สามารถขึ้นมาได้ปลอดภัย แม่ครัวเล่าว่าถูกหวยบ่อย ไปขูดเลขฝันบ้าง เจ้าแม่มาเข้าฝัน หุหุ น้องเบลล์บอกว่าเดินผ่านทีไรขนลุกทุกที เหตุการณ์ที่ตื่นเต้นก็มีอีกคนน้องเบลล์กลับจากที่ทำงานเก่ามานครปฐม ก็นั่งรถตู้เพลิน หลับกลางทาง และก็เลย พอตื่นก็บอกรถตู้จอด น้องลงมาก็งงว่าที่ไหนแล้ว ก็เดินย้อนกลับมา ฝนก็ตกพอดี (เวลานั้นเป็นเวลาที่ผมทำบุญหล่อพระเสร็จแล้ว และผมก็ติดฝนกลางทางพอดี วันอาทิตย์ที่ไปหล่อพระมานั้นแหละ) น้องเดินมาพักแถวๆๆบ้านคน ชาวบ้านใจดีก็เอาเก้าอี้มาให้นั่ง และบอกว่ามาหลบในบ้านก่อนไหมหนู มาจากไหนละ น้องเบลล์บอกว่ากลับมาหอค่ะ ไม่เป็นไรค่ะเกรงใจค่ะ ชาวบ้านที่เจอก็ใจดีจัง หายากในสมัยนี้ จนมาเจอป้อมตำรวจเธอก็ถามทาง ตำรวจบอกตรงโลดเลย เธอก็เดินมาเจอจุดที่เคยลงบ่อยๆๆ ก็โล่งไปที่ไม่มีคนไม่ดีมาฉุดเธอไป และโจรมาปล้นเธอ เธอบอกว่า การอยู่ในเมืองที่ไม่เคยมานี่ถ้าหลงลำบากจัง ผมก็บอกเธอว่า คนเราเมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ ให้พยายามถามคนแถวนั้น ไม่ก็ตำรวจ ดีนะไม่หลงไปไกลกว่านี้ ตัวก็เปียกฝน และน้องเบลล์ก็เล่าว่าตอนทำงานที่ชลบุรี เธอเจอคนตาบอดจะข้ามถนน แต่ไม่มีใครช่วยเลย
มีแต่คนดีแต่พูดไม่ทำไร บอกว่าเห้ยลุงผิดทางแล้วไม่รู้เรื่องเลย ดีแต่พูดแต่ไม่พาลุงแกข้าม ดีแต่ด่าลุงว่าตาบอดยังจะข้ามอีก น้องเบลล์มาก็มองหน้าคนพวกนี้ และพาลุงแกข้ามไป ผมเลยบอกว่าดีแล้วเราทำดีไม่ต้องไปสนใจใคร ดีกว่าคนดีแต่พูดแต่ไม่ทำอะไรเลย ตรงกับสำนวนที่ว่า

"ทำดีแล้วโดนด่า ไม่ทำห่าแล้วด่าคน"

คนพวกนั้นก็ซุบซิบและก็นินทาน้องเบลล์ แต่ละคนทำหน้าไม่พอใจที่น้องเบลล์พาลุงข้าม ผมสอนว่าทำดีไปเถอะ อย่างน้อยเราก็รู้สึกสบายใจที่ได้ช่วยลุงแก
แม้ว่าคนอื่นจะมองเรายังไง น้องเบลล์เล่าให้ฟังว่า ลุงแกโทรมาเมื่อวาน พูดเพราะมาก ตอนน้องเบลล์รับสายบอกว่าสวัสดีค่ะ น้องเบลล์บอกลุงเป็นบ้าอะไรพูดเพราะ ลุงบอกก็อยากพูดเพราะๆๆบ้าง ผมเลยเอามาสอนน้องเบลล์ว่า การพูดอะไรกับผู้หลักผู้ใหญ่ ควรมีสัมมาคาราวะ และรู้กาลเทศะ หัดมือไม้อ่อน ผู้ใหญ่จะได้เมตตาเรา เวลาเรามีปัญหา ผู้ใหญ่จะได้เอ็นดูและช่วยเหลือเรา น้องเบลล์ก็จดว่าวันนี้ผมสอนอะไร และผมก็บอกว่าให้น้องจดว่าจุดไหนแถวหอที่มีร้านอะไรเด่นๆๆหรือจุดเด่นๆๆที่ควรจำเมื่อหลงจะได้จำจุดได้ และสามารถกลับหอได้ ตอนสอนปรากฏว่าปากกาเธอหมด ผมจึงปากกาให้เธอใช้ และสอนเธอว่า คนเราควรคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ ปากกา เราควรมีสองด้าม เพื่อนมันหายหรือหมดจะได้มีใช้ เกิดตอนไปเรียนแล้วมีสอบจะได้ไม่มีปัญหา เหมือนตอนทำงานถ้าเราต้องใช้ของ 50 อัน แต่เราสั่งเผื่อเป็น 100 อันเพื่ออะไร เพื่อกันของเสีย กันพลาดจะดีกว่า น้องเบลล์ก็บอกว่า OK ค่ะจารย์หนุจะจำไว้้ และในการคบเพื่อนให้เลือกคบกลางๆๆ ไม่คบเด็กเรียนมาและเด็กเก๊มากเพราะว่า ถ้าเด็กเรียนจะเห็นแก่ตัว และเด็กเก๊จะไม่สนใจเรียน ให้ถือทางสายกลางไว้ดีกว่า จะได้เหมาะกับน้องเบลล์ วันนี้ตอนเลิกก็ 16.00 น.พอดี เสียงโทรศัพท์วันนี้ก็ไม่ดัง สงสัยลุงแก่ยุ่งจริงๆๆ คิคิ



กำลังใจของน้องเบลล์ที่ได้จากผม

 

ขวัญ ค่ะ เด้วขวัญจะมีโครงการปฏิบัติธรรม มาประชาสัมพันธ์เผื่อมีผู้สนใจ จะขอโพสต์ประกาศลงในด้วยนะคะ

 

ยินดีจ้าคุณขวัญ ขอต้อนรับญาติธรรมคนใหม่ มีอะไรก็บอกได้จ๊ะในนี้

 

ศีล 8

ศีล 8 มีความหมายคือสำหรับฝึกตนให้ยิ่งขึ้นไปโดยรักษาในบางโอกาส หรือมีศรัทธาจะรักษาประจำก็ได้ เช่น แม่ชีมักรักษาประจำ หัวข้อเหมือนศีล 5 แต่เปลี่ยนข้อ 3 และเติมข้อ 6 - 7 - 8 คือ

1. เว้นจากทำลายชีวิต
2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
3. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
4. เว้นจากพูดเท็จ
5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
8. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย



คำอาราธนาศีล 8


*สมาทานคนเดียว เปลี่ยนคำว่า “มะยัง” เป็น “อะหัง” และ “ยาจามะ” เป็น “ยาจามิ”

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 8 พร้อมกับสรณะ 3)
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 2 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 8 พร้อมกับสรณะ 3)
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 3 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 8 พร้อมกับสรณะ 3)
บทไตรสรณคมน์


พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรม ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรม ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระธรรม ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าขอถือเอาพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก

คำสมาทานศีล 8 หมายถึง คำรับศีลจากพระภิกษุ
1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เจตนา เว้นจากการฆ่าด้วยตนเอง และใช้ให้ผู้อื่นฆ่า

2. อทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้แล้ว,ด้วยตัวเอง และใช้ให้ผู้อื่นฉ้อฉล

3. อพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์

4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำล่อลวงผู้อื่น

5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการ ดื่มน้ำเมา สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งของความประมาท

6. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ( ตั้งแต่เที่ยงจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่ )

7. นัจจะคีตะวาทิตะ วิสูกะทัสสะนามาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะนะ วิภูสะนัฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฟ้อนรำขับร้องและประโคมเครื่องดนตรีต่างๆและดูการละเล่นชนิดเป็นข้าศึกต่อกุศล และลูบทาทัดทรวงประดับตกแต่งร่างกายด้วยดอกไม้และของหอม อันเป็นที่ตั้งแห่งความยินดี

8. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการนั่งนอนบนเตียงตั่งมีเท้าสูงเกินประมาณและที่นอนสูงใหญ่ภายในมีนุ่นและสำลี และเครื่องปูลาดอันวิจิตรงดงามต่างๆ

อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ
(ข้าพเจ้าขอทรงไว้ซึ่งศีลทั้งแปดประการด้วยจิตตั้งมั่น)(3 ครั้ง)

(พระสวดรับรองว่า)

ศีเลนะสุขคติงยันติ (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงความสุข)
ศีเลนะโภคะสัมปะทา (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่ง โภคทรัพย์)
ศีเลนะนิพพุติงยันติ (และศีลนั้นยัง จะเป็นเหตุให้ได้ไปถึง นิพพาน คือความดับเย็นจากกิเลศ เครื่องเศร้าหมอง ทั้งปวง)
ตัสสมา ศีลัง วิโสทะเย (ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษนักที่เธอทั้งหลายพึงยึดถือเป็นหลัก ประจำชีวิต ประจำจิตใจ ปฏิบัติ ให้ได้ ดังนี้ แล)

สาธุ (แปลว่าดีแล้ว ชอบแล้ว)

จบ คำอาราธนาศีล 8


คำอาราธนาอุโบสถศีล


มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ
ตะติยัม มะยังภันเต ติสะระเณ นะสะหะ อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง, อุโปสะถัง ยาจามะ

ผู้รับศีลพึงกล่าวคำสมาทานอีกดังนี้

อิมัง อัฏฐังคะสะมันนาคะตัง พุทธะปัญญัตตัง อุโปสะถัง อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง สัมมะเทวะ อะภิรัปขิตุง สะมาทิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานอุโบสถศีลที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ประกอบไปด้วยองค์ 8 ประการ นี้ เพื่อจะรักษาไว้ไม่ให้ขาด ไม่ให้ทำลาย ตลอดเวลา วันหนึ่ง คืนหนึ่ง ณ เวลาวันนี้ )

จากนั้นพระสงฆ์กล่าวสรุปอุโบสถศีลดังนี้…

อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ, อัชเฌกัง รัตติง เอวัง อุโปสะถะสีละวะเสนะ, สาธุกัง กัตวา อัปปะมาเทนะ รักขิตัพพานิ
(ขอท่านทั้งหลายจงรักษาสิกขาบททั้งแปดข้อนี้ไว้ให้ดี อย่าประมาท ต่ออำนาจศีลอุโบสถตลอดราตรีหนึ่ง)

ผู้รับศีลพึงตอบรับว่า “สาธุ ภันเต”

การรักษาอุโบสถศีล มีผลมาก มีอานิสงส์มาก แม้ความสุขของ
พระราชาผู้ทรงเป็นใหญ่ใน 16 แคว้น ก็ยังไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 ของอุโบสถ
ที่ประกอบด้วยองค์ 8 เพราะศีลนั้นทำให้เกิดในสวรรค์"

อุโบสถศีล เป็นกุศลวิธีที่นำพามนุษย์ไปสู่ สวรรค์มาตั้งแต่มนุษย์ยุคต้นกัป ถ้าเป็นอุโบสถในพระพุทธศาสนา เรียกว่า อุโบสถประกอบด้วยองค์ 8 ซึ่งก็หมายถึงรักษาศีล 8 ในวันพระนั่นเอง ในยุคสมัยที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา ผู้ปรารถนาสวรรค์จะชักชวนกันรักษาอุโบสถศีล เพราะถือว่าเป็นอริยประเพณีที่มีมาช้านาน แม้กระทั่งพระเจ้าจักรพรรดิราช ก่อนจะทรงครองความเป็นใหญ่ในทวีปทั้ง 4 ก็ต้องสมาทานอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัดทุกๆ วันขึ้น 15 ค่ำ อานิสงส์ของอุโบสถศีลทำให้ รัตนะทั้ง ๗ ประการ มีจักรแก้ว เป็นต้น บังเกิดขึ้น เป็นของคู่บุญ ทำให้พระองค์ทรงสามารถปกครองโลกให้เกิดสันติสุข ครั้นละโลกแล้วก็ได้ไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์

อุโบสถศีล แปลว่า การเข้าอยู่จำโดยถือศีล 8 ข้อ วันอุโบสถหรือวันพระนั้น เป็นวันที่เราจะต้อง อยู่เยี่ยงพระคือบำเพ็ญเนกขัมมะนั่นเอง ศีลแปดที่รักษากันในวันพระ เรียกว่า อุโบสถศีล ผู้ครองเรือนทั่วไปไม่สะดวกถือศีล 8 ได้ทุกวัน ก็จะหาโอกาสมาถือศีลกันเฉพาะวันพระเช่นนี้จึงเรียกว่า รักษาอุโบสถศีล

ระยะเวลาของการรักษาอุโบสถศีล


การรักษาอุโบสถ มี 3 อย่าง สามารถเลือกรักษาได้ตามความพร้อมของแต่ละบุคคล คือ

1. ปกติอุโบสถ คือ อุโบสถที่รักษากันเฉพาะวันที่กำหนดไว้ ในปัจจุบันนี้กำหนดเอาวันพระ คือ วัน 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม

2. ปฏิชาครอุโบสถ คืออุโบสถที่รักษากันครั้งละ 3 วัน โดยการถือเพิ่มการรักษาก่อนกำหนด 1 วัน เรียกว่า วันรับ และหลังวันกำหนดอีก 1 วัน เรียกว่า วันส่ง จึงรวมเป็นรักษาคราวละ 3 วัน คือ วันรับ วันรักษา และวันส่ง รวม 3 วัน 3 คืน

3. ปาฏิหาริยปักขอุโบสถ คือ อุโบสถที่รักษาครั้งละหลายๆ วัน เช่น ตลอดพรรษา 3 เดือนบ้าง ตลอด 1 เดือนบ้างหรือครึ่งเดือนจำนวน 15 วันบ้าง

ศีลอุโบสถนั้น มีองค์ประกอบทั้งหมด 8 ข้อ ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง ก็ไม่เรียกว่าศีลอุโบสถตามพุทธบัญญัติเพราะฉะนั้นการล่วงศีลอุโบสถเพียงข้อใดข้อเดียว ก็ถือว่าขาดศีลอุโบสถ พูดง่ายๆ ว่า ขาดศีลข้อเดียวก็ขาดหมดทั้ง 8 ข้อ ผู้ที่รักษาอุโบสถศีลจึงต้องสำรวมระวัง กาย วาจา เป็นพิเศษ

อุโบสถศีล มี 8 ประการ
อุโบสถศีลประกอบด้วยองค์ 8 มีดังนี้ คือ

1. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
2. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
3. อพรหมจริยา เวรมณี งดเว้นจากกรรมอันเป็นข้าศึกต่อการประพฤติผิดพรหมจรรย์
4. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ รวมถึงวจีกรรมในรูปแบบต่างๆ
5. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้น จากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. วิกาลโภชนา เวรมณี งดเว้นจากการบริโภค อาหารในเวลาวิกาล
7. นัจจคีตวาทิตวิสูกทัสสนมาลาคันธวิเลปนธารณมัณฑนวิภูสนัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรีและดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อกุศล ลูบทาทัดทรงประดับตกแต่งร่างกายด้วยพวงดอกไม้ ของหอม เครื่องย้อม เครื่อง ทาอันจัดว่าเป็นการแต่งตัว
8. อุจจาสยนมหาสยนา เวรมณี งดเว้นจากการนั่ง และการนอนบนที่นอนสูงใหญ่

เป้าหมายหลักในการรักษาอุโบสถศีล


เป้าหมายหลักในการรักษาอุโบสถศีลนั้น ก็เพื่อทำให้จิตใจสงบ ไม่กวัดแกว่งฟุ้งซ่านไปในเรื่องกามารมณ์แต่ยึดเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถือ เป็นการประพฤติพรหมจรรย์ของคฤหัสถ์ผู้ที่ยังไม่ปรารถนาออกบวชโดยปกติวันพระ พุทธศาสนิกชน ที่สะดวกก็จะพากันแต่งชุดขาวไปสมาทานอุโบสถศีล และฟังธรรมที่วัด แล้วพักอาศัยอยู่ที่วัดจนกว่าจะครบกำหนด ถ้าไม่ได้ไปวัด ก็จะตั้งใจสมาทานศีล ด้วยตนเอง จะเปล่งวาจาสมาทานหรือเพียงแต่ตั้งเจตนาไว้ก็ได้ทั้งนั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัส อุปมาถึงอานิสงส์ ของการรักษาอุโบสถศีลไว้ว่า ถ้าจะนำมาเปรียบกับสมบัติของพระราชา ที่แม้จะครองความเป็นใหญ่ถึง 16 แคว้น ก็ยังไม่ถึงเสี้ยวของผลบุญอันเกิดจากการ รักษาอุโบสถเลย เพราะสมบัติมนุษย์เป็นสมบัติ หยาบเหมือนสมบัติของคนกำพร้า มีความสุขได้ไม่กี่ร้อยปีก็ต้องพลัดพรากซึ่งเทียบไม่ได้กับการได้เสวยทิพยสมบัติอันยาวนานในสวรรค์ที่เกิดจากอานิสงส์ของการรักษาอุโบสถ

การรักษาอุโบสถศีลนี้ แม้ว่าจะมีโอกาสรักษาได้ไม่นาน แต่กลับสามารถส่งผลให้มีอานิสงส์มากมายเกินควรเกินคาดได้ ดังเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว ในสมัยพุทธกาล เรื่องมีอยู่ว่า



เรื่อง ชายหาฟืนรักษาศีลครึ่งวัน

ในสมัยพุทธกาล คนงานในบ้านของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ทำหน้าที่เป็นคนหาฟืน ต่อมาเมื่อถึงวันอุโบสถเขาลุกขึ้นไปทำงานหาฟืนแต่เช้าตรู่ เมื่อกลับมาจากป่าในยามบ่ายเห็นคนในบ้านรักษาอุโบสถศีลกันทุกคน โดยการงดอาหารหลังเที่ยงเป็นต้นไป เนื่องจากตัวเองเพิ่งสมัครเข้ามาทำงาน จึงไม่รู้ธรรมเนียมของบ้านหลังนี้ ได้ถามบริวารของท่านเศรษฐีว่า"ทำไมในวันนี้ ทุกคนในบ้านเงียบผิดปกติ และก็ดูเหมือนว่าจะเตรียมอาหาร ไว้ให้กระผมคนเดียว"

บริวารตอบว่า "วันนี้เป็นวันพระ ทุกคนใน เรือนนี้หยุดงานเพื่อรักษาอุโบสถศีลกัน แม้เด็กที่ยังดื่มนมอยู่ท่านเศรษฐีก็ให้ดื่มปานะ เพื่อฝึกให้เด็กรักษาอุโบสถศีลตั้งแต่เล็กๆท่านเศรษฐีจึงสั่งให้ฉันจัดอาหารมาเพื่อนายคนเดียวเท่านั้น" หนุ่มหาฟืนคิดว่า "ถ้าเราได้รักษาอุโบสถบ้าง ก็น่าจะดีไม่น้อย" จึงถามท่านเศรษฐี "ท่านเศรษฐีถ้ากระผมเองจะรักษาอุโบสถศีลเพียงครึ่งวัน จะได้บุญบ้างไหม

"ท่านเศรษฐีก็บอกว่า "ได้สิ แต่มันก็ได้ไม่เท่าคนที่เขารักษาทั้งวันหรอกนะ" เมื่อรู้ว่า นี่คือบุญพิเศษ ที่เราไม่ควรพลาด จึงได้สมาทานอุโบสถศีลด้วยความเต็มใจ แต่เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน จึงหิวข้าวมากเพราะกรำงานตลอดทั้งวันพอตกกลางคืน เกิดลมตีท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด รู้สึกทรมาน มาก จึงเอาเชือกรัดท้องให้แน่นๆ เพื่อระงับอาการปวดท้องแต่ก็ไม่หายปวด

เมื่อเศรษฐีทราบเรื่องเข้า จึงเอาน้ำอ้อยมาให้กินเพื่อระงับอาการปวดท้อง แต่หนุ่มหาฟืนก็ปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้ศีลด่างพร้อย แม้ท่านเศรษฐีจะ คอยบอกเตือนว่า "อย่าทรมานตัวเองเลย วันพระไม่ได้มีหนเดียว เอาไว้รักษาวันพระหน้าก็ได้" แต่เขาก็ไม่ยอมทำตาม ไม่ยอมตกบุญ ได้นอนนึกถึงอุโบสถศีลที่ตัวเองได้เต็มใจรักษาอย่างเอาชีวิตเป็น เดิมพัน ความปลื้มปีติได้ช่วยข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แต่สังขารไม่อาจทนทานเอาไว้ได้ พอรุ่งเช้าปรากฏว่า ได้ละจากโลกนี้ด้วยจิตที่ผ่องใส แล้วได้มาเกิดเป็นรุกขเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ที่ต้นไทรแห่งหนึ่ง


อานิสงส์ของการรักษาอุโบสถศีล


จะเห็นได้ว่า เพียงการรักษาอุโบสถครึ่งวันและทำด้วยความเต็มใจ ยังได้อานิสงส์ขนาดนี้ แล้วถ้าหากใครได้รักษาอยู่เนืองนิตย์อานิสงส์นั้นพรรณนา อย่างไรก็ไม่หมด เป็นบุญใหญ่ที่จะนำพาให้ได้สวรรค์สมบัติ เวียนวนอยู่แต่ในสุคติภูมิเท่านั้น เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ จะถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ในที่สุดจะได้นิพพานสมบัติ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ ผู้ที่รักษาอุโบสถศีลจะได้รับอานิสงส์มากมายเกินควรเกินคาด อย่างน้อยๆ ก็สามารถแบ่งออกเป็น 5 ข้อ คือ

1. ย่อมได้รับโภคทรัพย์ใหญ่ เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ
2. เกียรติศัพท์อันงามของผู้มีศีล ย่อมฟุ้งขจรไปไกล
3. ผู้มีศีลเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ย่อมเข้าไปอย่างองอาจไม่เก้อเขิน
4. ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ คือ ไม่หลงเผลอสติในเวลาตาย
5. ผู้มีศีล ตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทพ

นอกจากนี้ ศีล ยังเป็นบาทเบื้องต้นแห่งสมาธิ(Meditation) ทำให้ใกล้ต่อมรรคผลนิพพาน ดังนั้นคนที่ตั้งใจรักษาศีลได้บริสุทธิ์ก็จะมีผลต่อการนั่งสมาธิไปด้วย ดังนั้น พุทธศาสนิกชนที่ดีก็ควรที่จะตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ทั้งยังต้องเป็นกัลยาณมิตรชักชวนคนรอบข้างมาสั่งสมบุญใหญ่ ที่เกิดจากการรักษาอุโบสถศีล เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมชาวพุทธให้แข็งแรงยิ่งขึ้นไป

บุคคลแม้จะงดงามด้วยเครื่องประดับอันมีค่า ก็ยังไม่งามเท่าผู้มีศีลเป็นอาภรณ์ ผู้มีศีลย่อมติเตียนตนเองไม่ได้ เมื่อพิจารณาถึงศีลที่บริสุทธิ์ ย่อมเกิดปีติทุกเมื่อ

ศีลจึงเป็นรากฐานแห่งความดีทุกอย่างและกำจัดความชั่วทั้งปวง

 

DATE : 10-09-2013

วันที่ 4 สัปดาห์ที่สองในการสอนน้องเบลล์ วันนี้สีหน้าเธอดูยิ้มแย้มแจ่มใสมาก เพราะเธอมีความสุขที่ได้กลับไปที่ทำงานเก่า ไปพบหัวหน้างานที่ใจดี.....
อาทิตย์ที่ผ่านมาน้องเบลล์ได้กลับไปที่ ที่ทำงานเก่า หรือร้านอาหารนั้นเอง ช่วงนี้ลุงแกจะปลอ่ยๆๆหลาน เพราะอยากให้รีแล๊กซ์ และลุงแกก็งานเยอะด้วย ผมลองถามน้องเบลล์ว่าลุงแกถือศีล 8 ไหม เพราะคนวาจาศักดิ์สิทธิ์ต้องรักษาศีล 8 น้องเบลล์บอกว่าไม่รู้เหมือกันจารย์

ศีล 8 ประกอบด้วย
ศีล 8 มีความหมายคือสำหรับฝึกตนให้ยิ่งขึ้นไปโดยรักษาในบางโอกาส หรือมีศรัทธาจะรักษาประจำก็ได้ เช่น แม่ชีมักรักษาประจำ หัวข้อเหมือนศีล 5 แต่เปลี่ยนข้อ 3 และเติมข้อ 6 - 7 - 8 คือ

1. เว้นจากทำลายชีวิต
2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
3. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
4. เว้นจากพูดเท็จ
5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
6. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
7. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
8. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย

5 ข้อน่าลุงพอจะทำได้ ก็เลยถามน้องเบลล์ว่าลุงนอนยังไง น้องเบลล์บอกว่าลุงมีเตียงนอน แต่แปลกคนที่ชอบเอาเสื่อมาปูแล้วนอน ซึ่งตรงกับ ศีลข้อที่ 8
และก็ถามต่อว่าลุงดูอะไรไหมก่อนนอน น้องเบลล์บอกว่าลุงดูข่าว แล้วก็นอน ไม่เคยดูละครเลย ซึ่งตรงกับข้อ 7 ส่วนข้อ 6 ผมลืมถาม แต่ว่าลุงแก่น่าจะทำได้น้องเบลล์บอกว่าจารย์ถามหนูทำไม ผมก็บอกว่าจะดูว่าลุงถือศีล 8 จริงไหม น้องก็บอกว่าค่ะ หนูว่าก็่น่าจะถือศีล 8 วันนี้้ลุงไม่ค่อยโทรมาหาหลานสงสัยจะยุ่งจริงๆๆ วันนี้ผมก็ได้นำ MP3 บทสวดมนต์ไปให้น้องเบลล์ได้ฟังได้หัดสวด และที่ผมสงสัยคือ ลุงแกซื้อรองเท้าคอนเวิร์ตมาให้น้องเบลล์ แถมน้องเขากำลังเก็บเงินซื้อและ ลุงแกเลือกไซส์ สี และขนาดเท่าไหร่แม่นยำ ใส่ได้พอดีได้อย่างไร แปลกใจมากที่น้องบอกว่าน้องไม่เคยบอกใครอยากว่าได้รองเท้าคู่นี้ ยี่ห้อนี้ ลุงแกรู้ได้อย่างไร และวันนี้ผมก็ได้ให้รูปสมเด็จพุฒาจารย์โตกับแกไป เพราะว่าจะได้เป็นกำลังใจในการสวดคาถาชินบัญชร คงปลื้มน่าดูชม
วันที่ผมถามน้องว่าฝันร้ายไหม น้องบอกไม่เลยเพราะว่าสวดคาถาพาหุงที่อ.บอกตลอด และมีวันนึงลืมสวด สะดุ้งตื่นกลางดึก เลยต้องลุกมาสวดมนต์และก็นอนต่อได้ ที่สำคัญน้องเป็นคนกลัวผีมากๆๆ ก่อนมาเรียนลุงแกบอกว่าตั้งใจเรียนนะ ผมลืมบอกไปว่าในอาทิตย์ก่อนที่แกพาไปกิน MK แกบอกให้น้องไปหยิบขนมเปี๊ยะ และก็ได้รับรองเท้าเป็นของขวัญ น้องดีใจมากๆๆ ลุงแกบอกว่าอาทิตย์นี้อยากกินกล้วย ถ้าเจอกล้วยซื้อมาฝากหน่อยนะ อยากกิน ผมกับน้องก็งงว่าทำไมอยากกินกล้วยอีก ก็ช่วยกันคิดว่าลุงจะสื่ออะไร แต่สุดท้ายก็จนปัญญาและคิดว่าคงอยากกินเฉยๆๆ แต่ผมคิดว่า หรือแกอยากให้ไปทำบุญให้ลิง เพราะน้องทำบุญให้อาหารลิงก็นานมาแล้ว ช่วงเดือนมกราคม ตอนนี้ก็น่าจะทำได้อีกหนนึง ก็คงไม่เสียหาย และแกก็พูดว่าอยากไปหัวหินจัง อาทิตย์นี้ไปกันไหม ผมนึกในใจอันนี้พอรู้แหละ ลุงเทพมากๆๆจริงๆ เพราะว่าคอร์ดนี้ จะมีป้าที่มาจากหัวหินมาเรียนด้วย แต่ตอนนี้ผมกับหัวหน้าได้สรุปแล้วให้น้องเบลล์มาเรียนเช้าแทน ส่วนป้ามาเรียนบ่าย แล้วป้าคนที่นี้ก็แปลก ที่เรียนก็เยอะแยะ จงเจาะมาเรียนที่ผมอีก แต่ก็ดีใจนะที่รร.จะได้มีรายได้ แต่ป้าสุดยอดคือป้าแกนั่งรถไฟมาเรียน ไม่ยอมเช่าหออยู่แก่บอกว่าแกไม่อยากนอนที่อื่น อยากกลับไปนอนบ้าน ก็ตามใจแก คงเหนื่อยน่าดู เรียนนี้คือแกจะไปปรับวุฒิให้เงินเดือนสูงๆๆทุกทีก็ให้ลูกน้องทำงานให้ตลอด คราวนี้จะปรับวุฒิต้องใช้ใบรับรอง เวรกรรมเลยต้องหอบสังขารมาเรียน ที่สำคัญแกมาจากหัวหิน เอ๊ะ ลุงแกก็เกิดอยากจะไปเที่ยวหัวหินขึ้นมาซะงั้นแหละนะ 555
ก็บอกอยู่ว่างานเพียบมันยังไงกัน ก็คุยกับน้องเบลล์ว่าสงสัยลุงแกสื่ออีกแหละ น้องเบลล์เล่าว่าช่วงที่กลับไป ลูกชายเจ้าของร้านอาหารที่น้องเบลล์ทำอยู่ เหมอืนจะแอบชอบน้องเบลล์ แต่ลูกชายคนนี้ก็ไม่มีแฟนด้วย และเป็นเด็กดี สาวๆๆก็เข้ามาคุยเยอะ แต่แม่จะสแกนเพราะว่าสาวๆๆสมัยนี้ร้ายน่าดู แม่ของหนุ่มน้อยผู้นี้ก็คือนายจ้างของน้องเบลล์เก่าที่ใจดีและถือศีล 5 แกกล้วสาวจะมาหลอกลูกแกเลยคอยสแกน แต่แกก็ชอบน้องเบลล์เพราะเป็นเด็กขยันทำงาน และไม่เฟค ดูห้าวๆๆ แกมักจะเล่าให้ลูกชายแกฟังบ่อยๆๆ ลูกชายแกคงจะปลื้ม ลูกศิษย์ผมแน่ๆๆเลย 555 เวลาน้องเบลล์ไปเก็บผัก หรือจับปลา ลูกชายเจ้าของร้านก็ตาม พอน้องเบลล์เห็นก็เดินหนี เพราะมันแปลกๆๆ ถามว่าหนุ่มน้อยคนนี้ดีไหม ลูกศิษย์ผมบอกว่าก็ดีนะน่ารักดี 555 แถมลุงเคยบอกว่า เอ็งโตแล้ว น่าจะมีแฟนได้แล้ว และต้องเป็นคนดี ลุงจะได้ไม่ห่วงมาก แหมประจวบเหมาะทุกงานเลยลุงน้องเบลล์ และที่ร้านนี้มีต้นตะเคียนชื่อเจ้าแม่ทับทิม ถามประวัติได้ความว่า ก่อนทำร้านอาหาร ก็มีการถมที่แล้วเจอตอไม้ คนเจอเป็นผู้ชาย 3 คนเลยจะพูดว่าจะเอาไปทิ้ง ทันใดนั้นดินก็ยุบลงไปข้างล่าง ก็บาดเจ็บเล็กน้อย เลยพูดว่าจะเอาพระกับพราหมณ์มาทำพิธีเอาขึ้นให้ ทั้ง 3 ก็สามารถขึ้นมาได้ปลอดภัย แม่ครัวเล่าว่าถูกหวยบ่อย ไปขูดเลขฝันบ้าง เจ้าแม่มาเข้าฝัน หุหุ น้องเบลล์บอกว่าเดินผ่านทีไรขนลุกทุกที เหตุการณ์ที่ตื่นเต้นก็มีอีกคนน้องเบลล์กลับจากที่ทำงานเก่ามานครปฐม ก็นั่งรถตู้เพลิน หลับกลางทาง และก็เลย พอตื่นก็บอกรถตู้จอด น้องลงมาก็งงว่าที่ไหนแล้ว ก็เดินย้อนกลับมา ฝนก็ตกพอดี (เวลานั้นเป็นเวลาที่ผมทำบุญหล่อพระเสร็จแล้ว และผมก็ติดฝนกลางทางพอดี วันอาทิตย์ที่ไปหล่อพระมานั้นแหละ) น้องเดินมาพักแถวๆๆบ้านคน ชาวบ้านใจดีก็เอาเก้าอี้มาให้นั่ง และบอกว่ามาหลบในบ้านก่อนไหมหนู มาจากไหนละ น้องเบลล์บอกว่ากลับมาหอค่ะ ไม่เป็นไรค่ะเกรงใจค่ะ ชาวบ้านที่เจอก็ใจดีจัง หายากในสมัยนี้ จนมาเจอป้อมตำรวจเธอก็ถามทาง ตำรวจบอกตรงโลดเลย เธอก็เดินมาเจอจุดที่เคยลงบ่อยๆๆ ก็โล่งไปที่ไม่มีคนไม่ดีมาฉุดเธอไป และโจรมาปล้นเธอ เธอบอกว่า การอยู่ในเมืองที่ไม่เคยมานี่ถ้าหลงลำบากจัง ผมก็บอกเธอว่า คนเราเมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ ให้พยายามถามคนแถวนั้น ไม่ก็ตำรวจ ดีนะไม่หลงไปไกลกว่านี้ ตัวก็เปียกฝน และน้องเบลล์ก็เล่าว่าตอนทำงานที่ชลบุรี เธอเจอคนตาบอดจะข้ามถนน แต่ไม่มีใครช่วยเลย
มีแต่คนดีแต่พูดไม่ทำไร บอกว่าเห้ยลุงผิดทางแล้วไม่รู้เรื่องเลย ดีแต่พูดแต่ไม่พาลุงแกข้าม ดีแต่ด่าลุงว่าตาบอดยังจะข้ามอีก น้องเบลล์มาก็มองหน้าคนพวกนี้ และพาลุงแกข้ามไป ผมเลยบอกว่าดีแล้วเราทำดีไม่ต้องไปสนใจใคร ดีกว่าคนดีแต่พูดแต่ไม่ทำอะไรเลย ตรงกับสำนวนที่ว่า

"ทำดีแล้วโดนด่า ไม่ทำห่าแล้วด่าคน"

คนพวกนั้นก็ซุบซิบและก็นินทาน้องเบลล์ แต่ละคนทำหน้าไม่พอใจที่น้องเบลล์พาลุงข้าม ผมสอนว่าทำดีไปเถอะ อย่างน้อยเราก็รู้สึกสบายใจที่ได้ช่วยลุงแก
แม้ว่าคนอื่นจะมองเรายังไง น้องเบลล์เล่าให้ฟังว่า ลุงแกโทรมาเมื่อวาน พูดเพราะมาก ตอนน้องเบลล์รับสายบอกว่าสวัสดีค่ะ น้องเบลล์บอกลุงเป็นบ้าอะไรพูดเพราะ ลุงบอกก็อยากพูดเพราะๆๆบ้าง ผมเลยเอามาสอนน้องเบลล์ว่า การพูดอะไรกับผู้หลักผู้ใหญ่ ควรมีสัมมาคาราวะ และรู้กาลเทศะ หัดมือไม้อ่อน ผู้ใหญ่จะได้เมตตาเรา เวลาเรามีปัญหา ผู้ใหญ่จะได้เอ็นดูและช่วยเหลือเรา น้องเบลล์ก็จดว่าวันนี้ผมสอนอะไร และผมก็บอกว่าให้น้องจดว่าจุดไหนแถวหอที่มีร้านอะไรเด่นๆๆหรือจุดเด่นๆๆที่ควรจำเมื่อหลงจะได้จำจุดได้ และสามารถกลับหอได้ ตอนสอนปรากฏว่าปากกาเธอหมด ผมจึงปากกาให้เธอใช้ และสอนเธอว่า คนเราควรคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ ปากกา เราควรมีสองด้าม เพื่อนมันหายหรือหมดจะได้มีใช้ เกิดตอนไปเรียนแล้วมีสอบจะได้ไม่มีปัญหา เหมือนตอนทำงานถ้าเราต้องใช้ของ 50 อัน แต่เราสั่งเผื่อเป็น 100 อันเพื่ออะไร เพื่อกันของเสีย กันพลาดจะดีกว่า น้องเบลล์ก็บอกว่า OK ค่ะจารย์หนุจะจำไว้้ และในการคบเพื่อนให้เลือกคบกลางๆๆ ไม่คบเด็กเรียนมาและเด็กเก๊มากเพราะว่า ถ้าเด็กเรียนจะเห็นแก่ตัว และเด็กเก๊จะไม่สนใจเรียน ให้ถือทางสายกลางไว้ดีกว่า จะได้เหมาะกับน้องเบลล์ วันนี้ตอนเลิกก็ 16.00 น.พอดี เสียงโทรศัพท์วันนี้ก็ไม่ดัง สงสัยลุงแก่ยุ่งจริงๆๆ คิคิ



กำลังใจของน้องเบลล์ที่ได้จากผม

 

ฝันเมื่อคืนก่อนเช้า 10-09-2556


เมื่อคืนผมฝันว่า ผมนั่งสมาธิในห้องพระ แล้วก็หลับตา แต่ที่แปลกคือ ในห้องพระมีลูกแก้วนาคราชอยู่สีเขียวลูกใหญ่ แต่ในฝันไม่แปลกใจ แต่ในชีวิตจริง บ้านผมไม่มีแก้วนาคราช ขนาดลูกแก้ว มีขนาดเท่ากับที่อยู่ที่องค์พระปฐมเจดีย์ ที่สำคัญสีเดียวกันอีกแล้วก็ขณะที่ผมหลับตาลูกแก้วนี้ก็ได้ส่องแสงออกมา ทำให้ผมต้องลืมตา แต่ปรากฏว่าแสงก็ค่อยๆๆลดความสว่างลงและหายไปผมก็เลยไม่คิดไร ก็หลับตาต่อแล้วก็มีแสงส่องออกมาอีก ผมก็ลืมตาทันที ก็แสงก็หายไป แล้วผมก็มาโผล่ที่วัดไผ่ล้อม อยุ่หน้าหลวงพ่อพูล ผมก็งงๆๆและเหมือนผมจะมาไหว้หลวงพ่อพูล ในฝันมีผู้หญิงนั่งอยู่หลายคน ผุ้หญิงด้านขวาผมก็สะกิดผมและได้บอกว่า ช่วยจุดธุปให้หนอ่ย และหยิบไข่ต้มให้หน่อย 1 ฟอง ธูป 5 ดอก ผมก็งงว่าทำไมผมต้อ้งทำด้วย สุดท้ายเธอก็วางธูปไว้ที่พื้น สักพักมีผู้หญิงเดินเข้ามาและตรงไปไหว้ร่างหลวงพ่อพูลในโลงแก้ว (ชีวิตจริงคือท่านร่างไม่เน่า ทางวัดจึงนำท่านมาใส่โลงแก้ว) ผู้หญิงคนนี้เดินผ่านหน้าผม และผมก็ตะลึงเป็นฝันที่สุดยอดเพราะผมเห็นหน้าเธอชัดมาก คิ้วดก ตาโต ผิวขาว ปากเล็กๆ ตัวเล็กผมยาว สวยน่ารักมากๆๆ เธอพูดกับคนดูแลว่าพี่ค่ะหนูขอไหว้หลวงพ่อแปปนะค่ะ ผมรู้สึกว่าเธอน่ารักจังเลย >////< และก็ตื่นในตอนเช้า แหมฝันดีไรแบบนี้

 

ฝันเมื่อวานซืนก่อน 08-09-2556

ผมฝันว่าผมลอยได้ และลอยไปดูพวกนักศึกษขายตัวกันแถวสวนลุม ฝันเห็นนักเรียนตีกัน โดยที่ผมลอยอยู่ และผมก็ไปที่วัดโดยขี่มอไซค์ไปสองคัน ขี่ไปยังไงไม่ทราบสุดท้ายต้องทิ้งมอไซค์ไว้คันเดียว คันทีทิ้งทะเบียน 504 คันที่ขี่กลับ ทะเบียน 187 และผมก็ลอยไปดูนักเรียนโดดเรียน นักเรียนดูดยา และนั่งเล่นไพ่ และผมก็โดนลูกบอลจากเด็กคนนึงเตะมาโดน ผมก็เลยร่วงมาที่พื้น ก็ไม่รู้ว่าฝันอะไรกันสงสัยจะไร้สาระ

 

เข้ามาอ่านก้อได้รับของดีเลยน้า...ขอบคุณนะค่ะคุณบู๊และจะแจ้งว่าโอนเงินไปให้แล้วนะค่ะ
ของ คุงน้องเอก 100.- เวลา16.18 ของคุณบู๊ 300.- เวลา16.19 ทำบุญท่อน้ำ 150.- ทำบุญอาหารแห้งกับหลวงพ่อ 150.- ค่ะ

 

ฝันเมื่อวาน 09-09-2556

ผมฝันว่าผมได้ไปที่สถานที่นึง คล้ายๆบึง ไม่ก็สระหรือเขื่อน สแตนด์เป็นปูนสามารถนั่งได้ ผมขี่รถมอไซค์มาจอด และเข้าไปห้องน้ำ แถมห้องน้ำมีผู้หญิงเข้ามาใช้อีก ผมก็อายๆๆสงสัยจะเป็นห้องน้ำรวม แต่พวกเธอไม่อายผมแต่พวกเธอหัวเราะผม ผมที่เป็นฝ่ายอายพวกเธอ ผมมีความรู้สึกในฝันว่าเหมือนเคยฝันว่ามาที่นี้แล้ว แต่ไม่รู้ว่า มาทำอะไร และแถวนั้นก็มีป่าล้อมรอบ มีจุดให้ชมวิวเหมือนเขื่อน มีน้ำเยอะมาก มีหนุ่มสาวมานั่งอีกด้วย ที่สำคัญคุ้นเคยจัง

 

โมทนาบุญกะน้องเอกด้วยนะ พี่เข้ามาอ่านเกือบทุกวันที่เธอโพส ของป้าเมาท์ด้วย อ่านแล้วได้อะไรดี ๆ เยอะเลย พี่เป็นน้ำครึ่งแก้วเติมไม่เต็มสักที ความรู้ในนี้มีมากมายเหลือเกิน น้องนำเสนอได้ดีนะ เล่าแบบบ้าน ๆ แต่ดูจริงใจมากเลย ทำต่อไป พี่เป็นกำลังใจให้ ถ้าว่างจะเข้ามาติดตามเรื่อย ๆ โนคอมเมนต์จ้ะ ดีทุกเรื่อง

 

ลูกพี่ปุ๊กจะทำบุญอะไรอ่ะครับ 100 บาท

 

อันนี้ก้อของคุณบู๊นะฮ้า

 

ขอบคุณครับพี่ พี่ก็เข้าใจเป็นน้ำครึ่งแก้วนะครับเพราะว่าสามารถเติมน้ำลงไปได้ตลอดเวลา ถ้าเป้นน้ำเต็มแก้ว ก็จะล้นเมื่อเติมน้ำไป กระทู้ผมชิวๆๆครับ
ไม่เน้นหวย ส่วนใหญ่เน้นทำบุญกัน หวยจะถูกหรือไม่ถูก ก็ทำอยู่ดีครับบุญ เน้นฝันติ๊งต๊องครับ 5555 ถ้ามีเลขก็เล่นนะ แต่เล่นน้อย
คติของผมคือ ไม่ตั้งกฏเกณฑ์ว่าต้องถูกหวยก่อนถึงทำบุญ เรามีเงินตอนไหนก็ทำไป หรือมีน้อยก็ทำไปแบบพอมีกำลัง ขอบคุณที่ติดตามนะครับพี่ดารา ญาติธรรมที่เฝ้าดูการเติบโต อิอิ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยนะพี่ว่าแต่บุญอะไรเอ่ย 100 บาท