เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ผมเคยมีแหวนรุ่นแรกของหลวงปู่หมุน อยู่วงเดียว หวงก็หวงอยู่
แต่ถ้าน้องขอแบ่ง ก็ต้องแบ่งให้

พี่ลิขิต(อภิญญา8) มาบอกผม ว่ามีเซียน เด็กผู้ชาย ท่าพระจันทร์ ตามเก็บอยู่
ราคาจึงพุ่งเอาๆ แกยังแซวว่า ถ้าไม่ขายตอนนี้ แล้วจะไปขายตอนไหน

ใครมีแล้วอยากได้ราคา จะรอขายพร้อม เด็กผู้ชาย ก็ไม่ว่ากัน
แต่ถ้าขายตอนนี้ ก็อย่าตกควาย ประเดี๋ยวจะเจ็บตัว

ระหว่างนั่งตากลมทะเลที่บางแสน ก็ถามพี่นิ่มว่า รู้จักหลวงปู่หมุนไหม
"รู้จัก...สนิทกันดีกับพี่"

"รู้จัก หลวงปู่สี วัดพุทธฉาย นครนายกไหม"

"รู้จัก...สนิทกันดีกับพี่"

"รู้จัก หลวงปู่กาหลงไหม"

"รู้จัก...สนิทกันดีกับพี่"

"...องค์ไหนที่พี่ไม่รู้จักบ้าง ผมจะได้คุยได้บ้าง..."

"หนุ่มทิพย์ เคยไปกราบสายอีสานบ้างไหม"

"ญาท่านสวน" พูดดังๆ จะข่ม

"สนิทกับพี่ดี... ยังฝังเข็มดำกับลงทองให้พี่เป็นร้อยแผ่นเลย...."

" -"- "

หลวงปู่สี วัดพุทธฉาย ในค่ายนายร้อย ท่านฯมีอภิญญาแปลกๆอยู่ สามารถทำนายอนาคตของแต่ละคนได้
หากมีใครอับจนสิ้นหนทาง ไปกราบขอเมตตาท่านฯ ท่านฯจะบอกให้ขึ้นเหนือล่องใต้ แล้วจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้

ตอนพี่นิ่มไปกราบ ท่านฯก็ทักพี่นิ่มว่า "ในตัวเธอ มีปู่ฤษีดูแลอยู่นะ... องค์ใหญ่กว่าของฉันอีก"

แล้วพี่นิ่มก็เล่าถึงหลวงปู่หมุนให้ฟัง ว่าสนิทกับพี่นิ่มแค่ไหน
พี่นิ่มเล่าเป็นสายไล่ลงมา จากหลวงปู่มุม วัดปราสาทย์เยอร์ ที่มอบตำราและมวลสาร
ไล่มาถึงหลวงปู่หมุน
และไล่ลงมาถึงหลวงปู่พา วัดบัวระรมณ์

พี่นิ่มย้ำแล้วย้ำอีก ว่า ถ้าใครทันพึ่งหลวงปู่มุม ก็โชคดี แต่ถ้าทันหลวงปู่หมุน ก็ยังโชคดี
แต่ถ้าไม่ทันสององค์แรก ให้รีบเร่งไปหาหลวงปู่พา โดยไว.....

เดี๋ยวมาต่อ

 

ตอนที่เอ่ยถึงหลวงปู่หมุน พี่รัตนา ก็เล่าว่ามีแหวนของท่านฯอยู่หลายวง เนื่องเพราะหลวงปู่หมุน เป็นอาจารย์ของคุณพ่อ ตัวคุณพ่อถึงได้เหนียวขนาด

และยืนยันได้ว่า หลวงปู่ห้วย กับหลวงปู่พา มีครูอาจารย์เดียวกัน

พี่นิ่มให้ข้อมูลเชิงลึกอยู่หลายเรื่อง แต่ปูเผากับกุ้งเผา และหมึกย่าง มีสารลบเลือนความทรงจำ จึงจะต้องค่อยๆทยอยนึก หันมาทางคุณวินัยเผื่อจะได้พยานให้ได้บ้าง ก็ดูแววจะสิ้นหวัง

.....................

พี่รัตนาหยิบรูปหลวงปู่ห้วยมาอวด แล้วเล่าให้ฟัง ว่าเช้าในวันที่จะขอบันทึกภาพหลวงปู่ฯนั้น มิได้นัดท่านฯไว้
แต่เมื่อไปถึง กลับเห็นเก้าอี้ตัวสวยของหลวงปู่ฯ ถูกจัดวางไว้หน้ากุฏิโดยพระที่ดูแลท่านฯก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด

เมื่อพี่รัตนามาถึง ก็ขอบันทึกภาพหลวงปู่ฯ โดยเรียบร้อย
เมื่ออัดภาพมาแล้ว ก็แบ่งภาพหลวงปู่ฯเป็นสามภาพ
สองภาพแรก เป็นของท่าน พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา และพี่นิ่ม ลงคำอวยพรไว้ว่า "ขอให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน"

ของหนุ่มทิพย์พิเศษหน่อย ผมฝากเขียนไว้ต่างหาก
"ขอให้มีความสุขความสงบ"

หลวงปู่ฯเห็นข้อความแล้วมองหน้าพี่รัตนา แล้วท่านฯก็เขียนให้ที่รูป
"ขอให้มีความสุข" เพียงแค่นั้น นับเป็นบุญของผม

........................

หลวงตาแว่น พระอุปฐากหลวงปู่ห้วย แอบเอาพระปิดตารุ่นกตัญญู ไปให้หลวงปู่ฯพิจารณา
หลวงปู่ฯ พิจารณาแล้วก็ทัก เป็นเหตุให้หลวงตา ต้องต่อสายพี่นิ่ม ขอบิณฑบาตพระปิดตารุ่นนี้ซัก 40 องค์ ไว้เป็นกฐิน

ก็โมทนาร่วมกันกับพี่นิ่มนะครับ


หลวงปู่ฯ พิจารณาหนังสือที่พวกเราจัดสร้าง


พระที่ดูแลหลวงปู่ฯ แปลกใจที่เห็นหลวงปู่ฯคุยโทรศัพท์ สงสัยใครทำให้หลวงปู่ฯรับสายได้
ปลายสายคือพี่นิ่ม "หลวงปู่ฯ...เสกให้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของหลวงปู่ฯเลยนะ เอาให้ดังที่สุดในประเทศไปเลย..."

 

หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง ตะกรุดของท่านฯออกที่วัด ดอกละเป็นหมื่น
รักพี่นิ่มมาก บอกให้พี่นิ่มทำพระฯมาถวาย

หลวงปู่พา หลวงปู่ห้วย หลวงปู่สมบุญ 4 รูปนี้ อยู่ในละแวกไม่ไกลกัน และต่างก็เอ็นดูพี่นิ่มเหลือเกิน ผมก็อยากให้พี่นิ่มไปขอบารมีท่านเยอะๆ

แต่เมื่อเอ่ยปากจะวางมือแล้ว ก็คงต้องให้เป็นไปตามนั้น.....

พระผงของขวัญทรงเมตตานี้ ได้รับการอธิฐานจิตจากกพระเกจิทั้ง4รูปนี้แล้ว ไว้จะเปิดให้ทำบุญเข้ากองทุนพระสงฆ์อาพาธ

 

คุณรัตนา ได้ผ้ายันต์ติดรถของหลวงปู่คำบุ มาจำนวนหนึ่ง ก็ฝากให้ผมมาแจก
พี่ธวัชชัย ได้ผ้ายันต์สายใต้หรือตะวันออก(ยังไม่ได้ตรวจดู) มาจำนวนหนึ่ง ก็ฝากให้ผมมาแจก

ผมว่าจะไม่แจกแล้ว เพราะสมาชิกไม่ค่อยอ่านกติกา แต่คนเคยแจกก็อยากแจก เลยคัดเอาเฉพาะท่านที่กดไลค์ในการทู้ล่าสุดของผมละกัน

ล่าสุดมีคนกดไลค์ไว้กระทู้ละ 8 คน จาก4กระทู้ล่าสุด โดยจำนวนเท่ากัน

ถ้าใครมีรายชื่อ 3 ใน 4 ของกระทู้ที่โชว์ ผมจะจัดส่งผ้ายันต์ไปให้แทนคำขอบคุณ

ข้อสำคัญคือ "ช่วยทวงผมด้วยครับ"
........................

ตอนนี้น้ำมันฯ ได้รับการตระเวนเสกอยู่
จะเอาให้ได้พระเกจิระดับอาจารย์ 9 รูป เป็นอย่างน้อย
และเป็น 9 รูป ที่พี่นิ่มยกให้เป็นแถวหน้าเวลาใครไต่ถาม

 

วันนี้ส่งไปแล้วนะครับ และเพิ่มเหรียญ หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร วัดบุ่งขี้เหล็ก อุบล อีกเหรียญ

 

เปิดดูผ้ายันต์ของพี่ธวัชชัยแล้ว เป็นผ้ายันต์และขี้ผึ้งสีปากหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

จะจัดแบ่งให้ตามส่วน

 

"พี่รู้จักหลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุไหม" ผมถาม

"รู้จัก สนิทกันดี ยังสักยันต์ให้พี่เลย..."

พี่นิ่มเล่าให้ฟังว่า ท่านฯเมตตาสักยันต์ให้พี่นิ่มด้วยปลายมีด!
แต่ก่อนจะถึงมือหลวงปู่บุญตา พี่นิ่มไปสักกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ฯลฯ มาก่อนแล้ว

หลวงปู่บุญตา ใช้มีดกรีดหลังลงอักขระอยู่ไม่นาน ก็เริ่มกรีดไม่เข้า ท่านฯก็หยุด บอกว่า "หนังมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องสักเพิ่มแล้วหล่ะ"

 

วันนี้ พี่นิ่มเป็นตัวแทนพวกเรา ถวายปัจจัยจัดสร้างอาคารเอนกประสงค์ วัดป่าแดง จำนวน 40,000 บาท

ขอโมทนาร่วมกัน

วันที่ 16 กันยายน ศก นี้ พี่นิ่มจะเป็นตัวแทนพวกเราอีกครั้ง ในการสมทบกฐินสามัคคี อนามัยเนินโมก ก็โปรดเตรียมร่วมโมทนากันอีกครั้ง

.....................

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน ศกนี้ ผมจะไปนอนค้างที่วัด เพื่อร่วมงานเททองหล่อเหรียญหลวงพ่อใหญ่ วัดโพธิผักไห่

ยังเลือกไม่ถูกว่าจะจำวัดไหน ระหว่างอยุธยา-อ่างทอง

ใครสะดวกดาย ก็มาร่วมพบปะงานบุญกันได้ระหว่างวันที่ 15-16 เดือนนี้ครับ

 

ขออนุญาติอัพเดต เพื่อเป็นฐานข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..

 

ของผมไปถึงหรือยังไม่รู้ ลงทะเบียนไม่ได้ส่งแบบด่วน

 

ถึงแล้วครับ
แกะออกมาดู จะช่วยบันทึก แต่ยอมแพ้สายตา ตัวอักษรเล็กมาก มองไม่เห็น ปวดตา

เดี๋ยวจะพยายามใหม่ ขอบคุณมากครับ

 

จำไม่ได้ว่าอัพเดทตารางน้ำมัน๙ทัพหรือยัง
ขอลงไว้ก่อน เตือนความจำตัวเองหน่อย แล้วดึกๆ จะเข้ามาอัพเดทให้ครับ

 

พี่หนุ่มทิพย์ได้รับพัสดุยังครับผม

 

เรื่องเล่า : เล่าเรื่องของสัจจะ และคุณธรรมฯ

ตอน : สัจจะ และคุณธรรมของโจรฯ

เคยมีคนอยากให้เล่าเรื่องของเสือของโจรในสมัยก่อน โดยเฉพาะเจาะจงลงไปที่เขตภาคกลาง เช่น สิงห์บุรี, อ่างทอง,สุพรรณบุรี หรือบริเวณใกล้

เคียง ผมพอจะเล่าได้ก็เฉพาะที่ฟังผู้ใหญ่เขาเล่าสู่กันฟัง แบบใครรู้เรื่องในแง่มุมไหนหรือที่มาที่ไปอันแตกต่างกัน ก็เอามาแลกเปลี่ยนกันฟัง โดย

เฉพาะเรื่องของ ๓ เสือผู้ยิ่งใหญ่ คือเสือฝ้าย,เสือมเหศวร,เสือใบ และเสือดำ(ที่ผมไม่จัดเสือดำไว้ใน ๓ เสือ ไม่ใช่เรื่องความยิ่งใหญ่น้อย แต่เป็น

เพราะมีเรื่องที่ผมแทบไม่ได้ยินเลย นอกจากเสือดำในหนังสือการ์ตูน) ในบรรดาเสือทั้งหลายผมได้เห็นตัวจริงเพียงคนเดียว คือ เสือมเหศวร ส่วนโจร

ที่เลิกและกลับตัวกลับใจได้พบปะก็มีบ้าง และอดีตเสือที่เอาเรื่องประสบการณ์หนีกองปราบมาเล่าให้ฟังก็มีหลายคน แต่จะเอามาเล่าคงไม่ดีเพราะ

หลายๆ ท่านเลิกแล้วบวชเรียน หรือบางท่านได้เป็นครูก็มี และลูกหลานของท่านคงอยากเก็บเป็นความลับมากกว่าเปิดเผย และที่เห็นคาตาอย่างเต็ม

ตาก็เรื่องของการไล่ล่าโจรปล้นท่าเรือ,อยุธยา ตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ในเดือนธันวาคม ๒๕๐๘ ขณะที่โรงเรียนปิดภาคเรียน ในยุคผม

เรียนปีหนึ่งๆ จะมี ๓ เทอม และในเทอมกลางนั้นจะปิดประมาณ เดือนธันวาคมถึงต้น มกราคมของปีถัดไป ซึ่งเรียกกันติดปากว่า"โรงเรียนปิดเกี่ยว

ข้าว" วันนั้นผมไปลากอวนอยู่แถวบ่อยายลุ้ย คือทางตะวันตกของบ้านดาบ เหนือบ้านดอนหอยโข่ง ใต้บ้านห้วยคันแหลนและบ้านตลาดใหม่ ในตอน

บ่ายของวันนั้น ขณะที่ผมกำลังลากอวนอยู่ก็ได้ยินเสียงดัง"เป๊าะๆๆ" อยู่เป็นระยะๆ หันไปทางที่ได้ยินเสียง ก็เห็นคนวิ่งตามกันมา ๒ กลุ่ม โดยกลุ่ม

หน้ามีอยู่ด้วยกัน ๓-๔ คน ส่วนกลุ่มหลังมากกว่าหลายคน คนที่กำลังเกี่ยวข้าวหรือหากุ้งหาปลาก็หยุดยืนหันไปดูทางต้นเสียง เป๊าะๆๆ หรือกลุ่มคนทั้ง

สองกลุ่มนั้นจนคนเหล่านั้นผ่านไป คนที่เห็นเหตุการณ์ก็มาจับกลุ่มคุยกัน ที่พูดเหมือนๆ กันก็คือไล่กวดยิงกันด้วยเรื่องอะไร? ผมเพิ่งจะรู้ตอนนั้นเอง

แหละว่า เสียงที่ผมได้ยิน เป๊าะๆๆ นั้นมันคือเสียงปืน มันดังเหมือนเราเอาไม้โสนแห้งๆมาหัก ถามพวกผู้ใหญ่ว่าทำไมเสียงปืนมันไม่ดังปังๆๆ แต่กลับ

ดังเหมือนหักไม้โสนแห้ง ได้รับคำตอบว่า เป็นเพราะเราอยู่เหนือลมและระยะห่างมันมาก ความจริงมันก็ดังปังๆๆ แต่ด้วยเหตุที่เราอยู่ไกลและอยู่เหนือ

ลมจึงทำให้ได้ยินเสียงดังเป๊าะๆๆ ทิศทางที่คนเหล่านั้นทั้งวิ่งหนีและวิ่งตามก็คือไปทางบ้านห้วยคันแหลนหรือไม่ก็เป็นบ้านตลาดใหม่ และเวลาก็เย็น

มากแล้ว เมื่อกลับเข้ามาในหมู่บ้านแล้วจึงรู้ข่าวเพิ่มเติมว่า เป็นการไล่ล่าโจรปล้นท่าเรือ,อยุธยา และตำรวจสภ.บางจัก และ สภ.วิเศษฯ ได้รับคำสั่งให้

ไปช่วยล้อมจับโจรกลุ่มที่ผมเห็นเขาวิ่งไล่ยิงกัน พอรุ่งขึ้นอีกวัน ก็มีข่าวเพิ่มมาอีกว่าโจร ๑ ใน ๓ หรือ ๔ คนที่ผมเห็นเป็นเขยของชาวบ้านดาบของผม

เอง ที่เหลือก็ไล่ล่ากันไปจนผมเข้ามาเป็นนักเรียนทหารจ่าเรือแล้วถึงได้ตามจับดำเนินคดีหรือตายก็มี ลองค้นหาอ่านกันได้......

มาว่ากันเกี่ยวกับเรื่องเสือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ตามที่เราเคยได้ดูภาพยนต์หรือได้อ่านกันจากบันทึกต่างๆ ในสมัยผมเด็กๆ มีหนังสือการ์ตูนที่กล่าวถึง

เสือต่างๆ ไว้พอสมควร ผู้ใหญ่ก็จะบอกว่าเป็นการแต่งเรียนแบบเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น และก็จะเล่าให้พวกเด็กๆ ได้ฟังกันเรื่องของเสือมเหศวร,เสือดำ,

เสือใบ พวกเราเคยได้ยินได้ฟังกันมากทั้งจากภาพยนต์หรือรายการโทรทัศน์ แต่ไม่มีเรื่องของเสือฝ้ายที่เป็นเสมือนพี่เบิ้มของเสือทั้งสามที่กล่าวมา

แล้ว แต่ในยุดที่ผมเป็นเด็กเรื่องเสือฝ้ายจะถูกกล่าวขานมากกว่าเสือทั้งสาม มีเรื่องเล่าให้ฟังบ่อยมากแต่ไม่ค่อยจะยาวนัก ที่เหมือนๆกันไม่ว่าใครจะ

เล่าก็คือ เสือฝ้ายสิ้นชื่อเพราะถูกหลอก หรือถูกหักหลัง ไม่ทำตามที่สัญญากันไว้ ในทำนองว่ามีคนกลางติดต่อให้เข้ามอบตัวหรือมาคุยกับตำรวจ

แล้วจะดำเนินคดีกันแบบเบาๆ บางคนก็ว่าวันที่เสือฝ้ายถูกตำรวจคุมตัวมาที่กองบัญชาการของกองปราบที่ตั้งอยู่ที่วัดนางใน หลังตลาดวิเศษฯ เพราะ

ถูกหลอกว่าจะพบปะพูดคุยกันก่อนที่จะมอบตัวกันจริงๆ แต่กลับเป็นว่าถูกตำรวจคุมตัวมาโดยพามาทางเรือ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำประตูน้ำ ปิด

ประตูน้ำสกัดกั้นไม่ให้ลูกน้องเสือฝ้ายตามมาช่วยได้ (ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าประตูน้ำที่ว่านั้นชื่อประตูน้ำอะไร อยู่ที่ไหน?) และหัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่

ตำรวจกองปราบชุดนั้นคืออัศวินแหวนเพ็ชร ร.ต.อ.ยอดยิ่ง สุวรรณาคร ที่นิยมจับตายมากกว่าจับเป็น และเสือฝ้ายก็พบจุดจบระหว่างที่ถูกนำส่งตัวเข้า

กรุงเทพฯ ถูกยิงตายในเขต อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ผมได้รับรู้ก็เพียงนั้น เคยเล่าไปในเรื่องอะไรผมก็จำไม่ได้ ที่ผมบอกว่าแถวบ้านผมในสมัยก่อน

หนองน้ำตามนาต่างๆ หรือลำคลอง จะมีชื่อเป็นชื่อคนอยู่มากก็เพราะโจรที่ถูกตำรวจกองปราบยุคนั้นจับได้ จะไปตายกันตามหนองน้ำหรือลำคลองดัง

กล่าว ชาวบ้านจึงเอาชื่อคนตายมาตั้ง เล่ากันว่าถ้าถูกจับได้ตายอย่างเดียว คงจะเป็นข้อหาหลบหนีและต่อสู้เจ้าพนักงาน ชาวบ้านจะรู้ว่ามีคนที่ถูกกอง

ปราบจับไปตาย ก็เพราะตอนเช้ามืดประมาณตีห้า ถ้าได้ยินเสียงปืนสเต็นส์ หรือคาไบร์ ดัง พรึด ๆ ๆ สองสามชุด เช้าไปดูศพได้.........

มีเสืออีกเสือหนึ่งที่ผมได้ยินคนเล่าถึงบ่อยๆ ถึงไม่ดังมากเท่ากับสามหรือสี่เสือที่กล่าวมาแล้ว แต่คนแถวบ้านดาบ,คลองขนาก,บางกะลา,รางยี่โท และ

ดอนหอยโข่ง มีคนรู้จักมากและส่วนใหญ่จะชื่นชอบ ว่ากันว่าเป็นเสือที่รักษาสัจจะและยึดมั่นถือมั่นในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ชื่อว่าเสือหริ่ง เล่ากัน

ว่าเสือหริ่งในช่วงเวลาที่กองปราบขึ้นไปไล่ล่าโจรหรือผู้ร้ายรวมทั้งพวกลักเล็กขโมยน้อย เสือหริ่งเคยไปอาศัยบ้านของหมอแผนโบราณชื่อหมอใหญ่

ซึ่งปลูกบ้านอยู่แบบโดดเดี่ยวอยู่ที่รางยี่โท รางยี่โทเป็นชื่อเรียกอาณาเขตของนาแถวนั้นอยู่ระหว่างบ้านบางกะลากับดอนหอยโข่ง เดินทางในหน้าน้ำ

ใช้คลองเดียวกันกับคลองบ้านดาบผ่านวัดนางชำ,ผ่านบ้านบางกะลา,ผ่านดอนหอยโข่งไปบ้านหลักแก้ว ทุกบ้านตามที่กล่าวถึงล้วนเป็นหมู่บ้านคนมี

บ้านหลายหลังยกเว้นรางยี่โทมีบ้านหมอใหญ่กับบ้านตาอินซึ่งปลูกห่างกันแบบโดดๆ หมอใหญ่เป็นหมอแผนโบราณที่มีชื่เสียงมาก ฐานะดี เป็นคนที่มี

คุณธรรม และใจบุญ ในช่วงเวลานั้นคาดว่าน่าจะเป็นหม้ายเพราะผมไม่เคยได้ยินใครพูดถึงเมียแกเลย แม้กระทั่งปู่ซึ่งเป็นคนคุ้นเคยได้ตำรายาจาก

หมอใหญ่มาก็มากก็ไม่เคยพูดถึงเมียหมอใหญ่ และในส่วนของเสือหริ่งนอกจากจะเคยหลบไปพักบ้านหมอใหญ่แล้ว ก็เคยหลบตำรวจอยู่แถวๆบ้าน

ดาบและบริเวณใกล้เคียง และว่ากันว่าการที่เสือหริ่งได้มาพักอาศัยเพื่อหลบตำรวจจนกระทั่งกองปราบหมดภารกิจและเลิกกลับกรุงเทพฯแล้ว ก็ทำให้

ไม่มีโจรหรือพวกขโมยควายมาแผ้วพาล จนอยู่มาวันหนึ่งบ้านหมอใหญ่ถูกปล้น เมื่อโจรบุกเข้าปล้นขึ้นบ้านหมอใหญ่ได้ แต่ไม่พบตัวหมอใหญ่

เพราะหมอใหญ่ไหวตัวทันได้หลบหนีลงจากบ้าน ไปลอยคออยู่ในน้ำข้างๆโคกที่ถมดินเอาไว้ปลูกพืชผักของกินในหน้าน้ำ เมื่อโจรขึ้นบ้านได้ไม่พบเจ้า

ของบ้านได้ทรัพย์สินแล้วก็ล่าถอยกลับ เมื่อโจรลงบันไดบ้านเพื่อลงเรือที่ใช้เดินทางมาปล้น จนถึงคนสุดท้ายคือหัวหน้าโจรเป็นคนแบกกำปั่นใส่เงิน

และทรัพย์สินมีค่า ก็มีเสียงปืนดังมาจากปืนของหมอใหญ่ที่ซุ่มอยู่ คนแบกกำปั่นโดนปืนเต็มๆ ตายคาที่คาบันได และโจรที่เหลือก็โดนยิงจากปืนลูก

ซองของหมอใหญ่อีก จนต้องล่าถอยทิ้งศพหัวหน้าโจรเอาไว้ เมื่อเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทางการจบลง เสือหริ่งรีบมาหาหมอใหญ่ และกราบขอขมา

หมอใหญ่ โดยบอกว่าไอ้หัวหน้าโจรที่ถูกยิงตายนั้นมันเป็นลูกของเขาเอง เขาไม่โกรธเคืองหมอใหญ่เลย และบอกว่าถ้ามันไม่ตายเพราะฝีมือหมอ

ใหญ่ มันก็ต้องตายเพราะมือของเสือหริ่งเอง ถ้าเขารู้ว่าเป็นมันมาเข้าปล้นบ้านหมอใหญ่เขาบอกทุกคนว่า เขาเตือนและสอนลูกเสมอว่า อย่าลืมบุญ

คุณคนอย่าลืมข้าวแดงแกงร้อนที่เคยได้รับจากใคร แม้แต่ร่มไม้ชายคาที่เคยได้อาศัย หรือเพียงแค่เคยหลบแดดหลบฝน ก็ต้องระลึกถึงและต้องตอบ

แทนบุญคุณ เขาบอกว่าแม้ตัวเขาเองเคยได้รับบุญคุณจากใคร เขาก็จะบอกลูกไว้ให้รู้ว่ามีใครบ้าง และห้ามไว้ว่าอย่าได้ทำอะไรเป็นเด็ดขาด แต่ลูก

เขาคงโลภและคิดว่าหมอใหญ่เป็นหมูจะเชือดได้ง่ายๆ เรื่องนี้จึงทำให้คนที่ได้รู้ข่าวของเสือหริ่ง จะชอบและย่องย่องว่าเป็นเสือที่ถือสัจจะและมี

คุณธรรมประจำใจ....ขอขอบคุณมากครับ...สวัสดีครับ

 

คุณ numthip ช่วยอับเดทตารางน้ำมัน9ทัพให้ผมด้วยครับ

ลำดับที่3 ในตาราง
ผมโอนครบแล้ว งวดแรก1500บาท งวดที่2 1500บาท

โอนงวดที่ 2 1500บาท ในหน้า 401 #8014 ครับ
ขอบคุณครับ

 

ขอเป็นคืนนี้นะครับ ข้อมูลอยู่ที่บ้าน
ถ้าคืนนี้ไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้ค่อยทักท้วงนะครับ

 

ช่วยตรวจทานความถูกต้องนะครับ
และผมยังคงติดต้างเพื่อนสมาชิกอะไรบ้าง ก็ช่วยทวงด้วยนะครับ ผมจะได้จัดตารางใหม่
แล้ว จะได้ไม่ลืมเวลาจัดส่งงวดหน้า


น้ำมันฯนี้ จะพยายามยุให้พี่นิ่มเร่งออกให้ทันหลังพรรษา
จะฉีดน้ำมันและยาบ้าให้ขยันวิ่งขึ้นอีกนิดนึง....

 

คุณอ๊อด ส่งชนวนมาร่วมในฐานะเจ้าภาพ
ผมคัดดู...น้ำลายก็ไหล
น้ำตาก็พาลจะไหล.....

 

ผมได้ส่งเหรียญ ไปร่วมสร้างพระนาคปรก 1เหรียญครับ
เป็นเหรียญ ครูบาอุ่น วัดดงขี้เหล็ก อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ครับ