เพื่อการกุศล " พระลีลาแพร่บุญ " โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ ฯ ครั้งที่ ๖ ......หมดเขตร่วมบุญแล้ว

ผมส่งแผ่นยันต์ไปให้แล้วนะครับ

EJ738775659TH

 

วันนี้ได้รับแล้วครับ

ช่วงนี้ก็เตรียมการเรื่องหลอมชนวนอยู่นะครับ เมื่อวันก่อนไปลองนำเอาขอบพระพิมพ์เจ้าสัวลาภัง ที่ทางโรงหล่อพระ เขาตัดขอบออกมาชั่งน้ำหนักเพื่อจะดูว่าตอนนี้เหลือประมาณกี่กิโล

เพราะว่าเมื่อตอนที่บรรจุกรุครั้งที่ ๒ นั้น ได้นำขอบพระใส่ไปในกรุด้วย จำนวน ๑๐๘๐ ชิ้น ( โดยใส่ให้ไว้เท่ากับของครั้งที่ ๑ คือคิดจากจำนวนพระ ๘,๔๐๐ องค์ ใส่ไหจำนวน ๑๐ ใบใส่ขอบพระไหละ ๑๐๘ ชิ้น ) คิดเป็นน้ำหนักประมาณ ๑๗ กก. เผื่อในอนาคตเมื่อมีการเปิดกรุขึ้นมาแล้ว ทางวัดก็จะได้มีชนวนมวลสารเก็บไว้ในการสร้างวัตถุมงคลของทางวัดเองต่อไป

เมื่อได้ลองนำขอบพระเจ้าสัวมาชั่งน้ำหนักแล้ว ปรากฏว่ามีเหลืออยู่ประมาณ ๘๐ กก. แล้วก็ยังมีชนวนหัวเชื้อที่จัดเตรียมไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการฯ อีก ๑๘ กก. ซึ่งในการหลอมชนวนมวลสารเพื่อการจัดสร้างพระบรรจุกรุ แต่ละครั้งต้องมีตะกั่วน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ กก.หรือมากกว่า อีกสักสิบ-ยี่สิบกิโล ซึ่งก็จะต้องหาตะกั่วจากท้องตลาดมาเพิ่มเติม

ครั้งนี้โชคดีครับ จากที่เคยสั่งน้องคนหนึ่งที่ทำร้านของเก่าไว้ว่าให้หาตะกั่วให้บ้าง เพราะว่าได้ถ้าจากร้านของเก่าราคาจะถูกกว่าร้านค้าสังฆภัณฑ์ที่ขายตะกั่วแท่งโดยตรงมาก ( เมื่อการสร้าง ครั้งที่ ๒ นั้น ราคา ๘๘ บาท ) เกือบๆ เท่าตัวเลยที่เดียว งวดนี้ได้ตะกั่วที่เขาหลอมเป็นเม็ดลูกปืนแก๊ปมา อย่างที่บอกไปแล้วนะครับว่าราคาถูกกว่ากันเกือบครึ่งเลยซื้อตุนไว้สำหรับการสร้างครั้งที่ ๔ และ ครั้งที่ ๕ ไว้เลย จำนวน ๔๒๑ กก. แต่จ่ายเงินไปแค่ สี่ร้อยโล น้องเจ้าของร้านร่วมทำบุญตะกั่วมาสร้างพระอีก ๒๑ กก. ก็ขอโมทนากับคุณหนิง ด้วยครับผม

ไปรับของเมื่อวานนี้กลับมาถึงบ้านก็เลยมาล้างน้ำทำความสะอาดพวกขี้ฝุ่นขี้ดินออก เสียเวลาไปสามสี่ ชม.เพราะไม่งั้นเวลาหลอมจะเสียเวลาตักพวกสิ่งสกปรกทิ้งอยู่

สำหรับเรื่องการนำเสนอภาพการจารแผ่นชนวน ก็คงเสนอไปตามลำดับเรื่อยๆ นะครับ แต่ส่วนรายนามพระคณาจารย์ที่จารแผ่นชนวน เพิ่มเติมมาสำหรับการสร้างพระบรรจุกรุ ในครั้งที่ ๓ นั้นจะนำมาลงให้อ่านกันก่อนวันหลอมชนวนครับ

ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามงานบุญของโครงการสร้างพระบรรจุกรุ ฯ ขอโมทนาด้วยครับผม

 

มาชมภาพการจารแผ่นชนวนเพื่อนำไปจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้) กันต่อครับ

๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

หลวงปู่คำ จนติโก วัดห้วยโป่ง
อ.สอง จ.แพร่ อายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓

ในวันพิธีพุทธาภิเษกของสำนักสงฆ์ม่อนปู่อิ่น พระคณาจารย์รูปสุดท้ายที่ได้จารแผ่นชนวนให้กับโครงการสร้างพระบรรจุฯ ก็คือหลวงปู่คำ แห่งวัดห้วยโป่ง จริงๆแล้วในวันนั้นมีพระคณาจารย์ที่ได้รับนิมนต์ให้มานั่งปรกจำนวนทั้งหมด ๑๙ รูปด้วยกัน แต่ทุกรูปนั้นได้จารแผ่นชนวนให้กับโครงการแล้วตั้งแต่เมื่อตอน กรุ๑ และ กรุ๒

หลวงปู่ท่านได้เดินทางมาถึงก่อนพิธีเริ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อมาถึงก็เข้าไปนั่งประจำยังอาสนะที่ทางวัดจัดให้เลย ผมจึงยังไม่มีโอกาสเข้าไปกราบท่าน ต้องรอจนพิธีเสร็จสิ้นดับเทียนชัยเรียบร้อย จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของทางวัดนำแผ่นตะกั่วไปขอความเมตตให้ท่านจารให้ครับ เมื่อท่านจารเสร็จก็อธิษฐานจิตให้ครู่นึง ก่อนจะส่งแผ่นชนวนให้เจ้าหน้าที่ท่านนั้นนำมาให้ผมครับ

หลวงปู่คำ วัดห้วยโป่ง ร่มธรรมชาวสะเอียบ

บนดอย อ.สอง จ.แพร่ มีพระผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านจังหวัดแพร่และจังหวัดใกล้เคียงให้ความนับถือเลื่อมใสมาอย่างยาวนาน มีพิธีกรรมพุทธาภิเษกที่ไหนจะต้องนิมนต์พระเถระรูปนี้ไปร่วมงานทุกครั้ง เนื่องจากชื่อและนามสกุลเดิมยังเป็นมงคลด้วยนั่นคือหลวงปู่คำ จันติโก เจ้าอาวาสวัดห้วยโป่ง อ.สอง จ.แพร่ สิริอายุ ๙๓ ปี

อัตโนประวัติ
มีนามเดิมว่า ศรีคำ อายุยืน เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๔๖๓ บ้านสะเลียม ต.ยามหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน

อุปนิสัยเป็นคนพูดน้อย มีความเคารพนอบน้อมเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย มีจิตใจใฝ่บุญกุศลตั้งแต่เป็นเด็ก

เข้าพิธีบรรพชาเมื่ออายุ ๑๓ ปี ที่วัดกลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน และจำพรรษาอยู่ที่วัดนาฮากฮาน ในช่วงนั้นท่านได้เรียนภาษาล้านนากับ ครูบาอินต๊ะ ครูบาธิ วัดนาฮากฮาน จนแตกฉาน

เมื่ออายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดอ่ายนาลัย จ.น่าน

ศึกษาพระปริยัติธรรมและศึกษาสรรพวิชา ก่อนเริ่มออกท่องธุดงควัตรไปยังจังหวัดต่างๆ เคยเดินธุดงค์ในป่า ผจญสัตว์ป่าดุร้ายมากมาย แต่ท่านใช้ความสงบ อธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้เหล่าสรรพสัตว์ ทำให้สัตว์ป่าไม่เคยเข้ามาทำร้าย

ต่อมาท่านได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดนาฮากฮาน เป็นเวลา ๘ พรรษา ก่อนที่ชาวบ้านห้วยโป่ง อ.สอง ได้นิมนต์ให้มาจำพรรษาที่วัดห้วยโป่ง ต.สะเอียบ อ.สอง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ ขณะอายุได้ ๓๙ ปี

ด้านการปฏิบัติธรรม
ท่านมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในการปฏิบัติธุดงควัตร ยามว่างจากศาสนกิจทุกปี ท่านจะนำภิกษุ-สามเณรจาริกธุดงค์ หาความสงบวิเวกและบำเพ็ญธรรม ออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตรประจำวัน

หลวงปู่คำ เป็นพระนักปฏิบัติ มีชีวิตที่เรียบง่ายสมถะ ทุกวันหลวงปู่คำจะปฏิบัติทำวัตรเช้า-เย็น นั่งสมาธิ จนอายุท่านได้ ๙๐ ปี ภาวะร่างกายเสื่อมถอย ท่านจะทำวัตรเช้า-เย็นทุกวันพระ

ด้วยความวิริยอุตสาหะทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนา โดยมิได้รู้ถึงความเหน็ดเหนื่อย หลวงปู่คำเป็นพระที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สร้างคนให้เป็นคนดีของสังคม ด้วยธรรมะและการศึกษาทางโลกและทางธรรม ถือเป็นพระเถระที่ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พุทธศาสนา

สาธุชนที่มากราบนมัสการหรือสนทนาธรรม มักเกิดความประทับใจ ในความบริสุทธิ์ ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตที่ไม่เป็นทุกข์ และการให้พรเป็นภาษาพื้นเมืองที่ไม่เหมือนพระรูปอื่น

 

ที่ติดค้างไว้นะครับ เรื่องรายนามพระคณาจารย์ที่จารแผ่นชนวน เพิ่มเติมมาสำหรับการสร้างพระบรรจุกรุ ในครั้งที่ ๓ นั้น เนื่องจากการนำรายละเอียดการจารแผ่นของแต่ละองค์ มาโพสไปตามลำดับนั้น คงจะไม่ทันก่อนการหลอมชนวนมวลสารในวันอาทิตย์ ที่ ๒๑ ก.ค.๕๖ นี้แน่ ก็สรุปรวมรายนามทั้งหมดมาให้อ่านกันก่อน

สำหรับแผ่นจาร ครั้งที่ ๓ นี้ ก็มีเพิ่มเติมจากครั้งที่ ๒ จำนวน ๓๔ องค์ นะครับ ( แต่ก็มีพระเถราจารย์ที่เคยจารแผ่นมาแล้ว แต่ขอให้ท่านจารซ้ำในครั้งนี้ อีก ๓ องค์ครับ คือ หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน จ.อ่างทอง หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ จ.ชัยนาทและ หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี )

สำหรับลำดับที่นั้นผมจะนับเรียงต่อเนื่องกันจากครั้งที่ ๒ ไปเลยนะครับ


...เริ่มรายนามพระคณาจารย์ที่จารแผ่นชนวนเพิ่มเติมจาก ครั้งที่ ๒ สำหรับการจัดสร้าง ครั้งที่ ๓

๒๑๐. 25/4/56 เจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙) วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. อายุ ๗๗ ปี พรรษา ๕๗ น.92 # 1829 (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๑. 24/1/56 พระครูอดุลปุญญาภิรัต (หลวงปู่ครูบาบุญ) วัดท่าหลุก ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุ ๘๐ ปี พรรษา ๖๐ น.92 # 1831 (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๒. 24/1/56 พระครูพิพัฒน์สมาจาร วัดชมพู ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุ ๗๖ ปี พรรษา ๕๕ น.92 # 1832 (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๓. 14/2/56 พระราชมงคลสุธี (หลวงปู่แขก ปภาโส) วัดสุนทรประดิษฐ์ ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อายุ ๙๐ ปี พรรษา ๖๙ น.92 # 1832 (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๔. 14/2/56 พระครูพิพิธธรรมาธร (หลวงพ่อหวั่น กุสลจิตฺโต) วัดคลองคูณ ต.คลองคูณ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร อายุ ๗๘ ปี พรรษา ๕๗ น.93 # 1841 (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๕. 14/2/56 หลวงพ่อเอิบ ฐิตธมฺโม วัดหนองหม้อแกง (ซุ้มกระต่าย) อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อายุ ๖๖ ปี พรรษา ๔๔ น.93 # 1842(ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๖. 14/2/56 หลวงปู่คำ จนติโก วัดห้วยโป่ง อ.สอง จ.แพร่ อายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓ น.93 # 1847(ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๗. 17/2/56 พระครูถาวรวีรธรรม (หลวงปู่ครูบาดวงเนตร ฐิตวีโร) วัดศรีโพธาราม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ อายุ ๗๗ พรรษา ๕๗ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๘. 17/2/56 พระครูสุจิตบุญญาภรณ์ (ครูบาบุญชุม) วัดหนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๑๙. 17/2/56 พระราชสิงหวรมุนี (หลวงพ่อโสภณ โสภโณ) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๒๐. 17/2/56 พระอาจารย์คงสัก วัดป้อมวิเชียรโชติการาม(พระอารามหลวง)อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๒๑. 24/2/56 พระครูวรธรรมาภิรมย์ (ครูบาเมืองอินทร์) วัดศรีเมืองยู้ อ.เมือง จ.ลำพูน อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๒ แผ่น )

๒๒๒. 24/2/56 พระราชวินัยโสภณ (ลป.พระมหาบุญส่ง สุขขปฺปตฺโต) วัดล้านนาญาณสังวราราม (ธรรมยุติ) อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อายุ ๗๗ ปี พรรษา ๕๖ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๒๓. 25/2/56 พระสุวรรณศีลาจารย์ (หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ปัญญาทีโป) วัดสุวรรณเจดีย์ ต.บ้านขวาง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา อายุ ๘๘ ปี พรรษา ๖๘ ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๒๔. 25/2/56 พระครูวุฒิธรรมาทร (หลวงพ่ออาบ สุวุฑฺโฒ ) วัดโบสถ์วรดิตถ์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อายุ ๗๙ ปี พรรษา ๕๘ ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๒๕. 25/2/56 พระครูปัญญาลังการ (หลวงพ่อแป้น จนฺทวณฺโณ ) วัดเกษทอง อ.สามโก้ จ.อ่างทอง อายุ ๗๙ ปี พรรษา – ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๒๖. 28/2/56 พระครูสุวัตถิ์ปัญญาโสภิต (ครูบาปัญญาวชิระ) วัดแสนเมืองมาหลวง (หัวข่วง) ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุ ๕๖ ปี พรรษา ๓๕ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๒๗. 28/2/56 พระครูสุธรรมลังการ (พระอาจารย์คงทอง สุธมฺโม) วัดชัยศรีภูมิ (วัดปันต๋าเกิ๋น) ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา - (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๒๘. 24/3/56 พระครูสุจิตตาภิวัฒน์ ( หลวงพ่อเดช เตชจิตฺโต ) วัดสังฆมณฑล ( ธ ) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อายุ ๗๔ ปี พรรษา – ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๒๙. 24/3/56 หลวงพี่ยันต์ วัดเขาวงศ์ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี อายุ - พรรษา - ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๓๐. 11/4/56 พระอาจารย์นคร ( ปุ้ม ) โฆสการี วัดศาลาแดง คลองทวีวัฒนา แขวง บางไผ่ เขตบางแค กทม. อายุ - ปี พรรษา – ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๓๑. 15/4/56 พระครูอดุลพิริยานุวัตร (ลพ.ชุบ ปญฺญาวุโธ ) วัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๕ ( ผาแดง ๑ แผ่น )

๒๓๒. 23/5/56 ครูบาเอนก อาสโภ เจ้าอาวาสวัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน อายุ ๖๔ ปี พรรษา ๔๔ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๓. 23/5/56 พระอธิการบุญต่อ อุปลวัณโณ (ครูบาจง) วัดศรีสว่าง(วัวลาย) อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อายุ ๕๖ ปี พรรษา ๓๖ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๔. 25/5/56 พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) วัดอนาลโยทิพยาราม ต.สันป่าม่วง อ.เมือง จ.พะเยา อายุ ๗๙ ปี พรรษา ๔๙ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๕. 25/5/56 พระครูสังวรญาณโสภณ (หลวงปู่เจริญ ญาณวุฒโฒ) วัดถ้ำปากเปียง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๓ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๖. 25/5/56 พระครูพุทธบทเจติยารักษ์ (ครูบาพรชัย ปิยวัณโณ) วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อายุ ๔๖ ปี พรรษา ๒๖ (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๗. 25/5/56 พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อายุ ๖๘ ปี พรรษา ๔๘ ๒ แผ่น (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๘. 25/5/56 พระครูสุจิณณานุวัตร (หลวงพ่อหนูพิน ฐานุตโม) วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๓๙. 25/5/56 พระครูปัญญาวรคุณ (หลวงพ่อทองแดง วรปัญฺโญ) วัดพระเจ้าตนหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา - (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๔๐. 25/5/56 พระครูสิริบุญญวัฒน์ (หลวงพ่อเศวต สุกฺกสิริ) วัดเจดีย์บรรพต อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๔๑. 25/5/56 พระครูอินทรวงศาจารย์ (พระอาจารย์ภูมิพงษ์) วัดสันป่าสักวรอุไร อ.หางดง จ.เชียงใหม่ อายุ - ปี พรรษา – (ยันต์ครู ๑ แผ่น )

๒๔๒. 18/6/56 พระพรหมจริยาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ ป.ธ.7) เจ้าคณะใหญ่หนใต้ และเจ้าอาวาสวัดกระพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง อายุ - ปี พรรษา – (ชาวประมง ๑ แผ่น )

๒๔๓. 19/6/56 พระครูสังฆรักษ์ (พ่อท่านเสือเล็ก หิรัญโญ ) วัดควนซาง ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง อายุ ๙๙ ปี พรรษา - (ชาวประมง ๑ แผ่น )

หมายเหตุ

๑. ใน น.93 # 1843 หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน ท่านเคยจารให้แล้ว ๑ ครั้ง เมื่อ 18/ 5/ 55 น.17 # 324 อยู่ในรายนามลำดับที่ ๖๒

๒. ใน น.93 # 1844 หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ ท่านเคยจารให้แล้ว ๑ ครั้ง เมื่อ 4/ 6/ 55 น.23 # 450 อยู่ในรายนามลำดับที่ ๙๙

๓. ลำดับที่ ๒๒๙ หลวงพี่ยันต์ วัดเขาวงศ์ นี้เป็นตัวแทนของ ลพ.สมคิด วัดเขาวงศ์ ซึ่งอาพาธในขณะนั้น ให้มานั่งเสกในงานพุทธาภิเษกวัดโคกหม้อ จ.ลพบุรี

หมดรายนาม...พระคณาจารย์ที่เมตตาจารแผ่นชนวน เพื่อเป็นชนวนมวลสารการจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ ( ภาคใต้ ) รวมทั้งสิ้น ๒๔๓ องค์

 

โครงการสร้างพระเนื้อตะกั่วเพื่อบรรจุกรุ รวม ๘๔,๐๐๐ องค์

ขอเชิญ

ร่วมสร้างพระเนื้อตะกั่วบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ ( ภาคใต้ ) จำนวน ๘,๔๐๐ องค์ ​

พระจำนวน ๘,๔๐๐ องค์ จะทำการแบ่งออกเป็น ๘๔๐ ชุดเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบุญกัน โดยร่วมทำบุญชุดละ ๑๕๐ บาท (รวมค่าจัดส่ง) รายได้ทั้งหมดเพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินโครงการฯ ต่อไป


รายละเอียดของการร่วมทำบุญต่อชุด

โดยในการร่วมทำบุญ ๑ ชุด จะประกอบด้วยพระจำนวน ๑๑ องค์

พระจำนวน ๑๐ องค์ จะร่วมสมทบเข้าโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ

พระจำนวน ๑ องค์ มอบให้เป็นที่ระลึกในการบริจาคเงินร่วมทำบุญกับโครงการสร้างพระบรรจุกรุฯ

(เนื้อเดียวกันกับพระที่บรรจุกรุและจะจัดส่งให้กับผู้ร่วมทำบุญต่อเมื่อผ่านพิธีพุทธาภิเษกและอธิฐานจิตเดี่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว)

ในวันบรรจุกรุพระจะมีการร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ รวมถึงตั้งกองผ้าป่าสามัคคีถวายให้กับวัดนั้นๆด้วย


ชื่อบัญชี จ.ส.อ.ราเชนทร์ โต๊ะกลม

ธ.กรุงไทย สาขา เขาพระงาม

ประเภท ออมทรัพย์

135-0-21916-9


โทร. 086 133 7341 เวลา 09.00 ถึง 22.00 น.

 

๑๗ ก.พ.๕๖

พระครูถาวรวีรธรรม (หลวงปู่ครูบาดวงเนตร ฐิตวีโร) วัดศรีโพธาราม
อ.สารภี จ.เชียงใหม่ อายุ ๗๗ ปี พรรษา ๕๗

ประวัติ
ชาติกำเนิด
เกิดวันพุธที่ ๑๗ กันยายน ๒๔๗๙ บ้านศรี โพธาราม(สังกา) ปีชวด บ้านเลขที่ ๑๐๑ หมู่ที่ ๕ ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของนายสม นางแสน สิทธิ ชื่อเดิมนายดวงเนตร หลวงโย

บรรพชา-อุปสมบท
บรรพชาที่วัดศรีโพธาราม เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๔ พระครูอินทรสธรรม วัดกู่เสือ เป็นพระอุปัชฌายะ และอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดศรีโพธาราม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ พระครูอินทรสธรรม วัดกู่เสือ เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูเรือน ญาณวโร วัดกู่เสือเป็นพระกรรมวาจารรย์ พระครูสัทธาโสภณ(อ้าย โสภโณ) วัดเวฬุวัน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 

มาชมภาพการจารแผ่นชนวนเพื่อนำไปจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้) กันต่อครับ

๑๗ ก.พ.๕๖
พระครูสุจิตบุญญาภรณ์ (ครูบาบุญชุม) วัดหนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่

 

สรุปว่าผมไม่ได้ไปช่วยพี่ผาแดง หล่อชนวนอีก เหออออ เศร้า

 

ไม่เป็นไรน้องป๊อป เรื่องหลอมชนวนวันนี้ก็เสร็จเรียบร้อยไปด้วยดีครับ ได้คุณเอ บางพระกับผู้ร่วมบุญทางบ้านอีกท่านหนึ่ง มาช่วยกันหลอม ช่วยกันตักเทลงเบ้าไปจนเกือบหมด ต้องช่วยกันเอียงหม้อต้มตะกั่วจนตักแทบไม่เต็มกะบวยแล้ว เกิดความคิดแวบขึ้นมา ก็เลยไปตัดไม้ไผ่รวกมาเทตะกรุดหล่อตันเนื้อชนวน ได้มาจำนวนหนึ่ง พอทุบไม่ไผ่รวกออกมาแล้ว ได้ตะกรุดที่สวยงามแบบธรรมชาติไปอีกแบบครับ เสร็จจนเกือบห้าโมงเย็นแล้ว กว่าจะช่วยกันเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยรวมถึงชนวนที่หล่อวันนี้ขึ้นรถไว้ด้วยเลยก็หกโมงเย็นกว่า

พรุ่งนี้เช้ากะว่าจะเอาไปส่งให้โรงหล่อเขาเตรียมรีดเป็นแผ่นไว้ก่อน เพราะยังเป็นวันหยุดต่อเนื่องอยู่ ถ้าไม่ไปช่วงนี้ก็ไม่รู้จะว่างไปได้เมื่อไหร่ ช่วงนี้ก็งานเยอะครับ เพิ่งเสร็จงานรับตรวจเมื่อสัปดาห์ก่อน ปรากฏว่าวันที่ ๒๕ ก.ค.นี้จะมีคณะมาดูงานที่หน่วยอีกแล้ว

สำหรับภาพการหลอมชนวน หลังจากลดขนาดภาพแล้วจะนำมาให้ชมกันนะครับ

 

โมทนาครับพี่ผาแดง แต่อยากเห็นตะกรุดไม้ไผ่ตันแบบตะกั่วครับ อิอิ

 

คุณวีระ แปงขมภู ร่วมบุญสร้างพระบรรจุกรุ ๑๐ ชุด ๑,๕๐๐ บาท

ขอโมทนาบุญด้วยครับ

 

มาชมภาพการจารแผ่นชนวนเพื่อนำไปจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้) กันต่อครับ

๑๗ ก.พ.๕๖
พระราชสิงหวรมุนี (หลวงพ่อโสภณ โสภโณ) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่

 

มาชมภาพการจารแผ่นชนวนเพื่อนำไปจัดสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ (ภาคใต้) กันต่อครับ

๑๗ ก.พ.๕๖
พระอาจารย์คงสัก วัดป้อมวิเชียรโชติการาม (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

 

อดใจรอก่อนนะป๊อปเดี๋ยวว่ากันไปตามลำดับ

ก่อนนำภาพหลอมชนวนมวลสารมาให้ชมกัน มาดูชนวนมวลสารที่มีผู้บริจาคกันก่อนนะครับ สำหรับครั้งนี้ได้ก้อนชินตะกั่วที่หลอมมาจากพระกรุวัดราษฏร์ จ.อยุธยาที่พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด ท่านเมตตามอบให้มาพร้อมกับจารเพิ่มเติมมาให้ด้วยจำนวน ๒ ฝา โดยผ่านน้องlavar181

และอีกท่านหนึ่งที่เคยร่วมบริจาคมวลสารมาตั้งแต่การสร้างครั้ง ที่ ๒ แล้ว คือคุณเอกรงค์ หงษ์ศรีทอง จาก จ.นครปฐม มอบตะกรุดตะกั่วของหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต จ.ประจวบ ที่พิเศษคือดอกนี้ท่านใช้ฟันของท่านกัดไว้ที่ตะกรุดไว้ด้วยซึ่งคุณเอกรงค์บอกว่าเป็นเคล็ดที่ท่านพูดว่าจะได้มีกิน ไม่อดไม่อยาก

ขอขอบพระคุณและขอโมทนากับทั้งสองท่านที่ร่วมบริจาคมวลสารครับผม

ชมรอยจารชัดๆ ครับ



ด้านหลัง



ตะกรุด ลพ.ปรีชา วัดเขาอิติสุคโต

 

มาชมภาพและรายละเอียดการหลอมชนวนเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๑ ก.ค.ที่ผ่านมาครับ เริ่มที่การจัดโต๊ะตั้งเครื่องบวงสรวงและวางแผ่นชนวนหัวเชื้อ นน.ประมาณ ๑๘ กก. , แผ่นชนวนที่เพิ่มเติม ของครั้งที่ ๑ , แผ่นชนวนที่เพิ่มเติม ของครั้งที่ ๒ , ขอบของเหรียญเจ้าสัว ที่แบ่งมาส่วนหนึ่งใส่กล่องเหล็กแล้วพาเสกพร้อมพระเจ้าสัวลาภัง มหาสิทธิโชค , แผ่นจารที่เพิ่มเติม ของครั้งที่ ๓ และมวลสารบริจาค

เมื่อได้เวลาบวงสรวงก็มาจุดธูป ๑๖ ดอกบอกกล่าวขอบารมีพระสมเด็จฯองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกฯ ทุกๆพระองค์ ฯ เทพเทวาฯ หลวงพ่อ หลวงปู่ ปู่ฤาษี ครูบาอาจารย์ทุกท่านที่เคารพนับถือ เจ้าที่เจ้าทาง และท่านที่จารแผ่นชนวนทุกท่าน บอกกล่าววัตถุประสงค์ในการหลอมชนวนว่าเพื่อนำไปจัดสร้างพระเพื่อไปบรรจุกรุไว้สืบทอดอายุพระศาสนา เมื่อถวายเครื่องสังเวยเสร็จแล้ว ก็มาเตรียมการหลอมครับ

- เครื่องบวงสรวงครับ




ภาพอีกมุมนึง



- ชนวนหัวเชื้อ ,แผ่นชนวนที่เพิ่มเติม ของครั้งที่ ๑ , ๒ และมวลสารบริจาค



ดูกันใกล้ๆ ครับ ด้านซ้ายบนที่อยู่ในถาดคือขอบของเหรียญเจ้าสัวลาภัง มหาสิทธิโชค ที่แบ่งมาส่วนหนึ่งแล้วพาไปเสกพร้อมเจ้าสัว
ด้านซ้ายแผ่นใหญ่ที่วางซ้อนกันลงคือชนวนหัวเชื้อ นน.ประมาณ ๑๘ กก. ส่วนขวามือแผ่นใหญ่ที่มีรอยตัดแบ่งไปนั้น แผ่นล่างเป็นชนวนที่เพิ่มเติมของครั้งที่ ๑ แผ่นบนเป็นชนวนที่เพิ่มเติม ของครั้งที่ ๒ และตรงกลางมวลสารบริจาคครับเป็นชนวนเนื้อชินของกรุวัดราษฏร์ ที่พอจ.ปืน วัดลาดชะโดท่านมอบให้มากับตะกรุด ลพ.ปรีชา วัดเขาอิติสุคโต ที่คุณเอกรงค์ หงษ์ศรีทอง ร่วมบริจาคมา



แผ่นจารจากพระคณาจารย์ที่เพิ่มเติมมา ของครั้งที่ ๓ นี้ จำนวน ๓๔ องค์



ในถังด้านซ้ายนั้นเป็นเม็ดตะกั่วลูกปืนแก๊ปครับ นน.ที่ต้องเพิ่มมาสำหรับหลอมเพื่อสร้างพระบรรจุกรุในครั้งที่ ๓ นี้คือประมาณ ๑๒๐ กก. กับในลังไม้นั้นเป็นขอบเหรียญเจ้าสัวลำภัง มหาสิทธิโชค ที่ในการเสกครั้งแรกโดย พอจ.นพดล วรธมฺโม สนส.มะอึกแรด จ.ตราดนั้นได้นำขอบเหรียญทั้งหมดนี้ไปเข้าพิธีมาแล้ว นน.ประมาณ ๘๐ กก. ส่วน ๒ แผ่นที่เห็นนั้นเป็นตะกั่วแข็งครับ ใส่ลงไปด้วยเพื่อให้เนื้อพระมีความแข็งขึ้นพอประมาณ

 

ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน 2 ชุด

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับผม

 

รับทราบครับ

ร่วมสร้างพระบรรจุกรุ ครั้งที่ ๓ จำนวน ๒ ชุด

ขอโมทนาบุญด้วยครับผม

 

เมื่อบวงสรวงเสร็จแล้ว ก็มาเตรียมหลอมชนวนครับ เนื่องจากฤกษ์การหลอมชนวนของครั้งนี้อยู่ที่เวลา ๑๓.๒๔ ก็วางแผนไว้ว่าพอบวงสรวงเสร็จแล้วค่อยมาก่อไฟก็ยังทันเวลา เมื่อไฟติดดีแล้วก็ช่วยกันยกหม้อหลอมตั้ง เทตะกั่วเม็ดลูกปืนแก็ป ลงไปก่อนเพื่อจะได้ไล่สิ่งสกปรกออก ระหว่างที่รอตะกั่วละลาย ก็มาก่อไฟอีกเตานึงเพื่อจะได้เตรียมหลอมแผ่นชนวนจากพระคณาจารย์ที่ได้เพิ่ม เติมมาในครั้งที่ ๓ นี้ แล้วก็ไปเก็บแผ่นชนวนบนโต๊ะบวงสรวงรวบรวมไว้เพื่อรอเวลา

พอเม็ดตะกั่วในหม้อหลอมละลายเป็นน้ำดีแล้วก็มาไล่ตักขี้ฝุ่นออกจนหมด เมื่อได้เวลา ก็หย่อนชนวนหัวเชื้อลงหม้อหลอม ตามด้วยขอบเหรียญพระเจ้าสัวจากในลังไม้ สลับด้วยชนวนหัวเชื้ออีกแผ่น ตามด้วยขอบพระเจ้าสัวที่เตรียมไว้ในถาด แล้วก็หันไปหลอมแผ่นชนวนที่ได้เพิ่มเติมอีกเตาหนึ่ง ระหว่างรอแผ่นชนวนละลายก็หันกลับมาเทขอบพระเจ้าสัวลงไปในหม้อหลอมอีกชุดนึง และตะกั่วแข็งอีกหนึ่งแผ่นเพื่อให้เนื้อพระมีความแข็งขึ้นอีกพอประมาณ

เก็บแผ่นชนวนบนโต๊ะบวงสรวงรวบรวมไว้ก่อนเพื่อรอเวลาหลอม



หย่อนชนวนหัวเชื้อแผ่นแรกลงหม้อหลอม แผ่นนี้ หนัก ๕.๐๐ กก.



ตามด้วยขอบเหรียญพระเจ้าสัวจากในลังไม้



สลับด้วยชนวนหัวเชื้ออีกแผ่น แผ่นนี้ หนัก ๓.๕ กก.



ตามด้วยขอบพระเจ้าสัวที่เตรียมไว้ในถาด (ขอบพระชุดนี้พาเสกพร้อมกับพระเจ้าสัวนะครับคือ ๓ พิธีพุทธาภิเษก และเสกเดี่ยวอีก ๑๔ องค์ )



หลอมแผ่นชนวนที่ได้เพิ่มเติมมาของครั้งที่ ๓ นี้



จากพระคณาจารย์ จำนวน ๓๔ องค์ และมวลสารบริจาค แผ่นชนวนที่เห็นด้านบนสุดนั้นเป็นของพ่อท่านเสือเล็ก จ.ตรังที่น้องป็อปส่งมาร่วมบุญ



ใส่ขอบพระเจ้าสัวลงไปในหม้อหลอมอีกชุดนึง



ใส่ตะกั่วแข็งอีกหนึ่งแผ่นเพื่อให้เนื้อพระมีความแข็งขึ้นอีกพอประมาณ

 

ก้อนชินตะกั่วที่หลอมมาจากพระกรุวัดราษฏร์ จ.อยุธยาที่พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด ท่านเมตตามอบให้มาพร้อมกับจารเพิ่มเติมมา นั้น ท่านได้เตรียมไว้สำหรับสร้างพระบรรจุกรุเหมือนกันครับ ผมจึงขอความกรุณาแบ่งชนวนจากท่านมา ๒ ก้อน และก็ขอชนวนที่สร้างพระบรรจุกรุจากพี่ผาแดงไปมอบไว้ให้ท่านสำหรับสร้างพระด้วยเช่นกัน ครับ ส่วนแผ่นชนวนที่สร้างพระแต่ละครั้งผมก็ได้แบ่งจากพี่ผาแดงนำไปขอความกรุณาจากท่านนำเข้าพิธีพุทธาภิเศก ของวัดลาดชะโด ทุกครั้งครับ โดยท่านได้เก็บแผ่นชนวนไว้ใต้ฐานของพ่อแก่องค์สำคัญของท่าน ซึ่งถือว่าเป็นความกรุณาอย่างสูงครับ ชนวน ๒ ก้อนนี้เป็นเนื้อพระกรุของอยุทธยาล้วนๆครับผม

 

ในระหว่างที่รอชนวนทั้งหมดในหม้อหลอมละลาย ก็มายกชนวนที่เพิ่มเติมมาของครั้งที่ ๓ นี้ ที่หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว มาเทลงอีกเบ้าหนึ่ง แล้วมาสกัดชนวนที่เพิ่มเติมมาของการสร้าง ครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒ ออกมาอย่างชิ้นพอสกัดเสร็จก็พอดีชนวนของครั้งที่ ๓ แข็งจับตัวกันเป็นแผ่นพอที่จะคว่ำเบ้าได้แล้วก็เคาะออกมาเอาสกัดขีดแบ่งออกเป็น แปดส่วนสำหรับการสร้างที่เหลือ แล้วก็สกัดแบ่งออกมาชิ้นหนึ่งสำหรับการหลอมในครั้งนี้



ออกแรงสกัดชนวนที่เพิ่มเติมมาของการสร้าง ครั้งที่ ๑



ชนวนที่เพิ่มเติมมาของการสร้าง ครั้งที่ ๒




ชนวนที่เพิ่มเติมมาของการสร้าง ครั้งที่ ๓