วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    วันนี้วันอาทิตย์เวเลา 18.5 น ขออนุญาติเลิกงานพาหัวหน้าเจ้านายใหญ่ของผมไป Shopping ก่อน (ลูกสาวเล็ก)เจ้านายโทรมาเพิ่งวางสายบอกว่าถ้าพ่อไม่กลับบ้านพาลูกสาวไป ตลาดจะปลดพ่อออกจากตำแหน่ง

    เดี๋ยวมาต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 มิถุนายน 2013
  2. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    เช้านี้ไปทำบุญกับพระป่า พระสาขาหนองป่าพงมาค่ะ ท่านกลับมาจากอินโดนีเซียแล้ว และหลังจากฉันเช้าเสร็จก็เดินทางกลับไทยตอนกลางวันนี้ค่ะ ...
    ขออนุญาตเอาบุญมาฝากนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
    [/SIZE]

    [​IMG][​IMG][​IMG][http://attachmentid=2720757&stc=1&d=1371453653[/IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ปล.
    รูปสุดท้ายนี้เป็น พระอาจารย์ สีมาตย์ จากวัดป่าสายใจธรรม อ.นาทม จ. นครพนม เป็นวัดสาขาหนองป่าพงที่ 174
    ที่เห็นมีเค้กเพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดท่านค่ะ (และวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ชาด้วยค่ะ) สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  3. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ใช่พี่ทิดหินของผมคนนี้แหละ ที่บางคนเคยพิมพ์ชื่อผิดเอา ห หีบออกหน้า ม ม้ามาแล้ว[/SIZE][/COLOR]

    ไม่รู้เป็นคนยังไงติดดีเอาซะจนเสียนิสัยแก้ไม่หาย สงสัย
    คงต้องส่งไปบำบัดที่ถ้ำกระบอกเอาดีออกซะมั่ง


    อย่างนี้ต้องปล่อยไปตามบุญตามกรรมของแก เฮ๊ยๆ ไม่ได้ๆๆๆๆๆ เดี๋ยวไล่ไม่ทัน วิริยาธิกะพิเศษทั้งหลายเห็นแกที่ใหนรีบปล่อยฝูงวัวเขาอ่อนสกัดทันที[/QUOTE]

    ป๊าาาดด...
    ถ้าคนนี้ใครสกัดเขาไหวก็ขอคาราวะแหละค่ะ ดิฉันนั้นไม่เห็นแม้แต่ฝุ่นพี่ท่านเลย อิอิ แต่ก็แอบซุ่มอยู่เหมือนกันค่ะ

    ว่าแต่โน่นแนะ คุณลุงบุญอธิฐานจิตรวบรัดขนาดนั้น สุดยอดเลย :cool:

    เอ้า... ของใครของมันเนาะ ดิฉันก็อธิฐานของดิฉันเหมือนกัน แต่เอาแค่เบาะๆค่ะ ดิฉันไม่ใช่หน่อพุทธภูมิ ขอให้หลุดพ้นเป็นพอ เพราะเบื่อหน่ายมากแล้ว :':)'( ทั้งทางเจริญและทางเสื่อม ก็เดินมาหมดแล้ว ที่มาเริ่มใส่เกียร์วิ่งแข่งกับพี่ๆ คุณลุงคุณอา ก็เพราะอยากให้มันเต็มเสียที ตัดภพตัดชาติไป ...
    อะไรๆๆก็ไม่รู้ ขอหลับตาติดดีไปก่อนนะคะ แวะเข้าถ้ำกระบอกก็รักษาไม่ได้แล้วเนี่ย ..มันจะถึงเวลาตอนไหน ก็คงได้รู้กันตอนนั้นแหละเนาะ เรามาวิ่งแข่งกันเถอะค่ะ
    และขอเอาใจช่วยทุกๆคนเลย สู้ๆๆๆๆ
     
  4. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ พรุ่งนี้ 17 06 56 ประชุมคณะสงฆ์สาขาวัดหนองป่าพง ที่อุโบสถวัดหนองป่าพง พระเณรคงไปประชุมเยอะน่าดูทีเดียวครับ (แก้ข่าวครับ ที่ถูกต้องเป็นวันที่ 16 มิถุนายน 2556 ขอโทษครับจำวันผิด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  5. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งกับคุณ Rungdao ในการสั่งสมบุญทานกองการกุศลทั้งปวงนะครับ

    ขอจงสมความปรารถนาโดยเร็วพลัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2013
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    อนุโมทนาสาธุ หน้าที่ของท่านก็ทำไปเถอะครับสาธุ:cool:
     
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ป๊าาาดด...
    ถ้าคนนี้ใครสกัดเขาไหวก็ขอคาราวะแหละค่ะ ดิฉันนั้นไม่เห็นแม้แต่ฝุ่นพี่ท่านเลย อิอิ แต่ก็แอบซุ่มอยู่เหมือนกันค่ะ

    ว่าแต่โน่นแนะ คุณลุงบุญอธิฐานจิตรวบรัดขนาดนั้น สุดยอดเลย :cool:

    เอ้า... ของใครของมันเนาะ ดิฉันก็อธิฐานของดิฉันเหมือนกัน แต่เอาแค่เบาะๆค่ะ ดิฉันไม่ใช่หน่อพุทธภูมิ ขอให้หลุดพ้นเป็นพอ เพราะเบื่อหน่ายมากแล้ว :':)'( ทั้งทางเจริญและทางเสื่อม ก็เดินมาหมดแล้ว ที่มาเริ่มใส่เกียร์วิ่งแข่งกับพี่ๆ คุณลุงคุณอา ก็เพราะอยากให้มันเต็มเสียที ตัดภพตัดชาติไป ...
    อะไรๆๆก็ไม่รู้ ขอหลับตาติดดีไปก่อนนะคะ แวะเข้าถ้ำกระบอกก็รักษาไม่ได้แล้วเนี่ย ..มันจะถึงเวลาตอนไหน ก็คงได้รู้กันตอนนั้นแหละเนาะ เรามาวิ่งแข่งกันเถอะค่ะ
    และขอเอาใจช่วยทุกๆคนเลย สู้ๆๆๆๆ
    [/QUOTE]






    :cool:ไอ้ที่ขออธิษฐานแบบนี้ เพราะโดนมาทุกรูปแบบ ที่ผมเคยไป พูดหลายกระทู้ว่า ลูกศิษย์ หลวงพ่อฤาษี ก็มีทั้งเสือ สิงห์ กระทิง แรด มีทุกรูปแบบ ทั้งไอ้เสื้อหลือง ทั้งเสื้อลาย แม้ลูกศิษย์ หลวงพ่อ หลวงปู่ ต่างๆ ก้เหมือนกัน มันไม่ใช่ว่า จะมีคนดีทั้งหมดหรอกนะครับ ผมเจอมาแบบหลายสาย หลายนิกาย แม้แต่ใน เว็ปพลังจิต เราก็เหมือนกัน ฉนั้น เราก็ต้องเลือกเอา แต่ถ้าศึกษาธรรมมา มีทิฏฐิ ต่อไปในภายหลัง ท่านอาจจะได้ ธรรมะแล้ว คงจะตัด ทิฏฐิลงได้ครับ แม้ศิษย์เดียวกันผมโดนมามาก พอสมควร


    ถึงแม้จะเป็นอดีด ไปแล้วก็ตาม ผมไม่ได้อาฆาต แต่จะนำมาพูด เป็นอุทาหรณ์ คติเตือนใจ แด่ท่านทั้งหลาย ว่า คนอื่นเขาก็มีหัวใจ เหมือนท่านๆนะจะบอกให้ เพราะพวกเรา ยังเป็นผู้ ศึกษากันอยู่ ฉนั้น ผมขอนำ มาพูด เพราะมันเป็นเรื่องจริง ที่ควรมาพูด ให้ท่านทั้ง หลายได้ฟัง เข้าใจ โดยทั่วกัน และขออภัย ท่านเจ้าของชื่อ ท่านจากโลกนี้ไปแล้ว ไปเป็นเทวดาหรือพรหม หรือไปนิพพาน มิอาจทราบได้ จึงขอขมาท่าน มาณโอกาศนี้ ที่นำมาเขียน มา ณโอกาศนี้ เพื่อคนอื่นที่กำลังเป็นเช่นนั้น ไปควรเอาเยี่ยงอย่าง เป็นอย่างยิ่ง มาพูดในพลังจิต ในกระทู้ของพี่ พีทีโอ


    เมื่อประมาณ ปี ๒๘-๒๙ วันนั้นผมนั่งกินข้าวอยู่ในครัว ของวัดท่าซุง ท่านมีชื่อว่า คุณป้าน้อย ( ชื่อจริงชื่อ กานดา อมาตยกุล) น่าจะมีเชื้อพวงค์ อยู่นะ ไอ้เราก็หวังดี คนที่อยู่ใกล้ ผลไม้ เมื่อคุณป้าแกทาน ข้าวอิ่มแล้ว ผมบอกคนแถบผลไม้ขนม ผมบอกคนหยิบว่า เอาผลไม้ขนม มาให้ป้าน้อยที เท่านั้น เอง ป้าน้อย แกโวยวาย ใหญ่เลย ไอ้คนเนรคุณ พูดจิกหัวเลย เคยซื้อเสื้อผ้าให้ เคยให้ขึ้นรถไปกับ น้าสมนึก ไปกรุงเทพ ไม่นึกเลยว่าบุญทรงจะเนรคุณอย่างนี้ โอยเรา นึกไม่ถึงเลย แกด่าว่าผมอีกหลายอย่าง เป็นสิบๆนาที พูดแค่นี้ถึงกับเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ทำให้ผม นี้ กำลังใจตกมากๆเลย พูดคำว่าป้านี้ ถ้าตามบ้านนอก เขาเหมือนเป็น ญาติสนิทนะครับพี่ และพี่น้องลูกหลานทั้งหลาย และอีกอย่างผมเป็นภารโรงไม่เคยขออะไรแกเลย แกซื้อกางเกง มาให้ตัวหนึ่ง แกก็ลำเลิกบุญคุณ หมด ทั้งเราไม่เคยคิดอย่ากได้ของใครอยู่แล้วครับ


    วันนั้นแกซัดผมเสีย ยกใหญ่ แกไปติด ต้องใช้คำว่า คุณป้านำหน้า ผมรู้จักแกมาหลายปี และกินที่ครัวด้วยกัน ได้แต่ยกมือไหว้ท่าน คุยธรรมดา แต่พึ่งรู้ วันนั้นเอง คนเรามันออกราย ผมหมดศรัทธาแกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ก็เจอหน้า ก็ยกมือไหว้ ถือว่าศิษย์เดียวกันไม่นึกเลย ใจผมตกไปหลายวัน หลวงพ่อ ท่านก็พูด พูดออกอากาศ ไม่รู้ ท่านจะรู้ตัวหรือเปล่า แต่ก็ได้พ่อนี่แหละ ให้กำลังใจ เสมอมา ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ ผมว่า ใครก็อยู่ไม่ได้ ผมได้ บอกตัวเองว่า ไม่เสื้อเหลืองเสื้อลาย ผมจะสู้ทุกรูแบบ ถ้ามาทำผมนะ จะไม่ให้ใครเยีบหย่ำอีกต่อไป


    มาอีกเรื่อง ปรกติ ผมเอาของมาถวายในงานธุดงค์ ปีหนึ่ง ๒-๓ คันรถทุกปี แต่ไม่มีรถเป็นของตังตัวเอง ต้องเช่ารถนำของมา พี่สมานนี่ ไปเอารถไปขนมาเป็นประจำ ช่วยบ่อยๆ มีอยู่ ๒ ปีที่เอารถวัดบ้าง ไปเอา ผักมา และปีนี้เอง เกิดเหตุ ตอนพระอยู่ปริวาส รถคล่ำ ๓ ตลบ แล้วมาตั้งดังเดิม ผมเรียกหลวงปู่หลวงพ่อให้ช่วยเป็นพันละวัน คอผมเจ็บนิดๆ ไอ้ถึงบอก ผมเห็นหลวงพ่อครึ่งองค์ หลวงปู่ปาน รูปหลวงพ่อ ตั้งอยู่ไม่หลุดไม่เป็นไรเลย คนขับคือนายถึง หลานหลวงพี่ดุ่ย ขนาดล้อหลุดยังไม่รู้เรื่องเลย ผมนั่งหลับๆตื่นๆตลอด เมื่อรู้ ว่าล้อรถหลุด บอกคนขับรถ ผมเรียกไอ้ถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆล้อรถหลุด ข้างซ้ายมือผม วิ่งไปร้อยกว่าเมตร พอดี ล้อเริ่มกินชายทาง มันจะไปชนต้นมะขามเทศ ไอ้ถึงสมัยนั้น หักหลบ


    คว่ำ ๓ ตลบ ก็ให้คนโทรไปบอก หลวงพี่ที่วัด มีพระมา จำไม่ได้ว่ากี่องค์ หลวงพิษณุ พูดไม่กี่คำ ย้อนมาหาพี่โอเลี้ยง มาถึง แกก็ใกรียด่า ลูกเดียว ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้เย็ตแม่ มึงมันคนเก่าทำไมไม่ขับเอง ไอ้ดุ่ยขับรถไม่เป็น กว่าชาวบ้านมาช่วยหาล้อรถ ตก ๒ ชั่งโมงกว่า อะไรขอแกอีกเยอะ ผมเนี่ยเยวะ อยากจะสวนหมัดสักที ก้ต้องเก็บไ ว้ ในใจ อีกอย่างพี่โอเลี้ยงเนี่ย แกชอบด่าคนที่อายุต่ำกว่าแก พูดแบบนั้น แต่ไม่รุนแรงเรารู้ว่านิสัยของแก เป็นแบบนั้น ผมน่ะ อดมาตั้งแต่ อยู่ในวัดไร่เรี่ย กันแล้ว สมัยหลวงพ่อเลย ก็ให้แกมาตลอดนะไม่เคยโต้ตอบแก แต่เวลาแกด่าว่าทีไร ถือแกบ้างไม่ถือบ้าง ยอมๆแกไป ผมไปคุยกับเจ้าอาวาสพ่อนันท์ ท่านบอกไม่เป็นไร คุยพีสมนึก บอกไม่เป็นไร ผมมาอยู่กับพี่ดุ่ย ทำนา มีอยู่ตอนหนึ่ง


    ผมตื่นนอนปุ๊บ จะไปทำงาน กับกินข้าว ๒ โมงเช้า ผมกินหลังจากหลวงพี่ ฉันแล้ว และทำอย่างนั้นมาตลอด มาวันนี้ หลวงพี่ฉันเสร็จ อีกองค์จะฉัน ปรกติ จะฉันพร้อมกัน แต่นี่ไม่มาฉัน เรานึกท่านคงไม่ฉันหรอก และเราเก็บ ของที่หวงพี่ฉัน จะทำอย่างไร เราเข้า ใจ พี่โอเลี้ยง มาถึงไม่นาน คนเราไม่นึกหรอกว่า คนที่ เขาทำอะไรเป็นและรู้จักดี เขาก็ไม่ได้มาอยู่กับเรา พี่โอเล้ยง ใส่ผมไม่มีชิ้นดี ยังว่าแกด่า ไอ้แม่มึงไม่รู้ หรือว่าพระอีกองค์ยังไม่ได้ ฉัน ไอ้เหี้ยไอ้สัตว์ สารพัดแกด่า ผมเลยระเบิดวันนั้น ผม ไอ้เหี้ย กูให้มึงด่ากูมาหลายปีแล้วนะ กูทำอะไร กูรู้ ไม่ต้องให้มึงมาสอนกู แค่นั้น หลว
    งพี่ท่านไม่เคยเห็น ผม มาก่อน ท่านรีบเข้าห้องทันที ถ้ามึงแน่จริงมาต่อยกับกูนี่ มันเรื่องอะไรของมึง ก็ป่อยมึงมานานหลายปี เป็นสิบปี และไม่เคยโต้ตอบ วันนี้กูยอมมึงไม่ได้ ก็เราไม่ผิดนี่ใช่ไหม วันนั้นผมอารมย์เรียกว่า ขนาด จะทุบหัวเลยนะ แต่ไม่กล้าเงียบเปล่าสาก ตานี้ไม่นานแกก็กับไป เนี่ยแหละ คือความชั่วผม



    ผมไม่เคยอาฆาตแก แกตาย เปลือยกายในห้อง น้ำท่วม ๔๘ ต้องเอาศพไปไว้ วัดท่าทอง ผมไปขอขมาศพแก และไปงานกฐินภาคเหนือ ไม่ได้เผาศพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุญทรงใจเย็นๆเดี๋ยวก็จะถึงตอนบุ๊ล้างผลาญดุเดือดเลือดพล่าน ตอนบุญคุณความแค้น แล้วก็จะไปจบตอนที่ล้างมือจากวงการยุทธภพบุ๊ลิ้ม พาลูกสาวไปนั่งแทะไก่ย่าง ข้าวเหนียวส้มตำเล่าอดีตนิทานต่างๆให้ลูกหลานฟัง ถ้าไม่บันทึกไว้ก็ไม่มีใครรู้เลย ว่าคนที่พ่อแม่อบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดี แล้วไม่ปฏิบัติตามในอดีตเมื่อเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้ว แล้วเป็นคนเกะกะระรานชาวบ้านเขา แม้พูดจาไม่เข้าหลักสังคหวัตถุสี่ คนประเภทนั้น ถ้าเป็นผู้ชาย ยืนๆอยู่แล้วมีของแข็งไม่ทราบขนาดและชนิดนั้น มากระทบช่วงปากครึ่งจมูกครึ่งบ้าง ช่วงปลายคางไปจนถึงกกหูบ้าง แล้วก็หลับไปเลยนั้น เจ้าของวัตถุลึกลับนั้นชื่อ PCO ในตอนนี้ และวัตถุลึกลับนั้นมันคือแข้งซ้ายขวาธรรมดาๆนี่เอง ไม่ใช่มันมาจากจานบิน UFO ที่ใหน

    เดี๋ยวมาต่อ

    เอาแค่นี้ก่อนเล่าค้างไว้มันเพิ่งเป็นตอนที่ยังอยู่ในหมู่บ้านที่ยากไร้อนาถา มันพลิกชีวิตดีขึ้นมาหน่อยตรงที่มีเจ้าลูกสาวเสือมาคาบผมไปให้พ่อเสือพิจาระณาเสียตั้งแต่ผมอายุหก-เจ็ดขวบ บังเอิญว่าพ่อเสือมีความรักเจ้าลูกเสือตัวเดียวนี้มาก ก็รับไปเอาเท้าเขี่ยเล่นไปมา พลิกคว่ำพลิกหงายจนพอใจ ก็ส่งคืนให้ลูกสาว ก็บอกว่าแล้วแต่ลูกก็แล้วกัน ก็เลยได้เป็นพี่เลี้ยง เพื่อนเล่นกับไอ้เจ้าลูกเสือวัยคะนองนี้มาระยะหนึ่ง มาระยะหลังเจ้าลูกเสือนี้โตเต็มวัย เรียนจบการศึกษาสูงมีหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า ก็ต้องปล่อยเขาไปประสาเสือที่โตแล้วต้องมีพื้นที่ในการไล่ล่า จบแค่นี้ก่อน ถึงตอนนี้เดี๋ยวมันจะเศร้าแล้วได้เมียเพิ่มอีก เรื่องการยกเมียอันเป็นที่รักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจนี้ ให้คนอื่น แค่ชาตินี้ชาติเดียว ก็มากครั้ง ไม่อยากจะคิดไม่อยากจะนับ เพราะคิดถึงคราวใดใจมันหาย บางครั้งเหมือนใจมันจะขาด น้ำตามันใหลรินอาบหน้ามาหลายสิบครั้ง นางแก้วที่ดำรงดิ์ตำแหน่งเมียใหญ่ คนปัจจุปันนี้เขาเห็นผมมาตั้งแต่เขาอายุแปดปี เขาสงสารตั้งแต่เขายังเด็กเมื่อโตขึ้นเขาก็เลยเก็บเอามาเลี้ยงจนถึงทุกวันนี้

    นี่ก็เป็นความดีที่จะละเลยมองข้ามไม่ได้ จิตใจที่ใสสะอาดของคนอันเป็นที่รักปรารถนาดีและซื่อสัตย์จงรักภักดีอย่างนี้สมควรได้รับการปกป้องคุ้มครองดูแลเอาใจใส่ทนุถนอมอย่างดียิ่ง

    พูดแล้วเมื่อกลับถึงบ้านวันนี้หลังจากกราบพระเจริญพระกรรมฐานแล้ว ต้องกราบเมียที่เคารพเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตก่อนนอนเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณคน อันเป็นเครื่องหมายของคนดี ตำราท่านว่าอย่างนั้นนี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2013
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    พี่บุญทรงใจเย็นๆเดี๋ยวก็จะถึงตอนบุ๊ล้างผลาญดุเดือดเลือดพล่าน ตอนบุญคุณความแค้น แล้วก็จะไปจบตอนที่ล้างมือจากวงการยุทธภพบุ๊ลิ้ม พาลูกสาวไปนั่งแทะไก่ย่าง ข้าวเหนียวส้มตำเล่าอดีตนิทานต่างๆให้ลูกหลานฟัง ถ้าไม่บันทึกไว้ก็ไม่มีใครรู้เลย ว่าคนที่พ่อแม่อบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดี แล้วไม่ปฏิบัติตามในอดีตเมื่อเมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้ว แล้วเป็นคนเกะกะระรานชาวบ้านเขา แม้พูดจาไม่เข้าหลักสังคหวัตถุสี่ คนประเภทนั้น ถ้าเป็นผู้ชาย ยืนๆอยู่แล้วมีของแข็งไม่ทราบขนาดและชนิดนั้น มากระทบช่วงปากครึ่งจมูกครึ่งบ้าง ช่วงปลายคางไปจนถึงกกหูบ้าง แล้วก็หลับไปเลยนั้น เจ้าของวัตถุลึกลับนั้นชื่อ PCO ในตอนนี้ และวัตถุลึกลับนั้นมันคือแข้งซ้ายขวาธรรมดาๆนี่เอง ไม่ใช่มันมาจากจานบิน UFO ที่ใหน




    :cool:แหมพี่จะตอบมีคนมาหา เดี๋ยวมาเคลียทีหลัง พอดีมีทั้งพระทั้งฆราวาสมาหาครับ
     
  10. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    บุญทรงพระเครื่อง
    ไอ้ที่ขออธิษฐานแบบนี้ เพราะโดนมาทุกรูปแบบ ที่ผมเคยไป พูดหลายกระทู้ว่า ลูกศิษย์ หลวงพ่อฤาษี ก็มีทั้งเสือ สิงห์ กระทิง แรด มีทุกรูปแบบ ทั้งไอ้เสื้อหลือง ทั้งเสื้อลาย แม้ลูกศิษย์ หลวงพ่อ หลวงปู่ ต่างๆ ก้เหมือนกัน มันไม่ใช่ว่า จะมีคนดีทั้งหมดหรอกนะครับ ผมเจอมาแบบหลายสาย หลายนิกาย แม้แต่ใน เว็ปพลังจิต เราก็เหมือนกัน ฉนั้น เราก็ต้องเลือกเอา แต่ถ้าศึกษาธรรมมา มีทิฏฐิ ต่อไปในภายหลัง ท่านอาจจะได้ ธรรมะแล้ว คงจะตัด ทิฏฐิลงได้ครับ แม้ศิษย์เดียวกันผมโดนมามาก พอสมควร

    ออกไปดูงานข้างนอกมาก็มาคุยต่อ ที่พี่เล่ามานั้นผมเองก็เจอมามากต่อมากก็เข้าใจครับ ก็ถือว่าใช้หนี้เขานะพี่นะ ถ้าเราได้อตีตังคะสะญาณ เราก็คงจะได้เห็นอดีตของเราก็คงจะน่ารักไม่เบา เวลาที่มีอำนาจวาสนาบ้างก็คงจะทำเขาไว้มาก พอถึงคราวที่การ์ดเราตก เขาจึงหวดก้านคอเอามั่งดีนะที่แค่มึนๆแค่นับแปด ถ้าพี่การ์ดต่ำกว่านี้คงลงเปลไปแล้ว ถ้าเรายอมรับอดีตยอมรับกฏแห่งกรรม เราก็จะลดความอาฆาตพยาบาทลงไป พอนานวันเข้า เราก็เริ่มให้อภัย ยิ่งนานๆวันไปเรายิ่งสลดหดหู่ที่คนเราเกิดมาแล้วเจอแต่เรื่องที่ไม่ค่อยพึงปรารถนา ทั้งๆที่พี่หวังดี แต่ความหวังดีที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเราที่หาได้ทำได้ ค่ามันน้อยจนไม่มีความหมายของบางคนเอาเสียเลย

    พี่ก็อโหสิกรรมให้ทุกคนไป เอาใหม่ก็เอาอย่างที่อธิฐานตั้งใจของพี่บุญทรงนั่นแหละ อย่างหนึ่งที่อยากจะขอ คือว่าสมมุติว่าพี่ยังอยากจะท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด หากว่ามีอำนาจวาสนาอย่างที่อธิฐาน ก็จงอย่าได้มีจิตใจที่หยาบช้ามองไม่เห็นความดี ความสำคัญของผู้อื่นโดยเฉพาะของผู้ที่ด้อยกว่าด้วยประการทั้งปวง เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็ขอจงเต็มไปด้วยความเมตตาปราณีอย่าได้ทนงหลงลืมตัว อันทำให้ดูไม่งามสมฐานะที่ควรเป็น พี่ก็เห็นแล้วว่าแม้จะดูว่าเป็นผู้ใหญ่หรือมีศักดิ์ตระกูลสูงเพียงใด

    แต่ถ้าหากขาดเสียซึ่งสติสัมปชัญญะ ถือตัวถือตนเกินไปก็จะดูไม่งามอย่างที่เห็น สมมุติว่าพี่อยากเห็น ณ ขณะนั้นก็คงจะแค่อยากเห็นผู้รับยิ้มให้ประสาผู้ใหญ่ที่เมตตาปราณี เอามือลูบหัวลูบไหล่ กล่าวยกย่องสรรเสริญ ที่เห็นเด็กทำอะไรที่ดีที่สุดประสาเด็ก มันไม่ดีได้อย่างใจของผู้ใหญ่ แต่มันดีที่สุดเท่าที่เด็กทำได้ พี่ก็ถือโอกาสอันนั้นพลิกมันให้เป็นประโยชน์ ว่านี่แหละหนาหลักสูตรการเรียนรู้อารมณ์ของพุทธภูมิ ถ้าไม่เข้าไปสัมผัสรับรู้เสวยอารมณ์นั้นๆอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะเอาอะไรไปแนะนำคนอื่นเขา ธัมมะทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนเกิดที่ใจ ใจจึงต้องจดจำเรียนรู้ ให้มันเข้าไปฝังอยู่ในจิตใจ


    ก็เคยมีโอกาสคุยกับหลวงพี่น้อยวัดโป่งสวรรคพุทธภูมิวิริยาธิกะในงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ปาน ที่วัดบางนมโค ถามว่าหลวงพี่ครับในชาติปัจจุบันของหลวงพี่ในเวลานี้ในบารมีสิบ หลวงพี่เอาตัวใหนเป็นตัวนำ หลวงพี่น้อยบอกว่าเอาขันติเป็นตัวนำ ท่านบอกว่าเพราะขันติทำให้ดูงาม

    ผมไม่ใช้คำว่าแนะนำหรือสอนใครเรื่องธัมมะ ผมใช้คำว่าผมอยากขอให้พี่ไม่ว่าจะมีอำนาจวาสนายศศักดิ์ตระกูลสูงเพียงใด ก็จงอย่าได้เป็นคนดูไม่งามแบบที่พี่พบเจอผ่านมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2013
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    พี่ก็อโหสิกรรมให้ทุกคนไป เอาใหม่ก็เอาอย่างที่อธิฐานตั้งใจของพี่บุญทรงนั่นแหละ อย่างหนึ่งที่อยากจะขอ คือว่าสมมุติว่าพี่ยังอยากจะท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารยังไม่เข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด หากว่ามีอำนาจวาสนาอย่างที่อธิฐาน ก็จงอย่าได้มีจิตใจที่หยาบช้ามองไม่เห็นความดี ความสำคัญของผู้อื่นโดยเฉพาะของผู้ที่ด้อยกว่าด้วยประการทั้งปวง เมื่อเป็นผู้ใหญ่ก็ขอจงเต็มไปด้วยความเมตตาปราณีอย่าได้ทนงหลงลืมตัว อันทำให้ดูไม่งามสมฐานะที่ควรเป็น พี่ก็เห็นแล้วว่าแม้จะดูว่าเป็นผู้ใหญ่หรือมีศักดิ์ตระกูลสูงเพียงใด

    แต่ถ้าหากขาดเสียซึ่งสติสัมปชัญญะ ถือตัวถือตนเกินไปก็จะดูไม่งามอย่างที่เห็น สมมุติว่าพี่อยากเห็น ณ ขณะนั้นก็คงจะแค่อยากเห็นผู้รับยิ้มให้ประสาผู้ใหญ่ที่เมตตาปราณี เอามือลูบหัวลูบไหล่ กล่าวยกย่องสรรเสริญ ที่เห็นเด็กทำอะไรที่ดีที่สุดประสาเด็ก มันไม่ดีได้อย่างใจของผู้ใหญ่ แต่มันดีที่สุดเท่าที่เด็กทำได้ พี่ก็ถือโอกาสอันนั้นพลิกมันให้เป็นประโยชน์ ว่านี่แหละหนาหลักสูตรการเรียนรู้อารมณ์ของพุทธภูมิ ถ้าไม่เข้าไปสัมผัสรับรู้เสวยอารมณ์นั้นๆอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จะเอาอะไรไปแนะนำคนอื่นเขา ธัมมะทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนเกิดที่ใจ ใจจึงต้องจดจำเรียนรู้ ให้มันเข้าไปฝังอยู่ในจิตใจ







    :cool:ผมเข้าใจที่พี่พูด นั่นมันเป็นอดีด ไปหมดแล้ว ผมลืมไปแล้ว เพียงแต่ว่า มาเล่าเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนได้รู้บ้าง นี่คือ ประสบการณ์ จริง ที่มีอยู่ ขอบคุณพี่ที่เตือน ผมน่ะตัดไปตั้งแต่ต้นแล้ว และไม่เคย อาฆาต มาดร้าย ให้อภัยไปแล้ว อยากให้ลูกๆหลาน พี่น้องได้รับรู้ไว้ว่าเรา มันมีทั้งดี และชั่ว คะเข้ากันไป นี่แค่เริ่มต้นเองพี่ และไม่อยาก เล่าให้มากกว่านี้ มันจะกระทบหลายฝ่าย จึงนำมาเล่านิดหน่อย พอหอมปากหอมคอ ในสมัยที่ผมอยู่วัดท่าซุงนี้ ได้เจอ อะไรๆ มามาก มายทั้งในสมัยหลวงพ่อ และในสมัยนี้ ๆ ยิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากมายนัก ขอเล่าย้อน ถอยหลังไปอีก ผมอายุ ๑๘ บวชเณร อายุ ๑๙ มากราบหลวงพ่อ หลวงพ่อกำลัง ลงจาก นวราชเก่า หน้าโบสถ ผมยกมือไหว้หลวงพ่อ หลวงพ่อกำลังจะยกมือ ไหว้ผม ๆ รีบตอบ หลวงพ่อครับๆๆๆ ผมเป็นเณรครับ ผมก็กลัว ตกนรก พระอรหันต์ไหว้ตอบ ท่านพูดมาว่า เป็นเณรแล้วไหว้ ไม่ได้หรือไงผมพูดไม่ออกครับ


    และท่านคงถามว่า มาจากไหน อยู่ที่ไหนอะไรประเภทเนี้ย เมื่อก่อนมาค้างที่วัดได้แค่ ๗ วัน แล้ว ไปค้างที่อื่น สักสองสามวัน ล้วมาค้างใหม่ได้ ช่วงนั้น พวก คอมมิวนิตย์ มันเยอะ หลังนั้นมันผ่านมานาน ผมต้องมาบวชเณรสร้างโบสถ สร้างวัด และมาที่วัดท่าซุง มีพระ ยกมือไหว้ผม ก็หลายองค์ ส่วนใหญ่เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้ยกมือไหว้ แต่ตรงนั้นผมไม่ได้สนใจ สนใจในการทำความดีมากกว่า มีหลายท่านหลายองค์ ที่ดีมากๆ อย่างหลวงพี่ เล็ก นี่ ผมกล้าพูด ที่สัมผัส กับท่าน เมื่อก่อน เห็นกันยิ้ม ทักทายกัน นิดหน่อยเอง พอได้สัมผัส จริงๆ ก็ตอนไปธุดงค์ด้วยกัน ในห้วยขาแข้ง ประมาณ ๑ เดือนเต็มๆ ตอนที่เจอกัน ท่านบอก เห็นผม แต่งตัวไว้หนวดเครา ท่านมิได้ รังเกียจ ผมแม้แต่น้อย ท่านพูดให้กำลังใจ ทำแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ ก็ดีไปอย่าง แต่ผมน่ะ ไม่เคยรังเกรียด ใครๆก่อน ในบรรดาลูกศิษย์ หลวงพ่อ ให้อภัยเสมอมา และหลบหลีกเสมอๆ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่ชน


    ที่พี่ พีทีโอ บอก ผมมันสลดหดหู่ บ่อยๆ ไม่นึกเลย ว่า ลูกศิษย์ เดียวกัน ที่ แสวงหาธรรมะ กับต้องมา ทะเราะกันเอง จึงนึกไปถึง ครอบครัวผม แม้ครอบครับเรา เล็กแค่นี้ ยังไม่ถูกกันนับประสาอะไร ที่ลูกศิษย์ หลวงพ่อคงเป็นกรรม ต่อกันมากกว่า พี่น้อง แย่งอำนาจกัน อิจฉาริษยากัน มันเป็นธรรมดา ของคนมีกิเลสอยู่ เราคงมาใช้กรรมต่อกัน เลยต้องมาชดใช้ หรือ มาสร้างความดี ร่วมกัน ผมไปเห็นจุดต่างๆ ก็คิดเสมอๆ ต่างคนต่างทำหน้า ของตัวเองให้ดีที่สุด และหน้าที่ใครหน้าที่มัน ไม่ก้าวก่าย ต่อกัน เห็นแล้ว มาคอย สสร้างปัญหากันก็มี แต่วัดของเราพ่อเรา มีงานอะไรๆ จะช่วยกันดี กว่าที่อื่นๆนะครับพี่ ถึงไม่ถูกกันบ้าง


    ถือว่าเป็นธรรมดาครับ ที่ผม ต้อง ทำความดี ก็ไม่อยากให้ใครรู้เท่าไหร่ เพราะมันมีเหตุ จึงต้องประกาศ ตัวออกมาบ้างแบบพี่กับผมไงครับ และคำอธิษฐานของผม จึงออกมาในแนว ที่พี่ พีทีโอ ทราบนั่นแหละครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    รักษาข้อดีนี้ตลอด

    ******************************
    ยังตามอ่านอยู่นะคะ ชอบมากๆ พูดจา Manๆดี สมกับเป็นลูกพ่อ ตั้งแต่เด็กๆก็เห็นวิชาไสยศาสน์อยู่เสมอๆตั้งแต่คุณชวด(ท่านรักษาคนโดยไม่คิดตังค์)ถึงแม้บ้านท่านจะมุงด้วยหลังคาจากก็ตาม พอโตมาหน่อย(เลิกใส่ตะปิ้ง)ก็ทําตัวเหมือนเด็กผู้ชายอยู่เรื่อยๆ(พกมีดประจํา) ดีนะที่เกิดเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นชายละก็ป่านนี้อาจจะตายไปแล้วก็ได้เห็นคนทําผิดแล้วมันอดไม่ได้ ตามถึงที่เลย(เลือดเข้าตา) ไปไหนก็ไปคนเดียวจนบัดนี้ แต่มันมีความรู้สึกว่าเรามีอะไรแปลกๆอยู่หน่อยตรงที่ว่า คนตายชอบมาหาหรือมาลาว่า"ไปแล้วนะ" พอตื่นมาโทรศัพย์จากน้อง จากเพื่อนๆว่าคนนั้นคนนี้ตายแล้ว เลยบอกไปว่ารู้แล้ว พ่อมาลา เพื่อนมาลา แปลกดี แต่ตัวเลขไม่ยักกะเห็น สาธุธรรมค่ะ
    (โดนพ่อแม่ว่าทีไรละเข้านอนทุกทีเลย เพราะมันซํ้าๆน่าเบื่อ)
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:เจ้ครับหน้านี้มันอะไรเล่าครับ มันอ่านบ่ถืกครับ มีอีหยังก็เว้าให้ฟั่งแหน่เด้อ ค่อยก็ ซิยากฟั่งเรื่องราวเจ้า คื่อกั๋นเด้อ:cool: พ่อผมก็เคยบอกเวล คนจะตาย บางทีแกรู้ล่วงหน้า ๗ วันก็มีครับ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมยังไม่กี่ขวบ ไม่ทันเข้าโรงเรียน พ่อผม เอาคนบ้าวิชามารักษา เอามาล่ามโซ่ คนบ้าวิชานี้ เขาเป็นบางอารมย์ ที่เวลาเป็นถ้าไม่เป็น เขาจะพูดดี ทำดี เวลาเป็นเขาคุมสติไม่อยู่นะครับ ขนาด ล่ามโซ่ พ่อยัง เสดาะ กุญแจหลุด นี่ ก็ต้องน่าคิด นะครับ แต่พ่อผม ก็รักษาหายครับ แกไปรักษาคนไข้ ถ้าคนไข้ นอนหันหัวไปทางนั้น รักษาไม่หาย หันไปทางนี้ รักษาหาย หันไปทางนี้ รักษายาก แกรู้ถ้ารักษาแล้ว ถ้าตายแกไม่รับ บางทีแกก็แบ่งรับแบ่งสู้ ท่านพ่อผมแกเรียนวิชา มาจากคูรูบาอาจารย์เยอะ ทั้งพระฆราวาส หมอไสยเวท หมอคุณพระ หมอหนุมาน เรียนวิปัสนา หมอครูลิง ถ้าตรงนี้ ใครไปดูถูก ครูบาอาจารย์แก


    เป็นสิบๆวา แกจะกระโดดไปเตะได้ แล้วไม่มีอะไร ทำอะไรแกได้ครับ วิชาหมอหวาย ของหลวงปู่อ่อนราชบุรี หมอสักยันต์ ในสมัยหนุ่มๆ ท่านเล่าให้ฟัง ยังไม่ได้ กับแม่ผม แกบอกว่า ไปเรียนวิชาครั้งแรก ศิษย์ คู่หู เรียนพร้อมกัน ต้องจุดเทียน เสกแทงมะพร้าวให้ทะลุ ถึงจะใช้ได้นะครับ ไอ้ที่ผมไม่อยากได้ วิชาของพ่อรักษาคนหาย เขาก็สรรเสริญเยินยอ ไม่หาย เขาก็ด่านินทา ลับหลัง เงิน ก็เรียกไม่ได้ เรียกแต่ค่าครู หนึ่งสลึงเท่านั้น พ่อผมไม่ใช้วิชาทำร้ายคน จะเรียนมาเพื่อ ช่วยเหลือคน ไม่รังแกใคร แต่ใครอย่ามารังแกนะ พ่อไม่ยอม เดี๋ยวมีเรื่องให้มึง ๑๐ กว่าคนไม่เคยแพ้ และ อีกอย่าง พวกเรียนวิชา ลูกๆเกิดมา มีวิบาก ส่วนใหญ่ที่เห็น เป็น ไม่ เหมือนสติไม่เต็มบ้าง เอ๋อ บ้าง อ.ทันรุจิเรข พ่อครูผม บอกใช้วิชาฆ่าคนตายถึง ๓ คนจะเป็นปอบทั้งๆมีชีวิตอยู่ เขาเรียกปอบวิชาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    วันนี้ มันคิดถึงเรื่องนี้ จึงนำมาพูด ให้พี่ๆน้องๆลูกหลานได้ฟังต่อ คนที่ บวชแล้ว ถือว่าเป็นผู้รู้แล้ว และพวก เข้ามาปฏิบัติธรรม บางคน ทำตัวเลว กว่าชาวบ้าน ที่ ไม่เคย สึกธรรมมาก่อน มันอะไรกันนักหนาหนอ เนี่ย ปัจจุบัน บางเรื่อง ผมยอมรับว่า มันมีอารมย์ อยู่ เป็นบางครั้งบางคราว ไอ้เสื้อเหลือง เสื้อลาย ที่ทำตัว เลว กว่าคนที่ไม่ได้ เข้าวัดเข้าวา บางครั้ง ปรงแล้วปรง อีก หลายรอบกว่าจะตก เพราะว่า บุคคล ใกล้ชิด หรือ ผู้ อยู่ในผ้าเหลืองนี้ มันตกยาก กว่าคนธรรมดา นะครับพี่ จะขอเล่าอีกสักสองสามเรื่อง ให้คนที่ทำหน้าที่นี้ อยู่ จะเข้าใจบ้าง ต่อไปมีโอกาศ ผมจะเขียนเป็นตำรา พวกทำการจำหน่ายพระ รับเช่าพระ จะเอาประสบการณ์ ของผม มาพูด ได้ให้ ท่านทั้งหลายได้ เอ่าไปขบคิด กันบ้างว่า ทุกอย่าง มันมีมาทุกๆระบบ และโนมา บางอย่างก็ สาหัสเหมือนกัน แต่ก็ต้องทน งานทุกอย่าง ที่ท่านผู้รู้ ทั้งหลาย


    พูดหรือกว่าวไว้ว่า งานทุกอย่างย่อมมีอุปสรรค ถ้างานใดไม่มีอุปสรรค ถือว่างานนั้นมิใช่ งานสำคัญ ท่านพ่อ ท่านยังได้เคยพูดไว้เลยครับ งานทุกๆอย่างย่อมมีอุปสรรคเสมอๆ ก่อนที่ผม จะมา หาวัตถุมงคล มาให้คนบูชา หน้าที่สื่อกลาง ผมนะเจอ หลายรูปแบบ มีโอกาศ อาจะมาเปิดเผย เป็นอุทาหรณื สอนและ ให้ลูกศิษย์ บางคนได้เข้าใจบ้าง ควารมีเมตตาต่อกันบ้าง ในด้านนี้ ไม่ใช่ กูต้องการความพอใจเสียอย่าง บางทีมันก็เหมือนขาด เมตตาต่อกันนะ ให้ปาก พูดอีกอย่างใจนึก อีกอย่างไม่ตรงกัน บางคนปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ผม แต่คนที่ดี อยู่กลางๆ ท่านก็มีเยอะ ไม่สนใจใคร ก็ขอชมเชย จากใจจริงของผม ย้อนหลังไปเมื่อ ๖-๗ ปีที่ผ่านมา ผมเจอ อุปสรรคในรูปแบบใหม่ ในแวดวงการ พระเครื่อง งานที่ผมทำอยู่นี้ ไม่ขอพูด อดีด นานๆ มาว่าในอดีด ใกล้ปัจจุบัน ดีกว่าตอนนี้


    ก่อนที่ผมจะมาเปิด ศูนย์พระเครื่อง อยู่หน้าวัด ผมเรียกว่า ในทางบวก แทบจะไม่มีเลย มีแต่ทางลบ ในด้านชื่อเสียง แม้นัก บวชกับฆราวาส หลายคน คอยเหยียบ และกระทืบอยู่ ด้านหลัง คอยให้ร้ายป้ายสี ต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่สน อย่ามาออกหน้า ว่าต่อหน้า หรืออิฏฉาริษยา ต่อหน้าผมก็แล้วกัน ผมฟันไม่เลือก หรอก ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มาจากไหน ถ้าหน้าไม่เหมือนพ่อผม ในเมื่อไม่เคารพผม และเคารพสิทธิ์ผม ให้เกียจ แล้วผม จะไปเคารพมันเพื่ออะไรกัน ไม่ใช่ผมจะไปต่อย ฆ่าหรอกนะ จะพูดด้วยวาจา นี่แหละ นอกจาก ถ้านักบวช ทนไม่ไหว มาต่อยผม ก็ไม่แน่นะ ว่าผมนี้ จะทนได้ ถ้าลับหลัง ช่างหัวแม่มันเถอะ อย่าไปสนใจมันทำไม ไม่ใช้ปัญญา ใครพูดว่าอย่างไร เชื่อเขา แล้ว แล้วผสมโรงไอ้พวกนี้ เยอะ นะครับพี่ ทั้งไอ้เสื้อลาย เสื้อเหลือง แต่ตอนหลังบางมารู้ทีหลัง เขาเริ่มกับมาดีกับเรา อันนี้ให้อภัยได้ดี ตอนหลังต้องปรง ใช้คำว่า เราชั่ว เขามาเอาของเราไม่ได้ เราดี เขาก็มาเอาของเราไปไม่ได้หรอกครับ เขาชั่วเราก็เอาของเขาไม่ได้เช่นกัน เขาดี เราก็เอาของเขาไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าเราอนุโมทนาสาธุ ในด้านชั่ว หรือดีกับเขา เราก็ได้รับ ๒๐ เปอร์เซ็น ของเขานะพี่ครับ


    ผมใกล้ ออกจากวัด มีทั้งเสื้อเหลือง เสื้อลาย รายงาน ว่า หลวงพี่สมพงค์ ขายวัตถุมงคล สารพัด กับรายงาน หลวงพี่อีกองค์หนึ่ง จำหน่ายพระปลอม ในวัด คือจริงๆ ใครไปหาท่านจะทำบุย กับท่าน ไปในงานกฐิน ภาคเหนือ อิสาน กลางตก ท่านจะให้พระเป็นการตอบแทนครับ บางคนเอาพระมาถวายท่าน ท่านก็แจก แต่มี พระฆราวาส ต้องการทำผลงานหรือแกล้ง ขนาดว่าประชุมสงฆ์ ทั้งวัด เพื่อพิจรณา ความผิด แต่แล้ว หลวงพี่สมพงค์ ท่านก็แก้ได้หมด ก่อนท่าน จะไปลง อุโบสถ ต้องขอโทษนะที่เอา เรื่องในวัดมาเล่า มันเกี่ยวข้องกับผม ๆเป็นฆราวาส จึงทำอะไรไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ ทำอะไรไม่มีเหตุผล ใครต้องการพระหลวงพ่อ ผม จะโทรนัดเจอกันข้างนอก ถ้า งานมันรัดตัว จะให้เขามาแค่วัดในป่า มาเจอแป๊บเดียวแล้วไป เพื่อไม่ให้ใครเห็น ตกลงเสร็จสัพ นานๆครั้ง เพราะผมขอพรหลวงพ่อผมไม่มีเงินเดือน ผมช่วยปลูกป่า ผมมีลูกเมียยังต้องใช้เงินอยู่


    ผลที่สุด ทำอะไรท่านมิได้เลย พี่สมพงค์เดือนๆหนึ่ง อาหารหมา ในจุดของท่านและแมว ท่านใช้เงิน เลี้ยง ๔-ถึง๕,๐๐๐บาททุกเดือน และส่งลูกหลานของท่านหลายคน ให้เรียนสูงๆท่านจึงใช้เงินเดือนๆหนึ่งๆหลายหมื่นบาท เรียนมอ บ้าง ปริญญาตรี โท เอก บ้าง หลายคน จนบ่างครั้ง ผมพูดกับท่านว่า แหมหลวงพี่ ทีลูกหลาน จะเอาอะไร ให้ได้หมด งานก็ไม่มาช่วย วัดก็ไม่มาให้เห็นหน้า เอาแต่เงิน ไม่เห็นมีประโยชน์เท่าใดเลย ผมน่ะ ทั้งช่วยวัด ลูกเมียผมก็มี ปากกัดตีนถีบ เมียเลี้ยงหมา ในวัด จะมาหาเมียบางคนหาเรื่องอีก เคยคุยเจ้าวาสครั้งหนึ่ง ท่านบอก ก็เรามาหาเมียเรา จะว่าอย่างผมก็ยิ้มๆ และพี่สมพงษ ท่านตอบผมว่าอย่างไรรู้ไหม ไอ้ทรง ก็มึงหากินเก่ง นี่หว่า หลวงพี่ถึงไม่สงเคราะ เอ่าพูดไปโน่น แหม ท่านจะพูด ล้อเล่นเสมอๆ ก็ผมไปนอนกุฏิ ท่าน บางครั้ง ก็น้อยใจ ปลงไน่น เราก็งเป็นนี่ท่าน เมื่อชาติก่อน ชาตินี้ มาใช้ท่าน ท่านพูดเล่นอยู่เรื่อยๆ มึงไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กูเลย พูดบ่อยก็น้อยใจเป็นเหมือน กัน เรื่องสักสี ฐานะ ด้านปัญญา ท่านเหนือเราทุกประการ เหมือนพระไตรปิฎก เครื่อนที่ยังไงยังั้นเลย หลวงพี่สมพงค์นี่ ก็ท่านเป็หัวหน้า ทำงานด้านหนังสือ ธรรมะวิโมกข์ของวัดท่าซุงนี่ครับ จึงเสียปรียบ ในทุกกรณี ในการวางแผน ไม่งั้นคงเป็น มือขวาของท่านอิตเลอร์ไม่ได้ หรอก จริงไหมพี่ ไอ้เราก็พา ท่านไป ห่ลูกสิษย์ที่มีพระเยอะๆ เพื่อท่านและอีกหลายๆคน จะได้มีพระ ไปสู่สายตาของ ลูกสิษย์ลูกหาของหลวงพ่อ ที่เริ่มเข้ามา ใหม่และเก่า ก้ได้ประโยชน์ต่อ กันทั้งสองฝ่าย แต่เราจะเสียเปรียบ ท่านตลอดเลย

    มาตอนหลังท่านจะโอนอ่อนผ่อนผัน ไปตามกาล ให้ ได้ความเป็นเสมือนพี่น้อง ที่พอจะเข้าใจ กันได้บ้าง ครั้งสุดท้าย ผมรู้แล้ว ว่าหลวงพี่ ท่านคงได้คุณ ธรรมก็ตรงที่ท่านป่วยนี่แหละ ท่านถามผม ๓ ครั้งว่า ไอ้ทรงแกมีเงินเท่าไหร่ ผมตอบท่านว่า มีครับหลวงพี่ แกมีเท่าไหร่ เรารู้ทันที ว่าท่านจะให้เราบูชา วัตถุมงคลขอลท่าน ทั้งหมด ผมตอบไปว่า มีก้แล้วกันหลวงพี่ ผมก็นึกในใจ เดี๋ยวให้กับมาจาก โรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวจะบูชาเหมาให้หมด ครั้งที่ ๓ ท่านพูดอีก ไอ้ทรงแกมีเงินเท่าไหร่ ไอ้เราปากหนักไปนิด ผมที่สุด ท่านไม่พูดอีกเลย พูดไปเรื่องอื่น แหมก็ท่านไปคคีโม คืนหนึ่ง ล่อไปตั้ง เกือบ ๗ หมื่นบาท ไอ้เรามันคิดช้าไปหน่อยครับ ให้กับมาก่อน กับมาครับ มา ร่างนอนหลับยิ้มเกือบหน้าปิ ไร้จิตคลอง เราช้าไปหลายก้าวนะเนี่ย นึกในใจ และตอนท่านมรณะ ผมเอาพระไปให้แจกในงานศพ ๖๐๐ องค์ แจกคนในงาน ยังไม่พอเลยครับ ถวายผ่นเจ้าอาวาสครับผม


    เมื่อก่อนที่หลวงพี่จะมรณะ ๒-๔ ปี ผมได้วางแผน จะเปิดแผงพระที่หน้าวัด ที่ไม่ใช่ชุมชน ดูสิว่า ใครจะมาจัดการผม และว่าผมได้ นิมนต์พระในวัดมาฉัน ๕ องค์ บ้านผู้หมวดตระกูล ที่ให้ผมเช่า ทำบุญให้เสร็จ หลวงพี่ เจิมให้ แหมมีพระฆราวาส รายงานท่านเจ้าอาวาส อ.โอ ว่าบุญทรงที่รู้มาว่า ท่านทั้ง สองพูดว่า มันทำงานเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียมัน เลี้ยงตัวมันอะไร ทำนองเนี้ย หลวงพี่สมพงค์บอก มันไม่ได้ ไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อนนี่ ช่องทำมาหากินของมัน และก็ไม่ได้อยู่ในวัดหลวงพ่อ หาว่าผมแข่งกับวัดบ้าง เอาไปบอกต่อกันไป หาว่า มีแต่ของปลอม ไม่มีของจริง โอยจิปาถะ ผมเองก็ไม่สน แน่จริงก็มาจัดการ ซี่ ใครจะมาทำอะไรผม ในเมื่อ ไม่ใช่ ในวัด นี่คือที่มาของผม พระวัดท่าวุง ชีในวัดเขาจะไปหาวัตถุมงคล ในอุทัยบ้าง จังหวัดใกล้เคียงบ้าง ใช่ไม่ใช่ไม่สน เอากันมา ............ไม่พูด แต่ของผมร้านผมไม่กล้ามาหาครับ กับใร้ย กัน ยังกะว่า ผมน่ะ เป้นโจร ลักโขมยเขากินยังไงยังงั้นแหละ แต่ผมไม่เคยสนใจ อย่ามาพูดต่อหน้านะ คงได้เจอ สวนกลับนะจะบอกให้

    และทุกๆคน กว่าผมจะเปิดร้านตรงนี้ สาเหตุมากมาย จนทุกวันนี้ ยังไม่ค่อยซาเท่านไหร่ แต่ผมจะบอกฝาก พวกที่มาพูด และ บอกกว่าไป ให้รู้เหมือนกัน ของหลวงพ่อมีเจ้าของ ถ้าเรายังทำความดี อยู่คงไม่อดตายหรอกครับ พ่อยังคงเลี้ยงอยู่ มีคนไปบอก หลวงพ่อคูณ วัตถุมงคล ของท่านว่า หน้าวัด ของท่านมีแต่พระข้างนอก ไม่มีแท้ พระในวัดเลย ข่าวออกนะ หลายปีมาแล้ว ท่านบอกว่า มันไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนก็ดีแล้ว ไม่จี้ปล้น รักโขมยใครกิน ที่ทำมาหากินของพวกมัน นี่ท่านพูด ได้จูงใจจริงๆ จริงดังท่านว่า เรื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อ ท่านอนุญาติไว้ตั้งแต่มีชีวิตอยู่โน่นแหน่ ท่านบอกไว้หมดแล้ว และท่าน ได้บอก จำเพราะเจาะจงบางเรื่องต่อคนๆเหล่านั้นเรื่องนี้ จะสอนไม่เหมือนกัน ในกรณีๆไปครับผม มีโอกาศ จะมาเล่าทีหลัง ถ้าไม่ลืมครับ
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:ผมเข้าไปดูได้แล้วครับอาเจ้ เมื่อตอนเข้ามา แรกๆ คลิ้กไม่ได้ แหมนี่ตัวจริงเสียงจริง กระปิ้งปิดปิเลยนะครับ ผมขอใช้ คำพูดของผมก็แล้วกันนะครับ ผมพูดเพราะกว่านี้ไม่เป็นแล้วครับ อาเจ้ แหม กระปิ้งทอง ไม่เคยเห็น พึ่งจะได้ยิน ของอาเจ้นี่แหละอ่ะครับ อายุอาเจ้นี่ คงแก่กว่า แน่นอนเลยครับ ถึงมีเพียงนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึง ขนาด ๖๐-๗๐ หรอกครับ ผมน่ะ ๒๕๐๐ ขึ้น ยังเห็นมาเต็มสติงแล้วอ่ะครับ ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ ผมว่าคงมีการ ข่มขืน กันมากๆเลยครับอาเจ้ แล้วของอาเจ้นี่ มีกี่เส้นกันแน่ครับ พูดผิดอะไรไป ขออาเจ้ จงอภัยนะครับ

    เมื่อเช้าเจอป้าน้อย ลูกสาวเสือใบ ผมบอกแกว่า ป้าครับผมเอาชื่อป้าไปพูด ในพลังจิตหน่อยหนึ่ง ตอนที่หลวงปู่ปาน ให้เอากระลา ไปทำการกระปิ้งปิดปิ ป้าน้อยบอก ไม่ใช่นะ หลวงปู่ ปานท่านทำเองให้เลยนะ จึงได้แต่ หัวเราะก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  17. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    นี่แหละที่เขาเรียกว่า เด็กว่านอนสอนง่ายเวลาถูกผู้ใหญ่ว่านี่ไม่เถียงสักคำ แล้วก็ไม่ค่อยจะทำตามสักเท่าไร แต่ถ้าไม่มีใครว่าก็ถึงจะทำ รักดีด้วยตัวเอง ไม่รู้เหมือนใคร

    ในกลุ่มผมสมัยวัยรุ่นลักษณะนี้เขาเรียกผู้หญิงแก่นๆ นี่ก็มีหลายคน แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ เวลาไปในที่ชุมชน หรือไปเที่ยวงานวัด เขาก็ให้ผู้หญิงประเภทนี้แหละช่วยพกพาอาวุธ มีด หรือปืนให้ เผื่อว่าจะโดนตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ บางทีเวลามีเรื่องราวกันในหมู่วัยรุ่นสมัยนั้น ถ้าเห็นว่าจะเสียทีสู้ไม่ได้บางครั้งก็ผู้หญิงนี่แหละที่ช่วยยิงปืนแหวกวงล้อมออกมาได้

    เรื่องคาถาอาคมนี่คนในสมัยนั้นแถบบ้านผมนี่ทั้งผู้หญิงผู้ชายจำเป็นต้องมี สาระพัดคาถาเพราะเรียกได้ว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่ไกลตัวจังหวัดก็จริงแต่มันไม่มีถนนหนทาง มีแต่ป่าไม้ เรื่องคาถานี้ค่อยเล่าให้ฟังมีมากแทบจะทุกอย่าง มีหนึ่งคาถาที่เขาชอบแกล้งกันคือขีดเส้นหรือใช้ไม้เล็กๆขวางทางเดินเวลาที่ผู้หญิงเดินข้ามนี่ผ้าถุงที่นุ่งจะหลุดเลยนี่เขาชอบเล่นกันถือว่าเป็นคาถาเด็กๆ
     
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ทบทวนคำแนะนำสั่งและสอน ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง สำหรับผู้ปรารถนาพระโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะ

    ดูของพ่อคั่นรายการพลางๆก่อนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มิถุนายน 2013
  19. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    (ยก มาจาก"พ่อสอนลูก") ปรารถนาพุทธภูมินี่เหนื่อย ฉันเคยเป็นพุทธภูมิมาก่อน ฉันรู้ว่าพุทธภูมิสู้ทุกอย่าง งานทุกอย่าง ถ้าลาพุทธภูมิปั๊บอารมณ์ตัด ถ้าตัดก็ไม่ได้ทิ้งงานนะ แต่อารมณ์ต่างกันแต่เสริมขึ้น อารมณ์มุ่งเข้าตัดกิเลสตรง เพราะพุทธภูมิไม่ตัดกิเลส พุทธภูมิทรงฌานมากกว่า หนักไปในเรื่องฌาน พอใช้วิปัสสนาญาณมากเข้าอารมณ์มันเบาลง มันต่างกัน

    พระ โพธิสัตว์นี่ พระอรหันต์ไม่ยอมนั่งหน้านะถ้ารู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์จริงๆ ถ้าอารมณ์เข้มปั๊บพระอรหันต์ไม่นั่งหน้า แม้พวกนั้นบวชหนึ่งวัน พระอรหันต์บวช ๑๐๐ วัน เขาไม่นั่งหน้าพระโพธิสัตว์ เขารู้ค่า คนที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ต้องปฏิบัติเลยอรหันต์ พระสาวกปกติบำเพ็ญบารมี ๑ อสงไขยกับแสนกัปเท่านั้น พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าจิตของเขาถึงปรมัตถบารมี เขาเลยอสงไขยสองอสงไขยมาแล้วต้องเป็นอสงไขยที่ ๔ จึงจะเป็นปรมัตถบารมี พระโพธิสัตว์เหมือนพวกเรียนวิชาครู เรียนมาเพื่อเป็นครู จะต้องเข้มแข็ง ถ้าไปโดนศรัทธาธิกะ ต้องหวด ๘ อสงไขย ถ้าวิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขย


    ฉัน นี่วิริยาธิกะ ทำงานทุกอย่าง สบายไม่มี สาวกภูมิก็พุ่งจริตอย่างเดียว แต่สาวกภูมิสำหรับพวกฉันนี่ เป็นวิริยาธิกะหมด พวกตามเป็นวิริยาธิกะ เฉพาะลูก ๘๐,๐๐๐ กว่าแล้ว พวกไม่คิด เป็นกองทัพใหญ่เลย ถ้ายกมารวมกันนี่หลายแสน กองทัพนะ ลูกฉันน่ะมีบ้าทุกคน ตีฉิบหายหมด บ้าเหมือนพ่อมัน





    :cool:อนุโมทนาสาธุครับ ที่นำคำสอน พ่อมาให้ อ่านอีก และทบทวนความจำครับ พี่ พีทีโอ ผมมันชักเบื่อๆ เสื้อลายเสื้อเหลือง บางคน ทั้ง นิกายต่างๆ สายนั้น สายนี้ แก่งแย่งชิงดี ชิงเด่นกัน กันไปสารพัด ไหนจะโดน กับตัวเองมากๆอีก คำสอนของพระพุทธเจ้า แข่งกันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายต่างๆ หาข้อยุติไม่ได้ ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน คำสอน ของพระพุทธองค์ ไม่ว่า สายไหน ก็ดีหมดแหละครับ แต่ พวก ที่สอนนอกรีตนี่ ความคิดของผม น่าจะตัดออกไป ผมได้ยิน ลูกศิษย์ หลวงพ่อ พูดกันว่า ต่อไปอีก นานเท่าใด ไม่ทราบ ผ้าเหลืองจะกองเหมือน ภูเขาเหล่ากา มันอีกนานไหม เคยได้ยินไหมครับพี่
     
  20. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พี่บุณทรงเอาอย่างนี้ เราควบคุมจิตเราเอง เปลี่ยนตัวเราเองดีกกว่านะครับ คนอื่นเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ ปล่อยเขาไป เรามุ่งจะไปใหนเราเดินไปตามนั้น คนอื่นไม่ไป เราไป ไม่ควรเสียเวลารอ เสียเวลาที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขเขา พระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ท่านต้องถอนตัวจากพระโพธิญาณก็เพราะเหตุที่ท่านเบื่อหน่ายเอือมระอากับสัตว์นรกแล้วแอบมาที่ห่มเหลืองนี่แหละท่านบอกว่าขืนปรารถนาต่อไป ดีไม่ดีก็จะลงไปนรกเสียเอง พวกเราคงจำที่พ่อพูดได้เป็นอย่างดี พูดเรื่องพวกนี้มันเดือดง่าย จุดเดือดมันคอยจะขึ้นเร็วมาก พี่ฮิตเล่อร์ที่ผมจะโคจรไปเจอในพิกัดน้ำหนัก180ปอนด์ในไฟร์หน้านั้น ท่านก็พูดกับหลวงพ่อว่านี่ถ้าเป็นสมัยท่านเป็นอันว่าหัวขาดลงหลุม

    ก็เอาใจของเรากลับเข้าที่เดิมดีกว่าคือเจริญอานาปานุสสติอย่างเดียวภาวนาอะไรก็ไม่ได้ เพราะใช้กรรมฐานกองอื่นไม่ได้มันฟุ้งซ่าน ขอให้ถือเสียว่ามันไม่ใช่หน้าที่ ถ้าเป็นหน้าที่ของเรา เราต้องมีความพร้อมกว่านี้ การที่จะให้เรารบแต่ไม่มีแม้แต่สากกระเบือนี่ถือว่าต่อให้ข้าศึกมันเกินไป เหมือนเราประมาทเกินไป เหมือนเราแค่เป็นคนกับเขา เสื้อผ้าก็ยังไม่ค่อยจะมีสวมใส่ เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมีแล้วจะรบกับข้าศึกที่มีความพร้อมได้อย่างไร แค่เห็นเครื่องรบของเราก็เป็นที่ขบขันเสียแล้วนี่ ไม่เอานะพี่นะ ถ้าเรารู้ว่าเราจะสู้อะไรไม่ได้โบราณจารย์บอกว่า อย่าไปเผชิญหน้า ไว้พร้อมเมื่อไรเป็นเจอกัน ตอนนี้แม้เงาก็ไม่ควรให้ข้าศึกเห็น พี่ลองกลับไปดูสมัยเชียงแสนตอนฟัดกับขอมดำ เมื่อเราพร้อมพอข้าศึกยกมาถึงเราไม่มีการทักทายตรงเข้าตะลุมบอนทันที แล้วก็ซัดแบบไม่ให้เหลือซาก คือไม่มีการแตะนวมเมื่อระฆังดังเดินเข้าไปพอได้ระยะแข้งก็หวดก้านคอทันที อย่างนี้มันถึงจะเป็นสะไตร์ของเรา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...