ขอหยุดภัยพิบัติเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ตอน “แม่หมอเทวดา”

ผู้มีบุญ-บารมีอย่างแท้จริง

ขออนุญาตครับ

ท่าน อาจารย์ ท่านก็รักทุกๆคนนั่นละครับ
เพราะเวลาท่านรักษา นั้นท่านจะรักษาดวงจิตของท่านตลอดเวลา
ท่านจะเมตตาต่อทุกๆคนเหมือนกันหมด

ท่านจะตื่นแต่เช้า ทานข้าวประมาณ 8 โมงเช้า เริ่มรักษาประมาณ 9 โมง
พักประมาณ บ่ายโมง-บ่ายสอง ทานข้าวเย็นประมาณ ทุ่ม-สองทุ่ม
แต่ละวันท่านจะรักษา ไปจนหมด

ยิ่งไปรักษาที่วัดด้วยแล้ว พระท่านจะรักกันมากครับ โทรหา โทรเรียกกันมาตลอดวัน
วันไหนท่านจะรักษาพระ ท่านก็จะไม่ค่อยรับคิวญาติโยม ด้วยเหตุนี้

ถ้าจะคุยต้องไปวันที่่ไม่มีพระมารักษานะครับ เพราะอยู่ต่อหน้าพระ ท่านอาจารย์จะสำรวมมาก
ท่านคงไม่คุยเรื่องธรรมแน่ๆ

ท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน อายุน่าจะประมาณ 65+ รูปร่างท้วมใหญ่ใจดี
ท่านเคยเป็น สจ. มหาสารคาม เพราะเมื่อก่อนท่าน อยู่ อ.เชียงยืน

ท่านพูดจาเล่นหัวตลกโปกฮาเป็นด้วย บางครั้งก็เคร่งขลึม
ท่านไม่ค่อยพูดเรื่อง เครื่องรางของขลัง เลย

ท่านก็เหมือนคนไทยอีสานทั่วๆไปนั่นละครับ ใครไปมาหาสู่
ก็ต้อนรับเหมือนญาติ ที่ทุกวันนี้จะหายากเข้าไปทุกที

ผมไปครั้งแรก ยังนอนที่บ้านท่านที่ อ.กุฉินารายณ์เลย
เพราะเจอเคสหนัก นวดเสร็จนอนหลับไปสองชั่วโมง
ลุกขึ้นมาแทบจะเดินไม่ได้ เพราะกล้ามเนื้อบวมทั้งตัว ตึงไปหมด

ครูบาอาจารย์นั้น อยากรู้อะไร อยากถามอะไร ท่านตอบให้หมดละครับ

เพราะครูบาอาจารย์ฆราวาส จะไม่เหมือนพระเถระผู้ใหญ่ ที่่ท่านมักจะพูดน้อย
ยิ่งถ้าพูดเรื่อง ภูมิรู้ ภูมิธรรมแล้ว ท่านจะตอบแบบครอบจักรวาล
เข้าใจก็เข้าใจ ไม่เข้าใจก็ช่าง ต้องช่วยตัวเอง

ผมจะส่งเบอร์โทรท่าน ไปให้ทาง พีเอ็มนะครับ

หรือถ้าคุณไปวัดป่ามัฌิมาวาสบ่อย พระเณรรู้จักท่านหมดละครับ
เพราะท่านรักษาจนครบทุกองค์แล้ว ไม่เว้นแม้แต่หลวงปู่

พระท่านเล่าให้ฟังว่า มีวันหนึ่งหลวงปู่้ถามว่า

"ทำไมพระวัดเรา หน้าตาสดชื่น เลือดฝาดสมบูรณ์กันหมดวัด"

พระก็เลยเล่าถวายให้ฟังว่า ไปนวดกับหมอรักษาพระกันหมดแล้ว
เหลือแต่หลวงปู่องค์เดียวยังไม่ได้นวดเพราะพระเณรไม่กล้าบอกท่าน

ท่านเลยสั่งว่า "บอกให้มานวดให้ผมด้วยนะ มีของดีก็ไม่บอกกัน"

ความจริงผมเรียนขอโอกาสท่านหลายปีแล้ว ท่านยังไม่อนุญาต แล้วก็เลยลืมไป

ถ้าคุณไปบ้านท่าน คุณก็จะรู้สึกเหมือนเราไปถือศีลอยู่วัดนั่นละครับ
มันคุ้นเคย จนเหมือนเราอยู่บ้านตนเองก็ไม่ปาน

ล่าสุดท่านว่าจะไป สปป.ลาว วันที่ 22 เมษายน นี้
และจะกลับมาที่ คลองสาม ต้นเดือน พฤษภาคม
น่าจะอยูไปจนเกือบถึง วันวิสาขบูชาโน่นละครับ
ถ้าอยู่ใกล้ก็โทรถามได้เลยนะครับ

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ขอบพระคุณ คุณลุงมหา๑ เป็นอย่างสูงค่ะ

 

ท่าน เคยเป็น สจ. เลยหรือครับ คุณลุงมหา ...

แต่...ท่านไม่ถือตัวจริงๆ ผมเป้นคนที่นิสัยไม่ค่อยจะดี ชอบถามซอกแซ๊กท่านก็เมตตาตอบทุกๆๆ คำถาม ท่านตอบแล้วก็ยิ้มๆหัวเราะ

แล้วท่านก็ยัง ตลกโปกฮา อย่างที่ คุณลุงมหาว่าจริงๆ ท่านใจดีมากครับ

ความเมตตา และ ไม่ถือตัวตน ทั้งๆที่ ท่านเคยดำรงค์ตำแหน่งใหญ่โต และ ผ่านการปฏิบัติมาอย่าง เข้มข้น มายาวนาน ( ท่านเล่าว่า นั่งสมาธิ จนก้นแตก ต้องมีผ้าไว้หลายผืน เพื่อซับเหลือดซับหนอง) ...

ใครที่เจ็บป่วย รักษาไม่หาย ได้มาอ่าน แล้วเชื่อได้ไปรับการรักษา ก็ถือว่า โชคดีของท่านแล้วครับ ถ้าไม่เชื่อก็ทำใจกลางๆ อย่าได้ปรามาสเลย ให้เลยผ่านไป ผมบอกได้แค่นี้แหละครับ ...

อาการเจ็บป่วยของผม ก็ดีขึ้น และเดือนหน้าคงต้องไป ขอความกรุณา ท่านหมอรักษาพระอีกครั้งครับ


ขอโมทนาบุญ กับ ท่านหมอรักษาพระ และ แม่หมอหญิงทั้งสองท่านครับ

ขอบพระคุณ คุณลุงมหาที่กรุณา นำเรื่องของท่านมาเล่ามากครับ

 

แล้วมะเร็งตับอ่อนระะสุดท้ายลามทั้งตัว ไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว และ ไป Arota แล้วรักษาหายไหมคะ

 

ขอให้ไปไล่อ่านมาตั้งแต่ต้นให้เข้าใจนะครับ

ขออนุญาตครับ
ขอให้ไปไล่อ่านมาตั้งแต่ต้นให้เข้าใจนะครับ
ผมเขียนกระทู้นี้มาตั้งปีกว่าๆแล้ว
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

น่าเสียดายนะคะน่าจะได้มาเจอกระทู้นี้เร็กว่านี้เพราะผู้ป่วยตอนนี้โดนหมอ สั่งมอร์ฟีนโดดหนักๆให้หลับตายไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่เขายังมีสติสัมปะชัญญะทุกอย่างครบ แต่ปวดมาก
อ่านแล้วเกลียดไอ้เจ้ากรรมนายเวรขอให้มันชิบหาย

 

ไม่เจอด้วยตนเอง จะไม่เข้าใจลึกซึ้งเลยค่ะ คุณDuchessFidgette

อดีตเป็นอุทาหรณ์สอนเรา

ในโลกนี้มีอะไรหลายอย่างลึกลับซับซ้อนเกินที่เราจะเข้าใจ

ดิฉันถือว่ายังประสบการณ์น้อยมาก ยิ่งเราได้คุยกับท่านผู้เกิดก่อน

มีประสบการณ์มาก่อน เรายิ่งรู้ว่าเราอยู่แนวหลังเขามากๆ

วันก่อนเจอคนไข้ตาปู เต็มท้องเลยนะ

คุณDuchessFidgette อยู่ต่างประเทศ เคยเจอบ้างรึยัง

ซึ่งเหล่านี้ มีแนวทางรักษาด้วยล่ะ

แต่หมอรักษา ไม่ใช่หมอแนววิทย์ แน่นอน ค่ะ

ปล. คำพูดที่ว่า "เกลียดไอ้เจ้ากรรมนายเวร ขอให้มันชิบหาย" ถ้าปลดออกไปจากความคิดเรา จะลดเจ้ากรรมนายเวรลงไปได้ส่วนหนึ่งคะ

ค่อยๆฝึกไป นะคะ ให้กำลังใจ

 

ด้วยความเคารพ นะครับ

คุณควรจะเข้าใจกฏแห่งกรรมด้วย

เพราะเจ้ากรรมนายเวรมาจองล้างผู้ใด
นั่นหมายถึงผู้นั้นเคยไปก่อกรรมทำเข็ญเค้าไว้ก่อน
เค้าถึงจะมีสิทธิมาจ้องล้างเอาคืนหรืออาจจะก่อเวรผูกพันกันมาหลายชาติ

การที่ไปมีจิตเกลียดชังเจ้ากรรมนายเวรคนอื่น
ก็เท่ากับเป็นการจุดไฟแห่งโมหะเพิ่มขึ้นเหมือนก่อสงคราม (คือไปด่าเขาก่อน) ทีนี้เค้าก็มีสิทธิมาเล่นงานเราเหมือนกัน

การจัดการกับเจ้ากรรมนายเวรได้ดีที่สุดคือ การอโหสิกรรมต่อกัน
โดยเปล่งวาจาขออโหสิกรรมแล้วอุทิศส่วนกุศลที่ใหญ่พอที่เค้าจะรับความสุข
ได้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีขึ้น เวรต่างๆก็จะระงับไป

โปรดระลึกไว้เสมอว่า

"ไม่มีใคร ใหญ่เกินกรรม"

 

มาส่งข่าวค่ะ คุณลุงมหา คุณยี่แปะกง

ดิฉันได้ประสบพบเจอ "หมอรักษาพระ"แล้วล่ะค่ะ

ประทับใจมาก จากการพูดคุยกันและจากการรักษา ดิฉันยังคิดอยู่เลยว่า

ชาตินี้ คงไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่แก่เฒ่า ไม่รู้จักตายเลย มั้ง อิอิ..

มีโอกาส ถวายปัจจัยร่วมงานบุญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุของพระสุปฏิปันโน

ที่มรณภาพไปแล้วจากทางฝั่งไทย เพื่อไปบรรจุที่เจดีย์ เมืองพงสาลี แห่งประเทศลาว

ซึ่งคณะของท่านพ่อหมอฯ จะออกเดินทางข้ามไปยัง สปป.ลาว เย็นวันที่ 22 เมษายน นี้

และคงกลับมาพำนักที่กาฬสินธุ์อีกช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ค่ะ

จึงเรียนมาเพื่ออนุโมทนาบุญด้วยกัน ค่ะ

 

ความเข้าใจเรื่องกรรม อย่างแท้จริง

ขออนุญาตครับ

เห็นข้อความนี้
"ไม่มีใคร ใหญ่เกินกรรม"

ขอนำไพสท์ที่ผมได้เคยตอบไปแล้ว มาให้พิจารนาอีกที
เหตุทีี่ผมต้องตอบเรื่องนี้ เพราะมีน้อยคนมากที่เข้าใจเรื่อง กรรม อย่าง แท้จริง
เพราะคนส่วนมากมักเข้าใจไม่ถูกต้อง

เรามาดูว่า ผู้ที่ถูกเจ้ากรรมนายเวรเบียดเบียนนั้น จะรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้หรืิอไม่

(ถ้ากรรมมันใหญ่จริง คนที่เจ็บคนที่ป่วย สมควรรักษาให้หายได้หรือไม่?)

เรามาดูว่า ที่พวกเราได้พากันมาร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ นั้น แล้วเรามาติดตามดูว่า

การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิจะเสร็จทันภายในปี 2561 นี้หรือไม่
พระมหาพุทธานุภาพหลังจากสร้างพระใหญ่ชัยภูมิจะหยุดภัยพิบัติ จะหยุดมหาภัยพิบัตินได้หรือไม่
พระมหาพุืทธานุภาพของพระใหญ่ชัยภูมิ จะนำความเจริญรุ่งเรื่องมาสู่ประเทศไทย
อย่างเห็นได้ชัดเจน ไร้ข้อกังขาหรือไม่
(ถ้ากรรมมันใหญ่จริง เราคงแก้ไขภัยพิบัติไม่ได้ ?)

 

ขอเบอร์โทรศัพท์อาจารย์หมอรักษาพระด้วยค่ะพี่ ทาง PM ค่ะ

 

ข้อความที่ว่า "ไม่มีใคร ใหญ่เกินกรรม"[/B]

เป็นคำกล่าวของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายในเวปนี้และทราบดีว่าท่านเป็นใคร

ในส่วนตัววิเคราะหืแล้วว่าท่านเพียงบอกกล่าวให้ลูกศิษย์และสาธุชนทั่วไป
พึ่งตระหนักถึง "กรรม" ไว้จงมั่นว่าไม่มีใครหลีกพ้นได้

แต่ไม่ได้บอกว่าแก้ไขหรือจัดการ "กรรม" ไม่ได้
ซึ่งหนทางที่จะรู้เท่าทันและบริหารกรรมได้นั้นมีอยู่สำหรับผู้ที่มีปัญญารู้เห็นจริง

ส่วนจะใช้วิธีไหนบริหารกรรมอย่างไร ได้ผลสำเร็จหรือไม่เป็นปัจจัตตังและอุบายของแต่ละคน ครับ

 

ขอนิยามคำว่าภัยพิบัติหน่อย มีอะไรบ้าง?? เพราะถ้ามันเกิดหลังจากสร้างพระใหญ่เสร็จ จะได้รู้ว่าพระใหญ่ไม่ได้หยุดยั้งภัยพิบัติ แต่หากว่าสร้างพระใหญ่ไม่เสร็จแล้วไม่เกิดภัยพิบัติก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วไม่มีภัยพิบัติอย่างที่ทำนาย

ภัยพิบัติใหญ่กับภัยธรรมชาติเหมือนกันมั้ย อย่างน้ำท่วมภาคกลางถือว่าภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ??

 

ท่านอาจารย์หมอรักษาพระ จะลงมาที่ หมู่บ้านพฤกษา ๑๑

ขออนุญาตครับ

ท่านอาจารย์หมอรักษาพระ จะลงมาที่ หมู่บ้านพฤกษา ๑๑ ปทุมธานี ออกเดินทางวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม นี้

ท่านที่รอคอยก็ โทรหาจองคิว วัน เวลา ได้เลย

ส่วนที่ ยังไม่มีเบอร์โทรของท่าน ท่านที่สนใจ ก็ถามทาง พีเอ็มมาได้
ท่านที่สนใจ กสินไฟ ของจริง ก็เรียนเชิญเช่นเดียวกัน

ขอให้หาย ทุกข์ โศก โรค ภัย กันนะครับ
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ตารางการรักษา ของ "หมอรักษาพระ"

ขออนุญาตครับ

ขอเพิ่มเติมรายละเอียด
ถ้าท่านอาจารย์"หมอรักษาพระ"ลงมา ปทุมธานี
ท่านจะไปรักษา คนป่วยพิเศษ ที่คลองตัน 1 วัน (เมื่อ 8 พ.ค.)
วันนี้วันพระ (9 พ.ค.)ท่านก็งดรักษาทุกๆวันพระ 1 วัน
ท่านจะไปดูแล ครูบาอาจารย์ทาง จ.จันทบุรี 2-3 วัน
(วันที่ 16-17-18 พ.ค.)
(พร้อมกับแวะเยี่ยมลูกสาวของท่านที่ จ.ระยอง ด้วย)

เพราะฉะนั้น วันที่ 16-17-18 พ.ค. ท่านจะไม่ได้อยู่ที่ มบ.พฤกษา ๑๑ คลอง ๓

ท่านที่มีที่อยู่ทางภาคตะวันออก ก็ลองติดต่อ ขอเมตตาดูนะครับ

และ วันที่ 19 พ.ค. ท่านจึงจะเริ่มรักษาอยู่ที่ มบ.พฤกษา ๑๑ คลอง ๓ ต่อไป

ขอโมทนาบุญร่วมด้วยครับ
ลุงมหา

 

กลุ่มคนที่มาทำการรักษา การพัฒนาของหมอ


ขออนุญาตครับ

ผมไปเยี่ยมท่าน อ.หมอรักษาพระ เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา
ได้พบได้เจอ คนที่มารักษาสองกลุ่ม

กลุ่มแรก มากัน 4 ท่าน เป็น 2 คู่ชีวิต ในวัยเกิน 60 ปีหน่อยๆ
ท่านเหล่านั้น ไม่ได้เจ็บป่วยมากมายอะไร
เพียงแต่ท่านเหล่านั้น ต้องการสุขภาพที่ดีที่สุด ในวัยของท่าน
เมื่อท่านเหล่านั้น ทราบข่าวการรักษา ผู้ที่ป่วยหนักกันมากๆ ยังรักษาหาย
แล้วคนที่คิดว่าตนเองปรกติ ก็ควรมาเช็ค มาทดลองรักษา
เพียงเพื่อปรับสภาพร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ในวัยของตน

เห็นแต่ละท่าน สดชื่นแจ่มใส พูดจากระหนุงกระหนิง กระปี้กระเปร่า
แทบจะไม่เชื่อว่าแต่ละท่านต่างก็เลย วัย 60 กันแล้ว

ส่วนอีกท่าน มาคนเดียว ด้วยวัย 56 ปี ทุกวันทำงานหนักมากๆ
เพราะความที่เป็นคนเชื้อสายจีน เพราะความขยันขันแข็ง
เพราะขยัน เพราะทำงานหนัก ทำให้เส้นเคลื่อนย้ายผิดตำแหน่งไปมาก
และยังทำงานหนักต่อเนื่องมาอีกหลายปี
อาการสุดท้ายแม้เดินก็ด้วยความยากลำบาก
ด้วยจิตใจของนักสู้ ก็ยังทำงานหนักต่อมาจนปัจจุบัน
ผลที่ตามมา เดินหลังโก่งตัวงอ
อาการทางการแพทย์คือ กล้ามเนื้อกระดูกสันหลัง
แต่ละข้อ แต่ละปล้อง ถูกยึดตายขยับไม่ได้เลย
แต่ท่านก็ยังทำงานหนักอยู่อย่างนั้นวันแล้ววันเล่า

ท่านหมอบอกว่า วันนี้เอาแค่นวดวอร์มกล้ามเนื้อเบาๆเท่านั้น
เพราะไม่สามารถย้ายกล้ามเนื้อเส้นเอ็น กลับเข้าที่ในคราวเดียวได้
เพราะเคลื่อนผิดตำแหน่งมานาน ต้องค่อยเป็นค่อยไป

ก็ต้องคอยติดตามดูต่อไปว่า ท่านจะมารับการรักษา ต่อเนื่องไปจนจบหรือไม่
เพราะคุณหมอบอกว่า ต้องนวดให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นเข้าที่ ตลอดแนวกระดูกสันหลัง
เพื่อให้กระดูกสันหลังแต่ละปล้อง แต่ละข้อ สามารถขยับตัวได้เหมือนคนปรกติทั่วๆไป

แม้ว่าท่านจะอยู่ในสภาพนี้ ท่านก็คงทำงานหนักอยู่ทุกๆวันก่อนหน้านี้
ช่างทรหดจริงๆ

สรุป กลุ่มที่มารักษาส่วนมากก็เป็น

กลุ่มพระภิกษุสงฆ์

กลุ่มคนป่วยที่ไปรับการรักษามาหลายๆที่ แต่ก็ไม่หายขาด

กลุ่มคนที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร เพียงแต่อยากให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

ดูๆ กลุ่มหลังนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

กลุ่มที่ผมอยากเห็นต่อไปก็คือ นักกีฬา ไม่ว่าจะจากการบอบช้ำ หรือบาดเจ็บ
เพราะการรักษาวิธีนี้คือ

การรักษาโดยไม่ได้ทำการผ่าตัดใดๆเลย จึงทำให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะนักวิ่งระยะสั้น ที่คิดว่าตนเอง หมดสภาพแล้ว
ลองมาฟื้นฟูปรับสภาพกล้ามเนื้อเส้นเอ็น เส้นประสาท ด้วยวิธีนี้ กับหมอท่านนี้
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า สถิติที่เคยทำไว้ จะถูกทำลายหรือไม่

ผมจะรอดูต่อไปว่า จะมีคลื่นลูกใหม่ ที่สามารถ
รักษาฟื้นฟูสภาพนักกีฬาที่บาดเจ็บอย่างหนัก
อย่างนักฟุตบอล ที่ต้องพักนานถึง 6 เดือน

จะสามารถรักษาให้หายได้ใน เวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
และที่ผมเฝ้ารอต่อไปคือว่า หมอท่านใดจะทำได้เป็นท่านแรก
แบบคนเดียวรักษาได้หมด ทั้งต่อกระดูก ต่อเส้นเอ็น ต่อเส้นประสาท
จัดกระดูก จัดกล้ามเนื้อเส้นเอ็นให้เข้าที่ เปิดประสาทสั่งงาน กล้ามเนื้อเส้นเอ็นทั้งหมด
แบบครบวงจรในหมอท่านเดียว

แม้ว่าผมจะรู้จักหมออีกท่านหนึ่ง ที่เคยรักษาเพื่อนพี่ชาย
ที่ถูกรถสองแถว ชนมอเตอร์ไซด์ อัดเข้ากับกำแพงคอนกรีตทึบ
ขนาดหมอโรงพยาบาลจะตัดขาทั้งสองข้าง
เพราะกระดูกแตกละเอียดหมด

ต้องแอบหนีจากโรงพยาบาล กลับบ้านไปกางมุ้งอยู่
แผลจะเน่าอย่างไรก็ไม่สน ให้หมอบ้านๆ ทาน้ำมันไป เป่าไป เสกไป
ผ่านไป 6 เดือน พี่แกเดินมาที่บ้านผม บอกว่าวันนี้แผลหายหมดแล้ว
เดินได้แล้ว จะไปให้หมอโรงพบาบาล คนที่จะตัดขาแกทั้งสองข้างดู
ว่าแล้วแกก็วิ่งไปโปกรถ เพื่อไปโรงพยาบาลที่อยู่ห่างออกไป 25 กิโลเมตร

ส่วนหมอที่รักษาครั้งนั้น ได้ข่าวว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะได้ออกรายการช่อง 11
แถมมีการกำหนดอัตราการรักษาแบบเหมาจ่าย
ต่อกระดูกกล้ามเนื้อเส้นเอ็น หลายพันบาท ตามอาการหนักเบาของการบาดเจ็บ
ผมเจอหมอท่านนี้เมื่อ ปี 2528 ยังได้ข่าวว่าท่านยังมีชีวิตอยู่สุขสบายดี

ผมเขียนไปเรื่อยๆ เพื่อให้ท่านที่เข้าใจว่า ตนเองหมดสภาพไปแล้ว
ได้รู้ ได้เข้าใจว่า ท่านยังไม่หมดหวังหรอกครับ

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ความหลากหลายของหมอผู้ทำการรักษา


ขออนุญาตครับ

ตั้งแต่ต้นเดือนมา ผมแทบจะไม่ได้อยู่บ้าน ต้องไปโน่นมานี่อยู่ตลอด
บ้างครั้งไกลมากๆ ต้องยอมเดินทางโดยรถทัวร์แทน
ถึงจะช้าไปบ้าง แต่ก็ไม่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า

เรื่องของหมอรักษาคน มีคุณแม่ใกล้บ้าน เล่าให้ฟังว่า
หลายปีมาแล้ว ลูกชายของท่านติดเกณฑ์ทหาร
เข้ารับราชการที่กองทัพเรือที่สัตหีบ

ขณะขับมอเตอร์ไซด์ อยู่ในค่ายทหาร ถูกรถยนต์ชนท้าย
ศรีษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้ศรีษะบวม มีเลือดคั่งในสมองมาก

ด้วยบุญบารมีของทั้งแม่และของผู้ป่วยเองทำให้ได้ทราบข่าวว่า
มีหมอโบราณสามารถรักษาโรคนี้ได้ อยู่ที่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
ท่านก็ดั้นด้นพาลูกชายไป ทั้งๆที่ท่านอยู่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

เมื่อไปถึงก็ไปถามหาบ้านที่อยู่ในตัว อำเภอ นั่นละ
เป็นบ้านไม้หลังใหญ่โต สอบถามได้ความว่า
กลุ่มคนป่วยชาวใต้หวัน ลงขันช่วยกันสร้างให้
เพราะว่ารักษาแล้วเขาหายป่วย

แต่ตัวผู้รักษาเป็นรุ่นลูกแล้ว เพราะหมอใหญ่ลาโลกแล้วไปตามอายุขัย
หมอรุ่นลูกนี้เป็นผู้หญิง ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากคุณพ่อ

วิธีการรักษาก็ใช้ไข่ต้ม มาหมุนวนรอบๆศรีษะ พร้อมกับบริกรรมพระคาถาไปด้วย
เพื่อดูดเอาเลือดเสียออกมาจากศรีษะ เมืิ่อดูดออกมาแล้ว เลือดเสียก็จะไปอยู่ในไข่แทน
เมื่อไข่มีสีดำคล้ำ ก็จะเปลี่ยนไข่ใบใหม่
ท่านเล่าว่าต้องใช้ไข่ มากถึง ๓ ใบ จึงดูดเลือดเสียออกมาได้หมด

ผมรู้จักกับครอบครัวนี้ก็เพราะว่า พี่สาวของผู้ป่วย เคยเรียนราม เช่นเดียวกับผม
เมื่อรู้แล้ว จึงได้รู้จากครูบาอาจารย์ว่า

คุณแม่ของผู้ป่วยที่ดูเป็นคนเชื้อสายจีนธรรมดาๆ ท่านนี้ถึงกับเคยปรารถนา "พุทธภูมิ" มาด้วย
ครูบาอาจารย์จึงแนะนำให้ไปลา "พุทธภูมิ" เสีย
พร้อมกับบอกว่า "ถ้าลาพุทธภูมิแล้ว จะเหลืออีกแค่ ๕๐๐ ชาติ"

ส่วนคนป่วยท่านนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ท่านเป็นลูกขององค์หลวงปู่โลกเทพอุดร อีกท่านหนึ่งที่ได้มาเกิดในชาตินี้
เพียงแต่ว่าท่านไม่ได้บำเพ็ญบาีรมีมาทางสายฤทธิ์ เหมือนหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต
ท่านบำเพ็ญบารมีมาทางสาย "ทานบารมี สายความอุดมสมบูรณ์"
ประมาณ สิบกว่าปีที่แล้ว ท่านออกบวชและไปจำพรรษาอยู่ทาง จ.เชียงใหม่
นานๆท่านจะกลับมาเยี่ยมบ้านทีหนึ่ง

เป็นที่น่าสังเกตุ ก็คือว่า ที่บ้านของท่านจะมีพระบรมสารีริกธาตุ
พระธาตุของพระอัครสาวก และของครูบาอาจารย์สายธรรมยุติ อยู่เป็นจำนวนมาก

หลายๆท่านที่ติดตามข่าวขององค์หลวงปู่ใหญ่
คงเคยได้ยินบ้างว่า องค์ท่านได้มาปรากฏกายที่ "ตลาดเทพจินดา"
ติดกับสี่แยกไฟแดง กลาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
เพื่อมาโปรดครอบครัวนี้

การมาของท่านครั้งนั้น ก็เป็นการมาในรูปลักษณ์ ที่คนทั่วๆไปรู้จักท่านกันดี
ท่านมารับบาตร และให้พรลูกชายของท่าน

เมื่อเช้าผมไปตลาด ผมก็ยังแวะซื้อของที่ร้านที่พี่สาวของท่านนั่งขายของอยู่เหมือนเมื่อหลายๆปีที่ผ่านมา

ผมเขียนเรื่องนี้ เพื่อบอกเพื่อเล่าให้ทราบกันว่า
แม้แต่โรคที่รักษากันยากๆ เช่นเลือดคั่งในสมอง
ก็ยังมีผู้รักษาให้หายขาดได้ โดยใช้แค่ไข่ต้มเท่านั้นเอง

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับผู้มีบุญบาีรมีทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

ตารางการรักษา ของ "หมอรักษาพระ" เดือน มิถุนายน


ขออนุญาตครับ

ท่าน อ.หมอรักษาพระ ท่านได้เดินทางขึ้น อีสานแล้ว
ท่านบอกมาว่า จุดหมายปลายทางของท่านคือ "วัดดอยธรรมเจดีย์" จ.สกลนคร
สถานที่ สำเร็จธรรม ขององค์หลวงตามหาบัว ตั้งแต่องค์หลวงปู่มั่น ท่านละขันธ์ใหม่ๆ
ท่านบอกว่าท่านจะมาบำเพ็ญธรรม ในวันวิสาขะบูชาที่นี่

ท่านบอกว่าเนื่องจากครูบาอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่ผาย วัดสะพานหิน
ตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
ท่านได้ละขันธ์แล้ว ท่านก็เลยเดินทางไปวัด หลวงปู่แบน ที่วัดดอยธรรมเจดีย์แทน

ท่านฝากบอกมาว่า ต้นเดือน มิถุนายน ประมาณ วันที่ 3
ท่านจึงจะเริ่มทำการรักษาที่ หมู่บ้านพฤกษา11 อีกครั้ง

จึงขอเชิญท่านที่มีบุญวาสนา ติดตามต่อไป

เห็นข่าวคณะรัฐมนตรี เห็นชอบปลด ผอ.องค์กรเภสัชกรรม
จากข่าวเบื้องหน้าเบื้องหลัง ชาวบ้านเตรียมใช้ยาแพงได้
เพราะดาบต่อไปคือการยกเลิกสัญญาระหว่าง โรงพยาบาลของรัฐ กับ องค์กรเภสัชกรรม
แขกอยู่ไหนเอ่ยมีคนเรียกแล้ว

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

หมอถอนคุณไสย์ แก้ไขวิบากกรรม


ขออนุญาตครับ

หมอถอนคุณไสย์ แก้ไขวิบากกรรม

มีสตรีท่านหนึ่งโทรหาผมเมื่อวันพุทธ ที่ผ่านมา
ท่านบอกผมว่า "คุณลุงเป็นผู้แนะนำให้หนูได้พบชีวิตใหม่"
ฟังจากน้ำเสียงดูว่าอายุยังน้อยมากๆ ผมก็เลยถามอายุ
ท่านก็ตอบมาว่า "อายุ ๒๕ เท่านั้น"

ท่านบอกเล่ามาว่า

"สามีหนุ่มคะยั้นคะยอ ให้ไปหาหมอท่านหนึ่ง โดยไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ"
"หนูก็งงๆ เพราะสามีเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้"
"กว่าจะพาหนูไปรักษาแต่ล่ะที่ ขอแล้ว ขออีก"
"ไปรักษามาแล้ว ๓ ที่ แต่ละที่ ค่ารักษา ๕๐๐๐-๘๐๐๐ บาท"
"ไม่ได้ผลอะไรขึ้นมาเลย"

ท่านบอกว่า

"เดิมท่านจบ ป.ตรี ด้าน บ/ช จากสถานศึกษาใน กทม"
"เพิ่งจะแต่งงานและมีบุตรเล็กๆ ๑ คน"
"จากที่ได้รู้จักกับคุณแม่ชีท่านหนึ่ง ท่านก็ชวนไปรักษาศีล ปฏิบัติธรรมด้วย"
"แรกๆก็ไม่เป็นไร ไปรักษาศีลเฉพาะวันหยุด"
"หนักๆเข้า ลืมลูก ลืมสามี ลาออกจากงาน หนีไปบวชชี ร่วมกับเขา"
"กว่าจะรู้ตัว ก็ถูกเขาวางยา สกดด้วยไสย์เวทย์มนต์ดำ"
"เจอหน้าสามีทะเลาะกันตลอด"

"ฝ่ายสามีก็อึดอัดกลัดกลุ้ม เกิดความเครียด จนทำงานไม่ได้ ต้องลาออกจากงาน"
"จากที่เคยเป็นระดับหัวหน้างาน ต้องกลายมาเป็น ต้องทำงานเอง"
"ชีวิตมีแต่ความยากลำบาก วุ่นวาย สับสน อึดอัดกลัดกลุ้ม"
"หาเงินได้ ก็เอาไปรักษา ภรรยา ชักหน้าไม่ถึงหลัง"

ท่านถามผมว่า

"คุณลุง พูดอะไร พูดอย่างไร สามีหนูถึงได้เชื่อในสิ่งที่คุณลุงบอก"
"ทั้งๆที่สามีหนูเป็นคนที่เชื่อคนยากมากๆ โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้"
"จนหนูได้มาเจอ มารักษากับคุณตา จนหนูได้ชีวิตใหม่ ได้ชีวิตหนูกลับคืนมาแล้ว"
"ขอขอบพระคุณคุณลุงอย่างสูง"

ผมก็เลยถามไปว่า "วันนี้ไม่ต้องไปทำงานหรือ" ท่านตอบว่า

"งานองค์การโทรศัพท์ที่เคยทำนั้นลาออกไปแล้ว"
"ตอนนี้ก็เลยอยู่ว่างๆ เพราะยังอายที่ผมสั้น จากการไปบวชชีมา"

ท่านยังเล่าอีกว่า

"จิตใจของแม่ชีคนนั้นทำด้วยอะไร ถึงกับใช้วิชาคุณไสย์ ทำร้ายหนูขนาดนี้"

ท่านยังบอกชื่อ ที่อยู่คุณแม่ชีท่านนั้น พร้อมสำนักด้วย อยู่แถวๆ บ้านแพ จ.ระยองนี่เอง

ท่านยังถามผมทิ้งท้ายว่า

"หนูต้องทำอะไร หนูต้องทำอย่างไร จึงจะไม่ให้ใครมาทำร้ายหนูและครอบครัวของหนูได้ตลอดไป"

"คุณลุงช่วยแนะนำหนูด้วย"

"อีกสองสามเดือน หนุก็จะได้บรรจุงานที่สอบเอาไว้แล้ว"

"ขอขอบพระคุณคุณลุงมากๆ"

คุณตาที่สตรีท่านนี้ บอกเล่าถึง ก็คือ ครูบาอาจารย์ของผมอีกท่านหนึ่ง
ที่ท่านมีอดีตเป็นหมอจริงๆ แต่ด้วยความขมขื่นใจที่ท่านไม่สามารถรักษา
คนป่วยที่เป็นโรคแปลกๆได้

ท่านยอมเสียสละค้นคว้าศึกษามานาน จนได้พบจนได้เจอ
จนได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ภิกษุชราชาวเขมร
จะว่าท่านเป็นชาวเขมร ก็กระไรอยู่เพราะว่าท่านอยู่ที่เมือง "พะตะบอง" นี่เอง
แม้ว่าท่านจะอายุเกิน ร้อยปีแล้วก็ตาม แน่นอนว่า บิดา มารดา ของท่าน
ปู่ ย่า ตา ยาย ของท่านเป็นชาวไทยแน่ๆ
เพราะเมือง "พะตะบอง" เป็นของของไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนมาถึงสมัย ร.๕

เมื่อเรียนวิชาจนแตกฉานแล้ว "คุณตา" ท่านก็กลับมาอยู่ฝังไทยบ้านเกิด

ใครมาถึงบ้านของท่าน ท่านจะรักษาให้หมด ไม่ได้เลือกที่รัก มักที่ชัง
ท่านรักษา ๑ คน ใช้เวลาแค่ ๑ นาที (๑ นาทีจริงๆ)
แถมค่ารักษาท่านก็ไม่คิด แล้วแต่ศรัทธา

"พานตั้งอยู่นั่น อยากใส่เท่าไรก็ใส่เอาเอง จะไม่ใส่ก็ได้"
"ค่าครูก็ไม่ต้องมี ของบวงสรวง ของบูชาครู ตาจะทำของตาเอง ไม่ต้องกังวลให้ยุ่งยาก"

"เมื่อตารักษาเขาแล้ว เขามั่งมี ศรีสุข เขาก็จะนึกถึงตาเอง เขาก็จะมาเยี่ยมตาเอง"

"ตาก็อยู่บ้านของตาไปอย่างนี้ละ วันๆก็มีคนโทรหาตาตลอด"
"ใครหาตาเจอ มาขอให้ช่วยตาก็ช่วย"
"ใครหาตาไม่เจอ ไม่มาขอให้ตาช่วย ตาก็ช่วยไม่ได้"
"ก็ให้เขารับวิบากกรรมของเขาเอง"

ท่านที่อ่านข้อความนี้แล้ว อย่าได้มาถามผมนะครับ ว่าคุณตาท่านเป็นใคร ท่านอยู่ที่ไหน

เพราะผมเล่าให้ฟังเฉยๆ ไม่ได้มีเจตนาจะ หาเรื่องลำบากให้ครูบาอาจารย์แต่อย่างไร

เมื่อท่านบอกว่า

"ใครหาตาเจอ มาขอให้ช่วยตาก็ช่วย"
"ใครหาตาไม่เจอ ไม่มาขอให้ตาช่วย ตาก็ช่วยไม่ได้"
"ก็ให้เขารับวิบากกรรมของเขาเอง"

แล้วผมจะไปช่วยใคร แล้วผมจะไปช่วยทำไม
เดี๋ยวจะหาว่าผมใจไม้ใส้ระกำ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
อยากให้ผมช่วย ผมก็จะช่วย แต่มีเงื่อนไขสามข้อ

๑ ต้องหาผมให้เจอ
๒ ต้องทำให้ผมเชื่อว่า ท่านทุกข์ยากแสนสาหัส จริงๆ
๓ ต้องทำให้ผม อยาก ช่วยท่านให้ได้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญร่วมกับผู้มีบุญบารมีทุกๆท่าน
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

อยากเรียนถามคุณลุงว่า....

จะช่วยเหลือผู้คน ทำไมต้องตั้งเงื่อนไขด้วย ครับ