ผีกลัวพระเครื่องจริงหรือมั่ว?

ผีกลัวพระจริงหรือมั่ว?มีเเต่คนบอกว่าผีมักกลัวพระเครื่องผมสัณนิฐานไว้หลายสาเหตุ

1. เพราะจิตพระคณาจารย์ที่เสก
2. เพราะตอนยังไม่ตายผู้ใหญ่สอนว่าผีกลัวพระตายมาเป็นผีเลยกลัวพระ
เเต่ถ้ามีเกิดไม่กลัวพระละเเล้วผีกลัวอะไรใครเคยมีประสบการณ์ผีกลัวพระบ้าง

 

เเล้วเคยได้ยิน " พระโดนผีหลอกหรือป่าวละครับ เเม้เเต่องค์ครูบาอย่างพ่อฤาษีลิงดำ ก็เคยเล่าให้ฟัง
หรือ อาจจะเป็นเรื่อง "ผียกมุ้ง" ลองไปหาอ่านดูนะครับ เอาคร่าวๆก็คือ
มีคนไปนอนกางมุ้งอยู่หน้าพระประธาน เเล้วผีก็มายกมุ้งเพราะว่าไปขวางทางเขา

 

เชื่อว่า...ผีมีจริงเพราะเคยเจอด้วยตัวเอง
แต่สงสัยอย่างนึงค่ะ ถ้าผีกลัวพระเครื่องหรือพระพุทธรูป
แล้วทำไมผีมายกมุ้งเพราะว่าไปขวางทางเขาได้ยังไงคะ ?
ผีกล้ามาอยู่ใกล้พระพุทธรูปได้หรือคะ ?
อยากขอคำตอบจากผู้รู้ จะได้หายข้องใจค่ะ
ขอบคุณค่ะ

=====================

 

ทำที่จำได้นะขอรับ ความคิดผมนะ ถูกไม่รู้ถูกไม่รู้ละ อ่าน รอท่านผู้รู้ไปพลางๆก่อน
คือเขามาเปิดมุ้ง เพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งขอรับ ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายผู้นั้นเเต่อน่างไร

เหมือนตำรวจอะครับ คนเดินไปตามทาง ข้ามสิ่งขีดขวางหรือคน ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ตำรวจก็ไม่จับครับ ลองเดินๆ ไปหมันไส้ เตะป๊าปเข้าให้ ไม่เหลือ!

 

อืมๆ.ถ้าขอตั้งสมมุติฐานก่อนนะคับ.คำว่าผีในที่นี้หมายถึง.
มีแต่ดวงจิต.ที่สามารถแสดงเป็นรูปร่างๆต่างเพื่อความจำได้.
หรือเพื่อแสดงสิ่งที่เป็นตามระดับบารมี.เพื่อแยกแยะแบ่งกลุ่มอย่างชัดเจน.
และที่สำคัญไม่มีร่างกายแบบมนุษย์เรา..
ขอเปลี่ยนจากคำว่า ผีเป็นวิญญาน แทนนะครับ....
วิญญานที่บอกว่า.กลัวพระเครื่อง.เป็นวิญญานประเภทที่เป็นมิจฉาทิฐิ.
ประเภทนี้อาจเป็นระดับไหนก็ได้.ทั้งพอมีกำลังจิตมาก หรือมีฤิทธิ์มาก
หรือ ประเถทที่มีกำลังจิตอ่อน เช่น สัมพะเวสี..หรือ ประเภทมีเหตุให้ตายก่อนอายุไขร่างกาย..
แต่ที่พูดมาไม่มี..วิญญานระดับไหนกลัวพระเครื่องครับ..
แต่ที่เกรงกลัวก็คือ พุทธคุณที่อยู่ในพระเครื่อง.
ประกอบ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์..อย่างใดอย่างหนึ่ง.สิ่งที่ครู
บาร์อาจารย์ท่านอฐิษฐานจิตต่างๆลงไปไว้ใน.พระเครื่อง..
ก็เป็นคูณ พระสงฆ์
ลงไป..ก็จะกลายเป็นว่าพระเครื่ององค์นั้นมี
พระพุทธ พระสงฆ์ ที่นี้พระเครื่องนั้นจะ
เกิดอานุภาพได้ก็ต้องประกอบด้วยพระธรรม มาจากไหนครับ.
ก็มาจากผู้ที่ห้อยพระ
เครื่องนั้น..ถ้ามีศรัทธา มีความเชื่อมั่น ไม่ลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย
.และดำเนินตาม
คำสอนของพระพุทธเจ้า..ก็จะบังเกิดเป็นพุทธคุณ พระธรรม
รวมความได้ว่าพระเครื่อง
องค์นั้นประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม และสงฆ์ สิ่งนี้ต่างหากครับ.

.ที่วิญญานยำเกรงให้ความเคารพ.ไม่ว่าระดับไหนก็ตาม.หาใช่ที่ตัววัตถุแทนนั่นไม่.
.และก็เป็นไปได้ว่าส่วนหนึ่งก็มาจากความจำได้จากทางสมมุติก่อนที่จะกลาย
เป็นวิญญานร่วมด้วย...พระเครื่องจึงใช้กับวิญญานที่ก่อนตาย
นับถือศาสนาอื่นๆและไม่เคยนับถือ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และไม่เคยมีเรื่อง พระรัตนตรัยเป็นสัญญาความจำได้เป็นทุนยกเว้นว่าจะได้เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามาบ้าง
ยกตัวอย่างสำหรับบางศาสนา.พอเราเปิดพระคัมภีร์ ปรากฏว่าวิญญานศาสนานั่นกับย่ำเกรงและกลัวเป็นต้น.

..บางคนบอกว่า.ทำไมมีพระเครื่อง.เต็มบ้าน.เต็มห้องนอน ห้อยพระทั้งคอ แล้วทำไมวิญญานยังตามมาหลอกได้ มาให้เห็นได้..เราต้องทราบและแน่ใจก่อน
.ว่าวิญญานระดับที่มาให้เห็นปรากฏให้เห็นเพื่อวัตถุประสงค์อะไร.
.ต้องการมาให้เราอุทิศส่วนกุศลให้ ในรูปแบบแตกต่างกันออกไป.หรือว่าจะมาทำร้ายเราจริงๆ

.หรือว่ามาทดสอบกำลังใจสำหรับนักปฏิบัติที่มี
ความดีเพื่อทดสอบระดับกิเลสที่เกาะกับจิตในส่วนละเอียด.
.ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีฝ่ายที่ทำหน้าทีของเค้าอยู่..หรือว่าเราไปขวางทางเกะกะสำหรับ
เทพ เทวดา ตอนที่ท่านจะมากราบพระพุทธรูปหรือเปล่า
.ตรงจุดนี้ต้องตีความดีๆ..ส่วนมากระดับที่ไม่สนใจว่าเราจะมีพระเครื่อง จะเป็นระดับตั้งแต่เทวดาขึ้นไป ไม่ใช่ท่านไม่กลัว แต่ท่านมีความเคารพเป็นทุนในจิตมากๆกว่าเราอีก..แต่ที่ท่านมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร.ก็ตาม..
ก็เป็นวัตถุประสงค์.ที่จะทำให้เราดีขึ้นเรื่องใดเรื่องเท่านั้น.

.แต่เราอาจไปมองว่า.พระเครื่องที่เราห้อยอยู่ไม่มีพุทธคุณ.
ไม่ศักดิ์สิทธิ์.ซึ่งยังเป็นประเด็นที่เข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่.
.แม้แต่พระเครื่อง.ที่เป็นรูปพระพุทธ รูปพระสงฆ์ รวมเครื่องรางต่าง
อย่างใดอย่างหนึ่งแม้ไม่ได้ปลุกเสก.ก็มีพุทธคุณได้.หากผู้สวมใส่.มีใจยึดมั่น มีศรัทธา มีความมั่นใจจริงๆ.

และมีความเคารพ ต่อพระรัตนตรัย.เป็นทุน.และมีความเชื่อมั่นในวัตถุนั้นๆ
เราเองก็จะมีกำลังจิตที่เข็มแข็งเพียงพอสำหรับ.
ป้องกันวิญญานที่เป็นมิจฉาได้..
เราอาจจะเคยได้ยินว่าทหารที่ออกรบ..อมกบ.อ๊บๆ.ไปสู้รบแล้วหนังเหนียว
มาก็มี.เพราะคิดว่าเป็นเครื่องรางกันเหนียว.เราไม่พูดในกรณีที่เป็นเชิงพาณิชย์
นะจุดนี้นะครับ.เพราะกำลังใจคนแตกต่างกัน..บางคนไม่ต้องพก.บางคน
ขอแค่รูปแทน.บางคนพระต้องแท้ บางคนต้องแท้ด้วยสวยด้วย บางคนต้อง
แท้ด้วยสวยด้วยแพงด้วย.ถึงจะรวบรวมกำลังใจได้.ซึ่งกรณีไหนก็ได้
ก็ดีเหมือนๆกันหมดครับ.
ที่ไม่เหมือนกันคือเรื่องขององค์ประกอบในการเกิดกำลังใจเท่านั้น...​

 

จากเกร๊ดเล็กๆ น้อย ของ nopphakan
และมีความเคารพ ต่อพระรัตนตรัย.เป็นทุน.และมีความเชื่อมั่นในวัตถุนั้นๆ
เราเองก็จะมีกำลังจิตที่เข็มแข็งเพียงพอสำหรับ.
ป้องกันวิญญานที่เป็นมิจฉาได้..
เราอาจจะเคยได้ยินว่าทหารที่ออกรบ..อมกบ.อ๊บๆ.ไปสู้รบแล้วหนังเหนียว
มาก็มี.เพราะคิดว่าเป็นเครื่องรางกันเหนียว.เราไม่พูดในกรณีที่เป็นเชิงพาณิชย์
นะจุดนี้นะครับ.เพราะกำลังใจคนแตกต่างกัน..บางคนไม่ต้องพก.บางคน
ขอแค่รูปแทน.บางคนพระต้องแท้ บางคนต้องแท้ด้วยสวยด้วย บางคนต้อง
แท้ด้วยสวยด้วยแพงด้วย.ถึงจะรวบรวมกำลังใจได้.ซึ่งกรณีไหนก็ได้
ก็ดีเหมือนๆกันหมดครับ.
ที่ไม่เหมือนกันคือเรื่องขององค์ประกอบในการเกิดกำลังใจเท่านั้น...

ขอเสริม ทหารบางคนเขาไม่พกพระนะครับ เเต่เอาเศษผ้าถุง ผม เถ้ากระดูกเเม่ เลี่ยมห้อยคอ ถึงเเม้หลายคนจะมองว่าไร้ค่า ทำไร้ได้
หึหึหึหึ ......M16 เจาะไม่เข้านะขอรับ

 

... เราบอกก่อนนะเราไม่ได้เก่งมาจากไหน .. อาศัยอ่านมาเยอะ .. อิอิ เจอผีก็เยอะ (ในนิมิตร) เลยขอเอามาเล่าให้ฟัง

.. " พระเครื่องป้องกันผีไม่ได้คะ หรือ ไล่ไม่ได้ทกองค์ตามที่หลายคนเข้าใจนะคะ ขึ้นกับการ ปลุกเสก ของเกจิอาจารย์เป็นสำคัญจร้า " นอกจากนั้นยังมี ดังนี้

1. พลังงานของผี .. ถ้าเป็นเทวดาไปแล้วก็ไล่ไม่ได้คะ
2. พลังงานของคนที่ปลุกเสก ถ้ากำลังจิตไม่ถึงก็ใช้ไม่ได้คะ
3. วิธีการปลุกเสก แล้วแต่ท่านจะให้ใช้ทางไหน
4. มวลสารที่ใช้ทำ
5. พลังงานของคนที่ใช้

... อันนี้เอามาบอกคร่าว ๆ คะ แต่รายละเอียดปลีกย่อยก็มีเยอะคะ

 

​

ชอบความคิดของคุณ nopphakan มากๆ ครับ ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ​

 

อืมๆ.โอ้ๆๆๆ.พึงเคยได้อ่านวันนี้หละครับ..ขอบคุณคับ..
ขอเสริม.ด้วยนะครับ.บางคนได้.
เศษผ้าถุงที่เปลื้อนเลือดของมารดาตอนที่คลอดตัวเองและก็ยังเก็บไว้คล้องคอตนเองตอนที่โตขึ้นมาได้
ปืนกระบอกที่ใช้จะยิงเพื่อหมายทำลายร้ายร่างกายจะยิงไม่ออกคับไม่ต้องไปเสียเวลาท่อง ล้อมก็ไม่เจอ เดินผ่านมาก็ไมเห็น ฯลฯ ให้ยุ่งยาก
ปล.ส่วนตัวนะครับ..ผมว่าเจาะไม่เข้า...แต่มันเจ๊บบบ !เจ๊บ!.นะครับ.
.อาจตายเพราะซ้ำในได้.:'(.ดีที่สุดคือ เด่นทางเมตตา และแคล้วคลาด อย่างน้อยเจอคนที่คิดทำร้ายเค้าก็เปลี่ยนเป็นมิตร
หรือไม่ก็แคล้วคลาดการปองร้ายไปเลยดีกว่า.
ถ้าจะเอาแบบคงกระพัน.เนี่ย!ขอเป็นทาง
หูคงกระพัน.เอาไว้กันเวลาโดนคนใกล้ชิดบ่นดีกว่า.เพื่อยุติการตอบโต้ในทุกกรณีครับ.:boo:.​

 

เเหะๆๆ ทหารครับ ทหาร เเคล้วคลาดพอได้ เเต่ ไปใส่เมตตา กระสุนเจาะเบ้าตาเเน่ครับ

เเล้วเเต่อาชีพครับ เลือกใช้กันเอา ^^ ผมก็พูดไปตาม สมองสั่ง บ้าๆ บอๆ อย่าถือสาผมเลย...

 

ไม่ได้ถือสาเลยครับ..ประเด็นที่คุณพูดนะถูกแล้วครับ..ถ้าเป็นทหารจากหน้าที่
และความรับผิดชอบ.ก็คงต้องเลือกคงกระพันถูกต้องแล้วนั่นหละ
คับและก็เลือกตามความเหมาะสมตามเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพถูกแล้วครับ..​

 

ขอบคุณมากครับ ไอ้กระผม ก็พึ่งจะ 20 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ยังเด็กกะโปโลอยู่เลย

มิหนำซ้ำ ยังสู้ไอ้จิตที่มัน ด่าพระ ด่าเจ้า ด่าดะไปมั่ว วิปลาสไปหมด มาอาศัยอยู่ตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจจะมีเศษๆหลุดมาหน่อย เเฮะๆๆ ช่วงไหนมีสติก็คุมได้ ช่วงไหนคุมไม่อยู่ก็ บ้าๆบอๆ

มีใครพอจะเเนะนำได้มั่งมั๊ยครับ

 

จิตมันมีทั้งกุศลธรรมและอกุศลธรรม ซึ่งเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้
เราจะห้ามจิตไม่ให้คิดชั่วไม่ได้หรอก แม้ร่างกายที่เป็นรูปธรรมจับต้องสำผัสได้ยังห้ามไม่ให้ป่วยไม่ให้แก่ไม่ได้เลย แต่เรามีสติรู้เท่าทันก้พอ พอรู่เท่าทันบ่อยๆเดี๋ยวก็หายไปเอง ผมเคยผ่านเคสนี้มาไม่อยากให้มีความคิดชั่วๆแต่ยิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ หมุนตลอดเวลา คิดอยู่อย่างนี้3 วัน เลยเข้าใจว่าอ่อคนบ้าเป็นแบบนี้เองคือคิดไม่หยุด พอได้ฟังครูบาอาจารย์ท่านพูดให้ฟังก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก สบายใจ

 

ถ้าเราไม่ได้ทำผิดเราจะกลัวอะไร ผีก็เช่นกัน พระเครื่องไม่เกี่ยว พระเครื่องคือวิธีการอย่างหนึ่งเพื่อให้ผู้ที่สวมใส่ละอายต่อปาปที่กำลังจะก่อ หรือถ้าอยากให้พระที่ท่านคล้องคออยู่นั้นช่วย ตัวท่านเองก็ต้องมีทุนเดิมก่อนด้วย นั้นคือศีล5. ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้นะ

 

มันทั้งจริงและไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับว่า วิญาญณนั้นมีสัมมาทิฏฐิ หรือมิฉาทิฐิ วิญาญาณก็คือพลังงานในรูปแบบนึงหากดวงจิตเค้าเต็มไปด้วยความเห็นผิดจาก โลภโกรธหลง พลังงานเค้าจะป็นแบบนึง มีความเห็นถูกก็จะเป็นอีกแบบนึง ท่านอาจจะเคยได้ยินมาก่อนเรื่องพลังงานออร่า คือพลังงานที่มีในวัตถุ และสิ่งมีชีวิต มันถ่ายเทกันได้ และเปลี่ยนสถานะได้ตลอดเวลา เช่นพระอรหันต์เวลาเผากระดูกท่านจะเป็นพระธาตุ เพราะ พลังพวกนี้แหล่ะที่ไปเปลี่ยนโครงสร้างของมวลสารได้ หลักการเดียวกับแม่เหล็ก ท่นมีแม่เหล็กอยู่ แล้วเอาเหล็กธรรมดาไปใกล้แม่เหล็ก เหล็กจะได้รับพลังงานนั้นไปด้วย จนตัวมันเองมีอำนาจแม่เหล็ ส่วนจะเข้มข้นมากแค่ไหนก็ขึ้นกับแม่เหล็กว่ามีพลังมากหรือน้อย มันเป็นหลักวิทยาศาสตร์ธรรมดาเลยครับ มวลสารทั้งโลกนี่ก็คือวิทยาศาสตร์เพียงแค่มองเห็นมองไม่เห็น พิสูนจ์ได้ตอนี้หรือยังหาเครื่องมือพิสูนจ์ไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี แค่ยังหาวิธีพิสูนจ์ไม่ได้ พระเครื่องก็คือการนำมวลสารจากของที่มีพลังงานในตัวมันเอง เช่น จีวร ข้าวก้นบาต ดินจากวัด ดอกไม้ ธูปเทียน อื่นๆที่อยู่ใก้ลกระพระที่มีพลังฌาณสูง พลังงานพวกนี้จะแผ่เป็นทรงกลมออกไปทุกทิศทุกทาง และมันจะเข้าไปแทรกในมวลสารของวัตถุที่อยู่ใก้ล เมื่อนำมาประกอบมันถึงมัพลังงาน และหากวิญญาณที่มีมิฉาทิฐิ ว่าง่ายๆผีเห็นผิด พลังงานมันจะตรงกันข้ามกับพลังงานทางดี หากพระเครื่ององค์นั้นมีพลังงานมากๆกว่าผี มันก็เข้าใก้ลไม่ได้ เปรียบเหมือนคุณอุณหภูมิร่างกาย 35 องศาอยู่ในเขตร้อน หากคุณเข้าไปขั้วโลกที่ -50 องศา ถามว่าคุณตายมั๊ย ตอบได้เลยว่าตายแน่นอน แต่ทำไมพวกเอสกิโมไม่ตายหล่ะ เพราะเค้าชินกับความเย็นแล้ว ถ้าเอาเอสกิโมมาประเทศไทย เค้าก็จะตายเหมือนกัน นี่ก็เหมือนกัน พลังงานที่เหมือนกันก็จะไม่เป็นไร หากตรงกันข้ามมันจะอยู่กันไม่ได้ ผีที่มี สัมมาทิฐิหรือพวกนี้ตอนเป็นคนทำบุญมาก พลังเค้าก็จะไปทางดี เมื่อมาเจอพลังดีก็ไม่เป็นไร เหมือนเอาคนเอสกิโมขั้วโลกเหนือไปอยู่ที่หนาวขั้วโลกใต้ ก็ไม่เป็นไรอยู่ดี เพราะมันเหมือนกัน ผมอาจจะอธิบายและเปรียบเทียบหยาบๆ แต่ก็พอจะเข้าใจนะครับ ว่าวิญญาณ มีทั้งกลัวและไม่กลัว วิญญาณที่ไม่กลัวพลังงานดีคือวิญญาณเทวดาต่างๆ สัมภเวสีที่ทำดีแต่ที่ตายก่อนเวลาเพราะอดีตชาติเคยฆ่าชีวิตคนอื่นโดยความพลาดพลั้งไปเท่านั้น(เช่นไปเป็นทหารเป็นศาลอัยการ อื่นๆต้องฆ่าคนอื่นทั้งที่ไม่อยากฆ่า แต่มันก็เป็นกรรมที่ต้องชดใช้) พวกนี้จะไม่กลัว แต่พวกวิญญาณที่เต็มไปด้วยความโกรธเครียดแค้นที่พกความโลภโกรธหลงมากับดวงจิต พวกนี้จะกลัวแน่นอนครับ เปรียบง่ายๆแต่อาจจะไม่เหมือนซะทีเดียว ถ้าคุณเป็นคนดีไม่ทำผิดคุณเดินผ่านตำรวจคุณก็จะไม่กลัวอะไรเพราะบริสุทธิ์ใจ แต่หากคุณเป็นโจรขโมยจะกล้าเดินผ่านมั๊ย ถึงเดินผ่านก็มีพิรุจน์
ดังนั้นพระเครื่องก็ต้องเลือกว่าพระองค์ไหนมีมวลสารอะไร ไม่ใช่พระองค์ไหนผีก็กลัวนะครับ ก็อย่างที่ผมบอกมาตั้งแต่ต้นว่าต้องมีพลังงานในพระองค์นั้นด้วย เป็นธรรมชาติของสิ่งทั้งมวลที่มีพลังงานตรงข้ามกัน เช่น แม่เหล็กขั้วเหนือ ขั้วใต้ มีความร้อน มีความเย็น อื่นๆ หากพลังงานเหมือนกันก็จะถูกกันไม่เป็นไร หากตรงข้ามกันเมื่อไหร่ไปกันไม่ได้ทันที นี่ครับตามภาพคือมวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่อง องค์นี้ขอวัดป่าบ้านตาด ของหลวงตามหาบัว แต่ผมไม่รู้ว่า นำมวลสารอะไรมาทำมั้ง เห็นว่าน่าจะเป็น ข้าวก้นบาต และ ชานหมาก อย่างอื่นไม่แน่ใจ ผมได้มาเมื่อหลายปี ตอนนี้รวมตัวกันเป็นพระธาตุพลุดออกมาจากองค์พระครับ

 

เคยได้อ่านและฟังมาว่าของทุกอย่างที่มาจากเนื้อตัวของ
พระสงฆ์หรือผู้ที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดเช่น กระดูก ผม เลือด หนัง
แม้เม็ดข้าวที่หลงเหลือจากบาตรของท่าน หรือหมากที่ท่านคายออกมา
ก็กลายสภาพเป็นพระธาตุได้หลังจากท่านได้มรณภาพแล้ว
แสดงว่าท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว

เคยมีบางคนเก็บผมของพระสงฆ์ที่ตนเคารพศรัทธาไว้
หรือแม้หมากที่ท่านคายออกมา หลังจากพระรูปนั้นๆมรณภาพไปแล้ว
อาจเป็นเวลาไม่นานบ้างหรือนานเป็นปีๆก็มี
แล้วจึงเห็นผมของพระสงฆ์ที่ตนได้เก็บไว้รวมตัวและขดตัวกันเป็น
ก้อนกลมๆกลายเป็นพระธาตุ
หมากของพระก็กลายสภาพเป็นพระธาตุเช่นกัน

เหตุที่ของจากพระบางรูปดังกล่าวใช้เวลาเป็นปีๆกว่าจะกลายสภาพ
เป็นพระธาตุ เพราะ ท่านได้ปฏิบัติธรรมต่อบนสวรรค์จนสำเร็จ
เป็นอรหันต์หลังจากมรณภาพไปแล้วบนโลกสักระยะนืง
ของๆท่านจึงจะกลายเป็นพระธาตุตามไปด้วย


รูปที่ 3 ดูเหมือนเป็นรูปพระธาตุโลหิต
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ


-------------------------------------------------------

 

บางครั้งพระสงฆ์ยังเจอผีเลย แสดงว่าผีไม่ได้กลัวพระสงฆ์

แต่วิญญาณผี กลัวเสียงสวดมนต์พระปริต คาถาชินบัญชร

แต่ถ้าเจอวิญญาณหรือผีที่ไหน มาปรากฏร่างให้เห็น มีอยู่วิธีนึงที่ได้ผล

คือ เตรียมที่กรวดน้ำ ขนาดเล็ก ติดตัวใส่กระเป๋าไปด้วย
เจอผี ปรากฏร่างให้เห็น ให้ระลึกถึงบุญกุศลที่เคยทำมาและกรวดน้ำ แล้วบอกกล่าวว่าอุทิศให้กับวิญญาณทั้งหลาย

รับรองวิญญาณ ต้องหายไป แล้วไม่มาปรากฏร่างให้เห็นอีก

 

เคยสงสัยกันไหมครับว่า
คนตายแล้ววิญญาณทุกตนต้องไปนรก...ตามความเชื่อ
แล้ววิญญาณที่มาหลอกคนทำไมไม่ไปนรกครับ(ถ้าว่าไม่ถึงฆาตก็ไม่ค่อยสมเหตุถ้าฆ่าตัวตายก็ต้องฆ่าตัวตายไปอีกหลายร้อยชาติ)
แล้วทำไมเวลาเกิดเป็นคนก็ลำบาก โน้นนี่นั้น...ตายไปก็ยังต้องไปลำบากอีกอยากกินโน้น กินนี่ ผมแค่สงสัยเท่านั้นเอง แปลกดีครับ

พระเครื่องนั้น ในทางพุทธสานาไม่น่าจะมีคำว่า..ปลอมมั้งครับ..
แต่ในทางโลกพุทธพาณิชย์มีพระเครื่องแท้กับพระเครื่องเก๊แน่นอนครับ

 

อนุโมทนาสาธุในทุกๆคำตอบครับ ...ว่าแต่ท่านทั้งหลายเคยเจอผีหรือยังล่ะ ถ้ายังก็ลองไปหาที่ผีอยู่เช่นป่าช้า สุสาน หรือสถานที่เขาบอกว่าเฮี้ยน แล้วลองเอาพระเครื่องไปด้วย ถ้าเราโดนหลอกแสดงว่าผีไม่กลัวพระเครื่อง แต่ถ้าคุณโดนหลอกแล้วเห็นพระเครื่องของคุณ หรือ ไม่โดนหลอกเลย แสดงว่าผีกลัวพระเครื่อง