เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ขอบคุณพี่นิ่ม ผู้เป็นเจ้าของ พี่หนุ่มทิพย์ผู้ดำเนินการและจัดการแทน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านในครั้งนี้

 

ขอบคุณมากครับสำหรับความห่วงใยที่มีให้กับแม่บ้านผม ตอนนี้อาการปวดที่เกิดจากหินปูนและไหล่ติดมีน้อยมาก(เพราะแผลยังไม่หายสนิทดี) คงมี

เฉพาะการปวดเนื่องจากพังผืดที่แผ่นหลังและเอ็นที่ผ่านไปถึงนิ้วมือข้างขวา หมอคาดว่าน่าจะกลับมาได้ประมาณ ๘๐ % แต่ต้องไปทำกายภาพ

บำบัดทุกวัน รพ.ทหารเรือกรุงเทพฯ พร. รับได้เฉพาะวันจันทร์,วันพุธและวันศุกร์ ที่เหลืออยู่ในความดูแลของหมอที่ รพ.รามคำแหงฯ

ผมไม่ได้ไปงานเททองหล่อพระที่วัดโพธิ์เอนฯ แต่เมื่อวันที่ ๓ ได้ไปงานพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ของเพื่อนที่วัดบางจักร เลยถือโอกาสเอาหนังสือ

ไปถวายพระที่วัดบางจักร และวัดปทุมวัน ที่ลาดบัวหลวง มีโอกาสจะไปทำบุญแล้วจะมาแจ้งให้ทราบ เข้ามาแล้วก็ขอเล่าสักเรื่อง...ก็แล้วกัน

เรื่องเล่า : เรื่องที่ปู่เล่าสู่กันฟังฯ

ตอน : เรื่องของ"ตาธูปหนุ่ย"

สมัยผมเด็กๆ จะได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดถึงพระธุดงค์เก่งๆ พรานเก่งๆ ที่มีคาถาอาคมอันน่าทึ่งอยู่บ่อยๆ และมีศัพท์ที่ผมใช้ผิดอยู่นาน คือคำว่า ตาชี

ปะขาว มักจะได้ยินเกี่ยวกับเทวดาหรือพระอินทร์แปลงตัวมาเป็น"ตาชีปะขาว"มาช่วยเททองหล่อพระ หรือพระธุดงค์มีตาชีปะขาวเดินตาม กว่าจะรู้ว่า

จริงๆ แล้วเขาเรียกว่า"ตาผ้าขาว"หรือ"ตาชีผ้าขาว"ก็เมื่อโตแล้ว แต่ผมก็เชื่อว่าผมได้ยินคนแก่สมัยนั้นพูดอย่างนั้นจริงๆ เรื่องของตาธูปหนุ่ยที่ผมจะ

เล่านี้คงเกิดมาตั้งแต่สมัย ร.๕ เพราะปู่เล่าว่าเป็นเรื่องของตาแกเองที่เป็นคนเล่าให้ปู่ฟังเอง แกเล่าให้ปู่ฟังตอนที่ปู่บวชเป็นพระขณะที่ตัวแกเองแก่

แล้ว...

ปู่เล่าว่าในสมัยที่ปู่อพยพตามครอบครัวของป้าไปอยู่อ่างทอง ก็เป็นสมัยต้นรัชกาลที่ ๖ ปู่บอกว่าตาธูป(ลับหลังแกคนจะเรียกว่าตาธูปหนุ่ย)เป็นผู้ใหญ่

ใจดี รูปร่างสูงใหญ่ ลงพุงแบบอ้วนมาก เป็นคนไผ่ดำ แกเป็นคนที่มีลักษณะการกินเฉพาะตัวที่ลูกหลานจะทำให้แกเป็นประไม่เคยขาด คือ แกชอบ

กินขนมจีนและแกกินได้ถึง ๑ กระจาด เรียกว่าลูกหลานจะทำให้แก ๑ ลูกแป้ง ในวันตรุษไทย และอีกอย่างหนึ่งคือ ขนมขุยหนู ลูกหลานจะทำให้แก

๑ หวด ช่วงงานเวียนเทียนวันวิสาขบูชา ทั้ง ๒ อย่างแกกินเพียงปีละหนเท่านั้น ตอนปู่ไปอยู่ใหม่ๆ จะเห็นแกมานั่งคุยกับผู้ใหญ่ด้วยกันตามไต้ต้สะตือ

หลังบ้าน หลังจากหน้าเกี่ยวข้าว และก็จะเล่นกับเด็กๆ เช่น ให้เด็กต่อยพุงแกเล่นเป็นต้น พุงแกใหญ่เด็กต่อยแกไม่รู้สึกอะไร บางครั้งแกก็จะเล่า

เรื่องพรานป่าเก่งๆที่แกเคยไปขอเรียนคาถาอาคมในสมัยที่แกเป็นหนุ่ม เด็กๆ จะชอบฟังแกเล่าเรื่องเสือเรื่องวัวกระทิงผีสิง ผีป่า ช้างผีสิง เพราะ

ฉะนั้นถ้าวันไหนแกเล่าเรื่องพวกนี้ก็จะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาฟังกันแบบไม่รู้เบื่อ บางครั้งก็เป็นเรื่องการผจญกับผีป่าในรูปแบบต่างๆ ในสมัยที่แกเป็น

ตาชีปะขาวติดตามพระธุดงค์เพื่อขอคาถาและหาของดีฯ เรื่องที่เกี่ยวกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปู่ก็ได้มาจากแก ถ้าสมัยนี้ไม่มี Internet ผมคง

มีเรื่องเล่ามากมายจากการที่ได้ยินได้ฟังมา ปู่เก็บความสงสัยเอาไว้หลายปีจนกระทั่งได้บวชเป็นพระ ปู่เป็นคนเก่งเรื่องความรู้ตามหลักสูตรโรงเรียน

อยู่ก่อนแล้ว พอเป็นพระก็ได้รับมอบหมายให้เป็นครูสอนหนังสือตามหลักสูตร แต่การที่ปู่เป็นนักเทศน์"มหาชาติ"ทำให้ปู่ต้องพยายามหาคาถาอาคม

เริ่มจากวิชาที่ทำให้ด้นกลอนเก่งไม่ติดขัด เป็นวิชาเฉพาะทางเมื่อเรียนสำเร็จแล้ว ปู่บอกว่าถ้าเราจะแหล่ตั้งแต่รากต้นมะม่วงขึ้นไปจนถึงยอด หรือมอง

เห็นช่อฟ้าใบระกาโบสถ์ ก็แหล่เรื่อยลงมาจนถึงลูกนิมิตรก็ไม่มีติดขัด,และ คาถาที่ทำให้มีเสน่ห์คนฟังติดใจ หนักๆเข้าก็กลายเป็นคนแสวงหาวิชา ก็

เลยนึกถีงเรื่องที่ตาธูปเคยเล่าให้ฟังตอนเป็นเด็ก ปู่จึงเข้าหาตาธูป และตาธูปก็ให้คาถาและมีเรื่องเล่าแถมให้....

ตาธูปเล่าให้ปู่ฟังว่า สมัยที่แกเป็นหนุ่มแกกับเพื่อนสนิทที่เคยบวชเรียนมาด้วยกัน พากันออกเดินทางแสวงหาเครื่องรางของขลัง อยากหนังเหนียว

อยากมีคาถาประเภท กำบังกาย ล่องหนหายตัว หรือพวกนะจังงังเป็นต้น ก็เลยพากันไปเรียนตามฆราวาสเก่งๆ โดยเฉพาะพวกพรานป่าล่าสัตว์เก่งๆ

ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับผีโป่งผีป่ามากมาย คาถาอาคมก็ได้มาพอสมควร อยู่มาวันหนึ่งได้ไปพบพระธุดงค์ชรา เกิดความเลื่อมใสก็ขอติดตาม โดยปฏิบัติ

ธรรมปฏิบัติตัวอย่างที่ผมเรียกผิดมานานว่าเป็นตาชีปะขาว ตาธูปเล่าว่าอยู่ได้สักปีหนึ่งด้วยความเลื่อมใส ไม่เคยขอคาถาอาคม นอกจากจะได้ยินที่

ท่านกล่าวดังๆ เหมือนให้ทางอ้อม เดินกันตามป่าตามเขา บางครั้งไม่มีหมู่บ้านให้เห็น แต่พระภิกษุชรา ก็บิณฑบาตรได้เป็นประจำ ก็ได้แต่เข้าใจเอา

ว่าคงจะมีเทวดาหรือนางไม้มาใส่บาตรให้ท่าน เพราะพอจะถามทีไรก็เหมือนกับพระท่านรู้ว่าจะถามอะไร ท่านก็จะพูดดักคอว่าอะไรที่รู้แล้วไม่เป็น

ประโยชน์ก็อย่าไปถามใครเขาอะไรทำนองนี้ วันหนึ่งแกกับเพื่อนก็มีความคิดตรงกันว่า น่าจะลาพระธุดงค์กลับบ้านกันเสียที พอปรึกษากันถึงได้รู้ว่าคิด

เหมือนกัน คือคิดถึงบ้าน หัวค่ำของคืนวันหนึ่งที่แกกับเพื่อนตกลงกันว่าจะบอกลาพระธุดงค์ พอเดินเข้าไปที่กลดของพระชราที่เรียกว่าอาจารย์ตลอด

มา พระภิกษุชราก็กล่าวก่อนว่า จะกลับบ้านกันแล้วหรือ...ดี..ดีๆ แล้วท่านก็ลุกขึ้นยืน รูดใบมะยม ที่อยู่ใกล้ๆกลด แล้วเอาใส่ลงไปในบาตร ส่งให้

ตาธูปกับเพื่อน แล้วกล่าวว่า...เอาไปตักน้ำมาสักครึ่งบาตรนะ...ตาธูปกับเพื่อนก็อุ้มบาตรเดินไปทางลำธารเพื่อไปตักน้ำ ปรากฎว่าเดินไปเพียงครึ่ง

ทางยังไม่ถึงลำธาร ก็รู้สึกได้ว่าในบาตรมีน้ำแล้วโดยที่ยังไม่ได้ไปตัก ก็เดินทางกลับมาหาพระอาจารย์แล้วบอกความจริงให้ท่านฟัง ท่านก็ไม่ว่าอะไร

เอาน้ำในบาตรพรมให้แล้วหยิบของในย่ามส่งให้คนละอย่าง ตาธูปกับเพื่อนรับแล้วก็เก็บใส่ไถ้เอาแขวนคอ พอรุ่งขึ้นก็กราบลาพระธุดงค์ ในช่วงเดิน

ทางนี้เองที่ทั้ง ๒ คนได้เอาของออกมาอวดกัน เพื่อนตาธูปได้"ลูกสะบ้าทองแดง" ส่วนตาธูปได้ "ปลิงทองแดง" ตาธูปเกิดความไม่พอใจ เพราะใจ

อยากได้สะบ้าทองแดงมากกว่า วันหนึ่งในระหว่างเดินทางกลับ ตาธูปซึ่งเดินตามหลังเพื่อนเอาดาบฟันไปที่ขาเพื่อนจนล้มทั้งยืน เมื่อเพื่อนลุกขึ้นมา

ได้ ตาธูปก็พูดเฉไฉว่าลองดูว่าสะบ้าทองแดงจะเหนียวไหม? อะไรทำนองนี้ ซึ่งเพื่อนก็ไม่ว่าอะไร วันต่อมาตาธูปก็โดนเพื่อนฟันเข้าบ้างเช่นเดียวกัน

ผลเหมือนกันคือฟันไม่เข้า และก็แก้ตัวแบบเดียวกัน.....

ทำไมตาธูปจึงมีคนตั้งฉายาว่า"ตาธูปหนุ่ย" เมื่อตาธูปกลับมาบ้านแล้วก็แยกกับเพื่อนแบบบ้านใครบ้านมัน มีอยู่ปีหนึ่งในฤดูหน้าเกี่ยวข้าวเบา หรือหน้า

ข้าวเบา สมัยก่อนนั้นตอนผมโตแล้วก็ยังมี ตามบ้านบางบ้านก็จะเกี่ยวข้าวที่จะเอามาตำข้าวเม่ากินกัน ก็จะเป็นโอกาสของหนุ่มสาวจะได้มาเกี้ยว

พาราสีกัน ส่วนใหญ่ก็จะตำกันในตอนเย็นตอนค่ำหลังจากเลิกงานนาอาบน้ำอาบท่ากันแล้ว คนนวดข้าวก็เอาเท้านวดข้าวไป คนคั่วก็คั่วข้าวกันไป คน

ตำซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายก็ตำกันไป คนที่มีหน้าที่เอามือคนเพื่อกลับข้าวก้นครกก็คนไป ส่วนคนฝัดก็เอากระด้งมาฝัดเอาแกลบออกไป ทำให้คน

สมัยก่อนมีความสัมพันธ์กันดี เด็กๆ คนเฒ่าคนแก่ก็ได้กินข้าวเม่าใส่น้ำตาลสีรำ และก็เอาไปแจกจ่ายกันตามบ้านเรือนใกล้เคียง ตาธูปก็ไม่ต่างจากหนุ่ม

ทั่วไป ที่ไหนมีตำข้าวเม่าก็อดที่จะไปแวะร่วมงานเสียไม่ได้ จุดประสงค์คงไม่ได้อยู่ที่ข้าวเม่า แต่อยู่ที่สาวๆ เสียมากกว่า แต่ครั้งนี้ตาธูปแทบไม่รอด

เพราะถูกมือไม่ดีย่องมาข้างหลังแล้วตีด้วย"สากตำข้าวเม่า"จนสลบ แล้วเอาไปทิ้งไว้กลางทุ่งนา ตาธูปสลบจนถึงเช้า ฟื้นขึ้นมาไม่เป็นอะไร นอกจาก

หัวบวม บวมปูดขึ้นมาเท่ากำปั้นและมันอยู่อย่างนั้น...ไม่ยุบ...ติดหัวมาตลอด บังเอิญมีคนชื่อ"ธูป"อีกคนหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน คนจึงเรียกตา

ธูปเจ้าของเรื่องนี้ว่า"ตาธูปหนุ่ย"

ปลิงทองแดงของตาธูปหนุ่ย เวลาเอาแช่น้ำดูเหมือนว่ามันมีชีวิต คือเหมือนกับว่ากระเพื่อมเคลื่อนที่ได้ ดูเหมือนมีเมือก แล้วใครได้ไป ? เป็นคำถาม

ที่หลุดจากปากคนฟังแทบจะพร้อมๆกันจากท่านผู้ฟังทั้งหลาย ไม่มีใครได้ ปู่บอก ตาธูปตายด้วยโรคชราในฤดูน้ำ ก่อนแกตายแกเอาปลิงทอแดงออก

มาให้ลูกหลานดู แล้วบอกว่าไม่มีใครสมควรได้ และจะได้ไม่หากันให้วุ่นวาย...พูดจบแกก็ขว้างปลิงทองแดงไปหล่นน้ำที่หน้าบ้านแก....มีคนพยายาม

หาทั้งหน้าน้ำหน้าแล้ง ก็ไม่มีใครเจอ....เรื่องของตาธูปเกี่ยวกับผี เกี่ยวกับป่า อาคมของขลังมีมากมาย มีโอกาสจะคัดเอามาเล่าให้อ่านกันอีก....

ขอบคุณมากครับ

 

ลงรูปอาจารย์สถาพรไม่คมชัดเท่าไหร่ ปรับแต่งแก้ให้พอสมควร

 

สวัสดีครับพี่ทิพย์ ลำดับที่ 21
ยอดจองเหรียญตรงแต่ยอดเงินไม่ตรงครับ
ต้องค้างชำระ 2,000 บาทครับ ผมขอโอนต้นเดือนหน้าครับ
ขอบคุณครับ

 

อาจารย์สถาพร อยู่หล่มเก่า เพชรบูรณ์หรือเปล่าครับ
ถ้าใช่เคยมีหนังสือของท่านอยู่แต่ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว ต้องลองค้นดู

 

ขอบคุณคุณพ่อประดู่ที่มาอัพเดทนะครับ ยินดีที่คุณอาผู้หญิงดีขึ้นครับ

 

ดีใจที่ได้ข่าวดีของภรรยาพี่ประดู่
ผมคอยติดตามอาการอยู่เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน แต่ยังน้อยอยู่
เพื่อจะเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว
และเผื่อเป็นเหตุจูงใจให้ขยันออกกำลังกาย
อ่านเรื่องของพี่แล้วคิดถึงบรรยากาศบ้านเราจังเลย
ไม่ค่อยได้ยินคำว่า"ลูกแป้ง" อาจจะเป็นไปได้ว่าสมัยนี้คนไม่ค่อยกิน
ขนมจีนแป้งหมักกันแล้ว
ยังคิดถึงทำบุญกลางแจ้งใต้ต้นสะตือ
วันสงกรานต์ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดผมจะกลับวิเศษฯ
รวมทั้งจะไปกราบและร่วมทำบุญกับพระอาจารย์พยุงด้วยครับ

 

ฝากบอก อาจารย์พยุงด้วยครับว่า "หน้ากุฏิของเยอะแล้ว ยกให้ลูกศิษย์ให้หมด จะโล่งอย่างรวดเร็ว ดูดีขึ้นมากทันตา จะได้เหมือนสมัยหลวงตาพร้อม โล่ง เรียบ ง่าย..."

ขณะนี้ พี่หนูกำลังเดินทางไปกราบเยี่ยมอาจารย์ฯ คงจะได้ทราบความคืบหน้าของสุขภาพท่านฯ

สมัยท่านฯยังแข็งแรง เคยบอกพี่หนูให้เข้าป่าไปเอารอยพระพุทธบาทออกมา
พี่หนูเดินทางเข้าป่าไปเป็นกิโลฯ ตามลายแทง และสกัดหินเอาออกมาได้ พบเจอปาฏิหารย์มากมายเล่าสนุก

ถ้าคุณมีหนังสือของท่านฯ ก็คัดลองมาแบ่งปันได้จะดีมากครับ

.......................

เมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับพี่สาวท่านหนึ่ง เป็นลูกหลานหลวงปู่ห้วย
พี่สาวเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ฯไม่ค่อยจะเสกพระฯให้ใคร ไม่ค่อยจะคุยกับใคร
แต่กับพี่นิ่ม ท่านฯเมตตามาก พี่สาวท่านนี้ก็เลยสงสัย เข้าเวปฯไปดูว่าเป็นใคร
พอเห็นกระทู้ผมขายพระฯ ก็เลยถามพี่นิ่มตรงๆว่า เอาพระฯไปขายหรือเปล่า?

พี่นิ่มตกใจมาก เลยต้องอธิบายกันยาว
มีผมคนเดียวครับ ที่ขาย ถ้ามีคนอื่นเอามาขาย แปลว่ามีพระฯส่วนหนึ่งไม่ถึงมือทหาร

หลวงปู่ห้วย ท่านเป็นพระที่ไม่สนใจเทคโนโลยี ไม่ชอบแม้แต่โทรศัพท์พื้นฐาน อย่าว่าแต่มือถือเลย...
วันที่คุณแม่พี่นิ่มจะไป พี่นิ่มร้อนใจกลัวคุณแม่ไปไม่สบาย นึกถึงหลวงปู่ห้วยรูปเดียวว่าจูงคุณแม่ไปได้แน่ เลยโทรฯหาพี่สาว พี่สาวก็ถามหลวงปู่ฯว่า คุณนิ่มโทรฯมา หลวงปู่ฯจะรับสายไหม?

พระลูกวัดที่อยู่กับหลวงปู่ฯมานาน ก็แปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นหลวงปู่ฯรับสายใครนานขนาดนี้
หลวงปู่ฯเมตตาพี่นิ่มเกือบชั่วโมง! คุณแม่ใยไปสบายแล้ว

พี่สาวท่านนี้เป็นบุตรของนักเลงดังในพื้นที่ คุณพ่อเสียชีวิตเนื่องจากถูกคนร้ายระดมยิงด้วยM16 5 กระบอก ไม่เห็นเลือดเลย รุมตีรุมแทงก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องแย่งปืนจากเจ้าของยิงสวน! คุณพ่อฯท่านฝังเหล็กไหล

พี่สาวเลยเป็นคนที่เชื่อเกี่ยวกับเครื่องรางวัตถุอาถรรพย์ และเชื่อในกุศลผลบุญ
ที่ได้อุปฐากหลวงปู่ฯ ก็ด้วยเกรงว่าจะมีกลุ่มคนมาทำมิดีกับท่านฯให้เสียชื่อพระปฏิบัติ และกันท่าพวกพุทธพาณิชย์

เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เนื่องจากพี่สาวท่านนี้ ได้รับรู้เรื่องที่ท่าน นาวาเอกสมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ (ผบ.ฉก.นย.ทร.) ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กล่าวขอบคุณพระเครื่องฯของพี่นิ่ม ที่ได้รับแจกไปสร้างขวัญกำลังใจและประสพการณ์ให้กับผู้บังคับบัญชา ผ่านรายการทีวี (แต่ไม่ยักจะมีใครจำได้ว่ารายการอะไร...ใครรู้ช่วยบอกหน่อย)

 

ด้านหน้าคล้ายๆกัน ผงสีขาวคงเท่าๆกัน แต่ด้านหลังของผมก็มีผง และอะไรไม่รู้เป็นเกล็ดแวววาว ปูดออกมาจากเนื้อพระ

ไม่แน่ใจว่าเป็นปฏิกิริยาอ็อกซิเดชั่นของแร่ไหลเพชรดำหรือเปล่า???????

ผมถ่ายรูปไว้แล้ว ยังไม่มีเวลานำลงให้ชม ลืมคอมพิวเตอร์ไว้ที่สำนักงาน ๒ วันแล้ว

 

ย้อนกลับไปดูของเก่าในกระทู้ตัวเอง เพื่อค้นหารายชื่อผู้ร่วมจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ฟังสวดอภิธรรม 8 ท่าน

เพื่อที่จะลงขอบคุณในหนังสือของพี่นิ่ม ก็เลยไปเจอรูปที่คุณhelium บันทึกภาพไว้ สมควรได้รับการตอบแทน (พี่นิ่มจำคุณได้นะ)

ตะกรุดฯผมต้องจ่ายชำระให้ทางวัดก่อน เพื่อสะดวกใจในการรับมาปลุกเสกเพิ่ม หากมีสมาชิกท่านใดเกิดเปลี่ยใจ ภาระจะเป็นของผม

แต่งานนี้ยกให้คุณ มีตังค์แล้วมาไถ่คืนนะครับ


ขออนุญาตบันทึกรายชื่อ ผู้จัดซื้อโต๊ะฟังสวดอภิธรรม วัดป่าแดง (เจ้าของลูกอมมหามงคลโสฬส)
คุณเซฟาโร่
คุณSA NAKORN
คุณcrane
คุณธรรมจักร
คุณBEE15
คุณineedo
คุณบานชื่น
คุณknurack

 

พี่ครับ ผมขอบูชาเหรียญกรมหลวงชุมพรเนื้อทองแดง 1 เหรียญนะครับ โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบ

 

ขอขอบคุณในความระลึกถึงและความห่วงใยที่มีให้กับครอบครัวผม แม่บ้านผมเป็นคนกำลังใจดี และตัดใจไม่บ่นหรือโทษอะไร เขาคิดว่ามันเป็นเวร

กรรมที่ตามมาทัน และเขาถือว่าเป็นเรื่องดีที่ตามมาเอาคืนเสียชาตินี้หรือตอนนี้ ดีกว่ามาเอาคืนตอนชาติหน้าหรืออนาคตของชาตินี้....คือถ้ามาเอาตอน

แก่กว่านี้คงจะลำบากมากกว่านี้ เมื่อเข้ามาแล้วก็ถือโอกาสเขียนในลักษณะที่มีความทันสมัยสักเรื่องหนึ่ง ความจริงเรื่องเล่าผมก็ไม่อยากเขียนสักเท่า

ไหร่หรอกนะ แต่ที่เขียนมานั้นก็เพื่อบอกว่าในสังคมของเราเคยมีเรื่องอย่างนั้นอยู่ และที่เขียนเรื่องเล่าก็เพราะเรื่อง She หรือ Her มันไม่"Work

วันนี้ถึงจะเขียนเป็นวิชาการบ้าง ก็จะเขียนอย่างให้เข้าใจง่ายและเอาไปพูดต่อได้อย่างไม่ผิด......

เรื่อง : ขอเชิญชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานในบางแง่มุมฯลฯ

ในขณะนี้คงต้องยอมรับกันว่าข่าวที่เกี่ยวกับการหยุดส่งก๊าสหรือแก๊สจากพม่าในระหว่างวันที่ ๕-๑๔ เม.ย.๕๖ เป็นข่าวที่น่าสนใจและควรสนใจ ผมก็

เลยถือโอกาสนี้เขียนเรื่องให้เข้าใจง่ายได้อ่านกัน....ลองอ่านและคิดเองเอาบ้างนะครับ....

LPG เคยมีนักวิชาการที่เป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยภาคไต้ท่านหนึ่ง ได้ออกมาท้วงติงเรื่องการที่รัฐ จะขึ้นราคาค่าแก๊ส LPG โดยให้เหตุผลว่า

ท่านได้ทำการค้นคว้าเอกสารต่างๆ จากศุลกากรย้อนหลังไปหลายปี ประเทศไทยไม่เคยมีการนำเข้า LPG เลย ตัวแทนของ ปตท.ออกมาชี้แจงอย่าง

สุภาพว่า เวลาเรานำเข้าเราจะนำแยกมาเป็นตัวๆ เราไม่ได้นำเข้ามาในรูปแบบของ LPG เรื่องก็เลยเงียบไป เราต้องเข้าใจในพื้นฐานง่ายๆว่า LPG มัน

มาจาก โปรเทน และ บิวเทน ฉะนั้นเรานำแยกกันเข้ามาได้ตามความจำเป็นของแต่ละตัว แล้วเราก็เอามาแยกเก็บได้ อย่าเพิ่งเอาวิชาการมาโต้แย้งใน

ใจในตอนนี้ ผมพยายามที่จะให้ท่านที่อ่านเข้าใจได้ง่าย LPG ตามปกติเราก็ได้มาอยู่แล้วจากการกลั่นน้ำมันตามปกติ นี่เป็นพื้นฐานที่ให้เข้าใจง่ายๆ

ว่า ถ้าจะมีการนำเข้าจะนำเข้าอย่างไร ?

ถ้าสมมติว่าความเป็นจริงเราไม่เคยนำเข้าเลย ลองย้อนไปนึกดูถึงแม่ค้าขนมหวานใส่น้ำเชื่อม เราจะบอกได้ไหมว่าแม่ค้าคนนั้นมีกำไรอย่างงาม เพราะ

เราไม่เคยเห็นเขาซื้อนำเชื่อมมาเลย แต่บนความเป็นจริงแม่ค้าซื้อนำตาลทรายและน้ำนมแมวมาทำน้ำเชื่อม แก๊ส LPG เกิดจากกระบวนการ การกลั่น

นำมัน แล้วน้ำมันดิบเรานำเข้าใช่หรือไม่ ดังนั้น LPG เป็นการนำเข้าหรือไม่ อย่าเอาไปรวมแบบโมเมกับเรื่องก๊าสธรรมชาติในอ่าวไทย ในอ่าวไทย

เราได้ NGV หรือก๊าสธรรมชาติประมาณ ๙๐ % เป็น LPG ประมาณ ๑๐ % ผมรู้จักอณาบริเวณ แท่นขุดเจาะ ตั้งแต่ยังไม่มีแท่นขุดเจาะ ,จนได้

ขน"คอนเดนเสท"จากแท้งค์สโตร์สู่โรงกลั่น สุดท้ายคือเอาสารปรอทอัดกลับลงสู่ใต้ดิน(แท่นขุดเจาะนับป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการควบคุมมลพิษ : ขอ

ชมเชยด้วยความจริงใจและขอขอบคุณในการกระทำที่เป็นคุณ) แค่นี้คงพอมองกันออกแล้วใช่ไหมครับเรื่องแก๊ส LPG อย่าคิดว่าที่กลางอ่าวไทยเราได้

มาฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีต้นทุน ถ้ามีคนได้สัมปทานขุดเหมืองทอง พอเขาได้ทองมาเราจะไปเอาของเขามาฟรีๆ จะได้ไหม? ลองคิดเปรียบเทียบกันเอง

เคยมีผู้มีอำนาจท่านหนึ่ง ท่านประกาศว่าจะนำเข้าน้ำมัน "ดีเซล"จากรัสซีย ผมก็ได้แต่คิดในใจว่า "เจ้งแล้วประเทศไทย" เราต้องมาทำความเข้าใจกัน

ก่อนว่า กระบวนการกลั่นเป็นอย่างไร สมมติว่าเราเอาน้ำมันดิบใส่เข้าไปจำนวนหนึ่ง สมมติว่ามันจะออกมาเป็นน้ำมันเบนซิน ๑๐๐ หน่วย ดีเซล ๑๕๐

หน่วย น้ำมันเตา ๒๐๐ หน่วย LPG,ยางมะตอย, กำมะถันอีกจำนวนหนึ่ง ถังเก็บน้ำมันต่างๆ ออกแบบจำนวนไว้ตามจำนวนที่ได้จากกระบวนการกลั่น ถ้า

เราไปเอาน้ำมัน"ดีเซล"จากต่างประเทศมาใช้ พอถังใส่น้ำมัน"ดีเซล"ในประเทศเต็ม เพราะไม่ได้ขาย โรงกลั่นต้องหยุดกลั่น เพราะไม่มีที่จะเก็บน้ำมัน

ดีเซล น้ำมันเบนซินขาดตลาดอะไรจะเกิดขึ้น น้ำมันเตาขาดตลาดอะไรจะเกิดขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ จะทำอย่างไร ต้องสั่งเข้าทั้งหมด จะเอา

เงินที่ไหน? จะเอาอะไรขนนำเข้า ? ...อนิจจา...

เคยนั่งรถแท็กซี่ ก็จะได้ความรู้เรื่องน้ำมันเถื่อนจากแท็กซี่ ทั้งที่มาที่ไปตามประสาผู้รู้ ถ้าได้นั่งนานๆ ก่อนลงสัก ๑๕ นาที ก็จะบอกเขาว่า ทีคุณว่า

น้ำมันเถื่อนมาจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือจีน นั้นน่ะ มันเป็นเรื่องโกหก คนขายน้ำมันเถื่อนเขาไม่โง่ไปขนมาไกลๆ ให้เสียค่าขนส่งเสียเวลาหรอก

และที่คุณว่าน้ำมัน มาเลเซียถูก มันถูกเฉพาะสำหรับประชากรของเขา เราไปสั่งเขาเพื่อนำเข้ามาบ้านเราก็จะถูกพอให้เราเอามาทำกำไรได้ตาม

กระบวนการค้าเท่านั้นแหละ สมมติว่าวันนี้คุณ MooDam อยากจะค้าน้ำมันเถื่อน คุณก็ไปตั้งบริษัท MooDam Co.,Ltd. ที่ประเทศสิงคโปร์ หรือที่

ไหนก็ได้ แล้วทำการสั่งน้ำมัน"ดีเซล"จากโรงกลั่นในประเทศไทย ๑๐๐ ล้านลิตร ทางโรงกลั่นประเทศไทยจะเป็นบริษัทไหนก็ขายให้คุณ MooDam

ตามกฎหมาย การส่งออกจะมีการลดภาษีบางตัวออกไปสำหรับน้ำมันส่งออก เช่น ลดลงไปลิตรละ ๒.๕๐ บาท คุณสั่ง ๑๐๐ ล้านลิตร คุณก็ลดภาษี

ไป ๒๕๐ ล้านบาท คุณก็จ้างเรือมาขนไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรือขนาดใหญ่ ตามกฎหมายทั่วไปเกี่ยวกับน่านน้ำอณาเขต ถ้านอกเขตนั้นไปแล้วใครก็

ไปตรวจจับเขาไม่ได้ เช่น ของเราประกาศไว้ ๑๒ ไมล์ทะเล เรือน้ำมันของคุณ MooDam รับน้ำมันจากโรงกลั่นของไทยเสร็จ ก็ออกเดินทางไปให้

พ้นน่านน้ำไทยแล้วทิ้งสมอจอดขาย เจ้าหน้าที่ไทยก็ตรวจจับไม่ได้ ได้แต่คอยจับคนซื้อจากเรือใหญ่แล้วนำเข้าฝั่งไทย เครื่องมืออุปกรณ์เราไม่เพียง

พอ จับได้เฉพาะรายย่อยหรือที่เขาอ่อยให้จับ คิดว่าพอเข้าใจนะครับ แล้วคุณ MooDam ถ้าคิดจะค้าน้ำมันเถื่อนจะถ่อสังขารไปซื้อต่างประเทศไหม

ครับ? และถ้า"คุณคนวิเศษ"คิดจะค้าน้ำมันเถื่อนทางบกจะทำอย่างไร ก็จดทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันส่งออก จะส่งไปกัมพูชา หรือสาธารณรัฐประชาชน

ลาวก็ได้ คุณก็ได้ลดภาษีเพราะเป็นการส่งออกเหมือนกัน สมมติว่าได้ลดลิตรละ ๒.๕๐ บาท วันนี้คุณก็ทำเรื่องส่งออกไปทางรถ สมมติว่า ๑๐๐ คันรถ

จำนวน ๑ ล้านลิตร เมื่อคุณส่งเสร็จคุณก็เอาหลักฐานมาขอคืนภาษีลิตรละ ๒.๕๐ บาท หรือคืนได้ ๒.๕ ล้านบาท แต่...!!! รถบรรทุกน้ำมันของคุณ

คนวิเศษ ออกไปต่างประเทศทุกคันจริงหรือ อาจจะออกไปแค่ ๕๐ คัน ก็ทำกำไรตามปกติ แต่อีก ๕๐ คันที่ไม่ได้ออกไป แต่มีเอกสารว่าออกไป

น้ำมันที่ไม่ถูกเก็บภาษีจะขายอยู่ในประเทศไทย และนี่คือน้ำมันเถื่อน คิดว่าคงเข้าใจและนำไปคิดเพิ่มเติมก็จะกระจ่างยิ่งขึ้น ผมพยายามที่จะเขียน

แบบเข้าใจง่าย อาจจะมีบางท่านสงสัยว่าผมรู้ได้อย่างไร และจริงหรือที่เขียนมาให้อ่านกัน ก็ขอบอกให้ทราบว่าผมพอรู้อยู่บ้าง เพราะเคยทำงานแบบ

เกี่ยวข้อง เช่น เป็นกัปตันเรือน้ำมัน และเรือแก๊ส ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เคยทำงานร่วมกับต่างชาติตอนสำรวจกลางอ่าว

ไทย ตั้งแต่ยังไม่มีการขุดเจาะ คืออยู่ในช่วงสำรวจและกำหนดจุดที่จะขุดเจาะเคยทำงานร่วมกับบริษัท ที่เป็นบริษัทโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย ถึง

๒๐ ปี มีประกาศนียบัตร Master Mariner เคยผ่านการอบรมได้ ปก.ADVANCED TANKER SAFETY (Liquefied Gas) จาก Singapore

Polytechnic และ ปก.Advanced Gas Tanker ,ปก.Advanced Chemical Tanker กับ ปก. Advanced Oil Tanker เกี่ยวกับการตรวจ

สภาพดินฟ้าอากาศ เคยได้รับ ปก.แสดงความขอบคุณจาก The Rayal Observatory,HongKong และ The World Meteorological

Organization Voluntary Observing Ship's Schemeฯลฯ คงจะทำให้ท่านที่อ่านพอจะมั่นใจได้ว่า เรื่องที่เขียนมาพอมีสาระอยู่บ้าง....

ขอขอบคุณทุกท่านครับ

 

ขอบคุณมากครับคุณอาพ่อประดู่ สาระดีมากครับทำให้เข้าใจในรายละเอียดจนพอที่จะเข้าใจได้ครับ

 

ขอบพระคุณมากๆครับพี่หนุ่มทิพย์สำหรับตะกรุด

ผมจะพยายามเร่งสะสมเงิน แล้วจะรีบโอนไปให้ครับ

 

.



สำหรับเยาวชนอย่างผม กว่าจะสะสมเงินค่าขนม เพื่อที่จะให้ได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ตัวเองศรัทธานั้น ต้องอดออมและอดทนเอามากๆเลยยย T___T

พี่ทิพย์ครับ...

วันนี้ 24/02/56 เวลา 21.59 น.

ผมได้โอนเงินจำนวน 800 เพื่อบูชาหลวงปู่ทวดเรียบร้อยแล้วครับ (มีที่อยู่ทางpmแล้ว) ขอบพระคุณครับ.



.

 

เยาวชน คือชนที่ยังต้องพึ่งพาผู้ปกครอง
ยังเรียนไม่จบหรือครับ
น่าจะเก็บตังค์เป็นทุนการศึกษา ซื้ออนาคตตัวเองจะดีกว่านะครับ

ทำบุญด้วยการสวดมนต์ไม่เสียตังค์ และจะเรียนเก่งขึ้นด้วย

หรือลองเอาวัตถุมงคลที่เช่าๆไป ออกมานับดูสิ ว่ามูลค่ารวมกันมันเท่าไหร่แล้ว...
.......................

พี่หนูเข้าไปกราบเยี่ยมอาจารย์สถาพรแล้ว พบว่าท่านสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก
พี่หนูยังอุตส่าห์เป็นห่วงคุณแม่พี่นิ่ม สอบถามกับอาจารย์ฯว่า คุณแม่ใย(พรงาม) เป็นอย่างไรบ้าง

อาจารย์ฯนั่งกรรมฐานนานหน่อย...ถึงเจอ

เรื่องนี้ฟังเอาเพลิน แต่ใครอยากเรียน ก็ไว้ไปฝากตัวขึ้นกรรมฐานกับท่านฯ

 

ท่านอาจารย์สถาพร สุขภาพดีพอที่จะเริ่มสอนใหม่อีกครั้งได้แล้วหรือครับ ถ้าไม่มีรถส่วนตัวแต่นั่งพวกรถทัวร์ไป จะไปได้ง่ายไหมครับ พี่พอทราบไหมครับผม ขอบคุณครับสำหรับข่าวสารต่างๆครับ

 

ช่วงวันหยุดไปนั่งสมาธิมาก็ได้อุทิศบุญให้กับคุณแม่พี่นิ่มด้วยครับผม และกัลยามิตรทุกท่านครับ

 

เมื่อเย็นวาน พี่นิ่มโทรฯมาด่วน บอกทางวัดฯจะขอใช้บริการหนุ่มทิพย์ทำป้ายให้หน่อย
ผมถามว่า "ขอใช้บริการ" หรือ "เรียกใช้"

พี่นิ่มหัวเราะ แล้วบอกว่า "จะเอาด่วน วันจันทร์เอามาให้เลยนะ..."

ผมมีปัญหาเรื่อง "โดนเร่งไม่ได้" เป็นนิสัยที่เสีย ที่ยอมรับไม่ได้เลย พยายามแก้แต่แก้ไม่หาย

ดังนั้น หากรักกันจริง อย่าเร่งผมโดยเด็ดขาด เหมือนกดปุ่มระเบิดอย่างไรอย่างนั้น

................................

ถ้าพี่นิ่มไม่เร่งผม ผมจะทำออกมาได้สวยกว่านี้ แต่ให้เวลาผมแค่ 24 ชั่วโมง ก็จะได้ประมาณนี้ เชิญทัศนา

ปล.วันนี้วันเดียว มีคนเข้ามาเช่าบูชาพระสมเด็จฯคนเดียวเกือบ 5หมื่นบาท (หมอหมิน)

 

วันนี้ได้คุณวินัย ช่วยเป็นธุระ รับพระเครื่องฯมาส่งให้ผม ทุกอย่างครบถ้วน พร้อมส่ง
ขาดแต่เหล็กไหลน้ำ ที่พี่นิ่มหวงมาก! ถ้าไม่ใช่ผมกับพี่ไพรัช คงจะยาก ดังนั้นต้องไปเอาเอง....

จะเริ่มจัดส่งภายในสัปดาห์นี้ โปรดรอครับ
............................


เพิ่งจะรู้ว่าแฟนคุณวินัยมีตาทิพย์ มองเห็นผีได้โดยปรกติ คนแบบนี้จะมุ่งทำแต่ความดี
ได้ฟังเรื่องเล่าของน้องเบียร์(แฟนคุณวินัย)แล้วสนุกมาก น่าจะนำมาเขียนถ่ายทอด
ไว้โอกาสดีๆจะชวนมาเขียนด้วยอีกคน