DIY : รวมทิป ของทำเอง ใช้ยามฉุกเฉินและไปแคมป์ปิ้ง...

รายละเอียดเพิ่มเติมล่าสุดของข่าวนี้ค่ะ


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zhYwnfBLVEM]รอดปาฏิหาริย์หลังหลงป่าครึ่งเดือน - YouTube[/ame]

 

DIY: Char cloth (ถ่านผ้า)

ถ่านผ้าเป็นเชื้อไฟที่ได้รับความนิยมชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวอเมริกัน

วัสดุ
1. ตลับโลหะ ชนิดกลมหรือเหลี่ยม ก็ได้ เช่น กล่องหรือตลับยาขัดรองเท้าที่หมดแล้ว, กล่องใส่ยาอมแก้ไอ
2. เศษผ้าฝ้าย ตัดจากเสื้อยืดเก่า แต่ต้องเป็น ผ้าฝ้าย 100% หรือ ไส้ตะเกียงเส้นกลมๆ
3. กองไฟ หรือ เตาแก๊ส

วิธีทำ

- นำกล่อง หรือตลับโลหะมาเจาะรู
- นำเศษผ้า หรือไส้ตะเกียงมาบรรจุ
- ทำการเผาทั้งตลับ ให้ดูที่รูที่เจาะไว้ จะมีก๊าซหรือควันพุ่งออกมา รอจนควันหมด จึงนำมาพักไว้ให้เย็น เปิดดู ถ้าเป็นสีดำหมด ถือว่าเป็นถ่านผ้าที่ดี แต่ถ้าเป็นสีน้ำตาลเหมือนไหม้ไม่หมด ควรนำไปเผาอีกครั้ง

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ivQf5IheB_I" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Tip: ตลับที่ใช้ทำถ่านผ้า สามารถใช้งานเป็นที่เก็บถ่านผ้าเชื้อไฟได้ในตัว
โดยที่

- ถ้าเป็นตลับกลม ให้เจาะรูด้านข้าง (ในคลิปเจาะด้านบน)โดย คลายจากตลับที่ปิดสนิทนิดหน่อย แล้วค่อยกำหนดตำแหน่งสำหรับเจาะรู เพื่อที่ใช้เป็นตลับทำถ่านผ้า แต่ถ้าปิดสนิท ก็จะเป็นที่บรรจุถ่านผ้า กันน้ำได้
- หากเป็นตลับสี่เหลี่ยม ควรเลือกตลับที่ฝากับฐานตลับ แยกออกจากกัน ไม่ควรเป็นฝาพับ เพราะจะใช้สำหรับเก็บเชื้อไฟไม่ได้ เจาะรูด้านข้างใดข้างหนึ่ง พอจะเก็บเชื้อไฟ ก็สลับข้างกัน จะใช้บรรจุเชื้อไฟแบบกันน้ำได้

คลิปสาธิตการใช้ char cloth

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/Y-SvhpL5T3k" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลิปนี้แสดงวิธีทำ Char cloth ด้วยกระดาษฟอยล์ กระดาษฟอยล์ก็สามารถนำไปทำ char cloth ได้ แต่ส่วนตัวผมเห็นว่า ไม่สามารถนำไปทำที่เก็บบรรจุถ่านผ้าได้ดีเท่า ตลับโลหะ

-หากอยู่ในป่า หาเศษหญ้าแห้งได้ ให้ม้วนหญ้าเป็นก้อน แล้วจุดถ่านผ้าบนกองหญ้าโดยเป่าลมยาวๆ เบาๆ เพื่อให้ไฟติด ไม่จำเป็นต้องเป่าแรงๆ

 

ขอบคุณค่ะ พี่ Jingjoknayork

 

Tips : การจุดไฟด้วยมีเล่มเดียว

บังเอิญไปพบกระทู้ผู้สาธิตการจุดไฟด้วยมีดเล่มเดียวครับ ในกระทู้มีการจุดไฟสองแบบคือใช้แท่งจุดไฟ กับการจุดไฟแบบ Phillipino Elocano Style ซึ่งใช้มีดเล่มเดียว ซึ่งมีประโยชน์มากในกรณีที่ฉุกเฉินจริงๆ มีแต่มีดเล่มเดียวติดตัว

ทักษะการเอาตัวรอดในป่า

Credit : คุณ Warlock

 

ขอบคุณค่ะ พี่ Jingjoknayork
สำหรับ สาระดีๆที่นำมาฝากค่ะ
ติดตามอ่านอยู่เสมอค่ะ

thaxx

 

ชอบกระทู้นี้ค่ะ ได้ความรู้ติดตัวเยอะดี ขอบคุณคุณจิ้งจกหน้าหยกค่ะ

 

ขอบคุณครับ แต่ว่า ต้องขออภัยที่จริงๆ แล้ว ผมใช้ชื่อว่า "จิ้งจกน่าหยอก" ครับ ไม่หล่อครับ ไม่กล้าใช้คำว่า "หน้าหยก" ครับ อิอิ

ช่วงนี้ผมสนใจเรื่องพืชพรรณในป่า ที่ใช้ดำรงชีพได้ เลยเริ่มง่ายๆ ที่เห็ด เจอหลายๆ ที่เลยรวบรวมกันมาให้เข้าไปอ่านกันดูนะครับ

เห็ดกินได้และเห็ดสมุนไพร

กระทู้รวบรวมเห็ดป่ากินได้..มือใหม่ ควรศึกษาให้ดีก่อนรับประทาน
เห็ดกินได้
เห็ดป่าที่กินได้

 

ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้ดีๆ
ขอสารภาพว่า ตอนแรก อ่านชื่อพี่ว่า
จิ้งจกหน้าหยกเหมือนกัน (smile)

 

พี่ Jingjoknayork คะ

จะมีวิธีป้องกันอันตราย และดำรงชีพอย่างไรที่จะปลอดภัย
หรือมีเครื่องมือ อุปกรณ์ใด
ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้บ้างค่ะ
กรณีมีลูกเห็บตกมากๆๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ

thaxx

 

ถ้ามาจากเว็บไทยเรานะครับ
11 แนวคิด ป้องกันภัย พายุและลูกเห็บถล่ม | Yenta4 Webboard

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ลูกเห็บเป็นก้อนน้ำแข็งดีๆ นี่เอง แต่อย่างที่เกิดในประเทศไทยเราช่วงนี้ เป็นก้อนค่อนข้างใหญ่ ที่ผ่านมาผมเองก็เคยเจอแต่ลูกเห็บก้อนเล็กๆ

- ในกรณีที่อยู่ในอาคารบ้านเรือน
พยายามอยู่แต่ในตัวอาคาร อาจจะต้องอยู่ห่างๆ กระจก หรือหลังคากระเบื้องเปล่าๆ ที่ไม่มีฝ้า เพราะก้อนน้ำแข็งที่หล่นมา โดยเฉพาะลูกเห็บที่มากับพายุแรงๆ อาจจะทำให้กระจกแตกได้ ถ้ากระจกนั้นบางเกินไป ส่วนหลังคาที่มีฝ้า ก็จะกันไม่ให้ลูกเห็บมาถึงตัวเรา หากบ้านใครเป็นบ้านที่เพดานเป็นปูนซีเมนต์ ก็สามารถลดความเสี่ยงอันตรายลงได้

- ในกรณีที่อยู่ข้างนอก
ใกล้อาคารก็หลบใต้อาคาร ใกล้ต้นไม้ใหญ่ ให้หลบเข้าใต้ต้นไม้ เพื่อกิ่งไม้ พุ่มไม้หนา กิ่งไม้ พุ่มไม้จะเป็นเหมือนตัวลดแรงประทะของลูกเห็บ ลดความรุนแรงได้ระดับนึง (ถ้าเป็นลูกเห็บลูกโตๆ แบบช่วงนี้)

- ถ้าอยู่ในรถ ก็แบบคำแนะนำครับ หยุดรถ จอดเข้าข้างทาง หลบแต่ในรถ จนกว่า พายุจะสงบ

- ถ้าอยู่ในบ้าน ควรมีไฟฉาย เครื่องสำรองไฟ ฯลฯ เผื่อไฟฟ้าอาจจะดับในช่วงที่พายุมา และ/หรือ พายุกินเวลานาน

ส่วนอุปกรณ์ หรือเครื่องมือนี่ ผมคิดแทบไม่ออกเลย เนื่องจากพายุลูกเห็บหนักๆ เพิ่งมาเกิดเอาช่วงนี้ บ้านเราไม่เคยเกิดแบบแรงๆ ก้อนใหญ่ๆ แบบนี้มาก่อน

มีวิดีโอของเมืองนอก ซึ่งหลังคาที่ใช้เป็น มาตราฐาน UL 2218 class 4 standard เขาออกแบบเพื่อรับแรงกระแทกของลูกเห็บโดยเฉพาะ มาเป็นตัวอย่างให้ชมกันครับ

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/o_yIlMl-ehI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

อีกตัวอย่าง สำหรับรถครับ

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/l-NbLurUdPM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

จากไอเดียเรื่องป้องกันรถ ทำให้คิดว่า "ตาข่าย" ก็อาจจะลดความเสียหายได้ แต่ก็คงเป็นแค่ความคิด ถ้ามีใครนำไปทดลอง ก็ขอให้แจ้งผลการทดลองให้ทราบด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง...

 

ถ้าใช้ตาข่ายจะต้องตาถี่มากเพราะลูกเห็บมีหลายขนาด ซึ่งขนาดเล็กอาจจะหลุดรอดรูตาข่ายได้ จึงควรจะเสริมด้วยผ้าพลาสติก สีฟ้าขาว ที่มีขายทั่วไปที่ใช้แคมปิ้งคลุมบนตาข่ายอีกชั้นและตึงไว้กับตาข่ายกันปลิวตามลมโดยให้สูงกว่าหลังคารถ ประมาณ 50 ซม.กันกระแทก

 

ผมนึกถึงตาข่ายที่ใช้ในสนามกอล์ฟน่ะครับ..ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่า ไปดูตามเว็ปแล้ว ไม่น่าจะแพงมากด้วย...ถ้ารวมกับแผ่นผ้าพลาสติก คงช่วยได้เยอะหน่อครับ

เพราะปัญหาที่คิดไว้คือเป็น งานหลังคา คงใช้ปริมาณพื้นที่เยอะ ใช้เงินมากพอควรครับ

 

DIY : Thermoelectric Generator

เจอมาจากเฟซ อ.ปิยชีพ ส.วัชโรบล ครับ คุณธนา นาคบุญนำมาโพสต์ไว้

วิดีโอวิธีการสร้าง
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/yNDxkXVjRFU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เคยเจอแบบเดียวกันคือ
BioLite CampStove - BioLite Stove

หัวใจสำคัญคือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นไฟฟ้า (Thermoelectric Generator)

ผมพบว่า ชิ้นส่วนหลักมีขายในอีเบย์ เราสามารถซื้อมาสร้างทำเองได้ครับ โดยทำตามวิดีโอ (ถ้ารวมกับเตา wood gas น่าจะให้พลังงานเพียงพอสำหรับชาร์จมือถือได้ครับ)

 

ขอบคุณ พี่ jingjoknayork
และ คุณ marine24 ค่ะ

thx1

 

วันตรุษจีนปีนี้ ขอให้ พี่ jingjoknayork และทุกท่าน
พบแต่ความสุข สุขภาพดี และร่ำรวยเงินทองคะ

;aa41;aa41;aa41

 

ขอบคุณครับ โอกาสนี้ ผมก็ขอ
นำคำอวยพรมาให้คุณ starme และผู้อ่านทุกท่านครับ

年年大赚钱 (เหนียนเหนียนต้าจ้วนเฉียน)
ปีนี้ร่ำรวยมหาศาล
金玉满堂 (จินอวี้หม่านถัง)
ร่ำรวยเงินทอง ทองหยกเต็มบ้าน
事事顺利 (ซื่อซื่อซุ่นลี่)
ราบรื่นในทุก ๆ เรื่อง
四季平安 (ซื่อจี้ผิงอัน)
ปลอดภัยตลอดปี

 

Knowledge : ว่าด้วยกลอย

เครดิต เว็บครูบ้านนอก ครับ http://www.kroobannok.com/blog/20557



พืชชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน มีคนนิยมบริโภคกันเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านแบ่งประเภทของกลอยตามลักษณะของลำต้นและ
ตามสีในเนื้อหัวกลอยคือ กลอยข้าวเจ้า ลักษณะของเถาและก้านใบสีเขียว
ส่วนกลอยข้าวเหนียว เถาเป็นสีน้ำตาลอมดำ เมื่อนำหัวกลอยมาปอก
เปลือกและหั่นเป็นแว่นบาง ๆ พบว่ากลอยข้าวเจ้ามีเนื้อสีขาวนวลและ
เนื้อหยาบกว่ากลอยข้าวเหนียว ซึ่งมีสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม เนื้อเหนียว
และรสชาติดีกว่ากลอยข้าวเจ้า ดังนั้นคนจึงนิยมรับประทานกลอยข้าว
เหนียวมากกว่า.........................................................

กลอยทั้งสองมีพิษพอๆกันใช้เป็นยาฆ่าแมลงได้แต่ต้องระวังในการใช้


ชาวบ้านนิยมทาน หันฝอยบางๆ แล้วหมัก ไม่รู้เขาหมักไว้กี่วัน
จากนั้นก็ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เอามานึ่ง เวลาจะทานก็ขูดมะพร้าวโรยหน้าแล้วเอาน้ำตาลกับเกลือโรยลงไปเล็กน้อย อร่อยดีเหมือนกัน
แต่ถ้านึ่งไม่สุก ก็เป็นอันตรายเหมือนกันทำให้เวียนศรีษะได้

ในหัวกลอยจะมีแป้งมากและมีสารพิษที่ชื่อว่าไดออสคอรีน (Dioscorine) สามารถละลายน้ำได้ดี พิษชนิดนี้จะมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง อาจทำให้เกิดอัมพาตหรือหยุดหายใจได้
ผู้ที่ได้รับพิษจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจำนวนและความ ต้านทานของแต่ละคน
อาการที่ที่พบได้บ่อยได้แก่ คันที่ปาก ลิ้น คอ คลื่นไส้ อาเจียน มึนเมา วิงเวียน ใจสั่น ตาพร่า อึดอัด และเป็นลม ทั้งนี้ปริมาณสารพิษในหัวกลอยแต่ละฤดูกาลจะแตกต่างกัน จากการทดลองเปรียบเทียบพิษของกลอยที่ขุดมาแต่ละฤดูพบว่า ในเดือนสิงหาคมจะมีปริมาณสารพิษสูงที่สุด
ซึ่งภูมิปัญญาชาวบ้านเชื่อกันว่ากลอยจะมีพิษสูงสุดตอนที่มีดอก กลิ่นดอกกลอยจะหอมไปทั้งป่า ส่วนในช่วงฤดูร้อนประมาณเดือนเมษายนกลอยจะพิษน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามหากประชาชนนำกลอยมาบริโภคดิบๆ หรือนำมาบริโภคโดยที่ยังเอาสารพิษออกไม่หมดอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้


"ในการนำกลอยมาประกอบอาหารจะต้องทำอย่างถูกวิธี โดยต้องใช้ผู้
ชำนาญกำจัดสารพิษออกให้หมด
หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าการหักเมา นิยมทำ 2 วิธี คือปอกเปลือกทิ้งแล้ว
หั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่ในภาชนะโปร่ง
เช่น ถุงตาข่ายแล้วนำไปแช่ในน้ำไหลประมาณ 3-7 วัน เพื่อให้พิษละ
ลายออกไปแล้วจึงนำมาประกอบอาหาร
ส่วนวิธีที่ 2 อาจใช้หมักกับน้ำเกลือประมาณ 3 วัน ระหว่างนี้ให้เปลี่ยน
น้ำเกลือหลายๆครั้งจึงจะนำมาบริโภคได้

(ควรแช่ 4วันเปลี่ยนน้ำทุกวัน
ตอนเปลี่ยนน้ำเกลือให้บีบคั้นน้ำขาวๆออกด้วย)

 

ถ้าลูกเห็บจะตกใส่รถ แล้วรถไม่ใหญ่เกินไป คิดว่าเอาที่นอนไปมัดหรือวางไว้บนหลังคารถ กระโปรงรถ ก็น่าจะใช้ได้

 

DIY : Super rapid side stove

ด้วยเหตุที่ผมต้องออกมาอยู่กลางแจ้งชั่วคราว เลยมองหาเตา
เตา Wood Gas ก็สำหรับงานใหญ่ไปหน่อย เลยมองหาเตาแอลกอฮอล์ แทน
ทำมาได้ตัวสองตัว ก็รู้สึกยังไม่เวิร์ก งานค่อนข้างยุ่งยาก จนมาเจอ
เตาแอลกอฮอล์ตัวนี้ ไม่ต้องอุ่นแอลกอฮอล์ก่อนใช้งาน

วัสดุที่ใช้ก็แค่ กระป๋องน้ำอัดลมสองใบ

ใช้งานได้แบบ
Open fire (ให้ไฟติดตรงกลาง และรอบข้างด้วย ให้ความร้อนสูง แต่เชื้อเพลิงหมดเร็วขึ้น)
หรือแบบ
Side burner (ไฟติดเฉพาะรอบข้าง ร้อนน้อยลงแต่เชื้อเพลิงก็ดับช้าลงเช่นกัน)

ที่สำคัญ ทำได้ง่ายมากแค่ตัดกระป๋องสองใบ ใบหนึ่งดัดให้เป็นลอน (16 ลอน) อย่างในคลิป เจาะตรงกลางก้น เสียบเข้ากับ อีกอันที่ตัดเอาไว้ ก็จะได้เตาแอลกอฮอล์แบบง่ายๆ แต่ได้ผลอีกหนึ่งชิ้นไว้ใช้งานกันครับ

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/p8KxwO1ikK8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

เจอเว็บที่เก็บรวบรวมความรู้ต่างๆ สำหรับ ผู้เตรียมพร้อมรับมือ ภัยพิบัติ และเหตุฉุกเฉิน เช่น การสร้างสิ่งต่างๆ การเตรียมอาหารยามฉุกเฉินฯ การสร้างพลังงานสำรอง

แต่ละเรื่องมีลิงค์ไว้เซฟเก็บเป็นไฟล์ pdf

เสียอย่างเดียวคือ เป็นเว็บภาษาอังกฤษครับ...

Homesteadbasics library