ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อย่าปรามาสครับ เขาฝึกกสินเขียดกัน

 

น่าปรามาสมากๆครับเรื่องเขียดนี้..ชาวพุทธแท้ๆไม่โง่งมอย่างนี้นะ ผมว่าเขาป่วยแล้ว

สังเกตุดูถ้าเรื่องเยินยอ ยกย่องก็ชอบใจ ถ้าสงสัยโต้แย้งขัดข้อง มีข่มขู่ว่าปรามาส

 

แซวกันเล่น???

 

ปี ค.ศ.2013 โลกจะได้รับพลังงานของดวงอาทิตย์มากที่สุด !!! ​

​

Chayutt สมาชิก

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)เรื่อง: 2013 – The Aquarian Shift & Anthropocene Radiation Part-1 วันที่: 30 ธันวาคม 2012 ผู้รับสาส์น: นาย James Tyberonn

ตอนที่ 8: Exploring Theta Coherency

มนุษย์โลกในยุคปัจจุบันนี้ ได้พากันให้ความสำคัญกับจิตสำนึกที่อยู่ในสภาวะคลื่นความถี่ระดับเบต้า (Beta Frequency) กันซะมาก ตอนนี้มันจึงถึงเวลาแล้ว ที่จะเริ่มหันมาสำรวจสภาวะอื่นๆของจิตใจกันบ้าง มันถึงเวลาแล้วที่จะนำเอา “สภาวะธีต้า” (theta state) มาใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง เพื่อร่วมกันสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองขึ้นมา

ยุคแห่ง Aquarian Radiation นี้ เป็นกลไกและเป็นผลพวงของการเลื่อนระดับขึ้น ของโลกอย่างแท้จริง เพราะว่ามันจะช่วยให้มนุษย์โลก มีเครื่องมือสำหรับใช้ในการเลื่อนระดับขึ้น ของมวลหมู่มนุษยชาติ กลไกที่เอื้อประโยชน์อย่างมาก ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย โดยเฉพาะตลอดปี 2013 นี้ ซึ่งเป็นปีที่จะมีปฏิกิริยาของดวงอาทิตย์มากที่สุด ก็คือการปลดปล่อยมวลสารพลาสม่าจากเอกภพ (massive injection of Cosmic Plasma) ลงมายังดาวเคราะห์โลกใบนี้

ซึ่งพลังงานของอิออนจำนวนหลายพันล้านตัน ได้ถูกสาดส่องลงมายังโลกของพวกคุณแล้วในขณะนี้ และมันก็เป็นพลังงานที่น่าอัศจรรย์อย่างมากด้วย ตอนนี้บรรดานักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (astrophysicists) ของพวกคุณ รู้แล้วว่ารังสีพลาสม่าจำนวนมากมายที่พุ่งตรงลงมายังโลกอย่างไม่ขาดสาย นับตั้งแต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ตอนนี้กำลังโอบล้อมโลกใบนี้อยู่ ซึ่งรังสีพลาสม่าเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมาทำให้สัดส่วนของอิออนของโลกเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่มันยังจะทำแบบนั้น ในสนามพลังงานที่อัดตัวกันแน่นของคลื่นระดับธีต้าอีกด้วย

ธีต้า คือประตูสู่ความสามารถในการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า คลื่นในแนวตั้ง หรือบ่อในแนวตั้งของพลังงานธีต้าที่อัดเรียงตัวกันแน่น ตอนนี้กำลังถูกดึงดูดเข้ามาสู่จุดศูนย์รวมพลังงานบางจุดของโลกใบนี้อยู่ ดังนั้นสถานที่เหล่านี้ ก็จะสามารถถูกนำไปใช้เป็น “จุดศูนย์กลางในการสร้างสรรค์” (creation center) ได้ เพื่อให้เหล่า “นักรบแห่งจิตวิญญาณ” ทั้งหลาย ได้ใช้เป็นสถานที่เพื่อทำสมาธิหมู่ร่วมกัน เพื่อเนรมิตให้โลกที่มีแต่ความสอดประสานกลมกลืนกันเจริญเติบโตและพัฒนามากขึ้น!

ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ แต่ไหนแต่ไรมาก็คือสิ่งที่มีประจุไฟฟ้า ที่กำลังโคจรอยู่ในสนามพลังงานพลาสม่าอยู่แล้ว ดังนั้นกระแสการหลั่งไหลเข้ามาของรังสีจากดวงอาทิตย์เมื่อเร็วๆนี้ จึงส่งผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ต่อทั้งมนุษย์โลกและดาวเคราะห์โลกใบนี้ เป็นเท่าทวีคูณ

นักวิชาการของพวกคุณหลายคน ตอนนี้ก็มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ที่จะทำให้หันมามองดูการเปลี่ยนแปลงของโลกและของเอกภพ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ในแบบที่ลึกซึ้งกว่าเดิมแล้ว และกำลังหันมาพิจารณาถึงความมากน้อยของการเปลี่ยนแปลงและบทบาทของพวกมันด้วย พวกเราขอบอกพวกคุณว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะมีผลกระทบต่อโลกทั้งโลกอย่างแท้จริงเท่านั้นนะ คือนับตั้งแต่ใจกลางโลกขึ้นไปจนถึงชั้นบรรยากาศของโลก และจนถึงสนามพลังงานแม็กนีโตสเฟียร์ของโลกด้วย แต่มันยังไม่หยุดผลกระทบอยู่แค่นั้น

เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนอิออนดังกล่าวนี้ จะไปเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ ที่จิตใจของมนุษย์ปฏิบัติการอยู่ด้วย พวกมันจะทำให้เกิดส่วนเชื่อมต่อที่จะเป็นทางเข้าไปสู่มิติที่สูงๆกว่าได้ สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? พลังงานที่มาพร้อมกับการปลดปล่อยมวลสารของดวงอาทิตย์ จะถูกดูดซึมเข้าไปในแผ่นรอยเลื่อนของเปลือกโลก (tectonic plate) แล้วจะทำให้โลกมีระดับความสั่นสะเทือนเพิ่มสูงขึ้น ผ่านทางกระบวนการนี้ แต่ว่ากระบวนการนี้ก็จะเกิดขึ้นไม่เหมือนกันในแต่ละที่ โดยเฉพาะกับที่ๆเป็นจุดศูนย์รวมพลังงาน (power point) และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในตำแหน่ง ที่มีเส้นโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์พาดผ่านด้วยแล้ว ประจุไฟฟ้าที่มาพร้อมกับการแผ่รังสีของเอกภพเหล่านี้ จะแผ่กระจายไปทั่วเครือข่ายของจุดศูนย์รวมพลังงานที่อยู่บนโลกเหล่านี้ ดังนั้น ถ้ารังสีพลาสม่าที่มาพร้อมกับการปลดปล่อยมวลสารของดวงอาทิตย์ สามารถสร้างให้เกิดความสั่นสะเทือนขึ้นได้จริงๆแล้วหละก็ ดังนั้นกระแสพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วทั้งโลกก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยแน่ๆ

และกระแสจิตร่วมของมนุษย์ทั้งโลก (collective mind) และรวมถึงกระบวนทัศน์ของมนุษย์ทั้งโลก ก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ วิถีที่มนุษย์ใช้สร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงที่ตนเองอาศัยอยู่นี้ขึ้นมา รวมถึงความเชื่อถือของมนุษย์ที่มีต่อ “สิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นของจริง” แต่มนุษย์กลับคิดว่าเป็นของจริงทั้งหลาย ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย จากสิ่งที่มาจากดวงอาทิตย์ จากสิ่งที่มากับพายุสุริยะ

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ุค-aquarius-ยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้น.415040/

 

ถูกต้องครับ...เรื่องสงสัยประการใดๆสมควรสอบถามโต้แย้งเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องและมีเหตุมีผลที่เหมาะสมจริงๆ จริงๆเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่พวกเรารู้ๆกันอยู่แล้ว...

 

.............................................................................
ปล่อยแกไปเถอะค่ะ....สงสารแต่เขียด

 

สัตว์ทุกประเภทเนื้อแท้จริงๆ เขาเป็นคน !!!​

หนี้กรรมการฆ่าสัตว์

ให้จำไว้ด้วยว่า สัตว์ทุกประเภทเนื้อแท้จริง ๆ เขาเป็นคน อาศัยคนที่ทำความชั่วทำตัวให้ตกในบาปอกุศล เมื่อตกอบายภูมิคือนรกมาแล้ว ผ่านนรก ผ่านเปรต ผ่านอสุรกายมาแล้วก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นการชำระกรรมหนักขั้นสุดท้าย แต่ว่าไม่ใช่ชีวิตเดียวนะ

ชำระกรรมหนักขั้นสุดท้ายนี้ไม่ใช่ครั้งเดียว เคยฆ่าปลามากี่ตัวต้องเกิดเป็นปลาให้เขาฆ่าเท่านั้นครั้ง หนักใจตรงเกิดเป็นยุงละซี่ จำไม่ได้ถือว่าต้องใช้ชีวิตตามที่ฆ่าเขา พวกทำได้กำไรที่สุดคือพวกเรือตังเก โอ้โฮ วันหนึ่งแกล่อเป็นลำ ๆ เลย ไปเห็นใจหายวาบ ไอ้สัตว์ทุกประเภทก็คือคน ก็รวมความว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันใช่ไหม ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก แล้วก็รักสุข เกลียดทุกข์เหมือนกัน

พระธรรมเทศนาโดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)

ที่มา http://www.kanlayanatam.com/sara/sara79.htm

 

หลายๆท่านก็มีอาการที่เกิดจากภัยพิบัติจาก เขียดทองคำ ด้วยวุ้ย...

 

กระทู้นี้มีประโยชน์นะครับ หลายๆท่านมีจิตเมตตามาให้ความรู้ ทั้งทวงโลกทางธรรม ธรรมชาติสอนเราได้หมดครับไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มี ถ้าเรารู้นำมาคิดพิจารณา รู้ัจักแยกแยะให้ถึงแก่นจริงๆ เป็นกำลังใจสำหรับที่คิดดีมีจิตอันเป็นกุศล อย่าพึ่งท้อนะครับ สู้ต่อไปเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ให้กับมนุษย์ที่ยังมีจิตใจมืดบอดอยู่

 

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนและพายุลูกเห็บพัดถล่มจังหวัดเชียงราย ในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.เวียงแหง อ.เชียงแสน อ.เมืองเชียงราย และ อ.พาน ซึ่งพายุลูกเห็บตกมาที่สุดอยู่ที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ในโครงการพัฒนาดอยตุง ทั่วพื้นบริเวณทางเดิน และพื้นถนนจนขาวโพนคล้ายกับหิมะ ซึ่งมีประชาชนสามรถบันทึกภาพไว้ได้ขณะที่ลูกเห็บขนาดเล็กตกลงมาและละลายไปในเวลาเพียง 10 นาที เนื่องจากมีฝนตกตามมา

ขณะที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ปภ.เชียงราย เร่งออกสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนและพืชผลทางเกษตรแล้ว ซึ่งคาดวจะมีความเสียหายค่อนข้างมากในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เมืองเชียงราย ต.ท่าสุด เพราะมีขนาดใหญ่

ด้านนายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช นายอำเภอเวียงแหง เปิดเผยว่า เหตุพายุลูกเห็บตกในพื้นที่อำเภอเวียงแหง ไม่เคยเกิดมาก่อนถือเป็นประวัติการณ์ เพราะมีขนาดใหญ่กินบริเวณกว้างมองดูขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ทั้งบนหลังคาบ้านและทั่วพื้นดิน เมื่อได้รับรายงานได้ส่งเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายเป็นการด่วน เบื้องต้นคาดว่ามีบ้านหลายสิบหลังคาเรือนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะหลังคาบ้านเสียหายเป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรและสิ่งสาธารณูปโภคยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

ทางด้านนายปัญญา ล่องแก้ว ราษฎรในพื้นที่ตำบลเมืองแหง ผู้ซึ่งสามารถถ่ายภาพเหตุการณ์ได้ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุมีพายุลมแรงพัดกระหน่ำก่อนที่จะมีฝนตกลงมาแต่ไม่หนักมาก ที่สร้างความแปลกใจและตกใจมากคือ มีพายุลูกเห็บขนาดเท่าผลมะนาวตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ 3 หมู่บ้านที่อยู่ติดกันคือ หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 9 ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง นอกจากจะทำให้กระเบื้องหลังคาบ้านเรือนแตกเป็นรูมากกว่า 10 หลังแล้ว ยังสร้างความเสียหายต่อสวนกระเทียมมากกว่า 100 ไร่ เป็นสีขาวโพลนเป็นทางยาว ตกอยู่ประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะหยุดและภายในเวลาอันรวดเร็วลูกเห็บก็ละลาย เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในรอบ 40 ปี


ลูกขนาดนี้ โดนหัวเข้าไปมีสิทธ์หลับไปนานเลยละ

 

เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น ข้อมูลความรู้ต่างๆจะเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ !!!​

ผมคิดว่าภายใน 3 เดือนนี้ คงจะเกิดเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่เคยคิดไม่เคยฝัน ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยแน่นอนครับ ทั้งภัยพิบัติจากมนุษย์ และภัยพิบัติจากทางธรรมชาติ(ตามที่เด็กชายปลาบู่และผู้รู้ท่านอื่นๆได้เคยทำนายเอาไว้) เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมนะครับ ทั้งเสบียงอาหาร หยูกยา และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ

เมื่อภัยบัติเกิดขึ้น ข้อมูลความรู้ต่างๆ จะเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เพราะเราจะต้องรู้ว่า พื้นที่ไหนปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย คนที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ก็จะตกใจจนลนลาน ทำอะไรไม่ถูก จะขอให้ใครช่วยก็ไม่ได้ เพราะทุกๆคน ตกอยู่ในสภาพเดือดร้อนเหมือนกันหมด

เมื่อถึงเวลานั้น คุณ saychl anusonthi ก็จะเป็นที่พึ่งให้กับญาติพี่น้องได้ เพราะรู้เรื่องของภัยพิบัตินี้มากกว่าใครๆในครอบครัว และในตอนนั้นเมื่อคุณ saychl anusonthi จะบอกจะแนะนำใ้ห้ใครทำอะไร ทุกคนก็จะเชื่อและทำตามโดยไม่รีรอ เพราะได้เห็นพญามัจจุราช(ความตาย) มายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้วนั่นเองครับ

 

2535 ตอนผมอยู่ ป. 1

ก็เคยมีลูกเห็บขนาดนี้และใหญ่กว่านี้ตกมาแล้ว ที่บ้านเกิด ยังช่วยกันเอาขันเอากาละมังมารองเก็บลูกเห็บอยู่เลย

ปากฏการณ์ในรอบ 40 ปีอะไรกัน :boo:

 

แผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์ เขย่า“เกาะฮอกไกโด”ของญี่ปุ่น-ชาวบ้านบาดเจ็บ 10 ราย !!!​

​

forest60 สมาชิก

เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 6.9 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เมื่อวานนี้(2 ก.พ.56) โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคดังกล่าว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผย

แผ่นดินไหวซึ่งทางการญี่ปุ่นออกประกาศเตือนล่วงหน้าทั้งทางโทรทัศน์และวิทยุ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.17 น. (21.17 น. ตามเวลาในไทยวานนี้) ใกล้กับเมืองโอบิฮิโร โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ความลึก 103 กิโลเมตร ตามข้อมูลจากสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS)

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บจากสิ่งของร่วงหล่น, กระจกแตก และอุบัติเหตุในลักษณะอื่นๆรวม 10 ราย ขณะที่ทางการญี่ปุ่นยืนยันว่า แผ่นดินไหวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง และไม่มีความเสี่ยงสึนามิ

แผ่นดินไหวครั้งนี้กินเวลานานประมาณ 1 นาที โดยคลิปวีดีโอที่ถูกเผยแพร่ผ่าน เอ็นเอชเค เผยให้เห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ในสำนักงานแห่งหนึ่งโยกคลอน และชั้นวางของเกือบจะล้มครืนลงมา ขวดน้ำในซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่งหล่นลงมาแตกกระจายกับพื้น ขณะที่บางพื้นที่ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ และต้องปิดการสัญจรบนทางหลวงหลายสาย

ทางการท้องถิ่นยังหยุดให้บริการรถไฟสายชนบทบางสายเพื่อความปลอดภัย เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนให้ประชาชนระวังอันตรายจากดินถล่ม และอาคารบางแห่งที่ถูกแรงสั่นสะเทือนจนอาจทำให้รากฐานไม่มั่นคง

จุดที่แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดคือบริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นและเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยม ทว่าทางตอนเหนือของเกาะ รวมถึงบางส่วนของเกาะฮอนชูซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงโตเกียว ก็สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้เช่นกัน

บริษัทพลังงานของญี่ปุ่น ยืนยันว่า ยังไม่พบความผิดปกติใดๆที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โทมาริทางภาคตะวันตกของเกาะฮอกไกโด รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อื่นๆในจังหวัดอาโอโมริทางตอนเหนือสุดของเกาะฮอนชูด้วย ระบบเตือนภัยที่สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจัดทำขึ้นได้มีประกาศเตือนทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุ ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวานนี้(2)

หลังเกิดแผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็เกิดแผ่นดินไหวอีกระลอกขนาด 5.5 ริกเตอร์ ที่นอกชายฝั่งเกาะอิซุ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตอนใต้ประมาณ 725 กิโลเมตร ยูเอสจีเอส ระบุ

ที่มา http://palungjit.org/threads/แผ่นดิ...กโด”-ของญี่ปุ่น-ชาวบ้านบาดเจ็บ-10-ราย.432940/

 

พอจะสรุปเป็นลำดับเหตุการณ์ หรือช่วงเวลาที่กระชับชัดเจนได้หรือเปล่าครับ
หากกำหนดเวลาแน่แนอนพอพ้นไปแล้วก็จะทำให้ทุกท่านหมดกังวลได้ เช่น ปลาบู่สิ้นปี 54, อยศ สิ้นปี 55, พอจร. 3 มค-14 กพ.
ติดตามอ่านแล้วรู้สึกว่ากว้างมากๆๆๆ

 

`copy มาจากอีกกระทู้ครับ

 

ขออย่าปรามาสพระสงฆ์องค์เจ้า !!!​

sanoraya สมาชิก

นำข้อมุลในส่วนที่ประมวลเก็บไว้ มาให้ทุกท่านที่ใคร่จะเก็บก็เก็บ ไม่ใคร่จะเก็บก็กดไม่เห็นด้วยไป แต่ขออย่าปรามาสพระสงฆ์องค์เจ้า เพราะนี่เป็นเพียงคำสนทนาของคุณไอยกับครูบาเจ้า วัดพระบรมธาตุดอยเกิ้ง (ถ้าจำไม่ผิด)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"สิ่งที่ไอยเขียน เป็นเพียงแค่การเล่าเรื่อง ส่วนภัยพิบัติจะเกิดหรือไม่ ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ สำหรับคนที่เชื่อ มีความสามารถ ไม่ประมาท จะเตรียมการไว้ก่อนก็ดี เพราะทุกวันนี้ภัยพิบัติในใจคนต่างหาก ที่หนักหนามากที่สุด เพราะคนสมัยนี้มักยึดติดกับวัตถุนิยม เห็นค่าของเงิน สำคัญกว่าคุณค่าของจิตใจที่ดีงาม ต่อให้ไอยบอกที่อยู่อันปลอดภัย แต่จิตใจยังตกต่ำ ก็ไม่สามารถพ้นภัยพิบัติในใจตนได้หรอกค่ะ

สำหรับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ท่านครูบาได้มีเมตตาเล่าให้ไอยฟังนั้น ถือว่าท่านได้เล่าให้ฟังเป็นการส่วนตัว และไอยนำมาถ่ายทอดลงในเวปแห่งนี้ ดังนั้นถูกผิดประการใด ขอให้เป็นส่วนที่ไอยรับผิดแต่เพียงผู้เดียวนะค่ะ อย่าได้ปรามาสพระสงฆ์องค์เจ้าให้เป็นบาปติดตัวกันเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องราวต่าง ๆ ในนิมิตนั้น เพราะท่านเล่าให้ฟังด้วยความเมตตา มิได้อวดอุตริแต่อย่างใดทั้งสิ้น ขอกราบขอบพระคุณท่านครูบามา ณ ที่นี้ค่ะ"

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

"ครูบาท่านพูดถึงเรื่องของภัยพิบัติว่าเกดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในช่วงกึ่งพุทธกาล ซึ่งกึ่งพุทธกาลของพระศาสดาแต่ละพระองค์ จะต้องเกิดภัยพิบัติตามวาระของพระพุทธศาสนา ดังนั้นภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ย่อมต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ขอพูดถึงวันที่จะเกิดภัยพิบัติ ท่านเล่าว่าให้ดูที่คุนหมิง (จีน)เกิดแผ่นดินไหวถล่มเมืองคุนหมิงเมื่อไหร่ ให้คนไทยเตรียมตัวอพยพหนีได้ทันทีเลย เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็จะลามมาถึงประเทศไทย เพราะในนิมิตท่านเห็นคุนหมิงถล่มทั้งเมือง เป็นแผ่นดินยุบลงไป ซึ่งก็ตรงกับที่หลวงเสเคยพูดไว้เหมือนกันว่า จะเกิดแผ่นดินยุบทั่วโลก

ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านจาริกบุญไปทางเมืองจีนเสมอ และได้เคยเอ่ยให้พระที่ท่านได้ไปจาริกบุญว่า จะเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาสองลูกจะบีบตัวเขาหากัน และเมืองที่อยู่ตรงกลางหว่างเขาจะถูกบีบยุบตัวลงไป ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง ๆ ตอนที่ประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหว และที่สำคัญท่านพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ด้วยค่ะ ครูบาท่านว่าเชียงใหม่ก็ไม่รอด ไอยก็เลยถามครูบาว่า ทีอำเภอฮอดมีคนนำมาลงว่าจะเกิดภูเขาไฟระเบิด แต่ไอยว่าไม่น่าจะใช่นะค่ะ ท่านบอกว่าภูเขาไฟไม่ระเบิด แต่จะเกิดแผ่นดินแยกตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ มาถึงบ้านวังลุง อำเภอฮอด เพราะมีแนวรอยเลื่อนพาดผ่าน ท่านบอกว่าให้ดูตามแนวรอยเลื่อน เพราะแผ่นดินแยก ตามแนวรอยเลื่อนนั่นแหละ"

ประเทศไทยมีรอยเลื่อนมีพลังจำนวน 45 รอยเลื่อนได้แก่ รอยเลื่อนเชียงแสน แม่จัน แม่อิง มูลาว หนองเขียว เชียงดาว เมืองแหง แม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาหลวง แม่สะเรียง พร้าว ปัว ดอยหมอก วังเหนือ แม่งัด แม่ปิง ดอยปุย แม่ทา อมก๋อย เมืองปาน แม่หยวก แม่ทะ เถิน แม่วัง ท่าสี งาว แม่ติป สามเงา ผาแดง ดอยหลวง แม่ยม แม่กลอง แพร่ อุทัยธานี อุตรดิตถ์ น้ำปาด เขาดำ ท่าอุเทน ศรีสวัสดิ์ เจดีย์สามองค์ เขาราวเทียน ระนอง อ่าวลึก และ คลองมะรุ่ย

ที่มา http://www.naturalsoft.com/faults.html

"ท่านเล่าว่าที่กรุงเทพฯ น้ำไม่ท่วม ก็เพราะมีคนมาบูรณะวัดแห่งหนึ่งในอำเภอดอยเต่าเอาไว้ จึงทำให้กรุงเทพฯ รอดพ้นจากการจมน้ำ ซึ่งจริงๆแล้วจะต้องเจอหนักกว่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รอดพ้นหรอกนะ เพราะคราวก่อนแค่บททดสอบ คราวหน้าจะหนักกว่านี้อีก ดังนั้นทุกคนอย่าประมาทนะค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าจะท่วมสูงประมาณ 4-5 เมตรเลยละค่ะ"

สำหรับกรุงเทพฯ จะไม่รอดในวันเกิดภัยพิบัติ ซึ่งจะเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากแผ่นดินไหว ท่านเห็นกรุงเทพฯ จะเกิดแผ่นดินแยก มีไอน้ำหรือไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมา จะเห็นแต่หมอกควันเต็มไปหมด ทุกคนต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดสับสนอลหม่าน ท่านเล่าให้ฟังว่ามีคณะญาติโยมที่มาจากกรุงเทพฯ ขึ้นมาบนพระธาตุดอยเกิ้ง เดินผ่านท่านไปมา แต่มองไม่เห็นว่าครูบานั่งอยู่ จนกระทั่งมีอยู่คนหนึ่งเห็นท่านนั่งอยู่ จึงเข้ามากราบและบอกว่าเดินไปมาไม่เห็นครูบาเลย พอคณะนั้นจะกลับ มีผู้หญิงคนหนึ่งในคณะนั้น ท่านก็ว่าคุ้นหน้าเหลือเกินว่าเคยพบที่ไหน

และก็นึกขึ้นมาได้ว่า ท่านเห็นในนิมิตของท่านว่า ผู้หญิงคนนี้นี่เองที่ท่านเห็นในภัยพิบัติที่กรุงเทพฯ ว่ากำลังขับรถหนีภัยจะมาที่วัดดอยเกิ้ง แต่ประสบอุบัติเหตุ รถชนต้นไม้ก่อนที่จะมาถึงวัด ท่านจำได้ติดตาเลยว่า สภาพของผู้หญิงคนนั้นตอนเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างไร แต่ตอนนั้นผู้หญิงคนนี้เป็นคนขับรถและรถที่ขับก็คือรถที่ขับขึ้นมาไหว้พระธาตุดอยเกิ้งนี้เอง เพียงแต่ตอนนี้เป็นแค่คนโดยสาร ซึ่งตอนที่เห็นในนิมิตนั้นเป็นคนขับ

น้ำที่จะท่วมกรุงเทพฯ นั้น ไม่ได้เกิดจากเขื่อนแตกแล้วท่วม แต่จะเกิดแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตก น้ำถึงท่วมกรุงเทพ ท่านเห็นว่าน้ำที่ท่วมนั้นเป็นสีแดง ท่วมกรุงเทพฯทั้งหมด ครูบาได้พูดถึงสถานที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติไว้ โดยให้ยึดสถานที่ที่มีพระบรมสารีริกธาตุที่เก่าแก่ประดิษฐานอยู่ โดยยึดเอาสถานที่ใกล้เคียงที่ตนเองอยู่ ไม่ใช่อยู่กรุงเทพ และจะมาหลบภัยที่วัดดอยเกิ้ง จังหวัดเชียงใหม่ เพราะกว่าจะมาถึงก็จะไม่ทันการณ์ อย่างที่ท่านเห็นในนิมิตนั่นแหละค่ะ

ดังนั้น สิ่งที่ไอยเขียนไว้ ระหว่างที่รอรวมเล่มอยู่นั้น ทุกท่านก็ save ข้อมูลติดตัวไว้ก่อนก็ดีคะ เมื่ออยู่ที่ใด จังหวัดใด ก็จะรู้ได้ว่าควรหลบภัยที่ใด ครูบาท่านบอกกับไอยว่า ภาคใต้ไม่รอดนะค่ะ แหมครูบาท่านให้กำลังใจดีเหลือเกิน รู้ว่าเรามาจากจังหวัดตรัง แต่หนูทราบแล้วค่ะว่าภาคใต้ไม่รอด หรือรอดก็เป็นหย่อมๆ แต่ปวารณาตัวมาแล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่างน้อยๆ ก็พาคนให้เดินถูกต้อง ตรงทางในทางธรรมให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ

ส่วนที่่ใดปลอดภัยมากที่สุด ท่านก็บอกมาเหมือนกันนะค่ะ ซึ่งไอยเองก็เดินทางมาทั่วประเทศ ครูบาอาจารย์ก็กราบมาหลายท่าน รวมทั้งกัลยณมิตรก็บอกไว้เช่นกัน เมื่อนำมาประมวลรวมข้อมูลแล้ว ก็ทำให้ทราบแล้วค่ะ ว่าที่ใดปลอดภัยที่สุด แต่ไม่ขอบอกแล้วกันนะค่ะ เดี๋ยวจะพากันแห่ไปกว้านซื้อที่จนที่ดินแพงลิบลิ่วอีก เอาเป็นว่าที่ตรงนั้น ครูบาท่านบอกว่าข้างใต้เป็นถ้ำขนาดใหญ่ก็แล้วกัน สำหรับที่พระธาตุดอยเกิ้งปลอดภัยก็จริง แต่ทางที่ขึ้นมานั้นอาจจะเจอหินถล่ม ดินถล่มเสียก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้นใครจะรอดหรือไม่รอด ก็อยู่ที่บุญทำกรรมแต่งของคน ๆ นั้นก็แล้วกัน ครูบากับไอยยังพูดกันเลยว่า เรานะจะตายก่อนเป็นคนแรก ๆ ด้วยซ้ำ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

" ที่ไม่เอ่ยถึงภาคอีสาน เพราะคุยกับทางครูบาและหลายๆท่านแล้ว มีความเห็นพ้องกันว่า ทางภาคอีสานไม่ได้ปลอดภัย 100% เพราะจะเกิดภูเขาไฟ โรคระบาด และน้ำขาดแคลน ถึงอยู่ก็อยู่ได้ชั่วคราว นานไปก็ต้องอพยพออกจากพื้นที่อยู่ดีนะค่ะ สำหรับที่ปลอดภัยจริงๆ จะบอกเฉพาะคนที่ตั้งใจไปอยู่พื้นที่นั้นนะค่ะ เพราะต้องลงไปเตรียมพื้นที่ เตรียมการรองรับในทุกๆเรื่อง ทั้งทางโลกและทางธรรม ถ้าเพียงแค่คิดว่าไปอยู่เพียงจะได้มีที่อยู่ตอนเกิดภัย ไม่ขอบอกนะค่ะ เพราะไม่มีประโยชน์อันใด

ตอนคุยกับครูบาท่านยังบอกว่า ถึงทุกคนจะแห่กันมาที่วัดพระธาตุดอยเกิ้ง ท่านก็ไม่สามารถที่จะเลี้ยงผู้คนได้ทั้งหมดหรอก อาหารน้ำท่าก็ไม่มี เพราะอยู่บนเขา ดังนั้นการเตรียมการ ต้องเตรียมการอย่างผู้มีปัญญา ซึ่งไอยจะอธิบายเสริมไปเรื่อยๆ โดยใช้วัดนาเมืองเพชร อ. เมือง จ. ตรัง เป็นต้นแบบในการทำงาน เพื่อการรองรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และภัยพิบัติทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน โดยเป็นการทำงานที่ให้ทุกคนเห็นเป็นตัวอย่าง ว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินนับแสนล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหา เพียงแต่ใช้ปัญญาและจิตที่มีเมตตา รวมถึงความสามัคคี ก็จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-626

 

ภัยจากมนุษย์จะเกิดก่อนภัยทางธรรมชาติ !!!​

pootthabud สมาชิก

ผมเริ่มติดตามเรื่องภัยพิบัติหลังจากน้ำท่วมปี 2554 เพราะโดนหนัก หลายครั้งที่ติดตามแล้วเกิดความวิตกกังวล บางช่วงที่กระแสแรงก็คิดจะลาออกจากงานไปหาที่ปลอดภัย จนเกือบทำให้ชีวิตเจอภัยพิบัติจริงๆ ตอนนี้ผมหันมาปฏิบัติธรรมเอง เพื่อที่จะได้ตรวจสอบด้วยตัวเอง แต่คงอีกนานกว่าจะทำได้หรืออาจจะไม่ได้ และติตตามอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่ท่านเมตตาถ่ายทอดกรรมฐานและเคยชี้แนะเรื่องภัยพิบัติ...

ท่านรับรองว่าจะยังไม่เกิดภัยพิบัติ(ใหญ่) กับประเทศไทย จนกว่าจะมีเหตุการณ์ประท้วงขั้นรุนแรงเกิดขึ้นกลางใจเมือง ท่านให้สังเกตุภัยพิบัติระดับรุนแรง จะเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 12 กรกฎาคม แต่ท่านไม่ได้เจาะจงรูปแบบและสถานที่ใดในโลก ท่านบอกแบบรวมๆ ส่วนประเทศไทยท่านว่าปีนี้น้ำจะมามากและมาเร็ว คือตั้งแตปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ฝนก็จะเริ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ส่วนอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์...(ท่านให้สังเกตุวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ จะมีภัยพิบัติขนาดย่อยให้เห็น)....

ที่มาิ http://palungjit.org/threads/อนาคตังสญาณ-เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย.288061/page-226

 

ก็อยากไปอยู่หรอก แต่ไม่มีตังเจ็ดแสนไปซื้อกระท่อมอยู่อ่ะ :'( ไหนจะค่าสมุนไพร ค่าอาหารต้านภัยพิบัติอีก

 

มามุขนี้อีกแล้ว

 

หว่านๆดูก่อนไงครับ เผื่อถูกมั่ง หลังจากทำนายแป้กมาหลายปี