กำลังจะจำบทสวดชินบัญชรได้แล้ว ขอคำแนะนำจากกัลยาณมิตรค่ะ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย whanjai, 7 มกราคม 2013.

  1. whanjai

    whanjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +244
    ตอนนี้ดีใจมากๆเพราะกำลังจะจำได้บทสวดชินบัญชรได้แล้ว เหลืออีกซัก 5% เองที่มีผิดบ้าง จำไม่ได้นิดหน่อย เพราะหลังๆจะสวดวันละ 5-9 รอบ ทุกวันค่ะ เหมือนว่าบทนี้ถูกจริต สวดแล้วอธิษฐานขออะไรได้ตามที่ปรารถนาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเป็นแค่ผลพลอยได้ แต่เป้าหมายคือความก้าวหน้าในการปฎิบัติและกำลังใจที่จะสร้างความเพียรและสมาธิที่ดีขึ้นค่ะ

    อยากขอคำแนะนำและถามจากกัลยาณมิตรในเวปนี้ ดังนี้ค่ะ

    1) บทสวดนี้เค้าว่าร้อน เพราะเหมือนเป็นคาถา จริงไหมคะ แล้วถ้าแนะนำจะสวดบทไหนอีกให้เย็นคะ

    2)บทต่อไปที่จะฝึกท่องจะเป็นบทไหนดีคะ เพื่อนๆท่องบทไหนกันบ้างคะ แนะนำหน่อยค่ะ ที่เลือกท่องมากกว่าอ่านเพราะรู้สึกมีสมาธิเวลาสวดมนต์แบบหลับตาค่ะ

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  2. jamekc46

    jamekc46 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +541
    ถ้าจะให้ดีนะครับ ยกขัน5ไว้ครู ในวันพฤหัส แล้วสวดพระคาถาชินบัญชร
    บทต่อไปที่สวดแล้วดีก็คือ ยอดพระกัณไตรปิฏก ครับ
    อนุโมธนาบุญด้วยครับ
     
  3. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    จริงๆแล้ว มันแล้วแต่จริตคนเรานะคะ ตัวคาถาจะมีอานุภาพและพลานิสงค์ขึ้นอยู่กับจิตที่ตั้งมั่นจดจ่ออยู่ในตัวบทคาถา จริงๆจะใช้บทนี้บทเดียวก็ได้ แต่ถ้าต้องการเพิ่ม ขอแนะนำ คาถา นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ คาถาพาหุง และบทพระจักรพรรดิ์ค่ะ ขออนุโมทนาในจิตที่คิดใฝ่ธรรมค่ะ สาธุ
     
  4. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ถาม – ปัจจุบันเวลาสวดคาถาชินบัญชร ทำบุญ ทำความดีต่างๆ ก็มักอธิษฐานกับพระพุทธองค์เสมอว่าขอให้อานิสงส์แห่งบุญที่เราทำนี้ ช่วยดลบัลดาลให้สามีมีสติตื่นขึ้น อย่าได้มัวหลับใหลเห็นกงจักรเป็นดอกบัวต่อไปอีกเลย หากอธิษฐานอย่างนี้เรื่อยๆไม่ทราบว่าจะพอช่วยเขาได้บ้างหรือไม่?

    มักมีการบรรยายสรรพคุณบทสวดมนต์ต่างๆกันมากครับ โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธไทยเรา สวดกี่จบๆแล้วจะทำให้เกิดผลดีอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีไปไกลถึงขนาดสวดบางบทแล้วไม่ต้องเกิดไม่ต้องตายอีก อยู่เป็นสุขค้างฟ้าบนสรวงสวรรค์ชั่วนิรันดรก็ยังมี ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจว่าบทสวดมนต์คืออะไร จึงจะทราบอานิสงส์ของการสวดอย่างถ่องแท้ และอาศัยเป็นเครื่องช่วยได้ถูกเรื่องถูกทาง

    หากคุณแปลบทสวดต่างๆเป็นไทย จะพบว่าบทสวดมนต์ก็คือการท่องจำความรู้ทางศาสนาบ้าง บรรยายคุณลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้าง หรือสรรเสริญพระรัตนตรัยบ้าง สำหรับชินบัญชรนั้น หากใครเคยอ่านฉบับแปลเป็นไทยจะพบว่ามีการอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบจำเพาะเจาะจงชื่อของพวกท่านมาประดิษฐาน ณ ตำแหน่งต่างๆในเรา ซึ่งเป็นอุปเท่ห์หนึ่งทางไสยเวทวิทยาคม

    ผู้ประพันธ์บทสวดต่างๆได้นั้น ต้องมีอัจฉริยภาพเกินมนุษย์อยู่มาก นั่นคือนอกจากจะรู้เรื่องภาษาอย่างแตกฉาน ยังต้องมีทักษะในการร้อยเรียงให้ออกเสียงแล้วเกิดความไพเราะคมคาย โดยเฉพาะชินบัญชรจะเป็นตัวอย่างหนึ่งของการประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ หากลองสวดเร็วๆจะรู้สึกถึงความคมกริบจากกระบวนการเปล่งคำโดยรวม คนคิดประดิษฐ์อะไรอย่างนี้ได้ต้องมีจิตที่แทงทะลุศาสตร์หลายๆด้าน เช่นเข้าใจเรื่องพลังสัมพันธ์อันเป็นนามธรรม เข้าใจสรรคำวิเศษมาประกอบให้เกิดภาวะเข้มขลังอุกฤษฎ์ แม้ผู้ท่องบ่นสวดภาวนาไม่รู้ความหมายเลย ก็เหนี่ยวนำให้เกิดกำแพงปกป้องน่าเกรงขาม ตลอดจนเกิดรัศมีเสน่ห์ดึงดูดใจได้มากกว่าเดิม ไม่น่าแปลกใจที่ผู้สวดชินบัญชรจะพบประสบการณ์น่าอัศจรรย์ประการต่างๆ นับตั้งแต่รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งและคมคายขึ้น มีอำนาจในตัวสูงขึ้น ชินบัญชรจึงเป็นที่รู้จักและนิยมแพร่หลาย โดยเฉพาะในไทยตั้งแต่สมเด็จโต พรหมรังสีท่านดัดแปลงให้สั้นและถวาย ร.๔ เป็นต้นมา (หลายคนเข้าใจว่าสมเด็จโตเป็นผู้ประพันธ์ จริงๆไม่ใช่นะครับ ชินบัญชรเป็นของโบราณที่แพร่หลายในหลายประเทศ ของเดิมยาวกว่านี้มาก)

    อย่างไรก็ตาม ตบะอำนาจซึ่งเกิดขึ้นง่ายๆมักนำมาซึ่งความทะนง ความรู้สึกเหนือคนอื่น ตลอดจนการเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาไปในทางเดียวกับลัทธิที่นิยมมนต์กฤตยาอาถรรพณ์ คือมองว่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเป็นผู้บันดลบันดาลฤทธิ์อำนาจและความปลอดภัยทั้งหลายให้เรา ขอเพียงเราสวดวิงวอนร้องขอเท่านั้น

    ตัวอย่างในกรณีนี้คือคุณอาจเชื่ออยู่ลึกๆว่าถ้าสวดชินบัญชรแล้วจะอธิษฐานขอให้เกิดอำนาจเปลี่ยนแปลงจิตใจของสามีได้ ขอบอกตรงๆครับว่ามีส่วนกระทบสามีได้จริง คือสามีคุณอาจเกิดความคร้ามเกรง หรือเห็นคุณมีความคมเข้มบางประการที่น่าเกรงใจ ตลอดจนทำให้เขาขนลุกได้ในบางครั้งเมื่อคุณปั้นท่านิ่งขรึม

    ประเด็นสำคัญคือ ความน่าเกรงขามกับเสน่ห์ดึงดูดใจไม่ใช่สะพานเชื่อมระหว่างทางเก่าของเขากับทางใหม่ในธรรมสำหรับเขา และบางทีอาจจะไม่ใช่แม้แต่สายใยผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างสามีกับภรรยาที่อยู่ร่วมกัน กระแสความเมตตาต่างหากที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมด ทั้งการเชื่อมทางเก่ากับทางใหม่ ทั้งการกล่อมเกลาจิตใจ และทั้งเป็นสัมผัสเย็นละไมให้รู้สึกถึงเงาสงบใต้ร่มธรรมในช่วงเริ่มต้นสำหรับเขา

    ผมไม่ได้ยุให้คุณเลิกสวดชินบัญชร แต่อยากให้ทดลองสวดบทอิติปิโสฯ ซึ่งเป็นการสรรเสริญพระรัตนตรัย จาระไนคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์โดยไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งโดยธรรมชาตินั้น เมื่อเราสรรเสริญคุณวิเศษอันใด ก็เท่ากับเรายอมรับกระแสแห่งคุณวิเศษนั้นๆเข้ามาในเราด้วยอยู่แล้ว

    ภาษาที่ร้อยเรียงขึ้นเป็นบทสวดอิติปิโสฯมีความเพราะพริ้งในแบบที่อ่อนโยน ก่อให้เกิดความแช่มชื่นสบายใจ ที่สำคัญคือถอดแบบมาจากพุทธพจน์โดยตรง ใครสวดอิติปิโสฯทุกค่ำเช้าด้วยใจยินดี หรือตั้งจิตไว้ในแบบรู้ทางที่จะสวดด้วยโสมนัสตั้งแต่ต้นจนจบได้หลายๆครั้ง จะรู้สึกถึงเมตตาที่ก่อตัวขึ้นเป็นทุนใหญ่ เมื่อรู้สึกถึงเมตตาเยือกเย็นแล้ว ลองอธิษฐานนิ่งๆอยู่ในความสุขนั้นว่า เมื่อคุณปรากฏตัวให้สามีเห็น หรือสามีได้ยินเสียงคุณพูด ขอให้สามีจงได้ส่วนแห่งความสุขเช่นเดียวกับคุณ

    หากทำทุกเช้าค่ำ ทุกวัน นั่นก็คือการแผ่เมตตาครบวงจร คือทั้งในขณะลับหลังกันไม่เห็นตัว ทั้งในขณะอยู่ต่อหน้าพูดจากัน คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองก่อน แล้วจะเห็นผลเป็นความสงบอ่อนโยนลงในสามีเป็นอันดับต่อมาอย่างแน่นอน

    การแผ่เมตตาให้กันเป็นพุทธวิธี เป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคพุทธกาลนิยมกระทำกัน และได้ผลสำเร็จเป็นมิตรไมตรีไม่มีระคายต่อกัน เพราะเป็นการปรับพื้นฐานทางใจต่อกันใหม่ แล้วต่อยอดเป็นพฤติกรรมอันเป็นที่รักในการอยู่ร่วมกัน มนุษย์มีสัญชาตญาณเอาดีเข้าตัว เมื่อใจเขาเห็นชัดว่าชีวิตแบบใดดีกว่า เป็นสุขกว่า เย็นรื่นกว่า ก็ย่อมเลือกชีวิตแบบนั้นในที่สุด ไม่อาจทนต้านได้ เมื่อเขาเลือกที่จะเย็นตามคุณ ก็แปลว่าคุณสามารถชักนำให้เขาไปพบพระ หรือนำหนังสือธรรมะไปให้เขาอ่านได้โดยไม่พบกระแสต้านดังเคย สำคัญคืออย่าเพิ่งผลีผลาม รอดูจังหวะที่เขาเป็นทุกข์และขอคำปรึกษาเอง ตรงนั้นจะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่สุด

    นอกจากอาศัยเครื่องทุ่นแรงช่วยในเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว ก็ควรมองให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาอย่างชัดเจนด้วย

    ๑) สำรวจด้านดีในตัวคุณที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเขา เขาได้ส่วนนิสัยแบบใดในด้านดีของคุณไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคิด คำพูด หรือการกระทำ คู่ผัวตัวเมียที่อยู่ร่วมกันนานๆต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งถ่ายเทถึงกัน ตัวอย่างเช่นแต่เดิมไม่ชอบให้อาหารสัตว์ พอเห็นเราให้อาหารสัตว์บ่อยๆจนเป็นภาพชินตา ก็อาจกลายเป็นแนวโน้มที่เขาจะชอบให้อาหารสัตว์ตาม เมื่อพบว่าด้านดีของเราอันใดแปรใจเขาให้โน้มเอียงมาใกล้เราได้ ก็ให้เร่งเพิ่มคุณงามความดีในด้านนั้นๆให้มากขึ้น ด้วยเจตนาให้เขาได้ส่วนดีจากการอยู่กับเราไปมากที่สุด

    ๒) สำรวจด้านเสียในตัวคุณที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเขา เขาได้ส่วนนิสัยแบบใดในด้านเสียของคุณไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคิด คำพูด หรือการกระทำ เช่นคนที่อยู่ร่วมกันมักแสดงความหงุดหงิดใส่กันง่ายๆเมื่อไม่ได้อย่างใจ ไม่มีใครเห็นคนอื่นหงุดหงิดแล้วอยากคล้อยตามหรืออยากโอ๋ตลอดไป มีแต่ว่าเห็นใครหงุดหงิดใส่ก็อยากหงุดหงิดตอบ เมื่อพบว่าด้านเสียของเราอันใดผลักไสเขาห่างจากธรรมะ ก็ให้เร่งลดนิสัยใจคอในด้านนั้นๆให้น้อยลง ด้วยเจตนาให้เขางดเว้นอกุศลธรรมนั้นๆตามเรา

    โดยสรุปคือเราอยากให้ใครเป็นอย่างไร ก็จำเป็นต้องใช้ตัวเราเองเป็นสะพานให้เขาข้ามมาจากฟากเดิมของเขา และวิธีที่จะเป็นสะพานได้อย่างแท้จริง ก็คือเราต้องทอดตัวไปถึงฝั่งนั้นแล้วอย่างมั่นคงเป็นการกรุยทางให้ก่อนครับ
    -ดังตฤณ-​
     
  5. whanjai

    whanjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +244
    ไม่ทราบว่ามีใครสามารถท่องยอดพระกัณฑ์ได้ไหมคะ ส่วนตัวคงต้องอาศัยการอ่านแน่นหากเป็นบทนี้ ขออนุโมธนาบุญค่ะคุณ jamekc46
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  6. whanjai

    whanjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +244
    ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาบุญค่ะ คุณ rungdao
     
  7. whanjai

    whanjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +244
    เห็นด้วยกับคุณjt odyssey ว่าการสวดมนต์ไม่ใช่เพียงต้องการสวดเพิ่งหวังอิทธิฤทธิ์ แต่ที่จะคอยย้ำเสมอว่าสวดแล้วได้ผล เช่นนั้นเช่นนี้เพราะอยากให้คนที่ยังไม่เชื่อหรือศรัทธาได้มีโอกาสได้มาเริ่มสวดดูบ้างค่ะ การขออะไรแล้วได้สมหวังหลังการสวดมนต์เป็นเพียงผลพลอยได้ แก่นแท้ของพระธรรมจะเริ่มเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อเราได้ลองปฎิบัติเองค่ะ ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาสาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  8. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    การสวดมนต์เป็นอุบายทำให้จิตยึดติดและเป็นสมาธิ แต่การสวดมนต์ที่ดี ควรจะวางใจแบบสบาย สบาย ไม่เครียด ไม่ยึดติด ทำอารมณ์ตามนี้ ไม่ยึดติดว่าสวดแล้วจะได้อันโน่น อันนี่ การสวดมนต์ที่ดีนั้น เมื่อสวดเสร็จจะูรู้สึกเบาสบาย ใจสบาย สงบมีความสุข หากไม่เป็นเช่นนี้ แสดงว่า คนวางอารมณ์ หรือวางจิตผิดวิธี คุณจะเครียด และปวดหัว ขออำนาจแห่งคุณพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ จงอำนวยอวยชัยให้ทุกท่านพ้นจากบ่วงทุกข์ ทั้งสิ้น เทอญ
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    บท ธรรมจักกัปวัตนสูตรครับ

    ท่องบาลีให้ขึ้นใจ
    แปล ความความเป็นไทยให้เข้าใจ

    ไปอยู่ป่าอยู่ถ้ำ

    จะได้ สาธยายบทธรรมจักรให้ โอปะปาติกะฟัง
    แม้แต่ ผู้ สาธยายก็ได้ทวน ได้ฟัง คำแปล ในบทธรรมจักร
    เป็นวิธี ฝึก เพื่อ สละ ละ วาง เพื่อ พ้นทุกข์

    ผู้ใหญ่ ฟังได้ เด็กๆฟังดี
    ผีน้อย ผีใหญ่ เห็นอานิสงส์ อนุโมทนาได้

    โดยไม่ต้องใช้หนังสือ

    สะดวกไปหลายอย่าง ลองดูครับ
     
  10. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    อนุโมทนาบุญแด่เจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ

    ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ

    สำหรับคาถาชินบัญชรเป็นมนต์คาถาไม่ใช่บทสวดมนต์หลัก ถ้าจะสวดมนต์หลักก็ควรเริ่มตามแบบในหนังสือธรรมมะทั่วๆไป(ถ้าสวดอยู่แล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ) จากนั้นค่อยสวดบทคาถาของครู อาจารย์ต่างๆตามจริตของตัวเอง

    นอกจากคาถาชินบัญชรแล้ว หลวงปู่โตยังมีบทคาถาที่สำคัญอีกก็คือ "ยอดคาถาพระกัณฑ์ไตรปิฎก" ยังมีคาถาอีกมากมายจากครูอาจารย์เช่น
    -คาถาจุลชัยยะมงคล ของหลวงปู่มั่น
    -คาถาโพธิบาทหรือป้องกันภัยสิบทิศ ของหลวงปู่ฝั้น
    -คาถาบารมี ๓o ทัศ ของครูบาร์ศรีวิชัย
    -คาถามหาจักรพรรดิ์ ของหลวงปู่ดู่
    -ปัญญาบารมี ๓o ทัศ
    -อาฏานาติยะปะริตตัง ของท่านท้าวเวสสุวรรณ
    สิ่งสำคัญคือ ต้องสวดมนต์ที่เป็นบทหลักก่อนแล้วค่อยว่าตัวคาถา สำหรับคาถานั้นสามารถท่องได้ทุกที่ทุกเวลา ขึ้นอยู่กับเจ้าของกระทู้ว่านับถือครู อาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านใด ก็ลองค้นหาได้ตามในอินเทอร์เน็ตหรือหนังสือสวดมนต์ที่มีอยู่มากมาย

    **สำหรับผู้มีเมตตาจิตทั้งหลายเวลาสวดมนต์บทหลักเสร็จ อย่ารีบแผ่เมตตา ให้ทำการสวดบทคาถาต่างๆที่ถูกจริตกับตัวเราก่อน เหตุผลก็คือ ให้ผู้ที่ีรอรับบุญได้ฝึกความอดทนในการรับบุญ และฝึกบังคับให้หัดสวดไปในตัว เพื่อที่ตัวเค้าจะได้สร้างบุญของเค้าได้เอง เมื่อเสร็จสรรพทุกอย่างแล้วก็ขออโหสิกรรม จากนั้นก็แผ่เมตตาได้เลย ถ้ากลัวไม่ถึงอีกก็อุทิศให้กันไปเลย

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ผมชอบทำนองนี้มากเลยครับ ^_^

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=OQkEZQqD7e0&feature=share&list=PLLWjZw4IDM7ZvxeY3KG5mv4NwGJhHzQ_N]MV บทเพลงพระคาถาชินบัญชร - YouTube[/ame]
     
  12. อนุรุทธ

    อนุรุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +911
    ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ จะผิดจะถูกอย่างไรก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า

    การที่คุณสนใจการสวดมนต์ภาวนามากเท่าไรยิ่งดีครับ (ผมโมทนาบุญด้วย)
    แต่ต่อให้ท่องคาถาได้เป็นเล่มๆ โดยที่ไม่ต้องดูหนังสือ
    แต่ถ้าจิตแส่ส่ายออกไปคิดถึงเรื่องราวภายนอกในขณะที่สวด อานิสงส์ที่ได้ย่อมน้อย

    แต่ถ้าคุณท่องคาถาเพียงบทเดียว(เช่นบทชินบัญชร หรือบทอะไรก็ได้)
    แต่จิตคุณไม่แส่ส่ายส่งออกไปภายนอก ใจนึกถึงแต่คำภาวนา ตลอดจนจบทั้งบท ถือได้ว่าดีมากแล้ว

    แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น คุณควรจะ "นึกเห็นภาพตัวอักษรของคาถาช่วงนั้นๆขึ้นมาในจิต"
    และถ้ารู้คำแปลของทุกท่อนของคาถาอย่างขึ้นใจ จะดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

    นึกเห็นภาพตัวอักษรของคาถาช่วงนั้นๆขึ้นมาในจิต
    "โดยที่ตัวหนังสือคาถามีความชัดเจนในจิตมากเท่าไรยิ่งดี"
    (ยิ่งถ้าเห็นเหมือนตาเนื้อมองแผ่นกระดาษอยู่เลยยิ่งดี)
    พร้อมๆไปกับการรู้ความหมาย และจิตไม่แส่ส่ายส่งออกไปภายนอกจนจบบท ถือได้ว่าวิเศษมาก

    ถ้าทำได้เช่นนี้ แค่บทคาถา(ชินบัญชร)เพียงบทเดียว ก็มีอานิสงส์ครอบจักรวาลแล้ว
    ไม่ต้องไปดิ้นรนหาบทสวดอะไรมาจดจำให้มาก (แค่บทอะไรยาวๆบทนึงก็เพียงพอ)

    เพราะว่า ถ้าวันนึงคุณเคยท่องจำบทสวดได้เป็นร้อย หรือท่องหนังสือได้เป็นเล่มๆ
    แต่มาวันนึงคุณนึกบางบทไม่ออก อาจจะทำให้จิตคุณเศร้าหมองได้ คิดว่าตัวเองเสื่อมถอยลงไป
    เพราะคุณไปยึดถือปริมาณ มากกว่ายึดถือคุณภาพ
    (จะท่องได้10บท หรือ100บท หรือท่องได้ทั้งเล่มก็ตาม แต่ถ้าจิตไม่นิ่ง ผลก็คือๆกัน

    เฉกเช่นการนั่งสมาธิ คนที่เข้าฌานได้คล่องนั้น ใช้เวลาแม้เพียงชั่วกระพริบตา ก็ยังถือว่าช้าไป
    คนที่ไม่ชำนาญย่อมต้องใช้เวลานั่งนานมากกว่า เพื่อจะสงบจิตตัวเองให้นิ่งได้

    การจดจำบทสวดได้มาก จึงไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญอยู่ที่จิตนิ่งไม่แส่ส่าย


    และการท่องจำบทสวดได้มากๆ กลับกลายอาจจะทำให้คนบางคนหลงคิดว่าตัวเองเลิศกว่าผู้อื่น
    มัวแต่สนใจเรื่องที่จะคุยโม้ คุยอวดให้ผู้อื่นฟัง ว่าตัวเองท่องบทสวดมนต์ได้เท่านั้น เท่านี้ ฯลฯ
    กลับกลายเป็นเหตุทำให้ตัวคุณเองเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้โดยใช่เหตุ
    เหมือนกับคนที่ศึกษาพระไตรปิฏกทุกเล่ม เพื่อเอาไว้อวดคนอื่น โดยที่จิตไม่เข้าถึงธรรม
    (ติดสังโยชน์ข้อที่8 มานะ ถือตัวถือตน เป็นอุปกิเลสที่ทำให้จิตไม่สะอาดไม่ถึงนิพพาน)
    แต่ถ้าคุณท่องได้ ทำได้ ผมขออนุโมทนาบุญด้วย

    การศึกษาธรรมะในศาสนาพุทธ
    ควรจะใช้เวลาที่สั้นที่สุด เข้าถึงให้เร็วที่สุด บรรลุเป้าหมายเข้านิพพานให้เร็วที่สุด
    (เพราะความตายจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ได้)

    ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเป็น พระสงฆ์ ที่ต้องสืบทอดศาสนา ,ต้องเป็นอาจารย์สอนผู้อื่น
    หรือมีจริตเป็นพระโพธิสัตว์ ต้องรู้ครบเพื่อสะสมบารมีให้เต็มเพื่อหวังที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  13. อนุรุทธ

    อนุรุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +911
    แนะนำว่า คุณควรจะแยกบทชินบัญชร ออกเป็นท่อนๆ แล้วพิมพ์หรือเขียนลงกระดาษด้วยตัวคุณเอง
    ถ้าจะพิมพ์ออกมา ก็เลือกfontตัวหนังสือแบบที่คุณชอบ จำได้ง่าย

    เพื่อที่จะนึกขึ้นมาในจิตได้ง่ายๆ
    (ถ้าเขียนด้วยลายมือของคุณเองจะยิ่งดี จะจำได้ง่ายกว่า)

    ผมใช้วิธีเขียนทีละตัวอักษร ค่อยๆเพิ่มทีละบรรทัด จนจบบท
    โดยถ้าผิดแม้แต่ตัวอักษรนึง ก็ให้กลับไปเขียนใหม่ตั้งแต่ต้น
    ทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขียนได้สมบูรณ์ทั้งบทรวดเดียวจบ ทั้งท่องและเขียน
    (ก่อนหน้านั้นไม่เคยท่องชินบัญชรมาก่อนเลย ใช้วิธีบังคับตัวเองจำรวดเดียวหมด)
    หลังจากนั้น หลับตานึกภาพเห็นตัวหนังสือวิ่งเลย
    ใช้เวลาว่างๆ ประมาณ4วันทำได้
     
  14. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    แนะนำสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก


    ประวัติต้นฉบับเดิมกล่าวว่า หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าเป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกเช้าค่ำแล้ว เป็นการบูชารำลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือน ก็ป้องกันอันตรายต่าง ๆ จะภาวนาพระคาถาอื่น ๆ สัก ๑๐๐ ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะเนรมิตแผ่นอิฐเป็นทองคำก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษย์โลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ในต้นฉบับเดิมนั้นอีกนานับปการ ฯ

    Bloggang.com :
     
  15. Stabilo

    Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=VgGnMc8PhtY]คาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก 15กค2554 - YouTube[/ame]
     
  16. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    เพิ่งจะมาเจอผู้ที่เดินอักษรมาเป็นกรรมฐาน และตั้งนิมิตจากตัวอักษรด้วยการสวดมนต์ .. ขอโมทนาค่ะ
     
  17. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เห็นด้วยกับท่านอนุรุท นะครับ :cool:

    ความจริงสวดมนต์ไม่ต้องสวดมากมายหลายบทก็ได้
    เอาว่าบทไหนถูกจริตก็จดจำและสวดทุกวัน

    ระหว่างสวดให้ระลึกถึงความหมายของแต่ละบทให้ซาบซึ้งเข้าไปในจิต
    อย่าส่งจิตออกไปข้างนอก ให้จดจ่ออยู่กับคำสวด
    เท่านี้ก็ได้อานิสงค์มหาศาลแล้ว ครับ
     
  18. art2498

    art2498 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +45
    สวดแบบอ่านหนังสือเอาก่อนครับ อ่านทุกวันมันจะจำได้เอง เมื่อคิดว่าจำได้บ้างแล้วค่อยๆปล่อยหนังสือสวดมนต์ ครับ ผมทำวิธีนี้ ได้ผล ไตรปิฎก พาหุง ผมสวดโดยอ่านทุกวัน แล้วก็ค่อยๆปล่อยหนังสือ ถ้าปล่อยหนังสือสวดมนต์อาจจะขาดความมันใจกลัวผิด แต่ก็ต้องหัดปล่อยครับ ลองดู
     
  19. jamekc46

    jamekc46 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +541
    จะว่าไปก็จริงนะครับที่พระคาถานี่มีความยาวมาก แต่ถ้าสังเกตุให้ดี พระคาถานี้จะวนอยู่ที่เดิมแค่เปลี่ยนบางตัวในช่วงแรกๆหนะครับ ผมว่าถ้าตั้งใจจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ(ผมก็พยายามฝึกอยู่เหมือนกัน)
     
  20. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    ตอนที่เริ่มสมาธิครั้งแรกแบบฝึกเอง ทำตามตำราของ อ.คนอง เนินอุไร หนังสือโลกทิพย์ ผมสวดคาถาชินบัญชร แล้วจึงนั่งสมาธิ ประมาณ 6 เดือนจนเข้าสู่ระดับหูดับ (บางท่านบอกเป็นฌาน 4 ) ถ้าจะให้จำได้คล่องเขาบอกให้ไปไหว้สมเด็จที่วัดระฆัง แล้วสวดคาถาชินบัญชรต่อหน้ารูปสมเด็จโต (ผมสวดต่อหน้าผ้ายันต์ที่มีรูปสมเด็จโต) ถ้าทำในวันพฤหัสบดียิ่งดี เพราะเป็นวันครู ถ้าอยู่ไกลทำที่บ้านวันพฤหัสบดี พร้อมดอกไม้ หมากพลู อธิษฐานขอคาถาบทนี้จากสมเด็จโต มีคนบอกถ้าสวดแบบทำนองช้าๆ จะเป็นทางทำสมาธิเมตตา แต่ถ้าสวดแบบแข็งๆ เร็วๆ จะเป็นทางคงกระพัน ซึ่งจะออกไปทางแรงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...