ใครขัดข้องอะไรก็เข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Master Papol, 11 ธันวาคม 2012.

  1. Master Papol

    Master Papol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +92



    ...เป็นเกียรติอย่างยิ่ง

    สมมุติอย่างหยาบ ๆ ที่มนุษย์ในโลกนี้ชอบตัดสินและแบ่งแยกออกจากกันโดยสิ้ยเชิงคือ
    ขั้วทั้งสองข้างของพลังงาน และ สสาร ที่สลับทำงานกันเป็น ทวิภาวะ เช่น
    บวก-ลบ
    ดี-ชั่ว
    อ่อน-แข็ง
    ขาว-ดำ
    บุญ-บาป
    สุข-ทุกข์
    สูง-ต่ำ
    สวรรค์-นรก
    เย็น-ร้อน เป็นต้น

    ดังนั้นจิตที่ยังมีการยึดจับอยู่ ก็ย่อมหลงเที่ยว ไป-มา อยู่กับทวิภาวะทั้งสองอยู่นั้นเอง

    เฉกเช่นบุคคลตื่นมาได่ใส่บาตรตอนเช้า ก็เกิด ปิติสุข
    พอช่วงสายไปทำงานไม่ทัน ก็เกิด เศร้าหมองเป็นทุกข์
    ช่วงเที่ยงได้ทานอาหารอร่อย ก็เกิด ปิติสุข
    พอกลับมาทำงานต่อ ก็เกิด เศร้าหมองเป็นทุกข์
    ตกเย็นเลิกงานไปชมภาพยนต์ ก็เกิด ปิติสุข
    กลับบ้านรถติด ก็เกิด เศร้าหมองเป็นทุกข์
    ถึงบ้านได้อาบน้ำพักผ่อน ก็เกิด ปิติสุข
    ค่ำลงเผลอหลับไปลืมสวดมนต์ ก็เกิด เศร้าหมองเป็นทุกข์ในใจ

    ท่องเที่ยว ไป-มา อยู่เช่นนี้จนวาระจิตสุดท้ายของชีวิต
    ทีนี้จิตสุดท้าย เกิดยึดจับสิ่งใด ก็จะไปจุติภพภูมิเทือกๆนั้น ขึ้นอยู่กับความฟลุค


    แต่เธอจะพัฒนาขึ้นก็ต่อเมื่อ เธอได้เอะใจต่อความซ้ำซาก
    ที่มัน เกิด-ดับ ขึ้น-ลง ไป-มา สลับกับไปตลอดทั้งวัน
    จนจิตสลัดคืน กาย-ใจ นี้เพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางได้

    ดังนั้นเธอพึงสังเกตุช่วงระหว่างของการได่ใส่บาตรตอนเช้าแล้ว เกิด ปิติสุข
    กับช่วงสายที่ไปทำงานไม่ทันจน ความเศร้าหมองก็แทรกตัวเข้ามาได้ ให้ทัน

    เพราะวินาทีนั้นเป็นนาทีทองสำคัญที่ขบวนการธรรมชาติแสดงอาการ
    เกิดขึ้น
    ตั้งอยู่
    ดับไป
    ทำงานให้เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ๆ ว่าเป็นของธรรมดา ๆ เอง
    และเมื่อมันดับไปแล้ว
    เธอตามทันไหมหล่ะ ? หรือว่ายังติดอยู่ ?
    และที่ติดนั้นแหล่ะ คืออดีตล้วน ๆ เลย (แม้อดีต 1 มิลเซควินาทีเมื่อครู่)

    ตามปัจจุบันทันไหม ?
    มันผ่านไปแล้วนะ !
    ...


    เขาก็บอกตรง ๆ อยู่แล้วว่า...
    สรรพสิ่งในโลกล้วนมี
    เกิดขึ้น
    ตั้งอยู่
    ดับไป
    เป็นธรรมด๊า ธรรมดา

    เราดูไม่ออก ดูไม่ทันเอง
    เลยหลงไปยึดติด ปรุ่งแต่ง ให้มันเกิดขึ้นต่อเนื่องเอง







    งั้นเกมส์นี้ ใครเห็นแล้ว วางได้ก่อนเป็นผู้ชนะก็แล้วกัน
    ใครวางได้ก่อนก็มีความสุขก่อน










    เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ ฯ
     
  2. Master Papol

    Master Papol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +92


    ถ้าใช้ศัพท์ในระบบ (ของสำนักพุทธโคดม) ก็ขอตอบตามระบบว่า
    ผู้ปฏิบัติย่อมต้องเจอ วิปัสสนูกิเลส ไปจนภูมิอนาคามี
    เพราะพระอนาคามีแม้รู้สึกว่า "วันนี้เราปฏบัติดีคืบหน้าไปเยอะ"
    ก็เป็นวิปัสสนูกิเลสแล้ว ฯ




    อนุโมทนา
     
  3. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เช่นนั้น ท่านรู้สึกเป็นเกียรติที่พี่ศรีอาราธนาแสดงธรรมก็เป็นวิปัสสนูกิเลสหรือไหมครับ :boo:
     
  4. ฅนภูเขา

    ฅนภูเขา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +41
    มันส์ดี....(deejai)
     
  5. Master Papol

    Master Papol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +92
     
  6. Master Papol

    Master Papol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +92



    ไม่เป็น
    เพราะเป็น อกริยา
    รู้สึก ก็สักแต่ว่า รู้สึก
    เป็นเพียงเครื่องอยู่เครื่องอาศัย เครื่องระลึกเตือน
    เพื่อสื่อสาร ประมาณ สมมุติ ให้ล่วงรู้
    อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
    ด้วยประการฉะนี้ ฯ



    ขออนุโมทนาบุญ
     
  7. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมเคยอ่านเจอโสดาบันก็ไม่มีวิปัสนูกิเลสแล้วครับ
     
  8. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เนี่ยะๆ ตรงเนี่ยะ เหมือน กล่าวเกือบเหมือนเลย แต่เพราะว่า มันแค่
    เหมือนมันเลยชัดว่า ไม่ใช่ แล้วหละ ธรรมก๊อปปี้ ชัดเจนเลย

    มูลจิต ที่มี โลภะมูลจิต โทษะมูลจิต โมหะมูลจิต เนี่ยะ เขาต้อง นำออก
    หาทาง หาวิธีนำออก ซึ่งจะต้องมี อุบาย ในการนำออก ปรารภในการ
    นำออก ซึ่ง หากไม่ได้ ลงมือปฏิบัติมาสักแอะ ก็จะ ด้วนเลยนะ พูดธรรมะ
    เหมือนเด๊ะ แต่ เขาเรียกว่า หางด้วน มันจะขาดบางส่วนตรงเรื่อง อุบายในการ
    นำออกไป ต่อให้ก๊อปปี้ยังไง ก็ไม่เหมือน

    ไม่ฝืน ไม่บังคับ ไม่ควบคุม อันนี้ ง่าย ชะม่า เวลา เอามาพูดก๊อปปี้

    แต่ ไม่ฝืน ไม่บังคับ ไม่ควบคุม คนที่เขา กล่าวอุบายนำออกเป็นเนี่ยะ
    สิ่งที่ควรทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ สิ่งที่ถูก สิ่งที่ผิดแยกแยะทำลายลงได้
    เนี่ยะ มันจะพร้อมสรรพไปในการกล่าว

    ซึ่ง จะตรงกันข้ามกับ ที่คุณยกมา

    ไม่ฝืน ไม่บังคับ ไม่ควบคุม แต่ จมขี้เหมือนเดิม มันใช่ซะที่ไหนเล่า ! เฮ้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  9. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมขออนุญาติยกปริศนาให้ลองแก้เนาะครับเห็นคนสนใจเยอะ จะมีประโยชน์
    เผื่อตะกี้ไม่มีโจทย์เลยอธิบายไม่ละเอียด

    นายก.โดนโกงตังค์ไป 50,000 ทุกข์ความไม่สบายเกิดแล้วในฐานสติทั้ง4 มีปากสั่น มือสั่น มีกลุ้มใจ มีความคิดมากมายเกิดขึ้น จะเอาที่ไหนเลี้ยงปากท้อง ครอบครัว อาจจะอยากตาย นายก.ทำไงดีหล่ะทีนี้
     
  10. meow555

    meow555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +16
    ขอบคุณมากครับ จะนำไปฝึกปฏิบัติครับ :cool:
     
  11. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เราเข้าใจว่าท่านปรุ่งแต่งไปเองนะ ที่เขากล่าวมาถูกต้องแล้ว แต่อาจยังไม่ครบขบวนท่าเท่านั้นเอง
     
  12. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ตรงอุบายในการทำให้ทุกข์ดับอะครับ ต้องมีไหม หรือ เห็นทุกข์เฉยๆ
    ทำไมพระศาสดาสอนอริยสัจ4 ไม่สอนแค่รู้ทุกข์
     
  13. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
     
  14. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    เอ้า คุณ งง ตัวเองหรือเปล่าครับนั่น

    " เขากล่าวยังไม่ครบขบวนท่า "

    " เขากล่าวถูกต้องแล้ว "

    ควบครึ่งลูกบวกสิบ หรือครับ

    ว่าแต่ว่า กระทู้นู้น มีคนเข้าหรือยัง กล้าๆ หน่อย

    ไม่ใช่ ประกาศปั๊ป อดทนไม่ไหว ความอยากสอน พาลากเข้า
    กระทู้นั้นกระทู้นี้เสียเหนียวไปหมด

    อดทนหน่อยซี่คร้าบ เดี๋ยวก็มี คนเข้า หน่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  15. Master Papol

    Master Papol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +92


    สุดแต่ท่านจะเลือกเชื่อขอรับ ทำใจให้สบายเถิด


    ขอให้ทุกท่านใช้อณาจักรแห่งนี้ เพื่อเป็นไปซึ่งการไขปริศนาภายในใจที่ท่านขัดข้องต่อมรรคผลจริง ๆ
    เพื่อหาทางออก เพื่อความคลายวาง อันเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์
    มากกว่าที่จะใช้เป็นสนามประลองเชาว์ปัญหา หรือตรวจสอบความรู้ปิฏก
    หรือพิสูจน์ตรรกทางภาษา ที่มีข้อจำกัดอันคับแคบอยู่
    และเข้าใจว่ายังมีสื่อหาความรู้อาทิ Google.com หรือกระทู้ดี ๆ ในเวปนี้อีกมากมายที่จะให้คำตอบแก่ท่านได้
    และอันเนื่องจากเราก็มิได้มีให้ในส่วนนั้นเช่นกัน



    ขออนุโมทนาด้วยความอารี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  16. Ukie

    Ukie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +594
    เวลาทำสมาธิ ภาวนาพุทธ เข้า โท ออก ซักพัก จะมีนิมิต แต่จะเป็นภาพมั่วๆเรื่องไม่เป็นเรื่อง
    เกิดขึ้นแว๊บนึง1-2 วิ แล้วจะเริ่มไม่มีสติแระ ก้อเคลิ้มหลับไปเลย หลับไม่นาน ไม่ถึงสิบนาทีด้วยมั๊แต่ตอนที่เริ่มมีนิมิต บางครั้งก้อรู้ว่ามีนิมิตเกิดขึ้น ก้อมักจะบอกตัวเองว่า นั่นมันไม่ใช่เรื่อง
    ที่ต้องไปตามดู ที่ต้องตามดูคือลมหายใจ ซักพักก้อเคลิ้มหลับอีกแระ. เอาชนะไม่ได้ซักที อยู่ในนั้นง่วงมาก นั่งสมาธิช่วงหลังๆ มานี้ เป็นบ่อยนั่งไม่ถึงห้านาทีสิบนาที เคลิ้มไปแระ

    ทำไงดีค่ะ
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ก็ทำต่อแบบนั้นแหละ

    แล้วมันจะค่อยๆ ชัด

    เวลาชัด หากภาวนาด้วย อารมณ์คู่แบบนี้ มันจะเห็นว่า

    ความฝันตอนกลางคืน กับ ความคิดตอนกลางวัน มันทำหน้าที่ บางอย่าง
    เหมือนกัน คือ " ครอบงำ " " ปิดบัง "

    ถ้าเห็นครอบงำ จะ งง หน่อยๆว่า ทำไม มืด ได้ขนาดนั้น
    ซึ่งแสงสว่าง จะอยู่ที่ ลมหายใจ

    ถ้าเห็นปิดบัง จะ สะเทือนธรรม แล้ว เฝ้นหาอุบายนำออก
    ซึ่ง ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก อยู่ที่ ลมหายใจ
     
  18. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ที่ท่านอธิบายมานี้ไม่ถูกต้อง และไม่มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ ท่านลองชี้ให้ดูหน่อยว่า สาระสำคัญของการปฏิบัติอยู่ตรงไหน

    ท่านปฏิบัติจนหลงตีตนเทียบองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ท่านเรียกองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ว่า "พุทธโคดม" เหมาะสมหรือไม่

    ท่านไม่มีจิตใจเคารพองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าว่าแต่พระอริยะเจ้าเลย แม้สัตว์โลกท่านยังเทียบไม่ได้เลย จิตใจแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากสัตว์นรกที่อยู่ในอบายภูมิเลย
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้าว มาแนว ปัญญา เอาปัญญากางจ๋ามาเชียว ไม่กล่าว สมถะ สมาธิ

    แต่ พอเจอความหลากหลายทาง คำพูด( วาทะ ) วิ ( หลากหลาย )
    แหม ปฏิภาณปัญญ ไหวพริบหายจ้อย กลัว พูดได้ไม่ตรงที่ก๊อปปี้เอา
    ไว้เหรอครับ

    เหนื่อยนะ สอนธรรมด้วยวิธีปกปิดซ่อนเร้นเนี่ยะ

    แล้วนี่อะไร เราแค่กล่าว " วิวาทะ " ความหลากหลายทางคำพูด ก็
    ออกตัวกีดกัน และ

    ถ้ากีดกันคู่เสวนา ก็ไม่เท่าไหร่นะ เข้าใจ หากไล่เหมือนหมูเหมือนหมา
    ก็ไม่เคยฝืนอยู่แล้ว

    แต่นี่ คุณเล่นออกตัว กิดกัน ปิฏก เลยเหรอครับ กีดกันศาสนาพุทธออก
    ห่างตนเลยเหรอ เอาจริงอ๊ะ
     
  20. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ชื่อท่านชื่อเดิมมันคงหลอกใครไม่ได้แล้ว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่จิตใจท่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลอกได้แต่เฉพาะผู้ไม่รู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...