ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ดั่งเหตุผลที่ท่าน ศนิวาร บอกนั่นผมเห้นด้วยอย่างยิ่งครับ...เพราะไอ้ที่หลายๆครั้งที่เผชิญมานั้นแล้วปลอดภัยน่ะ มันมาจากพลังจิตที่เรายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เราเชื่อ..

เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น เมื่อปี๓๕ ผมกับเพื่อนขับรถปิกอัพ(แคป)ไปเที่ยวกันที่สระบุรี เพื่อนขับ อัดแน่นกันไป ๖ คน ผมนั่งคู่กับเพื่อน ๒ คนด้านหน้าข้างคนขับ..ไปถึงหนองแคเจอรถ ๑๐ล้อ เบียดขวากระทันหันพอเบรคยางหน้าซ้ายระเบิด รถเอียงตะแครงด้านซ้ายเอาข้างไถไปตามถนนลาดยาง ไถลไปกว่า ๕๐๐ เมตร(เหมือนหนังเฉินหลงชอบสร้างแบบนั้นเลย) กระจกแตก ผมกลายเป็นที่อัดรูกระจกของ นน.เพื่อนๆ ผมมีสติตลอดนะ..หลังถูไปกับพื้นถนนราดยาง ปืดๆๆๆๆๆ ตอนแรกก้ออกแรงต้าน นน.ตัวเพื่อน แต่มันไม่หยุดซั้กทีไม่ไหว เลยปล่อยไปตามยถากรรม ในใจภาวนาพุทโธๆๆ นึกถึง ลพ.เดิม เพราะแขวน ลพ.เดิม(๒๔๘๒) จริงๆมีหลายองค์ แต่นึกแว้บได้ครั้งแรก ก็ ลพ.เดิม.....จนรถพลิกลับลงมาตั้งอยู่ในสภาพ๔ล้อเดิม ควันโขมง เต็มรถ คนวิ่งมาดู บอกว่า มีตายๆๆ (จิงมันจะวิ่งมาตบทรัพย์๕๕ เพราะมาถึงไม่ได้ช่วยอะไรหรอก แถมมาจับโน่นจับนี่) ห่างจากคลองไม่ถึง ๑๐เมตร ถ้าตกคลองคงอีกมิติหนึ่งแน่...

ผมค่อยๆลงจากรถ แสบหลังไปหมด นึกในใจ ตายแน่คราวนี้ หลังคงเหวะหวะหมดเพราะครูดราดลางมา เนื้อแหว่งไปแล้วแน่ๆ...ใจเสียเหมือนกันเพราะเสื้อมันขาดหมด แสบก็แสบ เพื่อนค่อยๆออกมาจากรถ ก็มาจับดุบอกไม่มีแผลลึกนะ มีแต่เลือดออกเต็ม...จนพากันไปโรงบาลหนองแค พยาบาลเอาน้ำยามาทำความสะอาดบอกว่า แผลลึกไม่มี มีแค่ แผลถลอก..มีรอยกีะจกบาดนิดนึง เดวให้ใส่ยาก็กลับบ้านได้..

ผมก็นึกในใจว่า ใครไม่เชื่อ ก็อย่าเชื่อเลย.แต่ผมเชื่อ.พุทธคุณนี่มีจริงๆเกินล้าน..เพราะไม่ต้องเอาหลังไปไถพื้นหรอก แค่ เอามือเราไปถูกับถนนเล่นซั้ก๑๐ เมตร นี่ก็น่าจะรู้ผลแล้วครับ

 

พระท่านไม่เสกอย่างเดียวหรอก..แหม สารพัดกันนั่นแหละ แต่ท่านจะเน้นให้ดีด้านไหนท่านก็ อธิษฐาน ไว้ให้ เด่นมากหน่อย..ข้อ.๒ ก็ตอบเหมือนกัน.

 

อีกวาระหนึ่ง..ที่เกี่ยวกับ จิตยึดมั่นกับ ลพ.

ผมไปช่วยลูกน้องหา กับระเบิด ..ไอ้เรื่องระเบิดนี่ ใครเข้าไปในดงมัน ขาสั่น พั่บๆทุกคนแหละ ผมก็สั่น(ใจสั่นเล็กน้อย๕๕ ภาวนาเหมือนทุกครั้ง พุทโธๆๆๆ นึกถึงหลวงพ่อเดิม ก็หายสั่นได้) เพราะระเบิดมันไม่มีเจ้าของนี่)..เข้าไปก็ ค่อยๆ ก้าวย่างกัน เรียกว่า ทุกฝีก้าว ก่อนจะเหยียบก็ต้องเอาปลายมีดแซะซะก่อน .จนปลอดภัยก็วางเท้า ก่อนจะก้มไปแซะก็ดูว่ามันวางขึงลวดไว้ไหม..ลวดสะดุดนั้น มันดูยากในป่าน่ะ..สีเดียวกันกับต้นไม้ไปหมด..

หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ชาวบ้านยืนยันว่ามี เพราะวัวมาเตะตายไปตัวหนึ่ง ชาวบ้านไม่กล้าเข้ามาเอา...หาจนเหนื่อย มีอยู่ช่วงหนึ่ง ค่อยๆ ย่องๆ จะลงเท้าลงไปที่พื้น ก็ต้องชะงัก..สายลวดสีเขียววางขวางไป ชนิดตาแทบไม่เห็น..

ในใจก็ โห..มันเล่น ลวดแบบทหารเลยนี่ มันถึงหายาก เป็น ระเบิดของพวกว้า มันวางไว้กัน ไทยใหญ่เข้าไป..เพราะเมื่อก่อนมันมาตั้งฐานฯ.มันถอนไปแต่ไม่กู้ไปด้วย..สรุปว่า ดวงดี ก็ เลยทำเครื่องหมายไว้ ให้ทหารช่างที่เขาร่ำเรียนมาโดยตรงไปเก้บกู้ต่อ..

ต้องบอกว่า ตอนนั้น ไม่ต้องพูดถึงสาเหตุ ความนิ่งของจิตครับ มันนิ่งเองและ ระลึกเอง เพราะสัญชาติญานความกลัวของคนนั้นจะมาก่อน จากนั้นจิตเราจะคว้าสิ่งยึดที่เรามีไว้ในใจ มาเอง แบบอัตโมัติ..

 

๕๕ผมก็ไม่ได้ทำหรอกครับ..เพราะ ครูท่านแค่ให้ไว้ เป็นความรู้ศึกษา แต่ไม่แนะนำให้ทำ..มันคุมยาก

แบบที่ใช้ก้านธูปน่ะ ผมว่า น่าจะใช้ไม่ได้ผลนะ..ถ้ายิ่งเราไม่มีสมาธิเพียงพอ น่าจะไม่เกิดฤทธิ์อะไร สู้ไปบูชา วัวธนู เสือ หรือ พยนต์สำเร็จ ของครูอาจารย์ท่านมาเลยจะดีกว่าครับ..
เพราะทำหุ่นพยนต์นี่ ทำแบบสมัครเล่นไม่ได้ครับ..

อย่างถ้าใช้เถ้ากระดูกผีทำ ท่านยังเน้น ผีตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โห เล่นๆที่ไหน ครับนี่..๕๕ เล่นของแรงทั้งนั้นครับ..

 

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร



รูปครูบาบุญชุ่มฯ อีกภาพหนึ่งที่หาดูยาก เป้นสมัยที่ท่านไปปฏิบัติธรรม อยู่ที่ ภูฎาณ ภาพนี้ผมได้มาจาก พม่า ผมนำไปให้ท่านดู ท่านบอกว่าไปได้มาจากไหน ภาพหายากนะ
ภาพนี้ ท่านพึ่ง ออกจากนิโรจสมาบัติ ที่เข้าอยู่นานนับปีในถ้ำ มารับภัตราหาร มื้อแรก..ที่วังของเจ้าชาย จิกมี่
พม่าไม่เข้าใจเรื่องการเข้าถ้ำของท่าน เอารูปนี้มาให้ผม แล้วบอกว่า ครูบาไม่โกนผมแล้ว เอาผมไว้ เหมือนคนทั่วไป...ไปแล้ว..

 

สาธุ........ได้เห็นภาพมงคล ว่ากันว่าขอพรจากพระผู้ออกนิโรธกรรม อนิสงค์แรง ใช่มั้ยครับพี่คำรณ

 

เชื่อกันว่าสามารถ คนแรกที่ทำบุญกับพระผู้เข้านิโรธสมาบัติ (เข้าจริงๆจะไปกล่าวบอกใครไม่ได้เลยว่าจะเข้า และจะบอกใครไม่ได้เช่นกันว่าออกแล้ว)

อธิฐานให้สำเร็จดั่งใจนึกได้ทุกอย่าง ที่อยู่ในกรอบแห่งองค์ศีล.(.แม้กระทั่ง รางวัล แจ้คพ้อต ก้ได้..)

แต่สำคัญอยู่ที่ว่า..ท่านจะยอมโปรดใคร ให้ทำบุญกับท่านคนแรกเท่านั้น
เพราะท่านสามารถใช้ ญาณวิถี พิจารณาผู้มีบุญญาธิการผู้นั้นไว้แล้วนี่สิ สำคัญ แต่กระนั้นก็เชื่อได้ว่า ผู้ที่ทำบุญ คนถัดๆไป ท่านก็ว่ามี อานิสงยิ่งนัก ..พี่นำรูปนี้ไปให้ท่านดู..ท่านดูแปลกใจไม่น้อยที่ได้ภาพมา..ท่านก็เอามือตบๆๆให้.ว่า.มีบุญแล้วๆๆ...แล้วก็ให้ ญาติธรรมของท่านคนหนึ่ง ยืมรูปนี้ไปสำเนาไว้.(ไปซะนานนับเดือน๕๕) แล้วถึงส่งกลับมาให้

 

ผมไม่หวงครับ เพราะเจ้าของตำราให้เผยแพร่ได้ แต่จะทำได้ไม่ได้ ถือขึ้นไม่ขึ้น แล้วแต่ จิต และ ศรัทธา ของคนทำ

พยนต์ก้านธูป "พ่อวิรุณโต แม่วิรุณโต"

คนเรามีสมบัติ มีห่วงย่อมหาวิธีในการคุ้มครองป้องกันบ้านเรือนและสมบัติให้พ้นจากภัย ครู-อาจารย์ทั้งหลายย่อมประดิษฐ์คาถาและกรรมวิธีในการรักษาสมบัติ นั่นคือสร้างพยนต์ขึ้นมาเฝ้าบ้านและทรัพย์สินให้เรา

วิธีทำท่านให้ดังนี้

1.ให้จุดธูป จุดเทียนบูชาพระ

2.ให้เอาก้านธูปที่จุดไหว้พระแล้วมา 1 อัน

3.แล้วให้กลั้นนใจว่าคาถานี้ "พ่อวิรุณโต ศีละสมาธิ มะ" พอกลั้นใจว่าจบวรรคก็ให้หักก้านธูปหนหนึ่ง

4.แล้วให้กลั้นใจว่าคาถา "พ่อวิรุณตา จีวะรัง อะ" พอว่าจบก็หักก้านธูปอีกทีหนึ่ง

5.ให้กลั้นใจว่าคาถาอีกวรรค "พ่อวิรุณ จังงัง สะระณังคัจฉามิ อุ" พร้อมหักก้านธูปอีกทีหนึ่ง

พอกลั้นใจว่าคาถา และหักก้านธูปครบทุกวรรค ได้ก้านธูปเป็นรูปเหมือนตะขอ

แล้ว ให้กลั้นใจว่าคาถาต่อไปนี้เสกก้านธูปนั้นอีก 3 จบ (เพื่อความขลังศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นที่ไว้วางใจยิ่งขึ้น จะเสกต่อเป็น 7 จบ หรือ 9จบก็ได้)

"พ่อวิรุณโต ศีละสมาธิ มะ
พ่อวิรุณตา จีวะรัง อะ
พ่อวิรุณ จังงัง สะระณังคัจฉามิ อุ"

ตามตำราการผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน ผูกหุ่นพยนต์ด้วยก้านธูปนี้ จะทำให้เป็นหุ่นผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ได้ คือถ้าเป็นผู้หญิงให้เปลี่ยนจากคำว่า พ่อ เป็นคำว่า แม่ วิธีการก็ทำอย่างเดียวกันทุกข้อ ทุกขั้นตอน ทีนี้เมื่อทำเสร็จแล้วก็ปักเอาไว้ที่กระถางธูป โดยเวลาที่จะปักนั้นให้กลั้นใจบอกท่านว่า เราจะไปจากบ้านกี่วัน...กลับวันไหน หรือทิ้งบ้านไปทำงานกลับเวลาไหน ก็บอกท่านไปโดยพูดทำนองว่า พ่อวิรุณโตหรือ ถ้าผูกเป็นผู้หญิงก็ใช้แม่วิรุณโต ลูกจะไปทำธุระ จะกลับวันนั้นวันนี้ หรือ เวลานั้นเวลานี้ กลั้นใจบอกกล่าวท่าน แล้วจึงปักกระถางธูปลงไปในกระถางเป็นอันเสร็จพิธี แนะนำว่า ควรจะทำหุ่นพยนต์เฝ้าบ้านทั้งผู้ชายและผู้หญิงปักไว้คู้กัน เมื่อเสร็จธุระกลับมาบ้าน ให้กลั้นใจเอาก้านธูปหุ่นพยนต์มาเผาทิ้งเสีย จะออกจากบ้านไปทำธุระครั้งต่อไปก็ให้ทำใหม่ ตามตำรานี้ ใครเข้ามาเขตบ้านในขณะที่เราไม่อยู่ เขาจะเห็นคนแก่นุ่งขาวห่มขาวเดินอยู่ในบ้าน คือจะทำให้เห็นว่ามีคนอยู่ในบ้านว่ากันอย่างนั้น

ยกครูวิชาก็จัดเอาเอง ขัน ๕ หรือ ขัน ๘ ก็ได้ ถ้าจะถวายเงินค่าครูก็คง ๖ บาทระลึกถึงครูฤาษีเจ้าของคาถา ขอเรียนวิชา เงิน ๖ บาทก็นำไปซื้อของถวายพระอุทิศให้เจ้าของวิชา (บวกเงินอื่นสมทบเข้าไปด้วยก็ได้)

ใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่าโทษกัน เพราะกรรมเวรของแต่ละคนมี
หากเราเคยผิดศีลข้อลักขโมยอาจกันได้ไม่ ๑๐๐%
เพราะต้องชดใช้เวรกรรมกัน อย่างมากก็ผ่อนหนักเป็นเบา
อาจเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการแก้เคล็ด

เคล็ดลับน่าจะอยู่ตรงที่ใช้จิตสร้างภาพให้เห็นเป็น คน ช/ญ ขณะหักก้านธูป คำเตือน อย่าลืมนะครับว่าต้องกู้พยนต์ทุกครั้ง

ปล.ผมได้แต่ตำรามาแต่ไม่เคยใช้ ห้ามถามหาประสบการณ์

 

สัทธากับปัญญา สมาธิกับวิริยต้องเสมอกัน

ฯลฯ ส่วนคนที่มีสมาธิกล้า แต่ความเพียรน้อย ความเกียจค้านย่อมครอบงำได้ เพราะสมาธิเป็นฝักฝ่ายแห่งความเกียจคร้านฯ คนที่มีความเพียรกล้า แต่สมาธิอ่อน อุทธัจจะย่อมครอบงำได้ เพราะความเพียรเป็นฝักฝ่ายแห่งอุทธัจจะ ฯ
ส่วนสมาธิ ที่พระโยคีให้ประกอบพร้อมแล้วด้วยความเพียร ย่อมไม่ได้เพื่อจะตกไปในความเกียจคร้านฯ (แม้) ความเพียรที่พระโยคีให้ประกอบพร้อมแล้ว ก้ไม่ได้เพื่อจะตกไปในความฟุ้งสร้าน ฯ เพราะเหตุนั้น พึงทำสมาธิและความเพียรทั้ง ๒ นั้น ให้เสมอกัน ฯ จริงอยู่ อัปปนาย่อมมี เพราะคุณทั้ง ๒ เสมอกันฯ

ที่มา : คัมภีร์ พระวิสุทธิมรรค เล่ม๑-๒ หน้าที่ ๓๖๙-๓๗๐

 

คาถากันเขี้ยว งา
นะโมพุทธายะ มะอะอุ ยะธาพุทโมนะ อุอะมะฯ

อาจารย์ท่านว่าผจญสัตว์ร้ายมีเขี้ยวงา เสกภาวนาน้ำลายในปาก ๓ คาบ ๗ คาบ กลั้นใจกลืน ๓ ที กันเขี้ยวงา หมาขบกันมิเข้าเลย หากกลัวหมาดุขบกัด ให้นำน้ำลายมาทาน่องทั้งสองข้าง เสกมือขวาทาน่องซ้าย เสกมือซ้ายทาน่องขวา

คาถากันหมาดุ
พระอะระหัง มะอะอุฯ ภาวนา ๓ คาบ ยกมือขวาขึ้นห้าม เมื่อมันวิ่งมาหาเป็น จังงัง อ้าปากมิออกเลยฯ

 

พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ
อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิฯ
พระคาถานี้เปรียบเสมือนดั่ง มหาพิชัยมงกุฎของพุทธเจ้า ครูอาจารย์ท่านว่า มีอานุภาพมากมาย ควรท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ อุปเทห์การใช้มากมายคณานับ
เข้าป่าดงพงไพร เสกน้ำรดหัวล้างหน้า กันผีป่า จอมไพร ทั้งปวง
ภาวนาก่อนนอน ไม่มีผีทั้งปวงหลอกหลอน กันคุณไสยประเภทลมเพ ลมพัด
มีของขลังตะกรุดผ้าเจียดผ้ายันต์ เสกก่อน ๓ ที พกพาไปกันได้ทุกที่สารพัดกัน ทั้งคุณคน และคุณผี
ภาวนาก่อนเดินทางออกจากที่อยู่อาศัย ยืนกลั้นใจภาวนา ๓ คาบ ๗ คาบ แล้วสูดลมซ้าย-ขวา ก้าวเท้าข้างที่ลมโคจรในจมูกโล่ง ไปเถิด เจรจาความสำเร็จ แคล้วคลาดจากอันตรายจากทั้งคน ผี สัตว์ร้าย
ครูอาจารย์ท่านเน้นมากมายให้ หมั่นภาวนาให้ได้ดั่งใจนึกอยู่ทุกเมื่อ..มีทั้ง ตบะ มหาอำนาจ เทวดาเมตตา แม้ฝูงปีศาจยังครั่นคร้ามยำเกรงยิ่งนัก

 

..
สวัสดี ยามเช้าทุกๆท่านครับ...

เรียนถามพี่คำรณครับ แล้วกรณีพรายพยนต์ที่ ปัจจุบันมีผู้ทำออกมาแล้วให้บูชากันนี้เหมือนกันไหมครับ เพราะ เห้นเป็นพวก หุ่นฟาง หรือโลหะก็มี และ บอกว่าให้บูชาไว้ในบ้าน ตอนเลาจะใช้งานค่อยใช้คาถา ไม่มีบอกไว้ว่า ต้องมีวงอาณาเขตแต่อย่างใดเลยครับ...ไม่รู้ว่าเหมือนกันไหม

 

ขอบคุณ อ.ศนิวาร

 

สวัสดีครับ เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
- เรื่องหุ่นพยนต์ ผมก็มีของหลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง พัทลุง เป็นสายเขาอ้อครับ เป็นโลหะ รูปคนแก่หลังค่อม ๆ นุ่งโจงกระเบนแดง และโจงกระเบนขาว เป็นมหาอำนาจ และเมตตา ไม่ต้องบูชา ไม่ต้องใช้คาถา จะให้คุ้มครองอะไรก็บอกกล่าว ชวนไปขายของก็ขายดี เอาไว้เฝ้าบ้าน เฝ้ารถดีนักแล

 

ก่อนท่องต้องวา นโม 3 จบก่อนไหมครับ

 

ผมท่องบทนี้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน และก่อนนอนครับ ตั้งนะโม 3 จบทุกครั้งครับ เห็นว่าบทนี้ยังใช้กำราบ พวกลูกกุมารที่ดื้อได้ด้วยครับ แต่อย่างว่าครับ บทนี้อานุภาพมากมาย แล้วแต่จิตจะใช้ด้านไหนครับ

ผมเคยอ่านเรื่องวิธีการท่องบทนี้ โดยท่อง 9 จบ และแต่ละจบให้ระลึกว่ามีพระพุทธอยู่เหนือศรีษะของเรา (ผมจำทิศการท่องไม่ได้ว่าให้ระลึกทิศไหนก่อนครับ ) โดยจบที่ 9 จะเป็นองค์ประธานที่กลางศรีษะเราครับ

 

สวัสดีครับพี่ tang_2536 และพี่ๆทุกท่านครับ
ผมอยากสอบถามคาถาพระนุรุธ ครับมีพี่ท่านใดได้ใ้ช้ หรือเรียนใว้ และสามารถ บอกต่อได้ไหมครับ... จะได้เรียนใว้ครับ

 

พยนต์ ที่ท่านครูอาจารย์ยุคปัจจุบันทำให้บูชานั้นท่านได้ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพสังคมแล้ว จึงใช้ได้แบบทั่วไป ไม่เน้นให้มีความเด็ดขาด ดุร้าย เช่นเมื่อก่อนครับ..จึงต้องพิจารณาจาก จิต เราเอาเอง ว่าจะสื่อใช้ได้ผลอย่างไรรใด

 

สอบถามเสธ. อีกหน่อยครับ นอกจากครุฑกับนาคจะอยู่ด้วยกันไ่ม่ได้แล้ว มีอย่างอื่นอีกไหมครับ
เคยมีคนทรงมาดูที่บ้าน เขาสั่งให้แยกหิ้งพระกับหิ้งเทพ ออกจากกันอย่างเด็ดขาด (หิ้งเทพมีเจ้าแม่กวนอิมด้วย)
พอแยกออกมาแล้ว ในหิ้งเทพก็มีกุมาร มีท้าวเวสสุวรรณ มีวัวอยู่ ไม่ทราบว่าวางไว้ด้วยกันได้ไหม? บางอาจารย์ก็บอกว่า กุมารกับวัว อาจจะไม่สามารถวางด้วยกันได้

 

น้ำมนต์ล้างหน้าพระมหาเมียมุนี

พอดีได้ความรู้ใหม่ๆมาเผยแพร่ให้สมาชิกได้ประดับความรู้ ครับ

ผมได้รับความกรุณาจากท่าน อาจารย์ท่านหนึ่งที่นับถือกัน(เป็นกรรมการวัดมหาเมียมุนี) ได้ฝากน้ำล้างพระพักต์พระมหาเมียมุนี มาให้ ซึ่งพระมหาเมียมุนีนั้นเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองมัณฑะเลย์ พม่า (เทียบเท่าพระแก้วมรกตบ้านเรา) ที่เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่พระพุทธเจ้าประทานลมหายใจไว้ให้ จึงต้องมีการล้างพระพักต์(หน้า)ทุกเช้า(เวลาประมาณ๐๔๐๐) ทุกวัน โดยพระสงฆ์จะนำน้ำสะอาดผสมเครื่องหอมมงคล ขึ้นไปเช็ดพระพักต์ แล้วจะเก็บน้ำนั้นไว้ให้ประชาชนทั่วไปได้นำไปใช้เป็นน้ำมนต์ และผ้าเช็ดพระพักต์ก็นำไปกราบไหว้บูชา

น้ำมนต์นี้จึงเชื่อว่าใครมีไว้จะสามารถนำมา อาบเพื่อขับไล่เสนียดจัญไรทั้งปวง รวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคลของตัวเรา..

นำมาเล่าสู่กันฟัง หากผู้ใดได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว เมืองนี้ก็สอบถาม ไกด์ เพื่อไปกราบไหว้ บูชา กันครับ..