เรื่องเด่น ผลไม้ที่ห้ามใช้ในการสักการะ บูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย ภัทรบงกช, 9 พฤศจิกายน 2012.

  1. ภัทรบงกช

    ภัทรบงกช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +1,108
    1. ละมุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักไม่โดดเด่น ปิดๆ ซ่อนๆ

    2. มังคุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วไม่ได้ดีเท่าที่ควร ไปไม่ถึงที่สุด มันกุด ๆ ด้วน ๆ ไม่โดดเด่น

    3. พุทรา เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วดีในช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆ ซาซา

    4. มะเฟือง เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักผืดเคือง ไม่อะไรก็อะไร สักอย่าง

    5. มะไฟ เชื่อกันว่าทำอะไรแล้วมักต้อง เร่งๆ รีบๆ เหมือนไฟลน ไม่ได้คุณภาพ

    6. น้อยหน่า เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักมีปัญหา อุปสรรค เล็กน้อย จุกๆจิกๆ อยุ่เสมอๆ ทำแล้วได้ผลเพียงน้อยนิด

    7. น้อยโหน่ง เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ได้ผลสมบรูณ์เพียงน้อยนิด มีอุปสรรคปัญหา ไม่สมบรูณ์แบบ

    8. มะตูม เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วไม่เจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับชื่อที่ตูมอยู่ตลอด ไม่ก้าวหหน้า ไปไม่ได้ไกล

    9. มะขวิด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วมักจะประสบปัญหา วัสดุอุปกรณ์ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ครบ ขาดโน่น ขาดนี่เสมอ

    10. ลูกจาก เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักจะไม่ยั่งยืน

    11. ลูกพลับ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ผลงานต้องโดนเก็บใส่ลิ้นชัก ไม่ได้แสดงผลงาน ไม่ก้าวหน้า

    12. ลูกท้อ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจ

    13. ระกำ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักจะไม่ประสบความสำเร็จ

    14. กระท้อน เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว สิ่งที่ดีๆ ที่ต้องการเผยแพร่ออกไป กลับสะท้อนมายังจุดเดิม

    15. ลางสาด เชื่อกันว่า เป็นผลไม้ที่มียาง ทำอะไรแล้วมักจะมีเรื่อง ยุ่งยากวุ่นวาย


    ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บบอร์ด พลังจิต ดอทคอม
    ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com
     
  2. 789654561

    789654561 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +333
    เล่นคำทั้งนั้น ไม่ได้มีอะไรเลย เอามาโยงกันอย่างไม่มีเหตุผล
    ถวายอะไรก็ได้เป็นพุทธบูชาถ้ามีความเคารพในพระรัตนไตร อานิสงไม่มีประมาณ พระเทวทัตถุกธรณีสูบ เหลือแต่คางลอยพ้นดินก็ถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา ด้วยเหตุนี้จึงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายหน้า พระโพธิสัตว์จุดไฟท่วมตัวเผาตัวท่านเองถวายแทนตะเกียงก็ยังได้
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130


    คนไทยเชื้อสายจีน มักจะกังวลเรื่องชื่อของผลไม้ที่ถวายเป็นอย่างมาก และน่าจะมีคนที่เคยถวายผลไม้ชื่อนั้น ๆ

    แก่เทพเทวดาทั้งหลาย แล้วเกิดเรื่องตามชื่อนั้น ๆ ครับ

    ถวายแล้วไม่สบายใจ มีคนนั้นมาทักคนนี้มาท้วงก็อย่าไปถวายผลไม้นั้น ๆ ก็แล้วกันนะครับ


    น่าจะตกหล่นอย่างที่ 16

    16.เงาะ ... ถ้าถวายโดยไม่ปอกเปลือก จะทำให้กิจการที่ทำอยู่มันยุ่งเหมือนเงาะ

     
  4. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    เวลุวผลิยเถราปทานที่ ๓
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายมะตูม

    [๓๓] เราสร้างอาศรมไว้อย่างสวยงาม ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา อาศรมนั้น
    เกลื่อนกล่นไปด้วยต้นมะตูม เป็นที่รวมหมู่ไม้นานาชนิด เราเห็น
    ผลมะตูมมีกลิ่นหอมแล้ว ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เรา
    ทั้งยินดีทั้งสลดใจ เอาผลมะตูมใส่หาบจนเต็ม ได้เข้าไปเฝ้าพระ-
    พุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ แล้วถวายผลมะตูมสุกแด่พระองค์
    ผู้เป็นเนื้อนาบุญ เป็นนักปราชญ์ ด้วยใจอันผ่องใส ในกัปนี้เอง
    เราได้ถวายผลมะตูมใดในกาลนั้น ด้วยการถวายผลมะตูมนั้น เรา
    ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายมะตูม เราเผากิเลสทั้งหลาย
    แล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระเวลุวผลิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.

    จบ เวลุวผลิยเถราปทาน.

    กปิฏฐผลทายกเถราปทานที่ ๒
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายมะขวิด

    [๑๐๒] เราได้ถวายผลมะขวิด แด่พระสัมพุทธเจ้าผู้มีพระฉวีวรรณปานดัง
    ทองคำ ผู้สมควรรับเครื่องบูชา กำลังเสด็จดำเนินอยู่ในถนน ใน
    กัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวายผลไม้ใดในกาลนั้น ด้วยการถวาย
    ผลไม้นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ เราเผา
    กิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระกปิฏฐผลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบ กปิฏฐผลทายกเถราปทาน.
     
  5. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    โกลทายกเถราปทานที่ ๒
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายพุทรา

    [๓๒] ครั้งนั้น เรานุ่งหนังเสือ ห่มผ้าคากรอง บำเพ็ญวัตรจริยาอย่างหนัก
    ใกล้อาศรมของเรามีต้นพุทรา ในกาลนั้น พระพุทธเจ้าพระนามว่า
    สิขี เป็นเอก ไม่มีผู้เสมอสอง ทรงทำโลกให้โชติช่วงอยู่ตลอดกาล
    ทั้งปวง เสด็จเข้ามายังอาศรมของเรา เรายังจิตของตนให้เลื่อมใส
    และถวายบังคมพระพุทธเจ้าผู้มีวัตรอันงามแล้ว ได้เอามือทั้งสอง
    กอบพุทราถวายแด่พระพุทธเจ้า ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวาย
    พุทราใด ในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผล
    แห่งการถวายพุทรา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้
    ทั้งหมดแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มี
    อาสวะอยู่ การที่เราได้มายังสำนักของพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการ
    มาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ เราได้บรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนา
    เราได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘
    และอภิญญา ๖ เราได้ทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำ
    เสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระโกลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบ โกลทายกเถราปทาน.

    สัพพลทายกเถราปทานที่ ๙
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลไม้ต่างๆ

    [๑๐๙] ครั้งนั้น เราเป็นพราหมณ์มีนามชื่อว่าวรุณ เป็นผู้เรียนจบมนต์
    ทิ้งบุตร ๑๐ คนเข้าไปกลางป่า สร้างอาศรมอย่างสวยงาม สร้าง
    บรรณศาลาจัดไว้เป็นห้องๆ น่ารื่นรมย์ใจ อาศัยอยู่ในป่าใหญ่
    พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับ
    เครื่องบูชา ทรงพระประสงค์จะช่วยเหลือเรา พระองค์จึงได้เสด็จมา
    ยังอาศรมของเรา พระรัศมีได้แผ่กว้างใหญ่ตลอดไพรสณฑ์ ครั้งนั้น
    ป่าใหญ่โพลงไปด้วยพุทธานุภาพ เราเห็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้า
    ผู้ประเสริฐสุด ผู้คงที่ ได้เก็บเอาใบไม้มาเย็บเป็นกระทง แล้ว
    เอาผลไม้ใส่จนเต็มหาบ เข้าไปเฝ้าพระสัมพุทธเจ้าแล้วได้ถวาย
    พร้อมทั้งหาบ เพื่อทรงอนุเคราะห์เรา พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่เราว่า
    ท่านจงถือเอาหาบเดินตามหลังเรามา เมื่อสงฆ์บริโภคแล้ว บุญจักมี
    แก่ท่าน เราได้หาบเอาผลไม้ไปถวายแก่พระภิกษุสงฆ์ เรายังจิตให้
    เลื่อมใสในพระภิกษุสงฆ์แล้ว ได้เข้าถึงสวรรค์ชั้นดุสิต เป็นผู้ประ-
    กอบด้วยการฟ้อน การขับ การประโคมอันเป็นทิพย์ เสวยยศใน
    สวรรค์ชั้นดุสิตนั้น โดยบุญกรรม เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ
    เป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เราไม่มีความบกพร่อง
    ในเรื่องโภคทรัพย์เลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ เพราะได้ถวาย
    ผลไม้แด่พระพุทธเจ้า เราจึงได้เป็นใหญ่ตลอดทวีปทั้ง ๔ พร้อมด้วย
    สมุทร พร้อมทั้งภูเขา ถึงฝูงนกมีเท่าใดที่บินอยู่ในอากาศ นก
    เหล่านั้นก็ตกอยู่ในอำนาจของเรา นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ ยักษ์
    ภูต รากษส กุมภัณฑ์และครุฑ เท่าที่มีอยู่ในไพรสณฑ์ ต่างก็
    บำรุงบำเรอเอา ถึงพวกเต่า หมาไน ผึ้งและเหลือบยุง ก็ตกอยู่
    ในอำนาจของเรา นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ แม้เหล่าสกุลปักษี
    มีกำลังมากชื่อสุบรรณก็นับถือเรา นี้ก็เป็นผลแห่งการถวายผลไม้
    ถึงพวกนาคที่มีอายุยืน มีฤทธิ์ มียศใหญ่ ก็ตกอยู่ในอำนาจเรา
    นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ ราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี
    หมาป่า หมาจิ้งจอก ก็ตกอยู่ในอำนาจของเรา นี้เป็นผลแห่งการ
    ถวายผลไม้ ผู้ที่อยู่ในดาวประกายพฤกษ์และหญ้า กับผู้ที่อยู่ในอากาศ
    ล้วนนับถือเราทั้งหมด นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ ธรรมที่เห็นได้
    ยาก ละเอียด ลึกซึ้ง ซึ่งพระศาสดาทรงประกาศไว้ดีแล้ว
    เราถูกต้องแล้วอยู่ นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ เราถูกต้องวิโมกข์ ๘
    เป็นผู้ไม่มีอาสวะ เป็นผู้มีความเพียรเผากิเลส และมีปัญญารักษา
    ตนอยู่ นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ เราเป็นผู้หนึ่งในจำนวนโอรส
    ของพระพุทธเจ้าที่ดำรงอยู่ในผล สิ้นโทสะ มียศใหญ่ นี้เป็นผล
    แห่งการถวายผลไม้ เราถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา อันกุศลมูล
    ตักเตือน กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ เราเป็นผู้
    หนึ่งในจำนวนพระโอรสของพระพุทธเจ้าที่ได้วิชชา ๓ บรรลุฤทธิ์
    มียศใหญ่ สมบูรณ์ด้วยทิพโสต ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้
    ถวายผลไม้ใดกาลนั้น ด้วยการถวายผลไม้นั้น เราไม่รู้จัก
    ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
    พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระสัพพผลทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบ สัพพผลทายกเถราปทาน.
     
  6. Deejang

    Deejang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +311
    แล้วถวายพระสงฆ์ได้ไหม
     
  7. kitkun

    kitkun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +579
    ที่กล่าวมาเป็นอามิสบูชา..บุญใดไม่เท่าการปฎิบัติบูชาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
    พระพุทธองค์ให้เรามี..สติ มีสติแม้กระทั่งการถวายข้าวของที่เป็นอามิสบูชา..ปัญญาที่เกิดจากการปฎิบัติฯจะช่วยเราได้ แต่จขกท.อาจหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆที่มิได้หมายถึงพระพุทธองค์และหมายรวมถึงลัทธิและความเชื่อนั้นๆกระมัง(อย่างของจีน..ก็ประมาณเต๋าหรือฯลฯ)
    ถวายพระสงฆ์ได้ถ้าการฉันของท่านไม่เป็นไปด้วยความลำบาก อนุโมทนากับจขกท.ทุกท่าน(ธรรมทาน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ถวายได้ครับ

    ที่เจ้าของกระทู้โพสท์ นั้นเป็นของที่ห้ามไหว้เจ้า คนไทยเชื้อสายจีนเขามีความเชื่ออย่างนั้นครับ



    .
     
  9. Loogkai

    Loogkai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +317
    ขออนุโมทนาบุญ กับท่านเจ้าของกระทู้ และทุกๆท่านด้วยนะครับ...สาธุ
     
  10. 789654561

    789654561 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +333
    ตายแล้ว เพิ่งเห็นว่าถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของเจ้าของกระทู้
    (ซึ่งน่าจะเน้นทางอื่นที่ไม่ใช่พุทธ) ดิฉันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระรัตนไตร ขออภัยด้วยคะ อ่านไม่ได้ความเอง
     
  11. ไชยยารัตน์

    ไชยยารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +739
    ด้วยความเคารพ แต่ผมว่าน่าจะเป็นอย่างนี้
    1.ละมุด เชื่อกันว่า ทำให้สิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดี มุดหลบไป มาไม่ถึงเรา 2.มังคุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วความชั่ว เคราะห์กรรม มันกุด ๆ ด้วน ๆ ไม่โดดเด่นเพราะสู้ความดีไม่ได้

    3. พุทรา เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วดีเพราะ บาปเคราะห์มันซาไป

    4. มะเฟือง เชื่อกันว่า ทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย เหมือนฟันเฟืองดีตัวเล็กหลายตัว ไปหมุนฟันเฟืองตัวใหญ่ดีกว่าได้

    5. มะไฟ เชื่อกันว่า เร่งรีบใช้ไฟลนเผากิเลสให้หายไป

    6. น้อยหน่า เชื่อกันว่า ทำความดีเพียงน้อยนิด แต่ทำบุ่อย ก็เป็นบุญใหญ่ เหมือนตาลูกน้อยหน่า
    7. น้อยโหน่ง เชื่อกันว่า ทำความดีมากขึ้น บารมีจะเต็มไวขึ้น
    8. มะตูม เชื่อกันว่า ทำความดี ตอนแรกๆ ยังตูมอยู่ เมื่อทำต่อไปบ่อย จะผลิบาน สวยสดงดงาม

    9. มะขวิด เชื่อกันว่า ทำแล้วขวิดกรรมชั่ว ส่ิงอัปมงคลให้กระเด็นกระดอนไป

    10. ลูกจาก เชื่อกันว่า ทำความดีแล้ว ความชั่วจะจากไป

    11. ลูกพลับ เชื่อกันว่า ขณะกรรมดีให้ผล กรรมชั่วต้องเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อน ไว้รอให้ผลภายหลัง

    12. ลูกท้อ เชื่อกันว่า บาปเคราะห์ มารทั้งหลายจะท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจมาสู้รบปรบมือกับเรา

    13. ระกำ เชื่อกันว่า บากเคราะห์ กิเลสมาร จะชอกช้ำระกำใจ ทำอะไรเราไม่ได้

    14. กระท้อน เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว สิ่งที่ดีๆ ที่ต้องการเผยแพร่ออกไป กลับสะท้อนมาตอบแทนเรา

    15. ลางสาด เชื่อกันว่า เป็นผลไม้ที่มียาง หากเราคิดจะทำชั่ว จะทำให้เรามียางอาย ไม่กล้าทำ ( น่าจะถวายเทวดา เพราะก่อนเป็นเทวดา ท่าน มียางอาย ละอายต่อการทำชั่ว ท่านจึงเกิดเป็นเทวดา )
     
  12. Deejang

    Deejang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +311
    ชอบชอบครับ
     
  13. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    เราไปตั้งค่ากันเองต่างหาก เพียงแค่ชื่อของผลไม้

    หรือชื่อต้นไม้ต้องมีชื่อเศรษฐีพ่วง แล้วเชื่อว่านำมาปลูกจะเจริญรุ่งเรือง รวย..รวย
    อย่างนี้เป็นความเชื่อที่ผิดๆ (คนขายต้นไม้รวย จากการประกอบอาชีพต่างหาก)

    แต่หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เรื่องมากก็ น้อยหน่าธรรมดาไม่ชอบ
    ก็เอาน้อยหน่าMK2 ถวายเลย พร้อมประทัดจุดชนวน
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะได้มีสติตื่น เปลี่ยนทิฏฐิ

    เราจะตายไปพร้อมกับ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดถือทิฏฐิ คือความชื่อแบบนั้นไว้หรือยังไง

    ก็แสดงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่น ตอนเกิดเป็นมนุษย์มีทิฏฐิความเชื่อแบบนั้น ตายไปพร้อมกับการไม่เคยสำรอกทิฏฐิที่ผิดๆ

    สู้มาทำใจเรา ให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีความเห็นตรงถูกต้อง ลงในปัจจุบันไม่ดีกว่าหรือ

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ล่ะ น่าสักการะ บูชากว่า

    ก็เมื่อเราไปตั้งค่ากันเองต่างหาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤศจิกายน 2012
  14. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    อุมมาปุปผิยเถราปทานที่ ๕
    ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกผักตบ

    [๓๕] ก็ครั้นเมื่อต้นไทรอันเป็นไม้โพธิพฤกษ์ งอกงามสีเขียวขจี เราได้เอา
    ดอกผักตบมาบูชาไม้โพธิพฤกษ์
    ในกัปนี้เอง เราได้บูชาโพธิพฤกษ์
    ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชา
    ไม้โพธิพฤกษ์ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้
    ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระอุมมาปุปผิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบ อุมมาปุปผิยเถราปทาน.

    ภัลลาตกทายกเถราปทานที่ ๔
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายลูกรกฟ้า

    [๓๔] เราตกแต่งเครื่องลาดที่ทำด้วยหญ้าแล้ว ได้ทูลอาราธนาพระสัมพุทธ-
    เจ้าผู้มีพระฉวีวรรณเหมือนทองคำ มีพระลักษณะอันประเสริฐ ๓๒
    ประการ ผู้ประหนึ่งว่าพระยารังที่กำลังดอกบาน เป็นพระพุทธเจ้า
    ผู้ประเสริฐสุด กำลังเสด็จไปทางท้ายป่าใหญ่ว่า ขอพระพุทธเจ้า
    ทรงโปรดอนุเคราะห์ข้าพระองค์เถิด ข้าพระองค์ปรารถนาจะถวาย
    ภิกษา พระพุทธเจ้าพระนามว่าอัตถทัสสี ผู้อนุเคราะห์ ประกอบ
    ด้วยพระกรุณา มีพระยศใหญ่ ได้ทรงทราบความดำริของเรา จึง
    เสด็จแวะที่อาศรมของเรา ครั้นแล้ว พระองค์ได้ประทับบนเครื่อง
    ลาดที่ทำด้วยหญ้า เราได้หยิบเอาผลไม้รกฟ้ามาถวายแด่พระพุทธเจ้า
    ผู้ประเสริฐสุด เมื่อเรามองดูอยู่ พระพิชิตมารทรงเสวยในเวลานั้น
    เรายังจิตให้เลื่อมใสในทานนั้นแล้ว ได้ถวายบังคมพระพิชิตมาร
    ในกาลนั้น ในกัปที่ ๑,๘๐๐ เราได้ถวายผลไม้ใด ในกาลนั้น ด้วยการ
    ถวายผลไม้นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้
    เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระภัลลาตกทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
    จบ ภัลลาตกทายกเถราปทาน.
     
  15. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ภิสทายกเถราปทานที่ ๓
    ว่าด้วยผลแห่งการถวายเหง้าบัวกับน้ำผึ้ง


    [๗๓] ครั้งนั้น เราลงสู่สระโบกขรณีที่ช้างนานาชนิดเสพแล้ว ถอนเหง้าบัว
    ในสระน้ำ เพราะเหตุจะกิน สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพระนามว่า
    ปทุมุตระ ผู้ตื่นแล้ว ทรงผ้ากัมพลสีแดง สลัดผ้าบังสุกุลเหาะไปใน
    อากาศ เวลานั้นเราได้ยินเสียงจึงแหงนขึ้นไปดู ได้เห็นพระผู้นำโลก
    เรายืนอยู่ในสระโบกขรณีนั่นแหละ ได้ทูลอ้อนวอนพระผู้นำโลกว่า
    น้ำผึ้งกำลังไหลออกจากเกษรบัว น้ำนมและเนยใสกำลังไหลจาก
    เหง้าบัว ขอพระพุทธเจ้าผู้มีพระปัญญาจักษุ โปรดทรงรับเพื่อ
    อนุเคราะห์แก่ข้าพระองค์เถิด
    ลำดับนั้นพระสัมพุทธเจ้าผู้ศาสดา
    ทรงประกอบด้วยพระกรุณา มียศใหญ่ มีพระปัญญาจักษุ เสด็จลง
    จากอากาศมารับภิกษาของเรา เพื่อความอนุเคราะห์ ครั้นแล้วได้
    ทรงทำอนุโมทนาแก่เราว่า แน่ะท่านผู้มีบุญใหญ่ ท่านจงเป็นผู้มีความ
    สุขเถิด คติจงสำเร็จแก่ท่าน
    ด้วยการให้เหง้าบัวเป็นทานนี้ ท่านจง
    ได้สุขอันไพบูลย์เถิด ครั้นพระสัมพุทธชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ
    ตรัสฉะนี้แล้ว ได้ทรงรับภิกษาแล้ว เสด็จไปในอากาศ ลำดับนั้น เรา
    เก็บเหง้าบัวจากสระนั้น กลับมายังอาศรม วางเหง้าบัวไว้บนต้น
    ไม้ ระลึกถึงทานของเรา ครั้งนั้น ลมพายุใหญ่ตั้งขึ้นแล้วพัดป่าให้
    สั่นสะเทือน อากาศดังลั่นในเมื่อฟ้าผ่า ลำดับนั้นอสนีบาต
    ได้ตกลงบนศีรษะของเรา ในการนั้น ก็เราเป็นผู้นั่งตายอยู่ ณ ที่นั้น
    เราเป็นผู้ประกอบด้วยบุญกรรม เข้าถึงสวรรค์ชั้นดุสิต
    ซากศพของ
    เราตกไป ส่วนเรารื่นรมย์อยู่ในเทวโลก นางเทพอัปสร ๘๔,๐๐๐
    นาง ล้วนประดับประดาสวยงาม ต่างก็บำรุงเราทั้งเช้าเย็น นี้เป็น
    ผลแห่งการถวายเหง้าบัว ครั้งนั้น เรามาสู่กำเนิดมนุษย์ เป็นผู้ถึง
    ความสุข ความบกพร่องในโภคทรัพย์ ไม่มีแก่เราเลย นี้ก็เป็นผล
    แห่งการถวายเหง้าบัว เราอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐกว่า
    ทวยเทพ ผู้คงที่ พระองค์นั้นทรงอนุเคราะห์แล้ว จึงเป็นผู้สิ้น
    อาสวะทั้งปวง บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีก ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้
    ถวายภิกษาใดในกาลนั้น ด้วยการถวายภิกษานั้น เราไม่รู้จักทุคติ
    เลย นี้เป็นผลแห่งการถวายเหง้าบัว เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
    พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระภิสทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.

    จบ ภิสทายกเถราปทาน.

    [​IMG]
    ............................(ภาพบงกช โดย - flickr)



    นิมิตตพยากรณิยเถราปทานที่ ๑๐
    ว่าด้วยผลแห่งการพยากรณ์นิมิต


    [๖๐] ครั้งนั้น เราได้เข้าไปป่าหิมวันต์บอกมนต์ ศิษย์ ๕,๔๐๐ คน ได้อุปัฏ-
    ฐากเรา ศิษย์เหล่านั้นล้วนเป็นนักศึกษา รู้จบไตรเพทถึงความเต็ม
    เปี่ยมในธรรมมีองค์ ๖ พวกเขาถือตัวจัดเพราะวิทยาของตน อยู่ใน
    ป่าหิมวันต์ เทพบุตรผู้มียศใหญ่ เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ จุติจาก
    ชั้นดุสิตอุบัติในครรภ์แห่งมารดา
    เมื่อพระสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น
    หมื่นโลกธาตุก็หวั่นไหว คนตาบอดก็มองเห็นได้ ในเมื่อพระผู้นำ
    เสด็จอุบัติขึ้น พื้นพสุธานี้ทั้งสิ้นสั่นสะเทือน ๖ ประการ มหาชน
    ได้สดับเสียงกึกก้องแล้ว พากันแย้มสรวล ชนทั้งปวงประชุมกัน
    แล้ว ได้พากันไปยังสำนักของเรา ถามว่าพื้นพสุธานี้สั่นสะเทือน
    จักมีผลเป็นอย่างไร ครั้งนั้น เราได้พยากรณ์แก่เขาทั้งหลายว่า อย่า
    กลัวเลยไม่มีภัยแก่ท่านทั้งหลาย ท่านทุกๆ คนจงเบาใจเถิด ความ
    เกิดนี้ประกอบด้วยสุขประโยชน์ พื้นพสุธาอันเหตุ ๘ ประการถูก
    ต้องแล้ว ย่อมจะสั่นสะเทือน
    นิมิตย่อมจะปรากฏโดยอาการเช่น
    เดียวกัน แสงสว่างอันไพบูลย์ใหญ่โตก็เช่นนั้น พระพุทธเจ้า
    ผู้ประเสริฐสุด ผู้มีจักษุ จักเสด็จอุบัติขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เรายัง
    ประชุมชนให้เข้าใจดีแล้ว ได้บอกเบญจศีล
    พวกเขาได้สดับ
    เบญจศีลแล้วคิดว่า การเสด็จอุบัติของพระพุทธเจ้า ยากที่จะหาได้
    เป็นผู้เกิดอุพเพงคาปีติ มีใจโสมนัส ยินดีร่าเริง ในกัปที่ ๙๒ แต่
    กัปนี้ เราได้พยากรณ์นิมิตใด ด้วยการพยากรณ์นิมิตนั้น เราไม่รู้จัก
    ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการพยากรณ์ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
    พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
    ทราบว่า ท่านพระนิมิตตพยากรณิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.

    จบ นิมิตตพยากรณิยเถราปทาน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤศจิกายน 2012
  16. เตหิณรัตน์

    เตหิณรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +476
    เรื่องความเชื่องมงายนี้เป็นเรื่องใหญ่

    เรื่องความเชื่อในหัวข้อนี้ เป็นเรื่องใหญ่นะ
    แม้ผู้ที่จะบรรลุโสดาบัน ก็ต้องละได้ในข้อที่3ด้วยอยู่ในสังโยชน์10ประการ
    1. สักกายทิฏฐิ - มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา มีความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
    2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงการหมดความเชื่อถือในพิธีกรรมที่งมงายด้วย
    ในพระสูตรก็มีอยู่ผลกรรมที่ถวายผลไม้ต่างๆบูชาพระพุทธเจ้า ไม่ต้องตกนรกอยู่หลายกัปป์เสวยแต่สุข สุดท้ายผลบุญที่ถวายผลไม้นั้นก็ยังผลทำให้บรรลุพระอรหันต์กันด้วยผลกรรมนั้น ดั่งที่คุณ Urawelam ยกตัวอย่างมาในพระไตรปิฏก(ขออนุโมทนาด้วยครับ) สัตว์โลกที่ยังถือศีลถือพรต โดยสักแต่ว่าตามๆกันมีอยู่มากมายเหลือเกิน น่าสงสาร และน่าสลดสังเวชครับ ที่เค้าได้ถือสิ่งที่ไม่เป็นสาระมาเป็นสิ่งที่เป็นสาระ อีกอย่างครับ เรื่องฮวงจุ้ย เรื่องชื่อเป็นมงคลไม่เป็นมงคล เรื่องวันนั้นวันนี้ดีไม่ดี ในพระไตรปิฏกมีครับพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องชื่อเรื่องวันที่คนเชื่อผิดๆกันไว้อยู่ แต่เป็นที่น่าเสียดายครับผมจำไม่ได้ว่าอยู่เล่มไหนหน้าไหน ชื่อ และการทำงานที่ต้องถือวันนั้นวันนี้ ผมจำได้พอสังเขปว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า อย่าถือว่าเลขนั้นวันนั้นดี การงานใดก็ตามเวลาที่ทำที่เป็นมงคลที่สุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัน เลขวัน แต่ขึ้นอยู่กับ 1.สิ่งที่เราจะทำพร้อม 2.ตัวเราพร้อม 3.ไม่สนใจว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน นั้นละ!พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเวลาที่ว่ามานี้ละเป็นมงคลที่สุด หาขึ้นอยู่กับวันเวลาไม่ เรื่องชื่อไม่เป็นมงคลก็มีครับพระพุทธเจ้าบอกว่าก็ทรงตรัสไว้กับชายผู้หนึ่ง สรุปพอสังเขปว่า จะชื่ออะไรก็ตามไม่เป็นผลกับชีวิตครับ คนเราจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับการกระทำครับ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ชื่ออะไรๆไม่มีผลทั้งนั้นครับ รายละเอียดเรื่องพวกนี้ในพระไตรปิฏกพระพุทธเจ้าทรงเเสดงไว้ชัดเจนเเจ่มเเจ้งครับ แต่ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่จำไม่ได้ว่าหน้าไหนเล่มไหน ถ้ามีโอกาสเจอจะเอามาลงไว้ให้อ่านกันครับ
     
  17. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    สุปุพพัณหสูตร(เรื่องถือฤกษ์ยาม) นั่นไงครับ คุณเตหิณรัตน์

    หรือบทพาหุงฯ ที่สวดๆกันอยู่ร่ำไป ในบทเสริมตอนท้าย หรือที่เรียกว่า ชัยปริตร ที่ขึ้นว่า "สุนักขัตตัง สุมังคะลัง......" นั่นล่ะ

    จะให้ชัดอีกที ก็ใน มังคลชาดก(ถือมงคลตื่นข่าว) และ นามสิทธิชาดก (ถือเรื่องชื่อ) นำไปพิจารณาดูเน้อ...หมู่เฮา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤศจิกายน 2012
  18. อาราเลย์

    อาราเลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +204
    ถวายพระสงฆ์ได้จร้่า
     
  19. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    หากได้อ่านเถราปทาน ที่นำมาลง พิจารณาได้ว่าไม่ได้เกี่ยวชื่อผลไม้ใดๆ ที่นำไปถวายเลย
    สิ่งสำคัญที่สุด เป็นเรื่องของจิต ที่ตั้งไว้ดีแล้ว คือการยังจิตให้เลื่อมใสศรัทธา

    ประกอบกับได้ถวายกับเนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่ จึงมีผลมาก คือ พระโลกนาถ

    ในภพชาตินั้น กัปนั้น แม้ยังขจัดอาสวะกิเลสไม่ได้

    แต่ก็เป็นปัจจัยเป็นอานิสงค์ จนมาถึงมาชาติปัจจุบัน
    ท่านเหล่าได้สำเร็จเป็นพระอเสขบุคคล เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แห่งเรานี้เอง

    ท่านเหล่านั้น ได้ระลึกถึงเหตุที่ได้กระทำ อันยิ่งใหญ่ ที่เรียกว่า เถราปทาน,เถรีปทาน
     
  20. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    โมทนาสาธุคะ อนุโมทนาบุญคะ ถ้าเรายึดเอา พระพุทธ พระธรรม พระสงค์เป็นสรณะ แล้ว หมั่นให้ทาน ทำบุญ รักษาศิล เจริญภาวนา แผ่เมตตา ศึกษาธรรม จากพระโอษฐื หรือ พุทธวจนะ ไม่ต้องถือฤกษ์ ถือยาม อะไร หมั่นประพฤติปฏิบัติธรรม เจริญภาวนาทำอย่างต่อเนื่องทำทุกวันคะ ชีวิตเราจะพบกับสิ่งที่ดีๆ ไม่มีตกอับคะ ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์คะ มันบอกไม่ถูกจริงๆคะ สาธุ สาธุ สาธุคะ ทุกวันนี้ขอมอบกายถวายชีวิต ไว้กับพระพุทธองค์ สาธุคะ บุญรักษานะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...