ไสยศาสตร์ฉบับชาวบ้าน..มี.สาระ แบบกันเอง

ยินดีครับ..อยากให้ลูกหลานตระกูลไทย รักษา หวงแหน

วิชาไสยฯ แบบไทยแท้กันมากๆครับ..

 

ขอนอกเรื่อง เพื่อประโยชน์คนไทยหน่อยครับ

ช่วงนี้เป้นฤดูกาลท่องเที่ยว หลายท่านคงได้มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวทางเหนือ

โดยเฉพาะด่านชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก...

หลายท่านก็โดนหม่องหลอกมาหลายครั้ง หลายครา เลยนำมาบอกกล่าวกัน

ให้ระวังดังนี้ครับ

๑.คนขายของแบกกะบะ จะตื้อให้ซื้อ บุหรี่ ยาไวอาก้า หนังโป้
-บุหรี่ ถ้าซื้อ จะถูกเปลี่ยนที่เร็วมาก จาก บุหรี่นอก ก็จะกลายเป็นบุหรี่ลาวหรือพม่าที่ขึ้นรา..(หากไม่แกะดูก่อน)

๒.ยาไวอาก้า ถ้าซื้อระวังให้ดี เพราะพวกนี้จะแอบใส่ยาบ้าไว้ใต้แผงเมื่อเราเดินทางขาออกพม่าจะมี ซิก จะคนขายให้ค้น รีดเงินจนหมดตัว(หมดจริงๆครับ แบบว่ามีเยอะเสียเยอะ) หรือ โดนอย่างเบาะๆก็ในนั้นไม่มียาไวอากร้าเลย เพราะแผงที่ซื้อถูกเปลี่ยนไปแล้ว

๓.หนังโป้...จะเน้นว่าถูกกว่าร้านขาย...กลับไปเปิดที่บ้าน ก็ เป็นเพลงไทยลูกกรุงเก่าๆ ๕๕๕ พอฟังได้

๔.ถ้าซื้อโทรศัพท์ ไม่ว่าซื้อร้านไหน....ต้องลองก่อน และเมื่อลองแล้ว
ให้เอาเครื่องนั้น อย่า ให้ เจ้าของร้านเขาใส่กล่องให้ใหม่ ไม่เช่นนั้นโดนเปลี่ยนแน่ๆ กลับบ้านมาก็ต้องเซ็ง เพราะใช้ไม่ได้เหมือนที่ลอง..

 

กระทู้แนวนี้ไม่ค่อยเจอ ขอตามอ่านด้วยคน

 

แนะนำอีกหน่อย

ถ้าข้ามฝั่งท่าขี้เหล็กแล้วโดนดังกล่าวขั้นต้นก็ปฏิบัติดังนี้
-ถ้าเป็นยาบ้า รู้ตัวก่อนให้รีบขยี้ทิ้งทันที
-ถ้าบุหรี่ ให้โวยวาย ว่าจะไปฟ้องเจ้าหน้าที่ พวกนี้ก็จะกลัวถ้าเราเอาจริง
-ถ้าโทรศัพท์..แนะนำอย่าเอากล่องกลับ ให้ทำทีว่า ซื้อมาใช้ ๑ คนพกผ่านได้ ๒ เครื่อง

สินค้าที่น่าจะซื้อ และ คุ้ม คือ หนัง ดีวีดี บลูเรย์ ดิส
สินค้าอื่น..ต้องต่อ ครึ่งนึง..ถ้าเดินหนี แล้วเขาไม่ให้แสดงว่าใช่.(พม่าไม่ถือ ต่อไปสุดๆ)

ควรเช็คราคาฝั่งไทย แถวๆตลาดดอยเวา ก่อนที่จะซื้อ จากฝั่ง พม่า..
เพราะบางคนซื้อมาแล้ว เสียอารมเมื่อมาถามราคาฝั่งไทย..๕๕๕ อุตส่าต่อแทบแย่ ดันเท่าราคาฝั่งไทย ที่ยังไม่ได้ต่อ...

 

คงกระพันชั่วกลั้นเยี่ยว

คำนี้เป็นชื่อที่ใช้กันในหมุ่ นักเลงว่าน หรือวิชาอาพัดเหล้า บุหรี่
แม้กระทั่งน้ำ

หมายถึง เมื่อเสกว่าน หรือ อาพัด(ของกินแล้ว) จะเหนียว ทันที ณ เวลานั้น จะหายจนกว่า ผู้ว่าคาถา ถ่ายปัสสาวะ ออก ถือว่า อาคมบทนั้นจะคลายเอง..

เหมือนวิชาเล่นของนักไสยฯ ที่นักเลงสมัยก่อน เล่นกัน คือ

วิชา คาถาภาวนาเยี่ยวรดตอไม้.(ภาวนา ๓ ครั้ง กลั้นใจเป่ารูดจากโคนยันปลายของอวัยะเพศ.แล้วเยี่ยวรดลงที่ตอไม้)
ปืนยิง..ไม่ดัง.(เป็นมหาอุด) ในตัวคาถาจะใช้เคล็ดวิชาหัวใจแม่พระคงคา.จะมีคำว่า คงคาระสะ รวมอยู่ด้วย
วิชานี้คลายเอง เมื่อเยี่ยวที่รดไว้จะแห้งไป

อาจารย์ก็เคยให้ผมลองทำดู ก็ยิงไม่ออก จริงๆ ก็แปลกดี..แต่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไรได้..นักเลงสมัยก่อนไว้ท้ากันในวงเหล้า...

เลยเอามาเล่าฝากครับ...

 

ตอนเด็กๆเคยเห็น

 

เรื่อง แคล้วคลาด

เคยมีประสบการณ์ เรื่อง วิชาแคล้วคลาด

ตอนนั้น ไม่เข้าใจหลัก ไสยฯ นักเพราะ เรียนไว้ และ ใช้งานตามตัวคาถา ตามวิชา คือ นึกอยากใช้บทไหนก็ใช้

มีช่วงหนึ่ง นำหน่วยทหาร ออกไปซุ่มโจมตีฝ่ายตรงข้าม(ขบวนลำเลียงยาเสพติด) ฟาว หลายครั้งมาก..ทั้งๆที่น่าจะเจอตามที่ สายข่าวแจ้ง บางครั้งไปเจอก้นบุหรี่ยังไม่ทันดับ ใบตองรองนั่งกินข้าวฝ่ายตรงข้าม ไม่ทันเหี่ยว แสดงว่าคลาดกันไม่เกิน ๑๐ นาที ถ้าเจอกัน เราได้เปรียบ เพราะอาวุธเยอะ ทันสมัยกว่า

นึกมาได้ว่า ก่อน ออก เราก็ ภาวนาแต่ แคล้วคลาด จริงๆในใจ ไม่อยากให้โดนอาวุธ เพราะ อาวุธสงครามถ้าโดนถึงเหนียว ถ้าโดนเต็มๆก็หยอดน้ำข้าวต้ม...

ไปอีกครั้ง สายบอกว่า ตรงๆนี้ แน่นอนครับ..เราไม่ท่องอะไร หรอก เพียงอาราธนาพระ.แบบ ขอ มหาอุด ..๒ ทุ่ม ก้มาจริง
เขา ตาย ๗ เราปลอดภัย เพราะอยู่ในที่กำบังดี..

ต่อมา จึงเข้าใจว่า มันแคล้วคลาดจากอะไร

 

สวัสดียามบ่ายครับพี่ tang_2536

 

สวัสดี เช่นกัน...ทหารเรือ หรือเปล่า ครับ.

 

ไม่ใช่ครับ เพียงแต่เกิดแถบภาคตะวันออก เห็นทะเลจนเบื่อแค่นั้นเองครับ

 

อ้อ ครับ...ยินดีที่ได้รู้จักกัน ครับ..

 

สวัสดีท่านเจ้าของกระทู้และทุกๆท่านครับ ชอบและติดตามกระทู้นี้ครับ
อ่านแล้วนึกถึง รพินทร์ ไพรวัลย์
ผมสนใจเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่เด็กครับ จึงมาติดตามเก็บความรู้

 

ด้วยความยินดีครับ...และ สามารถ แสดงข้อคิดเห็นได้ทุกแนวครับ

ถือว่า กระทู้แห่ง การเผยแพร่ วิทยาทาน ครับ..

 

การเลี้ยงครู

บางคนที่ได้ร่ำเรียนวิชาคาถาอาคมมามากแล้ว ถ้ามีหมู่ลูกศิษย์ มาก

จะนิยมทำพิธีเลี้ยงครู ก็คือ การตั้งเครื่องสังเวย อัญเชิญครูมารับเครื่องเซ่นสังเวยของคณะศิษย์ นั่นเอง เป็น พิธีกรรม แสดงถึง มุทิตาจิต ต่อครู

แต่เป็นข้อกำหนดไว้ว่า...ถ้าจะเลี้ยงครู หรือทำพิธี ต้องทำทุกปี ปกติจะทำในห้วงวันขึ้นปีใหม่ไทยครับ คือ ห้วงสงกรานต์

ดังนั้น ถ้าใคร คิดว่าจะ เลี้ยงครู ต้องดูให้แน่นอนก่อนว่าจะทำได้ต่อเนื่องหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีโทษ ตามมา เว้นเสียแต่ว่า ตัวเราเจ็บป่วยสังขารไม่เอื้ออำนวย สามารถขอขมาลาโทษละเว้นการเลี้ยงครูได้

ส่วนถ้าใคร บนบานสานกล่าวกับครูไว้ ให้ สำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
ก้สามารถแก้บนได้ตามที่บนไว้ ไม่ถือว่า เป็นการเลี้ยงครู

 

อันนี้ขอนอกเรื่องอีกเหมือนกันครับ เห็นคนทำดีแล้วอดยกย่องไม่ได้​

ที่มา http://news.sanook.com/1151832/ชาวเน็ตชื่นชม-5-ทหาร-กระโดดช่วยหญิงขับรถตกน้ำ/

​

สนับสนุนเนื้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่า ขณะนี้ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่าย ที่เป็นทหารกระโดดน้ำลงไปช่วยหญิงกลางคนผู้หนึ่งที่ขับรถตกน้ำ ทั้งเครื่องแบบ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกระบุว่า เกิดขึ้นบริเวณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ บางเขน เมื่อเย็นวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อมีผู้ส่งต่อภาพถ่ายดังกล่าวออกไปทั่วโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ได้มีผู้คนจำนวนมาก เข้ามาแสดงความเห็นชื่นชมนายทหารเหล่านั้น ที่ตัดสินใจช่วยชีวิตคนโดยไม่ห่วงเครื่องแบบที่สวมใส่อยู่

ขณะที่ในเพจ เฟซบุ๊ก "เรารักทหารไทย" ได้ระบุข้อมูล ภาพ และเหตุการณ์ ดังกล่าวว่า โดยอ้างว่าภาพถ่ายมาจาก เฟซบุ๊ก มากกว่ารักจากวีรบุรุษยะลา และ จากข้อมูล พ.ท.วันชนะ สวัสดี หรือผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกองทัพบก และ หัวหน้าปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.) กองกิจการพลเรือนทหารบก กองบัญชาการทหารบก ระบุว่า ทหารที่เข้าไปช่วยหญิงวัยกลางคนที่ขับรถตกน้ำนั้น มีจำนวน 5 นาย ได้แก่

1. จ.ส.อ.วิเชียร ประชาเขียว สังกัด ขส.ทบ. สอนที่ รร.ทบอ. ช่างกล ขส.ทบ.
2. จ.สอ.วิฑูรย์ เอกจำนงสกุล
3. ส.อ.ดนัย คำใส ปัจจุบันเป็น อบต. อยู่ที่เชียงราย
4. ส.อ.วุฒิชัย เขียวสวาท สังกัด ขส.ทบ. สอนที่ รร.ทบอ. ช่างกล ขส.ทบ.
5. ส.อ.ปัญญา สามงามยา พล.ปตอ.

อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุ ทหารทั้ง 5 นาย ได้เดินทางมาร่วมงานศพเพื่อนร่วมรุ่น ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น นายทหารทั้งหมดไม่ได้ลังเลที่จะเกรงกลัวต่อเครื่องแบบที่ต้องเปียกน้ำเลยแม้แต่น้อย

 

ต้องขอ ชื่นชม จริงๆ ครับ..

ถ้าเป็น สิ่งดีๆ เราต้องช่วยกัน ส่งเสริม..

 

วิชากวาดคอ...เด็ก (ผู้ใหญ่ก็ได้)

ช่วงนี้ ภาคเหนือหนาวแล้ว ปลายฝนต้นหนาว รอยต่อฤดูกาล

หลายท่านที่มี ลูกน้อย ถ้า ไอเจ็บคอ บางครั้งก็นานหาย ทั้งๆที่กินยาทุก
ขนาน กลางคืน ก็นอนไม่ค่อยได้ ทั้ง พ่อ ทั้ง ลูก..ไอ ตลอดคืน

ลองวิชานี้ครับ เพราะ แถวที่บ้าน เด็กยันผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่ผ่านนิ้วพ่อผม รวมทั้งผมมาเกือบทุกคน...วิชากวาดคอ ครับ

ให้คนที่จะกวาด ไป กลั้นใจ เด็ดใบกระเพรา แดง/ขาว ก็ได้ ถ้าแดงจะแรงดี มา ซั้ก ๓ ,๕,๗ ยอด แล้วแต่ วัยถ้าเด็กเล็ก ๓ พอ แต่ถ้าอย่างวัยเราๆก็ต้อง ๗ ยอด

ได้มาแล้วมาฝนขยี้กับ ฝาระมี สมัยนี้ไม่ค่อยรู้จัก จริงๆสมัยก่อนเขามีฝาครอบที่ใส่น้ำทำจากดินเผาหยาบ ทำให้ฝนละลายง่าย ใส่เกลือนิดนึง ถ้ามีปูนแดงกินหมากป้ายลงไปนิด(ปลายเล็บ)

 

วิชากวาดคอ...เด็ก (ผู้ใหญ่ก็ได้)

แล้วนำยาทั้งหมด มาใส่ไว้ที่ ปลายนิ้วชี้ ตั้งนะโม ๓ จบ
ว่าคาถาประจุขาด
พุทธัง ปัจจะขามิ ธัมมัง ปัจจะขามิ สังฆัง ปัจจะขามิ ๓ จบ

งอนิ้ว กวาดลงไปให้สุดนิ้วเรา กวาดไปรอบๆคอ..ถ้าชำนาญ จะรู้เลยว่ามี ตุ่มขึ้น นูนๆ ในลำคอ ทำให้ระคายเคืองคอ ทำให้ไอ

หายชงัดนัก ไม่เคยมีใครมาให้ผมกวาด ซ้ำนะ..๕๕(สงสัยจะกลัวนิ้ว)

ผมเคยลองกวาดแบบไม่ว่าคาถาประจุขาด...ไม่หายครับ..เขามาให้กวาดอีก
พ่อบอกว่า ลืม ประจุขาด ละมั้ง (แหม รู้อีก) วิชาโบราณ ครับ
เคล็ดบอกยังไงต้องทำยังงั้น สมัยนี้ไม่ได้ เด็ดยอด ถ้า ซื้อมา เอง
ก็ วางไว้ แล้ว กลั้นใจหยิบ ขึ้นมา เป็นอันว่า ตรง เคล็ด

ผมถ้ากลับไปบ้าน ถ้าไอ เจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ลง นี่ผมไม่กินยาครับ
ยอมให้พ่อ กวาดทีเดียว หาย...

อ้อ แนะนำ ตัดเล็บ นิ้วชี้ให้สั้น สะอาด ฝึกล้วง ตัวเองดูก็ได้
ถ้ากวาดแล้ว อ้วก สวนมา นี่ใช้ได้ ๕๕๕

 

แนะนำอีกหน่อย การฝนขยี้นั้นจะมีกากใบกระเพรา

เราเอาแต่ส่วนที่เป็น น้ำข้นๆครับ ผมใช้วิธี ขยี้ในภาชนะอะไรก็ได้ที่

หยายๆ แล้ว นำมาวางไว้ กลาง อุ้งมือ ซ้าย เขี่ย เยื่อ/กาก ทิ้ง

ให้เหลือน้ำข้นๆ ใช้ นิ้วชี้ขวา ป้าย ขึ้นมา

ลองดูครับ...ถ้าใครนำไปใช้ ก็ถือว่า เป็น วิทยาทาน บุญกุศลก็ขออุทิศให้กับ ครูอาจารย์ ครั้ง โบร่ำโบราณ ครับ..

 

อนุโมทนาบุญครับพี่