มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

555 จะตามมามัยล่ะค๊า.....

 

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 6586565" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>ตะกั่วป่า</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ natatik
ขอบคุณ คุณนาคาที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะค่ะ
เมื่อวานติ๊กพาคุณแม่ น้องชายและลูกสาวไปทำวัตรเย็นที่วัดมาค่ะ
สงบ ร่มรื่น เย็นสบาย ในศาลาไม่มียุงเลยค่ะ หากไม่ติดภาระกิจใด ๆ ก็ตั้งใจจะไปทุกวันค่ะ
(ขับรถไปไม่ถึง 5 นาที อยู่ใกล้แค่นี้เอง แต่พึ่งจะได้ไป) สถานที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากค่ะ เรียกว่าพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อก่อนไม่มีอะไรเลยน่ากลัวมากค่ะ อีกอย่างเนื่องจากมีวัดทุ่งกล้วยอยู่ใกล้ ๆ กัน ชาวบ้านเลยจะทำบุญที่วัดทุ่งกล้วย

ถึงอย่างไรภายในถ้ำก็ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นถ้ำที่อับชื้นมาก กลิ่นมูลค้างคาวแรง งูน่าจะเยอะพอสมควรเลยค่ะ ติ๊กเกิดปีงูแต่กว่ากลัวงูเป็นที่สุดแล้วก็เจอบ่อยมาก 555 คงไม่กล้าไปนั่งสมาธิในถ้ำแน่นอนค่ะ ขอแค่นั่งในศาลาพอ แปลกมากเลยนะค่ะ วัดกับหมู่บ้านไม่ไกลกันมากเท่าไร แต่สภาพอากาศนั้นต่างกันเยอะ
เมื่อคืนหลวงพ่อบุญชู พานั่งสมาธิไปชั่วโมงครึ่ง ไม่ได้นั่งนาน ยังดีนะค่ะที่นั่งได้จนครบเวลา น้องชายสงสัยว่าที่นี่ทำใมถึงนั่งสามาธินาน แล้วก็เริ่มทำวัตรเย็นกัน 2 ทุ่ม แต่ไม่กล้าถามหลวงพ่อค่ะ

หากเดือน พ.ย. มีงานกฐินแล้วคุณนาคามา คงจะมีโอกาสได้พบกันนะค่ะ
หากคุณนาคามีกิจอะไรที่จะให้ติ๊กประสานงานกับทางวัด ติ๊กยินดีนะค่ะ


</TD></TR></TBODY></TABLE>
555!ย้ายสำนักไปอยู่ซะไกลเลยนะครับคุณติ๊ก

</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 6587798" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>natatik</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตะกั่วป่า
555!ย้ายสำนักไปอยู่ซะไกลเลยนะครับคุณติ๊ก

</TD></TR></TBODY></TABLE>

555 จะตามมามัยล่ะค๊า.....
</TD></TR></TBODY></TABLE>
น้องชายสงสัยว่าที่นี่ทำใมถึงนั่งสามาธินาน แล้วก็เริ่มทำวัตรเย็นกัน 2 ทุ่ม แต่ไม่กล้าถามหลวงพ่อค่ะ

ตามปกติ ทาง สายปฏิปทา วัดป่า ธรรมยุกติ ครับ เท่าที่ ผม เคยไป ร่วม สวดมนต์ ,บำเพ็ญจิต ภาวนา วัดป่า ..
- ธุดงคสถานตาลสามต้น (ทางขึ้น เขาเรดาห์ ทหาร ภูเก็ต )หลังวัดหลวงปู่สุภา ภูเก็ต มักจะ พร้อมกัน เดินตามปฏิปทา พระอาจารย์มั่น , องค์หลวงตามหาบัว ครับ..

๐๔.๐๐ สวดมนต์ ทำวัตรเช้า ,ภาวนา
๑๖.๐๐ โดยประมาณ ฉันท์น้ำปานะ ที่ โรงฉันท์ ,กวาดลาน ..
๑๙.๓๐ หรือ ๒๐.๐๐ จะ พร้อมกันสวดมนต์ ทำวัตรเย็น ,บำเพ็ญจิตภาวนา..

การนั่งสมาธิภาวนา จะเน้น นั่งนาน เนื่องจาก อันจะทำให้เกิด กาย เวทนา จิต ธรรม ...
การนั่ง แบบนานๆ จะทำให้เกิด การ รู้ ว่า ทุกข์ อย่างไร จะ รักษา จิต ให้ข้ามพ้น เวทนา อย่างไร นั่งแล้ว จิต ดิ่ง นิ่งไหม ระหว่าง ร่างกาย ทุกช์จาก เหน็บกิน เราจะ เลิก นั่ง เปลี่ยนอริยาบท ไหม..

เปลี่ยนอริยะบท แล้ว จิต เรา จะนิ่งเพียงใด..

-ส่วน ในถ้ำผากล้วย รัตนคูหา จะมีกลิ่น ขี้ค้างคาว แต่ ถ้ารา เข้านั่ง ปรับ ธาตุขันธ์ สักพัก จะปรับเปลี่ยน อารมณ์ , อากาศ จะ เริ่มดี ขึ้น จนรู้สึก ใด้ ครับ ( นั่ง ด้าน ตรงพื้น ยกสูง ด้าน ขวา องค์พระ ในถ้ำ ครับ จะมี ช่องลมผ่าน แต่ ก็ ระวัง และ แผ่ เมตตา ให้ เทพเทวา ,งู ด้วย )


โดยเฉพาะ ค่ำคืน วันพระ จะ นั่ง สมาธิ ภาวนา โต้รุ่ง จนถึง ๐๔.๐๐ จึง เปลี่ยนอริยะบท เดิน และ เตรียมตัว สวดมนต์ทำวัตรเช้า ต่อไป..

อยู่ที่ เจตนา การบำเพ็ญ จิต ตาม ปฏิปทา องค์หลวงปู่ ...พ่อแม่คุรุอาจารย์ ครับ...โดยเฉพาะ องค์หลวงตามหาบัว ท่าน ไม่ให้ ยึดมั่น ถือมั่น ใน สิ่งที่ เห็น จนเกิด อุปทาน ในจิต ..

ประมาณนั้น ครับ.. ซึ่ง ผมเอง ก็เดินตาม ปฏิปทา องค์หลวงปู่สุภา กันตสีโล ศิริวัฒนะ ที่ ๑๑๘ ปี ในปีนี้ ๒๕๕๕ ครับ ซึ่ง องค์หลวงปู่สุภา ท่าน จะเน้น การเดินธุดงส์ ปลีกวิเวก ตามป่า เขา สถานที่ เราฝึกจิต ไม่ให้เกิดความกลัว..

ก็ เรียนเชิญ คุณ ตะกั่วป่า เที่ยว ทาง ลำปาง ด้วย ครับ ..สถานที่ สวยงาม มาก มีหลายถ้ำ ที่น่าบำเพ็ญ จิต ..อย่าง ที่ ท่านพระครูปลัด ..วัดฉลองราชศรัทธา อ.แม่เมาะ ลำปาง ก็ พบ ถ้ำ อยู่ห่างไม่มาก เท่าไหร่ ครับ..

ทราบเบื้องต้น ว่า คุณน้อง ทด ลูกชาย ของ พี่สาว พี่ร่มบุญ จะ บวช บำเพ็ญจิต ที่ วัดป่าถ้ำผากล้วย อ.แม่เมาะ ลำปาง ประมาณ เดือน กันยา ..

 

ขอบคุณมากครับทั้งคุณติ๊กและพี่นาคา โมทนาบุญด้วยครับ ถ้ามีโอกาสผมอยากขอรบกวนเวียงนาคาของพี่ก่อนครับใกล้กว่า(smile)(ping)

 

ยินดี ครับ จะใด้ แวะเยือน ด้วยกัน ครับ ท่าน จ่าถาวโร,ท่าน ทารา,ท่านตะกั่วป่า ...ครับ...

นำลูกท่อขึ้นรถกะบะ 4WD มาวางใว้ รอนำลงในร่องน้ำ เมื่อ 26 กค. 2555

วันเสาร์ 11 สค.นำรถกะบะ ขึ้น เนินเขา จุดร่้องน้ำ ( 1ใน 4 ของระยะทาง ) เปิด วิทยุ รับคลื่นสัญญาณ ของระบบ ทวนสัญญาณ ของ นครศรีฯ ด้วย เครื่องวิทยุสื่อสาร I-COM 2G สายอากาศ C-LOAD ติดรถ ..อากาศ ช่วงนี้ เปิดดี ครับ..​

​

เย็นๆ วันที่ 11 สค.นำลูกท่อ 2 ลูกลงในร่องน้ำ คร่าวๆ จากนั้น เช้าวันแม่ 12 สค. ร่วมด้วยช่วยกัน ญาติๆ ,คนข้างบ้าน ช่วน ยก กลิ้ง ลูกท่อ 7 ลูก ลงในร่องน้ำ ทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา บนเขา ..
ในภาพ ลูกท่อ สุดท้าย พอดี ..เหนื่อย..
จากนั้น เกลี่ย ดิน ลงกัน ฝนตกไหล..
จะเห็น ทางขึ้น เรือนธรรม คร่าวๆ ..



+++ รอรถกลบดิน ให้เรียบร้อย จะใด้นำรถ ขึ้น เพื่อ สร้าง ห้องน้ำ เพื่อปฏิบัติกิจ ภาวนาธรรม และต้อนรับ ทุกท่าน ด้วย จิต สว่าง..ทาง มรรคผล..
และ เพื่อเตรียมการ ทางภัยพิบัติ ด้วย วิทยุสื่อสารซึ่ง สามารถ ติดต่อ เฝ้าฟังความเคลื่อนไหว ใด้ ทั้ง ในระบบทวนสัญญาณ คู่ที่ 1ภูเก็ต
ระบบทวนสัญญาณ ระนอง
ระบบทวนสัญญาณ นครศรีฯ
ระบบทวนสัญญาณ เขาหลัก (ท้ายเหมือง เล็กน้อย )
กลุ่ม VR คุระบุรี 144.100 ,144.950 Mhz
กลุ่ม VR เขาน้อย 144.975 Mhz
กลุ่มเด็กเลี้ยงแกะภูเก็ต 144.975 Mhz (ถลาง )
กลุ่ม VR ตะกั่วป่า 144.800 Mhz...

เมื่อ คืน13 สค ประมาณ 21.00 รับ สัญญาณ ของ เพื่อน กลุ่ม ถลาง คุย กับ ใคร ไม่แน่ใจ ( VR เขาน้อย สุราษฏร์ ) ใน ช่อง กลุ่มเด็กเลี้ยงแกะ 144.975 Mhz ...​

​

​

​

​

 

เพิ่งกลับ จาก การสัมมา จป.ความปลอดภัย..

ท่าน อ. วิทยากร ท่านแนะนำ รายละเอียด มากพอสมควร....
ที่ ใด้ แรงใจ จาก คลิป ...

วาดทรายถวาย ในหลวง ของ สาวชาวยูเครน ,และ ชาวไทยสยาม แด่ พ่อหลวง.. ดู แล้ว ชาวต่างชาติ ยังรัก พ่อหลวง ...แต่ เราสยาม ...

Kseniya Simonova ศิลปินวาดทรายชาวยูเครน
วาดทรายเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย
ดูจบแล้วน้ำตาไหลครับ เลยขออนุญาติเอามาเก็บไว้ และแบ่งปันให้คนไทยได้ดูอย่างทั่วถึง

จากสภาพ ความแห้งแล้ง พ่อหลวง ท่านเมตตา ด้วย
รอยเท้า ทุกหย่อมหญ้า...สู่
ท้องฟ้า ฝนเทียม ..สู่
เตรียมเขื่อน ภูมิพล ..
เพื่อ ชนชาวสยาม ...

HS1A พ่อหลวง องค์พระประมุข สยามประเทศ , วิทยุสมัครเล่นสยาม..
ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ..
HS8HNB นาย พจชนะ (นาคา )

อัปโหลดโดย SimonovaTV เมื่อ 12 ม.ค. 2012
On 5th and 6th of January in Bangkok (Thailand) Kseniya Simonova presented a sand story about His Majesty The King of Thailand Rama IX. Devoted to his 84th anniversary, the sand story created by Simonova told about the great inventions of the King conserning the Environment, about His love of his people and of His country. Kseniya was performing in the Royal Pavillion of Bangkok in a specially built hall in the presence of Her Royal Highnesty Princess Sirindhorn and the Government of Thailand. The spirit of the sand fantasy of Simonova, the feeling which she expressed in her art work stunned the audience. "I was very happyto receive such reaction", - says Kseniya, - "This sand story had a very long period of preparations, I was very worried about how the people of Thailand will take it. The music for my sand story was written by His Majesty the King himself. This music is really beautiful and inspiring. His Majesty is trully a genious person!"
After watching Kseniya's performance, the Princess of Thailand gave her flowers from herself and from her Father, the King as a present. Kseniya gave her Royal Hihnesty two discs with a sand film about the King which was shooted by her and the Ovation.Tv (the Royal Television of Thailand) beforehand.
Сюжет истории, который более полугода был тайной для СМИ, посвящён борьбе всего Тайланда, так и лично Короля, со стихийными бедствиями и экологическими проблемами страны, с многолетними засухами, мучившими жителей большей части Тайланда. По словам Ксении Симоновой, эта история, по большому счёту, посвящается огромной взаимной любви Короля к народу и народа к Королю.
- Начав подготовку к созданию песочной истории, я стала изучать всевозможные материалы о Пумипоне Адульядете, о его жизни и деятельности в качестве Главы государства. Многие факты меня поразили -- с ранней молодости этот человек служил своей стране, ещё не будучи Королём, он твёрдо знал, что сделает все, что будет в его силах, чтобы его народ был счастлив. В Тайланде он не просто национальный герой, его воспринимают как божество. Мне была крайне интересна эта работа, я увидела в ней большой потенциал для драматического развития, я испытывала именно те эмоции, которые нужны в передаче этой истории на песке, - говорит художница - Музыка, которую прислала нам тайская сторона, была просто потрясающей. Мы спросили их: "Кто автор?" И получили ответ:"Сам Король". Это действительно огромная честь для меня.
Кроме живого выступления на Юбилейном торжестве, Симонова и телевидение Тайланда сняли песочный фильм о Короле. Съёмки состоялись в середине октября 2011 года. Ксения уговорила режиссёров снять кино в Украине.

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=lHV1D9q0_HY]Kseniya Simonova-sandstory for King of Thailand- К.Симонова- Королю Тайланда - YouTube[/ame]


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=gWJYGQ4El_Q]ศิลปินยูเครนวาดทรายถวายในหลวง - YouTube[/ame]

 

เก็บตก ทริปถวายเทียนพรรษา ,ผ้าอาบน้ำฝน ..,อัญเชิญบายศรี ถวายแด่ องค์พระพุทธสัมมา ,พ่อแม่คุรุอาจารย์..

กลับจาก ลำปาง แวะ สยามยิงปืน ค่ายทหาร ที่ราชบุรี ทดลอง ตามวาระ ด้วย ไม่ใด้ ใช้ปืน มานาน แล้ว จากสมัยเรียน รด.ประมาณ ปี ๒๕๒๙ ..

จังหวะใด้ เข้าเป้า มุมขวา ล่าง ไม่มีคะแนน น้องทหาร แนะนำการใช้ ใด้ดี..

วันนี้ เดินทาง ขึ้น เรือนธรรม ฯ บนเขา ทราบว่า ทางด้าน อ.คุระบุรี จ.พังงา ฝนตกหนัก มาก..อาจจะทำให้ น้ำไหลจากเขา ระบายไม่ทัน ล้นมาทาง ในตลาด อ.คุระบุรี..

 

เพิ่งกลับจาก เรือนธรรม เวียงนาคา บนเนินเขา อ.คุระบุรี จ.พังงา จากนั้นเดินทาง อบรมสัมมา ที่ภูเก็ต..(๕-๖ กย.)
ขออนุญาต นำภาพ ,ข้อมูล ถนน ทางขึ้น เรือนธรรม คร่าวๆ..

๑๕ เมษา ๒๕๕๕ ติดต่อ รถทำถนน ขึ้นเรือนธรรม..(สภาพ ทางขึ้นยังซัน )
๑ พค. นำลูกท่อ มารอ วางในร่องน้ำ ทางขึ้นเรือนธรรมเวียงนาคา บนเนินเขา
๒๖ กค.๒๕๕๕ นำลูกท่อขึ้นรถกะบะ 4WD มาวางใว้ รอนำลงในร่องน้ำ
๑๑ สค.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป ) มาวาง ใว้ ข้างๆ ร่องน้ำ ชั่วคราว
และ นำลูกท่อ ๒ ลูกลงในร่องน้ำ คร่าวๆ
๑๒ สค.เช้าวันแม่ ร่วมด้วยช่วยกัน ญาติๆ ,คนข้างบ้าน ช่วน ยก กลิ้ง ลูกท่อ ๗ ลูก ลงในร่องน้ำ ทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา บนเขา ..
๒ กย.๒๕๕๕ ติดต่อรถ เกลี่ยดิน ถม ลูกท่อในร่องน้ำทางขึ้น เรือนธรรม บนเนินเขา ..
๓ กย.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป )
๑๔-๑๗ กย. เดินทาง ขึ้นเรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี โลกอุดร อมรรัตน (พร้อม บรรทุกตัวหนอน ประมาณ ๒๑๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี ในโอกาส ต่อไป )

ซึ่งใน ขณะนี้ ฝนยังคงตก ทำให้ ดินยังแฉะ
รถมอเตอร์ไซด์ ,รถกะบะ 4WD สามารถ ไต่ถนนขึ้น เรือนธรรมเวียงนาคาธิบดี รัตนมณี ใด้
+++ ส่วน รถกะบะ ขับเคลื่อน ๒ ล้อ ยังขึ้นไม่ใด้ ครับ..

ยินดี ต้อนรับ ทุกท่าน ที่ เข้ามา เยี่ยมเยือน ...
ในโอกาส ต่อไป จะ พยายาม ทำถนน ให้ ขึ้นใด้ สะดวก มากกว่านี้ , สุขา ,ปฏิบัติ ภาวนา ด้วย จิตพุทธะ ฯ


แบก ขน อุปกรณ์ ต่างๆ ขึ้น ประกอบ ใว้ ที่เรือนธรรม (รถยังขึ้นไม่ใด้)

๑๑ สค.นำรถ นาคา ขึ้น มาถึงร่องน้ำใด้..

๑๒ สค.ร่วมด้วยช่วยกัน นำลูกท่อวางในร่องน้ำ ทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา

ต่อลูกท่อ เสร็จแล้ว เกลี่ยดินมาเล็กน้อย รอรถเกลี่ยดิน มากลบอีกครั้ง

๒ กย.ติดต่อรถเกลี่ยดิน กลบ ลูกท่อในร่องน้ำทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา รถ 4WD ,มอเตอร์ไซด์ ขึ้นใด้แล้ว ( รถ ขับเคลื่อน ๒ ล้อ ยังขึ้นไม่ใด้ )

ตัวหนอน เตรียมใว้ ปูพื้นในบริเวณลาน ธรรม ...

ยาม เช้า,เย็น ปฏิบัติภาวนา ตามวาระ

 

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6720467" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>เพิ่งกลับจาก เรือนธรรม เวียงนาคา บนเนินเขา อ.คุระบุรี จ.พังงา จากนั้นเดินทาง อบรมสัมมา ที่ภูเก็ต..(๕-๖ กย.)
ขออนุญาต นำภาพ ,ข้อมูล ถนน ทางขึ้น เรือนธรรม คร่าวๆ..

๑๕ เมษา ๒๕๕๕ ติดต่อ รถทำถนน ขึ้นเรือนธรรม..(สภาพ ทางขึ้นยังซัน )
๑ พค. นำลูกท่อ มารอ วางในร่องน้ำ ทางขึ้นเรือนธรรมเวียงนาคา บนเนินเขา
๒๖ กค.๒๕๕๕ นำลูกท่อขึ้นรถกะบะ 4WD มาวางใว้ รอนำลงในร่องน้ำ
๑๑ สค.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป ) มาวาง ใว้ ข้างๆ ร่องน้ำ ชั่วคราว
และ นำลูกท่อ ๒ ลูกลงในร่องน้ำ คร่าวๆ
๑๒ สค.เช้าวันแม่ ร่วมด้วยช่วยกัน ญาติๆ ,คนข้างบ้าน ช่วน ยก กลิ้ง ลูกท่อ ๗ ลูก ลงในร่องน้ำ ทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา บนเขา ..
๒ กย.๒๕๕๕ ติดต่อรถ เกลี่ยดิน ถม ลูกท่อในร่องน้ำทางขึ้น เรือนธรรม บนเนินเขา ..
๓ กย.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป )
๑๔-๑๗ กย. เดินทาง ขึ้นเรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี โลกอุดร อมรรัตน (พร้อม บรรทุกตัวหนอน ประมาณ ๒๑๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี ในโอกาส ต่อไป )

</TD></TR></TBODY></TABLE>
๑๔ กย. เดินทางจากภูเก็ต แวะรับพี่ชาย ที่ บ้านปากวีป ( อาจจะย่อมาจาก ปากทวีป...ทวีปอะไร ที่ จม อยู่ใด้ ทะเล ...
ถึง คุระบุรี ประมาณ ๒๐.๓๐ นำ ตัวหนอน ลงจากรถ ประมาณ ๒๑๐ ก้อน

๑๕-๑๖ ติดตั้ง ผนังกันฝนสาด ที่หน้าจั่ว และ ติดตั้ง วงกบประตู , ผนังแผ่นใส ชั่วคราว เนื่องจาก ฝนตกหนักมาก..
๑๗ กย. เดินลงจาก เรือนธรรมเวียงนาคา ลงมาทานข้าว หลังจาก ทานอาหาร เอกา ๑ มื้อ บ้าน ประมาณ ๑๓.๓๐ เดินขึ้น ดู รอยสายน้ำ ในร่องเขา จากนั้น เดินเที่ยว ,แผ่เมตตา บนเขา อีก ๒ ลูก ,ลงมาที่ ร่องน้ำ อีกครั้ง สายตา เจอ..

หินก้อนใหญ่ กว่า ฝ่ามือกาง พบ ว่า มี พระธาตุเหล็กไหลเพลิง พอสมควร
จึงน้อมจิต ขออัญเชิญ ใว้ ที่ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี ศรีอริยะ รัตนมณีนพรัตน์ โลกอุดร อมรรัตน ..
เนื่องด้วย นอนกลด ๓ คืน พร้อม น้อมขออนุญาต
-สวดมนต์ทำวัตรเย็น
-ชุมนุมเทวดา,,
- ไตรสรณคมณ์
- พระธรรมจักร
- นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
- มงคลสูตร ๓๘ ประการ
- เมตตัญ ( ในบทกรณีเมตตาสูตร )
- ขันธปริตร วิรูปัก..)
- โภชงคปริตร
- ยันทุน
- สักกัตวา
- ยังกิญจิ
- นัตถิเม
- อัปมาโณพุทโธ อัปมาโณธัมโม อัปมาโณสังโฆ..(ในบท ขันธปริตร วิรูปัก.)
- ชัยมงคลคาถา

ฉนั้น จึงอาจจะ เจอะเจอ เพื่อน มาเยือน ยาม ดึกๆ ตามปกติ ของ เขา..
เช่นกัน คืนที่ ๓ ในการนอนกลด ..
คืนวันจันทร์ ๑๐ กย.๒๕๕๕ ตื่นขึ้นมา ประมาณ ๐๐.๓๐ จึงเดินเล่น ที่ห้องด้านหน้า เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี ศรีอริยะ รัตนมณีนพรัตน์ โลกอุดร อมรรัตน.

๐๑.๓๐ จึงพบ กับ สายตาที่สะท้อนแสง สีแดง ออกเหลืองส้ม ด้วยผม ส่องไฟฉาย เจอ เพื่อนๆ ๑ ท่าน มาเยือน เขากำลังเดินลงจาก ร่องยางพารา มาใกล้ เรือนธรรม เวียงนาคา ...ประมาณ ๑๐ เมตร มองเห็นชัดเจน ..
คล้ายๆ แมว โตพอๆ กับ หมา หางเป็นภู่ คล้ายหมาจิ้งจอก สวยงามมาก..

เจ้ามุดสัง จึงหันหลังกลับ เดิน ขึ้นตามร่องต้นยางพารา ไปตามทาง ร่องน้ำ ซึ่ง ผม ก็ ส่องไฟฉาย กระทบตา เขาตลอดเวลา เจ้ามุดสัง ก็ เดิน และ หันมา สบสายตา กับ แสงไฟฉาย ตลอด เช่นกัน จนกระทั่ง ลับสายตา...

จากนั้น จึงแผ่ เมตตา ...ดี นะ ที่ เธอ มาเจอ เรา ..ถ้า เป็น ..อย่างอื่น เธอ อาจจะ โดน ปาณา...
หรือ ว่า เรา โชดดี ที่ไม่เจอ วิญญาณ มาเยี่ยม ซึ่ง น้องสาว ว่า อาจจะเป็น วิญญาณ มา เยี่ยม ก็ใด้..

จากนั้น นำกล้อง มาถ่ายภาพ ดวงธรรม หน้าเรือน ,,,ตามภาพ พร้อมไอหมอ ที่ลงมา ใน ช่วงนั้น..

ณ.สถานที่ แห่งนี้ ที่ สายตา ผม เจอ..
- คล้ายๆ ไก่ ฟ้า หางยาวพอประมาณ สีขาว ,ฟ้า ลงมา ตอนเช้า ประมาณ ๐๖.๓๐ ขณะ เดินจงกรม ลานดิน
- คล้าย ..ไก่ (... ) กระโดด ไปมา ตามร่องยาวพารา ไปทางร่องน้ำ ประมาณ ช่วง บ่ายๆ..
- ล่าสุด เวลา ๐๑.๓๐ คืน จันทร์ที่ ๑๐ กย.นี้ พบ เจ้า มุดสัง ...
- พระธาตุ ต่างๆ ด้วย ใช้ จิต วิจารณะญาณ..

ต้นกล้วย ตอนที่ อัญเชิญ พิธีฤกษ์ เสาเอก มีดวง..

 

น้อมอัญเชิญหลวงปู่เทพโลกอุดร ถวายหลวงพ่อเสือ เกาะแก้ว ที่ประทับพระพุทธบาทนัมทานที


พระพุทธบาท นัมทานที ประทับ.ระหว่าง ก้อนหินใหญ่ ๒ ก้อนขนาบ ข้าง พระพุทธบาท รอยที่ ๒

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1948475/[/MUSIC]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]คำกลอนนมัสการพระพุทธบาท[/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]* [/FONT][FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ขับร้องโดย[/FONT][FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]พัทธมนัส[/FONT][FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]บุนนาค[/FONT]

​

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ข้าพเจ้าวันทาสักการะ[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]พระพุทธผู้พ้นจากภพสาม[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]เป็นธงชัยไตรโลกอันเรืองนาม[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]เพราะเหตุข้ามจากภพหลบพ้นภัย [/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]เป็นที่พึ่งอย่างประเสริฐเลิศลบ[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ของไตรภพพื้นพสุธาสัตว์อาศัย[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ผู้ประเสริฐสุดแสนในแดนไตร[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ตัดกิเลสขาดได้โดยสกล[/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ปลุกประชาหาที่สุดมิได้[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ให้ตื่นใจได้ประจักษ์สุมรรคผล[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]พระบาทในพระสุคตทศพล[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]แสดงไว้ในตำบลต่างต่างกัน[/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ห้าสถานนามขนานมีดังนี้[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]บนยอดคีรีศิขเรศร์นามเขตขัณฑ์[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]สุวรรณมาลิกแจ้งแหล่งสำคัญ[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]อีกสุวรรณบรรพตกำหนดนาม[/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ยอดภูเขาสุมนาซึ่งปรากฏ[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]โดยกำหนดชื่อมีเป็นที่สาม[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ที่โยนกประเทศบ่งเขตคาม[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ที่ห้านามนัมทาคงคาลัย[/FONT]

[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ข้าพเจ้าขอไหว้รอยพระบาท[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]พระโลกนาถดังแจ้งตำแหน่งไข[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ตามที่กล่าวมานี้แต่ไกล[/FONT]
[FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ด้วยน้อมใจวันทาสาธุการ[/FONT][FONT=พส. พิมพ์ดีด ๒ ใหม่]ฯ[/FONT]​

นาคา เรือนธรรมเวียงนาคาธิบดี นพรัตนโลกอุดรอมรรัตน

อัญเชิญหลวงปู่เทพโลกอุดร ถวายหลวงพ่อเสือ เกาะแก้ว กย.55 ในวาระ ทาน เอกา อาหาร ๑ มื้อ นับเป็นเวลา ๑ปี ๘ เดือน ในวันที่ ๒๐กย พอดี ( 36 รูป)

ด้วย ก้อย (คุณ สาวกพุทธะ) เมตตา สื่อมาบอกว่า จะมีพิธี ที่สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร
เช้า วัน พฤหัส จึงเดินทาง ไปรอที่หาดราไวย์ ประมาณ 08.30 จากนั้น เดินทางแวะ ที่บ้านน้องสาว..
ทราบว่า ทางเชษ (คุณเกาะแก้ว ) ใด้ เดินทางทำพิธี ,รับญาติธรรม ทางป่าตอง
เมื่อ เดินทาง มาถึงหาดราไวย์ อีกครั้ง จึงพบกับ องค์แทนองค์หลวงปู่เทพโลกอุดร

ด้วยน้อมนึกในจิต ว่า...
ความคิด ที่ จะ สร้าง องค์แทน หลวงปู่เทพโลกอุดร ใว้ที่ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี ศรีอริยะ มณีรัตนนพรัตน์ โลกอุดร อมรรัตน บนเนินเขา สูง ที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา ในวาระต่อไป เมื่อทุกอย่างพร้อม แล้ว...( ตาม นาม เรือนธรรม ฯ ด้วย หลวงปู่ ท่าน เมตตา ทั้ง ๒ ท่าน )

วันนี้ ใด้มีโอกาส น้อมอัญเชิญ หลวงปู่เทพโลกอุดร ถวาย แด่ หลวงพ่อเสือ
+++จากนั้น ใด้เวลา น้อมอัญเชิญ ท่าน ขึ้นเรือ เตรียมพร้อม อัญเชิญ ขึ้น สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร

นั่งเรือ จากหาดราไวย ระหว่างทางท้องทะเล คลื่นลมแรงมาก ทางญาติธรรม ท่านสวดมนต์ อัญเชิญ เหล่าเทพเทวา ,เหล่านาคราช ร่วมบุญ และ ช่วยนำเรือ,อัญเชิญ หลวงปู่เทพโลกอุดร ขึ้นเรือ ด้วย พลังบุญ

จากนั้น พี่คนขับเรือ คัดท้าย เรือ นำเรือเข้าฝั่งด้านหน้าสำนักสงฆ์โดย มี พระสงฆ์ ท่านเมตตา ช่วยดึงเรือ และขน ของ ,น้ำแข็งในถุง ด้วยกัน เพราะ คลื่นกระทบ แรงมา่ก

ผม ช่วย อุ้ม อัญเชิญ หลวงปู่เทพโลกอุดร พร้อม พระอาจารย์ ( 3 ท่าน ) ด้วย แรงบุญหนักมาก ทรายบนหาด จนลุ้มลุก 2 ครั้ง จนกระทั่ง อัญเชิญ หลวงปู่ใว้ชั่วคราวก่อน

จากนั้น น้อมอัญเชิญหลวงปู่ท่าน ใว้ กราบเรียนหลวงพ่อเสือ ท่าน เมตตา ด้วย ความยินดี เพราะ ทราบว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านเมตตา สถานที่ ประทัย รอยพระพุืทธบา่ท นัมทานที

จากนั้น น้อมกล่าว อัญเชิญ ถวายหลวงพ่อเสือ ..
ทานอาหาร ด้วยกัน หลังจาก หลวงพ่อเสือ,คณะสงฆ์ ท่านฉันท์ภัตตราหาร(ด้วย ผม ทาน เอกา อาหาร 1 มื้อ นับเป็นเวลา ๑ปี ๘ เดือน ในวันที่ ๒๐กย พอดี )

 

มณฑป วาระ ที่ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธ์ ท่านเมตตา สร้างครอบ นัมทานทีพระพุทธบาท ..ต่อมาชำรุด ตามกาลเพลา.



วิหาร ปัจจุบัน ด้วยปฏิปทา หลวงปู่ละมัย วัดป่าสมุนไพร เพชรบูรณ์ ,คณะศัทธา ปฏิปทาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง.





จากนั้น เดินทาง เพื่อ กราบสักการะ รอยพระพุทธบาท รอยที่ 5 นัมทานที พระพุทธบาท ด้วย จิตเมตตา ที่ น้องก้อย (คุณ สาวกพุทธะ ) นำพวงมาลัย ให้ทุกท่าน น้อมถวาย เป็น พุทธบูชา่ ธัมมะับูชา สังฆะบูชา ด้วยกัน



คลื่นกระทบ แรงมาก ผม นาคา จึงเดินน้อมนำพวงมาลัย อัญเชิญ ลงสักการะ พระพุทธบาท และดิน ข้าม สะพาน เพื่อ อัญเชิญ พวงมาลัย ถวาย พระพุทธบาท อีก 1 รอย ด้วย คลื่นแรง และ น้ำทะเล ขึ้นสูง จุดนี้ จึงไม่สามารถ ขึ้นก้อนหิน ที่ ประทับใด้..

คุณเกาะแก้ว (เชษ )น้อม สักการะพุทธบาท นัมทานที รอยแรก พร้อมอัญเชิญ พวงมาลัย น้อมถวายเป็นพุทธบูชา เช่นกัน​

จากนั้น ใด้เดินทางกลับ ขณะล่องเรือ พี่คนขับเรือต้อง คัดท้ายเรือ ,เบาเครื่อง ตาม จังหวะ ด้วย คลื่นในทะล แรง มาก ลักษณะ เรือคล้าย โต้คลื่น เหมือนเราเล่นโต้คลื่น ตอนเด็กๆๆ แต่ สายตา บางท่าน พบ
เหล่านาคราช มาร่วม รับ -ส่ง ยินดี ในพลังบุญ ด้วยกัน..

โมทนาบุญ กับทุกท่าน ทั้ง ต้นบุญ ,ญาติธรรม ที่ นำพา มาพบกัน ในครั้งนี้
นาคา นาคี นาคินทร์
นาคี เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี ศรีิอริยะ มณีรัตนนพรัตน์ โลกอุดร อมรรัตน..​

ร่วมพลังบุญ อีกวาระ ในการ อัญเชิญ องค์พระมารดา ณ. ศาลเจ้าบางโจ ,เชิงทะเล ภูเก็ต ในเวลา ประมาณ ๐๘.๓๐ จาก บริเวณ บ้านเมื่องทอง สู่ ศาลเจ้าบางโจ วันที่ ๑๐ ตุลาคม ก่อนวัน ถือศีลกินผัก
๑๕ ตุลาคม วันแรกของการ ถือศีล กินผัก ภูเก็ต ..

 

มุมมอง จาก กล้อง น้องๆ ญาติธรรม


อัญเชิญหลวงปู่เทพโลกอุดร ขึ้นเรือ

พระเจดีย์ ข้าง องค์พระพุทธลีลา ก้าวประทับรอยพระพุทธบาท นัมทานที เกาะแก้ว

 

ต้นข้าวแรกนาขวัญเพื่อเตรียมการเรือนธรรมเวียงนาคาธิบดีบนเขาอ.คุระบุรี,พังงา

ในช่วงเข้าพรรษา ใด้ น้อมนำ เพาะปลูกข้าวเปลือก ในดอกบัวเทียน ในห้องพระ ที่ภูเก็ต..
สื่อข้อมูล จาก คุณน้องพรหมพร ในการเพาะปลูก ข้าว..

ต่อมา ใด้ ย้ายลงในกระถางเล็กๆ เพื่อ รับแสงแดด สุริยัน จันทรา..

จาก ต้นกล้า ข้าวเปลือก ๑ เมล็ด แตกกอ ขึ้นมา ๓ กอ,๕ กอ และ ขณะนี้ เริ่ม แตก กอ ที่ ๖ ...
วันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ ที่ ๓๐ กันยา จึง ย้ายลงใน กระถางใบใหญ่ ขึ้น..

 

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับทุกสิ่ง ทุกประการที่พี่นาคาได้บำเพ็ญมา ทั้งทางโลก ทางธรรมค่ะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="99%" border=0><TBODY><TR><TD class=text_normal>ข่าวรอบเมืองพังงา </TD></TR><TR><TD class=text_head>ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดโครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัยและสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัยจังหวัดพังงา
<HR SIZE=1>วันที่ 8 ต.ค. 2555 (จำนวนคนอ่าน 14 คน)
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="99%">

​

วันนี้ (๘ ตุลาคม ๒๕๕๕) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนสตรีพังงา อ.เมือง จ.พังงา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดกิจกรรม โครงการสร้างองค์ความรู้ด้านระบบเตือนภัยพิบัติของพื้นที่เสี่ยงภัยและสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย โดยมีนายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน พร้อมด้วย พลอากาศเอก สมนึก สวัสดิ์ถึก, พลเรือตรีถาวร เจริญดี, นายมนัส ทรงแสง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆในจังหวัดพังงา ร่วมพิธีเปิด ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นเวลา ๒ วัน ระหว่างวันที่ ๘-๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและเตรียมความพร้อมรับมือได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดภัยขึ้น และเป็นการสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนเพื่อป้องกันและบรรเทาภัย ซึ่งมีหน่วยงานราชการ ประชาชนชาวจังหวัดพังงาเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
นายสมเกียรติ ศิริวัฒนโชค กล่าว่า ในช่วงปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาอุทกภัยที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเครื่องมือวัดในบางครั้งอาจเกิดความผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นได้ ดังนั้นการที่มีเครือข่ายของศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชน จึงเป็นหลักประกันได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ใดมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด สามารถยืนยันว่าสิ่งที่ได้มีการตรวจวัดโดยเครื่องมือนั้นเป็นความจริงถูกต้องหรือเกิดความคลาดเคลื่อน ทั้งนี้เครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชนยังสามารถรายงานเหตุการณ์ให้ศูนย์เตือนภัยทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้นได้รวดเร็ว และสามารถช่วยกระจายข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยหรือให้ความรู้ชุมชนได้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยประชาชนในชุมชนไม่ต้องตื่นตระหนก
สำหรับการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการความรู้เรื่องภัยธรรมชาติ การบรรยายเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติที่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่ แนวทางการป้องกันภัยฯ การเสวนาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์จริงในพื้นที่ภัยพิบัติ การสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อปกป้องตนเองในพื้นที่
และในวันพรุ่งนี้ (๙ ตุลาคม ๒๕๕๕)จะมีกิจกรรมซักซ้อมเครือข่ายศูนย์เตือนภัยภาคประชาชนในการรายงานเหตุการณ์และการแจ้งเตือนภัย​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="99%" border=0><TBODY><TR><TD class=text_head>พังงาเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการประกาศให้แหล่งที่พบพลับพลึงธารเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
<HR SIZE=1>วันที่ 9 ต.ค. 2555 (จำนวนคนอ่าน 9 คน)
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="99%">

นายสุรินทร์ เพชรสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า จังหวัดพังงา ได้เล็งเห็นความสำคัญและปัญหาการลดลงของพลับพลึงธารซึ่งเป็นพืชน้ำเฉพาะถิ่นที่อยู่ในสถานะถูกคุกคามและใกล้สูญพันธ์ สามารถพบได้แห่งเดียวในโลก คือ บริเวณแม่น้ำลำคลองในเขตอำเภอสุขสำราญ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง อำเภอตะกั่วป่าและอำเภอคุระบุรี จึงได้กำหนดแนวทางเพื่อการอนุรักษ์ คุ้มครอง และฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของพลับพลึงธาร โดยประกาศให้แหล่งที่พบพลับพลึงธารเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งจำเป็นต้องมีการรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อใช้ประกอบในการยกร่างขอบเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
สำหรับพลับพลึงธารซึ่งเป็นพืชที่ใกล้สูญพันธ์ เนื่องจากมีปัจจัยหลายที่ส่งผลให้มีปริมาณลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ปัจจุบันมีพลับพลึงธารเหลืออยู่แค่ ๓-๕% เมื่อเทียบกับปริมาณที่พบในอดีตสาเหตุเกิดจากการขุดขายเพื่อการค้านอกจากนี้สาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินที่ทำให้มีผลกระทบต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของพลับพลึงธาร
ในส่วนเป้าหมายการประกาศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือควบคุมการใช้ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมให้ถูกต้องสอดคล้องกับสภาพของพื้นที่และคุ้มประโยชน์มากที่สุด ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมได้รับการอนุรักษ์ คุ้มครองให้ดำรงอยู่อย่างสมดุลตามระบบนิเวศธรรมชาติ คงความสมบูรณ์เพื่ออนุชนรุ่นหลังได้ใช้เป็นฐานทรัพยากรและได้อยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต
</TD></TR></TBODY></TABLE>
----------------------------------
ภูเก็ตพบ'ปูไก่'ขยายพันธุ์-หากิน ครั้งแรกในรอบ10ปี


<SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>
นักวิชาการพบ "ปูไก่" หรือปูภูเขา ขยายพันธุ์และหากินบนเกาะภูเก็ตเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ชี้เป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากเป็นปูที่กำลังจะสูญพันธุ์ แสดงให้เห็นว่าชายฝั่งทะเลรอบๆ เกาะภูเก็ตยังมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ...

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2555 นายปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์วัฒนธรรมอุทยานแห่งชาติและคุ้มครองทะเล จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า มีการพบ "ปูไก่" หรือปูภูเขา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปูขน" ขึ้นมาหากินและขยายพันธุ์บริเวณป่าชายเลน และชายหาดบ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยปูชนิดนี้พบมากที่สุดที่บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะใน จ.พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ และยะลา แต่ไม่เคยพบเห็นบนแผ่นดินมานานกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากเป็นปูที่กำลังจะสูญพันธุ์ แสดงว่าชายฝั่งทะเลรอบๆ เกาะภูเก็ต ยังมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ

สำหรับ "ปูไก่" หรือปูภูเขา มีรูปร่างหน้าตาเหมือนปูทั่วไป แต่ที่แตกต่างกว่า เพราะมีเสียงร้องคล้ายกับไก่ มีขนาดใหญ่ประมาณกำมือ มีกระดองสีแดงอมม่วง แดงอมส้ม หรือบางตัวมีสีน้ำเงินเหลือบ เป็นปูน้ำจืดที่ชอบอยู่ตามลำธาร ปกติจะพบได้ตามเกาะทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะที่เกาะสี่ หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา โดยในช่วงค่ำคืนปูไก่จะออกมาหากินในเขตอุทยานแห่งชาติสิมิลัน ซึ่งมีการจัดเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวออกไปส่องดูปูไก่ แต่ถ้าไปที่เกาะตาชัย จ.พังงา แม้ในช่วงเวลากลางวันจะสามารถเห็นวิถีชีวิตของปูไก่ได้ เนื่องจากยังเป็นเกาะที่เงียบสงบ ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์

หัวหน้าศูนย์วัฒนธรรมอุทยานแห่งชาติและคุ้มครองทะเล จ.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ปูไก่เหมือนกับสัตว์ขาข้อในกลุ่มครัสตาเชียน นอกจากจะมีลำตัวเป็นเปลือกและมีขาเป็นข้อ ตลอดจนมีขา 10 ขาแล้ว ปูไก่มีชีวิตที่ไม่ค่อยซ้ำแบบใคร คือ วัยอ่อนเจริญในน้ำทะเล พอโตจะย้ายมาอยู่บนบก โดยขุดรูและหากินเรื่อยไป แต่ไม่ไกลชายฝั่งทะเลมากนัก จนถึงระยะผสมพันธุ์ วางไข่ ตัวเมียลงไปปล่อยไข่ริมทะเล โดยการขย่มตัวและขยับตัวให้น้ำทะเลพาไข่กลับไปฟักเป็นตัวเจริญอยู่ในน้ำทะเล ก่อนที่จะกลับมาอยู่บนบก วนเวียนเป็นวัฏจักร

ลักษณะของปูไก่เป็นปูขนาดใหญ่กระดองกลมมนรี ขอบด้านหน้าโค้ง ไม่มีสันและไม่มีหนาม กระดองกว้าง ตาอยู่บนก้านตาอยู่ในเบ้าตากว้าง ระยางค์ขาหลังไม่เป็นใบพายขาเดินมีขนแข็ง ยาวปกคลุม โดยเฉพาะที่ข้อสุดท้ายส่วนก้ามมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับลำตัว ร่องลวดลายที่กระดองเห็นเด่นชัด กินซากพืชซากสัตว์ และสัตว์ที่มีขนาดเล็กและใบไม้เป็นอาหาร ปูไก่ขึ้นมาอยู่บนบก ทำให้ต้องมีโครงสร้างที่ต้องเอื้อต่อการดำรงชีพ โดยต้องหายใจจากอากาศโดยตรง จึงมีเหงือกเป็นขุย มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงจำนวนมากคล้ายกับถุงลมในปอดของสัตว์บก

แม้แต่การขับถ่ายจะแตกต่างไปจากปูทะเล เพราะปูอื่นๆจะขับถ่ายของเสียลงสู่น้ำได้ง่าย ปูไก่จะมีกระบวนการเปลี่ยนของเสียจากแอมโมเนียให้กลายเป็นกรดยูริคเก็บไว้ในเนื้อเยื่อ เนื้อปูไก่ จึงกินไม่อร่อย คนไม่นิยมนำมาบริโภค มีน้ำหนักตัวโตเต็มวัยราว 163 กรัม.



mukmik ; ยินดี ครับ คุณน้อง fairy3

 

เต้าโบ้ (斗姆) นั้น ท่านอุบัติขึ้นมาก่อนการเกิดเหตุการณ์บิ๊กแบง (大爆炸/大霹靂) เมื่อประมาณ หนึ่งแสนสี่หมื่นล้านปีที่แล้ว โดยที่โลกของเรา (地球) เพิ่งจะเกิดขึ้นได้แค่ เก้าหมื่นหนึ่งพันล้านปี (大約九十一億年前) และเต้าโบ้นั้น ได้อุบัติขึ้นเมื่อหนึ่งพันสองร้อยสามสิบล้านล้านปี (เต้าโบ้นั้น เกิดขึ้นหลังจากที่มีซานชิง - 與元始天王一氣化三清的一千二百三十億萬年之間﹐斗姆誕生了)​

ก่อนหน้าเหตุการณ์บิ๊กแบงนั้น จักรวาลของเราจะมีลักษณะยืดหยุ่นเป็นก้อนเดียว ซึ่งทางเต๋าจะเรียกช่วงนี้ว่า 混元期 หรือ 無極界 จากนั้นเจ้าก้อนจักรวาลนี้ได้ดูดเอาพลังจากภายนอก (外來之陽氣) เข้ามาในก้อนนี้เรื่อยๆ โดยที่พลังงานภายนอกที่โดนดูดเข้ามานี้ เต๋าจะเรียกว่า 生為斗父 โดยพลังภายนอกนี้เกิดการปะทะกับพลังภายใน內在之陰氣 ซึ่งเต๋าเรียกว่า “เต้าโบ้” 生為斗姆 และเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง (陰陽相極之氣相碰) นี้คิอเหตุการณ์การปะทะกันของหยินและหยางอย่างรุนแรงที่สุด หรือเหตุการณ์บิ๊กแบงนั้นเอง而導致天文學中所稱之為的大爆炸/大霹靂)​

ต้นบุญ คุณ สาวกพุทธะ ( Karnrawee Singkhon )
<A class=uiLinkSubtle style="CURSOR: pointer; COLOR: gray; TEXT-DECORATION: none" href="http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4250656515368&set=a.2571745063631.2138009.1554394102&type=1"><ABBR title="29 มิถุนายน 2012 เวลา 15:48 น." style="BORDER-BOTTOM-STYLE: none" data-utime="1341010080">29 มิถุนายน</ABBR>​

<A class=uiLinkSubtle style="CURSOR: pointer; COLOR: gray; TEXT-DECORATION: none" href="http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4250656515368&set=a.2571745063631.2138009.1554394102&type=1">

...สร้างโดยการแกะสลักจากไม้เทพทาโร(ไม้จวง)และปิดทองคำ ขนาดเท่าองค์จริง ค่าจัดสร้างจำนวน 55,๐๐๐ บาท ​

เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ. ศาลเจ้าบางโจ หมู่ 4 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต (กำหนดการแล้วเสร็จก่อนถึงวันเทศกาลกินเจ ประจำปี 2555 ประมาณ 10 วัน )
สถานที่ประดิษฐานนั้นถือว่าเป็นจุดกึ่งกลางหรือสะดือเมืองของเกาะภูเก็ต
++ภาพ นี้ จะคล้ายๆใน การแกะ องค์จริง จากไม้เทพทาโร (จวง )​

วัตถุประสงค์หลักในการสร้างครั้งนี้ เพื่อเสริมพลังแผ่นดินให้เกาะภูเก็ตมีความปลอดภัย จากภัยพิบัติทั้งปวง และแข็งแรงมั่นคงตลอดกาลชั่วลูกชั่วหลาน เพื่อได้ทำหน้าที่ ในการปกปักษ์รักษาและสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงไว้จนครบถึงซึ่ง 5,๐๐๐ ปี
และเพื่อเป็นการถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี
และยังประโยชน์ความสงบสุขแก่พี่น้องชาวภูเก็ตทั้งหลายโดยถ้วนหน้ากัน
ขอบุญกุศลในการจัดสร้าง “องค์สมเด็จพระมารดาเจ้า” จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้มีความสุข มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ธาตุขันธ์ทั้ง 4 ของร่างกาย จงมีความสมดุลสมบูรณ์ทุกประการ และได้ถึงซึ่งพระนิพพานทุกท่านเทอญ.​

นาคา เรือนธรรมเวียงนาคาธิบดี นพรัตนโลกอุดรอมรรัตน


ภาพ เมื่อ วานนี้ 11 ตค.2555
คุณน้องบุ๋ม (Thitipan Arunkittaweelaph )อัญเชิญ มณีนาคราช ๓ องค์ ณ.จุดดวงตา ที่ ๓ ทั้ง ๓ หน้า

12 ตค. 15.00 อัญเชิญ องค์พระแม่ธรณี (ภาพพุทธ ) หรือองค์ เต้าโบ้ (斗姆) (ถ้าจำชื่อไม่ผิด แบบไต้หวัน ) 3 หน้า 6 กร จาก บ้านแกะ(แกะจากไม้เทพทาโร ) พระจีน ธารทอง 5 ไปศาลเ้จ้าบางโจ ... ​

12 ตค. 2555 เดินทางพร้อม นำปัจจัย เงิน มัดจำ งวดแรก ในการ สร้าง สมเด็จองค์ปฐมปางลีลาเปิดโลก ทรงเครื่องมหาจักพรรดิ สูง 2.50 เมตร ( รวมฐาน ).. เนื่อง จาก เมื่อวานนี้ 11 ตค.ใด้รับโทรศัพท์ ติดต่อ เพราะ ทางร้าน มีกิจ เดินทาง ช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก, บุญเดือน สิบ )..
12 -15ตค บำเพ็ญจิตตามวาระ เรือนธรรมเวียงนาคาธิบดี ฯ บนเนิืนเขา สูง อ,คุระบุรี ..​

ศาลเจ้าบางโจ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
http://www.facebook.com/groups/259627267488014/​

 

๑๒ ตค.เดินทาง ถึงบ้านคุณพ่อ ประมาณ ๒๑.๓๐ นำตัวหนอน ประมาณ ๒๐๐ ก้อนลง ข้างบ้าน ...รถหนัก (เหลือใว้ บนรถ ๖๐ ก้อน )..

๑๖ ตค. เดินทางกลับมาทำงาน ที่ภูเก็ต ต่อ..
มาเจอ VDO ของ หลานๆ ,เด็ก ๆ ช่วยๆกัน ...ชมภาพ ใด้ครับ..

ณ.บ้าน คุณพ่อ ..อ.คุระบุรี จ.พังงา..
Facebook

18 ตุลาคม 2012 17:47
ว่างๆ พาทัวร์รอบบ้าน. ยุงเต็ม ​

เดินตาม ลุง,พ่อ สมัย วัยรุ่น เล่นดนตรี ..
15 ตุลาคม 2012 23:02
Facebook

น้องเขย เปลี่ยนป้ายทางเข้า บ้าน หลังจาก ติดตั้ง เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา..ชำรุด ตามกาล..

 

12 ตค. 15.00 อัญเชิญ องค์พระแม่ธรณี (ภาพพุทธ ) หรือองค์ เต้าโบ้ (斗姆) บางท่าน กล่าวว่า องค์พระมารดา เต้าบ้อ ..3 หน้า 6 กร จาก บ้านช่างแกะ(แกะจากไม้เทพทาโร ) พระจีน ธารทอง 5 ไปศาลเ้จ้าบางโจ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=LXlpXVjlUig&feature=relmfu"]? ???????????????? ???????????? - YouTube[/ame]​

 

๙ วันถือศีล กินผัก (เจ )ในวาระ เอกา อาหาร ๑ มื้อ ครบ ๑ปี ๙ เดือน

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=wCHDWQXBn7E"]?????????? ?????? - YouTube[/ame]
น้อม โมทนาบุญ ซึ่งกันและ กัน ครับ..

Published on Jul 24, 2012 by bunyasika
พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันมือ หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตรพันกร

พระโพธิสัตว์กวนอิม (ดวงจิตสมมุติโพธิจิตเสมอพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเถระเจ้า) พระองค์ทรงบำเพ็ญสำเร็จพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง สั่งสมพระบารมีมานับแต่อดีตอันยาวนานจนมิอาจคำนวณนับจำนวนกัปกัลป์ได้ โพธิจิตของพระองค์ท่านได้สำเร็จด้วยการพิจารณาจนถึงที่สุดแห่งกระแสเสียง และทรงนิ่งอยู่ในอารมณ์ธรรมชาติของกระแสนั้น จนบรรลุถึงจุดนิ่งสุดของความนิ่งทั้งปวง อันเป็นธรรมชาติแห่งสุญญตา ด้วยจิตที่นิ่งที่สุดในสุญญตานี้ จึงทรงเป็นอกริยาที่เหนือผัสสะ ความเกิดดับ ความหวั่นไหว และไม่หวั่นไหวทั้งปวง เสียงของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่มีตัวตนและไม่มีตัวตนในทุกหนทุกแห่ง ล้วนอยู่ในสายตาความรู้เห็นของพระองค์ทั้งสิ้น ไม่มีเสียงใดในโลกหรือนอกโบกที่จะพ้นไปจากพระกระแสแห่งความรู้เห็นของพระองค์
พระนาม "กวนอิม" ของพระองค์ จึงมีความหมายที่ลึกซึ้งว่า "ผู้เงี่ยหูฟังเสียงร้องของโลก"
ด้วยพระบารมีอันสั่งสมมานานของพระองค์ท่าน จึงทรงสามารถเนรมิตกายเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในรูปกายต่าง ๆ ได้มากมายมหาศาล ตลอดจนสามารถสำแดงแปลงพระกายได้ถึงพันพระเศียรพันพระกร พันพระเนตร .... อันเป็นปางหนึ่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม ปรากฏครั้งเมื่อหมื่นปีมาแล้ว เกิดอุทกภัย ครั้งใหญ่ในประเทศจีน ฝนตกหนักน้ำในแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำวิปโยคท่วมท้น ผู้คนจำนวนมากถูกกระแสน้ำพัดพาไป พุทธศาสนิกชน ได้สวดมนต์วิงวอนถึงพระโพธิสัตว์กวนอิมขอให้ท่านทรงช่วย

กาลนั้น พระองค์จึงทรงตั้งจิตอธิษฐานว่า "ขอให้มีพันเนตรพันกร จะได้ช่วยคนได้ครั้งละพันคน" พุทธศาสนิกชนชาวจีน จึงสร้างองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมผู้เสมอจิตพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเถระเจ้า ด้วยปางพันเนตรพันกรขึ้น จะสังเกต ได้ว่าแต่ละพระหัตถ์ที่ปรากฏจะมีพระเนตรอยู่กลางฝ่าพระหัตถ์ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึง ความเอื้ออาทรที่จะโปรดสัตว์ผู้อยู่ในห้วงทุกข์อันหาขอบเขตมิได้ ...

อนุโมทนา กราบขอบพระคุณ "ตีคะ" "ภาพ" จากอินเตอร์เน็ต สาธุ


เกาะแก้ว:

มูลนิธิท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร
จุดมุ่งหมายสูงสุดของการถือศีลก<WBR>ินผักคือการประพฤติปฏิบัติให้เป<WBR>็นมนุษย์ที่ดี เป็นมนุษย์ซึ่งเข้าใจธรรมชาติ อยู่ด้วยความเมตตาต่อสัตว์โลก ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน การให้ในสิ่งที่เรามีเหลือใช้ให้<WBR>กับผู้ทุกข์ยากหรือสาธารณะ ความเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนไม่แส<WBR>ดงอาการเหยียดหยามผู้คิดหรือปฏิ<WBR>บัติตรงข้ามกับเรา ไม่แสดงอิทธิปาฏิหารย์ที่วัฒนธรรมดั้งเดิมไม่เคยปรากฏ​

ในฐานะที่ชาวภูเก็ตรณรงค์ในเรื่<WBR>องการถือศีลกินผักมาตั้งแต่ปี ๒๓๗๘ วันเก๊าง๊วย โชยเปะ (วันแปดค่ำเดือน เก้าจีน)นับตั้งแต่เรือสำเภาได้<WBR>บรรทุกผงธูปศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จ<WBR>ุดต่อจากเทวสถานณ.ตำบลกังไส (เจียงซี)โดยท่านหลวงอำนาจนรารั<WBR>กษ์(คุณตันก๊วด ตัณฑเวช)และชาวบ้านจากตำบลไล่ทู<WBR>(กะทู้)ขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำสะพานห<WBR>ิน นับแต่นั้นมาพิธีถือศีลกินผักก็<WBR>ได้เผยแผ่ไปทั่วทุกหัวระแหงเมือ<WBR>งภูเก็ต ข้ามฝั่งไปตะกั่วป่า ตรัง ข้ามไปยังเมืองไท้ผิง ปีนัง สุไหงปัตตานี ลังกาวี อิโปห์ ประเทศมาเลเซีย ต่อเชื่อมไปยังประเทศสิงคโปร์ แม้ย้อนกลับไปประเทศจีน รวมทั้งเกือบทุกจังหวัดในประเทศ<WBR>ไทย ปัจจุบันนี้ประเพณีถือศีลกินผัก<WBR>ได้กระจายไปอย่างกว้างขวาง แต่เรื่องน่าระวังคือเมื่อทุกอย<WBR>่างขึ้นไปสูงสุด ย่อมตกลงได้ วิธีการที่จะให้ประเพณีนี้อยู่ไ<WBR>ปให้ยาวนานที่สุด ก็คือเราต้องศึกษาเนื้อหา เข้าใจกับความเมตตา และความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นที่ตั<WBR>้ง อภินิหารย์มีได้ แต่ขอให้เป็นอย่างไม่นาสะพรึงกล<WBR>ัว เราตั้งโต๊ะบูชากิ๊วหองที่อยู่ใ<WBR>นเกี๊ยว​

เรายินดีทีองค์เทพมาประสิทธิ์ปร<WBR>ะสาทพร แต่เราอย่าข้องแวะกับร่างทรงที่<WBR>เอาของที่ไม่เคยมีในอดีตมาแทงตา<WBR>มตัวเพื่อแสดงความขลัง แต่ที่จริงแสดงความเขลามากกว่า บัดนี้การถือศีลกินผักได้กระจาย<WBR>ไปทุกแห่งในประเทศไทย หลายแห่งแสดงปาฏิหารย์คล้ายกับบ<WBR>้านเรา หลายแห่งได้ทำเกินเลยไปจนกระทั่<WBR>งมีคนตายซึ่งเป็นร่างทรงแท้ๆตกจ<WBR>ากบันไดมีดตาย ต่อไปถ้าการถือศีลกินผักยังเน้น<WBR>ที่แสดงอภินิหาร
ลืมความสำคัญของความสะอาดกาย ความสะอาดของอาหาร ความสามัคคีของคนในอ๊าม ความมีน้ำใจของคนกินเจ ลืมการให้อภัยซึ่งกันและกัน ​

อ๊ามจุ้ยตุ่ย อ๊ามปุดจ้อ อ๊ามกิ้วเที้ยนเก้ง ภูเก็ต
<ABBR title="14 ตุลาคม 2012 เวลา 23:56 น." style="BORDER-BOTTOM-STYLE: none" data-utime="1350233783">14 ตุลาคม</ABBR> ​

​

บริเวณอาคารแปดหลี่ยมของอ๊า<WBR>มกิ้วเที้ยนเก้ง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระแม่<WBR>กวนอิม 3 พระพักตร์​

​

​

 

​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=XN8awMroxZY]พระราชประวัติสมเด็จพระปิยะมหาราช.flv - YouTube[/ame]
​

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ


อิติปิ โส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ
พระสยามมินโท วะโรอิติ
พุทธะสังมิ อิติอะระหัง
สะหัสสะกายัง วะรังพุทโธ
นะโม พุทธายะ มาสีสะมานัง



ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน..​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/16px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(128,128,128); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี
ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี.....​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/16px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(128,128,128); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน

พระราชนิพนธ์ในพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


ชมรมคนรักเสด็จพ่อ สมเด็จพระปิยะมหาราช

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

เจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตด้วย​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

โรคพระวักกะ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 รวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา ทรงเป็นที่รักเทิดทูนของปวง​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ชนชาวไทย ตลอดที่พระองค์ทรงครองราชย์​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ถึง 42 ปี ซึ่งยาวนานกว่าพระมหากษัตริ​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ย์ที่ปรากฏในพระรา
ชพงศาวดารทุกพระองค์ เเละ ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกลของ​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

พระองค์ นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่สย​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

าม ดังปรากฏในพระราชกรณียกิจทั​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

้งหลายที่ได้กล่าวถึงนี้ อีกทั้งยังทรงสนพระทัยถึงคว​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ามเป็นอยู่ของประชาชน ดังจะเห็นว่ามีการทรงออกเยี​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

่ยมประชาราษฎร์อยู่เป็นเนือ​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

งนิจ พระองค์จึงเป็นที่จงรักภักด​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ี สมกับที่เป็น “พระปิยมหาราช” ของปวงชนชาวไทยทั้งแผ่นดิน​

​

​

วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ วันปิยมหาราช
ขอเชิญร่วมกันน้อมรำลึกถึงพ​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕


วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๕ วันปิยมหาราช วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาท​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

่ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักใคร่และเทิดทูนขอ​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

งพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลา ๔๒ ปีที่พระองค์ทรงปกครองแผ่นด​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ิน พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชก​

<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-ALIGN: left; orphans: 2; widows: 2; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

รณียกิจต่าง ๆ
อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเท<WBR>ศชาติเป็นอเนกประการ และหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำ<WBR>คัญ คือ การส่งเสริมและบำรุงพระพุทธ<WBR>ศาสนาให้มั่นคง


พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า<WBR>เจ้าอยู่หัว ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให<WBR>้ทันต่อสภาวะความเจริญของบ้<WBR>านเมืองได้ก้าวไปไกลอย่างมา<WBR>ก ทรงปรับปรุงพระพุทธศาสนาในเ<WBR>วลาต่อมา กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ได้โปรดให้มีการชำระและจัดพ<WBR>ิมพ์พระไตรปิฏกเป็นอักษรไทย<WBR> โดยทรงปรารภเหตุหลายประการค<WBR>ือ เป็นการดำเนินการตามขัตติยะ<WBR>ประเพณีที่ปฏิบัติกันต่อ ๆ มาของพระมหากษัตริย์ในปางก่<WBR>อนที่ทรงสร้างในการสังคายนา<WBR>พระธรรมวินัย และเป็นคัมภีร์สำคัญทางพระพ<WBR>ุทธศาสนา เมื่อจัดพิมพ์แล้วจะช่วยส่ง<WBR>เสริมให้ธรรมะขององค์สมเด็จ<WBR>พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแพร่หลา<WBR>ย อีกทั้งการพิมพ์พระไตรปิฏกด<WBR>้วยอักษรไทย จะช่วยให้สะดวกแก่การค้นคว้<WBR>าและการพิมพ์เป็นเล่มสมุดก็<WBR>สะดวกต่อการเก็บรักษา แม้ไม่ทนเหมือนจารึกลงบนใบล<WBR>าน แต่ก็สามารถจัดพิมพ์ใหม่อีก<WBR>ได้ง่าย

การชำระและการจัดพิมพ์พระไต<WBR>รปิฎกนั้นเป็นเรื่องใหญ่และ<WBR>ยากมาก เนื่องจากพระไตรปิฏกเดิมจาร<WBR>ึกด้วยอักษรขอมบนใบลาน เขียนตัวอักษรติดต่อกันไป เมื่อนำมาจัดพิมพ์ใหม่ต้องจ<WBR>ัดแยกคำ ประโยค วรรคตอนและเครื่องหมายกำกับ<WBR>ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการจัดทำ ๖ ปี พิมพ์จำนวน ๑,๐๐๐ ชุด ๆ ละ ๓๙ เล่ม และโปรดเกล้าฯ ให้มีการฉลองพร้อมกับงานพระ<WBR>ราชทานพิธีรัชดาภิเษก (ครองราชย์ครบ ๒๕) พระราชทานไปตามพระอารามหลวง<WBR>และวัดราษฎร์ ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองโ<WBR>ดยทั่วกัน นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย<WBR>ที่ได้มีการพิมพ์คัมภีร์สำค<WBR>ัญทางพระพุทธศาสนาฉบับภาษาไ<WBR>ทย


นอกจากนี้ พระองค์ได้ทรงปฏิรูประบบการ<WBR>ปกครองคณะสงฆ์ด้วยการตราพระ<WBR>ราชบัญญัติลักษณะการปกครองค<WBR>ณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ ตราขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๕ เพื่อให้การปกครองภายในสังฆ<WBR>มณฑลเป็นไปตามระเบียบอันดี พระราชบัญญัตินี้กำหนดให้พร<WBR>ะสังฆราชเป็นประมุข มีมหาเถรสมาคมเป็นคณะผู้บริ<WBR>หาร จัดรูปการปกครองคณะสงฆ์ในภู<WBR>มิภาคให้สอดคล้องกับการปกคร<WBR>องบ้านเมือง ทรงสร้างพระอารามหลวงขึ้นให<WBR>ม่ ๔ วัดคือ วัดราชบพิธ วัดเทพศิรินทราวาส วัดเบญจมบพิตร และวัดนิเวศธรรมประวัติ ล้วนแต่เป็นพระอารามที่มีศิ<WBR>ลปกรรมงดงาม เป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ

การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาขอ<WBR>งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้<WBR>าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ นอกจากจะทำให้เกิดผลดีแก่ปร<WBR>ะเทศชาติในด้านต่างๆ แล้ว ยังก่อให้เกิดผลดีในส่วนของ<WBR>พระองค์ด้วย ทำให้ฐานะการเมืองของพระองค<WBR>์มั่นคงขึ้น เพราะประชาชนต่างให้ความจงร<WBR>ักภักดีในฐานะที่ทรงปฏิบัติ<WBR>พระองค์ตั้งมั่นอยู่ในหลักธ<WBR>รรมคือ ทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัตร สังคหวัตถุ และทรงเป็นองค์พุทธศาสนูปถั<WBR>มภ์อย่างแท้จริง จึงทำให้การปกครองในสมัยของ<WBR>พระองค์ประสบความสำเร็จ และยังสามารถรักษาความเป็นเ<WBR>อกราชของประเทศจากภัยคุกคาม<WBR>ของจักรวรรดินิยมตะวันตกไว้<WBR>ได้ ทั้งนี้นับว่าเป็นพระมหากรุ<WBR>ณาธิคุณของพระองค์ ประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกัน<WBR>ถวายพระนามเป็นการเฉลิมพระเ<WBR>กียรติแก่พระองค์ว่า "พระปิยมหาราช”


เครดิตข้อมูลจาก : สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์<WBR>กรมประชาสัมพันธ์​

​

​

 

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6720467" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>เพิ่งกลับจาก เรือนธรรม เวียงนาคา บนเนินเขา อ.คุระบุรี จ.พังงา จากนั้นเดินทาง อบรมสัมมา ที่ภูเก็ต..(๕-๖ กย.)
ขออนุญาต นำภาพ ,ข้อมูล ถนน ทางขึ้น เรือนธรรม คร่าวๆ..

๑๕ เมษา ๒๕๕๕ ติดต่อ รถทำถนน ขึ้นเรือนธรรม..(สภาพ ทางขึ้นยังซัน )
๑ พค. นำลูกท่อ มารอ วางในร่องน้ำ ทางขึ้นเรือนธรรมเวียงนาคา บนเนินเขา
๒๖ กค.๒๕๕๕ นำลูกท่อขึ้นรถกะบะ 4WD มาวางใว้ รอนำลงในร่องน้ำ
๑๑ สค.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป ) มาวาง ใว้ ข้างๆ ร่องน้ำ ชั่วคราว
และ นำลูกท่อ ๒ ลูกลงในร่องน้ำ คร่าวๆ
๑๒ สค.เช้าวันแม่ ร่วมด้วยช่วยกัน ญาติๆ ,คนข้างบ้าน ช่วน ยก กลิ้ง ลูกท่อ ๗ ลูก ลงในร่องน้ำ ทางขึ้น เรือนธรรม เวียงนาคา บนเขา ..
๒ กย.๒๕๕๕ ติดต่อรถ เกลี่ยดิน ถม ลูกท่อในร่องน้ำทางขึ้น เรือนธรรม บนเนินเขา ..
๓ กย.บรรทุก ตัวหนอน ประมาณ ๒๖๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคา (ในโอกาส ต่อไป )
๑๔-๑๗ กย. เดินทาง ขึ้นเรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี โลกอุดร อมรรัตน (พร้อม บรรทุกตัวหนอน ประมาณ ๒๑๐ ก้อน สำหรับปู พื้นในบริเวณ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี รัตนมณี ในโอกาส ต่อไป )
๑๔ กย. เดินทางจากภูเก็ต แวะรับพี่ชาย ที่ บ้านปากวีป ( อาจจะย่อมาจาก ปากทวีป...ทวีปอะไร ที่ จม อยู่ใด้ ทะเล ...
ถึง คุระบุรี ประมาณ ๒๐.๓๐ นำ ตัวหนอน ลงจากรถ ประมาณ ๒๑๐ ก้อน

๑๕-๑๖ ติดตั้ง ผนังกันฝนสาด ที่หน้าจั่ว และ ติดตั้ง วงกบประตู , ผนังแผ่นใส ชั่วคราว เนื่องจาก ฝนตกหนักมาก..
๑๗ กย. เดินลงจาก เรือนธรรมเวียงนาคา ลงมาทานข้าว หลังจาก ทานอาหาร เอกา ๑ มื้อ บ้าน ประมาณ ๑๓.๓๐ เดินขึ้น ดู รอยสายน้ำ ในร่องเขา จากนั้น เดินเที่ยว ,แผ่เมตตา บนเขา อีก ๒ ลูก ,ลงมาที่ ร่องน้ำ อีกครั้ง สายตา เจอ..

หินก้อนใหญ่ กว่า ฝ่ามือกาง พบ ว่า มี พระธาตุเหล็กไหลเพลิง พอสมควร
จึงน้อมจิต ขออัญเชิญ ใว้ ที่ เรือนธรรม เวียงนาคาธิบดี ศรีอริยะ รัตนมณีนพรัตน์ โลกอุดร อมรรัตน ..
เนื่องด้วย นอนกลด ๓ คืน พร้อม สวดมนต์ทำวัตร์เย็นตามปกติ ในสภาวะ ..


</TD></TR></TBODY></TABLE>
๑๒ ตค.เดินทาง ถึงบ้านคุณพ่อ ประมาณ ๒๑.๓๐ นำตัวหนอน ประมาณ ๒๐๐ ก้อนลง ข้างบ้าน ...รถหนัก (เหลือใว้ บนรถ ๖๐ ก้อน )..

๑๓ ตค.ขึ้น เรือนธรรม ทดลอง ขับรถขึ้น อีกครั้ง พร้อม ตัวหนอน ที่เหลือ ปรากฏว่า ขึ้นใด้ ไม่มากนัก เหลือระยะทาง ประมาณ เกือบ ๘๐ เมตร ถึง เรือนธรรม (ตามเส้นทางถนน ,ถ้าเส้นทางตรง ห่างประมาณ ๓๐ เมตร ตามภาพ )..

ค่ำคืน น้อมจิต สวดมนต์ทำวัตร์ และชุมนุมเทวดา ตามปกติ ดัง เช่นที่ผ่านมา ด้วย บท พระธรรมจักร์กัปวัฒนะสูตรฯ,..., จนถึง ชัยมงคลคาถา และ มงคลจักรวาฬ ใหญ่ ...แผ่เมตตา ,,,อุทิศ ผลบุญ ตามสภาวะ..

๑๕ ตค. วันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ น้อมจิต ร่วมบุญ วันสาร์ท พร้อม คุณพ่อ,น้องๆ วัดนางย่อน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ มานาน สมัย การ ทำเหมืองแร่ ดีบุก ในอดีต และ ห่างกัน ไม่มาก นัก เคย เป็นที่ ถ่ายทำ ภาพยนต์ เรื่อง...เหมืองแร่..
มีชาวบ้าน เคยขุดพบ ซาก ปลาขนาดใหญ่ ในลำคลอง นางย่อน ใกล้ วัดนางย่อน...

๑๖ ตค. เตรียมตัว เดินทาง เข้าสู่ ภูเก็ตเพื่อทำงานทางโลก ต่อ นำปัจจัย ในการ สร้างสม กุศล ผลบุญ...

จิต สัมผัส บางอย่าง จึง ทดลอง ถ่ายภาพ ณ. ลานพระ,ลานธรรม ซึ่ง ผม ใด้ ขุดดิน ปรับ ดิน เอง ตามสภาวะ เพราะ ไม่มี ท่านใด มีเวลา ช่วย ในการ สร้างตรงนี้ ...
เพื่อ อัญเชิญ สมเด็จปฐมปางลีลาเปิดโลก ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ ความสูง ๒.๕๐ เมตร จาก ฐานบัว ..
เกตุ องค์สมเด็จ ท่าน สามารถถอดใด้ เพื่อ อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ, พระธาตุ ,พระ ฯ .., สิ่งมงคล บรรจุ ใว้ ภายใน เกตุ ในวาระ ต่อไป..

พร้อม อัญเชิญ องค์นาคราช ๙ เศียร เช่นกัน ซึ่ง องค์นาคราช ๙ เศียร จะ อัญเชิญ องค์พระพุทธสัมมา ปางประทานพร ตั้ง คล้าย พระปางนาคปรก..
ในวาระ ต่อไป

(สถานที่ จะ อัญเชิญ สมเด็จองค์ปฐม ปางลีลาเปิดโลกทรงเครื่องมหาจักพรรดิ ,องค์นาคราช ๙ เศียร ...)

เมื่อถ่ายภาพภาพ มา ยามเช้า ประมาณ ๐๖.๐๐ จึง มองเห็น ดวง ....
หรือ อาจจะ เป็น ละออง ไอ ต่างๆ ปรากฏ ในกล้องถ่ายภาพ จึงน้อม จิต ถ่ายภาพ ต่อไป..

หลายท่าน อาจจะมอง ว่า เป็นฝุ่นละออง ,ความหนาแน่น ในมวลอากาศ แต่ ที่ผม ถ่าย ในหลายสถาน ที่ ทั้ง กลางแจ้ง,,,ในถ้ำ
ก็ยัง ปรากฏ ดวงศีล ดวงธรรม เสมอ ..

ทั้ง บางครั้ง หลวงพ่อ ท่าน เมตตา บอกว่า บางครั้ง สัพสัตว์ หรือ งู เขาเลื้อย มา ..บ้างใน ถ้ำ...

ถ่ายภาพ จาก เรือนธรรม มองเห็น รถ (ระยะทางเส้นตรง )



องค์ต้นแบบ สมเด็จองค์ปฐมปางลีลาเปิดโลก ทรงเครื่องมหาจักพรรดิ สูง ๒.๕๐ ม.
ต้นแบบองค์สมเด็จท่าน สามารถถอดเกตุ เพื่อ อัญเชิญ พระธาตุ ต่างๆ และ ฯฯฯ ใด้ในวาระต่อไป

ในส่วนองค์นาคราช ๙ เศียร นั้น..
ด้วย มี คุณน้องมณีน้อย ,พี่ๆน้องๆเพื่อนๆญาติธรรม ทางฟินแลนด์ ,สยามประเทศ ใด้ ตั้งจิต ด้วย จิตศรัทธาใน องค์แทน ( เทวตานุสติ ) ใด้ ร่วมบุญ อัญเชิญ นาคราช ๙ เศียรใว้..

องค์ที่ ๑ ใน วันที่ ๒๒ กค. จึง อัญเชิญ องค์แทนนาคราช ๙เศียรเดินทาง สู่ วัดป่าถ้ำผากล้วย ลำปาง .. ภาคเหนือ ( ๒ องค์ ซ้าย ขวา )

องค์ที่ ๒ ในวันที่ ๒๗ กค. อัญเชิญ สู่สถานธรรม ที่ มุกดาหาร.. อีสาน
(แบบ องค์นาคาช ๙ เศียร ที่อัญเชิญ )
องค์ที่ ๓ กย.๒๕๕๕ อัญเชิญ สู่ ภาคกลาง...สุพรรษ
องค์ที่ ๔ ณ.วันที่ ๒๖ มค ๒๕๕๖ อัญเชิญ สู่ เรือนธรรมเวียงนาคาธิบดี บนเนินเขา อ.คุระบุรี จ.พังงา ( นาคา ) ภาคใต้
องค์นาคราช ๙ เศียร ทางใต้ นาคา เปลี่ยนแบบใหม่ ...

ข้อมูล สร้าง องค์สมเด็จ ขออนุญาต link กระทู้ ครับ..

http://palungjit.org/threads/เชิญร่...ดิสูง2-50ม-ใว้ที่เรือนธรรมบนเขา.344339/page-6