จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ถามได้ค่ะ แต่เน้นส่งการบ้านในเมลให้ละเอียดเลยนะ บนนี้คำตอบมีอยู่เกือบทุกหน้า ถ้าย้อนไปอ่านจะได้ครบรสหมด แต่ถ้าจะให้แนะนำนะ เรียนกับครูคนไหนก็ให้ไปส่งการบ้านถามในเมลจะดีกว่า เพราะบนนี้คำตอบที่ได้จะไม่ต่อเนื่องนะ เพราะครูโคจรไปๆมาๆ บางทีอาจตกหล่นเพราะกระทู้วิ่งไปไวมาก ส่วนพี่เพ็ญไม่ได้ตามตอบทุกคำถามบนกระทู้นะ แค่มาเดินเล่นพักผ่อนบ้างเท่านั้นเอง(หรือเปล่า)^^
     
  2. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    สำเร็จแน่นอน รับประกัน แต่ต้องมีความเพียร มุ่งมั่น ศรัทธา สติ เชื่อครูนะคะ
    ขออวยพรให้คุณดอกข้าวฝึกจิตสำเร็จโดยเร็วในชาตินี้ด้วยเถิด สาธุ สาธุ:cool:
     
  3. ThunwaNoppibool

    ThunwaNoppibool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +500
    ขอบคุณ ครูพี่เพ็ญมากครับ ผมขอตัวไปปฏิบัติก่อนนะครับ
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ หรือผู้เจริญในศีลในธรรม...
    ท่านยังรู้สึกเขินอายกันอยู่ไหม๊? กับคำว่า "ท่านคือผู้มีดวงตาเห็นธรรมคนหนึ่ง"


    ผู้เจริญ ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ อย่าไปอายผู้คนที่ไม่ได้เป็นเหมือนพวกเรานะ
    แต่ถ้าใครรู้สึกอายผมจะถือว่าผู้นั้นไม่ใช่ลูกหลานของพระพุทธองค์ หรือผู้ปฎิบัติไม่ถึง เพราะไม่ซึ้งโดยเฉพาะในการปฎิบัติบูชา เพราะอะไร ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่นั้นยังทำแบบพวกท่านกันไม่ได้ เพราะกำลังใจที่อยากปฎิบัติธรรมนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นในวันนี้ถ้าใครปฎิบัติมรรคา(หรือนำจิตมาเดินศีลสมาธิปัญญาจบแล้ว) หรือเป็นผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม อย่ามัวไปเขินอายกับการกระทำดีของตน จงยอมรับผลของการปฎิบัติของตนเองด้วย การทำชั่วสิน่าอายกว่า และหนทางผู้ที่ที่ไม่นำพากันรักษาศีลและทำภาวนานั้น ก็คือหนทางที่จะนำชีวิตของท่านไปสู่หายนะในตอนท้าย และที่ไปของจิตสุดท้ายไปจุติทุคติ หรือก็คงจะหนีไม่พ้น คำว่า อบายภูมิหรือนรกภูมิ

    เมื่อก่อนผมขอบอกตามตรงว่า แค่เรารักษาศีล ๕ ก็ยังอายคนเลย นับประสาอะไรจะมาเป็นผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม มันผิดตรงไหน พวกเราลองพิจารณากันให้ดีกับคำว่า ผู้มีดวงตาเห็นธรรมนั้นแปลว่าอะไร ก็คือ ผู้เห็นสัจจธรรมหรือความจริงที่เป็นไปทุกอย่าง เห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา และผู้ที่มีดวงตาเห็นนี้จึงไม่ได้รู้สึกเป็นทุกร้อนหรือไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเป็นทุกข์แล้ว เพราะจิตได้เรียนรู้และจิตเข้าใจแล้ว จิตจึงปล่อยวางแล้ว และท้ายที่สุดผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม(ธรรมดา)ทุกสิ่งทุกอย่างในขณะที่จิตผ่านวิปัสสานาและผ่านวิปัสสนาญาณหรือปัญญาญาณกันหมดแล้ว ตามแบบฉบับของจิตเกาะพระ และด้วยเหตุนี้จิตเกาะพระ ทำไมถึงทำให้ผู้ปฎิบัติมีดวงตาเห็นธรรมกันไวนัก ซึ่งบุคคลภายนอกไม่ทราบได้ จนกว่าผู้นั้นจะยอมลมมือปฎิบัติ พวกเขาเหล่านั้นหรือผู้ที่ยังไม่ได้ลองของใหม่ว่า จิตเกาะพระของเขาแรงดีจริงๆ ของที่อื่น 3G แต่จิตเกาะพระ 4G เอาหล่ะว่าจะไม่พร่ำมากแล้วนะ

    และผมเชื่อเหลือเกินว่า ผู้ที่ปฎิบัติจบจากที่นี่แล้ว ผลของการปฎิบัติของเขาเองจะเป็นสิ่งที่รับประกันสำหรับผู้ปฎิบัติเองว่าเป็นเช่น แต่ถ้าได้ผลดีพวกเขาก็จะแนะนำหรือบอกต่อกันเอง อันนี้ไม่ได้ไปบังคับใครจะต้องมาทำตามกันนะ แต่ที่นี่เน้นแก่นหรือเน้นเดินตรงมรรคา ได้แก่ เน้นสติ เน้นฌาน เน้นจิต เน้นวิปัสสนาหรือปัญญา แต่จิตเกาะพระไม่ได้ให้เน้นหรือมิให้ผู้ปฎิบัติสนใจ ได้แก่ ห้ามติดสุขจากฌาน ให้นำจิตออกมาชนกับกิเลสตนเอง ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ให้นำจิตมาชนกับกิเลสตนเองนะ..กิเลสตนเอง มิใช่กิเลสของผู้อื่น หรือให้นำจิตที่ในขณะทรงฌานนั้นออกพิจารณาธรรมหรีือที่มีสิ่งต่างๆกำลังที่มากระทบจิตอยู่ในขณะนั้น พวกที่ชอบนั่งหลับตาทำสมาธิก็เหมือนกัน จะบอกให้นะฌานนั้นก็ไม่เที่ยง รักษาก็ยาก เหมือนศีลของผู้ปฎิบัติใหม่ๆนั้นก็รักษายาก แต่ถ้าผู้ปฎิบัติถึงแล้ว เราไม่จำเป็นจะต้องไประแวงหรือกลัวว่าศีลจะขาด เพราะศีลนั้นจะเป็นผู้รักษาผู้ปฎิบัติแทนไปแล้ว เพราะเมื่อจิตของผู้ปฎิบัติละเอียดขึ้น ศีลของผู้ปฎิบัติจึงละเอียดตาม นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องฌาน เมื่อท่านได้ก็ต้องรักษาให้ดี แต่ถ้าไม่รักษาไม่ดี จิตของเรานี่แหล่ะ(ที่ไม่ได้เป็นฌาน) มันก็จะกลับไปวิ่งเล่นกับกิเลสตามเดิม แต่ถ้าไม่เชื่อผู้ที่ได้ฌานแล้ว แต่ถ้าจิตมิได้ทรงฌานแล้ว หรือจิตหลุด ก็ไม่ได้แตกต่างกับจิตชาวบ้านหรือจิตปุถุชนเลย ผู้ที่ได้ฌานแล้วก็อย่าไปหลงตนเองว่าถึงธรรมแล้วๆ นั่นแหล่ะท่านกำลังจะเข้าใจผิดแล้ว เพราะจิตติดสุขจากฌานก้ไม่รู้ตัว เพราะเรื่องนี้จะไม่มีคนไปบอกกันหรอก เพราะผู้ปฎิบัติที่จะได้ฌานนั้นมันมีน้อยมาก แต่ถ้าผู้ใดอ่านมาถึงตรงนี้ จงรีบสร้างสติให้มาก เมื่อจิตนิ่งดีแล้วปัญญาของตนเองจะได้เกิดมากๆ จะได้หลุดพ้นไวๆ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเน้ย้ำกับลูกศิษย์ของท่านมากว่า ผู้ที่ได้ฌานก็อย่าประมาท เพราะว่าขาของท่านอีกข้างหนึ่งกำลังอยู่ที่แดนอบายภูมิ นั่นก็ หมายความว่า จิตของท่านก็ยังไม่รอดจากอบายภูมิกันนะ จะต้องเปลี่ยนจากฌานสมาบัติ(สมถกรรมฐาน) มาเป็นวิปัสสนา(วิปัสสนากรรมฐาน)ให้ได้ แต่จิตเกาะพระวันนี้จึงเป็นเหตุเสมือนต้องมาปรับ/จูน/แก้ไขจิต ในการเดินมรรคมีองค์แปดให้ถูกต้อง ถูกทาง หรือมาชีเทางให้ผู้ปฎิบัติกำลังเดินหลงทางนี้กัน ยังๆมีผู้ปฎิบัติที่ยังหลงทางอีกจำนวนมาก สำหรับผู้ที่จิตยกแล้วอาจจะได้รับคำตอบไป ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของจิต ว่าก่อน-หลังการปฎิบัตินั้น จิตของท่านเป็นเช่นไร เอาแค่เบาะก็คือ เอาให้พ้นทุกข์ก็พอแล้ว ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องพระนิพพานกันหรอก อันนั้นผู้ที่ไปถึงแล้วก็ให้ไปพูดกันภายใน อย่าได้นำไปพูดกับผู้ปฎิบัติยังไม่ถึง สำหรับผู้ที่มีความลังเลและความสงสัยอยู่ ขอให้พวกท่านลองมาปฎิบัติกันดู จะได้หายโง่เขลา เบาปัญญากันเสียที ท่านมัวอยู่แต่ข้างนอก แล้วท่านจะไปรู้ไหม๊ว่า จิตเกาะพระเขากำลังทำอะไรกันอยู่เนี๊ย

    (ผู้ที่ได้ฌานเพียงอย่างเดียว แต่ยังไม่ได้นำฌานไปวิปัสสนาหรือเปลี่ยนจากฌานให้มาเป็นญาณกันแล้ว อย่าลืมนะ ฌานมันก็ไม่เที่ยง แต่ญาณมันเที่ยง เมื่อจิตได้ญาณ(ยาน) คือผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม มองเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดาทั้งหมดแล้ว นั่นเอง พวกเขาจึงพากันไม่ตื่นเต้น ไม่วิ่งตามแล้ว หรือจิตมันเห็นไส้ เห็นพุงกิเลสทั้งหมดแล้ว จิตเลิกโง่งมงายแล้ว นั่นเอง)
     
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จิตยังไม่ยก หากมีความสังสัยก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่จิตที่ยกแล้วกลับมีความสงสัยนี้ จงไปเริ่มต้นฝึกที่อินทรีย์ก่อน นั่นก็คือ เจริญสติให้มากๆ แต่น้องคนนี้จบแน่ พี่ภูทายไว้ล่วงหน้า จิตน้องเขาดีแต่กายยังเด็กอยู่ แต่ขอให้ปฎิบัตินำความสงสัยของตนเองก่อนนะ อย่านำสงสัยนำการปฎิบัติ หมายความว่า เมื่อปฎิบัติไปแล้วและติดขัดตรงไหน ขอให้ถามครูผู้สอนอย่างใกล้ชิด เดี๋ยวครูก็จะตอบในสิ่งที่ตนเองติดขัดไปเอง และขอร้องคุณครูก็อย่าไปพูดเรื่องผู้ปฎิบัติยังมาไม่ถึง เพราะจะทำให้เขาติดตัวรู้ของผู้ปฎิบัติเอง ไม่มีประโยชน์ ขอให้ทั้งสฺษย์และครูฝึกสอนนั้น ขอให้อยู่แต่ในธรรมปัจจุบัน เท่านั้น ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ ทั้งศิษย์ทั้งครูผู้ฝึกสอน สาธุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2012
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีและยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านน้อยๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ
    ลืมไปซะกับคำว่า ของเก่า ของใหม่ เพราะธรรมในปัจจุบันสำคัญที่สุด หมายถึงความเพียร+ความเนื่อง อย่าอื่นไม่ต้องการ ถึงผู้ที่มีของเก่าหรือได้มโนยิทธิจริงๆ พวกเขาไม่มาทางนี้หรอก เพราะพวกเขายินดีในฤทธิ์เดช ปล่อยเขาไป แต่ทางนี้เน้นแก่น เน้นความหลุดพ้น เท่านั้น แต่ถ้าผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระ พอมาปฎิบัติได้สักพักนึงเขาจะพบเจอของเก่าเอง สำหรับผู้ที่มีของเก่าติดมาครั้งอดีต ก็ขอให้ผ่านไปก่อนหรือทำจิตยกไปก่อน เดี๋ยวถ้าพอยังมีลมหายใจอยู่ ก็กลับมาตามหาอภิญญาของเธอต่อไปได้ แต่ถ้าในขณะปฎิบัติ จิตไปพบของเก่าที่ว่ามานี้ ขอให้ผู้ปฎิบัติวางไว้ชั่วคราวก่อน อย่าได้นำมาปนกับจิตยก เพราะจิตยกนั้นจะต้องรู้จักคำว่า ปล่อยวาง ผมสังเกตเหตุเห็นผู้ที่มีเจอของเก่า พอจิตยกปั๊บ ส่วนใหญ่แล้วจะรู้สึกเฉยๆ เพราะจิตมันสูงเกินไป ที่จะกลับไปเอาของที่ต่ำ หรือไร้ค่ากว่า แต่สำหรับผู้ที่มีฤทธิ์เดชหรืออภิญญานี้ ก็นับว่าดีมีประโยชน์ตรงที่จะนำไปตัดกิเลสขนาดกลางถึงละเอียด หรือในขณะที่ทำวิปัสสนาธรรมนี้ เขาจะมองเห็นไตรลักษณ์เหมือนตาเนื้อเลย อันนี้ดีมาก อินทรีย์แก่ มีกำลังใจในการตัดกิเลสได้ดีกว่าผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมโนยิทธิ แต่ถ้าผู้ที่มีมโนยิทธิข้อเสียก็คือ รู้มากและคิดตนเองว่ามีดีกว่าผู้อื่น ตรงนี้แหล่ะข้อเสีย คือจะหลงตนเองว่าเป็นผู้วิเศษ สรุปแล้วไปติดตัวรู้ หรือตัวโง่ของตนเอง(อวิชชาเต็มหัวก็ยังไม่รู้) ใครบอกก็ไม่ฟัง อันนั้นเขาเรียกว่าไปไกลแล้ว คือใกล้บ้า


    ปล.ผู้ปฎิบัติหมั่นดูแต่จิตของตนเองอย่างเดียว จิตจะยกไว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กันยายน 2012
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอบใจหลายๆเด้อลินดาเด้อ แหม๊! ดม อม ทา ในหลอดเดียวกัน เคยดม เคยทานะ แต่ไม่เคยอมสักกะทีนึง เคยอมแต่ภูมิ ฮ่าๆ หลอดนี้จะเล็กไปหรือเปล่า? อย่าลืมเอาไปฝากครูเพ็ญด้วยนะ เห็นท่านนอนดึก จัง! ไม่ทราบว่าท่านไปอิ่มอะไรมา อิ่มทิพย์?

    ว่าแต่ว่า PlaiifarPP นี่ใครหรอ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2012
  8. PlaiifarPP

    PlaiifarPP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +1,194
    โธ่ พ่อภูลืมลูกแล้วหรอคะ ฟ้าเองค่ะ พอดี user เก่าเข้าไม่ได้ เลยเปลี่ยนมาใช้user ใหม่
    Aiifar น่ะค่ะ จำได้รึป่าว??
     
  9. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    การอมนั้น มิได้พิศดารแต่อย่างใด แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ทานเผ็ดไม่ได้ และเด็กเล็กอายุตํ่ากว่า ๗ ปี
    วิธีการคือ ถอดส่วนหัวส่วนที่ท่านใช้ดม เหยาะของเหลวเช่นที่ท่านใช้ทา แลบลิ้นออกมา เหยาะลงบนนั้น ห้ามกลืน
    เห็นมั้ย เท่านี้ก็ได้อมแล้วค่ะ แต่อาจเผ็ดเล็กน้อย หิหิrabbit_run_away
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ณ ขณะนี้คุณคือ จิตตก จิตหลุด หรือว่า จิตทรงฌาน

    บอกไปแล้วก็ไม่เชื่อกัน บอกว่าให้ดูของจริงๆกันที่จิตตนเอง นอกนั้นไม่ใช่ของจริง ดูได้ ติดตามได้นะข่าวภัยพิบัติ แต่ลองกลับมาถามใจของตนดูนะว่า รู้แล้วจิตตกมั๊ย? น้อยคนนักที่ดูแล้วทำใจยอมได้ แต่คนส่วนใหญ่มักทำใจยอมไม่ได้นี่สิ คือปัญหา แต่คนที่ทำใจไม่ได้นี้จะทุกข์มากกว่าคนที่ทำใจ ไม่มีผู้ใดไปเปลี่ยนแปลงภัยธรรมชาติ แม้นกระทั่งใครจะไปคิดเปลี่ยนใจคนอื่นนั้น ยากหรือทำไม่ได้ มีทางเดียวที่พอจะเปลี่ยนแปลงได้เห็นมีแต่จิตใจของตนเอง แต่จิตเกาะพระนั้น ก็ได้เปลี่ยนจิตคนมามากต่อมากแล้วเหมือนกัน มีตั้งแต่พระภิกษุสงฆ์ แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ไปจนถึงฆราวาส และจิตเกาะพระนั้น จึงมีผลดีต่อผู้ปฎิบัติโดยตรง มิใช่ใครที่ไหน เพียงรอจิตผู้ที่พร้อมหรือมีกำลังใจพร้อมรับการปฎิบัติเท่านั้น เพียงแต่ผู้ปฎิบัติใหม่จะต้องมีศีลที่พร้อมคือ รักษาศีล ๕ เป็นอย่างต่ำให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ก่อนเริ่มการปฎิบัติจิตเกาะพระ คือเริ่มขั้นที่สองและสามต่อไป ก็คือ สมาธิและปัญญา ผู้ปฎิบัติจะต้องนำจิตเดินตรงตามทางมรรคมีองค์แปดนี้ เท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการความหลุดพ้น จากทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง หรือหลุดพ้นวัฏสงสาร(สังสารวัฏหรือสงสารวัฏ) คือภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเกิดขึ้นมาในตามหลักของพุทธศาสนาซึ่งบัญญัติไว้ว่ามีทั้งสิ้น 31 ภูมิด้วยกันนั้น หรือคนชอบว่า "พระนิพพาน" อันจะหมายถึงผู้ที่มองเห็นทุกข์ได้ชัดเจน หรือเบื่อทุกข์สุดๆแล้ว และไม่ปรารถนาที่อยากจะกลับมาเกิดอีกแล้ว นั่นเอง ขอให้พวกท่านทั้งหลาย จงพากันปฎิบัติจิตเกาะพระกันนะ ค่อยๆทยอยกันมานะจ้า เพราะครูหรือผู้แนะนำนั้นมีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่ทได้สำเร็จหรือจิตยก(จิตบุญ)นับว่าพวกท่านโชคดีมากๆ เดี๋ยวคอยดูกันต่อไปว่า จิตยกหรือจิตบุญนั้น โชคดีอย่างไร ตอนนี้ผู้ที่ยังไม่ได้ปฎิบัติธรรม ขอได้โปรดรีบปฎิบัติให้ไว เพราะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

    แต่ผู้เขียนหมายถึงผู้ที่ยังไม่ได้เข้ามาปฎิธรรมทั่วๆไปนะ ไม่จำเป็นจะต้องมาทำจิตเกาะพระ กรรมฐานอื่นๆก็มีเยอะแยะ แต่จะมีใครสักกี่คนจะเป็นผู้ที่ดูแลจิตอย่างดี+ใกล้ชิดเหมือนครูจิตเกาะพระนี้ อาจจะมีแต่ก็น้อยเต็มที เพราะการฝึกสมาธิขั้นสูงนั้น จำเป็นจะต้องมีครูคอยช่วยชี้แนะจิตของผู้ปฎิบัติในการเดินมรรคาที่ถูก+ตรงทาง หรือจะต้องมีผู้รู้เรื่องจิตโดยเฉพาะคอยตรวจสอบอารมณ์ของจิตด้วย แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ยากกว่าจะสำเร็จ เพราะผู้ปฎิบัติชอบแวะ ชอบเลี้ยว ชอบเด็ดดอกไม้ริมทาง หรือเพราะยิ่งติดตัวรู้ของตน(อีโก้) ยิ่งมีความลังเลสงสัยมากคือเอาแต่ถามๆ ไม่ยอมลงมือปฎิบัติเสียที บอกแล้วไง๊ว่า สงสัยได้ถามได้ แต่ขอให้ปฎิบัติก่อนแล้วมีปัญหาค่อยมาสอบถาม มิฉะนั้นแล้วผู้ปฎิบัติเองก็ยิ่งช้าพลอยจะหมดกำลังใจเสียก่อน เพราะมองไม่เห็นผลของการปฎิบัติตนเอง วางใจให้เป็นกลางก็คือ ทำใจให้สบายเบาก่อนลงมือปฎิบัติ แต่ถ้าผู้ปฎิบัติเก่าเคยทำอะไรมาหรือภาวนาอะไรมา ขอให้วาง(ชั่วคราว)ก่อน เพราะจิตจะได้จำในสิ่งใหม่เข้าไปแทน เพราะจิตมีข้อเสียอยู่อย่างนึงก็คือ จิตจะทำหน้าที่ได้ทีละอย่างในเวลาเดียวกัน สุดท้ายให้ศรัทธาผู้สอนและผลของการปฎิบัติตนเองด้วย

    ยกเว้น/นอกเสียจากผู้นั้นคือ สัพพัญญู (คือผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างหรือผู้มีปัญญารอบรู้ อันได้แก่ พระพุทธเจ้า) ไม่ต้องมีครูก็ได้

    สรุปว่า จิตตกแย่ที่สุด เพราะยังไม่ได้นำจิตไปฝึก แต่จิตหลุดนั้นก็หมายถึงจิตของผู้ที่เคยปฎิบัติได้ฌาน แล้วฌานหลุดหรือจิตต่ำกว่าฌาน อันนี้ยังพอแกไขทัน แต่สำหรับจิตทรงฌาน อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าจิตยังไม่ยกหรือจิตไปไม่ถึง จิตไปสุคติหรือจิตไปจุติชั้นพรหม ชั้นใดชั้นหนึ่งขึ้นอยู่กับความละเอียดของจิต สำหรับจิตผู้ที่ยกจิตแล้ว แต่หมั่นคอยดูแลสติบ่อย คอยสร้างสติเนืองๆแล้ว เพราะคนที่สนใจจิตที่ที่แท้จริงก็คือ ผู้ที่สนใจสร้างสติของตนเองอยู่ตลอดเวลา เห็นอะไรก็เป็นธรรมไปทั้งหมด จนเป็นธรรมดา ตายก็ธรรมดา จึงไม่มีผลอะไรจะมาทำร้ายจิตได้เลย ไม่รู้สึกว่าทุกข์ แม้นกระทั่งสุขละ คือรู้+อยู่+เฉยเท่านั้น ที่จิตบุญชอบยิ้มคนเดียวนั่นน่ะ ไม่ใช่บ้า แต่จิตเป็นทิพย์ จิตพุทธะ จิตนิพพาน จิตจึงรู้ ตื่น เบิกบานนั่นไงเล่ายังไม่รู้ตัวกันอีก เพราะจิตไปรู้ไปเห็นสัจธรรมมาหมดแล้วในขณะที่จิตกำลังวิปัสสนา(บางคนเห็นโครงกระดูกตนเอง บางคนเห็นรูปร่างสวยงามและต่อมาไม่นานนักร่างกายนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นเขียวเน่าและเหลือแต่กระดูแล้วต่อมาก็เป็นผุยผงเป็นควันหายไป นั่นจติตท่านกำลังวิปัสสนาและให้เห็นถึงกฎพระไตรลักษณ์ หรือกำลังสอนจิตให้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงแค่ ธรรมดา ธรรมชาติของมันเป็นอย่างนั้น อย่างนั้นเอง) ที่แท้ก็มายาหรือของจอมปลอมทั้งนั้น เมื่อจิตเราไม่ไปยึดมั่นถือมั่น จิตก็ปล่อยวางกับทุกสิ่งได้ เราก็รู้สึกว่าจิตนั้นโล่งและเบาสบาย จิตเป็นอิสระจากกิเลสทั้งปวงแล้ว เหมือนคนไร้น้ำหนัก ไร้แรงดึงดูดของพระอาทิตย์ ของโลกอย่างนั้นเอง...

    ขอให้ผู้ปฎิบัติเข้าถึงกระแสจิตก่อน ต่อไปกระแสธรรม ต่อไปพระตถาคตในที่สุดกันด้วยทุกผู้ทุกนามกันด้วยเทอญ
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ฮ่าๆ นึกแล้วเชียว ต้องร้อนถึงพระอินทร์ เอ๊ย พระนิพพาน พ่อภูจำได้ๆ แต่อยากฟังธรรมะที่ผุดจากจิตบุญ ๒๓ ของลูกฟ้าคนดีน่ะ (จิตลูกฟ้านี้ใสปิ๊งๆขอบอก ไม่แตกต่างจากจิตลูกหว้า น้องน๊อธ น้องนัท น้องอะไรอีกนะอยู่แถวๆนั้นน่ะ โทษทีสัมปทาน(สัญญา)หมดพอดี..อิอิ)

    Aiifar & Plaiifar มันมิได้แตกต่างกันเลยน่ะเนี๊ย แต่พ่อภูก็ยังเข้าใจวัยรุ่นอยู่นะ ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก (ว่าแต่ว่าทำไมลูกฟ้านอนดึกจัง!)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2012
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ฮ่าๆ อยากจะขำให้ลืมกระทู้นี้เลย เดี๋ยวรอครูเพ็ญดีตื่นก่อนนะ ผมสู้คุณลินดาไม่ไหว(เถียงนะ) คุณลินดา ทำไมผมมานั่งพร่ำอยู่คนเดียวก็ไม่ทราบ กระทู้นี้มิเคยหลับใหล คือกระทู้ ampm ให้รีบนะให้รีบ เดี๋ยวกระทู้หายแล้วจะเสียใจ ถ้าเน็ตมันล่ม แต่ถ้าหากเรือคุณวิทย์ไม่จมนะ แล้วจะไปตามหากันที่ไหนกัน ทางเหนือครูเพ็ญ ครูดัช ภาคกลางครูวิทย์ ครูอัญญะมณีและครูอีกเพี๊ยบ ส่วนภาคใต้ครูลูกพลัง คุณหมออุษาวดี พระอาจารย์ชัชวาล เป็นต้น สำหรับทวีปอเมริกาเหนือครูเกษ ครูสุภาทร ส่วนยุโรปครูลินดาและใครอีกหล่ะ จิตยกหายตัวกันหมดเลยนะแสดงตนหน่อย อย่าเป็นอรหันต์เห็นแก่ตัวกันนะ ให้จิตบุญดูท่านพ่อบ้าง ถึงแม้นท่านจะจากเราไปตั้งนานแล้ว แต่พระองค์ท่านยังตามเก็บดวงจิตลูกหลานของท่านที่หลงในสงสารวัฎกันนี้ ให้กลับขึ้นสู่พระนิพพานกันให้หมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จิตพร้อม ท่านพ่อจะมารับก่อน คงไม่ว่ากันนะ เพราะท่านพ่อไม่เคยรักลูกหลานลำเอียง แต่พวกท่านไม่เอาไหนกันเอง ท่านบอกว่าให้รักษาศีล ให้หมั่นภาวนา แต่บางคนก็เฉยชากัน มัวแต่หลงไปทางโลกกันเสียมากก็ยังไม่รู้สึกตัวกัน น่าสังเวช(สงสาร) สมเพช(เวทนา)เป็นยิ่งนัก

    อ๊าว! มัวแต่พร่ำจนเพลิน ลืมจิตบุญฝั่งมหาสมุทรใต้(Southern Ocean) เลยก็คือ คุณนกหญิงของพี่ภูนี่เอง ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์์
    แต่ทางทวีแอฟริกาและอเมริกาใต้ ยังไม่มีจิตบุญอยู่เลย หรือใครจะเป็นผู้บุกเบิก ยกมือขึ้น คุณลินหรอ? นิยมผิวสีไหม๊ ฮ่าๆ

    ว่าแต่ว่า ในอนาคตกาล หรือความเวิ้งหว้างอันไกลโพ้น ได้แก่ ทวีปแอนตาร์กติกา(มหาสมุทรตอนใต้) น่าจะไปจับจองพื้นที่อยู่กันนะ ตอนนี้เห็นมีแต่ เพนกวิน แมวน้ำ และสาหร่าย เป็นเจ้าของที่...อิอิ แต่ถ้าพายุสุริยะเกิดขึ้นจริงๆนะ ดินแดนแห่งนี้จะน่าอยู่ที่สุด ไม่ต้องกลัวหนาว แต่อาจะมีคนหนีหนาวจากประเทศไทยไปอยู่ที่โน้นก็เป็นได้ ที่โน้นมีภูเขาด้วย มีภูเขามีที่ราบสูงด้วย แต่ตอนนี้มีน้ำแข็งปกคลุมเยอะเต็มไปหมด หรือคุณลินดาจะสน แต่ถ้าพี่ภูรอดนะ จะไปสร้างบ้านรากแก่นที่โน้น เพราะไม่มีคนดี ฮ่าๆ พี่ภูท่าจะบ้าคิดซะ กลับมาดูจิตแร๊ะ เปลี่ยนบรรกาศเฉยๆ
     
  13. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    วันนี้..ตื่นแต่เช้า จิตใจเบิกบาน..
    ขอมอบเพลงนี้..ให้กับท่านอาจารย์ภู และคุณครูจิตเกาะพระทุก ๆ ท่านค่ะ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=e-CETgEyAbw"]dokmaiban1 pporjai - YouTube[/ame]

    @ดอกไม้จะบาน@

    ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน
    บริสุทธิ์กล้าหาญ จะบานในใจ
    สีขาวหนุ่มสาวจะใฝ่
    แน่วแน่แก้ไขจุดไฟศรัทธา

    เรียนรู้ ต่อสู้มายา
    ก้าวไปข้างหน้าเข้าหามวลชน
    ชีวิตอุทิศยอมตน
    ฝ่าความสับสนเพื่อผลประชา

    ดอกไม้ บานให้คุณค่า
    จงบานช้าๆ แต่ว่ายั่งยืน
    ที่นี่ และที่อื่นๆ
    ดอกไม้สดชื่น ยื่นให้มวลชน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2012
  14. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โห พูดได้ไงว่าหนูไม่มีอะไรเลย อย่างน้อยพี่ดัชก็เห็นว่าหนู
    มีหนึ่งอย่างที่เป็นที่สุดของหนู ..... หนูมีดวงจิตไงคะ
    ดวงจิตที่พร้อม จะเดินขึ้นไปพร้อมกับพวกเราสู่พระนิพพานงายยยยยย
     
  15. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    โมทนาสาธุกับจิตบุญ ๘๑ ด้วยครับผม .... สาธุ
     
  16. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ตื่นเช้ามา อารมณ์สบายๆเมื่ออ่านของพี่ภู
    โมทนาสาธุค่ะ
     
  17. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    จิตยกกันทุกวันเหมือนดอกไม้บานเรื่อยๆ ก็ดีสินะ
    ชอบเพลงนี้ค่ะ คุณพอใจ
    โมทนาสาธุ
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ครูลูกพลังอยู่ไหนเนี่ย;aa49
     
  19. suwipha satraphai

    suwipha satraphai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +461
    ขอเล่าเรื่องการเป็นครูฝึกหัดและศิษย์คนแรกค่ะ

    ไก่กับศรี ไปวัดด้วยกันบ่อยค่ะ ไปช่วยงานเป็นพุทธอาสา
    และปฏิบัติธรรม พอไก่เริ่มเรียนกับครูวิทย์ ก็เล่าให้ศรีฟังว่า
    พี่เรียนจิตเกาะพระ ดีนะ ทำให้ใจสงบ นิ่ง รู้เท่าทันอารมณ์
    เห็นพระไม่ชัด แต่รู้ว่าท่านอยู่ด้วย ก็เอาประสบการณ์ของตัวเอง
    แนะนำศรีค่ะ การจัดอบรมครั้งแรกก็ชวนศรีไปด้วย
    กลับมาศรีก็เริ่มเกาะพระ คอยถามว่าเป็นไงบ้าง
    ไม่ต้องกังวลว่าชัดไม่ชัดนะ อิอิ เพราะตัวเองก็เป็นเช่นนั้น
    อ้อ เตือนให้ส่งการบ้านบ่อยๆๆด้วยค่ะ
    กลัวครูตามว่าหายไปไหนทั้ง2คนค่ะ
    ตอนนี้กำลังสอนลูกสาวอยู่ด้วย เล่าให้
    ลูกฟังครั้งแรก เค้าเห็นแม่ มีรูปพระเต็มไปหมด
    ทั้งจอคอมฯ โทรศัพท์ ที่โต๊ะ ห้องนอนฯ
    บอกแม่ทำไปก่อน
    ปกติ เตือนให้ลูกและหลานสวดมนต์สม่ำเสมอค่ะ
    ตัวเล็กขวบกว่า เวลานอนต้องฟังชินบัญชร
    ตัวโต 7ขวบ เลือกรูปท่านพ่อใสๆๆ เค้าชอบ
    ถามว่าตอนนี้ท่านพ่อทำอะไร นั่งสมาธิอยู่ครับ
    ส่วนลูกสาวตอนนี้ไม่สบาย เล่าว่าหนูนอนนึกถึงภาพพระของแม่
    กลายเป็นหลวงปู่โต ไล่ตั้งแต่เข่าเลื่อนถึงหน้าหลวงปู่
    บอกเค้าว่าไม่ต้องกังวลนะ จิตเลือกเอง
    เราดูแบบสบายๆ
    ช่วงแรกคงมีแค่นี้ค่ะ โมทนา สาธุ
    ไก่ จบ.46
     
  20. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ครุลูกพลังแอบมาแล้วครับ ครูดัช
    ส่วนน้องหว้าจ่ายค่าดูแลบอร์ดมาซะดีๆ(จ่ายเป็นธรรมะนะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...