ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

ถ้ายังทันอยู่ในโควต้า ผมขอรับ 1 องค์นะครับ
ที่อยู่การจัดส่งเดี๋ยวผมแจ้งทาง PM ครับ
อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้หลวงปู่ทวดคุ้มครองครับ

 

ขอรับหลวงปู่ไว้บูชาด้วยครับ

 

รายชื่อผู้รับรอบ 2

motana2008
parana483
victorvee
chaloru
sagang
bearkery


รายชื่อรอบ 2 ขอที่อยู่ด้วยครับ
itr
AUN54
BBnana
kasems



SIR2010 ส่งให้แล้วรอบที่ 1

 

ส่งไปแล้วครับท่าน รอรับได้เลย

 

กราบอนุโมทนาด้วยครับ

 

ขอบคุณครับพี่ เป็นไงบ้างกับธรรมที่ไม่เอาทั้งดีและไม่ดี มันว่างเปล่า คืออะไรหนอ..............

 

ธรรม เค้าเป็นของกลาง ไม่มีทั้งดี และไม่มีดี ส่วนดีหรือไม่ดีเป็นเพราะเราไปให้ค่าเค้าเอง แต่ก็ไม่เที่ยงอยู่ดี... ^^

 

ธรรมะ ของพี่เพลานี้มันยังเอียงๆ มันยังเลือกข้างอยู่ครับ เอิ้ก เอิ้ก

 

ผมไม่ได้ต่างกับพี่หรอก ใจไม่ค่อยดี 555 เอียงก็คือเอียง ตรงก็คือตรงตามที่ว่านั่นล่ะครับ ก็ดุ่ม ๆ กันไปด้วยกันละกัน 5555

 

สาธุ......................................ครับ เสี่ย(good)

 

555เอาไงเอากัน ว่าไงว่าตามกันครับ เอิ้ก เอิ้ก

 

วันนี้อยู่ยาวเลยนะครับ พี่รุ่ง ^^

 

วันนี้ควงรอบ ยาวหน่อยครับ

 

ผมไม่ได้ว่าอะไรหรอกพี่ก็ทำของพี่อยู่ไง ผมก็ได้พี่แนะนำช่วย ๆ กันครับ

 

ผงโสฬสมหาพรหม เป็นผงที่ผสมในพรหลายรุ่นที่มีประวัติให้อ่านใน Internet ขออนุญาติไม่ลงข้อมูลนะครับ การได้มาของผงและสายวิชาของหลวงปู่สนธ์ เบื้อต้นมาจากการฝึกจิตฝึกธรรมของท่านอาจารย์จนเทพพรหมท่านดลให้ไปพบปะกับต้นสายของวิชาจนถึงที่วัด

มีข้อมูลหนึ่งที่ผมสรุป ๆ มาว่า " มีผู้กล่าวว่าวิชาต่าง ๆ มีมากมายจากครูบาอาจารย์แม้ท่านได้ดับขันธ์ลงไปก็หาได้หายไปไม่ แต่หากรอเวลาที่คนที่จะมีจิตใจที่ฝึกฝนอบรมดีแล้วมารับรู้ มาสานต่อเมื่อถึงเวลา เมื่อถึงเวลาครูบาอาจารย์ท่านก็จะนำมาให้เอง "

เป็นข้อความท่ฝากไว้พิจารณา

 

การฝึกฝนการปฏิบัติของครูบาอาจารย์จริง ๆ แล้วก็คือแบบธรรมดาเท่านั้น ก่อนหน้าท่านอาจจะฝึกแบบหลากหลาย ฝึกแบบแปลก ฝึกแบบที่ท่านคิดว่าชอบ คิดว่าดีแบบพวกเรา แต่แล้วเมื่อท่านพบของจริงก็คือการฝึกแบบธรรมดาฝึกจิต ฝึกใจ ฝึกธรรม ฝึกธรรมชาติ ไม่ต้องทำอะไรให้พิศดาร ที่พิศดารผ่านมานั้นท่านทิ้งหมด แล้วท่านก็เอาแต่ภาวนา ละ วาง แบบธรรมดา ๆ ก็ของให้ทุก ๆ ท่านที่มาอ่านมาพบลองทบทวนกันดูเองนะครับ

 

สาธุๆ ทุกอย่างก็แค่เปลือก สุดท้ายที่ก็ต้องกลับมาเรียนรู้ อยู่แค่กาย กับจิตเราเท่านั้น ที่พระพุทธเจ้าสอน ก็สอนอยู่แค่นี้ ^^

 

ไว้จะเขียนเรื่องราวบางเรื่อง ไม่ได้อวดรู้ ไม่ได้ตั้งใจให้เชื่อตาม แต่เป็นความรู้หรือทฤษฎีหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากการปฏิบัติตามท่านอาจารย์ ผมเป็นคนอ่านน้อย ถามโน่นถามนี่ผมไม่ค่อยรู้นะครับเพราะอ่านมากผมมักจะหลงตัวเองคิดโน่น คิดนี่ จนกลายเป็นคนโง่มากกว่าตอนไม่ได้อ่าน ที่จะเล่าก็คือสิ่งที่เกิดจากการทำเอา ไม่อยากใช้คำว่าปฏิบัติ เพราะยังไม่ดีอะไรเลย ตอนนี้ก็ยังโกรธคนอยู่ โมโหคนอยู่แต่เช้า 5555

 

การเกิดของจิต <hr style="color:#998049; background-color:#998049" size="1"> ถาม : ปัจจุบัน เรื่องการเกิดของวิญญาณ ...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : ยังมีอยู่เป็นปกติ คำว่า วิญญาณของเรานี่หมายถึงจิต การเกิดของจิตนั้นยากลำบากเต็มที เพราะว่าจะต้องประกอบไปด้วยธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือธาตุรู้ ถ้าธาตุรู้จับเข้าไปเมื่อไร ถึงจะปรากฏเป็นจิตขึ้นมา มีโอกาสเกิดได้ แต่ว่าเกิดได้ยากเต็มที ประมาณระยะเวลาไม่ถูก

ที่อยู่ข้างล่างคือสัตว์นรกที่อยู่แต่ละขุม เอาโลกเราทั้งโลกหย่อนลงไปในนรกขุมหนึ่ง ก็ประมาณทรายเม็ดเดียวในเข่งใหญ่ ๆ ขุมเดียวนะ แล้วทั้งหมดที่เหลือนั้นจะเท่าไร นั่น..มากกว่ากันถึงขนาดนั้น

พวกนั้นพอเขาพ้นกรรมขึ้นมาเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน พ้นขึ้นมาก็เป็นมนุษย์อีกที มนุษย์จะมีการเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันว่า ทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดมาแล้วก็ทำดี ทำชั่ว กันบ้างไปเรื่อย ๆ จนวาระสุดท้ายก็ทำดีมากกว่าชั่ว ในที่สุดก็หลุดพ้นเข้านิพพานไป

แต่ว่าที่ไปแล้วทั้งที่เข้านิพพานไปแล้ว ทั้งที่เป็นเทวดา พรหม ถึงมนุษย์รวมกันยังไม่เท่ากับในนรก นั่นเขาเยอะกว่ามาก แล้วการเกิดของจิตก็เกิดยากเกิดเย็นเหลือขนาด แต่ว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน

เหมือนกับว่าแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมต่างกัน เอาเป็นว่าทองก็แล้วกัน ทองนี่หลวงพ่อท่านบอกว่าประกอบไปด้วย ตะกั่วเถื่อนก็คือดีบุก ทองแดง สารปากนกแก้ว แร่เพรียงไฟ ๔ อย่างนี้ถ้ามาผสมกัน ในอัตตราส่วนที่เหมาะสม ก็จะเป็นทองคำ

คนเราก็เหมือนกัน ในสภาพของจิตนี่ก็จะมีแร่ธาตุต่าง ๆ ในจักรวาลที่หมุนเวียนไปมาตามแรงโคจรของดวงดาวต่าง ๆ ทำให้ผสมกันไปผสมกันมา สำคัญที่สุดก็ธาตุรู้ เมื่อธาตุรู้จับเข้าไปก็เกิดเป็นจิตขึ้นมา พอเกิดเป็นจิตขึ้นมาก็ต้องแสวงหาที่อยู่ซึ่งประกอบไปด้วยกายที่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ และวิญญาณนี้ไว้รองรับ แต่ว่าโอกาสที่จะเกิดในลักษณะนี้นั้นยากเต็มที

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔