หมดแล้ว เปิดจองปู่พระพิราพปางปาฎิหาริย์บันดาลทรัพย์-อุดมพูลสุข ถึง 31/10/55

เปิดจอง พระพิราพปางปาฏิหาริย์ขนาดบูชา จากเวียงนาคราช

1 องค์พระพิราพ เนื้อโลหะ ขนาด 21 นิ้ว บูชาองค์ละ 39,999 บาท ขออนุญาตสร้างได้เพียง 9 องค์ตามที่ตั้งสัจจะไว้ มีจองไว้ 4 องค์ครับ(หลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นองค์ละ 54,999 บาท)

2.พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ เนื้อชนวนโลหะ หล่อนำฤกษ์ บูชาองค์ละ 4,000 บาท ขนาด 5 นิ้ว 24 องค์


3.พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ เนื้อชนวนโลหะ บูชาองค์ละ 3,000 บาท ขนาด 5 นิ้ว 76 องค์
ขออนุญาตสร้างได้เพียง 108 องค์ตามที่ตั้งสัจจะไว้ (ให้บูชาเพียง 100 องค์)


ทั้ง 2 ขนาดจะทำการบรรจุมวลสาร

ภาพตัวอย่างองค์ขนาดบูชา 21 นิ้วพ่นสีเงิน
ภาพตัวอย่างองค์ขนาดบูชา 5 นิ้ว องค์ต้นแบบครับ


ค่าจัดส่ง 200 บาท

รายละเอียดสำหรับหารโอนเงิน
สำหรับหมายเลขติดต่อครับ 084-156-8863 ครับ

ชื่อบัญชี นายนิรันดร์ เริ่มกลาง
เลขที่บัญชี 269-2-780-313
ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบางใหญ่ ประเภท ออมทรัพย์

 

องค์นำฤกษ์ ขอให้สิทธิ์ผู้ที่จองคนเก่าก่อนนะครับ 19 องค์ ให้จองท่านอื่น ๆ ก่อน 5 องค์

ขอให้ผู้ที่จองไว้เดิมยืนยันสิทธิ์ภายใน 7 วันนะครับ

 

องค์นำฤกษ์ ต้องจ่ายค่าบูชางวดแรกก่อน 2000 บาท ภายในวันที่ 10/9/55 นะครับ ส่วนที่เหลือจะกำหนดอีกครั้งครับ


การเช่าบูชาให้แบ่งจ่ายได้ 2 งวดนะครับ ทั้งองค์นำฤกษ์และองค์หล่อตามฤกษ์ จะทำตารางให้ทราบอีกครั้ง

 

องค์โลหะปู่พระพิราพปางปาฎิหาริย์



หลัง จากเลื่อนการจัดสร้างรูปหล่อโลหะปู่พระพิราพปางปาฎิหาริย์ หน้าตัก 5 นิ้ว ออกไป ด้วยความที่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่งานเข้าแบบชุลมุนและเกิดข้อกังขาว่าโรงหล่อฯ จะทำงานให้ทันหรือไม่เพราะงานเก่ายังเคลียร์ไม่จบ และเก็บรายละเอียดของงานได้ตามอันควรในงานโลหะหรือไม่ จึงเป็นเหตุที่ต้องขอเลื่อนออกไปนะครับ

ได้แต่รอเวลาและขอปู่พระพิราพให้หาโรงหล่อที่มีฝีมืองานออกมาดีและใกล้บ้าน ไม่นานนักได้ไปพบโรงหล่อแห่งหนึ่งแถวชานเมืองนนทบุรี ถือว่าเป็นโรงงานที่ใช้ได้และราคาสูงพอสมควรน่าจะลองดูแต่มีเหตุบางประการ ที่บ่งบอกว่าไม่ควรที่จะตกลงทำที่นี้ กลับมากลางคืนเข้าห้องพระเดินจงกรมอธิษฐานถึงปู่พระพิราพ... พลันนึกถึงโรง หล่ออีกหนึ่งที่ใกล้บ้านและที่ทำงาน เสมือนเส้นผมบังภูเขา(เคยไปติดต่อมาแล้วเรื่องเศียรปู่พระพิราพราคาสูงพอ สมควร) วันรุ่งขึ้นหลังจากเคลียร์งานด่วนเสร็จแล้วจึงถือโอกาสแวะเข้าไปที่โรงหล่อ
หลัง จากที่พูดคุยเรื่องรายละเอียด ซึ่งช่างช่างเจ้าของโรงหล่ออธิบายในสิ่งที่ผมติดอยู่และเมื่อบอกราคามันเป็น ไปตามที่ผมคำนวณเอาไว้ สรุปตกลงว่าให้โรงหล่อที่นี้เททองหล่อรูปเหมือนปู่พระพิราพปางปฎิหาริย์ บันดาลทรัพย์ จำนวน 108 องค์ ตามสัจจะที่ให้กับองค์ปู่พระพิราพ
ซึ่งจะเททองหล่อให้ลูกหลานปู่พระพิราพบูชาเพียง 100 องค์
1.หล่อ องค์ปู่พระพิราพนำฤกษ์ จำนวน 24 องค์ (บูชาองค์ละ 4,500 บาทค่าส่ง 200 บาท) พิเศษ...จะทำพิธีนำแผ่นทองที่เขียนดวงชะตาผู้ที่บูชาหลอมรวมเป็นเนื้อองค์ ปู่พระพิราพ พร้อมด้วยการบรรจุสิ่งมงคลหลายอย่างที่แตกต่างกว่า
2.หล่อองค์ปู่พระพิราพ จำนวน 84 องค์ (บูชาองค์ละ 3,200 บาทค่าส่ง 200 บาท)
การ จองขอให้ทุกท่านชำระครึ่งหนึ่งของแต่ละรายการครับ จะผสมมีแผ่นอธิฐานจารอักขระของครูบาอาจารย์ ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่หล่อหลอมไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีผู้ที่ร่วมส่งชนวนมาร่วมอีกส่วนหนึ่งครับ
ในการหล่อทั้งสองครั้งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ และจะทำพิธีอธิษฐานจิตวันเสาร์ห้า ขึ้น 5 ค่ำเดือน 11
หมายเหตุ...การรับหรือการจัดส่งองค์ปู่พระพิราพสามารถเริ่มจัดส่งได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2555

 

เนื่องจากการปรับเปลี่ยนโรงหล่อที่ต้องใช้เงินทุนมากขึ้นเพื่อความสวยงามของงานและความรวดเร็วในการจัดการด้านต่าง ๆ เป็นเหตุให้ค่าบูชาเพิ่มขึ้นจากเดิมพอควร แต่เพื่อให้งานองค์ปู่มีความพิเศษมากขึ้นจึงได้เตรียมมวลสารที่จะอุดไว้อย่างพิเศษทีเดียว และปัจจัยก็จะนำไปสร้างพระมหาเจดีย์ที่จังหวัดพังงาครับ ถ้าพอก็จะนำไปสร้างโบสถ์และบูรณะศาลาวัดที่ติดต่อมาด้วยครับ

 

จององค์ปู่พระพิราพนำฤกษ์ 1องค์ ครับ
แล้วลูกแก้วกับเศียรพ่อพระพิคเณศ
จะจัดส่งให้วันไหนครับ

 

กำลังใส่ซอง เริ่มทยอยส่งตั้งแต่วันพรุ่งนี้ครับ

 

เมื่อได้พิจารณาในการจัดสร้างรูปหล่อโลหะปู่พระพิราพครั้งนี้ ทำเพื่ออะไรอย่างไร จึงได้ข้อสรุปว่า ต้องการที่จะเผยแพร่บารมีปู่พระพิราพ และ ต้องการปัจจัยมาทำงานในพระศาสนาในโครงการที่ดำเนินการไว้และช่วยงานด้านอื่นๆ

เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ข้างบน....ขอปรับราคาบูชาลงมาตามความเหมาะสมนะครับ



1.พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ เนื้อชนวนโลหะ หล่อนำฤกษ์ บูชาองค์ละ 4,000 บาท ขนาด 5 นิ้ว 24 องค์

* พิเศษ...มอบ 24 ท่าน เศียรปู่พระพิราพ(ขนาดกลาง)โลหะชนวนอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์...ทำพิธีหล่อวันเสาร์ 5 เดือน 8 ทำพิธีแช่น้ำมนต์เครื่องพิชัยสงคราม น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ(หลวงปู่ครูผู้เฒ่า(ลป.สนธิ์) วัดท่าดอกแก้ว จ.นครพนม) น้ำที่ทำพิธีขอกลางลำน้ำโขง บริเวณวัดท่าดอกแก้ว เป็นต้น เพียง 24 องค์ (ภาพที่ 1)


2.พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ เนื้อชนวนโลหะ บูชาองค์ละ 3,000 บาท ขนาด 5 นิ้ว 76 องค์ (ในส่วนองค์ที่ 27 เป็นต้นไป จะได้รับมอบพระผงเศียรปู่พระพิราพ จำนวน 1 องค์ทุกท่าน)

* พิเศษ...มอบ 26 ท่่านแรก เศียรปู่พระพิราพ(ขนาดเล็ก)โลหะ ชนวนอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์...ทำพิธีหล่อวันเสาร์ 5 เดือน 8 ทำพิธีแช่น้ำมนต์เครื่องพิชัยสงคราม น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ(หลวงปู่ครูผู้เฒ่า(ลป.สนธิ์) วัดท่าดอกแก้ว จ.นครพนม) น้ำที่ทำพิธีขอกลางลำน้ำโขง บริเวณวัดท่าดอกแก้ว เป็นต้น เพียง 26 องค์ (ภาพที่ 2)

*** ใต้ฐานปู่พระพิราพ ปางปาฎิหาริย์ 108 องค์ จะบรรจุ "ผงโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่ครูปู่เฒ่า(ลป.สนธ์)" เป็นพิเศษนอกเหนือจากมวลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ (ภาพถ่ายหลวงปู่)

 

ใช้แบบหล่อเดิมที่ใช้หล่อไฟเบอร์ใช่ไหมครับหรือเปลื่ยนแบบครับ ถ้าคนล่ะปางหรือแบบไม่เหมือนเดิมเผื่อจะจองสักองค์ครับ

 

แบบเดิมที่หล่อเรซิ่นนะครับ

 

***ผมขออนุญาตท่านผู้เป็นเจ้าของบทความด้านล่าง มาให้อ่านถึงแนวคิด ความรู้สึกที่มีต่อพระศาสนา และเป็นผู้รู้ที่คร่ำหวอดกับวงการพระกริ่งที่เก็บตัวเงียบ...แต่มีปรัชญาที่ลึกซึ่งกินถึงใจผมจริงๆ ครับ คงมีประโยชน์ไม่มากก้อน้อยสำหรับทุกท่านนะครับ


DrTang wrote: "ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าการแสวงหาวัตถุมงคลทำให้คนเราเสียทรัพย์เสียเวลาไปมิใช่น้อย มีศรัทธา แต่ขาดการการแก้ปัญหาโมหะจึงนำไปสู่การมีผู้สร้างที่หลอกลวง อ้างการกุศลเพื่อหาประโยชน์แก่ตน การสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพที่ผ่านมา เรื่องผลประโยชน์มากมาย เพราะผู้คนแสวงหาที่พึ่ง กว่าจะรู้ว่าการสร้างทีแท้จริงคืออะไร วัตถุประสงค์ผู้สร้างแต่ละชุดคืออะไร ก็เสียไปมาก ผมโชคดีเป็นคนที่แสวงหาแบบเจาะลึกและวิเคราะห์ จึงไม่เสียหายใดใด
<O</O
DrTang wrote: "พอองค์ประกอบครบเมื่อบุญวาสนามาเยือน ก็ได้สร้าง เอง เมื่อปี๒๕๔๘สำเร็จแจกจ่ายให้ผู้ร่วมสร้างก็ปี๒๕๔๙-๒๕๕๐ องค์ประกอบก็สลายไป ปีนี้มีบุญวาสนากลับมาเยือน องค์ประกอบต่างๆกลับมาครบอีก ก็ได้สร้างอีก"
<O</O
DrTang wrote: "การสร้างแต่ละครั้งไม่ได้คาดหมายมาก่อนว่าจะได้สร้างครับ จู่ๆก็มีเงื่อนไขการสร้างพระพุทธรูปให้ลูกกลับมาอีก เพื่อให้ลูกรู้ว่าพระพุทธศาสนานี้ดีนัก พ่อมีศรัทธามาก ด้วยการวิเคราะห์โดยการใช้ปัญญาและจิตอันเป็นกุศล พบว่าพระพุทธศาสนาไม่ว่าจะทีมาจากประเทศใด ล้วนดียิ่ง จึงสร้างพระพุทธานุสสติเป็นอุทเทสิกเจดีย์เพื่อให้ลูกได้รับรู้ระลึกถึงพ่อให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ปัญหาทั้งปวง ความไม่สุข ความเศร้าหมองทั้งปวงจะหายไป"
<O</O
DrTang wrote: "เมื่อการสร้างพระพุทธรูปให้ลูกเกิด ก็สืบเนื่องถึงการสร้างพระไภษัชยคุรุไวฑูรยปภาตถาคต ในรูปแบบพระกริ่ง ลึกๆแล้วอยากสร้างแบบกริ่งจีน แต่สืบทอดวิชาไทยคือการสร้างแบบหล่อโบราณ พอหาแบบได้ดังที่ปรากฎครับ"
<O</O
DrTang wrote: "เมื่อได้แบบก็ต้องได้เนื้อใน เนื้อในต้องไม่ใช่มาจากแหล่งที่หาง่ายเกินไป การได้ได้มาต้องไม่ง่าย จึงจะมีความหมายถึงความอดกลั้นอดทน ความวิริยะอุตสาหะและการใช้ปัญญา รวมไปถึงการได้มาด้วยบุญวาสนา จึงเป็นองค์ประกอบที่ไม่ธรรมดา เพื่อการสร้างอุทเทสิกเจดีย์ที่มีความหมายลึกซึ้ง"

DrTang wrote: "องค์ประกอบที่เป็นแก่นของเรื่องคือองค์พระพุทธครับ"

 

ขอยืนยันสิทธิ์เดิมครับ ร่วมจององค์นำฤกษ์ 1 องค์ครับ

 

***ผมขออนุญาตเจ้าของบทความประวัติเรื่องราวของหลวงปู่ครูผู้เฒ่า (ลป.สนธ์) มาลงเพื่อเป็นวิทยาทานครับ

ข้อเขียนเก่าของเฒ่าอำพลเจน เขียนไว้นานปีตีพิมพ์ที่ไหนจำบ่ได้ เจอคนเขาเอาไปโพสต์ลงเว็บหนึ่ง

กลายเป็นคนcopyเรื่องนี้ไปโพสต์ลงตรงโน้นเขียนเองเฉยเลย ไม่เห็นแก่เจ้าของเรื่องหรือคนเขียนที่แท้จริง

เชิญอ่าน

ประวัติหลวงปู่สนธ์วัดท่าดอกแก้ว
พระครูสันธานพนมเขต (สนธ์ สุรชโย)

นามเดิมสนธ์ คงเหลา

เกิด 20 มิถุนายน 2422 ที่บ้านท่าดอกแก้ว ตำบลท่าจำปาอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

เป็นบุตรของนายแสงและนางทุม คงเหลามีพี่น้องร่วมอุทร 6 คน ท่านเป็นคนที่ 2

บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปีที่วัดท่าดอกแก้ว โดยมีพระอาจารย์นนท์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2436 บวชเณรแล้วได้ศึกษาอักษรธัม ไทยน้อย ลาว และขอม กับบทสวดมนต์สูตรต่าง ๆอยู่ในสำนักพระอาจารย์นนท์

อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 20 ปี ในวันที่ 5 มีนาคม 2442 โดยมีพระอาจารย์ภูมี เป็นพระอุปัชฌาย์พระอาจารย์นนท์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สมเป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อบวชพระแล้วได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์สีทัตต์
ศึกษาด้านวิปัสสนาธุระที่วัดป่าอรัญญคามวาสี (ปัจจุบันคือวัดพระธาตุท่าอุเทน)ศึกษาอยู่1ปี
จึงกราบลาพระอาจารย์สีทัตต์ไปจำพรรษาที่วัดห้วยออนแขวงเมืองบ่อสะแทน ประเทศลาว
โดยอยู่กับท่านอาจารย์โสดาซึ่งเป็นลุงของพระสนธ์เป็นเวลา 3 ปี จึงย้ายกลับมาอยู่วัดท่าดอกแก้ว
และได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้วหลังจากเจ้าอาวาสองค์เดิมมรณภาพไป
โดยเริ่มครองวัดท่าดอกแก้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452 เป็นต้นมา
จนกระทั่งมรณภาพในวันที่ 14 ธันวาคม 2510 เวลา 15.30 น.ที่วัดท่าดอกแก้วโดยอาการสงบ
สิริรวมอายุได้ 88 ปี 74 พรรษา

มีคำสดุดีของลูกศิษย์ลูกหาได้เขียนไว้ถึงท่านว่า

“หลวงพ่อพระครูสันธานพนมเขต (พระอาจารย์สนธ์) เป็นผู้ชำนาญทั้งทางปริยัติและวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นผู้ทรงคุณอันสูงในทางไสยศาสตร์
ในระหว่างที่ยังมีชีวิตได้บำเพ็ญสมณธรรมช่วยเหลือเกื้อกูลแก่บุคคลโดยไม่เลือกชั้นวร
รณะ
ใครมานิมนต์ไปไหนไม่ขัดข้องเป็นที่เคารพในหมู่ประชาชนทั้งสองฝั่งโขงไทยลาว”

“หลวงพ่อมีชื่อเสียงทางขับไล่ภูตผีปีศาจและคุณไสยและทุกๆวันจะมีผู้เดินทางมาขอพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังนานาชนิดจากท่านไม่ขาด
ในคราวกรณีพิพาทอินโดจีน ผ้ายันต์แคล้วคลาดของท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
ทหารตำรวจหลั่งไหลไปขอแน่นขนัดวัดท่านก็แจกคาถาและผ้ายันต์ให้อย่างทั่วถึง"

“ในบริเวณวัดท่าดอกแก้วจะมีผู้คนมานั่งเฝ้ารอพบท่านอยู่มากมายไม่ขาดสายทุกคนมาที่นี่เพื่อกราบท่านและขอของดีกันทั่วหน้า”

ท่านเจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้ว หรือวัดโสดาประดิษฐ์องค์ปัจจุบันเดินย่องเข้าไปในห้องพักหนึ่งแล้วกลับออกมาพร้อมด้วยรูปถ่ายหลวงปู่สนธ์
ท่านบอกว่าเป็นรูปที่พิมพ์ขึ้นในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่และท่านได้ปลุกเสกอยู่ในพระอุโบสถตามลำพัง
เสกแล้วก็แจก
ถือว่าเป็นของดีที่ท่านปลุกเสกไว้เป็นครั้งสุดท้ายในปีสุดท้ายก่อนมรณภาพ
นายชวน กิติศรีวรพันธ์ อดีต สส.นครพนมเป็นผู้พิมพ์ถวาย

พอมอบรูปให้ผมแล้วก็บอกว่า “สงสารอุตส่าห์มาตั้งไกลและอย่าไปบอกใครนะว่ารูปยังมีเหลือเก็บที่อาตมา เพราะว่ามีน้อยมากเดี๋ยวใครต่อใครมารุมขอหมด”

สาธุหลวงพ่อ ผมบอกใคร ๆเดี๋ยวนี้แล้วซีครับโธ่ (มีต่อ)

 

ขอยืนยันสิทธิ์เดิม 1 องค์นำฤกษ์ครับ

 

ขอยืนยันสิทธ์เดิม องค์นำฤกษ์ โอนเงินเพิ่ม รบกวนแจ้งด้วยครับ

 

ขอจอง 1 องค์นะครับ ผมเด็กใหม่ ยังไม่ทราบต้องทำยังใงบ่างอะครับ แต่ศรัทธาจริงๆอะครับ อยากได้ใว้บูชา รบกวนพี่ๆแนะนำด้วยครับ

 

ช่วยระบุว่าจะจององค์หล่อแบบธรรมดาหรือ องค์หล่อนำฤกษ์ครับรายละเอียดค่าบูชาแสดงไว้แล้วด้านบนครับ

 

***ผมขออนุญาตเจ้าของบทความประวัติเรื่องราวของหลวงปู่ครูผู้เฒ่า (ลป.สนธ์) มาลงเพื่อเป็นวิทยาทานครับ

ข้อเขียนเก่าของเฒ่าอำพลเจน เขียนไว้นานปีตีพิมพ์ที่ไหนจำบ่ได้ เจอคนเขาเอาไปโพสต์ลงเว็บหนึ่ง

กลายเป็นคนcopyเรื่องนี้ไปโพสต์ลงตรงโน้นเขียนเองเฉยเลย ไม่เห็นแก่เจ้าของเรื่องหรือคนเขียนที่แท้จริง

เชิญอ่าน

ประวัติหลวงปู่สนธ์วัดท่าดอกแก้ว
พระครูสันธานพนมเขต (สนธ์ สุรชโย) (เนื้อต่อ)

ถ้าหากพิจารณาประวัติย่อของหลวงปู่สนธ์แล้วจะพบความขลังของท่านปรากฏอยู่รำไรไม่ชัดเจนนัก
คงจะต้องเล่าเรื่องท่านได้มาปลุกเสกพระที่วัดเทพศิรินทร์ให้ฟังก็เล่าตามปากของคุณอาคมนั่นแหละครับ

ดูเหมือนจะเป็นสมัยที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) มรณภาพใหม่ ๆ จะเป็นคราวปลุกเสกพระอะไรก็ไม่ทราบแน่ชัด
ตอนนั้นอยู่ในราว พ.ศ. สองสี่เก้ากว่าบางทีจะเป็นคราวปลุกเสกพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของหลวงภูมินาถสนิทหรือเปล่าไม่รู้
แต่ว่าคราวที่หลวงปู่สนธ์ลงมากรุงเทพฯ นั้น ท่านมาอย่างพระบ้านนอกไม่มีใครรู้จักนัก

ครั้นพิธีปลุกเสกพระผ่านพ้นไปแล้ววันกลับนครพนมได้เกิดปรากฏการณ์พิเศษคือมีพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีปลุกเสกพระครั้งโน้นติดตามหลวงปู่สนธ์ไปวัดท่าดอกแก้วหลายสิบ
องค์ถึงกับแน่นตู้รถไฟว่างั้นก็ได้ พระบ้านนอกรูปนี้มีอะไรดีหรือ

อีกคราวหนึ่งคุณอาคมเล่าว่า พ่อของเขาได้นำพระเครื่องของหลวงปู่สนธ์ไปให้หลวงปู่เฮี้ยง (เจ้าคุณวรพรตปัญญาจารย์ วัดป่าอรัญญิกาวาส ชลบุรี) ดูปรากฏว่าท่านดูไม่ออก
กว่าจะดูรู้เรื่องว่าหลวงปู่สนธ์ทำพระอย่างไร ปลุกเสกพระวิธีไหนก็เสียเวลาหลายวัน ต้องกำหนดจิตเข้าในองค์พระอยู่เป็นนานจึงรู้เรื่องพอรู้แล้วก็ออกปากยกย่องหลวงปู่สนธ์เป็นอย่างยิ่ง
เสร็จแล้วก็ฝากพระของท่านเองไปให้หลวงปู่สนธ์ดูบ้าง เมื่อพระไปถึงหลวงปู่สนธ์ ท่านก็บอกทันทีเลยว่าพระองค์นี้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ปลุกเสกด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ คาถาบทนั้นบทนี้ หลวงปู่เฮี้ยงถึงกับร้องทำนองว่าเขารู้เราหมดแต่กว่าเราจะรู้เขาได้นั้นผิดกันเยอะ

คุณอาคมได้เล่าเรื่องพ่อนับถือของเขาคือคุณปถม อาจสาคร ให้ฟังว่า ตอนนั้นราว ๆ ปี 2493 พ่อของเขาได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสหกรณ์อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนมเพิ่งย้ายไปที่นั่นใหม่ ๆปกติแล้วพ่อของเขาเป็นผู้ใฝ่ใจทางนี้ไปอยู่ไหนก็แสวงหาครูบาอาจารย์เก่ง ๆเสมอ เดิมก็เป็นศิษย์ของหลวงปู่เฮี้ยงได้วิชาความรู้ทางสร้างพระจากหลวงปู่เฮี้ยงเยอะแยะจึงเป็นนักสร้างพระที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง

เมื่อมาอยู่ท่าอุเทนก็ได้ยินข่าวหลวงปู่สนธ์แล้ว แต่ว่าคงยังไม่ทันกระตือรือร้นจะไปกราบเท่าใดนัก พอดีมีพลทหารคนหนึ่ง ทำงานช่วยคุณปถมที่สหกรณ์นั้นเกิดไปมีเรื่องทะเลาะกันถูกยิงกระเด็นตกน้ำ กระสุนที่รัวใส่ 3 ชุด ทำเอาจุกแทบตาย
แต่ว่าไม่เข้าหนังเข้าเนื้อปรากฏเพียงรอยแดงเป็นจ้ำทั่วทั้งตัวเสื้อผ้าที่สวมก็ขาดกระจุน พลทหารนายนี้มีตะกรุดอยู่กับตัวเพียงดอกเดียวเท่านั้น

ตะกรุดดอกเดียวที่ว่านี้คือตะกรุดเก้าแปเก้าหย้อทำด้วยตะกั่วและเป็นตะกรุดของหลวงปู่สนธ์วัดท่าดอกแก้ว ก็นี่แหละที่ทำให้คุณปถมได้ไปกราบหลวงปู่สนธ์โดยไม่ต้องลังเลอีกแล้ว

เมื่อได้พบหลวงปู่สนธ์ก็ปรากฏว่าถูกจริตนิสัยกันเป็นอย่างมาก และได้เห็นบาตรเก่าใบหนึ่งมีผ้ายันต์ปิดปากบาตรไว้จึงถามว่านั่นอะไร หลวงปู่สนธ์ตอบว่า ผงโสฬสมหาพรหมของหลวงปู่สีทัตต์ท่านมอบไว้ให้และเก็บรักษามาอย่างนี้ตั้งนานไม่รู้จะทำอะไร ในที่สุดก็มอบให้คุณปถมเอาไปสร้างพระ

ผงโสฬสมหาพรหมนี้หลวงปู่สีทัตต์ได้สร้างขึ้นสมัยอยู่ภูเขาควายประเทศลาวใช้เวลาสร้างอยู่นานนับปี ท่านจะสร้างของท่านอย่างไรไม่ทราบ แต่ว่ามีตำราแสดงการสร้างผงโสฬสมหาพรหมไว้พอได้ศึกษาเป็นนัยแห่งความรู้ได้ดังนี้

ต้องลงด้วยอักขระธัมหรือตัวธรรม (คนละแบบกับตัวขอมตัวธรรมเป็นอักขระที่ใช้จารคัมภีร์และคาถาของคณาจารย์แถบลุ่มน้ำโขง)ต้องผูกอักขรธรรมเป็นกลยันต์ 16 มุม แต่ละมุมแบ่งออกเป็น 16 ชั้นแต่ละชั้นลงอักขระ 16 ตัว ตัวละช่อง ลงครบแล้วถือเป็น 1 ครั้ง เวลาลงก็ลงด้วยดินสอพองแล้วลบเอาผงมาใช้ หลังจากลงครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปไม่ต้องลงอีก เพียงเอาผงลูบกระดานก็จะปรากฏเป็นตัวยันต์ขึ้นมาแล้วบลเอาผงอีก คือหมายความว่าลงด้วยมือเขียนครั้งเดียวต่อไปไม่ต้องเขียน
เข้าทำนองถ่ายซีร็อกว่างั้นก็ได้

ผู้ที่ทำผงนี้ได้สำเร็จจะบันดาลให้เทพเทวะทั้ง 16 ชั้นฟ้า ชั้นดิน 14 บาดาล 21 ชั้นพรหม ภควพรหม จนถึงสุทธาวาสขึ้นมาอำนวยพรผงนี้จะอุดมด้วยวาสนา บารมี ลาภสักการะปรารถนาสิ่งใดก็ได้ดังหวัง

 

ขอยืนยันสิทธิ์เดิมครับ ร่วมจององค์นำฤกษ์ 1 องค์ครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

องค์ปู่พระพิราพนำฤกษ์ 5 นิ้ว สร้าง 24 องค์...ไม่ทราบว่ายอดจองเต็มหรือยังครับ