พระผู้เป็นเจ้าอยู่ดาวอื่น และมีหลายองค์ แล้วใครคือผู้ดูแลโลกใบนี้กันแน่ละ?

นอกเรื่องหน่อยนะ เรื่อง "สัจจะ" (the promise)


ครั้งหนึ่ง พระถังซัมจั๋ง ให้สัจจะกับนางแมงมุม
ว่าจะแต่งงานกับนางแมงมุม (นางแมงมุม ก็คือ
ผีแม่หม้าย บ้านเรานะแหละ) ต่อมา ท่านมารู้ว่า
ไม่ใช่มนุษย์ เป็นปีศาจ ซุนหงอคง ก็เลยไปช่วย
ออกมา สรุป "พระถังซัมจั๋ง ผิดสัจจะต่อนางแมงมุม"


ต่อมา นางแมงมุม ก็เลยตามอาฆาตหลายชาติเลย
ทำให้ท่านมาเกิดใหม่ แล้วจะแต่งงานทีไร ก็มีปัญหา
ทุกที ครั้งหนึ่ง ท่านเกิดเป็นจอหงวน ได้ไปขอหญิง
สาวแต่งงาน แม่เขาก็ให้สัจจะว่าจะให้แต่งกัน ถ้าได้
"จอหงวน" ทว่า แม่ของหญิงสาวนั้น ก็ผิดสัจจะกับ
ท่าน เอาละ เป็นที่มาของซี่รี่ย์อำมตะเชียวนะ และ
เป็นที่มาของ "จิตวิญญาณ" แค้น ที่ทวง "สัจจะ"
กับมนุษย์ ไม่เชื่อใจมนุษย์ เพราะมนุษย์ไม่มีสัจจะ
และแม่ของหญิงสาวนั้น จึงต้องมาบำเพ็ญสัจจะ
ในประเทศไทย เธอให้สัจจะมากมายว่าจะทำอะไร
ให้ประชาชน ฯลฯ



เล่าให้ฟังกันเล่นๆ

 

มีอะไรแบบนี้ อยู่ด้วยอ่ะป่ะ?

 

"วัวใคร เข้าคอกคนนั้น"


วันหนึ่ง เขาจะกลับมายัง
สังขารเดิม วันนั้น คือวัน
ที่เราต้องโปรดเขาด้วย
ความรักที่บริสุทธิ์


ไม่ว่าเขาจะเป็นพวกมืด
หรือพวกคลาสสิค ก็ตาม

 

"กฏแห่งกรรม" ก็ เป็นเรื่องธรรมชาติ
เป็นเรื่องสากลกับทุกๆ สิ่งไม่มียกเว้น
แต่มนุษย์ได้รับรู้ "กฏแห่งกรรม" ก็แต่
เล็กน้อยเท่านั้น เท่าที่พระพุทธเจ้าฯ
จะทรงเปิดให้รู้


พระเจ้ามีกรรม ทำเงื่อนไว้กับโลกแล้ว
ยังไม่อาจแก้ได้หมด ท่านจึงยังไม่ได้
นิพพานไงละ นั่นแหละ กรรมของท่าน

 

นารายณ์องค์ดำ นารายร์องค์ขาว นารายณ์องค์ทอง


พลังมืด มีสีดำ, พลังสว่าง มีสีขาว, พลังคลาสสิค มีสีทอง
พลังทั้งสาม แตกต่างกัน แม้ว่าจะมี "รูปนารายณ์" เหมือน
กัน ทว่า พลังงานพื้นฐานต่างกัน วิถี ความคิด จึงต่างกัน

 

ลัลล้า ลัลล้า ทายสิ ว่าเขาจะเป็นองค์ขาว องค์ดำ หรือองค์ทองละ?

 

พระเจ้าปกครองโลกนี้คือ ผมเอง

 

นอกเรื่องอีกหน่อยหนึ่ง เรื่องบัลลังก์ของพระพุทธเจ้า


เรื่องมีอยู่ว่า บัลลังก์ของพระพุทธเจ้า เหมือนของพระยา
มาราธิราช เป๊ะเลย ก็มันอย่างเดียวกันนะสิ ทว่า มันคนละ
อันกัน อันนี้ ทำให้พระยามาราธิราช มาเล่นงานท่านด้วย
แต่ที่น่าแปลกก็คือ "พระโพธิสัตว์ ปกติ จะมีบัลลังก์เป็น"
อาสน์บัว นะครับ อาสน์บัว สามชั้นบ้าง สองชั้นบ้าง ก็ว่า
กันไป ถ้ามีแปลกๆ โผล่มา ก็แสดงว่าเป็น "พลังงานเก่า-
ของเก่าที่ต้องมาเก็บ" อะไรแบบนั้นละ

 

ในหนังเขาก็ต้องสื่อให้ชัดแบบนั้น
แต่มันก็มีสองมุมนะ มุมที่เขาถูกทำให้
มีปมมืดในใจ เพราะ ผู้หญิงคนนั้นผิดสัจจะ
ต่อเขาก่อน (เขาให้ขนมเด็ก แล้วให้เด็กต้อง
แต่งงานกับเขา เมื่อโตขึ้น เด็กก็คือ นางเอก)


ของบางอย่าง มันก็มีสองด้านสองมุมให้พิจารณา

 

นารายณ์แสนรู้ มีอยู่องค์หนึ่ง


องค์นี้แอบไปขโมยกินผลไม้แห่งการหยั่งรู้
เข้า ทำให้มีความรู้มาก รู้เยอะ รู้ไปหมดเลย
แล้วก็ถูกทัณฑ์สวรรค์ ก็หนีมา กลายเป็นซาตาน


เอาละ มันไม่จบแค่นั้นละ เพราะความรู้มากนั้น
กลายเป็น "พิษ" แพร่กระจายอยู่ในศาสนาพุทธ
ด้วยละ เอ? แล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร?


พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า (กายที่มีธรรม)
กลับไม่มีคำอธิบายในธรรม อะไรเลย เพียงยก
ดอกบัวหนึ่งดอก พระมหากัสสปะก็บรรลุธรรม
ทว่า "นิรมาณกาย" (จิตวิญญาณชั้นนอก) ของ
ท่าน กลับมีธรรมมากมาย รู้มาก รู้เยอะไปหมด
ดึงคนทั่วไปมาชุมนุมกันฟังท่านมากมาย ทว่า
คนทั้งหลาย จะได้ยินธรรมะจากพระธรรมกาย
ของท่าน หรือจาก "นิรมาณกาย" ของท่านละ?

 

"พระธรรมกาย" และ "นิรมาณกาย" ทำงานร่วมกัน?


พระธรรมกายของพระพุทธองค์ "ไร้รูป-ไร้ลักษณ์" ด้วยวิญญาณขันธ์
นิพพานเมื่อครั้งตรัสรู้ มีลักษณะเหมือน "แสงแห่งธรรม" เท่านั้นเอง
ทว่า ด้วย "นิรมาณกาย" ที่ "แปลงร่างเป็นรูปพระพุทธเจ้าได้" นั้นละ
ที่เข้ามาช่วยในการดึงคนที่มีจิตมาร เช่น พระองคุลีมาร ท่านก็ใช้แต่
"นิรมาณกาย" ที่แปลงกายเหมือนพระพุทธเจ้าไป โปรดองคุลีมารได้


ทว่า "พระธรรมกาย" ของท่าน ที่ดำรงอยู่ในสังขารนั้นกลับไร้รูปลักษณ์?
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้ดุพระสาวกรูปหนึ่ง ที่ "ยึดติดรูปลักษณ์" ของท่าน
ในรูปลักษณ์แห่งพระพุทธเจ้านั้น เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้พระสาวกนั้นได้เข้า
ถึง "พระธรรมกาย" อันแท้จริง ที่มีธรรมแท้จริงอยู่ มิใช่หลงในนิรมาณกาย

 

ไม่แน่นะ พระพุทธเจ้าอาจใช้พลังงานเก่า
เป็นเครื่องจูนให้คนเข้ามาหาท่านก็ได้
แม้ว่าพลังงานเก่าบางอย่างอาจเป็นมาร
หรือเป็นภาคมืด นั้นไม่ใช่สาระ เพราะเขา
มีพันธกรรมผูกมัดกับปวงสัตว์ จึงจูนสัตว์
เข้ามาได้ แต่ถ้าไม่มีพลังงานเหล่านี้ สัตว์
ก็จะเอื้อมไม่ถึงซึ่งพระบริสุทธิคุณของท่าน


ดังนั้น จะนับภาษาอะไรกับลูซิเฟอร์ละ
ถ้าใช้ได้จูนสัตว์ได้ ก็อาจจะโอเคน่ะ?

 

นิรมาณกาย ผู้รู้ รู้มาก
นั้น หาใช่พระธรรมกาย
เข้าถึงซึ่งพระธรรมกาย
แม้แต่รู้หรือไม่รู้ ก็ไม่ต่างกัน


ติดตัวรู้ ติดรู้ ติดผู้รู้
ย่อมติดอยู่ในนิรมาณกาย
ไม่อาจเข้าถึงซึ่งพระธรรมกาย
เพราะ "พิษแห่งความรู้มาก"

 

"จิตสู่จิต-จิตต่อจิต"


ระดับจิตเท่านั้น จึงเทียบเท่ากัน
จิตนั้น เหมือนกัน ไม่ว่าจิตใคร
บริสุทธิ์เช่นกันคือ จิตประภัสสร
คือ "พระจิต" คือ ทางสู่พระเจ้า


วิญญาณขันธ์ปรุงแต่ง หลอกล่อ
บดบัง จิตไว้ เขาคือ "ขันธมาร"
ผ่านด่านขันธมารได้ จึงถึงจิต

 

กายทั้งสามของพระพุทธเจ้า นิพพานเพียงบางส่วน
และท่านจะกระทำนิพพานส่วนที่เหลือ อีกครั้ง เมื่อสิ้น
อายุพุทธกาล 5,000 ปี ต่อหน้าเหล่าเทวดาทั้งหลาย


ธรรมกายของพระพุทธเจ้า นิพพานบางส่วนเฉพาะขันธ์ ยังเหลือจิต
สัมโภคกายของพระพุทธเจ้า นิพพานบางส่วนเหลือ "พระธาตุ" ไว้
นิรมาณกายของพระพุทธเจ้า ยังไม่นิพพาน ยังวนเวียนทำกิจอยู่ต่อไป


ส่วนที่มี "ธรรมแท้" คือ "พระธรรมกาย" เท่านั้น ซึ่งนิพพานบางส่วน
ทรงยังเหลือ "มโนธาตุ" ไว้ เพื่อโปรดสัตว์แบบจิตสู่จิต จนครบห้าพันปี
ตรงสู่จิตของท่านนี้ อย่าหลงออกไปยังนิรมาณกายที่เหลืออยู่ของท่าน


(เมื่อก่อนสหายธรรม ก็ถอดกายทิพย์ไปเข้าเฝ้าส่วน "นิรมาณกาย" ของ
ท่านที่ยังไม่นิพพานอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ค้นพบส่วน "ธรรมกาย" ของท่าน)

 

นิรมาณกายของพระพุทธเจ้าที่ยังไม่นิพพาน
ก็คือ "พลังงานเก่าของพระพุทธเจ้า" นั่นเอง
ดังนั้น ถ้าเราเชื่อมต่อไปยังพลังงานเก่าที่ผิด
ตัวตน (หลายตัวตน หลายมิติ) เราก็จะได้รับ
"ธรรมที่ไม่ตรงนิพพาน" ได้ ดังนั้น เราจึงต้อง
ตรงถึง "ธรรมกายของพระพุทธเจ้า" จริงๆ ไม่
ใช่นิรมาณกาย หรือพลังงานเก่าอื่นๆ ของท่าน


เอาละ พูดมาก เดี๋ยวเขาหาว่าบ้าไปใหญ่
หมดเวลาแล้วด้วย บะบายนะครับ


:z8

 

ฝนตก กลับบ้านยังไม่ได้
เลยมาอีกรอบละ 555

 

god ก็คือ กฎแห่งกรรม

 

อย่างนี้ต้องรวมพลังสร้างพลังงานใหม่คุ้มครองโลกมั้งคะ

 

ธรรมชาติไงครับ เป็นรูปแบบการดูแล ตอนนี้กำลังจัดเรียง backup data คงจัดหนักในไม่ช้านาน