มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6127529" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>รถแม็คโค ขุด ครั้งแรก เจอไม้ตะเคียน ที่ จม ในลำธารน้ำ รถแม็คโค ลื่นไถล ถอยหลังทันที...

เมื่อ รถแม็คโค ตั้งหลักขึ้นมาใหม่ ...เพื่อขุดอัญเชิญ ไม้ตะเคียน ..
ไม้ ตะเคียน ที่เห็น ในครั้งแรก กลับ หายไป อย่างไร้ร่องรอย...

( วันนี้ พี่สอน กราบเรียน เรื่องนี้ และ การ นิมนต์ หลวงพ่อ มาเปิดพิธี ในการ อัญเชิญ บอกกล่าว เทพภูมิ ท่านแม่ตะเคียน )

ต่อมา พี่สอน ฝัน ว่า...แม่ตะเคียน บอกว่า วันนี้ ไม้ตะเคียนจะขึ้นแล้ว ( 16 เมษา 2555 )
วันเกิดเหตุ แผ่นดินไหว บ้านบางขาม ณ.ควนตาแท่น ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 16 เมษา 2555 พี่สอน เลยไม่กล้า จะขุด
เมื่อมา ดู ตรงสถานที่ เดิม ..

ปรากฏ ว่า มี ต้นตะเคียน โผล่ ขึ้นมาจากลำธาร จุดเดิม ประมาณ เกือบ 2 เมตร ...

แล้ว ท่านคิดว่า ...บังเอิญ หรือ ธรรมชาติ , แผ่นดินเคลื่อนตัว , ปล่องภูเขาไฟ ปะทุ ณ. จุดนี้.. กับเหตุการณ์ ต้นตะเคียน และ แผ่นดินไหว และ นิมิต ของ ผม นาคา ...


</TD></TR></TBODY></TABLE>
หลังจาก หลวงพ่อแนบ ท่านเมตตาสวดมนต์ ถอนพัทฯ (เสา หรือต้นตะเคียน )

ภาพส่วนไม้ตะเคียน ที่โผล่ขึ้นมาจาก ดิน ในลำธาร ข้าง โคนตะเคียนเก่า (ในวันเกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลาง ควนตาแท่น จุดนี้ วันที่ 16 เมษา 2555 )
...ซึ่ง ไม่ปรากฏ รอยแยก ของพื้นดิน ตามคำบอกเล่า ของชาวบ้านในพื้นที่.

หลวงพ่อปานขาว ท่านเมตตา กล่าวว่า..
ถ้า รถแม็คโค นำ ต้นตะเคียน ขึ้นมาใด้ ให้ นำใว้ ๕ ส่วน..
๑. อัญเชิญใว้ วัดสิริสีลสุภาราม หรือวัด หลวงปู่สุภา
๒. อัญเชิญใว้ วัดเกาะแก้วพิสดาร หลวงพ่อเสือ
๓. อัญเชิญ สร้างบารมี จีน พุทธสถาน องค์พระศรีอริยเมตตรัย..
๔. อัญเชิญ สร้างบารมี วัดป่านานาชาติ (หลวงปู่ชา )ฝรั่งเศล
๕. อัญเชิญ สร้างบารมี .....

สังเกตุ ที่ มีการ สวด ถอนพัทฯ ,เสา หรือ..

มีบางท่าน กล่าวว่า..
สถานที่ตรงนี้ เป็น พุทธภูมิ เก่า..

ซึ่ง ในการปักกลด ในคืนวันที่ มีภพซ้อนภาพ ในมิติ หลายภพ ในจุดนี้ ที่ ผม , บางท่าน สัมผัส กัน..
ภพ ล่าสุด สมรภูมิเก่า ศึกถลาง สงคราม 9 ทัพ (องค์ย่าจัน ย่ามุก )
ภพ ก่อนนั้น เป็นสถานที่ สำคัญ บางอย่าง..

เป็นไป ไหม สถานที่ตรงนี้ เคยเป็น เมือง หรือชุมชนเก่า ที่มี เสา ....

สังเกตุ มี พี่ชายท่านหนึ่ง ใส่เสื้อสีเหลือง ท่านนี้ มีสัมผัสพิเศษ ด้วย ตาทิพย์
ท่านกล่าว เลย ว่า...
มีพญานาค มาร่วมพิธี ในครั้งนี้..หลายท่าน..ท่านถามตรงๆ เลยว่า..ใครฯ (ซึ่งมี หลายท่าน ฯ)
และ เป็น บุคคล ที่ เกี่ยวเนื่อง ทั้ง องค์หลวงพ่อ...

ซึ่ง ต่อมา คณะบึงลับแล เข้ามา กราบสักการะ พุทธบาท รอยที่ ๕ นัมทานที เกาะแก้วพิสดาร , กราบ หลวงปู่สุภา , และ กางเต้นท์ ที่ บริเวณ ควนตาแท่นนี้ ใน คืนก่อนจะ มีพิธี สมโภชน์ ประจำปี ท้าวเทพกษัตรีย ท้าวศรีสุนทร (ย่าจัน ,ย่ามุก ) ตาม link ที่แนบต่อท้าย...

ส่วนนิมิต เพิ่มเติม ที่ ผม นาคา ใด้มานาน แล้ว คือ..

ใด้พบ และ อัญเชิญ แม่ตะเคียน ขนาด ๒ ถึง ๓ เมตร แกะ แบบ สร้าง องค์พระพุทธ ใว้สถาน เรือนธรรม ฯ ตามวาระจัดสรรค์ ..
ซึ่งในการนี้ คงแล้วแต่ ...วาระธรรม ..ในการสร้างบารมี ทั้ง ส่วน เทพฯ..เพราะ ขนาดใหญ่ ไม่ใช่ง่ายๆ ต่อ...และ ปัจจัย ...
ถ้า....บางท่าน ยังต้องนำมา คืน ใว้ที่เดิม..
---
และ หลังจาก กลุ่ม ผม ปักกลด ณ. สถานควนตาแท่น ต่อมามี น้องสาว ท่านหนึ่ง สร้าง ขนำ ในการ ปฏิบัติภาวนา ให้ ตรง น้ำตก ก่อนถึง ควนตาแท่น จุดนี้..
เพื่อน ๒ ท่าน เดินขึ้น ตามลำธาร น้ำตก เจอ ไม้ตะเคียนทอง ต้นใหญ่ ล้มแล้ว เช่นกัน ต่อมา พบ ว่า...มี งูจงอาง กำลัง เขมือบ งู เหลือม พอดี ใกล้ไ จุดนี้..
เพราะ เท่าที่ ทราบ ...ตะเคียนทอง ตรงนี้ มีหลายท่าน สนใจ อัญเชิญ ใว้ตาม...ต่างๆ ทั้ง ส่วนใหญ่ , ส่วนน้อย..
ถ้า ธรรมะ ,เทพ ท่าน จัดสรรค์ ในกาล เพลา หน้า
คงใด้ องค์พระทรง ยืน ปางโปรดฯ.. , หลวงปู่ทวด ปาง ธุดงส์ โปรดสัพสัตว์.


http://palungjit.org/threads/มหานาค...นทีพระพุทธบาท-up-น-15-ว-สื่อสาร.124284/page-7

 

และ จากคำบอกกล่าว ของ ....ท่านกล่าวว่า...
มีการปลดปล่อย พลังงาน ของ ...ใต้พื้นดิน มาปะทุ จุดนี้ พอดี เลย เกิด เหตุ การสะเทือน เสมือน ฟ้าผ่า หรือ ระเบิดใต้ดิน ใน วันที่ 16 เมษา 2555
( ผม ต้อง ปิด ข้อมูล บางส่วน เพระ อาจจะมีผลต่อ กฏหมาย การ พิมพ์ ข้อความ เผยแผ่ ต่อ สื่อสาธารณะ ฯ ..เมื่อวาน วันอาทิตย์ ใด้คุยหลังไมค์ แล้ว ในกลุ่ม ตาม โพสส์ ข้างบน )
ด้วย พระ เมตตา ของ องค์หลวงพ่อ ท่าน เมตตา นั่งสวดมนต์ ณ. ตรงจุด ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ควนตาแท่น บ้านบางขาม ศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต..

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว หวั่นประชาชนสับสน แจ้งผ่านเว็บ ระบุเวลา 16.44 น. เกิดแผ่นดินไหวศูนย์กลางใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ขนาด 4.3 ริกเตอร์...

ภายหลังเกิดความสับสนในข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวจากหลายหน่วยงาน ล่าสุดเว็บไซต์ รายงานแผ่นดินไหว , สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ของสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหว วันที่ 16 เม.ย. 2555 เวลา 16.44 น. ศูนย์กลาง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต (8.02,98.37) ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ซึ่งหลังจากนั้น เวลา 16.46 น. เกิดแผ่นดินไหวที่ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ขนาด 5.4 ตามมา ก่อให้เกิดความสับสนในข้อมูล ซึ่งเหตุการณ์ที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประชาชนได้รับรู้แรงสั่นไหวได้ในหลายพื้นที่.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
---
MThai News : จากเหตุการณ์แผ่นดินไหววานนี้(16 มษายน) จนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ที่จังหวัดภูเก็ต และจากข้อมูลคาดว่าเป็นผลจากแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ริกเตอร์ ที่อินโดนีเซียนั้น
ล่าสุดเว็บไซต์ของสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศว่า เมื่อเวลา 16.44 น.ของวันที่ 16 เม.ย. 2555 ได้เกิดแผ่นดินไหว มีศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ละติจูด 8.02 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.37 องศาตะวันออก ที่ความลึก 10 กิโลเมตร วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.3 ตามมาตราริกเตอร์ ซึ่งประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้
หลังจากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา ในเวลา 16.46 น. ก็เกิดแผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางบริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ละติจูด 0.86 องศาเหนือ ลองจิจูด 92.40 องศาตะวันออก ขนาด 5.5 ตามมาตราริกเตอร์
------
แม้ ว่า..จะมี แรงสะเทือน ตามมา หลายครั้ง ..ด้วยความไม่ประมาท ใน...สติ.

 

เตือนโลกจะโดนภัยพิบัติ จากอิทธิฤทธิ์ของ 'ดวงอาทิตย์พิโรธ' รุนแรง

รายงานข่าวจากกรุงลอนดอนแจ้งว่า นักดาราศาสตร์ได้กล่าวเตือนว่าดวงอาทิตย์กำลังเริ่มเข้าสู่ยุค "พิโรธร้ายสุด" โลกอาจจะโดนกระหน่ำด้วยพายุอาทิตย์อันดุเดือด ก่อความพินาศอย่างป่นปีให้กับมนุษยชาติได้

เหล่านักวิทยาศาสตร์กล่าว ว่า โลกกำลังต้องเผชิญกับ "พายุอวกาศ" ซึ่งอาจจะตัดขาดการสื่อสารด้วยดาวเทียม เครื่องบินไม่อาจขึ้นลงได้ ก่อให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ ราวกับโดนพายุ "คาตรินา" ระดับโลก สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท การปะทุครั้งมหาวินาศของดวงอาทิตย์จะส่งคลื่นรังสีและอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้า มายังโลก ทำลายระบบดาวเทียม การเดินทางทางอากาศ และขอบข่ายโทรศัพท์ลง

หากว่า พายุรุนแรงถึงขนาด ยังอาจจะสร้างความกระทบกระเทือนจนถึงกับตลาดหุ้นล่มได้ และไฟฟ้าอาจดับอยู่นานเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เหตุร้ายจากอวกาศจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เพราะดวงอาทิตย์จะย่างเข้าสู่ช่วงพิโรธรุนแรงที่สุดในราวปีพ.ศ. 2556 นี้.


ไทยรัฐออนไลน์


• โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
• 25 กุมภาพันธ์ 2554, 10:00 น.



2013 ระบบสุริยะวิปริต อวสานโลก ?

ตามปฏิทินของชนเผ่ามายาที่ทำไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ออกคำทำนายไว้ว่า ปี พ.ศ.2555 หรือ ค.ศ.2012 จะเป็นวันอวสานโลก ถึงขนาดทำเป็นหนังฉายให้คนทั้งโลกได้ดูสุดยอดมหาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงปี 2012 ผลจากความแปรปรวนของสุริยะจักรวาลและความผิดปกติของแสงอาทิตย์

ด้านนักวิทยาศาสตร์ก็มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องจักรวาลและอวกาศ ได้ค้นพบความวิปริตของระบบสุริยะจักรวาลที่ส่งผลต่อทั้งโลก ทั้งพายุฝน น้ำท่วม น้ำแล้ง แผ่นดินไหว สึนามิ มีผู้สังเวยชีวิตมหาศาล แล้วตอนนี้ที่หิมะและอากาศเย็นยะเยือกกระหน่ำยุโรป ก็คาดเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ปี 2012 จะเป็นวันอวสานโลกจริงตามคำทำนายที่ชนเผ่ามายาระบุไว้หรือไม่....ไม่มีใครรู้

แต่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่น ไมโครเวฟอินฟาเรด องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซา เจ้าของรางวัลวิศวกรดีเด่นจากนาซา ในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระบบตรวจจับพลังงานคลื่นไมโครเวฟจากนอกโลก เป็นนักวิทยาศาสตร์ไทยอีกคนที่ออกมาเตือนให้ทุกคนทราบถึงความปั่นป่วนของ ระบบสุริยะจักรวาลที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อโลกโดยตรง

เขาบอกว่า จากการศึกษาไม่ใช่ ปี 2012 แต่เป็นปี 2013 ที่โลกจะเผชิญหายนะสูงสุด แม้จะไม่ตรงกับวันสิ้นโลกในปฏิทินของชาวมายา แต่ก็ได้ความว่า อีก 3 ปี พวกเราไม่รอดแน่ เป็นข้อมูลที่น่าตกใจ

ดร.ก้องภพ ให้ดูภาพเกี่ยวกับโลก ทางช้างเผือก ระบบสุริยะ และกาแล็กซี่ของโลก พร้อมระบุสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจากการศึกษาและรวบรวม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่เกี่ยวข้องกับองค์การนาซาที่กำลังทำงานอยู่ และเขาบอกว่า ปี 2556 หรือ ค.ศ.2013 เป็นปีที่จะเกิดโนวาการระเบิดที่มีพลังงานมากที่สุด

มันจะปลดปล่อยพลังงาน มหาศาล เพราะมีแนวโน้มว่าปฏิกิริยาพระอาทิตย์จะขึ้นสูงสุดในต้นปี 2013 นี้ และเกิดการพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดทั้งความร้อนสูงและการหดตัวของระบบสุริยะ

ช่วงนั้นดวงอาทิตย์โคจร ตัดผ่านทางช้างเผือกในทุก ๆ 33-35 ล้านปีพอดี ซึ่งทางช้างเผือกมีมวลของดาว 2,000-4,000 ล้านดวง หากเกิดการบีบหดตัว ดวง ดาวและอุกกาบาตบางส่วนจะกระเด็นเข้ามาในระบบสุริยะ ซึ่งเมื่อ 35 ล้านปีที่ แล้วเป็นช่วงที่มีอุกกาบาตเข้ามาเยอะ แต่ความเสี่ยงจะมากกว่า 10 เท่า ในปี 2013

"ตลอดระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียทำงานองค์การอวกาศรัสเซียเทียบเท่านาซา สำรวจระบบสุริยะ พบมีการเปลี่ยนแปลงขอบด้านนอกสุดของระบบสุริยะ

โดยวัดปริมาณความสว่างสูง ขึ้น 1,000% มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เชื่อว่ามีพลังงานบางอย่างเข้ามาในระบบสุริยะ นาซาเองก็พบการเปลี่ยนแปลง เช่นกัน ภาพถ่ายจากดาวเทียม Imax ที่โคจรรอบโลก ปรากฏพลังงานที่เล็ดลอดเข้ามาในะบบสุริยะ เดินทางด้วยความเร็วสูง

แนวที่มี พลังงานรั่วใกล้กับทางช้างเผือก แล้วยังค้นพบว่า เมื่อวัดแกนพลังงานนี้มี การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในระยะ 6 เดือน ไม่ใช่ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นี่เป็นสิ่งที่นอกเหนือการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์"

ดร.ก้องภพ ให้ข้อมูลอีกว่า นอกจากรายงานของนาซายืนยัน การบินอวกาศยุโรปยังมีภาพแบบร่างพลังงานสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่และความร้อนสูงมากเคลื่อนตัวเข้าหาดวงอาทิตย์ แล้วยังมีข่าวอย่างเป็นทางการระบุการบีบอัดของชั้นขอบนอกระบบสุริยะ จะทำให้พลังงานรังสีคอสมิกเข้ามาในระบบสุริยะมากเป็นพิเศษ ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนโลก

นอกจากนี้ มีหลักฐานแสดงให้เห็นดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงสุดในรอบ 8,000 ปี และการที่นาซาส่งดาวเทียมโคจรที่ขอบด้านนอกเพื่อวัดความดันลมสุริยะช่วงปี 2547-2551 พบว่า ความเร็วลมสุริยะลดลงมาก ผลจากพลังงานบางอย่างเข้ามาบีบอัดลมสุริยะให้ลดลง สอดรับกับข่าวล่าสุด

ยืนยันมีการเปลี่ยนแปลงด้านนอกสุดของระบบสุริยะ ส่งผลให้ความเร็วลมสุริยะลดลง 20 กิโลเมตรต่อวินาที ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2550 เป็นต้นมา และในตอนนี้ดาวเทียมวัดความเร็วลมสุริยะพบว่าลดลงถึง 0 แล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ถึง 4 ปี

"ดวงอาทิตย์มีวัฏจักร ทุก ๆ 11 ปี จะมีการพลิกกลับขั้วของสนามแม่เหล็กและเป็นช่วงที่เกราะป้องกันดวงอาทิตย์ ต่ำสุด คาดการณ์ว่าจะเกิดปี 2013 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า

ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง จากการสำรวจของดาวเทียม ช่วงที่ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยาสูงสุด ทั้งฝุ่นละอองและอุกกาบาตเข้ามามากเป็นพิเศษ มีผลกระทบต่อดาวเคราะห์ทุกดวง" วิศวกรอาวุโสไทยองค์การนาซา กล่าว

เขายังให้ภาพความปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะถ้วนหน้า ตั้งแต่ดาวพลูโต ที่พบความกดอากาศเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด ภาพดาวเนปจูนแสดงให้เห็นความสว่างจ้าของชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ดาวยูเรนัสก็เช่นเดียวกัน ความสว่างเพิ่มขึ้น กลุ่มเมฆมาก และมีการพลิกกับขั้วของสนามแม่เหล็ก ดาวเสาร์มีการเปลี่ยนแปลงในแนวเส้นศูนย์สูตรและเกิดปรากฏการณ์ออโรรา

คือ มีแสงบนท้องฟ้าตอนกลางคืน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กอย่างมาก ดาวพฤหัสก็สว่างขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ และร้อนจัดขึ้น

ส่วนดาวอังคารเกิดสภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ มีพายุ มีการก่อตัวของเมฆในชั้นบรรยากาศดาวอังคาร ดาววีนัสสว่างขึ้น 2,500 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 30 ปี แม้แต่ดาวพุธก็ค้นพบสนามแม่เหล็กสูงมาก และเกิดน้ำแข็ง มีฝุ่นละอองที่พัดออกมา ส่วนหนึ่งมาจากความดันลมสุริยะลดลง

สำหรับดาวเคราะห์โลกที่มนุษย์อาศัยก็เปลี่ยนแปลงมาก วิศวกรอาวุโสไทยจากองค์การนาซา เปิดเผยว่า จากการวัดปริมาณรังสีคอสมิกมีสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ปริมาณจะลดลง แต่ปรากฏว่าไม่เป็นเช่นนั้น

"รังสีคอสมิกถ้ารับปริมาณมาก สิ่งมีชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ รวมถึงเกิดการกลายพันธุ์ เป็นโรคมะเร็ง แต่ไม่ต้องกังวลมาก การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ปริมาณฝุ่นละอองที่เข้ามาในโลกมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะสูงขึ้นอีก 13 เท่าตัว ในปี 2556 ปริมาณอุกกาบาตที่วัดได้มีสูงมากในปี 2541 อาจเพราะมีเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุหรือมีอุกกาบาตเข้ามาเยอะขึ้น ฝนดาวตกก็เพิ่มขึ้น ยืนยันปรากฏการณ์นี้แสดงว่ามีวิกฤติเข้ามาในโลกมากขึ้น"

ดร.ก้องภพ กล่าวต่อว่า อีกความผิดปกติที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศรอบนอก ธรรมดาเกิดขึ้นทุก 11 ปี แต่เมื่อวัดครั้งสุดท้ายผิดไปจากเดิม 28 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ชั้นบรรยากาศลดต่ำลง ส่งผลให้โลกของเราไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก

เช่นเดียวกับภาพจากดาวเทียมวัดสนามแม่เหล็กรอบนอกแสดงให้เห็นรูรั่ว ที่มี อนุภาคและพลังงานหลุดลอดเข้ามาส่งผลต่อสภาพอากาศโลก ขั้วโลกเหนือน้ำแข็งละลาย ขั้วโลกใต้หิมะน้ำแข็งเพิ่มขึ้น

เวลานี้มีรายงานวิจัยมากขึ้น ชี้สนามแม่เหล็กโลกส่งผลกระทบต่อรังสีคอสมิกที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพเมฆและก่อตัวของเมฆ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงความถี่ในการ เกิดแผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อโลกมากเป็นประวัติการณ์ ปี 2553 ทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ความร้อนที่เกิดขึ้นบนโลก

ทั้งอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ความสว่างของดวงอาทิตย์ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ในทางเดียวกัน ทั้งยังมีข้อมูลสถิติปี 2552-2553 ระบุความสูญเสียจากภัยพิบัติเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

ปี 2556 ที่ ดร.ก้องภพ คาดการณ์ว่าดวงอาทิตย์จะมีปฏิกิริยาสูงสุด จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อดาวเทียม อุกกาบาตหรือหินนอกโลกอาจทำให้ดาวเทียมเสียหาย มนุษย์มีความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะว่าจะได้รับรังสีแกมมา และคอสมิกปริมาณมาก รวมถึงเครื่องบินตก มีข้อมูลว่า 2-3 ปีมานี้ ปริมาณการส่งดาวเทียมไปนอกโลกจากทั่วโลกลดลง ก็ขึ้นกับการตี ความ ปี 2553 เป็นเพียงเริ่มต้นปฏิกิริยาสูงสุดของดวงอาทิตย์ อีก 3 ปีข้างหน้าจะรุนแรงขึ้น

ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ปี 2402 มีผู้บันทึกไว้ว่าเกิดปฏิกิริยาพระอาทิตย์ครั้งใหญ่ ปีนั้นแสงอาทิตย์สว่างจ้า ระบบโทรเลขทำงานโดยอัตโนมัติ คนใช้โทรเลขถูกไฟฟ้าช็อตจากพลังงานที่เข้ามา ปัจจุบันผลกระทบจะสูงกว่าครั้งนั้น

อาจเกิดไฟฟ้าดับทั่วโลกหรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกใช้การไม่ได้ ระบบหม้อแปลงไป จนถึงสายส่งเสียหาย สภาพอากาศแปรปรวน พายุถล่ม น้ำท่วม รวมถึงแผ่นดินไหว ต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และหาวิธีอยู่รอด

"พื้นที่เสี่ยงกับปฏิกิริยานี้ คือ ขั้วโลก สหรัฐ แคนาดา ประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตรเสี่ยงน้อยกว่าแต่ไม่ใช่ไม่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ ประมาท พม่าย้ายเมืองหลวงไม่มีเหตุผล เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ สร้างเมืองตัวอย่างลอยน้ำ

คาดว่าแล้วเสร็จปี 2013 หรือปี 2555 ทางการนอร์เวย์ย้ายศูนย์บัญชาการทหารลงใต้ดินเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัสเซียสร้างที่หลบภัยใต้ดิน 5,000 จุด เสร็จในปี 2012 นี่คือสิ่งที่แต่ละประเทศเตรียมการไว้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด" ดร.ก้องภพ กล่าวโดยไม่สรุปใด ๆ เพราะต้องการทำหน้าที่ให้ความรู้จากข้อมูล วิทยาศาสตร์ที่ได้ศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนจะเชื่อหรือไม่ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม ดร.ก้องภพ ฝากทิ้งท้ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือภัยพิบัติที่จะมีขนาดความรุนแรงแตกต่างกัน นโยบายของภาครัฐควรเน้นการป้องกันเพื่อลดการสูญเสีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อประชาชนเดือดร้อนมาก อยากให้แก้ที่ต้นเหตุ และใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพตรวจจับสิ่งผิดปกติ มีกระบวนการแจ้งเตือนล่วงหน้า รวมถึงสร้างสถานที่หลบภัย ซ้อมอพยพบนเส้นทางหนีภัย อีกมาตรการหนึ่งที่สำคัญ เป็นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

ส่วนคนทั่วไปต้องเรียนรู้พึ่งพาตัวเอง นอกจากหวังพึ่งรัฐที่อาจช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที เช่น สร้างคลังอาหารสำรองในพื้นที่ ปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงสำรองอาหารและอุปกรณ์ยังชีพที่จะใช้เอาตัวรอดในเหตุฉุกเฉิน 3-5 วัน ระยะยาวเห็นว่าทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์

 

ทริป ทิพยภาวนา ภูควาย เดินดงส์ โยคาวจร ไปกลับ 8 กม.กราบสักการะพระบาทแอวขัน สปป.ลาว

17 พค.
04.00 น.ขับรถส่วนตัว เข้าสู่ เส้นทาง ภูเก็ต- แวะ บ้านคุณพ่อ ที่ คุระบุรี
08.30 น. ล้อหมุน จากคุระบุรี เส้นทาง ระนอง แวะ บ้าน น้องตา บทวรรณ์ เพื่อน ของแม่บ้าน เธอ ใจดี จัดทำอาหารบรรจุ กล่อง เพื่อ สร้างบุญ กับผม..
17.30 น.ถึง บางบอน กทม.
19.30 น. รวมพล ที่หมอชิต..

20.30 นโดย ประมาณ . ล้อหมุน จาก ขนส่งหมอชิต เข้าสู่ ชานชลา เมืองอุดร ( ตีตั๋ว รถ กทม.- หนองคาย ) ด้วย ทางคุณแอน (ธรรมรักษาอุดร )คอยต้อนรับ ..ด้วย อาหาร เช้า
- ไข่กะทะ ( ท่านใด สั่งไข่กะทะ เกินมา ๑ ชุด หรือไม่แน่ใจ เจ้าของร้านนำมาเกิน จึงฉลองศรัทธา นาคา จัด ๒ ชุด ) อิอิอิ...อิ๋มท้อง...
- ข้าวต้ม หรือ ...

จากนั้น รถตู้ ล้อหมุน จาก เมืองอุดร เข้าสู่ สะพานมิตรภาพ รอ คณะพระอาจารย์ มาสบทบ เพื่อขึ้นรถ ทัวร์ ปรับอากาศ ทางลาว..

แวะ ชม
พระธาตุ..., เวียนประทักษิณา องค์พระธาตุ ท่ามกลาง แสงแดดร้อนที่ใด้ใจ มากกว่า ทาง สยาม ...

และ ซุ้ม นาคราช สวยงาม
ประตูชัย เมืองเวียงจัน สปป.ลาว

(ครั้งที่ ๒ จากทริปน้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ แด่ ท่านราชฑูตไทย ประจำ เวียงจัน )

ทางคณะ เติมอาหาร มื้อเที่ยง ที่ เวียงจัน ..จากนั้น เดินทาง เข้าสู่ วัดพระธาตุแอวขัน สปป.ลาว...
- คุณแอน ธรรมรักษาอุดร
- คุณปฏิหารย์
- คุณชานน
- คุณณ.
- คุณพิชญ์
- คุณร่มบุญ
- คุณสิ
- คุณซัน
- คุณปาท่องโก
- คุณหวาน
- คุณกลอฬ์
- คุณจิตวดี เอ็มมี่
- คุณเหมี่ยว
- ป้าอู๊ด เมตตา ทำอาหาร..
- น้องทิพย์
***หาก เส้นทาง ทริป ทิพยภาวนา ทางผู้จัด ซึ่ง มี คุณแอน (ธรรมรักษา,ผม นาคา ) ติดต่อ ,หรือ กระทำ การสิ่งใด อันมีผล ต่อ การ ปรามาส องค์พระรัตนตรัย เทพเทวา ,พระภูมิ เจ้าที่ ,เจ้าป่า เจ้าเขา, ด้วย ท่าน มหาราชทั้ง ๔ ทั้ง วิทยาธร คนธรรณ , เมืองบังบด ,เมืองลับแล , กุมภรรณ์ ,ยักษ์ ,นาคราช
ต้อง ขอขมากรรม ต่อ ทุกท่าน..
แม้ ว่า..จะเกิด เหตุการ ใด ที่ กระทบ ต่อ...สังขาร ร่างกาย
ด้วย ความ ผิดพลาด ในการ ดูแล , เป็นกำลังใจ ต่อ ทุกๆท่าน..

 

ขออนุญาต ย้อน มาเมื่อ ปี 2552 ทริปออกพรรษา ทอดกฐินวัดหินหมากเป้ง ชมบั้งไฟพญานาค ( อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ แด่ ท่านราชฑูตไทย ประจำเวียงจัน สปป.ลาว)..

 

อิจฉาคนได้เที่ยวจังเลย ^^

 

หลังจาก แวะ ถวาย ภัตตาหารแด่ พระอาจารย์ ๓ รูป และ คณะ ทานอาหารพร้อมกัน ..แวะ จัดหา ของกิน ของใช้ พอสมควรเวลา ..
คณะ เดินทาง ด้วยรถใน สปป.ลาว ตามที่คุณแอน(ธรรมรักษาอุดร ทัวร์ )จัดให้ ผ่าน ไกด์สาว น้องสอน,น้องตั้ม..

ก่อนถึง วัดพระธาตุแอวขัน ทางคณะฯ เปิด VCD เพื่อปรับสภาวะ ให้ ทุกท่าน ตระหนัก ถึง ดินแดน ลี้ลับ ลับแล แดน พระอรหันต์ ที่ ลื่อชื่อ ภูควาย..
สัมผัส ถึง ความเมตตา..
หลวงปู่มั่น ,,หลวงปู่ เทส ,,,หลายท่าน ที่พ่อแม่ คุรุอาจารย์ เดิน ธุดงส์ ผ่าน ร้อนผ่านหนาว มา ปฏิบัติ กิจ เพื่อดับสิ้น อาวสะ ใน ดินแดน นี้...

ดังเช่น ...ผม นาคา..ดัง ที่หลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสิริสีลสุภาราม ศิริวัฒนะ ที่ ๑๑๗ ปี ในวันที่ ๑๗ กันยา ๒๕๕๕ ปีนี้ ..
หลวงปู่สุภา เมตตา บอก ผม ในปี ๒๕๔๘ ขณะ ผมบวชพระฯ...

มาถึง วัดพระธาตุแอวขัน ..กราบเรียน หลวงพ่อ ในการมาฝึกปฏิบัติ จิต และ หลวงพ่อ ท่าน เมตตา จัด เรื่อง อุปกรณ์ ที่ นอน ..ต่างๆ
ผม กราบเรียน หลวงพ่อ ใน การ ปักกลด ตามที่ ตั้งจิต มา ก่อนหน้านี้..
หลวงพ่อ ท่าน เมตตา ให้ จัดหา สถานที่ ตามที่จิต เราดู ( แต่ ต้องไม่เกิน ในเขต วัด ตาม ที่ อยู่ใน สายตา หลวงพ่อ ใด้ เพราะ...
ดินแดน นี้ ลี้ลับ ลับแล ดินแดนบังบด..
ดินแดน แห่ง พญายักษ์...

หลังจาก จัดเตรียมรวมพล คณะ ใน ศาลา ข้างบึงน้ำ ซึ่งมี พี่น้อง เพื่อน ปลา อาศัย พร้อมด้วย...รูปองค์แทน นาคราช..
( พญานาคราช ...ด้วย พิจารณา ด้วย กาลามสูตร 10 ประการ ทุกท่าน ที่ เข้ามา สัมผัส ถึง นาคราช ที่ เฝ้าดูแล ตรงนี้ ...)

จากนั้น เรา เดินดู สถานที่ และ กราบ พ่อปู่ฤาษี ใน เชิงถ้ำฤาษี ข้างสายธารน้ำ

ผม ,พี่ร่มบุญ ,พิชญ์ ,หวาน ,กลอฬ์ จัดมองสถานที่ ปักกลด ,กางเต้นท์ บนโขดหิน กัน..
--ผม จัดหา ข้าง โขดหิน ที่มีพื้นทราย เหมาะต่อการ เดินจงกลม ยาม ค่ำคืน และ มี กอบัว ในหลุมบนโขดหิน
--กลอฬ์ ,หวาน จัดเตรียมกางเต้นท์ ข้างๆ ..
--พี่ ร่มบุญ ,พิชญ์ จัดเตรียมกางเต้นท์ บนลาน พระพุทธลีลา ประทานพร..

ขณะที่ หลายๆ ท่าน ทะยอย อาบน้ำ ในลำธาร ซึ่งเป็นน้ำทิพย์ ที่ไหลมาจาก ภูควาย..ผ่าน ระยะทาง กว่า 10 กม.ขึ้นไป..หลายสาย..

 

ยินดี ครับ คุณน้องมิก มีโอกาสคงใด้ร่วมบุญ แสวงบุญ ทริปภาวนา ตามสภาวะ..
โอกาส ที่ ทางกลุ่ม จะจัด ทริป ภูควาย มีอีกครั้งครับ ขอดูเวลา ตามสภาวะ อีกครั้งครับ..

เมื่อ เรา จัดเตรียม และ กางเต้นท์ ใด้ แล้ว ซึ่งผม ใด้ แขวนกลด ใต้ต้นไม้ พอแก่ การ ประคองจิต..

หลายๆท่าน หลังจาก อาบน้ำในลำธาร เสร็จแล้ว ใด้ เดินขึ้น เพื่อดู สถานที่ ฝึกจิต ตามสถาวะ และ กางเต้นท์ บริเวณ ใกล้ กัน มอง กันห่างกัน ประมาณ 15 , 30 ม.ลานองค์พระพุทธลีลาประทานพร , ใกล้ศาลา ประดิษฐาน พระสังกัจจารย์ ,พระสีวลี ,หลวงปู่อุปคุต ปางจกบาตร องค์ใหญ๋..

18.40 น.โดยประมาณ ใด้ รว่มกัน สวดมนต์ ทำวัตรเย็น พร้อมด้วย พระอาจารย์ ที่ท่าน เมตตา ร่วมใน ทริป ทิพยภาวนา ภูควาย..
นั่งสมาธิ ภาวนา บนศาลา เล็กน้อย แผ่เมตตา..

20.00น.โดยประมาณ ต่างแยกย้าย กัน ปฏิบัติจิต ตามสภาวะ ที่จุดรวมพล กางเต้นท์ ..
ซึ่งผม ใด้ นัดหมาย ในการ รวมกลุ่มกรรมฐาน ด้วยกัน..เผอิญ ด้วยจิต ที่ ตั้งมั่นในการ ปลีกวิเวก ใน สถานที่ ที่ สัปปายะ จึง ลืม นัดหมาย (ซึ่ง ต้องขอ กราบ ขอขมากรรม และ ขอโทษ ต่อทุกท่านด้วย )
แต่ใด้ นั่ง ,เดินจงกลม ภาวนา บนโขดหิน ใกล้ๆ กันกับ กลอฬ์ ,หวาน..ตามสภาวะ

จนกระทั่ง เกิด ฝนตก ยาม ค่ำคืน...พยายาม ตรึง กลดใว้ให้ใด้ ในสภาวะ เช่นนั้น..
แต่ ที่สุด ...ฯ...เกินที่เหตุการณ์ ที่ เต้นท์จะ รับน้ำฝนใด้..เพราะ ฝนตกหนักมาก...
หลายท่าน จึง ออกจากเต้นท์...

 

พิมพ์ข้อมูล ส่ง แล้ว เผอิญ กำลังปรับปรุงเว็ป...:z1(tm-love)

ยามดึกดื่น นั่งภาวนา ,เดินจงกลม ใกล้ ๆเต้นท์ ของ กลอฬ์ ซึ่งอยู่ห่างจาก กลด ประมาณ 30 เมตร ..
ใด้นัดหมาย กับทาง เหมี่ยว ใว้ หากเกิดเหตุการ ใด ให้นำเต้นท์ มาพัก ที่ศาลา หลวงปู่พระพระสังกัจจารย์ ,พระสีวลี ,หลวงปู่อุปคุต ปางจกบาตร องค์ใหญ๋..

แต่ ลืมนัดหมาย ทางกลุ่มของ พิชญ์ ,พี่ร่มบุญ,ซัน,.. ใว้ อันเนื่องจาก ลืมนัดหมาย ในการเข้าร่วมกรรมฐาน,แผ่เมตตาจิต ..
ซึ่งผม ต้องขอโทษ ต่อทุกท่าน
หลายท่าน เดินออกจากเต้นท์ เนื่องจากฝนตกหนัก เกิน เต้นท์ จะรับใด้..
ท่ามกลาง เหตุการ บางประการ ที่ ลำธารน้ำในวัด..

ผมนั่งในกลด ขณะฝนตกหนัก โดย ห่อเสื่อรองนั่ง เข้ามาชิดตัว เพื่อป้องกันน้ำไหลจาก ร่มกลด ...และ นำ ถุงพลาสติส รองนั่งกัน น้ำฝน ไหลย้อย เข้า กางเกง..นาน ประมาณ 1 ชม.กว่า จนกระทั่ง มีเสียงดัง โหวกเหวก ...ซึ่งคาดว่า ทุกคน เคลื่อนพล มารวมที่ศาลา..

จากนั้น ไม่นาน ใด้ยินเสียง ว่า..
ให้ ออกจากกลด เพราะ ฝนจะตกหนักเพิ่มอีก ..จึง ตั้งจิต ขอ ออกจากกลด แต่ ไม่ถอดกลด นำถุงนอน มานอน ในศาลา พระสังกัจจารย์ ...

ปกติการปักกลด ในป่า..ห้ามถอดกลด จนกระทั่งรุ่งเช้า เพราะจะเกิดเหตุการ ที่คาดไม่ถึง..ในป่า....
ซึ่งในกรณี นี้ จะต้องมีการ นัดแนะ คำพูด...นัดหมาย กัน ในกลุ่ม..
ตามอ่านใด้ ใน ..
หลวงพ่อธุดงส์ ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ )
หลวงปู่สุภา กันตสีโล ท่านเมตตา ให้ หลวงพี่ประเสริญซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงผม ขณะที่ ผมบวช ในปี ๒๕๔๘ ...ท่านคอยแนะนำ..
หลวงพี่ประเสริญ ท่านจะธุดงส์ ตามคำสั่ง ของ หลวงปู่สุภา จาก ฝั่งลาว มาตามเส้นทาง เวียงวัง หนองคาย ---สกลนครฯ..

ในป่าดิบ การธุดงส์ จะมี สายมงคล ตรึงใว้ กับ ไม้หมุด ๔ ทิศ ป้องกัน...
------------------
รุ่งเช้า ทานอาหาร เช้า กับเรื่องเล่า เมื่อ คืนแรก ที่ ทุกคน เจอกัน..

จากนั้น เริ่มเดิน ธุดงส สั้นๆ แบบ โยคาวจร ขึ้น เชิงเขา ภูควาย ด้วยระยะทาง ไป-กลับ 8 กม. และ ไต่ ระดับที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 500 เมตร ( คุณปฏิหารย์ แจ้งมา คร่าวๆ )
พิจารณา ข้อธรรม ด้วย พุทโธ ,,,วาโยกสิณัง...

เหนื่อยนัก พักสักนิด ที่ศาลา ก่อนถึง ทางเข้าประตู มี ท่านปู่,ท่านย่าพญายักษ์ เฝ้าดูแล อยู่ ...ความสูง ของ องค์แทน ท่านปู่,ท่านย่าพญายักษ์ น่าจะ ประมาณ ๔ -๕ เมตร..

ภาพนี้ สังเกตุ ให้ดี ครับ พลังงาน ลี้ลับ มากมาย ท้งๆที่ หลายท่าน รับสัมผัส ทั้งกายสังขาร และ ในภาพ ..

อีกด้านจะดังภาพ

จนกระทั่ง มาถึง รูปหล่อองค์แทน ท่านท้าวมหาพรหม บน โขดหินสูง...
กับ คำจารึก ผู้ศรัทธา สร้าง..

 

เห็นแล้วอยากไปทริปแบบนี้ด้วยจังเลยค่ะ ^^

 

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6115285" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นาคา
ด้วยเอกา ๑ มื้อ จาก ๒๒ มค.-ขณะนี้ เดินทางขึ้นเขา ตามจุดต่างๆ เพื่อปรับสภาพ สังขาร ...ถาถถางดิน เพื่อปรับพื้นที่...

ค่ำคืน ในวันเสาร์,อาทิตย์ 5-6 กุมภา ๒๕๕๔ จึงปักกลด บนเนินเขา เพื่อกลั่นแผ่นดิน และ บอกกล่าว เทพภูมิ ในการ ขออนุญาติ สร้างเรือนธรรมภาวนา..
ตรงข้าม เขาที่มีการเจอสถูปเจดีย์ สมัยก่อน (บางท่านกล่าวว่า..เจดีย์ที่ ท่านขุน..สร้าง )

๒๓ มีนา ฤกษ์ เสาเอก เรือนพักจิต..

อากาศยามค่ำคืนวันอาทิตย์ ที่หนาว และมี น้ำค้างหยดบนกลด..ที่ระดับความสูงประมาณ 60-80 เมตร..

--ปรากฏ การพิเศษ ....ที่อาจจะต้องนำชิวิต ไปทิ้งบนเขา ...ด้วย...

ปักกลดกลั่นแผ่นดิน บอกกล่าวเทพภูมิ ในการที่จะสร้าง เรือนธรรม ภาวนา..ณ.จุดนี้...
--คืนแรก ที่มีดวงธรรม นั้น ปรากฏเหนือกลด,ข้างๆมุมขวาติดเชือก,ด้านมุมซ้ายภาพ ต้นไม้

กลางวัน มี ญาติธรรม ซึ่งเป็น ร่างผ่าน ( ผมรู้จัก ) ถาม น้องชาย ว่าม ใคร มาทำอะไร บนเนินเขา ..
--คืนที่ 2 ประมาณ 01.15มีงูเห่าตัวดำ ขนาดประมาณ 2 นิ้ว
ยาวประมาณ 1 เมตรกว่าๆ เลื้อยมา จะมุดมุ้ง ในกลด แต่ มุดไม่ใด้ เพราะ ผมสอด มุ้งใต้ผ้ายาง 2 ชั้นกันชื้น ) คล้าย เขามาหยอกเล่น จากนั้น เลื้อยผ่านไป และ หยุดนิ่ง (เป็นคืน ตัดลูกนิมิต วัด นางย่อน อ.คุระบุรี จ.พังงา พอดี )
.แผ่ เมตตาให้ เขาเลื้อยหายไป ครับ อาจจะเป็น ภพภูมิ

ขณะนั้น จิต วางเฉย ปกติ เอื้อมมือ หยิบไฟฉาย ส่องดู งู ตลอด ใจ คิดเพียงว่า..
ถ้า เป็น วิบากรรม ต่อกัน เราคง ยอม สละ ให้เธอ ขอเพียง นำจิตเรา เข้าสู่ แดน อริยะบุคคล เบื้องต้น นะ...

ถ้ามอง ตาม วิทยาศาสตร์ ข้างๆ ที่ปักกลด คืนนั้น มีต้นไทร ใหญ่ ๑ ต้น ทราบว่า มี บางท่าน มีขอตัวเลขโชดลาภ และ ในโพรงต้นไทร มี งูเห่า อยู่...

เนินเขาซ้าย คือ เขาคอก ซึ่งมี ลูกปักด และ คนเจอพระพุทธรูป,เขาด้านขวา สูงประมาณ 300-400 ม.มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจอถ้ำบนยอดเขา ในถ้ำมีพระพุทธรูป..
อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ พระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ในพื้นที่ภาคใต้<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขออนุญาติ นำบทสนทนา ของพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วิธีสร้างเขตปลอดภัยเมื่อเข้าป่าเข้าดง

พระอาจารย์ เล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนเวลาอาตมาเข้าป่าเข้าดง เมื่อต้องการความปลอดภัยจะใช้อยู่สองวิธี

วิธีหนึ่ง คือ อาศัย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ขีดเป็นวงล้อมบริเวณนั้น แต่ตอนช่วงเช้าต้องลบทิ้งนะ ถ้าไม่ลบทิ้ง เดี๋ยวพวกท่านที่อาศัยอยู่แถวนั้นจะเข้าออกกันไม่ได้

หรือไม่ก็ ใช้คาถาอิติปิโสแปดทิศ เสกดินหรือหินก็ได้แปดก้อน โยนไปแปดทิศ ในช่วงบริเวณที่ก้อนหินไปถึง ก็จะเป็นเขตปลอดภัยของเรา ถ้าเวลากลางคืนจะไปห้องน้ำห้องส้วมก็อย่าไปให้พ้นเขตนั้น แต่กรณีนี้จะต้องอธิษฐานว่า ถ้าตะวันขึ้นแล้วขอให้หมดอานุภาพ ไม่เช่นนั้นเขตนั้นก็จะกลายเป็นเขตหวงห้ามไปโดยปริยาย

แต่อย่าง ครูอี๊ด(พนมเทียน = คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ) ท่านจะใช้มีดหมอ ถึงเวลาก็อธิษฐานเอามีดหมอปักดินฝากแม่ธรณีไว้เลย ถ้าจะมีอันตรายเกิดขึ้น มีดหมอจะสั่นสะเทือนขึ้นมาให้รู้สึกตัวตื่นทันก่อนเสมอ"

ถาม : สะเทือนแรงขนาดนั้นเลยหรือครับ ?
ตอบ : ก็ขนาดทำให้คนปักมีดรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่คนที่เขาตั้งใจปลุกจะต้องตื่น

สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔

วิธีสร้างเขตปลอดภัยเมื่อเข้าป่าเข้าดง<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
จากนั้น เดินขึ้น ชม หิน ที่ตั้งอยู่ บนเชิงเขาภูควาย..
ดังที่ พี่ทหารลาว แจ้งรายละเอียดมา ว่า..

พุทธกาล องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเมตตา โปรด พญายักษ์ (ตามใน พระคาถาชัยมงคลคาถา ) ด้วย มี พระอรหันต์ ติดตาม พระพุทธองค์ พร้อมด้วย บาตร ( ลาว เรียกว่า ขัน ) ..
เมื่อพระพุทธองค์โปรดพญายักษ์ แล้วมี การตั้ง บาตร (ขัน) ใว้ ๓๒ บาตร ขัน จึงปรากฏ องค์หิน ตั้งใว้ ดังภาพ..

องค์หิน บางองค์ มองคล้าย ใบหน้าคน หรือ ยักษ์ หรือ พญานาคราช..

จากนั้น น้อมจิต กราบสักการะ ท่านปู่พระอินทร์ , พระธาตุแอวขัน ใน องค์หินใหญ่ ..
นั่งภาวนา ด้านข้างองค์พระธาตุแอวขัน
ส่วน คุณน้อง ณ. ,พิชญ์ ..นั่งภาวนา ด้านหน้า ,ด้านข้างองค์พระธาตุแอวขัน
คุณพี่ ร่มบุญ ,คุณปฏิหาริย์ เข้ามา กราบสักการะ พระธาตุแอวขัน และ นั่งภาวนา ..เช่นกัน..



อ้างอิง:<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6181513" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125></TD><TD class=alt1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ mukmik
อิจฉาคนได้เที่ยวจังเลย ^^
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6181513" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>mukmik</TD><TD class=alt1>เห็นแล้วอยากไปทริปแบบนี้ด้วยจังเลยค่ะ ^^ </TD></TR></TBODY></TABLE>
ด้วยความยินดี ครับ ตั้งจิต ให้ มั่น และ ไม่หวั่น ในเหตุการณ์ ใด ๆ นะครับ
แต่ เท่าทีคุยกัน จะ เดินทาง ไป ภาวนา อีกครั้ง ประมาณ ๒ คืน จุดเดิม..และ อาจจะ ไปเพิ่มที่ วัดภูควาย.. ซึ่งคราวหน้านี้ จะต้อง เข้มมาก เพราะ กายทิพย์ ท่านละเอียดมาก ..
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6181513" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125></TD><TD class=alt1></TD></TR></TBODY></TABLE>
http://palungjit.org/.179/เรือนธรรม...ุรี-จ-พังงา-ขอเชิญร่วมบุญ-ถนน-ห้องน้ำ.338716/

 

จากเรือนไม้ มองลงนิดนึ่งจะเป็นบริเวณที​

<WBR style="TEXT-ALIGN: left; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(51,51,51); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

่ลงเดินลงไปกราบสักการะพระธ​

<WBR style="TEXT-ALIGN: left; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(51,51,51); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

าตุแอวขัน และศักดิ์สิทธิ์โดยรอบบริเว​

<WBR style="TEXT-ALIGN: left; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(51,51,51); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

ณ พวกเราหลายคนพอลงไปปุ๊บ หามุมสัปปายะตามชอบใจแล้วนั​

<WBR style="TEXT-ALIGN: left; WIDOWS: 2; TEXT-TRANSFORM: none; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-INDENT: 0px; FONT: 15px/18px 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; WHITE-SPACE: normal; ORPHANS: 2; LETTER-SPACING: normal; COLOR: rgb(51,51,51); WORD-SPACING: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px">

่งสมาธิกัน ​

ต่างคนต่าง ปฏิบัติจิต ตามสภาวะธรรม จนใด้เวลา ทานอาหารก่อนเที่ยง..
ป้าอู๊ด เมตตาจัดอาหาร และ พี่ทหารลาว 2 ท่าน ใจดี เมตตา แบกขน อาหาร จากวัดขึ้นมา ณ.พระธาตุแอวขัน ..ระยะทาง 4 กม. ขึ้น เชิงเขาที่ความสูงประมาณ 500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล..

ผม ขึ้นหลังสุด กับ พิชญ์ นั่งล้อมวง ทานอาหาร โดยที่ พี่ทหารลาว บ่นนิดหนึ่ง...อุตส่าห์ แบก ขนอาหารมา ระยะทางไกล ...ข้าว ปลา อาหาร เหลือ..

ด้วย ผม ตั้งจิตทานอาหาร เอกา ๑ มื้อ จาก วันที่ ๒๐ มค ๒๕๕๔ จนถึงขณะนั้น เป็น เวลา ๑ปี ๔ เดือน..
และ ตั้งจิต จะ ไม่ทาน อาหารของขบเคี้ยว ยกเว้น ยา ,น้ำ ,นม ตามปกติ เพื่อ ทดลอง ธาตุขันธ์ แม้ ว่า...จะเดินทาง ขึ้น เชิงเขา สูง ,ไกลเพียงใด
ทดสอบ ร่างกายสังขาร อันไม่ใช่ ของเรา ด้วย ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม..
( ซึ่ง การทรมาน สังขาร นี้ พระพุทธองค์ ท่านไม่ทรงสรรเสริญ...เดินด้วย มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา )

แต่ ด้วย พระธรรมขันธ์ ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ในการ หลุดพ้น ..
เฉกเช่น ดัง ปฏิปทา หลวงปู่คง วัดเขาสมโภชน์ ...
พ่อแม่ คุรุอาจารย์ หลวงปู่มั่น ,หลวงปู่เทส , หลวงปู่เจี๊ย ,ท่านหลวงตามหาบัว ,....พระอริยะสงฆ์ สายพระธรรมยุกต์..
ท่าน ดำเนิน ตาม พ่อแม่ คุรุอาจารย์ ทานอาหาร เอกา ๑ มื้อ ...

แต่ เรา ฆราวาส ทำงานทางโลก ต้องใช้ กำลัง แรงกายสังขาร ,อาศัย สมอง ปัญญา นำทาง ใช้ทางโลก และ ทางธรรม..

พักผ่อนใด้เวลา เล็กน้อย ใด้เวลา เดินทางกลับลงมา (แม้...จะ อาลัย ใน สถานที่ เพียงใด อยาก พักพิง อาศัย พักจิต พักกาย ปฏิบัติธรรม )
ด้วย เพราะ มี ข้อห้าม ทางความั่นคงทางทหาร สปป.ลาว ทั้งในความไม่ปลอดภัย ต่อ ผู้บุกรุก สถานที่ ,,หรือ อิทธิฤทธ์ อันลี้ลับ จาก วิทยาธร ,คนธรรณ ,นักลองของ ...

ส่งจิต แผ่ เมตตา ต่อ สัพสิ่ง แม้ เพียง เรา จะ ต่ำต้อยเพียงเศษธุลี ใน บารมี ..
สักวันหนึ่ง จะ ขอบารมี พ่อแม่คุรุอาจารย์ เข้ามา อีกสัก ครั้ง..
ตาม ปฏิปทา หลวงปู่สุภา ที่ ท่าน เมตตา บอกกล่าว พระชวน ปัญโญ (พจน์ ,นาคา ) ในสมัย เมษา ๒๕๔๘ พุทธบุตร ครั้งที่ ๒ ..
----------

ทริปภาวนา ดินแดนพระอรหันต์ ภูควาย
กิจกรรมสาธารณะ · โดยนาคา นาคี and Ann Paritapa​

• • 
    18 พฤษภาคม
    <TABLE style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; MARGIN-TOP: 10px; BORDER-COLLAPSE: collapse; MARGIN-BOTTOM: 10px; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" class="yiv1564849518uiGrid yiv1564849518mvm" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left; FONT-SIZE: 13px; VERTICAL-ALIGN: top" class=yiv1564849518vTop>
    
    
    </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left; FONT-SIZE: 13px; VERTICAL-ALIGN: top" class=yiv1564849518vTop>ภูควาย สปป.ลาว
    
    
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
  
  [*]<TABLE style="BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; MARGIN-TOP: 10px; BORDER-COLLAPSE: collapse; MARGIN-BOTTOM: 10px; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px" class="yiv1564849518uiGrid yiv1564849518mvm" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left; FONT-SIZE: 13px; VERTICAL-ALIGN: top" class=yiv1564849518vTop>
  
  
  </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left; FONT-SIZE: 13px; VERTICAL-ALIGN: top" class=yiv1564849518vTop _yuid="yui_3_1_1_3_133793587775664">สืบเนื่องจาก การบวชพระ ครั้งที่ 2 ผม (นาคา ) ใด้่บวช ที่อ.คุระบุรี จ.พังงา และใด้เดินทาง ตามปฏิบัติ จิต มาที่วัดหลวงปู่สุภา ที่ภูเก็ต ในปี 2548
  ในช่วงนั้น ช่วงสงกรานต์ 2548 หลวงปู่สุภา ท่านเมตตาโปรดลูกหลานท่าน ที่ มาตุภูมิ คือที่วัดคอนสวรรค์ สกลนคร..
  
  หลวงพี่เสริฐ ใด้เป็นพระพี่เลี้ยง ผมในตอนนั้น นำเข้ากราบ หลวงพ่อพระใส โดย ขึ้นบรรใด กราบหลวงพ่อพระใส บนตัก หลวงพ่อพระใส เลย ที่วัดโพธชัย ( วัดหลวงพ่อพระใส )
  
  จากนั้น เดินทาง พักที่วัดคอนสวรรค์ ปฏิบัติจิต ภาวนา ด้วยกัน กับ หลวงพี่เสริฐ ในศาลากลางน้ำ ซึ่ง ประวัติว่า..
  คนงานก่อสร้างตกลงมา..เสียชีวิต..
  ขณะ เย็นวันหนึ่ง..ขณะเดินจงกลม เท้าชงัก เพราะ เห็น น้องหญิงท่านหนึ่ง ก้มหน้าลอยมา ใกล้..(เท้่าไม่ติดพื้น ) เมื่อ ออกจากสมาธิ จงกลม จึงเอ่ยวาจา กรวดน้ำให้
  
  ซึ่งเป็นคืนวันพระ พอดี และใด้ถวายดอกไม้บูชา ครู หลวงปู่สุภา ในค่ำคืนนั้น
  ใด้ถาม โยมที่ดูแล หลวงปู่ ทราบว่า..มีสาว คนหนึ่ง น้อยใจแฟน อะไรบ่งอย่าง เลยผุกคอ..ใกล้วัด.. เมื่อประมาณ 15 ปี (นับถอยหลังจาก ปี 2548 )..
  
  ต่อมาขณะนั่งสมาธิในศาลา กลางน้ำ มีเสียงหล่นตุ๊บ จากกลางหลังคา และ วันต่อมา ขฯะเดินจงกลม มีเสียง หวีด วิ๊ด คล้ายๆวิญญาณ มาขอส่วนบุญ..
  
  ในเช้าวันหนึ่ง กลับจากบิณฑบาตร โยมป้า ที่ดูแล หลวงปู่ วิ่งมาบอกว่า...หลวงพี่ ไปดู หลวงปู่หน่อย ท่านไม่สะบาย...
  ขึ้นเข้าไปดู หลวงปู่สุภา พร้อมด้วยหลวงพี่เสริฐ
  พระต่างช่วยกันนวดหลวงปู่
  ผม ในฐานะ พุทธบุตร ทราบจาก จิตสื่ิอ มา ให้ ขออนุญาต หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ( รูปหล่อยืนในกุฏิ หลวงปู่ )
  จึง ตั้งจิต ขออนุญาต เพราะ เป็นพระ นวกะ พระบวชใหม่...การกระทำ สิ่งอันใด อันอาจจะเป็นการอุตตริ..เป็นการผิดพระวินัย..
  
  จากนั้น ขออนุญาติ ส่งจิต (เท่าทีมี จาก คุรุอาจารย์ , ทิพย์ ในสถาวะ นั้น ..ให้ หลวงปู่..
  หลวงปู่ท่าน ลืมตา ถามว่า ใคร ใคร ...เจ้าอีกไม่นานก็..
  
  ต่อมา มีพระจาก อีสานมากราบหลวงปู่ ..หลวงปู่ท่านเมตตา บอกว่า
  ภูควาย ควรจะไปปฏิบัตินะ ในสายธุดงส์..
  
  ซึ่้งก่อนหน้านี้ ผม ใด้ ขอเมตตา จาก หลวงปู่สุภา ท่านเมตตาอธิฐานจิต รูปภาพ หลวงปู่ปาน วักบางนมโค..( ที่สกลนคร )
  หลวงปู่สุภา เมตตา บอกว่า..
  ..ท่านปาน บังอยู่นะ ที่ ภูควาย
  เจ้าควรไปหา อาจาีรย์เจ้า ที่โน้น ควรไปสักครั้ง...
  ( หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่าน ปรารถนา เป็นพระโพธิญาณ คือเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์ )..
  ..ซึ่งผมเอง มีโอกาส ที่ใด้เรียนรู้ วิชา บางอย่าง จากหลวงปู่สุภา..
  ซึ่ง สืบเนื่องจาก..หลวงปู่สำเร็จลุน แขวงจำปาศักดิ์ ลาว เป็นพระอาจารย์ ของ หลวงปู่สีทัตน์ วัดพระธาตุท่านอุเทน
  และ หลวงปู่สีทัตน์ เป็นพระอาจารย์ หลวงปู่สุภา...
  ฉนั้น หลวงปู่สุภา ท่านจะแนะนำ ศิษยานุศิษย์ ให้ กราบมุทิตา หลวงปู่สีทัตน์ และกราบสักการะ พระธาตุท่านอุเทน ฯ
  -----------
  จึงมีความตั้งใจ จะ เดินตามปฏิปทา คุรุอาจารย์ ในการ ธุดงส์ ในดินแดนอรหันต์ ภูควาย...ด้วยจิต ที่ ตั้งมั่น ในธุดงควัตร์ ..
  
  ด้วย ในขณะนี้ ใด้ ทานเอกา อาหาร 1มื้่อ จากวันที่ 20 มค 2554 --___ เมษา 2555 รวมระยะ ประมาณ 459 วัน และใด้ปักกลด ตามวาระในสถานที่ต่างๆ ทั้ง พังงา,ภูเก็ต ,ลำปาง ตามวาระ
  ด้วยจิต ที่มั่นคง ..
  และ ภูควายจึง ใด้วาระธรรม ที่ พี่สาวญาติธรรม ท่านหนึ่ง ใด้จัดขึ้น..
  
  
  
  </TD></TR></TBODY></TABLE>

ด้วย ภูเขาเบื้องหน้า นั่นคือ ภูควาย ที่ แท้จริง ซึ่ง ตั้งสูงมากกว่า 800 เมตร ขึ้น ...มีน้ำทิพย์ ไหลผ่าน ดินแดน พื้นที่รองรับ พระธาตุแอวขัน ผ่านลงสู่ ลำธาร น้ำทิพย์ วัดพระธาตุแอวขัน ...

เนื่องจาก ทางขึ้น ทางลง มีทางแยก 2 ทาง
- ทาง คนขึ้น -ลง จาก วัดพระธาตุแอวขัน ( จะมีสายมงคล ,เศษผ้าจีวร ผูกตามต้นไม้ ตลอดเส้นทาง )
- ทางรถขึ้นเชิงเขา จาก ทหารลาว หรือ เจ้าหน้าที่..( ระยะ เพิ่มอีก 2 กม. คือ ประมาณ 5 -6 กม. )
มี บางท่าน เดินลงไปตามเส้นทางรถ พร้อมด้วย พี่ทหารลาว ช่วยดูแล คุ้มกัน
ซึ่ง ก็ ถือ ว่า ปกติ ในเส้นทาง ที่ ใช้กัน..

แต่ บางคน รับทราบ ข้อมูล ว่า...เส้นทางรถ เส้นนี้ เป็นเมืองบังบด และ ถ้า สัมพัน กับ มิติ เวลา จะอยูในเมืองลับแล..

ผม เดิน รั้งท้าย ด้วย น้องๆ 3 ท่าน มี จินตราวดี ( เอ็มมี่ ),ปาท่องโก ,น้องทิพย์ ช่วยกัน..เก็บ เศษ ขวดน้ำ ตามเส้นทาง ลงมา เพื่อความสะอาด
ขอโมทนา ในผลบุญเช่นกันครับ..
--------------
คืนที่ ๒ วันที่ ๑๙ พค. เราสวดมนต์ ทำวัตรเย็น .นั่งภาวนา ,แผ่เมตตา
กัน และ แยกย้าย พักผ่อน ปฏิบัติจิต ต่อ..

ผม ยังคง มั่นคงตั้งจิต ปักกลด นั่ง เดิน จงกลม เช่นเดิม ในคืนที่ ๒ ..
ดัง เช่น กลอฬ์ ,หวาน นอนเต้นท์ เหมือนเดิม..
ส่วนท่านอื่นๆ เพื่อความปลอดภัย จึง ขอร้องให้ นอนพักกาย พักจิต ในศาลารวมพล..
คืนนี้ คืนที่ ๒ แห่งการปฏิบัติจิต ในกลด ต่างประเทศ ดินแดน ลี้ลับ..ด้วย ฝนตก เช่นเดิม แต่ ไม่หนัก พอเป็น พิธี... จนรุ่งเช้า ตื่นมาด้วย สวดมนต์ เล็กๆ น้อยๆ แผ่เมตตา ขอขมากรรม ต่อทุกท่าน พ่อแม่คุรุอาจารย์ เทพเทวา ที่ เมตตา..

 

ตื่นเช้า เราชำระร่างกาย และ รวมพล ถวายภัตตาหารแด่องค์พระอาจารย์ 3 รูปจากนั้นทานอาหารข้าวต้มยามเช้ากันในศาลา..เมื่อ อิ่มท้องจากนั้น..

น้อมถวาย ปัจจัยร่วมบุญ และ ชำระหนี้สงฆ์ และ หลายท่าน ร่วมบุญ สร้างวิหาร ครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง...

หลวงพ่อ ท่านเมตตา ให้ใบอนุโมทนา และ ผูกสายมงคลข้อมือ เพื่อขวัญ กำลังใจ ต่อทุกท่าน ที่ผ่านเหตุการณ์ ต่างๆ มาด้วยดี..

ปัจจัย ที่ น้อมถวาย องค์หลวงพ่อ ทั้งหมด (ถ้าจำไม่ผิด )
........................................๑๒,๐๕๐ บ.
และ เงินกีบลาว อีกประมาณ ........๑,๐๐๐ กีบ..

และ ผม ขอโมทนา และ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ เมตตา น้อมปัจจัย ผ่านผมมา..
จึง ขออนุญาต จัดสรรค์ ปัจจัย ตาม วาระ..

--พจชนะ ,น้อมจิต ,กิ่งแก้ว ,ธนภรณ์ ทองทวีวิวัฒน์................๑๐๐-
--บุญญสิกขา.........................................................๑๐๐-
๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙ ๙๙๙
ด้วยที่..


-น้อมจิต ทองทวีวิวัฒน์ น้อมปัจจัย ค่าเดินทาง,อาหาร............๑,๕๐๐-
-เบญจมาภรณ์ ทองทวีวิวัฒน์น้อมน้อมปัจจัย ค่าเดินทาง,อาหาร.....๒๐๐-
-บุญญสิกขา น้อมปัจจัย(จัดสรรค์ที่โอนมา) ค่าเดินทาง,อาหาร......๒๐๐-
-น้องตา บทวรรณ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง น้อมจัดอาหารในการเดินทาง.....
-น้อง เอ วิณวิญ โอนปัจจัย ร่วมบุญ (เพิ่งทราบ เมื่อวานนี้)..........๓๐๐-
( โอนปัจจัย ๑๘ พค.และ พอดี ที่ ผมปิดสัญญาณโทรฯมือถือ..)

จึงขออนุญาต น้องเอ วิณวิญ น้อมบุญในวาระโอกาสต่อไปครับ..

 

ภาพ สายธารา จากเบื้องบน ภูควาย สู่ สายลำธารน้ำทิพย์ ในวัดพระบาท (พระตุ )แอวขัน ภูควาย สปป.ลาว..

คณะเรา ,,,ใด้รับความเมตตาเป็นพิเศษ จาก องค์หลวงพ่อ ในการให้ลงเล่นน้ำ ,ชำระร่างกาย สังขาร ในลำธารในวัด เพราะ สายน้ำผ่านชั้นหิน ,แร่ธาตุ ผ่านดินแดน พระบาท(พระธาตุ ) แอวขัน กลั่นกรอง ด้วยระบบ ทิพย..

ชาวบ้านในพื้นที่ ใด้แต่ มองด้วย สายตา...

จากนั้น เดินทางกลับ สู่เวียงจัน../ Duty free จัดหา สินค้า และ รับประทานอาหาร..

ขอขอบคุณ;
- คุณแอน อุดร ..........ผู้จัดทริป ทิพยภาวนา ภูควาย...,อาหาร ,รถในลาว
- พิชญ์ ...................ประสาน รถ, ค่าเดินทาง..
- ป้าอู๊ด...................ป้าจัดทำอาหาร...
- พี่ทหารลาว ที่ เมตตา แบกขนอาหาร ขึ้น พระธาตุแอวขัน ระยะทาง 4 กม.
- ทุกท่าน ที่ ร่วมทริปทิพยภาวนา...


นาคราช ,พี่ๆน้องๆ ปลา ในบึงข้างศาลา ที่พักรวมพล

 

ถวายภัตตาหาร พระอาจารย์ ทั้ง ๓ รูป แล้ว เดินทางเข้าสู่ สยามประเทศ -อุดร แวะ กราบสักการะ พระมหาธาตุเจดย์เฉลิมพระบารมีพระนวมินทร์ ..

เจริญประทักษิณา ตามวาระ ..

 

ชม พระพุทธปางต่างๆ ใน พิพิธภัณฑ์ ไม้ตะเคียน ๑๐๐๐ ปี ใน บริเวณ พระมหาธาตุเจดย์เฉลิมพระบารมีพระนวมินทร์ .. อุดร..


ใด้เวลา คุณแอน(ธรรมรักษาอุดรทัวร์ ) นำ คณะ ทานอาหาร ...
จากนั้น พักเหนื่อย ที่สำนักงาน ธรรมรักษาอุดรทัวร์เล็กน้อย จนใด้เวลา ขึ้นรถ ปรับอากาศ อุดร - หมอชิต..

ขอบคุณทุกท่าน ใน ทริปทิพยภาวนาภูควาย อุดร ในครั้งนี้..

หากเหตุการณ์ใดๆ กระทบต่อกัน ทางกาย วาจา ใจ ทั้งกายสังขาร,กายทิพย์ ในทริปทิพยภาวนาภูควาย อุดร ..
ขอขมากรรม ต่อกัน ทางกาย วาจา ใจ ...
น้อมพรอันประเสริฐ ของ บรมศาสนาพระพุทธสิกขีทศพล องค์พระชินสีห์ ทุกๆพระองค์ ด้วย พระเมตตาบารมี..
พระพุทธสิกขีทศพล
พระพุทธตัณหังกร
พระพุทธทีปังกร
พระพุทธวิปัสสี
พระพุทธกกุกสันโธ
พระพุทธโกนาคมโน
พระพุทธกัสสโป
พระพุทธโคตโม
พระพุทธศรีอริยะเมตตรัย..
พระอรหัตน์ ,
ท่านท้าวมหาพรหม ,ท่านปู่ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ
ท่านปู่พระอินทร์อัมรินทร์สักกะเทวา อินทราช..
ท่านปู่เวสสุวรรณ ,พร้อม ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ,อินทะกะ ..
ท่านปู่,ท่านย่าพญายักษ์

ในการ ตั้งจิต ครองศีล ๘ ในการเข้าพรรษา ปี ๒๕๕๓ - ขณะนี้ ที่เหมาะสม ในการทำงานทางโลก และทางธรรม
การตั้งจิต ทานเอกา อาหาร ๑ มื้อ จากวันที่ ๒๒ มค.๒๕๕๔ - ขณะนี้ เป็นเวลา ๑ปี ๔ เดือน ( ๑๙ พค.ทิพยภาวนาภูควาย )
พร้อมทั้งการประคองจิต เท่าที่จะสามารถ จะกระทำใด้ ส่งผล บุญ...
อิทัง บุญผลัง...
ให้ เจ้ากรรมนายเวร ของทุกท่าน ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ ชาติก่อน ,ชาตินี้
ให้เทพเจ้า ของทุกท่าน และ พญายมราช และเทพเจ้าทั้งหลาย ,พญายักษ์ วิทยาธร คนธรรณ กินรี กุมภัณ์ ครุฑ นาค
ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วทั้งเป็นญาติ และ มิใช่ญาติ จงโมทนากุศลนี้
และ อโหสิกรรม กรรม ทั้ง กาย วาจา ใจ ตั้งแต่วันนี้ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน..
ทุกท่าน ที่ ร่วมบุญ อามิสบูชา , บุญโมทนา ,บุญภาวนามัย ปฏิบัติบูชา...

ให้ทุกท่าน มีความคล่องตัว ทั้งทางโลก และทางธรรม นำปัจจัย ให้มีกำลัง ในการสร้างบารมี ด้วย สมบัติมหาจักพรรดิ์ ตักไม่พร่อง และใด้ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ เข้าถึง อริยสัจธรรม , อริยะบุคคล ๘ จำพวก ตราบ ท้าวเข้าสู่ พระนิพพาน ฯ...

ทั้ง เหล่ากายทิพย์กายละเอียดทุกท่าน ที่เกี่ยวเนื่องกันมา
ปู่พญานาคา ย่าพญานาคี นาคอัคคี สุวรรณนาค เจติยะนาค ศรีสุทโธนาค นาคิริยะ ภุชงค์ เมฆินทร์นาค พรหมนาค สิงหนาค พญาวาสุกรี สุนันโทนาคราช สุวินโธนาคราช โภคะนาคราช ประสิทธินาค อนัตตนาคราช ปู่ภัทริยะนาคราช พญาศรีสัตตนาคราช ,พญาสัตตนาคราช
น้องขัตติยะนาคีราชกุมารีศรีจักตรา ,น้องสุพรรษานาคียะ น้องเกษีณีนาคียะ ,น้องเมคิณีปทุมนาคียะ ,น้องสาวิตรี พ่อพญาแล
ท่าน โสรดา ,ท่านโสรยา ,ท่าน สุชาดา ,ท่าน วิชชุดา , ท่าน สุมณฑาทิพย์ จิตรดา โสภาภิรมณ์ เหล่าครุฑา ทุกท่าน ,ท่าน เมฆิณครุฑาเทพ ฯลฯ..
นาคา นาคี

ด้วย...

อัปมาโณพุทโธ อัปมาโณธัมโม อัปมาโณสังโฆ ปะมาณะ วันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตาเม รักขา กะตาเม ปะริตตา ปฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง...
...ขันธปริตร ....
แ้ม้..เพียงใด สังขารกายนี้ ยังคงเดินตามรอยพระพุทธบาท องค์พระจอมไตร พระชินสีห์ บรมศาสดา สิกขีทศพล ,,ตันหังกะโห ,,ทีปังกะโร ,,วิปัสสี ,,,กกุกสันโธ,,โกนาคนะโม ,,,กัสสโป ,,,โคตโม...

ด้วย กายสังขาร นี้ ด้วย จิตสัมมา ด้วย อนุสติ 10 ...
พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศิลานุสติ เทวตานุสติ จาคานุสติ..
ด้วย...บารมี อุปารมี ปรมัตถบาีรมี..
จะยังคง บูชา องค์พระ รัตนตรัย ด้วย ปัญญา , อามิสบูชา , ภาวนามัย...
การบวงสรวง ..น้อมนำ ถวายแด่ องค์รัตนตรัย ,เทพเทวา (อนุสติ 10 )...บูชา ด้วย ปัญญาฌาณ ..
ตามรอยหลวงพ่อธุดงส์ ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในหนังสือ ..) อ่าน..ปฏิบัติ ,น้อมนำ โยนิโส ด้วย โอปนายิโก ปัจจัตตัง ...วัญญูหิติ..
ผู้น้อย น้อบน้อม ด้วย น้ำ ครึ่งแก้ว...
สัพเพ สัตตา ...อิทัง บุญญะผลัง...
... ด้วย เหตุใด ..
นาคา ต้องขมา ต่อทุกท่าน เช่นกัน ในการ ที่ นำ กลุ่ม พี่ๆ น้องๆ ขาดตกบกพร่อง ในครั้งนี้...ด้วย จิต มุ่งมั่น ในการ แสวงหา ความรู้ ในดง อรหันต์ จึง ไม่ใด้ .... เท่าที่ควร..
...กาลข้างหน้า ครั้งที่ ๒ การเดินทาง แสวงหาโมกธรรม ใน ดินแดน ลี้ลับ อรหันต์ ภูควาย เรา นาคา จะ ยังคง เดินทาง อีกครั้ง..
​

 

ขออนุญาต ย้อนมา ที่วัดพระบาท(พระธาตุ )แอวขัน สปป.ลาว..
เนื่องด้วย พุทธชยันตี ๒๖๐๐ แห่งการ ตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธชินสีห์ ในปี ๒๕๕๕ ...





ดร.จิม ได้โทรศัพท์ติดต่อเชิญอ.เจน ญาณทิพย์ ไปประเทศลาว เพื่อเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศไทยไปยังประเทศลาว อ.เจนรับคำเชิญเพราะเห็นว่าเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่จึงยินดีรับคำเชิญในทันทีเพราะหาโอกาสเช่นนี้ไม่ได้อีกแล้วแม้จะมีงานรัดตัวอย่างไรก็จัดการจนเสร็จซึ่งก็ไม่ได้มีวันพักผ่อนจนถึงวันเดินทาง 23 มีนาคม 2555 วันที่ออกเดินทาง
โดยมี ดร.จิมซึ่งเป็นผู้แทนพระสังฆราชไทยส่งมอบให้แด่พระสังฆราชลาวที่เมืองเวียงจันทร์และนำไปประดิษฐานที่วัดพระบาทแอวขันนับว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่สำหรับ อ.เจน และครอบครัวรวมทั้งตัวของดิฉันเองก็รู้สึกเป็นบุญที่ไม่คาดฝันที่ ดร.จิมอนุญาตให้ดิฉันติดตามคณะ อ.เจน ไปด้วย และได้รับทราบจากดร.จิม ภายหลังว่า"พี่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญเขากำหนดเอาไว้แล้ว และยังบอกอีกว่า ตามหมายกำหนดการจะต้องมีพระสงฆ์ 3 รูปแต่วันนี้ไม่สามารถเดินทางมาได้ 1 รูป เป็นที่น่าเสียดายมาก"แต่ดิฉันก็ยังไม่เข้าใจความหมายของ ดร.จิม หากทุกท่านได้ฟังเรื่องราวดังต่อไปนี้ก็จะต้องพบว่าทุกสิ่งที่เกิดกับชีวิตของเราไม่ใช้เรื่องธรรมดาค่ะ
วันเดินทางดร.จิม ได้มารอรับคณะเดินทางซึ่งก็มี อ.เจน แม่ตี้ คุณรุ้งตะวัน และดิฉัน (จี๊ดจ้าด) และในวันนั้นเราก็ได้รู้จักเพื่อนร่วมเดินทางอีก ๖ ท่านในนั้นมีนายพลโท(ท่านเถา) และนายพันเอก (คุณนนท์) และครอบครัวคุณพ่อคุณแม่และลูกสาว๓ คนซึ่งได้ลากลับเมื่อเสร็จพิธีช่วงแรกภายในวันเดียวกันนั้นเพราะลูกสาวเป็นดารานักร้องต้องกลับไปแสดงคอนเสริต์รวมทั้งหมด ๑๐ คน

เดินทางต่อ โดยเปลี่ยนรถตู้ที่ ดร.จิม จัดไว้รอรับเพื่อข้ามฝั่งไปประเทศลาวคนขับรถเป็นชาวลาว พูดไทยได้ จึงช่วยประสานการเดินทางของคณะฯ เพื่อข้ามไปฝั่งลาวซึ่งก็ได้รับความสะดวก โดย ดร.จิมได้ติดต่อประสานงานไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย
เวลา 13.30 น.เข้าเมืองเวียงจันทร์ ถึงวัดพระเจ้าองค์ตื้อ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชลาวทรงเจริญพระชันษาครบ 97 ท่านแข็งแรงมาก ท่านมารอรับพระบรมสารีริกธาตุภายในอุโบสถ ณวัดแห่งนี้
ขณะทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ โดย ดร.จิมเป็นผู้แทนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุถือพานบรรจุพระบรมสารีริธาตุล้อมรอบด้วยดอกบัวสีขาว เป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งดิฉัน กับคุณรุ้ง ก็ช่วยกันถ่ายรูปเพื่อนำภาพมาให้ทุกท่านได้ชมกันค่ะเชิญชมภาพกันให้เต็มตาพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในผอบ มี 10 องค์ ค่ะ
แต่ในขณะที่ทำพิธีอันเชิญ อ.เจน กระซิบว่า พี่หนูเห็นด้วยญาณว่าในอดีตนับเป็นเวลานานกว่านับร้อยปีที่ผ่านมาคณะพวกเราทั้งหมดเคยมาร่วมกันสร้างเจดีย์ที่วัดพระบาทแอวขันวัดที่พวกเรากำลังจะเดินทางไปค่ะ (และได้ทราบในภายหลังว่าที่พระบาทแอวขันนั้นมีเจดีย์เก่าแก่สร้างไว้อยู่เดิม และดร.จิม ได้ริเริ่มสร้างเจดีย์ครอบองค์เดิมซึ่งเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ)เมื่อพิธีการส่งมอบพระบรมสารีริกธาตุ....
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 6177271" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>คืนแรก วันที่ ๑๘ พค. 18.40 น.โดยประมาณ ใด้ ร่วมกัน สวดมนต์ ทำวัตรเย็น พร้อมด้วย พระอาจารย์ ที่ท่าน เมตตา ร่วมใน ทริป ทิพยภาวนา ภูควาย..
นั่งสมาธิ ภาวนา บนศาลา เล็กน้อย แผ่เมตตา..
หลังคืนที่ ๒ วันที่ ๑๙ พค. เราสวดมนต์ ทำวัตรเย็น .นั่งภาวนา ,แผ่เมตตา
หลายท่าน ร่วมบุญ สร้างวิหาร ครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง...


</TD></TR></TBODY></TABLE>


กำหนด คร่าวๆ ทางกลุ่มเราจะเดินทาง แสวงบุญ วัดพระบาท(พระธาตุ) แอวขัน สปป.ลาว อีกครั้ง เพื่อ ทำกิจ และ ปฏิบัติภาวนา ประมาณ เดือน กค.55

http://palungjit.org/threads/copy-อ...ิญพระบรมสารีริกธาตุให้กับประเทศลาวค่ะ.339538/

 

ขออนุญาต นำ ข้อมูล และภาพ ทางเว็ป ญาณทิพย์
ซึ่ง บางเรื่อง บางสถานการณ์ ตรงกับ ผม นาคา รู้ ในวาระ แต่คงบอกใคร ยาก..ลองอ่านดู แล้ว ท่านจะ อึ้ง...มาก..
--------

อ.เจน กำหนดจิตว่า ไม่ได้มารบหลู่ท่านแต่ลูกขอชมบารมีลูกแก้ว หากว่า เป็นลูกแก้ของพญานาคจริงขอให้ลูกแก้วที่จับต้องนี้นุ่มเหมือนปุยนุ่น ปรากฏว่า ลูกแก้วนิ่มเหมือนปุยนุ่น

อ่าน ข้อมูล และภาพ ที่ทางคณะ อ.เจน เดินทาง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และ สักการะ พระบาทแอวขัน ภูควาย ที่ link นี้ ครับ...
(มีอะไร ในมิติ ที่น่าสนใจ ของท่านปู่ อาฬวกะ ยักษ์ ยักษ์ผู้หญิง คนที่นี่เรียกว่า ยักษ์ย่า และ ยักษ์ผู้ชาย คนที่นี่เรียกว่า ยักษ์ปู่ (ท้าวอาฬวกะ) อ.เจน สื่อได้ว่า ยักษ์ปู่ท่านใจดี แต่ยักษ์ย่า ท่านค่อนข้างดุ ท้าวอาฬวกะยักษ์ อยู่ในบทสวดพาหุงฯ )
ขออนุญาต นำภาพมาลงใว้ ( หลายสถานที่ ที่ กลุ่มนาคา ไม่ใด้ถ่ายภาพ )
เดินต่อไป อ.เจน บอกว่าก้อนหินก้อนนี้ใหญ่มาก ไม่ใช่ก้อนหินธรรมดา แต่เป็นหัวพญานาคและมีลำตัวที่ยาวมาก (อ.เจน มาทราบจากชาวบ้านว่ามีความยาวถึง 41 เมตร) ท่านเฝ้าเมืองอยู่

โมทนา ในกลุ่มคณะ อ.เจน ด้วย ครับ...นาคา

อ.เจน ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนคนไทย อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้กับประเทศลาวค่ะ - ห้อง อ.เจน ญาณทิพย์ - หน้าแรก รวมพลคนญาณทิพย์ - Powered by Discuz!

 

ข้าพเจ้าขอโมทนาบุญกับทุกท่านทุกประการค่ะ เป็นทริปที่มีพลังบุญและอริยทรัพย์นะคะ ครูบาอาจารย์ท่านจึงได้แนะนำแล้วว่าควรค่ากับนักปฏิบัติทุกคน สาธุ

ขออนุญาตแจ้งข่าวสักนิดนะคะ หลังจากที่ทางคณะผู้จัดสร้างได้ติดตามอาการอาพาธของหลวงปู่สุภาจากพระอาจารย์สุรเชษฎฐ์ รังมา(พระหลานชายของหลวงปู่)ได้ทราบว่า

โดยรวมแล้วอาการอาพาธของท่านได้ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจากทางคณะแพทย์ในห้องปลอดเชื้อไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งทางคณะผู้จัดสร้างจึงไม่ต้องการที่จะรบกวนสังขารของหลวงปู่มากจนเกินไป และอยากจะให้ท่านได้รับการพักผ่อนและรักษาอาการจนกว่าจะแข็งแรงเป็นปกติในเร็ววันค่ะ


ทั้งนี้ทางคณะผู้จัดสร้างได้ปรึกษากับท่านพระอาจารย์ที่ปรึกษา หลวงพ่อปานขาว ท่านได้เมตตาว่าให้เลื่อนกำหนดการถวายออกไปเป็น วันมุทิตาจิตของหลวงปู่สุภา(วันคล้ายวันเกิด) ในวันจันทร์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๕ (ขึ้น ๒ค่ำ เดือน๑๐) ศิริวัฒนะ ๑๑๗ ปี ณ. วัดคอนสวรรค์ ต. ค้อเขียว อ. วาริชภูมิ จ. <wbr>สกลนคร

คณะผู้จัดสร้างขอเรียนเชิญพี่ๆน้องๆและคณะศิษยานุศิษย์ทั้งทางกรุงเทพ ภูเก็ตและสกลนคร รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมกันน้อมจิตมุทิตาและน้อมใจถวายองค์พระในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกันค่ะ

-:- ยอดทำบุญรวม ณ.วันที่ ๒๘ พ.ค. ๕๕ - ๑๔๕,๑๖๗ บาท -:-
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกประการที่ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ และที่เข้ามาโมทนาบุญในกระทู้นี้เป็นอย่างสูงค่ะ


**ทางคณะลูกหลานชาวภูเก็ตได้รับเมตตาเป็นอย่างยิ่งจากหลวงพ่อเสือ วัดเกาะแก้วพิสดาร หาดราไวย์ โดยท่านได้ทราบข่าวนี้และรับนิมนต์ไปร่วมงานถวายองค์พระแด่หลวงปู่สุภาในครั้งนี้ด้วยตัวท่านเองค่ะ กราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ

<wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr>

 

เช้าวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 08.30 ล้อหมุน รถคุณเกาะแก้ว แวะรับ ด้านหน้า โลตัส พร้อมด้วย พี่เตา..
แวะ ศาลเจ้าบางโจ เรือนธรรมย่ามุก บางโจ...
ย่ามุก เตรียมอาหาร พร้อมเสบียง ...ในการเดินทาง สู่ ..สายน้ำรมณีย์ บ้านเหล อ.กะปง จ.พังงา..

ขณะ ท่านจ่าถาวโร ,คุณทารา กำลัง ปฏบัติ ภาวนา ที่วัด...ข้างสนามบินภูเก็ต ซึ่งทราบข่าวว่า...
หลวงพ่อ ท่านเมตตา สร้างเสนาสณะ และ สมเด็จองค์ปฐม หลายพระองค์ ที่วัด...(ศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สาขา ภูเก็ต )..

ล้อหมุน จากภูเก็ต ด้วย
--รถตู้ คุณตู้ หลานในสาย ดร.ไมตรี บุญสูง เถ้าแก่ใหญ่ และ พลังเมตตา ใน มิติ ของ ท่าน ดร.ไมตรี บุญสูง..
--รถของคุณเกาะแก้ว..



กราบสักการะ องค์พระพุทธ ,พระพุทธบาท วัดเหล ( หลวงพ่อ ท่าน อัญเชิญมาจาก ในป่าบนเขา สู่วัดเหล เมื่อหลายปี ที่ผ่านมา ..ตามใน จารึก ตามรอยพระพุทธบาท ของหลวงพ่อชัยวัฒน์ หรือ เว็ป ตามรอยพระพุทธบาท)

วัดเหล อ.กะปง มีการขุดพบ วัตถุโบราณ หลายชิ้นมากมาย ทั้ง ส่วน ขององค์พระนาราย์ ใต้ต้นตะแบก ...ต่อมา ทาง นครศรีธรรมราช ใด้ นำไปเก็บใว้..
ทางหลวงพ่อวัดเหล ใด้ ติดต่อ นำกลับมา แต่...
สุดท้าย ทาง ศูนญ์พิพิธพันธสถานแห่งชาต นำมา ใว้ใน พิพิธพันธสถานแห่งชาติถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต..

พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ อ.กะปง ท่านเมตตา เล่าว่า..
สมัย ที่อยู่ ที่นครศรีธรรมราช ทางพรหมณ์ และ ทางฮินดู จะ เข้ามาทำพิธี เคราพ ตาม ทางฮินดู บ่อย..