ผมผิดมากไหมกับการกระทำแบบนี้

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อตอนคืนวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมานี้ วัดบางสถานที่ได้จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี ซึ่งวัดที่บ้านผมก็จัดเช่นกันอีกทั้งพ่อผมก็เป็นพระอยู่วัดนั้นด้วย คืนนั้นผมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะนุ่งขาวไปสวดมนต์ข้ามปีตอนเที่ยงคืน และก็ได้เดินทางไปกับน้องสาวอีกสองคน เมื่อไปถึงคนที่วัดก็เยอะมาก ทุกคนต่างรอคอยการสวดมนต์ จนที่เต็มด้านหน้า ผมจึงเลือกที่นั่งนอกโบสถ์ด้านข้างพระประธาน และเมื่อถึงเวลา พระท่านก็เริ่มสวด แต่ด้วยที่คนเยอะและสิ่งพลุก็ดังมากจนทำให้ไม่ค่อยได้ยินเสียงสวดสักเท่าไหร่ เราก็เลยนั่งพนมมือฟังอย่างตั้งใจ แต่แล้ว!!!ก็มีวัยรุ่นหญิงสาวกลุ่มนึงประมาณ4-5คน เดินขึ้นมาพร้อมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆถัดไปประมาณ2เมตรแต่มาด้วยเสียงโวกเวกโวยวาย แล้วก็ไม่ได้ฟังพระสวดเลยแถมยังคุยกันเสียงดังเรื่องผู้ชาย ว่าจะคบคนไหนดี (มันคุยกันดังจนเรารู้เรื่องอ่ะ) เราก็เลยกระแอมกระไอเพื่อบอกเป็นนัยๆไปหนึ่งครั้ง เค้าก็ไม่สนใจ ครั้งที่สอง มันก็เฉย ครั้งที่สามเราก็เลยพูดลอยๆขึ้นว่าจะมาเอาบุญหรือเอาบาปกันแน่ว่ะ เท่านั้นแหละ เค้าก็เงียบหน้ามามองหน้าเรา เราก็ไม่สนใจฟังพระท่านสวดต่อทั้งๆที่ไม่ได้ยินแล้วนั่นแหละ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเค้าก็ดังขึ้น แล้าเค้าก็คุยโทรศัพท์อย่างไม่เกรงใจใครอีกแล้ว เราก็เลยของขึ้นในทันที แต่ก็รอให้พระสวดจบก่อน เมื่อท่านสวดเสร็จ เราก็จัดการพูดลอยๆขึ้นมาทันที "หน้าตาก็ไม่สวยแต่งตัวก็ไม่ดูสถานที นุ่งสั้นแบบนี้จะมาล่อพระล่อเจ้ารึไง ขาก็ดำแล้วยังจะนุ่งสั้นๆอีกคิดว่าสวยแล้วหรือมาวัดแทนที่จะเอาบุญกับทำแต่บาปใครได้เป็นเมียคงซวยไปทั้งชาตินั่นแหละ". แล้วเราก็เดินไปกราบหลวงพ่อสักพักเราก็เดินออกมาจากโบสถ์ ก็มาเจอน้องเค้าอีก เค้าก็มองหน้าเราแบบโกรธๆ เราก็หน้ามือทันทีไม่รู้อะไรเข้าสิง ดันพูดไปอีกว่า รูปชั่วตัวดำ ทำบุญไม่เป็น เห็นทีตายไปนรกเปิดรอ เท่านั้นแหละน้องเค้าก็ร้องไห้ จนแม่เค้าเดินมาหา เราก็ไม่สนใจ เดินกลับไปที่รถ แล้วพี่ชายเคเาก็เดินมาถามว่ามีอะไรรึป่าวพอดีพี่ชายเค้าเป็นเจ้าของร้านที่แม่ผมซื้อของประจำเค้าจำได้ เค้าก็บอกว่าไม่อยากเสียลูกค้ามีอะไรหรือป่าวน้องสาวเค้าทำอะไรผิด ตอนแรกผมว่าจะไม่พูด แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าตอนนี้เราไม่สอนเค้าต่อไปเค้าก็จะทำอีก ก็เลยเล่าให้พี่เค้าฟัง เค้าก็ขอโทษแทนน้องสาวเค้าด้วย......เรื่องก็มีแค่นี้แต่ที่ติดใจคือ เราเองจะบาปไหมที่ไปว่าเค้าแรงขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ ด้วยความที่โมโห คุยเสียงดัง แต่งตัวโป๊เข้าวัด เราก็เลยโกรธมากเลย ไม่ชอบคนแบบนี้อยู่แล้ว จนทุกวันนี้ยังติดค้างคาใจอยู่เลย สงสารน้องเค้าเหมือนกัน ไม่รู้ผมจะได้บุญหรือแบบกันแน่นะ

 

บาป บุญ อยู่ที่ จิต ตัวเอง คิดอะไรอยู่ครับ

ถ้า จิต จขกท มัวแต่ ติด คิดเรื่องที่ ว่า น้องเค้าไป

จิต จขกท ก็คิดเรื่อง เศร้าหมอง อยู่ ถ้าตอนที่ คิดเรื่อง เศร้าหมองอยู่ เกิด ตาย ขึ้นมา ทันที

จขกท คิดว่า ตัวเอง จะไปที่ไหนครับ


แนะนำว่า อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็อย่าเก็บไปคิด

ส่วน กรรม ที่ สร้างมาแล้ว แก้อะไรไม่ได้

ถ้าไม่สบายใจนัก แนะนำว่า ให้กลับไปหาน้องคนนั้น แล้วก็ ขอโทษ น้องคนนั้นครับ

เพื่อให้ น้องเค้าหายไม่สบายใจ แล้วก็ทำให้ จขกท หายจากการ ติด คิดเรื่องเศร้าหมอง ด้วยครับ


บางที เด็ก น้องคนนั้น เค้าไม่ได้ ไม่เคย ศึกษา ไม่รู้จัก บาป บุญ ดีเท่าคนที่ ปฏิบัติ ใน ศาสนาพุทธ

บางเรื่อง เค้าน้องคนนั้นก็ไม่รู้ ว่าสิ่งที่ตัวเองทำ จะไปกระทบให้คนรอบๆ ข้างได้ เพราะ ภาวะไม่พอ


แนะนำว่า ให้ไปหาน้องคนนั้น แล้วก็ ขอโทษ ขออภัยกัน นะครับ จะได้ สบายใจ ถึงเรื่องจะผ่านมานานแล้ว ก็ไม่มีอะไร สายเกินไป ครับ

 

ผมว่าเจ้าของกระทู้ได้บุญมากกว่าบาป ความตั้งใจและความหวังดี สิ่งที่เราต้องพึงระวังคืออารมณ์ เมื่อเห็นหรือได้ยินทำให้ไหวไปตามสิ่งเร้านั้น มันจะยากในเรื่องของการทำสมาธิ

ส่วนตัวผมเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา กางเต้นท์อยู่นอกบ้าน สวดมนต์ในเต้นท์ เพราะรู้ว่าสถานที่ที่มีคนเยอะทำให้มีสิ่งรบกวนทำให้ความตั้งใจในการสวดมนต์ทำได้ไม่เต็มที่ ก็เลยออกไปกางเต้นท์สวด สิ่งที่ได้ก็สมดังหมาย

อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

หากแนะนำชี้แจงน้องเขาด้วยจิตที่เมตตา ชุ่มเย็น ปรารถนาให้น้องเขาปฏิบัติตนได้ถูกต้องก็ได้บุญล้วนๆค่ะ จิตคุณจะไม่รุ่มร้อนกระวนกระวาย
แต่หากคุณตำหนิน้องเขาด้วยความโกรธขึ้ง ความไม่พึงพอใจ ซึ่งเป็นอกุศล คุณก็ได้บาป แต่หากทำให้น้องเขาสำนึกบ้างและปฏิบัติตนดีขึ้น คุณก็มีส่วนแห่งบุญนั้น
แนะนำว่าเลิกคิดเรื่องนี้ หากพบน้องเขาก็กล่าวคำขอโทษจากใจจริง
น้องเขาอาจไม่ทราบแนวปฏิบัติในการอยู่วัด คุณควรเมตตามากกว่าตำหนิ อย่างไรก็ตามไม่อยากให้คุณครุ่นคิดเรื่องนี้ด้วยความทุกข์ เพราะเท่ากับคุณได้ทำกรรมนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขอให้คุณเจริญในธรรมนะคะ

 

ได้ทั้งบุญและบาปค่ะ ส่วนอันไหนจะมากกว่ากันตอนที่อารมณใจคุณเกิดขึ้น หากคุณสามารถตอบตรงๆได้แบบไม่เข้าข้างตัวเองเลยนะคะ คุณเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า อารมณ์ที่ตำหนิเขา
น้ำหนักกรรมมันหนักไปทางไหน ดูจะเจืออยู่ระหว่าง โทสะ กับ ศรัทธา คุณไม่ชอบคนที่ไม่รู้จักมารยาท มาวัดก็ไม่รู้จักแต่งตัวให้เหมาะสม พูดคุยเสียงดังไม่เกรงใจใคร อันนี้ก็น่าด่าค่ะ ดิฉันหากอยู่ที่นั่นก็คงไม่พอใจเหมือนกัน แต่เราสามารถแจงมันออกมาได้เป็นลักษณะนี้ได้ว่า
หากกมลสันดารคุณหนักไปทาง พรหมวิหารสี่ คุณจะใช้สติพิจารณา แล้วจะพบว่า
น้องคนนี้น่าสงสาร คือ อย่างแรก เราจะรู้ว่าเขาเป็นบัวเหล่าไหน และรับธรรมะได้แค่ไหน
คุณจะพิจารณาเห็นว่า เขาต้องบาปแน่ๆ หากไม่มีใครเคยสอนเขา เราน่าจะสอนเขาได้
บ้าง เขาจะรับได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง คำพูดของคุณ จะออกเป็นลักษณะเมตตา
ปราณีและหวังดีกับเขา เช่น.. น้องจ๋า พี่ขอคุยด้วยหน่อย ไหนๆน้องก็เข้ามาในวัดแล้ว
น้องก็น่าจะมีความรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษอยู่บ้าง สิ่งที่น้องทำขณะนี้ แม้น้องอาจจะไม่รู้
ตัวอยู่ แต่พี่อยากจะบอกว่า การมาคุยเสียงดังนั้น ทำให้คนที่เขามาไม่ได้ยินพระสวด
หรือการแต่งกายเข้าวัด เราต้องเคารพในผ้าเหลืองเมื่อเข้าขอบเขาพุทธสีมา ...ฯลฯ

ถ้าคุณหนักไปทางวางอุเบกขา ก็จะเฉยๆ และก็คิดได้ว่า พระทุกวัด ต้องพบกับ
คนประเภทนี้ "ทุกวัน" พระท่านชินแล้ว แต่เราไม่ชิน เราไม่ควรเดือดร้อนแทนพระ
เพราะพระท่านยังไม่เดือดร้อนเลย มารไม่มี บารมีไม่เกิด แล้วคุณก็จะคิดได้ว่า ข้อดี
ในการเจอคนประเภทนี้ ทำให้เราเห็นความโกรธในตัวเอง ทำให้เรามีสติ คิดมอง
อะไรในมุมที่แตกต่าง เปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี นั่นหมายว่า น้องเขามา เพื่อให้เรา
สร้างขันติบารมี ให้เราได้ใจจดใจจ่อใส่สมาธิ ตั้งใจเงี่ยหูฟังพระสวดมากขึ้น เฮโล..

หากคุณหนักไปทางโทสะจริต แน่นอน ด่าก่อน ถามทีหลัง ดิฉันก็หนักทางข้อนี้
ดังนั้น ดิฉันก็จะกระโดดไปฉะเขาเหมือนกัน แต่คงไม่อ้างอึงถึงน่องทู่ ตัวดำ อะไร
เพราะร่างกายเขา ไม่ได้เกี่ยว ที่เกี่ยวที่เป็นปัญหาคือ "มารยาท"ของเขา อันนั้นที่
ดิฉันจะด่า แน่นอนว่า ดิฉันไม่สามารถทำสองข้อข้างต้นได้ แต่อย่างน้อย มันก็ทำ
ให้ดิฉันได้ทราบว่า เรานี่หนักไปทางโทสะจริต for sure ดังนั้น ถ้าปฏิบัติธรรม
ก็เลือกที่เหมาะกับโทสะจริต ที่บอกนี่ไม่ใช่ตำหนินะคะ ดิฉันก็คงไม่สามารถมี
สมาธิจดจ่อกับเสียงพระสวดได้ ถ้าเรื่องของน้องกับหนุ่มๆมาเข้าหู เราคงแยกประสาท
ไปฟังพระสวดไม่ได้ และหากเป็นดิฉัน ก็ระเบิดแน่ๆเหมือนกัน 555 สารภาพตามตรง
เลย เพราะไม่ชอบคนประเภทนี้เหมือนกัน ระหว่างรอพระสวดจบ ในหัวดิฉันคงเต็ม
ไปด้วยคำที่จะเตรียมไปด่าเด็กคนนี้เป็นแน่ เรียกว่า หากพระให้พร ก็ไม่รับแล้ว
มันจ้องแต่จะไปด่าเขาลูกเดียว ช่างไม่รู้มารยาท ไม่รู้จักเกรงใจซะบ้างเลย

แต่ก็หวังใจ (สาธุ) ไว้ว่า น้องคนนี้ จะหยุดพฤติกรรมย่ำศรัทธาเสียทีนับจากนี้เป็น
ต้นไป ขอให้เสียงด่าคุณ(ที่ว่าแรงสำหรับเขา) หวังว่า มันคงแรงพอ ที่จะทำให้
เขาเข็ดกลัว กับการโดนคนแปลกหน้าด่าแรงๆ ถ้าอย่างนั้น โทสะของคุณ ก็ปิด
นรกให้เขาได้ น่าจะดีนะคะ อิอิ

 

ไม่ผิดครับ น้องเค้าโชคดีแล้ว ที่มีคนเตือน...ทำใจให้สบายครับ

 

สาว ๆ กลุ่มนั้นขวางบุญคนที่มาสวดมนต์ ได้บาปไปเรียบร้อย ... ไม่ว่าคุณจะพูดดี หรือ พูดแรง ๆ



แต่คุณเจ้าของกระทู้ ได้บุญเจือโทสะ เพราะพูดส่อเสียดครับ ศีลพร่องศีลด่างพร้อย ... โดนมารมาลองของ ให้บุญที่สร้างอยู่นั้นได้ไม่เต็มที่ มารทั้งหลายเขาเกรงว่าคุณจะหลุดพ้นจากมือเขา ก็เลยส่งของมาให้เป็นการ ทดสอบครับ


และคุณเจ้าของกระทู้ ก็สอบไม่ผ่าน


.

 

ขอบคุณคำแนะนำและติเตียนทุกโพสคับ มานั่งคิดอยู่ว่าหากวันนั้นเราพูดกับเขาดีๆ ว่าอย่าเสียงดัง เค้าจะฟังเราไหม ถ้าบอกเค้าให้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเค้าจะไปไหม วัยที่พูดยากที่สุดก็วัยรุ่นตอนนี้แหละคับ เหมือนเราเมื่อก่อนคัยจะพูดอะไรก็ไม่ฟังทั้งนั้น อีกทั้งไม่ใช่ญาตพี่น้อง เค้าก็จะด่าเราสวนกลับมารึป่าว มันก็ยากที่จะช่างใจ ในวันนั้นเราคิดแค่ว่าถ้าเราไม่พูดว่าเค้าไปเค้าจะรู้ว่าสิ่งที่เค้าทำมันถูกต้องเพราะไม่มีคัยกล้าว่าเค้า เราต้องพูดแต่จะพูดดีๆคงไม่ได้แน่ๆ เราก็เลยแค่พูดลอยๆไปตามลมไม่ได้ไปด่าใส่หน้าเค้านะ เพราะมันจะดูไม่ดี แค่เค้ารู้ตัวว่าหมายถึงเค้าเราก็คิดว่าเออเด็กมันรู้ตัวแล้ว ช่างมันให้มันได้รู้ว่าผิดก็พอ แต่สุดท้ายเรากลับมาเสียใจเอง เพราะเค้าก็เป็นผู้หญิง คงแค่อยากสวยในวันนี้เพื่อผู้ชายจะได้สนใจ แต่มันผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย แถมดวงไม่ดีมาเจอคนเคร่งครัดอย่างเราอีก ทุกวันนี้ก็ได้แต่อโหสิกรรมให้เค้าไปแผ่เมตตาอย่าให้จองเวรกันเลย แต่ผมเชื่อนะว่า วันนี้เค้าคงลืมไปแล้วล่ะเอาอะไรกับวัยรุ่น !!!?? จิงไหม

 

เป็นแบบทดสอบขันติบาีรมีและอุเบกขาบารมีที่น่าท้าทายมากเลย แต่ว่าคุณสอบตกนะ สวดไปก็ไม่ได้อะไรวันนั้น จิตใจขุ่นมัว

 

การที่ท่าน จกขท. พูดไปแบบนั้น เท่ากับต่อว่าหญิงคนนั้นตรงๆๆเลย(หรือเรียกว่า ด่า) ซึ่งแรงมาก การด่าแบบนี้ ผู้ชายทั่วๆๆไปเขาไม่ด่ากันหรอก มีแต่พวกสาวประเภท ๒ เขาด่าผู้หญิงกันนะครับ
การต่อว่าแบบนี้ ผิดมากแรงมาก ที่ไปเอาปมด้อยของคนอื่นมาด่า อีกอย่างถ้ามีคนมาด่า จขกท. แบบนี้จะรูุ้สึกยังงัย
อีกอย่างท่าน จขกท. ก็รู้จักกับแม่ของน้องหญิงคนนั้น ท่าน จขกท. น่าจะพูดกับน้องหญิงคนนั้นดีๆๆนะ พูดตรงๆๆ ไม่ใช่ไปด่าปมด้อยเขาแบบนั้น
ผิดมาก บาปมาก เพราะไม่ใช่การเตือนแต่เป็นการด่าอย่างแรง

 

การทำแค่นั้น ไม่เรียกว่าขวางบุญหรอกครับ

 

ดีที่คุณสอนเขา แต่ถ้าจะดีควรบอกเขานิ่มนวลกว่านี้เพราะวัยรุ่นเรายิ่งไปด่ายิ่งต่อต้านค่ะ
ลองพูดดีๆก่อน ถ้าเขาไม่ฟังก็แล้วแต่วิจารณญาณละกันค่ะ

 

สำหรับผมการสวดมนต์คือการทำบุญ, การสร้างวาสนาบารมี


การที่สาว ๆ กลุ่มนั้น พูดเสียงดังทำให้ผู้สวดมนต์ขาดสมาธิในการสวด, ทำให้สวดมนต์สลับคำ, ทำให้สวดมนต์ตามคนอื่นไม่ทัน , ทำให้เจ้าของกระทู้โกรธ ฯลฯ


ไม่เรียกว่า ขวางบุญ ... ไม่รู้จะเรียกอะไรดี



.

 

การขวางบุญผู้อื่น

การขวางบญผู้อื่น ถือว่าเป็นกรรมฝ่ายอกุศลกรรมอีกชนิดหนึ่ง ที่บั่นทอนรายได้และความเจริญอย่างมาก มีหลายชนิดดังนี้

การขวางบุญโดยไม่ให้ผู้อื่นรักษาศีลและนั่งสมาธิ ถือ ว่าเป็นกรรมใหญ่ เพราะศีลเป็นบุญชั้นกลาง สมาธิเป็นบุญชั้นสูง คือเป็นครุกรรม คือกรรมหนักฝ่ายกุศล ถ้าผู้ใดไปขวางบุญชนิดนี้ จะทำให้ผู้นั้นได้รับความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างมาก


การขวางบุญในการแสดงธรรม คือ ในขณะที่อาจารย์สอนธรรมะให้คนทั่วไปฟังอยู่นั้น หรือในขณะที่พระทำพิธีสวดมนต์อยู่นั้น อาจจะมีบางคนพุดคุยกันในที่แห่งนั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่ถูกชวนคุยนั้นฟังที่อาจารย์สอนไม่รู้เรื่อง

และยังทำ ให้คนข้างๆเสียสมาธิในการฟังด้วย เป็นการรบกวนคนอื่นรอบข้าง หรือการกระทำใดๆก็ตามคนที่ฟังธรรม ในที่แห่งนั้นเสียสมาธิในการฟัง หรือถูกรบกวนการฟังธรรม

ทั้งที่ผู้ที่กระทำนั้นไม่ได้มีความตั้งใจ หรือมีเจตนา แต่เขาผู้นั้นจะต้องได้รับกรรมชดใช้ และกรรมของการขัดขวางบุญผู้อื่นแน่นอน และผลกรรมที่ได้รับก็คือ เขาจะเป็นผู้ตาบอด หูหนวก เป็นต้อเนื้อ ต้อกระจก ปากแหว่ง หรืออาจจะปากเสีย

หรือ ฟันในปากมีปัญหาทำให้ได้รับความเจ็บปวดมาก อาจจะเป็นคนปากเหม็นมาก หรืออาจจะทำให้เขาผู้นั้นเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ซึ่งจะอยู่กับกรรมที่ทำมา ว่าเขาขวางบุญมากหรือน้อยแค่ไหน แต่เขาจะได้รับโทษอย่างแน่นอน ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนก็จะต้องเป็นชาติต่อๆไปโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย


และใครจะเอาเด็กไปฟังธรรมด้วย ก็ขอให้ดูแลให้ดี มิฉะนั้น ตัวเด็กจะทำบาปโดยไม่รู้ตัว เช่นการส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น

หลายคนอาจสงสัยว่า แค่พูดกันหรือแค่โทรศัพท์อาจจะรบกวนคนอื่นบ้าง แต่ทำไมต้องได้รับโทษขนาดนั้น ก็จะขออธิบายว่า ..

การ ฟังธรรมะ..ไม่เหมือนกับการฟัง อาจารย์สอนความรู้วิชาการด้านต่าง ดังที่เราได้เคยร่ำเรียนมา เพราะความรู้เหล่านั้น ไม่สามารถที่จะทำให้เรากลายเป็นคนดีได้ จนทำให้เราพ้นจากนรกหรืออบายภูมิ และความรู้เหล่านั้น ก็ไม่สามารถทำให้เราตายแล้ว ไปเกิดบนสวรรค์ได้ จึงถือว่าเป็นความรู้ที่ธรรมดา

ไม่เหมือนกับความรู้ที่ได้จากธรรมะ เพราะถ้าผู้ใดสามารถรู้ และเข้าใจจนสามารถพิสูจน์ได้ เขาผู้นั้นก็จะกลายเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนใคร และเมื่อตายไปก็จะรอดพ้นจากนรกหรืออบายภูมิได้ และธรรมะยังทำให้เขารู้หนทางที่จะไปเกิดบนสวรรค์ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นความรู้ในธรรมะจึงถือว่าเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่มีความรู้ใดเทียบเท่าได้


เพราะฉะนั้นการขวางบุญในการฟัง ธรรม จึงเท่ากับขวางแสงสว่างในชีวิตของคนบางคน และขวางความเจริญรุ่งเรืองทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไป ของบุคคลผู้นั้นด้วย จึงทำให้ผู้ที่ขวางบุญคนอื่นนั้นได้รับผลกรรมที่หนักพอสมควร ดังที่กล่าวมาแล้วนั่นเอง

แสดงกระทู้ - การขวางบุญผู้อื่น • ลานธรรมจักร

 

ทำงัยได้ละครับ ไม่มีสมาธิเองนะ
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรานะ ไม่ใช่อยู่ที่สิ่งแวดล้อมนะครับ
ต้องโทษตัวแล้วละครับ ไม่มีสติเอง ก็แค่เสียงแค่นั้น แบบนี้เสียงพุ,เสียงดนตรีก็ขวางบุญสิ ดังกว่าอีก
การขวางบุญ ท่านพี่เฮีย...ต้องไปหาคำแปลใหม่แล้วล่ะ ว่าขวางจริงๆๆนะ เป็นยังงัย ไม่ใช่แค่เสียงคุยรึเสียงโทรศัพท์

 

เสียงคุย,เสียงโทรศัพท์ เขาไม่เรียกว่าขวางบุญครับ ลองไปหาคำแปลดูใหม่นะครับ

 

ตามความคิดของผมนะครับ แยกเป็น การกระทำของวัยรุ่นหญิงสาวนั้นไม่สมควรส่วนจะบาปหรือไม่บาปตัวเค้านั้นจะได้รับผลเองอยู่แล้วครับ ส่วนตัวคุณนั้น เข้าใจว่าจิตตอนนั้นของคุณมีอารมย์โกรธ(โมหะ) จึงได้กระทำสิ่งๆต่างๆออกมาในแง่นั้น จิตที่เจือโดยโมหะจึงเป็นโทษ (ถ้าคุณมีสติที่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง น่าจะมีทางออกโดยการใช้ปัญญามากกว่านี้ครับ ดีไม่ดีวัยรุ่นหญิงสาวนั้นอาจไม่เข้าวัดอีกเลยก็ได้เป็นการปิดทางหลุดพ้นของเค้า ...) สรุปนะครับ ผมไม่ได้ต่อว่าคุณนะครับ เรื่องมันผ่านไปแล้วทครับทำปัจจุบันให้ดี ดีกว่าครับ อย่าไปสนใจเรื่องในอดีตที่มันแก้ไขไม่ได้เลยครับ ทำดี ละเว้นความชั้ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ครับผมม ^^

 

แบบนี้เเสดงว่าเจ้าของกระทู้ผิด ที่ไปต่อว่าสาว ๆ กลุ่มนั้น ,คนที่อยู่ในโบสถ์ที่กำลังสวดมนต์ก็ผิด ,หลวงพ่อที่นำสวดมนต์ก็ผิด ดันไม่มีสมาธิเอง มาสนใจสิ่งแวดล้อมเอง .... สาว ๆ เขาจะคุยกันจะพูดดัง ๆ มาสนใจกันทำไม ... สวดมนต์ขวางความบันเทิงของสาว ๆ กันทำไม

แต่

โบสถ์วิหารคือสถานที่เอาไว้สวดมนต์และกำลังมีการสวดมนต์ โบสถ์วิหารไม่ได้เอาไว้มาพูดเสียงดังรบกวนคนสวดมนต์


ไม่เรียกว่าขวางบุญจะเรียกว่า อะไรแหละพ่อคู๊ณ

ต้องเอามือมาปิดปากคนสวดมนต์เลยหรือครับถึงจะเรียกว่า ขวางบุญ

 

<TABLE id=post6095890 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 10:34 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#
แสดงกระทู้ - การขวางบุญผู้อื่น • ลานธรรมจักร

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เสียงคุย,เสียงโทรศัพท์ เขาไม่เรียกว่าขวางบุญครับ ลองไปหาคำแปลดูใหม่นะครับ<!-- google_ad_section_end -->




.................

มาด้วยเสียงโวกเวกโวยวาย


ไม่เรียกว่า ขวางบุญ

แล้วเสียงโวกเวกโวยวาย เขาเรียกว่าอะไรครับ ?
ท่านJ47 ช่วยหาคำมาให้ผมเข้าใจสักหน่อยซิครับ
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("6095890")</SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณJ47ครับ ... สวดมนต์ข้ามปี สวดเพื่ออะไรครับ สวดไปทำไมครับ สวดให้มันได้อะไรครับ ?




.