ผลที่คาดไม่ถึงของการทำนายภัยพิบัติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Leeporter, 5 มกราคม 2012.

  1. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80

    ผมลองคำนวณ จากตัวเลขดังกล่าว จะได้ว่า

    ปริมาณน้ำในเขื่อนมีทั้งหมด 13,462,000,000 ลูกบาศเมตร
    พื้นที่รับน้้ำรวม 30,709,000,000 ตารางเมตร

    ถ้าปล่อยน้ำทั้งหมดในเขื่อน ให้ไหลนองไปในพื้นที่ทั้งหมด(สมมุตติให้มันมีระดับลึกเท่ากัน) ระดับน้ำจะสูงเท่ากับ เอาปริมาณน้ำตั้ง หารด้วยพื้นที่ จะได้ระดับความลึกของน้ำ

    คำนวณแล้ว ได้เท่ากับ 0.44 เมตร หรือ 44 เซนติเมตร

     
  2. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    โอเคครับคุณขวัญ ภัยพิบัติที่คุณยกมามันถึงขนาดนั้น
    ก็ต้องยอมรับครับว่าเราต้องป้องกันทุกด้าน ผมเข้าใจคุณครับ

    แต่ที่ผมคุยนี้คือเรื่องน้ำเฉพาะในเขื่อนภูมิพล
    โดยไม่ได้มีองค์ประกอบใดๆ มาเสริมแทรกนะครับ

    เอาเป็นว่า ผมคงต้องเหมารวมกับทุกอย่างที่คาดไม่ถึงไปด้วยสิครับ
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อะไรจะเกิดขึ้น.. เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว .....
    ยุคน้ำแข็งยุคสุดท้ายบนโลกผืนแผ่นดินถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง (Glaciers) จำนวน 32 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันนี้ธารน้ำแข็งเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ หากธารน้ำแข็งทั้งหมดบนโลกและน้ำแข็งอื่นๆบนพื้นผิวละลายไปจนหมด ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 270 ฟุต หรือ 70 เมตร ธารน้ำแข็งอาจมีอายุยาวนานหลายล้านปี การเปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มขึ้นหรือการหดตัวของธารน้ำแข็งขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ปกติธารน้ำแข็งจะไหลหรือเคลื่อนที่อย่างช้าๆ และใช้เวลาเป็นศตวรรษหรือนับพันปี ทว่าขณะนี้มันเปลี่ยนแปลงภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

    [​IMG]
    ภาพถ่ายปริมาณน้ำแข็งบริเวณอาร์ติก เซอร์เคิล เมื่อปี ค[1].ศ. 2003 โดยดาวเทียมเทอรา


    ปี ค.ศ. 2003 ดาวเทียมตรวจสภาพแวดล้อม “เทอรา” ขององค์การนาซ่าตรวจพบว่าน้ำแข็งบริเวณ อาร์ติกเซอร์เคิล ขั้วโลกเหนือละลายไปเป็นจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โครงการเทอรากล่าวว่านี่คือหลักฐานแสดงว่าโลกร้อนขึ้นซึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์และเป็นสัญญาณในระดับอันตราย
    ต่อมาในปี ค.ศ. 2004 นักวิทยาศาสตร์สองทีมเผยผลการศึกษาสภาวะโลกร้อนขึ้นซึ่งได้ผลตรงกันว่า อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นราว 1 องศาฟาเรนไฮต์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1900 และในบริเวณอาร์กติกอุณหภูมิสูงขึ้น 4 ถึง 7 องศาฟาเรนไฮต์ในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว มันทำให้ปริมาณหิมะลดลง และธารน้ำแข็งละลายลงสู่ทะเล การเปลี่ยนแปลงนี้ยังคุกคามต่อชีวิตหมีขั้วโลก 25 ปีที่ผ่านมาพวกมันลดจำนวนลง 15 เปอร์เซนต์และน้ำหนักตัวลดลดลงด้วย ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาธารน้ำแข็งบริเวณแอนตาร์กติกา ขั้วโลกใต้ และอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ ละลายอย่างรวดเร็วรวมทั้งแผ่นน้ำแข็งชายฝั่งก็ละลายจนแตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาหลายก้อน
    การศึกษาล่าสุดโดยทีมวิจัย British Antarctic Survey(BAS) นำโดยอลิสัน คุก ซึ่งตีพิมพ์ผลงานในนิตยสาร journal Science. ฉบับวันที่ 22 เมษายน 2005 เผยว่า ธารน้ำแข็งจำนวน 84 เปอร์เซ็นต์ ในบริเวณบางส่วนของแอนตาร์ติกหดตัวจากการละลายตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทีมวิจัยบาสทำการศึกษาจากภาพถ่ายทางอากาศจำนวน 2,000 ภาพ ซึ่งบางภาพถ่ายไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1940 รวมทั้งภาพถ่ายจากดาวเทียมด้วย คุกกล่าวว่า ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาธารน้ำแข็งเกือบทั้งหมดบริเวณแอนตาร์กติกซึ่งไหลลงจากภูเขาสู่ทะเลยาวขึ้นอย่างช้าๆตลอดมา ทว่า เดี๋ยวนี้มันกลับตรงกันข้าม “ 5ปีหลัง ธารน้ำแข็งส่วนใหญ่หดตัวอย่างรวดเร็ว “
    เดวิด วอนจ์ นักธารน้ำแข็งวิทยา หนึ่งในทีมสำรวจบอกว่า “ การหดตัวของธารน้ำแข็งจำนวนมากบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกในช่วงเวลา 50 ปี มีสาเหตุใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ “ ทีมวิจัยบาสเคยทำนายไว้ในปี ค.ศ. 1998 ว่า แผ่นน้ำแข็งชายฝั่งหลายก้อนรอบๆคาบสมุทรแอนตาร์กติกจะละลายเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น คำทำนายนี้กลายเป็นความจริงและรุนแรงกว่าที่คาดหมายไว้มาก มันเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 7มีนาคม 2002 แผ่นน้ำแข็งชายฝั่งชื่อ ลาร์เซน บี (Larsen B ice shelf) ขนาด 3,250 ตารางกิโลเมตร และหนา 200 เมตร ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรแอนตาร์กติกแตกออกเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่และเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกนับพันชิ้น ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดยาว 100 ไมล์ ชื่อ B15A และกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2005 แผ่นน้ำแข็งลาร์เซน บี แตกอีกครั้งหนึ่งส่วนที่แตกออกกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง ขนาด 16 คูณ 35 ตารางไมล์ ชื่อ A-53

    [​IMG]

    [​IMG]
    แผ่นน้ำแข็ง ลาร์เซน บี ถ่ายจากเรือสำรวจ เจมส์ คลาร์ก รอส ของทีมวิจัยบาส เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2002

    ทีมวิจัยบาสเชื่อว่าอากาศบริเวณคาบสมุทรแอนตาร์กติกคงที่เป็นเวลาอย่างน้อยที่สุด 1800 ปี แต่ปัจจุบันนี้มันกำลังเปลี่ยนแปลงไป 50 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิบริเวณนี้สูงขึ้น 4.5 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 2.5 องศาเซลเซียส มากกว่าพื้นที่อื่นๆในบริเวณขั้วโลกใต้ ทางด้านอาร์กติกขั้วโลกเหนือ ธารน้ำแข็งก็หดสั้นลงและละลายอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันกับขั้วโลกใต้
    ปลายเดือน ธันวาคม 2004 ทีมสำรวจธารน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์รายงานว่า ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์ชื่อ “Jakobshavn Isbrae” มีอัตราการละลายเป็นสองเท่าจากเดิมและไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว ธารน้ำแข็งนี้เคยไหลลงทะเลในอัตราความเร็ว 3.45 ไมล์ต่อปีในระหว่างปี 1992-1997 แต่ในปี 2003 มันไหลด้วยอัตราความเร็ว 7.83 ไมล์ต่อปี และความหนาของมันลดลงราว 49 ฟุตในทุกๆปีนับตั้งแต่ปี 1997เป็นต้นมา ผลจากการละลายอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น .002 นิ้วต่อปี(.06 มิลิเมตร) หรือราว 4 เปอร์เซนต์ของอัตราการเพิ่มของระดับน้ำทะเลในศตวรรษที่ 20 และธารน้ำแข็งอื่นๆในกรีนแลนด์ก็บางลงประมาณ 1 เมตรต่อปีซึ่งเกิดจากการละลายด้วยสาเหตุโลกร้อนขึ้น
    โลกร้อนขึ้นเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก(greenhouse effect) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ชั้นบรรยากาศของโลกถูกห่อหุ้มด้วยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งกั้นรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ตกลงบนผิวโลกไม่ให้สะท้อนกลับขึ้นสู่อวกาศ เหมือนเรือนกระจกที่ใช้เพาะปลูกต้นไม้ในประเทศเขตหนาว ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านเข้าไปภายในเรือนกระจกได้แต่ความร้อนยังคงอยู่ภายใน ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญมี 6 ชนิด ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน (HFCS) ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน (CFCS) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ (SF6) โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและยานยนต์เพิ่มปริมาณจาก 278 ส่วนในล้านส่วน ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็น 380 ส่วนในล้านส่วนในปี 2003
    ผลการศึกษาภาวะโลกร้อนชิ้นล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์นาซ่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยนิวยอร์คและห้องปฏิบัติการลอว์เรนซ์เบิร์กเลย์ ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารไซน์ฉบับล่าสุดสรุปว่าโลกดูดกลืนพลังงานจากดวงอาทิตย์มากกว่าที่สะท้อนหรือแผ่กลับไปสู่อวกาศทำให้พลังงานอยู่ในสภาวะ”ไม่สมดุล” ส่งผลให้โลกร้อนขึ้น ความไม่สมดุลของพลังงานมีค่าเท่ากับ 0.85 วัตต์ต่อตารางเมตร ซึ่งจะทำให้โลกร้อนขึ้น 0.6 องศาเซลเซียสหรือ 1 องศาฟาเรนไฮต์เมื่อสิ้นสุดศตวรรษนี้
    จิม แฮนเซน หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ จาก NASA's Goddard Institute for Space Studies อธิบายว่า ความไม่สมดุลของพลังงานเป็นผลมาจากพอลลูชั่นในชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ มีเทน โอโซน และอนุภาคคาร์บอนดำ พอลลูชั่นเหล่านี้กั้นความร้อนที่แผ่จากโลกที่ไปยังอวกาศและยังเพิ่มการดูดกลืนแสงอาทิตย์อีกด้วย
    เมื่อ 30 ปีก่อน นักอุตุนิยมวิทยาทำนายไว้ว่าภาวะโลกร้อนจะปรากฏเด่นชัดในบริเวณขั้วโลก ขณะนี้มันกลายเป็นความจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งที่ขั้วโลกไม่เพียงแต่ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเคมีในมหาสมุทร การไหลเวียนของบรรยากาศและมหาสมุทรและระบบอากาศของโลกด้วย

    บทความโดย
    บัณฑิต คงอินทร์ bandish.k@psu.ac.th

     
  4. juppy

    juppy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เรียนมาน้อย คงไม่เก่งเหมือนคุณ Sutanon หรอกคะ สำหรับ คำที่ถามว่าดูแผนที่เป็นไหม
    ชาวบ้านอย่างเราๆ คงไม่มีอะไรที่เทียบนักวิชาการ หรือ ผู้รู้ ที่อ้างเหตุผลต่างๆ นานา และ มองว่าความเห็นคนอื่นผิดได้หรอกคะ

    อย่างไรก็ตาม เราอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง
    บ้านเราอยู่ที่เขตทวีวัฒนา ซึ่งติดกับคลองมหาสวัสดิ์ เราได้เห็นว่าน้องน้ำมายังไง และ มันจากเราไปยังไง ในเวลานั้นไม่มีใครเชื่อว่าเขตเราน้ำจะท่วม เพราะทุกคนบอกว่า บ้านเราสูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก แต่ท้ายสุด เขตทวีวัฒนา น้ำท่วมเกือบสูงสุดในกรุงเทพ แต่เขตหลายๆ เขตซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลกลับไม่มีน้ำสักหยด

    อยากให้มองที่ ปริมาณน้ำ ที่วิ่งมาตามคลอง เมื่อเจอกับการจัดการที่ยังไม่ลงตัว ความโกลาหลย่อมเกิด และ เมื่อน้ำท่วมเกิดขึ้น คุณจะประเมิณว่า มันควรจะขึ้นสูงสุดสักเท่าไร และ คุณควรจะป้องกันอย่างไร

    แต่สำหรับใครที่คิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ ก็ขอให้คุณรับผลของความคิด และ ความประมาทละกัน

    ความเห็นส่วนตัวนะคะ เมื่อเราเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้าย เราควรจะคาดคะเนจาก worst case ก่อนคะ อย่าตั้งชีวิตอยู่บนความประมาท อายุจะยืน และ ได้แก่ตายอย่างมีความสุขคะ
     
  5. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ------------

    44 cm. นี่เท่ากับหัวเข่าเลยนะครับ
    อืม... ดูจากแผนที่ดาวเทียม จากหมุดแดง มาถึงกรุงเทพฯ
    พื้นที่หมุดแดงน้อยมาก ยังไงก็ไม่น่าจะมีปริมาณมากพอนะครับ
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เวลาคำนวณต้องมีระยะเวลาที่น้ำเดินทางประกอบด้วยนะ มันคำนวณลำบาก
    และจะใช้พื้นที่รวมแบบนั้นไม่ได้ เพราะน้ำมันไม่ได้เดินทางที่เดียวถึงพร้อมกัน
    ตั้งแต่ตากยันกทม.
    มันมีหัวน้ำกลางน้ำหางน้ำ น้ำออกจากเขื่อนเข้าตากรับเต็มๆ ไม่รู้จะเป็น10-20เมตรไหม
    เพราะที่เขื่อนศรีนครินทร์ กฟผ.เขาคำนวณเมืองกาญฯจุดแรก รับไป 25 เมตร
    แต่น้ำที่เขื่อน 17,000 ล้านลบ.
     
  7. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    --------------------

    ที่ผมถามว่าเป็นไหม ก็เพราะคุณไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแผนที่ ที่ผมอุตส่าห์
    หามาให้เลยนะครับ

    ส่วนเรื่องความประมาทนั้น เราคุยกันตรงนี้มันไม่ใช่ประเด็นว่าประมาทหรือไม่
    เพราะความประมาทหรือไม่นั่นคือความพร้อมตังหากครับ

    แต่ที่ต้องคุยคือคำทำนายว่าเขื่อนแตกจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ เกิดผู้คนล้มตายจำนวนมาก ตรงนี้ต่างหากครับ ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ครับ
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่ได้จะบอกคุณแบบนั้น
    เรื่องน้ำในเขื่อนที่ตาก แตก เราก็ไม่มีความคิดเห็นด้วยกับที่คุณคิดคาดการณ์ก็แย้งไปแค่นั้น
    ไม่ได้จะให้คุณมาเห็นด้วยกับเรา ต่างคนต่างความคิดขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน

    เราไม่จำเป็นต้องคิดให้เหมือนกันไม่ใช่หรือ
     
  9. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ------------------

    อืม...


    m35.gif
     
  10. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ไม่เป็นไรผมให้อภัย ที่ผ่านมาและอีกหลายครั้ง คนเราผิดกันได้ โทษทีมาช้าไปหน่อย เห็นหรือยังละว่าคุณต้องมาขอโทษผม ตอนนี้พอจะทำให้ชื่อผมเริ่มศักสิทย์ขึ้นมาบ้างหรือยังละ เดี๋ยวสักพักผมจะคุยเรื่องข้อมูลให้คุณฟังนะถ้าคุณ มีสติ ตอนนี้ของานก่อนนะ
     
  11. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    -------------

    แฮ่...แฮ่...

    m31.gif
     
  12. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    งานยุ่ง ว่าจะคุยด้วยสักหน่อย นะเนี่ย ยังไม่ได้ตอบกับเค้าบ้างเลย
     
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <table id="post5567666" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">sutanon [​IMG]
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2009
    ข้อความ: 1,187
    พลังการให้คะแนน: 153 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5567666" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เทพเมรัย [​IMG]
    ผมลองคำนวณ จากตัวเลขดังกล่าว จะได้ว่า

    ปริมาณน้ำในเขื่อนมีทั้งหมด 13,462,000,000 ลูกบาศเมตร
    พื้นที่รับน้้ำรวม 30,709,000,000 ตารางเมตร

    ถ้า ปล่อยน้ำทั้งหมดในเขื่อน ให้ไหลนองไปในพื้นที่ทั้งหมด(สมมุตติให้มันมีระดับลึกเท่ากัน) ระดับน้ำจะสูงเท่ากับ เอาปริมาณน้ำตั้ง หารด้วยพื้นที่ จะได้ระดับความลึกของน้ำ

    คำนวณแล้ว ได้เท่ากับ 0.44 เมตร หรือ 44 เซนติเมตร

    </td> </tr> </tbody></table>
    ------------

    44 cm. นี่เท่ากับหัวเข่าเลยนะครับ
    อืม... ดูจากแผนที่ดาวเทียม จากหมุดแดง มาถึงกรุงเทพฯ
    พื้นที่หมุดแดงน้อยมาก ยังไงก็ไม่น่าจะมีปริมาณมากพอนะครับ
    __________________
    สิ้นสุดตรงที่เราได้บรรจบกัน แม้มันจะนานก็ตามที
    </td></tr></tbody></table>






    ใช้วิธีคณิตศาตร์แบบนี้ไม่ได้ครับ
    มันไม่ใช่การเอาปริมาณน้ำมาหารด้วยพื้นที่รองรับแบบนั้น
    น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาก็เป็นบทเรียนแล้วครับ
    ต้องดูที่ความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแผนที่หรือบนกระดาษ

    ให้ลองศึกษาการบรรยายของ ดร.เสรี ท่านคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ


    การหาคำตอบโดยการใช้คณิตศาสตร์แบบบริสุทธิ์บางครั้งไม่ตรงกับความเป็นจริง

    อันนี้ปัญหาเชาวน์นะครับ
    ถ้าผู้หญิง 1 คน ตัดเย็บเสื้อ 1 ตัวใช้เวลานาน 24 ชั่วโมง (หรือ 1,440 นาที)
    ถามว่าถ้าใช้ผู้หญิง 1,000 คน จะใช้เวลาตัดเย็บเสื้อตัวดังกล่าวเป็นเวลาเท่าไหร่
    คณิตศาสตร์บริสุทธิ์บอกว่า เอา 1,440 นาที หารด้วย 1,000 คน เท่ากับ 1.44 นาที

    มันเป็นไปได้แค่บนกระดาษ แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้
    เวลา 1.44 นาที แค่หยิบเข็มร้อยด้าย วัดผ้า ตัดผ้าแบ่งกันก็ทำไม่ทันแล้ว
    มันมีปัญหา 'คอขวด' อยู่ในกระบวนการ

    การไหลของน้ำก็เช่นเดียวกัน น้ำจากกรณีเขื่อนแตกมันเป็น 'ก้อนน้ำ'
    ต้องใช้เวลาในการไหล การกระจายตัว การระบาย
    เมื่อระบายไม่ทันก็เกิดน้ำท่วม น้ำก้อนเดียวไหลไปทางไหนก็ท่วมทางนั้น
    ดังนั้นนอกจากปริมาณน้ำแล้ว เรายังต้องพิจารณาการไหลของน้ำ
    ดังเช่นที่เคยได้ยินว่า xxxx ลูกบาศก์เมตร / วินาที

    ผู้เชี่ยวชาญเขาจึงใช้การสร้างแบบจำลอง

    ออกอากาศเมื่อปี 2010 เกิดขึ้นแล้วในปีนี้ 2011
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ck4zNqo4e0s&feature=player_embedded"]??? 10 ?? ?????????????? 20 Dec.10 - YouTube[/ame]





    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2012
  14. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    เราเชื่ออาจารย์เสรีค่ะ คนดี ๆ เก่งๆ เสียสละ รัฐกลับมองไม่เห็น เอานักการเมืองมาเป็นที่ปรึกษา แทนที่จะหาผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาตั้งแต่แรก พึ่งมาเห็นค่าอีกทีตอนที่น้ำท่วมไปแล้ว...........

    ออกอากาศ 20 ธ.ค. 53 หัวข้ออีก 10 ปีน้ำท่วมกรุงเทพ ปรากฏว่ามาเร็วกว่าที่คิด ไม่ถึงปีก็ท่วมเสียแล้ว..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2012
  15. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    เข้ามาดัน แค่นั้นแหละ เพราะเห็นคุณค่า ของกระทู้นี้

    ( หน้าแรกๆ ดีมากๆ )
     
  16. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    กระทู้นี้เป็นอีกกระทู้หนึ่ง ที่เริ่มบานปลาย

    ผมเข้าไปยุงกะเขา โดนซะหนัก

    ไม่พอใจกันยกใหญ่ ทั้งผู้นำกลุ่ม และแฟนประจำของเขา


    ไม่แน่ใจว่า ผมจะหยุดแนวความคิด PX นำพาโลกแตก อะไรนั่น ได้หรือไม่

    แต่เห็นว่า ผู้นำกลุ่ม จะวางมือแล้ว

    ยังไงก็ ขอบคุณ ผู้นำกลุ่มไว้ ณ ที่นี้ ที่ตระหนักถึงอันตรายของข้อมูล PX ของเขา



    http://palungjit.org/threads/สถานีถ่ายทอดสัญญาเซตาร์-ภาคตามล่าหา-px.297203/page-242
     
  17. navyhawk

    navyhawk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +33
    ไปขอบคุณในกระทู้เขาซิNumtrnมาขอบคุณอะไรในนี้วะ ??ไปขี้รดบ้านอื่นแล้วมายืนดีใจอีกบ้านนึง ...
     
  18. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    สะดวก ขอบคุณในนี้ครับ
    แล้วทำไมท่านต้อง -#$% ด้วยล่ะเนี่ย ของขึ้นหรือไร?

    คิดว่าเขาคงเข้ามาอ่าน ถ้าไม่อย่างนั้น

    ฝากท่านไปขอบคุณเขาด้วย แล้วกัน ! :d
     
  19. pinkangel2550

    pinkangel2550 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +31
    แอบมาหลบอยู่นี่เอง แฟนๆเขาเชิญคุณไปที่กระทู้ PX นู่น เขาคิดถึงกันพ่อพระเอก
     
  20. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +892
    อย่าใช้ความรู้สึกของตัวเอง ไปตัดสินแทนคนอื่น ว่าอะไรเหมาะ อะไรไม่เหมาะ กับใครๆ

    เพราะใครก็ไม่ใช่พระผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะชี้ อนาคตใครๆ ให้เป็นไปตามความรู้สึกของเรา

    อะไรคือบานปลาย อะไรคือเกินเลย มันแค่ความรู้สึกของเรา รึเปล่า


    ยุคนี้ ยุคข่าวสารข้อมูล ผู้บริโภคข้อมูล ต้องสร้างภูมิคุ้มกันเอง

    ข้อมูลคือข้อมูล มันทำร้ายใครไม่ได้ นอกจากคนคนนั้นจะทำร้ายตัวเอง

    โบราณจึงบอกว่า อย่าคิดสั้น อย่าด่วนตัดสินใจ อย่าเพิ่งสรุป แม้ว่าปัญหามาถึงตัวแล้ว ก็ยังแก้ไขได้

    แล้วจะรีบตายทำไม ไม่เข้าใจ แล้วจะรีบสรุปทำไมว่าอันไหนดี อันไหนร้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...