WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

หมู่เกาะ"คิริบาส" รับมือวิกฤตโลกร้อน

26-03-2012 | 11:45 l

สภาพอากาศโลกที่แปรปรวน โถมกระหน่ำหลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่มชาติเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้คนกว่า 42,000,000 คน ต้องอพยพย้ายที่อยู่ เพราะภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า น้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว

ประเทศหมู่เกาะเล็กๆ อย่าง"คิริบาส" ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างฮาวายและออสเตรเลีย และคาบเกี่ยวบนเส้นศูนย์สูตร กำลังวิตกว่าจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ถูกกลืนหายไปจากแผนที่โลก เพราะปัญหาโลกร้อน ที่ส่งผลให้น้ำทะล
หนุนสูงขึ้นผิดปกติทุกปี

ด้วยทำเลที่ตั้งของประเทศ อยู่เหนือน้ำทะเลไม่ถึง 2 เมตร จึงเสี่ยงอย่างมากที่จะถูกคลื่นทะเลกัดเซาะเข้ามายังชายฝั่ง แต่ละปี เกาะแก่งต่างๆ เริ่มแสดงให้เห็นส่วนเว้าเข้ามายังแผ่นดินมากขึ้น นอกจากนี้บางพื้นที่ยังต้องเผชิญกับน้ำท่วม
จากน้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้น ถึงขนาดที่ว่า มีรายงานความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงขั้นที่รัฐบาลคิริบาส ที่แม้ไม่ได้เป็นประเทศร่ำรวยมากมายนัก ได้เตรียมแผนรับมือกับการที่ประเทศถูกกลืนลงทะเล โดยเสนอขออนุมัติงบประมาณสูงถึง 300 ,000,000 บาทจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อซื้อที่ดินในฟิจิ รองรับการอพยพประชากรที่มีอยู่ประมาณ 130,000 คน ไปยังประเทศใหม่ แต่ทางผู้นำ"คิริบาส" ออกมาปฏิเสธข่าวการเตรียมอพยพคนหนีน้ำ โดยชี้แจงว่า เป็นเพียงแค่การซื้อที่ไว้ เพื่อเหตุผลทางธุรกิจและปูทางเพื่ออนาคตของชาว"คิริบาส" เท่านั้น

จากคำอ้างอิงของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ประจำมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด บอกไว้ว่า แม้ประเทศ"คิริบาส" จะไม่ใช่ประเทศที่สร้างปัญหา แต่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะโลกร้อน

ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ได้รายงานตัวเลขของประชากรในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ที่ไร้ที่อยู่อาศัยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุจากสภาพอากาศแปรปรวนและภัยธรรมชาติ พบว่ามีสูงถึง 42,000,000 คน จึงมีแนวโน้มว่าในอนาคต อาจทำให้ตัวเลขผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เกิดการผันผวน โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยในแถบตามแนวชายฝั่งทะเล จึงเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เตรียมหาแผนสำรองเพื่อรับมือกับวิกฤตประชากรโลก โดยเฉพาะ 6 ใน 10 ประเทศในเอเชีย ที่อาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงกว่าชาติอื่น โดยมี บังกลาเทศ และอินเดีย เป็นสองชาติหลักที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด รวมทั้งในรายงานยังระบุด้วยว่า 1 ใน 3 ของประชากรในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า และไทย อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเรื่องการขยายตัวของเมือง การตั้งถิ่นฐาน และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่กระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่ง"เอดีบี" มองว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาจจะต้องใช้เงินสูงถึงปีละ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาโลกร้อน

ช่อง 7

 

ฮือฮาหนุ่มป่วยตับแข็งกินหญ้าหมาบอกช่วยชีวิต

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555 เวลา 15:28 น.



วันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 13.00น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายมนต์เทียน อ่อนสกุล เจ้าหน้าที่กู้ภัยวีอาร์อ่างทองว่า มีผู้เจ็บโรคตับแข็งนอนรอวันตาย แต่พอเก็บหญ้าปล้องแดงนำต้มกินจนปัจจุบันหายเป็นปกติอย่าเหลือเชื่อ อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่11 หมู่ 3 ต. ย่านซื่อ อ. เมือง จ. อ่างทอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ


เมื่อไปถึงได้พบกับนายสมเกียรติ บุญยงค์ อายุ 50 ปี พนักงานแผนกพนักงานสถานที่ สำนักงานเกษตร จ.อ่างทอง กำลังนั่งพักผ่อนอยู่บนแคร่ไม้ สภาพร่างกายดูเป็นปกติ แถมออกกำลังกายโชว์ความแข็งแรงให้ดูอีกด้วย


นายสมเกียรติ เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วติดเหล้าอย่างหนักจนป่วยเป็นโรคตับแข็ง จนทรมานนอนไม่หลับ และต้องเข้ารับการรักษาที่รพ.อ่างทอง และแพทย์ให้ตนกลับไปรักษาที่บ้านพัก จนรู้สึกว่าต้องตายแน่ แต่ขณะที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้าน มีสุนัขเพศเมีย สีขาว ที่พบในท่อน้ำบริเวณตลาดอ่างทอง และด้วยความสงสาร จึงช่วยเหลือนำขึ้นจากท่อและนำมาเลี้ยงไว้ โดยตั้งชื่อว่า“เจ้าหลง”


ระหว่างนั้นเจ้าหลงพยายามใช้เท้าสะกิดตนหลายครั้งแล้ววิ่งไปกินหญ้าข้างบ้าน ด้วยความสงสัยจึงพยายามคลานตามเจ้าหลงไปกินหญ้าสด ๆ โดยในคิดว่าเจ้าหลงคงจะบอกยาดีให้ และหลังจากจากกินหญ้าตามที่เจ้าหลงบอกแล้ว ปรากฏว่ามีอาการดีขึ้นตามลำดับจนกระทั่งแทบหายเป็นปกติ แต่ต่อมาต้องเสียใจ เพราะหลังจากเจ้าหลงช่วยชีวิตตนได้ไม่นานกลับต้องมาถูกรถชนเสียชีวิต ทำให้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก


นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า สำหรับต้นหญ้ามีชื่อว่าหญ้าปล้องแดง มีลักษณะเป็นสีเหลืองอมเขียว ก้านเป็นสีแดง มียอดชูเป็นดอก นำมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม จนทำให้ตนหายจากโรคตับแข็ง แถมยังกระปรี่กระเป่าขึ้นไม่รู้สึกเจ็บออด ๆ แอด ๆ เหมือนแต่ก่อน แถมออกกำลังกายได้อีกด้วย นอกจากนี้มีผู้ป่วยโรคเกาต์นำไปกินหายหลายนับสิบรายอีกด้วย


“ต้องขอบคุณเจ้าหลงสุนัขที่ช่วยชีวิตไว้ในครั้งนั้นเป็นอย่างมาก คนโบราณบอกว่า มีแต่ยาผีบอก แต่นี่เป็นยาสุนัขบอก คนเชื่อรอดตาย คนไม่เชื่อตาย”นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย

Dailynews

 

สหรัฐงดช่วยเกาหลีเหนือ หากเดินหน้ายิงจรวด

26-03-2012 | 11:45 l ชมทั้งหมด 28
ประธานาธิบดี "บารัก โอบามา" ของสหรัฐ ประกาศเตือนเกาหลีเหนือ หากกระทำการยั่วยุ หรือยังคงเตรียมเดินหน้าทดสอบยิงจรวดพิสัยไกลขึ้นสู่วงโคจรแม้จะอ้างว่าเป็นดาวเทียมสำรวจอวกาศ ด้วยการระงับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านอาหาร ในระหว่างการหารือแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดี"ลี เมียง บัก" ของเกาหลีใต้ ก่อนหน้าการประชุมความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ที่กรุง"โซล"

ขณะที่ มีรายงานภาพถ่ายดาวเทียมของเกาหลีใต้ ระบุพิกัดการเตรียมยิงจรวดพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ ที่พบว่ามีการเคลื่อนย้ายมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากเมือง"ตันตง" (Dandong) ซึ่งเป็นพรมแดนของจีนราว 50 กิโลเมตร

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่เกาหลีเหนือย้ายมายังตำแหน่งดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชาติอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง โดยคาดว่าเกาหลีเหนือจะยิงจรวดดังกล่าวในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ เพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 100 ปีของ นาย"คิม อิล ซุง" ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ

ล่าสุด ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศกร้าว จะยิงจรวดของเกาหลีเหนือทันที หากมีการล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของเกาหลีใต้

ช่อง7

 

สงขลา เริ่มประสบภัยแล้ง จนท. เร่งสูบน้ำบรรเทาสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว

เจ้าหน้าที่เทศบาลนครหาดใหญ่ เร่งสูบน้ำจากคลองหวะ บริเวณสถานีสูบน้ำปากคลองเตย เข้าไปเติมในคลองเตย เพื่อเป็นคลองที่ไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ชั้นใน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ เพื่อเติมน้ำในคลองเตยให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น และอยู่ในสภาพที่สามารถไหลได้ เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มแห้งแล้ง ส่งผลกระทบพื้นที่ในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ เนื่องจากน้ำในคลองเตยเริ่มเหือดแห้ง ลดลงอย่างต่อเนื่อง และน้ำนิ่ง ทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าและคันคลองที่สร้างด้วยคอนกรีตแตกร้าวหลายจุดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด รวมถึงปัญหาขยะที่หมักหมมในคลอง จึงจำเป็นจะต้องเร่งสูบน้ำจากคลองหวะ ลงสู่คลองเตย เพื่อให้มีปริมาณมากขึ้น และให้น้ำเคลื่อนตัวไหลลงคลองแห ซึ่งอยู่ปลายคลองเตย ได้สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ จะคงเร่งสูบน้ำจากคลองหวะลงสู่คลองเตยต่อเนื่องทุกวัน ในระยะนี้ จนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะผ่านไป

 

หิมะละลายน้ำท่วมฉับพลันที่แคนาดา เพราะอากาศอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ++

 

แผ่นดินไหวชิลี 7.1 ดับแล้ว 1 ศพ

วันที่ 26/03/2555 10:30





สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงาน เกิดแผ่นดินไหวทางตอนกลางของชิลี ในทวีปอเมริกาใต้ วัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 7.1 เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง อย่างไรก็ดี พบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นสตรีวัย 74 ปีที่หัวใจล้มเหลว เพราะตกใจเหตุแผ่นดินไหว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 26 มี.ค. โดยอ้างสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เกิดแผ่นดินไหวทางตอนกลางของประเทศชิลี ในทวีปอเมริกาใต้ เบื้องต้นวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 7.2 แต่มีการปรับลดเหลือ 7.1 ในเวลาต่อมา เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง

ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 34 กิโลเมตร ห่างจากเมืองตัลกา ในจังหวัดตัลกา ทางตอนกลางของชิลี ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายที่ชัดเจน แม้สื่อท้องถิ่นในชิลีจะรายงานว่า อาคารบ้านเรือนจำนวนมากในกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศ ที่อยู่ห่างศูนย์กลางแผ่นดินไหวกว่า 218 กิโลเมตร สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน และทำให้ทางการต้องประกาศอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งทะเล เพราะหวั่นได้รับอันตรายหากเกิดคลื่นสึนามิ

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิงวัย 74 ปีในเมืองปาร์รัล ทางภาคกลางของประเทศ แต่เป็นการเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย จากความตกใจหลังเกิดแผ่นดินไหวเพียงไม่กี่นาที

ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.1 ในครั้งนี้ ถือเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดของชิลี นับตั้งแต่เหตุแผ่นดินไหวระดับ 8.8 เมื่อต้นปี ค.ศ. 2010 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 500 ราย และเกิดสึนามิขนาดย่อมตามมา.

B5 - War Room Falkman

 

ภูเขาไฟ Batu Tara ที่หมู่เกาะซุนดาน้อย ในอินโดนีเซียเริ่มปะทุขึ้นแล้ว ปรับการเตือนอยู่ที่ระดับสีส้ม



March 26, 2012 – INDONESIA – According to the regional VAAC, the Batu Tara volcano has erupted and is emitting a dense ash cloud. The aviation alert-status for the region has been raised to orange.

Batu Tara volcano is located 50 km north of Pulau Lembata in the Flores Sea. The crater is in the middle of the island with dimensions of 900 m x 700 m. The uninhabited island of Batu Tara is the steep-sided summit of an active stratovolcano and has a small summit crater which is open to the east. The base of the island lies about 3,000 meters below sea level. Batu Tara is the northern-most active volcano in the Adonara Pantar sector of the Sunda arc. This is at the boundary of the collision of the north moving Australia tectonic plate, and the Sunda-Banda arc. Batu Tara volcano is located 230 km above the Benioff zone in a region where the arc crust is relatively young and thin. Rocks from Batu Tara contain crystals that formed in different magmas. Batu Tara last eruption was in 2010.

B5 - War Room Falkman

 

"เกาหลีใต้"ขู่ยิงขีปนาวุธ"โสมแดง"ทิ้ง หากพบละเมิดน่านฟ้า

วันที่ 26/03/2555 17:23


เกาหลีใต้ออกคำเตือนว่า อาจยิงทำลายจรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หากพบว่ามีการยิงล้ำน่านฟ้าของตน หลังจากเกาหลีเหนือประกาศว่า จะทำกาารยิงขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อทำการส่งดาวเทียมในช่วงเดือนหน้า ขณะที่ผู้นำเกือบ 60 ชาติ กำลังเข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางป้องกันการใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่เกาหลีใต้

นายยูน วอน-ชิค รองโฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผยว่า กำลังศึกษาหลายมาตรการเช่นการติดตามและยิงทำลายจรวดของเกาหลีเหนือถ้าเห็นว่าเบี่ยงเบนออกจากวิถีการโคจรปกติ ละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีใต้

รองโฆษกกลาโหมกล่าวว่า ช่วยไม่ได้ที่จะต้องมองการยิงจรวดของเกาหลีเหนือครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุและไม่ไตร่ตรองซึ่งกำลังทำลายสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี และล่าสุดมีรายงานว่าเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายส่วนหลักของจรวดมาไว้ในอาคารใกล้หมู่บ้านตงชาง-รี ในจังหวัดปยองกันเหนือ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อปล่อยจรวด แต่เขาไม่ได้อธิบายถึงการเตรียมการดังกล่าว

เกาหลีเหนือเผยว่า สถานที่ปล่อยจรวดอยู่ห่างจากเมืองตันตง ใกล้ชายแดนจีนประมาณ 50 กิโลเมตร และการยิงจรวดถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านอวกาศ และว่าวิถีการยิงซึ่งมุ่งไปทางทิศใต้ เป็นเส้นทางที่หลีกเลี่ยงการเดินทางละเมิดน่านฟ้าประเทศอื่นๆแล้ว นักวิเคราะห์กล่าวว่า เป็นสถานที่ปล่อยจรวดแห่งใหม่และก้าวหน้าขึ้น ซึ่งจะทำให้เกาหลีเหนือสามารถยิงจรวดจากชายฝั่งทางตะวันตกเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดน่านฟ้าของประเทศอื่น

เกาหลีเหนือประกาศจะส่งจรวดปล่อยดาวเทียมในระหว่างวันที่ 12-16 เมษายนนี้ โดยยืนยันว่าเป็นโครงการอวกาศเพื่อสันติ แต่สหรัฐและเกาหลีใต้กลับมองว่าเกาหลีเหนือจะทดสอบระบบส่งจรวดให้กับขีปนาวุธพิสัยไกลที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้


B5 - War Room Falkman

 

โพล ชี้ คนค้าน สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555



ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องทัศนคติต่อการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ กว่าร้อยละ 80 ติดตามข่าวสารเป็นประจำทุกสัปดาห์

ซึ่งร้อยละ 83.4 ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย
ขณะที่ร้อยละ 16.6 เห็นด้วย

แต่เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพื้นที่ ที่ตนเองพักอาศัย
ร้อยละ 89.5 ไม่เห็นด้วย
มีเพียงร้อยละ 10.5 เท่านั้น ที่เห็นด้วย

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกตามพื้นที่พักอาศัย พบว่า ส่วนใหญ่ของทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นประชาชนในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยสำรวจพบว่า
ประชาชนที่มีกลุ่มคนไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ คนกรุงเทพมหานคร ที่มีอยู่มากสุดถึงร้อยละ 95.2
รองลงไปคือ คนในภาคใต้ ร้อยละ 91.5
ภาคกลางร้อยละ 91.1
ภาคเหนือร้อยละ 90.0
และคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 85.8 ที่ไม่เห็นด้วยต่อการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในพื้นที่จังหวัดของตนที่พักอาศัยอยู่

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE class=tbis border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=840 align=center><TBODY><TR class=tbis1 bgColor=#336699><TD width=130 noWrap>วัน-เวลา *ประเทศไทย</TD><TD width=40 noWrap align=middle>ขนาด</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Latitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Longitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Phase</TD><TD noWrap>บริเวณที่เกิด</TD><TD width=20></TD><!-- <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> --></TR><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2012-03-26 19:06:14 </TD><TD vAlign=top align=middle>2.5</TD><TD vAlign=top align=middle>20.60</TD><TD vAlign=top align=middle>97.89</TD><TD vAlign=top align=middle>16</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE>

ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 125 กม

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตะวันตกของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตะวันตกของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

</TD><TD> ภาคตะวันออก ท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 5 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้ โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งบริเวณชายฝั่ง </TD></TR></TBODY></TABLE>

B5 - War Room Falkman

 

น้ำมูลแห้งจัดหนักสุดในรอบ 40 ปี

26 มีนาคม 2555 เวลา 20:50 น

น้ำมูลแห้งหนักสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลกระทบผู้เลี้ยงปลาบุรีรัมย์เดือดร้อนหนักต้องหยุดกิจการชั่วคราว

สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมาเข้าขั้นวิกฤตสุดในรอบ 40 ปี จนสามารถเดินข้ามไปมาได้ ทำให้มีชาวบ้านบางรายสามารถขับรถบรรทุกลงขุดตักทรายไปใช้ได้อย่างสบาย ขณะเดียวกันได้ส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังในเขตพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.สตึก กว่า 200 กระชัง ทำให้เกษตรกรต้องหยุดการเลี้ยงปลาชั่วคราว เนื่องจากน้ำมีสภาพตื้นเขิน เน่าเสียเกิดกรดแก๊ส หากลงทุนเลี้ยงเกรงว่าปลาจะตาย หรือเกิดโรคระบาดได้


นายณรงค์ วงศ์แสงรัตน์ หนึ่งในเกษตรกรผู้มีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง บ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในปีนี้น้ำมูลมีสภาพที่แห้งแล้งวิกฤตและน้ำแห้งเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมาทำให้ต้องหยุดเลี้ยงปลาชั่วคราว เพราะสภาพน้ำตื้นเขินและเน่าเสีย ไม่สามารถเลี้ยงปลาได้ทำให้ต้องขาดโอกาส มีรายได้จากการเลี้ยงปลา อีกทั้งปัจจุบันมีหนี้สินจากการกู้ยืมมาลงทุนเลี้ยงปลาอยู่กว่า 1 แสนบาท จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาสำรวจและแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซากให้เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังได้ตลอดทั้งปีก่อนที่อาชีพเลี้ยงปลากระชังจะหายไปจากลำน้ำมูล


B5 - War Room Falkman

 

War Room Falkman


เมฆแปลก ๆ ถ่ายที่บริเวณเขาหลัก พังงา
เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.ครับ @D3

รูปเมฆแปลก ๆ ถ่ายที่บ้านบางเนียง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 26/3/2555
รูปเมฆแปลก ๆ ถ่ายที่บ้านบางเนียง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 26/3/2555 ขอขอบคุณท่าน .War Room Falkman .D.3 ที่เอื้อเฟื้อภาพ รวดเร็วทันใจมาก
โดย: ระนอง เตือนภัย​

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2><TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 5911582" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>somdul</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman
อยากจะให้จับตาแผ่นพม่า ตรงนี้กันจัง

รู้สึกว่ามันจะไม่ค่อย stable สักเท่าไหร่ เหมือนกับมันไหวขึ้นลงอยู่ตรงนี้ แถมยังเป็นรอยเลื่อนใหญ่ในพม่า แถมยังมีรอยแยกเข้าไทยทางกาญจน์

เรามัวแต่ไปสนใจแผ่นอื่น แผ่นนี้นะ ถ้าหลุดลงไป พม่าไปหมด ทางเหนือ ทางตะวันตกของไทย ใต้ ไม่เหลือแน่ ลองๆ จับตากันดูก็ดีนะ

<TABLE class=tbis border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=840 align=center><TBODY><TR class=tbis1 bgColor=#336699><TD width=130 noWrap>วัน-เวลา *ประเทศไทย</TD><TD width=40 noWrap align=middle>ขนาด</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Latitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Longitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Phase</TD><TD noWrap>บริเวณที่เกิด</TD><TD width=20></TD></TR><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2012-03-26 19:06:14 </TD><TD vAlign=top align=middle>2.5</TD><TD vAlign=top align=middle>20.60</TD><TD vAlign=top align=middle>97.89</TD><TD vAlign=top align=middle>16</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tbis border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=840 align=center><TBODY><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2012-03-25 20:06:13 </TD><TD vAlign=top align=middle> 4.5</TD><TD vAlign=top align=middle> 22.23</TD><TD vAlign=top align=middle>100.02</TD><TD vAlign=top align=middle> 15</TD><TD vAlign=top>พรมแดน ประเทศพม่า-จีน</TD><TD>

</TD></TR><TR class=tbis2><TD vAlign=top>2012-03-23 23:03:48 </TD><TD vAlign=top align=middle> 4.2</TD><TD vAlign=top align=middle>23.39</TD><TD vAlign=top align=middle>93.55</TD><TD vAlign=top align=middle>9</TD><TD vAlign=top>พรมแดน ประเทศพม่า-อินเดีย</TD><TD>

</TD></TR><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2012-03-22 09:36:21 </TD><TD vAlign=top align=middle> 4.4</TD><TD vAlign=top align=middle>15.23</TD><TD vAlign=top align=middle>95.97</TD><TD vAlign=top align=middle>9</TD><TD vAlign=top>ใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>





</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อบังคลาเทศก็ดี อินเดียก็ดี จะมุดเข้าไปใต้ ฮิมมาลาย่า แผ่นพม่าอยู่ติดกันจะเป็นอย่างไรบ้าง ลองมาศึกษาสถานการณ์แวดล้อมของประเทศนี้กัน



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สวยดีนะครับ ^^

 

เจอเมฆแบบนี้ทางฝั่งอันดามันสงสัยต้องระวังเป็นพิเศษเลยนะครับ

เห็นว่าที่จีนเคยมีคนเห็นเมฆแบบนี้แล้วอีกไม่กี่วันก็มีแผ่นดินไหวใหญ่

ขอบคุณมากครับ

D2

 

<TABLE class=tbis border=0 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=840 align=center><TBODY><TR class=tbis1 bgColor=#336699><TD width=130 noWrap>วัน-เวลา *ประเทศไทย</TD><TD width=40 noWrap align=middle>ขนาด</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Latitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Longitude</TD><TD width=50 noWrap align=middle>Phase</TD><TD noWrap>บริเวณที่เกิด</TD><TD width=20></TD><!-- <td nowrap="nowrap">ข้อมูลอื่นๆ</td> --></TR><TR class=tbis3><TD vAlign=top>2012-03-26 22:31:38 </TD><TD vAlign=top align=middle>3.1</TD><TD vAlign=top align=middle>18.27</TD><TD vAlign=top align=middle>96.43</TD><TD vAlign=top align=middle>12</TD><TD vAlign=top>ประเทศพม่า</TD></TR></TBODY></TABLE>

ห่างไปทางทิศตะวันตกของ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 158 กม.


B5 - War Room Falkman

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jKJYoHYwdYM]Ice Flow in Perth-Andover NB, March 23, 2012 - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=id0RHnukofA&feature=related]Perth Andover Flood 2012 Slidshow - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=sJUeu-j3eOI&feature=related]Perth Andover Under Water - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jQdChOCnZqo&feature=related]Perth Andover Flood 2012 - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งจ้า...


B5 - War Room Falkman

 

ผู้ว่าแม่ฮ่องสอน รับมอบเครื่องสลายหมอกควันจากพระนักประดิษฐ์ คาดว่าช่วงงานปอยส่างลองจะไม่เกิดปัญหาหมอกควัน



พระนักประดิษฐ์ชื่อดัง วัดดอยเกิ้ง แม่สะเรียง มอบเครื่องสลายหมอกควันให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 เวลา 12.30 น. ที่บริเวณท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน นางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานรับมอบเครื่องสลายหมอกควันจำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ในการกำจัดหมอกควันที่ปกคลุมพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีพระครูอนุสนธ์ ประชาทร เจ้าอาวาสวัดดอบเกิ้ง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้มอบ ซึ่งได้ทำการประดิษฐ์เครื่องกำจัดหมอกควันขึ้นมาเมื่อปี 2547 จนถึงปัจจุบันและได้ใช้ในหลายจังหวัดซึ่งเห็นผลมาแล้ว ซึ่งที่แม่ฮ่องสอนก็เคยมอบมาแล้วครั้งหนึ่งแต่การดำเนินการติดตั้งใช้เครื่องไม่ต่อเนื่องจึงเห็นว่าในครั้งนี้มีปัญหาหมอกควันมากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่แม่ฮ่องสอน เป็นบ้านเกิดที่จะต้องช่วยดูแล จึงได้นำเครื่องดัลกล่าวมามอบให้กับผู้ว่าเป็นติดตั้งในที่เหมาะสมใช้สลายหมอกควัน
พระครูอนุสนธ์ ประชาทร กล่าวว่า สำหรับเครื่องสลายหมอกควันเป็นการนำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์มาดำเนินการ โดยจะมีแร่ชนิดหนึ่งที่เป็นธาตุน้ำมาผสมไว้ในปูนซีเมนต์ทำเป็นรูปปิรามิด โดยจะให้น้ำเป็นตัวผ่านรอบ ๆ ปิรามิดเพื่อเป็นตัวนำทำให้เกิดขั้วบวกขั้วลบส่งพุ่งขึ้นปลายปิรามิดไปในอากาศทำให้เกิดความเย็นไปสลายหมอกควัน โดยจะต้องเปิดเครื่องให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไล่หมอกควันที่ปกคลุมจึงจะได้ผล
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เครื่องสลายหมอกควันที่รับมอบวันนี้น่าจะทำให้แก้ไขปัญหาหมอกควันที่ปกคลุมพื้นที่ได้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปอยส่างลองที่มีขึ้นในช่วงนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว เพราะหลังจากที่มีการทดลองก่อนเครื่องจะบินไปแม่ฮ่องสอนประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถขึ้นลงได้ตามปกติ ถ้าเป็นอย่างนี้ตลอดไปก็จะส่งผลให้ปัญหาหมดไปได้.

 

ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ