พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    catt4ตาลุงเพชรนี่นะ สวย งดงาม ขนาดนี้ ถ้าไม่เชิญมา แล้วรู้ว่างามขนาดนี้นะบอกได้เลยว่าเป็นลม ต้ายตายตาย ไม่มีโอกาศดีดีแบบนี้อีกแล้ว นี่ดีนะที่ได้คุยกันก่อน ไม่เช่นนั้นอีกนานกว่าจะได้เห็นอีก อิอิ:z5 ตามรูปที่เห็น ถ้าปลอมได้ขนาดนี้ ก็ต้องก้มหัวคารวะ แบบนับถีอ นับถือ
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อวานได้พบเพื่อนเก่าท่านหนึ่ง ได้ทราบว่าเธอกำลังทำ"โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชาวเขาพะโต๊ะ จ.ชุมพร" เรียกว่า ทำด้วยใจที่อยากช่วยเหลือ ตัวอยู่สมุทรปราการ ค่าใช้จ่ายหลักๆก็คือค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ด้วยความที่ตัวเธอมีความรู้ความสามารถทางด้านดนตรีบำบัด...

    อุปกรณ์ที่เธอใช้คือ Crystal Singing Bowl ๕ ชิ้น ถือเป็นเครื่องดนตรีชั้นสูง<WBR>ที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ เมื่อ<WBR>เข้าสู่เซลล์สมองของมนุษย<WBR>์ ทำให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่<WBR>บกพร่อง และเสื่อมสภาพ ฟื้นฟูความทรงจำ เพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ช่วยชะลอสภาวะโรคอัลไซเมอร์<WBR>ในกลุ่มผู้สูงอายุ..

    พลังเสียง และแรงสั่นสะเทือนแห่งความถี่ของคริสตัลโบวล์ (Bowl) เป็นที่รู้และใช้ประโยชน์ในอดีตกาลนานนับพันปีมาแล้ว จากบันทึกของอียิปต์โบราณ ประมาณ 5500 ปีมาแล้ว อียิปต์ใช้แร่จากพื้นดินชนิดหนึ่ง คือ Faience ทำ Bowl ขึ้นมา (Quartz Faience Bowl) ใช้รักษาโรค ปัจจุบัน Bowl ชนิดนี้ ผลิตในอเมริกาชื่อ Egyptian Blue Crystal Singing Bowl ขายในราคาประมาณใบละ ๒๕,๐๐๐ บาท


    มี Bowl อีกชนิดหนึ่ง ทำด้วยโลหะ ทองคำ เงิน ทองแดง นิกเกิล พลวง สังกะสี เหล็ก ซึ่งเป็นศาสตร์ของพระธิเบตโบราณ และใช้ประโยชน์ต่อมากระทั่งปัจจุบันนี้


    Bowl ที่ทำจากคริสตัล และโลหะก่อให้เกิดเสียง และแรงสั่นสะเทือนอันมีผลต่ออวัยวะ เซลล์ และอณูภายในร่างกาย ตลอดจนมีผลต่อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และสามารถกำหนดพลังแห่งเสียงนี้ได้ด้วยจิต

    มีผู้รวบรวมประโยชน์ของCrystal Bowl เอาไว้ถึง ๑๗ ประการ


    ประโยชน์ของคริสตัลโบวล์


    The Practice of The Experienced Crystal Bowl


    ๑)สร้างสรรค์พลัง (ปราณ Chi) ให้เข้มแข็งสูงส่งยิ่งๆ ขึ้น แก่ตนเองผู้อื่นอุปกรณ์ต่างๆ สถานที่ บ้าน ห้องนอน
    ๒)โน้มนำสภาวะจิตที่ผ่องใส สุขกาย สบายใจ อันเป็นผลต่อสุขภาพสุขสมบูรณ์
    ๓)เสียงจาก Bowl ช่วยให้จิตสงบ แน่ว แน่ นิ่ง เกิดขึ้นรวดเร็ว มั่นคง ใช้ในการฝึกฝนสมาธิจิต
    ๔)เพิ่มพูนความสามารถแห่งจิตวิญญาณในการกำหนดจิต เพื่อให้ปฏิบัติการนั้น ๆ เป็นไปตามความต้องการ
    ๕)ต่อเชื่อมสัมพันธภาพกับ เทพ เทวะ เทวาทั้งหลาย (Spirits, Guides Angels, Devas) เพื่อร่วมปฏิบัติการ หรือ ขอคำแนะนำ เช่นใช้เสียงความสั่นสะเทือน (Frequency) ของ Bowl ต่อจิตกับพระแม่กวนอิม เชื้อเชิญพละพลังแห่งความเมตตาร่วมในการรักษา
    ๖)สรรค์พลังแก่สมอง ทั้งซีกซ้ายและขวา ให้มีพละพลัง ความนึกคิด จดจำ สร้างสรรค์ สูงส่งยิ่งขึ้น เหมาะต่อ สถาปนิก ศิลปิน นักศึกษา ฯลฯ
    ๗)ชำระล้างสนามพลังออร่า และสรรค์พลังให้เปล่งปลั่ง หนาแน่น เข้มแข็ง ปกป้องคุ้มครอง ผองภัยต่อร่างกาย อันเป็นผลให้สุขภาพสุขสมบูรณ์
    ๘)ชำระล้าง เปิดกระตุ้นจักระ และบรรเทาอวัยวะอันเกี่ยวเนื่องกับจักระนั้นๆ (Bowl แต่ละใบมีพลังต่อจักระไม่เหมือนกัน และจักระที่สำคัญ 7 แห่งนั้น ควบคุมอวัยวะของร่างกายแตกต่างกัน)
    ๙)ชำระล้างและสรรค์พลัง แก่ น้ำดื่ม ของเหลวในร่างกาย ควอท์ซคริสตัล พลอยสี อุปกรณ์ทรงพลังต่างๆ (Energy Medicines) สถานที่ (บ้าน, ห้องในบ้าน) ใช้ขับไล่ผี จิตวิญญาณแปลกปลอม (ผี) ที่สิงสถิตแก่ร่างกายบุคคลในบ้าน ได้ผลดีมาก
    ๑๐)ส่งพลังเสียง (Singing Bowl) ของ Bowl ไปบรรเทาอาการป่วยทางไกล (Long-Distance Healing) โดยผู้ป่วยและตัวจักราอยู่ไกลกัน อีกเรื่องหนึ่งที่ให้ผลดีชัดเจน เช่น ผู้ป่วยเป็นมะเร็งที่ปอดด้านซ้าย จักราผู้ทำการบำบัดอยู่กรุงเทพ นำตัวแทนของผู้ป่วย บรรจุลงใน Bowl และไม้เคาะ Bowl (Wand) ซึ่งประกอบด้วย ภาพถ่าย ชื่อ สกุล อายุ เส้นผม เล็บ ผ้าปูนอน (ได้หยดเลือดของผู้ป่วยจะดีมาก) จักราหมุน Bowl สรรค์พลังเสียง กำหนดจิต บรรเทาอาการมะเร็งของผู้ป่วย
    ๑๑)ใช้ปฏิบัติการถอดกายทิพย์ออกจากร่าง (Astral Projection) ใช้ประโยชน์จากกายทิพย์นี้หลากหลายแนวทาง รักษาโรคแก่ตัวเอง แก่ผู้ป่วยอื่น สรรค์พลังขจัดขับไล่ เพิ่มพูน
    ๑๒)ร่วมในการสวดมนต์ ภาวนา นึกคิดกล่าวคำ ในสิ่งที่ต้องการให้เป็น (Affirmation) หรือ ร่วมสรรค์พลังในพิธีกรรมต่าง ๆ ให้พิธีนั้นสูงส่งชัดเจนยิ่ง ๆ ขึ้น
    ๑๓)ดีมากต่อผู้ประกอบการบำบัดด้วยวิธี Aromatherapy หรือการใช้น้ำมัน (Essential Oil) บีบนวด หรือใช้น้ำประจุพลังพลอย (Gem Elixir) ทา ถู นวด หรือน้ำพลังแม่เหล็ก (Magnetized Water) ตลอดจนการทำให้วัตถุของเหลวเหล่านี้มีพลังสูงส่ง เช่น ในขบวนการปฏิบัติ Elixirs ใช้พลังเสียงจาก Bowl เข้าร่วมด้วย (Charging and Storing Elixirs)
    ๑๔)แสวงหาเหตุการณ์ เรื่องราวในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ของผู้ป่วย หรือเหตุการณ์ต่างๆ (ควรใช้ลูกกลมคริสตัล Crystal Ball ร่วมด้วย)
    ๑๕)ก่อเกิด มิตรภาพ เอื้ออาทร ช่วยเหลือ แบ่งปัน ค้ำจุน สำเร็จสมประสงค์ เช่นต้องการขายที่ดิน ขอบำเหน็จพิเศษจากหัวหน้างาน
    ๑๖)สรรค์สร้างความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่งร่ำรวยต่อธุรกิจการงาน ตำแหน่งหน้าที่ เช่น เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย ใช้ทองคำใส่ลงใน Bowl และ Wand (ไม้เกาะ Bowl) จุดเทียนสีทอง เคาะหมุน Bowl กำหนดจิตให้เป็นไปตามความประสงค์
    ๑๗)ปฏิบัติการขณะอาบน้ำ อาบน้ำในอ่างอาบน้ำ อาบน้ำโดยใช้ฝักบัว หรือตักน้ำจากถังราดรดตัว ใช้พลังเสียงและพลังแรงสั่นสะเทือนจาก Bowl ชำระล้างขจัดไม่พึงประสงค์ออกจากร่างกาย (ไอโรค พลังแฝง จิตวิญญาณ ผี)

    เสียงตอบรับที่ผู้ได้ฟังบางท่านโทรฯไปสอบถามถึงผลงานในชุดต่อไป(ชุดนี้เพิ่งทำเป็นชุดแรก) รวมทั้งมีรายงานมาว่า มีอยู่ท่านหนึ่งฟังในขณะหลับก็ได้ย้อนเวลาถอยหลังไปยังเยาว์วัย และย้อนอดีตไปชาติก่อนๆนี้

    เธอได้อัดเสียงที่ห้องอัดเสียงที่มีคุณภาพ และทำเป็นแผ่น CD เอาไว้เพียง ๔๐๐ แผ่น จำหน่ายในราคา ๒๐๐ บาท สามารถจะสั่งซื้อโดยตรงจากเธอได้ครับ โดยขอให้+ค่า EMS จำนวน ๕๐ บาท รวมเป็น ๒๕๐ บาท(สองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยโอนเข้าบัญชี...
    คุณรมณ เจริญหิรัญศิลป์
    ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) สาขาสายลวด
    เลขที่บัญชี 2140949070

    และแจ้งการโอนเงินทางemail เกี่ยวกับ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เพื่อการจัดส่งที่rainjitaa@gmail.com หรือต้องการพูดคุยรายละเอียดกับเธอก็ที่มือถือเบอร์ 086-4902566(คุณรมณ)ครับ

    ป.ล. ผมได้ฟังแล้วเมื่อคืนนี้ ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆแบบนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ลุงไฟดูดฝากพระสมเด็จบางขุนพรหมมือผีมาให้ชมกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ปอบ.JPG
      ปอบ.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.8 KB
      เปิดดู:
      138
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  4. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    :z16แจ้งข่าวให้ทราบโดยทั่วกัน ไม่มีความจำเป็น ห้ามผ่านถนนแจ้งวัฒนะมีงานรับปริญญา มีงานสอบของจ่าอากาศ มีงานพระเครื่อง ที่เมืองทอง เมื่อวานรถติดมากๆๆ ที่ถนนพหลโยธินตั้งแต่แยกเกษตรขาออกไปตลอด เช่นกัน มีแจ้งเข้ามา จึงบอกต่อ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [FONT=Tahoma,]พสกนิกรปีติ"ในหลวง" ทรงช่วยวัดประสบอุทกภัย



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

    ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมอบให้ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์

    วีรานุวัตติ์ กรรมการบริหารและฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เป็นผู้แทนพระองค์

    พร้อมคณะกรรมการ

    ออกไปเยี่ยมและมอบเงินพระราชทานแก่ศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี￿

    2554 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 วัด ได้แก่ วัดป้อมแก้ว อ.บางไทร,

    วัดบ้านแพน อ.เสนา, วัดเสนาสนาราม อ.พระนครศรีอยุธยา, วัดเกาะแก้ว

    อ.พระนครศรีอยุธยา และวัดโปรดสัตว์ อ.บางปะอิน วัดละ 2 แสนบาท นอกจากนี้

    มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดยังพิจารณาช่วยเหลือศาสนสถานในพื้นที่ภาคกลาง

    10 จังหวัด จังหวัดละ 5 แห่ง ได้แก่ จ.อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี

    อ่างทอง ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา จำนวน 50 แห่ง เป็นเงิน 10

    ล้านบาท



    ทั้งนี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

    ก่อกำเนิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์

    โดยมีพระราชดำริว่าภัยธรรมชาติหรือสาธารณภัย อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้

    ไม่มีผู้ใดจะคาดหมายได้ ดังที่ได้เกิดขึ้นที่แหลมตะลุมพุกจังหวัดนครศรีธรรมราช

    และอีกหลายจังหวัดภาคใต้ มูลนิธิได้ทุนดำเนินงานจากเงินพระราชทาน

    เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จากผู้ที่มีจิตศรัทธาบริจาค จากทรัพย์สินซึ่งมีผู้ยกให้

    และจากดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินอันเป็นทุนของมูลนิธิ
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNVEV4TURNMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB4TVE9PQ==-


    .

     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมไปตั้งกระทู้เรื่อง..ดนตรีบำบัด:Crystal Singing Bowl ในหมวดจิตวิทยา และสุขภาพ ตามกระทู้นี้ครับ
    http://palungjit.org/posts/5830961"....org/styles/default/images/viewpost.gif[/IMG]
    สนใจมากค่ะ ..ขอจอง 1 ชุดค่ะเดี๋ยวโอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอบคุณคุณhuten ครับ..

    มีข้อความบางอย่างที่ได้ทราบจากการตะล่อมสอบถามเธอ จนได้ความว่า ช่วงที่อัดสียงในห้องอัดเสียงในราว 1/2 ช.ม.นั้น เธอบอกว่า ท่วงทำนองของดนตรีเธอควบคุมไม่ได้ เหมือนไม่ใช่เธอ แต่เป็นพระกฤษณะ เนื่องจากที่ขอไว้คือ ไม่ปรารถนาแสวงหากำไรจากดนตรีบำบัด อยากทำถวายพระกฤษณะ และให้เป็นสมบัติกับมนุษยชาติ ผมก็ถามว่า ทำไมน้อยจังเพียง 1/2 ช.ม.เท่านั้น เธอตอบว่า พระกฤษณะใช้เพียงขลุ่ยเลาเดียวก็สะกดให้หลับไหลได้แล้ว และจนถึงวันนี้แล้ว เธอจำหน่ายไปแล้วร้อยกว่าแผ่น ในร้อยแผ่นมีหลวงพ่อชื่ออะไร และวัดอะไรผมก็จำไม่ได้แล้ว ให้นำไปฝากทางวัดจำหน่าย ก็ปรากฎว่าจำหน่ายหมดครับ ผมฟังน้ำเสียง และจับความรู้สึกได้ว่า เธออยากขายได้มากๆ ผมก็ท้วงติงเธอไปว่า มันสวนทางกับสิ่งที่เธอขอไว้ อยากให้เป็นไปตามเทวบัญชามากกว่า ว่าผู้ใดจะได้ยิน ได้ฟังเสียงดนตรีนั้น อย่าไปเร่งยอด ไม่มีความจำเป็นแบบนั้น...

    ขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้เขียนเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใดหลงเชื่อ แต่ต้องบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ครบถ้วนถึงที่มาที่ไปนั้นครับ เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง..
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    :z2ยังมีอีก บทสวดมนต์ที่พระสายธรรมยุตท์(วัดป่า)ใช้สวด ถ้าเราสังเกตุให้ดีแล้วเราจะเข้าใจว่าบทสวดนั้นมีส่วนสัมพันธุ์กับระบบประสาทของเราการที่เราได้ยินเสียงที่สวดที่มีโทนเสียงที่ไม่เท่ากันแต่เป็นระบบ การที่เรารับฟังแล้วสมองจะรับฟัง ทำให้คลื่นเสียงที่สมองรับรู้แล้วจะทำการปรับระบบการทำงานของสมองให้มีระบบ มีความจำที่ดีขึ้น แต่บทสวดต้องไม่มีความไพเราะ เพาะพริ้ง เหมื่อนวัดบางวัดที่ดังทำ ไม่ว่าผิดพระธรรมวินัยหรือไม่?ก็ไม่รู้ (y) เสียงสวดมนต์ที่ว่านี้ กำลังมาแรงมากนะ เพราะว่าใช้บำบัดเด็กที่มีสมาธิสั้น ให้มีสมาธิดี ทำให้ระบบสมองมีการทำงานอย่างเป็นระบบดีขึ้น วงการหมอทั้งงงและงง ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วคนไทยละ ถ้ามีการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ก็จะสะเทือนวงการสงฆ์ ทุกวันนี้ ทำไม่??พระสงฆ์สายวัดป่าเมื่อเวลาที่ท่านสิ้นอายุไขของท่าน พระอัฐิของท่านกลายเป็นพระอัฐิธาติแทบทุกองค์บทสวดมนต์นี้จะอยู่เหนือเหตุ เหนือผล เหนือกว่าที่เราคนธรรมดาจะเข้าใจได้ ได้มีการค้นคว้ากันแล้ว อีกไม่นานก็คงได้ทราบว่าผลจะเป็นอย่างไรนะ:love:
     
  9. Chayaporn

    Chayaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +4,641
    ลุงเพชร ป้าอยากชมภาพ ลูกปัด สุริยะเทพ จ้า
     
  10. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    catt3อ้าวๆๆๆใครไปขุดสาวสองพันปีขึ้นมาละนี่ เป็นเรื่องละซิ เจ้แกไม่เลิกนะถ้าไม่ได้ ตัวใครตัวมันนะ ลุงไฟดูดยังกลัวแกเลยละ ผ้มไปก่อนนะ เจ้ๆๆรักนะจุ๊บๆๆ:love:
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อ่าว..พี่สาว ๒ พันปี เกิดติดใจลูกปัดสุริยเทพ ๒ พันปียุคเดียวกันกับอายุของพี่สาวเหมือนกันหรือ?? หุ..หุ...

    มีชิ้นเดียวติดคออยู่ครับ ทุกอย่างปลอดโปร่งไปหมด เพียง ๓ วันพบเหตุการณ์ที่ดูเหมือนสุดวิสัยก็เหมือนมีผู้อำนวยความสะดวกให้พ้นวิกฤตไปหมด

    สุริยเทพอีก ๒ ชิ้น ได้แบ่งไปให้ลุงไฟดูด กับลุงอ.จ.กูรูน้องนู๋ไปแล้วครับ ไม่ทราบว่าพี่สาวสนใจเหมือนกัน ผมก็กลัวถูกหลอก ไม่กล้าโลภไปหามามากๆ หากไม่เอามาก็กลัวคิดถึง จะฝ่าระยะทางไปกลับอีกเกือบ ๔๐๐ กิโลก็คงจะไม่ทันการ และเสียเวลามาก พี่สาวลองจีบชิ้นสีฟ้าของลุงไฟดูดสิครับ เผื่อลุงเขาจะใจอ่อน ผมก็ถ่วงเวลาส่งมอบให้ลุงเขาอยู่ เผื่อลุงเขาจะไม่อยากได้ หุ..หุ...

    ลงรอบ ๒ แล้ว ก็ตั้งจำนวนเอาไว้เพียง ๕ downloads เท่านั้น จากนั้น ภาพจะทำลายตัวมันเองครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  12. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    dannce_นี่นะลุงเพชร ป้าแกอายุมากแล้ว แกจะหลงๆๆลึมๆๆบางครั้งแกมีอยู่แล้วก็จะบอกว่าไม่มี ได้แล้วนะ แกก๊จะบอกว่ายัง เก็บใส่กระเป๋าตังค์ไปแล้วแกก็ยังบอกว่าไม่มีแล้วก็สนุกละซิหากันให้หัวหมุนเลยละ ต้องให้ปู่ประถมช่วยเตือนความจำให้นะ ว่าเก็บไว้ที่ไหนโอ้ยสนุกกันคร้าบๆๆๆๆ ผมว่านี่ก็คงอาการเดิมอีกละแน่ๆๆๆ ๕๕๕๕๕
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ที่มา เว็บใต้ร่มธรรม

    -http://www.tairomdham.net/index.php/topic,6854.0.html-


    xxx.com ธุรกิจหลอกคนโง่…ที่คิดสั้นๆ?

    มาร่วมประเมิน มูลค่าสินค้า ที่ชนะการประมูลของ xxxx.คอมกัน ว่าเค้าได้กันเท่าไหร่ต่อสิ้นค้าหนึ่งชิ้น
    4 ข้อควรจำง่ายๆ กับ xxx.com


    • ราคาสิ้นค้าทุกชิ้น เริ่มต้นเพียง 0 บาท เท่านั้น
    • ราคาสินค้าทุกชิ้นจะเพิ่มเพียง 25 สตางค์ ต่อการกดปุ่มประมูลหนึ่งครั้ง
    • เวลาประมูลจะเพิ่ม 5,10,15 หรือ 20 วินาที ต่อการกดปุ่มประมูลหนึ่งครั้ง ตามชนิดของสิ้นค้า
    • การกดปุ่มประมูล 1 ครั้ง = ใช้ไป 1 สิทธิ์ประมูล(Bid) โดยมีค่าใช้จ่ายตามชนิดของ Bid Pack ที่คุณเลือกซื้อ
    [​IMG]


    มาเริ่มคำนวณ กันตามนี้นะครับ ยกตัวอย่างสิ้นค้าที่ชนะมา 1 ตัว IPhone 3GS 16GB จะคำนวณให้ดูนะครับ

    [​IMG]

    สิ้นค้านี้ปิดประมูลไปด้วยราคา 5395.25 บาท รวมกำกับจำนวนครั้งในการประมูล 3855 Bids

    เป็นเงิน ประมาณ (5395.25 + (3855*6.2)) = 29296.25 บาท

    6.2 มาจาก บัตรเติมเงินที่ถูกที่สุดที่มีขาย ต่อครั้ง

    คือว่าราคา ของสิ้นค้า 26215 บาท ซื้อไป 29296.25 บาท ?? เพื่อ ?


    [​IMG]
    มาคำนวณ กำไรของ xxx.com กันต่อ

    วิธีการคำนวณ ว่า มีคนประมูลทั้งหมดกี่ครั้ง คือ นำเอามูลค่าสินค้าหารด้วยมูลค่าประมูลต่อครั้ง ตามกติกาคือ 25 สตางค์มูลค่าสุดท้ายของการประมูลคือ 5395.25 บาท ฉนั้น จำนวนครั้งคือ 5395.25/0.25 = 21581 Bids
    วิธีการหากำไร ที่ xxx.com ได้คือ จำนวนมูลค่าการ bid ตำสุด คือ 6.2 บาท ต่อครั้ง คูณด้วยจำนวนการ bids คือ 21581 x 6.2 = 133802.2 บาท
    รายได้สุทธิของ xxx.com ของรายการนี้คือ 13380.2+5395.25 = 139197.45 บาท
    นำมาหักมูลค่าสิ้นค้า จะเหลือกำไรให้บริษัท 139197.45-26215 = 112982.45 บาท


    [​IMG]
    ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ ?

    1. ผมขอถามว่ามันเป็นการพนันใช่หรือไม่?
    2. คนชนะจ่ายเงินน้อยนิด แต่ตัวบริษัท กินรวบใช่หรือไม่?
    3. แล้วคนที่ประมูล คนอื่นล่ะ อีกตั้งหลายหมื่นครั้ง จ่ายเงินแล้วไม่ได้ของ ?
    4. ถ้าผมเป็นบริษัทสร้าง account แล้วใช้ระบบเติม bids package มาแข่ง กับลูกค้าทั่วไปล่ะ ?
    5. แล้วถ้าเว็บปิดไปขณะที่ ประมูลอยู่ละ ?
    6. ใครได้ใครเสียมากกว่ากัน

    อีก case นึงผมสงสัยมากกก คนเนี่ยชนะสองครั้งครั้งแรกถูกมากครั้งที่สอง ซื้อขาดทุน
    [​IMG]

    [​IMG]
    ขอจบการบ่นเชิงตัวเลขไว้เท่านี้


    มาเชิงเทคนิคบ้างครับ

    สังเกตุกันไหมครับจะมีคนคอย autobids แบบเติมเงินไว้ อันนี้ไม่ค่อยส่งสัย เพราะ เป็นการทำงานที่ server side น่าจะ ตัดเงินหวานๆ อยู่แล้ว สำหรับ ควายที่ bids อยู่
    แต่ถ้าเป็นคนจริงๆ มาbids ละ คิดแบบง่ายๆ standard ของ apache รับได้ 250 request /sec พอดีเวลานั้น มีคน มา bid พร้อมกัน เกิน 250 คนจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า เวลาที่ bids ลง record ไม่ทัน… อด รึ ? ต่อให้ customize ใช้ lighttpd หรือ ngix เพิ่มมาก็ตาม สุดท้ายมันก็มี limit ลองนั่งดูเองก็ได้นะครับ อันที่เหลือสัก 5 วินาที จะ มีคนแย่ง bids ตลอด
    อีกเรื่องมานเกินไปจริงๆ นะ เล่นต่อเวลาไปเรื่อยๆเนี่ย ถ้ายังไม่พอใจก็ไม่หยุดได้เชิงเทคนิคทำได้หมด แต่อยากให้พอ ก็ง่ายๆ reject ทุก request ที่เข้ามาซึ่งคงไม่หยุดให้เงินไหลเข้ากระเป๋าตัวเองหลอก แต่ถ้าเป็นผมทำ ก็คง ทำaccount ปลอม เติม bids credit เข้าไป มาbid เอง รับของเองแล้วเอามาประมูลใหม่ 555 สะใจดีแท้

    http://www.xxx.com/terms.php อ่านเต็มๆ เลยละกัน เงื่อนไขและนโยบายการใช้งาน

    อ่าน ข้อ 8 แล้วตรงกับที่ผมคิดไว้เลย….เกี่ยวกับเชิงเทคนิค ก็ปฏิเสธ ไว้ก่อน อยู่แล้วว่าแต่ คนไทย กี่% จะอ่าน term of use ?

    [​IMG]


    สุด ท้ายนี้อย่างจะถามว่าทำไมไม่มีหน่วยงานใด มาดูแลแนะนำสิทธิของลูกค้าบ้าง สงสัยจะมัวทำงบประมาณปี 54 กันอยู่ ….. เอาเวลาไปจัดงบต่อไป นะครับ…จ้าวนายยยยยยย

    ปล.ผมเขียนบทความนี้เพื่อเตือนสติคนใช้งาน อินเตอร์เน็ททั่วไปนะครับ อยากให้คิดเป็นไม่ตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด…ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริงเป็น เรื่องที่ผมสมมุติขึ้นมา…แต่มีอยู่จริงหรือไม่ผมไม่รู้ นะจ๊ะ อิอิ

    เนื่อง จากบทความเข้าข่าย หมิ่นประมาท เจ้าของธุรกิจ โดยบทความนี้ เป็น การเผยแพร่ความรู้เพื่อสาธารณะที่เป็นความจริงโดยไม่มีผลประโยชน์ ใดทั้งสิ้น ในที่นี้ ณ ที่นี้จึงขอนำ ชื่อเว็บไซต์ ออกจากบทความ และ บอกทุกท่านว่าเว็บแบบนี้มีมากกว่า 20 เว็บในไทย





    [​IMG] ขอบคุณที่มา
    xxx.com ธุรกิจหลอกคนโง่…ที่คิดสั้นๆ? | KillerNay - Chanon Ngerntongdee





    .


    [​IMG] ขอบคุณที่มา
    http://www.ngerntongdee.com/2010/08/31/99/



    [​IMG]
    ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่

    http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T10081613/T10081613.html
    http://ptc.icphysics.com/webboard/SFM/index.php?topic=68500.0
    http://narongch.com/2011/04/23/รู้ทันเว็บประมูลสินค้า/
    http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2010/09/B9650450/B9650450.html



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ยาตีกันอันตราย (หมอชาวบ้าน)
    โดย ภก.ดร.วิรัตน์ ทองรอด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

    ยาตีกัน คืออะไร ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

    รู้ไหมว่า ยิ่งใช้ยามากชนิด ก็จะยิ่งเพิ่มยาตีกัน เนื่องจากทุกวันนี้มียาให้เลือกใช้มากกว่าในอดีตเป็นอันมาก ชนิดของยานับวันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีทางเลือกให้แพทย์ได้สั่งจ่ายยาที่มีความเฉพาะเจาะจงและเหมาะสมกับผู้ ป่วยมากขึ้น ทั้งยังครอบคลุมการรักษาโรคให้กว้างยิ่งขึ้น

    ท่ามกลางการค้นพบยาใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ป่วยก็มีโอกาสใช้ยาจำนวนมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง ยิ่งถ้าผู้ป่วยเป็นหลายโรค ก็ต้องใช้ยามากชนิดขึ้นตามอาการของโรคที่เป็นทำให้มีแนวโน้มว่าคนจะมีการใช้ ยากันมากขึ้น

    การที่ ต้องใช้ยาหลายชนิดในคราวเดียวกัน เพื่อรักษาโรคที่เป็นปัญหาอยู่นั้น อาจจะส่งผลให้ยาที่ใช้อยู่นั้นเกิด "ผลต่อกันได้" ซึ่งอาจจะเป็นคุณหรือโทษต่อผู้ใช้ยาก็ได้ และเราเรียกผลของยาชนิดที่หนึ่งที่ไปส่งผลต่อยาอีกชนิดหนึ่งนี้ว่า "ยาตีกัน"

    คำว่า "ยาตีกัน" มาจากภาษาอังกฤษว่า druginteraction ซึ่งถ้าแปลตรงตัวจะได้ความว่า ปฏิกิริยาระหว่างยา ในที่นี้ขอเรียกให้เข้าใจตรงกันง่าย ๆ ว่า "ยาตีกัน"

    [​IMG] ยาตีกัน มีทั้งคุณและโทษ

    เมื่อใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อกัน หรือยาตีกัน ซึ่งจะส่งผลบวกหรือลบต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยด้านบวกหรือคุณ ก็จะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ของยา ช่วยให้ลดขนาดของยาที่ใช้ลงได้ หรือเมื่อเกิดยาตีกันแล้วทำให้ได้ผลการรักษาดีขึ้น

    ขอยกตัวอย่างเช่น การใช้ยาเพนิซิลลิน (ยาปฏิชีวนะ) ร่วมกับยาโพรเบเนซิด (ยารักษาโรคเกาต์) จะเกิด "ยาตีกัน" ขึ้น และทำให้ยาเพนิซิลลินถูกขับออกจากร่างกายได้ช้าลง เป็นผลให้ระดับยาเพนิซิลลินสูงขึ้น และอยู่ในร่างกายได้นาน เสมือนกับมีการยืดระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาให้นานยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องให้ยาในขนาดที่สูง ๆ และ/หรือไม่ต้องให้ยาบ่อย ๆ เป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้ยา และลดค่าใช้จ่ายของยา พร้อมกับคงประสิทธิภาพของยาได้เหมือนเดิมอีกด้วย

    [​IMG] "ยาตีกัน" มักจะทำให้เกิดโทษมากกว่า

    แต่ ในทางตรงกันข้าม ยาตีกันชนิดที่ทำให้เกิดโทษ ซึ่งเป็นปัญหาจากการใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน เป็นปัญหาที่พบบ่อย ก่อให้เกิดความสูญเสีย และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้เป็นอันมาก ฉบับนี้ขอยกตัวอย่างยาตีกันที่พบบ่อยและทำให้เกิดโทษหรืออันตรายต่อผู้ใช้ยา ดังนี้

    [​IMG]1.การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ร่วมกับยาอะม็อกซีซิลลิน อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้
    [​IMG]2.การใช้ยาลดไขมันในเลือด กลุ่มสแตตินกับยาอีริโทรไมซิน อาจพาลให้ไตวาย
    [​IMG]3.การใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด ในโรคเบาหวานกับยาแก้ปวดข้อกลุ่มเอ็นเสด ทำให้ช็อกได้


    [​IMG]

    [​IMG] ยาเม็ดคุมกำเนิด + ยาอะม็อกซีซิลลิน

    การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับยาอะม็อกซีซิลลิน อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้

    ตัวอย่างที่ 1 นี้ต้องขอยกให้กับคุณผู้หญิงที่แต่งงานหรือมีแฟนแล้วทุกคน เพราะว่าระหว่างที่คุณกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นประจำทุกวันนั้น ก็ด้วยความหวังที่จะใช้ชีวิตครอบครัวตามปกติ และยังไม่ประสงค์ที่จะมีบุตร จึงต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันทุกวันเป็นประจำต่อเนื่องเป็นแรมเดือน แรมปี แต่ถ้าระหว่างนั้นมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน (amoxicillin) ซึ่งเป็นยารักษาอาการติดเชื้อ เช่น เจ็บคอร่วมด้วย เมื่อยาทั้ง 2 ชนิดมาเจอกัน ก็จะเกิดการตีกันของยาได้

    โดย ยาอะม็อกซีซิลลินจะไปมีผลต่อเชื้อจุลชีพที่อยู่ในทางเดินอาหาร ส่งผลรบกวนการดูดซึมของยาเม็ดคุมกำเนิดในทางเดินอาหาร ทำให้ปริมาณยาคุมกำเนิดที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ลดน้อยลง เมื่อปริมาณยาคุมกำเนิดในเลือดลดน้อยลงกว่าปกติ ก็จะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดน้อยลงด้วย จนอาจทำให้ล้มเหลว ไม่ได้ผลในการคุมกำเนิด และเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้

    กรณีนี้ อาจสังเกตด้วยตนเองได้ว่า ขณะนี้ระดับยาคุมกำเนิดในเลือดลดต่ำลง เพราะจะมีอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ ดังนั้น คุณผู้หญิงที่กำลังอยู่ในระหว่างการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดและมีความจำเป็นต้อง ใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน จึงขอแนะนำให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดประเภทอื่นร่วมด้วย (เช่น การใช้ถุงยางอนามัย) เพื่อช่วยให้คงการคุมกำเนิดได้ระหว่างที่ใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน โดยเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน จนกระทั่งหยุดใช้ยาไปแล้ว 1 สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะตั้งครรภ์ได้

    [​IMG]

    [​IMG] ยาลดไขมันในเลือด + ยาอีริโทรไมซิน

    การใช้ยาลดไขมันในเลือดกลุ่มสแตตินกับยาอีริโทรไมซินอาจพาลให้ไตวายได้

    ตัวอย่างที่ 1 แค่คุมกำเนิดไม่ได้ผล ทำให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่คาดฝัน และต้องเลี้ยงดูบุตรไปจนโต แต่ตัวอย่างที่ 2 ของยาตีกันนี้ ทำให้เกิดโรคไตวายได้ เรียกว่าเกิดอันตรายกับตัวผู้ใช้ยา และรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ เพราะโรคไตวายนี้มีอาจารย์แพทย์บางท่านจะผวนคำว่า "ตายไว" และนิยมพูดกันเล่นๆ ว่า "ไตวาย ทำให้ตายไว"

    ยาตีกันดังตัวอย่างที่ 2 นี้ก็เป็นยาที่ได้รับความนิยมมากอีกชนิดหนึ่ง คือ ยาลดไขมันในเลือดกลุ่มสแตติน (statins) ซึ่งเป็นยาที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
    ตัวอย่างยากลุ่มนี้ เช่น ซิมวาสแตติน (simvastatin) อะโทรวาสแตติน (atrovastatin) โลวาสแตติน (lovastatin) เป็นต้น จะสังเกตได้ว่า ชื่อยากลุ่มนี้จะลงท้ายว่า "สแตติน" ทุกตัว จึงเรียกกันติดปากว่า กลุ่มสแตติน

    ยากลุ่มสแตตินนี้นิยมจ่ายให้กับผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง และจะต้องใช้ยาติดต่อกันอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอเป็นประจำ เพื่อควบคุมลดปริมาณคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่เป็นปกติ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำให้ยอดจำหน่ายยากลุ่มนี้ติดอันดับหนึ่งสูงกว่ายากลุ่มอื่น ๆ ติดต่อกันหลายปีทีเดียว

    แต่ เมื่อไหร่ที่มีการใช้ยาอีริโทรไมซิน (erythromycin) ร่วมกับยากลุ่มสแตติน ยาอีริโทรไมซินซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในผู้ที่แพ้ยาเพนิ ซิลลิน เมื่อยากลุ่มสแตตินมาพบกับยาอีริโทรไมซิน ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน หรือเกิดยาตีกัน

    กรณีนี้ ยาอีริโทรไมซินจะไปยับยั้งการทำลายยากลุ่มสแตติน ทำให้ปริมาณยาสแตตินไม่ถูกทำลายตามปกติ และคงอยู่ในร่างกายนานพร้อมทั้งมีปริมาณมากขึ้น และมีการสะสมตัวยากลุ่มสแตตินในเลือดมากขึ้น จนทำให้เกิดพิษ โดยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อลีบ และเป็นพิษต่อไตได้

    ดัง นั้น ตัวอย่างที่ 2 นี้เป็นตัวอย่างของยาตีกันที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทั้ง 2 ชนิดนี้ร่วมกันซึ่งแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนจากยาอีริโทรไมซินไปใช้ยา ชนิดอื่นแทน หรืออาจจะเปลี่ยนไปใช้ยากลุ่มสแตตินอื่นที่ไม่เกิดผลต่อยาอีริโทรไมซิน เช่น ฟลูวาสแตติน (fluvastatin) พราวาสแตติน (pravastatin) เป็นต้น

    นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ใช้ยากลุ่มสแตตินอยู่ก็จะต้องคอยสังเกตอาการผิดปกติของตนเองด้วย โดยเฉพาะอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น


    [​IMG]


    [​IMG] ยาลดน้ำตาลในเลือด + ยาแก้ปวดข้อกลุ่มเอ็นเสด

    การใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน กับยาแก้ปวดข้อกลุ่มเอ็นเสด ทำให้ช็อกได้

    ตัวอย่างที่ 3 เป็นกรณีของผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดกลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (sulfonylureas) เช่น ไกลเบนคลาไมด์ (glibencalmide) คลอโพรพาไมด์ (chlorpropamide) เป็นต้น

    ยากลุ่ม นี้มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งก็ทำนองเดียวกันกับ 2 ตัวอย่างแรกที่จะต้องใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เพราะถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่เป็นระยะเวลานาน ๆ จะไปทำลายระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดอาการชาปลายมือปลายเท้า ตาฝ้าฟาง และเป็นโรคไตได้

    ถ้าผู้ป่วยได้รับยาแก้ปวดแก้อักเสบข้อและกล้ามเนื้อกลุ่มที่เรียกว่า เอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไดโคลฟีแนก (diclofenac) ไพร็อกซิแคม (piroxicam) ยากลุ่มเอ็นเสด เมื่อเจอกับยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย ก็จะเกิดการตีกันของยาโดยยาเอ็นเสดจะส่งผลให้ปริมาญากลุ่มซัลโฟนิลยูเรียใน เลือดเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้ฤทธิ์การลดน้ำตาลในเลือดเพิ่มมากขึ้นตาม จนอาจไม่มีน้ำตาลเหลืออยู่ในเลือดเลย ผู้ป่วยก็อาจจะมีอาการอ่อนแรง เป็นลม หมดสติ และช็อกได้

    กรณีนี้ก็เช่นเดียวกับตัวอย่างที่ 2 ที่จะต้องระวังตัวไม่ควรใช้ยากลุ่มเอ็นเสดร่วมกับยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย เพื่อไม่ให้เกิดการตีกันของยา และทางที่ดีควรติดตามวัดระดับน้ำตาลในเลือด หรือลดขนาดของยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรียลงให้เหมาะสมระหว่างที่มีการใช้ยากลุ่ม เอ็นเสดร่วมด้วย

    [​IMG] สมุดบันทึกยา : วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกันยาตีกัน

    จากทั้ง 3 ตัวอย่างของ 3 คู่ของยาตีกัน ที่อาจส่งผลต่อการรักษา และ/หรือทำให้เกิดพิษ เกิดอันตรายจากการใช้ยาได้ ในที่นี้ขอแนะนำวิธีง่าย ๆ ในการช่วยป้องกันยาตีกัน ก็คือสมุดบันทึกยา

    สมุด บันทึกยาหรือบันทึกรายการยา ใช้บันทึกรายชื่อยาทั้งหมด ทั้งที่ใช้ประจำ และนาน ๆ ใช้ครั้งหนึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามิน เกลือแร่ และสมุนไพรด้วย โดยนำรายชื่อยาและสารอื่น ๆ เหล่านี้ไปปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ว่าจะมีโอกาสเกิดยาตีกันหรือไม่ จะได้เฝ้าระวัง ป้องกัน และหลีกเลี่ยงตามลักษณะเฉพาะของยาแต่ละคู่แต่ละประเภท

    กรณีที่จะไปพบแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อรักษาโรคก็ขอเสนอให้พกสมุดบันทึกยา (หรือบันทึกรายการยา) ไปด้วยเสมอ และควรแสดงให้กับแพทย์ที่ตรวจรักษาได้รับรู้ และ/หรือแสดงให้เภสัชกรที่จ่ายยาได้ทราบ เพื่อจะจ่ายยาให้เหมาะสมไม่เกิดการตีกัน

    [​IMG]

    [​IMG] ข้อแนะนำการใช้ยา

    [​IMG] 1.ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียด และไม่ควรกินยาของคนอื่น การไม่อ่านฉลากยา และใช้ยาผิดอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

    [​IMG] 2.การกินยาหลังอาหาร หมายถึง กินยาหลังอาหารทันที ไม่จำเป็นต้องรอเวลา (30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง)

    [​IMG] 3.ยาส่วนใหญ่จะระบุให้กินหลังอาหารเพื่อให้จำง่าย ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภารกิจเร่งรีบจนไม่มีเวลากินอาหารตามมื้อควรกิน ยาในเวลาเดียวกันเป็นประจำ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการกินอาหาร เพื่อผลในการควบคุมโรค เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาขับปัสสาวะ ที่ต้องกินตรงเวลาทุกเช้า

    [​IMG] 4.ยาบางชนิดจำเป็นต้องกินหลังอาหารทันทีหรือพร้อมอาหาร เนื่องจากมีฤทธิ์กัดกระเพาะ ดัง นั้น หากถึงเวลากินยาก็จำเป็นต้องกินอาหารรองท้องไว้ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากยากัดกระเพาะจนอาจเป็นแผลเลือดออก ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการงดยา เพราะจะทำให้ควบคุมอาการของโรคไม่ได้

    [​IMG] 5.ยาที่ต้องกินก่อนอาหาร หมายถึง กินก่อนมื้ออาหารครึ่งชั่วโมงขึ้นไป (30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง) เนื่องจากอาหารจะลดการดูดซึมของยา หรือเพื่อให้ยาออกฤทธิ์บรรเทาอาการได้ในเวลากินอาหาร เช่น ยาแก้คลื่นไส้อาเจียนหากลืมกินยา และกินอาหารไปแล้ว ให้กินยาหลังอาหารมื้อนั้น 1 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้ท้องว่าง แต่ต้องระวังว่าเวลาที่กินอาหารจะไม่ใกล้กับยาในมื้อถัดไป

    [​IMG] 6.ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะต้องกินยาก่อนอาหารเป็นนาที ถึงครึ่งชั่วโมง แล้วแต่ชนิดของยา เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจากการกินอาหาร จึงจำเป็นต้องกินอาหารหลังกินยาทุกครั้ง มิฉะนั้นจะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ทำให้หน้ามืด วิงเวียน เป็นลม และในทางกลับกัน หากงดยาเองเพราะไม่อยากกินอาหารก็อาจทำให้ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

    [​IMG] 7.การ กินยามีความสำคัญ ผู้ป่วยที่ไม่มั่นใจในการกินยาควรปรึกษาเภสัชกรที่ห้องจ่ายยาโรงพยาบาลหรือ ร้านยาทุกครั้ง เพื่อให้ใช้ยาได้อย่างปลอดภัย เภสัชกรสามารถจัดตารางการกินยาให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำ วันของผู้ป่วย หรือแม้แต่ประสานกับแพทย์ เพื่อปรับเปลี่ยนยาที่ต้องกินวันละหลาย ๆ ครั้ง ซึ่งไม่สะดวก มาเป็นเพียงวันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรลดหรือเพิ่มขนาดยาเอง

    [​IMG] 8.การไปพบแพทย์หลาย ๆ โรงพยาบาล (หรือคลินิก) อาจทำให้ได้รับยาชนิดเดียวกัน ผู้ป่วยต้องกินยาซ้ำซ้อน หรือเกิด "การตีกัน" ของ ยาซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงแก่ผู้ป่วยได้ การไปพบแพทย์หรือเภสัชกรจึงควรมีรายการยา หรือนำยาที่กำลังใช้อยู่ทุกชนิดไปด้วยทุกครั้ง เพื่อให้เภสัชกรพิจารณาว่ามียาซ้ำซ้อนกันหรือไม่ หรือยาตีกันหรือไม่ จะได้หาทางแก้ไขและป้องกัน เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากการใช้ยา

    [​IMG] 9.ผู้ป่วยที่มีภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรแจ้งเภสัชกรทุกครั้งที่รับยา เพื่อให้เภสัชกรพิจารณาความเหมาะสมของยา และผลของยาที่อาจมีต่อบุตรในครรภ์หรือบุตรทีได้รับนมแม่


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    -http://www.doctor.or.th/-

    -http://health.kapook.com/view37664.html-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37 KB
      เปิดดู:
      40
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.9 KB
      เปิดดู:
      42
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.7 KB
      เปิดดู:
      64
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.6 KB
      เปิดดู:
      31
    • 5.gif
      5.gif
      ขนาดไฟล์:
      1.3 KB
      เปิดดู:
      207
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ลุงก็อย่าลืมนำมาชมในวันพรุ่งนี้นะครับ..
     
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ปิดตา ๒ หน้าวังหน้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2012
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นำสุริยเทพของจริงอายุมากกว่า ๒,๐๐๐ ปีมาให้ชมกัน เทียบกับที่สร้างเลียนแบบย้อนยุคของอ.ประวัติ วัดในเตา จ.ตรังนำสภาพแบบนี้ไปฝังดิน ซัก ๓๐-๔๐ ปี จะดูออก และทราบว่าเป็นของเลียนแบบหรือๆไม่ครับ...หุ..หุ...เป็นยังไงครับ แบบแก้วเผา แบบนี้ดีเปล่าครับ...

    ชิ้นเลียนแบบนี้ ๕๐๐ บาทครับ สั่งได้ไม่อั้น สำหรับผู้ที่ต้องการกวาดหมดครับ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2012
  19. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    (good)โย่วๆๆๆนี่นะลุงๆๆทั้งหลายโปรดทราบพระที่ นายกวง แจกของหลวงพ่ออภิชิโตท่านสร้างตั้งแต่๒๔๙กว่าๆๆ ขอโทษนะตอนนี้ที่ตลาด อ.ต.ก.๓ มาแรงงงง มีการซื้อขายอยู่ที่สามหมื่นกว่าๆๆ ขอบอก ขอบอก ว่าเมื่อไม่ได้มีพระที่อาจารย์(หลวงปู่ใหญ่โลกอุดร)เศก แต่มีพระที่ลูกศิษย์สร้างก็ไม่ต่างกัน แถมมีผงของสมเด็จฯท่านผสมอีก นี่คือที่ได้ยินมา ก็มาเล่าสู่กันฟังว่าดีอย่างไรrabbit_run_awayแต่มีบางท่านที่รู้ข่าว แล้วเป็นเช่นนี้
     
  20. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    denceeนี่นะตาลุงเพชร รูปล่างนี่ละที่ทำให้คนรวยแทบเสียคนละเมื่อรู้ว่าใหม่ แถมจ่ายไปตั้งห้าหลักแก่ๆๆแค่เม็ดเดียว ข่าวขำๆๆนะ ;ปรบมือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...