พวกที่จะไปพรหมโลก คืนหนึ่งให้สร้างความดี ๑๐ นาที เวลาตายแล้วเป็นพรหมแน่

^-^

.......................

 

เอ๊า..............กราบนมัสการครูบาอาจารย์.....

อาจาริยธรรม หลวงพ่อพุธ ธานิโย
​

"ถ้าใครยังไม่เป็นก็รับฟังเอาไว้ ​

อย่าปฏิเสธ​

ทุกสิ่งในโลกนี้ ที่เค้าพูดกัน คุยกัน
ที่มีชื่อ ระบุ ถึง ว่าสิ่งอย่างนั้นเป็นอย่างนั้น อย่างนั้น อย่างนั้น
ในเมื่อเราศึกษายังไม่ถึง อย่าไปปฏิเสธ ว่ามันเป็นไปไม่ได้
เรา้ต้องรับฟังเอาไว้แล้วพยายาม พยายามพิสูจน์ให้มันรู้ข้อเท็จจริง"​

 

ก่อน บริบทนี้
หลวงปู่พุธ ฐานิโย
ท่านพูดเรื่องสมาธิ ที่น้อยคนยังไม่เคยได้รู้
ในเรื่องของสมาธิแบบนี้

ควรจะฟัง บริบทในการอธิบายเรื่อง สมาธิ

ส่วนเรื่องที่ คุณพี่คาใจ
กระทู้นึง ที่คุณพี่บอกว่าท้าวเวสสุวรรณ บรรลุอนาคามี
มันคนละเรื่อง กับ การแนะนำของหลวงปู่พุธ ฐานิโย

 

ท่านกรุณาแสดงให้เข้าใจไปเลยได้ไหม กระผมต้องการเข้าใจ
และหลายคนก็จะได้รับประโยชน์ด้วย หากเข้าใจในสภาวธรรม

ขอน้อมรับคำตอบเพื่อความเข้าใจครับ

 

อาจาริยธรรม หลวงพ่อพุธ ธานิโย

"ถ้าใครยังไม่เป็นก็รับฟังเอาไว้ ​

อย่าปฏิเสธ​

ทุกสิ่งในโลกนี้ ที่เค้าพูดกัน คุยกัน
ที่มีชื่อ ระบุ ถึง ว่าสิ่งอย่างนั้นเป็นอย่างนั้น อย่างนั้น อย่างนั้น
ในเมื่อเราศึกษายังไม่ถึง อย่าไปปฏิเสธ ว่ามันเป็นไปไม่ได้
เราต้องรับฟังเอาไว้แล้วพยายาม พยายามพิสูจน์ให้มันรู้ข้อเท็จจริง"​

หลวงพ่อสอนให้ลูกศิษย์ใช้ปัญญาแบบนักวิทยาศาสตร์​

<!-- google_ad_section_end -->

 

ลบกวนช่วย รวมคำถามมาเป็นโพสใหม่ด้วยครับ

กระผมเม้าท์ไม่ดี เลื่อนขึ้นลงลำบาก

 

สมมุติ ว่า มีคนไปกล่าวประกาส ว่าได้ความวิเศษ

จากผู้ยิ่งใหญ่ เป็นบรมเหนือพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
แล้วก็นำมาสอนต่อ และบอกวิธีทำด้วย

สุดท้าย ก็ตัดเอาคำสอน
ของหลวงปู่พุธ ฐานิโย ในประโยคข้างต้นมา
แปะ เพื่อ สนับสนุน ความคิดตน ไม่ได้รู้ว่า
ก่อน บริบทนี้ ท่านเน้นให้พิสูจนเรื่องอะไร

แบบนี้จะเรียกว่าอะไรครับ

 

ผมมารอฟังคำตอบจาก คุณซัวเจ๋ง ที่ คุณNeoworld ได้ถามไว้

เพราะเป็นคำถามที่ดีมากครับ ขอบคุณผู้ถามด้วยครับ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างยิ่งครับ

 

ผมทราบว่าหลวงพ่อท่านให้ปฏิบัติให้เกิดผลเป็นสำคัญนะครับ...ไม่ได้หมายถึงการวิเคราะห์ให้เกิดผลเป็นสำคัญ....เหมือนหลายๆท่านที่กำลังทำกันนะ....

 

สติ สัมปชัญญะ และความเพียร หากตอบแบบนี้เหมือนสูตรสำเร็จใช่ไหม
ตอบว่า ใส่ใจลักษณะธรรมที่ปรากฏในปัจจุบัน

นำไปสู่ โลภะ ตัณหา แล้วก็ไล่ภพ ชาติ ไปอุปทานเลย
หากตอบอย่างนี้เหมือนสูตรสำเร็จใช่ไหม

ให้นึกถึงลักษณะของความเพลิดเพลิน พอใจ ติดอยู่ในอารมณ์ที่ดี
ขณะมันลืมโลกไหม อยากอยู่แบบนั้นนานๆบ้างไหม สติรู้ตัวมีไหม

ขณะที่สงสัย ฟุ้งซ่าน เพราะหลงเรื่องราว ที่ปรุงแต่ง
ตอบแบบนี้เหมือนสูตรสำเร็จ ถูกไหม

ตอบว่า ใส่ใจในอารมณ์ปัจจุบัน หากสงสัยปรากฏ ก็รู้ธรรมปัจจุบันนั้นว่า
สังขารขันธ์ทำกิจปรุงแต่งอยู่ ไม่ใช่เราที่คิด มันเป็นสภาวะธรรมที่ปรากฏขึ้นมาแล้วดับไป

ตรงนี้เรื่องธรรมปัจจุบันมีอยู่
เรื่อง ผู้ถูกศรธนู จะมามั่วถาม ใครยิง บ้านอยู่ที่ไหน นั้นมันไม่ถูกโรค
มันต้องดูที่แผล

ธรรมชาติแล้ว จิตไม่มีรวม เกิดจากไปกระทำให้มั่นแน่วแน่

ซึ่งขณะนั้นก็ไม่ได้รวมอะไร เป็นการตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว เกิดดับ ย้ำๆอยู่อย่างนั้น

มันจึงแตกออกมาเป็นทิฏฐิ ครูทั้ง ๖

ทิฏฐิพวกนี้ จะเกิดกับผู้มีธรรมสูงๆ ประเภทแช่จิตรู้นั้นแล

รูปขันธ์ มี ๑ แตกเป็น รูป ๒๘ อันนี้ไปไล่เอาในตำรา

นามขันธ์ มี ๔ หากย่อ เป็น จิต และ เจตสิก หรือ วิญญาณ ๑ สังขาร ๓

หรือแตกไปอีกโดยเจตสิก เป็น ๕๒ พวกนี้ก็ไปไล่ในตำราเอา

เรื่องที่ถามว่าเป็นจิตตอนไหน

ตอบว่า เป็นจิตอยู่ตลอดเพราะอารมณ์กระทบมันมีตลอด

ที่ไหนมีอารมณ์ ที่นั้นมีจิตรู้อารมณ์

พอตอบอย่างนี้ไม่เข้าเรื่องสักกายทิฏฐิ ถุกไหม

ตอบว่า ถ้ารู้จักว่า จิต คือธรรมชาติ รู้

ก็ต้องรู้จักว่า เดี๋ยวมันรู้ แล้วเดี๋ยวมันไม่รู้ หรือวิ่งไปรู้สิ่งอื่น อันนี้ก็ลองสังเกตุดู

ว่ารูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเที่ยงไหม เป็นทุกข์ไหม

ตอบง่าย ต้องศึกษา

รู้ว่าธรรมไม่ได้อยู่ในป่า ในพระเครื่อง ในถ้ำ ในวัด ในตำรา แต่ธรรมเกิดจากปัจจัย ศึกษาได้จากข้างใน

การยึดถือผิด ไปคว้าธาตุ คว่้าดิน น้ำ ลม ไฟมาเป็นเครื่องยึดเพื่อความหลุดพ้นนั้น

หากพิจารณาให้ดี กายนี้ละ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีอยู่ครบ

ธรรมก็อยู่ในกาย ในใจนี้ จะลุแก่ธรรมก็ไม่ใช่อิทธิปาฏิหาร์ของผู้ใด มันอยู่ที่เรานี้

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็อยู่ที่ธรรมนี้

พระพุทธองค์ไม่สามารถให้ก้อนดินไปกำแล้ว เธอจะลุธรรม

หรือ ไม่สามารถเอานิ้วชี้ เสกแม้น้ำให้คนดื่ม แล้ว ลุธรรมทั้งจักรวาล

ทรงทำได้ในข่ายปัญญา ที่ตรัสรู้ เท่านี้ก็เป็นพระกรุณาธิคุณ และเป็นความโชคดีมหาศาลที่พบพระธรรมคำสอน พุุทธองค์แล้ว ^^

 

เห็นด้วยครับ พิสูจน์ด้วยการปฏิบัติเสียก่อนที่จะปฏิเสธ

 

ถูกต้องแล้วครับ....สาธุครับ.....

 

ขอบคุณท่านซัวเจ๋ง ท่านตอบด้วยหลักพระอภิธรรม
จะให้กระผมเข้าใจได้ทั้งหมดต้องใช้เวลาซักระยะ
ธรรมะเหมือนอาหาร จะทานมื้อเดียวให้อิ่มทันที
และอิ่มตลอดกาลคงไม่ได้
คงต้องเข้าไปฟังอ.สุจินต์ให้บ่อยๆขึ้น

ขณะนี้อยากเรียนรู้การทำสมาธิด้วย"กสิณ"
อ่านมาบ้าง ฟังมาบ้าง คิดว่าทำได้เลย
ไม่ยุ่งยากมากเรื่อง
ตอนนี้มีความเข้าใจ สติ สัมปชัญญะ ความเพียรเป็นเบื้องต้น
ที่ต้องนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการ ปลดปล่อย การหลง เพลิน การสงสัย เกาะเกี่ยวยึดติด จากท่านแล้ว

จึงจะขอรับคำชี้แนะการฝึกสมาธิด้วยวิธี"กสิณแสง"
แบบถูกทางตามที่ท่านเคยปฏิบัติหรือชี้แนะผู้อื่น
แล้วมีปัญญาเจริญขึ้นไปสู่วิปัสสนากรรมฐานได้

กระผมยังไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางของอาจารย์มาก่อนเลย ขอรับท่าน

 

สาธุครับ มันก็ไม่ได้อภิธรรมอะไร

ผมไม่มีจริตไปทางกสิน แต่พอแนะนำให้พลิกเป็นวิปัสสนาได้

ขณะที่เพ่งจ้องสีนั้น

ให้ใส่ใจตรงตากระทบสี สีเป็นรูป รู้สีเป็นนาม

ขณะรู้สี ย่อมมีความนึกคิดจำ ก็ที่รู้ว่าสีขาวนั้นเป็นเป็นสัญญา ความจำได้

รู้สีขาว กับกำลังเห็นก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

รู้ว่าจำได้ ว่าสีอะไร ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกับ อาการที่รู้อยู่

ทีนี้หาก หลับตา ลืมตา ก็จพเห็นสี ไม่เห็นสี นี้เป็นการเกิดดับของการเห็นก็ได้

ให้น้อมไปรู้ ความไม่เที่ยงนี้ก็ได้

 

ถูกใจ สิบนาทีนี้ จ๊าดดดดดดดดดด นัก

ถูกใจอันนี้เป็นที่สุด อ่านเเล้ว อ่านอีก ซักสามรอบก็ยัง ไม่เบื่อ
ถูกใจขนาดดดดดดดดดดดดด

ช่างเป็น สิบ นาทีที่ดื่มดํ่ากํ่าซาบ กระเเทก จิต ทะลวงใจ เสียเหลือเกิน

โอ๊ยยยย บ่ ฮู้ จะ อู้อะหยัง มันถูกใจ๋ขนาดดดดดดดดด

 

ม่วนอ๊ก ม่วนใจ๋ ขนาดดดด ^^

 

เมื่อตะกี้ อ่านผ่าน เเว๊ปๆ เรื่องที่ลุงโดด เขา ชะโงกหน้า กู่คอ ขึ้น ตะโกนเเนะ น้าปราบ เรื่อง ปฎิบัติ หรือ ไม่อย่างไร

ส่วนตัวน้องนั้น มีข้อเสนอเพิ่มเติม ให้สังเกตุ ผู้ ปฎิบัติ ดี เเล้ว ชอบเเล้ว

ประการเเรก ต้อง มีวิธีการ เข้าไปตัดสินผู้อื่น เเบบเบ็ตเสร็จ รวบรัด เพราะใช้ปัญญา ที่มี บวก นั่งญาณ ไปชมด้วย ริสสสสสสสส ทางใจ ด้วย ริส ของอภิญญา ดูเเล้ว ว่ามันผู้นั้น ต้องเป็นเยี่ยงที่เห็นเป็นเเน่ เเท้

ประการที่สอง ต้องมีใจ ชื่นชอบ หลงติดใน สิ่งที่ตนชอบ ตนหลงไหล ได้ปลื้ม มี พระเครื่อง เนื้อดี ดี เป็นตัวชูกําลัง ยึดพระเครื่องเป็นสิ่ง เเทนใจ ไว้ เป็นเเนวทางในการปฎิบัติ มี พระสวยๆ ไว้ ประดับบารมี ของการปฎิบัติ
ยิ่ง ปฎิบัติมาก พระสวย สวย ท่านก็จะวิ่งมา ชี้นํา เยอะขึ้นเป็นกําลัง


ทั้ง สองประการนี้ เป็นคุณสมบัติ ของผู้ ปฎิบัติ ที่ถูก ที่ควร

เราผู้ปฎิบัติ ทั้งหลายจงจําไว้ให้ดีนะ เราต้องหาพระเครื่อง สวย สวย เนื้อดี ดี ดมเเล้วหอมนํ้ามัน ตังอิ้ว ขึ้นหัวไปเลย ยิ่งเเจ๋ววววว

เพราะกลิ่นของมัน จะทําให้ท่านๆ ทั้งหลาย เข้า ฌาณ สี่ ง้ายขึ้นอีกเป็นกําลัง เเถม มีองค์พระ ราคางาม ไว้เพ่งกสิณ อีกตางหากกกกกกกกกกก


ขอให้ผู้ปฎิบัติ จงจําเหตุสองประการไว้ให้ขึ้นใจ ถึง จะถือได้ว่า เรานั้นเป็นผู้ ปฎิบัติ





ปล ส่วนน้องถ้าจะยังห่างจาก การปฎิบัติ เป็นยิ่งนัก จึงขอหลบมาทําใจ งมโข่ง ยึดเอาลม เอาสติ เอาปัญญา มาครอง เเทนก่อนก็เเล้วกัน วันใหนมีบรามี ได้พระเนื้อดี ดี มาก็คงจะเดินต่อได้


ลาล่ะจ๊าาาาาาาาาาาาา

 

^-^

นั่นสินะ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าติดวัตถุอัปมงคลนี่นะ...พูดได้ดีนะ ถูกครับพระเครื่องนี่ถ้าบูชาเป็นใช้ได้หลายอย่างถ้าจะใช้ฝึกกรรมฐานนี่ยิ่งดีใหญ่....ได้กรรมฐานหลายกองนะ...อย่างพระของขวัญ วัดปากน้ำนี่ หลวงพ่อสด ท่านแจกไว้ให้ฝึกกรรมฐานจับภาพพระโดยเฉพาะเลย พระผงจักพรรดิ์หลวงปู่ดู่นี่ ท่านใช้สวด ใช้นั่งกรรมฐาน พระหลวงปู่หงษ์ สุรินทร์ นี่ใช้แล้วต้องมีศีล ๕ เป็นต้น..ผมชอบมาก....เมื่อไรเห็นแล้วมันสุขใจ ...

ชอบขนาดเน้อ....

 

เเหม่มมมมมมมมมมมม ว่าเเล้วเดี๋ยวก็วิ่งขึ้นไปเอา หนังสือ กรรมฐาน เอาหนังสือเรื่องการนั่งสมาธิ ตาม ลง ตามลม อะไรมาโยนเข้ากองไฟ เสียให้รู้เเล้ว รู้ เเรด กันไปซะเลยดีไหมเนี้ยยยย

ดีไม่ดี พอเผาเเล้ว หันมานั่งจ้องไฟ จนเปลือกตาเเห้ง เอากสิณ ได้อีกน่ะเนี้ยยยยยยย

ลุงโดด นี่ช่าง ชาญฉลาด เเสนรู้ เสียจริง จริง



พอ พอ พอออออออออ พอกันที ไม่ตงไม่ตามมันเเล้ว นังลมเนี้ยยยย
มานั่งหาพระเนื้อดี มาจับพลังพุธคุณ พอเผลอก็ ยกมาเดิน อภิญญากันไปเลยเเล้วกัลเนอะ


(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)

สาธุ ตัวโต โต บวกอนุโมทนา ในคําเเนะด้วยจ๊าาาาา


ช่างสมกับเป็นผู้ ปฎิบัติดี ปฎิบัติ ชอบเสียจิง จิง

ขอบคุณจ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 

นี่หนังสืออย่าไปเผานะ...เสียดาย....เดี๋ยวปรามาสพระท่าน....เอาไปวางไว้ที่วัดสวนดอกก็ได้นะหนูเดี๋ยวคนเขาเอาไปอ่าน....

เรื่องพระเครื่องกับการฝึกกรรมฐานนี่ไม่สงวนลิขสิทธินะเอาไปใช้ได้จ๊ะ.....