เชิญร่วมอนุรักษ์พระกรุครับ

สวัสดีครับ(ทุกท่าน)

ตามคุณพรหมธรรม พระกรุมหาวัน มานะครับ

(ฝนฟ้าก็จะตกนะครับ พอดีนั่งเล่นอยุ่ใต้ต้นไทร ใหญ่โตมโหฬาร ครับ)

 

เจอในเวปนึง(ลองgoogleดูนะครับ)ตั้งราคาไว้ 50,000 บาท
ผมบูชามา ตั้ง 200 บาท
รวยแล้วครับ คุณพระธาต
เจอคุณแล้วจะเลี้ยงมาม่า...ฉลองความรวย อิ อิ

 

"สวัสดีครับคุณพระธาต พระเครื่องกรุพระธาตุนาดูน ผมไม่เคยมีกับเขาสักองค์ ว่างๆนำมาให้สมาชิกได้ ศึกษา บ้างนะครับ ขอบคุณครับ"

 

พระรอดวัดพระสิงห์





เดิมผมมีเป็น 10 องค์ แจกไปเยอะ เหอเหอ ....

 

"พระลือซุ้มนาค จ.ลำพูน ครับ:พระพิมพ์เนื้อดินเผาสกุลหริภุญไชยในตำนานอีกองค์หนึ่งครับ"

 

สวัสดีครับ ท่าน dhalmaphol premium
(ยินดีครับ)
(นกร้องระงม ลมเย็นๆ)

(ได้ครับ ถ้ามี ผมจะยิงตรง หาท่านทันทีครับ)

เนื้อดินกรุกำแพง
(เม็ดขนุนทุ่งเศรษฐี ผมมีครับ เด่วว่างๆกลับบ้านไปถ่ายมาให้ท่าน สวด นะครับ)
ไม่รุ้แท้ หรือ แท้น้อย ผมจับดูแล้วแข็งๆ(เนื้ออกส้มๆ เหลือง)



พระธาต


----------------------------------

 

"ขอบคุณครับคุณพระธาต หากคุณสังเกตนะครับ คุณจะพบว่า ผมไม่เคย สวดพระเครื่อง ของสมาชิกท่านใด?เลยครับ"

 

กำไร งามจัง

ยินดีด้วยครับ คุณพรหมธรรม


อุด้งไม่ได้เหรอครับ (เพราะจะได้ชวน พริตตี้มากินด้วย กัน)(k)

 

เปลี่ยนเป้นคำวิจารณ์นะครับท่าน

เปลี่ยนเป้นคำวิจารณ์นะครับท่าน

ขอบคุณท่านธรรมพลมากครับ

 

"ตามสะดวกครับแต่ วิจารณ์?ผมก็ ไม่เคย ครับ ส่วนใหญ่ผมเพียง แสดงความคิดเห็นเท่านั้น ครับ"

 

รบกวนกระทู้นี้ด้วยครับ

ผมมีพระกรุอยู่ 1 องค์ คงไม่ใช่ท่านเกจิใดสร้าง แต่ไม่ทราบจริงๆว่าท่านมาจากวัดไหน ก็จะขอรบกวนท่านผู้รู้ในนี้ ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

ปล ขออนุญาติถาม 2 องค์เลยครับว่า องค์หลังผงสุพรรณเป็นอย่างไรบ้างครับ

 

"ตอนนี้เหลือกี่?องค์ ครับ"

 

ผงสุพรรณโอกาสไม่แท้สูงครับ

 

ขอบคุณมากๆครับที่นำมาให้ชม

 

น้องใหม่ขอร่วมด้วยครับ ปิดตาท้ายย่าน,ชินราชซุ้มเส้นคู่,ปรุหนังและนาคปรกชินเงินแห่งกำแพงเพชร

 

น้องใหม่จริงหรือครับ อือหือ

 

ว่างๆสักองค์ครับยังไม่รู้ว่าแท้หรือเก๊ครับ

 

พระพิมพ์หลวงพ่อโต หลวงปู่ชู วัดนาคปรก หลังจาร

พระเนื้อดินเผา พิมพ์หลวงพ่อโต จัดเป็นพระดี ที่น่าสนใจและสะสมเป็นอย่างยิ่ง ตามประวัติที่สืบทราบได้นั้น หลวงปู่ชูท่านได้สร้างพระเครื่องพิมพ์นี้ขึ้นก่อนพิมพ์ทรงและเนื้อหาอื่นๆ ทั้งหมด โดยมีเจตนาเพื่อบรรจุกรุไว้เป็นการสืบพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงตามประเพณี นิยมที่ทำสืบกันมาแต่โบราณ โดยท่านเริ่มดำริจัดสร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2460 เรื่อยมาจนถึงราวปี พ.ศ. 2472 จึงได้นำพิมพ์บรรจุไว้ในองค์พระกับพระเจดีย์ทางด้านทิศเหนือ มีทั้งแบบด้านหลังจาร และ ไม่จาร พระบางส่วนท่านแจกเมื่อประมาณ 60-70 ปีที่แล้ว และมีพระบางส่วนนำลงกรุไว้ครับเพิ่งแตกกรุเมื่อประมาณปี 2516

และอีกหนึ่งข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะดี

พระหลวงพ่อโต หลวงปู่ชู วัดนาคปรก ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ว่ากันว่าท่านมีญาณวิเศษ และให้หวยแม่นมากเหมือนตาเห็น
วัตถุมงคลที่ท่านสร้าง ถ้าเป็นเหรียญมีค่านิยมสูงในเรือนหมื่นถึงแสนครับ แต่ที่เป็นพระเครื่องที่ท่านทำใส่ไหใส่กรุไว้เป็นจำนวนมากระหว่างปี 2460-2472 (มาแตกกรุตอน 2516)



พระหลวงพ่อโตเนื้อดินที่หลวงปู่ชูสร้างขึ้นไว้นี้ เป็นพระที่ปราศจากคราบกรุ เพราะมีการบรรจุไว้ภายในไหโบราณมีฝาปิดเรียบร้อย อีกทั้งกรุก็มั่นคงแข็งแรงกันน้ำฝนได้เป็นอย่างดี ผิวพรรณจะออกเป็นสีหม้อใหม่เกือบทั้งหมด จะมีสีออกน้ำตาลเข้ม สีขาวนวลและสีดำบ้างเล็กน้อย ดูเผินๆ จะเป็นเหมือนพระใหม่ แต่ถ้าใช้แว่นขยายส่องดูจะปรากฏว่าเก่าและมีความแห้งถึงอายุ

ในช่วงนั้น ท่านเจ้าอาวาสได้นำพระหลวงพ่อโตเนื้อดินส่วนหนึ่ง ออกมาให้ประชาชนได้ทำบุญเพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปบูรณะวัด แต่ทว่าไม่ค่อยจะมีใครสนใจเท่าใดนักเพราะเห็นว่าพระจำนวนมาก จากนั้นมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าพระจะหมดไปจากวัดหรือยัง เพราะในระยะหลังเริ่มมีผู้รู้ข่าวและสนใจ ไปขอเช่าอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งได้ทำกุศลเป็นการสืบพระศาสนาไปอีกทางหนึ่ง

อีกเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องเล่าขานกันต่อมา คือ เรื่องที่หลวงปู่ชูให้หวยแม่น ในสมัยนั้น ชาวบ้านย่านตลาดพลู ใครมีเรื่องทุกข์ร้อน มักจะมาหาท่านให้ท่านช่วยเหลือ บางคนที่ไม่มีอะไรจะกิน หลวงปู่ท่านจะสงเคราะห์ให้ตามสมควร จนกระทั่งมีข่าวเล่าลือว่า หลวงปู่ให้หวย อันเป็นการผิดกฎของคณะสงฆ์ สมเด็จพระสังฆราชทรงทราบเรื่องจึงทรงสอบสวนวินัย โดยมอบให้ท่านเจ้าคุณวัดอนงค์คาราม เป็นผู้สอบสวน ท่านเจ้าคุณวัดอนงค์จึงเรียกให้หลวงปู่ชูมาพบที่วัด หลวงปู่ก็ไปพบแต่โดยดี ไปถึงก็กราบท่านเจ้าคุณพร้อมกับนั่งประนมมือฟังคำบัญชาด้วยใจเด็ดเดี่ยวและ มั่นคง


ท่านเจ้าคุณวัดอนงค์จึงถามขึ้นว่า "ให้หวยเก่งนักหรือ"
หลวงปู่ชูได้ตอบไปว่า "ขอก็ให้ ไม่ขอก็ไม่ให้"
ท่านเจ้าคุณวัดอนงค์ได้ฟังดังนั้นจึงสรุปว่าหลวงปู่ให้หวยผิดวินัย โกหกหลอกลวงชาวบ้าน แต่ถ้าสามารถตอบอะไรท่านได้ จะไม่ถือเอาโทษ หากตอบไม่ได้จะปรับโทษทางวินัย แล้วท่านเจ้าคุณก็เขียนหนังสือใส่ซองจดหมายอย่างหนาแล้วนำเอามาวางไว้ตรง หน้าหลวงปู่ โดยมีพระเถระเป็นสักขีพยานหลายรูป รวมทั้งมัคนายกอีกทั้งสองนายซึ่งนั่งดูการพิจารณาพิพากษาในที่นั้นอยู่ด้วย เมื่อวางซองจดหมายแล้ว เขียนว่าอย่างไรบ้าง

หลวงปู่ชูจึงนั่งหลับตาอยู่ราวอึดใจหนึ่งจึงกราบเรียนท่านเจ้าคุณรวมทั้ง สักขีพยานว่า "ในซองนั้นเขียนคำว่า สมภารชูให้หวย" พอฉีกซองออกมาดู ทั้งข้อความที่ปรากฏอยู่ เป็นไปดังที่หลวงปู่กล่าวทุกประการ หลังจากนั้นได้นิมนต์ให้กลับวัดหมดโทษหมดมลทินใดๆ เพราะท่านไม่ได้หลอกลวงใครดังกล่าวหา และต่อมาภายหลังท่านเจ้าคุณวัดอนงค์ได้มาเยี่ยมเยียนหลวงปู่ชูที่วัดเสมอ จนถูกอัธยาศัยไมตรีกันตราบจนสิ้นชีวิต

เรื่องหลวงปู่ชูให้หวยแม่นและเรื่องที่ท่านโดนท่านเจ้าคุณอนงค์เรียกไป สอบกลายเป็นข่าวเลื่องลือไปทั่ว วันหนึ่ง นักเลงจับยี่กีเดินโพยหวยชื่อ ตาแหวง บ้านอยู่หลังวัดปรก คิดจะทดลองความแม่นยำในการใบ้หวยของหลวงปู่ เพราะตนเพียงได้ยินเสียงเล่าลือจึงยังไม่เชื่อถือ ตาแหวงจึงขึ้นไปกราบหลวงปู่ที่กุฏิแล้วแจ้งความประสงค์แบบซื่อๆ ด้วยใจนักเลงว่า "หลวงปู่ครับ เขาลือกันว่าหลวงปู่ให้หวยแม่น ถ้าเป็นจริงดังคำเล่าลือ ขอได้โปรดเมตตาสงเคราะห์กระผมบ้าง กระผมอยากได้เลขจากหลวงปู่ เพียงตัวเดียวเท่านั้นแหละครับ"

หลวงปู่ได้ฟังแล้วก็ยิ้มอย่างมีเมตตา นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบไปว่า "แหวงเอ๊ย . . แกเป็นคนไม่มีโชคด้านนี้ ข้าให้ไปแกก็เอาไม่ได้ อย่าเล่นเลยดีกว่าเชื่อข้าเถอะ" ตาแหวงได้ยินก็สงสัยเพราะเท่าที่รู้มาใครขอท่านมักจะไม่ขัด จึงอ้อนวอนขอท่านอีกครั้งว่า "หลวงปู่ให้มาเถิดครับ ถึงรู้ว่าผมไม่มีโชค ถ้าให้แล้วไม่มีโชคจริงละก็ จะเลิกการพนันตลอดชีวิตเลยครับ"

หลวงปู่ท่านจึงถามย้ำอีกครั้งว่า จะเลิกเล่นตลอดชีวิตจริงอย่างที่ว่าหรือไม่ ตาแหวงก็ยืนยันแข็งแรง หลวงปู่ถึงถามว่า เลขตัวเดียวได้กี่บาท ตาแหวงก็แจกแจงบอกกติกาการเล่นให้ท่านทราบโดยละเอียด ท่านจึงบอกว่า "เลขตัวเดียวรวยช้า เอาไป 3 ตัวตรงๆ ไม่มีการสลับตำแหน่ง เงินมีเท่าไหร่ซื้อให้หมด" พูดจบท่านก็เขียนตัวเลข 3 ตัวใส่ระดาษส่งให้ตาแหวงไป

ตาแหวงเอง เมื่อได้เลขจากหลวงปู่แล้วก็นั่งฝันความเป็นเศรษฐีของตนในวันพรุ่งนี้ พอถึงวันหวยออก ก็เดินหาซื้อเลขดังกล่าว แต่วันนั้นเกิดเต็มไม่สามารถซื้อได้ทั้งที่ตนเป็นเจ้ามือวิ่งโพยเอง จึงรีบไปซื้อที่อื่นเขาก็ว่าตำรวจกวนวันนี้งดขาย ตามอยู่หลายเจ้าก็ไม่มาสารถซื้อเลขที่หลวงปู่ให้มาได้เลย จนกระทั่งถึงเวลาหวยออกตาแหวงก็ยังคงวิ่งหาซื้อเลขนี้อยู่ ถึงตอนประกาศรางวัลที่ 1 เลข 3 ตัวท้ายออกมาตรงกับที่หลวงปู่ให้ไม่ผิดเพี้ยนตาแหวงถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไป นั่งกองกับท้องร่องสวนหมากหลังวัด นึกถึงคำพูดของหลวงปู่ขึ้นมาได้ ก็วิ่งแจ้นไปยังกุฏิหลวงปู่ บอกท่านว่า "หลวงปู่ครับ ผมไม่มีโชคเหมือนที่หลวงปู่ว่า ต่อไปนี้ผมเลิกเล่นการพนันทุกชนิด หากผิดสัจจะก็ขอให้พบกับความวิบัติ และฝากตัวรับใช้หลวงปู่ตลอดไป"

หลวงปู่ได้พูดปลอบใจตาแหวงว่า "วาสนาของเรามันเป็นอย่างนั้น อย่าเสียใจไปเลย เราไม่ได้สร้างกุศลเรื่องทางนี้มา จะเปรียบกับคนอื่นเขาไม่ได้ดอก พอใจในสิ่งที่ตนมี ยินดีในสิ่งที่ตนเป็น ก็มีความสุขแล้วมิใช่หรือตาแหวง" จากนั้นมา ตาแหวงก็เป็นโยมรับใช้หลวงปู่จนชั่วชีวิตตามที่ได้ให้สัจจะไว้ทุกประการ


ในด้านวัตถุมงคลของหลวงปู่ชู มีอยู่หลายชนิด ที่วงการพระเครื่องรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ พระเครื่องเนื้อโลหะ และเนื้อดินเผา กับเหรียญรูปเหมือนปั๊ม พ.ศ. 2470 โดยเฉพาะพระเนื้อโลหะและเหรียญของท่านนั้น มีสนนราคานิยมสูงมาก สวยๆ จะเล่นหากันหลักถึงแสน ส่วนเนื้อหรือแบบอื่นๆ ก็มีราคาลดหย่อนลงไป

ยังมีวัตถุมงคลประเภทหนึ่ง เป็นพระเนื้อดินเผา มักจะเรียกกันว่า พระหลวงพ่อโต จัดเป็นพระดี ราคาเยา ที่น่าสนใจและสะสมเป็นอย่างยิ่ง ตามประวัติที่สืบทราบได้นั้น หลวงปู่ชูท่านได้สร้างพระเครื่องพิมพ์นี้ขึ้นก่อนพิมพ์ทรงและเนื้อหาอื่นๆ ทั้งหมด โดยมีเจตตนาเพื่อบรรจุกรุไว้เป็นการสืบพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงตามประเพณี นิยมที่ทำสืบกันมาแต่โบราณ โดยท่านเริ่มดำริจัดสร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2460 เรื่อยมาจนถึงราวปี พ.ศ. 2472 หลังจากที่หลวงปู่ได้หล่อพระพุทธรูปหลวงพ่อโตขึ้นในปีดังกล่าว จึงได้นำพิมพ์บรรจุไว้ในองค์พระกับพระเจดีย์ทางด้านทิศเหนือ
ต่อมาราว พ.ศ. 2500 พระอธิการเลี่ยม นนฺทิโย เจ้าอาวาสวัดนาคปรก ซึ่งเป็นพระบุตรชายของหลวงปู่ ได้นำพระเครื่องจากองค์หลวงพ่อโตออกมาจำหน่ายหาเงินสร้างศาลา และเมื่อปี พ.ศ. 2514 ก็ได้พระอีกจำนวนหนึ่งจากพระพุทธรูปองค์เล็กหน้าพระอุโบสถ และในปี พ.ศ. 2516 ก็ได้พระอีกจำนวนหนึ่งซึ่งบรรจุไว้ในพระเจดีย์

พระพิมพ์ที่ได้ทั้งสามคราวนั้น บางองค์ก็มี พ.ศ. บอกปีการสร้างปรากฏอยู่ด้านหลังเป็นรอยจาร แบบพิมพ์พระดังกล่าว หลวงปู่ท่านจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปหนึ่งในจำนวนสององค์ซึ่งเป็นต้นแบบพระ เครื่องเนื้อโลหะที่เรียกกันว่า "พุทธซ้อน" ที่สร้างในปี พ.ศ. 2468 ปัจจุบันพระพุทธรูปดังกล่าวเหลือเพียงองค์เดียว อีกองค์หนึ่งมีผู้นำไปไว้ที่จังหวัดกำแพงเพชร

ลักษณะพิมพ์ทรงพระหลวงพ่อโต

กรอบพิมพ์เป็นรูปกลีบบัวมีขอบเส้นลวดล้อมอีกชั้นหนึ่ง มีความกว้างประมาณ 2 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระประทับนั่งปางมารวิชัย สถิตย์อยู่บนอาสนะฐานชั้นเดียว ในเรื่องของขนาดองค์พระ มีเล็กใหญ่ไล่เรี่ยใกล้เคียงกัน เว้นพระคะแนนที่มีขนาดย่อมกว่าประมาณ 2 มิลลิเมตร ส่วนพระคะแนนอีกแบบหนึ่ง จะมีขนาดเท่าพระทั่วไปแต่จะมีการลงรักปิดทองไว้ที่ด้านหน้า มีความหนาประมาณ 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น

ส่วนด้านหลังส่วนใหญ่จะเรียบ ในบางองค์จะมีหารลงเหล็กจารอักขระขอมไว้เช่นคำว่า "อุ" "อุ กับ อุณาโลม" หรือ "มะอะอุ" ก็มี ลักษณะลายมือจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ

สำหรับวรรณะพระนั้น จะมีลักษณะเดียวกับพระเนื้อดินทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่จะเป็นสีหม้อใหม่เป็นพื้น เนื้อหาค่อนข้างละเอียด ไม่ค่อยปรากฏแร่กรวดทราย มีทั้งแบบที่บรรจุกรุ คราบกรุมักจะเป็นเพียงคราบฝุ่นละอองหรือขี้ดินจับอยู่เพียงบางๆ เพียงใช้พู่กันปัดออด ก็จะหลุดออกหมดไป จะมีเฉพาะบางองค์ที่คราบกรุจับแน่นมาก

พระเครื่องหลวงพ่อโตเนื้อดินที่สร้างโดยหลวงปู่ชู วัดนาคปรกนี้ เมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ยังพอหาเช่าได้ในสนนราคาเพียงหลักร้อยต้นๆ มาในระยะหลัง เริ่มมีผู้รู้จักและสะสมมากขึ้น ทำให้เริ่มหายาก ไม่ค่อยปรากฏพบเห็นตามแหล่งรวมพระเครื่องเท่าใดนักสนนราคาจึงขยับขึ้นมาเป็น หลักพันต้นๆ และที่สำคัญคือปัจจุบันปรากฏว่ามีการทำพระปลอมออกมาระบาดกันแล้ว

พระปลอมดังกล่าวนี้สังเกตได้ง่ายคือ พิมพ์ทรงจะหดเล็กและเบลอตื้นกว่าของแท้เนื้อพระจะค่อนข้างสดกว่า เนื่องจากไม่เก่าถึงอายุ และถอดพิมพ์จากของแท้ และมักจะนำพระไปทาเชลแล็กสีโอ๊ค เพื่อให้ดูเนื้อเก่าเข้ม

ดังนั้น การเช่าหาจึงควรต้องพิจารณากันอ่างละเอียดและรอบคอบ ถึงแม้จะเป็นพระที่มีสนนราคาย่อมเยา แต่ถ้าได้พระปลอมไปครอบครอง ก็ไม่สามารถจะคุ้มครองท่านได้ อีกทั้งเสียดายเงินที่เสียไป สำหรับใครที่ได้พระแท้ไปครอบครอง ย่อมจะดีกว่า พระใหม่ที่โปรโมทซะเลิศหรู ตีราคาเป็นแสน แต่ไม่ได้เรื่องได้ราว เพราะเห็นโดนหลอกกันมามากต่อมากโดยไม่รู้ตัวกันมาแล้ว

 

"พระรอดพิมพ์ใหญ่ทรงเครื่องปางมารวิชัย กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน ครับ:ผมติดค้างคุณโอ๋สะพาน,คุณae noi เรื่อง พระรอดทรงเครื่อง เพราะยังหา พระรอด องค์ดังกล่าวไม่ได้จึงขออนุญาตใช้ รูปแทน ครับ ขอบคุณคุณพรหมธรรมเจ้าของรูปภาพพระรอดทรงเครื่ององค์งามครับ"