พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

คุณอั๋น ชวนไปอีสานผมไม่ค่อยมีสายอีสานเท่าไรครับ

 

555 ชวนดูนู้ดอะตอมอีก........

เดี่ยวแวะไปดูค่ะ....แต่ตอนนี้ง่วงมากเลย

 

ชอบครับพิธีดีมากๆอาจจะพูดได้ว่าดีที่สุดแห่งยุคครับ

 

เหมือนกันเลยครับเริ่มง่วงแล้วครับ แล้วน้องอะตอมไปดูกันตรงไหนครับ

 

ของผมมีไม่เยอะเท่าไหร่ครับ

ด้านหนังดูแล้วน่าจะเหมือนเม็ดกริ่งนะครับ

 

sleeping_rb

 

หลวงปู่คำพันธ์ เมืองอิสานครับ

 

พระพุทธองค์ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อีกหลายประการ เช่น การอ่านใจ เสด็จเหาะเหินเดินอากาศต่อหน้าเพื่อทรมานอุรุเวลกัสสปะให้คลายความเห็นผิดจากทิฐิมานะที่มีว่า ตนเองนั้นได้ปฏิบัติบูชาไฟจนเป็นพระอรหันต์แล้ว (ทั้งที่ยังไม่ได้เป็น)

แต่ทำอย่างไร อุรุเวลกัสสปะก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี จวบจนวันเพ็ญเดือน 2 พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสให้อุรุเวลกัสสปะเกิดความสลดใจว่า พระพุทธองค์ทราบมาตลอดว่า ฤาษีบูชาไฟอย่างอุรุเวลกัสสปะนั้นยังไม่ใช่พระอรหันต์ แต่ทำไมจึงยังดื้อดึงปฏิบัติในทางที่ไม่ใช่การบรรลุอรหันต์และเชื่อว่าตนเองเป็นอย่างนั้นทั้งที่ไม่ได้เป็น บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่จะยอมรับว่าตนเองยังไม่ใช่พระอรหันต์ หากได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ก็จะบรรลุอรหันต์ได้ในไม่ช้า อุรุเวลกัสสปะเมื่อทราบว่าพระพุทธองค์รู้ดีมาตลอด ว่าความถือดีในตนเองว่าเป็นอรหันต์นั้นเป็นสิ่งผิด ก็เกิดความสลดใจยอมก้มกราบขอขมาแต่โดยดี และยังชวนให้ลูกศิษย์ทั้งห้าร้อยคน นำบริขารเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีไปลอยน้ำทิ้งให้หมดและกราบทูลขออุปสมบท พระองค์จึงบวชให้ด้วยวิธี "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"

ฤาษีผู้บูชาไฟ ณ ที่แห่งนี้มีอยู่ 3 พี่น้องครับ น้องคนที่สองของอุรุเวลกัสสปะก็คือ
นทีกัสสปะ เห็นบริขารของพี่ชายตนลอยมาก็พาศิษย์กว่าสามร้อยตนมา เพื่อไต่ถามถึงสาเหตุพอมาถึง พระอุรุเวลกัสสปะก็เรียกให้นั่งฟังเรื่องราวที่ตนได้ประสบมา ก็เกิดความศรัทธาลอยบริขารของตนทิ้งพร้อมกับบริวารเหมือนกันทั้งสามร้อย

เครื่องบริขารทั้งสามร้อยก็ลอยไปยัง สำนักของ คยากัสสปะ ผู้เป็นน้องเล็ก คยากัสสปะก็เดินทางมาสอบถามพอได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์แล้วก็ตัดสินใจบวชพร้อมกับลูกศิษย์เช่นกัน รวมกันแล้วฤาษีผู้บูชาไฟทั้งหมดมีรวมกัน 1 พันกับ 3 รูป (3 รูปที่เหลือคงจะเป็นหัวหน้ากัสสปะทั้งสามพี่น้อง) หลังจากนั้นพระพุทธองค์ก็แสดงธรรมที่เรียกว่า
"อทิตตปริยายสูตร" ซึ่งเป็นพระสูตรที่แสดงถึงการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 6 ที่รุ่มร้อนเหมือนมีไฟติดอยู่ทั่วตัวจาก ไฟราคะ ไฟโทสะและ ไฟโมหะ รวมไปถึงร้อนไปด้วยทุกข์ อันมีชาติกำเนิด ความแก่ชราและความตาย จนฤาษีทั้งหมดได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

 

อ๋อ..... ใน Facebook อ่ะครับ......แหะๆๆๆๆ

 

ลงใต้ไปนมัสการหลวงปู่ทวดครับ

 

แทรกข้อคิด....การจะบอกอะไรกับใครหรือการจะสั่งสอนสิ่งใดแก่ใครก็ต้องเลือกวิธีการสอน
ตัวอย่างที่ดี ในเมื่อฤาษีเหล่านั้นบูชาไฟเป็นเหตุอยู่แล้ว พระองค์จึงใช้พระสูตรที่อธิบายเรื่องกิเลส และโมหะว่า เป็นความร้อนเหมือนกับไฟ เช่นกัน
ฤาษีเหล่านั้นจึงบรรลุอรหันต์ได้ง่ายนั่นเอง

ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงตรัสรู้ ท่านได้ลองทุกวิธีการมาแล้ว วิธีไหนเป็นการบรรลุถึงอรหันต์ที่แท้จริงพระองค์ก็สอนให้ถือเอาสิ่งนั้น ในอดีตถ้าพระองค์ยังไม่ละเลิกวิธีทรมานกาย แม้จะมีจิตเป็นสมาธิเพียงใดได้ฌานกี่ชั้น ก็คงไม่อาจบรรลุอรหันต์ได้

ดังนั้นทุกอย่างต้องมีวิธีการที่ดี จึงจะประสบความสำเร็จสมดังคำอธิษฐานและปณิธานที่ได้ตั้งมั่นเอาไว้

 

มีบุญมาบอกครับ

ร่วมกันสร้างบันได 1,000 ขั้น เพื่อขึ้นสู่พระธาตุดอยนก อ.สะเมิง เชียงใหม่


ขอเรียนเชิญ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หรือผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมกับ คณะศรัทธาบริษัทคิดดี้ทอยส์ แอนด์ เกมส์ จำกัด ถวายปัจจัยเพื่อสร้างบันไดขึ้นส<WBR>ู่ พระธาตุดอยนก อ.สะเมิง เชียงใหม่

งานนี้ได้คณะศรัทธาจาก บริษัทคิดดี้ทอยส์ แอนด์ เกมส์ จำกัด เป็นเจ้าภาพในการร่วมกัน ถวายปัจจัยเพื่อสร้างบันไดขึ้นส<WBR>ู่ พระธาตุดอยนก ในวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555
เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ณ พระธาตุดอยนก อ.สะเมิง เชียงใหม่

... งานนี้ ถือว่าเป็นการทำบุญเปิดศักราชปี<WBR> 2555 และร่วมกัน ต่อบุญกันเพื่อเสริมความเป็นสิร<WBR>ิมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว ร่วมกันถวายปัจจัยและศรัทธา เพื่อสร้างบันได ขึ้นสู่องค์พระธาตุดอยนก


ยอดบริจาค ณ วันที่ 20 ม.ค. 2555 เวลา 22.33 น.

รวม 114,700 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นสี่พันเจ็ดร<WBR>้อยบาทถ้วน)

สามารถทำบันไดเพื่อขึ้นสู่พระธา<WBR>ตุดอยนกได้ทั้งหมด 327.71 ขั้น




https://www.facebook.com/Stairs.to.Doinok

 

สวัสดีเช้าวันเสาร์ครับ.....

 

สวัสดีค่ะ.......มาเล่าต่อ...

6. เมื่ออธิษฐานให้ตัวเองได้แล้วจงอธิษฐานให้คนอื่นด้วย

แรงอธิษฐานที่ยิ่งใหญ่นั้น ไม่ใช่มุ่งเน้นประโยชน์ความต้องการของตนเองเพียงอย่างเดียว เมื่อได้ในสิ่งที่ตนเองปราถนาแล้วควรจะแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นไปด้วย เพื่อให้คนที่เรารักและปราถนาดีมีความสุขไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าเป็น
"พรหมวิหารธรรม"

การอธิษฐานในข้อนี้เห็นว่ามีความสำคัญทีมากที่สุด เพราะความสุขที่แท้จริงนั้นคือ คนรอบข้างมีความสุขด้วยตัวเราเองถึงจะมีความสุข

การอธิษฐานเพื่อคนอื่นนั้น ยกตัวอย่างสมัยพุทธกาล

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ พระอานนท์
พระอานนท์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องเป็นช่วงหลังจากพุทธปรินิพพานไปแล้ว ภายหลังการถวายพระเพลิงพุทธสรีระพระมหากัสสปะเถระก็ได้เรียกประชุมสงฆ์ เพื่อหารือเรื่องการสังคายนาพระธรรมวินัย ในที่ประชุมสงฆ์นั้นตกลงกันว่าจะทำการเลือกพระมหาเถระ 3 รูปเป็นประธาน คือ พระอุบาลี พระอานนท์ และพระมหากัสสปะเป็นประธานใหญ่

เหตุที่พระอานนท์ได้รับเลือกนั้นก็มีเสียงคัดค้านอยู่บ้างและที่สนับสนุนก็มีเพราะว่า พระอานนท์เป็นผู้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากกว่าใคร มีความจำดีและรู้เรื่องคำสอนทั้งหมด แต่เสียงที่คัดค้านก็เพราะว่าท่านยังไม่บรรลุอรหันต์

แม้ท่านจะมีภารกิจมากเพราะต้องติดต่อกับบุคคลหลายฝ่ายทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมมากเพียงพอ แต่ท่านก็ไม่ได้ละความเพียรพยายามปฏิบัติธรรมอย่างหนักโดยปลีกตัวไปยังใต้ต้นไทร "ด้วยจิตปราถนาจะบรรลุอรหันต์ให้ได้" เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งสงสัยในตัวท่านและจะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องความเหมาะสมในหมู่คณะสงฆ์ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนรวมอีก ท่านได้พยายามปฏิบัติธรรมเพื่อการบรรลุเป็นพระอรหันต์อยู่หลายแห่ง แต่ทว่าแม้จะเปลี่ยนไปอยู่ในถ้ำเล็กๆ ก็ยังไม่อาจบรรลุได้ แต่ก็ยังตั้งจิตอธิษฐานเพื่อหวังให้บรรลุเป็นอรหันต์อยู่เป็นประจำ

และในวันสุดท้าย หนึ่งวันก่อนการสังคยานาพระไตรปิฏกจะเริ่มต้น พระอานนท์เกิดความอ่อนล้ามาก จึงได้เดินทางกลับไปยังกุฎิเพื่อพักผ่อน ณ เชิงเขาเวภาระ ก่อนจะขึ้นนอนที่กุฏิ ท่านก็ล้างเท้าและกำหนดสติวิปัสสนาอยู่ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก จนเมื่อพระอานนท์กำลังจะเอนกายลงบนเตียง ศีรษะกำลังจะถึงหมอนและเท้าลอยยกจากพื้น

ก็เกิดปาฎิหาริย์ขึ้น จิตที่ตั้งมั่นได้เป็นฌาน ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ท่านก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ในอิริยาบถนั้นเอง นับว่าเป็นอริยาบถที่แปลกว่าพระเถระรูปอื่นๆ โดยสิ้นเชิง

 

เมื่อคืนกระทู้นี้กินยาอะไรกันนี่?? นอนไม่หลับกันตั้งหลายคน

 

นั่นสิครับบบบบ. ^^

 

สงสัยทาน

ตอนนี้พิมพ์ไป ค่ะ...

 

ก่อนการสังคายนาจะเริ่มขึ้น พระมหากัสสปะได้ซักถามเรื่องความบกพร่องหรือกริยาทั้งหลาย ที่ไม่เหมาะสมของพระอานนท์หลายประการ ซึ่งพระอานนท์ก็สามารถตอบ ชี้แจงแถลงไขได้อย่างชัดเจนทุกอย่างและได้กล่าวว่า หากคณะสงฆ์ทั้งหลายเห็นว่ามีความผิดก็จะขอรับเอาไว้ คำตอบของพระอานนท์นั้น ทำให้พระมหากัสสปะและคณะสงฆ์ทุกรูปพอใจมาก นั่นแสดงออกโดยชัดเจนว่า ท่านก็ได้บรรลุความเป็นอริยบุคคลขั้นสูงสุดแล้ว

เมื่อการสังคายนาเริ่มขึ้น พระอานนท์ก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการตีความพระธรรมให้กระจ่าง การที่พระอานนท์เป็นผู้มีความเป็นเลิศในด้านความจำดี ทำให้พระธรรมวินัยถูกบันทึกไว้ได้อย่างครบถ้วนการตั้งจิตอธิษฐานเป็นพระอรหันต์ในครั้งนี้ จึงเป็นการยังประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยแท้จริง และการอธิษฐานครั้งสุดท้ายของพระอานนท์ ก็เกิดขึ้นในตอนที่ท่านจะละสังขารนั่นเอง ที่สำคัญเป็นการตั้งจิตอธิษฐานเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่เสียด้วย พระอานนท์มีชีวิตอยู่ล่วงเลยมาได้จนอายุ 120 ปี ก่อนจะละสังขาร พระญาติของทั้งสองฝั่งแม่น้ำไรหิณี ก็คือเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะ ต่างฝ่ายต่างก็พยายามต้องการจะให้พระอานนท์ได้ไปนิพพานทางฝั่งบ้านเมืองของตนเอง จนไม่มีฝ่ายฝั่งไหนยินยอมให้แก่กัน

พระอานนท์พิจารณาเป็นครั้งสุดท้ายว่า หากปล่อยให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ต่อไป จะก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงและก่อการทะเลาะเบาะแว้งกันได้ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานลอยขึ้นไปในอากาศให้ร่างเผาใหม่กลางอากาศแล้วแตกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งตกลงในเมืองกบิลพัสดุ์ อีกส่วนก็ตกลงยังฝั่งเมืองเทวทหะ เพื่อให้พระญาติทั้งสองฝั่งได้นำอัฐิไปบรรจุสถูปสักการบูชากันได้ทั้งสองฝ่าย

อธิษฐานเพื่อหวังผลประโยชน์สุขของผู้อื่นด้วย จะยังก่อให้เกิดความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแท้จริงด้วยประการนี้

เคล็ดลับสำคัญคือเมื่อเป็นผู้ให้ย่อมได้รับสิ่งที่ดีตอบแทนเสมอ

 

การอธิษฐาน
ในรูปแบบต่างๆ...

1.การอธิษฐานเพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
การตั้งจิตอธิษฐานแบบนี้ มักพบเห็นกันมากในสังคมไทย คือ แต่ละคนก็จะมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกันไป การอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเป็น "พลังเสริม" หรือไม่ก็ไปขอความช่วยเหลือแล้ว หวังว่าการอธิษฐานจากสิ่งศักดิ์สิทธิเหล่านั้นไปเลยตรงๆ โดยอาศัยพลังบุญของตนเองเป็นที่ตั้ง
ตัวอย่าง เช่น การบูชาเทวดา ผีบ้านผีเรือน ศาลเจ้า หรือแม้แต่พระอริยสงฆ์เจ้าที่ดับขันธ์ไปแล้ว โดยมีความเชื่อทางพิธีกรรมโบราณนำมาผสานกับความเชื่อของพระพุทธศาสนา แล้วตั้งคำอธิษฐานไว้เป็นการขออำนาจจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาช่วย
"ดลจิตใจ" ให้เกิดการกระทำที่ดี และอวยพรให้ชีวิตประสบความสุขและความสำเร็จ

หลักการในการอธิษฐานก็มีการอธิษฐานก็ต่อเมื่อได้ประกอบบุญสร้างบุญแล้ว ต้องทำการ
"เชื่อมบุญ" อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ให้ท่านเหล่านั้นได้มีพลังเกื้อหนุนที่จะช่วยให้ผู้ร้องขอได้สมความปราถนาต่อไป แต่จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่บุญบารมีที่ได้สั่งสมกันมารวมไปถึงการกระทำในปัจจุบันด้วย ว่าได้ทำกรรมดีเอาไว้มากน้อยแค่ไหน

ที่ต้องกล่าวว่าเราจะต้องไปขอพรหรือขอความช่วยเหลือนั้นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายท่านอยู่ในภพที่สูงกว่า จึงเป็นการสมควรที่ต้องไปสักการบูชาทำความเคารพ ขอโมทนาคุณความดีของตัวท่านให้ช่วยคุ้มครอง ดลใจให้เราไม่เดินทางผิดและมุ่งหน้าทำความดีต่อไปที่สำคัญตัวผู้ขอก็ต้องมีศรัทธาที่แรงกล้ามากพอ จึงจะมีผลเชื่อมต่อถึงการกระทำที่ได้ให้สัจจะวาจาผ่านทางการอธิษฐานไป

 

ตัวอย่าง การอธิษฐานที่ปรากฎโดยการอ้างถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีดังนี้


สวด นะโม 3 จบ แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ดังนี้

ข้าพเจ้าชื่อ........................................นามสกุล...............อายุ.........ปี

ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อีกทั้ง เทวดาที่คุ้มครองพระนามว่า...........................
และท่านท้าวพระยายมราช จงได้โปรดสงเคราะห์ระงับกรรมที่เป็นอกุศล ที่มาตัดรอนชีวิต อายุ การเงิน การงาน หรือ ความสุขในครอบครัวไว้ก่อน เพื่อที่ให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำงานที่ดี เพื่อสำเร็จประโยชน์ในทุกสิ่ง เพื่อที่จะได้บำเพ็ญบารมี ทานศีล ภาวนา ในการอันสมควร และขอให้บริวารอยู่ในปกครอง อุปสรรคในกิจการจงอย่ามีแก่ข้าพเจ้า


การอธิฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนี้นับว่าเป็นตัวอย่างการอธิษฐานที่ดีแบบหนึ่ง เพราะไม่เป็นการก่อกิเลสหรือก่อบาปกรรมให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จุดประสงค์เพื่อขอพรและโมทนาบุญ ความดีให้แก่กันและกันโดยมุ่งเน้นไปสู่การปฏิบัติตนให้ดีสิ่งที่ปราถนาสมความตั้งใจเอาไว้ด้วย