ผลที่คาดไม่ถึงของการทำนายภัยพิบัติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Leeporter, 5 มกราคม 2012.

  1. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ดูแผนที่ซะลักยม แล้วบอกว่าหมุดแดงนั่นน้ำจะถึงกรุงเทพฯได้หรือไม่

    (ขอดูปัญญาหน่อยเถอะ พวกอวดดี อวดเก่ง หัวเราะคนอื่นเค้า)

    เขื่อนภูมิพล.jpg
     
  2. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ข้อมูลไม่มีใช่มั้ยลักยม ผมจะหามาให้นะ เพียงแค่คุณใช้ปัญญาพิจารณาก็พอ


    เขื่อนภูมิพลสร้างปิดกั้นลำน้ำปิง ที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
    มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร
    อ่างเก็บน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร

    พื้นที่ทั้งหมดจังหวัดตาก 16,406.650 ตร.กม.
    พื้นที่ทั้งหมดจังหวัดนครสวรรค์ 9,597.677 ตร.กม.
    พื้นที่ทั้งหมดจังหวัดอยุธยา 2,556.640 ตร.กม.
    พื้นที่ทั้งหมดจังหวัดปทุมธานี 1,525.856 ตร.กม.
    พื้นที่ทั้งหมดจังหวัดนนทบุรี 622.303 ตร.กม.


    ทีนี้ก็ลองใช้ปัญญาของคุณที่อวดดีหัวเราะคนอื่นเค้าวิเคราะห์ดูว่า
    ที่หัวเราะนั้นมันทุเรศตัวเองหรือไม่
     
  3. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    เวอได้อีก นั้นไงเป็นงั้นไป เอ้ทำไมคุณไม่ตอบในสิ่งที่ผมถามไปน้า เอ้เค้าเรียกอะไรน้า
    ข้อมูลเขามี แต่ตัวคุณเองยังแถเรื่องโน้นที เรื่องนี้ที ข้อมูลนะเขารออยู่นานแล้ว แต่ไอที่ถามเมื่อไหร่จะตอบนะ เออ เพิ่งจะเจอคนห้ามคนอื่นเขาหัวเราะได้ด้วย เออมีด้วย ชื่อเสื่อมเสียนี่ ยังไม่กระดิกเลย เพราะที่พูดมาตั้งแต่ต้นมันผิดส่วนไหนมิทราบ อายหน้าเอ้ผมว่าคงไม่ใช่ผมแล้วละน่าจะเป็นใครสักคน และคงจะน่าจะอายนานแล้วด้วย แต่ดันยังไม่รู้ตัวนี่สิ ชื่อนี้ยังไม่เคยมีสักครั้งที่ตอบแล้วหน้าแหกสักทีเขารู้กันดี ลองถามใครในนี้ดูสิเอาคนที่อยู่นานๆๆ ละว่าสุดท้ายยมยักษ์ไม่เคยตอบแล้วหนี ตอบแล้วแถเออลองถามสิ
     
  4. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    เหรอแล้วไงต่อ ทำไมไม่หาข้อมูลก่อนหน้านี้มาตอบก่อนละแล้วค่อยมาคุยเรื่องนี้ ไปสิไปหามา ถ้าไม่มีแสดงว่าเป็นคน มุสาวาทา กล่าวหาคนอื่นให้เสียหาย คนแบบนี้สังคมเขาไม่ยินดีไม่ยอมรับ
     
  5. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ---------
    ถามอะไรของคุณ ถ้าไร้สาระผมบอกไปแล้วว่าผมไม่สนใจหลอก

    คนไร้สาระและเหตุผลอย่างคุณมีคำถามที่เป็นสาระในเรื่องที่จะคุยได้ด้วยหรือครับ

    ไปกินน้ำเขียวต่อเถอะ ลักยม อย่ามาทำเป็นดูเหมือนจะฉลาดแถวนี้เลย
     
  6. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ----------

    ถึงกับไปไม่ถูกเลยหรือลักยม อ้างไปหาข้อมูลก่อนหน้าอะไรของคุณ

    นอกประเด็นใหญ่แล้ว เมาน้ำเขียวป่าว ลักยม
     
  7. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ผมเห็นคุณเหมือนกับใครสักคนที่คุณโต้เค้าไว้ นั่นคือคุณอุรุเวลา
    คนนี้เช่นกัน บอกจิตเกิดดับตลอดเวลา พอได้คุยกันต่อ ไล่ให้ผมไปห้องอื่นซะงั้น


    คุณอีกคน อยู่ๆ ก็มาคุยโดยไม่มีข้อมูล สุดท้ายก็จะเป็น เช่นคุณอุรุเวลา
     
  8. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ถ้าจะคุยกับผม ขอร้องอย่ามั่ว และข้อมูลต้องแน่นพอ ถึงจะเอาผมอยู่
     
  9. songkyunkwan

    songkyunkwan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +7

    ถ้า "อยากเอาอยู่" แต่ข้อมูลไม่แน่นพอ ทำไงดีละน้องชาย
     
  10. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    โว้ขนาดนั้นเลย มีสาระทันทีเลยนะพอตอบ ให้คนอื่นฟังไม่ได้ นะ
    ทีกล่าวหาตั้งฉายาคนอื่น อย่างนั้นอย่างนี้ มีสาระเน้อ ก็หลายคำถามสุดท้ายก็ตอบไม่ได้ตามเคยคนประเภทนี้พอหาไม่ได้ ก็แถไปเลย สุดท้ายก็เกลงเหวอ
     
  11. juppy

    juppy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เอาน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วกันดีกว่า บางทีข้อมูลเยอะๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป
    เมื่อครั้งก่อนก็อย่างที่รู้ว่าน้ำที่หลุดมามันเกิดจากการกักน้ำในเขื่อน คุณคิดว่าปริมาณน้ำที่เขาปล่อยออกมา คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของน้ำในเขื่อน สมมติว่า 20% ก็ได้ น้ำจำนวนแค่นั้น ทำให้กรุงเทพฝั่งตะวันตกจมอยู่ใต้น้ำ ระดับประมาณ 2-3 เมตร แล้วคุณคิดว่าถ้าเขื่อนเกิดแตกจริงๆ น้ำที่หลุดมาน่าจะเป็นยังไง อยากรู้ลอง คูณสักสองถึงสามเท่า เดาๆ ก็ประมาณตึก 3 ชั้นนั่นแหละ รอบคอบดีกว่าประมาณ คนที่ตายส่วนใหญ่ก็เพราะประมาท คิดว่าตัวข้าเก่ง คำนวณถูก เหมือนที่เขาบอกว่า เอาอยู่ๆ แล้วจริงๆ ละ เอาอยู่กันไหม
     
  12. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ----------

    กำลังรออยู่เลย

    คนที่มันหัวเราเยาะคนอื่นโดยไม่ดูตัวเอง มันก็ทุเรศอยู่แล้ว
    แล้วอยากจะคุยกับเค้าโดยไม่มีข้อมูลใดๆ พอเค้าไร้สารตอบโต้ไปบ้าง
    ทำเป็นหัวเราะไม่ออกเลย ลักยมเอ๋ย ข้อมูลไม่มี ยังจะเสนอหน้ามาอีก
     
  13. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    -----------

    น้ำท่วมปีที่ผ่านมาคาดการณ์ยากมากครับ เพราะมวลน้ำมันเยอะ
    และกระจายไปหลายจังหวัด ไม่เหมือนน้ำที่อยู่ในเขื่อนปริมาณน้ำก็แน่นอน
    สามารถคาดการณ์ได้กับพื้นที่รองรับน้ำ
     
  14. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ----------

    คห.นี้ผมหยิกแกมหยอกคุณลักยม นะครับ ไม่ได้ที่จะอวดเก่งกับใครทั้งนั้น
    (ขอชี้แจงอาจมีคนหมั่นไส้)
     
  15. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    เอาเป็นแค่หอมปากหอมคอนะครับคุณยมยักษ์

    คห.ที่ผ่านมาอาจมีคำไหนที่ล่วงเกินคุณไปบ้าง ผมก็ขอให้คุณอภัยให้ด้วย

    เช่นกันที่คุณหัวเราะเยาะผมไว้ ผมก็ได้ระบายไปบ้างแล้วและก็ขออภัยให้คุณ

    สำหรับที่ผมเข้ามาคุยในกระทู้นี้ เพราะจขกท. ต้องการแชร์ความเห็น
    ว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกับคำทำนายปลาบู่ อย่างไร

    นั่นจึงเป็นจุดที่ผมตั้งข้อสังเกต เรื่องน้ำในเขื่อนภูมิพล
    ในคำทำนายว่าเขื่อนจะแตกและจะทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
    แต่ที่น่าแปลกคือน้ำในเขื่อนนั้นมากพอถึงกับมาท่วมกรุงเทพฯเชียวหรือ

    จึงต้องมีการหาข้อมูลมาตรวจสอบดูว่า แท้จริงแล้วน้ำในเขื่อนมีปริมาณเท่าไหร่
    แล้วพื้นที่รับน้ำเท่าไหร่ พอได้ภาพจากดาวเทียม ก็น่าจะพอคาดการณ์ได้นะครับ
    ซึ่งนั้นต้องแยกให้ออกจากน้ำท่วมปีก่อน เพราะว่ามวลน้ำในปีก่อนนั้นมากจริงๆ
    และยังขยายวงกว้างไปหลายจังหวัด
     
  16. juppy

    juppy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    น้ำโดยปกติจะต้องวิ่งลงตามคลอง ผ่านประตูน้ำ ก่อนที่จะไหลล้นเข้าทุ่ง

    ฉนั้น มีความเป็นไปได้สูง ที่น้ำจำนวนหนึ่งจะไหลมาถึงกรุงเทพ และ อย่างที่คุณๆทราบ ในเวลานี้คงไม่มีจังหวัดไหนที่จะยอมกักน้ำเพื่อให้จังหวัดของตนเสียหาย ทุกคน ทุกจังหวัด ย่อมต้องเร่งระบายน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย

    แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญของกรุงเทพ คือ ผังเมือง และ อำนาจเบ็ดเสร็จในการจัดการน้ำยังเคลียร์กันไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงคิดเห็นตรงกันว่าต้องทำ Flood way

    คุณคิดเห็นกันยังไง หากทุกคนปล่อยน้ำมาตามคลอง ไม่มีจังหวัดใดยอมรับน้ำกักไว้ในบริเวณบ้านของตน

    ความโกลาหลย่อยเกิดที่กรุงเทพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ น้ำอาจจะขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะด้วยเพราะความเป็นแก่ตัวของคน... สุดท้าย กรุงเทพคงไม่รอด คุณอาจจะไม่ต้องรอให้เขื่อนแตก เอาแค่ปีนี้ ถ้าน้ำเกิดเยอะ คุณคิดว่า น้ำจะท่วมอีกไหม?
     
  17. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    คุณ jubbpy

    ดูแผนที่เป็นมั้ยครับ คุณควรดูแผนที่ประกอบไปด้วยนะครับ
    ว่ามวลน้ำภายในเขื่อน ต่อให้จังหวัดไหนผักดันน้ำให้ลงต่ำยังไง
    น้ำเพียงแค่ในเขื่อนก็ไม่สามารถมาถึงกรุงเทพฯได้ครับ
     
  18. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    ที่ผมคุยนี้เป็นปริมาณน้ำเพียงแค่ในเขื่อน ไม่ได้กล่าวถึงน้ำที่มีท่วมอยู่
    หรือกำลังจะท่วมนะครับ ครั้งหน้าน้ำท่วมมันกระจายวงกว้างมวลน้ำมันก็มาก
    ถ้าไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ก็คงจะแก้ปัญหายากครับ
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ภัยพิบัติยังไม่จบ รุนแรงขึ้นในทุกๆปี ไทยในพื้นที่เสี่ยงต้องรับมือ
    Mthainews:
    หลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ มากครั้ง และมีความถี่ในการเกิดมากขึ้น ทั้งแผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม และอุทกภัย ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของธรรมชาติ ที่มนุษย์ไม่สามารถล่วงรู้เลยว่า เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และจะกระทบถึงตนเองหรือไม่
    การทราบข้อมูลเพื่อป้องกันไว้ล่วงหน้า ก็นับว่าเป็นเรื่องไม่เสียหายนัก ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญ และหาวิธีป้องกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะระบบการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยลดความสูญเสียได้ไม่น้อยทีเดียว ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
    [​IMG]
    เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา เหตุการณ์เลวร้ายไม่เพียงเกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ประเทศในพื้นที่เอเชีย แปซิฟิก เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน ฟิลิปปินส์ ต้องเผชิญกับฝันร้ายที่ยากจะลืมเลือนเช่นเดียวกัน ผู้คนนับล้านไร้ที่อยู่อาศัย แม้ว่าในแถบเอเชียจะไม่ใช่พื้นที่ที่ไม่เคยประสบเหตุเช่นนี้ แต่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า หายนะที่จะเกิดขึ้นในปีถัดไปยังคงอยู่
    ด้วยปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิกากาศ ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการประชุมของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ Asia Development Bank (ADB)ในหัวข้อภาวะโลกร้อน ที่จัดขึ้นที่ฟิลิปปินส์ ผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งกล่าวว่า “ภาวะเลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง “
    ในการประชุมดังกล่าว ระบุว่า หากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงยังไม่ส่งผลในปัจจุบัน แต่ในปีถัดๆไป โลกเรา จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น
    “ภาวะโลกร้อน ยังมีแนวโน้มที่จะทำให้ศักยภาพในการผลิตข้าวลดลงในอีกหลายสิบปี ในประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย พื้นที่ป่าส่วนใหญ่จะกลายเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าเขตร้อ หรือทุ่งหญ้าสะวันนา ที่เต็มไปด้วยไม้พุ่ม แน่นอนว่าการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลดลง ”
    เป็นการเตือนว่า หากพวกเรายิ่งอยู่เฉย ไม่ตระหนักถึงผลกระทบ มีการทำธุรกิจ อุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษ ก็จะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้นแก่โลก
    [​IMG]
    นายเดนนิส เดอ ลา ทอร์เร ตัวแทนเข้าร่วมประชุมจากฟิลิปปินส์ กล่าวถึงตัวอย่างจากผลกระทบของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นว่า ประเทศฟิลิปปินส์ จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 0.9-1 องศาเซลเซียสก่อที่จะถึงปี 2020 และจะเพิ่มขึ้น 1.8-2.2 องศาเซลเซียสก่อนปี 2050 ซึ่งที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เผชิญกับพายุใต้ฝุ่น และพายุลูกอื่นๆที่มีต้นกำเนิดจากมหาสมุทรแปซิฟิก ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นเกิดปัญหาประเทศยากจน ผู้คนหลายล้านคนมีการอยู่อาศัยที่ยากลำบาก อีกทั้งประเทศที่เป็นเกาะ ดังนั้น ภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ยิ่งส่งผลโดยตรงไม่มากก็น้อย
    จากการศึกษาของ ADB ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย แต่ประชาชนในแถบนี้เสี่ยงเป็นอย่างยิ่งในการประสบกับภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ และภาวะเสี่ยงทางเศรษฐกิจก็เป็นตัวแปรตามหากมันเกิดขึ้น
    [​IMG]
    ที่ประชุมมีการเปิดเผยข้อมูลด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 0.1-0.3 องศาเซลเซียสในแต่ละทศวรรษ ตั้งแต่ปี 1951-2000 มีปริมาณฝนลดลงเรื่อยๆ และตั้งแต่ปี 1960-2000 ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น 1-3 มิลลิเมตรต่อปี นั่นเกิดจากคลื่นความร้อน ที่เพิ่มระดับสูงขึ้น
    มีการเตือนกันว่า ในพื้นที่นี้ มีภาวะความเสี่ยงจากภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเฉลี่ยมากกว่าพื้นที่อื่นทั่วโลก ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ หากไม่มีการเริ่มต้น จัดการหาทางแก้ไข และป้องกัน ประชาชนจะได้รับผลกระทบมากขึ้น 65 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์มีระบบการจัดการในภัยพิบัตทางธรรมชาติ แต่ประเทศไทยเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ในที่ประชุมเผย
    ฉะนั้น ประเทศไทยจะต้องตระหนัก กลับมาคิดทบทวนอย่างจริงจังว่า นอกจากจะรณรงค์ ช่วยลดโลกร้อนแล้ว การเตรียมตัวป้องกันถัยพิบัติ อาทิ การเตือนภัย การรับมือ จะเป็นระบบที่ทำอย่างจริงจัง
    เพราะหายนะ ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่มีข้อแม้เรื่องพรมแดน ไม่ว่ามนุษย์จะอาศัยอยู่แห่งใด มันมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้..กับทุกคน
    Mthai News
    เขียนโดย nattawat_86</SPAN> โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title="2011-12-30 07:33:41">วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2554</ABBR>
    เครดิต คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->apichart ww2<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5567564", true); </SCRIPT>
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีเทนอีกสาเหตุของปัญหาโลกร้อน

    posted on 01 Nov 2008 17:22 by thinkgreen in GlobalWarming

    [​IMG]
    ทุกวันนี้โลกของเรามีสภาพเหมือนมีกระจกลอยอยู่เต็มชั้นบรยากาศ ถ้าพูดต้นเหตุของแก้วที่มาครอบให้โลกร้อนแล้วนั้น ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงกันแต่เรื่องของคาร์บอนไดออกไซด์ แต่จริงๆแล้วยังมีก๊าซอีกชนิดที่เป็นก๊าซเรือนกระจกแบบเดียวกับคาร์บอนไดออกไซด์ แต่มีผลรุนแรงกว่าเสียอีก ก๊าซที่ว่านี้คือ มีเทน
    มีเทนมาจากที่ไหน?
    มีเทนนั้นถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ทั้งจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของมนุษย์และเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
    มีเทนที่เกิดจากมนุษย์นั้นมีสัดส่วนของการปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ถึง 60% เลยทีเดียว โดยมีตัวอย่างดังนี้
    1. การใช้พลังงานฟอสซิล เช่นในกระบวนการแยกน้ำมัน หรือจากถ่านหิน
    2. การเลี้ยงสัตว์ เมื่อมูลสัตว์หมักหมมกันจะทำให้เกิดก๊าซมีเทนขึ้น
    3. การปลูกข้าว เนื่องจากการปลูกข้าวจำเป็นต้องมีการวิดน้ำเข้านา เมื่อเกิดน้ำขังทำให้เกิดการเน่าเสียของสิ่งปฏิกูลต่างๆทำให้เกิดก๊าซมีเทนขึ้น
    4. การกำจัดขยะและของเสีย ลองจินตนาการถึงกองขยะที่ทับถมกันจำนวนมากในบ่อขยะ หรือในบ่อน้ำเสียต่างๆ เมื่อเน่าได้ที่จะมีมีเทนออกมามากแค่ไหน
    ส่วนมีเทนที่ถูกปลดปล่อยตามธรรมชาตินั้นมีมาจากหลายแห่ง เช่น จากทะเล ,พื่นที่รกร้าง รวมถึงไฟไหม้ป่า และล่าสุดที่ค้นพบคือใต้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือมีมีเทนถูกซ่อนอยู่จำนวนมหาศาล หากชั้นน้ำแข็งเหล่านั้นละลายและเปิดออก มีเทนเหล่านั้นจะถูกปล่อยสู่บรรยากาศในทันที ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มจะมีบางส่วนเล็ดรอดออกมาบ้างแล้ว

    ดังนั้นนอกจากเราจะต้องช่วยกันลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซต์แล้ว เรายังจะต้องช่วยกันหยุดการปลดปล่อยมีเทนอีกด้วย และที่เลวร้ายสำหรับเจ้ามีเทนก็คือ มันมีผลที่ร้ายแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 23 เท่าเลยทีเดียว แค่คิดก็สยองแล้วว่าถ้ามีเทนที่ขั้วโลกออกมาหมดจะเกิดอะไรขึ้น ....
    มีเทนอีกสาเหตุของปัญหาโลกร้อน | Think Green : ก่อนสีเขียวจะหมดโลก
     

แชร์หน้านี้

Loading...