ท่านพุทธทาสเป็นพระอริยะเจ้ารึเปล่าครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 29 ธันวาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    จากหนังสือกายสิทธิ์ยุคอภิญญา
    มีบทที่กล่าวถึงท่านพุทธทาสโดยตรงขอยกมาบางตอน

    "ผู้ที่ปฏิบัติสายอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระและสายมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิง
    ดำ และสายวัดปากน้ำเกิดความแคลงใจเป็นอย่างมาก มีพระในสายต่างๆ ออก
    มารับรอง เช่น พระอาจารย์ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ. อุบลราชธานี ท่าน
    รับรองคำเทศน์ของพุทธทาส หลวงพ่อเกษม เขมโก จังหวัดลำปาง พูดถึงท่าน
    พุทธทาสให้ลูกศิษย์ฟังว่าท่านเป็นพระ อานคามี เป็นต้น"

    "คณะที่ไปกราบรับฟังและพร้อมกับขอขมาโทษในองค์ท่านเพราะทุกคนไม่คิดจะ
    ได้ฟังประโยคเหล่านี้ ทำให้หมดสงสัย ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ดู่เคยพูดไว้ เมื่อมีลูก
    ศิษย์ของท่านกล่าวเชิงวิจารณ์พุทธทาสโดยท่านเตือนว่า "อย่าไปประมาท ท่าน
    ก็มีดีของท่าน เราไม่รู้จริง เดี๋ยวเป็นบาปนะแก""
     
  2. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า คำสอนของท่านถูกต้องนะครับ แต่ทำไมมีคนปรามาสท่านเยอะมาก และผมก็ไม่เคยรู้เรื่องราวทั้งหลายที่เคยเกิดขึ้น เคยแต่อ่านหนังสือของท่านเท่านั้น
     
  3. LoveViolet

    LoveViolet สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +10
    ดิฉันศรัทธาและมั่นใจในท่านพุทธทาสมาก
    ถ้าดิฉันไม่ได้อ่านหนังสือ"คู่มือมนุษย์"ของท่าน ก็ไม่มีทางที่จะกลับตัวกลับใจได้
     
  4. the oracle

    the oracle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +104
    ผมเคยไปกราบหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านได้พูดว่าเคยเตือนข้าราชการท่านนึง ไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ ว่าให้รีบไปขอขมาท่านพุทธทาส แต่สุดท้ายก้อไม่ได้ไป ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน หลวงพ่อเตือนเค้าแล้ว อันนี้เป็นคำพูดหลวงพ่อที่ได้พูดไว้ที่วัดสาขาของท่านครับ
    อีกท่านหนึ่ง ขอขมาหลวงปู่ด้วยนะครับ ท่านคือหลวงปู่หลอด ปโมฑิโต ท่านก้อออกมายืนยันคุณธรรมของท่านพุทธทาสด้วยครับว่าท่านได้ขั้นไหนแต่ขอไม่ขยายต่อนะครับ
    แล้วท่านก้อฟังเทศน์ท่านพุทธทาสบ่อยมากด้วยครับ บางวันผมไปกราบท่านก้อกำลังฟังเทศนาของท่านพุทธทาสม้วนเดิมอยู่ครับ คือม้วนนั้นผมนำไปถวายท่านเองครับ
     
  5. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    คัดลอกมาให้อ่านดีกว่าครับจะได้กระจ่าง

    เมื่อเอ่ยถึงท่านพุทธทาส แห่งสวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี หลายๆ คนต้องรู้จัก เพราะท่านเป็นพระที่สอนการปฏิบัติธรรมแบบทางตรงไม่อ้อมค้อม จนบางครั้งมีผู้สงสัยว่า ไม่เห็นท่านเอ่ยถึงนรก สวรรค์ ชาตินี้ ชาติหน้า

    ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ของท่านหลายๆ คน เลยตัดสินว่าที่ท่านไม่พูดนั้นแสดงว่า ไม่มีจริงเพราะท่านสอนแบบประโยชน์ในปัจจุบันจริงๆโดยเขาอ้างว่าตามพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าสอนพุทธธรรมกำมือเดียวแต่ใบไม้ที่นอกกำมือมีอีกมาก จะปฏิเสธไปเลยทีเดียวไม่ได้ตามการวิเคราะห์ของผู้เขียนผู้ที่เข้ามาสนใจในการปฏิบัติธรรม มีหลายจำพวก แยกได้คือ

    ๑.มาด้วยศรัทธา
    ๒.มาด้วยความทุกข์
    ๓.มาเพื่อสร้างปัญญา

    พวกที่ศรัทธานั้นมีหลายประเภทบางคนมาด้วยสนใจในอิทธิฤทธิ์ พวกพระเครื่อง ฯลฯโดยเริ่มจากวัตถุมงคลเป็นตัวชักนำพวกที่มาด้วยความทุกข์ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครเลยเข้ามาหาศาสนาพวกที่ศรัทธาแท้ๆ นั้น เสมือนพวกเรียนอุดมศึกษา ระดับมหาวิทยาลัยท่านพุทธทาส ท่านจะสอนเน้นนักศึกษาระดับนี้เป็นการสอนแบบเซน (สูญญตวาทะ)

    บางครั้งการสอนเรื่องจิตว่างของท่านซึ่งใช้คำว่า "จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง"เป็นการทำงานเพื่องานทำบุญโดยไม่หวังอะไรซึ่งระดับจิตต้องพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งเคยมีวิวาทะระหว่างท่านคึกฤทธิ์กับท่านพุทธทาสในเรื่องนี้มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาเป็นการพูดกันคนละมุม

    เมื่อมีเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงเกิดข้อสงสัยในพวกปฏิบัติธรรมว่าท่านพุทธทาส อาจเป็นพระประเภทสุขวิปัสสโกทำให้ไม่รู้เรื่องสวรรค์ นรกแต่ในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าได้แบบปัญญาล้วนๆ ก็ย่อมไม่ปฏิเสธในเรื่องเหล่านี้

    ผู้ที่ปฏิบัติสายอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระและสายมโนมยิทธิของหลวงพ่อฤาษีลิงดำและสายวัดปากน้ำ เกิดความคลางแคลงใจอย่างมากแต่ก็มีพระในสายนี้ออกมารับรองเช่น พระอาจารย์ชา สุภัทโท จ.อุบลราชธานีท่านจะรับรองการเทศน์ของท่านพุทธทาสเป็นอย่างมากหลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งอยู่จังหวัดลำปางพูดถึงท่านพุทธทาสให้ลูกศิษย์ฟังว่าท่านเป็นพระอนาคามี เป็นต้น
    เมื่อมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ดู่ได้เดินทางไปนมัสการท่านพุทธทาสโดยนำสังฆทานพร้อมพระพุทธรูปที่อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่เพื่อนำไปถวาย พร้อมคำถามที่จะกราบเรียนถึงเรื่องลึกลับต่างๆ ว่าจะมีจริงหรือเป็นตามคำเล่าลือหรือไม่ว่าท่านไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้

    ผู้คนไปนมัสการท่านมาก เป็นปกติของพระผู้ใหญ่คณะที่ไปจัดแจงนำสังฆทานเข้าไปถวายเมื่อเห็นว่าปลอดคน ท่านพุทธทาสรับสังฆทานเสร็จเรียบร้อยท่านถามว่า "พระนำมาจากไหน" เมื่อได้รับคำตอบจากคณะศิษย์ ท่านพูดขึ้นมาว่า "เรื่องนี้ต้องคุยกันนาน ไว้ตอนกลางคืนมาคุยกันใหม่" สรุปว่ายังไม่รู้คำตอบที่แท้จริงเพราะภายในวัดสวนโมกข์ไม่ค่อยมีการสร้างพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่างๆ

    ตกกลางคืนตามที่ท่านนัดหมายเมื่อคณะศิษย์ของหลวงปู่เข้าไปกราบท่านท่านจึงพูดขึ้นว่า

    "เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าจะปฏิเสธเรื่องของพระพุทธเจ้าไม่ได้นรก สวรรค์นั้น ก็เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นจริงชาตินี้ ชาติหน้า แม้แต่ยุคพระศรีอาริย์ก็มีจริงแต่เราเล็งเห็นความหยาบของจิตในมนุษย์เหล่านี้เราเลยไม่สอน สอนแต่บรมธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น"

    คณะที่ไปกราบรับฟังและพร้อมกับขอขมาโทษในองค์ท่านเพราะทุกคนไม่คิดจะได้ฟังประโยคเหล่านี้ ทำให้หมดสงสัย

    ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ดู่เคยพูดไว้เมื่อมีลูกศิษย์ของท่านกล่าวเชิงวิจารณ์ท่านพุทธทาสโดยท่านเตือนว่าเมื่อมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ดู่ได้เดินทางไปนมัสการท่านพุทธทาสโดยนำสังฆทานพร้อมพระพุทธรูปที่อธิษฐานจิตโดยหลวงปู่เพื่อนำไปถวาย พร้อมคำถามที่จะกราบเรียนถึงเรื่องลึกลับต่างๆ ว่าจะมีจริงหรือเป็นตามคำเล่าลือหรือไม่ว่าท่านไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้

    ผู้คนไปนมัสการท่านมาก เป็นปกติของพระผู้ใหญ่คณะที่ไปจัดแจงนำสังฆทานเข้าไปถวายเมื่อเห็นว่าปลอดคน ท่านพุทธทาสรับสังฆทานเสร็จเรียบร้อยท่านถามว่า "พระนำมาจากไหน" เมื่อได้รับคำตอบจากคณะศิษย์ ท่านพูดขึ้นมาว่า "เรื่องนี้ต้องคุยกันนาน ไว้ตอนกลางคืนมาคุยกันใหม่" สรุปว่ายังไม่รู้คำตอบที่แท้จริงเพราะภายในวัดสวนโมกข์ไม่ค่อยมีการสร้างพระพุทธรูปและวัตถุมงคลต่างๆ

    ตกกลางคืนตามที่ท่านนัดหมายเมื่อคณะศิษย์ของหลวงปู่เข้าไปกราบท่านท่านจึงพูดขึ้นว่า

    "เราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าจะปฏิเสธเรื่องของพระพุทธเจ้าไม่ได้นรก สวรรค์นั้น ก็เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นจริงชาตินี้ ชาติหน้า แม้แต่ยุคพระศรีอาริย์ก็มีจริงแต่เราเล็งเห็นความหยาบของจิตในมนุษย์เหล่านี้เราเลยไม่สอน สอนแต่บรมธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น"

    คณะที่ไปกราบรับฟังและพร้อมกับขอขมาโทษในองค์ท่านเพราะทุกคนไม่คิดจะได้ฟังประโยคเหล่านี้ ทำให้หมดสงสัย

    ซึ่งตรงกับที่หลวงปู่ดู่เคยพูดไว้เมื่อมีลูกศิษย์ของท่านกล่าวเชิงวิจารณ์ท่านพุทธทาสโดยท่านเตือนว่า
    "อย่าไปประมาทท่าน ท่านก็มีดีของท่าน เราไม่รู้จริง เดี๋ยวเป็นบาปนะแก"



    หลวงปู่เกษม พระอริยเจ้าที่เป็นสหธรรมิกที่เคารพกันมากกับหลวงปู่ดู่กล่าวกับลูกศิษย์ว่า

    "อยากฟังธรรมะ ให้ไปหาท่านพุทธทาส อยากไหว้พระปฏิบัติดี ให้ไปไหว้หลวงพ่อดู่ วัดสะแก"

    ลองอ่านตรงนี้อีกครับหลวงพ่อฤาษีลองดำกล่าวถึงท่านพุทธทาส
    ได้ยินมาจากศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีคนเก่าๆว่ามีครั้งหนึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านให้ศิษย์พานั่งรถไปหาท่านพุทธทาส เข้าใจว่าที่สวนโมกข์ น้อยคนนักที่จะรู้เพราะเป็นการพบกันส่วนตัวพอท่านเจอกันต่างองค์ก็ไหว้ซึ่งกันและกัน และสนทนาธรรมกันอีกกว่า2 ชั่วโมง พอตอนลูกศิษย์พาหลวงปู่ฤาษีขับรถกลับท่านพูดให้ลูกศิษย์ ในรถได้ยินกันชัดแจ๋วว่า "เออ อย่างนี้สิถึงจะคุยถูกคอ"

    ธรรมะท่านพุทธทาสท่านลึกซึ้งและเน้นที่ปัจจุบันมากและอีกประการเหตุที่ท่านสอนลักษณะนั้นเพราะท่านมีวาระที่ต้องการให้ศาสนาพุทธเผยแพร่หลักธรรมเป็นสากลแก่นานาชาติเห็นได้จากที่หนังสือท่านได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆอีกทั้งที่ท่านได้รับการยกย่องจาก unesco

    มีหลายคนที่ปฎิบัติตามแนวคำสอนของท่านและเป็นคนดีในสังคมมีมากมายนั้นเป็นเพราะเขาเหล่านั้นเลือกเอาสิ่งที่ดีโดยไม่เสียเวลากับสิ่งที่ไม่ดีที่พิสูจน์ไม่ได้ ธรรมะของท่านพุทธทาสนั้นเป็นเสมือนมะม่วงที่มีแต่เม็ด ไม่มีเนื้อหวานๆให้ลิ้มรสแต่จะเข้าถึงความขมที่เม็ดเลย

    ของจริงนิ่งเป็นใบ้ อนุโมทนา สาธุด้วยครับ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ประเสริฐโดยแท้ หลายท่านพบกระทู้นี้แล้วเป็นนิมิตรหมายที่ดี ถ้าท่านเคย ปรามาส ท่านพุทธทาสเอาไว้ ขอให้นึกย้อนกลับไป ดูดีๆ ข้อความ ที่เราไม่รู้จริงแล้ว พูดออกไป เวลานี้ หลวงปู่ท่านเมตตา มายืนยันให้แล้ว ว่า ท่านไม่ได้เป็นอย่างที่ บัณฑิตในโลกทั้งหลาย เคยพูดจา จาบจ้วง ล่วงเกิน ท่าน ก็ขอ ขมาท่าน

    โยโทโส โมหะจิตเต .... ขอขมาขอให้ท่าน อโหสิกรรม ให้สิ้นเวรสิ้นกรรมในกระทู้นี้ครับ

    ลงทุนน้อยๆ ได้ อกุศลกรรมมากๆ ก็คือกรรมทางวาจา พูด จาบจ้วง ล่วงเกิน ปรามาส พระรัตนตรัย พระผู้ประพฤติดีทั้งหลาย คนเรานั้นไม่ทำชั่ว 24 ชม. ไม่ได้เป็นซาตานมาเกิด หลวงปู่ท่านสอนเสมอ คนดีเค้าไม่ตีใคร ขอให้เก็บไปคิด และหมั่นปฏิบัติดีกันมาก พบท่านไหนดี ก็อนุโมทนากับท่านครับ ขออนุโมทนา สาธุด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->
    คนเข้าใจผิดเรื่องท่านพุทธทาสภิกขุกันมานานแล้วเนื่องจากส่วนหนึงเข้าใจไปว่าท่านปฎิเสธเรื่องนรก-สวรรค์และสอนบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนบางคนตีความธรรมะของท่านด้วยความเข้าใจส่วนตัวและตัดเอาแค่บางประโยคจากหนังสือธรรมะท่านที่มีเป็นจำนวนมากมาขยายความทำให้เข้าใจไป:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2011
  6. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สรุปแล้วคือท่านพุทธทาส ไม่สอนเรื่องนรกสวรรค์ หรือภพชาติหน้า เพราะ จะเป็นเหตุให้เกิด ให้อยู่กับปัจจุบันชาตินี้ จะได้ไม่ต้องเกิดอีก แบบนี้ใช่เปล่าครับผมเข้าใจถูกไหม
     
  7. ไม่ใช่ใคร

    ไม่ใช่ใคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +21
    ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ

    ผมเห็นบางคน ไม่ชอบวัดพระธรรมกาย แล้วไปด่าวิชาธรรมกาย

    อันนี้ เท่ากับคุณวิจารณ์ หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญไปด้วยนะครับ

    คนรุ่นใหม่ อาจไม่รู้อะไร แต่รุ่นปู่ย่าจะรู้ดี ว่าหลวงพ่อสดน่ะรุ่นไหน

    ท่านก็ไปนิพพานด้วยวิชาของท่านน่ะหล่ะ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  8. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    แล้วท่านพุทธทาสตอนนี้อยู่สวรรค์ชั้นไหนครับ
     
  9. poopenๆ

    poopenๆ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +86
    ใยจักต้องสนใจผู้อื่น ...
    แค่มองดูตัวเองให้ได้เสียก่อนพึงดี
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .....ขอยกพระพุทธวจนะมาละกัน พระพุทธวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้ถึง ไม่แทงตลอดซึ่งอริยสัจสี่อย่าง เราและพวกเธอทั้งหลาย จึงได้ท่องเที่ยวไป ตลอดกาลยืดยาวนานถึงเพียงนี้ ภิกษุทั้งหลาย เมื่ออริยสัจคือทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับไม่เหลือของทุกข์ และทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์ เป็นความจริงที่เราและพวกเธอทั้งหลาย รู้ถึง แทงตลอดแล้ว ตัณหาในภพ ก็ถูกถอนขึ้นขาด ตัณหาที่จะนำไปสู่ภพ ก็สิ้นไปหมด บัดนี้ความต้องการเกิดขึ้นอีก มิได้มี ดังนี้..............(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส):cool:
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ" ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงรำพึงถึงหมู่สัตว์" พระพุทธวจนะ" สัตว์โลกนี้ เกิดความเดือดร้อนแล้ว มีผัสสะ บังหน้า ย่อมกล่าวซึ่งโรค นั้นโดยความเป็นตัวตน เขาสำคัญสิ่งใด โดยความเป็นประการใด แต่สิ่งนั้นย่อมเป็น โดยความเป็นประการอื่นจากที่เขาสำคัญนั้น..... สัตว์โลกติดข้องอยู่ในภพ ถูกภพบังหน้าแล้ว มีภพโดยความเป็นอย่างอื่น จึงเพลิดเพลินอย่างยิ่งนักในภพนั้น เขาเพลิดเพลินอย่างยิ่งในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย เขากลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ พรมจรรย์นี้ อันบุคคลย่อมประพฤติ ก็เพื่อละขาดซึ่ง ภพ สมณะหรือพราห์มเหล่าใด กล่าวความหลุดพ้นจากภพมีได้เพราะภพ เรากล่าวว่า สมณะพราห์มทั้งปวงนั้น มิใช่ผู้หลุดพ้น จากภพ ถึงแม้สมณะพราห์มทั้งปวงนั้น มิใช่ผู้หลุดพ้นจากภพ ถึงแม้สมณะพราห์มเหล่าใด กล่าวความออกไปจากภพ ว่ามีได้เพราะ วิภพ เรากล่าวว่าสมณะพราห์มทั้งปวงนั้น ก็ยังสลัดภพออกไปไม่ได้......ก็ทุกข์นี้มีขึ้น เพระอาศัย อุปธิทั้งปวง เพราะความสิ้นไปแห่งอุปาทานทั้งปวง ความเกิดแห่งทุกข์ จึงไม่มี..... ท่านจงดูทุกข์ นี้เถิด สัตว์ทั้งหลาย อันอวิชชาหนาแน่นบังหน้าแล้ว และว่า สัตว์ผู้ยินดีในภพอันเป็นแล้วนั้น ย่อมไม่เป็นผู้หลุดพ้นไปจากภพได้ ก็ภพทั้งหลายเหล่าหนึ่งเหล่าใด อันเป้นไปในที่หรือในเวลาทั้งปวง เพื่อความมี แห่งประโยชน์โดยประการทั้งปวง ภพทั้งหลายทั้งหมดนั้น ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา.......เมื่อบุคคลเห็นอยู่ซึ่งข้อนั้น ด้วยปัญญาอันชอบโดยความเป็นจริง อย่างนี้อยู่ เขาย่อมละ ภวตัณหาได้ และไม่เพลิดเพลินใน วิภวตัณหาด้วย................ ความดับเพราะสำรอกไม่เหลือ(แห่งภพทั้งหลาย ) เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหา โดยประการทั้งปวง นั้นคือ นิพพาน.............ภพใหม่ย่อมไม่มีแก่ภิกษุ นั้น ผู้ดับเย็นสนิทแล้ว เพราะความไม่ยึดมั่น ......ภิกษุนั้น เป็นผู้ครอบงำมารได้แล้ว ชนะสงครามแล้ว ก้าวล่วงภพทั้งหลายทั้งปวงได้แล้ว เป็นผู้คงที่ ดังนี้แล............(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส):cool:
     
  12. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    2 ยังไงท่านก็ดีนะครับ เรื่องศีล แต่ระมัดระวังหน่อยก็ดีถึงท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม
     
  13. Sathuja

    Sathuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +218
    แล้วเราจะเชื่อใครได้บ้างว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะเราไม่ได้เป็นเหมือนท่าน
    เราจะไปรู้แน่นอนได้อย่างไร ส่วนตัวผมนั้นดูจากคำสอน และดูจากกระดูก
    อาจจะว่าผมยึดติด แต่พระธาตุเป็นส่วนหนึ่งในการบอกได้เหมือนกัน
    แต่เอาแค่ง่ายๆ พระอริยะเจ้าจะสอนว่าพระพุทธเจ้าเชื่อไม่ได้ หรือป่าว?
    พระอริยะเจ้าจะสอนว่า โอปปาติกะ ไม่มีจริงหรือป่าว?
    พระอริยะเจ้าจะสอนว่า นรก สวรรค์ ไม่มีจริงหรือป่าว ?
    ถ้ายังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่มากก็อย่าได้เรียกว่าพระอริยะเจ้าเลย
    พระอริยเจ้าอย่างพระโสดาบันขึ้นไปที่มีแน่ๆคือการไม่ลังเลสงสัยในพระรัตนตรัย
    ถ้ายังกล่าวว่าพระพุทธเจ้ายังเชื่อไม่ได้ 100% ก็ไม่ใช่แล้วครับ
    ก็ดูเอา ผมไม่ศรัทธาใคร และก็ไม่ปรามาสใคร พระที่ผมศรัทธา และยึดถือแนวทาง
    ปฏิบัตินั้นผมยึดถือคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และหลวงพี่เล็กครับ
    ส่วนท่านอื่นๆที่ผมศรัทธาเหมือนกันก็คือสายหลวงปู่มั่น และสายธรรมกายคือ
    หลวงพ่อวัดปากน้ำ สายอื่นผมไม่ขอนำมาคิดให้ปวดหัวล่ะกันครับ
    กรรมใครกรรมมัน ความลับไม่มีในโลก
    อยากรู้ว่าใครเป็นพระอริยะ ก็ทำตัวเองให้เป็นพระอริยะดีกว่า จะได้รู้ ^_^
     
  14. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พระโสดาบันน่าจะ เคารพ นับถือพระธรรมคําสั่งสอนไม่ขัดแย้ง ขอยกตัวอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดํา ผมไม่เคยเห็นท่านขัดแย้งคําสั่งสอนเลย:p ผมก็นับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดํา หลวงพ่อปาน โดยเฉพาะหลวงพ่อปาน ถึงผมจะเกิดไม่ทันนเค้าแต่ เป็นพระโพธิสัตว์ประเสริฐมากๆ ทรงฌาณได้อภิญญา สอน หลวงพ่อฤาษีลิงดําให้ได้ด้วย ประเสริฐ
     
  15. Sathuja

    Sathuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +218
    ไม่ใช่"น่าจะ"หรอกครับ ต้องยึดมั่นในพระรัตนตรัย ถ้ายังมีเคลือบแคลงสงสัยอยู่ ยังตัด วิจิกิจฉา ไม่ได้ ก็ยังเป็นพระโสดาบันไม่ได้ ^_^

    ถ้าอยากรู้ว่าใครอยู่ไหน ก็ไปฝึกมโนมยิทธิเองสิครับ

    แล้วมาบอกผมด้วยว่าใครอยู่ไหนบ้าง อิอิ
     
  16. มังคละมุนี

    มังคละมุนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +608
    สังโยชน์๑๐ เป็นธรรมในการวัดความเป็นอริยะ

    ข้อแรกของสังโยชน์คือสักกายะทิฏฐิ

    การละ "ตัวกู ของกู"
    เรียกได้ว่าเป็นโลโก้ประจำตัวของท่านอาจารย์พุทธทาสก็ว่าได้
    อย่างน้อยที่สุดท่านก็สอนให้เราเริ่มต่อสู้กับสังโยชน์ข้อที่๑

    หรืออย่างมากที่สุดท่านก็สอนและสนับสนุน
    ให้เราหลุดพ้นจากสังโยชน์อย่างสิ้นเชิง
    คือการทำงานด้วย"จิตว่าง"

    ตัวกู ของกู และ จิตว่าง

    ทั้ง๒คำนี้เป็นวลีที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวท่าน

    จนถึงให้วันสุดท้ายในวันเผาศพท่าน
    วลีทั้ง๒คำก็ยังประกาศก้องในบรรยากาศ
    พร้อมทั้งร่างกายของท่านได้แสดงธรรมเป็นครั้งสุดท้าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2011
  17. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ขอเล่านิดหนึ่ง
    ผมอ่านเรื่องการตอบปัญหาธรรม ของหลวงตามหาบัว มีสุภาพบุรุษท่านหนึ่งถามท่านว่า...ท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมอย่างไรจึงยังมี โทสะอยู่มาก


    ผมสงสัยว่า ท่านหลวงตา ปฏิบัติธรรม อย่างไร จีงยัง มีความโกรธอยู่เนีองๆ (ดูท่านจาก TV.)
    เจริญสติปัฐาน ระลีกรู้ นาม รูป มีปรมัตธรรม เป็นอารมณ์ อยู่เนีองๆ จะบรรเทากิเลส ได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง (สมาธิ ระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว) กิเลสจะลดลง ต่อเมี่อมีปรมัตธรรม เป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตา มีความเห็นว่าอย่างไร ครับ
    เรียนคุณผู้ถาม
    หลวงตาเมตตาตอบปัญหาของคุณให้
    เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

    หลวงตา : ปฏิบัติธรรมที่พวกขี้โกรธทั้งหลายให้ได้ดูบ้างว่า กิริยาท่าทางนี้ไม่ใช่กิริยาแห่งความโกรธ ผู้ดูต่างหากมันตัวโกรธ ตัวหมายเรื่องกิเลส เพราะกิเลสเต็มหัวใจมัน ธรรมะที่ออกนี้ไม่มีกิเลส พูดตรงๆ ว่าหลวงตาไม่มีกิเลสในหัวใจ เปิดโล่งหมดแล้วมาได้เป็นเวลา ๕๔ ปีนี้แล้ว หลวงตาเปิดโล่งได้เลย โลกเขาเอาออกโชว์ได้ ทำไมธรรมจึงออกโชว์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าปฏิบัติมาออกโชว์แก่โลกทั้งสามนี้ได้ตลอดมา นี้คือธรรมที่เลิศเลอที่ท่านปฏิบัติได้ นี้เราดำเนินตามธรรมที่เลิศเลอ ปฏิบัติได้รู้ได้เห็นมาจนกระทั่งถึงธรรมที่เลิศเลอเต็มหัวใจ แม้จะแสดงกิริยาอะไรออกมา เป็นพลังของธรรมทั้งนั้น ไม่ได้เป็นพลังของกิเลส นอกจากพวกคลังกิเลสมันเห็นอะไรก็ตีเข้าไปเป็นกิเลสเสียทั้งหมด เอะอะตดแตก นี้ก็ว่าตดนี้มันเหม็นนะ ดุในเจ้าของ จะว่าอย่างนั้นไปนะ ไม่ดุเจ้าของ มันดุแต่กิเลสมันเฉียดจมูกคนไป เข้าใจไหม ใครหลบไม่ดีจมูกขาด เข้าใจไหม ตะกี้นี้ถามว่ายังไง

    โยม : ถามว่า เขาดูทางทีวี สงสัยว่าท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมะอย่างไร จึงยังมีความโกรธอยู่

    หลวงตา : เอา เราอยากถามย้อนหลังอีก ดูแบบไหนถึงดูว่าเป็นคนโกรธหรือไม่โกรธ หลวงตาโกรธหรือไม่โกรธ ให้ตอบมาวันหลังนะ ถ้าตอบวันนี้ไม่ทัน นี่หลวงตาได้เปิดแล้วว่า กิริยาท่าทางนี้เป็นกิริยาของธรรม พลังของธรรม ไม่ใช่พลังของกิเลส กิริยาของกิเลส เพราะเครื่องมือของกิเลสได้แก่ธาตุขันธ์ของเรา กิริยาที่แสดงเวลานี้เป็นเครื่องมือของธรรม ถ้ากิเลสมีภายในใจมากน้อย แสดงความรุนแรงออกมา จะเป็นฟืนเป็นไฟทั้งหมด ถ้าภายในจิตใจหมดกิเลสแล้ว มีแต่ธรรมบรรจุภายในใจ ธรรมแสดงออกมาก็มีลักษณะท่าทางเหมือนกัน แต่เป็นธรรมล้วนๆ นี่หลวงตาแสดงเวลานี้แสดงออกเป็นธรรมล้วนๆ หลวงตาไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายในหัวใจเลย ได้เป็นเวลา ๕๔ ปีมานี้ เอาไปฟังไปพิจารณา ถามมาอีกจะตอบอีก ถามมาทางสหรัฐ เมืองไทยก็จะตอบได้เป็นไรวะ

    โยม : คนเดียวกันนี้ถามต่อไปอีกครับว่า เจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้นาม รูป มีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์อยู่เนืองๆ จะบรรเทากิเลสได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง สมาธิระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว กิเลสจะลดลงต่อเมื่อมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตามีความเห็นอย่างไรครับ

    หลวงตา : แล้วคุณมีปรมัตถธรรมแล้วยังที่ละกิเลสนั่น หรือมีแต่ถามหลวงตาว้อๆ เท่านั้นเหรอ เราไม่อยากตอบ ถามแบบลมปากว้อๆ กิเลสไม่ได้ขาดสักนิดหนึ่ง เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ

    ยกมาให้พิจารณาดูครับ
     
  18. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445

    อิอิ เข้ามาชอบหลวงพ่อปานด้วยคนครับ
    ชอบมากกกกก

    "ใครว่านิพพานสูญ คนนั้นก็สูญจากนิพพาน"
    อันนี้ก็ชอบ

    แต่อย่ารีบปรามาสท่านพุทธทาสไป
    เกิดก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ท่านได้บรรลุธรรมของจริงขึ้นมาล่ะ
    คำสอนปฏิเสธนรก สวรรค์ ที่ปรากฏหลักฐานชัดๆที่ยกกันมาจากหนังสือนั้น
    ก็จะวัดภูมิธรรมของท่านไม่ได้เลย (หรือเปล่า)

    แต่ถ้าก่อนมรณภาพ ยังปฏิเสธนรกสวรรค์ พร้อมสอนว่านิพพานสูญอยู่อีก
    อูย น่ากลัวจะหนักหนาเอาการอยู่นะนั่น แบบนั้น

    แต่ถึงกระนั้น หากหลวงพ่อฤาษี ท่านเคยไปสนทนากับท่านพุทธทาส
    และกล่าวชมอย่างที่มีคนโพสต์มาจริง
    น่ากลัวคนปรามาสจะหนักหนาเอาการยิ่งกว่า
    (ถ้าท่านไปหาและกล่าวอย่างที่โพสต์จริงล่ะก็นะ)
     
  19. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ทานพุทธทาส ท่านสอนให้เป็นภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย แต่ท่านไม่ใช่พระปฏิบัติ จึงไม่มีฌาณขั้นใด แต่ที่สำคัญท่านปรามาสพระพุทธเจ้า ตามที่ อ้างอิงถึง สุดท้าย ท่านจึงสู่อเวจีขุมเดียวกับเทวทัต ตราบเท่าทุกวันนี้ ก็กราบขอโทษ ลูกศิษย์ของท่านด้วย ที่ต้องนำความนี้แจ้ง มิใช่ลบหลู่ใคร และไม่ปรามาสท่านใด โมทนาสาธุ
    เกิดมาข้าพเจ้าต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    จะไปกราบขอโทษลูกศิษย์ท่านพุทธทาสทำไม
    เรื่องของกรรม ใครทำอย่างไรได้อย่างนั้น
    เพราะจะลบหลู่ไม่ลบหลู่ จะปรามาสไม่ปรามาส
    ไม่ใช่ตัวเองตัดสิน ..แต่ความจริงเขาตัดสินเอง

    ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
    เมื่อเราตัดสินใจทำอะไรไป ก็ขอให้น้อมรับผลกรรมนั้น
    ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...