พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การร่วมทำบุญเืพื่อรับพระวังหน้าในกระทู้พระวังหน้าฯและกระทู้ที่sithiphong ได้ตั้งขึ้นเพื่องานบุญทุกๆงาน

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ พระ พิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่องไทย(วง การซื้อ-ขายพระ) ได้ หากท่านต้องการพระพิมพ์(พระเครื่องที่สามารถนำไปซื้อขายในวงการพระเครื่อง ของเมืองไทย (วงการซื้อ-ขายพระ) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป

    แต่ พระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่ผมมอบให้นั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง) ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า โดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 หรือ พระที่สร้างขึ้นที่วังหลวง นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) ปี พ.ศ.2429-2434

    แต่ หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่ง เรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    มัลลิกา สวน การุณ อย่าโกหกออกทีวี ถามใครอยากดัง




    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MallikaBoon

    มัลลิกา โต้ การุณผ่านทวิตเตอร์ ใครกันแน่ที่อยากดัง และรู้สึกไม่พอใจที่รายการวู้ดดี้ เกิดมาคุย แก้ตัวให้นายการุณ โดยไม่มีข้อมูลอีกฝ่าย

    จากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส. พรรคเพื่อไทย กับ นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวว่านางสาวมัลลิกาถีบนายการุณ หลังจากการหารือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระหว่างทีมงาน ศปภ. กับ กทม. เสร็จสิ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า นายการุณยืนค้ำศีรษะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

    หลังจากนั้นก็ยังมีประเด็นที่นายการุณ ขับเจ็ทสกีจนทำให้เรือชาวบ้านในเขตดอนเมืองล่ม ชาวบ้านไม่พอใจจึงรุมต่อยนายการุณปากแตก ต้องเย็บ 5 เข็ม ดังนั้น วุฒิธร มิลินทจินดา ผู้จัดรายการวูดดี้ เกิดมาคุย ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ จึงได้เชิญนายการุณมาร่วมรายการ ออกอากาศในวันอาทิตย์ (20 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา

    แต่ ทว่า หลังจากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เทปสัมภาษณ์ เก่ง การุณ โหสกุล จบลง ในวันนี้ (21 พฤศจิกายน) นางสาวมัลลิกา ที่เป็นคู่กรณีของนายการุณ ก็ได้เขียนข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัว @MallikaBoon มี ใจความคร่าว ๆ ว่าไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่คุณวู้ดดี้แก้ตัวให้นายการุณ และการที่เธอถีบนายการุณในวันนั้น ก็ไม่ใช่เพราะว่าอยากดัง ใจจริงไม่อยากแปดเปื้อนคนแบบนี้อยู่แล้ว ตอนที่เธอดัง นายการุณยังเป็นวินมอเตอร์ไซค์อยู่เลย พร้อมกับแจกแจงไว้ 8 ข้อดังนี้

    "1. ความจริงไม่อยากพูดเรื่องผู้ชายกาก ๆ คนนี้ แต่ไม่ชอบที่ช่อง 9 ใช้คุณวู้ดดี้แก้ตัวให้คน ๆ นีิ้ โดยที่ไม่มีข้อมูลของอีกฝ่ายไม่ว่าคู่กรณีจะเป็นใคร?

    2. ตอนมัลลิกาดัง เป็นผู้ประกาศ เป็นพิธีกร ไอ่คนคนนี้ยังเป็นวินมอเตอร์ไซค์อยู่เลย ใครเกาะใครดังยะ ใครอยากไปแปดเปื้อนคนอย่างนี้?

    3. ตอนแรกคิดว่าการที่ไม่พูด จะเป็นการวัดใจนักเลงอย่างไอ่นี่ว่าจะไม่ให้อายไปกว่านี้! แต่โกหกแถมใส่ร้ายคนอื่นออกทีวีหน้าหนา ๆ

    4. "ด่าผู้หญิง E ควาย กระดกก้นกระแทกขาผู้หญิงอย่างแรงจนเซถลา จึงเจอขาข้างขวาง้างถีบบบบกลางหลังเต็ม ๆ แรงด้วยรองเท้าเบอร์ 38 จนถลาหน้าคะมำไป 3 ศอก"

    5. ก็แค่ไปสกิดว่าคุณ ๆ กำลังยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ดันกระแทกเสียงกลับมาว่า"ใหญ่กว่านี่กูก็ไม่สน"เอาก้น มาบังหน้าก็แค่โกรธมันนะ! แต่ก้นกระแทกผู้หญิงนี่สิ

    6. ข้อกฎหมายระบุว่า"เมื่อผู้ชายทำร้าย ต้องป้องกันตัวไม่เช่นนั้นเขาอาจทำร้ายมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงถีบได้เต็มที่เต็มแรง"เสียงไอ่นี่ร้องดังอั๊ก

    7. แหม! ทีตอนโดนทำโวยวาย หันไปฟ้องบอดี้การ์ด ถลามากันเป็นฝูง ฉันน่ะปิดข่าวจะตายกลัวแกอาย แต่ไปถามแคทช่อง7 ชีเป็นคนทวิตแถมประกาศออกช่อง7!!

    8. จำไว้ค่ะว่า เกิดมาไม่ได้อยากถีบใครไม่ว่าจะชายหรือหญิงไม่ว่าจะไอ่เก่งหรือไอ่กาก นอกจากด่า! แต่ถ้ามีผู้ชายมารังแก เป็นคุณ ๆ ยอมเหรอ?ถามจริง"


    [​IMG]
    [​IMG]

    ** หมายเหตุ : ข้อความดังกล่าวนำมาจากทวิตเตอร์ของนางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล @MallikaBoon โดยไม่ได้มีการดัดแปลงเนื้อหาใด ๆ ทั้งสิ้น





















    -http://hilight.kapook.com/view/64973-

    .
     
  3. nurse_2510

    nurse_2510 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +449
    ภาพหลวงปู่เทพโลกอุดร

    .......สืบเนื่องจากได้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางหลวงพ่อจรัญมาระยะหนึ่ง ก็ได้อธิษฐานขอให้มีครูบาอาจารย์มาช่วยชี้แนะในการปฏิบัติ และได้เจอท่านในนิมิตร ท่านยิ้มให้ก็ยิ้มตอบตามมารยาทเพราะหน้าตาแปลกๆและไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่หลังจากยิ้มตอบก็มีองค์พระลอยมาซ้อนทับผู้ชายคนนั้นและบอกว่า ท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร หลังจากนั้นได้ค้นหาข้อมูลจาก Internet จึงได้รู้ว่าผู้ชายที่ยิ้มให้หน้าตาเหมือนองค์พระโสณะเถระ...จึงได้สืบเสาะหาข้อมูลมาเรื่อยๆมาท่านต้องการสื่ออะไรจากนิมิตรนั้น ตอนนี้เข้าใจดีแล้วจึงขออธิษฐานจิตดังนี้...
    "ข้าพเจ้า บุคคลที่ใช้ชื่อในเว็บพลังจิตว่า...nurse_2510... ขอ ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ต่อคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) , องค์พยามัจจุราช และเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ว่าข้าพเจ้าขอรับรูปหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ไปเพื่อสักการะบูชา และจะอัญเชิญรูปหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ)ไว้ในที่ๆเหมาะสม หากข้าพเจ้าทำได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จทุกๆประการ แต่หากข้าพเจ้าทำไม่ได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความทุกข์ ความเสื่อม ความล้มเหลวทุกๆประการ และขอให้มีผลโดยเร็วฉับพลันและตลอดไป"
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมรบกวน ส่ง ชื่อ - นามสกุล และ ที่อยู่ ให้ผมทาง pm ด้วย

    ผมจะจัดส่งรูปไปให้ครับ



    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ห้ามไปยุ่งโดยเด็ดขาดนะครับ



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับไม่ได้จริงๆครับ

    ไม่รู้ว่า สมองมีไว้เก็บอะไร สงสัยไว้เก็บขี้ครับ


    บัดซบจริงๆ



    ------------------------------------------------


    อึ้ง พุทธเสื่อม กิจการตต.เล็งขยายสาขา"โรงแรม"บาร์พระพุทธเจ้า"ในอาหรับ ยุโรป หลังแจ้งเกิดสำเร็จ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    "อราเบียน นิวส์"รายงานเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ว่า โรงแรม"บุดดา บาร์"หรือ"บาร์พระพุทธเจ้า"ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลงทุนจอร์จ ที่ 5"ของยุโรป กำลังเล็งหาสถานที่ขยายสาขาในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยนายแฟรงค์ ฟอร์เต็ต รองประธานบริษัทฯกล่าวว่า กลุ่มกำลังขยายไอเดียความบันเทิงและแบรนด์ของโรงแรมบุดดา บาร์ ในภูมิภาคอาหรับ ภายหลังประสบความสำเร็จในการเปิดบาร์ บุดดา ในเมืองดูไบ และโรงแรมในเมืองอาบู ดาบี นอกจากนี้ เขายังมีแผนจะสร้างโรงแรม"บุดดา บาร์"ในเลบานอน และสร้างโรงแรมและสปา"บุดดา บาร์ รีสอร์ท"ในอียิปต์

    นายฟอร์เต็ตกล่าด้วยว่า โรงแรม"บุดดา บาร์"จะเปิดในกรุงปารีส ในเดือนก.ย.ปี 2012 ตามหลังกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งจะมีโรงแรมบุดดา บาร์ และอพาร์ทเมนต์"บุดดา บาร์"และว่า เมื่อเร็วๆ นี้ "กลุ่มจอร์จฯ" เพิ่งมีแผนจะขยายกิจการโรงแรมบุดดา บาร์ ในนิวยอร์ก ลอนดอน เทล อาวีฟ ไมอามี โดยกลุ่มมีสถานที่ทั่วโลกที่จะรองรับการเปิดโรงแรม ภัตตาคาร คลับ และเล้าจน์

    อย่างไรก็ตาม นายฟอร์เต็ตปฎิเสธที่จะยืนยันว่า จะมีการเปิดโรงแรม"บุดดา บาร์"ในกรุงอาบู ดาบี ในปี 2015 ตามที่เว็บไซต์ของกลุ่มได้ระบุไว้ ชี้ว่ากลุ่มน่าจะเปิดโรงแรมดังกล่าวในนครดูไบก่อน



    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321945349&grpid=&catid=06&subcatid=0600-




    .

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.JPG
      1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.6 KB
      เปิดดู:
      52
    • 11.JPG
      11.JPG
      ขนาดไฟล์:
      81.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • 111.JPG
      111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      88.3 KB
      เปิดดู:
      51
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ป้องกันเชื้อโรคเชื้อราขณะล้างบ้านหลังน้ำลด



    หลังจากน้ำลดลง บางพื้นที่เจ้าของบ้านสามารถเดินทางกลับเข้าบ้านอันแสนรักของตนเองได้แล้ว โดยหลังจากสำรวจความเสียหายของโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อยใหญ่แล้ว งานช้างที่ต้องทำก็คือ การทำความสะอาดบ้าน หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์

    นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ที่จะทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ควรระวังเชื้อโรค เชื้อรา ที่อาจมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเชื้อราที่เกาะตามส่วนต่างๆ ของบ้าน อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือมีอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่ดี

    ทั้งนี้ หลังน้ำลด อาคารและบ้านจะมีเชื้อราเกาะตามบริเวณที่ชื้นอับ เชื้อราเหล่านี้จะปล่อยละอองสารบางอย่างล่องลอยในอากาศทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา จมูก ภูมิแพ้ หรือโรคระบบทางเดินหายใจในคนได้โดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ

    กรมควบคุมโรคจึงแนะนำหลักการทำความสะอาดเชื้อราในบ้านหลังน้ำลด โดยผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิต้านทานไม่ดี เช่น ป่วยเบาหวาน กินยาสเตียร์ลอยด์ ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ทานยากดภูมิต้านทาน ผู้ป่วยที่รักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือยา หรือมีโรคหอบ หืด ประจำตัว รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรเข้าไปในบ้านก่อนที่จะมีการทำความสะอาดจนเรียบร้อย

    ก่อนทำควรเปิดหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเทดีอย่างน้อย 30 นาที สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ แว่นตาครอบ รองเท้ายาง เพื่อมิให้สัมผัสกับเชื้อราที่ล่องลอยในอากาศหรือตามพื้น ให้หยุดพักออกมาหายใจอากาศบริสุทธิ์ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการสูดดมเชื้อรา

    การทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแรงดันสูงฉีด เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจาย ควรใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อออกดีแล้วควรเช็ดตามด้วยน้ำผสมคลอรีนหรือน้ำยาฟอกผ้าขาวที่มีขายทั่วไป

    ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำความสะอาดแล้วควรนำมาตากแดดให้แห้งสนิท ควรให้แดดส่องเข้าบ้าน เพื่อไล่ความชื้นให้หมด

    ส่วนเครื่องปรับอากาศไม่ควรเปิดก่อนการทำความสะอาดโดยเด็ดขาด เพราะเชื้อโรคจะถูกดูดเข้าไปในระบบปรับอากาศ และกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อได้ และควรจะเปลี่ยน filter ของเครื่องปรับอากาศด้วย

    ภายหลังกิจกรรมทำความสะอาดหรือเข้าอยู่อาศัยแล้ว หากมีสมาชิกในบ้านโดยเฉพาะเด็ก คนชรา คนที่มีโรคประจำตัว มีอากาศระบบทางเดินหายใจ มีอาการแพ้ไอ หอบ เหนื่อย หรือโรคประจำเดิมกำเริบ ควรปรึกษาสถานบริการสุขภาพใกล้บ้าน.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=177332-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองเป็นทีมงานเว็บใต้ร่มธรรม
    -http://www.tairomdham.net/index.php-

    มีสมาชิกของเว็บใต้ร่มธรรมคนหนึ่ง ซึ่งชอบนำพระไตรปิฎก มาโพสเพื่อหาความชอบธรรมให้โพสตนเอง ดูดีและถูกต้อง

    ทางเว็บใต้ร่มธรรมจึงได้ให้สมาชิกคนนี้ (ชื่อต๊ะติ้งโหน่ง) พัก 59 วัน เพื่อที่จะให้สงบสติอารมณ์

    ปรากฎว่า ยังสามารถเข้ามาโพสได้ โดยเข้ามาโพสเป็นบุคคลทั่วไป แต่ตั้งชื่อให้ทราบว่าเป็นสมาชิกคนนี้ ตลอด

    ให้ดูเป็นตัวอย่าง สำหรับคำโบราณ "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ที่สำคัญ ไม่รอดจาก"นรก"ครับ



    นำมาให้อ่านกันบางส่วน

    หากจะอ่านต่อ ไปอ่านได้ที่เว็บใต้ร่มธรรม หมวดโครตเกรียนล้างโลก - ลงชักโครกซะ !



    -------------------------------------------------------------

    Re: หลวงปู่เทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) เริ่มโดย น้องต๊ะเจ้าเก่า

    กระทู้นี้ จะเอาธรรมะของพระครูโลกอุดร มาเทียบเคียงพระไตรปิฎก อย่างโครตเกรียนอ่า เริ่มโดย ต๊ะติ้งโหน่งเจ้าเก่า

    Re: การล่วงเกิน เริ่มโดย น้องต๊ะเจ้าเก่า

    จะอยู่ในหมวด โครตเกรียนล้างโลก - ลงชักโครกซะ !

    -http://www.tairomdham.net/index.php/board,107.0.html-

    จะนำมาให้ชมเป็นตัวอย่าง

    กระทู้ Re: การล่วงเกิน เริ่มโดย น้องต๊ะเจ้าเก่า

    น้องต๊ะเจ้าเก่า


    • บุคคลทั่วไป
    Re: การล่วงเกิน

    « เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:41:20 PM »



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    นี่ก็ผู้มีธรรม ที่ทำลัทธิดังท่าน้ำ
    โลกอุดรแอนด์เดอะแก๊งค์ ลัทธิอวตารข้ามน้ำผิดท่า
    หาธรรมะได้น้อยมากๆๆๆ
    ไม่เชื่อลองถามกูเกิลดู อ่า
    ที่มีมาก ก็มีแต่ขาย เช่าวัตถุมงคลอ่า

    จีงมีคำสอนให้ ทำตัวเหมือนน้ำ
    ทั้งๆที่พระพุทธะเจ้าสอนว่า น้ำเปรียบเหมือนกิเลส อ่า


    เดียรถีย์ (อ่านว่า เดียระถี) แปลว่า ผู้มีลัทธิดังท่าน้ำอันเป็นที่ข้าม หรือ ข้ามน้ำผิดท่า หมายถึงนักบวชนอกศาสนาในอินเดียสมัยพุทธกาล (ที่แปลว่า "ข้ามน้ำผิดท่า" นั้นอุปมาถึงบุคคลผู้ออกบวชหวังความพ้นทุกข์ แต่กลับแสวงหาทางที่ผิดหรือศรัทธาปฏิบัติในลัทธิความเชื่อที่มิใช่พระพุทธ ศาสนา อันเปรียบเหมือนผู้ที่ข้ามแม่น้ำไปขึ้นท่าน้ำที่ไม่ดี ทำให้เสียประโยชน์อันพึงได้ไป)



    หรือกระทู้ Re: หลวงปู่เทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) เริ่มโดย น้องต๊ะเจ้าเก่า

    น้องต๊ะเจ้าเก่า


    อ้างจาก: sithiphong ที่ สิงหาคม 03, 2010, 06:17:25 PM

    ปริเฉทสาม
    พระอุตรเถระเจ้าอวตารเป็นพระครูเทพผู้วิเศษ

    พระ อุตรเถระเจ้า อวตารเป็นพระครูเทพ ผู้วิเศษในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ประมาณปี พ.ศ.2127 ระยะเวลาห่างจากสมัยสุโขทัยประมาณ 227 ปี คันคว้าจากตำราไสยศาสตร์ ประกอบความรู้อันบังเกิดจากญาณหรือสิ่งบันดาลใจ จากคำที่ว่าตอนที่สร้างกำแพงเมืองลพบุรี ข้ายังได้เห็น หมายถึง สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มิใช่สมัยลพบุรี (ขอม) และยังมีคำว่า “เทพ” (มาจากคำเทพโลกอุดร) ท่านผู้อ่านอาจสงสัยว่า นับจากแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชถึงแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินถึง 9 รัชกาลด้วยกัน แต่ปรากฏตามหลักฐานประวัติศาสตร์คำนวณอายุได้ประมาณ 53 ปี เท่านั้น กล่าวคือ
    พระเอกาทศรถ 16 ปี
    พระศรีเสาวภาคย์ ไม่ถึงปี
    พระเจ้าทรงธรรม 8 ปี
    พระเชษฐาธิราช 3 ปี
    พระอาทิตย์วงศ์ 37 วัน
    พระเจ้าปราสาททอง 25 ปี
    เจ้าฟ้าลั่น 1 ปี
    พระศรีสุธรรมราชา 3 เดือน
    พระนารายณ์มหาราช 32 ปี (คิดเพียงด้านรัชกาลขณะสร้างกำแพงเมืองให้เวลา 3 ปี)
    รวมรัชกาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คงไม่ถึง 100 ปี และองค์พระครูเทพ ผู้วิเศษน่าจะมีอายุยืนยาวเป็นกรณีพิเศษ

    มี บันทึกว่าพระครูเทพ ผู้วิเศษเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างพระโพ ปางยืนห้ามสมุทร (โพ เป็นชื่อต้นไม้ โพธิ แปลว่า ตรัสรู้ ไม่ใช่เรียกชื่อต้นไม้) และพระควัมปติ (ไม่ใช่พระควัมบดี) แต่จะเป็นพระควัมปติ หรือพระมหากัจจายนะเถระเจ้าปางยกหัตถ์ปิดพระพักตร์อธิษฐานวรกาย ยังเป็นปัญหา เพราะเป็นคนละองค์ตามรายพระนามสาวกผู้ทรงเอกะทัคคะ 80 รูป แต่เมื่อสร้างเป็นพระพิมพ์แล้วมีลักษณะอย่างเดียวกัน จงเข้าใจเสียใหม่ว่าพระควัมปติกับพระมหากัจจายนะเถระเจ้า เป็นคนละองค์แน่นอน และพระพิมพ์โลกอุดรส่วนใหญ่มักจะสร้างเป็นรูปพระปิดตา (ยกหัตถ์ปิดพระพักตร์)

    อ่าๆๆๆ

    ชัดเจนๆๆ มั๊ยครับคุณพี่หนุ่ม และท่านสมาชิกใต้ร่มธรรมผู้ทรงเกียรติ
    ปรัปวาทะของกลุ่มลัทธิอืน ศาสนาอื่น

    อวตาร มาสอดแทรก สอดไส้ ในพุทธศาสนา

    ความเห็นผิด รู้ผิด เข้าใจผิด ของศาสนาอื่น ลัทธิอื่น
    เป็นมิจฉาทิฎฐิ

    อย่ามาบอกว่า คนเหล่านี้ เป็นศาสนาพุทธ อย่ามาบอกว่า เป็นเถรวาทนะครับ

    -http://www.tairomdham.net/index.php/topic,6643.0.html-



    .
     
  10. kantamatt

    kantamatt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะทำตามเงื่อนไขทุกประการ ขอบคุณอีกครั้งครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อนาถปิณฑิกเศรษฐี เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายก


    [​IMG]




    อนาถปิณฑิกเศรษฐี
    เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายก

    เอตทัคคะ ในฝ่ายผู้เป็นทายก อนาถบิณฑิกเศรษฐี เกิดในตระกูลมหาเศรษฐี ในเมืองสาวัตถี บิดาชื่อว่า “ สุมนะ” มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล เมื่อเกิดมาแล้วบรรดาหมู่ญาติได้ตั้งชื่อให้ว่า “ สุทัตตะ ” เป็นคนมีจิตเมตตาชอบทำบุญให้ทานแก่คนยากอนาถา
    --------------------------------------------------------------------------------
    ได้ชื่อใหม่เพราะให้ทาน

    ได้ ชื่อใหม่เพราะให้ทาน เมื่อบิดามารดาของท่านล่วงลับไปแล้ว ได้ดำรงตำแหน่งเศรษฐีแทน ให้ตั้งโรงทานที่หน้าบ้านแจกอาหารแก่คนยากจนทุกวัน จนกระทั้งประชาชนทั่วไปเรียกท่านตามลักษณะนิสัยวว่า < “ อนาถบิณฑิกะ ” ซึ่งหมายถึง “ ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา ” และได้เรียกกับต่อมมาจนบางคนก็ลืมชื่อดั่งเดิมของท่านไปเลย

    ท่า นอนาถปิณฑิกะ ทำการค้าขายระหว่างเมืองสาวัตถีกับเมืองราชคฤห์เป็นประจำ จนมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับเศรษฐีเมืองราชคฤห์นามว่า “ ราชคหกะ” และต่อมาเศรษฐีทั้งสองก็มีความเกี่ยวดองกันมากขึ้น โดยต่างฝ่ายก็ได้น้องสาวของกับและกันมาเป็นภรรยา ดังนั้น เมื่ออนาถปิณฑิกะนำสินค้นมาขายยังเมืองราชคฤห์จึงได้มาพักอาศัยที่บ้านของ ราชคหกเศรษฐี ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นทั้งน้องเขยและทั้งพี่เมียอยู่เป็นประจำ

    --------------------------------------------------------------------------------
    อนาถปิณฑิกเศรษฐีสำเร็จพระโสดาบัน

    อนาถ ปิณฑิกเศรษฐีสำเร็จพระโสดาบัน อนาถปิณฑิกเศรษฐี ดำรงชีวิตในกรุงสาวัตถีโดยมิได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการเกิดขึ้นแห่งพระพุทธ ศาสนาเลย จวบจนวันหนึ่งท่านได้นำสินค้ามาขายยังเมืองราชคฤห์ และได้เข้าพักในบ้านของราชคหกเศรษฐีตามปกติ แต่ในวันนั้น เป็นวันที่ราชคหกเศรษฐี ได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมากมายมาเสวย และฉันภัตตาการที่เรือนของตนในวันรุ่งขึ้น

    ราช คหกเศรษฐี มัวยุ่งอยู่กับการสั่งงานแก่ข้าทาสบริวาร จึงไม่มีเวลามาปฏิสันถารต้อนรับท่านอนาถปิณฑิกะเหมือนเช่นเคย เพียงแต่ได้ทักทายปราศัยเล็กน้อยเท่านั้นก็สั่งงานต่อไป แม้ท่านอนาถปิณฑิกก็เกิดความสงสัยขึ้นเช่นกัน จึงคิดอยู่ในใจว่า “ ราชคหกเศรษฐี คงจะมีงานบูชายัญหรือไม่ก็คงจะกราบทูลเชิญพระเจ้าพิมพิสารเสด็จมายังเรือน ของตนในวันพรุ้งนี้ ”

    เมื่อการสั่ง งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ราชคหกเศรษฐี จึงได้มีเวลามาต้อนรับพูดคุยกับอนาถบิณฑิเศรษฐี และท่านอนาถปิณฑกะก็ได้ไต่ถามข้อข้องใจสังสัยนั้น ซึ่งได้รับคำตอบว่า ที่มัวยุ่งอยู่กับการสั่งงานนั้นก็เพราะได้กราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อม ด้วยภิกษุสงฆ์ มาเสวยและฉันภัตตาหารที่เรือนของตนในวันพรุ้งนี้

    อนาถ บิณฑิกเศรษฐี พอได้ฟังคำว่า “ พระพุทธเจ้า ” เท่านั้นเอง ก็รู้สึกแปลกประหลาดใจ จึงย้อนถามถึงสามครั้งเพื่อให้แน่ใจ เพราะคำว่า “ พระพุทธเจ้า ” นี้เป็นการยากยิ่งนักที่จะได้ยินในโลกนี้ เมื่อราชคหกเศรษฐีกล่าวยืนยันว่า “ ขณะนี้พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เกิดขึ้นแล้วในโลก ” จึงเกิดปิติและศรัทธาเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ปรารถนาจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ในทันทีนั้น แต่ราชคหกเศรษฐียับยั้งไว้ว่ามิใช่เวลาแห่งการเข้าเฝ้า จึงรอจนรุ่งเช้าก็รีบไปเข้าเฝ้าก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จไปยังบ้านราชคหก เศรษฐี ได้ฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจสี่จากพระพุทธเจ้าแล้วได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระ โสดาบันบุคคลในพระพุทธศาสนาประกาศตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอก ชีวิต

    --------------------------------------------------------------------------------
    อนาถปิณฑิกเศรษฐีสร้างวัดถวาย

    อนาถ ปิณฑิกเศรษฐีสร้างวัดถวาย อนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ช่วยอังคาสถวายภัตตาหารแด่พระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์ ครั้นเสร็จกิจแล้วได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาเพื่อเสด็จไปประกาศพระศาสนา ยังเมืองสาวัตถี พร้อมทั้งกราบทูลว่า จะสร้างพระอารามถวายที่เมืองสาวัตถีนั้น พระบรมศาสดาทรงรับอาราธนาตามคำกราบทูล

    อนาถ บิณฑิกเศรษฐี รู้สึกปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง รีบเดินทางกลับสู่กรุงสาวัตถีโดยด่วน ในระหว่างทางจากกรุงราชคฤห์ถึงกรุงสาวัตถี ระยะทาง ๕๕ โยชน์ ได้บริจากทรัพย์จำนวนมากให้สร้างวิหารที่ประทับเป็นที่พักทุก ๆ ระยะหนึ่งโยชน์ เมื่อถึงกรุงสาวัตถีแล้วได้ติดต่อขอซื่อที่ดินจากเจ้าชายเชตราชกุมาร โดยได้ตกลงราคาด้วยการนำเงินปูลาดให้เต็มพื้นที่ตามที่ต้องการ ปรากฏว่าเศรษฐีใช้เงินถึง ๒๗ โกฏิ * เป็นค่าที่ดิน และอีก ๒๗ โกฏิ เป็นค่าก่อสร้างพระคันธกุฏิที่ประทับของพระบรมศาสดา และเสนาสนะสงฆ์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๔ โกฏิ แต่ยังขาดพื้นที่สร้างซุ้มประตูพระอาราม ขณะนั้น เจ้าชายเชตราชกุมารได้แสดงความประสงค์ขอเป็นผู้จัดสร้างถวาย โดยขอให้จารึกพระนามของพระองค์ที่ซุ้มประตูพระอาราม ดังนั้น พระอารามนี้จึงได้ชื่อว่า “ เชตวนาราม”

    --------------------------------------------------------------------------------
    เศรษฐีทำบุญจนหมดตัว

    เศรษฐี ทำบุญจนหมดตัว เมื่อการก่อสร้างพระอารามเสร็จแล้ว ได้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เสด็จเข้าประทับจัดพิธี ฉลองพระอารามอย่างมโหฬารนานถึง ๙ เดือน ( บางแห่งว่า ๕ เดือน ) ได้จัดถวายอาหารบิณฑบาตอันปราณีตแด่พระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์ เมื่อพิธีฉลองพระอารามเสร็จสิ้นลงแล้วได้กราบอาราธนาพระภิกษุจำนวนประมาณ ๒๐๐ รูป ไปฉันภัตตาหารที่บ้านของตนทุกวันตลอดกาล

    อนาค บิณฑิกเศรษฐี ทำบุญโดยทำนองนี้ ทั้งให้ทานแก่คนยากจน และการถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์ จนกระทั้งทรัยพ์สินเงินทองที่เก็บสะสมไว้ลดน้อยลงไปโดยลำดับ ทรัพย์ ที่หาได้มาใหม่ก็ไม่เท่ากับจ่ายออกไป ภัตตาหารที่จัดถวายพระภิกษุสงฆ์ก็ลดลงทั้งคุณภาพและปริมาณ จนในที่สุดข้าวที่หุงถวายพระก็จำเป็นต้องใช้ข้าวปลายเกวียน กับข้าวก็เหลือเพียงน้ำผักเสี้ยนดอง ตนเองก็พลอยอดยากลำบากไปด้วย ถึง กระนั้นเศรษฐีก็ยังไม่ลดละการทำบุญถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์ ได้แต่กราบเรียนให้พระภิกษุสงฆ์ทราบว่า ตนเองไม่สามารถจะจัดถวายอาหารอันปราณีตมีรสเลิศเหมือนเมื่อก่อนได้ เพราะขาดปัจจัยที่จะจัดหา พระภิกษุสงฆ์ที่เป็นปุถุชนก็พากันไปรับอาหารบิณฑบาตที่ตระกูลอื่นที่ถวายอาหารมีรสเลิศกว่า


    --------------------------------------------------------------------------------
    เศรษฐีขับไล่เทวดา

    เศรษฐี ขับไล่เทวดา ขณะนั้น เทวดาตนหนึ่งผู้เป็นมิจจฉาทิฏฐิ ซึ่งสิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูบ้านของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ไม่เลื่อมใสพุทธศานา เบื่อระอาที่พระภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูเข้าออกทุกวัน เพราะในขณะที่ภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูนั้นตนไม่สามารถจะอยู่บนซุ้มประตู ได้ เมื่อเห็นเศรษฐีกลับกลายมีฐานะยากจนลงเพราะทำบุญแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงปรากฏกายต่อหน้าท่านเศรษฐีกล่าวห้ามปรามให้เศรษฐีเลิกทำบุญเสียเถิด แล้วทรัพย์สินเงินทองก็จะเพิ่มพูนขึ้นเหมือนเดิม ท่านเศรษฐีจึงถามว่า :-

    ท่านเป็นใคร ?”

    ข้าพเจ้าเป็นเทวดา ผู้สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของท่าน ”

    “ ดูก่อนเทวดาอันธพาล เราไม่ต้องการเห็น ไม่ต้องการฟังคำพูดของท่าน ขอท่านจงออกไปจากซุ้มประตูเรือนของเรา อย่ามาให้ข้าพเจ้าเห็นอีกเป็นอันขาด ”

    เทวดาตกใจ ไม่สามารถจะอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของเศรษฐีได้อีกต่อไป กลายเป็นเทวดาไร้ที่สิงสถิต ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เข้าไปหาเทวดาผู้มีศักดิ์สูงกว่าตนให้ช่วยเหลือ แต่ไม่มีเทวดาองค์ใดจะสามารถช่วยได้ เพียงแต่บอกอุบายให้ว่า ทรัพย์เก่าของเศรษฐีจำนวน ๘๐ โกฏิ ซึ่งใส่ภาชนะฝังไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำถูกน้ำเซาะตลิ่งพังหายไปในสายน้ำ ท่านจงไปนำทรัพย์เหล่านั้นกลับคืนมามอบให้ท่านเศรษฐี แล้วท่านเศรษฐีก็จะหายโกรธยกโทษให้ และอนุฐาตให้อยู่อาศัยที่ซุ้มประตูบ้านดังเดิมได้ ”

    เทวดาทำตามนั้น ได้นำทรัพย์เหล่านั้นมามอบให้เศรษฐีด้วยอำนาจฤทธิ์เทวดา เมื่อเศรษฐียกโทษให้แล้วได้อยู่ ณ สถานที่เดิมของตนสืบไป


    --------------------------------------------------------------------------------
    ต้นแบบการทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย

    ต้น แบบการทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย พุทธบริษัทผู้ใฝ่บุญนั้น ย่อมปราาภเหตุเล็ก ๆ น้อย ขึ้นมาเป็นเรื่องทำบุญได้เสมอ เช่นเรื่องของอนาถบิณฑิกเศรษฐีนี้ วันหนึ่งหลานของท่านเล่นตุ๊กตาที่ทำจากแป้งแล้วหล่นลงแตก หลานร้องไห้ด้วยความเสียดายตุ๊กตา เพราะไม่มีตุ๊กตาจะเล่น ท่านเศรษฐีได้ปลอบโยนหลานว่า:-

    ไม่ เป็นไร เราช่วยกับทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ตุ๊กตากันเถิด ” ปรากฏว่าหลานหยุดร้องไห้ รุ่งเช้า ท่านจึงพาหลานช่วยกันทำบุญเลี้ยงพระแล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ตุ๊กตา

    การ ทำบุญอุทิศไปให้ตุ๊กตาของท่านเศรษฐี แพร่ขยายไปอย่างรวดเร็ว ประชาชนชาวพุทธบริษัททั้งหลาย เห็นเป็นเรื่องแปลกและเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ดังนั้น เมื่อญาติผู้เป็นที่รักของตนตายลงก็พากันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เหมือน อย่างท่านเศรษฐีกระทำนั้น และถือปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

    --------------------------------------------------------------------------------
    มอบภารกิจของตนให้ลูกหลาน

    มอบ ภารกิจของตนให้ลูกหลาน ตามปกติทุก ๆ วัน ภิกษุทั้งหมดผู้อยู่ในกรุงสาวัตถีจะรับนิมนต์เพื่อฉันภัตตาหารในบ้านของอนาถ ปิณฑิกเศรษฐี และในบ้านของนางวิสาขาดังนั้น บุคคลอื่น ๆ ผู้ประสงค์จะถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์ก็ต้องมาขอโอกาสแก่ท่านทั้งสองนี้ ทั้งนี้ ก็เพราะท่านทั้งสองทราบดีว่าควรประกอบควรปลุงอาหารอย่างไรให้ต้องกับ อัธยาศัยและวินัยของพระ ควรจัดสถานที่อย่างไรจึงจะเหมาะสม นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านเรือนที่จัดงานอีกด้วย ดังนั้นท่านทั้งสองจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่ปฏิบัติเลี้ยงดูพระภิกษุที่นิมนต์มา ฉันที่บ้านของตน นางวิสาขาจึงได้มอบหมายภารกิจหน้าที่นี้แก่หลานสาว

    ส่วน อนาถบิณฑิกะ ได้มอบหมายให้แก่ลูกสาวคนโตชื่อว่า “ มหาสุภัททา” นางได้ทำหน้าที่นี้อยู่ระยะหนึ่ง ได้ฟังธรรมจากพระคุณเจ้าแล้วได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน ต่อมาได้แต่งงานแล้วติดตามไปอยู่ในสกุลของสามี

    จาก นั้นอนาถบิณฑิกะก็ได้มอบหมายให้ลูกสาวคนที่สองชื่อว่า “ จุลสุภัททา ” นางก็ทำหน้าที่แทนบิดาด้วยดีโดยตลอด และก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันเช่นกัน ต่อจากนั้นไม่นาน นางก็ได้แยกไปอยู่กับครอบครัวของสกุลสามี อนาถปิณฑิกะจึงได้มอบหน้ที่ให้ลูกสาวคนเล็กชื่อว่า “ สุมนาเทวี ” กระทำเเทนสืบมา


    --------------------------------------------------------------------------------
    ลูกสาวป่วยเรียกบิดาว่าน้องชาย

    ลูก สาวป่วยเรียกบิดาว่าน้องชาย สุมนาเทวี ทำหน้ที่ด้วยความขยันเข้มเข็ง งานสำเร็จด้วยความเรียบร้อยทุกวัน ทั้ง ๆ ที่นางยังอายุน้อย จากการที่นางได้ทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์และได้ฟังธรรมเป็นประจำนาง ก็ได้บรรลุเป็นพระสกิทาคามี แต่ต่อมานางได้ล้มป่วยลงมีอาการหนัก ใคร่อยากจะพบบิดา จึงให้คนไปเชิญบิดามา

    ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พอได้ทราบว่าลูกสาวป่วยหนักรีบมาเยี่ยมโดยเร็ว พอมาถึงได้ถามลูกสาวว่า:-

    “ แม่สุมนา เจ้าเป็นอะไร?”
    “ อะไรเล่าน้องชาย ?” ลูกสาวตอบ
    “ เจ้าเพ้อหรือ แม่สุมนา? ” บิดาถาม
    “ ไม่เพ้อหรอก น้องชาย ” ลูกสาวตอบ
    “ แม่สุมนา ถ้าอย่างนั้น เจ้ากลัวหรือ ? ” บิดาถาม
    “ ไม่กลัวหรอกน้องชาย ”

    นางสุมนาเทวี พูดโต้ตอบกับบิดาได้เพียงเท่านั้นก็ถึงแก่กรรม


    --------------------------------------------------------------------------------
    พระโสดาบันร้องไห้ไปกราบทูลพระศาสดา

    พระ โสดาบันร้องไห้ไปกราบทูลพระศาสดา ท่านเศรษฐี แม้จะเป็นพระโสดาบัน ก็ไม่อาจจะกลั้นความเศร้าโศกเสียใจเพราะการจากไปของธิดาได้ เมื่อเสร็จงานศพแล้วได้ร้องไห้น้ำตานองหน้าไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระพุทธองค์ได้ตรัสปลอบว่า:-

    “ อนาถบิณฑิกะ ก็ความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้ของสรรพสัตว์มิใช่หรือ เหตุไฉนท่านจึงร้องไห้อย่างนี้? ”

    “ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อนั้นข้าพองค์ทราบดี แต่นางสุมนาเทวีธิดาของข้าพองค์ เมื่อใกล้เวลาจวนจะตาย นางไม่สามารถคุมสติได้เลย นางบ่นเพ้อจนกระทั้งตาย ข้าพองค์โทมนัสร้องไห้เพราะเหตุนี้ พระเจ้าข้า ”

    พร้อมทั้งได้กราบทูลถ้อยคำที่นางสุมนาเทวีเรียกตนเองว่าน้องชาย ถวายให้พระพุทธองค์ทรงทราบ พระผู้มีพระภาคได้สดับแล้วตรัสว่า:-

    “ ดูก่อนมหาเศรษฐี ธิดาของท่านมิได้เพ้อหลงสติอย่างที่ท่านเข้าใจ แต่ที่นางเรียกท่านว่าน้องชายนั้น ก็เพราะท่านเป็นเพียงพระโสดาบัน แต่ธิดาของท่านเป็นพระสกทาคามี เป็นอริยบุคคลสูงกว่าท่าน และบัดนี้ นางได้ไปเกิดเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว นี่แหละคฤหบดี ธรรมดาบุคคลไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิตก็ตาม ถ้าอยู่ด้วยความประมาท ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ก็ย่อมเสวยสุขเพลิดเพลินทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ”

    อนาถ บิณฑิกเศรษฐีได้ฟังพระพุทธดำรัสแล้วหายจากความเศร้าโศกเสียใจ กลับได้รับความปีติเอิบอิ่มใจขึ้นมาแทน เมื่อควรแก่เวลาแล้วก็กราบทูลลากลับสู่เคหสถานของตน

    เพราะ ความที่อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นผู้ที่มีศรัทธามั่นคงไม่หวั่นไหวฝักใฝ่ในการทำบุญให้ทาน ไม่มีผู้ใดจะเปรียบเทียบได้ พระพุทธองค์จึงทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าอุบาสกททั้งหลาย ในฝ่าย ผู้เป็นทายก.


    --------------------------------------------------------------------------------

    * ในมโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกายว่า ค่าที่ดินและก่อสร้างอย่างละ ๑๘ โกฏ ใช้ในการฉลองวิหาร อีก ๑๘ โกฏ รวมทั้งหมด ๕๔ โกฏ

    ที่มา : http://www.sil5.net/<wbr>index.asp?catid=2&contentID=100<wbr>00004&getarticle=13&title=%BB%<wbr>C3%D0%C7%D1%B5%D4+%CD%B9%D2%B6<wbr>%BA%D4%B3%B1%D4%A1%E0%C8%C3%C9<wbr>%B0%D5



    -http://palungjit.org/posts/5369595-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    กับดักไล่ยุง-แมลงร้ายจากตะไคร้หอม

    วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    บ้านไหนยุงชุม-แมลงบินว่อนสร้างความรำคาญใจ เกร็ดความรู้วันนี้ชวนทำ “กับดัก” แบบง่าย ๆ กำจัดเร็วทันใจด้วย “ตะไคร้หอม”
    “ตะไคร้หอม” เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1.2 เมตร แตกเป็นกอ เหง้าใต้ดินมีกลิ่นเฉพาะ ใบยาว และนิ่มกว่าตะไคร้แกง ปลายใบจึงห้อยลงปรกดินมาก ทั้งยังเนื้อแข็ง และกลิ่นฉุนกว่า กาบใบสีเขียวปนม่วงแดง ดอก-ช่อสีน้ำตาลแดง มีกลิ่นหอมบริเวณรอยต่อระหว่างใบ และกาบ

    ในน้ำมันตะไคร้หอม (Citronella Oil) พบสารสำคัญคือ Citronella ซึ่งมีสรรพคุณไล่ยุง และแมลง เพียงใช้ตะไคร้หอมประมาณ 4-5 ต้น นำมาทุบ แล้ววางทิ้งไว้ในห้องมืด หรือ บริเวณมุมบ้านที่มียุงชุม และแมลงเยอะ เมื่อน้ำมันหอมระเหยส่งกลิ่นโชย ทั้งยุง และแมลงก็จะหนีไปหมด โดยกลิ่นพิฆาตนี้สามารถออกฤทธิ์นานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  13. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ป้องกันเชื้อโรคเชื้อราขณะล้างบ้านหลังน้ำลด

    วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    หลังจากน้ำลดลง บางพื้นที่เจ้าของบ้านสามารถเดินทางกลับเข้าบ้านอันแสนรักของตนเองได้แล้ว โดยหลังจากสำรวจความเสียหายของโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นน้อยใหญ่แล้ว งานช้างที่ต้องทำก็คือ การทำความสะอาดบ้าน หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์

    นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่และโฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ที่จะทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ควรระวังเชื้อโรค เชื้อรา ที่อาจมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเชื้อราที่เกาะตามส่วนต่างๆ ของบ้าน อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อหรือมีอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่ดี

    ทั้งนี้ หลังน้ำลด อาคารและบ้านจะมีเชื้อราเกาะตามบริเวณที่ชื้นอับ เชื้อราเหล่านี้จะปล่อยละอองสารบางอย่างล่องลอยในอากาศทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา จมูก ภูมิแพ้ หรือโรคระบบทางเดินหายใจในคนได้โดยเฉพาะผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ

    กรมควบคุมโรคจึงแนะนำหลักการทำความสะอาดเชื้อราในบ้านหลังน้ำลด โดยผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิต้านทานไม่ดี เช่น ป่วยเบาหวาน กินยาสเตียร์ลอยด์ ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ทานยากดภูมิต้านทาน ผู้ป่วยที่รักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือยา หรือมีโรคหอบ หืด ประจำตัว รวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรเข้าไปในบ้านก่อนที่จะมีการทำความสะอาดจนเรียบร้อย

    ก่อนทำควรเปิดหน้าต่างให้มีอากาศถ่ายเทดีอย่างน้อย 30 นาที สวมหน้ากากอนามัย สวมถุงมือ แว่นตาครอบ รองเท้ายาง เพื่อมิให้สัมผัสกับเชื้อราที่ล่องลอยในอากาศหรือตามพื้น ให้หยุดพักออกมาหายใจอากาศบริสุทธิ์ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการสูดดมเชื้อรา

    การทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแรงดันสูงฉีด เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจาย ควรใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อออกดีแล้วควรเช็ดตามด้วยน้ำผสมคลอรีนหรือน้ำยาฟอกผ้าขาวที่มีขายทั่วไป

    ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำความสะอาดแล้วควรนำมาตากแดดให้แห้งสนิท ควรให้แดดส่องเข้าบ้าน เพื่อไล่ความชื้นให้หมด

    ส่วนเครื่องปรับอากาศไม่ควรเปิดก่อนการทำความสะอาดโดยเด็ดขาด เพราะเชื้อโรคจะถูกดูดเข้าไปในระบบปรับอากาศ และกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อได้ และควรจะเปลี่ยน filter ของเครื่องปรับอากาศด้วย

    ภายหลังกิจกรรมทำความสะอาดหรือเข้าอยู่อาศัยแล้ว หากมีสมาชิกในบ้านโดยเฉพาะเด็ก คนชรา คนที่มีโรคประจำตัว มีอากาศระบบทางเดินหายใจ มีอาการแพ้ไอ หอบ เหนื่อย หรือโรคประจำเดิมกำเริบ ควรปรึกษาสถานบริการสุขภาพใกล้บ้าน.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ศาสดาของทุกๆศาสนา ย่อมมีความสำคัญต่อบุคคลที่เป็นที่รักและเคารพของศาสนิกนั้นๆ คนถ้าจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขก็ต้องพึงระลึกนึกถึงความรู้สึกของบุคคลอื่น แล้วนี่เป็นสิ่งเคารพสูงสุดของชาวพุทธไปอยู่ในที่ไม่อันควร ถ้าเป็นศาสดาของเขา เขาจะคิดอย่างไร ผมว่าถ้าเป็นศาสนาอิสลามคงต้องโดนหนักแน่ๆ แต่เราชาวพุทธถือกรรมเป็นใหญ่ แกทำแกก็รับไปนะจ๊ะ เงินคงกันนรกไม่ได้หลอกผมว่า 555
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ร้านภูฟ้าเผยภาพฝีพระหัตถ์ พญานาคราช อ่อนน้อมแม้ทรงฤทธิ์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]




    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    ในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา 15.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดร้านภูฟ้า สาขาเพียวเพลส รามคำแหง 110 เป็นสาขาที่ 16 เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านในโครงการส่งเสริมอาชีพตามพระราชดำริ ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากฝีมือเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

    ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 10 ปี ร้านภูฟ้าร่วมฉลองศักราชใหม่ 2555 ด้วยชุดสินค้าภาพฝีพระหัตถ์ “สุขสมบูรณ์ สวัสดีปีมะโรง” เป็นภาพ “พญานาคและแมงป่อง” ที่ร้านภูฟ้าได้รับพระราชทาน ประกอบลายพระหัตถ์โคลงโลกนิติ ซึ่งเป็นสุภาษิตเก่าแก่ที่บรรพบุรุษของไทยนำมาเป็นคำสอนในการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องดีงาม ในบทที่ว่าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนของพญานาคราช ทั้งๆ ที่มีฤทธิ์ปานพระอาทิตย์ ผิดกับแมงป่องซึ่งมักโอ้อวดว่าตัวมีฤทธิ์เดชมากมายทั้งที่มีพิษเพียงน้อยนิด

    พร้อมทั้งพรพระราชทาน “สวัสดีปีมะโรง ๒๕๕๕” ลายพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อวยพรให้ทุกคนมีความสุขสวัสดี ตลอดปีมะโรง ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นปีแห่งพญานาคราช สัญลักษณ์สำคัญของน้ำซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตไทยตลอดมา คนไทยถือพญานาคมีอำนาจยิ่งใหญ่ เป็นผู้ดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลอย่างพอเพียงและพอเหมาะ สร้างความสุขความอุดมสมบูรณ์ มอบให้ชาวไทยทุกคน ในปีมะโรง ๒๕๕๕ นี้

    ร้านภูฟ้าอัญเชิญภาพวาดฝีพระหัตถ์มาจัดทำเป็นคอลเลคชั่น “สุขสมบูรณ์ สวัสดีปีมะโรง” ประกอบด้วยเสื้อยืดโปโล 5 สี คือ สีชมพู สีเขียว สีฟ้า สีเหลืองและ สีอิฐ เสื้อยืดทีเชิ้ต สีน้ำเงิน สีขาว เสื้อแจ๊กเก๊ต สีน้ำเงินและสีเทา บัตรอวยพรปีใหม่ แก้วกาแฟ เหยือกน้ำ กระติกน้ำ สมุดบันทึก สมุดฉีก ปากกา นาฬิกาแขวน นาฬิกาพก ผ้าขนหนู ร่มและอื่นๆ



    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1qQXlPVFV5TVE9PQ==&sectionid=-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เดี๋ยวเขาก็อ้างว่า ก็ไปสั่งให้โรงงานทำ พระในบาร์ยังไม่ได้เข้าพิธี แค่เอามาตั้งประดับเฉยๆ ทางตะวันออกกลางก็มองเป็นของประดับตกแต่งไปยังงั้น

    ป่วยการจะไปขุดรื้ออธิบายใดๆให้เข้าใจ ตราบใดที่จิตยังหยาบเกินจะเข้าถึงทางสายพระนิพพาน วัฏสงสารของภพชาติก็คงดำเนินต่อไป ไปพบเจอความจริงที่ปรโลก ยังอาจจะคิดว่าฝันไป กรรมใครกรรมมัน ...
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    มันทำแบบนี้ไม่ไหว

    แย่มากครับ

    :mad: :mad: :mad: :mad: :mad: :mad: :mad: :mad: :mad: :mad:

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    นิทานเซน : ความว่างเปล่า



    มีนิทานเซนที่น่าสนใจหลายเรื่อง เกี่ยวกับ "ซูตงโพ(苏东坡)" ยอดนักกวีและนักปกครองในสมัยซ่งใต้ เรื่องหนึ่งเล่าเอาไว้ว่า...

    ครั้งหนึ่งซูตงโพได้ยินว่า อาจารย์เซนฝออิ้น ณ วัดจินซานขึ้นแสดงธรรมเทศนา เขาจึงรีบเดินทางมาฟังธรรมที่วัด ทว่าเมื่อมาถึง ปรากฏว่าศาสนิกชนล้วนมาจับจองที่นั่งฟังธรรมกันจนเต็มบริเวณไปหมดแล้ว เมื่ออาจารย์เซนฝออิ้น เห็นซูตงโพจึงเอ่ยทักว่า "ผู้คนนั่งเต็มแล้ว ในที่นี้ไม่มีที่นั่งสำหรับท่านแล้ว"

    ซูตงโพพอได้ฟังก็โต้ตอบอาจารย์เซนโดยเหน็บแนมแฝงธรรมมะที่คิดว่าตน เองเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งกลับไปว่า "ในเมื่อไม่มีที่ว่างให้นั่ง งั้นข้าขอนั่งบน ธาตุ4 ขันธ์5 ของท่านอาจารย์ก็แล้วกัน" (ธาตุ4 หมายถึงวัตถุอันเป็นที่ตั้งมูลฐานของสิ่งทั้งปวงประกอบด้วย ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ส่วนขันธ์5 หรือ เบญจขันธ์ หมายถึง กองแห่งรูปธรรมและนามธรรมห้าหมวดที่ประชุมกันเข้าเป็นชีวิต ประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์)

    อาจารย์เซนฝออิ้น จึงตอบกลับมาว่า "อาตมามีคำถามข้อหนึ่ง หากท่านตอบได้ พระชราเช่นอาตมาจะยอมให้ท่านนั่งบนร่างกายของอาตมา แต่หากตอบไม่ได้ ท่านจงมอบชิ้นหยกประดับเข็มขัดของท่านให้กับวัดเป็นที่ระลึกเถิด"

    ซูตงโพได้ยินดังนั้นก็รับคำท้าทันทีเพราะมั่นใจในสติปัญญาของตนว่าอย่างไรก็ต้องชนะ

    อาจารย์เซนฝออิ้นจึงเอ่ยถามขึ้นทันที่ว่า "ในเมื่อธาตุทั้ง4 ล้วนว่างเปล่าอยู่แต่เดิม ขันธ์5 ก็ไม่มีอยู่ แล้วท่านจะนั่งที่ใดกันเล่า?"

    ซูตงโพได้ฟังคำถามจึงค่อยเข้าใจว่าตนเองพลาดพลั้งให้กับอาจารย์เซน แล้ว สุดท้ายจึงได้แต่มอบหยกประดับเข็มขัดให้กับทางวัดเป็นที่ระลึกไป

    ปัญญาเซน : ธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง ล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปอยู่ทุกขณะ ตามหลักไตรลักษณ์ นั่นคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


    ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4


    -http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9540000149102-

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    นี่ก็แย่มากพอกัน

    พวกที่โพสหมิ่นในหลวง

    บัดซบพอกัน


    --------------------------------------------------------


    แฉมือโพสต์ภาพหมิ่น “อนุดิษฐ์” ตั้งเป็นคณะทำงานสื่อออนไลน์ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 พฤศจิกายน 2554 16:30 น.</td></tr></tbody></table>


    มัลลิกา” เผยภาพมือโพสต์หมิ่นเบื้องสูง แฉรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที แต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ ชี้ เคยถูกจับกุมมาแล้ว จ่อฟ้อง “ปู” จัดการ

    <center>[​IMG]</center>

    วันนี้ (23 พ.ย.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว พร้อมกับนำภาพ นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล ที่ พ.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงไอซีที เป็นผู้แต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีเว็บไซต์หมิ่นสถาบันอย่างมากมาย โดยใช้ชื่อ “มหาบอดข้างซ้าย” ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมมาแล้วเป็นผู้โพสต์สื่อออนไลน์

    ทั้งนี้ จะทำเรื่องเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เพื่อรับทราบและดำเนินการต่อไป

    อย่างไรก็ตาม น.ส.มัลลิกาได้อธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมผ่านทางทวิตเตอร์ @MallikaBoon โดยกล่าวว่า ชมรมนักรบไซเบอร์ FightBadWeb@gmail.com เมลนี้โดยตนพร้อมนักท่องเว็บปกป้องสถาบัน นักรบไซเบอร์จะร่วมกันปกป้องสถาบัน ขจัดเว็บหมิ่น การพนัน ยาเสพติด หลอกลวง ลามกอนาจาร และด้านความมั่นคง โดยห้ามส่งลิงค์บน Wall ทุกแห่ง ว่าห้ามแพร่ ห้ามแชร์ ห้ามเอาเว็บไปแปะๆ ให้เพื่อนเพราะจะผิด พ.ร.บ.แต่ให้ส่งไอซีทีหรือแจ้งแล้วไม่ได้เรื่องให้ส่งมาที่ FightBadWeb@gmail.com ซึ่งตนเป็นผู้ตั้ง

    “งานที่นักท่องเว็บและชมรมนักรบไซเบอร์ที่กำเนิดโดยมัลลิกา จะทำหน้าที่แทนเมลส่วนตัวอันแรก ล่าสุดจากที่รับแจ้ง 2 วันบนเมล์ส่วนตัวมีแล้วกว่า 200 เพจหรือ URL กำลังส่งให้เจ้าพนักงาน และจะส่งนายกฯ กับ รมว.ไอซีที เพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมาย ดิฉันในฐานะผู้นำชมรมนักรบไซเบอร์ ขอความร่วมมือจากฟอลโลเวอร์ (ผู้ติดตามในทวิตเตอร์) เพื่อนในเฟซบุ้ค และทุกคนช่วยกันดึงมา แต่อย่ากดไลค์ ถ้าเจอให้แจ้งเป็นสแปมก่อน ใครไม่หยุด ดิฉันจะขอความร่วมมือ รมว.ไอซีที ขอเจ้าหน้าที่บุกจับ ถ้า รมต.ไม่ไปก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ของหน่วยอื่นไปจับ” น.ส.มัลลิกากล่าว

    น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า ถ้า 200 URL ที่กำลังส่งให้ รมว.ไอซีที ไม่มีปิด ไม่จับ ไม่เป็นผล ตนจะให้ทนายพรรคประชาธิปัตย์ช่วยดำเนินคดีอาญา รมต.มาตรา 157 ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งตนและชมรมนักรบไซเบอร์ทำหนังสือขอพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หนังสือจะไปส่งพรุ่งนี้ ถ้าได้พบจะขอเปิดเว็บหมิ่น ให้นายกฯ ดูเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้สิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องการเมือง นี่คือภารกิจคนไทยหัวใจรักในหลวงพร้อมเอาชีวิตปกป้องสถาบัน

    “ดิฉันร้องไห้เมื่อเห็นคลิปตัดต่อทำร้ายท่าน ดิฉันเชื่อ เมื่อดิฉันเปิดให้นายกฯ ดูหรือถ้าได้ข้อมูลจากดิฉันแล้ว นายกฯ ปูคงร้องไห้ในฐานะหญิงไทยที่มีความอ่อนไหวเช่นกัน ดิฉันขอประกาศและแสดงความจริงใจว่าจะให้ความร่วมมือท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์เรื่องนี้ เรื่องเว็บหมิ่น ขบวนการทำลายสถาบันและในหลวง เราจะช่วยท่าน” น.ส.มัลลิกากล่าวปิดท้าย

    <center>[​IMG]</center>

    <center>[​IMG]</center>







    -http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000149474-

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เวลาเจอ Facke book page หมิ่นสถาบัน ต้อง นี่เลยยยย แก้เผ็ด


    [​IMG]

    เวลาเจอFacke book page หมิ่นสถาบัน พวกนี้ ห้าม โพส ห้าม ด่าหรือต่อว่า และ Comments เพราะ เพราะมันจะตามคุณไปอยู่ในหน้า Wall และ แถบด้านข้าง คุณ กลายเป็นว่า คุณไปช่วยกลุ่มคนพวกนี้ กระจายความ เสื่อมทางสมอง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการของคุณ
    ข้อที่ควรทำคือดังนี้
    - กด Report page
    - เลือก Violence or harmful behavior
    - เลือก Violent or Repulsive Content
    - เลือก Credible threat of violence
    หรือ Graphic violence
    - วินโดว์ใหม่ขึ้น กด check box report to Facebook
    - กด Continue
    - วินโดว์ใหม่ขึ้น กด Okey
    Report จะส่งไปทาง Team งาน FB และจะทำให้บุคคลนั้นโดน ลบ page ไปโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าครับ

    รูปภาพของ Kimmy Stone | Facebook


    [​IMG]

    เวลาเจอคลิป หมิ่นสถาบัน พวกนี้ ห้าม โพส ห้ามกด like/ unlike ห้าม ด่าหรือต่อว่า และ Comments เพราะจะทำให้ Automatic Calculation ในเว็บทำงานและทำให้ มันดันขึ้นกลายเป็น Recommended ในหน้าของคนที่ ชอบสิ่งประเภทนี้
    ข้อที่ควรทำคือดังนี้
    - กด Flag : Report this video as inappropriate
    - เลือก Select a reason
    - เลือก Violent or Repulsive Content
    - เลือก promotes terrorism
    - กด Submit video for review
    เมื่อส่งไปหลายๆคน ตามที่ทางเว็บตั้งไว้ ทาง Youtube จะหยุดการ เผยแพร่เพื่อตรวจสอบ อีกครั้งครับ

    รูปภาพของ Kimmy Stone | Facebook




    -http://www.tairomdham.net/index.php/topic,6665.msg27329/topicseen.html#msg27329-

    .



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...