พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    ผู้ว่าฯยันรับเงินชดเชยไม่ต้องถ่ายรูปบ้าน


    แอ่นอกรับผิด คนเดียว อ้างทำงานเหนื่อยเลยไม่รอบคอบ ต่อไปไม่มีหน 2 แน่ ส่วนการขอเงินชดเชย 5 พัน ไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปบ้านมาเป็นหลักฐาน

    เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้แถลงความผิดพลาดกรณีประกาศอพยพเขตพญาไท ทำให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวแตกตื่น เพราะกลัวน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้าน จนต้องอดหลับอดนอนมายืนเฝ้าดูน้ำในคลองบางซื่อ จากนั้นอีก 2 ชั่วโมงให้เจ้าหน้าที่มาบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด ทำให้ชาวบ้านต่างพากันด่ายับ ว่าซอยอินทามระฝั่งซ้าย ซอยประดิพัทธ์ฝั่งซ้าย และซอยวัดไผ่ตัน เขตพญาไท มีน้ำท่วมจริงแต่แค่ปลายซอยเท่านั้น ดังนั้นตนจึงลงนามยกเลิกประกาศดังกล่าว และต้องขอภัยประชาชนด้วย

    “ความผิดอยู่ที่ผม ผมมึนเองที่ออกพื้นที่ทั้งวัน ทุกคนต้องผิดพลาด หลักการทำงานของผมคือ ถ้าทำผิดต้องรับผิด เข้าใจว่าทุกคนก็เหนื่อย พอเหนื่อยอาจเกิดความไม่รอบคอบบ้าง ส่วนจะเชื่อมั่นหรือไม่ต้องถามประชาชน ถึงจะผิดก็ไม่ได้เกิดความเสียหายมากมาย แค่เสียความรู้สึก 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ต่อไปจะไม่ให้ผิดพลาดขึ้นอีก ส่วนการรับเงินเยียวยา 5,000 บาทนั้น ของกรุงเทพไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปบ้านเป็นหลักฐาน
    ส่วนสถานการณ์ในวันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ระบุว่า ระดับน้ำในเจ้าพระยาอยู่ที่ 2.34 เมตร คาดว่าจะลดลงเรื่อย ๆ จนถึงปลายเดือนนี้ ส่วนน้ำในคลองมีทรงตัวกับลดลง และพื้นที่บางแห่งแห้งแล้ว เช่น บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ส่วนถนนพระราม 2 ยังไม่มีปัญหาอะไร ตนได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งแล้ว ทำให้น้ำไม่แผ่เข้าเร็วมากนัก.



    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=354&contentID=176280-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ่า ลูกค้าผมที่บ้านโดนน้ำท่วม

    ไปติดต่อกับสำนักงานเขตแห่งหนึ่ง

    ทางสำนักงานเขตแห่งนั้นแจ้งว่า ต้องใช้รูปถ่ายบ้านที่ประสบอุทกภัย

    ก็เลยไม่ทราบว่า ทางสำนักงานเขตแห่งนั้น กับ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ใครจะใหญ่กว่ากัน





    .
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ลุงหนุ่มลุงข้างบ้านฝากถามว่าพระกริ่งปิดตาองค์นี้ ตาลุงได้จากลุงหนุ่มช่ายปล่าวครับ หุ หุ (ปู่ 1ปล่าวครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ชาวปทุมฯ แจ้งพบงูคล้ายกรีนแมมบ้า รอตรวจสอบ


    -http://pet.kapook.com/view32826.html-



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    ชาวปทุมฯ แจ้งพบงูคล้ายกรีนแมมบ้า (ไอเอ็นเอ็น)

    ชาวปทุมธานี พบงูคล้ายกรีนแมมบ้า ที่บริเวณ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ก่อนถูกชาวบ้านไล่ตีจนตาย รอ จนท. ตรวจสอบ

    วันนี้ (15 พฤศจิกายน) นายสมบูรณ์ ปานย้อย อดีตนายก อบต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า นายจำลอง รื่นรมย์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงไก่ชน พบงูที่มีลักษณะคล้ายงูกรีนแมมบ้า บริเวณต้นไทรต้นใหญ่ในบริเวณบ้าน เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ นายจำลอง เล่าว่า ตนได้พบนกกระจอกร้อง และเห็นงูเขียวฉกนกตายทันที และงูได้กลืนนกเข้าไปแล้ว ทำให้ตนเห็นงูสีเขียวทั้งตัว และเหมือนที่เห็นในหนังสือพิมพ์ออกข่าวว่า มีงูกรีนแมมบ้า หลุดออกมาจำนวน 15 ตัว ตนจึงได้ใช้บันไดตั้งขึ้น นำฉมวกปีนบันไดขึ้นไปไล่แทงงู 4 - 5 ครั้ง ก่อนที่งูจะตกลงมา ตนจึงนำท่อพีวีซีไล่ตี แต่งูเขียวไล่ฉก ตนจึงได้ตีงูจนเสียชีวิต แล้วนำงูไปให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทียนทวาย ช่วยดู ซึ่งทุกคนต่างบอกว่าไม่เคยพบเห็นงูเขียวแบบนี้

    สำหรับลักษณะงูที่พบดังกล่าว ลำตัวยาว 1.60 เมตร ลำตัวใหญ่กว่านิ้วโป้งมือ จับชั่งน้ำหนักได้ 4 ขีด เมื่อจับหงายท้องดู พบว่าใต้ท้องมีเส้นสีขาวจำนวน 2 เส้น ยาวตั้งแต่ต้นคอไปถึงปลายหาง หัวงูยาวแหลม และเมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับคำตอบว่า ยังไม่ยืนยันว่าจะเป็นงูกรีนแมมบ้า เนื่องจากตัวงูยังมีขนาดเล็กกว่างูกรีนแมมบ้า ซึ่งจะมีลำตัวใหญ่กว่านิ้วโป้งเท้า จึงจะต้องขอดูงูตัวที่ตีตายก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นงูอะไร โดยนายจำลอง รื่นรมย์ เจ้าของงู ได้นำงูแช่ตู้เย็นไว้ เผื่อว่ามีหน่วยงานไหนสนใจจะนำงูไปตรวจสอบ ก็สามารถมารับงูไปตรวจสอบได้



    [​IMG]


    [7 พฤศจิกายน] ศปภ.ตั้งรางวัลนำจับงูกรีนแมมบ้าตัวละ 5 หมื่น


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม



    โฆษก ศปภ. ตั้งรางวัลนำจับงูพิษ กรีนแมมบ้า ตัวละ 5 หมื่นบาท แต่เชื่อแค่ข่าวลือ ตั้งข้อสังเกตงู 15 ตัว มูลค่ากว่า 1.5 ล้าน คงไม่ปล่อยหลุดมาง่าย ๆ

    วันนี้ (7 พฤศจิกายน) นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษก ศปภ. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากมีข่าวลือเรื่องงูกรีนแมมบ้า งูมีพิษร้ายแรงที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาในประเทศ หลุดออกจากกรงเลี้ยงจำนวน 15 ตัว ย่านปากเกร็ดนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ข่าวดังกล่าวอาจเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะมีการตรวจสอบไปที่ด่านกักกันสัตว์ ไม่พบว่ามีการนำเข้างูมีพิษดังกล่าว แต่หากใครฝ่าฝืนนำเข้ามา จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพื่อความไม่ประมาท ขณะนี้ทางสถานเสาวภาได้มีการสำรองเซรุ่มแก้พิษงูชนิดนี้แล้ว

    นอก จากนี้ นายวิม ยังวิเคราะห์อีกว่า งูดังกล่าวน่าจะมีมูลค่าตัวละ 1 แสนบาท มีทั้งหมด 15 ตัว รวมเป็น 1.5 ล้านบาท เจ้าของคงจะไม่ปล่อยให้หลุดออกมาง่าย ๆ ทั้งยังกล่าวอีกว่า หากใครจับงูกรีนแมมบ้าได้ สามารถนำมารับรางวัลได้ ตัวละ 5 หมื่นบาท

    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หาต้นตอคนปล่อยข่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนิสิตปี 2 คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ใช่ชื่อในเฟซบุ๊คว่า "snakehunter snakelover" แต่เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างว่าเป็นเพียงบุคคลที่ 3 เท่านั้น




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG] [​IMG]

    [5 พฤศจิกายน] สธ.เผยเซรุ่มแก้พิษงูกรีนแมมบ้า ถึงไทยแล้ว


    สธ.เผย เซรุ่มแก้พิษงูกรีนแมมบ้าถึงไทยแล้ว ด้านแพทย์จุฬาฯ แจง ไม่ต้องวิตก หากถูกกัดก็รักษาได้

    เมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสั่งนำเข้าเซรุ่มแก้พิษงูเขียวเเมมบ้าว่า ได้นำเข้าเซรุ่มดังกล่าวจากประเทศแอฟริกาใต้จำนวน 50 โดส มูลค่า 3 แสนบาท โดยได้จัดส่งมาถึงประเทศไทยเมื่อเวลา 19.00 น. แล้ว

    สำหรับ การบริหารจัดการเซรุ่มดังกล่าวนั้นจะกระจายไป 3 จุด คือ สถานเสาวภาสภากาชาดไทย องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี แม้ในขณะนี้จะยังไม่พบว่ามีประชาชนถูกงูเขียวแมมบ้ากัดก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการเตรียมการป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากบางพื้นที่เสี่ยงต่อการเป็นพื้นที่อาศัยของงูมีพิษ

    นอกจากนี้ นายวิทยา เปิดเผยต่อไปว่า มีผู้เสนอแนวทางให้ประเทศไทยมีการผลิตเซรุ่มแก้พิษงูเขียวแมมบ้าใช้เอง แต่ขณะนี้ สธ.ต้องขอเวลาในการพิจารณาเสียก่อน ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ก็จะมอบหมายให้สถานเสาวภาเป็นผู้ดำเนินการ

    ขณะ ที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมอง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า ไม่อยากให้วิตกกังวลหากถูกงูกรีนแมมบ้ากัด เพราะถึงไม่มีเซรุ่มก็รอดตายได้ เนื่องจากพิษทำให้กล้ามเนื้อทั้งตัวอ่อนแรงและหายใจเองไม่ได้ กลอกตา กะพริบตาไม่ได้ เหมือนคนตาย ทั้ง ๆ ที่รู้ตัวอยู่ตลอด วิธีรักษาคือ ให้ช่วยหายใจ เป่าปาก หรือหาลูกยางเป่าลมผ่านที่ครอบปากจมูก (ambu bag) และสอดท่ออากาศเข้าในหลอดลม (endotracheal tube) ถ้าไม่มีเครื่องช่วยหายใจ ก็ให้บีบอากาศผ่านทางลูกยาง ซึ่งผู้โดนกัดอาจหายใจเองไม่ได้เป็นวันหรืออาทิตย์ แต่กลับคืนสู่ปกติได้ 100 เปอร์เซ็นต์


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG]


    [4 พ.ย.] ทส.เผยไม่พบที่มางูกรีนแมมบ้า เชื่อเป็นข่าวป่วน

    รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เผยสั่งตรวจสอบข่าวงูกรีนแมมบ้าแล้ว ไม่พบที่มา เชื่อเป็นข่าวปล่อยก่อกวนทางเฟซบุ๊ก สืบทราบเป็นนิสิต ม.เกษตรฯ

    หลัง จากมีข่าวลืองูพิษกรีนแมมบ้าหลุดออกจากกรงเลี้ยงย่านปากเกร็ด เผยแพร่ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนกระทั่งสื่อหลักทั้งหลายต่างพากันตีข่าวใหญ่โต เพราะงูดังกล่าวไม่ใช่งูพื้นถิ่นในประเทศไทย ต้องนำเข้า แถมยังมีพิษร้ายแรงอันตรายถึงชีวิต ที่สำคัญคือประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มแก้พิษงูชนิดนี้อีกด้วย ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องสั่งนำเข้าอย่างเร่งด่วน โดยเซรุ่มดังกล่าวมีกำหนดส่งถึงไทยในวันนี้ (4 พฤศจิกายน)

    ด้าน นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ว่า ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่พบแหล่งที่มาแต่อย่างใด ตนเชื่อว่าอาจเป็นเพียงข่าวปล่อยตามเฟซบุ๊กที่พยายามสร้างความแตกตื่นเท่า นั้น ซึ่งโดยปกติไม่ค่อยมีใครนำเข้าประเทศอยู่แล้ว เพราะเป็นงูพิษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    อย่างไรก็ตาม ทาง เจ้าหน้าที่องค์การสวนสัตว์ ได้สืบต้นตอของผู้โพสต์ข้อความเรื่องงูกรีนแมมบ้า จนทราบเบื้องต้นว่า เป็นนิสิต ปี 2 คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใช้ชื่อแฝงในอินเทอร์เน็ตว่า "snakehunter snakelover" โดยเจ้าตัวอ้างว่า เป็นบุคคลที่ 3 ที่ทราบเรื่องมาจากเพื่อนเพราะมีเจ้าของโทรศัพท์มาปรึกษาว่างูหลุดจากกรง แต่ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยว่าเจ้าของงูที่แท้จริงคือใคร


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG]



    [​IMG]
    งูกรีนแมมบ้า



    [3 พ.ย.] ตั้งทีมล่า งูกรีนแมมบ้า - สธ.สั่งนำเข้าเซรุ่มด่วน


    ผู้ว่าฯ นนท์ ตั้งทีมล่างูกรีนแมมบ้า แนะคนพบเห็นให้รีบแจ้ง 1131 หรือ 1362 อย่าจับเอง ด้าน สธ.สั่งนำเข้าเซรุ่มแก้พิษแล้ว

    จากกรณีที่มีข่าวว่า งูกรีนแมมบ้า งูพิษสายพันธุ์แอฟริกาหลุดออกจากกรงของฟาร์มเลี้ยงงูในย่านปากเกร็ดถึง 15 ตัว สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คน เนื่องจากงูกรีนแมมบ้าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง หากถูกกัดมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นั้น

    ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ออกมาระบุว่า ทางจังหวัดได้เร่งประชุมจัดการเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงูพิษจัดตั้งทีมไล่ล่า พร้อมกับลงพื้นที่สำรวจหาแหล่งที่งูกรีนแมมบ้าหลุดออกมา และตรวจสอบข่าวลือที่ว่า สามารถจับงูกรีนแมมบ้าได้แล้ว 1 ตัว เนื่องจากสอบถามไปก็ไม่พบหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า มีใครสามารถจับงูดังกล่าวได้จริง

    ทั้งนี้ นายวิเชียร ยังได้เตือนประชาชนด้วยว่า หากพบเห็นงูต้องสงสัยว่าเป็นงูกรี นแมมบ้า ซึ่งจะมีสีสดกว่างูเขียวทั่วไป ขอให้แจ้งมาทางสายด่วน ศปภ.ของจังหวัดนนทบุรี หมายเลข 1131 หรือที่หมายเลข 1362 ซึ่งเป็นเบอร์ของชมรมสัตว์แพทย์สัตว์ป่าและสวนสัตว์ ให้เข้ามาจับงูดังกล่าว อย่าจับเองหรือเข้าไปตีโดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และในประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มแก้พิษงูกรีนแมมบ้า

    ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่บอกกันปากต่อปาก ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งนำเข้าเซรุ่มแก้พิษงูดังกล่าวแล้ว ซึ่งเซรุ่มจะมาถึงประเทศไทยพรุ่งนี้ (4 พฤศจิกายน)

    ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อถูกงูกัดว่า ขอให้จดจำลักษณะของงูที่กัดไว้ หรือตีงูให้ตาย แล้วนำไปให้แพทย์ดู เพื่อจะได้ให้เซรุ่มได้ตรงกับชนิดของงู พร้อมกับขอให้สังเกตรอยแผลที่งูกัด ด้วย คือ ถ้าเป็นงูพิษ รอยแผลจะเป็น 1-2 เขี้ยว และอาการพิษจะปรากฏภายใน 10-15 นาที แต่หากเป็นงูไม่มีพิษ รอยแผลจะเป็นรอยฟันเรียงกันเป็นแถว หรืออาจเป็นเพียงรอยถลอกธรรมดา

    สำหรับวิธีปฐมพยาบาลนั้น เบื้องต้นผู้ป่วยต้องนอนนิ่ง ๆ ปลอบใจให้คลายความตื่นเต้น และนำผ้า เชือก ความกว้างประมาณ 2 นิ้วมารัดให้แน่นเหนือบาดแผล 5-10 เซนติเมตร คลายทุก 10-15 นาทีเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อตาย จากนั้นรีบนำส่งแพทย์ทันที และขณะที่นำส่งแพทย์ต้องจัดอวัยวะที่ถูกงูกัดให้ต่ำกว่าหัวใจ พร้อมกับคอยปลุกให้ตื่นตลอดเวลา และห้ามดื่มสุรา หรือยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นหัวใจเด็ดขาด เพราะจะทำให้พิษงูแพร่ไปทั่วร่างกาย


    [​IMG] เผยไทยไม่มีเซรุ่ม งูกรีนแมมบ้า แนะเลี่ยงใกล้ต้นไม้

    ผอ.สวน สัตว์แนะชาวปากเกร็ดเลี่ยงใกล้ต้นไม้ หลังมีข่าวงูกรีนแมมบ้าหลุดน้ำท่วม โดยเน้นว่าเพื่อความปลอดภัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังงูชนิดนี้ เนื่องจากมีพิษร้ายแรงคล้ายกับงูเห่า ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มรักษา

    นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามตรวจสอบทางเว็บไซต์ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งของข่าวสารสถานการณ์ น้ำท่วมทราบว่ามีงูพิษกรีนแมมบ้า จำนวน 15 ตัว หลุดออกมาในย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าบุคคลใดนำเข้ามา เป็นงูอยู่ในแถบแอฟริกา แต่เพื่อความปลอดภัยขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังงูชนิดนี้ เนื่องจากมีพิษร้ายแรงคล้ายกับงูเห่า ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มรักษา

    ทั้งนี้ ต้องเร่งสืบหาผู้เป็นเจ้าของว่าการนำงูเข้ามาเลี้ยง มีใบอนุญาตตามกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งจะสอบถามว่ามีเซรุ่มของงูชนิดนี้หรือไม่ โดยระยะนี้ประชาชนย่านปากเกร็ดไม่ควรเข้าใกล้พุ่มไม้หรือต้นไม้ยามค่ำคืน เพราะงูกรีนแมมบ้าอาศัยอยู่บนต้นไม้ และ หากถูกงูกัดให้ใช้ผ้ารัดเหนือบาดแผลไม่ให้พิษเข้าสู่หัวใจ พร้อมรีบพบแพทย์ทันที และขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งชุดติดตามจับงูพิษชนิดนี้แล้ว หากประชาชนพบเห็นหรือสงสัยเป็นงูกรีนแมมบ้าให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]




    [2 พฤศจิกายน] ระวัง! งู Green Mamba มีพิษร้ายหลุดกรงน้ำท่วม 15 ตัว


    [​IMG]
    งูกรีนแมมบ้า

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Wikipedia โดย คุณ Danleo

    งูพิษกรีนแมมบ้า 15 ตัว หลุดจากที่เลี้ยงย่านปากเกร็ด หลังบ้านถูกน้ำท่วม สัตวแพทย์เตือนพิษร้ายถึงชีวิต หากพบโทรแจ้ง 1362 หรือ จส.100 ที่สายด่วน 02-7119160

    วันนี้ (2 พฤศจิกายน) ทีมสัตวแพทย์ได้แจ้งมายัง จส.100 ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้พบว่า งูกรีนแมมบ้า หรือ งู Green Mamba ซึ่งเป็นงูที่นำเข้าจากต่างประเทศและมีพิษร้ายแรง หลุดออกจากบ้านของผู้ที่เลี้ยงไว้ซึ่งถูกน้ำท่วมแล้วที่ย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 15 ตัว ประกอบด้วย ตัวพ่อและแม่ ความยาว 2 เมตร ขนาดเท่างูจงอาง และตัวลูกอีก 13 ตัว ความยาว 1 เมตร

    ทั้งนี้ สัตวแพทย์ ได้เตือนว่า งูกรีนแมมบ้า นี้ มีพิษร้ายแรงมาก และอาจจะหลบซ่อนอยู่ตามต้นไม้ ดังนั้น หากใครพบเห็นงูสีเขียวลักษณะดังกล่าว ให้รีบแจ้งที่สายด่วน 1362 หรือโทรแจ้ง จส.100 ที่สายด่วน 02-7119160 และไม่แนะนำให้จับงูกรีนแมมบ้าเองเด็ดขาด เพราะอาจถูกฉกกัดจนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

    สำหรับ งูกรีนแมมบ้า (Green Mamba) นั้น เป็น งูสีเขียว ท้องสีขาวไปจนสีเหลืองหรือเขียว มีส่วนหัวสีเขียวเข้ม เกล็ดใหญ่ ตากลมโต มีรูปร่างเพรียวยาว โดยเฉลี่ยความยาวประมาณ 2 เมตร มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าทึบในทวีปแอฟริกา จัดเป็นงูประเภทมีพิษที่ร้ายแรงมาก เพราะหากถูกกัดแล้วรักษาไม่ทันมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง

    ทั้ง นี้ งูกรีนแมมบ้ามักจะออกหากินในเวลากลางวัน อาหารของมันคือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็ก ๆ รวมทั้งนก ซึ่งเวลาที่งูกรีนแมมบ้าจะกินเหยื่อนั้น มันจะกัดเหยื่อและปล่อยพิษ เพื่อให้เหยื่อตายเสียก่อน แล้วค่อยกินเป็นอาหาร



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    2snake2fish.com, twitter จส.100


    -http://pet.kapook.com/view32826.html-

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สสส.แนะ 10 วิธี ดูแลจิตใจผู้ประสบภัยช่วงน้ำท่วม



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    สสส.แนะ 10 เคล็ดลับดูแลจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระบุควรทำกิจกรรมร่วมกัน และหาอะไรทำจะช่วยสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้อย่างดี

    เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ คงทำให้หลาย ๆ คน รู้สึกเครียดจนเป็นทุกข์ ยิ่งน้ำท่วมกินเวลานานเท่าไหร่ ความเครียดและความทุกข์ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เช่นนั้นแล้ว เพื่อช่วยบำบัดความรู้สึกของทุกคน นพ.ประ เวช ตันติพิวัฒนสกุล ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ขอให้ทุกคนอดทน ทำใจยอมรับ พร้อมกับแนะนำวิธีดูแลจิตใจ 10 ขั้นตอน เพื่อฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน นั่นก็คือ

    [​IMG] 1. ตั้งสติมองทุกปัญหาว่ามีทางแก้ไข

    [​IMG] 2. หากท้อใจให้ค้นหาแหล่งสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ได้แก่ ความผูกพันกับครอบครัว ความศรัทธาทางศาสนา

    [​IMG] 3. ฝึกหายใจคลายเครียด

    [​IMG] 4. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย วันละ 6-8 ชั่วโมง

    [​IMG] 5. แปลงปัญหาเป็นโอกาสในการสร้างความผูกพันใกล้ชิดต่อกัน

    [​IMG] 6. บริหารร่างกายเป็นประจำ อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที วันเว้นวัน

    [​IMG] 7. ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา

    [​IMG] 8. มองหาโอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่น เข้าร่วมกิจกรรมชุมชน

    [​IMG] 9. คิดทบทวนสิ่งดี ๆ ในชีวิตเป็นประจำทุกวัน

    [​IMG] 10. จัดการปัญหาทีละขั้นทีละตอน ไม่จมไปกับปัญหาที่ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ หลีกเลี่ยงการใช้สุราหรือสารเสพติดในการจัดการความเครียดความทุกข์ใจ

    ทั้ง นี้ สำหรับผู้ประสบภัยที่อาจจะจากบ้านจากเมือง เข้าไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง อาจรู้สึกหมดกำลังใจ และซึมเศร้าได้ ดังนั้น นพ.ประเวช จึงได้แนะนำว่า ผู้ประสบภัยที่มาจากชุมชนเดียวกันควรจะได้อยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ เนื่องจากรู้จักกันดี และผู้บริการศูนย์ก็ควรมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้ผู้ประสบภัยแต่ละคน ด้วย ใครถนัดทำอะไรก็ทำสิ่งนั้น จะได้รู้สึกว่ามีอะไรทำ

    นอกจากนี้ หากผู้ประสบภัยที่ได้พักผ่อนเพียงพอ มีกำลังใจดีขึ้นแล้ว ก็ควรทำกิจกรรมที่จะสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยไม่ต้องรอคำร้องขอ จะช่วยให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น และสร้างกำลังใจที่เข้มแข็งเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีกด้วย



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์ และ สสส.

    [​IMG][​IMG]



    -http://health.kapook.com/view33226.html-



    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เผยรถเสียหายจากน้ำท่วม ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    เผยรถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี ขณะที่ชั้นอื่น ๆ ต้องหาหลักฐานยืนยัน และต้องเกิดจากพาหนะทางบกเท่านั้น

    นายพันธ์เทพ ชัยปริญญา ประธานชมรมสินไหมยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า การ นำรถยนต์ไปจอดไว้ที่สูง ซึ่งไม่ใช่ที่สำหรับจอดรถ อาทิ ทางด่วน สะพาน เพื่อหนีน้ำท่วมนั้น ถ้าหากเกิดความเสียหาย ก็ยังได้รับความคุ้มครองเฉพาะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น ขณะที่ชั้นอื่น ๆ จะคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุจากพาหนะทางบก ซึ่งทางผู้เสียหายต้องหาหลักฐานมาชี้แจงให้ได้ มิเช่นนั้นจะต้องรับผิดชอบความเสียหายเอง

    ขณะที่พื้นที่ที่น้ำลดลงไปแล้วอย่าง จ.พระนครศรีอยุธยา นายพันธ์เทพ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ กับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะอำนวยความสะดวก ด้วยการลงพื้นที่ตั้งจุดรับแจ้งเหตุสำหรับลูกค้า และคอยจัดการ ให้คำแนะนำในการซ่อมรถเบื้องต้น

    ทั้ง นี้ นายพันธ์เทพ หวังว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม จะทำให้มีคนซื้อประกันชั้น 1 มากขึ้น เพราะคุ้มครองความเสียหายทุกกรณี และในอนาคตมีแนวโน้มที่บริษัทประกันจะเพิ่มบริการที่จอดรถด้วย


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ประชาชาติธุรกิจ

    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/64761-

    .
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โทรไปถามน้องรักลุงหนุ่ม เค้าตอบว่าใช่ครับที่ผมฝากพี่ไว้เองครับ แหมน้องรักลุงหนุ่มนี่เผลอไม่ได้เลย หุ หุ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    [FONT=Tahoma,]รถทุกคัน พ้นทางด่วน16พย.

    เล็งเลื่อนเปิดเทอมธค. พระเทพทรงตั้งชื่อ"อุทก" ทารกเกิดในศูนย์พักพิง


    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    ทางใหม่ - ชาว บ้านต้องปีนบันไดชั่วคราวเพื่อไปขึ้นรถโดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ บริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เนื่องจากด้านล่างคือถ.วิภาวดีฯ ยังมีน้ำท่วมสูงจนรถไม่สามารถสัญจรผ่านได้

    </td></tr></tbody></table>สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯพระราชทานชื่อ "อุทก"ให้ทารกที่เกิดในศูนย์พักพิงที่ร.ร.นายร้อย พระจุลจอมจอมเกล้า การทางพิเศษฯสั่งเคลื่อนย้ายรถจอดบนทางด่วนภายใน 16 พ.ย.นี้ หากคันไหนไม่ย้ายลง จะใช้รถยกออกทั้งหมด "นายกฯปู"ร่วมหารือทูตจีน-ฮอลแลนด์ถึงแนวทางแก้ไขน้ำท่วม ก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองสิงห์หลังน้ำลด เผยต้องกู้ให้แล้วเสร็จใน 45 วัน "สุกำพล"คาดใช้เวลาพื้นฟูสนามบินดอนเมือง ได้ใน 2 เดือน ถนนสายเอเชียซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 ปี "วรรณรัตน์"ระบุหากนิคมเจ๊ง เตรียมเข้าเทกโอเวอร์ หลายนิคมเร่งสูบน้ำออก โรงงาน 12 แห่งในแฟคตอรี่แลนด์เริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าแล้ว

    "ปู"รอถกนายกฯจีน

    เมื่อ วันที่ 14 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากนั้นน.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยภายหลังเข้าพบว่า เป็นการหารือถึงกรอบความร่วมมือระหว่างไทยกับจีน ไม่ว่าจะเป็นกรณีรัฐบาลจีนมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือ โดยการประชุมอาเซียนซัมมิตวันที่ 18 พ.ย. ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมหารือกับนายเหวิน เจียเป่า นายกฯ ของจีน ถึงกรอบความร่วมมือและเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว รวมทั้งวางแผนยุทธศาสตร์จีน-ไทย ฉบับที่ 2 เรื่องการลงทุนและสาธารณูปโภค และการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม อาทิ การสร้างถนนไฮเวย์ไทย-จีน การเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟไทย-จีน ผ่านสปป.ลาว อีกทั้งจะขอคำแนะนำจากจีนในเรื่องการแก้ไขระบบน้ำแบบถาวร

    หารือทูตเนเธอร์แลนด์

    ต่อ มาเวลา 10.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมหารือกับนายยอห์นเนส แอนดรีส์ โบร์ เอกอัครราช ทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ โดยมีนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) พร้อมนายวีระ วงศ์แสงนาค ประธานคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำใน พื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง ร่วมหารือด้วย

    จากนั้นนายอานนท์ กล่าวว่า ประเทศเนเธอร์ แลนด์พร้อมช่วยเหลือเต็มที่และเสนอแนะให้มีเวทีระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อศึกษาแก้ไขปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบหรือวอเตอร์แฟร์ เบื้องต้นคาดว่าในเดือนก.พ.2555 เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญของเนเธอร์แลนด์แสดงความคิดเห็น ก่อนเสนอคณะกรรมการกยน. เพื่อรวบรวมจัดทำแผนแม่บทในการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี

    ฟื้นฟูเมืองสิงห์ใน 45 วัน

    ต่อ มาเวลา 16.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว. มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางมาที่องค์การบริหารส่วนตำบลประศุก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบเงินช่วยเหลือให้กับทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม รวม 13 ราย และมอบเมล็ดพันธุ์ข้าว กข 41 และพันธุ์เห็ดภูฏานให้กับตัวแทนเกษตรกร ก่อนจะนำขนมข้าวต้มมัดแจกประชาชนและขึ้นรถไถนา เพื่อปรับหน้าดินที่เพาะปลูกข้าว

    น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จะเร่งฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กลับมาสู่สภาวะปกติภายใน 45 วัน และจะเร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี

    จัดงบฟื้นฟูน้ำท่วมกรุง

    ที่ พล.ม.2 รอ. นายยงยุทธเปิดเผยว่า จากการหารือกับนายกฯ เห็นว่ากทม.มีสถานะพิเศษ ทำให้ไม่ได้รับงบช่วยเหลือในภาวะอุทกภัยเป็นเงิน 50 ล้านบาท เช่นเดียวกับจังหวัดอื่น นายกฯ จึงสั่งการให้ตนในฐานะกำกับดูแลกทม. จัดสรรงบ 50 ล้านบาทให้ เพื่อดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย หากไม่เพียงพอสามารถเสนอของบเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งหลังจากนี้ตนจะให้ ผู้ว่าฯกทม.สั่งการไปยังผอ.เขตทุกแห่ง เร่งสำรวจประชาชนที่เดือดร้อนและเข้าเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยา โดยเตรียมงบประมาณไว้เบื้องต้น 3,000 ล้านบาท โดยจะเบิกจ่ายตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    หว่านข้าว - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ โชว์การหว่านข้าวในนา ระหว่างนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปแจกให้ชาวนา จ.สิงห์บุรี ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำท่วมหนักจนนาข้าวเสียหายจำนวนมาก ตามข่าว

    </td></tr></tbody></table>

    สั่งกู้ดอนเมืองใน 60 วัน

    พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย (กคฐ.) เปิดเผยว่า การประชุมครม.ในวันที่ 15 พ.ย. จะขออนุมัติงบประมาณเร่งด่วน 17,946.44 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูสนามบินดอนเมือง ถนนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท รวมทั้งโรงเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ โดยในส่วนสนามบินดอนเมืองจะปรับปรุงทางวิ่งและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการบิน 489.2 ล้านบาท กรมทางหลวงปรับปรุงทางหลวงสายหลัก 708 สายทาง รวม 11,898 ล้านบาท โดยเฉพาะสายเอเชียที่ต้องแก้ไขภายใน 1 ปี ส่วนการปรับปรุงถนนทางหลวงชนบท 549 สายทาง รวม 4,594.3 ล้านบาท และกระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงโรงเรียนและครุภัณฑ์ 799 โรงเรียน รวม 964.94 ล้านบาท

    พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ในส่วนของสนามบินดอนเมืองจะดำเนินการกู้ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันหลังน้ำลด เพราะสนามบินดอนเมืองเป็นหน้าตาของประเทศ จึงต้องเร่งดำเนินการให้ใช้เป็นสนามบินสำรอง

    เทกโอเวอร์นิคมฯ เจ๊ง

    น.พ.วรรณ รัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า น้ำที่สูบออกจากนิคมฯ คาดว่าจะไม่กระทบต่อพื้นที่นิคมฯ ตอนล่างมากนัก ส่วนภาพรวมการสูบน้ำจากนิคมฯ ต่างๆ มีความคืบหน้าไปมาก โดยเขตอุตสาหกรรมแฟคทอรี่แลนด์สูบน้ำจนพื้นที่แห้งร้อยละ 80 มีผู้ประกอบการทำความสะอาดซ่อมแซมเครื่องจักรแล้ว 80 ราย และเริ่มทำการผลิตสินค้าตามเดิมแล้ว 12 ราย จากทั้งหมด 99 ราย ขณะที่นิคมฯ โรจนะสูบน้ำจนระดับน้ำลดลง 10 ซ.ม. ส่วนนิคมฯ บางปะอิน ระดับน้ำต่ำกว่าคันดิน 70 ซ.ม. นิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) การสูบน้ำออกทำได้ช้า เพราะต้องดูระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังคงอยู่สูง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูง และสวนอุตสาหกรรมบางกะดีคาดว่าจะเริ่มสูบน้ำในวันที่ 25 พ.ย. เพราะต้องรอให้ระดับน้ำภายนอกต่ำกว่าคันดินก่อน ทั้งนี้ หากนิคมฯ ขาดสภาพคล่องก็มีความเป็นไปได้ที่จะให้การนิคมอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าไปซื้อกิจการ แต่ต้องหารือกันในรายละเอียดต่อไป

    ไม่พบสารเคมีปะปนน้ำ

    น.พ.วรรณ รัตน์กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่สูบจากพื้นที่อุตสาหกรรมลงสู่คูคลอง จะดำเนินการร่วมกัน 3 กระทรวง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและสร้างความมั่นใจ ซึ่งจะตรวจสอบน้ำทั้งด้านในและนอกพื้นที่ โดยเน้นตรวจบริเวณน้ำที่สูบออก หากพบความผิดปกติจะสั่งการให้หยุดสูบทันที

    นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า แผนการฟื้นฟูสวนอุตสาหกรรมนวนครคาดว่าจะล่าช้าจากเดิม หลังจากเลื่อนการสูบน้ำออกเป็นวันที่ 18 พ.ย.นี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนิคมฯ ที่อยู่ตอนบนทยอยสูบน้ำออกมา ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ยังอยู่ในระดับสูง

    เตรียมยกรถบนทางด่วน

    การ ทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่าหลังจากมีประชาชนนำรถยนต์ไปจอดบนทางยกระดับจำนวนมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายและความไม่สะดวก กทพ.จึงจำเป็นต้องขอให้ประชาชนเคลื่อนย้ายรถออก กทพ.จะร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ย้ายรถยนต์ที่จอดกีดขวางการจราจร โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นลงทางพิเศษ และการจอดรถซ้อนคันออกไป ซึ่งจะดำเนินการภายในวันที่ 16 พ.ย.นี้

    นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ.กล่าวว่า ขณะนี้กทพ.พยายามประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จอดรถบนทางด่วนทุกคันมาเคลื่อนย้าย รถให้พ้นผิวการจราจร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของศปภ. เนื่องจากเมื่อกทพ.เปิดให้ใช้ทางด่วนฟรี จึงมีรถมาใช้บริการจำนวนมาก ทำให้การจราจรบางช่วงติดขัดมาก หากไม่มาเคลื่อนย้ายภายในวันที่ 16 พ.ย.นี้ กทพ.จะนำรถยกมายกรถลงจากทางด่วน ซึ่งถ้าคันไหนติดเบอร์โทรศัพท์ไว้ กทพ.จะพยายามโทรศัพท์ไปแจ้งก่อน แต่คันไหนไม่มีเบอร์โทรศัพท์ กทพ.จะพยายามประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางให้ทราบ ส่วนรถขสมก.ที่นำมาจอดบนทางด่วน แจ้งให้นายโอภาส เพชรมุณี ผอ.ขสมก. ทราบเช่นกันเพื่อให้ขสมก.เคลื่อนย้ายรถลงมาจอดใต้ทางด่วน<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    น้องอุทก - นางพิราชรักษ์ บุตรโคตร อุ้มลูกชายแรกเกิดซึ่งคลอดในศูนย์อพยพโรงเรียนนายร้อยจปร. นครนายก โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯเยี่ยมศูนย์ จึงรับเป็นคนไข้ในพระราชูปถัมภ์ พร้อมพระราชทานชื่อหนูน้อยว่า"น้องอุทก"

    </td></tr></tbody></table>

    สุวรรณภูมินักท่องเที่ยวหาย

    นาย สมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และรักษาการผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิลดลงเหลือวันละ 1 แสนคน จากเดิม 1.3 แสนคนต่อวัน ขณะที่เที่ยวบินลดลงจาก 900 เที่ยวบินต่อวันเหลือเพียง 800 เที่ยวบินต่อวัน สาเหตุสำคัญมาจากนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจสถานการณ์น้ำท่วม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จึงทำหนังสือชี้แจงไปยังสถานทูตประเทศต่างๆ อาทิ รัสเซีย ไต้หวัน อังกฤษ แคนาดาและญี่ปุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับการให้บริการได้ตาม ปกติ

    เล็งเลื่อนเปิดเทอมอีกรอบ

    นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า อาจมีโรงเรียนหลายแห่งไม่สามารถเปิดเรียนได้ทันตามกำหนดเวลา เพราะพื้นที่ยังเต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งอาจต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนเรียนออกไปอีก เบื้องต้นอาจเป็นช่วงต้นเดือนธ.ค. ได้แก่ กทม. จ.นนทบุรี และจ.นครปฐมบางพื้นที่ รวมทั้งยังมีสถานศึกษาในจ.สมุทรสาคร ที่กำลังพิจารณาเลื่อนเปิดภาคเรียนเช่นกัน ทั้งนี้ อาจต้องขยับวันปิดเทอม ปฏิทินการรับนักเรียนปี 2555 และวันสอบโอเน็ตที่ใช้ในแอดมิชชั่นด้วย

    งบ 5 ล้านเยียวยาต่างด้าว

    นาย ประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มีแรงงานต่างด้าวที่ประสบภัยน้ำท่วมกระจายอยู่ตามศูนย์อพยพกว่า 2,000 คน ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักรจึง มีมติอนุมัติงบประมาณ 5.25 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ แยกเป็นค่าอาหาร 3.6 ล้านบาท ค่าน้ำ 1.6 ล้านบาท และค่าเครื่องนอน 5 แสนบาท

    เตือนระวังเชื้อราหลังน้ำลด

    นาย วิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า บ้านเรือนและอาคารที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกิน 2 วัน มีโอกาสเกิดเชื้อราที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทั้งบริเวณใต้พื้น เพดาน ท่อน้ำและใต้วอลเปเปอร์ ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ รวมถึงโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและโรคโลหิตจางจะมีความเสี่ยงติดเชื้อและเกิดโรคซ้ำซ้อน จึงแนะนำประชาชนเมื่อน้ำลดต้องสังเกตรอยเปื้อนที่ผนัง เมื่อพบจุดที่ราขึ้นควรใช้น้ำยาประเภทล้างครัวเรือน เพื่อขจัดเชื้อโรคและเชื้อราที่ฝังตัวออกไป ส่วนสิ่งของควรต้มฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้

    เสนอ 11 วิธีแก้น้ำท่วม

    ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ แถลงเสนอ 11 มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ประกอบด้วย 1.สร้างระบบทางด่วนพิเศษระบายน้ำท่วม เพราะมีทั้งชุมชนเมือง นิคมอุตสาหกรรมและสนามบินสุวรรณภูมิที่ขวางทางน้ำ 2.ต้องวางแผนแม่บทป้องกันน้ำท่วม ควบคุมการถมที่ดินทั้งระบบและพัฒนาเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ล่อแหลม 3.ปรับปรุงระบบเตือนภัยพิบัติล่วงหน้าและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำใหม่

    4.วาง แผนพัฒนากทม.และเมืองบริวารในอนาคต เพื่อปิดกั้นการขยายตัวของกทม. 5.มาตรการ จัดเก็บภาษีน้ำท่วมและการประกันภัย เพื่อตั้งกองทุนชดเชยและแก้ไขน้ำท่วม 6.มาตรการควบคุมการใช้ที่ดินและผังเมือง 7.ควบคุมการขุดน้ำบาดาล 8.กำหนดระยะเวลาการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับการผกผันของภูมิอากาศในอนาคต 9.มาตรการอนุรักษ์และปกป้องพื้นที่แก้มลิงในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 10.เร่งพัฒนากฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการภัยพิบัติทั้งระบบและส่งเสริม การมีส่วนร่วมของประชาชน และ 11.ควรจัดตั้งหน่วยงานดูแลพิบัติภัย

    สั่งจัดครัวเคลื่อนที่

    นาย พระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย "1 จังหวัด 1 เขตกทม." โดยให้จังหวัดจัดชุดประกอบอาหารเคลื่อนที่และเดินทางมาประกอบอาหารปรุงสุก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในกทม. วันละ 2 มื้อ โดยมี รองผวจ.และปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้าชุด

    เอกชนยักษ์ใหญ่รวมตัว

    ภาค เอกชนรายใหญ่รวมตัวก่อตั้งกองทุน"พลังน้ำใจไทย Power of Thai" เพื่อช่วยเหลือวิกฤตอุทกภัย กำหนดแถลงข่าววันที่ 15 พ.ย. เวลา 11.00 น. ที่ห้องบอลล์รูม โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ โดยนายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม, กลุ่มเซ็นทรัล โดยนายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์, ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์, ไทยเบฟเวอเรจ โดยนายฐาปน สิริวัฒนภักดี, ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ โดยนายธีรพงศ์ จันศิริ, บีทีเอส โดยนายคีรี กาญจนพาสน์, กลุ่มมิตรผล โดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยนายวิชา พูลวรลักษณ์, เมืองไทยประกันชีวิต โดยนายสาระ ล่ำซำ, แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส โดยนายสมประสงค์ บุญยะชัย และไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล เครือสหพัฒน์ โดยนายสมพล ชัยสิริโรจน์

    เริ่มฟื้นฟูหลังน้ำลด

    ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลายจังหวัดระดับเริ่มลดลงและดำเนินการฟื้นฟู ที่จ.สุพรรณบุรี บริเวณตลาด 100 ปีเก้าห้อง ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านในพื้นที่จึงออกมาถนนและฟื้นฟูตลาดให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สำคัญอีกครั้ง

    ที่จ.อ่างทอง นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่าง ทอง เปิดเผยว่าระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และเตรียมกู้สถานที่สำคัญต่างๆ พร้อมทั้งฟื้นฟูหลังน้ำลดให้กลับสู่สภาพเดิมใน 1 ปี โดยจะเร่งซ่อมแซมถนน สะพาน โรงเรียน สถานที่ราชการ โรงพยาบาลและโบราณสถาน

    ส่วนจ.พระ นครศรีอยุธยา ที่วัดไชยวัฒนาราม พบว่าระดับน้ำลดลง 50 ซ.ม. จากเดิมที่ท่วมลึก 3.50 เมตร สำนักงานกรมศิลปากรที่ 3 จึงเร่งสร้างคันดินอุดรอยรั่วบริเวณข้างวัดเป็นระยะทาง 70 เมตร จากนั้นระดมเครื่องสูบน้ำมาตั้งรอบวัด ก่อนสำรวจแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากพบมีรอยร้าวบางจุด

    หลายจว.หลั่งไหลช่วยเหลือ

    สำหรับ การช่วยเหลือในจังหวัดต่างๆ ที่ จ.ระนอง กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 ร่วมกับหอการค้าจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนำอีเอ็มบอล 84,000 ลูก ส่งช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยในกทม.และปริมณฑลส่วนจ.นรา ธิวาส ผู้บริหารท้องถิ่น 89 แห่ง มอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ตามโครงการ "หนึ่งร้อยบาท ร้อยใจ ช่วยภัยน้ำท่วม" รวมเป็นเงิน 76,872 บาท ที่จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.เดชา กิ่งวงษา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รับมอบเงินช่วยเหลือจากพระครูภัทรธรรมาภรณ์ ในฐานะผู้แทนชาวบ้าน อ.นบพิตำ เป็นเงิน 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม



    พระเทพฯทรงตั้งชื่อ"น้องอุทก"

    เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีหญิงสาวผู้อพยพหนีน้ำท่วมและพักอยู่ศูนย์พักพิงผู้ ประสบภัย รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า(จปร.) จ.นครนายก ได้คลอดบุตรชายและรับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาล รร.จปร.พบนางพิราชรักษ์ บุตรโคตร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/11 ซอยบุญคุ้ม 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นอนพักรักษาตัว และมีสามีอุ้มทารกแรกเกิดเพศชายอยู่

    นาง พิราชรักษ์กล่าวว่า ตนและสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยอพยพมาอยู่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นตนท้องแก่ใกล้คลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯทรงเยี่ยมผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงและทรงรับตนไว้เป็นคนไข้ในพระ ราชูปถัมภ์ ต่อมาในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 14.59 น. คลอดบุตรชายออกมา ก่อนจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงตั้งชื่อพระราชทานให้ว่า"อุทก" ซึ่งรู้สึกดีใจที่ได้รับพระเมตตาในการพระราชทานชื่อลูกคนนี้ และถือเป็นมงคลสูงสุดในชีวิต ซึ่งตนจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด
    [/FONT]


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREUxTVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4TlE9PQ==-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ใช้ “แสงซินโครตรอน” ศึกษา “กระจกเกรียบ” อนุรักษ์วัดพระแก้ว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">15 พฤศจิกายน 2554 12:09 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">"กระจกเกรียบ" วัสดุสำคัญที่ทำให้วัดพระแก้วโดดเด่นมีเอกลักษณ์ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> “กระจกเกรียบ” ที่ใช้ประดับตกแต่ง “วัดพระแก้ว” นั้น เป็นวัสดุโบราณ และไม่มีการผลิตมานานนับร้อยปีแล้ว ข้อจำกัดดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานที่สำคัญของไทย ให้คงทั้งเอกลักษณ์และความสวยงามไว้ แต่ด้วยประโยชน์จาก “แสงซินโครตรอน” ที่ช่วยบอกเราได้ว่าวัสดุที่เราสนใจนั้นมีธาตุใดเป็นองค์ประกอบบ้าง จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราค้นหา “สูตร” ผลิตกระจกโบราณนี้ได้

    ในฐานะนักวิจัยสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) และมีความสนใจทางด้านโบราณคดี ดร.วันทนา คล้ายสุบรรณ์ ได้ใช้แสงซินโครตรอน (Synchrotron) ศึกษาธาตุที่เป็นองค์ประกอบของกระจกเกรียบโบราณ ซึ่งใช้ในการประดับตกแต่งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว โดยเธอได้บอกแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า เป้าหมายในการศึกษาดังกล่าวนั้นก็เพื่อผลิตกระจกเลียนแบบที่เหมือนหรือใกล้ เคียงที่สุด เพื่อสนับสนุนงานบูรณะซ่อมแซมพระบรมมหาราชวัง

    ทั้งนี้ เครื่องเร่งอนุภาคของสถาบันนั้นผลิตแสงซินโครตรอนซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าหรือแสงที่มีความเข้มสูง ตั้งแต่แสงในย่านที่ตามองเห็น รังสีอัลตราไวโอเลตหรือยูวี รังสีอินฟราเรดหรือไออาร์ และรังสีเอกซ์ และมีสถานีลำเลียงแสงที่นำไปใช้งานที่แตกต่างกัน โดย ดร.วันทนา ผู้จัดการระบบลำเลียงแสงที่ 8 (Beam Line 8) ได้ใช้แสงของสถานีนี้ศึกษากระจกเกรียบ แล้วพบธาตุองค์ประกอบที่สำคัญคือ ทองแดงและโคบอลต์ ซึ่งทำให้กระจกมีแสงสีแดงและฟ้า ตามลำดับ นอก จากนี้ยังพบตะกั่วในปริมาณสูงมากกว่า 1 ใน 4 ส่วนของน้ำหนัก และยังมีธาตุอื่นอีกหลายชนิดในปริมาณต่ำประมาณ 1 ใน 100 ส่วนของน้ำหนัก

    เป้าหมายสูงสุดของงานวิจัยนี้คือการคิดค้นสูตรแก้วและ กระบวนการผลิตกระจกแก้วที่มีสีและสมบัติทางกายภาพใกล้เคียงกับกระจกเกรียบ โบราณของไทยให้ได้มากที่สุด เริ่มจากการสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการกระทั่งสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการ ผลิตสู่ภาคอุตสาหกรรมที่สนใจ เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูงานช่างศิลป์ประดับกระจกของชาติให้ กลับคืนมาอีกครั้ง” ดร.วันทนาเผยถึงเป้าหมายสูงสุดของการวิจัย ซึ่งเริ่มมาได้ 2-3 เดือน

    อย่างไรก็ดี แม้จะทราบว่ามีธาตุใดเป็นองค์ประกอบพื้นฐานแล้ว แต่กว่าจะพัฒนาขึ้นเป็นกระจกที่มีสูตรใกล้เคียงหรือเหมือนกับกระจกเกรียบ โบราณนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดย ดร.วันทนาอธิบายแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ฯ ว่าต่อให้ทราบองค์ประกอบแล้แต่ยังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ซึ่งการทำกระจกนั้นเป็นส่วนหนึ่งของงานช่างสิบหมู่ และไม่มีคนทำมาเป็นร้อยปีแล้ว เธอเองได้ค้นเจอ “ตำราหุงกระจก” ในหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำรากระจกโบราณฉบับเดียวที่ค้นเจอ

    “ตั้งใจจะเข้าไปเอาตำราดังกล่าวมาศึกษา แต่ตอนนี้ติดน้ำท่วมอยู่ ซึ่งถ้าได้มาแล้วก็ต้องหาคนมาช่วยแปล เพราะคำที่ใช้เป็นคำโบราณ ซึ่งวัตถุดิบบางชนิดที่กล่าวในตำราอาจไม่เป็นที่รู้จักแล้วก็ได้ ความรู้การทำกระจกนี้ได้หายไปแล้ว จึงต้องลองผิดลองถูกดูว่าจะทำกระจกอย่างไรออกมาให้เหมือนของโบราณมากที่สุด” ดร.วันทนากล่าว

    นอกจากนี้ ดร.วันทนายังได้รับคัดเลือกจากทบวงปรมาณูเพื่อสันติหรือไอเออีเอ (IAEA) ไปเสนองานวิจัยเรื่องนี้ในงานประชุม “แสงซินฌโครตรอนเพื่องานศิลปะและสถาปัตยกรรม” (Synchrotron radiation in Art and Archaeology: SR2A) พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญอีก 13 คนจาก ฝรั่งเศส โปรตุเกส เบลเยี่ยม ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย เซอร์เบีย ยูเครน สหรัฐอเมริกา ออสเตรียและอิตาลี ณ สำนักงานใหญ่ไอเออีเอ กรุงเวียนนา ออสเตรีย เมื่อกลางเดือน ต.ค.54 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมเกี่ยวกับการใช้แสงซินโครตรอนวิจัยงานทางด้านโบราณคดี

    “การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อติดตามว่ามีการนำแสงซินโครตรอนไปใช้ ศึกษางานโบราณคดีทางด้านใดแล้วบ้าง โดยการประชุมแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ วัสดุศาสตร์และมรดกวัฒนธรรม ซึ่งงานของเราก็ได้รับความสนใจ ซักถาม เพราะไม่เคยเห็นงานลักษณะนี้ในเอเชีย ส่วนใหญ่การใช้แสงซินโครตรอนเพื่อศึกษาทางด้านโบราณคดีจะเป็นผลงานที่พบเยอะ ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะโปรตุเกสและอิตาลี ซึ่งมีแก้วในงานสถาปัตยกรรมเยอะ แต่ในเอเชียมีไม่เยอะ และทางไอเออีเอก็ให้นักวิจัยร่วมแสดงความเห็นว่าต้องการให้สนับสนุนงานวิจัย อย่างไรบ้าง เพราะซินโครตรอนก็เป็นงานที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ เขาจึงอยากสนับสนุน” ดร.วันทนากล่าว

    ดร.วันทนา กล่าวว่าการเข้าร่วมประชุมดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญในการแสดงให้โลกได้เห็น ศักยภาพของไทยในการศึกษาวิทยาศาสตร์โบราณคดีเชิงลึกได้ดีเช่นกัน แม้ว่าเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนของไทยนั้นมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับต่าง ประเทศ นอกจากนี้ยังได้เสนอให้จัดการประชุมดังกล่าวขึ้นในทวีปเอเชียบ้าง โดยเสนอให้จัดงานที่ประเทศไทยในปี 2559 (เนื่องจาก 3 ปีหลังจากนี้มีกำหนดจัดงานในทวีปยุโรปและอเมริกาแล้ว) และที่ประชุมยังมีมติให้ไอเออีเอสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมประชม แก่นักวิจัยจากประเทศกำลังพัฒนาด้วย

    สำหรับ ดร.วันทนานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาวิจัยงาน ด้านโบราณคดี และเคยประสบความสำเร็จในการใช้แสงซินโครตรอนศึกษาลูกปัดแก้วโบราณสีแดง อายุกว่า 1,300 ปี ที่พบในภาคใต้ของไทย และเมื่อปี 2553 ยังได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 4 นักวิจัยสตรีที่ได้รับทุนวิจัย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ระดับประเทศ ครั้งที่ 8 จาก บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) และองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) โดยับทุนในสาขาวัสดุศาสตร์

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ดร.วันทนา คล้ายสุบรรณ์ (แถวหน้ากลาง) และนักวิจัยอีก 13 คนที่ร่วมเสนอผลงานวิจัยใช้แสงซินโครตรอนศึกษาโบราณคดี </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สำนักงานใหญ่ไอเออีเอ กรุงเวียนนา ออสเตรีย</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000145607-


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ในหลวงพระราชทานสิ่งของผู้ประสบภัยปทุมฯ
    ข่าวราชสำนัก วันอังคารที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 19:32 น.



    ในหลวงพระราชทานสิ่งของผู้ประสบภัยปทุมฯ
    ข่าวราชสำนัก วันอังคารที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 19:32 น.




    share


    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ประสบอุทกภัย จ.ปทุมธานี พระราชทานถุงยังชีพ 2,455 ครอบครัว ในวันพรุ่งนี้


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบความเดือดร้อน จึงได้พระราชทานถุงยังชีพเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบให้แก่ราษฎรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดย นายกองเอก ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และ นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ประสบ อุทกภัยที่อพยพไปศูนย์พักพิงในท้องที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 2,455 ครอบครัว ในวันพุธที่ 16 พ.ย. นี้ คิดเป็นมูลค่าของสงเคราะห์ทั้งสิ้น 1,124,369.87 บาท
    Link : http://www.innnews.co.th/ในหลวงพระราชทานสิ่งของผู้ประสบภัยปทุมฯ--321436_22.html


    -http://www.innnews.co.th/%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AF--321436_22.html-

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    หลวงปู่สรวง (เทวดาเดินดิน)

    พูดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้



    พอดีผมพึ่งได้ซื้อหนังสือรวมเล่ม ประวัติ อภินิหาร และ วัตถุมงคล ของ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
    มาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เป็นหนังสือรวมเล่มหนาจากนิตยสาร
    'ลานโพธิ์'
    เคย ลงเอาไว้ และได้นำมารวมเล่มเป็นเล่มใหญ่ บอกตามตรงเมื่อก่อนผมไม่เคยรู้จัก หลวงปู่สรวง แต่พอดีวันนี้ไปเดินซื้อหนังสือเล่น เจอหนังสือเล่มนี้น่าสนใจดีเลยซื้อมา
    อ่านๆไปจึงได้รู้ว่า อภินิหาร ของท่านมากจริงๆครับและยังมีเรื่องแปลกประหลาดอีกนับไม่ถ้วนจะเล่าก็คงไม่ หมด ใครอยากอ่านลองตามหาอ่านตามแผงดูครับและ
    ที่วันนี้มาตั้งกระทู้นี้ก็ เพราะว่าผมก็อ่านหนังสือเล่มนี้ไปตามปกติแต่ยัง อ่านไม่จบ วันนี้อ่านไปเจอตอนหนึ่งที่คิดว่าตรงกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันมากๆ
    เป็นที่น่าแปลกใจจึงจะพิมพ์จากหนังสือมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันครับ

    เรื่องเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัตินี้ เป็นคำบอกเล่าจาก

    พระครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร)
    เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขละ จ.สุรินทร์


    ซึ่ง ท่านได้เมตตาเล่าให้ทางนิตยสารลานโพธิ์ถึงเรื่อง ต่างๆ แต่ผมขอยกเรื่องที่ท่านเคยได้ยิน หลวงปู่สรวง พูดถึงเรื่องภัยพิบัติมาดังนี้ (ขออภัยถ้าเคยอ่านแล้ว)

    ลป.สรวง พูดถึงภัยพิบัติ

    มีประมาณ ปี 2541 ลป.สรวง ท่านแวะมาที่วัดของหลวงพ่อลมัยในช่วงเข้าพรรษา และก่อนท่านจะจากไปท่านพูดเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อลมัยว่า

    พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาคกวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก
    จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรมจะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้



    หลวงพ่อลมัย ได้ถาม หลวงปู่สรวง ว่าถ้าน้ำท่วมมากขนาดนั้นคนดีก็คงไม่รอดเหมือนกันจะให้ทำอย่างไร หลวงปู่สรวงบอก 'คาถาเป่าน้ำ' ให้ไม่ท่วมร่างกายแก่หลวงพ่อลมัยว่า

    "อุ้ม เกรอะ เกรอะ เกรอะ เตียงตึ๊ก เกรอะ ตึงได อุมสติสวาหะ"

    ต่อไปเป็นบทคัดลอกตอนที่ หลวงพ่อลมัย พูดถึงภัยพิบัติตามคำบอกเล่าจาก หลวงปู่สรวง

    ถาม (ทีมงานลานโพธิ์) - หลวงปู่สรวง เคยสอนวิชาอะไรให้หลวงพ่อมั้ย ?

    ตอบ (หลวงพ่อลมัย) - เคยสอน แต่โยมจะได้มั้ย เคยสอนว่า ต่อไปนะ เผาของหลวงพ่อสามวันสามคืนไม่หมด พวกยา พวกอะไร หลวงพ่อให้ก็รับ เผาโยนใส่กองไฟ ให้อะไรก็รับ แล้วก็เผา ตอนหลวงพ่อมา มีคนมาถวายเสื้อ ถวายทรัพย์ เผาหมด เขาว่ายั่งงี้ ..

    ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ - แม่ - ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด
    น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกันให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม


    ครั้งที่สองบอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า ให้ออกก่อน

    "พวกที่ทำลายศาสนา ประเทศชาติ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำน้ำทะเลเต็มไปหมด"

    ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน

    "พวกทำไม่ดีตายหมด" แกว่า...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว(ลป.สรวง)
    แล้ว ก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่นเขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป

    ถาม - ที่ หลวงปู่สรวง พูดหมายความว่ายังไง ?

    ตอบ -
    แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด คนดีไม่ตาย

    "คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด"

    ท่านบอกให้คอยดู
    แต่มาเป่านี่มันปี 2547 - 2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด อย่าให้ถึงขนาดนั้น "คนดีไม่ตาย"

    แกว่างั้นนะ ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เรา ไม่ได้กบฎแผ่นดิน คนที่กบฎ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น


    [​IMG]

    หลวงปู่สรวง ท่านละสังขารเมื่อ วันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะโรง )
    สะรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลา.ออยเตียนสรูล.วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

    หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล

    ออยเตียนสรูล เป็นภาษาเขมรแปลวว่า ให้ทานความสุข ซึ่งความหมายของคำนี้คือหลวงปู่สรวงท่านเป็นผู้ให้ ให้แก่ลูกหลาน ลูกศิษย์ ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตท่าน
    ท่าน ให้ได้ทุกอย่าง ทรัพย์สินเงินทองที่มีผู้ถวายท่าน ท่านไม่เคยเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว ท่านจะให้แก่คนที่ท่านเห็นว่าเขาควรจะได้ โดยที่ไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะเป็นใคร และที่สำคัญท่านให้ความสุขกับ
    ผู้ มีความทุกข ์แล้วมาหาท่าน หรือแม้แต่ผู้ที่แค่นึกถึงชื่อท่านท่านก็เผื่อแผ่พลังเมตตานั้นมาช่วยให้เขา คนนั้นคลายทุกข์ได้ถ้าไม่เนื่องด้วยความทุกข์นั้นเกิดจากกฎแห่งกรรมแล้วท่าน ก็จะช่วยเสมอ นี่แหละคือที่มาของฉายาท่าน

    "ออยเตียนสรูล"
    ที่มา http://webboard.gg.in.th/topic/44/119597และ Youtube.com



    -http://www.meemodo.com/Laungpooshaung.html-


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .




    สำหรับคูคลองต่างๆ ทางสำนักงานเขต ก็ไม่ได้ลอกเลย

    ทำไมผู้ว่า กทม. ไม่มีการตักเตือนกันเลยหรือ




    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    สธ.แนะวิธีขจัดเชื้อราหลังน้ำลด ให้ระวังนำพาหลายโรค

    วันที่ 14 พ.ย. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ศปภ.แจ้งว่า นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า บ้านเรือนและอาคารที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกิน 2 วันขึ้นไป มีโอกาสเกิดเชื้อราที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้ บริเวณที่พบมากที่สุดคือใต้พื้น ฝ้าเพดาน ท่อน้ำที่มีการรั่วซึม ใต้วอลล์เปเปอร์ โดยเฉพาะวัสดุบุผนังที่เป็นไวนิลเมื่อน้ำลดแล้วจะแห้งแต่ภายนอกเท่านั้ แต่ยังเก็บกักความชื้นไว้ข้างใต้ ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี เชื้อราหากมีปริมาณมากและสัมผัสกับเชื้อหรือสปอร์ของเชื้อราเป็นเวลานาน จะมีผลต่อสุขภาพในผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้โดยจะมีอาการแพ้เชื้อรา เช่น โพรงจมูกอักเสบ หรือ เยื่อจมูกอักเสบ ระคายเคืองที่นัยน์ตา หายใจแรง มีอาการหอบหืดได้

    นายวิทยา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีผลต่อผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคโลหิตจาง จะมีความเสี่ยงติดเชื้อและก่อโรคซ้ำซ้อนได้ จึงแนะนำประชาชนเมื่อน้ำลดต้องสังเกตด้วยการดูที่รอยเปื้อนที่ผนัง สังเกตกลิ่นเหม็นอับทึบ หรือเหม็นคล้ายกลิ่นดิน เมื่อพบจุดที่ราขึ้นแล้วหากดูแล้วไม่อาจกำจัดได้หมดโดยเฉพาะวัสดุที่มีรู พรุน ไม่สามารถชะล้างและทำให้แห้งได้ให้ทิ้งทันที, พื้นบ้าน เครื่องเรือน เครื่องไม้ เครื่องมือ เตาอบ ผนังบ้าน สามารถใช้น้ำยาประเภทล้างครัวเรือน ผนังห้องน้ำได้ เพื่อขจัดเอาเชื้อโรค เชื้อราที่ฝังตัวออกไป ส่วนสิ่งของที่ทำด้วยผ้า หลังซักล้างแล้วให้นำมาต้มฆ่าเชื้อก่อนนำมาใช้ ส่วนพื้นและผนังให้ขัดล้างให้เร็วที่สุด ภายใน 24– 48 ชั่วโมงหลังน้ำลด

    นายวิทยา กล่าวว่า ระหว่างทำความสะอาดให้เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศและเปิดพัดลมเพื่อ ช่วยให้แห้งโดยเร็ว ขณะทำความสะอาดให้สวมอุปกรณ์ป้องกันการสัมผัสสูดดม ทั้งรองเท้าบูท ถุงมือยาง แว่นป้องกันตาและหน้ากากอนามัย หากพบว่ามีเชื้อราฝังแน่นตามผนัง ไม่สามารถขัดล้างออกได้ควรเปลี่ยนใหม่ ไม่ควรทาสีทับทันที

    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1USTFOemswT0E9PQ==&sectionid=-

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [FONT=Tahoma,]ผนวก : เครื่องต่อนอกใน (3)

    คอลัมน์ วิถีแห่งพระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี
    เสถียร จันทิมาธร


    ก่อนเข้าสู่ธรรมบรรยายว่าด้วย ธาตุ ขันธ์ อายตนะ สัมพันธ์ ของ พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี มีความจำเป็นต้องปรับระดับความรับรู้

    ความรับรู้ในเรื่องของ ปริยัติ ซึ่งเป็นพื้นฐาน

    หยิบหนังสือ "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์" (ชำระ-เพิ่มเติม ช่วงที่ 1) ของ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)/ ไปยังหน้า 545

    อายตนะ ที่ติดต่อ 1 เครื่องติดต่อ 1 แดนต่อความรู้ 1

    เครื่องรู้และสิ่งที่รู้ เช่น ตา เป็นเครื่องรู้ รูปเป็นสิ่งที่รู้ หูเป็นเครื่องรู้ เสียงเป็นสิ่งที่รู้ เป็นต้น 1

    กล่าวไปแล้ว อายตนะ จึงเหมือนกับเป็น ประตู

    กล่าวไปแล้ว อายตนะ จึงเหมือนกับเป็น หน้าด่าน

    เป็นหน้าด่าน เป็นที่ติดต่อ เป็นเครื่องติดต่อ เป็นแดนต่อความรู้ ระหว่างตัวเรา เรียกตามภาษาของปรัชญาก็เป็นกึ่งกลางของความสัมพันธ์

    1 ระหว่างตัวเรา คือ อัตตวิสัย

    1 ระหว่างตัวเขา คือ ภาววิสัย

    เป็นหน้าด่าน เป็นตัวเชื่อม ระหว่างภาวะแวดล้อม กับ ภาวะภายใน อันนำไปสู่ความรับรู้ และความรู้สึก

    ยิ่ง เมื่อศึกษาธรรมบรรยาย พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี จาก ธาตุ 4 และขันธ์ 5 ลึกลงไปยังอายตนะยิ่งประจักษ์ในทฤษฎีความรับรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    โปรดอ่าน

    อายตนะทั้ง 6 เมื่อใครได้มาเป็นสมบัติของตนครบถ้วนบริบูรณ์แล้วไม่วิกลวิการ จึงนับว่าเป็นลาภของผู้นั้นแล้ว

    เพราะมันเป็นทรัพย์ภายในอันมีคุณค่ามหาศาลยากที่จะหาเปลี่ยนซื้อขายกันในตลาดได้

    ทรัพย์ ทั้งหลายภายนอกจะมีมากน้อยสักเท่าไรและมีคุณค่าให้สำเร็จประโยชน์ได้ทุก ประการก็ตามหากขาดทรัพย์ภายในเหล่านี้แล้วก็จะไม่สำเร็จประโยชน์อะไรเท่าไร นัก

    อนึ่ง ทรัพย์ภายในทั้ง 6 กองนี้มีแล้วใช้ได้ไม่รู้จักหมดสิ้นตลอดวันตาย เป็นแก้วสารพัดนึกให้สำเร็จความปรารถนาได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องลงทุน หรือหากจะลงทุนบ้างเล็กน้อยแต่ได้ผลล้นค่าเหมือนกับได้ทรัพย์สมบัติ 6 กองอย่างน่าภาคภูมิใจด้วย

    หากใครเกิดมาในโลกนี้แล้วไม่ได้สมบัติ 6 กองนี้ หรือได้แต่ไม่ครบถ้วนก็เท่ากับเป็นคนอาภัพในโลกนี้เสียแล้ว

    สมบัติ 6 กองนี้เป็นของผู้ที่เกิดมาในกามโลก

    มีขันธ์ 5 โดยเฉพาะอารมณ์ 5 ที่เกิดทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ บัญญัติธรรมเรียกว่ากามคุณ 5

    เพราะ ผู้ที่ได้ประสบอารมณ์ 5 นี้แล้วชอบใจ ดีใจ ติดใจ เข้าไปฝังแน่นอยู่ในใจเห็นเป็นคุณทั้งหมด หากจะเห็นโทษของมันบ้างอยู่บางกรณีแต่ก็ยากนักที่จะเอาโทษนั้นมาลบล้างคุณ ของมัน

    ฉะนั้น เหมาะสมแล้วที่เรียกว่า กามคุณ

    ปุถุชนผู้เยาว์ปัญญาเมื่อได้ประสบอารมณ์ทั้ง 5 นั้นก็หวานฉ่ำเหมือนแมลงวันหลงใหลน้ำผึ้ง ติดทั้งรสและกลิ่น จะบินหนีก็เสียดาย

    ผลที่สุด คลุกเคล้าเอาตัวไปจมอยู่ในนั้น

    กามคุณเป็นหลุมฝังปุถุชนผู้เยาว์ปัญญา โดยความสมัครใจของแต่ละบุคคลโดยแท้

    โลกที่มี ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตนะ 6 บริบูรณ์ ท่านเรียกว่า กามโลก

    ทุกๆ คนที่ยังพากันสร้างบารมีอยู่จำต้องเวียนว่ายมาเกิดในกามโลกนี้จนได้ เพราะกามโลกสมบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง จึงทำให้ปุถุชนผู้เยาว์ปัญญาหลงใหลว่าเกิดมาได้รับความสุขพอแล้ว

    แม้ แต่พระพุทธเจ้าหรือพระอริยสาวกทั้งหลายก่อนที่ท่านจะสำเร็จเป็นพระอริยะท่าน ต้องเกิดมาในกามโลกนี้อันเป็นวิบากผลกรรมของท่านในอดีตชาติ

    ทั้งหมด ในธรรมบรรยาย ธาตุ ขันธ์ อายตนะ สัมพันธ์ ของ พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี เมื่อประสานเข้ากับปริยัติอัน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ทำไว้อย่างรวบรัดจะเห็นถึง

    อายตนะภายนอก เครื่องต่อภายนอก สิ่งที่ถูกรู้

    คือ 1 รูป รูป 2 สัททะ เสียง 3 คันธะ กลิ่น 4 รส รส 5 โผฏฐัพพะ สิ่งต้องกาย 6 ธัมมะ ธรรมารมณ์ คือ อารมณ์ที่เกิดกับใจ หรือสิ่งที่ใจรู้ อารมณ์ 6 ก็เรียก

    อายตนะ ภายใน เครื่องต่อภายใน เครื่องรับรู้ มี 6 คือ 1 จักขุ ตา 2 โสต หู 3 ฆานะ จมูก 4 ชิวหา ลิ้น 5 กาย กาย 6 มโน ใจ อินทรีย์ 6 ก็เรียก

    อายตนะ คือ การประสานระหว่างเครื่องต่อภายนอก เครื่องต่อภายใน
    [/FONT]



    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hOVEUyTVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4Tmc9PQ==-

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...