พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    สุดซึ้ง! เผยภาพลิงเกาะสุนัข ลอยคอฝ่ากระแสน้ำท่วม


    [​IMG]




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ki-media.blogspot.com

    "คนไทยไม่เคยทิ้งกัน" นี่คงเป็นคำพูดที่เหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤติอุทกภัยเช่นนี้ เพราะเราได้เห็น

    ภาพคนไทยจำนวนมากร่วมแรงร่วมใจ ออกแรงกายช่วยเหลือผู้ประสบภัย แม้ว่าต่างคนจะมาจากต่างถิ่น ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก แต่เพราะเป็นคนที่อาศัยอยู่ร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน นาทีนี้ก็ย่อมต้องช่วยเหลือกันจนถึงที่สุด

    อย่าง ไรก็ตาม ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่จะช่วยเหลือกันในยามตกยาก เพราะล่าสุด เว็บไซต์ เค-ไอ มีเดีย บล็อก ของกัมพูชา ก็ได้เผยแพร่ภาพ "สัตว์โลก" ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อเกิดวิกฤติการณ์เช่นนี้ โดยเป็นภาพของลิงน้อยที่เกาะอยู่บนหลังสุนัขลอยคออยู่กลางกระแสน้ำท่วม ซึ่งทั้งคู่กำลังพยายามฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย

    เห็น ภาพนี้แล้ว อยากให้คนไทยรักกันให้มาก ๆ เอาไว้นะคะ เพราะแม้แต่สัตว์โลกต่างสายพันธุ์ พวกมันก็ยังพึ่งพาอาศัยกันในยามตกทุกข์ได้ยาก

    -http://pet.kapook.com/view32713.html-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pet.jpg
      pet.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      771
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .


    ต้องเอาจริงๆกันครับ

    จับให้หมดสำหรับพวกที่ขายของแพง พวกที่เอาเปรียบผู้ประสบภัย พวกที่เห็นแก่ตัว คนพวกนี้ เป็นพวกจิตใจต่ำทรามครับ



    ------------------------------------------------------

    ปคบ.บุก ปากเกร็ดจับร้านขายเรือไฟ เบอร์ขูดรีดผู้ประสบภัยค้ากำไรเกินครึ่ง พร้อมยึดของกลาง 6 ลำ ดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้พบร้านค้าปลีกจำนวนมากขายสินค้าเกินราคาจึงว่าตักเตือนให้กลับตัว

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">พล.ต.ต. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ปคบ.นำกำลังจับกุม นายมานพ อาสนาไชย อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเรือไฟเบอร์กล๊าสขนาดเล็กจำนวน 6 ลำ หลังนำมาขายให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในราคาเกือบ 1 หมื่น ทั้งๆที่ปกติราคาลำละ 3-4พันบาทเท่านั้น </td> </tr> </tbody></table>


    วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร ผกก.3 บก.ปคบ.พร้อมกำลัง ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเกินราคา ซึ่งเป็นการเอาเปรียบและซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบอุทกภัย ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคผ่านสายด่วน บก.ปคบ.1135 ว่า มีร้านค้าในพื้นที่ดังกล่าวจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าที่มีความจำเป็นในการดำรงชีพของผู้ประสบภัยน้ำท่วมเกินกว่าราคาตาม ท้องตลาดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

    จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบร้านจำหน่ายเรือไฟเบอร์กล๊าสไม่มีชื่อ ตั้งอยู่บริเวณซอยวัดสนาม ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีการจำหน่ายเรือประเภทดังกล่าวในราคา 9,800 บาท จากราคาตามท้องตลาดเพียงลำละประมาณ 3,000-4,000 บาท โดยจับกุม นายมานพ อาสนาไชย อายุ 34 ปี พร้อมของกลางเรือไฟเบอร์กล๊าสขนาดเล็กจำนวน 6 ลำ จึงดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังพบร้านค้าปลีกหลายรายซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าเกินกว่าราคาแต่ เจ้าหน้าที่ยังให้โอกาสโดยดำเนินการตักเตือนให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว

    นอกจากนี้ ทาง บก.ปคบ.ได้เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับร้านค้าต่างๆ ว่า การจำหน่ายสินค้าต้องติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน พร้อมทั้งแสดงราคาต่อหน่วยเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบก่อนตัดสินใจซื้อ และห้ามจงใจจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร หรือกักตุนสินค้าทำให้สินค้าขาดตลาด

    "อยากฝากถึงผู้ประกอบธุรกิจให้ค้าขายอย่างเป็นธรรม อย่าเอาเปรียบผู้บริโภค การจำหน่ายสินค้าต้องแสดงราคาให้ชัดเจน หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ทั้งนี้ สำหรับผู้บริโภคหากพบเห็นการ กระทำผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือทางไปรษณีย์ตู้ ปณ.459 ปณศ.สามเสนใน พญาไท กทม.10400 หรือทางเว็บไซต์ ตลอด 24 ชั่วโมง"พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าว



    -http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137713-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>




    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
    [​IMG]
    .


    สุดซึ้ง! เผยภาพลิงเกาะสุนัข ลอยคอฝ่ากระแสน้ำท่วม


    [​IMG]




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ki-media.blogspot.com

    "คนไทยไม่เคยทิ้งกัน" นี่คงเป็นคำพูดที่เหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤติอุทกภัยเช่นนี้ เพราะเราได้เห็น

    ภาพคนไทยจำนวนมากร่วมแรงร่วมใจ ออกแรงกายช่วยเหลือผู้ประสบภัย แม้ว่าต่างคนจะมาจากต่างถิ่น ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก แต่เพราะเป็นคนที่อาศัยอยู่ร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน นาทีนี้ก็ย่อมต้องช่วยเหลือกันจนถึงที่สุด

    อย่าง ไรก็ตาม ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่จะช่วยเหลือกันในยามตกยาก เพราะล่าสุด เว็บไซต์ เค-ไอ มีเดีย บล็อก ของกัมพูชา ก็ได้เผยแพร่ภาพ "สัตว์โลก" ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อเกิดวิกฤติการณ์เช่นนี้ โดยเป็นภาพของลิงน้อยที่เกาะอยู่บนหลังสุนัขลอยคออยู่กลางกระแสน้ำท่วม ซึ่งทั้งคู่กำลังพยายามฟันฝ่าไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย

    เห็น ภาพนี้แล้ว อยากให้คนไทยรักกันให้มาก ๆ เอาไว้นะคะ เพราะแม้แต่สัตว์โลกต่างสายพันธุ์ พวกมันก็ยังพึ่งพาอาศัยกันในยามตกทุกข์ได้ยาก

    -http://pet.kapook.com/view32713.html-

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    พวกที่ขายของเกินราคา ต้องอายแล้วครับ

    อายหมา และ ลิง

    [​IMG]


    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    แผนที่เตือนภัยล่าสุด ดอนเมือง สายไหม อ่วม!


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก tempf.com


    วันที่ 27 ตุลาคม 2554
    [​IMG]


    [​IMG]
    รูปใหญ่


    วันที่ 28 ตุลาคม 2554
    [​IMG]


    [​IMG]
    รูปใหญ่



    ออกแผนที่เตือนภัยล่าสุด ดอนเมือง สายไหม ท่วมหนักเข้าขั้นวิกฤติ ขณะที่ทางฝั่งพระนครน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมแล้ว

    ทีมกรุ๊ปอัพเดทแผนที่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม) แสดงให้เห็นพื้นที่เขตดอนเมือง และเขตสายไหม น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติมาก โดยเฉพาะในพื้นที่สนามบินดอนเมือง สัญลักษณ์เปลี่ยนจากสีฟ้า กลายเป็นสีแดง ซึ่งหมายถึงว่าน้ำท่วมเต็มพื้นที่ไปหมดแล้ว

    ส่วนทางฝั่งสายไหม จากเดิมแผนที่ในวันที่ 27 ตุลาคม เป็นสีเหลือง ซึ่งหมายถึงว่าให้เตรียมเฝ้าระวัง ขณะนี้กลายเป็นสีแดงแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการจราจรในบริเวณดังกล่าวยังไม่ปิด แต่บริเวณหัวถนนสายไหม รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากระดับน้ำมีความสูง 30 เซนติเมตร และยังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และน้ำเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น ส่วนน้ำที่ท่วมขังหน้าอู่ซ่อมรถ เริ่มมีคราบน้ำมันปรากฏออกมา ประชาชนทยอยกันอพยพต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ที่แนวโน้มว่าจะดีขึ้นนั่นก็คือบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ตอนนี้ไม่มีน้ำขังแล้ว

    ขณะเดียวกันแผนที่ล่าสุดก็ยังแสดงให้เห็นว่า ตามแนวคันกั้นน้ำยังต้องคงเฝ้าระวังการพัง เพราะว่าปริมาณน้ำในยังมีมากกว่า 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

    ทางด้านบริเวณเขตพระนคร มีคันกั้นน้ำพัง ทำให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ส่วนพื้นที่แนวคลองมหาสวัสดิ์ ก็อยู่ในภาวะวิกฤติหลายจุด ส่วนผู้ที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพราะฉะนั้นพนังกั้นน้ำจะมีโอกาสพัง ส่งผลให้น้ำเข้าไหลท่วมเร็ว และแรงมาก จึงขอเตือนให้เพิ่มความแข็งแรงและความสูงของคันกั้นน้ำ พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วย ซึ่งต้องเฝ้าระวังจนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน และจากนั้นน้ำจะอยู่ทรงจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554

    ส่วนเหตุการณ์พนังกั้นน้ำบนคันคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ทางด้านตะวันตกของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ยังรั่วอยู่ และพนังกั้นน้ำบนคันคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ใกล้ตลาดรังสิตยังมีน้ำไหลล้นจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้คลองเปรมประชากร คลองประปา ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และผู้ที่อยู่สะพานใหม่ บางบัว บางเขน เกษตร ลาดพร้าว โชคชัย 4 สายไหม โดยเฉพาะที่อยู่ในที่ลุ่มใกล้คลองถนน คลองบางบัว คลองลาดพร้าว รวมไปถึงคลองสาขาที่เคยเกิดน้ำท่วมขัง ควรเก็บของขึ้นที่สูง เพราะระดับน้ำจะท่วมทรงตัวจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน

    สำหรับผู้ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เหนือคลองบางกอกน้อย และเหนือทางรถไฟสายใต้ รวมไปถึงผู้ที่อยู่ในอำเภอพุทธมณฑล นครชัยศรี สามพราน กระทุ่มแบน และเมืองสมุทรสาคร ที่อยู่ในบริเวณด้านตะวันตกของถนนพุทธมณฑลสาย 4 ถนนสาย 3310 และผู้ที่อยู่ใกล้แม่น้ำท่าจีน คลองมหาชัย คลองสนามชัย คลองจินดา คลองดำเนินสะดวก และคลองสุนัขหอน ที่อยู่ทางตะวันออก ของถนนสาย 3097 ขอให้ย้ายของขึ้นที่สูงมากกว่า 1.5 เมตร และให้เอารถไปจอดไว้ที่สูง เพราะระดับน้ำจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงหลังวันที่ 5 พฤศจิกายน แล้วทรงตัวอยู่ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นจึงจะเริ่มลดลง


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรุงเทพธุรกิจ
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/64182-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    จวกเละ! รัฐบาลจ่อนำเข้าน้ำดื่ม จากต่างประเทศ


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


    จวกเละ! รัฐบาลจ่อนำเข้าน้ำดื่มจากมาเลเซีย ด้านผู้ผลิตกว่า 7 พันรายคัดค้านยืนยันมีศักยภาพพอ

    หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม) มีรายงานว่า ในที่ประชุมดังกล่าว นายยุง ยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แสดงความไม่พอใจที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ จะอนุญาตให้ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดนำเข้าน้ำดื่มจากออสเตรเลีย เนื่องจากปัจจุบันในต่างจังหวัดยังสามารถผลิตน้ำดื่มได้อยู่ และสามารถนำมาจำหน่ายในพื้นที่น้ำท่วมได้

    ขณะที่สมาคมธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญไทยได้เสนอว่า ขณะนี้มีตู้น้ำหยอดเหรียญที่ไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมยังใช้งานได้ อยู่ประมาณ 7,500 เครื่อง จากทั้งหมดจำนวน 15,000 เครื่อง ในจำนวนนี้สามารถนำไปติดตั้งในพื้นที่ที่ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก จะช่วยลดปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มได้ โดยจะลดราคาเหลือลิตรละ 1 บาท จากลิตรละ 2 บาท รวมไปถึงเครื่องกรองน้ำ ที่จีนให้การสนับสนุนมาอีก 140 เครื่อง คาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และนายยงยุทธจะเสนอนายกิตติรัตน์ให้งดนำเข้าน้ำดื่มต่อไป

    ด้าน นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะรองประธานชมรมผู้ผลิตน้ำดื่มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะสั่งน้ำดื่มจากประเทศมาเลเซียทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการน้ำดื่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 7,000 ราย และมีศักยภาพในการผลิตน้ำดื่มอยู่ ดัง นั้นหากรัฐบาลประสานไปยังผู้ประกอบการทั้ง 7,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางผลิตน้ำดื่มโดยนำมารวมในจุดเดียวกันอย่างศาลากลาง นำเข้ากรุงเทพฯ ก็จะสามารถบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้บ้าง โดยวานนี้ (28 ตุลาคม) ได้เรียกผู้ประกอบการในจังหวัดประมาณ 100 รายมาหารือ โดยการค้าภายในจะเป็นผู้จัดซื้อ และออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปยังผู้ประสบภัยที่กรุงเทพฯ


    อ่านรายละเอีดเพิ่มเติมจาก ไทยโพสต์
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/64177-
    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ผู้ว่ากทม.สั่งเฝ้าระวัง 'ลาดพร้าว-จตุจักร-วังทองหลาง' <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ตุลาคม 2554 12:50 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>
    "สุขุมพันธุ์" เตือนพื้นที่เขตลาดพร้าว-จตุจักร-วังทองหลาง เฝ้าระวังพิเศษ ขณะที่เขตบางพลัด-ทวีวัฒนา ท่วมหนัก เผยชาวบ้านห่วงเรื่องปัญหาขยะ เร่งสนข.บางพลัดจัดการแล้ว ชี้แม่เจ้าพระยาวันนี้หนุนสูงสุดสถิติ 2.48 ม.

    วันนี้(29 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.05 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. แถลงข่าวภายหลังร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารถึงสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯล่า สุด ว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้หนุนสูงสุดทำลายสถิติใหม่ที่ 2.48 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.) แต่เท่าที่ได้รับรายงานโดยทั่วไปยังไม่มีปัญหา แต่ 2-3 วันจากนี้จะต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาต่อไป เพราะอาจจะมีระดับน้ำสูงขึ้นมาอีกครั้งได้

    ส่วนสถานการณ์น้ำที่คลองสอง จ.ปทุมธานี สูงขึ้น 8 ซม.อยู่ที่ 2.8 เมตรจาก รทก. คลองทวีวัฒนาน้ำสูงขึ้น 11 ซม. อยู่ที่ 2.63 เมตรจาก รทก. และคลองลาดพร้าวน้ำสูงขึ้น 10.15 ซม. ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่เขตบางเขตยังทรงตัวอยู่

    ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า เริ่มมีสัญญาณเตือนถึงเขตลาดพร้าว จตุจักร และวังทองหลาง ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เพิ่มเติมหลังจากที่กทม.เคยประกาศให้ทั้ง 3 เขตนี้ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังไปแล้ว ซึ่งกทม.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกระยะ ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ 4 เขตฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา ยังมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ กทม.ยังกังวล

    ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า ขณะที่บางฝ่ายได้ทำนายว่าฝั่งธนบุรีจะท่วมทุกเขต แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นอย่างที่ทำนาย แต่มี 2 เขตที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก คือ เขตบางพลัด และเขตทวีวัฒนา เท่านั้น แต่ตนก็น้อมรับคำทำนาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังยืนยันว่าในพื้นที่ฝั่งธนบุรียังไม่มีเหตุน้ำท่วมทุกพื้นที่ตามที่ คำนายได้ระบุไว้

    ส่วนการจัดแก้ปัญหาแนวป้องกันน้ำท่วมที่ริมคลองมหาสวัสดิ์ฝั่งตะวัน ตกของกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ใกล้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเจ้าหน้าที่ได้นำชีทพลายส์หรือแผ่นเหล็ก นำไปปิดกั้นจุดน้ำทะลักในคลองมหาสวัสดิ์แล้วแต่ต้องมีการประเมินว่าขั่วโมง นี้จะสามารถป้องกันได้แค่ไหน

    ส่วนสถานการณ์ในเขตบางพลัดวันนี้ได้ขยายตัวไปหลายพื้นที่และมีปริมาณ น้ำสูงขั้นกว่าเดิม โดยจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมที่เขตบางพลัดวานนี้ ประชาชนเป็นห่วงเรื่องขยะที่ตกค้าง จึงได้สั่งการให้สนข.เร่งเข้าไปแก้ปัญหา แต่พบว่าในบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงมาก ทำให้รถขยะไม่สามารถเข้าไปได้ จึงสั่งให้ สนข.บางพลัด พยายามเข้าไปเก็บขยะที่ตกค้างให้มากที่สุด

    อย่างไรก็ตามขณะนี้ตัวเลขยอดประชาชนอพยพอยู่ที่ 10,794 คน ใน 84 ศูนย์พักพิง 22 เขตทั่วกทม. ซึ่งขณะนี้กทม.ได้วางแผนอพยพเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดจุดรวมพล 225 แห่งท้่วกรุงเพื่อ่รองรับสถานการณ์หากกองทัพจะมีการรับประชาชนเพื่ออพยพออก นอกกรุงทพฯ



    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137873-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">แจ้งเตือนคนนนท์-ปากน้ำ-กทม.ฝั่งธนฯ สำรองน้ำ กปน.ลดจ่าย</td> <td align="right" valign="baseline" width="102">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ตุลาคม 2554 12:29 น.</td></tr></tbody></table>

    ศปภ.แถลงการณ์แจ้งเตือนประกาศ "การประกานครหลวง" ลดปริมาณน้ำจ่าย ชี้มีสาหร่ายมาก ต้องปรับการจ่ายน้ำเป็นเวลาเช้า-เย็น ทำคนฝั่งธนบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ ได้รับผลกระทบ แนะสำรองน้ำไว้ใช้



    วันนี้(29 ต.ค.) นายธงทอง จันทรางศุ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม(ศปภ.) ได้ประกาศแถลงการณ์การประปานครหลวง(กปน.) เรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำประปาฝั่งธนบุรี โดยจะกระทบผู้ใช้น้ำประปา ในเขตนครหลวงประกอบด้วยพื้นที่บางส่วน นนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม.ฝั่งธนบุรี เพราะคุณภาพน้ำดิบฝั่งธนบุรีมีคุณภาพลดลง มีสาหร่ายมาก ทำให้การผลิตน้ำจำเป็นต้องลดปริมาณจาก 9 แสนล้านลูกบาศเมตรต่อวัน และลดลงเหลือแค่ 5 แสนลูกบาศเมตร ต่อวัน ดังนั้น การจ่ายน้ำการประปา ต้องปรับการจ่ายน้ำเป็นเวลาในช่วง เช้าเวลา 06.00 น- 9.00 น และในช่วงเย็น เวลา 17.00 น ถึง 20.00 น. จึงให้ผู้ใช้น้ำเร่งสำรองน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาอื่น

    "พื้นที่ลดปริมาณน้ำประปาลง ฝั่งนนทบุรี ด้านตะวันตก บริเวณ อ. เมือง ปากเกร็ด อ.บางบัวทอง บัวใหญ่ บางกรวย ส่วนสมุทรปราการ พระประแดง คลองสาน บางกอกน้อย ราชบูรณะ บางขุนเทียน ตลิ่งชัน"

    ด้านพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) กล่าวว่าระบบประปาที่คลองมหาสวัสดิ์นั้นมีน้ำทะลักเข้าไปเป็นจำนวนมาก มีทั้งสาหร่ายสิ่งสกปรกเข้าไป ทางการประปาฯ จึงต้องลดการผลิตลงจาก 9 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เหลือ 4 แสน ลบม./วัน แต่มีการแก้ไขแล้วก็จะใช้ได้ 5 แสน ลบม./วัน ซึ่งการประปาฯ ต้องบริหารจัดการเรื่องการปล่อยน้ำประปาเป็นสองช่วงคือเช้า เย็น ส่วนกลางวันก็งดใช้ เพื่อสำรองให้ส่วนสำคัญ เช่น โรงพยาบาล

    "ดังนั้นพี่น้องประชาชนโปรดรับทราบด้วยว่าประปาฝั่งธนบุรีจะใช้เป็น ช่วงเวลา ขณะนี้กำลังแก้ไข แต่คุณภาพยังใช้ได้เหมือนเดิม รวมทั้งประปาในกทม.ยังไม่มีปัญหา" พล.ต.อ.ประชากล่าว

    -http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137865-



    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    คู่มือ รับมือ สถานการณ์น้ำท่วม
    ข่าวรายงานพิเศษ วันพุธที่ 19 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 20:34 น.




    อุทกภัยที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหาย แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงาน เป็นอย่างมาก ฉนั้นประชาชนจึงควรมีความพร้อมในการเตรียมรับสถานการ์น้ำท่วมเพื่อป้องกัน และบรรเทาภัย ที่จะเกิดขึ้นได้
    เหตุการณ์ อุทกภัยที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมาได้ได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่น้ำท่วม โดยทางรัฐและหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบต้องกรทำการป้องกันและฟื้นฟู ระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญก่อน อาจไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนได้อย่างทันที ดังนั้นประชาชนจึงควรมีความพร้อมในการเตรียมรับสถานการ์น้ำท่วมเพื่อป้องกัน และบรรเทาภัยที่จะเกิดขึ้นได้

    การเตรียมการก่อนน้ำท่วม
    การป้องกันตัวเองและความสียหายจากน้ำท่วม ควรมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพราะหากรอให้มีการเตือนภัยเวลามักไม่เพียงพอ รู้จักกับภัยน้ำท่วมของคุณ สอบถามหน่วยงานที่มีการจัดการด้านน้ำท่วม ด้วยคำถามดังต่อไปนี้
    - ภายในละแวกใกล้เคียงในรอบหลายปี เคยเกิดน้ำท่วมสูงที่สุดเท่าไร
    - เราสามารถคาดคะเนความเร็วน้ำหรือโคลนได้หรือไม่
    - เราจะได้การเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่น้ำจะมาถึงเป็นเวลาเท่าไหร่
    - เราจะได้รับการเตือนภัยอย่างไร
    - ถนนเส้นใดบ้าง ในละแวกนี้ที่จะถูกน้ำท่วมหรือจะมีสิ่งกีดขวาง

    การรับมือสำหรับน้ำท่วมครั้งต่อไป
    1. คาดคะเนความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของคุณเมื่อเกิดน้ำท่วม
    2. ทำความคุ้นเคยกับระบบการเตือนภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขี้นตอนการอพยพ
    3. เรียนรู้เส้นทางการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด จากบ้านไปยังที่สูงหรือพื้นที่ปลอดภัย
    4. เตรียมเครื่องมือรับวิทยุแบบพกพา อุปกรณ์ทำอาหารฉุกเฉินแหล่งอาหารและไฟฉาย รวมทั้งแบตเตอร์รี่สำรอง
    5. ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยน้ำท่วม ควรจะเตรียมวัสดุ เช่น กระสอบทราย แผ่นพลาสติก ไม้แผ่น ตะปู กาวซิลิโคน เพื่อใช้ป้องกันบ้านเรือน และควรทราบแหล่งวัตถุที่จะนำมาใช้
    6. นำรถยนต์และพาหนะไปเก็บไว้ในพื้นที่ซึ่งน้ำไม่ท่วมถึง
    7. ปรึกษาและทำข้อตกลงกับบริษัทประกันภัย เกี่ยวกับการประกันความเสียหาย
    8. บันทึกหมายเลขโทรศัพท์สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและเก็บไว้ตามที่จำง่าย
    9. รวบรวมของใช้จำเป็นและเสบียงอาหารที่ต้องการใช้ ถายหลังน้ำท่วมไว้ในที่ปลอดภัยและสูงกว่าระดับที่คาดว่าน้ำจะท่วมถึง
    10. ทำบันทึกรายการทรัพย์สินมีค่างทั้งหมด ถ่ายรูปหรือวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    11. เก็บ บันทึกรายการทรัพย์สิน เอกสารสำคัญและของมีค่าอื่นๆ ในสถานที่ปลอดภัยห่างจากบ้านหรือห่างไกลจากที่น้ำท่วมถึง เช่น ตู้เซฟที่ธนาคาร หรือไปรษณีย์
    12. ทำแผนการรับมือน้ำท่วม และถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐานที่สังเกตุได้ง่าย และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ


    ถ้าคุณคือพ่อแม่
    - ทำหารซักซ้อมและให้ข้อมูลแก่บุตรหลานของคุณ ขณะเกิดน้ำท่วม เช่น ไม่สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำและอยู่ใกล้เส้นทางน้ำ
    - ต้องการทราบหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของหน่วยงานท้องถิ่น
    - ต้องการทราบแผนฉุกเฉินสำหรับ โรงเรียนที่บุตรหลานเรียนอยู่
    - เตรีมแผนการอพยพสำหรับครอบครัวของคุณ
    - จัดเตรียมกระสอบทราย เพื่อกันน้ำไม่ให้เข้าสู่บ้านเรือน
    - ต้องมั่นใจว่าเด็กๆ ได้รับทราบแผนการรับสถานการณ์น้ำท่วมของครอบครัวและของโรงเรียน


    การทำแผนรับมือน้ำท่วม
    การจัดทำแผนรับมือน้ำท่วม จะช่วยให้คุณนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่จะต้องทำหลังได้รับการเตือนภัยเดินสำรวจทั่วทั้งบ้านด้วยคำแนะนำที่กล่าว มา พร้อมทั้งจดบันทึกด้วยว่าจะจัดการคำแนะนำอย่างไร ในช่วงเวลาที่ทุกๆ คนเร่งรีบและตื่นเต้นเนื่องจากภัยคุกคาม สิ่งที่สำคัญที่จะลืมไม่ได้ก็คือ หมายเลขโทรศัพท์ต่างๆ ที่สำคัญไว้ในแผนด้วย



    ถ้าคุณมีเวลาเล็กน้อยหลังการเตือนภัย :
    สิ่งที่ต้องทำและมีในแผน
    - สัญญาเตือนภัยฉุกเฉิน และสถานีวิทยุ หรือสถานีโทรทัศน์ที่รายงานสถานการณ์
    - รายชื่อสถานที่ 2 แห่งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถพบกันได้หลังจากพลัดหลงโดยสถานที่แรกให้อยู่ ใกล้บริเวณบ้านและอีกสถานที่อยู่นอกพื้นที่ที่น้ำท่วมถึง

    ระดับการเตือนภัยน้ำท่วม
    ลักษณะการเตือนภัยมี 4 ประเภท คือ

    1. การเฝ้าระวังน้ำท่วม : มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมและอยู่ในระหว่างสังเกตุการณ์
    2. การเตือนภัยน้ำท่วม : เตือนภัยจะเกิดน้ำท่วม
    3. การเตือนภัยน้ำท่วมรุนแรง : เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง
    4. ภาวะปกติ : เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติหรือเป็นพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม

    สิ่งที่คุณควรทำ : หลังจากได้รับการเตือนภัยจากหน่วยงานด้านเตือนภัยน้ำท่วม

    1. ติดตามการประกาศเตือนภัยจากสถานีวิทยุท้องถิ่น โทรทัศน์หรือรถแจ้งข่าว
    2. ถ้ามีการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันและคุณอยู่ในพื้นที่หุบเขาให้ปฎิบัติดังนี้
    - ปีนขึ้นที่สูงให้เร็วสุดเท่าที่จะทำได้
    - อย่าพยายานำสัมภาระติดตัวไปมากเกินไป ให้คิดว่าชีวิตสำคัญที่สุด
    - อย่าพยายามวิ่งหรือขับรถผ่านบริเวณน้ำหลาก
    3. ดำเนินการตามแผนรับมือน้ำท่วมที่ได้วางแผนไว้แล้ว
    4. ถ้ามีการเตือนภัยการเฝ้าระวังน้ำท่วมจะยังมีเวลาในการเตรียมแผนรับมือน้ำท่วม
    5. ถ้ามีการเตือนภัยน้ำท่วมและคุณอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมถึง
    ควรปฎิบัติดังนี้
    - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและแก๊ซถ้าจำป็น
    - อุดปิดช่องน้ำทิ้งอ่างล่างจาน
    - พื้นที่ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ที่น้ำสามารถไหลเข้าบ้าน
    - อ่านวิธีการที่ทำให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่ออยู่นอกบ้าน
    - ล็อคประตูบ้านและอพยพขึ้นที่สูง
    - ถ้าไม่มีที่ปลอดภัยบนที่สูง ให้ฟังข้อมูลจากวิทยุหรือโทรทัศน์เกี่ยวกับสถานที่หลบภัยของหน่วยงาน
    6. หากบ้านพักอาศัยของคุณไม่ได้อยู่ในที่น้ำท่วมถึง
    - อ่านวิธีการที่ทำให้ความปลอดภัยเมื่ออยู่ในบ้าน
    7. หากบ้านพักอาศัยของคุณไม่ได้อยู่ในที่น้ำท่วมถึงแต่อาจมีน้ำท่วมในห้องใต้ดิน
    - ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องใต้ดิน
    - ปิดแก็ซหากคาดว่าน้ำจะท่วมเตาแก็ซ
    - เคลื่อนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นข้างบน
    - ห้ามอยู่ในห้องใต้ดิน เมื่อมีน้ำท่วมถีงบ้าน

    น้ำท่วมฉับพลัน
    คือ น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากในบริเวณที่ลุ่มต่ำ ในแม่น้ำ ลำธารหรือร่องน้ำที่เกิดจากฝนที่ตกหนักมากติดต่อกันหรือจากพายุฝนที่เกิดซ้ำ ที่หลายครั้ง น้ำป่าอาจเกิดจากที่สิ่งปลูกสร้างโดยมนุษย์ เช่น เขื่อนหรือฝายพังทลาย
    - ถ้าได้ยินการเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันให้วิ่งไปบนที่สูงทันที
    - ออกจารถและที่อยู่ คิดอย่างเดียวว่าต้องหนี
    - อย่าพยายามขับรถหรือวิ่งย้อนกลับไปทางที่ถูกน้ำท่วม



    ปลอดภัยไว้ก่อนเมื่ออยู่นอกบ้าน
    - ห้ามเดินตามเส้นทางที่น้ำไหล
    มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตจากจมน้ำตายในขณะที่น้ำกำลังมาความสูงของน้ำแค่ 15 ซม. ก็ทำให้เสียหลักล้มได้ ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องเดินผ่านที่น้ำไหลให้ลองนำไม้จุ่มเพื่อวัดระดับ น้ำก่อนทุกครั้ง

    - ห้ามขับรถในพื้นที่ที่กำลังโดนน้ำท่วม
    การ ขับรถในพื้นที่ที่น้ำท่วมมีความเสียงสูงมากที่จะจมน้ำ หากเห็นป้ายเตือนตามเส้นทางต่างๆ ห้ามขับรถเข้าไปเพราะอาจมีอันตรายข้างหน้า น้ำสูง 50 ซม. พัดรถยนต์จักรยสานยนต์ให้ลอยได้

    - ห้ามเข้าใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสาย :
    กระแส ไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านได้ เมื่อเกิดน้ำท่วมแต่ละครั้งจะมีผู้เสียชีวิต เนื่องจากไฟดูดมากกว่าสาเหตุอื่นๆ เมื่อเห็นสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดเสียหายกรุณาแจ้ง 191 หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


    หลังน้ำท่วม

    3 ขั้นตอนที่คุณควรทำในวันแรก ๆ หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม
    ขั้นตอนที่ 1 : เอาใจใส่ตัวเอง
    หลังผ่านเหตุการณ์น้ำท่วม คุณและครอบครัวอาจเกิดความซึมเศร้า และต้องใช้เวลากลับสู่ภาวะปกติอย่าลืมว่าเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นอาคารบ้าน เรือน ได้รับความเสียหาย คุณต้องดูแลตัวเองและครอบครัว พร้อมกับการบูรณะบ้านให้กลับบ้านเหมือนเดิม อุปสรรคที่สำคัญคือ ความเครียด รวมทั้งปัญหาอื่น เช่น นอนหลับยาก ฝันร้ายและปัญหาทางกาย โรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งคุณและครอบครัวควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

    1. ให้เวลากับครอบครัวเพราะความอบอุ่นในครอบครัวอาจช่วยเยี่ยวยารักษาได้ดี
    2. พูดคุยปัญหากลับเพื่อนและครอบครัว ร่วมแบ่งปันความกังวลจะช่วยให้ได้ระบายและผ่อนคลายความเครียด
    3. ผักผ่อนและกินอาหารที่เป็นประโยชน์ เพราะมีปัญหาทั้งความเครียดและทางกายเพิ่มขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ
    4. จัดรำดับสิ่งที่จำเป็นต้องทำตามลำดับก่อนหลังและค่อย ๆ ทำ
    5. ขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์เมื่อเกิดอาการซึมเศร้าจนที่จะรับมือได้
    6. ดูแลเด็กๆให้ดี และโปรดเข้าใจเด็กมีความตื่นกลัวไม่แพ้กัน และอย่าตำหนิเด็กที่มีพฤติกรรมแลก ๆ หลังจากน้ำท่วม เช่น ฉี่รดที่นอน ดูดนิ้วโป้งหรืเกาะคุณอยู่ตลอดเวลา จำไว้ว่าเด็กพึ่งผ่านเหตุการณ์ที่รุนแรงในชีวิต
    7. ระวังเรื่องสุขอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่เคยน้ำท่วม

    ขั้นตอนที่ 2 การจัดการดูแลบ้านของคุณ
    ที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากน้ำท่วมส่วนใหญ่เกิดจากถูกไฟดูด หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากน้ำลดสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อกลับบ้านคือ การตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนเข้าบูรณะและอยู่อาศัย โดยมีขั้นตอนดังนี้
    1.ปรับจูนคลื่นวิทยุโทรทัศน์ ฟังรายงานสถานการณ์
    2.ติดต่อบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และซ่อมแซมทรัพย์สินต่าง ๆ
    3.เดินตรวจตารอบ ๆ บ้าน และเซ็คสายไฟฟ้า สายถังแก็สโดยถ้าหากเกิดแก็สรั่วจะสามารถรู้ได้จากกลิ่นแก็สให้ระวังและรีบ โทรแจ้งร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่าย
    4.ตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้าง ตัวบ้าน ระเบียง หลังคา ให้แน่ใจว่าโครงสร้างทุกอย่างปลอดภัย
    5.ตัดระบบไฟฟ้าที่จ่ายเข้าบ้าน
    6.ปิดวาล์วแก็สให้สนิทหากได้กลิ่นแก็สรั่วก่อไม่ควรเข้าใกล้บริเวณนั้น
    7.เข้าไปในบ้านอย่างระมัดระวัง แลพอย่าใช้วัสดุที่ทำให้เกิดประกายไฟ
    8.ถ่ายรูปความเสียหาย เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากประกัน (ถ้ามี)
    9.เก็บกู้สิ่งของที่มีค่า และห่อหุ้มรูปภาพหรือเอกสารสำคัญ
    10.เก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เปิดหน้าต่างและประตู เพื่อระบายอากาศ และตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
    11.ซ่อมแซมโครงสร้างที่เสียหาย
    12.เก็บกวาดกิ่งไม้หรือสิ่งปฏิกูลในบ้าน
    13.ตรวจ หารอยแตกหรือรั่วของท่อน้ำถ้าพบให้ปิดวาฃ์วตรงมิเตอร์น้ำ และไม่ควรดื่มและประกอบอาหารด้วยน้ำจากก๊อกน้ำ จนกว่าจะรู้ว่าสะอาดและปลอดภัย
    14 ระบายน้ำออกจากห้องใต้ดินอย่างช้า ๆ เนื่องจากแรงดันน้ำภายนอกอาจจะมากจนทำให้เกิดรอยแตกของผนังหรืพื้นห้องใต้ดิน
    15.กำจัดตะกอนที่มาจากน้ำเนื่องจากเซื้อโรคส่วนมากมักจะมาจากตะกอน

    โรคที่มากับน้ำท่วม
    โรคน้ำกัดเท้าและผื่นคัน
    เกิด ขึ้นได้ก็เพราะผิวหนังเท้าของเรา โดยเฉพาะที่ง่ามเท้าเกิดเปียกชื้นและสกปรก เวลาที่เท้าสกปรก สิ่งสกปรกจะเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ทำให้เชื้อราหรือเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ ดี เท้าที่แช่น้ำหรือเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผิวหนังที่เท้าอ่อนส่วนผิว ๆของหนังจะเปื่อยและหลุดออก เศษผิวหนังที่เปื่อยนี้จะทำให้เชื้อโรคที่ปลิวไปปลิวมาเกาะติดได้ง่าย และผิวที่เปื่อยก็เป็นอาหารของเชื้อราได้ดี เชื้อราจึงไปอาศัยทำให้เกิดแผลเล็กๆขึ้นตามซอกนิ้วเท้าเกิดเป็นโรคน้ำกัด เท้าขึ้น
    โรคน้ำกัดเท้า มักพบว่ามีอาการคันและอักเสบตามซอกนิ้วเท้า (หรือนิ้วมือ) และถ้ามีเชื้อแบคทีเรียเข้าแทรกซ้อนด้วย ก็จะทำให้อักเสบเป็นหนอง และเจ็บปวดจนเดินลำบากได้

    ไข้หวัด
    ไข้หวัดเป็นการติดเชื้อของจมูก และคอ บางครั้งเรียก upper respiratory tract infection URI เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งรวมเรียกว่า Coryza viruses ประกอบด้วย Rhino-viruses เป็นสำคัญ เชื้อชนิดอื่นๆมี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูก และคอจะทำให้เยื่อจมูกบวม และแดง มีการหลังของเมือกออกมาแม้ว่าจะเป็นโรคที่หายเองใน 1 สัปดาห์แต่เป็นโรคที่นำผู้ป่วยไปพบแพทย์มากที่สุดโดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้ หวัด 6-12 ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่จะเป็น 2-4 ครั้ง ผู้หญิงเป็นบ่อยกว่าผู้ชายเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็ก คนสูงอายุอาจจะเป็นปีละครั้ง


    โรคเครียดวิตกกังวล
    ความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่ง หนึ่ง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ความตื่นเต้นความท้าทายและความสนุก สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้ง ผลดีและผลเสีย

    โรคตาแดง
    โรคตาแดงเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของเยื่อบุตา(conjuntiva)ที่คลุมหนังตาบนและล่างรวมเยื่อบุตา ที่คลุมตาขาว โรคตาแดงอาจจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีบ ไวรัส Chlamydia trachomatis ภูมิแพ้ หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางมือ ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวโดยมากใช้เวลาหาย 2 สัปดาห์ ตาแดงจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง การใช้contact lens หรือน้ำยาล้างตาก็เป็นสาเหตุของตาแดงเรื้อรัง

    โรคอุจาจระร่วง
    โรคอุจจาระร่วง หมายถึง ภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลว จำนวน 3 ครั้งต่อกันหรือมากกว่า หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 1 ครั้ง ใน 1 วัน หรือถ่ายเป็นมูกหรือปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในลำไส้จากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว ปรสิตและหนอนพยาธิ สถานีอนามัย โรงพยาบาลชุมชนในประเทศไทยมักจะหาสาเหตุของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอาการ อุจจาระร่วงไม่ได้ ก็จะให้การวินิจฉัยจากอาการ อาการแสดงและลักษณะอุจจาระได้แก่ บิด (Dysentery) อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) ไข้ทัยฟอยด์ (Typhoid fever) เป็นต้น ในกรณีที่มีอาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันไม่ใช่โรคดังกล่าวข้างต้น และอาการไม่เกิน 14 วัน ก็จะรายงานเป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea)



    แหล่งให้ความช่วยเหลือน้ำท่วม
    หน่วยงานให้ความช่วยเหลือน้ำท่วม
    หน่วยงานให้ความช่วยเหลือน้ำท่วมและหมายเลขสอบถามข้อมูลน้ำท่วมต่าง ๆ

    1. ศูนย์รับบริจาคสิ่งของโคราช
    - หากต้องการบริจาคสิ่งของ ให้ไปที่ศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมานะคะ
    - ต้องการบริจาคเงิน ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 044-259-996-8, 044-259-993-4 หรือโอนมาได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.นครราชสีมา” เลขบัญชี 301-0-86149-4

    2. ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จังหวัดนครราชสีมา
    - สามารถสอบถามและขอความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 044-342652-4 และ 044-342570-7

    3. โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา
    - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 086-251-2188 ตลอด 24 ชั่วโมง
    - ทางโรงพยาบาลมีความต้องการน้ำดื่มบรรจุขวด นมกล่อง และอาหารแห้ง รวมทั้งของใช้เบ็ดเตล็ดผู้ป่วย เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ผ้าอนามัย เป็นจำนวนมาก
    - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา” เลขที่บัญชี 301-3-40176-1

    4. กรมอุตุนิยมวิทยา
    - เว็บไซต์ tmd.go.th
    - สายด่วนกรมอุตุนิยมวิทยา โทร. 1182
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร (AM 1287 KHz) โทร. 02-383-9003-4, 02-399-4394
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา (FM 94.25 MHz)โทร. 044-255-252
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก (FM 104.25 MHz) โทร. 055-284-328-9
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ระยอง (FM 105.25 MHz) โทร. 038-655-075, 038-655-477
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ภูเก็ต (FM 107.25 MHz) โทร. 076-216-549
    - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ชุมพร (FM 94.25 MHz) โทร. 077-511-421

    5. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
    - เว็บไซต์ disaster.go.th
    - สายด่วนนิรภัย หมายเลขโทรศัพท์ 1784
    - ขบวนช่วยเหลือน้ำท่วมออกเรื่อย ๆ ขอรับบริจาคเน้นไปที่ น้ำ, ยาแก้ไข้, เสื้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-241-7450-6 แผนที่คลิกที่นี่

    6. กรุงเทพมหานคร

    - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาคารศาลาว่าการกทม.1 (เสาชิงช้า), ศาลาว่าการกทม.2(ดินแดง) และที่สำนักงานเขตทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ 50 แห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-354-6858


    7. สภากาชาดไทย

    - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-251-7853-6 , 02-251-7614-5 ต่อ 1603
    - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” เลขที่บัญชี 045-3-04190-6 แล้วแฟ็กซ์ใบนำฝากพร้อมเขียนชื่อและที่อยู่มาที่ สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย ถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน หมายเลขโทรสาร 02-250-0120 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-256-4066-8
    - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย 1871 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หากมาจากถนนพระราม 4 ให้เลี้ยวตรงแยกอังรีดูนังต์ เมื่อเข้าสู่ถนนอังรีดูนังต์ให้ชิดซ้ายทันที เนื่องจากอยู่ต้นๆถนน (ทางด้านพระราม 4) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-251-7853-6 ต่อ 1603 หรือ 1102 หากเป็นวันหยุดราชการ ต่อ 1302 , 02-251-7614-5 หมายเลขโทรสาร 02-252-7976
    - สามารถลงทะเบียนร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ที่ http://www.rtrc.in.th/ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-251-7853-6 , 02-251-7614-5 ต่อ 1603 มาช่วยแพ็คชุดธารน้ำใจ หรือช่วยขนพวกข้าวสารอาหารแห้งขึ้นรถบรรทุก แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ต้องการผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และสามารถยกของหนักได้ (เพราะงานค่อนข้างหนัก และต้องยกของหนัก) เป็นผู้ชายก็จะดีมาก หากเราต้องการกำลังพล จะโทรศัพท์ไปติดต่อว่าจะสะดวกมาในวันที่เราแพ็คของหรือไม่ เป็นราย ๆ ไป

    ข้อมูลจาก http://www.cendru.net


    Link : http://www.innnews.co.th/คู่มือ-รับมือ-สถานการณ์น้ำท่วม--315665_29.html


    -

    -http://www.innnews.co.th/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1--315665_29.html-
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า แบบว่าดีหน่อย จากที่เกรงเรื่องน้ำท่วม ได้ข่าวดีผ่อนคลายลงครับ




    ----------------------------------------------------------------


    "ถั่วน้อย" นำชัยผีหลอนท็อฟฟี 1-0 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ตุลาคม 2554 19:53 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เฮร์นานเดซ ขอบคุณพระเจ้า</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เอฟรา เสียบสไลด์จากด้านหลังใส่ โคลแมน</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">บิลยาเลทดินอฟ แตะบอลหนี ปาร์ค</td> </tr> </tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">ชิชาริโต (ขวา) เฮกับ เคลเวอร์ลีย์ และ เอฟรา หลังยิงประตู 1-0</td> </tr> </tbody></table>

    ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ กองหน้าเม็กซิกัน เป็นฮีโร่ยิงประตูชัยนาที 19 ช่วยให้ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเฉือนชนะ "ท็อฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 1-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรก วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554

    ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    เอฟเวอร์ตัน 0 - 1 แมนฯ ยูไนเต็ด

    แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดทางไปเยือนสนามกูดิสัน พาร์ก ของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อหวังเรียกความมั่นใจกลับมาหลังแพ้ยับเยินต่อ แมนฯ ซิตี คู่อริร่วมเมืองในเกมดาร์บีแมตช์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดการส่ง เนมานยา วิดิช กองหลังกัปตันทีมลงมายืนค้ำหลังร่วมกับ จอนนี อีแวนส์ ขณะที่เกมรุกเต็มสูบมีทั้ง แดนนี เวลเบ็ก ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ และ เวย์น รูนีย์ อดีตเด็กเก่าของเจ้าถิ่นลงล่าตาข่าย ทางฝั่ง "ท็อฟฟีสีน้ำเงิน" ของ เดวิด มอยส์ หมดสิทธิ์ใช้งาน รอยสตัน เดรนเธ ปีกชาวดัตช์ที่ถูกใบแดงในเกมลีก คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ และ ทิม เคฮิลล์ ที่ยังบาดเจ็บ แต่ยังมี มารูยาน เฟลลายนี มิดฟิลด์หัวฟูคอยทำเกมและ หลุยส์ ซาฮา ยืนเป็นหน้าเป้า

    เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึงนาที เอฟเวอร์ตัน ทักทายก่อน ซีมัส โคลแมน กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาจนหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ดาบิด เด เคอา ยืนปิดมุมดีป้องกันเอาไว้ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้กลับในนาทีถัดมา เวลเบ็ก แตะบอลลากบอลขึ้นไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดกลับมาให้ ปาร์ค จี ซอง ชาร์จหน้าประตูไปติดเซฟ ทิม ฮาเวิร์ด

    เกมของทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสี กระทั่งผ่านมาถึงนาที 19 กลายเป็นทีมเยือนมาทำประตูออกนำก่อน 1-0 ปาทริซ เอฟรา ได้บอลทางกราบซ้ายของเขตโทษ ก่อนเปิดมาหน้าประตู บอลเลยมาถึง ชิชาริโต ซึ่งไม่มีใครประกอบ แปด้วยซ้ายเข้าสู่ก้นตาข่าย

    เอฟเวอร์ตัน พยายามเกมบุกกดดันอย่างต่อเนื่องหลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรก ในนาที 36 แจ็ก รอดเวลล์ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนลากมายิงหน้าเขตโทษหลุดโคนเสาสองนิดเดียว อีก 4 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นมาได้ลุ้นฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เลห์ตัน เบนส์ ปั่นด้วยซ้าย เด เคอา ทำได้แต่ยืนมอง แต่บอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมอย่างน่าเสียดาย

    "ผีแดง" มาได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาที 44 จากการประสานงานระหว่าง เวลเบ็ก ปาร์ค ก่อนจบที่ ชิชาริโต ตวัดยิงบนเส้นเขตโทษไปตรงตัว ฮาเวิร์ด ขณะที่เจ้าถิ่นทำเกมโต้กลับเร็ว ซาฮา เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนแตะหนีกองหลังทีมเยือนสับไกยิงหน้าเขตโทษไปเข้ามือ เด เคฮา เช่นกัน จังหวะสุดท้ายของครึ่งแรก ซาฮา มีโอกาสซัดอีกครั้งในเขตโทษ แต่ติดมือ เด เคอา เหมือนเดิม สุดท้ายสกอร์ไม่เปลี่ยนแปลง จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

    เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก ในนาที 52 เอฟเวอร์ตัน มีลุ้นประตูตีเสมอหลังจาก อีแวนส์ สกัดบอลไม่ค่อยดีมาเข้าทาง รอดเวลล์ แตะมาตะบันด้วยซ้ายหน้าเขตโทษยังดีที่ เด เคอา พุ่งปัดทิ้งเอาไว้ได้ หลังจากนั้น ทอม เคลเวอร์ลีย์ มีปัญหาเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออก เซอร์ อเล็กซ์ ส่ง นานี ลงมาแทน

    เกมมาถึงนาที 61 เป็นโอกาสของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจาก เวลเบ็ก ได้บอลมาจาก นานี จนหลุดเข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษ แต่ ฮาเวิร์ด ก็ทำหน้าที่ได้เยี่ยมปัดข้ามคานออกไป อีก 5 นาทีถัดมา เซอร์ อเล็กซ์ ปรับเปลี่ยนผู้เล่นอีกครั้ง ส่ง เบอร์บาตอฟ ลงมาแทน ชิชาริโต ก่อนที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ถูกเปลี่ยนมาแทนที่ เวลเบ็ก อีกคน

    ช่วงประมาณ 15 นาทีสุดท้ายของเกม เอฟเวอร์ตัน ทำเกมบุกกดดันใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง โดยมีโอกาสลุ้นประตู 2-3 ครั้ง แต่ขาดความเฉียบคมยิงนกตกปลาไปเอง สุดท้ายก็ไม่สามารถทำประตูตามตีเสมอได้จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเป็นฝ่ายเอาชนะไป 1-0 เก็บสามคะแนนเต็มมีเพิ่ม 23 คะแนนจากการการลงแข่ง 10 นัดตามหลังจ่าฝูง แมนฯ ซิตี ซึ่งจะลงเตะกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในช่วงเวลา 21.00 น. เหลือ 2 คะแนน ส่วน เอฟเวอร์ตัน มี 10 คะแนนเท่าเดิมรั้งที่ 13 ของตาราง

    รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

    เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, จอห์น ไฮติงกา, ฟิล จากีลกา, เลห์ตัน เบนส์, โทนี ฮิบเบิร์ต, แจ็ก รอดเวลล์, ลีออน ออสมัน, มารูนยาน เฟลลายนี, ดินิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ, ซีมัส โคลแมน, หลุยส์ ซาฮา

    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดา บิด เด เคอา, จอนนี อีแวนส์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, ฟิล โจนส์, ทอม เคลเวอร์ลีย์, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ปาร์ จี ซอง, เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ก, ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ



    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137986-

    .

    http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000137986


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมได้นำเงินของท่านน้องปฐม (คุณพ่อ , คุณแม่ , ภรรยา และครอบครัว) ไปร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร จำนวน 1,000 บาท และ นำเงินจำนวน 500 บาท ไปให้พี่ใหญ่ ในการเดินทางไปทำบุญในสถานที่ต่างๆ

    ขอโมทนาบุญกับท่านน้องปฐมและครอบครัวด้วยครับ

    ส่วนผมและผบทบ.ก็ได้นำเงินไปทำบุญกับทุนนิธิฯ 500 บาท , นำเงินไปให้พี่ใหญ่อีก 500 บาท ที่พี่ใหญ่จะเดินทางไปทำบุญ และ ฝากเงินจำนวน 500 บาท (ทำบุญชำระหนี้สงฆ์)

    มาร่วมโมทนาบุญกับท่านน้องปฐมและผมกันครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +3,420

    ขอร่วมโมทนาบุญกับทั้งสองท่าน ทุกประการครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ไม่น่าเชื่อครับ


    ---------------------------------------

    ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2554

    เชลซี
    3–5 อาร์เซน่อล


    ผู้ทำประตู :
    1-0 แลมพาร์ด น.14, 1-1 ฟาน เพอร์ซี่ น.36, 2-1 เทอร์รี่ น.45, 2-2 อันเดร ซานโต๊ส น.49, 2-3 วัลคอตต์ น.56, 3-3 มาต้า น.81, 3-4 ฟาน เพอร์ซี่ น.86, 3-5 ฟาน เพอร์ซี่ น.92

    สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


    เวลาแข่งขัน 18.45 ทรู 1 ถ่ายทอดสด

    เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 11 อาร์เซน่อลมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำจาก ธีโอ วัลค็อตต์กระดกบอลข้ามแอชลี่ย์ โคลด้านฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้แชร์วินโญ่ได้ยิง เเต่บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

    [​IMG]

    [​IMG] นาทีที่ 14 เชลซีเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำ 1 ต่อ 0มาต้าเปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ให้แฟร้งค์ แลมพาร์ด ขึ้นโขกบอลผ่านมือวอยเช็ก เชสนี่นายทวารอาร์เซน่อลเข้าไป
    นาทีที่ 29 แลมพาร์ดเปิดบอลข้ามเเผงกองหลังอาร์เซน่อล ให้สเตอร์ริดจ์หลุดขึ้นไปด้านฝั่งขวาก่อนยิงหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

    [​IMG]

    [​IMG] นาทีที่ 37 อารอน แรมซี่ย์จ่ายบอลทะลุกองหลังเชลซี ให้แชร์วินโญ่หลุดเข้าไปดวลกับปีเตอร์ เช็ก ก่อนจะจ่ายให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ที่เติมเกมรุกขึ้นมาได้เเปบอลโล่งๆเข้าไป เเละเป็นประตูให้อาร์เซน่อล ไล่ตามตีเสมอเป็น 1 ต่อ 1

    [​IMG] นาทีที่ 45 เชลซีเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2 ต่อ 1 จาก แฟร้งค์ แลมพาร์ดเปิดลูกเตะมุมด้านฝั่งซ้าย เข้ากลางไปให้ จอห์น เทอร์รี่วิ่งโฉบเข้ามาเเปบอลก่อนหน้าแพร์ แมร์เตซัคเกอร์กองหลังอาร์เซน่อลที่จะมาสกัด เสียบเสาเเรกเข้าไป

    [​IMG]

    [​IMG] เริ่มเกมครึ่งหลัง นาทีที่ 49 อาร์เซน่อล ไล่ตามตีเสมอเป็น 2 ต่อ 2 จาก อเล็กซ์ ซงจ่ายบอลช่องเเนวรับเชลซี ให้อันเดร ซานโต๊สวิ่งสอดขึ้นมายิงยัดไปที่เสาเเรกบอลพุ่งผ่านมือปีเตอร์ เช็กเข้าไป

    [​IMG] นาทีที่ 56 อาร์เซน่อลได้ประตูขึ้นนำ 3 ต่อ 2 จาก ธีโอ วัลค็อตต์ลากบอลหลบแอชลี่ย์ โคลด้านฝั่งขวา ก่อนจะลากเข้าไปซัดที่เสาเเรกบอลพุ่งผ่านมือปีเตอร์ เช็กเข้าไป

    [​IMG] นาที ที่ 81 เชลซี ได้ประตูตีเสมอ3 ต่อ 3 จาก ราอูล เมยเรเลสผ่านบอลให้ ฆวน มานูเอล มาต้าสัปไกยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านมือ วอยเช็ก เชสนี่เข้าไปอย่างสวยงาม

    [​IMG]

    [​IMG] นาทีที่ 85 จากความผิดพลาดของ มาลูด้า ที่จ่ายบอลคืนหลังพลาด ทำให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ฉกบอลตัดหน้าจอห์น เทอร์รี่ ก่อนจะลากเข้าไปเลี้ยงหลบ ปีเตอร์ เช็ก ก่อนจะเเปเข้าไปง่ายๆ เเละเป็นประตูให้อาร์เซน่อลบุกมานำ 3 ต่อ 4

    [​IMG] ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น. 2 อาร์เซน่อล สวนกลับเร็ว โธมัส โรซิชกี้ ลากบอลขึ้นมากจากกลางสนาม ส่งเข้ากลางให้ มิเกล อาร์เตต้า ไหลไปทางซ้ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ย์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษ ซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งแรงไซด์โค้งตุงตาข่าย อาร์เซน่อล นำห่าง 5-3 และจบการแข่งขันด้วยสกอร์นี้

    รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

    เชลซี
    : เช็ก, อิวาโนวิช, โบซิงวา, เทอร์รี่, โคล, รามิเรส, มิเกล, แลมพาร์ด, สเตอร์ริดจ์, มาต้า, ตอร์เรส

    อาร์เซน่อล :
    เชสนี่, โฌรู, แมร์เตซัคเกอร์, กอสซิแอลนี่, อันเดร ซานโต๊ส, อาร์เตต้า, ซง, แรมซี่ย์, วัลค็อตต์, แชร์วินโญ่, ฟาน เพอร์ซี่


    [​IMG]


    -http://sport.mthai.com/football-inter/59601.html-

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ข้อควรปฏิบัติเมื่อนำรถลุยน้ำ

    น้ำท่วมหลายเส้นทางแบบนี้ การขับรถลุยน้ำอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้มีวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องก่อนและหลังนำรถลุยน้ำมาฝาก

    ช่วงนี้น้ำท่วมทั่วทุกที่ ไปไหนแต่ละทีก็แสนลำบาก บางคนกลัวรถจมน้ำก็นำไปฝากจอดตามอาคารสูง หรือไม่ก็บนสะพานหรือทางด่วน แต่บางท่านยังไม่เป็นผู้ประสบอุทกภัย อีกทั้งยังต้องไปทำงานแทบทุกวัน รถยนต์จึงมีความจำเป็นอยู่ แต่เส้นทางที่่ใช้ ก็ไม่พ้นต้องผ่านบริเวณน้ำท่วม รถจึงต้องลุยน้ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้มีวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องก่อนและหลังนำรถลุยน้ำมาฝาก

    ขั้นแรกเวลาเจอเส้นทางที่น้ำท่วมขัง แต่รถยังพอผ่านไปได้ ให้ปิดแอร์ก่อน หากเปิดแอร์ไว้เสี่ยงต่อการทำให้เครื่องยนต์ดับได้ เพราะการเปิดแอร์ใบพัดลมจะทำงาน เวลาลุยน้ำ น้ำจะกระจายไปทั่วห้องเครื่อง เป็นสาเหตุหนึ่งที่เครื่องยนต์อาจดับ หรือโชคร้ายมีเศษขยะลอยเข้ามาในห้องเครื่องขณะใบพัดหมุน ใบพัดก็อาจหักได้

    สำหรับรถยนต์ระบบเกียร์ออโต้ แนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำลุยน้ำ ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้เกียร์ 2 หรือ เกียร์ L และขับด้วยความเร็วต่ำที่สุด อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ และลดความเร็วเมื่อต้องขับสวนกับรถคันอื่น

    หลังลุยน้ำให้ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก สำหรับเกียร์ธรรมดาให้ย้ำคลัชด้วย เนื่องจากอาจเกิดปัญหาคลัชลื่น และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วไม่ควรดับเครื่องทันที ให้สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก เพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสีย ปล่อยให้ไอของน้ำในหม้อพักระเหยออกมา เพื่อป้องกันการผุกร่อน

    เมื่อผ่านการลุยน้ำมาแล้ว เวลาล้างรถควรฉีดน้ำเน้นไปที่บริเวณใต้ท้องรถ และซุ้มล้อด้วย เพื่อล้างเศษขยะ หญ้า ทราย ออกให้หมด และเช็คน้ำมันเกียร์ว่าน้ำเข้าไปในระบบเกียร์หรือไม่ ทางที่ดีให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลย เมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ อีกอย่างหนึ่งคือเช็คลูกปืนล้อ ว่ามีเสียงดังหรือไม่ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเช่นกัน.

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=424&contentId=172777-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    กรอบเค็ม-โรตีกรอบ ทำง่ายๆ ยังขายคล่อง


    [​IMG]

    [​IMG]





    อีกกลุ่มขนมทานเล่นที่ขายได้ตลอด คือพวก กรอบเค็ม โรตีกรอบ หรือแม้แต่ กะหรี่ปั๊บ ปั้นขลิบ ซึ่งคนที่ทำขนมทานเล่นพวกนี้ขายแม้จะมีมาก แต่ใครมีฝีมือทำได้อร่อย ก็ยังสามารถจะเจาะสู่ตลาดจนมีลูกค้ามาก ๆ ได้ไม่ยากนัก ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” จะพาไปดูกรณีศึกษาการทำอาชีพขายขนมทานเล่นเจ้าหนึ่งที่ทำขายมานานร่วม 20 ปี...

    นิภา อาบทอง เจ้าของนิภากะหรี่ปั๊บและปั้นขลิบทอด เล่าว่า เมื่อก่อนมีอาชีพเป็นพนักงานขายแว่นตา และเคยเปิดโรงงานทำวงกบประตูหน้าต่าง ร้านทำมุ้งลวดเหล็กดัดมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเปลี่ยนอาชีพ โดยได้คำแนะนำเรื่องขนมจากหลาน ซึ่งตนก็ไปเรียนรู้ใหม่หมด โดยแรก ๆ ขายในหมู่บ้านที่อยู่ก่อน จากนั้นก็มาขายตามตลาดนัดต่าง ๆ แต่ก็ขายไม่ค่อยดี จึงมาหาที่ขายตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งก็ได้แหล่งขายหลายที่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เพราะโรงพยาบาลมีคนมาก อีกทั้งยังมีคนไข้ซื้อไปฝากหมอบ้าง ฝากพยาบาลบ้าง ทำให้อาชีพขายของตนประสบความสำเร็จ

    ในส่วนของ “กรอบเค็ม” และ “โรตีกรอบ” นั้น นิภาบอกว่า เป็นสินค้าที่แตกขยายเพิ่มออกมา เพราะต้องการให้ของมีความหลากหลายมากขึ้น และวิธีทำก็คล้าย ๆ กัน ซึ่งทั้งกะหรี่ปั๊บ ปั้นขลิบ กรอบเค็ม โรตีกรอบ ขายดีเท่า ๆ กันทุกอย่าง อุปกรณ์ในการทำ หลัก ๆ ก็มีเตาแก๊ส เครื่องตีแป้ง กระทะ กะละมัง ไม้นวดแป้ง มีด ฯลฯ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำอาหาร และทำขนมโดยทั่ว ๆ ไป

    วิธีทำ ตามสูตรจะใช้แป้งสาลี 10 กก. น้ำตาลทราย 3-4 กก., กะทิ 1 กก., เกลือ 1 ถุง, น้ำมัน 500 กรัม นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกะละมังตีแป้ง นำใส่เครื่องตี ตีไปประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วนำแป้งที่ตีแล้วใส่ถุงพลาสติกมัดปากให้แน่น ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

    ทั้งแป้งกรอบเค็ม และโรตีกรอบ มีส่วนผสมของแป้งแบบเดียวกัน

    วิธีปั้นแป้งกรอบเค็ม นิภาบอกว่า ให้ปั้นแป้งออกมาเป็นขนาดเท่ากำมือ รีดแป้งให้บาง

    จากนั้นใช้มือคลึงให้เป็นเส้นยาว ความกว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ ละ 3-5 เซนติเมตร แล้วนำไปทอดน้ำมันให้สุกกรอบ

    ส่วนแป้งโรตีกรอบ ให้ปั้นแป้งเป็นก้อน ๆ ขนาดเท่ากำมือ รีดเป็นแผ่นบาง ให้เป็นขนาดสี่เหลี่ยม จากนั้นพับแป้งไปมา 3-4 ชั้น นำไปทอดให้สุกกรอบเช่นกัน

    เครื่องปรุงกรอบเค็ม และโรตีกรอบ แตกต่างกันที่เครื่องปรุงที่นำลงไปผัด เครื่องปรุงผัดกรอบเค็มมีน้ำตาลปี๊บ 5 กก., พริกไทย 2 กก., น้ำมะขามเปียก 200 กรัม, ต้นหอมซอยพอประมาณ ส่วนเครื่องปรุงโรตีกรอบจะลดในส่วนของพริกไทยลงเหลือ 1.5 กก.

    ผัดเครื่องปรุงทุกอย่างในกระทะ โดยใส่น้ำตาลปี๊บลงไปก่อน เคี่ยวให้ละลาย จากนั้นใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงไป นำแป้งกรอบเค็ม หรือโรตีกรอบ ที่ทอดเตรียมไว้ ใส่ลงไปคลุกให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพักให้เย็น แล้วจึงบรรจุใส่ถุงขาย

    ราคาขาย “กรอบเค็ม” และ “โรตีกรอบ” คือขีดละ 30 บาท โดยนิภาบอกว่า จากราคาขายกรอบเค็ม และโรตีกรอบ ต่อ 10 ขีด หรือ 1 กก. 300 บาทนั้น จะมีต้นทุนประมาณ 180-200 บาท

    แหล่งขายขนมของนิภา ก็มีทั้งที่โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลทหารเรือ โรงพยาบาลตำรวจ ฯลฯ ใครต้องการสั่งขนม-ต้องการติดต่อ ก็ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2889-3002, 08-1847-8976 และ 08-1406-1445.

    สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล เรื่อง-ภาพ

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=516&contentId=172789-

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เกินเหนื่อย แต่ไม่ขอหยุด 'แพทย์สนามน้ำท่วม' อีกฉากสะท้อนน้ำใจไทย

    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=524&contentId=172785-


    สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ จะว่าไปก็ไม่ต่างจากภาวะสงคราม ซึ่งกับการเจ็บไข้ได้ป่วย ใครที่ไม่ป่วยพอน้ำท่วมก็อาจจะป่วย และใครที่ป่วยอยู่แล้วพอน้ำท่วมก็อาจยิ่งแย่ และยิ่งถ้าต้องมีการอพยพหนีน้ำด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งในสถานการณ์ที่อลหม่านเช่นนี้ ศูนย์พยาบาล ศูนย์แพทย์ฉุกเฉินหรือแพทย์สนาม ถือว่ามีความสำคัญมาก

    วันนี้มาดู “ฉากชีวิตแพทย์สนามช่วงน้ำท่วม” กัน...

    ณ อาคารหอประชุมขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ที่ถูกปรับให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบอุทกภัย ทั้งในจังหวัดปทุมธานี และจากพระนครศรีอยุธยา ฟูกนอนหลากสีกระจายเรียงรายเต็มโถงอาคาร คล้ายผ้าห่มผืนใหญ่ที่คอยสร้างความอุ่นใจให้คนไร้ที่พึ่ง แดดข้างนอกร้อนร้าย น้ำท่วมก็ไร้ความปรานี ผู้คนทยอยเดินเข้าออกอยู่ตลอด อาสาสมัครหญิงชายที่มีอยู่ไม่มากก็ทำงานในระดับที่เรียกว่าเกินกำลังของแต่ ละคน

    “ปิดรับแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ประสบภัยเข้ามาเพิ่มตลอด เราก็ต้องรับไว้ เพราะเข้าใจว่าเขาเองก็ไม่มีที่ไป เราพอช่วยได้ก็ต้องช่วย เหนื่อยไหม...ตอนนี้เรียกว่าเกินเหนื่อยไปแล้ว จากที่ตั้งใจจะเปิดเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ไม่เล็กแล้ว เพราะใคร ๆ ก็มุ่งมาที่นี่ แม้แต่โรงพยาบาลใกล้เคียง” เสียงล้า ๆ ของ ปาริชาติ พัฒนพงษ์ หัวหน้าฝ่ายข่าว กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี ซึ่งรับหน้าที่เป็นอาสาสมัครที่คอยช่วยประสานงานภายในศูนย์ ระบุกับทีม “วิถีชีวิต” ในวันที่เราไปเยือนศูนย์พักพิงแห่งนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ก่อนมีข่าวว่าพื้นที่บริเวณศูนย์พักพิงแห่งนี้ก็ เสี่ยงภัยน้ำท่วมแล้วเช่นกัน และต้องมีการย้ายไปที่อื่นอีก

    นอกจากศูนย์พักพิงแห่งนี้จะคอยดูแลเรื่องที่หลับที่นอน ห้องหับอาบน้ำ และอาหารการกินสำหรับผู้ประสบภัย ในอีกมุมหนึ่งของห้องโถงประชุมไกล ๆ บรรยากาศก็ดูจะวุ่นวาย เพราะจัดเป็นศูนย์พยาบาลของศูนย์พักพิง

    “วันแรก ๆ มีไม่ถึง 7 คน แต่พอน้ำท่วมขยายวงออกไปเรื่อย ๆ คนก็ไหลมามากขึ้น ไหลมากับน้ำเลย ภารกิจก็เลยหนักเพิ่มขึ้น จากที่จะเปิดเป็นเพียงจุดปฐมพยาบาล รักษาอาการเบื้องต้น เช่น ปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ไม่สบาย แต่กลายเป็นต้องรับเกือบทุกเคสเท่าที่สภาพจะอำนวย ดีที่ได้แพทย์และพยาบาลอาสาสมัครจากหลาย ๆ แห่งมาช่วย” เป็นเสียงของ ผ่องศรี แสงสุริยันตร์ พยาบาลวิชาชีพประจำ มทร.ธัญบุรี ที่เล่าให้เราฟังถึงภารกิจด้านการรักษาพยาบาล ที่ต้องรับบทหนัก ไม่แพ้น้ำมากที่เอ่อล้นท้นท่วมไปทั่ว

    จากหน้าที่เดิมที่เป็นเพียงพยาบาลห้องปฐมพยาบาล ก็ต้องทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้บังคับบัญชาการเหตุการณ์เจ็บป่วยที่เกิดขึ้น แทบจะตลอดเวลาภายในศูนย์แห่งนี้ เรียกว่างานมากกว่าปกติหลายเท่า ยังดีที่มีน้ำใจจิตอาสาทีมแพทย์และพยาบาลสาธารณสุขจากหลายแห่งมาช่วยเหลือ ด้วย อาทิ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย, โรงพยาบาลท่ายาง จ.เพชรบุรี, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และทีมจิตวิทยาจากสถาบันราชานุกูล

    “จากเดิมเราจะเป็นเพียงแค่ศูนย์ปฐม พยาบาลเฉพาะกิจ คอยดูแลให้การรักษาพื้นฐานแก่ผู้พักพิง แต่ต่อมาภารกิจของเราแทบจะกลายเป็นงานระดับโรงพยาบาลสนามขนาดย่อม ๆ ไปแล้ว” เสียงของผ่องศรีดังขึ้นมาคุยกับเรา ขณะที่มือไม้ยังคงยุ่งกับการจดรายละเอียด และโทรศัพท์เพื่อติดต่อประสานงานตลอดเวลา

    “เกินเหนื่อยไปแล้ว ท้อไหม...ก็มีบ้าง แต่ไม่ขอหยุด เพราะรู้ว่าเราหยุดไม่ได้ มีคนอีกมากที่เขาลำบากกว่าเรา เห็นใจเขานะ บางคนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ลูกไปทาง พ่อแม่ไปทางก็มี” เป็นอีกอารมณ์ที่พยาบาลคนนี้สะท้อนให้เราฟัง

    ต้องยอมรับว่า...สถานการณ์ขณะนี้ ณ วันที่ถนนหนทางมีสภาพไม่ต่างจากลำคลองหนองบึง เนื่องจากน้ำทาทับถนนแทบจะเกือบทุกเส้น ทำให้การเดินทางเพื่อไปโรงพยาบาลเหมือนสถาน การณ์ปกติลำบากเพิ่มขึ้น สำหรับโรงพยาบาลภาคสนาม ณ ขณะนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับหลายพื้นที่ที่กำลังประสบภัยจากน้ำท่วม เนื่องจากนับแต่ประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้ โรงพยาบาลหลายแห่งต้องถูกตัดขาด
    และมีการอพยพผู้ป่วยกันอย่างโกลาหลทุกครั้ง ซึ่งล่าสุดแม้จะมีข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์เคลื่อนที่หมุน เวียนให้บริการประชาชน อย่างต่อเนื่องวันละกว่า 200 ทีม และมีโรงพยาบาลภาคสนามออกไปตั้งจุดช่วยเหลือในหลายพื้นที่ อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ เหมือนปริมาณน้ำที่เอ่อล้น

    ย้อนดูข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 24 ต.ค. มีจำนวนผู้เจ็บป่วยจากน้ำท่วมที่รับบริการที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ สูงถึงกว่า 7 แสนคน ขณะที่อีกมาตรการหนึ่งก็ยังมีการสำรองยาและเวชภัณฑ์ไว้อีกด้วย แต่อุปสรรคใหญ่ที่สุดขณะนี้เห็นจะเป็นเรื่องของการเดินทางเพื่อเข้าไปช่วย เหลือ ที่ดูเหมือนหลายพื้นที่ยามนี้...ถนนหนทางลดลง สวนทางกับทางน้ำที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเบอร์การแพทย์ฉุกเฉิน สายด่วน โทร.1669 ยังเป็นเบอร์ที่หลายคนควรจดจำหรือพกติดตัวไว้

    “เรามีทีมแพทย์และพยาบาลมาประมาณ 15 คน วันแรก ๆ ที่มาตั้งศูนย์ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่พอน้ำเริ่มขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ งานก็เริ่มมีเข้ามาให้ทำมากขึ้น จนถึงจุดที่เรียกว่ามีเข้ามาตลอด” เป็นสิ่งที่ นพ.ขวัญชาย กิตรัตน์ นายแพทย์ปฏิบัติการจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย หนึ่งในทีมบุคลากรแพทย์ภาคสนามที่มาช่วยดูแล ระบุกับเรา ก่อนเล่าให้เราฟังต่อไปในวันที่มาตั้งจุดได้ 5 วันว่า...เข้ามาช่วยในเรื่องของการจัดวางระบบด้านการแพทย์เพื่อรองรับจำนวน ผู้ป่วยที่คาดว่าน่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องของระบบการให้บริการ รวมถึงการจัดการเรื่องสุขอนามัยต่าง ๆ ซึ่งยิ่งนานวันจำนวนผู้ป่วยก็เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกิดแผลจากของมีคมขณะเดินลุยน้ำ แผลน้ำกัดเท้า ปวดหัวตัวร้อน ท้องเสีย ตอนหลังเริ่มมีผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

    กลุ่มหลังนี้ก็ต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ

    “ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะหนักหนาขนาดนี้ ยอมรับว่าเคยผ่านงานในพื้นที่ประสบภัยมาบ้าง แต่ไม่เคยเจอครั้งไหนที่หนักหนาและสาหัสเท่าขนาดนี้มาก่อน” เป็นเสียงของ นพ.ขวัญชาย นายแพทย์ภาคสนามที่เล่าให้เราฟัง

    เหนือน้ำท่วมยังมีน้ำใจ อย่างน้ำใจของ ปัทมา สำเร็จศิลป์ พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งหนีน้ำท่วมจากพื้นที่เดิมมาเช่าห้องพักอยู่บริเวณคลอง 5 พอทราบว่ามีการเปิดศูนย์และมีจุดพยาบาลแห่งนี้ จึงเดินทางมาช่วยเหลืองาน เพราะคิดว่าไม่น่าทำตัวอยู่นิ่ง ๆ ควรนำความรู้ที่มีอยู่ออกมาช่วยเหลือกัน น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า

    “หนีมา 2 รอบ ครั้งแรกเอารถมาฝากจอดไว้กับญาติ ๆ และกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลต่อ จนน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ และต้องอพยพคนไข้ ประกอบกับมีการตัดน้ำตัดไฟ จึงต้องออกมาเช่าห้องพักอยู่ใกล้ ๆ กับศูนย์ พอดีทราบข่าว ก็คิดว่าเอาความรู้ที่มีมาใช้ประโยชน์น่าจะดีกว่า” เป็นเสียงของปัทมาที่เล่าให้ฟังขณะทำแผลให้กับคนไข้ชายที่ประสบอุบัติเหตุ

    ณ วันนี้พลังรุนแรงแห่งธรรมชาติ สาย น้ำที่เกรี้ยวกราด ส่งผลต่อประเทศไทยและคนไทยอย่างไรบ้างแล้ว ก็อย่างที่ทราบกัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่เริ่มเกิดขึ้นใหม่ ๆ ในบางพื้นที่ของประเทศไทย จนกระทั่งแม้แต่กรุงเทพฯเมืองหลวงก็มิอาจจะรอดพ้นภัยน้ำ “ฉากชีวิตแพทย์สนามช่วงน้ำท่วม” ได้เกิดขึ้นมากมายในหลาย ๆ พื้นที่ เป็นฉากชีวิตที่แม้บางครั้งอาจจะดูชุลมุนหรือน่ารันทดท้ออยู่บ้าง แต่ก็สะท้อนไว้ซึ่งสิ่งดี ๆ ที่ยังมีอยู่มากมาย...

    ในหัวจิตหัวใจคนไทยจำนวนมาก.

    ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง-ภาพ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .



    โรคผิวหนัง หลังน้ำท่วมดูแลป้องกันก่อนเรื้อรัง...!!


    โรดผิวหนังเป็นโรคที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยมักจะพบเสมอหลังเกิดภาวะน้ำท่วม แต่หลายคนมักไม่ค่อยใส่ใจดูแลเท่าที่ควรจนทำให้เกิดปัญหาเรื่องเท้าเปื่อย เป็นแผล ลอก คันและเจ็บแสบ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจจะกลายเป็นโรคเรื้อรังที่เป็น ๆ หาย ๆ และรักษาไม่หายขาด ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

    แพทย์หญิงวลัยอร ปรัชญพฤทธิ์ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ให้ความรู้ว่า หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมทำให้ผู้ประสบภัยต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลากหลาย ด้าน เนื่องจากเมื่อเกิดน้ำท่วมแล้วจะส่งผลให้แหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคปน เปื้อนกระแสน้ำที่พัดพาสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของเสียที่เคยถูกเก็บไว้ในที่มิดชิดหรือสารเคมีกระจายออกเป็นวงกว้างทำให้ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป สัตว์และแมลงไม่มีที่อยู่อาศัยจึงออกจากถิ่นที่อยู่เพ่นพ่านทั่วไปและกลาย เป็นพาหะนำเชื้อโรคในที่สุด ที่สำคัญพาหะนำโรคต่าง ๆ ยังสามารถเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้ปริมาณเชื้อโรคมีจำนวนเพิ่มขึ้นและแพร่ได้อย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเกิดโรคระบาดได้ง่าย โดยสภาพผิวดินหลังน้ำท่วมมีความเหมาะสมสำหรับการแพร่พันธุ์ของยุง ซึ่งโรคหลายชนิดที่เกิดจากยุงเป็นพาหะจึงมีโอกาสระบาดสูงขึ้นหลังน้ำท่วม

    ปัญหาด้านสุขภาพที่จะเกิดหลังน้ำท่วมนั้นมีทั้งอาการเจ็บป่วยในระยะแรกและ ระยะยาว ได้แก่ โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องร่วงจากการติดเชื้อจากอาหารเป็นพิษ โรคเลปโตสไปโรซิส (หรือโรคฉี่หนู) โรคผิวหนังจากการสัมผัสกับสารเคมีสิ่งสกปรกหรือติดเชื้อที่ผิวหนังไม่ว่าจะ เป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราหรือหนอนพยาธิ โรคผิวหนังจากแมลง สัตว์มีพิษกัดต่อยซึ่งนอกจากจะทำให้ไม่สบายจากการถูกกัดต่อยแล้ว ในภายหลังหากได้รับเชื้อโรคเข้าไปด้วยอาจทำให้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น

    โรคผิวหนังมักพบหลังน้ำท่วม เรียกว่า “โรคน้ำกัดเท้า” เนื่องจากเราเดินย่ำน้ำบ่อย ๆ หรือยืนแช่น้ำนาน ๆ จนเท้าเปื่อย โดยเฉพาะบริเวณซอกเท้าบริเวณที่ผิวหนังเปื่อยนี้เป็นจุดอ่อนทำให้เชื้อโรค ที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ดังนั้นหลังเสร็จกิจธุระนอกบ้านแล้วควรรีบล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่แล้ว เช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากเท้ามีบาดแผลควรชะล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งโรคน้ำกัดเท้าในระยะแรกนี้ยังไม่มีเชื้อรา เป็นเพียงอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้นและสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง คันและแสบ การรักษาในระยะนี้ควรใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อน ๆ เช่น 0.02 Triamcinolone cream หรือ 3% vioform in 0.02% Triamcinolone cream ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา เพราะยาเชื้อราบางชนิดจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบมากขึ้น

    สำหรับผิวที่เปื่อยเป็นแผล เมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่เจือปนอยู่ในน้ำจะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เมื่อมีการติดเชื้อ แบคทีเรียจะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ต้องให้การรักษาโดยการรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการชะล้างบริเวณแผลด้วย น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น น้ำด่างทับทิม แล้วทายาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ หากปล่อยให้มีอาการโรคน้ำกัดเท้าอยู่นาน ผิวที่ลอกเปื่อยและชื้นจะติดเชื้อรา ทำให้เป็นโรคเชื้อราที่ซอกเท้ามีอาการบวมแดง มีขุยขาวเปียก มีกลิ่นเหม็นและถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นเรื้อรัง เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังรักษาหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนอาการดีขึ้นดูเหมือนหายดีแล้ว แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอับชื้นขึ้นเมื่อใดก็จะเกิดเชื้อราลุกลาม ขึ้นมาใหม่ทำให้เกิดอาการเป็น ๆ หาย ๆ เป็นประจำไม่หายขาด

    ดังนั้นการดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกต้องรักษา ความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรค นี้ และควรให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า เมื่อเช็ดให้แห้งแล้วให้ทายารักษาโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับและไต ควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าจะดีขึ้นแล้วก็ตาม การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมดก็มีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย นอกจากนี้ผู้ประสบกับปัญหาน้ำท่วมควรระมัดระวังเมื่อเดินลุยน้ำเพราะอาจถูก ของมีคมทิ่ม ตำ ทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เช่นกัน รวมทั้งอาจติดเชื้อบาดทะยักตามมาได้ เมื่อประสบเหตุดังกล่าวควรไปทำแผลที่หน่วยบริการสาธารณสุขทันที และยิ่งถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อบาดทะยักมาก่อนควรปรึกษา แพทย์

    อย่างไรก็ตามการป้องกันมักดีกว่าและมีประสิทธิภาพที่สุด ด้วยการหลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนาน ๆ หากจำเป็นต้องลุยน้ำให้สวมรองเท้าบู๊ต กันน้ำสกปรกกัดเท้า อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันของมีคมในน้ำทิ่มตำเท้าหรือสัตว์มีพิษกัดต่อย หลังจากลุยน้ำให้รีบทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ เช็ดเท้าให้แห้ง หากมีบาดแผลที่ผิวหนังไม่ควรสัมผัสถูกน้ำสกปรก หากลุยน้ำแล้วเกิดผื่นที่ผิวหนังควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและทายา หรือรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อให้อาการโรคผิวหนังหายขาด ไม่เป็นเรื้อรังสร้างความรำคาญเจ็บปวดและเสียเวลาในการรักษาในภายหลัง.

    เคล็ดลับสุขภาพดี วันที่ 30 ตุลาคม 2554 : แนะวิธีปรุงอาหารลดเสี่ยงโรคขณะน้ำท่วม

    ในช่วงวิกฤติน้ำท่วมสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สำคัญยามคับขันเช่นนี้ คือ การปรุงอาหาร เพราะหากเราประกอบอาหารไม่สะอาดจะยิ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายทำให้เจ็บ ป่วยได้ ดังนั้นใครที่ต้องการจะไปตั้งศูนย์ปรุงประกอบอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ ภัย หรือปรุงอาหารรับประทานเองเคล็ดลับสุขภาพดีวันนี้มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการ ปรุงอาหารให้สะอาดถูกหลักอนามัยเพื่อป้องกันโรคมาฝากกันค่ะ

    ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย ให้ความรู้ว่า การประกอบอาหารในจุดที่ให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมจะต้องเน้น ที่ความสะอาดปลอดภัยซึ่งทางกรมอนามัยได้มอบให้ศูนย์อนามัยเขตในพื้นที่ประสบ ภัยน้ำท่วมให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการและคำแนะนำที่ถูกต้องตามหลัก สุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือประชาชนที่รับผิดชอบ จัดเตรียมและปรุงอาหารในพื้นที่ได้อย่างสะอาด ปลอดภัย และได้คุณค่าทางโภชนาการ โดยยึดตามเกณฑ์ที่กรมอนามัยกำหนดตั้งแต่อาหารสดต้องไม่มีกลิ่น อาหารแห้งต้องไม่มีเชื้อราและไม่นำอาหารกระป๋องที่บุบ บวม หมดอายุมาปรุงอาหาร

    สำหรับพื้นที่ที่เราจะเลือกประกอบอาหารนั้นต้องเป็นพื้นที่หรือสถานที่ทำ ครัวที่ให้ไกลห้องส้วมและที่เก็บขยะ ที่ระบายน้ำเสียหรือที่เก็บสารเคมี โดยหลีกเลี่ยงการเตรียมหรือปรุงอาหารบนพื้น ควรมีโต๊ะเตรียมปรุงอาหารที่สูงจากพื้นป้องกันการปนเปื้อน ต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณโต๊ะที่ใช้เตรียมปรุงอาหาร เตาหุงต้มอาหาร เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะเขียงควรแยกเขียงหั่นเนื้อ หั่นผักและอาหารปรุงสุก โดยเฉพาะเขียงที่ใช้หั่นเนื้อสัตว์ต้องล้างขจัดคราบไขมันด้วยน้ำยาล้างจาน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และห้ามนำผ้าที่สกปรกมาเช็ด เพราะจะเป็นสื่อที่นำเชื้อโรคมาปนเปื้อนอาหารที่มีการหั่น สับ บนเขียงได้

    “ก่อนปรุงอาหารควรมีการล้างวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงทุกครั้ง โดยเฉพาะผักซึ่งอาจมีการปนเปื้อนคราบดินที่เกิดจากน้ำท่วมต้องล้างด้วยน้ำ สะอาด 2-3 ครั้ง ส่วนผักบางอย่าง เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปให้ล้างน้ำหลาย ๆ ครั้งหรือแช่น้ำปูนใสนาน 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดก่อนจะนำไปปรุงประกอบอาหาร ส่วนผู้ปรุงประกอบอาหารต้องปฏิบัติตนเองให้ถูกสุขลักษณะด้วย เช่น ล้างมือก่อนปรุงอาหาร ไม่ใช้มือจับอาหารปรุงสำเร็จโดยตรง ถ้ามือมีแผลต้องปิดแผลให้มิดชิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำและหลีกเลี่ยงการสัมผัส กับอาหารโดยตรง”

    ส่วนการบรรจุอาหารที่ปรุงสุกแล้วเพื่อส่งต่อให้ผู้ประสบภัยรับประทานนั้นควร ใส่ในภาชนะที่สะอาด ไม่ควรทิ้งระยะนานเกิน 2-4 ชั่วโมง หลังปรุงและบรรจุอาหาร ควรระบุวันและเวลาในการรับประทานให้ชัดเจนก่อนส่งให้กับผู้ประสบภัย เพราะหากเก็บนานเกินไปอาจทำให้อาหารบูดและเสียได้ โดยอาหารที่ปรุงควรเป็นอาหารประเภททอดหรือผัดเพราะไม่บูดและเสียง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ ลาบ ยำ พล่าต่าง ๆ

    นอกจากนี้การกำจัดขยะในจุดปรุงอาหารจะต้องมีถังขยะใส่เศษอาหารทำด้วยวัสดุ ไม่รั่วซึม เช่น พลาสติก หากใช้ปี๊บควรมีถุงพลาสติกรองอีกชั้นหนึ่ง ถังขยะต้องมีฝาปิดและมีการแยกขยะเป็นสองถังคือ ถังขยะเปียกและถังขยะแห้งเพื่อง่ายต่อการกำจัด ทั้งนี้สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การใช้ส้วมเนื่องจากประชาชนที่อาศัยในศูนย์พักพิงมีจำนวนมาก ผู้ใช้จึงต้องให้ความสำคัญต่อพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง โดยไม่ทิ้งวัสดุอื่นนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือทุกครั้งหลังการใช้ส้วม เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันโรคในช่วงน้ำท่วม ได้แก่ อุจจาระร่วง บิด เป็นต้น

    เมื่อทราบแบบนี้แล้ว อย่าลืมดูแลเรื่องความสะอาดในการปรุงอาหารที่เราจะรับประทานหรืออาหารที่ ปรุงให้แก่ผู้ประสบภัยให้มีความปลอดภัยด้วยนะคะ เพราะจะได้ไม่เป็นการซ้ำเติมสุขภาพของตัวเองและผู้ประสบอุทกภัยนั่นเอง.

    สรรหามาบอกวันที่ 30 ตุลาคม 2554

    โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ขอเชิญครอบครัวที่มีลูกน้อยอายุ 1- 6 ขวบ ร่วมกิจกรรม “หยุดภูมิแพ้...ไซนัส...เพื่อพัฒนาการลูกน้อย” พบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ สัมมนาเรื่องภูมิแพ้เจ้าตัวน้อย, รู้จริง! โรคหวัด ไซนัส และภูมิแพ้ ความเหมือนที่แตกต่าง ในวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2554 เวลา 08.30–12.00 น. ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา สำรองที่นั่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โทร.1719

    โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ขอเชิญแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่สนใจ เข้าร่วมการประชุมวิชาการ Pediatric & Obstetrics-Gynecology Annual Meeting 2011 เรื่อง “Fetal Medicine” ใน วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 07.30-15.30 น. ณ ศูนย์ประชุมชั้น 12 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สนใจสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0-2667-1883-4

    มูลนิธิเก้าทันโลก โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์สินและสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (งดรับสิ่งของเน่าเสียง่าย) หรือบริจาคเป็นเงินสดเพื่อนำไปซื้อสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชน ในสถานที่ที่จะนำสิ่งของไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เช่น เสื้อชูชีพ เรือขนาดเล็ก ไฟฉาย ฯลฯ สามารถบริจาคได้โดยตรงที่กล่องบริจาคของมูลนิธิฯ หรือเคาน์เตอร์การเงินของโรงพยาบาลพระรามเก้าหรือผ่านทางโทรศัพท์ 0-2248-8020 ต่อ 2558.


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=172778-

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ข้าวพม่า โค่นแชมป์"หอมมะลิ"จากไทย ครองสุดยอดข้าวอร่อยที่สุดในโลก


    หนังสือพิมพ์วอลสตรีต เจอร์นัลรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากการประกวดสุดยอดข้าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานการประชุมข้าวโลก ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19-21 ต.ค. ที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม โดยในปีนี้ คณะกรรมการได้จากข้าวกว่า 30 สายพันธุ์ที่ส่งเข้าประชันงานประกวดข้าว โดยเกณฑ์การตัดสินข้าวจะพิจารณาจากรสชาติ สี และคุณภาพของตัวข้าวเป็นสำคัญ การประกวดที่เริ่มเมื่อ 2 ปีก่อน ภายใต้การสนับสนุนของไรซ์ เทรดเดอร์ส องค์การที่ปรึกษาข้าวระดับโลก โดยข้าวหอมมะลิของไทยได้ครองตำแหน่งสุดยอดข้าวไปครองติดต่อกันใน 2 ปีแรก ขณะที่ในปีนี้โดยตัดสินให้ข้าว "Pearl Paw San" จากประเทศพม่า ได้ตำแหน่งชนะเลิศไปครอง

    [​IMG]

    นายไมเคิล ครอส พ่อครัวจากสถาบันด้านศิลปะการทำอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ จากเมืองซาเครเมนโต สหรัฐฯ กล่าวว่า คณะกรรมการตัดสินข้าวหลากหลายสายพันธุ์ โดยพิจารณาถึงคุณสมบัติของตัวข้าวเป็นหลัก โดยไม่มีส่วนผสมอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

    ด้านนายเจเรมี สวิงเกอร์ ประธานสมาคมไรซ์ เทรดเดอร์ เปิดเผยว่า ผู้ผลิตข่าวทั่วโลกมักมีข้อถกเถียงกันมานานว่า ใครเป็นเจ้าของสายพันธุ์ข้าวที่มีรสชาติดีที่สุด และในบางชาติ นั่นอาจถือเป็นความภูมิใจของชาติ อีกทั้งข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ต่างก็มีความพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยข้าวสายพันธุ์ที่พลาดแชมป์ไปอย่างฉิวเฉียดในปีนี้คือข้าวพันธุ์ Venere ซึ่งเป็นข้าวเม็ดสีดำที่ปลูกในอิตาลี และข้าวหอมมะลิจากไทย

    นา ยอดัม แทนเนอร์ หัวหน้าพ่อครัวจากโรงแรมเชอราตัน ไซง่อน และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมการตัดสินรสชาติข้าวที่มีสายพันธุ์ที่ หลากหลายและมีคุณสมบัติแตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์ ทำให้การตัดสินข้าวแตกต่างจากการชิมเครื่องดื่ม อย่างชา หรือไวน์ แต่โชคดีว่าทางงานประกวดมีเกณฑ์ในการตัดสินเป็นแนวทางให้คณะกรรมการ

    ทั้ง นี้ หนึ่งในเกณฑ์ที่สำคัญก็คือกลิ่นหอมเฉพาะของข้าวแต่ละสายพันธุ์ โดยข้าวพันธุ์ใดที่ยังคงรักษากลิ่นหอมเฉพาะนั้นๆ ไว้ได้หลังจากที่ผ่านการหุงให้สุกแล้ว ก็จะได้รับคะแนนอย่างท่วมท้นจากคณะกรรมการนอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ ต้องบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ เมล็ดเต็มสมบูรณ์ และไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ

    ด้าน สมาคมอุตสาหกรรมข้าวพม่าเปิดเผยว่า ข้าวสายพันธุ์ Pearl Paw San ซึ่งชนะในการประกวดครั้งนี้ เป็นข้าวที่มีลักษณะเม็ดกลมหนา โดยมีความยาวประมาณ 5-5.5 มม. และเมล็ดข้าวจะมีขนาดยาวมากขึ้นกว่าเดิม 3-4 เท่าตัวเมื่อผ่านการหุงเรียบร้อยแล้ว และยังสามารถรักษากลิ่นหอมเฉพาะไว้ได้

    ครอ สและแทนเนอร์ เห็นว่า การที่ข้าวสามารถขยายขนาดได้เมื่อผ่านการหุง ความแน่นของตัวข้าวเมื่อเคี้ยวและผิวสัมผัสที่ดี ล้วนส่งให้ข้าวPearl Paw San ของพม่าเฉือนเอาชนะข้าวหอมมะลิของไทย และข้าวสีดำสายพันธุ์ Venere ของอิตาลีได้อย่างฉิวเฉียด

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319863984&grpid=01&catid=&subcatid=-


    -------------------------------------------------------------------------

    อีกไม่นาน ทั้งพม่า และ เวียดนาม จะแซงเรื่องของข้าวหอมมะลิครับ

    เพราะว่า ประเทศไทยไม่เคยส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องของการวิจัยต่างๆ , กา่รพัฒนาการปลูกข้าวต่างๆ ส่งเสริมให้มีการพัฒนานักวิจัยข้าว

    ต่างกับเวียดนาม ตอนนี้ข้าวระดับกลางถึงระดับล่าง แซงไทยไปแล้วในทุกเรื่อง เวียดนามมีการพัฒนานักวิจัยข้าวปีนึ่งไม่น้อยกว่า 30 คน ซึ่งต่างจากคนไทยที่ไม่มีเลย


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    "จิตแพทย์" แนะวิธีเกลี้ยกล่อมคนแก่ออกจากบ้านช่วงน้ำท่วม


    จากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างหนักที่เกิดขึ้นเกือบทั่วทั้ง ประเทศ จนหลายครอบครัวจำเป็นต้องอพยพไปอยู่สถานที่ปลอดภัย และปัญหาสำคัญสำหรับหลายบ้านคือผู้สูงอายุไม่อยากย้ายไปพักอาศัยที่อื่นตาม ที่ลูกหลานร้องขอ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การอพยพผู้สูงอายุสามารถเกลี้ยกล่อมได้หลายกรณี หากต้องการย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติต้องแสดงให้ผู้สูงอายุเห็นว่า ท่าน มีคุณค่าทางจิตใจ มีบทบาทสำคัญในการเป็นขวัญและกำลังใจให้กับอีกครอบครัวที่รออยู่ แต่ไม่ควรกดดันว่าถ้าท่านไม่ไปจะเป็นภาระให้กับลูกหลาน เพราะการกระทำเช่นนั้นจะยิ่งสร้างความน้อยใจจนท่านไม่ยอมย้ายออก

    "สำหรับการอพยพนั้น อยากแนะนำให้ไปพร้อมกันทั้งครอบครัว แต่ถ้าเป็นไปได้ยากก็ควรส่งชุดเล็กออกไปก่อน อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ หรือถ้าท่านยังไม่ยอมย้าย ให้อพยพคนอื่นออกไปก่อน แล้วสร้างบรรยากาศให้บ้านไม่เหมือนเดิม ย้ายข้าวของให้ใช้ไม่สะดวก จากนั้นให้คนที่ย้ายออกไปก่อนโทรศัพท์กลับมาชักชวน แต่ที่สำคัญคือ อย่าพาผู้สูงอายุไปอยู่ท่ามกลางคนอื่นที่ไม่รู้จัก" พญ.อัมพร กล่าวและว่า กรณี ที่ผู้สูงอายุยังไม่ยอมย้ายออกให้ใช้วิธีสุดท้าย โดยการพาออกไปดูน้ำท่วมข้างนอก ให้ท่านได้เห็นคนที่เดือดร้อนด้วยตาของตนเอง หากมีข้ออ้างว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านได้ หากน้ำท่วมเต็มชั้น 1 ก็จัดหาคนที่ต้องอาศัยอยู่ชั้น 2 มาพูดคุยด้วย เพื่อให้ท่านได้รับรู้ถึงความลำบาก หากไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้า อย่างไรก็ตามเมื่อย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ลูกหลานควรสนใจรับฟังสิ่งที่ผู้สูงอายุอยากเล่าและให้คำปลอบโยน พร้อมทั้งสัมผัสด้วยการกอดและนวด แสดงให้ท่านรู้ว่าลูกหลานรักใคร่ รวมทั้งพยายามไม่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่ามีแต่ท่านคนเดียวที่ห่วงบ้าน


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319870344&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เครดิตบูโรแนะลูกค้าน้ำท่วมแจ้งข้อมูลกันประวัติเสีย


    เครดิตบูโรแนะลูกค้าน้ำท่วมแจ้งข้อมูลสถาบันการเงินเพื่อไม่ให้กระทบประวัติ
    นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า จากน้ำท่วมในหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร เครดิตบูโรในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสถาบันการเงินไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านการทำงานร่วมกับสถาบันการ เงินของรัฐและเอกชน เพื่อคลายความกังวลของผู้ประสบภัยในเรื่องภาระหนี้สินและดูแลประวัติการชำระ สินเชื่อมิให้เกิดผลเสียหาย หากเมื่อน้ำลดลงเข้าสู่ปกติจะได้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อนำมาซ่อมแซม หรือนำมาใช้หมุนเวียนทางธุรกิจได้
    ทั้งนี้ มาตรการที่เครดิตบูโรทำไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 โดย ออกหนังสือแจ้งสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 76 แห่งให้ทราบและขอความร่วมมือในการส่งข้อมูลมายังเครดิตบูโรว่า บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ ปกติไม่ค้างชำระ หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ที่ประสบภัยได้เข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรนของสถาบันการเงิน นั้นๆ ที่ได้มีการประกาศออกไปตัวอย่างเช่น สถาบันการเงินแห่งหนึ่งมีการออกมาตรการผ่อนผันการชำระเงินงวดค่าบ้านสำหรับ ผู้ที่ประสบภัยในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน เมื่อลูกหนี้มาเข้าโครงการ ข้อมูลที่สถาบันการเงินนั้นส่งเข้ามาที่เครดิตบูโร ในบัญชีนั้นจะถูกบันทึกว่า บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ“ปกติไม่ค้างชำระ"
    กรณีที่สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 76 แห่งมีการติดต่อหนี้ภายหลัง เนื่องจากตอนประสบภัยยังหาตัวกันไม่พบเพราะต่างก็ถูกน้ำท่วม หากมีการส่งข้อมูลเข้ามาว่าผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม เมื่อมีการเข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ และให้มีผลย้อนหลังไปยังเดือนที่เคยส่งข้อมูลว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินนั้นก็สามารถแจ้งแก้ไขให้บัญชีดังกล่าวกลับมาเป็นสถานะ บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ “ปกติไม่ค้างชำระ" หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้แล้วแต่กรณี ทางเครดิตบูโรจะดำเนินการแก้ไข-ปรับปรุงให้เป็นไปตามที่มีการตกลงกัน (กรณีมีการกำหนดให้มีผลย้อนหลัง-ก็จะมีการแก้ไขย้อนหลังไปยังเดือนดังกล่าว)
    เครดิตบูโรได้แจ้งเรื่องที่มีการระบุให้สมาชิกนำส่งข้อมูลให้สอดคล้องกับ มาตรการที่มีการผ่อนผัน-ผ่อนปรนให้กับลูกค้าผู้ประสบภัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถาบันการเงินรัฐ-เอกชน สมาคมธนาคารไทย สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทบัตรเครดิต สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2554
    และเพื่อให้มั่นใจว่าการส่งข้อมูลจะถูกต้อง เครดิตบูโรจะเผ้าติดตามข้อมูลที่สมาชิกนำส่งทุกสิ้นเดือนเป็นรายสมาชิกว่า ไม่มีความผิดปกติ-ไม่มีการส่งข้อมูลบัญชีที่มีการแสดงสถานะว่าผิดนัดชำระ หนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า โดยการเทียบข้อมูลเดือนต่อเดือนเป็นรายสมาชิกหากพบความผิดปรกติจะแจ้งสมาชิก ให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำข้อมูลเข้าฐาน
    นอกจากนี้ขอแนะนำว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อ แจ้งความเสียหาย ปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรน เพื่อให้ประวัติทางการเงินได้รับการคุ้มครองว่า “ไม่ผิดนัดชำระหนี้"



    -http://www.posttoday.com/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/118703/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2-

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เผยภาพระดับความสูง - ต่ำของพื้นที่ในกรุงเทพ

    [​IMG]

    แผนที่ แสดงระดับความสูงต่ำจากระดับน้ำทะเล ของพื้นที่ในเขตต่าง ๆ ของ กทม.


    [​IMG]
    รูปใหญ่ครับ



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอบคุณภาพประกอบจาก กรมแผนที่ทหาร

    สถานการณ์ น้ำท่วมในกรุงเทพฯ ที่กำลังทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ส่งผลให้ชาวกรุงเทพต่างตื่นตัว และติดตามข่าวสารทุกช่องทางอย่างใกล้ชิด

    ทั้งนี้ ก็มีนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มาให้ความรู้อย่างมากมาย ทั้งข้อมูลเรื่องปริมาณน้ำ ข้อมูลเรื่องระดับน้ำ แต่ ทว่า ยังมีข้อมูลที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากรู้นั้นก็คือ บ้านของเรา หรือจุดที่เราอาศัยอยู่นั้น มีพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลแค่ไหน เสี่ยงน้ำท่วมแค่ไหน เพราะธรรมชาติของน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ

    วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีแผนที่ที่บ่งบอกถึงระดับความสูงต่ำในพื้นที่กรุงเทพ มหานคร จากกรมแผนที่ทหารมาฝากกันค่ะ ... ไปดูกันซิว่า บ้านของพวกเราอยู่ในเขตเสี่ยงน้ำท่วมหรือไม่ และปริมาณน้ำจะท่วมสูงขนาดไหน

    โดยในสีของภาพดังกล่าวได้บ่งบอกพื้นที่ระดับความสูงต่ำของกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ระดับน้ำทะเลนั้นเป็นตัวแปรสำคัญในการคำนวณระดับความสูงของน้ำท่วม เพราะในแต่ละปีพื้นที่ในกรุงเทพฯ จะมีการทรุดตัวลงเรื่อย ๆ ประกอบกับเมื่อมีน้ำฝนมากขึ้น และน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้กรุงเทพฯ มีโอกาสเสี่ยงสูง ที่จะประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา

    [​IMG] ระดับต่ำกว่า 0 เมตร คลองสามวา
    [​IMG] ระดับ 0 - 0.5 เมตร บางกะปิ สวนหลวง พระโขนง บางนา ประเวศ ลาดกระบัง
    [​IMG] ระดับ 0.5 - 1.0 เมตร จตุจักร บึงกุ่ม มีนบุรี หนองจอก
    [​IMG] ระดับ 1 - 1.5 เมตร ดินแดง
    [​IMG] ระดับ 1.5 - 2.5 เมตร สายไหม หลักสี่ วังทองหลาง ลาดพร้าว บางเขน คันนายาว
    [​IMG] ระดับ 2.5 - 3.5 เมตร บางซื่อ วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา

    ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

    [​IMG] ระดับ 0 - 0.5 เมตร หนองแขม
    [​IMG] ระดับ 0.5 - 1.0 เมตร บางแค ภาษีเจริญ บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ตลิ่งชัน ธนบุรี
    [​IMG] ระดับ 1 - 2 เมตร ทวีวัฒนา บางบอน บางขุนเทียน ราษฎร์บูรณะ
    [​IMG] ระดับ 1.5 - 2.5 เมตร ทุ่งครุ


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรุงเทพธุรกิจ
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/64193-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • flood_01s.jpg
      flood_01s.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.1 KB
      เปิดดู:
      531
    • flood_01.png
      flood_01.png
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      95

แชร์หน้านี้

Loading...