พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    “มทส”โคราชส่ง“เรือปีบทอง”ช่วยน้ำท่วม – แนะวิธี“ห่อรถ”หนีจมน้ำสุดเจ๋ง

    -http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134928-
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">22 ตุลาคม 2554 15:46 น.</td> <td align="left" valign="middle">


    </td></tr></tbody></table>
    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มทส”โคราชส่ง “เรือน้ำใจปีบทอง” เรือต้นแบบ 78 ลำ ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมภาคกลาง เผยเป็นเรือสร้างเองได้ง่ายมีประสิทธิภาพการใช้งานยอดเยี่ยม พร้อมแนะวิธีป้องกันรถยนต์หนีน้ำท่วมและไม่มีที่จอดสุดเจ๋งใช้ตาข่ายและผ้า ใบห่อรถลอยน้ำ ชี้ต้นทุนต่ำทำได้ด้วยตัวเอง

    วันนี้ (22 ต.ค.54) ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส) อ.เมือง จ. นครราชสีมา ดร.รังสรรค์ วงษ์สรรค์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พร้อมนักศึกษา สาขา วิชาวิศวกรรมเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 ได้ร่วมกันมอบ “เรือน้ำใจปีบทอง” ซึ่งเป็นเรือต้นแบบ รวม 78 ลำ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคกลาง โดยมอบผ่านศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ( ศปภ.) ซึ่งจะได้นำไปกระจายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป

    นายวัฒนา เพชรนอก นักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 มทส หนึ่งในทีมสร้างเรือน้ำใจปีบทอง กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ได้ร่วมกันสร้างเรือผ้าใบที่สามารถทำขึ้นเองได้โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หาได้ ง่าย มีเพียงเหล็กเส้น ผ้าใบรถบรรทุก หรือใช้ป้ายโฆษณาไวนิลที่มีอยู่ทั่วไปก็ได้ โดยเหล็กที่ใช้มี 3 ชนิด คือ เหล็ก 2 หุน 3 หุน และ 4 หุน ทำเป็นโครงเรือ ใช้ลวดมัดจุดเชื่อมต่อแล้วพันด้วยยางให้ยึดแน่น จากนั้นใช้ผ้าใบขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร เจาะตาไก่ร้อยเชือกผูกกับโครงเรือ ใช้เวลาในการประกอบเรือเพียง 2-3 ชั่วโมง

    โดยเรือที่สร้างนี้สามารถนำไปขนย้ายผู้ป่วยหรือคนชรา บรรทุกสิ่งของหนีน้ำขนอาหาร น้ำดื่มเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมได้ดีสามารถรับน้ำหนัก ได้ประมาณ 400 กิโลกรัม จะใช้ไม้พายช่วยพายหรือหากระดับน้ำไม่ลึกมาก ก็ลากจูงได้ ซึ่งเรือลำนี้เป็นต้นแบบที่สร้างขึ้นมา ด้วยต้นทุนประมาณ 2,000 บาทต่อลำเท่านั้น

    “หากผู้ที่สนใจจะสร้าง เรือน้ำใจปีบทอง ไว้ใช้สามารถติดต่อขอข้อมูลรายละเอียด ได้ที่ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4422-4410-1,08-9284-6920” นายวัฒนา กล่าว

    ด้าน ดร.รังสรรค์ วงษ์สวรรค์ รองอธิการบดี มทส กล่าวว่า นอกจากการมอบเรือน้ำใจปีบทองให้กับ ศปภ.แล้ว ทาง มทส โดยอาจารย์และนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มทส นำโดย รศ. ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ (เจ้าของความคิดประดิษฐ์เรือน้ำใจปีบทอง) และ อ.ธีทัต ดลวิชัย สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ยังได้คิดค้นวิธีการป้องกันรถยนต์จากน้ำท่วมด้วย โดยทำให้รถยนต์ลอยน้ำได้ด้วยตาข่ายและผ้าใบ ซึ่งบางคนจำเป็นต้องจอดรถไว้ในบ้านเพราะไม่มีที่จอด สุดท้ายต้องถูกน้ำท่วมเสียหายเสียเงินค่าซ่อมเป็นจำนวนมาก หรือหากนำไปจอดไว้ในที่ไม่ปลอดภัยอาจถูกงัดแงะโจรกรรมได้ ฉะนั้นวิธีการป้องกันที่คิดค้นโดยกลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยฯ ใช้เงินลงทุนไม่มากไม่เกิน 5,000 บาท และทำได้ง่ายด้วยตัวเอง วิธีการคือ ต้องจัดหาวัสดุที่จะนำมาห่อก่อน คือ ตาข่าย , ผ้าใบชนิดหนาพิเศษขนาด 4X7 เมตร 1 ผืน พร้อมเจาะตาไก่ และ เชือกสำหรับมัด

    จากนั้นเริ่มต้นด้วยการนำตาข่าย ซึ่งตัดให้ใหญ่จนสามารห่อตัวรถได้ทั้งหมด แล้วนำมาหุ้มรถยนต์และใช้เชือกร้อยรัดให้แน่นห่อตัวรถทั้งหมด ก่อนนำผ้าใบที่เตรียมไว้มาหุ้มอีกชั้นไม่จำเป็นต้องมัดแน่นมาก เพียงแค่นี้รถยนต์ก็สามารถลอยน้ำได้เมื่อเกิดน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร (ซม.)ขึ้นไป โดยผ้าใบและตาข่ายจะทำหน้าที่รับน้ำหนักรถที่ล้อทั้งสี่ล้อ แล้วกระจายเฉลี่ยไปยังตาข่ายด้านใน ผ้าใบและตาข่ายจะไม่ฉีกขาด และรับน้ำหนักรถให้รถลอยน้ำได้ทั้งคัน

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top" width="33%">
    </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top" width="33%"> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline" width="33%"> มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา ส่ง “เรือน้ำใจปีบทอง” เรือต้นแบบ 78 ลำ ช่วยเหลือปชช.ประสบภัยน้ำท่วมภาคกลาง เผยเป็นเรือสร้างเองได้ง่ายมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม วันนี้ (22 ต.ค.</td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
    </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="baseline">
    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%"> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top" width="33%"> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline" width="33%"> อาจารย์-นักศึกษา มทส แนะวิธีป้องกันรถยนต์จากน้ำท่วม โดยทำให้รถลอยน้ำได้ด้วยตาข่ายและผ้าใบ ใช้เงินทุนไม่มากทำได้ด้วยตัวเอง </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="baseline" width="33%">
    </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="baseline">
    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%"> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top" width="33%"> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="middle" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_up.gif" height="2" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="bottom" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" background="/images/a_L.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td align="right" background="/images/a_R.gif" valign="middle" width="2">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/a_Dn.gif" height="2" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="2" valign="top" width="2">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert2.gif" valign="middle" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="middle" width="33%">
    </td></tr></tbody></table>


    -http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000134928-

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    วิศวกรรมสถานฯ แนะ กทม.เปิดประตูรับน้ำด้านบนผันลงอุโมงค์ยักษ์ออกทะเล <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">22 ตุลาคม 2554 18:13 น.</td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">นางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล กรรมการและเลขาณุการสภาวิศวกร </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ธีรเดช ตังประพฤทธิ์กุล ตัวแทนจากวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ </td> </tr> </tbody></table>


    กรรมการสภาวิศกรฯ ระบุ เหตุน้ำท่วมรอบกรุง เพราะมีคลังสินค้า-โรงงาน-สนามบินสุวรรณภูมิและที่อยู่อาศัยขวางแนวรับน้ำ แนะ กทม.เปิดประตูเฉลี่ยน้ำจากด้านบน เชื่อน้ำไม่เทเข้า กทม.ด้านใน ไม่ควรวิตก แต่ให้เตรียมตัวไว้ ด้านตัวแทนวิศวกรรมสถานฯ มั่นใจพนังกั้นน้ำเจ้าพระยาของ กทม.กั้นน้ำอยู่ น้ำไม่ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นในแน่นอน ขณะเดียวกันมีถนนเป็นแนวกั้น 3 ชั้น จากลาดพร้าวลงมาไม่ท่วม 100 % แนะ กทม.รับเปิดประตูรับน้ำจากตอนเหนือผันลงอุโมงค์ยักษ์เร่งระบายลงทะเล คาดพื้นที่รอบนอกท่วมต่อเดือนครึ่ง


    นางนิตยา จันทร์เรือง มหาผล กรรมการและเลขาณุการสภาวิศวกร กล่าวในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ถึงปัญหาน้ำท่วมบริเวณรอบๆ กรุงเทพมหานครว่า หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2538 มีการเตรียมแผนป้องกันกรุงเทพมหานคร โดยการทำผังเมืองตามแนวพระราชดำริเรื่องแก้มลิง คือให้มีพื้นที่สำหรับผันน้ำสองฟากฝั่งกรุงเทพฯ ทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก จะเห็นว่าในผังเมืองกรุงเทฯ ปี 2549 ที่เพิ่งประกาศเป็นกฎกระทรวง มีพื้นที่สีเทาเพื่อเป็นพื้นที่รับน้ำอย่างชัดเจนทั้งสองด้าน ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ลุ่ม ถัดออกไปเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีการเตรียมร่องน้ำธรรมชาติเอาไว้ อย่างไรก็ตามตรงพื้นที่สีเทามีการอนุโลมให้สร้างบ้านเดี่ยวได้ และห้ามสร้างตึกแถวหรือตึกขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนภูมิศาสตร์การระบายน้ำ ซึ่งทางฝั่งตะวันออกพื้นที่สีเทาจะอยู่บริเวณเขตคันนายาว ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก ส่วนฝั่งตะวันตกจะอยู่ในเขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน และใต้ลงไป

    อย่างไรก็ตาม พื้นที่สีเทาฝั่งตะวนออกนั้น มีพื้นที่สีชมภูคือคลังสินค้าและสีม่วงซึ่งเป็นพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมมา ขวางอยู่ และที่สำคัญคือมีสนามบินสุวรรณภูมิที่อยู่ถัดลงมา ซึ่งก็น่าสงสัยว่าทำไมเอาสนามบินมาอยู่ที่ลุ่มต่ำสุด และจะทำอย่างไรกับน้ำที่เคยอยู่บริเวณนั้น ทำให้ต้องลงทุนแพงมากในการยกพื้นที่สนามบินให้สูง เหมือนทำสนามบินลอยน้ำให้มันทำงานได้ ทั้งนี้ หากคลองประปาที่รับน้ำซึ่งทะลักมาจากคลองรังสิตที่อยู่ด้างบนเอาไว้ไม่อยู่ และระบายไปทางตะวันออกไม่ทันน้ำก็จะผ่าเมืองเข้ามาเลย ส่วนทางฟากตะวันตกพื้นที่สีเทาอยู่บริเวณเขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน แต่ด้านล่างเป็นพื้นที่สีเหลืองคือที่อยู่อาศัยขวางอยู่

    ด้านนายธีรเดช ตังประพฤทธิ์กุล ตัวแทนจากวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในปีนี้ปริมาณน้ำฝนมีมาก เนื่องจากมีพายุเข้ามาต่อเนื่องหลายลูก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ ขณะที่เกิน 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากปกติที่มี 3,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เชื่อมั่นว่าน้ำจากน้ำเจ้าพระยาจะไม่ล้นเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร เนื่องจาก กทม.ได้สร้างพนังกั้นน้ำทั้ง 2 ฝั่ง จากคลองบางเขนใหม่ติด จ.นนทบุรี ถึงคลองบางนา จ.สมุทรปราการ ระดับความสูง 2.5-3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.) เป็นคอนกรีตวางเสาเข็มลึก 21 เมตร เพราะฉะนั้นการทะลักจากแม่น้ำไม่น่าจะเกิด นอกจากจะมีซึมเข้ามาบ้างเวลาน้ำขึ้นสูง และบริเวณที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ เช่น ท่าเตียน วัดสร้อยทอง บางซื่อ หรือในคลองบางกอกน้อยบางจุด

    สำหรับคาดการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 29 ต.ค.นี้น้ำจะขึ้นสูงที่สุดจากการหนุนของน้ำทะเลและภาวะน้ำขึ้นจากแรงดึงดูด ของดวงจันทร์ ที่ระดับ 1.31 เมตร เมื่อรวมกับน้ำเหนือที่ไหลลงมาจะมีระดับสูงขึ้นไปอีกประมาณ 70 เซ็นติมตร รวมเป็น 2.01 เมตร ก็ถือว่ายังรับได้ ส่วนในเดือน พ.ย.นี้ คาดว่าน้ำจะขึ้นสูงที่สุด 1.35 เมตร แต่ในช่วงนั้นน้ำเหนือก็คงหมดไปแล้ว ทั้งนี้ในอดีตเมื่อปี 2485 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ วัดได้ที่ระดับ 2.27 เมตร ที่ปากคลองตลาด

    ถ้าสมมุติอย่างเลวร้ายที่สุดว่าน้ำเหนือจะมาเพิ่มอีก 90 เซนติเมตร หรือสูงสุดไม่เกิน 1 เมตร ก็อาจจะล้นชั่วคราว เพราะช่วงเวลาที่น้ำขึ้นจะไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าล้นก็มีสถานีสูบน้ำออกแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมั่นใจพอสมควรในระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าน้ำจะไม่ทะลักท่วมแบบถล่มทลายเหมือนที่นนทบุรี ปทุมธานี อย่างมากก็ซึมออกมา ซึ่ง กทม.มีความสามารถสูบออกได้ทัน

    นอกจากนี้ ยังมีคันกั้นน้ำทางอื่นอีก ได้แก่ ทางเหนือมีถนนสายไหม หทัยราษฏร์ นิมิตใหม่ ร่มเกล้า อ่อนนุช กิ่งแก้ว เป็นคันกั้นน้ำ ซึ่งในอดีตเป็นคันดิน ต่อมาทำเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 20-30 เมตร มีความแข็งแรง และมีประตูระบายน้ำผ่านคลองต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการระบายลงไปบ้าง และตอนนี้ฝนก็หยุดตกหลายวันแล้ว มีร่องความกดอากาศสูงลงมา คาดว่าจะไม่มีฝนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้า กทม.จะช่วยพื้นที่ข้างเคียงน่าจะเปิดประตูระบายน้ำให้กว้างขึ้นมากที่สุด เท่าที่จะมากได้ โดยที่ไม่ทำให้น้ำเอ่อล้นมาท่วมคนกรุงเทพฯ

    ทางวิศกรรมสถานเราได้พิจารณาแล้วว่า น่าจะเปิดให้มากที่สุด เพราะ กทม.มีระบบระบายน้ำผ่านอุโมงค์ขนาดยักษณ์ 3 จุด คือที่บึงพระราม 9 ซึ่งจะรับน้ำที่ไหลจากจากคลองสองฝั่งใต้ มาบางบัว คลองลาดพร้าว ชนคลองแสนแสบ แถวรามคำแหง ที่นั่นมีปั๊มน้ำจากบึงพระราม 9 เข้าอุโมงค์ยักษ์ไปสู่สถานีสูบน้ำพระโขนง ซึ่งจะทำให้น้ำลงอ่าวไทยเร็วกว่าเดิม อีกจุดหนึ่งคือที่บึงมักกะสัน รับน้ำจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รัชดาภิเษก พระราม 9 สามารถสูบน้ำไปลงประตูน้ำเชื้อเพลิง วัดช่องลม ลงแม่น้ำเจ้าพระยา สองตัวนี้จะช่วยดูดน้ำจากพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ ลงแม่น้ำเจ้าพระยาไป ส่วนอีกจุดอยู่ที่คลองเปรมประชากร บริเวณโรงปูนบางซื่อ สามารถสูบน้ำไปลงแม่น้ำพระยาบริเวณเกียกกายได้

    ส่วนปัญหาน้ำในคลองประปานั้น เนื่องจากทางตอนเหนือของคลองบริเวณสำแล มีเพียงคันดิน เมื่อน้ำทะลักจากนนทบุรีเข้ามาคันดินจึงพัง น้ำไหลลงคลองประปาและสูงขึ้นจนไหลมาตามคลองมาที่โรงกรองสามเสน แต่เมื่อมาเจอระบบไซฟอนน้ำที่กันไม่ให้น้ำคลองประปาปะปนกับน้ำข้างนอก ทำให้น้ำไหลช้า น้ำจึงซึมออกถนนแจ้งวัฒนะ แต่ก็ไม่น่าห่วง เพราะระดับน้ำจะสูงประมาณ 50 เซนฯ-1เมตร เพราะปริมาณน้ำไม่มาก เมื่อท่วมจะมีเครื่องสูบน้ำออก และน้ำจะไม่เข้าถึงด้านใน กทม.

    สำหรับด้านตะวันออก มีคลองแสนแสบและคลองประเวศบุรีรัมย์เป็น 2 คลองหลักที่จะผันน้ำออกไป ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ประมาณมาก และมีสถานีสูบน้ำอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งสถานีพระโขนงสูบมา 2-3 เดือนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเปิดประตูน้ำด้านบนรับน้ำเข้ามาก็ไม่น่าจะมีปัญหา โดยเฉพาะช่วงนี้น้ำกำลังลง ต้องเร่งระบายน้ำออกไป

    “เราได้พิจารณาแล้วว่า กทม.น่าจะเปิดประตูรับน้ำให้คนที่อยู่นอกคันกั้นนน้ำลดระดับความเดือดร้อนลง มาบ้าง โดยที่ไม่ทำให้คนที่อยู่ภายในเดือดร้อน ซึ่งจะต้องคอยตรวจสอบว่าถ้าน้ำปริ่มแล้วก็หรี่การเปิดประตูรับน้ำลงไป ได้”นายธีรเดชกล่าว

    นางนิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เราได้คุยกันว่ามันมีหลายพื้นที่ที่สามารถเฉลี่ยน้ำได้ แต่ก็คงไม่ไปบังคับกะเกณฑ์ กทม.ให้ทำตาม แต่ต้องดูให้ดีๆ ว่าปริมาณน้ำมีเท่าไหร่จะเปิดรับได้เท่าไหร่ ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเปิดประตูน้ำแล้วทางด้านล่าง แต่ด้านบนที่จะรับน้ำจากทางเหนือจะเฉลี่ยเปิดอย่างไร ไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้ามา ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็เป็นของกรมชลประทาน การใช้มาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ป้องกันสาธารณภัย ให้เกิดประโยชน์ต้องใช้ให้เป็น ว่าจะแบ่งน้ำกันอย่างไรดี

    ทั้งนี้ โครงการแก้มลิงตามพระราชดำรินั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบอกว่า ควรคุมประตูน้ำตามระดับและจังหวะที่เหมาะสมตามน้ำขึ้นน้ำลง ต้องอาศัยความรอบรู้การจัดการน้ำอย่างละเอียดพอสมควร และการทำภาพแผนภูมิจำลอง ซึ่งมีวิศวกรหลายคนชำนาญการเรื่องนี้

    นายนิตยากล่าวว่า การแก้ปัญหาระบยะยาวต้องมีการทำ flood way ตั้งแต่ชัยนาทลงมาทางแม่น้ำป่าสัก ลงแม่น้ำบางปะกง และทำแผนการจัดการลุ่มน้ำในระยะยาว ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขณะนี้ผู้คนกำลังต้องการข้อมูลเพื่อเตรียมตัวกันมา อยากรู้ว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ เมื่อไหร่ และเกิดความตื่นตระหนก เพราะไม่มั่นใจว่า การบริหารน้ำด้านเหนือกรุงเทพฯ จะกระจายน้ำกันได้หรือเปล่า การเตรียมตัวไว้จึงเป็นสิ่งที่ดี แม้ว่าขณะนี้น้ำคงจะไม่ทะลัก เพราะคลองประปาเอาอยู่แล้ว พื้นที่อื่นของ กทม.น้ำก็คงจะไม่เทเข้ามาทันที น่าจะค่อยๆ ซึมมา ถ้าดูแผนภูมิจำลองแบบเลวร้ายที่สุด ก็จะท่วมบริเวณรามคำแหง 1 เมตร ซึ่งในความเป็นจริงอาจท่วมแค่ครึ่งเมตร – 70 เซนติเมตร จึงไม่ควรวิตก เพียงแต่ต้องเตรียมตัวไว้

    สำหรับคนที่ทำคันกั้นน้ำ ควรจะรู้เรื่องแรงดันของน้ำ เมื่อระดับน้ำสูงขึ้นแรงดันจะยิ่งสูงขึ้น เช่นน้ำลึก 1 เมตร แรงดันน้ำที่ฐานจะเท่ากับประมาณ 10 คนผลัก ถ้าลึก 2 เมตรแรงดันจะเพิ่ม 4 เท่า เพราะฉะนั้นต้องขยายฐานของคันกั้นน้ำให้กว้างออกไป การวางกระสอบทรายต้องระวังไม่ให้น้ำซึมหรือไม่ให้กระสอบทรายเปื่อยยุ่ย ท่อระบายน้ำต้องอุดไม่ให้น้ำซึมผ่านออกมา ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้มีใน เว็บไซต์ของวิศวกรรมสถาน

    ส่วนพื้นที่ที่น้ำท่วมแล้วจะท่วมนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารการกระจายน้ำ ซึ่งมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง และไม่รู้ว่า กทม.หรือแต่ละหน่วยงานจะตอบสนองแค่ไหน คาดว่าคงใช้เวลาเป็นเดือน ส่วนผู้ประสบภัยต้องทำตัวอย่างไร ก็ขึ้นกับระดับน้ำที่บ้านว่าจะอยู่ไหวหรือไม่ ถ้าไม่ไหวต้องอพยพออกมา เพราะน้ำคงไม่ลดภายใน 1-2 อาทิตย์แน่นอน

    นายธีรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่แคบสุดอยู่ที่สะพานพระราม 8 ความกว้างประมาณ 300 เมตร เป็นจุดที่น้ำจะยกสูงขึ้นที่สุด จากสถิติยังไม่เกิน 2.20 เมตร ถ้าน้ำเหนือมาน้ำจะยกสูงขึ้น ซึ่งทางเหนือขึ้นไปไม่มีที่กั้นมันถึงล้น แต่ของเรามี ถ้าน้ำทะเลหนุนสูงก็ไม่เกิน 2.30 เมตร สามารถรับได้อยู่ กรณีน้ำจะท่วมที่รามคำแหง หรือยานนาวานั้น เพราะเป็นที่ต่ำ สมมุติว่าพนังกั้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาพังจึงจะเกิดเหตุการณ์นั้น แต่ถ้าไม่พัง และคันกั้นน้ำข้างบนก็ไม่พัง น้ำก็ไม่ท่วมเข้าไปเหมือนที่บางบัวทอง

    ทั้งนี้ พื้นที่ตอนในของพระนครมีแนวกั้นถึง 3 ชั้น ชั้นแรกถนนสายไหม ชั้นที่ 2 รามอินทรา ชั้นที่ 3 คือลาดพร้าว เพราะฉะนั้นตั้งแต่ลาดพร้าวลงมา มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าปลอดภัย เว้นแต่จะเกิดฝนถล่มลงมาครั้งใหญ่เท่านั้น และขณะนี้ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง ถ้าระบายน้ำจากด้านบนลงเจ้าพระยาก็จะระบายได้เร็วที่สุด และเชื่อว่าบริเวณที่ท่วมแล้วจะไม่เหมือนที่รามคำแหงเมื่อปี 2526 ที่มีสภาพเป็นแอ่ง ต้องสูบน้ำออกอย่างเดียวโดยใช้เวลา 2 เดือน แต่รอบนอกของกรุงเทพฯ ที่ท่วมขณะนี้น่าจะใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง เพราะยังระบายน้ำได้อยู่

    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135004-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า ,ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า และท่านผู้ที่เคยร่วมทำบุญกับผมทุกๆท่าน

    ผมขอแจ้งวาระงานบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554

    จากจดหมายของพี่แอ๊วส่งมาให้ผมและคุณPinkcivil

    เรียนคุณหนุ่ม และ คุณPinkcivilค่ะ


    พี่ ส่งรายละเอียดงานบุญใหญ่มาให้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้า ตามสภาพค่ะตอนนี้ ต้องคอยเช็คสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ เพราะบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงเช่นกัน

    ปี นี้ผู้คนลำบากกันมาก พระสงฆ์ก็ยิ่งลำบากใหญ่ แต่ถึงฤดูกาลกฐิน จะมากจะน้อยอย่างไรก็คงต้องดำรงคงไว้ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนนะคะ เราก็เลือกทำบุญที่มีอานิสงส์มากก็แล้วกันค่ะ


    ปี นี้มีมหากฐินโดยเสด็จพระราชกุศลมาให้พวกเราได้ร่วมบุญกันเหมือนปีที่แล้วค่ะ คือกฐินที่ไม่มีเจ้าภาพจองใน 3 จว.ชต. และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านได้เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่


    ถือ ว่าเราได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่กันนะคะ ปีนี้มีวัดตกค้างอยู่ 84 วัด ( เท่าพระชนมายุของในหลวงพอดีเลยนะคะ ) วัดทั้งหมดมีพระจำพรรษาครบ 5 รูป และพระสงฆ์อยู่ครบไตรมาส ถือว่าถวายกฐิน


    เป็น การสืบต่องานพระพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยนะคะ พระที่ท่านจำพรรษาอยู่ใน 3 จว.ชต. นี้ถือว่าท่านต้องมีกำลังใจสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิต และขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง


    เพราะ คนเข้าไปทำบุญได้ยาก ปีหนึ่งก็คงมีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยไทยธรรมสักครั้งให้สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารตลอดทั้งปี รวมทั้งค่ายารักษาโรคด้วย


    พี่ ขอรบกวนคุณหนุ่ม ในการบอกกล่าวข่าวบุญนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายนะคะ เหลือเวลาร่วมบุญแค่ประมาณ 10 วันเท่านั้นเองค่ะ !!!!


    กราบอนุโมทนา สาธุนะคะ

    ------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลทอดกฐินตกค้างจำนวน ๘๔ วัด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ด้วย ในกาลกฐินประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมอบหมายให้กรมราชองครักษ์ดำเนินการสำรวจวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองทอด กฐิน ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งพบว่ามีวัดจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ วัดยังไม่มีเจ้าภาพจองทอดกฐินในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน จำนวน ๘๔ ไตร พร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กรมราชองครักษ์ คณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา อัญเชิญไปถวายวัดทั้ง ๘๔ วัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาครบจำนวน ๕ รูป และอยู่ครบถ้วนไตรมาส


    ใน การนี้พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพระธวัชชัย ชาครธัมโม ( พระอาจารย์นิล ) ได้รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน และการจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่วัดทั้ง ๘๔ วัด เพื่อร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย


    จึง ขอเรียนเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลครั้งนี้ โดยผู้รับเป็นเจ้าภาพสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้ทั้ง ๘๔ วัด โดยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือ รับเป็นเจ้าภาพกองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ กอง โดยในเบื้องต้น ทางวัดห้วยมงคลจะได้จัดปัจจัยถวายแต่ละวัด วัดละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตรจีวร หากมีผู้ทำบุญมาเกินกว่าจำนวนที่ได้ตั้งไว้ ทางวัดจะจัดปัจจัยเฉลี่ยเท่าๆกันถวายแด่วัดทั้งหมดจำนวน ๘๔ วัด ทั้งนี้เจ้าภาพสามารถร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลในการร่วมถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน และถวายผ้ากฐินสำหรับทุกวัดด้วย


    สำหรับรายละเอียดและกำหนดการทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ มีดังนี้


    1. วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดวังโต้ อ. นาทวี จ. สงขลา จำนวน ๒๐ วัด
    เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมุจลินทร์ จ. ปัตตานี จำนวน ๓๐ วัด


    2. วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐินที่วัดเขากง จ. นราธิวาส จำนวน ๓๔ วัด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รายชื่อวัด (ตามไฟล์แนบ ผมได้มาเพียง 80 วัดครับ)


    -------------------------------------------

    บัญชีที่ผมใช้สำหรับงานบุญนี้ ผมใช้บัญชีส่วนตัวผม

    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีความลังเล , สงสัย , เคลือบแคลง , ไม่มั่นใจ , ไม่แน่ใจ และกลัวว่าผมจะมีส่วนได้ส่วนเสียในเงินร่วมทำบุญนี้ ก็ไม่ต้องทำบุญครับ

    สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมให้สิทธิในการร่วมทำบุญ แต่ผมขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผมว่า จะให้ร่วมทำบุญได้หรือไม่ หากท่านใดที่ผมอนุญาตให้ร่วมทำบุญ ผมจะให้ท่านแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยุ่มาให้ผมก่อน แล้วผมจะส่งหมายเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินร่วมทำบุญไปให้อีกครั้งครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ สิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 18.00 น.ครับ

    โมทนาบุญทุกประการ

    sithiphong
    20/10/2554

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนัตตัง [​IMG]
    ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 400.04 บาท ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    วันนี้ กระผมและคณะได้ร่วมโอนเงินทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554 รวมเป็นเงินทั้งหมด 8200 บาท ขอคุณพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านในชมรมร่วมโมทนาในบุญทุกประการครับผม
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายเฉลิมพล [​IMG]
    เมื่อวานนี้ 21/10/11 12;33 ผมได้โอนมาร่วมทำบุญกฐินจำนวน 1500 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>


    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    "ทีมกรุ๊ป" เตือนมีน้ำขนาดเท่าเขื่อนภูมิพลจ่อถล่มซ้ำ ชี้หลัง 15 พ.ย.สถานการณ์ดีขึ้น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ตุลาคม 2554 00:47 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG]


    "ทีม กรุ๊ป" เตือนภัยฉบับ 3 ระบุสถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางยังไม่ดีขึ้น ยังมีน้ำมากกว่า 1.2 หมื่นล้านลบ.ม. เปรียบเท่าเขื่อนภูมิพลอยู่ที่บางไทร ชี้หากไม่สามารถระบายน้ำลงทะเลได้มากกว่าปัจจุบัน พนังกั้นน้ำพื้นที่ต่างๆจะทยอยพัง บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง 26 - 31 ต.ค. ยิ่งทำสถานการณ์เลวร้าย ระบุหลัง 15 พ.ย. ระดับน้ำ อ่างทอง อยุธยา สุพรรณบุรี จะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วน บางไทร ปทุมฯ นนท์ นครชัยศรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ ระดับน้ำจะลดลงอย่างช้าๆ

    วันนี้ 22 ต.ค. บริษัท TEAM GROUP กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาของคนไทย ที่มีความชำนาญในวิชาชีพด้านการบริหารจัดการน้ำมากว่า 30 ปี ได้เตือนภัยน้ำท่วม ฉบับที่ 3 ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางยังไม่ดีขึ้น แม้ระดับน้ำที่อยุธยาจะลดลง 2 ซม. และระดับน้ำที่บางไทรได้เริ่มคงที่ ทั้งนี้จากปริมาณน้ำในทุ่งเจ้าพระยาที่ยังมีมากกว่า 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เปรียบเสมือนมีอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลอีก 1 อ่าง อยู่ที่บางไทร และปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยา แม้จะลดลงแต่ยังมีปริมาณมากกว่าน้ำที่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ เช่น เมื่อ 21 ต.ค. มีน้ำไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยาวันละ 419 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลทั้งที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และทางทุ่งและคลองฝั่งตะวันออกรวมทั้งสิ้นได้วันละ 403 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำเหลือสะสมเพิ่มเติมในทุ่งเจ้าพระยาอีกวันละ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้ระดับน้ำในทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ นครชัยศรี บางเลน บางใหญ่ เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด ลาดหลุมแก้ว เมืองปทุมธานี คลองหลวง ธัญบุรี สายไหม ลำลูกกา หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง บางเสาธง และบางบ่อ

    หากไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้มากกว่านี้ จะมีผลทำให้พนังกั้นน้ำที่อ่อนแอกว่าพังลง น้ำจะไหลพุ่งเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น และพนังกั้นน้ำที่ไม่แข็งแรงหรือความสูงไม่เพียงพอ ก็จะพังลงเรื่อยๆ ตามลำดับ นอกจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นต้นไป น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้นเรื่อยๆ จนไปหนุนสูงสุดในวันที่ 31 ต.ค. ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพุทธฯ อยู่ที่ +2.45 เมตรจากระดับน้ำทะเลกลาง ซึ่งจะมีผลเสริมทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำและมีคลองเชื่อมโยงกับแม่น้ำ เจ้าพระยาและท่าจีน หลังจากนั้นระดับน้ำจะทรงตัว และจะค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ จนถึงหลังวันที่ 15 พ.ย.ไปแล้ว ระดับน้ำในพื้นที่ อ่างทอง อยุธยา สุพรรณบุรี จึงจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนในพื้นที่ บางไทร ปทุมธานี นนทบุรี นครชัยศรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ระดับน้ำจะลดลงอย่างช้าๆ

    ดังนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่น้ำจะท่วม (ดูจากเตือนภัยน้ำท่วมฉบับที่ 1) จะต้องเสริมความแข็งแรงให้พนังกั้นน้ำต่างๆ และเสริมเพิ่มความสูงให้เพียงพอ และให้คงทนอยู่ได้ถึงหลังวันที่ 15 พ.ย. ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องป้องกันน้ำท่วมเป็นพิเศษที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวัน ออกของถนนหทัยราษฎร์ ถนนร่มเกล้า ถนนกิ่งแก้ว และฝั่งตะวันออกของถนนบางพลี-บางตำหรุ ควรเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำให้มั่นคง และให้มีระดับความสูงไม่น้อยกว่า +3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลกลาง

    แผนที่แสดงระดับความเสี่ยง และระดับน้ำท่วม ของพื้นที่ต่างๆ แสดงไว้ในรูปที่แนบท้ายนี้

    [​IMG]


    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135063-



    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    นิทานสอนใจ : ขนุนผู้ต่ำต้อย
    -http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135085-

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ตุลาคม 2554 08:10 น.</td> </tr></tbody></table>

    [​IMG] [​IMG]


    หมู่บ้านทองดี เป็นหมู่บ้านที่มีเศรษฐีทองคำเป็นผู้ปกครอง แม้เศรษฐีทองคำจะเป็นคนร่ำรวยแต่ก็ไม่เคยเอาเปรียบชาวบ้าน กลับใช้คุณธรรมและเงินทองของตนทำนุบำรุงหมู่บ้าน และดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้อยู่กินดีเสมอ ชาวบ้านจึงเคารพรักใคร่เศรษฐีทองคำมาก

    เศรษฐีทองคำ มีลูกสาวแสนสวยคนหนึ่ง ชื่อว่า ดอกแก้ว ดอก แก้วเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มฐานะดีทั้งในและนอกหมู่บ้านหลายคน แต่ตัวเธอนั้นยังไม่สมัครใจรักใคร่กับชายใด ซึ่งเศรษฐีทองคำก็เห็นด้วยที่ลูกสาวไม่รีบร้อนออกเรือน เพราะหมายมั่นว่าเมื่อถึงเวลาสมควรแล้ว จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตน รวมถึงตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ให้ตกเป็นของลูกเขยในอนาคตด้วย ดังนั้นเศรษฐีทองคำจึงอยากใช้เวลาเลือกเฟ้นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการ เป็นทั้งหัวหน้าหมู่บ้าน และผู้ที่จะมาดูแลทรัพย์สินของตนเองให้เกิดประโยชน์แก่หมู่บ้านได้ในเวลา เดียวกัน

    ดังนั้นในวันหนึ่ง เศรษฐีทองคำจึงให้คนไปป่าวประกาศทั่วหมู่บ้าน และเลยไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงว่า

    "มีข่าวล่ามาบอกจ้า มีข่าวล่ามาบอก อีกสามวันเมื่อฟ้าสาง ท่านเศรษฐีทองคำจะทำการเลือกคู่ให้แก่คุณหนูดอกแก้วบุตรสาวคนสวยของท่าน ขอให้บุรุษทุกท่านทั้งคนมีและคนยาก แต่ยังโสดสนิท ที่สนใจเข้ารับการเลือกคู่ครั้งนี้ไปสมัครกันถ้วนหน้า หากบุรุษคนใดผ่านการคัดเลือกและได้แต่งงานกับคุณหนูดอกแก้ว เขาผู้นั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติทั้งหมดจากท่านเศรษฐีและได้รับตำแหน่งหัว หน้าหมู่บ้านแห่งนี้ต่อจากท่านด้วยจ้า"

    เมื่อมีประกาศนี้ออกมา พวกผู้ชายที่รู้ข่าวต่างพากันตื่นเต้นดีใจ รวมทั้ง ขนุน หนุ่มน้อยคนยากที่อาศัยอยู่ตรงกระต๊อบปลายนาด้วย

    ขนุนนั้นเคยพบหน้าแม่ดอกแก้วคนสวยอยู่ครั้งหนึ่ง และเกิดหลงรักปักใจมานับแต่บัดนั้น แต่ขนุนเป็นคนเจียมตัว เขาคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับลูกสาวของท่านเศรษฐี จึงไม่เคยพยายามสานต่อความสัมพันธ์กับนาง อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านเศรษฐีมีประกาศออกมาเช่นนี้ ขนุนก็คิดว่าเขาน่าจะไปลองสมัครดูสักหน่อย หากมีบุญวาสนาต้องกันก็คงได้ครองคู่ แต่หากต้องผิดหวังเขาก็ไม่เสียใจ และขอยินดีกับหญิงที่เขาแอบรักด้วย

    ถึงวันเลือกคู่ ขนุนรีบไปที่บ้านของเศรษฐีทองคำแต่เช้า เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่าที่นั่นเต็มไปด้วยบุรุษมากหน้าหลายตา และทุกคนก็เหมือนจะเป็นบุรุษจากครอบครัวผู้มีฐานะดี มีชาติตระกูล ในขณะที่บางคนก็ดูทรงภูมิท่าทางมีการศึกษาสูง

    ขนุนเห็นแล้วก็รู้สึกใจแป้ว ดูเหมือนในที่นั้นจะมีเขาเพียงผู้เดียวที่ดูต่ำต้อย ไร้สกุลรุนชาติ และไม่มีการศึกษาที่สูงส่งอะไร

    "ช่างไม่เจียมตัวเอาเสียเลยขนุนเอ๋ย ดูสิ มีแต่บุรุษระดับสูงที่คู่ควรกับแม่ดอกแก้วอย่างแท้จริง แกน่าจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้ว ใครเขาจะมาเลือกคนอย่างแกให้ลูกสาวของเขา โธ่เอ๋ย...คนไม่เจียมตัว" ขนุนพร่ำว่าตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสมัครเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ให้เสร็จสิ้นการคัดเลือก

    เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เศรษฐีทองคำก็ออกมาป่าวประกาศว่า "ทุกๆท่านโปรดฟังทางนี้...เรา...เศรษฐีทองคำ แห่งหมู่บ้านทองดี ได้แจ้งความประสงค์ถึงการรับสมัครผู้ที่จะเข้ามาเป็นบุตรเขยของเราไปแล้วว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากจะได้บุตรสาวแสนสวยของเราไปครอง ยังได้ทรัพย์สมบัติและต้องดำรงตำแหน่งผู้ปกครองของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะเมื่อไม่มีเราแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไปจะต้องเข้าถึงชาวบ้านและดูแลพวกเขาได้ดีไม่แพ้เรา ดังนั้นทุกท่านจงบอกถึงความสามารถของท่านให้เราได้รู้ว่า หากท่านเข้ามาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ท่านมีดีอันใดในตัวเอง ที่จะนำมาใช้ดูแลหมู่บ้านนี้ต่อจากข้า ขอจงบอกมาให้ข้ารู้"

    ชายอ้วนลูกเศรษฐีหมู่บ้านใกล้เคียง ก้าวออกมาก่อนใครเพื่อน พร้อมกับกล่าวว่า "ข้ามีเงินทองมากมาย ข้าจะใช้เงินทองของข้าแจกจ่ายชาวบ้านให้อยู่ดีกินดี"

    อัศวินผู้กล้า กล่าวต่อเป็นลำดับต่อมาว่า "ข้าจะปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยคมดาบในมือข้า แม้นมีผู้ร้ายหน้าไหนเข้ามาก่อกวนความสงบ ข้าก็จะใช้ดาบของข้าบั่นคอมันทันที"

    นายวิศวกรมือหนึ่ง กล่าวว่า "ข้าจะจัดสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุด และพรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายต่างๆนานา"

    นายแพทย์หนุ่มที่ได้รับการขนานนามว่า "หมอเทวดา" กล่าวว่า "ข้าจะใช้ความรู้ทางการแพทย์ของข้า รักษาผู้คนที่เจ็บป่วยในเมือง ให้มีสุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย"

    ผู้สมัครต่างกล่าวอ้างถึงคุณสมบัติพิเศษในตัวเองให้เศรษฐีทองคำพิจารณาทีละคน ๆ จนกระทั่งมาถึงขนุนในลำดับสุดท้าย

    "เรียนท่านเศรษฐี" ขนุนกล่าวอย่างนอบน้อม "ข้าน้อยขนุน เป็นเพียงคนต่ำต้อย ไร้เงินทอง ไร้อำนาจ และขาดการศึกษา ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดโดดเด่นพอที่จะนำมากล่าวอ้างแก่ท่านได้ แต่ข้าน้อยกล้ายืนยันว่าตัวข้าน้อยนั้นยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้ง และข้าน้อยจะใช้ความดีอันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวข้าน้อยอยู่ตลอดเวลา มาดูแลความทุกข์ร้อนของชาวบ้านด้วยความเมตตาขอรับ"

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่ขนุนพูด หลายคนในที่นั้นต่างพากันหัวเราะเยาะ บางคนแกล้งพูดล้อเลียนให้ขนุนได้ยินว่า "ขนุนคนต่ำต้อย...ไม่รู้จักคำว่าเจียมตัวบ้างเลยหรือ"

    ในตอนนั้นเอง มีคนรับใช้คนหนึ่งวิ่งลนลานมาบอกแก่เศรษฐีทองคำว่า

    "เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับนายท่าน ตอนนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านของเรากำลังเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะท่อระบายน้ำเสียอุดตัน ทำให้ระบบระบายน้ำขัดข้อง ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วหมู่บ้านแล้วขอรับ"

    เมื่อได้ฟังเหตุร้ายฉุกเฉินนั้น เศรษฐีทองคำจึงอาสาสมัครจากบุรุษในกลุ่มที่มาสมัครเป็นลูกเขยให้ลงไปในท่อ ระบายน้ำ เพื่อเอาสิ่งอุดตันออก แต่ในท่อระบายน้ำนั้นแสนจะเหม็นเน่าเหลือกำลัง จึงไม่มีใครกล้าเสนอตนลงไปทำงานชิ้นนี้ ต่างคนต่างบ่ายเบี่ยงและอ้างว่างานต่ำต้อยเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตนถนัด

    ขนุนคนต่ำต้อยรอดูท่าทีของบุรุษผู้สูงส่งอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอาสา ตนเองจึงยกมือขึ้นแล้วบอกแก่ท่านเศรษฐีทองคำว่าจะเป็นผู้ลงไปในท่อระบายน้ำ เอง

    "แต่ในนั้นเหม็นมากนะ เจ้าหนุ่ม" เศรษฐีทองคำกล่าวหยั่งเชิงขนุน

    "ไม่เป็นไรหรอกขอรับ เพราะข้าน้อยนั้นเป็นลูกชาวนาคนยากจน เมื่อเกิดมาก็กินอยู่กับกองดินและกองขี้วัวอยู่แล้ว งานแค่นี้ไม่ได้ทำให้ข้าน้อยรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด ข้าน้อยเป็นคนต่ำต้อย จึงไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะทำให้ข้าน้อยคิดว่า ตนเองนั้นอยู่สูงเสียจนหยิบจับสิ่งนั้นไม่ได้"

    ว่าแล้ว ขนุนก็ลงไปในท่อระบายน้ำแล้วเริ่มค้นหาสิ่งอุดตันที่ทำให้น้ำในท่อไม่ไหล การกระทำของขนุนครั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของเศรษฐีทองคำโดยตลอดและแม้แต่ดอก แก้ว ลูกสาวคนสวยของเศรษฐีเอง เมื่อรู้เรื่องจากสาวใช้ก็รู้สึกชื่นชมในตัวขนุนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ลอบมองขนุนอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา

    ขนุนใช้เวลาไม่นานก็สามารถนำสิ่งอุดตันออกจากท่อระบายน้ำได้ และทันทีที่เขาขึ้นมากท่อระบายน้ำ ดอกแก้วก็นำพวงมาลัยคล้องคอให้อย่างเขินอาย

    "อะ...อะไรกันนี่ แม่ดอกแก้ว" ขนุนตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ "นางคล้องมาลัยผิดคนแล้วล่ะ เพราะข้าไม่ใช่คนที่ท่านเศรษฐีเลือกหรอก"

    "ถ้าท่านคือขนุนคนต่ำต้อย ก็เห็นทีว่าคงถูกคนแล้ว เพราะท่านพ่อและแม้แต่ตัวข้าเองก็เห็นว่าท่านสมควรถูกเลือกมากกว่าใคร ๆ" ดอกแก้วบอกขนุน

    "ใช่แล้ว" เศรษฐีทองคำพูดขึ้นบ้าง

    "แม้เจ้าจะเป็นขนุนคนต่ำต้อย แต่การกระทำของเจ้าได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่า แท้จริงเจ้านั้นสูงส่งยิ่งกว่าคนร่ำรวย นักรบ หรือแม้แต่ผู้มีการศึกษาดีแต่ไม่สามารถช่วยหมู่บ้านนี้ได้ยามมีภัยเดือดร้อน แท้จริงแล้ว ข้ารู้สึกสรรเสริญในความต่ำต้อยของเจ้าด้วยซ้ำไป เพราะความต่ำต้อยนี้เองทำให้เจ้าไม่เกี่ยงงานหนักดังคนที่คนคิดว่าตนเองสูง ส่ง ทำให้ชาวบ้านรอดพ้นจากความยากลำบาก ดังนั้น เจ้าจึงเหมาะที่จะเป็นลูกเขยข้า และเป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ สืบต่อไป"

    สิ้นเสียงประกาศของเศรษฐี ทองคำ ชาวบ้านทุกคนก็พากันโห่ร้องแสดงความยินดีต้อนรับว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านคน ใหม่ เพราะซึ้งน้ำใจขนุนคนต่ำต้อย ผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ไม่รังเกียจงานต่ำต้อย จนช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นความเดือดร้อนในครั้งนี้

    บทสรุปของผู้แต่ง

    แม้เธอจักเป็นคนต่ำต้อยในสายตาของใครๆ แต่จงอย่าทำตัวเองให้ต้อยต่ำตามความคิดของเขา เพราะแม้เธอจะเป็นคนต่ำต้อย แต่เธอมิใช่คนไร้คุณค่า ซึ่งคุณค่าในตัวเธอนั้น จะปรากฏชัดเมื่อเธอกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน จากนั้นคนอื่น ๆ ก็จะประจักษ์ชัดเองว่า แท้จริงแล้วเธอคือคนที่น่าสรรเสริญ มิใช่คนต่ำต้อยอย่างที่เขาเข้าใจในตอนแรก หรือแม้แต่เธอทั้งหลายถูกยกย่องว่าเป็นผู้สูงส่ง ก็จงอย่ารังเกียจงานที่ต่ำต้อย ถ้างานนั้นจะสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก จงคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ แล้วเธอจะเป็นคนที่สูงส่งได้อย่างแท้จริง

    ///////////////

    ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดี ๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ






    -http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135085-

    .

    Life & Family - Manager Online -
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ถอดบทเรียนน้ำท่วมบางบัวทอง เตรียมรับมือก่อนจะสาย



    เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณ antse14

    เชื่อว่า ณ วันนี้ คนกรุงเทพมหานครที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วม คงจะขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงกันแล้ว หรือแม้กระทั่งมีแผนการอพยพไปอยู่ต่างจังหวัดชั่วคราวแล้วเช่นกัน ขณะที่อีกหลายบ้านก็ยังชะล่าใจไม่คิดว่าน้ำจะไหลมาถึงบ้าน เพราะไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อน หรือยังคิดว่า ยังมีเวลาอีกนานที่น้ำจะไหลมาถึง คงจะยังเก็บข้าวของได้ทันอยู่

    ...หากคุณคิดเช่นนั้น ขอให้ฉุกคิดอีกครั้งหนึ่ง!!! แล้วเตรียมตัวเองและครอบครัวให้พร้อมรับมือกับน้ำท่วมซะตั้งแต่วันนี้ เพราะน้ำมาเร็วกว่าที่คุณคาดการณ์ไว้มาก ดังเช่นประสบการณ์ผจญภัยน้ำท่วมของ คุณ antse14 ชาวบ้านบางบัวทอง ที่ได้เขียนบอกเล่าเหตุการณ์น้ำท่วมบางบัวทองไว้ในเว็บไซต์ pantip ก็ทำให้เรารู้ว่า เมื่อถึงเวลาที่น้ำหลากมาจริง ๆ ไม่มีใครเตรียมตัวได้ทันเลย

    ดังนั้น คุณ antse14 จึงได้ให้คำแนะนำในการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมไว้ เพื่อเตือนทุกคนว่า "อย่าชะล่าใจ" เพราะน้ำมาเร็วกว่าที่ทุกคนจะคาดคิด และกว่าจะรู้ตัวว่าควรจะรีบอพยพออกจากบ้าน ตัวเองก็ถูกขังอยู่ในผืนน้ำที่สูงกว่า 2 เมตร จนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงไปเรียบร้อยแล้ว ลองไปอ่านกันค่ะ


    [​IMG]




    ผมอยู่หมู่บ้านนริศา ถ.บ้านกล้วยไทรน้อย โดนน้ำท่วมไปแล้ว จากประสบการณ์ที่ได้รับ อยากจะบอกวิธีเตรียมตัวรับน้ำท่วม อย่ามั่นใจในสถานการณ์ เพราะเราคาดเดาอะไรไม่ได้ หมู่บ้านผมนับว่าสูงพอสมควรตอนน้ำท่วมปี 38 ก็ไม่โดนท่วม เลยมั่นใจว่าน้ำจะท่วมไม่สูงมากนัก แต่ตอนนี้ต้นขาแล้ว เพราะชะล่าใจไปหน่อยถึงเวลาเตรียมอะไรไม่ทัน ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ เลยอยากจะบอกวิธีเตรียมตัวรับน้ำท่วม ให้เพื่อน ๆ รู้ไว้

    1. ถ้าใกล้ ๆ บ้านมีคันกั้นน้ำ ให้สังเกตความสูงของน้ำแล้วเทียบกับระดับความสูงของบ้านตัวเอง แล้วให้ทำคันกั้นน้ำที่บ้านให้สูงกว่าระดับน้ำที่คันกั้นนัำ โดยทำให้แข็งแรงถาวร เช่น ใช้อิฐบล็อก หรืออิฐมวลเบาทำ และให้ปิดที่ประตูเข้าบ้านนะครับ อย่าพยายามทำนอกตัวบ้าน ปิดให้หมด ทั้งข้างหน้าข้างหลังบ้าน และในห้องน้ำชั้นล่างด้วย

    2. เตรียมถุุงพลาสติกใส่ทรายไว้เล็กน้อย เพื่อไว้อุดท่อระบายน้ำโดยผูกเชือกไว้เผื่อดึงออก ไว้จำนวนเท่ากับรูท่อระบายน้ำชั้นล่างทั้งหมด

    3. เตรียมทรายใส่ถุงหูหิ้วไว้จำนวนเท่ารูท่อระบายน้ำชั้นบนบ้านทั้งหมด รวมทั้งอ่างน้ำด้วย อันนี้ไว้วางทับรูท่อกันสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ หรือแมลงสาบ ออกมาจากท่อ

    4. หาที่พักพิงชั่วคราวไว้ก่อน จะเป็นบ้านญาติ บ้านเพื่อน หรือถ้าไม่มีให้หาเช่าบ้าน หรือห้องพักไว้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม เช่นที่ชลบุรี เพื่อเตรียมอพยพ โดยให้เตรียมแพ็คกระเป๋าไว้ด้วย

    5. ให้ยกสิ่งของมีค่า หรือสิ่งของที่โดนน้ำแล้วจะเสียหายขึ้นชั้นบนให้หมด

    6. รถยนต์ไม่ต้องไปจอดที่อื่น ให้จอดไว้ที่บ้านปกติเพื่อจะได้ไว้อพยพ

    7. ถ้าน้ำเริ่มมาถึงให้ปิดบ้าน ล็อคประตูให้มิดชิดแล้วอพยพออกได้เลยไม่ต้องรอดูน้ำ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ถ้ายิ่งเราออกมาช้าอาจจะออกมาไม่ได้ ไม่ต้องห่วงบ้านมาก น้ำลดแล้วค่อยกลับมากู้บ้าน ไม่อย่านั้นท่านจะเป็นแบบคนบางบัวทอง ที่ออกมาไม่ได้ อาหารที่ตุนไว้ก็หมด ไฟก็โดนตัด น้ำประปาก็ไม่ไหล แถมยิ่งนานวันน้ำที่ท่วมก็เน่าเสีย สะสมเชื้อโรคมากมาย โดยเฉพาะโรคฉี่หนูครับ

    ก็อย่างที่บอกอย่าพยายามคาดเดาอะไร เพราะเราไม่รู้ว่าน้ำมันจะท่วมสูงขนาดไหน ถ้าเพื่อน ๆ เห็นว่าต้องทำอะไรอีกก็แนะนำเพิ่มเติมได้นะครับ



    -http://hilight.kapook.com/view/63964-


    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    "ปราโมทย์ ไม้กลัด" ชี้น้ำท่วมกทม. วันนี้แค่ "กระฉอก"

    วันที่ 22 ต.ค. มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายปราโมทย์ ไม้กลัด ที่ปรึกษาพิเศษผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมที่บริเวณท่าน้ำต่างๆ เนื่องจากน้ำหนุนสูง ในวันนี้ว่า เป็นเรื่องน้ำขึ้นน้ำลงและวันนี้เป็นลักษณะน้ำกระฉอกมีความเปลี่ยนแปลง แต่คืนนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในช่วงระดับน้ำขึ้นสูงสุดแต่ละวันเราก็ต้องเฝ้าติดตามดูแล เหตุการณ์ในวันนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ประจำ เชื่อว่าพรุ่งนี้จะอยู่ในภาวะปกติ


    ต่อ กรณีที่น้ำจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 28-30 ต.ค. ที่จะถึงนี้ นายปราโมทย์ กล่าวว่า จะอันตรายหรือไม่ต้องติดตามระวัง แต่ไม่ต้องห่วงเพราะระดับคั้นกั้นน้ำมีไว้เพียงพอ อาจจะกระฉอกเหมือนวันนี้บ้างในบริเวณที่เป็นจุดอ่อน แต่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์รุนแรงจนดูแลไม่ได้ และถ้าน้ำขึ้นสูงสุดก็จะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง คิดว่าช่วงน้ำทะเลหนุนสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 2.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่สะพานพุทธฯ


    ขณะที่การป้องกัน กทม.ในตอนเหนือนั้น นายปราโมทย์ ระบุว่า ตนเพิ่งประชุมกับผู้ใหญ่ และ กทม. หลักการที่ต้องดูแลคือน้ำที่ไหลเข้ามาปะทะคลองรังสิต และคลองหกวา ต้องผันไปทางตะวันออกและทิศใต้ โดยใช้คลองต่างๆ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย วันนี้น้ำจำนวนมากที่อยู่ทิศเหนือ เราต้องรักษาระดับน้ำให้ไม่สูงมาก เราต้องดึงออก ซึ่งเขาก็บอกว่าทำแล้ว ตรงนี้ต้องดูแลให้ดีเพราะเป็นจุดอ่อน และจะต้องดูจนกว่าจะแน่ใจว่าจะควบคุมได้ นอกจากนี้เราก็ตกลงว่าน้ำส่วนหนึ่งจะผ่าน กทม. ชั้นใน แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมซึ่ง กทม. ก็ทำแล้ว เป็นกระบวนการที่ทำให้น้ำมีทางไป วันนี้ทุกฝ่ายกำลังทำให้ชัดเจน


    สำหรับ คำถามเรื่องว่าเขตใดต้องเป็นผู้เสียสละในการระบายน้ำบ้าง นายปราโมทย์กล่าวว่า มีนบุรี ลาดกระบัง แต่ไม่ใช่ผู้เสียสละ การระบายน้ำจะแผ่เป็นวงกว้าง เขาเป็นผู้ประสบภัย ซึ่งย่านนี้เป็นทางน้ำผ่านโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เราจะระบายน้ำออกต้องอาศัยทางน้ำผ่าน มันไม่ให้ผ่านไม่ได้ และรัฐบาลก็ต้องไปเจรจากับผู้ได้รับผลกระทบ


    เมื่อถามว่า กทม. มีโอกาสรอดไหม นายปราโมทย์ตอบว่า "ผมไม่พูดว่าจะไม่รอด โดยหลักการที่ทำเราเชื่อว่าหากเราคงทนมั่นคงยืนระยะยาว กทม. จะปลอดภัย เราให้น้ำพังทลายเข้าเขตเศรษฐกิจไม่ได้ เราก็ต้องสู้กัน ให้ความมั่นใจได้ แต่จุดอ่อนเราก็มี ซึ่งเราก็ทำเต็มความสามารถ"


    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE9USTVPRFExTUE9PQ==&sectionid=-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    นายกฯ ห่วงดอนเมือง หลักสี่ ยันไม่ท่วม กทม.ทั้งหมด เร่งสูบน้ำออก

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    วันที่ 23 ต.ค. ที่ศปภ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวว่าหากน้ำท่วมกทม.จะย้ายศปภ.ไปอยู่
    จ.ชลบุรี โดยกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข่าวดังกล่าว สถานการณ์น้ำในวันนี้น้ำอาจจะมีส่วนเข้ากทม.บ้างเนื่องจากมีหลายจุดที่น้ำ เอ่อล้นพนังกั้นน้ำ ซึ่งประสานงานไปที่กทม.กำลังเร่งสูบ และแก้ปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่เซียร์รังสิต และอาจจะปัญหาในพื้นที่ ดอนเมือง หลักสี่ ที่อาจจะมีท่วมขัง ก็จะเร่งสูบระบาย แต่ยังไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมดของกทม.

    อีกทั้ง ต้องเฝ้าระวังในหลายจุด แต่อาจจะมีเอ่อล้นบ้างบางจุดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ดูแล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยก็อยากให้ย้ายสิ่งของมีค่าต่างๆออกจากพื้นที่ที่ ลุ่มต่ำ เพื่อความปลอดภัย ไม่ประมาท

    นายกฯ ยอมรับว่ามีปัญหาในจุดการปิดประตูน้ำพระอินทร์ ซึ่งตนจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการว่าจะทำอย่างไรเพื่อ ปิดประตูน้ำให้ได้ แต่ที่ประตูนั้นดังกล่าวนั้นน้ำเชี่ยวมาก แรงมาก ตอนนี้พยายามกั้นประตูน้ำพระอินทร์และตลอดแนว

    อีกจุดคือคลองเปรมประชากร ซึ่งตามแผนระบายน้ำ ต้องการเบี่ยงออกทางตะวันออกไปทางคลองระพีพัฒน์และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศนั้นเป็นแอ่งช้อนขึ้นไปทำให้น้ำไหลไปไม่มากเท่า ที่คาดหวัง และน้ำที่มาจากอยุธยาสองทางนั้นค่อนข้างแรง เมื่อมารวมกันที่คลองเปรมประชากร ทำให้เป็นภาระหนักของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และประตูน้ำพระอินทร์ ตรงนี้น่าเป็นห่วง และพยายามกั้นเพื่อชะลอน้ำเพื่อไม่ให้เข้ากทม.ชั้นใน ดังนั้น น้ำทะลักเข้าบริเวณดังกล่าวประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1เมตรกว่า

    ตนบอกไม่ได้ว่าคน กทม.จะได้รับผลกระทบนานแค่ไหน เพราะมีปัญหาหลายอย่างที่คุมไม่ได้ ประชาชนกทม.ต้องมีผลกระทบบ้าง เพราะน้ำต้องไหลผ่านลงมาตามคลองต่างๆ โดยเฉพาะคลองแสนแสบ จึงต้องอาศัยตามท่อระบายน้ำของกทม.ระบายออกให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนสูงในสิ้นเดือนนี้ แต่การระบายน้ำลงคลองแสนแสบยังไปไม่ได้เต็มที่ จึงให้คณะทำงานไปทำงานร่วมกทม.เพื่อไปดูเฉพาะจุดว่าทำไมจึงยังเปิดประตู ระบายน้ำไม่ได้อย่างเต็มที่
    สำหรับกรณีน้ำทะลักคันกั้นน้ำที่แยกเขียวไข่กา เขตบางกระบือ นายกฯ กล่าวว่า น้ำล้นทะลักจากคันกั้นประมาณ 10 เซ็นติเมตร และประสานงานกทม.เร่งสูบซึ่งปลัดกทม.ดำเนินการอย่างเต็มที่ และกั้นได้แล้ว ควบคุมสถานการณ์ได้

    เมื่อถามว่า การที่มีน้ำท่วมขังบริเวณสนามกีฬาธูปเตมีย์จะทำให้สามารถกระจายไปถนน พหลโยธินได้ง่ายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ แต่ได้ระดมสรรพกำลังเต็มที่ ดังนั้นน่าจะควบคุมสถานการณ์ให้รักษาปริมาณน้ำได้ และเร่งระบายออก ตอนนี้เราพยายามสู้กับน้ำ ระดมทุกส่วนเพื่อควบคุมปริมาณน้ำ

    นอกจากนี้ ตอนนี้ปัญหาบริเวณบางบัวทองคือ มีหลายบ้านที่ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านก็คงต้องขอความร่วมมือเนื่องจากกำลังเจ้า หน้าที่มีจำกัด มีความจำเป็นเอาไว้ช่วยเหลือฉุกเฉิน ทำให้ไม่สามารถอำนวยความสะดวกขนย้ายประชาชนได้ ศูนย์พักพิงตอนนี้มีกว่า 1,200 แห่ง แต่ประชาชนอยู่เพียงไม่กี่ร้อยศูนย์ ปัญหาคือประชาชนต้องการอยู่ในศูนย์ที่ใกล้บ้านเท่านั้นเพราะต้องการกลับเข้า ไปดูแลบ้านได้



    -http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE9UTTBNVFl3TlE9PQ==&sectionid=-

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    เผย!ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด พบมวลน้ำจ่อไหลถาโถมกทม.ฝั่งตะวันตกหนัก



    นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ เปิดเผยผลวิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พบว่า มวลน้ำเหนือจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะลงสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีโอกาสลงไปทางด้านตะวันตกมากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาอาจมีสถานการณ์ยืดเยื้อ ขณะที่น้ำที่จะลงสู่ทางตะวันออก ด้านคลองระพีพัฒน์ คลองรังสิต และคลองหกวา จะมีปริมาณน้อยกว่า ประกอบกับการจัดการระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกเริ่มเป็นไปตามแผนที่สามารถควบ คุมได้


    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319342524&grpid=03&catid=&subcatid=-

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    คนมีเงินเขาเก็บรถหนีน้ำท่วมกันแบบนี้ครับพี่น้อง (ชมภาพ)



    ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมเมืองหลวง มีประชาชนมากมายทยอยนำรถขึ้นไปจอดบนทางด่วนซึ่งบางแห่งจอดกีดขวางการจราจร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมายกไปเก็บที่สถานที่อื่น

    ลองมาดูที่ลานจอดรถแบบบ้านๆไม่น่าเชื่อว่าจะพบรถยนต์ มินิคูเปอร์ และรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ป้ายแดง 2 คันในสภาพหุ้มถุงพลาสติกผูกปากถุงแบบเดียวกับการบรรจุสิ่งของหลังจากซื้อของ จากห้างสรรพสินค้าอย่างใดอย่างนั้น โดยรถทั้ง 2 คันถูกนำมาจอดเคียงคู่กันที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็นลานแบบติดดินแท้ๆเน้นว่าติดดิน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไม่รู้เจ้า 2 เครื่องจักรชื่อก้องราคารวมเฉียด 6 ล้านบาทจะรอดชะตาน้ำท่วมหรือไม่

    แต่ดูแล้วไอเดียก็ไม่เลวเท่าไหร่สำหรับผู้ประสบภัยแบบย่อมๆ

    [​IMG]




    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319266527&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    thaiflood ถอนตัว ศปภ. เหตุโดนล้วงลูกการให้ข้อมูล ปชช.


    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thaiflood.com

    thaiflood ขอถอนตัวจาก ศปภ. เนื่องจากมีการทำงานที่ไร้ระบบ และพยายามแทรกแซงการทำงานของทางเว็บไซต์ โดยจะย้ายไปทำงานที่ตึกไซเบอร์เวิร์ลแทน

    นายปรเมศวร์ มินศิริ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ www.thaiflood.com ที่เป็นที่ทำงานของภาคประชาชนร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย (ศปภ.) ได้ประกาศขอถอนตัวจากความร่วมมือแล้ว โดยให้เหตุผลว่า ถูกทาง ศปภ. แทรกแซงการทำงาน เช่น การขอตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะนำเสนอแก่ประชาชน ซึ่งอาจจะทำให้ข้อมูลถูกบิดเบือนได้ และเป็นการไม่แสดงความจริงใจต่อประชาชน

    นอกจากนี้ นายปรเมศวร์ ยังกล่าวต่อไปว่า ศปภ. ยังมีการบริหารจัดการอย่างไม่มีประสิทธิภาพ อย่างเรื่อง มาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหา ไม่มีความเป็นรูปธรรมและชัดเจนเพียงพอ เช่น การประกาศอพยพ แต่ไม่ได้ระบุว่าสามารถอพยพไปสถานที่ใดได้บ้าง ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนสับสนและเกิดความวุ่นวายได้ สุดท้ายเมื่อแก้ปัญหาล้มเหลวทาง ศปภ. ก็ออกมาพูดแค่ว่า ทำเต็มที่แล้ว และเขามองว่าการจัดการไม่มีประสิทธิภาพ บวกกับภัยธรรมชาติ ก็จะเท่ากับภัยพิบัติในที่สุด

    ทั้งนี้ทาง www.thaiflood.com จะย้ายไปทำงานที่สำนักงานไซเบอร์เวิร์ล ย่านรัชดาแทน




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก คมชัดลึก
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63974-

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ชาย 4 คน บุกรื้อแนวกระสอบทรายคลองรังสิต


    รังสิตยิงปืนรื้อพนังน้ำทะลักคลอง2คันแตก (ไอเอ็นเอ็น)

    ชาย 4 คน พร้อมอาวุธปืนบุกรื้อแนวกระสอบทรายใต้สะพานกลับรถคลองรังสิต ขณะระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อเวลา 02.30 น. ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า บริเวณหน้าสำนักงานชลประทาน ใต้สะพานกลับรถคลองรังสิต ถ.พหลโยธิน มีชาย 4 คน มีอาวุธปืน เข้ารื้อแนวกระสอบทราย จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร มูลนิธิอาสา พลเมืองดี ให้เข้าช่วยเหลือด่วน ซึ่งในขณะเวลานี้ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมาเวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำได้ถอนกำลังแล้ว ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณรังสิตคลอง 1 และคลอง 2 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ขณะนั้น ได้มีการตะลุมบอนกัน ระหว่างประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งมีการยิงปืนขึ้นฟ้า อีกจำนวน 1 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิการพิเศษ หรือ 191 ได้เข้ามายุติเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่จะบานปลาย

    ส่วนถนนลำลูกกา คลอง 2 คันกั้นน้ำ หน้าหมู่บ้านชาวฟ้าแตก น้ำไหลเข้าท่วมถนนเสมาฟ้าคราม (ลำลูกกา ซอย 11) ระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างซ่อมแซม แต่มีกำลังคนน้อย นอกจากนี้ พนังกั้นน้ำวัดลาดสนุ่น ก็มีรอยแตกเช่นกัน ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน


    ที่มา ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/63971-


    ----------------------------------------------------------------
    ----------------------------------------------------------------
    ----------------------------------------------------------------


    เหอๆๆๆๆๆ ตำรวจทำอะไรได้บ้างเนี่ย


    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    ใบเตย...มีดีที่ไม่ใช่แค่กลิ่นหอม

    -http://health.kapook.com/view32465.html-


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    "กลิ่นใบเตย หอมชื่นใจ" ...ก็แหมเวลาเราได้กลิ่นหอม ๆ ของใบเตย หรือ "เตยหอม" ผสมอยู่ในขนมไทยทีไร ก็ชวนให้เราอยากคว้าขนมไทยชิ้นนั้นขึ้นมาหม่ำไปซะที (ปกติก็ชอบหม่ำอยู่แล้ว อิอิ)

    สำหรับ "เตยหอม" นั้น ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีใช่ไหมล่ะจ๊ะ โดยเฉพาะ "ใบเตย" ที่มักถูกนำมาผสมในอาหาร เพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน แถมยังช่วยแต่งสีเขียวให้กับขนมไทยด้วย ซึ่งคนทั่วไปอาจจะรู้ว่าประโยชน์ของ "เตยหอม" มีเพียงเท่านี้ แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก "เตยหอม" จะมีดีที่ความหอมแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพแฝงอยู่ด้วยนะ


    [​IMG]


    โดย "ใบเตยหอม" 100 กรัม จะให้พลังงานถึง 35 กิโลแคลอรี และยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

    [​IMG] น้ำ 85.3 กรัม
    [​IMG] คาร์โบไฮเดรต 4.6 กรัม
    [​IMG] โปรตีน 1.9 กรัม
    [​IMG] ไขมัน 0.8 กรัม
    [​IMG] กาก 5.2 กรัม
    [​IMG] แคลเซียม 124 มิลลิกรัม
    [​IMG] ฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม
    [​IMG] เหล็ก 0.1 มิลลิกรัม
    [​IMG] เบต้า-แคโรทีน 2.987 ไมโครกรัม
    [​IMG] วิตามินบี 2 0.20 มิลลิกรัม
    [​IMG] ไนอะซีน 1.2 มิลลิกรัม
    [​IMG] วิตามินซี 8 มิลลิกรัม


    [​IMG]


    มาที่สรรพคุณสุดแสนจะน่าอัศจรรย์ของเตยหอมกันบ้าง นอกจากจะนำ "ใบ" มาใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น ให้สีเขียวแล้ว ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ยังพบว่า "เตยหอม" มีฤทธิ์ทางยาด้วย ดังนี้

    ใบ

    [​IMG] ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะใบเตยมีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง

    [​IMG] ช่วยดับกระหาย เนื่องจากใบเตยมีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานคือ นำใบเตยสดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม

    [​IMG] รักษาโรคหัด หรือ โรคผิวหนัง โดยนำใบเตยมาตำแล้วมาพอกบนผิว

    รากและลำต้น

    [​IMG] ใช้รักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและลำต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น

    [​IMG] ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือ ไปต้มกับน้ำดื่ม

    นอกจากนี้ เตยหอม ยังช่วยแก้อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูกำลังได้อีกด้วย เห็นสรรพคุณมากมายขนาดนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับเจ้าพืชสีเขียวใบเรียวชนิดนี้


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    [​IMG] (แม่บ้าน) , rspg.or.th , shc.ac.th

    .






    -http://health.kapook.com/view32465.html-
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ที่ทำงาน แวะมาหาผมที่บ้าน นำเงินร่วมทำบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้ เงินทำบุญจำนวน 3,000 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า ,ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า และท่านผู้ที่เคยร่วมทำบุญกับผมทุกๆท่าน

    ผมขอแจ้งวาระงานบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554

    จากจดหมายของพี่แอ๊วส่งมาให้ผมและคุณPinkcivil

    เรียนคุณหนุ่ม และ คุณPinkcivilค่ะ


    พี่ ส่งรายละเอียดงานบุญใหญ่มาให้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้า ตามสภาพค่ะตอนนี้ ต้องคอยเช็คสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ เพราะบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงเช่นกัน

    ปี นี้ผู้คนลำบากกันมาก พระสงฆ์ก็ยิ่งลำบากใหญ่ แต่ถึงฤดูกาลกฐิน จะมากจะน้อยอย่างไรก็คงต้องดำรงคงไว้ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนนะคะ เราก็เลือกทำบุญที่มีอานิสงส์มากก็แล้วกันค่ะ


    ปี นี้มีมหากฐินโดยเสด็จพระราชกุศลมาให้พวกเราได้ร่วมบุญกันเหมือนปีที่แล้วค่ะ คือกฐินที่ไม่มีเจ้าภาพจองใน 3 จว.ชต. และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านได้เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่


    ถือ ว่าเราได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่กันนะคะ ปีนี้มีวัดตกค้างอยู่ 84 วัด ( เท่าพระชนมายุของในหลวงพอดีเลยนะคะ ) วัดทั้งหมดมีพระจำพรรษาครบ 5 รูป และพระสงฆ์อยู่ครบไตรมาส ถือว่าถวายกฐิน


    เป็น การสืบต่องานพระพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยนะคะ พระที่ท่านจำพรรษาอยู่ใน 3 จว.ชต. นี้ถือว่าท่านต้องมีกำลังใจสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิต และขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง


    เพราะ คนเข้าไปทำบุญได้ยาก ปีหนึ่งก็คงมีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยไทยธรรมสักครั้งให้สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารตลอดทั้งปี รวมทั้งค่ายารักษาโรคด้วย


    พี่ ขอรบกวนคุณหนุ่ม ในการบอกกล่าวข่าวบุญนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายนะคะ เหลือเวลาร่วมบุญแค่ประมาณ 10 วันเท่านั้นเองค่ะ !!!!


    กราบอนุโมทนา สาธุนะคะ

    ------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลทอดกฐินตกค้างจำนวน ๘๔ วัด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ด้วย ในกาลกฐินประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมอบหมายให้กรมราชองครักษ์ดำเนินการสำรวจวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองทอด กฐิน ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งพบว่ามีวัดจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ วัดยังไม่มีเจ้าภาพจองทอดกฐินในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน จำนวน ๘๔ ไตร พร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กรมราชองครักษ์ คณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา อัญเชิญไปถวายวัดทั้ง ๘๔ วัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาครบจำนวน ๕ รูป และอยู่ครบถ้วนไตรมาส


    ใน การนี้พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพระธวัชชัย ชาครธัมโม ( พระอาจารย์นิล ) ได้รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน และการจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่วัดทั้ง ๘๔ วัด เพื่อร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย


    จึง ขอเรียนเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลครั้งนี้ โดยผู้รับเป็นเจ้าภาพสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้ทั้ง ๘๔ วัด โดยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือ รับเป็นเจ้าภาพกองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ กอง โดยในเบื้องต้น ทางวัดห้วยมงคลจะได้จัดปัจจัยถวายแต่ละวัด วัดละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตรจีวร หากมีผู้ทำบุญมาเกินกว่าจำนวนที่ได้ตั้งไว้ ทางวัดจะจัดปัจจัยเฉลี่ยเท่าๆกันถวายแด่วัดทั้งหมดจำนวน ๘๔ วัด ทั้งนี้เจ้าภาพสามารถร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลในการร่วมถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน และถวายผ้ากฐินสำหรับทุกวัดด้วย


    สำหรับรายละเอียดและกำหนดการทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ มีดังนี้


    1. วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดวังโต้ อ. นาทวี จ. สงขลา จำนวน ๒๐ วัด
    เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมุจลินทร์ จ. ปัตตานี จำนวน ๓๐ วัด


    2. วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐินที่วัดเขากง จ. นราธิวาส จำนวน ๓๔ วัด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รายชื่อวัด (ตามไฟล์แนบ ผมได้มาเพียง 80 วัดครับ)


    -------------------------------------------

    บัญชีที่ผมใช้สำหรับงานบุญนี้ ผมใช้บัญชีส่วนตัวผม

    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีความลังเล , สงสัย , เคลือบแคลง , ไม่มั่นใจ , ไม่แน่ใจ และกลัวว่าผมจะมีส่วนได้ส่วนเสียในเงินร่วมทำบุญนี้ ก็ไม่ต้องทำบุญครับ

    สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมให้สิทธิในการร่วมทำบุญ แต่ผมขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผมว่า จะให้ร่วมทำบุญได้หรือไม่ หากท่านใดที่ผมอนุญาตให้ร่วมทำบุญ ผมจะให้ท่านแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยุ่มาให้ผมก่อน แล้วผมจะส่งหมายเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินร่วมทำบุญไปให้อีกครั้งครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ สิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 18.00 น.ครับ

    โมทนาบุญทุกประการ

    sithiphong
    20/10/2554

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนัตตัง [​IMG]
    ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 400.04 บาท ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    วันนี้ กระผมและคณะได้ร่วมโอนเงินทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554 รวมเป็นเงินทั้งหมด 8200 บาท ขอคุณพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านในชมรมร่วมโมทนาในบุญทุกประการครับผม
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายเฉลิมพล [​IMG]
    เมื่อวานนี้ 21/10/11 12;33 ผมได้โอนมาร่วมทำบุญกฐินจำนวน 1500 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>


    โมทนาบุญทุกประการครับ



    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    พี่ที่ทำงาน แวะมาหาผมที่บ้าน นำเงินร่วมทำบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้ เงินทำบุญจำนวน 3,000 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า ,ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า และท่านผู้ที่เคยร่วมทำบุญกับผมทุกๆท่าน

    ผมขอแจ้งวาระงานบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554

    จากจดหมายของพี่แอ๊วส่งมาให้ผมและคุณPinkcivil

    เรียนคุณหนุ่ม และ คุณPinkcivilค่ะ


    พี่ ส่งรายละเอียดงานบุญใหญ่มาให้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้า ตามสภาพค่ะตอนนี้ ต้องคอยเช็คสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ เพราะบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงเช่นกัน

    ปี นี้ผู้คนลำบากกันมาก พระสงฆ์ก็ยิ่งลำบากใหญ่ แต่ถึงฤดูกาลกฐิน จะมากจะน้อยอย่างไรก็คงต้องดำรงคงไว้ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนนะคะ เราก็เลือกทำบุญที่มีอานิสงส์มากก็แล้วกันค่ะ


    ปี นี้มีมหากฐินโดยเสด็จพระราชกุศลมาให้พวกเราได้ร่วมบุญกันเหมือนปีที่แล้วค่ะ คือกฐินที่ไม่มีเจ้าภาพจองใน 3 จว.ชต. และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านได้เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่


    ถือ ว่าเราได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่กันนะคะ ปีนี้มีวัดตกค้างอยู่ 84 วัด ( เท่าพระชนมายุของในหลวงพอดีเลยนะคะ ) วัดทั้งหมดมีพระจำพรรษาครบ 5 รูป และพระสงฆ์อยู่ครบไตรมาส ถือว่าถวายกฐิน


    เป็น การสืบต่องานพระพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยนะคะ พระที่ท่านจำพรรษาอยู่ใน 3 จว.ชต. นี้ถือว่าท่านต้องมีกำลังใจสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิต และขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง


    เพราะ คนเข้าไปทำบุญได้ยาก ปีหนึ่งก็คงมีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยไทยธรรมสักครั้งให้สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารตลอดทั้งปี รวมทั้งค่ายารักษาโรคด้วย


    พี่ ขอรบกวนคุณหนุ่ม ในการบอกกล่าวข่าวบุญนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายนะคะ เหลือเวลาร่วมบุญแค่ประมาณ 10 วันเท่านั้นเองค่ะ !!!!


    กราบอนุโมทนา สาธุนะคะ

    ------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลทอดกฐินตกค้างจำนวน ๘๔ วัด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ด้วย ในกาลกฐินประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมอบหมายให้กรมราชองครักษ์ดำเนินการสำรวจวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองทอด กฐิน ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งพบว่ามีวัดจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ วัดยังไม่มีเจ้าภาพจองทอดกฐินในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน จำนวน ๘๔ ไตร พร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กรมราชองครักษ์ คณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา อัญเชิญไปถวายวัดทั้ง ๘๔ วัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาครบจำนวน ๕ รูป และอยู่ครบถ้วนไตรมาส


    ใน การนี้พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพระธวัชชัย ชาครธัมโม ( พระอาจารย์นิล ) ได้รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน และการจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่วัดทั้ง ๘๔ วัด เพื่อร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย


    จึง ขอเรียนเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลครั้งนี้ โดยผู้รับเป็นเจ้าภาพสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้ทั้ง ๘๔ วัด โดยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือ รับเป็นเจ้าภาพกองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ กอง โดยในเบื้องต้น ทางวัดห้วยมงคลจะได้จัดปัจจัยถวายแต่ละวัด วัดละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตรจีวร หากมีผู้ทำบุญมาเกินกว่าจำนวนที่ได้ตั้งไว้ ทางวัดจะจัดปัจจัยเฉลี่ยเท่าๆกันถวายแด่วัดทั้งหมดจำนวน ๘๔ วัด ทั้งนี้เจ้าภาพสามารถร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลในการร่วมถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน และถวายผ้ากฐินสำหรับทุกวัดด้วย


    สำหรับรายละเอียดและกำหนดการทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ มีดังนี้


    1. วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดวังโต้ อ. นาทวี จ. สงขลา จำนวน ๒๐ วัด
    เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมุจลินทร์ จ. ปัตตานี จำนวน ๓๐ วัด


    2. วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐินที่วัดเขากง จ. นราธิวาส จำนวน ๓๔ วัด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รายชื่อวัด (ตามไฟล์แนบ ผมได้มาเพียง 80 วัดครับ)


    -------------------------------------------

    บัญชีที่ผมใช้สำหรับงานบุญนี้ ผมใช้บัญชีส่วนตัวผม

    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีความลังเล , สงสัย , เคลือบแคลง , ไม่มั่นใจ , ไม่แน่ใจ และกลัวว่าผมจะมีส่วนได้ส่วนเสียในเงินร่วมทำบุญนี้ ก็ไม่ต้องทำบุญครับ

    สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมให้สิทธิในการร่วมทำบุญ แต่ผมขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผมว่า จะให้ร่วมทำบุญได้หรือไม่ หากท่านใดที่ผมอนุญาตให้ร่วมทำบุญ ผมจะให้ท่านแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยุ่มาให้ผมก่อน แล้วผมจะส่งหมายเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินร่วมทำบุญไปให้อีกครั้งครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ สิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 18.00 น.ครับ

    โมทนาบุญทุกประการ

    sithiphong
    20/10/2554

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนัตตัง [​IMG]
    ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 400.04 บาท ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    วันนี้ กระผมและคณะได้ร่วมโอนเงินทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554 รวมเป็นเงินทั้งหมด 8200 บาท ขอคุณพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านในชมรมร่วมโมทนาในบุญทุกประการครับผม
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายเฉลิมพล [​IMG]
    เมื่อวานนี้ 21/10/11 12;33 ผมได้โอนมาร่วมทำบุญกฐินจำนวน 1500 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>


    โมทนาบุญทุกประการครับ



    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    วันนี้ พี่ใหญ่ได้ร่วมทำบุญมา ผมได้ไปรับเงินทำบุญมาเรียบร้อยแล้ว

    มาร่วมโมทนาบุญกับพี่ใหญ่กันครับ


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    พี่ที่ทำงาน แวะมาหาผมที่บ้าน นำเงินร่วมทำบุญกฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้ เงินทำบุญจำนวน 3,000 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า ,ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า และท่านผู้ที่เคยร่วมทำบุญกับผมทุกๆท่าน

    ผมขอแจ้งวาระงานบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554

    จากจดหมายของพี่แอ๊วส่งมาให้ผมและคุณPinkcivil

    เรียนคุณหนุ่ม และ คุณPinkcivilค่ะ


    พี่ ส่งรายละเอียดงานบุญใหญ่มาให้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ล่าช้า ตามสภาพค่ะตอนนี้ ต้องคอยเช็คสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ เพราะบ้านอยู่ในเขตเสี่ยงเช่นกัน

    ปี นี้ผู้คนลำบากกันมาก พระสงฆ์ก็ยิ่งลำบากใหญ่ แต่ถึงฤดูกาลกฐิน จะมากจะน้อยอย่างไรก็คงต้องดำรงคงไว้ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนนะคะ เราก็เลือกทำบุญที่มีอานิสงส์มากก็แล้วกันค่ะ


    ปี นี้มีมหากฐินโดยเสด็จพระราชกุศลมาให้พวกเราได้ร่วมบุญกันเหมือนปีที่แล้วค่ะ คือกฐินที่ไม่มีเจ้าภาพจองใน 3 จว.ชต. และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านได้เป็นองค์อุปถัมภ์อยู่


    ถือ ว่าเราได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่กันนะคะ ปีนี้มีวัดตกค้างอยู่ 84 วัด ( เท่าพระชนมายุของในหลวงพอดีเลยนะคะ ) วัดทั้งหมดมีพระจำพรรษาครบ 5 รูป และพระสงฆ์อยู่ครบไตรมาส ถือว่าถวายกฐิน


    เป็น การสืบต่องานพระพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยนะคะ พระที่ท่านจำพรรษาอยู่ใน 3 จว.ชต. นี้ถือว่าท่านต้องมีกำลังใจสูงมาก เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อชีวิต และขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง


    เพราะ คนเข้าไปทำบุญได้ยาก ปีหนึ่งก็คงมีโอกาสที่จะได้รับปัจจัยไทยธรรมสักครั้งให้สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารตลอดทั้งปี รวมทั้งค่ายารักษาโรคด้วย


    พี่ ขอรบกวนคุณหนุ่ม ในการบอกกล่าวข่าวบุญนี้ไปยังพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทั้งหลายนะคะ เหลือเวลาร่วมบุญแค่ประมาณ 10 วันเท่านั้นเองค่ะ !!!!


    กราบอนุโมทนา สาธุนะคะ

    ------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลทอดกฐินตกค้างจำนวน ๘๔ วัด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

    ด้วย ในกาลกฐินประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมอบหมายให้กรมราชองครักษ์ดำเนินการสำรวจวัดที่ยังไม่มีเจ้าภาพจองทอด กฐิน ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งพบว่ามีวัดจำนวนทั้งสิ้น ๘๔ วัดยังไม่มีเจ้าภาพจองทอดกฐินในปีนี้ อันเป็นผลกระทบจากการก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน จำนวน ๘๔ ไตร พร้อมพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง ให้กรมราชองครักษ์ คณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาในบวรพุทธศาสนา อัญเชิญไปถวายวัดทั้ง ๘๔ วัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาครบจำนวน ๕ รูป และอยู่ครบถ้วนไตรมาส


    ใน การนี้พระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพระธวัชชัย ชาครธัมโม ( พระอาจารย์นิล ) ได้รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน และการจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่วัดทั้ง ๘๔ วัด เพื่อร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลในครั้งนี้ด้วย


    จึง ขอเรียนเชิญท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพมหากุศลครั้งนี้ โดยผู้รับเป็นเจ้าภาพสามารถรับเป็นเจ้าภาพได้ทั้ง ๘๔ วัด โดยร่วมบุญตามกำลังศรัทธา หรือ รับเป็นเจ้าภาพกองกฐินกองละ ๓,๐๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ กอง โดยในเบื้องต้น ทางวัดห้วยมงคลจะได้จัดปัจจัยถวายแต่ละวัด วัดละ ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตรจีวร หากมีผู้ทำบุญมาเกินกว่าจำนวนที่ได้ตั้งไว้ ทางวัดจะจัดปัจจัยเฉลี่ยเท่าๆกันถวายแด่วัดทั้งหมดจำนวน ๘๔ วัด ทั้งนี้เจ้าภาพสามารถร่วมทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศลในการร่วมถวายผ้าพระกฐิน พระราชทาน และถวายผ้ากฐินสำหรับทุกวัดด้วย


    สำหรับรายละเอียดและกำหนดการทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ มีดังนี้


    1. วันอาทิตย์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดวังโต้ อ. นาทวี จ. สงขลา จำนวน ๒๐ วัด
    เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมุจลินทร์ จ. ปัตตานี จำนวน ๓๐ วัด


    2. วันจันทร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
    เวลา ๐๙.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐินที่วัดเขากง จ. นราธิวาส จำนวน ๓๔ วัด

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รายชื่อวัด (ตามไฟล์แนบ ผมได้มาเพียง 80 วัดครับ)


    -------------------------------------------

    บัญชีที่ผมใช้สำหรับงานบุญนี้ ผมใช้บัญชีส่วนตัวผม

    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีความลังเล , สงสัย , เคลือบแคลง , ไม่มั่นใจ , ไม่แน่ใจ และกลัวว่าผมจะมีส่วนได้ส่วนเสียในเงินร่วมทำบุญนี้ ก็ไม่ต้องทำบุญครับ

    สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยร่วมทำบุญพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ผมให้สิทธิในการร่วมทำบุญ แต่ผมขอให้อยู่ในดุลยพินิจของผมว่า จะให้ร่วมทำบุญได้หรือไม่ หากท่านใดที่ผมอนุญาตให้ร่วมทำบุญ ผมจะให้ท่านแจ้ง ชื่อ - นามสกุล และที่อยุ่มาให้ผมก่อน แล้วผมจะส่งหมายเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินร่วมทำบุญไปให้อีกครั้งครับ

    ระยะเวลาในการร่วมทำบุญ สิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2554 เวลา 18.00 น.ครับ

    โมทนาบุญทุกประการ

    sithiphong
    20/10/2554

    .
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนัตตัง [​IMG]
    ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 400.04 บาท ครับ
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    วันนี้ กระผมและคณะได้ร่วมโอนเงินทำบุญ กฐินตกค้าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2554 รวมเป็นเงินทั้งหมด 8200 บาท ขอคุณพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านในชมรมร่วมโมทนาในบุญทุกประการครับผม
    </td> </tr> </tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายเฉลิมพล [​IMG]
    เมื่อวานนี้ 21/10/11 12;33 ผมได้โอนมาร่วมทำบุญกฐินจำนวน 1500 บาท

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    </td> </tr> </tbody></table>


    โมทนาบุญทุกประการครับ



    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    เว็บพลังจิต โดยโครงการกฐินแสนกอง ปี 2554 ปีที่ 6 ได้โอนเงินร่วมทำบุญเข้าบัญชีผมจำนวน 48,000.-บาท(ได้โอนไปแล้วเมื่อวาน สำหรับ 80 วัด วัดละ 600 บาท รวมเป้นเงิน 48,000 บาท ) มาเรียบร้อยแล้ว

    ขอโมทนาบุญกับเว็บพลังจิต , ทีมงานเว็บพลังจิต และสมาชิกเว็บพลังจิตที่ได้ร่วมทำบุญในกฐินแสนกอง ปี 2554 ปีที่ 6 ทุกๆท่านด้วยครับ


    รายละเอียดหลังจากงานกฐิน ผมจะมาแจ้งอีกครั้งครับ

    โมทนาบุญทุกประการครับ


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ภาพถ่ายดาวเทียมเผย มวลน้ำก้อนใหญ่จ่อโถม กทม. ฝั่งตะวันตก

    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก GISTDA
    -http://nuttpo.wordpress.com/2011/10/16/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1/-


    ภาพ ถ่ายดาวเทียมล่าสุดเผย มวลน้ำก้อนใหญ่จากอยุธยามีแนวโน้มลงไปทางกทม.ตะวันตกมากกว่า – ขณะที่ฝั่งตะวันออกเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

    เมื่อ วันที่ 23 ตุลาคม นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ เปิดเผยผลวิเคราะห์จากภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด พบว่า มวลน้ำเหนือจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะลงสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีโอกาสลงไปทางด้านตะวันตกมากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาอาจมีสถานการณ์ยืดเยื้อ

    ขณะที่น้ำที่จะลงสู่ทางตะวันออก ด้านคลองระพีพัฒน์ คลองรังสิต และคลองหกวา จะมีปริมาณน้อยกว่า ประกอบกับการจัดการระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกเริ่มเป็นไปตามแผนที่สามารถควบ คุมได้

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์

    [​IMG]

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319342524&grpid=03&catid=&subcatid-

    -http://hilight.kapook.com/view/63978-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • gistda.jpg
      gistda.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.5 KB
      เปิดดู:
      1,527
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .




    อาจารย์ ม.รังสิต หอบคลิปแฉ ศปภ.หมกเม็ด ยัน “ประตูดำ” พังแล้ว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 ตุลาคม 2554 18:56 น.</td> </tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">สภาพ น้ำไหลบ่าอย่างรุนแรง บริเวณช่องระบายน้ำประตูดำ เขตดอนเมือง ตรงข้ามกับวัดรังสิต เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 ต.ค. เนื่องจากประตูน้ำอยู่ในสภาพชำรุด </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    อาจารย์ ม.รังสิต นำคลิปโชว์สื่อ แฉ ศปภ.หมกเม็ดข้อมูลน้ำ ยัน “ประตูดำ” รับน้ำไม่อยู่แล้ว แต่ทีวีบางช่องกลับรายงาน จนท.คุมสถานการณ์ได้ ทำชาวบ้านชะล่าใจ จนน้ำท่วม เดือดร้อนหนัก เชื่อ “ดอนเมือง” ใกล้เป็นเกาะทั้งเขต วอนรัฐฟังความเห็นคนอื่นบ้าง แนะทำตาม “ดร.เสรี ศุภราทิตย์” ใช้ ถ.วิภาวดี เป็นคลองผันน้ำสู่อุโมงค์ยักษ์ดินแดง ก่อนสูบลงทะเล

    เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ต.ค.ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สนามบินดอนเมือง นายอัฏฐพร ชัยรัตน์ลี้ตระกูล อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนต่อกรณีที่ ศปภ.และรัฐบาลไม่นำเสนอข้อเท็จจริงในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตดอนเมือง ซึ่ง นายอัฏฐพร ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณช่องระบายน้ำประตูดำ เขตดอนเมือง ตรงข้ามกับวัดรังสิต เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ ที่มีสภาพน้ำไหลบ่าอย่างรุนแรง โดยที่ประตูน้ำอยู่ในสภาพชำรุด ไม่สามารถรับปริมาณน้ำได้

    นายอัฏฐพร อธิบายว่า น้ำที่ไหลมาบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองรังสิต บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่ไม่สามารถรับน้ำได้แล้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองหก จ.ปทุมธานี ได้พยายามส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมช่องประตูดำตั้งแต่เมื่อช่วง 17.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำค่อนข้างมากและไหลบ่ามาอย่างรุนแรง แต่กลับมีทีวีช่องหนึ่งรายงานข่าวตั้งแต่เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ว่า บริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทั้งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านบริเวณนั้นเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และน้ำได้ท่วมบริเวณถนนโลคัลโรด และถนนสงฆ์ประภา จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ มีเพียงรถบรรทุกกับรถเมล์ผ่านได้เท่านั้น หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะกระทบไปถึงปริมาณน้ำในคลองเปรมประชากร และทำให้เขตดอนเมืองกลายเป็นเกาะกลางน้ำในที่สุด เพราะล่าสุดตลาดตลาดวัฒนานนท์ หรือตลาดฝั่งโขง ซึ่งเป็นตัวช่วยของเขตดอนเมืองก็ใกล้จะได้รับผลกระทบแล้ว

    “อยากร้องเรียนให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของฝ่ายอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนในพื้นที่เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ฟังแต่ข้อมูลของคนรอบข้างที่ไม่เป็นความจริง แล้วมานำเสนอแบบผิดๆ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และผมพยายามนำเสนอข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กก็มีคนมาขู่ว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ไปดูหมิ่นหยามเกียรติคนอื่นมีโทษจำคุก 20 ปีอีกด้วย” นายอัฏฐพร กล่าว

    นายอัฏฐพร ยังได้กล่าวอีกว่า ในการแก้ไขปัญหาภาพรวมอยากเสนอให้รัฐบาลรับฟัง หรือเปิดเวทีอภิปรายกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา ของมหาวิทยาลัยรังสิต โดยเฉพาะการปรับถนนให้เป็นคลอง เนื่องจากขณะนี้ ถ.วิภาวดี-รังสิต ก็ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว หากทำให้เป็นคลองเพื่อระบายน้ำให้ไปถึงบริเวณดินแดง และลงสู่อุโมงค์ยักษ์เพื่อผันน้ำลงทะเลโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน้ำท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของ กทม.ด้วย

    ชมหรือดาวโหลดคลิปได้ที่ http://www.4shared.com/video/R5IDRQoE/video-2011-10-23-11-42-40.html


    .

    -http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000135302-


    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    เชฟดังแนะเมนูเด็ด รับวิกฤต"น้ำท่วม"



    ในสถานการณ์คับขันที่คนไทยต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วม การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะต้องรับสภาพที่เกิดขึ้นอยู่ให้ได้แล้ว ยังต้องปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้ง่ายต่อการปรุง ประหยัดสิ่งของที่มีอยู่ และประยุกต์แต่ละมื้อไม่ให้น่าเบื่อ

    เชฟ "วิวเมนต์ ลีออง" ประธานผู้ก่อตั้งสมาคมพ่อครัวไทย หรือไทยแลนด์ คัลลินารี อคาเดมี (ทีซีเอ) จึงมาแนะนำเมนูง่ายๆ แต่อร่อย

    เริ่ม จากการหุงหาอาหารกันก่อน แน่นอนว่าถ้าไม่ได้อยู่ภายในเต็นท์ผู้อพยพก็อาจไม่มีไฟฟ้าใช้ เชฟแนะนำให้นำเทียน 4-5 เล่ม มัดรวมกันแล้วนำหม้ออะลูมิเนียมใส่น้ำ 1 ลิตรต่อข้าว 1 ขีด หุงข้าวตามปกติแต่ต้องใช้เวลาสัก 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง พอให้ข้าวสุก นำอาหารกระป๋องที่มีอยู่ทั้งผักกาดดองและปลากระป๋องใส่พร้อมกันเพื่อความ เข้มข้น แนะนำให้ทำช่วงค่ำๆ เพราะต้องใช้เทียนในการให้แสงสว่างอยู่แล้ว เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์

    ต่อด้วยเมนูที่ใช้เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จ รูปที่แจกจ่ายกัน ไม่ว่าจะเป็นรสไหนก็ปรับกันได้ จานนี้เน้นวิธีประหยัดแก๊สเหมาะกับคนที่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพมีเตาแก๊สพกพา หรือที่รู้จักกันในชื่อเตาแก๊สปิกนิก เริ่มการต้มน้ำด้วยวิธีเดียวกับเมนูแรก เมื่อน้ำเดือดใส่เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลงไปเอาฝาปิดแล้วดับไฟทันที น้ำที่ร้อนจะปรุงบะหมี่จนสุก ใช้เวลาสัก 5 นาทีก็ทานได้แล้ว เพิ่มความอร่อยด้วยไข่ต้มสำเร็จรูป หรือใส่ไข่ดิบพร้อมเส้นบะหมี่ก็จะกลายเป็นไข่ลวก เติมไส้กรอกหรือกุนเชียงตามใจชอบ

    เมนู ต้มไปแล้วขอจานผัดกันบ้าง ใช้กระทะใส่น้ำเปล่าต้มจนเดือด น้ำไม่ต้องเยอะเอาพอให้เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกึ่งสุก ทิ้งไว้ 1 นาทีให้เส้นได้ดูดน้ำจนอวบอูม ใส่ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าเด็กทานไม่ต้องใส่ซอสพริก) เพิ่มซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลครึ่งช้อนโต๊ะ แล้วผัดเลย ถ้ามีน้ำมันพืชด้วยใส่เพิ่มความหอมมันสักหน่อย เมนูนี้กึ่งผัดกึ่งคั่วโรยหน้าด้วยหมูหยองออกรสหวานๆ เชฟยกนิ้วรับรองความอร่อย...

    ปิด ท้ายด้วยของหวาน ต้มน้ำและนมจืดรวมกันอย่างละ 500 มิลลิลิตร นำผลไม้กระป๋องที่มีเทใส่ลงไปพร้อมน้ำเชื่อมรอประมาณ 10 นาที เมนูนี้เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี รสชาติหอมหวานได้น้ำตาลเติมพลังงานให้ร่างกาย

    ส่วนคนที่จะนำ อาหารไปบริจาค เชฟแนะนำให้เป็นของทอด ย่าง หรือต้ม ที่เตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า แต่ไม่แนะนำให้ทำอาหารที่ต้องใช้เครื่องปรุงรส เพราะเก็บได้ไม่นาน และเพื่อเพิ่มรสชาติปั่นกระเทียมกับพริกให้ไปด้วยก็ดี ถ้าต้องการบริจาคให้กับเด็กแนะนำเป็นนมหรือขนมที่ให้พลังงาน รวมทั้งน้ำดื่มก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เพราะในหลายพื้นที่ยังขาดแคลน

    เชฟเพิ่มเติมอีกว่า อยากให้บริจาคอาหารกระป๋องที่เปิดได้สะดวก ไม่เช่นนั้นควรให้ที่เปิดกระป๋องควบคู่ไปด้วย

    อาหารอร่อยก็ถือเป็นยาใจ ช่วยให้สดชื่นและมีกำลังใจต่อสู้ต่อไป



    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1319361986&grpid=01&catid=&subcatid=-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...