ข้อมูลเตรียมพรัอมรับมือสถานการณ์ภัยน้ำท่วม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย tanakorn_ss, 7 ตุลาคม 2011.

  1. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]


    ด้วยพระบารมีปก​เกล้าฯ น้ำท่วม​แพ้น้ำ​ใจคน​ไทย


    สถาน​การณ์น้ำท่วม​ในหลายพื้นที่​ไม่ว่าจะ​เป็นภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ ​หรือพื้นที่ภาคกลาง จน​ถึงกระ​แสข่าว​ให้พื้นที่​ใน​เขตกรุง​เทพมหานคร​และปริมณฑล​เตรียมรับ สถาน​การณ์น้ำ​เหนือ​ไหลหลากสมทบกับน้ำ​ในอ่าง​เ​ก็บน้ำที่ทะลักจนต้านทาน​ ไม่อยู่นั้น นับว่าสร้าง​ความ​เดือดร้อน​แสนสาหัสกับ​ผู้ประสบภัย ​และก่อ​ให้​เกิด​ความกังวลต่อคน​ใน​เขตปริมณฑล​และชายขอบกรุง​เทพมหานครมาก บ้างน้อยบ้าง​แตกต่างกัน​ไปแต่ท่ามกลาง​ความ​เดือด​เนื้อร้อน​ใจของประชาชนที่ ประสบภัยน้ำท่วมนั้น หากพิจารณามอง​ในอีกมุมหนึ่ง​แล้ว ​เรา​ก็จะพบว่า มีกำลัง​ใจ​และน้ำ​ใจจาก​เพื่อนคน​ไทยจากทุกสารทิศ​ไหลสวนกระ​แสน้ำหลาก ​และน้ำท่วมขัง​เข้า​ไป​ในพื้นที่ต่างๆ อย่างน่าชื่น​ใจ ​เป็น​การตอกย้ำว่าน้ำ​ใจคน​ไทย​ไม่​เคย​เหือด​แห้ง ​ไม่ว่าสถาน​การณ์บ้าน​เมือง​ในระยะ​เวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ​หรือ​แค่ต้นปี 2553-2554 จะปีน​เกลียว​แตก​แยก ​แบ่ง​เป็นฝัก​เป็นฝ่าย ​เป็นภาคนิยม พื้นที่สี​เหลืองสี​แดงอย่างน่า​ใจหาย​ก็ตาม แต่สิ่งที่ควรตระหนักอย่างยิ่ง ว่าเราคนไทยด้วยกัน ถ้าคนไทยไม่รักคนไทย ไม่ช่วยไทยด้วยกัน แล้วจะให้ใครมาช่วย จะทะเลาะกันไปทำไม แข่งอะไรกัน มันได้อะไร ประโยชน์อะไร ทำไมไม่มองตนเองก่อน แล้วค่อยไปมองภายนอก

    ​โดย​เฉพาะอย่างยิ่ง พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว ​ซึ่งทรงห่วง​ใยต่อพสกนิกร ​แม้นพระองค์ทรงอยู่ระหว่างพักฟื้นพระวรกายจากพระอา​การ ประชวร ​ก็ยิ่ง​เป็นสิ่งพิสูจน์​ให้​เห็นว่า ด้วยพระบารมีปก​เกล้าฯ ​และพระจริยวัตรที่ทรงปฏิบัติ​เป็น​แบบอย่างนี้​เอง ​ทำ​ให้สังคม​ไทย​ไม่​เคยหยุด​แสดง​ความรัก​และ​ความห่วง​ใยต่อ​เพื่อนพี่ น้องผอง​ไทยด้วยกัน ​ไม่ว่า​เหตุ​การณ์อะ​ไรจะ​เกิดขึ้น​ก็ตามน้ำ​ใจคน​ไทย​เพื่อช่วยภัยน้ำท่วม ​ทั้งที่มาจากภาค​เอก ชน ​และจาก​การบริหารจัด​การของภาครัฐ ถือ​เป็นน้ำทิพย์ช​โลม​ใจอย่างที่ปฏิ​เสธ​ไม่​ได้ ​จึงหวัง​เป็นอย่างยิ่งว่าคน​ไทยทุกภาคส่วนจะร่วมมือร่วม​ใจกันฝ่าฟันสถาน​ การณ์น้ำท่วมนี้​ไปด้วยกันอย่างสมานสามัคคี ​เพราะ​เป็นที่ตระหนักว่า ​เมื่อ​ถึงสถาน​การณ์​เลวร้าย ​ผู้มีอำนาจ​ใน​การตัดสิน​ใจอาจจะต้อง​เลือกรักษาพื้นที่บาง​แห่ง ​แล้วปล่อย​ให้บางพื้นที่จมอยู่​ใต้น้ำชั่วคราว​เพื่อ​เยียวยารักษาส่วนรวม ​แต่มิ​ใช่​เป็น​การ​แบ่ง​แยก​และปกครอง ​หรือ​แบ่งชนชั้นอย่าง​แน่นอน
    ภาระ​และหน้าที่​ความรับผิดชอบของรัฐบาล ​ซึ่งขณะนี้​ได้ตั้งคณะกรรม​การอำนวย​การกำกับ ติดตาม​การช่วย​เหลือ​ผู้ประสบอุทกภัย ​และจัดตั้งศูนย์ประสานงาน​การช่วย​เหลือ​เยียวยา​ผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ​เพื่อติดตามช่วย​เหลือ​เยียวยา​ผู้ที่ประสบอุทกภัย ประสานงานกับหน่วยราช​การ ​เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณ บุคลากร ​และ​เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ​ใน​การ​ให้​ความช่วย​เหลือ​และติดตามประ​เมินผล​ให้​เป็น​การจัด​การ​แบบ บูรณา​การนั้น น่าจะต้องพิสูจน์​ความ​เอาจริง​เอาจังด้วย​การ​ทำงานกัน​โดย​ไม่​แบ่งพรรค พวกมึงพวกกู ​หรือ​ทำงาน​แบบลูบหน้าปะจมูก​เหมือนกับ​การ​เล่น​เกม​การ​เมืองอย่างที่​ แล้วๆ มา ​เพราะนี่หมาย​ถึงชีวิตของคน​ไทย​ทั้งสิ้น


    ถ้านำบท​เรียนปัญหาน้ำท่วมมาศึกษา ​ก็น่าจะพบว่าวิกฤต​การณ์น้ำท่วม​ในบ้าน​เรานั้น ​เกิดขึ้นจาก​เหตุผล 2-3 ประ​การด้วยกัน ​ได้​แก่ น้ำจากที่กัก​เ​ก็บถูกปล่อยออกมา​เพราะระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวด​เร็ว จน​เกินระดับที่รองรับ​ได้ ประ​การต่อมา มีฝนตกหนักมาประสานกับน้ำป่า​ไหลหลาก ​และประ​การสุดท้าย คือ ​การขาดข้อมูล​ใน​การบริหารจัด​การน้ำ​ใน​แหล่งกัก​เ​ก็บ ​และระบายสู่พื้นที่รอบๆ มาก​และ​เร็วกว่าที่ประ​เมิน​ไว้ ​ซึ่งดู​เหมือนว่าสภาพน้ำท่วม​ในครั้งนี้ ​เป็น​เหตุผลจากประ​การสุดท้าย ​เพราะมี​ทั้งนักชลประทาน​และนักวิชา​การออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า ​เราขาด​ผู้ตัดสิน​ใจ​ใน​การจัด​การบริหารน้ำส่วน​เกิน จนกลาย​เป็น​ความหายนะ
    ​เราอาจจะกลับ​ไป​แก้​ไข​ในส่วนที่​เกิดปัญหาน้ำท่วม​ในพื้นที่หลาย จังหวัด​ไม่​ได้อีก​แล้ว ​แต่หาก คชอ.​และหน่วยงานที่​เกี่ยวข้องจะ​ใช้ประสบ​การณ์ปัญหาดังกล่าวนี้มาป้องกัน มิ​ให้​เกิดสภาพ​แบบ​เดียวกับ​ในอนาคตอัน​ใกล้ย่อมจะกระ​ทำ​ได้ ​โดย​เฉพาะ​ในบรรยากาศ​เวลานี้ที่คน​ไทยทุกคน​แสดงออกอย่างชัด​เจน​ใน​ความ พร้อมที่จะตอบรับ​การจัด​การของรัฐ ​และยินดีกับน้ำ​ใจ​ไหลหลั่งของคน​ไทยทุกฝ่าย ​และ​เหนืออื่น​ใด ปลื้มปีติ​เป็นล้นพ้นกับพระมหากรุณาธิคุณของ "​ในหลวง" ​ซึ่ง​ไม่​เคยทิ้งประชาชนของพระองค์ ​ไม่ว่าจะยาม​ใด​ก็ตาม.
     
  2. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ส้วมเฉพาะกิจ ..ไอเดียดีๆ อยากแนะนำสู้น้ำท่วม


    วิธีทำ ส้วมเฉพาะกิจ ปลดทุกข์ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    ความคิดเกี่ยวกับเรื่องห้องน้ำ และสุขลักษณะในการขับถ่าย ซึ่งผู้เคยที่ประสบภัยน้ำท่วมจะทราบว่า การเข้าห้องน้ำและการขับถ่ายเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากน้ำในห้องส้วมล้นเอ่อขึ้นมา หรือบางบ้านที่ห้องน้ำก็จมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ไม่สามารถทำการขับถ่ายได้อย่างสะดวก และทุกคนก็คงทราบดีกว่า "การไม่มีที่ขับถ่าย หรือการไม่ได้ขับถ่ายเป็นเวลานาน เป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส" เพียงใด

    "ส้วมเฉพาะกิจ" สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ได้


    นี่เป็นชุด "ส้วมเฉพาะกิจ" ชุดนึงจะราคาประมาณ 200 บาท ซึ่งประกอบด้วย

    เก้าอี้พลาสติกไม่มีพนักพิง 1 ตัว​
    ถุงดำขนาด 30x40 นิ้ว จำนวน 1 กิโลกรัม 1 แพ็ค​
    กระดาษทิชชู่ 4 ม้วน​
    จุลินทรีย์ EM สำหรับดับกลิ่น 1 ขวด​
    ตัวหนีบ 4 ตัว และ​
    ยางรัด 1 ถุง​
    [​IMG]


    อย่าลืมหาห้องใดห้องหนึ่งหรือมุมใดมุมหนึ่งกั้นเป็นห้องน้ำ ผมว่าช่วยได้มากเลยครับ

     
  3. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]



    [​IMG]





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  4. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2011
  5. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ไอเดียการนำขวดเปล่ามาประยุกช์ใช้
    ในยามประสบภัยน้ำท่วม




    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.8 KB
      เปิดดู:
      1,381
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.9 KB
      เปิดดู:
      1,170
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.9 KB
      เปิดดู:
      1,301
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.6 KB
      เปิดดู:
      1,296
  6. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ข้อควรปฏิบัติการไฟฟ้าส่วนภูิมิภาค
    (ที่ มท ๕๓๐๕.๕/๐๐๐๒)



    เนื่่องด้วยปัจจุบันมีหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมสูง ประชาชนอาจได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าได้ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุดังกล่าว การไฟฟ้าส่วนภูิมิภาคขอความร่วมมือและขอความอนุเคราะห์ให้หน่วยงานต่างๆ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงอันตรายจากกระแสไฟฟ้าในกรณีที่มีน้ำท่วมขังและวิธีการป้องกันดังนี้

    1.ปลดสะพานไฟในบ้าน

    2.งดใช้อุปกรณ์เครื่องมือไฟฟ้าภายในบ้าน

    3.ปลั๊กไฟฟ้าที่มีน้ำท่วมขังห้ามใช้งานโดยเด็ดขาด

    4.เมื่อพบสายไฟฟ้าที่ขาดแช่อยุ่ในน้ำอย่าเข้าไกล้เด็ดขาด

    5.ตัวเปียกห้ามสัมผัสสวิซต์ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด

    6.อย่าเข้าไกล้เสาไฟฟ้าที่มีน้ำท่วมขัง

    7.หากพบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูด อย่าแตะต้องโดยเด็ดขาด ให้ใช้ไม้เขี่ยสายไฟออกก่อน

    8.พบเห็นสิ่งผิดปกติกรุณาแจ้งหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง

    9.หากเกิดกรณีฉุกเฉิน การไฟฟ้าส่วนภูิมิภาคมีความจำเป็นตัดกระแสไฟฟ้าโดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    10.กรณีเครื่องยนต์สำรองจ่ายไฟฟ้าฉุกเฉิน ให้นำกระสอบทรายทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วมและจัดทำพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้แห้ง เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

    11.หากมีเหตุฉุกเฉิน และต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อหน่วยงานการไฟฟ้าในเขตความรับผิดชอบโดยด่วน




     
  7. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    สำหรับบ้านหรือบริษัทห้างร้านที่น้ำยังมาไม่ถึง การทำสร้างกำแพงกันน้ำเข้าไปทำลายอุปกรณ์เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ต่างๆ แบบนี้ก็พอจะบรรเทาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าน้ำมีความสูงกว่านี้ก็ึคงไม่ไหว

    [​IMG]

    [​IMG]



    ในยามที่ประสบทุกข์ ไม่ควรไปซ้ำเติมทุกข์ให้กัน ควรให้กำลังใจ ไม่แบ่งพรรค แบ่งพวกแบ่งฝ่าย แบ่งสาย แบ่งชนชนชั้น ลูกพี่ก็ต้องช่วยลูกน้อง ลูกน้องก็ช่วยลูกพี่ นายจ้างก็ต้องเห็นใจลูกจ้าง ลูกจ้างก็ต้องเห็นใจนายจ้าง ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เติบโตกันมาได้ถึงขนาดก็ไ่ม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ถึงจะอยู่รอดไปด้วยกันได้ มีอะไรที่พอช่วยได้ ก็ช่วยกันตามกำลังความสามารถของตน ในยามสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่พอจะเห็นได้คือความรักใคร่ สามัคคี การมีน้ำใจซึ่งกันและกัน ซึ่งก็เป็นบทพิสุจน์ภาวะของตัวเอง และภาวะของผู้นำด้วยในแต่ละฝ่ายด้วย

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    จุดเฝ้าระวัง! ป้องกันน้ำเข้าบ้านคุณ



    [​IMG]




    1.สิ่งของที่สำคัญ
    ของสำคัญที่มีขนาดใหญ่ยกขึ้นวางไว้บนชั้นวางที่อยู่ในระดับสูงเพื่อป้องกันความเสียหาย

    2.ของชิ้นใหญ่
    วัตถุสิ่งของ ทรัยพ์สินที่มีขนาดใหญ่ไม่สามารถขนย้ายยกวางที่สูงได้ ควรหาปูน อิฐ แผ่นไม้มาหนุนให้สูงขึ้น

    3.ระยะห่างของขอบล่างประตูกับพื้นจะมีช่องว่างที่เมื่อน้ำท่วมถึงจะเล็ดลอดเข้าสู่ตัวภายในบ้านได้การนำถุงทรายมาวางเป็นชั้นทับซ้อนกันเพื่อปิดช่องดังกล่าวจะสามารถบรรเทาความรุนแรงได้

    4.ท่อน้ำทิ้ง
    บริเวณท่อน้ำทิ้งเป็นอีกจุดหนึ่งที่เชื่อมต่อกับภายนอก ซึ่งเมื่อน้ำมีปริมาณมากสูงเหนือพื้นดินจึงเป็นจุดหนึ่งที่ควรเผ้าระวัง

    5.ห้องน้ำ
    เป็นจุดที่ต่อท่อน้ำหรือต่อท่อน้ำทิ้งต่างๆมากที่สุดภายในบ้าน จึงเป็นจุดหนึ่งที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษเนื่องจากน้ำสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้แม้รูโหว่จะมีขนาดเล็กก็ตาม

    6.ปลั๊กไฟ
    น้ำนั้นสามารถผ่านเข้ามาบริเวณปลั๊กหรือบริเวรที่มีการเดินสายไฟเนื่องจากบริเวณเหล่านั้นมีช่องว่างในกำแพงที่น้ำสามารถเข้ามาได้เช่นกัน

    7.ผนังบ้าน
    กำแพงบ้านที่ผ่านการก่อสร้างมานานหลายปี มักจะมีรอยร้าวตามกาลเวลาเสมอและรอยร้าวเหล่านี้อาจจะเสียงต่อการแตกพังเพื่อให้น้ำทะลักเข้ามา



    - ข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับการรักษาความปลอดภัย
    ในสถานการณ์น้ำท่วม

    - อย่า ขับรถ, เดิน, ว่ายน้ำ หรือขับขี่จักรยาน(ยนต์)ลุยน้ำท่วม เนื่องจากสิ่งที่กล่าวมาเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตขณะที่เกิดนำ้ท่วม เพราะน้ำอาจลึกและไหลเร็วกว่าที่เห็น และอาจมีเศษหิน เศษปูนจมอยู่ใต้น้ำ รวมถึงพื้นผิวถนนที่จมอยู่อาจถูกชะหายไปแล้วก็เป็นได้

    - ห้ามเข้าใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟ กระแสไฟฟ้าอาจวิ่งผ่านน้ำได้เมื่อเกิดน้ำท่วมแต่ละครั้ง

    - จดบันทึกรายการสิ่งของของเราให้ครบ วางสิ่งของเครื่องใช้บนโต๊ะ หรือตู้ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เก็บไว้บนที่สูง

    - มัดสิ่งของที่คิดว่ามันสามารถลอยไปตามน้ำ และก่อให้เกิดอันตรายให้แน่นๆ

    - ย้ายถังสำหรับใส่สิ่งปฏิกูลต่างๆ รวมถึงสารเคมีและสารพิษไปไว้ชั้นบนสุดของบ้าน

    - รับฟังข่าวสารจากวิทยุชุมชน หรือสื่อต่างๆ เพื่อทราบข้อมูลใหม่อยู่ตลอดเวลา

    - หมั่นติดต่อกับคนรู้จักหรือญาติ

    - เตรียมและขนย้ายสัตว์เลี้ยงไม่ในที่ที่มันสามารถอาศัยอยู่ได้

    - หมั่นติดต่อกับเพื่อนบ้าน

    - "น้ำ"สามารถใช้แทนในการทำถุงทรายได้(เมื่อจำเป็น)

    - ทำให้แน่ใจว่า ลูกจ้างจะสามารถเดินทางกลับที่พักได้ทัน ก่อนที่เส้นทางไปสถานที่สำหรับอพยพจะถูกปิด หรือน้ำท่วม

    - จงทำอะไรให้เสร็จก่อนกำหนด เพราะถนนหนทางอาจแออัดได้

    - ขนย้ายสัตว์เลี้ยง,ปศุสัตว์ไปไว้ในที่สูง

    - เก็บรวบรวมยา เอกสารส่วนบุคคล เอกสารทางการเงิน รวมถึงของที่ระลึกและรูปถ่ายเอาไว้ด้วยกัน

    Credit: ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    http://www.cendru.net/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล...โชคดีขวดพลาสติกยังไม่ได้ทิ้ง[​IMG]
     
  10. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    โชคดีที่ประเทศไทยมี'ในหลวง'

    [​IMG]

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน



    โชคดีแค่ไหนที่ประเทศไทยมี'ในหลวง' : ขยายปม โดยสมถวิล เทพสวัสดิ์

    ได้เห็นอาการ "สะอื้นไห้" ของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี "พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า" หลังตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับกระแสข่าวอาจถูกย้าย เนื่องจากแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่เข้าตารัฐบาล จนเจ้าตัวถึงกับออกอาการเหมือนมี "ก้อนสะอื้น" จุกอยู่ที่ลำคอ "เพียงขอให้จังหวัดผมรอดพ้นน้ำท่วม แม้จะถูกย้ายผมก็ไม่เสียใจ"

    บทบาท "พ่อเมือง" แต่ละจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่ได้รับเสียงชื่นชมความเป็น "ผู้นำ" ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามต่อสู้เพื่อรักษาเมืองและพลเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย
    "ปทุมธานี" เป็นเมืองหน้าด่านของกรุงเทพมหานคร ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้รับแรงกดดันมากกว่าจังหวัดอื่น เพราะเปรียบเป็นเมืองหน้าด่านก่อนน้ำจะไหลเข้ามาถึงกรุงเทพมหานคร
    และต้องพยายาม "รับมือ" กับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ให้ผ่านพ้นวันที่ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดคือวันที่ 14-17 ตุลาคม และวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ ไปให้ได้

    ความไม่มั่นใจในการรักษาเมืองหลวงของประเทศไทย "กรุงเทพมหานคร" ไม่เฉพาะ "ผู้ว่าฯ พีระศักดิ์" เท่านั้นที่แบ่งรับแบ่งสู้ เพราะอยู่และสู้กับภัยพิบัติ
    แม้กระทั่ง "นายกรัฐมนตรี" และรัฐมนตรีคนอื่นๆ เองก็ถึงกับ "ถอดใจ" ว่าจะสามารถป้องกันน้ำที่จะเข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพมหานครไว้ได้
    "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" แม้จะกลับไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้ว เวลามีเสียงโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านยังเกิดอาการผวา เพราะโทรศัพท์ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะแจ้งว่าน้ำเข้าที่นี่ที่นั่น ทำให้เกิดอาการเครียด
    ขณะที่ "ประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม" (ศปภ.) "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รมว.ยุติธรรม ก็ยังแถลงยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมปทุมธานีรุนแรงมากขึ้น จึงไม่กล้ายืนยันว่ากรุงเทพฯ ชั้นในจะปลอดภัยจากอุทกภัยครั้งนี้
    ก็ขนาดแม่ทัพนายกองยัง "ถอดใจ" จึงไม่ต้องถามถึงขวัญและกำลังใจของชาวบ้าน ต่างพากันแตกตื่น ซื้อข้าวของกักตุนกันเป็นจำนวนมากสังเกตได้จากร้านโชห่วย หรือห้างสรรพสินค้า อาหารแห้งในแต่ละวันแทบไม่เหลือตามชั้นวางสินค้า
    จะมีก็เพียง "ณรงค์ จิรสรรพคุณากร" ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ สำนักระบายน้ำ กทม. ที่กล้ายืนยันว่า กทม.น้ำไม่ท่วมร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงขนาดเอาหัวเป็นประกัน เพราะ กทม.ได้สร้างแนวคันกั้นน้ำตามพระราชดำริล้อมเมืองไว้ มีความยาว 77 กิโลเมตร โดยสร้างเป็นเขื่อนถาวรคอนกรีตเสริมเหล็ก และลงเสาเข็มความลึกกว่า 25 เมตร ไม่ใช่แค่แนวคันดินชั่วคราวเหมือนที่อื่น
    การสู้กับภัยธรรมชาตินอกจากยากลำบากแล้ว การทำความเข้าใจกับคนที่ได้รับข้อมูลเพียงครึ่งเดียว และสู้อยู่กับปัญหาตรงหน้า ทำให้ "ขาดสติ" เจรจาให้เข้าใจได้ยากยิ่งกว่า
    จึงไม่แปลกที่จะเห็นภาพชาวบ้านที่บริเวณหน้าหมู่บ้านกฤษณา 8 ช่วงถนนปทุมธานี-สามโคก ต.กระแชง อ.สามโคก รวมตัวกันรื้อคันกั้นน้ำ เพราะรับไม่ได้กับสภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่ยืดเยื้อมานาน ขณะที่ชาวบ้านอีกฝั่งถนนยังสามารถสัญจรได้ตามปกติ
    เมื่อการบริหารจัดการของรัฐบาลไม่ได้สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนพื้นที่น้ำท่วมหลายจุด จึงเกิดปัญหาการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้านขึ้น
    และดูเหมือนทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติจนกระทั่งมีข่าว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์น้ำท่วมต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อค่ำวันที่ 12 ตุลาคม มีพระราชกระแสรับสั่งให้ความสำคัญในการเร่งระบายน้ำด้านตะวันออกสู่ทะเลและ เร่งขุดคลองเพื่อระบายน้ำให้เต็มที่ ส่วนด้านตะวันตกก็ให้หาพื้นที่หรือคลองในการระบายน้ำ
    เพียงข้ามวัน "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยัน "กรุงเทพมหานครปลอดภัย" โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน หลังจากบินสำรวจเส้นทางระบายน้ำฝั่งตะวันตกลงสู่แม่น้ำท่าจีน
    โดยสั่งการให้ กองทัพบก กระทรวงคมนาคม และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขุดลอก ขยายคูคลอง ทั้งหมด 4 คลอง ได้แก่ คลองงิ้วราย คลองทรงคนอง คลองท่าข้าม และคลองสุนัขหอน เพื่อเร่งระบายน้ำกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกลงสู่ทะเลให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
    ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จภายใน 5 วัน และให้เสร็จก่อนน้ำเหนือไหลลงสู่กรุงเทพฯ พร้อมมอบหมาย "กองทัพบก" หาเส้นทางลัดระบายน้ำ เช่นเดียวกับคลองลัดโพธิ์ โดยจะขุดคลองปลายทางให้น้ำไหลลงสู่โครงการแก้มลิงมหาชัย และสนามชัย เพื่อไม่ให้กระทบประชาชนทุกพื้นที่

    แทบไม่น่าเชื่อว่าหลังรัฐบาลแทบถอดใจในการหาวิธีป้องกันน้ำเข้ากรุงเทพฯ เพียง "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและน้อมรับพระราชกระแสรับสั่งมาปฏิบัติ ก็ทำให้รัฐบาลมีความหวังและกำลังใจในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอีกครั้ง
    โชคดีแค่ไหนที่ประเทศไทยมี "ในหลวง"

    ที่มาึัคมชัดลึก:⪤�շ�������������ǧ ��Ѵ�֡ : ������ͧ : ���Ƿ����

    ประเทศไทยถ้าผู้นำทุกหมู่เหล่า ยึดตามกระแสพระราชของในหลวงอย่างจริงจัง จะอยู่รอด อยู่ดี กินดี ร่มเย็นเป็นสุข เป็นปึกแผ่น อย่างแน่นอน ไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใหนในโลกนี้ที่ทรงเสียสละอย่างเช่นพระองค์ พระองค์ทรงเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาหาที่สุดมิได้ ดุจดังพระมหาชนก ทุกย่อมหญ้ามีความเดือดร้อนแค่ใหนกระแสพระบารมีพระองค์เข้าไปเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรช่วยดับให้เย็นไม่แบ่งชนชั้น วรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา

    ขอให้น้อมจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2011
  11. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    "คนเช่นนี้เทวดาก็หยุดไม่ได้"




    ชีวิตคือการต่อสู้ และต้องสู้ให้ชนะ ชีวิตจึงมีความหมายในสังเวียนการต่อสู้เราอาจประสบความล้มเหลวหรือพ่ายแพ้ ได้ และอาจจะมีบ่อยครั้งด้วย แต่นั่นไม่สำคัญ ข้อสำคัญก็คือ ทุกครั้งที่เราล้มต้องรีบลุกทันที และก้าวเดินต่อไปอย่างมาดมั่น

    อันนี้แหละที่พระท่านเรียกว่า ความพากเพียรและพระอีกนั่นแหละบอกเราต่อไปว่า "คนที่มีความพากเพียร แม้เทวดาก็หยุดเขาไม่ได้"

    คง เคยได้ยินนิทาน (จำไม่ได้ว่านิทานชาดก หรือนิทานอีสป) เล่าว่า มีเด็กหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนกัน ถูกหมอทำนายว่า คนหนึ่งจะลำบากในการทำมาหาเลี้ยงชีพ อีกคนหนึ่งจะได้นั่งกินนอนกิน

    คน ที่หมอทำนายว่าจะลำบาก ไม่ท้อแท้ในชีวิต ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินหาทองเก็บหอมรอมริบไว้ เพราะกลัวความทุกข์ยากลำบากตามที่หมอทำนาย แกคิดว่าเก็บหอมรอมริบไว้บ้าง ถึงจะลำบากในภายหน้าก็จะช่วยผ่อนเบาได้บ้าง

    ไม่ช้าไม่นานฐานะแกก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นผู้มีอันจะกินระดับเศรษฐีน้อยๆ คนหนึ่ง

    ส่วน คนที่ได้รับคำทำนายว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องทำอะไร ก็ได้นั่งกินนอนกิน ก็ประมาทนึกว่าดวงข้าดีแล้วจะขวนขวายทำมาหากเลี้ยงชีพไปทำไม เจ้าคนนี้ก็เอาแต่สำมะเลเทเมา สนุกสำราญ เป็นพ่อพวงมาลัย ลอยไปลอยมา

    ใน ที่สุดก็หมดเนื้อหมดตัว จนกระทั่งต้องกลายเป็นขอทานอาศัยนอนตามศาลาวัดบ้าง ข้างซอกตึกบ้าง ได้นั่งกินนอนกิน "ตามคำทำนายไม่ผิดเพี้ยน" ในขณะที่เพื่อนอีกคนมีหลักฐานมั่นคงอยู่ในขั้นเศรษฐีย่อยๆ คนหนึ่ง

    การ ก้าวมาสู่ระดับเศรษฐีมีเงินมีทองนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สะดวกสบาย ต้องอุตสาหะพากเพียรฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ก็ถูกต้องแล้วที่หมอทำนายว่าแกต้อง "ลำบากตรากตรำในการทำมาหาเลี้ยงชีพ"

    นิทานเรื่องนี้ชี้คุณธรรมข้อ เดิม คือ "ความพากเพียร" ทั้งสองคนมี "ศักยภาพ" ที่จะร่ำรวยได้ทัดเทียมกัน เพียงแต่คนหนึ่งไม่ "ดึง" ออกมาใช้ ในขณะที่อีกคนหนึ่ง "ดึง" ออกมาใช้เต็มที่

    ศักยภาพที่ว่านี้คือความพากเพียร

    นิทาน ชาดกอีกเรื่องหนึ่งคล้ายกัน เปลี่ยนแต่เป็นเรื่องพระราชาสององค์รบกัน พระอินทร์ทำนายให้ฤๅษีฟังว่า องค์ที่มีแสนยานุภาพมากจะชนะ องค์ที่มีแสนยานุภาพน้อยจะแพ้ คำทำนายนี้ได้ยินไปถึงพระราชาทั้งสองพระองค์ องค์ที่ได้รับคำทำนายว่าจะแพ้ก็ไม่ประมาทพยายามฝึกปรือกองทัพให้พรักพร้อม ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งประมาทผลการรบปรากฏว่าฝ่ายที่ว่าจะชนะกลับแพ้ จึงไปต่อว่าฤๅษี ฤๅษีไปต่อว่าพระอินทร์ พระอินทร์บอกให้แง่คิดว่า

    "แนว โน้มบอกว่า ฝ่ายที่มีแสนยานุภาพมาก จะต้องชนะ แต่อีกฝ่ายเขาไม่ประมาทนิ่งเฉยพากเพียรฝึกปรือกองทัพให้พรักพร้อมเสมอ อย่างนี้รบกับใครที่ไหนก็ชนะ จำไว้เถิดว่าคนที่พากเพียรเต็มที่แม้เทวดาก็หยุดเขาไม่ได้"

    คำทำนายเป็นเพียงบอกแนวโน้มว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เท่านั้น แต่การจะให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร อยู่ที่การกระทำด้วยความพากเพียรของเราเอง และมีความเพียรอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ แต่ต้องมีสติและมีปัญญาด้วยถึงจะดี

    ที่มา:
    http://www.dhammakid.com/board/ocoaaaad/eueecacoaoaoaa-1aae11oeacoceaoaaeae/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2011
  12. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ด่วน!น้ำคลองรังสิตเอ่อล้นเข้าถ.พหลฯแล้ว

    น้ำคลองรังสิตเอ่อล้นเข้าถ.พหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามทางเข้าม.รังสิตแล้ว

    14 ต.ค.54 ผู้สื่อรายงานการจราจรบริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ขาออก ตั้งแต่ตลาดสี่มุมเมือง ต่อยาวไปถึง ห้างฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต ปรากฎว่า ล่าสุดทางเข้ามหาวิทยาลัยรังสิตได้มีน้ำเอ่อล้นเข้าในบริเวณถนนทางเข้า มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งมีความสูงประมาณครึ่งล้อรถยนต์ ทำให้รถเล็กส่วนใหญ่ได้ตัดสินใจวกกลับส่วนรถปิดอัพยังคงผ่านเข้าออกได้ ส่วนร้าน บ้านพักประชาชน และสถานที่ราชการในบริเวณดังกล่าวได้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกั้นน้ำ ที่จะเอ่อเข้าท่วม ในขณะเดียวกันในด้านบริเวณฝั่งตรงกัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีจำหน่ายน้ำมัน ปตท. ซึ่งในจุดดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ต่ำ ได้มีน้ำจากคลองรังสิตเอ่อล้นเข้าท่วมถนนวิภาวดีฯ เข้ากินพื้นถนนเสียจำนวนหนึ่งเลนครึ่ง ระดับน้ำมีความสูงถึงระดับข้อเท้า
    ทั้งนี้ ส่วนการจราจรในบริเวณดังกล่าวยังสามารถที่สัญจรได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์ ตั้งแต่ช่วงทางขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ตรงบริเวณอนุศรณ์สถานทหารอากาศ ด้านฝั่งขาออก และบริเวณสะพานกลับกลับด้านหน้าห้างฟิวเจอร์ฯ ประชาชนที่อาศัยในย่านดังกล่าว ได้นำรถยนต์ไปจัดหนีน้ำอยู่จำนวนมาก

    กทม.รายงานเจ้าพระยาหนุนสูงทำลายสถิติปีที่แล้ว2.13 เมตร
    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.เดินทางมายังสำนักงานเขตสายไหมเพื่อประชุมกับเจ้าหน้าที่ภายหลัง ที่รัฐบาลได้แจ้งเตือนประชาชนเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยนางนงค์พระงา บุญปักษ์ ผู้อำนวยการเขตสายไหม รายงานว่าขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ยังปกติ คลองทั้ง 3 แห่ง ในเขตสายไหมยังปลอดภัย ซึ่งเจ้าที่ดูแลประชาชนอยู่ทุกวัน แต่หลังจากที่ที่รัฐบาลได้ประกาศให้ประชาชนออกจากพื้นที่ เมื่อวานนี้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่แตกตื่นกันมาก แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนแล้วว่าสถานการณ์ทั่วไปยังปกติ ทั้งนี้เขตสายไหม ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยใช้โรงเรียนในสังกัดกทม.ทั้ง 9 แห่ง โรงเรียนสามัญ 2 แห่ง และวัดในเขต อีก 8 แห่ง เป็นเปิดเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมและประสานไปยังศูนย์การค้าบิ๊กซี ให้เปิดพื้นที่จอดรถให้กับประชาชน
    นายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักงานระบายน้ำกทม. รายงานว่าวันนี้ระดับนี้วัดได้จากปากคลองตลาด อยู่ที่ 2.13เ มตร ทำลายสถิตจากปี ที่แล้ว 2.10 เมตร ส่วนระดับน้ำวัดได้ที่ อ.บางไทร อยู่ที่ 4,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วน เขื่อนเจ้าพระพระยาบวกเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 4,430 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่สถานการณ์น้ำคลองรังสิต ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี สถานการณ์ยังปกติ
    ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นบททดสอบของกรุงเทพมหานคร ในการบริหารมวลน้ำและมวลชน ซึ่งสภาวะแบบนี้ขอให้ผู้บริหารกทม.และผอ.เขตไม่ต้องตระหนก และหวั่นไหวกับสถานการณ์ ขอให้แน่วแน่ในแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและแสดงภาวะผู้นำให้คนกรุงเทพฯเพราะตอนนี้เกิดสุญญา
    กาศของภาวะผู้นำเพราะฉะนั้นกทม.ต้องเป็นเสาหลักให้กับประชาชนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้ว่าฯกทม.เดินทางไปยังประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนท์ เขตสายไหม เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม โดยกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังปกติถึงแม้จะมีปริมาณน้ำที่มากแต่กทม.จะไม่ประมาณขอให้ เขตดอนเมืองและเขตสายไหมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับสถา ณการณ์ เพราะขณะนี้ยังไม่วิกฤติ หากถึงขึ้นวิกฤติ ตนจะเป็นผู้แจ้งประชาชนเป็นคนแรก ทั้งนี้กทม.จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ในกทม.ทุก 6 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็น 4 ช่วง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. , ช่วง 2 เวลา 14.00 น., ช่วง 3 เวลา 21.00 น. และ ช่วงที่ 4 เวลา 02.00 น.


    เตือน 27 ชุมชนนอกคันกั้นน้ำรับมือน้ำทะเลหนุน14 – 17 และ 28 – 31 ต.ค.
    นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลระดับน้ำทะเลหนุนกับกรมอุทกศาสตร์ พบว่า จากปริมาณการระบายน้ำในปัจจุบันคาดว่าน้ำทะเลหนุนในวันที่ 14 - 17 ตุลาคม 2554 ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ จะมีความสูงกว่าระดับทะเลปานกลางประมาณ 2.05 - 2.10 เมตร และน้ำทะเลหนุนในวันที่ 27 -31 ตุลาคม 2554 จะมีความสูงกว่าระดับทะเลปานกลางประมาณ 2.20 -2.25 เมตร
    อย่างไรก็ตามแม้ระดับน้ำจะยังคงอยู่ต่ำกว่าแนวสันเขื่อนกันน้ำของกทม. แต่อาจส่งผลกระทบต่อ 27 ชุมชนริมน้ำที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำใน 13 เขต จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวติดตามสภาวะระดับน้ำ อย่างใกล้ชิด ขนย้ายสิ่งของ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นที่สูงให้พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง รวมถึงจัดทำกระสอบทรายเสริมเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณหน้าบ้าน และปิดกั้นท่อระบายน้ำและช่องทางต่าง ๆ ที่น้ำสามารถไหลเข้าสู่บ้านได้ เช่น เครื่องสุขภัณฑ์ อ่างล้างจาน อ่างล้างหน้า เป็นต้น พร้อมตรวจสอบให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หากมีประกาศเตือนอพยพ ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

    คนอ่าน
     
  13. หนวดเต่า

    หนวดเต่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ข้อมูลที่ดี ๆ และส่วนตัวผมคิดว่า การเตรียมตัว เตรียมพร้อม
    และความไม่ประมาท ไม่ใช่เรื่องที่น่าละอาย
     
  14. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    คลองระพีพัฒน์ อีกปราการสำคัญผันน้ำออกสู่ทะเล

    [​IMG]


    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
    <table class="tborder" style="margin:10px 0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align:center"> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kxwOFCf1VGQ"]Youtube.com โพสต์โดย thaitvclips[/ame] </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center">
    </td> </tr> </tbody> </table>​


    ชาว บ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก กำลังเผชิญกับน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หลังจากลำคลองในละแวกนี้มีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากถูกใช้เป็นทางระบายน้ำลงสู่ทะเล โดยเฉพาะ "คลองระพีพัฒน์" หนึ่งในช่องทางระบายน้ำสำคัญ ที่จะช่วยผันน้ำจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ไหลออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น

    โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้ตัดสินใจทดลองผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาลงยังคลองระพีพัฒน์ ในช่วงจังหวัดปทุมธานี เพื่อผันน้ำให้ไหลลงคลองต่าง ๆ และลงสู่ทะเลต่อไป ซึ่งก็ช่วยให้การระบายน้ำจากลุ่มภาคกลางตอนล่างเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แต่การผันน้ำลงคลองระพีพัฒน์นี้ ก็ได้ส่งผลให้บ้านเรือนในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งชุมชนริมคลองรังสิต และพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

    สำหรับคลองระพีพัฒน์นั้น สายใหญ่มีความยาว 32 กิโลเมตร เริ่มต้นจากประตูระบายน้ำพระนารายณ์ ที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะไหลลงมาที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และแยกออกเป็นสองสาย คือ คลองระพีพัฒน์แยกใต้ ระบายน้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีเสาวภาค ออกไปยังอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ความยาว 28.7 กิโลเมตร ส่วนอีกสายคือ คลองระพีพัฒน์แยกตะวันตก ระบาย น้ำผ่านทางประตูน้ำพระศรีศิลป์ และไปสิ้นสุดที่ประตูน้ำพระอินทร์ราชา จังหวัดปทุมธานี ความยาว 36.6 กิโลเมตร โดยสามารถรองรับน้ำจากที่ไหลมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้เต็มที่ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้กำลังใกล้เต็มพื้นที่รับน้ำแล้ว แต่ทว่า...ยังคงมีน้ำเหนือที่จะไหลลงมายังคลองระพีพัฒน์อีกเป็นจำนวนมาก


    [​IMG]

    ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน การระบายน้ำในคลองระพีพัฒน์ที่มาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น ยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก แต่ที่น่าห่วงก็คือ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะทำให้ปริมาณน้ำในคลองระพีพัฒน์สูงขึ้นมาก จนระบายไม่ทัน และส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ตามเส้นทางที่คลองระพีพัฒน์ไหลผ่านได้รับความ เดือดร้อน โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรในละแวกใกล้เคียงตั้งแต่คลอง 13 และรอบ ๆ บริเวณจังหวัดปทุมธานี

    ด้วยเหตุนี้ กรมชลประทานจึงต้องเร่งระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์ฝั่งตะวันตก เข้าสู่คลองรังสิต 1-6 เพื่อให้คลองระพีพัฒน์สามารถรองรับน้ำที่จะไหลบ่ามาเพิ่มเติมได้ แต่นั่นก็จะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่คลองรังสิต 1-6 ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นคลองเช่นกัน โดยกรมชลประทานคาดว่าระดับน้ำอาจสูงกว่าถนนไม่เกิน 1 เมตร ส่วนพื้นที่ตั้งแต่คลอง 7 เป็นต้นไปเป็นทุ่งนาความเดือดร้อนจะไม่มากเท่าช่วงคลองรังสิต 1-6 พร้อมกับยืนยันว่า น้ำจะไม่ไหลทะลักเข้าเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

    เช่นนั้นแล้ว ในช่วงนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในช่วงคลองรังสิต 1-6 รวมทั้งเส้นทางที่อยู่ใกล้คลองระพีพัฒน์ จึงต้องเผชิญกับน้ำท่วม และคงต้องอดทนกับสถานการณ์เช่นนี้อีกพักหนึ่ง กว่าที่น้ำก้อนมหาศาลจะไหลลงทะเลได้ทั้งหมด ดังนั้น ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เผื่อว่าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูง จะได้เตรียมการป้องกัน หรือร้ายที่สุดคือ จะได้สามารถอพยพออกมาได้ทัน



    ตอนนี้ได้ทราบข่าวล่าสุดซึ่งเป็นน้องพนักงานบริษัทเดียวกันได้โทรมาแจ้งว่า ผนังกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ คลองระพีพัฒน์ฝั่งตะวันตก เข้าสู่คลองรังสิต 1-6ซึ่งได้ทราบมาว่าชาวบ้านมีปัญหากันบ้าง ได้เริ่มมีน้ำไหลเพิ่มมากขึ้นแล้วซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าสา่เหตุมาแจกอะไร แล้วยังไม่ทราบว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไรบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  15. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    กทม.-ปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนอง
    ร้อยละ80ของพื้นที่


    [​IMG]


    ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้

    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ในระยะ 1-2 วันนี้

    อนึ่ง พายุดีเปรสชัน “บันยัน” บริเวณทะเลจีนใต้ได้อ่อนกำลังลงเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้วและจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    กรุงเทพ มหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร แพร่ และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ กาฬสินธ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาค ใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
     
  16. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]








    “พระมหามณีรัตนปฏิมากร พระคู่บ้านคู่เมือง ประเทศไทย”



    องค์ปฏิมาพระแก้วมรกต ซึ่งพระนาคเสน (พระอรหันต์เถระเจ้า) ท่านสร้าง เพื่ออุทิศแด่พระอรหันต์ผู้เป็นธรรมคุรุครูบาอาจารย์ จากก้อนหินที่ศักย์สิทธิ์ทรงคุณค่าหายาก ด้วยศรัทธาความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาปลงเห็นว่า สิ่งอื่นที่ยิ่งกว่าพุทธรัตนะไม่มี ถ้าว่าเอาแก้วก้อนนั้นมาทำเป็นองค์พระปฏิมา (ปางจักรพรรดิ) เห็นว่าจะประเสริฐกว่าจะเก็บไว้ และใช้การอย่างอื่น ทั้งจะเป็นกุศลให้ผลเป็นประโยขน์น้อมจิตพุทธบริษัทได้บูชารักษา และทำให้มหานครเป็นดินแดนสมมุติพระนิพพาน ได้มีผู้คนฝักใฝ่ศึกษาพระธรรม จนมหานครนั้นๆ เป็นดินแดนสวรรค์ เต็มไปด้วยเทพบุตร เทพธิดา ผู้ทรงธรรม มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข แล้วปฏิบัติคนให้สมกับได้มีโอกาสนมัสการพระแก้วมรกต คู่บ้านคู่เมือง ประเทศไทย

    ส่งกำลังใจ เชิญชวนกันน้อมจิตถึงเทพไท้เทวารักษาพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร พระสยามเทวาธิราช ตุ้มครองรักษาประเทศไทย และชนชาวไทยกันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  17. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    แนะเหยื่อน้ำท่วมป่วยโรคไต

    งดกินโปรตีน-เค็ม


    [​IMG]

    สพฉ.ประสานลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศยานมากสุดนับ ตั้งแต่ตั้งศูนย์ดอนเมืองกว่า 28 ราย เป็นผู้ป่วยโรคไต 21 คน แนะญาติผู้ป่วยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ...



    ที่ศูนย์ บูรณาการประสานปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตอบโต้ภัยพิบัติแห่งชาติ (ศูนย์ดอนเมือง’84 ) นายแพทย์ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยผลการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น สพฉ.ได้ประสานลำเลียงผู้ป่วยโรคไต 21 ราย จาก รพ.ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ซึ่งจำเป็นต้องล้างไตอย่างเร่งด่วน โดยเครื่องบินทำฝนหลวงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (CASA-300) เพื่อส่งรักษาต่อที่ รพ.ค่ายอดิศร 15 ราย รพ.สระบุรี 2 ราย และ รพ.สงฆ์ 4 ราย

    “สำหรับผู้ป่วยโรคไตที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ข้อควรปฏิบัติคือจะต้องงดอาหารเค็มและโปรตีน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ป่วยจำเป็นต้องฟอกไตอยู่ดี เพราะจำเป็นต้องถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งญาติควรสังเกตอาการว่าหากผู้ป่วยยังพูดคุยรู้เรื่องสามารถเลื่อนการฟอก ไตออกไปได้อย่างมาก 1 วัน โดยผู้ป่วยที่ประสบภัยน้ำท่วมควรสอบถามและหาโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อเตรียม ฟอกไต” นพ.ชาตรีกล่าว

    สำหรับปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน มีการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางเฮลิคอปเตอร์ 28 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เปิดศูนย์ดอนเมือง โดยเป็นการลำเลียงผู้ป่วยโรคไต ลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 3 ราย ด้วยเครื่องบินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และลำเลียงโดยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ รพ.กรุงเทพ ด้วย


    ที่มา:แนะเหยื่อน้ำท่วมป่วยโรคไต งดกินโปรตีน-เค็ม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วิธีอุดท่อน้ำทิ้งและชักโครก

    [​IMG]
     
  19. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ขสมก.บริการปชช.อยุธยาเข้ากทม.ฟรี



    ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถใช้บริการรถ ขสมก.ฟรี เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

    15 ต.ค.54 นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำจำนวนมาก ไหลเข้าท่วมถนนสายเอเชีย ทั้งขาเข้าและขาออก ก่อนเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้าอุตสาหกรรมนิคมไฮเทค โดยรถเล็กไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ จังหวัดจึงประสานไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เพื่อ ให้นำรถขนาดใหญ่ไว้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าโดยสาร จำนวน 5 คัน โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 18.00 น.ซึ่งรถรับส่งจะออกให้บริการทุกครึ่งชั่วโมง


    ส่วนประชาชนที่ต้องการใช้รถโดยสารผ่านช่องทางดังกล่าว สามารถไปขึ้นรถได้ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะสิ้นสุดปลายทางที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขณะที่รถตู้โดยสารประจำทาง ซึ่งประชาชนบางส่วนยังใช้บริการอยู่นั้น ด้านขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แจ้งว่ายังสามารถควบคุมราคาค่าโดยสารได้

    ชาวบ้านคลองบ้านพร้าวเร่งซ่อมประตูระบายน้ำ
    ชาวบ้านคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เร่งซ่อมแซมถนนเลียบประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าวที่พังทลายให้เสร็จภายใน 15 ต.ค.นี้
    ความคืบหน้าการเร่งสร้างถนนเรียบประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีที่พังทลายลงทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมพื้นที่ กว่าร้อยละ 40 ขณะนี้ดำเนินการเร่งซ่อมแซมแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 60 แล้ว โดยมีชาวบ้านเร่งนำแผ่นเหล็กชิพพลายขนาด 8 เมตร ที่ภาคเอกชนมอบให้เร่งกดลงในแนวดินฝังลึก 7 เมตร เพื่อตั้งเป็นแนวกั้นน้ำ ทั้งนี้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยืนยันว่าจะเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (15) โดยมีกำลังทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 30 นาย กำลังทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ 50 นาย เข้าให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังจัดส่งโป๊ะเรือมาให้ความช่วยเหลือเพื่อให้การดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว ที่สุด



    ที่มาคมชัดลึก:���.��ԡ�û��.��ظ����ҡ��.��� ��Ѵ�֡ : �Ҫ�ҡ��� : ���Ƿ����
     
  20. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    เตรียมพร้อม 100%

    เห็นภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดแล้วใจหายเหมือนกัน

    เพราะนํ้าขยายอาณาเขตไปกว่าครึ่งพื้นที่ของประเทศแล้วท่านผู้ชม

    ยิ่งโฟกัสเฉพาะพื้นที่ 10 จังหวัดภาคกลางก็ยิ่งน่าตกใจ

    เพราะนํ้าท่วมแผ่พังพานยึดพื้นที่ภาคกลางไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

    เท่ากับยังเหลือพื้นดินให้นั่งยืนเดินเพียง 30 เปอร์เซ็นต์

    นี่คือหลักฐานยืนยันว่านํ้าท่วมปีนี้หนักที่สุดในรอบ 50 ปี

    ยังเหลือที่มั่นสุดท้ายที่นํ้ายังตีไม่แตกอีกเพียง 3 จุด เท่านั้นเอง

    คือ ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

    คาดว่าปทุมธานีและนนทบุรีจะโดนตีแตกแน่นอน!!

    “แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการรบดุเดือดที่สุดระหว่างนํ้ากับคนคือ ที่นิคมอุตสาห-กรรมไฮเทค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    นํ้าเจาะทะลวงเข้าไปแล้วหลายครั้ง แต่ถูกทหารและอาสาสมัครระดมกำลังกู้คืนกลับมาได้ทุกที

    น่าเสียดายที่ผลการรบครั้งสุดท้าย คนไม่ชนะนํ้า กลายเป็นนํ้าชนะคน

    เหตุที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สั่งกำชับให้ป้องกันนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค สุดลิ่มทิ่มประตู

    เพราะนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โดนนํ้าถล่ม จมบาดาลไปแล้ว 2 แห่ง

    ถ้านิคมอุตสาหกรรมไฮเทคต้องจมนํ้าไปอีกแห่ง จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมโหฬาร

    ส่วนนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งเป็น เป้าโจมตีจุดต่อไปก็มีการเตรียมแผนรับมือ นํ้าท่วมเอาไว้อย่างแข็งแรง

    เช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมบาง-ปะอินและนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี จังหวัดปทุมธานี มีการเตรียมป้องกันไว้ อย่างดี

    แต่ถึงจะเตรียมป้องกันอย่างดี ปริมาณนํ้ามากขนาดนี้ยังรับประกันไม่ได้ว่านิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่ง จะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์

    “แม่ลูกจันทร์” เห็นว่านิคมอุตสาห-กรรมขนาดใหญ่เป็นเหมือน “กล่องดวง ใจ” ของระบบเศรษฐกิจไทย

    มีมูลค่าการลงทุนรวมกันไม่ต่ำกว่าห้าแสนล้านบาท

    มีแรงงานสนับสนุนไม่ต่ำกว่าสองแสนคน

    การเลือกพื้นที่ก่อสร้างนิคมอุตสาห-กรรมก็มั่นใจว่าน้ำไม่ท่วมแน่นอน

    เพิ่งจะมีปีนี้ที่เจอแจ็กพอตเต็มเปา

    ผลกระทบที่จะตามมาคือ ทุกโรงงาน ต้องหยุดซ่อมยาวอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

    แรงงานหลายหมื่นคนต้องถูกเลิกจ้างชั่วคราว

    คิดมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจนับแสนล้านบาทแน่นอน

    “แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าสถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้ต้องเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง คาดเดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดต่อไป??

    เพราะหลังจากประตูน้ำคลองบ้าน

    พร้าวและเชียงรากน้อยโดนน้ำตีแตกกระเจิง มวลน้ำก้อนใหญ่ก็เคลื่อนเข้ามาถึงตลาดรังสิต ซึ่งเป็นด่านหน้าของ กทม.

    แต่ยังโชคดีเล็กๆที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนป่าสักฯ ได้ลดการระบายน้ำแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์

    ร่องความกดอากาศที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักก็เริ่มอ่อนกำลังลง

    ยังไม่มีสัญญาณเตือนพายุดีเปรสชันลูกใหม่ที่จะเข้ามาซ้ำเติมประเทศไทย

    ฉะนั้น ถ้าไม่มีปัจจัยซ้ำเติม ต่อจากนี้อีก 1 สัปดาห์ระดับน้ำท่วมจะเริ่ม ทรงตัว

    และหลังสิ้นเดือนนี้ ระดับน้ำจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจน

    ขอให้พ่อแม่พี่น้องในหลายจังหวัดภาคกลางที่กำลังเดือดร้อนอดทนไปอีกสัก หน่อยเถอะนะคุณโยม

    “แม่ลูกจันทร์” ถึงจะอยู่ กทม. ก็เสียว ไส้ติ่งว่าบ้านจะโดนน้ำท่วมเต็มประดา

    เพราะบ้านอยู่ใกล้คลองลาดพร้าว ซึ่ง เป็น 1 ใน 15 จุดเสี่ยงที่จะโดนน้ำท่วมก่อนใคร

    เมื่อกี้นี้โผล่ไปสำรวจระดับน้ำในคลอง ลาดพร้าวก็ปริ่มตลิ่งเต็มที

    วอท เอฟเวอร์ วิลบี วิลบี ถ้าบ้านโดนน้ำท่วม ก็ต้องทำใจ และทำใจ.

     

แชร์หน้านี้

Loading...