เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ลำดับที่ 51 โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วครับ...

 

วันนี้ได้นัดพี่นิ่ม กับท่านผู้การฯ ไปเตรียมงานและสรุปงาน ได้มาหลายรูป เชิญทรรศนา

 

ภาพที่เห็น เป็นภาพที่ท่านผู้การฯและพี่นิ่ม ได้ไปร่วมงานพิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่แผ้ว

ภาพเตรียมมวลสาร รุ่นต่อไป ภาพขอเมตตาจากพระอาจารย์หรีด
ภาพงานพิธีที่วัดระหารไร่ (วัตถุมงคลทั้งหมด วางอยู่ข้างหลวงพ่อบัว คลุมด้วยจีวร)

 

ข่าวล่า....

ทหารพราน ที่จันทบุรี ค่ายพิทักษ์เทวา มีเหตุให้ต้องถูกยิง ไม่รู้คดีอะไร แต่กระสุนไม่เข้าเนื้อ..... ห้อยเหรียญหลวงพ่อนาค

นายทหารเรือระดับสูง โทรศัพท์มาขอเหรียญกับท่านผู้การฯ บอกเพียงแค่ว่า ลูกน้องเอาไปลองยิง แล้วไม่ออก ขอเป็นที่ระฤกเพียงเหรียญเดียว

รายละเอียด ถ้าว่าง จะเข้ามาเล่าต่อ.....(เพิ่งกลับครับ ขอไปทานข้าวก่อน)

 

วันนี้ผ่านไปเเถว ชลบุรี บ้านบึงมา ครับ
เห็นป้าย พระปิดตาเเร่เพชรดำ กับ เสือ เเต่ยังไม่มีโอกาสเเวะเข้าไป

เเล้วป้ายทะเบียนรถนี้ ?

 

ป้ายทะเบียนรถนี้ ออกโดยกรมขนส่งทางบกครับ.......

เป็นพาหนะคันใหม่ของหลวงปู่บัว วัดเกาะตะเคียน

 

เปิดจอง พระปิดตาทรงเมตตา, แก้วเพชรหลีก วัดป่าแดง

<!-- google_ad_section_end -->



ในรูปจะเห็นว่ามือถือพระหลวงปู่ทวดอยู่ แต่ในกล่องนั้น มีพระปิดตารุ่น "ทรงเมตตา" รวมอยู่ด้วย
พระปิดตาชุดนี้ โปรดติดตามให้ดี เพราะเข้าพิธีมาตั้งแต่ปิดตาวัดป่าแดง มวลสารเดียวกัน
แต่คนละพิมพ์ และสัดส่วนของตัวประสานก็ต่างกัน เห็นความแตกต่างชัดเจน
จะต่างกันมาก ก็คือ จะเน้นเสกเดียว และจะเลือกสุดยอดมาปลุกเสกพร้อมกันอีกครั้งที่วัดป่าแดง

พระที่มวลสารเดียวกัน พิธีเดียวกัน (ตอนนี้พิธีเยอะกว่าไปแล้ว) ก็ยังเหลืออยู่ และราคาก็ยังพอเก็บได้

หรือถ้าชอบพระปิดตาเป็นการเฉพาะ ผมก็จะรอ รุ่นทรงเมตตา เพราะตอนนี้ทราบเจตนาและ กำหนดการแน่นอนแล้ว สมกับเป็นรุ่นทรงเมตตาจริงๆ

ใบ้ให้นิดนึง ว่าคนสร้าง เจตนาสร้างเพื่อเทิดประเกียรติ เพราะนามสกุลคนสร้าง ได้รับพระเมตตาพระราชทาน
พระราชทานนามสกุลให้ว่า "ทรงเมตตา"



พระปิดตา "ทรงเมตตา" มีจำนวนสร้างเป็นที่แน่นอนแล้ว 3,100 องค์
จะบรรจุกรุที่วัดป่าแดง จำนวนหนึ่ง ยังไม่เป็นที่แน่นอน ที่เหลือจะนำมาให้บูชา
เพื่อรวบรวมทุน เป็นค่าบำรุงดูแลรักษาเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด
ซ่อมสร้างห้องน้ำของวัดป่าแดง เป็นต้น อาทิ.............

"แก้วเพชรหลีก"
ผงนี้ได้จากเสี่ยเมืองชลฯ ที่ได้รับพระราชทานฯ
ท่านผู้การจะนำมาผสมทำพระเพชรหลีก โดยมีนามองค์พระว่า "แก้วเพชรหลีก" โดยนำนามองค์หลวงพ่อแก้ว เป็นปฐม

<!-- google_ad_section_end -->

รุ่นนี้พิมพ์นี้แหละครับ ที่พี่นิ่มโทรด่วนให้ไปเอามวลสารมาให้ได้ภายใน 1 วัน
-กะลาไม่มีตา
-ข้าวสารดำ
-ข้าวสารหิน
และที่ได้มาเพิ่ม
-ข้าวสารนารอด
-ดินทั้ง 7
-ไคร้เสมา ฯลฯ (บังคับทำพระฯ)
-ดินจากวัดไชยมงคล พิชัยสงครม ฯลฯ (หลวงปู่สม ท่านแนะนำให้ไปเอามา ท่านฯว่า ทำพระฯดี ไม่มีแพ้ใคร)
-น้ำจากถ้ำพระ จังหวัดชัยภูมิ (เป็นน้ำที่ได้จากหมอกภายในถ้ำ รวมตัวเป็นเมฆ ตกปรอยลงในแอ่ง)
ฯลฯ

เนื่องมาจาก พี่นิ่ม ได้พิมพ์ เพชรหลีก จากวัดอ่างศิลา และสูตรมวลสาร
กอปรกับได้พบพระเกจิ ที่นครปฐมฯ ได้รับคำแนะนำให้เร่งรีบทำ

สมส่วนเมื่อได้ผงหลวงพ่อแก้วมาอีก จึงมีพระนามว่า "แก้วเพชรหลีก"

จำนวนสร้าง 3,000 องค์
นำลงใต้ เพื่อแจกทหารหาญที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย (นำลงแจก โดยท่านผู้การฯนาวี) 1,000 องค์
อีก 2,000 องค์ มอบให้วัดป่าแดง

พิมพ์ที่เห็นนี้ เป็นชุดลองพิมพ์
ของจริงน่าจะสวยกว่านี้ครับ

พี่นิ่ม มั่นใจของที่ทำมาก ย้ำแล้วย้ำอีก "ต้องสามารถทดสอบพุทธคุณได้ ทั้งอาวุธหนักอาวุธเบา พี่รับประกัน"

สรุปครับ
ปิดตาทรงเมตตา สร้างและเสกพร้อมกับปิดตาเนื้อผง รุ่นแรก แต่เสกนานกว่า และยังคงตระเวนเสกอยู่ครับ

อีกองค์หนึ่งนั้น เป็นพระเพชรหลีก พระนามว่า "แก้วเพชรหลีก" ไม่ใช่ปิดตาครับ แก่มวลสารกว่า ผงลงมวลสารที่แก่กว่าไปแล้วครับ

ข่าวดีของเพื่อนสมาชิก

พระปิดตาเนื้อผงขาว ราคาอยู่ที่ 4,000 บาท เนื้อดำราคาไล่กันอยู่ (แปลก เสกพร้อมกัน จำนวนเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน) และมีออร์เดอร์ให้จัดหาถึง 100 องค์ (เจ้าอาวาสฯ คงอยู่ไม่เป็นสุข) ราคาซื้อจากเซียน 1,500-2,000 บาท จ่ายล่วงหน้า แต่ราคาขาย 4,000 บาท ขาดตัว

เป็นผลให้พระปิดตาทรงเมตตา เป็นที่หมายปองของเซียนพระฯ เพราะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

และระหว่างร่วมทางกับพระอาจารย์พิจารณ์ ท่านได้แนะนำพระเกจิที่เก่งกาจไว้อีกสองสามรูป ทำให้ต้นทุนในการจัดงานพิธีฯ เพิ่มขึ้นไปอีก ผมจึงแนะนำให้นำพระฯออกมาจำนวนหนึ่ง(1,000 องค์) เปิดให้เช่าบูชา เพื่อหาทุน และได้รับการยอมรับจากทั้งพี่นิ่มและท่านผู้การฯ

หากแต่ได้มีการเปลี่ยนใจ เพราะเจ้าของพระฯ มิได้ประสงค์จะทำเพื่อการค้า และแว่วๆว่าจะโดนเหมาหมดในวันงาน จึงจะขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด แต่ไม่น่าเกินเดือนเมษายน 2555 ซึ่งจะเป็นวันฉลองวิหารบูรพาจารย์

ผมไม่ขัดข้อง แต่ผมได้ขอพี่นิ่ม กับท่านผู้การฯ ว่าจะขอพระฯที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ให้ตกอยู่กับเพื่อนสมาชิกบ้าง โดยมิให้เพื่อเป็นการค้าแบบเหมาทำกำไร จึงจะกำหนดโค้วต้าให้แต่ละท่าน จองได้ไม่เกินท่านละ 10 องค์ โดยนับจากเพื่อนสมาชิกลำดับที่86 ลงมา (คงต้องรบกวนคุณ suwat.su ตีเส้นแล้วครับ) และจากลำดับ 1-86 สามารถจองเพิ่มได้ นับรวมไม่เกิน ท่านละ 15 องค์(แยกเป็นปิดตาฯไม่เกิน 15 องค์, แก้วเพชรหลีกไม่เกิน 15 องค์)

ทั้งนี้ จะให้เฉพาะเพื่อนสมาชิกเฉพาะในเวปพลังจิตเท่านั้นครับ และยอดรวมจะต้องไม่เกิน อย่างละ 500 องค์ โดยจะกำหนดปิดจอง-โอน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554

หลังจากนั้น จะเก็บเงียบ รอจนถึงเดือน เมษายน 2555 จึงจะนำมาให้ร่วมบุญอีกครั้ง ในวันฉลองวิหารบูรพาจารย์ ซึ่งถึงตอนนั้น ทางวัดป่าแดง คงจะทำหน้าที่รับช่วงต่อ เนื่องจากพระฯจำนวน 2,000-3,000 องค์ ผมรับดูแลไม่ไหวครับ

จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
หนุ่มทิพย์


เหรียญหลวงปู่นาค รุ่นพิเศษ มีนามว่า รุ่น "คุ้มภัย"

โดยมีดำริจากท่าน ผู้การ พลเรือเอกนาวี ศานติกะนาวิน จัดสร้างขึ้นเพื่อคุ้มภัยให้ทหาร-ตำรวจ ชายแดนใต้ โดยแจกฟรี

แต่มีเพื่อนสมาชิกบางท่านประสงค์จะเก็บไว้เป็นที่ระฤก ผมจึงนำความเรียนท่านผู้การฯ ท่านผู้การฯก็ยิ้มภูมิใจ (แปลว่าไม่ให้)

พี่นิ่ม ก็เข้าใจ จึงขอกับท่านผู้การฯ ให้ผมได้เป็นเจ้าของ มาแจกเพื่อนสมาชิกบ้าง ท่านผู้การฯก็ยิ้มหนักขึ้นอีก...(แปลว่าไม่ให้)

แล้วท่านผู้การฯ ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงปู่นาค เสกเหรียญนี้เสร็จ ท่านฯก็มอบถวายให้หลวงปู่นาคจำนวนหนึ่ง แต่โดนปฏิเสธ เพราะหลวงปู่ฯเข้าใจเจตนา จึงจะให้นำไปแจก
ท่านผู้การฯ ก็เปลี่ยนเป็นจะมอบให้กรรมการฯดูแลให้ ท่านก็ปฏิเสธอีก
เปลี่ยนเป็นช่วยจำหน่าย แล้วหาปัจจัยมาถวาย ท่านก็ปฏิเสธ...

ผมก็ถามว่า แล้ววัดมะม่วงของหลวงปู่ฯ ดูเป็นอย่างไรบ้าง
ท่านฯก็ว่า ยังต้องซ่อมแซม

ผมว่า อย่ากระนั้นเลย ผมขอแบ่งมาจำหน่าย หาทุนก็ละกัน เท่าไหร่เท่านั้น โดยอาจจะยุติที่วันงานวัดป่าแดง และจะไม่ให้ล่วงเกินกินจำนวนที่จะนำแจกทหารตำรวจ

โดยผมขอท่านไว้ที่ 500 เหรียญ แบ่งเป็นจำหน่ายจับจองในเวปฯ 100 เหรียญ และจำหน่ายหลังงานพิธี ภายในวันนั้นวันเดียว ไม่เกิน 400 เหรียญ
โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย มอบเป็นทุนบำรุงซ่อมสร้างเสนาสนะของวัดมะม่วงทุกบาททุกสตางค์

เงื้อนไขนี้ มีเพียงเรื่องเดียว คือผมขอให้พี่นิ่ม QC ก่อนเพื่อนสมาชิกโอนค่าเหรียญ..เป็นอันตกลง




*** หมายเหตุ : เฉพาะผู้จอง หลวงปู่ทวด จะต้องโอนเงินก่อนครับ คุณ หนุ่มทิพย์ พร้อมจัดส่งให้ก่อนเลยครับ ***


กำหนดการปิดและโอนเงิน

โปรดโอนให้ก่อนวันที่ 1 พฤษจิกายน 2554 ด้วยครับ
เพื่อหาทุนนิมนต์พระเกจิสำหรับพิธีใหญ่ครับ (ตอนแรกว่าจะอยู่ที่ 16 รูป แต่ตอนนี้นับได้ 18 รูปแล้วครับ)

หมายเลขบัญชีที่โอน

ธนาคาร กสิกรไทย (สาขาเซ็นทรัลบางนา)
เลขที่บัญชี 604-2-33303-2
ชื่อบัญชี มั่นชัย (Manchai Pengjams)

Update วันที่ 10/10/54 กระทู้ที่ 938

 

สอบถามครับว่าในส่วนของรายการพิเศษนั้นจะให้ผมโอนเลยมั้ยหรือว่ารอก่อนครับ

 

ถ้ารายการพิเศษ หมายถึง เนื้อลงรัก อย่าเพิ่งโอนครับ
ผมยังไม่มั่นใจ ว่าจะเป็นรักแดงหรือรักน้ำเกลี้ยง
ถ้าเป็นรักน้ำเกลี้ยง ราคาอาจจะลดลงอีกครับ

อะไรก็ยังไม่แน่นอน ขนาดพระปิดตาทรงเมตตา ยังมีแค่ให้พวกเรา 500 องค์เองครับ ที่เหลือ ไปรอเช่าบูชาเดือนเมษายน ปีหน้าครับ

ส่วนแก้วเพชรหลีก ท่านผู้การฯ เปิดให้เช่าบูชาได้ตามอัธยาศัย
ผมเลยยุให้ใครต่อใครมาเหมาไปเสียให้หมด ในวันงานเลย.....

 

ผมเขียนไม่ไหวแล้ว
ผู้สูงอายุ วันๆไม่รู้จะทำอะไร ลูกๆก็โตกันหมด ไม่มาวิ่งเล่นด้วย
เลยตระเวนแต่วัด หาทุนไปสวรรค์ แต่ผมยังติดเนื้อนมไข่อยู่ ขอเชิญดูรูปไปเพียงอย่างเดียวก่อนครับ อารมณ์ดี จะมาเล่าให้ฟัง ทีละภาพ....

 

วันนี้ลองเอาตะกรุดที่มั่นใจอีกดอกไปให้พี่นิ่มเข้าห้องแล็ป ดอกนี้สมัยคนเสกยังอยู่ เคยมีคนมาขอเช่าหลักหมื่น
พอถึงมือพี่นิ่ม จากหนึ่งดอก กลางเป็น 2 ชิ้น!

แต่ถ้าเป็นองค์พระฯ พี่นิ่มจะใช้ประทัด ถ้าจุดแล้วไม่แตก แปลว่าใช้ได้
ในภาพบน จะเห็นแก้วเพชรหลีก เนื้อดำ อยู่ประทัด

....................

 

ผมว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยจะเห็นพี่นิมยิ้มสักเท่าไร..วันนี้มาแปลก...ดูไปดูมา...ได้ทองนี้เองเลยยิ้มแบบแบไต๋หมดทั้ง 32 ซี่กันไปเลย

 

เหรียญไหนดี พี่นิ่มจะนำมาตะไบเป็นส่วนผสมลงในเนื้อพระ!

ผมเองก็เพิ่งเคยได้ยิน มีแต่เอาเหรียญดีๆไปหลอมเป็นชนวน ไม่เคยได้ยินเอาเหรียญมาตะไบ...... ไม่รู้จะพูดอย่างไร..งง

 

คิดในแง่ดีการหลอมก็เป็นการทำลายเหรียญอาจจะเป็นเหมือนการปรามาส...การตะไบยังไม่ได้ทำลายทั้งหมดแค่ขอชิ้นส่วนเล็กน้อยไปทำหัวเชื้อก็ไม่ปรามาสพระ....คิดเองเออเองครับ

 

พี่แกเครียดอยู่พักหนึ่ง แอบนำเหรียญฯของท่านผู้การฯเข้าห้องแล็ป แล้วบอกqc ยังไม่ผ่าน

แต่เมื่อเร็วๆนี้ ยกนิ้วให้ แต่ขอเติมอีกหน่อย น่าจะเต็มที่ในวันงานพิธีใหญ่

วันนี้ ระหว่างนั่งปรึกษาเรื่องงานกับท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแดง
ก็มีเสียงโทรศัพท์ของท่านผู้การฯดังขึ้น

เป็นลูกชายของท่านผู้การฯ โทรศัพท์มาแจ้งว่า เหรียญหลวงปู่นาค คุ้มภัยนี้ ได้ช่วยชีวิตทหารพราน นายหนึ่งไว้ได้

ท่านผู้การฯ กับพี่นิ่ม ก็ยินดีด้วย เพราะที่เหนื่อยๆกันมา คุ้มค่าแล้ว ได้ช่วยชีวิตเพื่อนทหารแล้ว ก็น่าจะยังคงมีกำลังใจกันต่อไป

ส่วนเรื่องที่มีนายทหารฯ โทรศัพท์มาขอเหรียญแล้วแจ้งว่า ลูกน้อง นย.ที่ได้รับแจก เอาไปยิงไม่ออก ท่านฯว่า อย่าเอาไปเล่า ประเดี๋ยวจะว่าเชียร์กันเอง....

 

อนุโมทนาด้วยครับอย่างน้อยก็ผลของงานออกมาดี...ก็สามารถช่วยชีวิตทหารหาญแล้วเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้...ได้(สำหรับคนที่ยังไม่ถึ่งเวลาน่ะครับ)คนทำงานก็จะได้
อานิสงค์นั้นไปเต็มๆ

 

เล่นทีเผลอ......รายงานผลด้วยนะครับ

 

โอนเงินให้แล้วครับ จำนวน 1699.99 บาท
ลำดับการจองที่ 14 ตารางหลวงปู่ทวด และเหรียญคุ้มภัย หลวงปู่นาค ครับ
โอนวันที่ 10/10/54 เวลา 13.32 น. ตามรายละเอียดแนบครับ

 

พลทหารออฟ เป็นหนึ่งในทหารที่ทางกองทัพส่งมาเป็นทหารรับใช้ ตามธรรมเนียมนายทหารเกษียณราชการ

ยิ้มเหงาๆ เศร้าพองามๆ เป็นนิยามของออฟ

ออฟ เป็นมือขับหมายเลขหนึ่งที่มักถูกเรียกตัวมาใช้ ในกรณีที่ต้องเดินทางไกล
เพราะออฟ เป็นนักขับที่มีวินัยและฝีมือมาก

ผมเห็นฝีมือการขับทางไกล ในครั้งที่ลงใต้ไปตัดเหล็ก
ออฟจะขับรถไม่เร็วนัก แต่ชิดขวา เพื่อที่ทางผู้โดยสารกิติมศักดิ์ จะได้รับความสะดวกสบาย (แต่ไม่สนใจเพื่อนร่วมทางที่ต้องแซงซ้ายตลอดทาง)

"เฮ้ยออฟ ผู้โดยสารหลับว่ะ..." ผมกระซิบ
"ครับพี่ ผมเหยียบร้อยกว่าแล้วครับ" ออฟตอบ
"เฮ้ย... ถ้าเผลอน่ะ ร้อยกว่า แต่ถ้าหลับ ต้องร้อยยี่..."
"ครับพี่..."


ในวันเกิดเหตุตามภาพที่เห็น เกิดขึ้นที่บ้างอาจารย์ฆราวาสท่านหนึ่ง
อาจารย์ท่านนี้ เป็นผู้มอบว่านไพรดำ ให้พี่นิ่มมาทำพระฯหลายรอบแล้ว

"พี่ลองแล้วหนุ่มทิพย์ พี่ลองด้วยปืนเลย ไม่ออกจริง ของแท้..." พี่นิ่มรับรองกับผม

แต่กับท่านผู้การฯ ท่านเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก อาจารย์ฯท่านก็เลยให้ทดสอบฤทธิคุณ โดยการนำน้ำมันว่าน มาหยดใส่น้ำเปล่า น้ำแก้วนั้นก็ดำสนิท

ท่านผู้การฯ เห็นดังนั้น ก็เรียกออฟ ที่เฝ้ารถเข้ามา แล้วบอกให้ถอดเสื้อไปไหว้พระ ที่หิ้ง หลังจากดื่มน้ำที่เตรียมให้แล้ว

"ผมก็สงสัยตะหงิดๆ จะไหว้พระ ทำไมต้องถอดเสื้อ..." ออฟ

ออฟ โดยไปหลายที ทั้งฟัน ทั้งสับ ทั้งเฉือน.......

"ตอนนี้ยังเหนียวอยู่หรือเปล่า" ผมถาม

"ผมฉี่ไปหลายรอบแล้วครับ... น่าจะไม่เหนียวแล้วหละ"

"ขอพี่ลองทีหนึ่ง ได้ป่าว..."

"พี่ให้ผมขับรถกลับกรุงเทพฯเหอะ..."



ทุกวันนี้ ออฟ ยังคงเป็นหน่วยกล้าตาย...เสมอ

สู้ต่อไป พลทหาร....

 

วันนี้ พี่นิ่มโทรหาแต่เช้า จากวัดปอแดง

"หนุ่มทิพย์ ตื่นหรือยัง..."

"ตื่นแล้วครับ..." (ก็ตอนพี่โทรมาปลุกนี่แหละ...)

"หนุ่มทิพย์... ลุงช่วย ที่วัดปอแดง มาขอพระหลวงปู่ทวดกับพี่ 2 องค์"

"พี่จำแกได้ เพราะครั้งก่อน แกเคยมาช่วยยกของไปปลุกเสกกับหลวงพ่อสมบุญ..."

ครั้งนั้น พี่นิ่มแจกพระหลวงปู่ทวดไปหลายคน ลุงช่วยแกก็ได้ไปด้วย พอแกได้ไปแล้ว ก็เอาไปเลี่ยมแขวน วันดีวันร้ายก็มาถึง

แกขับรถเครื่องผ่านหน้าบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่ที่เลี้ยงหมาแทนนักเลง
แต่หมาพวกนี้ เคยดูข่าวแก็งค์ยกพวกตีกัน ก็เลยติดใจ เห็นรถเครื่องไม่ได้ ต่างสถาบันหมด
วิ่งมาล้อมหน้าล้อมหลังไล่กวด ลุงช่วย ไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะแสดงบัตรผ่าน ก็เสียหลักรถล้ม

แกเล่าว่า ได้แต่เอามือปิดหน้ากับคอ ไม่ให้โดนกัด (แต่ถ้าเป็นผม จะเอามือกุมเป้าเอาไว้ ยังพอใช้งานได้อยู่)
กว่าเจ้าของบ้านกับคนที่เห็นเหตุการณ์ จะแยกคนกับหมาได้ ลุงช่วย ก็ต้องยืนขาสั่น แล้วมองหาแผล ช่วยกันหาอยู่หลายคน จะได้ทายาแดง แต่หาไม่เจอ

เจอแต่ลอยเป็นจ้ำๆ รอยข่วนก็ไม่มี ลุงช่วยเล่าให้พี่นิ่มฟัง ก็ถกเสื้อให้ดูที่หน้าท้อง เห็นเป็นรอยกดของเขี้ยว แต่ไม่เห็นแผล

ลุงช่วย อยากได้พระหลวงปู่ทวด เพิ่มสัก 2 องค์ จะเอาไปฝากลูกหลาน...

พี่นิ่มไม่ได้ติดกล้องไป ผมเลยขอให้กลับไปถ่ายรูปลุงแกใหม่ จะได้เอามาเล่าอีกรอบ

..................

เรื่องอยู่เขี้ยวอยู่งา ต้องระฤกว่าไม่ควรประมาท
มีเรื่องจริงอยู่ว่า หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน เป็นพระมีวิชาอาคมกล้ามาก ท่านจะให้ลูกศิยษ์เหลาปลัดขิกมาส่งให้ท่านฯทุกวัน ท่านฯก็จะเก็บไว้รอบตัว ใครมาก็แจก

มีศิยษ์คนกล้าได้ปลัดท่านฯไป ก็อยากทดสอบ แต่นึกไม่ออก
เห็นหมาที่บ้านกัดกันอยู่ ขนาดอยู่สถาบันเดียวกัน ยังไม่ลงกัน
ศิยษ์ก็เห็นเป็นโอกาส ยื่นมือเข้าไปห้าม

เวลาหมากัดกัน ห้ามยากกว่าคนตีกัน ต้องจำไว้
ศิยษ์คนนี้โดนกัดเสียเหวอะ จึงต้องรีบเอาแผลที่มีรอยเย็บกับพลาสเตอร์ไปฟ้องหลวงปู่เมฆ

พอท่านฯเห็นแผล ก็หยิบอันใหม่ให้ "เฮ้ย...นั้นมันปลัดเมตตา...นี้ มันต้องอันนี้ถึงจะเหนียว เอ้า...เอ็งเอาไปลองใหม่!..."