พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

องค์นี้หนาครับ แต่ตอนกดภาพส่งให้คุณหนุ่ม ตั้งใจให้ได้ภาพ front แบบไม่เห็นความหนา ภาพเลยออกมาแบบนี้

 

เหอๆๆๆ

ทุกวันนี้ ห้อยรุ่นนี้องค์กลางครับ

ในชุดที่ผมใส่ทำงานตอนนี้ มีพระสมเด็จกลักไม้ขีด รุ่น 1 , พิมพ์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง , พระสมเด็จ(เนื้อเงิน) , พิมพ์พระสมเด็จอกครุฑ , พิมพ์อรหันต์กลาง และพิมพ์เป็นที่รักของสามโลก รุ่น 1

แถมวันนี้เพิ่มอีก 1 เส้น ใส่แล้วรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก

เป็นพิมพ์....... บุทอง , พิมพ์..... บุเงิน และพิมพ์......บุนาค

สุดยอดมากจริงๆครับ

ลองถามกูรูได้ครับว่า เป็นอย่างไร vb vb

.

 

เหอๆๆๆ องค์นี้ของผมไม่ใช่หรือครับ

.

 

เหอๆๆ ระวังไฟธาตุแตกนะครับ กระดูกคอรับน้ำหนักมากๆอย่างนั้น ให้ระวังกล้ามเนื้อคอ และไหล่ สะบักล่าง และท้ายสุดจะชาบริเวณนิ้วชี้ ท้ายสุดอาจจะต้องมาขอยาแก้อาการกับผมนะ

 

หุหุหุ เบากว่าห้อยพระกริ่งปวเรศ 3 องค์อีกนะครับ


.

 

อ่าว..เป็นงั้นไปได้ยังไง ..5555 ผมให้ชมภาพชิ้นส่วนกลักไม้ขีดรุ่นนี้กัน ดุเนื้อหาข้างในกัน ลักษณะหลังการกระเทาะออกเป็นยังไง..

 

แบบนี้แสดงว่า พระกริ่ง ๓ องค์ไม่อาราธนาขึ้นคอช่วงนี้ใช่ไม๊ งั้นขอนิมนต์เลยยยยย..หุ...หุ..

 

อ่า ที่ผมเคยบอกไว้ว่า พระกริ่งปวเรศ รุ่นปี 2434 มีไม่น้อยกว่า 50 พิมพ์

ซึ่งมีทั้งสร้างที่ต่างประเทศและสร้างในประเทศครับ

ไว้มีโอกาส จะนำไปให้ศึกษากันครับ


.

 

อ่า อย่ามีช่องว่างเชียวนะครับท่านเพชร หุ หุ ว่าแต่ ตาลุงของผมลงทวาคราบกรุเหลืองเป็นไงครับ ตาลุงทวงท่านเพชรยังไม่ยอมตอบครับ หุ หุ

 

คืนนี้ผมว่าคุณหนุ่มแรงดีครับ โดดไปโดดมา หุ..หุ..ระวังหัวชนเพดานครับ

 

เหอๆๆ หมดแรงแล้วครับ

วิ่งไปวิ่งมาระหว่างกระทู้พระวังหน้าฯ กับเว็บใต้ร่มธรรม เริ่มเวียนหัวแล้ว

ไปบ๊ายบายที่ใต้ร่มธรรมแล้วครับ

เมื่อวานกับวันนี้ กว่าจะกลับออกมาจากที่ทำงาน สามทุ่มกว่า

วันนี้นั่งพิมพ์งานให้ลูกค้า 9 ราย ตาลายครับ ยังดีที่ยายไม่ลาย อิอิ

.
.

 

เหอๆๆ คุณเพชรยังไม่ได้ตอบตาลุงเลย กูรูมาทวงคำตอบให้ตาลุงอยู่ครับ

.

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, nongnooo+, :::เพชร:::+</td></tr></tbody></table>

ขอไปพักผ่อนแล้วน๊ะครับ พรุ่งนี้ต้องไปข้างนอก ไป 2 หน่วยงาน

วันพรุ่งนี้และมะรืนนี้ งานเยอะสุดๆครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับ



.

 

ดูจากด้านหลังผมคิดว่า ตาลุงคงจะนำออกมาลูบๆคลำบ่อยๆ เกิดคราบเหงื่อด้านหลัง บริเวณเม็ดพระศก และจีวรส่วนที่นูน น่าจะเกิดจากการลองถูคราบสนิมเขียวดูมากกว่า ดินบริเวณกรุนั้น เป็นดินสีอรุณเลยเกิดคราบเหลืองติดสำริด เดาว่าน่าจะมีอายุในช่วงศตวรรษที่ 13-14 สรุปว่า ชอบครับ....

 

ตะไคร้สมุนไพรใกล้ตัวแก้เวียนหัว

วันพุธ ที่ 05 ตุลาคม 2554 เวลา 0:00 น

<SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​

<TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เมื่อใดที่เกิดมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปนคลื่นไส้อยากอาเจียน แม้จะรู้หรือไม่รู้สาเหตุ แต่อยากเร่งแก้ปัญหาเวียนหัวนั้นให้บรรเทาลงไปก่อน สามารถนำพืชสมุนไพรใกล้ตัวคู่ครัวไทย อย่าง 'ตะไคร้' ที่นิยมนำไปเป็นส่วนผสมของเมนูอาหารไทยหลากหลาย อาทิ ต้มยำ ต้มข่า มาแก้อาการ ทดแทนยาดม ยาลม ยาหม่องได้

วิธีนำตะไคร้มาใช้แก้เวียนหัวนั้นแสนง่าย เพียงนำตะไคร้มาบุบตรงส่วนต้นพอแหลกให้กลิ่นโชยออกมาได้ จากนั้นนำมาสูดดมจากต้นโดยตรง หรือใช้ผ้าขาวบางห่อก่อนดม ก็ช่วยบรรเทาอาการได้แล้ว โดยกลิ่นของตะไคร้นั้นจะมีความหอมชัดเจนเฉพาะตัว คนโบราณอธิบายกลิ่นของตะไคร้ว่า กลิ่นหอม รสปร่า แต่ก็เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยสำหรับคนไทย

นอกจากนี้ยังมีอีกวิธี ใช้เหง้าหรือลำต้นตะไคร้สดที่ค่อนข้างแก่ ประมาณ 1 กำมือ ทุบพอแหลกแล้วนำไปต้มกับน้ำ เสร็จแล้วดื่มเฉพาะน้ำที่ต้มกับตะไคร้นั้น อาการเวียนศีรษะและคลื่นไส้จะบรรเทาลง ใครที่เมารถ เมาเรือ นำวิธีเหล่านี้ไปใช้ด้วยได้.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

 

ดูแลแผลน้ำกัดเท้า โรคบาทาฮิตพิษน้ำท่วม

วันพุธ ที่ 28 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น

<SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​

<TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ขณะนี้หลายพื้นที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม ผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจต้องเดินลุยน้ำย่ำน้ำที่ท่วมขัง จึงอาจเสี่ยงเป็นโรคน้ำกัดเท้า ที่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองเพราะสภาพที่เปียกอับชื้นและสิ่งสกปรกที่ปนอยู่ในน้ำ

อาการสำคัญของโรคน้ำกัดเท้าจะเริ่มจากผิวหนังที่เท้าเปื่อย ลอก แดง คัน และแสบ หากปล่อยไป แถมยังไปเดินลุยน้ำซ้ำอีกก็จะทำให้เชื้อโรคเข้าไปในแผล ทำให้อักเสบ บวมแดง เริ่มมีหนอง และรู้สึกปวด

เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าเป็นโรคดังกล่าว ไม่ควรแช่อยู่ในน้ำนานจนผิวเปื่อย ทุกครั้งที่เดินพ้นจากน้ำที่ท่วมขัง ให้ฟอกสบู่ ล้างน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้ว

กรณีที่เริ่มมีอาการ สามารถดูแลแผลน้ำกัดเท้าด้วยตนเองได้ โดยให้ใช้ด่างทับทิมละลายน้ำสะอาดและแช่เท้าไว้เพื่อฆ่าเชื้อโรค ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อเรา หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดโดยรอบ

นอกจากนี้ยังอาจเลือกใช้สมุนไพรไทยอย่าง ขมิ้นชันที่มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย แก้อักเสบ และช่วยสมานแผล โดยนำเหง้าขมิ้นชันสดไปล้างน้ำ จากนั้นนำไปฝนกับน้ำต้มสุกปริมาณเล็กน้อย และผสมกับดินสอพอง ทาผิวผนังที่มีอาการ หรือถ้ามีขมิ้นชันแบบผงก็นำมาใช้ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าส่วนใหญ่มักติดเชื้อราร่วมด้วย ดังนั้น เมื่อน้ำลดและสามารถเดินทางไปพบแพทย์ได้สะดวกควรไปเข้ารับการตรวจและรับยามาใช้ตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อฆ่าเชื้อราให้หายสนิท.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

 

ดูแลตัวเองเมื่อป่วยแพ้อากาศ

วันพุธ ที่ 21 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น

<SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​

<TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

ตัวไรฝุ่น ​

โรคแพ้อากาศ แท้ที่จริงแล้วต้องเรียกว่า "โพรงจมูกอักเสบจากการแพ้" ถึงจะเหมาะสม กว่าใช้คำว่า แพ้อากาศ ซึ่งไม่ตรงความหมาย เนื่องจากอากาศเป็นก๊าซต่างๆ ในธรรมชาติที่รวมตัวกันอยู่และไม่มีปัญหากับจมูก

ใครที่โพรงจมูกอักเสบจากการแพ้ เมื่ออากากำเริบจะคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม และคันจมูก เพราะเยื่อบุโพรงจมูกได้รับสารก่อภูมิแพ้เป็นระยะเวลานาน ทั้งยังเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

ส่วนสารก่อภูมิแพ้ตัวการทำอาการกำเริบนั้น ประกอบด้วย ตัวไรฝุ่น ที่มีขนาดเล็กเพียง 0.3 ม.ม. มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น รวมถึงของเสียที่ตัวไรฝุ่นขับออกมาก็เป็นสารก่อภูมิแพ้เช่นกัน และยังมีเกสรของหญ้า แมลงสาบ เชื้อราในอากาศและดิน ขนสัตว์ โดยเฉพาะแมวกับสุนัข

สำหรับการดูแลตนเองหรือคนใกล้ชิดเพื่อป้องกันโพรงจมูกอักเสบจากการแพ้กำเริบขึ้นมานั้น ต้องดูแลสิ่งแวดล้อมให้ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ตามที่กล่าวไว้ ไม่ใช้ที่นอนและหมอนที่ทำจากนุ่น ขนเป็ด ใยมะพร้าว เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยชั้นเยี่ยมของไรฝุ่น ทว่าเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้หาพลาสติกมาคลุมหรือหุ้มที่นอนและหมอนเอาไว้

หมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอน-ปลอกหมอน ไม่ควรใช้พรม อย่านำกระถางต้นไม้มาไว้ในบ้าน หากต้องดูแลต้นไม้ รดน้ำ พรวนดิน ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันจมูก ที่สำคัญคือ ไม่ควรเลี้ยงสัตว์เลี้ยง อย่างสุนัขและแมว

อากาศโพรงจมูกอักเสบจากการแพ้ หรือโรคแพ้อากาศที่เรียกคุ้นปาก มักมีอาการเรื้อรัง ดังนั้นผู้ป่วยจึงต้องดูแลตัวเองให้ห่างจากสารก่อภูมิแพ้จะดีที่สุด.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

 

เรื่องของการรับสมาชิกชมรมพระวังหน้าใหม่ ในส่วนของผมคงเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอดีตชมรมรักษ์พระวังหน้า(ที่ได้ยุบไปแล้ว) , กองทุนหาพระถวายวัด (ที่ได้ยุบไปแล้ว) และ สมาชิกชมรมพระวังหน้า (ที่ได้ลาออกไปแล้ว)

แต่ยังพอมีหนทางอยู่ เพียงแต่ต้องผ่านความเห็นว่าให้รับสมาชิกชมรมพระวังหน้าใหม่ ผ่านทางประธานชมรมฯ และ รองประธานชมรมฯ ซึ่งหากทั้งสองท่านลงความเห็นว่า ให้รับสมาชิกชมรมพระวังหน้าใหม่ ทั้งสองท่าน ก็จะผ่านการรับพิจารณาการรับสมาชิกชมรมพระวังหน้าใหม่ได้ครับ

.

 

สมเด็จกลักไม้ขีด รุ่น ๑ กรอบกระจก ว่ากันว่าเป็น "มือผี" ครับ

 

หนามากหนาน้อย.............